transistor(EP.2) สำคัญมาก...!! สูตร..วิธีคำนวณ หากระแสไบอัส "ของทรานซิสเตอร์" ในวงจรจริง..!!
Вставка
- Опубліковано 16 жов 2024
- สวัสดีครับยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ช่อง ZimZimDIY
สำหรับวันนี้ ผมจะมาสาธิต วิธีต่อการใช้งานทรานซิสเตอร์ในวงจรจริง พร้อมกับคำนวณ กระแสที่ไหลในวงจร แบบคร่าวๆ ให้เพื่อนๆได้ดูครับ
ซึ่งก่อนที่เรา จะเลือกใช้ทรานซิสเตอร์ เราจะต้องรู้ขอบเขตงาน ของเราซะก่อน ว่าโหลด ต้องการใช้กระแสเท่าไหร่
อย่างโหลดตัวนี้ของ ของผมก็คือ หลอด LED สีแดง 1 ตัว
สรรพคุณของมัน ก็คือ มันจะกินแรงดันตีว่าประมาณ 2V และกินกระแส อยู่ที่ประมาณ 10mA
เพราะฉะนั้น ผมจะใช้ ทรานซิสเตอร์ ตัวเล็กๆ กระแสสักไม่เกิน 1A ก็เพียงพอแล้วละครับ
ผมจะใช้เป็นชนิด NPN
สำหรับสัญลักษณ์ของ ทรานซิสเตอร์ชนิด NPN จะมีลักษณะเป็นวงกลมมี 3 ขา และก็มีหัวลูกศร ชี้ออกมาแบบนี้
ขากลาง ก็จะเป็นขา B ขาบนก็จะเป็นขา C ขาล่างก็จะเป็นขา E
ถ้าให้มองภาพ ทิศทางการไหลของกระแส กระแสก็จะไหลอยู่ 2 ส่วน
ส่วนที่ 1 ไหลจาก บนลงล่าง นั้นก็คือ ขา C ไปหาขา E
และส่วนที่ 2 ไหลจาก กลาง ลงล่าง นั้นก็คือ จากขา B ไปหาขา E
เราจะเรียก กระแสที่ไหลผ่านขา C พวกนี้ ว่ากระแส IC
และเราจะเรียก กระแสที่ไหลผ่านขา B เรียกว่ากระแส IB
และแน่นอนครับว่า กระแสที่ไหลผ่านรวมกันที่ขา E จะเรียกมันว่ากระแส IE
มาดู ทรานซิสเตอร์ตัวจริง ที่ผมใช้กันบ้างครับ จะเป็นเบอร์ C945 ที่ผมใช้ทรานซิสเตอร์ตัวนี้ก็เพราะว่า มันเป็นเบอร์ ที่ผมมีอยู่แล้ว
ถ้าเพื่อนๆจะใช้เบอร์อื่นๆก็ได้เเช่น กันนะครับ ขอให้เป็นชนิด NPN ก็พอ
เมื่อเอา เบอร์ไปค้น Datasheet ก็จะพบว่า เมื่อเรา หันด้านเรียบของทรานซิสเตอร์ เข้าหาตัว หรือว่า หัน พื้นที่ที่เป็ยหน้าตัด เข้ามา
ขาที่ 1 จะเป็น ขา Emiter ขาที่2 จะเป็นขา Collector และขาที่ 3 จะเป็นขา Base
กระแส IC สูงสุดที่ไหลผ่านได้ เขาบอกว่าอยู่ที่ 150mA ก็เท่ากับว่า สามารถจ่ายกระแสให้กับหลอด LED สีแดงนี้ ได้พร้อมกันสูงสุดถึง 15 หลอด ในเวลาเดียวกัน
ในวงจรนี้ เราใช้ LED เพียงแค่หลอดเดียว ก็เท่ากับว่า ทรานซิสเตอร์ ของเรา มันทำงานได้ อย่าง สบายๆ ไม่ได้โหลดหนัก
ตอนนี้ในวงจร เรามี โหลดที่เป็น LED 1 ตัว และมี ทรานซิสเตอร์ ชนิด NPN อีก 1 ตัว
