Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
การศึกษาควรทำให้เด็กเข้าใจ ไม่ใช่เอาความรู้มายัดใส่เด็ก
thanakorn inthakesorn เห็นด้วยครัย
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ
Washington เห็นด้วยครับ
เห็นด้วยคับ
เห็นด้วยค่ะ
เรียนสิบกว่าปี จบไปเพื่อเป็นลูกจ้างของคนอื่นอีกที
Montag Sieben เออนั้นดิ บางคนนี้ในรร.เรียนเก่งมาก จบมาเป็นลูกจ้างน้ากุอีกที น้ากุจบม.1
ผมว่าปัญหาของการศึกษาไทยคือ #ไม่ลงมือทำ#อย่างจริงจัง เพราะถ้าทำแบบจริงจังการศึกษาไทยคงดีกว่านี้
ใช้ๆๆ
ปาณเดชา พิกุลแก้ว การที่ให้เด็กเรียนรู้ได้ถึงที่สุดคือการทำในสถานการณ์จริง
ผมไปถามแม่ที่เป็นครู ว่า กูเรียนไปเพื่ออะไร แม่ก็เลยบอกว่า ออนั้นสิแม่ก้เคยคิดเหมือนกัน
Violet ColorBlast แม่อายุ30กว่าๆเองนิรุ่นอายุ45-50แรงมาก
การศึกษาไทยทำไมเขาไม่ฟังความคิดเห็นเด็กได้มากขึ้น
chinnapat nengmeng ใช่ๆเ
chinnapat nengmeng ก็เพราะผู้ใหญ่ประเทศนีัมันยังอยู่ในกะลา
ใช่ค่ะ
ผู้ใหญ่บางคนเค้าก็หวังดีบางแต่!ก็ไม่ได้รู้ซึ้งถึงความถนัดที่แท้จริงของเด็ก ก็จะบังคับให้ตั้งใจต่างๆนานา หวังว่าจะเก่งขึ้น แต่ก็ไม่ พออธิบายให้ฟังก็หาว่าเถียง เหมือนกับการปิดความถนัดด้วยเส้นทางที่เป็นเส้นทางหลอกลวงว่าจะเก่งอย่างนั้นอย่างนี้
ทำไมพวกผู้บริหารตำแหน่งใหญ่ๆมีแต่เต่าล้านปีล่ะ ประเทศนี้วัดความสามารถคนด้วยอายุเหรอวะ
เรียนอนุบาลประมาณ 3 ปีประถมอีก 6 ปีมัธยม 6 ปีมหาลัย 4 ปีเราเสียเวลาประมาณ 19 ปีเพื่อเรียน...สุดท้ายยังไงล่ะคนบางคนก็ไปเป็นลูกจ้างเขาอยู่ดี เฮ้ออออ~
เรียนไปเพื่ออะไรว่ะ
@Jinju San ค่านิยมคนไทยที่ทำให้แย่ครับเพราะผมว่าระบบมันดีอยู่แล้วแต่ผิดที่ค่านิยม
การศึกษาไทยสอนให้เราเป็นลูกจ้างมากกว่าเป็นนายตัวเอง ถามว่าแล้วไง เพราะคนจากประเทศเพื่อนบ้านจะเป็นใหญ่ คือเขาจะมาเปิดบริษัทในไทยเเล้วคนไทยเป็นลูกจ้างทั้งหมด คนไทยในปัจจุบันคนฉลาดมีเยอะแต่เอาตัวไม่รอดเพราะไม่มีประสบการณ์ ถึงการศึกษาจะสอนเเต่มาสอน2ปีหลังก่อนจะไปทำงาน ไอเหี้ยกุว่าดีกว่ามานั่งเรียนหนังสืออีกกุเสียเวลามาสิบกว่าปีเพื่อนั่งเรียนเฮ้ออออ
เป็นแค่ประชาชนตาดำๆจะปฏิรูปยังไงได้...
