Це відео не доступне.
Перепрошуємо.
ซื้อรถไฟฟ้าเมื่อไหร่ดี!? คุยกับกูรูด้านรถ Spin9, Autolifethailand, Captain DIY
Вставка
- Опубліковано 30 гру 2020
- #รถยนต์ไฟฟ้า #รถไฟฟ้า #รถอีวี #เทสล่า
จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อไหร่ดี หลายคนถามกันเข้ามา
ในช่วงยุครอยต่อเทคโนโลยียานยนต์ช่วงนี้ แล้วยิ่งในเมืองไทยยังไม่มีนโยบายชัดเจน จุดชาร์ตไฟ บวกกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจ ทำให้หลายๆคนยังไม่มั่นใจ เรามาติดตามกันว่าจะซื้อเมื่อไหร่ดีในมุมความเห็นของกูรูด้านรถ คุณอู๋ Spin9, พี่นิธิ Autolifethailand, พี่ดล Captain DIY
ขอบคุณสมาคมยานยต์ไฟฟ้าที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี่
💥💥ตั้งใจจะเป็นช่องทางในผลักดัน รถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกให้เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ได้💥💥
เข้ามาเป็นส่วนนึงในการผลักดันเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า👇👇
bit.ly/32goZWI
Tik Tok: bit.ly/3goOcUU
IG: welldone_guarantee
ติดต่องานได้ที่
welldone.guarantee@gmail.com
สำหรับผมนะรถไฟฟ้าน่าใช้ครับเพราะเอามาใช้ในเมืองเหมาะมาก ภาษีถูก น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ไม่ต้องเปลี่ยนลดค่าเข้า0บริการ ผมว่าถ้าใช้ในเมืองคุ้มค่ามากๆ
5-10ปี รถไฟฟ้าน่าจะนิยมกันเยอะ ส่วนตัวก็รอซื้อรถอีก 5ปี ราคาและออฟชั่นน่าจะดีและถูก
มันยังไม่เกิด เพราะสามเหตุผลดังนี้ 1 บริษัทน้ำมัน 2 ผู้ผลิตรถยนต์ 3 รัฐบาลที่รอฟังเสียงของ ข้อ 1,2 ที่จะอนุญาตให้ทำหรือไม่?
สรุปได้สั้นๆ และได้ใจความมากเลยครับ ตรงใจเลย
ผมคิดว่าสถานีชาร์ตและโครงสร้้างภาษีมากกว่านะครับคืออุปสรรค
ทุกสิ่งอย่างมีขั้นมีตอน ยิ่งการเมืองที่ไม่นิ่ง ไม่แน่นอนอย่างบ้านเราด้วย จะเดินแบบเนิบนาบกว่าที่อื่นหน่อย แต่มาแน่คับ ตราบโลกยังหมุน ทุกสิ่งย่อมหมุนตามคับ
@@user-tc7ju9jl6u ก็ขอให้เราหมุนทันโลกด้วยนะครับ ไม่ใช่หมุนตามโลก หรือหยุดหมุนตัวเอง
เมืองไทยเกิดแล้ว
จะให้เปลี่ยนแบบหน้ามือ เป็นหลังเท้าคงไม่ได้
นึกถึง สมัยก่อนคนไทยใช้เกวียน
เปลี่ยนมาใช้รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ก็ต้องใช้เวลา
ที่ญี่ปุ่น ประธานโตโยต้า ยังค้านเลย มีในคลิปช่องนี้
ทั้งที่มันเป็นเรื่องของ อนาคตแท้ๆ แต่ถึงกับต้องผลักดันกันขนาดที่แบบ แทบไม่ได้รับการตอบกลับ มันบ่งบอกนะ ว่าคนเหล่านั้น ชอบอยู่กับความล้าหลังขนาดไหน แต่บอกไว้เลย เรื่องนี้มันเป็นอนาคตที่ห้ามไม่ให้เกิดไม่ได้ ถ้าคุณไม่ปรับตัวเท่ากับคุณทิ้งอนาคต ไปล่ะ ไม่ใช่อนาคตของไครนะ ของคุณเองนั่นแหละ
ถ้าตามทฤษฎี ไม่น่าเกิน 5 ปี แต่ความจริงยากครับ เพราะจะมีผู้เสียผลประโยชน์มากกกก เช่นบริษัทน้ำมัน
ไม่เกิน 3 ปีครับ , ตอนนี้แข่งขันกันพัฒนา ดั้มพ์ ราคาลงมาเร็วมากก
ไม่ใช่เรื่องยากครับ หลายประเทศออกกฏหมายห้ามขายเครื่องยนต์สันดาบ(เครื่องยนต์น้ำมัน)ตั้งแต่ปี2030รวมประเทศเจ้าแห่งยานยนต์อย่างญี่ปุ่น แค่นี้ก็รุ้เทรนของโลกแล้ว ถึงเวลานั้นลองคิดดูว่า ปตท.จะยื้อไว้ได้อีกกี่ปี??? ยื้อแล้วบริษัทตัวเองจะอยู่ต่อไปอย่าง??? มีทางเดียวที่จะอยู่รอดคือคุณต้องเปลี่ยนต้องศึกษาเทคโนโลยีใหม่ บริษัทที่ทำตัวแข็งกระด้างต่อเทคโนโลยีมีให้เห็นอย่าง Nokia, Koduct ต่างล้วนต้องถูกสังคมโลกลืมและล้มหายจากไปในที่สุด ผมคิดว่าพวกบริษัทน้ำมันเขาคงเห็นบทเรียนพวกนี้ก็พอแล้ว คงไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ถ้าช้ากว่านี้อีก3-5ปี รับประกันมีเห็นปั้มร้างเพิ่มขึ้นแน่นอนคอนเฟิร์ม...
@@daransaeng3154 เดียวรอดูว่า5ปียากป่าว แต่ผมว่ายากคับไม่เกิน5ปีนี้
ใช่ๆตลาดรถไฟฟ้าจีนรุกหนักมาก อาจจะไม่หายไปในพริบตาเหมือนnokia แต่จะขาดทุนมหาศาลถ้าปรับตัวไม่ทัน
คุณ นิธิ พูดดีที่สุด เป็นรูปธรรม ตรงประเด็น วิเคราะห์ pain point ตรงประเด็น มีการวิเคราะห์ เชื่อมโยงหลากหลายมิติ ทั้งนโยบาย โครงสร้างพื้นฐาน เข้าใจง่าย มีประโยชน์มาก มีสาระมากที่สุดครับ ขอบคุณ และขอแสดงความชื่นชมครับ
ผมชอบช่องนี้จริงๆ เข้ามาทีไรได้ความรู้ตลอด
แต๊งส์เลย!!