สิ่งที่เราต้องการเพิ่มเติม นั้นก็คือแหล่งจ่าย เพราะฉะนั้นผมจะเพิ่มแหล่งจ่ายเข้าไปตรงนี้ ผมจะใช้เป็น แบตเตอร์ขนาด 9V
เราจะต่อขั้วบวกของแหล่งจ่ายไปหาขั้วบวกของ LED
ขั้วลบของ LED ต่อเข้าขา C ของทรานซิสเตอร์
และอีกฝั่งหนึ่ง ต่อขั้วลบของแหล่งจ่าย เข้า ขา E ของ ทรานซิสเตอร์ ปกติแล้วในส่วนี้ มันก็จะต่อเป็นกราวด์ของวงจรไปในตัว เพราะฉะนั้นเราจะใส่สัญญลักษณ์กราวด์ ลงไปด้วย
นี่ครับ ในวงจรจริง ผมก็จะต่อตาม ขาที่ระบุไว้ เหมือนในกราฟ เป๊ะเลยครับ
แต่ตอนนี้ หลอดไฟมันยังไม่สว่าง ส่องออกมา นะครับ
เพราะว่ากระแสยังไหลไม่ครบวงจร
กระแส มันจะไหลมาจากขั้วบวกของ แหล่งจ่าย ไหลผ่านมาหาหลอด LED แต่มันจะ ค้าง ที่ขา C
เพราะว่าอะไร เพราะว่าเราไม่ได้ไบอัส กระแสที่ขา B นั้นเอง
สำหรับการไบอัส ก็มีอยู่ด้วยกัน หลายวิธี ด้วยกัน
ทั้งแบบ
Fix bias , Self bias , voltage divider
สำหรับวงจรนี้ผมจะขอเลือกใช้เป็นแบบ
ทั้ง Fix bias
และเพื่อความง่าย ผมจะใช้กระแสจากแหล่งจ่ายเดียวกัน
ซึ่งมันต้องการเป็นไฟบวก ไฟบวกเราก็สามารถ ต่อตรง ตรงนี้ได้เลย แต่มันจะต้องผ่าน ตัวต้านทาน ดรอปกระแส สัก 1 ตัว
เพื่อไม่ให้ทรานซิสเตอร์พัง
และการดรอปกระแส ก่อนเข้าขา B
ก็เป็น 1 ใน หลักกการทำงานของ ทรานซิสเตอร์ นั้นก็คือ จะใช้กระแส น้อย ๆ ควบคุมกระแสในปริมาณมาก
แล้วเราจะทราบค่าตัวต้านทาน RB ได้อย่างไร ที่จริงมันมีสูตรของมันอยู่ครับ
นั้นก็คือ Rb = VRB / IB
แต่เราต้องรู้ค่า ตัวแปรให้ครบซะก่อน
ตอนนี้สิ่งที่เรารู้ก็คือ 1.แรงดันของแหล่งจ่าย VCC = 9V
2.กระแสที่โหลดต้องการ หรือ กระแส IC = 10mA
และสิ่งที่เราจะต้องรู้อีกก็คือ Gain การขยายของ ทรานซิสเตอร์
หรืออีกเรียกว่า ค่าเบต้า ใน datasheet จะเขียนว่า Hfe
นี่ครับ จะอยู่ระหว่าง 70 - 700 ในเงื่อนไขนี้
แต่ถ้าเอาชัวร์
ก็จับมันวัดกับมัลติมิเตอร์ ที่มันมีโหมด วัด เกนการขยายของ ทรานซิสเตอรไปเลยดีกว่าครับ
โดยแค่ เสียบขาให้ถูกต้อง ตรงช่อง และก็ให้ ถูกชนิด
มันก็จะขึ้น อัตราการขยายขึ้นมา นี้ครับ ตัวนี้ เกนการขยาย ประมาณ 320 แต่มันไม่มีหน่วยเรียกนะครับ ถ้าเราจะเรียกแบบบ้านๆทั่วไป ก็คือ มันขยายได้ 320เท่า
ทีนี้เราก็สามารถ หาค่า IB ได้แล้วละครับ
โดยสูตรของมันก็คือ IB = IC / Hfe