ใช่มันก็เหมือนกับคนที่อยู่จุดสูงแต่มาดูแลคนที่จุดต่ำโดยไม่เคยเข้าใจคนเลยแม้แต่น้อยคนเราก็ชอบบอกเงี้ยต้องมีเกรดดีดีพ่องพอไปยื่นงานเขาก็ใช้ไม่เยอะหรอกถ้าทำงานไม่ได้ถึงจะเกรดเขาก็ไม่รับมึงหรอกเนี่ยแหละสิ่งที่พวกจุดสูงไม่มองพอคนที่อยู่สูงดีดีมาจะทำก็มีคนมาค้านตลอดไอที่ค้านเนี่ยแหละปัญหาหล่ะ
1.ให้การบ้านเยอะ 3อย่าง/d2.ไว้แต่เกรียน3.ชอบให้เด็กตากแดด4.เวลาพักน้อย5.เรียนเยอะ ต่างประเทศเรียนน้อยแต่ฉลาดกว่า6.ไม่สนับสนุนเกม7.ไม่ให้เด็กแสดงความคิดเห็น8.ชอบตีทั้งๆที่กุไม่ได้ทำไรเลย9.เด็กไทยบางคนก็อยากทำอาชีพที่อยากทำแต่ก็โดนดับฝัน10.ออกข้อสอบไม่ตรงที่สอน
ประเทศอื่นไม่ ทำอย่างที่ไทยทำแต่กลับประสบความสำเร็จมากกว่า แล้วก็มาบอกว่าเด็กไทยห่วยแตก
พวก โรงเรียนดังๆก็ให้เรียนวันละหลายคาบ เคยเห็นตารางสอนของ ร.ร นึ่งให้เรียนวันละ9คาบผมยืนอึ่งแปปนึ่ง ผมเคยถามนักเรียนที่เรียนเก่งๆเรียนวันละ7-9คาบ จำอะไรได้บ้าง คำตอบคือ จำไม่ได้ แล้วอีกอย่างวิชา ศีลธรรม เอาออกจากวิชาเรียนเพื่อ !!!
ปาณเดชา พิกุลแก้ว ผมอะเรียน9คาบ TwT
ของผมเรียน 8 คาบ ตอนเช้า เรียน4คาบ ครูเขาปล่อยให้เล่นบ้าง เรียนบ้าง คุยได้ตามสบายเเต่ห้ามเสียงดัง เพราะครูเขารู้ ต้องสอนเป็นกัน เเล้วเด็กจะสนุกเเละจำง่าย เรียนคาบล่ะ 45-50 นาที บางครั้งทำตัวดี เข้าใจบทเรียน ไม่ค่อยเสียงดังก็ ปล่อยเร็ว ซัก5-15 นาที ตอนบ่ายมี4 คาบ เรียนเบาๆยามบ่าย เพราะมีประวัติ ซึ่งครูเขาปล่อยให้ทำตัวสบาย เล่าเรื่อนสนุก เลยชอบมาก เเต่ชอบสังคมมากที่สุด เพราะเขาไม่ได้ให้คัด เเต่เขาเล่า เเละยกตัวอย่างในชีวิตจริงมาเป็นตัวอย่าง บางครั้งก็มีเล่นมุกตลก เรียนเบาๆ2คาบ จิตเเจ่มใส อีกสองคาบที่เหลือ เป็นช่วงลดเวลา ซึ่งครูเขาก็เปิดหนังให้ดู บางครับก็ปล่อยให้เล่น บางที่ก็มีการประดิษฐ์เล็กๆน้อยๆ #ใครอ่านจบ ขอบคุณครับ🙏🙏
นฤตา ยุวรัตน์ อยู่โรงเรียนไหนอ่าาาา @.@
ปาณเดชา พิกุลแก้ว ใช่
นฤตา ยุวรัตน์ โห...ชีวิตดี๊ดีอ่ะ
การศึกษาไม่น่าบังคับให้เด็กเรียนเลย น่าจะเเบบ ใครอยากเรียนอะไรก็เรียน ไม่ใช่อัดให้หมด พอคิดดีๆ สิ่งที่เรียนมา นำไปใช้ไม่ได้จริง เเล้วน่าจะให้สิทธิว่าใครอยากเรียนก็เรียน ใคนไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องเรียน ไม่ใช่ ใครไม่เรียน พ่อเเม่ต้องติดคุก ที่เด็กเรียนไม่เก่ง เพราะไปบังคับให้เด็กเรียนไง น่าจะให้เด็กสมัครใจเรียนเสียมากกว่าเเบบ ใครไม่ได้เรียนก็หาเเนวทางการหางานที่ถนัดเลย และอยากให้โรงเรียนมีการเลือกคาบเรียน ใคนอยากเรียนอะไร ก็เดินไปหาห้องเรียนวิชานั้นเลย