"ซื้อเมื่อมีที่จอดรถก่อนดีกว่าครับ" จะรถไฟฟ้า จะรถน้ำมัน มีที่จอดรถหรือปล่าวก่อนครับ เห็นจอดข้างถนน ขวางหน้าบ้านคนอื่นทั้งนั้น ประเทศญี่ปุ่นไม่มีที่จอดรถ ไม่ขายให้นะครับ
จริงเลยครับ ควรเริ่มจากมอไซร์ก่อน อยากให้เหมือนไต้หวัน มอไซร์ยี่ห้อโกโกโล่ มีการสลับแบต ทั่วเมือง ไม่ต้องรอ ถ้าแบตหมดก็ยังสามารถเข็น หรือขึ้นวินไปสลับแบตได้ ยังไม่เหมือนรถที่ต้องเรียกรถสไลท์
ใช่เลยครับผมเคยดู วิธีการเปลี่ยนแบตรเป็นอะไรที่ดี มากๆเลยครับไม่ต้องเสียเวลารอชาต
ที่ว่าเปลี่ยนแบตไม่ต้องรอนี่มันทำงานยังไงอะครับ แบบสามารถเข้าไปพร้อมกันได้หลายๆคันเลยหรีอเปล่า
ผมเคยเห็นของ Nio ในจีนที่เปนรถยนต์ EV ใช้วิธีเปลี่ยนแบต แต่เอาเข้าจริงก็ต้องต่อคิวเปลี่ยนแบต เพราะระบบเปลี่ยนแบตอัตโนมัติมันรองรับรถได้แค่ครั้งละคัน
@@varshard0
วิธีทำให้แบตรเต็ม มี2วิธีครับ
1ชาร์ต ด้วยการต่อสายไฟเข้ารถ
2ดึงแบตรออกมาแล้วนำลูกใหม่ใส่เข้าไป
งั้นท่านดู คลิปนี้เถอะ จะได้ รู้ในสิ่งที่ท่านไปเคยรู้มาก่อน
ua-cam.com/video/_WbkUWAZDWc/v-deo.html
ในอนาคต ได้ใช้รถ EV แน่ๆครับ ดูรีวิวเยอะจนอินครับ
ปั่นเงินไม่ทัน คงขี่รถน้ำมันต่อไป
FC ครับ
fomm ร่วมมือกับการไฟฟ้า ราคา5แสน มีคนซื้อใช้เยอะแล้ว
เลงตัวไหนไว้ครับคุณวิช
MG zs ep เหลือ 9แสนปลายละครับ
เหตุผลที่ยังไม่ซื้อ
1.ราคา ตั้งกันหน้าเลือดขนาดนี้บอกเลยซื้อไม่ลง
2.ที่จอดชาร์จ ที่จอดธรรมดายังแย่งกันตายห่าน ต้อง VIP ขนาดไหนถึงจะไปจอดชาร์จนานๆได้
3.เดินทางไกลลำบาก ต้องจอดชาร์จๆกี่รอบกันกว่าจะถึงที่หมาย
เห็นด้วยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะข้อ 2 และ 3 ครับ เรื่องเวลาสำคัญมากครับ
ผมมอง 2 อย่าง ที่ต้องทำ เพื่อลดต้นทุนการใช้ชีวิตอีกไม่เกิน 5 ปี คือ 1. การใช้ไฟฟ้าในบ้าน โดยใช้ solar cell
2. รถยนต์ไฟฟ้า เมื่อทั้ง 2 ข้อนี้ทำได้ เราจะหมดปัญหาเรื่องพลังงานทันที่ แค่รอเวลา และเทคโนโลยี่ ให้มันคุ้มก่อน ต้องลงทุนแน่นอน 2 อย่างผมมองไม่น่าเกิน 1.0 ลบ.
อนาคตยังไงก็หนีไม่พ้น แต่อุปสรรคสำคัญคือความจุแบตตารี่ เวลาในการชาร์จ แล้วก็สถานีหัวจ่ายไฟ ผมเดาว่าอีกอย่างน้อย 5 ปี ถึงจะแพร่หลาย
สำหรับผมเอาง่ายๆ เลย บอกแบบคนไม่มีความรู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า ผมขอแค่ให้รถยนต์ไฟฟ้าชาร์ตไฟแบบเสียบปลั๊กบ้านทัวๆ ไป ขอแบบใช้เวลาประมาณ 1 ชม.- 2 ชม. ชาร์ตไฟจาก 10% ถึง 100% และรถยนต์ไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ 600-700 กม. แต่ไม่ใช่รอเป็นแบบว่า 8-10 ชม.กว่าๆ ขึ้นไป (ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะสามารถทำออกมาตามที่ว่าได้ไหมกับการเสียบปลั๊กบ้านทัวๆ ไป และใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชม.- 2 ชม.)
แต่ถ้าเจ้าของรถท่านใดหรือผู้ให้บริการๆ ชาร์ตไฟมีเงินลงทุนซื้ออุปกรณ์ชาร์ตเร็วมาติดตั้งเพิ่มและราคาของตัวชาร์ตเร็วไม่แพงเกินไปบวกกับไม่ยุ่งยากของการติดตั้งตัวอุปกรณ์ชาร์ตเร็วนั้น ผมขอให้ใช้เวลาแค่ 10 นาที -15 นาที ชาร์ตไฟจาก 10% ถึง 100% และรถยนต์ไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ 600-700 กม. ถ้าทำได้แบบที่ผมคิดที่ว่าไปนั้น ผมหมั่นใจได้เลยว่ามีคนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากๆ แน่นอน แต่ถ้าตอนนี้ยังทำไม่ได้ตามที่ว่าคงต้องรอเวลาให้ระบบการชาร์ตไฟเข้าตัวรถให้เร็วและดีกว่านี้ แต่คงต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 3-5 ปีขั้นต่ำแน่นอนครับ
เพราะเวลาต่อให้คนรวยมากขนาดไหนก็ไม่สามารถซื้อหรือทำยังไงให้กลับคืนมาได้ครับ
ส่วนตัวคิดว่า สุดท้ายคนทั่วไปยังชินกับระบบรถน้ำมันแบบเก่า ช่วงเปลี่ยนผ่านที่จะสามารถทำให้ไฟฟ้าผ่านไปได้ในขณะนี้คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ประหยัดเวลาในการเติม คือ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนแบตได้ (2 ลูก) เช่นมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า หรือไม่ต้องรอเทคโยโลยีใหม่ เช่น แบต Solid state battery แบบนั้นจะทำให้คนหันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น อาจจะต้องรออีก 2-5 ปี เพื่อให้ Standard ตรงกัน
ผมรอเลยครับ ราคาลงอีกนิด จะซื้อมาขับครับ
ปี64 mine มา และ อีกหลายยี่ห้อ
ปีนี้ มือหนึ่งต่ำล้านแล้ว รออีก 2-3ปี มืสอง 6-7 แสน จะเกลื่อน รถยนต์น้ำมัน เริ่มตกยุคแล้วนะครับ ราคาจะตกวูบ ทั้งมือ1 มือ2 ,ใครออกรถป้ายแดง คิดให้รอบคอบนะครับ
ลดภาษีนำเข้าลดลงอีกหน่อยโอเคเลย
คุณกัณมาช่องนี้ด้วยดูช่องคุณกัณตลอด
ราคาจะลดได้แน่นอน คือ ต้องผลิตในประเทศไทย เพราะจะได้ลดภาษีลงได้อีก รถนำเข้าก็ต้องแพงมากกว่า ให้สิทธิประโยชน์สำหรับรถที่ผลิตในไทย ซึ่งก็ดีมาก เพราะจะได้ไม่ต้องไปเสียดุลจากการนำรถเข้ามาเยอะ
สำหรับเมืองไทย คนในรัฐบาล ยังมีส่วนได้ส่วนเสียกับอุตสาหกรรมยานยนต์เครื่องสันดาปอยู่ ในขณะต่างประเทศมีแผนเลิกใช้เครื่องสันดาปเป็นนโยบายที่เป็นรูปธรรม
ใช่ครับ บริษัทประกอบรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์อีกเยอะมาก คนที่มีส่วนได้ก็คือแรงงานคนไทยครับ นับหมื่นคน จะเอาเขาไปอยู่ไหนครับ? ลูกเขา บ้านเขาที่ผ่อนอยู่ รถเขาที่ค้างค่างวด จะช่วยเขาอย่างไรครับ (ถ้ารัฐบาลเปลี่ยนฉับพลันทันที)