เมื่อ IC เท่ากับ 10ma
Hfe = 320 หารกันก็จะเท่ากับ 0.03 mA หรือ 30uA
(10mA / 320 = 0.03mA หรือ 30 uA)
พอเรารู้ กระแส IB แล้ว เราก็เอามาแทนค่า
Rb = VRB / 30uA
แล้ว
VRB เราจะทราบค่าได้อย่างไร VRB มันมีสูตรย่อยลงไปอีก ก็คือ VRB = Vin - VBE Vin ของเราจะใช้เป็นแรงดันเดียวกับ VCC นั้นก็คือคือ 9V
ส่วน VBE ก็คือ แรงดันตกคร่อม ระหว่างขา B และขา E ขณะที่ทรานซิสเตอร์ทำงาน
ซึ่งมันมีแรงดันตกคร่อมประมาณ 0.7V เราก็ต้องนำมันมาคำนวณด้วย
ก็จะเท่ากับ 9V - 0.7V = ก็จะเหลือ 8.3V
เราก็นำมาแทนค่า
เมื่อนำค่าทั้งสองมาหารกัน
(VRB / IB ก็จะเท่ากับ 8.3 / 30uA)
ก็จะได้ค่า Rb = 276,000 ohm
หรือ 276kohm
เพราะฉะนั้น ตัวต้านทาน RB ตรง นี้ ถ้าเราดรอปกระแสด้วย R = 276 Kohm
ก็จะมีกระแสไหล IB ไหลเข้าตรงนี้ 30uA
และก็จะมีกระแสส่วนใหญ่ ไหลผ่าน หลอด LED ไปหา IC ประมาณ 10mA
สำหรับในวงจรจริง R 276K
ผมไม่มีนะครับ ก็เลยจะใช้เป็น R300K แทน
นี่ครับ ผมวัดค่าความต้านทานได้ค่าอยู่ที่ 300K เป๊ะเลยครับ
ซึ่งเมื่อเอา R มาต่อ หลอดไฟก็จะ สว่างขึ้น
ถ้าเรามาวัดกระแส กระแสที่ไหล ก็จะไม่ถึง 10mA จะได้ราวๆนี้
ก็ถือว่าทรานซิสเตอร์ตัวนี้ทำงานได้อย่าง สมบูรณ์แบบแล้วละครับ
สำหรับคลิปนี้ ผมก็ขออธิบาย ไว้เท่านี้ก่อน
ขอบคุณเพื่อนทุกท่านนที่ติดตามรับชมครับ
การได้ความรู้มาแล้วมีวิธีการที่จะถ่ายทอดให้คนอื่นเข้าใจได้ง่ายนั้นมันเป็นศาสตร์และศิลป์ชั้นสุง คุณซิมถือเป็นบุคคลหนึ่งที่มีวิธีถ่ายทอดหรืออธิบายความรู้ที่ต้องการสื่อได้ดีกว่าคนหลายคน เพราะวิชาไฟฟ้าหรืออิเล็กทรอนิกนั้น มันไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ต้องเอาเครื่องไม้เครื่องมือไปทดสอบมันจึงเห็นความปรากฎการณ์ ไม่เหมือนเครื่องกลที่สามารถเห็นได้ว่ามีชิ้นส่วนกลไกเคลื่อนไหวอยู่อย่างไร
ขอบคุณมากๆครับ
อธิบายดีมากครับ ถ้าสอนแบบยั่งยืนคนเอาไปต่อ
ยอดความรู้ได้ ผมอยากให้สอนแบบวน KVL loop เพื่อพิสูจน์สูตรให้ผู้ชมได้เข้าใจที่มาของสูตร ผมว่าจะดีมากๆครับ สมัยผมเรียนผมไม่ได้ใช้วิธีจำสูตรพวกนี้เลย เพราะมันเรียนหลายวิธีการไบอัสทรานซิสเตอร์ สูตรมันจะเยอะมากๆ มันจะจำสูตรไม่ไหว ผมใช้วิธีวน KVL แล้วมันจะได้สูตรเฉพาะตัวของการต่อทรานซิสเตอร์แบบต่างๆออกมาทันที