Yo Redarmy ใช่ครับ คือคนที่ไม่เรียนต่อจะโดนมองว่าเป็นเด็กเกเร ไม่เอาถ่าน ทั้งที่ความจริงแล้วคือ มันไม่มีสิ่งที่เขาอยากรู้แล้วจะเรียนให้เสียเงินทำไม บางคนเรียนเก่ง แต่เข้าสังคมไม่เป็นไม่กล้าพูด กลัวทำผิด
ต้องแก้ไขค่านิยมภายในประเทศในหลายๆข้อครับ ฝังรากมานานตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายลุงป้าน้าอาพ่อแม่ ผู้ใหญ่ไม่เปลี่ยนจะหวังให้เด็กเปลี่ยนได้ยังไง? เด็กมานก็เห็นและเลียนแบบจากมนุษย์ป้าๆลุงๆนี่แหละครับ
ลองทบทวนดูนะครับ ในรอบปีที่ผ่านมา มีการกระทำอันใดที่คุณไม่สามารถเชิดหน้าบอกลูกหลานของเราได้บ้าง? ผมว่าบานตะไท สำนึกไว้เถิดผู้ใหญ่นั่นแหละ ทำชาติอ่อนแอ ทำตัวผู้ใหญ่ให้แข็งแรงก่อนแล้วเด็กของชาติจะแข็งแรงตาม
+Babadook Kookkooo ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยากไง แต่เราว่าดัดคู่กันไปเลยก็ดีนะ555
ความจริงอ่ะ ควรตั้งคำถามกับตัวเองว่าอยากทำอะไรตอนอนาคต ดูว่าตัวเองถนัดอะไร แต่เน้นว่าอยากทำอะไรดีกว่า จากนั้นก็พยายามฝึกฝน ให้เรามีคุณสมบัติในสิ่งที่เราอยากเป็น ยกตัวอย่างเรานะ เราอยากเป็นนักแสดง คือวิชาคณิต วิทย์ ประวัติสง ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้ใช้ คือ....เพื่ออะไรอ่ะ วิชาแบบศีลธรรม ตัดออกเพื่อ อันที่มันใช้ได้จริงก็ตัดออกเนอะๆ ตัดเค้าไปๆ ช่วงเวลาของเด็กมันสั้นนะ ควรให้เด็กได้เรียนรู้กับคำว่าเด็กอย่างเต็มที่ ให้เด็กเรียนในสิ่งที่อยากเรียน ไม่ใช่ว่ามีอะไรก็ยัดๆ วิทย์อย่างดาราศาตร์ คือคิดว่าหนูโตไปหนูจะไปรอบโลก ดันอุกบาตที่จะชนโลกให้ออกไป เหรอ?? คือเอาตรงๆนะ แบบเด็กอ่ะ โดนบังคับ เอะอ้ะๆก็เงียบ อย่างเช่น อบรมหน้าเสาธงทุก้ช้าเนี่ย เพื่ออะไร เสียเวลาเป็นครึ่งชั่วโมง พอเลิกปุ๊กเรียนปั๊ป เออดีมากกกก เด็กจะเป็นกระเพาะปัสวะแล้วค่ะ เวลาคั่นแต่ละคาบก็ไม่มีให้ การบ้านก็สั่งเยอะเวอร์ วัน1มี9คาบบ แต่ล่ะวิชาก็สั่งเป็นกอง เรียนได้อาทิตเดียว สอบๆ เรียนเพื่อสอบเหรอ ประเทศไทยแต่ละโรงเรียนคุณภาพมันไม่เท่ากันเนอะ พ่อแม่ก็อยากให้เข้า รร ดีๆ เด็กก็ต้องตื่นเช้า แล้วกลับบ้านดึกอีก ดีไม่ดีเรียนพิเศษตอนเย็นอีก แล้วเด็กจะเอาเวลาไหนไปทำการบ้านอ่านหนังสือ เด็กก็เลยเอาแต่ลอก อืมม ดีมากกกกกก ที่เด็กไปเรียนพิเศษเพราะไม่เข้าใจในห้องเรียน เด็กมันก็เลยต้องเรียนเพิ่มคูณสอง คือแต่ละวิชา ถ้าจำก็ได้เต็ม555นี่แหละประเทศไทย คำว่าการบ้านมันล้าสมัยมากๆ คุณดูสิว่า การบ้านมีตั้งแต่ไหนแต่ไร เเต่กลับเหมือนเดิม แต่คุณลองดู ทรศ มีการเปลี่ยนเข้ากับยุค กับสมัย ไม่ใช่แค่ทรศ ทีวี บ้าน รถ ทุกคนก็รู้ดี นี่เป็นการระบายของเด็กคนหนึ่ง อยากพิมพ์ยาวกว่านี้นะ😁😁
มีข่าวดีมาบอกครับว่าทุกวันนี้ก็เหมือนเดิมแย่จัดๆ