@@suncarnegie4747 www.efinancethai.com/advertorial/AdvertorialMain.aspx?name=ad_202007211703
@@fm9933 คลิกไม่ได้ครับตอบไรกลับมา?ครับ
@@fm9933 มองอะไรในแง่ร้ายเกินไปตามลิ้งค์อะคือเค้าได้รับผลกระทบจากภาวะเศรฐกิจครับจึงต้องปรับลด ปิด หรือล้มละลาย
เอาแค่ผลกระทบในแวดวงยานยนต์พอครับ บ้านเราแทบพูดได้เลยว่าเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคนี้ดังนั้นบริษัทมากมายของคนไทยกี่บริษัทที่เป็นซับพลายผลิตชิ้นส่วนที่รถไฟฟ้าไม่ต้องการให้บริษัทรถยนต์ มันไม่ใช่ผลประโยชน์อย่างที่คุณคิดหรอกครับ ผลกระทบมันมากกว่านั้นถ้าเปลี่ยนแบบพลิกฝ่ามือ สนับสนุนปัจจัยพื้นฐานจูงใจให้คนใช้ก่อนครับช่วงนี้ทิศทางมันจะเริ่มปรับเปลี่ยนเอง
@@suncarnegie4747 ความหมายของผม คือ ภาครัฐควรแถลงนโยบายทิศทางยานยนต์ไฟฟ้าให้เป็นรูปธรรม เพื่อให้ผู้ประกอบการ หรือแรงงาน ที่เกี่ยวข้องอุตสาหกรรมด้านนี้เริ่มปรัยตัวหรือวางแผนการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆในอนาคตได้ครับ เช่น รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนยุติการวางจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในตั้งแต่ปี 2035 เป็นต้นไป ตามแผนพัฒนาให้เป็นประเทศปลอดคาร์บอนภายในปี 2050 ครับ เพื่อลดผลกระทบหลายๆด้านที่ตามมาให้น้อยที่สุด
ผมเริ่มจากมอไซค์ไฟฟ้า ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ชาร์ทแบต เงินเหลือเก็บจากที่เคยจ่ายค่าน้ำมันเยอะเครื่องลูกสูบหลวมซดน้ำมัน
รบกวนถามหน่อยค่ะ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้ออะไร ซื้อที่ไหน คันละเท่าไหร่คะ สมรรถนะเป็นยังไงบ้าง สนใจอยู่เหมือนกันค่ะ
@@user-pl2sx5ul3c ผมใช้ ยี่ห้อเดโก้ จดทะเบียนมีป้ายทะเบียน พ.ร.บพร้อมจังหวัดผมมีตัวแทนจำหน่าย เน้นเลือกแบตชนิดลิเที่ยม5ปีสบายๆ อย่าซื้อชนิดแบตน้ำแบตชนิดแห้งอย่าซื้อไม่ทน เลือกมอเตอร์ชนิด2,000wขึ้นไปไม่ช้าเหมือนมอเตอร์1,000w ตอนนี้มีหลายยี่ห้ออยากให้ไปลองขับด้วยตัวเองครับ ผมซื้อมาราคา52,000บาทครับ
@@suriyat8773 มีคนใช้แล้วรีวิวว่ายังต้องปรังปรุงอีกเยอะครับ
@@suriyat8773 ผมก็ใช้อยู่ครับ DECO Sylla ชิลล์ๆไป ค่าไฟอาทิตย์ละไม่ถึง 30 บาท จากเดิมใช้มอร์ไซค์น้ำมัน 120
@@suriyat8773 ขอบคุณมากๆนะคะให้ข้อมูลรายละเอียดเยอะเลยค่ะ ไว้จะลองเปิดดูนะคะ แต่ราคาค่อนข้างสูงอยู่ค่ะ😌
ควรเปลี่ยนเมื่อรถทุกค่ายสามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ เอาหลักการแบบการเติมนำ้มันครับ แล้วตัวรถไปแข่งกันเรื่องการกินพลังงานไฟฟ้าของตัวรถเอาครับ แบบการแข่งขันประหยัดนำ้มันครับ ออกแบบให้มอเตอร์กินไฟน้อยลงวิ่งได้ไกลๆ ประมาณนี้ครับ
ถ้าเอารถพวก PPV มาทำเป็น PHEV ขายดีแน่นอนครับ
ขอให้มิตซูเอาปาเจโร่สปอตมาทำก่อนเลย ใครทำก่อนขายดีก่อน
ที่สำคัญเอารถเมล์แดง ขสมก.ทำเป็น ev ก่อนเลย ควันดำมาก
ส่วนตัว อยากใช้มาก แต่ติดเรื่องราคา กับสถานีเติมแบต
เรื่องราคามองว่า ถ้าราคาปรับลงมาเท่ากับรถใน segment เดียวกัน option เดียวกัน คิดว่าเป็นตัวเรื่องที่น่าสนใจมาก แต่ถ้าเรื่องสถานีเติมแบต ตจว ยังไม่เพียงพอ เพราะถ้ายังไม่จุดนี้ รถไฟฟ้าจะเป็นได้แค่รถคันที่สอง เพราะสุดท้ายขับไกลก็ต้องใช้ รถน้ำมันอยู่ดี..
อยากรู้ว่าไฟฟ้าจะพอไหมถ้าเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าที่งหมเ เพราะไทยเราไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ ถ่านหินก็ต่อต้าน ก๊าซธรรมชาติก็มีน้อย เขื่อนก็ต่อต้าน สรุปคือจะหาไฟฟ้าจากไหน นำเข้าจากลาวก็ไม่รู้พอหรือเปล่า
สำหรับผม รถวิ่งได้ 400 km. ถือว่าได้เยอะแล้วครับ แต่ปัญหาคือมันวิ่งได้แค่200km. รถราคาแพง จุดชาท และ เสียเวลารอ
คนยังไม่มั่นใจที่จะใช้
ถึงอีกหน่อยมีจุดชาทเยอะ ราคารถลง แต่ที่เที่ยว ก็อาจจะไม่มีที่ชาทให้ เพราะคนไป ก็คือวิ่งไกล คงไปแย่งกันชาทอีก
ไฟฟ้า ค่าไฟจะเพิ่มขึ้นมั้ย รถไฟฟ้ายังเหมาะสำหรับ ในเมือง
ปัญหาคือต่อคิวกันชาร์ทนี้แหละ555
ขับก่อน ประหยัด ลดค่าพลังงาน ค่าซ่อมก่อน ................คงมีน้อยที่ขับไปกลับเกินสองร้อย กม ทุกวัน ........... รถคันเดิมเก็บไว้เดินทางไกล(คงไม่มีใครทิ้งทันที) ........นานๆทียอมจ่ายค่าน้ำมัน
ไม่นานหรอกครับ
10-20 ปีที่แล้วมี iPhone ทุกคนบอกว่าคือที่สุดและราคาแพงมาก
ตอนนี้ล่ะโทรศัพท์เครื่องล่ะ2 3 พัน
เทคโนโลยีเท่ากับเครื่องเกือบแสนเมื่อ20ปีก่อน
รถ EV คนกลัวการเปลี่ยนแปลงคล้ายๆ Hybrid กลัวนุ่นนี่ตอนนี้เป็นไงเต็มถนน
ฟันธงไม่เกิน20ปี น้ำมันลิตรละ10บาท
เพราะความต้องการน้ำมันน้อยลง
ก็เป็นไปได้นะครับที่ว่า "ฟันธงไม่เกิน20ปี น้ำมันลิตรละ10บาท"
Evมาแน่นอนครับ ไม่มีใครหยุดได้ ไม่ต่างอะไรกับมือถือ หรือกล้องฟิล์ม ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรยุคมันเปลี่ยนไปเร็วมากกว่าที่เราคิดครับ ต้องช่วยกันรักษาโลกใบนี้ให้กลับมาสะอาดที่สุดก่อนจะสายไปคือสาระหลัก
รถถอดเครื่องยนต์ออก แบ้วเอาแบตเตอรี่ใส่แทน ลด นน. ลดควันเผาไหม้ ลดเสียงดัง แต่
1.ราคาแพง ล้านขึ้น
2.สถานที่ชาร์ทแบต ตามเส้นทางไกล หายาก และมีน้อย
3.ค่าชาร์ทไฟฟ้าตามรายทางยังไม่มีการควบคุมราคานาทีละ?