เพราะบางทีเราเจอวงจรที่ยากกว่านี้ สูตรจำๆพวกนี้จะอะแดปใช้งานไม่ได้ นี่คือปัญหาที่เด็กไทยต่อยอดความรู้ไม่ได้ เพราะใช้แต่วิธีจำอย่างเดียวไม่ได้เข้าใจที่มา ทำให้คิดต่อยอดไม่ได้ เช่นว่า การเข้าใจว่าทำไม VRB ต้องเอา Vin - VBE ถ้าวน KVL loop มันจะเห็นภาพทันที จากกฏ KVL แรงดันในลูป = 0
-Vin + VRB + 0.7 = 0
VRB = Vin - 0.7
หรือที่มาของเลข 0.7 ทำไมต้องเป็น 0.7 ทำไมไม่เป็น 0.3 หรือเลขอื่นๆเพราะจริงๆเลข 0.7 เป็นแรงดัน forward ของสารกึ่งตัวนำ PN junction โดยทั่วไปจะประมาณ 0.7 โวลท์ ที่เกิดจากการโดป โบร่อนกับฟอสฟอรัส ในสารกึ่งตัวนำซิลิคอน ในกระบวนการผลิตทรานซิสเตอร์ ซึ่งศักย์สนามไฟฟ้าทางเคมีจากการ โดปดังกล่าวทำให้เกิด ศักย์ไฟฟ้าเคมี โดยทั่วไปที่ 0.7 โวลท์ นี่คือที่มาของเลข 0.7
ขอบคุณมากครับ
คุณ Bozza Lnw ถือว่าเป็น อ.เทพ อีกท่านหนึ่งที่ความรู้แบบแน่นๆ
KVL ก็น่าสนไม่น้อย ถ้าหากคลิปนี้ได้รับความสนใจ คงจะได้จัดทำอย่างแน่นอนครับ
เขาทำอะไรเขาไม่ต้องขอความคิดเห็นหรือต้องขออนุญาตคุณหรอกคุณไม่ใช่เจ้าของคุณแค่ชายผู้หึงหวงอิเล็กทรอนิกส์
น่าสนใจมากครับ ยิ่งถ้ายกตัวอย่างให้เห็นภาพกันง่ายๆยิ่งน่าสนใจครับ เป็นความท้าทายของผู้นำเสนอเลยครับ ว่าจะทำไงให้คนอื่นเขาเข้าใจ
0
ความรู้คือพืันฐานของความสำเร็จ..ขอบคุณครับสำหรับความรู้ที่ทำให้
เรียนเป็นปีๆไม่เข้าใจเลย ดูคลิปแป๊บเดียวเข้าใจเลยครับ คุณเก่งมาก
ผมเป็นคนชมคิปยูตูปยากมาก ๆ เจอคิปพี่อธิบายดีมาก ๆ เข้าใจง่ายไม่มีกั๊ก อธิบายได้ดีไม่วนไปวนมาซ้ำ ๆ ซึ่งบางคืปคนอื่นส่วนใหญ่ไม่ได้เรียงคำพูดมาพูดซ้ำวนไปวนมาทำให้งง ขอบคุณคิปดี ๆ แบบนี้และไม่เคยติดตามใครตั้งแต่เรียนจบมาเป็น 10 ๆ ปี สุดยอดคัฟพี่เป็นกำลังใจให้ผลิตคิปดี ๆ แบบนี้ออกมานะคัฟ กดติดตามกดทุกอย่างให้เรยย
สุดยอดครับ ผมจบสายนี้มา ยังไม่เข้าใจอะไรเลย พอคุณทำคลิปอธิบายเข้าใจมากขึ้น ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
อาจารย์สอนเก่งมากครับ ถ้าครูท่ัวประเทศไทยสอนเก่งได้แบบนี้ประเทศเจริญแน่ครับ
ขอบคุณมากครับ
เยี่ยมอีก นึงความเข้าใจ..ขอบคุณครับ.
ทำไง..เป็นโปรแกรมได้..เครื่องคำนวณ คาลิโอ..เยอะแยะ..แค่แทนค่า/ใช่ ให้ได้.. ค่าอาร์..สมัยนี้...หาค่า hfe...ง่ายมาก..กว่าเก่าก่อนมากมาย..แค่เสียบขานิ...