ผมตามหาข้อความดีๆแบบนี้อยู่ ขอบคุณที่คุณมีความคิดดีๆหวังดีต่อเด็กเป็นอย่างมากถ้าคนที่เขามีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงได้เห็นบ้างก็คงจะดีนะ
พอคุณพูดถึงการศึกษา ผมแบ่งเป็น 2 มุมที่ต้องแก้ 1)ครู 2)เนื้อหาครู... ถ้าอำเภอไหนโรงเรียนไหนมันต่ำกว่ามาตรฐานมากๆถึง 2 SD แนะนำเอา ครู(วิดีโอ) มาสอนแทนครูเป็นๆ อ.อุ๊ อ.ปิง อ..... เอามันครอบทุกวิชาเลย กะรันตีคุณภาพระดับประเทศส่วนครูก็ย้ายไปแรงงานด้านอื่น (ประหยัดเงินเดือนและสวัสดิการครูเปนๆ จ่ายแค่ค่าทีวีกับไฟฟ้า) อย่าเอา(แค่)ความเป็นครู ดราม่า บลาๆๆ เปนตัวถ่วงประเทศ ถ่วงเยาวชนในอนาคต2)เนื้อหา... เนื่องจากเปนประเทศเรียนหนังสืเยอะสุดในโลก(ใช้เวลาเรียนต่อวันเยอะสุดในโลก) แนะปรับเนื้อหา เอาไอ้พวกเนื้อหาคลั่งชาติ หรือ พวกย้อนยุคไปถึงพ่อง ขุนราม ให้พวกนี้เป็นวิชาเลือกไปซะ คือ รู้มันก็ภูมิใจ(ละมั้ง)แต่แล้วไง? ต่อให้เขียนชื่อเจ้าได้แม้งทุกองค์ แล้วใครสนวะ?? เมกา จีน จะสนหรอ?(เรื่องของมึง) เอาเวลาไปศึกษาปัจจุบันอนาคตดีก่า แล้ววิชาภาษาไทยจิงๆก็สอดแสรก อยู่ละยังจะมีหลักการใช้ ภาษาบาลีพ่อง... เรียนแล้วโคดได้ใช้เลย
Victor J 5555+
อยากเอาเม้นนี้ไปปาใส่หน้าคนจัดการศึกษาไทยจริงๆ
สรุปว่า..เราจะสร้าง"คนเก่ง"ท่ามกลางสังคมไทย ที่กำลังขาดแคลน"คนดี"
คนดีคืออะไร? ลองอธิบายเป็นรูปธรรม มากหน่อยสิครับ
Simon Riley ไม่โกง ไม่เหี้ยต่อสังคมครับ
คุณพูดว่า "เราจะสร้างคนเก่ง" น่าขำหว่ะ กระทรวงศึกษาแม่งไม่สนใจหรอก
Rachchai HO เราขาดความมุ่งมั่น
Rachchai HO เรื่องทำให้เด็กเป็นคนดีนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองสำคัญที่สุดไม่ใช่โรงเรียนครับ
ขอยกตัวอย่างในต่างประเทศ(ที่พัฒนา) วิชาคณิตศาสตร์ระดับมัธยม เขาเรียนสอนเด็กกันยังไง ? เขาไม่ได้สอนให้เด็กจำสูตรมากมายเป็นร้อยเป็นพันสูตร แต่สอนพื้น ๆ มาก สูตรไม่ยากและไม่เยอะในแต่ละหัวข้อ เขาจะถามเด็กเช่นว่า นักเรียนคิดว่าการคำณวนหาพื้นที่รูปทรงนี้ ด้วยวิธีนี้ ถูกหรือผิด ? ถ้าถูกเพราะอะไร ถ้าผิดเพราะอะไร ลองอธิบายแบบมีเหตุผลให้ครูดูหน่อยสิ ? ถ้านักเรียนไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ ก็ให้ยกตัวอย่างวิธีอื่นและอธิบายด้วย เด็กก็ต้องไปพยายามหาความรู้ สูตร วิธีอะไรมาอธิบายคำตอบตัวเองให้ได้ เขาไม่ได้สอนเด็กว่า หาพื้นที่นี้ใช้สูตรนี้ มีกี่สูตร จำสูตรน่ะแทนค่าบวกลบคูณหารแล้วตอบผ่านแค่นั้น แต่สอนให้เด็กรู้จัก "หัดคิด" รู้จักให้เหตุผลและมีที่มาที่ไป ทำไมต้องคิดแบบนี้ทำวิธีนี้ใช้สูตรนี้ ทำแบบอื่นได้ไหม เป็นต้น ถ้าเด็กคนไหนที่ชอบวิชาคณิตศาสตร์มากมีความถนัดสูง เขาให้เด็กคนนั้นไปศึกษาสูตรลึก