4.ที่พบเห็นปั๊ม ปตท ที่ชาร์ท ก็มีแค่ ไม่ถึง 1%
5.ปั็มอื่นๆไม่มี ไทยยังไม่เตรียมพร้อมรับการ บริการชาร์ทไฟฟ้า
6. ยังไม่มีการส่งเสริม การเตรียมพร้อมสถานที่ สถานีชาร์ทไฟฟ้า
ผมรอซื้อรถไฟฟ้าชาร์จครั้งวิ่งเกิน500กม. ราคาไม่แพงเกินครับ
ไม่เกิน5ปีเดี๋ยวก็วิ่งไว้พัน เทคโนโลยีมันไว
ถ้าเป็นตอนนี้เนี่ย ก็ต้องรุ่น tesla model 3 long range เลยค่ะ วิ่ง 500กิโล/ชาร์จเต็ม1ครั้ง
@@sodsaith เค้าบอกราคาไม่แพงครับ
@@user-hm9tn3ph3c รู้ค่ะ แต่ตอนนี้มันยังไม่มีไงคะ พูดถึงแค่เรื่องสเปคตอนนี้ก็มีรุ่นนี้ไงคะ แต่แพง
@@user-hm9tn3ph3c แต่ที่ต่างประเทศไม่ถึง 1,500,000 นะครับ เมืองไทยมาภาษีแพงเ*ยๆ ประมาณ 3 ล้าน++ แล้วอะครับแพงมาก
ราคาต้องถูกลงในระดับชนชั้นกลางเอื้อมถึงได้ วิ่งได้ไกลระดับ800-1000km จะเป็นระยะทางที่ครอบคลุมทำให้มั่นใจมากขึ้น ชาร์จได้เร็วกว่าเดิมไม่ต้องเสียเวลารอนาน หรือเปลี่ยนได้ทั้งเซลล์แบบสลับแบตยิ่งดีทำให้ไม่ต้องชาร์จ จุดชาร์ตต้องครอบคลุมมากขึ้น
ความกลัวเหมือนอาม่าไม่กล้าใช้เตาแก๊สและเตาไมโครเวฟเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่เดี๋ยวนี้ขาดไม่ได้แล้ว
คำถามที่พี่อู๋พูด ตรงใจมากครับ “รถมันดีพอ แต่ดีพอสำหรับใคร?”
ธรรมดานะ
ได้มาแล้วชอบมากเลยค่ะ ชอบขนาดไหนก็คือรีวิวลงช่องตลอด รีวิวไม่หยุดดด🤣🤣🤣
รถไฟฟ้าอย่างที่พี่เวลพูดน่าจะเริ่มและเป็นที่นิยมในเมืองใหญ่ เมืองหลักตามภูมิภาคที่มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับและมีปัญหาเรื่องมลภาวะทางอากาศ แต่ในต่างจังหวัด หรือภาคเกษตรภาคขนส่งน่าจะต้องใช้เครื่องสันดาปต่อ
รัฐลดภาษีหน่อย ผู้ผลิตลดราคาลงได้อีกให้ราคาขายไกล้เคียงกับรถน้ำมันเป็นจุดใหญ่ที่ผู้บริโภคพิจารณาซื้อ ส่วนความประหยัดทั้งค่าซ่อมบำรุงและต้นทุนในการวิ่งต่อ กม. ตอนนี้รับได้แล้ว.....ราคา5-6แสน ชาตเต็มวิ่ง400กม+เป็นจุดนึงที่จะพิจารณาซื้อได้
หลายครั้งที่ไทยประกาศอยากเป็นผู้นำในด้านนั้นด้านนี้ แต่ในทางปฏิบัติรัฐชอบคิดแบบผู้ตาม คือ กังวลเรื่องผลกระทบกับอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องมากเกินไป กว่าจะได้เริ่มเราก็ตกขบวนแล้ว
นั่นดิ จนอินโดเซ็นสัญญาผลิตแบตไปล่ะ
ผมว่า รถไฟฟ้ายังไม่น่าสนใจ จนกว่า
จะมีการใช้battแบบ Solid State
และหรือ มีการเปลี่ยนแบตแบบ capsule ได้
เพราะมันไม่workหรอที่จะต้องมาชาร์จในเวลาที่เกิน 5 นาที ขึ้นไป เสียเวลามากครับ
เท่าที่ทราบ เขาวิจัยกันอยู่ครับ อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็น โซลิต สเตจ อาจจะมีแบตเตอร์รี่แบบอื่นที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า เช่นไม่ต้องชาร์จแค่จอดตากแดด1ชั่วโมงวิ่งไกล300กม.ก็เป็นได้ครับ
เป็นคลิปที่สุดยอดมากกกกกก ชอบ ได้ความรู้เพิ่มอีกมาก รออีกหน่อย..ค่อยซื้อ
ถ้าสถาเติมเยอะขึ้นผมว่าใช้เยอะแน่ มันก็เหมือนรถแก็ส เมื่อก่อนตอนผมวิ่งใหม่ๆ ผมว่าคงอารมเหมือนรถไฟฟ้าอ่ะคือเจอปั้มแก็ส ต้องเติมด้วยที่ติดถ้งโดนัทด้วย
เห็นด้วยครับ รถEVเหมาะกับการใช้ในเมืองมากกว่า ถ้าจะพัฒนา ควรพัฒนาinfrastructureในเมืองก่อนเป็นอันดับเเรก ส่วนรถส่วนใหญ่ในประเทศยังคงเป็นรถยนต์ใช้น้ำมันหรือรถhybrid จนกว่าnext generation battที่สามารถchargeได้80%ภายใน5นาทีได้ก่อน เราค่อยมาส่งเสริมรถยนต์ใหม่จริงจังทั่วประเทศ
ตั้งเป้าไว้10ปีจะมาใช้รถไฟฟ้า ตอนนี้ตั้งเป้าไว้5ปีแล้วครับ เพราะรอรัฐสนันสนุนเพื่อให้ราคาไม่สูงมาก. อีกอย่างเงินน้อย
ถ้ามีเงินจะซื้อทันทีเลย!!!
ช่วงนี้ผมก็ติดตามช่องพี่ตลอด
เอกชนกับรัฐควรคุยกันให้เคลียๆจบ จะทำให้เดินงานง่ายกว่า แต่ต้องไม่ผูกขาดเจ้าใดเจ้านึงด้วย น่าจะดี
ดีมากแร้วคับที่มีการคิดสร้างรถพลังงานทางเลือกใหม่รถไฟฟ้าวิ่งได้ระยะทางที่ไกลเทียบเท่ากับรถเครื่องยนต์น้ำมันหรืออาจจะดีกว่าบางรุ่นด้วยซ้ำไป จริงๆรถไฟฟ้าใช้แค่กลุ่มคนใช้งานที่ใช้ระยะทางไม่ต้องไกลมากก็เพียงพอละคับ แต่นี้วิ่งได้ไกล้ถึง5/600กิโล ถือว่าแนวคิดสร้างดีมากเรยถูกใจคับไม่คิดว่าแบตเตอรี่กับมอเต้อที่เคยเห็นแต่ในรถบังคับไม่คิดว่าจะมามีอยุ่ในรถรถยนต์นั่งขับในชีวิตประวันจริงได้ดีขนาดนี้ แถมไม่ต้องเสียค่าน้ำมันตลอดชีพเรย สุดยอดคับ
รวมกูรู ขั้นเทพ ในไทย
อย่าปากแซ่บ
พูดถูกเรยคับมันดีมากแต่ดีสำหรับคัยหรือคนกลุ่มใหนถึงจะเพียงพอใจคับ ผมว่าสำหรับคนทั่วไปแร้วถ้าได้เปิดใจผมว่าทุกคนโอเคแหละคับเพียงยังเปนของใหม่แค่นั้นเองทำให้ทุกคนยังไม่มั่นใจเพราะยังไม่เคยได้ลอง คนที่รุ้และได้สำผัสแร้วถึงจะเข้าใจที่ดีสุดคับ โดยรวมผมว่าผ่านแจ่มเรยคับ คงไม่พึงประสงค์แค่กับสายกลุ่มใช้รถน้ำพ่นควันแค่นั่นแหละคับ ไม่ได้เชงไม่ได้ส่งเสียงท่อดัง 55 แต่ประโยช์ความสำคัญจริงคนใช้รถส่วนใหญ่ผมว่าทุกคนชอบรถเดิมๆมาตรฐานอยุ่แร้วละคับ คงยกให้รถไฟฟ้าเรยคับเหมาะกับชีวิตประจำวันสำหรับยุคเศฐกิจข้าวยากหมากแพง ผมว่าคุ้มค่าคับรถไฟฟ้าชอบคับ