ขอบคุณมากครับ
อธิบายดีมากครับ ผมสงสัยนิดนึงครับ led มันรับได้ได้แค่ v=2 แต่ที่จ่ายให้มันตั้ง 9 v ทำไม led ไม่เป็นอะไรหรอครับ
ทรานซิสเตอรทำหน้าที่เป็นrลดแรงดัน และกระแสเรียบร้อยแล้ว
เขาใจสุด ขอบคุณครับ
อยากให้แนะนำการนำไปประยุกต์ใช้ในการขับ Relay 5V ด้วยครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ ไม่รู้จะหาคำบรรยายไหนแทนคำว่าขอบคุณ เยี่ยมมาก
จากที่ผมเรียนมา ผมพยายามจินตนาการเหมือนไดโอดคล้ายกับทรานซิสเตอร์NPNเเต่ต่างกันเล็กน้อย คือถ้าราจะกำหนดให้มันทำงานเป็นวงจรขยาย เราต้องการให้ Vb>Ve ที่จุดไบอัส เเละก็ Vc>Vb จะได้ว่า Vc>Vb>Ve เมื่อวงจรทำงานอิเล็กตรอนจะไหลผ่านขาE เข้าขาBเนื่องจากจุดไบอัสเปิดเนื่องเเรงดัน Vbeมากว่าเท่ากับเเรงดันไบอัส "ทำเเรงดันบวกขาBผลัก เเละ ประจุลบขาEดูด" ให้โฮลในสารPติดกับเขตปลอดพาหะ ทำให้อิเล็กตรอนในสารNเเละสายไฟเคลื่อนตัวไหลผ่านโฮลมาที่ขาB เเต่เนื่องจากเเรงดัน+ที่ขาCดึงอิเล็กตรอนที่ผ่านจากขาEไปขาB ส่วนใหญ๋มาที่ขาC เพราะ Vc>Vb>Ve ส่งผลทำให้ Ic>Ib จากนั้นอิเล็กตรอนขาCเเละขาBจะเข้าไปที่ขาE เป็นวงจรปิดวนลูปไป ส่วนชนิดPNPจะตรงข้ามกันกับNPN ส่วนตอนเราคำนวณมันจะตรงข้ามกันเพราะกระเเสที่เรากำหนดให้มันไหลจากบวกไปลบตรงข้ามกับอิเล็กตรอน ผมเข้าใจถูกไหมครับเพราะตอนเรียนผมเรียนเรื่องนี้ไม่ค่อยรู้เรื่องเลย สูตรมันเยอะมันเเก้เเล้วมันวนๆมาจุดเดิม เเละอาจารย์ก็ไปไวมาก หาข้อมูลเองเเล้วเข้าใจเเบบนี้เลยอยากเช็คความเข้าใจตัวเอง ผิดถูกยังไงบอกผมหน่อยได้ไหมครับจะไปศึกษาเพิ่มเติม
แนะนำให้ใช้วงจรที่ 2 หรือ 3 นะครับวงจรแรกเมื่อ TR ร้อนค่า hfe จะเพิ่มทำให้ Ic ไหลเพิ่มความร้อนเพิ่ม hfe เพิ่มตามจนเกิด thermal runaway ครูสอนไว้ตั้งแต่วิชา อีเล็คหรอนิคส์ตัวแรกๆ ใช้งานจริงต้องทำการ swamping ไม่ให้ความร้อนมีผลต่อการทำงาน self bias แบบวงจร 1 ทำทดลองได้
สอนเรื่อง วงจรบาลานซ์แบตเตอรี่หน่อยครับ
ขอบคุณครับอธิบายเข้าใจมาก มีกำลังใจในการเรียนต่อละครับ
เป็นกำลังใจ้ให้สู้ๆครับ
อธิบายได้ดีมากๆ ครับ
อธิบายได้เข้าใจดีมากกกกกกก สุดยอดครับ 😊😊😊😊😊
ผมเรียนอิเล็ก 5ปีครับ ไม่เคยเข้าใจเลย สงสัยมาตลอดว่าวงจรแบบนี้คืออะไร ไบอัสคืออะไร เจอคลิปนี้เข้าไป8นาที กระจ่างเลย
อธิบายดีมากครับ ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป
อันนี้เราสามารถใช้เป็นวงจรจำกัดกระแสเพื่อขับหลอด led ได้ไหมครับ ชอบวิธีการอธิบายมากครับ ขอบคุณมากครับที่แบ่งปันความรู้