ๆ เยอะ ๆ เรียนพิเศษเพิ่มเอาเอง แล้วมาปรึกษาครู ถ้าเด็กมันอยากเป็นวิศวะ เป็นหมอ ทำอาชีพสายวิทย์มันก็ต้องมีความถนัดวิทย์อยู่แล้วในตัว มันก็ศึกษาลึก ๆ ยาก ๆ ได้สบายอยู่แล้วและไปสอบแข่งเองได้ ถนัดวิชาไหนก็ไปศึกษาลึก ๆ เยอะ ๆ ต่อเองเพื่อไปสอบทำอาชีพสาขานั้น ๆ ได้ เขาก็เลยสอนพื้น ๆ ไม่มากเพื่อให้ทุกคนได้เรียน แต่เน้นวิธีคิดแบบมีเหตุมีผลเยอะ ๆ นี้คือวิธีการเรียนในทุกวิชา ! เวลาออกไปใช้ชีวิต เด็กก็จะเป็นคนมีความคิดมีเหตุมีผล คิดได้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ ไม่เป็นคนไร้หัวคิด เช่นแว้นมอไซต์กวนเมือง หาผัวหาเมียแต่วัยเรียน เป็นนักเลงยกพวกตีกัน แบมือขอเงินผลาญพ่อแม่ไปวัน ๆ สร้างปัญหาสังคมให้พ่อแม่ปวดหัว เพราะไร้หัวคิด คิดกันไม่เป็น! ไม่ต้องแปลกใจทำไมฝรั่งมันคิดเก่งมีไอเดียสูง เช่น สตี๊ฟจ๊อป , บิลเก็ตส์ , มาร์คซัคเคอเบริ์ก ฯลฯ เพราะมันถูกสอนให้รู้จักคิดเป็นแต่เด็ก เด็กฝรั่งจึงโตเป็นผู้ใหญ่เร็ว เด็กไทยจำโคตรเก่งจำได้โคตรเยอะแต่คิดอะไรไม่ออก ถ้าเด็กไทยคิดอะไรไม่เป็น ก็สร้างปัญหาสังคมโตเป็นผู้ใหญ่ไร้หัวคิด ไปเป็นพ่อแม่ที่ไร้หัวคิดมีลูกต่อ ส่งผลเสียต่อชาติเพราะมีประชาชนที่คิดอะไรกันไม่เป็น พัฒนาก็ยาก ...................."การศึกษาไม่ได้แค่เรียนให้รู้ แต่เรียนเพื่อให้คิดเป็น"
มีประโยชน์มากมายค่ะ ขอบคุณค่ะ #จะเป็นครูที่ดีของชาติ
บางเรื่องเราก็ทำไม่ได้ ได้แค่ทำตามสิ่งที่ผู้ใหญ่สั่งๆมา แล้วทำตาม
ผมว่าการศึกษาไทยเรียนหนักไปนะครับ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
Yes
อยากให้เน้นปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี
แรงกระตุ้นภายในของตัวเด็ก แก้ข้อนี้ข้อเดียวก็พอแล้ว ตัวเด็กนักเรียนเองเป็นสภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่สำคัญ เท่าที่เห็นเด็กส่วนใหญ่ไม่คิดที่จะเรียนให้เก่งไม่พยายามพัฒนาตนเองเรียนแค่สอบผ่านถ้าเด็กส่วนใหญ่คิดอย่างนี้จนกลายเป็นค่านิยม มันยากที่จะบอกเด็กให้ตั้งใจเรียนให้ดีได้ เพราะจะคิดว่าใครๆเขาก็เป็นกันอย่างนี้นี่แหละคือสิ่งที่ถูกต้องพอแล้ว เขาไม่เคยเห็นการเรียนแบบแข่งขัน เหมือนสมัยก่อนหรือในประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม สมัยก่อนหลายคนคงเคยเรียนโรงเรียนบ้านนอกแล้วสอบติดมหา'ลัยชั้นนำได้ ความพร้อมทางการศึกษาแทบไม่มีเลยแล้วทำไมจึงเก่งกว่าเด็กสมัยนี้มาก ธุรกิจไม่มีการแข่งขัน ก็ไม่มีการพัฒนาสินค้าเพราะยังไงก็ขายได้อยู่แล้วจะทำไปทำไม ลักษณะเดียวกัน อันนี้เป็นสภาพจริงๆที่เกิดขึ้นที่บ้านสมัยพ่อแม่ไม่มีเงินจะเรียนแล้วก็เรียนอยู่ต่างจังหวัดห่างไกลกรุงเทพไม่เคยเข้าติวเตอร์แต่สอบติดคณะดีๆได้ มีลูกเรียนในยุคนี้เข็นก็เดิน หยุดเข็นเขาก็หยุด เรียนได้เข้าใจได้ แต่ไม่ยอมทำด้วยตัวเอง