สังเกตนะครับ ,7 สาขาใหม่ๆ มีลานจอดด้านหน้า บางแห่งมี หัวชาร์จด้วย , เอาไว้ 7 ประกาศเป็นนโยบาย วางโครงข่าย ครอบคลุมทั่วประเทศ ,วันนั้นแหละ ซื้อได้เลย ,ลำพัง จะไปปักหัวชาร์จ เปล่าๆ , จุดคุ้มทุนมัน คงยากไง...ใครจะกล้า ,รถไฟฟ้า สุดหรู ถ้าไม่มีไฟฟ้า ก็เกวียนดีๆนี่เอง😅
พี่เต้ยพูดถูกครับ การใช้รถไฟฟ้าสิ้นเปลือง ค่าใช้จ่ายระหว่างรอชาร์จ และสิ้นเปลืองเวลาด้วย
รถยนไฟฟ้าเท่านั้น ถ้ารู้จักว่าว่างเเผนมันโครตคุ้ม ฝึกให้ตัวเราเองด้วย
รถไฟฟ้าไช้บนที่สูงๆบนภูเขาแรงจะดีมัยครับ
@@lawa8903 ดีกว่าiceอีกเพราะแรงบิดเยอะกว่ามาก
คนติดแค่ที่ราคา และความสะดวกครับ วิ่งในเมือง ok แต่เดินทางต่างจังหวัด เหนื่อยครับ ต้องคำนวณตำแหน่งปั๊มตามทางที่จะไป เสียเวลาชาร์จต่ำๆ 1 ชั่วโมง ถ้าเจอหัว CHAdeMO เจอหัวปกติ 3-4 ชั่วโมง แถมบางที่หัวพังอีก
รถดีครับ ขับสนุกมาก(ใช้ Leaf อยู่) ข้อเสียมีตรงระยะทางที่จำกัดเท่านั้นแหละครับ
การปรับตัวถ้าทำอู่ยกเครื่องยนต์ออกแล้วใส่แบตเตอรี่แทนน่าจะประหยัดไปได้อีกมากครับโครงรถเดิมๆแต่เป็นระบบพลังงานไฟฟ้าแล้วคาดว่าจะเข้าถึงผู้บริโภคได้ไวครับเพราะราคาน่าจะถูกลงครับใส่แบตเตอรี่หมดก็เปลี่ยนอันนี้เข้าท่ามากครับ
ในอนาคตหวังว่า
1. รถไฟฟ้าจะใช้เวลาในการชาร์จแบตใกล้กับเติมน้ำมัน
2. สถานีชาร์จจะมีเพียงพอ สามารถเอาเป็นรถคันที่1ได้ เวลาเดินทางช่วงเทศกาลจะได้ไม่ต้องวางแผนมาก
3. สถานีชาร์จสามารถชาร์จข้ามยี่ห้อได้อย่างขับฮุนไดไอออนิกสามารถชาร์จสถานีเทสล่าได้หรือขับเทสล่าก็ชาร์จที่สถานีเอ็มจีได้
รถคันต่อไปของผมจะต้องเป็นรถไฟฟ้าครับ ทนใช้คันเก่าไปอีก2-3ปี เชื่อว่าเทคโนโลยีรถไฟฟ้าจะเป็นเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดอย่างที่เวลเคยกล่าวไว้ครับ
ผมใช้รถไฟฟ้ามานานมากแล้วครับหลายสิบปี พ่อซื้อให้ตอนเด็กๆครับ ไม่ยุ่งยากอะไรเลยใส่ถ่านแล้ววิ่งได้เลยครับ 😊
ผมก็รอจะซื้อรถคันถัดไปขอเป็นไฟฟ้า 100% ชาร์จต่อครั้งไม่เกิน 10 นาที วิ่งได้ 1000 กิโลเมตร ถ้าได้ถึงตรงนี้ น่าจะคุ้ม
จริงผมคิดว่าทำได้นะสเปคนี้เเต่ราคาคงเเดงมากๆๆ
ยินดีที่จะใช้เช่นกันครับ รอให้หน่วยงานในประเทศ ออกมาซัพพอร์ตเรื่องการใช้งานจริงมากว่านี้ รวมถึงราคาของตัวรถ EV ทุกประเภทที่สามารถจับต้องได้ง่ายขึ้น ยินดีที่จะเปลี่ยนเลยครับ ยิ่งยุคที่น้ำมันราคาแพงขึ้นยิ่งน่าสนใจครับ อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ
อนาคตวิ่ง1000กม เป็นเรื่องเล็ก มนุษย์เก่งจะตาย ไปดวงจันทร์ยังยากกว่า แค่นี้จิ๊บจ๊อย😂😂
ไปดวงจันทร์เสียทรัพยากรไปเท่าไหร่คุณทราบมั้ย555555555
@@potun3008
ได้องค์ความรู้
@@potun3008 เทคโนโลยีที่เราใช้ทุกวันนี้ก็มาจากการพัฒนาโปรเจคพวกนี้นี่แหละ
รถเมล์ไฟฟ้ามาแล้ว
ua-cam.com/video/RI43tuVxzE0/v-deo.html
@@potun3008 เวลาบอกว่า มันจะไม่มีผลิตขายใน...ปีนี้ คนมักด่าว่าโบราณคิดล้าสมัย
อยากจะบอกว่าไม่ได้ค้านความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยี แต่ที่ค้านคือความเป็นไปได้ทางธุรกิจ เหมือนเทคโนโลยีแบบเตอรรี่โซลิด มันก็เป็นไปได้นานแล้วในทางเทคโนโลยี แต่มันไม่เกิดในทางธุรกิจ อะไรทำนองนั้นแหละ
รถยนต์ไฟฟ้าเป็นพลังงานสะอาด แต่ไฟฟ้าก็ไม่ได้มาฟรีๆเหมือนกัน ถ่านหิน นีวเคลีย กะตามมา การเผาชื้อเพลิงต่างๆ แบ็ต เอาไปที้งไหน กะเยอะอยู่นะ 555แต่ก็เป็นการพัฒนาไปอีกรูปแบบนึงนะ ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆจ้าทุกอย่างต้องมีข้อแลกเปลี่ยน
ช่องนี้เวลาพูด ทำแบบข้าเท่ ใช้ศัพแบบชาวบ้านเข้าใจยาก.รู้ว่าความรู้เยอะ แต่พูดภาษาชาวบ้านนิดนึง
ก็ถ้ามีรถน้ำมันสภาพดีอยู่แล้วควรใช้ไปเรื่อยๆ ก่อน เพราะมันยังสะดวกต่อการเติมเชื้อเพลิง และเป็นการชลอการเพิ่มภาระ
สำหรับคนที่ยังไม่มีรถยนต์ หรือรถยนต์สภาพแย่จำเป็นต้องเปลี่ยนคัน การซื้อรถไฟฟ้าก็น่าสนใจ เพราะมันไม่ใช่แค่ไฟฟ้า แต่มันมาด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สำคัญประหยัดค่าเชื้อเพลิง และที่ำสำคัญกว่าคือ เป็นการรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดมลพิษทางอากาศได้เป็นอย่างดี
ส่วนความสะดวกในการชาร์จ ต่อไปมีตู้บริการชาร์จของเอกชนตามบ้าน เหมือนตู้บุญเติม สามารถค้นหาตู้ว่างทางออนไลน์ได้อย่างสะดวก ซึ่งเป็นไปได้สูงมากๆ
ส่วนถ้าใครถอยรถน้ำมันในตอนนี้ ก็จะเป็นการนับถอยหลังในเรื่องความสะดวก และความนิยมไปเรื่อยๆ แรกๆ อาจจะไม่กระทบอะไร
เริ่มเมืรอราคาไม่เกินล้าน....ชาร์จ1ครั้งวิ่งได้500 กิโล...แบ็ตรับประกันใช้ได้เกินสิบปี...และราคาเปลี่ยนแบ็ตถูกลงครึ่งหนึ่งของปัจจุบัน....เชื่อว่าอีกห้าปีคงพอมีโอกาส
กับอีกเรื่องคือระยะเวลาการชาร์ตไฟเข้ารถด้วยครับแบบใช้หัวชาร์ตเร็ว ต้องไม่เกิน 10นาที-15นาที เท่านั้นครับ
รถจะวิ่งได้200-300กิโลไม่ใช่หาเท่าใช่เวลาไม่เกิน10นาทีเต็ม เมื่อไหร่ยังใช่เวลาชาร์จนาน4-5ชั่วโมง ก็ยังไม่เกิดง่ายๆหรอกครับ
กรณีถ้ามีบริษัทเอกชน (สัมปทานแบต) เหมือนวิ่งเข้าไปสถานีแบต ก็สามารถเปลี่ยนแบตได้เลย พอจะเป็นไปได้ไหมครับ