เหมือนได้กลับไปเรียนอีกครั้งเลยครับ สอนเข้าใจง่ายมากครับ
อาจารย์ครับถ้าทำงานกระเเส ขั่วลบขาEจะไหลไปขั่วแบต ไหลไปหาขาC ก็จะมี บวกลบ จึงทำให้Ledติด เหมือนกับ เหนี่ยวนำ ใช้ไหมครับ สงสัย มือใหม่หัดเร่น
พออนุเคราะห์วงจรควบคุมTriacได้มั้ยครับผม
นีเลยครับ อธิบายแบบง่ายๆ เข้าใจได้ง่ายง่าย ได้ความรู้มากมาย ตั้งแต่เริ่มเลย ขอบคุณที่มีคลิปดี ดี มีประโยชน์ครับ ขอให้ท่านได้ให้ความรู้กับคนมีสนใจอยากเรียนรุ็กับเรื่องนี้ เป็นกำลังใจ และ ติดตามท่าน ครับผม
ช่องนี้ดีมากเลยครับให้ความรู้ดีละเอียดดีครับผมชอบมากเลยครับกดติดตามครับผม
ชัดเจน เข้าใจง่าย สุดยอดครับอาจารย์
แผ่งที่ใช้ทดลอง.เค้าเรียกว่าอะไร.สั่งได้จากไหนครับ
ขอบคุณมากครับได้ความรู้จริง
เข้าใจง่ายดีครับ
ผมดูแล้วพอเช้าใจเกือบหมดครับ แต่มาติดตรงVBEว่าหาจากไหนถึงได้0.7v ผมเลยไปเปิดดาต้าของเบอร์ในคลิปดูมันกำหนกค่าสูงสุดที่ 1v เลยเข้าใจเอาว่า 0.7v มาจากการกำหนดของเราเองโดยไม่ไห้เกินค่าสูงสุดที่1v ใช่ไหมครับ
ค่า 0.7 มาจากแรงดันของสารกึ่งตัวนำ ในทรานซิสเตอร์แบบไบโพล่าจะมีค่านี้มาทุกตัว แต่จะมากกว่านี้หรือจะน้อยกว่านี้ก็ต้องเปิดดาต้าชีทดู แล้วแต่เบอร์รุ่นครับ
คหสต ..มันเป็นค่ากลางๆของสารกึ่งตัวนำที่ถูกโดป แต่ก็อาจคลาดเคลื่อนได้ เหมือนอย่างค่าอัคราการขยาย trลอตเดียวกันอัตราขยายยังไม่เท่ากันเลยสักตัวเลย
ค่า 0.707 มันก็คือค่าเดียวกันกับ ไดโอดชนิดสาร Si โดยหลักการภายใน Tr ก็มีสาร Sami con กำหนดคล้าย ไดโอดครับ
เพิ่มเติมคือแล้วแต่ Tr ว่าจะใช้ Si=0.7 หรือ Ge=0.3 ครับ
@pps.sks88 ที่ผมพูดหมายถึงแรงดันตกคร่อมนี่แหละครับ
มาทบทวน..ตอนเรียนปวส.อีเล็ค
เพิ่มเติม..แรงดัน Vbe เป็นค่ามาตรฐานที่ตกค่อมสารกึ่งตัวนำเมื่อถูกไบอัสตรง(กระแสไหลไปตามทิศทางที่ถูกต้อง)ซึ่งมีค่าประมาณ 0.7 โวลท์และเท่ากันกับแรงดันตกคร่อมของไดโอด(ซึ่งเป็นสารกึ่งตัวนำเช่นกัน)...
ขอบคุณเมนต์นี้เลยครับ กำลังจะเมนต์ถาม
เช่นกันคราฟฟ😅😅😅😅
คือผมเรียนช่างอิเล็กแต่ยังคิดโปรเจคไม่ออกเลยครับ ตอนนี้ฝึกงานอยู่ ช่วยแนะนำหน่อยครับว่าทำอะไรดี🙏
สายจั้ม ที่ขางในเป็นลวดเส้นเดียว เรียกว่าอะไรหรอครับ ผมจะซื้อใช้มั่งครับ
เอาสายแลนมาตัดใช้สายย่อยข้างในได้ครับ
ดูช่องถ่ายทอดความรู้ด้านอีเลคโทรนิคส์หลายช่อง ดูช่องนี้อธิบายได้ละเอียดและเข้าใจง่ายดีมาก👍
ใช้กับวงจรขยายเสียง ใช้สูตรนี้ได้ไหมคับ
ผมจบอิเล็ก 48 มาพื้นความทรงจำครับ อ.