ถั่วต้ม ปืนโหด ใช่ๆ บางทีก็ไม่รู้จะกระตุ้นมันยังไง มันแบบ ไร้การตอบสนอง บางห้องเรียนเด็กก็เยอะเกินไปควบคุมดูแลไม่ทั่วถึง พวกมากลากไป ส่วนใหญ่เป็นยังไง ที่เหลือมันก็เป็นตามกันไปหมด
ปัญหาหาคือ คนสร้างนโยบาย สร้างหลักสูตร นั้น ไม่เคยสอนนักเรียนด้วยซ้ำ
คลิปมีตั้วแต่2014 ป่านนี้2019และ ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนจากเดิมเท่าไหร่เลย
ครูบอกว่าที่ประเทศเราไม่เจริญเพราะ........ คนโง่อย่างพวกเราพัฒนาประเทศไม่ได้อยากถามไปจริงหรอ สอนแค่ตามหน้าที่ป้ะอิสระเสรีก้อก้อไม่มี โทษแต่พวกเราการบ้านก้อเยอะ เอาจริงป้ะโรงเรียนสร้างภาพจริงๆไม่ได้ว่าน่ะคือมีคนมาตรวจความเรียบร้อยของรร.อ้ะจ้า สร้างภาพ สอบเกือบทุกวันสอบเก็บคะแนน เห้อ ลองถามตัวเองน่ะ
อยากให้การศึกษาไทยมุ่งเน้นไปทางปฏิบัตจริงมากกว่ามาท่องจำค่ะ เพราะการที่เอาแต่อ่านๆๆๆจำๆๆๆแล้วก็ทำแบบฝึกหัด คือมันหน้าเบื่อแล้วก็ไม่ทำให้เด็กเรียนดีขึ้นอย่างที่ควร ทำไมคุณครูผู้สอนและกระทรวงศึกษาธิการถึงไม่คำนึงถึงจุดนี้บ้าง ลองลดจำนวนหนังสือที่ให้ท้องจำสิ แล้วลองเพิ่มความสนุกในการปฏิบัติจริงสิ
มีประโยชน์มากครับ
เป็นธรรมดาที่เด็กส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ( ที่จริงเขาชอบหลายอย่างปนๆกันไปครับ ) ซึ่งก็เป็นปรกติ เป็นนิสัยของผู้บริโภค ( หรือลูกจ้าง ) ซึ่งก็เป็นกลไกสำคัญมากๆในสังคม ครับ ! ....... ส่วนคนที่เรียนเก่งเขาก็จะเรียนไปเรื่อยๆแล้วก็ เข้าเรียนกับ ม.ดีๆ ( ที่มีไม่กี่แห่ง ) จบมาก็เข้าไปทำงานใน บ.ดีๆ ( ไม่กี่แห่งอีกเหมือนกัน ) ........เขาเหล่านั้นเป็นคนส่วนน้อย ที่ไม่ควรยึดถือเป็นมาตรฐาน ครับ ........ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ หา บ.หรือ นายจ้างเข้ามาทำงานเยอะๆ แล้วตอนแรกๆเขาก็จะรับเด็กที่จบไม่ตรงวุฒิฯ หรือ วุฒิฯที่มันกว้างๆ มาฝึกเพิ่มเติม....... เมื่อ บ.มีความมั่นคง หรือ มีการแข่งขันสูง เขาก็จะรับสมัครเด็กที่มีวุฒิฯตามต้องการได้เอง ........( นี่คือโลกของความเป็นจริงครับ ) ......... เด็กที่จบ วิทยาลัย หรือ มหาวิทยาลัย แล้วปรากฏว่ามีทักษะไม่พอ คือ อะไรครับ ! คุณยังมีเวลาทดลองงานอีก 1-3 เดือน ไม่ใช่หรือครับ ......... ถ้าคุณ ออกแบบการทำงาน ของ บ.ของคุณให้มันยุ่งยากเกินไป ( ศัพท์เทคนิค เขาเรียกว่า " วางยา " ครับ ! ) ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม .......ก็อย่าไปโทษเด็กมันสิครับ ! ....... เดี๋ยวเด็กมันจะว่าลับหลังเอานะครับ ! ..........