Temporary เดิน2 ways
1.เพิ่มจุดชาร์ท
2.บริษัทเอกชนรับเปลี่ยนแบต
มันน่าจะมีปัญหามากมาย เอาอย่างปลั้กอินยังพอได้ ไปในถิ่นธุระกันดานได้ ถ้าEV เต็มๆปัญหาสาระพัด ชาร์ชที 9-10 ชั่วโมง ไม่ทันแดก เดินทางไกลก็ลำบากที่ชาร์ชไม่ครอบคลุม อย่าลืมว่าคนใช้รถส่วนมากอยู่ตามต่างจังหวัด หรือถิ่นภูธร จะใช้รถทีจะให้วิ่งถ่อสังขารเข้าไปชาร์ชในตัวจังหวัด รถน้ำมันน่ะ น้ำมันหมดในไร่วิ่งไปซื้อที่ปั้มหลอดมาเติมเขาก็กลับบ้านได้แล้ว และที่สำคัญนายทุนใหญ่ผู้ผลิตน้ำมันจะพยายามเตะถ่วงจนหัวชนฝาแน่ๆไม่เจริญทันโลกช่างแม่ง ผลประโยชน์ข้าสำคัญกว่า โขกภาษีรถไฟฟ้าเยอะๆเข้าไว้
ถ้าสามารถพกแบ็ตสำรองไว้ในรถ1-2อัน โดยผู้ใช้รถสามารถเปลี่ยนแบ็ตสำรองได้เองแบบง่ายๆ ก็สามารถวิ่งทางไกลได้เกินพันกิโลครับ
ถ้ามีคนใช้ 100% ถามว่าไฟฟ้า ที่นำมาชาตร์ รถ ก็ยังใช้ ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าชธรรมชาติ มากก่ว่าไม่รู้กี่เท่า ส่วนมากคนไม่คิดถึงสิ่งเหล่านี้ แต่จะแน่น ขายสินค้าของตนเอง ไม่ใด้ต่อต้าน นะครับ
ต้องช่วยโษณา แหล่งซ่อมแซมแบต ต่างๆ เพื่อให้คนมั่นใจ
สิบ ปีที่แล้ว ผมออกความเห็นกับเพื่อน ไปว่าอีก 20 ปี
ถ้าถามวันนี้ ตอบเหมือนเดิมว่าอีก 20 ปี หมายถึงว่าใช้กันโดยทั่วไปนะครับ ไม่ได้บอกว่าไม่ดี แต่มัน เป็นความจริง
หึๆ ส่งเสริมน่ะได้ แต่ลืมไปแล้วเรอะ มันใช้ไฟชาร์ท ทุกวันนี้เรายังต้องซื้อไฟ จากเอกชนที่ลาว ใช้อยู่เลย พอจะสร้าง โรงไฟฟ้า ประท้วงมันไว้ก่อน ถ้าจะให้ไฟเพียงพอต้อง โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลีย เท่านั้นถ้าจะเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด มันไม่ง่าย
กล้าให้รัฐบาลชุดนี้ เอาภาษีมาสร้างโรงไฟฟ้า ในเขตอำเภอบ้านที่อยู่อาศัยคุณไหมละ?
@@user-lz6ge8yk7y ที่ตำบลมีโรงไฟฟ้าพลังชีวมวล อยู่โรงนึงล่ะ
@@timetravel7286
แล้วยกโรงไฟฟ้าชีวะมวล มันเทียบได้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไหม?
แค่พลังการผลิตกระแสไฟฟ้า ก็คนละเรื่องละ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผลกระทบ ถ้าแค่ชีวะมวล ยังแก้เรื่อง ควัน กลิ่น เสียง และสิ่งปฎิกูลจากโรงงานให้ดีไม่ได้?
แค่โรงไฟฟ้าถ่านหิน ยังทำดีไม่ได้เลย จะมาเอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ .
@@user-lz6ge8yk7y แล้วโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มันตั้งแถวบ้านได้ไหม ? หือ การจะตั้งได้ แถวนั้นต้องมีน้ำตลอดปี เพื่อลดอุณหภูมิ ของเตาปฏิกรณ์ตลอดเวลา ต้องเป็นเขตติดทะเลถึงเหมาะสม แถวนี้มีแต่ภูเขา
@@timetravel7286 ผมถึงถามกลับไง ที่คุณยกชีวมวลมา แล้วผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวะมวล รัฐบาลมีมาตรการที่ดี มั่นใจได้หรือยัง?
เอาผลลัพธ์ที่วัดได้มาอิงเลย เช่นค่าความปนเปื้อนทั้งน้ำและอากาศ ถ้าชีวะมวลที่เราทำได้มาหลายสิบปี ยังมีมาตรการรองรับผลกระทบที่ดีไม่ได้ทุกโรง อย่ามาพูดว่าโรงนิวเคลียร์ต้องสร้างยังงั้นยังงี้ เพราะแค่พูด หรือชี้นำมันทำได้ง่ายมาก เงินมันอดปากคนได้..
ด้วยเอกชนก็ต้องการอยู่แล้ว แค่เม็ดเงินจากการให้เอกชนมาสร้าง รัฐบาลไหนจะไม่อยากสร้าง?
ผมก็อยากมีไฟใช้อย่างเพียงพอ แต่ผมเขื่อว่ามีโรงไฟฟ้าที่ดีกว่า+ปลอดภัยกว่ายูเรเนียม
เมื่อบริษัทผลิตน้ำมันถอยเมื่อผู้ที่มีอำนาจพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงระบบและเปลี่ยนถือหุ้นในบริษัทรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั่นแหละถึงจะใช้กันเกลื่อนเมืองไทย ตราบใดที่ สถานที่ชาร์จไฟน้อย รถไฟฟ้าก็จะน้อยไปด้วย
สรุป อยู่ที่รัฐบาลมีความจริงใจแค่ไหนที่จะเปลี่ยนรวมทั้งค่ายรถยนต์ในไทยที่ทำเครื่องยนต์สันดาปพลังงานฟอสซิลในไทย ปรับไลน์การผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าแล้วโน่นแหละ ภาษีรถยนต์พลังงานไฟฟ้ถึงจะถูกลงที่มันยังแพงอยู่เพราะรัฐบาลและผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ห่างใยค่ายรถยนต์เครื่องสันดาปในไทยเจ๊งๆๆๆ รวมถึงผลประโยชน์ ตราบใดที่ยังส่งออกรถยนต์พลังงานฟอสซิลได้ มันก็จะเป็นเช่นฉนี้อีกนานๆๆๆ
คุณนิธิ ฟันธงได้ชัดเจน ควรมีเวทีที่มีผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาคุยว่าอนาคตไทยจะไปทิศทางไหน
ถ้าแบรนด์ตลาดอย่างฮอนด้า โตโยต้า มาสด้า หรือแบรนด์อื่นๆที่น่าเชื่อถือ ราคาต่ำล้านจะจัดแน่นอน และแบตอึดด้วยจะดีมากๆ
ผมก็ยังอยากใช้ รถไฟฟ้าอยู่ดี ให้ผู้ใช้ไปบีบหน่วยงาน ต่างๆ ให้เปลี่ยน ความคิด เพิ่มการ support ด้วยการใช้กันเยอะๆ
ผมใช้ จยย.ไฟฟ้า เดโก้ รุ่นซุปเปอร์เอช โอเคเลยครับ
หลังคารถต้องเป็นแผงโซล่าร์รูปท็อป ขณะวิ่งต้องชาร์จได้ เผื่อสถานีชาร์จน้อยก็จอดตากแดดเพื่อชาร์จจากหลังคา.. แต่ปีนี้ผมจะซื้อเครื่องสันดาปภายในก่อน.รอให้เขาพัฒนาอีกสัก 5 ปีตอนนั้นแหละจะวิ่งได้ไกล.รอแบตโซลิดสเตทครับ.