คำถามนะครับ เราต่อ ทรานซิสเตอร์ในกรณีนี้ เพื่ออะไร ทำไมไม่ต่อสวิทซ์หรือรีเลย์ธรรมดา
เพื่อให้ทรานซิสเตอร์ผลิดความถี่ให้วงจรด้วยครับ
ทรานซิสเตอร์ทำงาน เปิด-ปิด ที่ความเร็วระดับไมโครวินาที 10^-6
ส่วนรีเลย์ทำงานแค่ระดับมิลลิวินาที 10^-3 แต่การใช้งานในวงจรสวิตชิ่งพาวเวอร์ซับพลายหรือวงจรขยาย
ความถี่ทำงานวิ่งกันระดับ 10kHz-500kHz หรือภาษาชาวบ้านคือ ต้อง เปิด-ปิด 1 หมื่น - 5 แสนครั้งต่อวินาที ลองคิดดูว่ารีเลย์มันจะทำงานทันไหม และแถมรีเลย์ยังเป็นกลไกแมกคานิค สลับหน้าสัมผัส ป๊อก แป๊ก ๆ 1 แสนครั้งต่อวินาที พัง อย่างเขียด เสียงดัง นี้คือเหตุผลว่าทำไมต้องใช้ทรานซิสเตอร์ แต่ในคลิปนี้จุดประสงค์เขาคือสาธิตการสอนใช้งานให้คำนวณเข้าใจเบสิคง่ายๆเท่านั้นเอง ส่วนในการใช้จริงถ้าแค่แบบในคลิปเปิดปิด LED แค่นี้คงไม่มีใครใช้ทรานซิสเตอร์ เข้าใจนะครับ แต่ถ้าเป็นงานอื่นๆเช่นพวกสวิตชิ่งพาวเวอร์ซับพลาย แอมป์ขยาย ยังไงก็หนีไม่พ้นการใช้งานทรานซิสเตอร์
ส่วนสวิตช์มือคงไม่ต้องสงสัยไม่มีใครเป็นทานอสใช้มือ เปิด-ปิด สวิตซ์ 5 แสนครั้งต่อวินาทีได้อยู่แล้ว
ส่วนสมัยนี้มันมีอื่นๆเพียบ นอกจากทรานซิสเตอร์ เช่น มอสเฟต (ทำงานเร็วกว่าทรานซิสเตอร์อีก)ระดับเมกะเฮิรตซ์ MHz
สมัครเรียน.สมัครเป็น FC. ครับ
ทำไมไม่ต่อ R ให้กับ LED เหทือนปกติทั่วไปครับ
ขอบคุณมากครับอาจารย์
อยากให้อธิบายวงจร แอมป์จิ๋วรุ่นxh-m510 ใช้ชิปtda7498e ทำไมสเป็กบอกได้100*100วัตต์ ทำไมมันได้น้อยจัง และเมื่อเปิดเเรงๆมันจะตัด4โอม8โอมตัดเมื่อเปิดแรงๆ เเละต้องโมยังไงให้วัตต์เต็มเท่าไอซีชิปที่เขาระบุไว้ว่า160*160วัตต์
ผมคำนวนได้. เพราะจบอิเล็กทรอนิกส์ มาเลยง่ายหน่อยครับ.
ขอบคุณครับครู
ขอบคุณมากครับผม.