ความจริงมันเปลี่ยนได้ถ้าเราปรับทัศนคติกันทุกคน และทุกคนให้ความร่วมมือ แต่คนที่ได้ผลประโยชน์ เค้าไม่ได้อยากจะเปลี่ยนแปลงระบบเหมือนกับเราไง
เนื้อหาน่าสนใจ แต่การทำ infographic นานเกินไป (บางช่วงมีจังหวะรอและข้อมูลที่แสดงน้อย) ต้องนั่งรอ ดูได้ครึ่งเดียวผมเลิกดูแล้วครับ เลยทำให้ไม่ทราบเนื้อหาท้ายๆ เอาเป็นว่า มีเวลาเยอะๆ จะเข้ามาดูอีกครั้งหนึ่ง
ก็ที่คิดกันก็สร้างวางแผนทุกอย่างมาไว้เพื่อป้อนข้อมูลลงไป หลักสูตรการเรียนการสอน เราอยากให้คนรุ่นหลังเป็นยังไงเราก็แค่สร้างไว้เพื่อยัดเพื่อป้อนข้อมูลลงไป โดยไม่นึกถึงว่าแต่ละคนถนัดด้านอะไร มีการใช้เกรดเพื่อยกระดับตัวเอง มีวิชาที่ง่าย ที่ง่าย เป็นการแบ่งชนชั้น เช่น เด็กที่ได้เกรด4คณิต จะดีกว่าเด็กที่ได้เกรด4ศิลปะ เราไม่ได้ให้เด็กเป็นตัวของตัวเอง เราจะทำให้เด็กเป็นเครื่องจักรที่เราสร้างขึ้นมา ไม่แปลกหรอกว่าทำไมมันถึงมีการไม่ตั้งใจเรียน ไม่อยากเรียน บุคลากรก็เช่นกัน การสอนยกตัวอย่างจากชีวิตจริงๆเลย ชอบวิชาภาษาอังกฤษมากๆ อยากลองใช้จริงๆ ออกพูดหน้าชั้น ไม่ใช่เอาแต่ๆจด จำๆ ทำงานเสร็จวันนั้นก็จบ ตอนสอบก็ตกก็แก้แล้วก็ผ่านพ้นไป มันแก้ยากมากๆ เพราะระบบของเรามันเป็นแบบนี้ไปแล้ว
เรียนวันละ4 ชม.พอ เช้า2 บ่าย2เริ่ม09.00-10.00 พักน้อย10.30-11.30. พักเที่ยง บ่าย13.00-14.00 พักน้อย 14.30-15.30 แล้วเด็กได้ทำอื่นๆบ้าง ทั่งเข้าและเย็น
เอาง่ายๆคือ...การศึกษาของเรานั้นเราคิดว่าดีแล้วในเมื่อเราคิดว่าเราดีแล้วจึงไม่ต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงมันก้เลยเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหามายันปัจจุบันหอยทากเรียกพี่
ผู้ใหญ่มักเห็นสิ่งที่เด็กพูดไรสาระแม้จะพูดฉลาดกว่าก็ว่าไรสาระเพราะว่าเด็กคำว่าผู้ใหญ่ไม่ได้แปลว่าความคิดเป็นผู้ใหญ่เสมอไป
ปี2020แล้วการศึกษาไทยก็ยังเหมือนเดิม ต้องเรียนพากย์บังคับเรียนวิชาที่ไม่ชอบไม่รู้ความฝันอยากจะเป็นอะไร เครียด งานเยอะเรียนหนักเวลาพักผ่อนต้องมานั่งทำการบ้านจนดึก เห้อมันเหนื่อยมันกดดัน เรียนแล้วจะมีงานทำมันมีแค่ต้องเรียนอย่างเดียวจริงๆหรอคะ อยากให้การศึกษาไทยปรับปรุงให้เด็กได้ทำในทางที่ตัวเองชอบเรียนเฉพาะสิ่งที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันสามารถนำไปสร้างอาชีพได้
อยากให้การศึกษาไทย• เน้น√ความถนัดแต่ละบุคคล เช่นใครรักภาษาอยากให้เขาได้เรียนเกี่ยวกับ¤ภาษาเยอะ เพราะจบมาจะได้มีงานทำตามความถนัดของตนเองครับ~~~