ปีนี้ว่าจะซื้อ Good Cat ฟังพี่เต้ยพูด ความคิดเปลี่ยนเลย พักคอนโด ชาร์จที่ไหนถ้า5ชั่วโมงรอกันตาย คงหวัง E-Power ไปก่อน Note E-Power ขับ4 เข้ามาทีเถอะ
สำคัญที่ราคาต้องไม่สูงเกินไปให้คนจับต้องได้ น่าจะไม่เกิน คันละ 5 แสนครับ
พี่นิธิพูดได้เห็นภาพสุดๆ เสียสารพัดค่าเลย ถ้าจะชาร์จ EV นอกสถานที่สักครั้ง
ผมใช้รถกึ่งไฟฟ้า เติมน้ำมันได้ ชาร์จไฟฟ้าวิ่งได้ 40 กม.ถ้าไม่ออกไปไกลบ้านก็ใช้ไฟฟ้าตลอดครับ นานๆหลายเดือนเติมน้ำมันที
คือถ้ารัฐไม่มีเงินที่สนับสนุนในการช่วยซื้อรถไฟฟ้า แต่รัฐก็สามารถช่วยในแง่ของลดภาษีต่อทะเบียน จดทะเบียน รวมถึงลดภาษีในตัวรถไฟฟ้าได้ ทำให้คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ถึงวันนั้นเดี๋ยวเอกชนเค้าก็กล้าลงทุนเรื่องจุดชาร์ตเอง
จริงครับ รัฐบาลอยากสนับสนุน แต่ผลประโยชน์ยังติดหลังอยู่ ผมใช้อยู่ ดีมากๆ ปลอดภัยมากกว่ารถน้ำมันมากครับ
ผมจะใช่ก้อต่อเมื่อมีขายตามบนดอยตามบ้านมีขายและสามารชือได้ตามหมู่บ้าน..สอง..การเติมไฟครั้งหนึ่งต้องไม่ถึ่งสิบนาทีต่อการชารไฟหนึ่งครั้ง
การชารไฟหนึ่งครั้งต้องใข้เวลา45/60นาที่ต่อครั้งรองคิดดูปั้มหนึ่งปั้มต้องถ้ามีรถรอคิว20คันจะรอไหม
ปัญหามันอยู่ที่แบตเตอรี่เท่านั้นแหละครับ เราต้องลงทุนวิจัยด้านแบต ทีาชาร์จได้เร็ว เก็บประจุได้เยอะ และต้องใช้แร่ที่มีในบ้าน แล้ว มันจะรุ่งเอง
ขอนอกเรื่องนะครับ อยากบอกไว้เป็นความรู้สำหรับคนที่สงสัยกับคำถามนี้ หลายคนมากที่บอกทำไมไม่ทำรถไฟฟ้าแบบที่วิ่งไปก็ชาร์จไปด้วยในขณะที่วิ่ง (แบบติดตัวปั่นไฟ)เลยมาขอเคลียร์คำถามนี้ให้ได้เข้าใจกัน เจอใครถามแบบนี้อีก Copy ข้อความนี้ไปวางให้เขาอ่านได้เลย เหตุผลที่เขาไม่ทำแบบนั้นเพราะมันไม่มีประโยชน์ไงครับเพราะขัดกับกฏของฟิสิกส์ ในเรื่องกฏการอนุรักษ์งานพลังงาน Pin = Pout + loss วิศวกรเขาฉลาดกันจะตายวิธีพวกนี้เขาคิดกันมาหมดละเพื่อจะให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด แต่เขารู้ว่าทำไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะขัดกฏธรรมชาติของพลังงาน ยกตัวอย่างง่ายๆให้สำหรับคนที่ไม่ได้เรียนทางวิทยาศาสตร์ คือเปรียบเทียบพลังงานไฟฟ้าในแบตคือเงิน 100 บาท ระยะทางที่วิ่งไปข้างหน้าคือจำนวนสินค้าชิ้นละ 20 บาท การที่เอาแบตจ่ายไฟฟ้าให้มอเตอร์ตรงๆ เปรียบเสมือนเอาเงิน 100 บาทไปซื้อของ 20 บาท ได้ระยะทาง 5 ชิ้น แต่การวิ่งไปแล้วปั่นไฟชาร์จไปด้วย (มอเตอร์ขับเคลื่อนทำงานแล้วติดตั้งไดนาโมไปฝืนมัน) เหมือนเอาเงิน 100 บาท ไปซื้อของ 20 บาท 5 ชิ้น แล้วเอาของสัก 2 ชิ้นไปจำนำคืนได้เงิน 40 บาท แล้วเอาเงินที่จำนำมา ไปซื้อของชิ้นละ 20 บาทอีกรอบได้มา 2 ชิ้น สุดท้ายแล้วจะทำวิธีใดๆก็ตาม เงิน 100 บาท ก็ซื้อของชิ้นละ 20 บาทได้แค่ 5 ชิ้น นั่นคือพลังงานในแบตมี 100 จะใช้วิธีใดๆก็วิ่งได้ระยะแค่ 5 ทำไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะไม่มีทางฝืนกฏฟิสิกส์ได้ หนำซ้ำการปั่นไฟกลับ(เปรียบเสมือนจำนำ) สูญเสียเป็นพลังงานความร้อนในการเปลี่ยนพลังงานกลเป็นไฟฟ้า เอาของไปจำนำได้น้อยกว่า 20 บาทต่อชิ้น สูญเสียไปเปล่าๆ นี้คือเหตุผลว่าทำไมเขาไม่ทำวิธีวิ่งไปปั่นไฟชาร์จไป ถึงต้องเป็นวิธีอื่นๆเช่นติดโซลาเซลล์บนหลังคารถหรือวิธีเบรครีเจน (Regenerative braking) หรือการปล่อยคันเร่งแล้วรู้สึกหน่วง นั่นก็คือการปั่นไฟกลับ โดยเอาพลังงานจลน์ที่เสียไปเปล่าๆกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยเวลายกคันเร่งมอเตอร์จะเปลี่ยนตัวเองเป็นเจนปั่นไฟโดยอัตโนมัติ
แต่ไม่มีการที่ มอเตอร์ขับเคลื่อนกำลังทำงานอยู่แล้วเอาไดนาโมมาฝืนมัน ไม่มีประโยชน์
พี่นิธิพูดได้ดีมากๆคะ เห็นด้วยทุกข้อ พี่เวลความรู้แน่นมากๆคะ👍👍👍
ขอบคุณครับ
ผมตั้งเป้าตัวเองไว้แล้วครับ คันต่อไป EV แน่นอน
บุคคลที่ผมแนะนำให้เปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าคือบุคคลดังต่อไปนี้
1. คนที่ใช้รถในระยะทางวิ่งมากกว่า 100 กิโลเมตรต่อวัน หนึ่งปีก็เท่ากับว่าใช้รถในระยะทางอย่างน้อย 36,500 กิโลเมตร โดยคุณจะเสียค่าไฟกิโลเมตรละ 60 ถึง 80 สตางค์แล้วแต่ว่าเท้าหนักหรือเบา และไม่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเลยในปีแรก (บริษัทเคลมว่าค่าดูแลรักษา 100,000 กิโลตกประมาณ 8000 กว่าบาท) ดังนั้นคนที่ใช้รถเกินวันละ 100 กิโลเมตรลองเปรียบเทียบกับรถเดิมของคุณในเรื่องการเติมน้ำมันและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาในระยะทาง 100,000 กิโลเมตรว่าแตกต่างกันอย่างไร