ถ้าต่อทรานซิสเตอรล่ะครับ
ขอบคุณครับ
สุดยอดมากๆ
แอดสอนทำกล้อง cctv จากมือถือเก่าหน่อยครับ
แล้วมอสเฟตล่ะคับหายังไงคับ
เยี่ยมครับ
ขอบคุณมากครับ
LED แบบที่ใช้แรงดันตกคร่อมมันไม่เกิน 1.7V ถ้าเป้นแบบวงจรมันจะตกคร่อม 9V เลยทีเดียว ต้องมี R ช่วยดรอปแรงดันที่ขา C วงจรถึงจะสมบูรณ์ครับ ไฟส้มเชียวในคลิป >
ขออนุญาตแก้ให้นิดนึงนะครับ ปกติ led ไม่สามารถทนแรงดันได้ขนาดนั้น และจะระเบิดนะครับ. ซึ่งขออธิบายเพิ่มเติมว่าแรงดันตกคร่อมตามที่อาจารย์แกอธิบาย จะอยู่ที่ led ประมาณ 2 v และตกคร่อมที่ transistor ขา ce ที่ประมาณ 8 v ครับ
VBE = 0.7V หาจากไหนครับ
เป็นค่าแรงดันอิ่มตัวของรอยต่อPN สารเซมิคอนดัคเตอร์แบบซิลิคอน
ถ้าสารซิมิคอนคัดเตอร์แบบเยอรมันเนี่ยม จะเป็น 0.2
สุดยอด
ถ้าเราใส่เป็น Variable Resistor ใส่ตรง RB หลอด LED จะสว่างตามค่าที่เร่ปรับด้วยใช่ไหมครับ
จะสว่างตามที่ปรับครับแต่ต้องต่ออนุกรมกับ R ค่าคงที่ด้วยเพื่อไม่ให้กระแสขา Base เกิน
ของผมเอาหลอด LED ขนาด 2 โวลท์ ไปต่อกับถ่านนาฬิกา 1.5 โวลท์ 2 ก้อน เป็น 3 โวลท์ ทำไมหลอดมันขาดอ่ะครับผม ทั้งๆที่แรงดันไฟมันต่ำครับผม
ขอตอบแทนนะครับ พี่ใช้แบตเตอรี่aไหนครับ ถ้ากระแสสูงเกินไปหลอดก็ขาดได้ครับ
@@cn_edit8670 เป็นถ่านทั่วไปเลยครับผม ถ่านนาฬิกาครับผม
แรงดันเกินกับกระแสเกินครับ เลยขาด
ต้องใส่ R อนุกรมไว้สักหน่อยก่อนเข้าหลอด
@@somebodyinnobody ขอบคุณครับพี่ ว่าแต่ใช้ตัว ต้านทานกี่โอห์มครับพี่
@@ปังปอนด์เบรคเกอร์ซิ่ง-ป7ง(แรงดันถ่าน -- แรงดันตกคร่อม LED) / กระแสไฟตามกำหนดของ LED
ถ้า LED ที่ใช้แสดงสถานะทั่วไป ก็ 20 mA
ก็จะได้ (1โวลท์/ 20)×1000= 50 โอมห์
งงเหมือนเดิมเลยครับ😅
0.7มายังไงคับ
พี่Sim Sim ถ้าต่อ2ตัวล่ะ
ช่วยต่อ สาธิต อธิบาย กฎ เคอร์ชอฟ ให้เห็นในวงจรเห็นภาพจริงหนอยครับ
อย่าลืมคำนวณค่ากำลังไฟฟ้าด้วยเด้อ
ตัวต้านทานผมไหม้เลย ศึกษาดีๆ
กราบบบ
มาช้าอะ ลองจิ้มขานั้นมาขานี้ อ่าว ไหม้555555
ถือว่าเป็นประสบการณ์ครับ ฮ่าๆ
นาที ที่ 7:18 8.3v/30mA =276,000 โอม
ทำไมผมคำนวณได้
8.3/0.03 =276.666 คิดยังไง ให้ได้ 276,000
+10
อธิบายได้ดีมากๆครับ
เรียนมาหลายปีมาเห็นคลิปนี้มาย้อนถามตัวเองเมื่อก่อนทำไมเราไม่เข้าใจว่ะ
เยี่ยมครับ
ปรึกษาหน่อยได้ไหมครับคือหาตัวนี้แทนให้หน่อยครับ
ขอดูการไบอัสกลับและไบอัสสเตบิไลซ์ด้วยนะครับ
ตอนที่เรียนช่างอาจารย์ทำไมไม่สอนแบบนี้น้อ
สอนต่อกับโซล่าเซลล์แบบเปิดปิดไฟกลางคืนหน่อยครับ
อยากให้ทำวิธีคำนวณมอสเฟตด้วยครับอาจารย์
ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆมีคุณภาพครีบ👍👍
ขอบคุณครับ