2. คนที่จะออกรถคันที่สองของครอบครัว เพราะว่าปริมาณการใช้รถไฟฟ้าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากในอีกห้าปีข้างหน้า และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยเรื่อยในปีต่อๆไป ดังนั้นรถน้ำมันจะตกยุคและเริ่มขายไม่ออก หากคุณคิดจะขายเป็นรถมือสองในช่วงนั้นอาจจะไม่มีคนซื้อต่อแล้วก็ได้นะครับ
3. คนที่มีความจำเป็นจะต้องซื้อรถคันใหม่เพราะว่ารถคันเก่าโทรมมากหรือใช้งานไม่ได้ดีเหมือนเดิมแล้ว ก็ควรจะเก็บรถคันเก่าแล้วซื้อรถคันใหม่เป็นรถไฟฟ้ากันตามเหตุผลข้อที่สอง
4. คนที่มีเงินเยอะเหลือเฟือก็เอาที่คุณสบายใจ
ผมใช้รถไฟฟ้าอยู่แล้วชอบมากไม่อยากกลับไปใช้รถน้ำมันแล้ว และไม่รู้ว่าอีก 10 ปีข้างหน้าอะไหล่ของรถน้ำมันจะหา ได้ง่ายง่ายอย่างตอนนี้หรือไม่ คันต่อไปยังไงก็ขอเป็นรถไฟฟ้าอีกครับ
ในอนาคตใช้แน่นอนค่ะ ชอบที่เวลารถวิ่งแล้วไม่มีควันไอเสีย แล้วฟิลลิ่งเวลาขับคือจัมีเสียงวื้บๆ เหมือนยาน ทั้งเงียบ ทั้งนิ่ม แถมประหยัดด้วย
สำคัญอันดับแรกเลยคือ ราคา ถูกสุดก็ล้านกว่าแล้วครับ คนสนใจเยอะ ใช้ในเมืองคุ้มมาก แต่เจอราคาแล้วหยุดเลย
ผมมีตังซื้อได้แค่ 3 แสน ก็คงมือ 2 ละเนาะ
ชอบดูคลิปพี่คนนี้นะ แต่ชอบออกนอกเรื่องตลอด ทำคอนเท็นMG ไปคุยเรื่อง BMW ระหว่างทำรีวิว เขาให้คุยเรื่องแบตแต่ไปคุยเรื่องจีนมีเหมืองถ่านหิน
รอให้ชาจน์ไฟฟ้าเร็วๆพอๆกับการเติมน้ำมัน ค่อยว่ากันครับ ตอนนี้ปัจจุบันนี้ ขอ พวก ไฮบริดดีกว่า คห.สตนะ
ใช้ครับ ใช้นานแล้ว แต่เป็นรถไฮบริด นะครับ
ยิ่งใช้ยิ่งชอบ ผมใช้ พรีอุส อยู่ ไม่เห็นน่ากลัวอย่างที่หลายๆคนเค้ากลัวกันเลยครับ วันหน้า คันหน้า รถปลั๊กอินไฮบริด รถอีวี ผมเอาแน่ครับ 😍👍
แจ๋วเลย
พอเปลี่ยนมาใช้เป็นระบไฟฟ้า เป็นตัวหลักได้เมื่อไร ระบบใหม่ก็กำลังพัฒนาตามหลังมาจน สามารถทำลงให้ รถมันไม่จำเป็นต้องใช้ถนนแล้ว ตัวอนาคต
ที่จะกำเนิดตามมา คิดรถบิน
รถไฟฟ้าจะเป็นรถคันที่สองของแต่ละบ้านครับ ใช้สำรองจากรถน้ำมัน ดังนั้นมันมาแน่นอนในเวลาอันรวดเร็ว
รอราคา ลงหลักแสนก่อนค่ะ คันเล็กๆราคาสัก4-5แสน จะมีมั้ยค้ะ ถ้ามีสนใจค่ะ
ได้รับเชิญด้วย เยี่ยมๆ
ถ้าสมมุติว่าคนหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้นอย่างมากมาย ในช่วงเทศกาลมันต้องยุ่งแน่ๆเลย รถก็ติด ยิ่งใช้พลังงานเยอะกว่าเดิมโดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางในระยะไกลจะต้องชาร์จระหว่างทาง ที่ชาร์จจะพอมั้ย ขนาดรถน้ำมันยังต้องต่อแถวเติมน้ำมัน
ถ้าเป็นรถไฟฟ้าได้นอนรอชาร์จไฟกันข้ามคืนแน่เลย
ถ้ามัวแต่มองเรื่องการหาซื้อรถไฟฟ้าใหม่ๆมาใช้อย่างเดียวนั้นไม่ถูกต้องนัก ตามบริษัทค่ายรถยนต์ต่างๆทั่วโลกควรหันมามองที่การปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์จาก ICE มาเป็น EVของค่ายตนเองที่ขายให้ประชาชนหรือลูกค้าของตนเองมากกว่า เอาแต่ผลิตรถใหม่ๆที่เป้นไฟฟ้า ผมเชื่อว่าคนให้ความสนใจในเรื่องนี้มากกว่า
ตกกังวลที่ไม่มีที่ชาร์จ ตามถนนเส้นหลัก ก็พอใจแล้ว ถ้ามีที่ชาร์จตามปั๊ม ถูกถนนเส้นหลัก จะดีที่สุดเลย ถนนเส้น 24 เดชอุดม กรุงเทพฯ แทบจะไม่มีเลย
Teslaที่ผลิตในจีน ถ้าพอจะมีโอกาสขายในไทย ราคาไม่แพง น่าใช้ครับ
เราเล่นหวยไม่ใช่เพราะอยากรวยแต่ขึ้นกับเพื่อนที่นั่งข้างๆเขาเล่นหรือไม่ เราจะซื้อรถไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องทางphysical แต่เป็นเพราะเพื่อนบ้านข้างๆเขาซื้อหรือเปล่า เป็นเรื่องของwhoอย่างที่คุณอู๋ว่า ส่วนผมเห็นว่าพวกเรายังติดกับดักทางวัฒนธรรมองค์กรแบบไทยๆ วันนี้หน่วยงานรัฐที่ไม่เกี่ยวกับการต่อสู้โควิดซึ่งมีถึง99% เงียบกันหมดครับไม่ใช่เฉพาะเรื่องอีวีเท่านั้นแต่กลัวการแสดงออกจะไม่ถูกกาละเทศะ จึงไม่มีamplifyทางสังคม ครับเราต้องอาศัยภาครัฐเป็นผู้นำ ในส่วนวิสาหกิจอย่างปตทโออา บางจาก กฟภ.เขาก็ทำกันเงียบๆอยู่ ประเทศเราเสียเวลากับside effectของโควิดมากกว่าตัวโควิดเสียอีกครับ
ปริมาณของฝุ่นจะสัมพันธ์กับความชื่นในอากาศ ถ้าต้นไม้มีน้อยความชื่นในอากาศก็มีน้อยตาม. เหมือนเรากวาดถนนถ้าแห้งมากก็ฟุ้งมาก การแก้ก็ควรแก้ที่ต้นเหตุ ต้องอนุรักษ์ป่า ครับ
เปรียบเทียบแบบชาวบ้านๆ
ง่ายๆ....เหมือนร้านขายข้าวแกง
ถ้าชุมชนไหน มีขายแค่ร้านเดียว
ก็จะรอ นานหน่อย (แต่หิว..นานก็รอกิน)....แต่เปรียบเทียบแบบนักการตลาด ก็ ดีขม..เฮ้ยย ดีมาน ซับพลาย...ยกตัวอย่าง รถยนต์ใช้NGV..เมื่อ สิบกว่าปีก่อน ก็ต้องแวะ ปั๊ม ปตท. ต่อ คิว เติมNGV นับชั่วโมง ก็ยังรอ......พอทุกอย่างลงตัว
เดี่ยวนี้ไม่ต้องต่อคิวแล้ว...........
หลักง่ายๆ..ไม่ต้องคิดมากถึงเวลามันจะมาเเปลี่ยนโลกเอง....(จบ)
รถไฟฟ้าชาร์จไฟเต็มขับไปได้ครึ่งทาง จากนั้นจอดรถทิ้งไว้1วัน อยากรู้เหมือนกันว่าแบตจะลดลงเองไหม
ลดเยอะน้อยแค่ไหน เหมือนมือถือ
ทิ้งไว้ทั้งวันพรุ่งนี้มีชาร์จแน่นอน