แก้ที่ เป้าหมาย เป้าหมายเปลี่ยน วิธีจะไปหาเป้าหมายก็เปลี่ยนนั่นก็คือ วิธีคัดเลือก ถ้าเปลี่ยนไดุ้ ืุทุกอย่างจะเปลี่ยนหมด เลิกสักที วัดผลจากข้อสอบ กาๆ เนื้อหาอยู่แค่ในกระดาษ ควรวัดผลใหม่ เช่น หากเด็กจะเป็นครู เด็กต้องส่งเทปบันทึกการสอนของตัวเอง เข้ามาคัดเลือก หรือหากมีผลงานการสอนออนไลน์ผ่านสื่อออนไลน์ มีคนติดตาม ก็จะถือเป็นผลงานส่วนหนึ่งเพราะต้องยอมรับว่าการคัดเลือกครูจากแค่ข้อกาไม่ได้บอกว่าจะสอนดี หรือถ่ายทอดดี เรื่องเนื้อหา เข้าไปเรียนต่อได้ หรือจะสอบวัดผลก่อนเรียนจบก็ได้ ว่ามีความรู้พอจะสอนหรือเปล่า เป็นต้น
1.การศึกษาเหมือนแม่พิมพ์สอนแบบเดียวโดยที่เด็กต้องการความถนัดที่อยากได้แต่การศึกษาไทยเอาแต่สอนในแบบเดียวกัน2.ครูไม่ผิดเพราะครูอยากสอนในแบบว่า สามารถหาสร้างได้แบบไม่เหมือนใคร ให้โอกาสเด็ก ฯลฯแต่ครูไม่ได้ออกการสอน การศึกษาไทยออกการสอน โดยที่ไม่รู้วว่าเด็กเป็นอย่างไร3.เหมือนคุกตารางเรียน=บอกเวลานักโทษว่าเวลาไหน นอน ตื่น กินข้าว เข้าแถว ฯลฯ4.การสอบ (กา)มี ก. ข. ค. ง. จ. (บางที่)และ A. B. C. D.เท่านี้5.บางทีไม่จำเป็น เช่นคณิตฯป.1 ถึง ป.3 okแต่ป.4 ถึง ป.6 not workตัวอย่างร้านบะหมี่พ่อค้า เอาอะไรเด็ก ขอ บะหมี่น้ำใส โดย มี น้ำ 65% เส้น 40% 8 ความยาว 6.254344 m. ลูกชิ้นมีรัศมี 2 cm. พ่อค้า ...
ดูเข้าใจดีครับ
ขออนุญาตแชร์ ครับ
ใช่ครับ
การศึกษาไทยมันมีต้นตอจากRussiaหลังจากยืดGermanได้ในWW2และอยากให้คนเยอรมันตกอยู่ในการปกครองของตนจึงคิดค้นระบบนี้ขึ้นมาเพื่อจำกัดความคิดอะไรต่างๆเพื่อที่จะได้ควบคุมการศึกษานี้มิได้ไว้สอนเพื่อให้ผู้เรียนฉลาดแต่สอนให้โง่ให้มีค่านิยมผิดๆและไทยเห็นได้เห็นดีจึงเอามาใช้บ้าง(ผมไม่ได้ด่าว่าทุกคนโง่นะครับเพราะเราไม่ได้โง่แต่เราถูกทำให้โง่)อาชีพครูไทยเป็นอาชีพที่น่าสงสารมากที่สุดครับเงินเดือนก็น้อยด้วย ยกตัวอย่างSingapore สิครับ ครูรวยมากและระบบการศึกษาของประเทศเขาดีกว่าของเราเยอะครับ
ท่านมีบุตรหลาน ควรเป็นครูคนเเรกให้เขา สรรหาสิ่งที่ดีแก่เขาถ้าหวังพึ่งโรงเรียนอาจจะไม่เพียงพอถามตัวเด็กว่า หนูอยากจะทำงานอะไร ชอบอะไรในอนาคต
ความเป็นจริงกับปล่อยให้เด็กมาเจอแต่ปัญหาปล่อยให้เด็กโตมาพร้อมกับตัวอย่างความเห็นแก่ตัวของผู้ใหญ่เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า โปรดคิดเรื่องนี้คิดให้ดีดีนะปัญหาที่ไม่แก้มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
คุณไม่ควรตั้งหน่วยกิตบางวิชาให้มันสูงขึ้นกว่าวิชาอื่นๆเพราะทุกวิชาเท่าเทียมกันหมดเกรดที่มากใช้เปรียบว่าเด็กคนนี้ถนัดทางนี้มากที่สุดไม่ได้เอาไว้ใช้กดดันให้เด็กทำวิชาที่เกรดต่ำให้ดีขึ้น?ถ้าเค้าเกรดขึ้นนั้นแปลว่าเค้าถนัดทางนั้นจริงๆหรือเพราะถูกกดดันจากระบบที่กำลังสร้างแรงงานเพื่อที่จะสามารถใช้ต่อได้ในอนาคต?
เรียนไปเพี่อรับใช้อำมาตย์หรือเข้าไปกินภาษีของปชช.
(อีกมุมมองหนึ่ง) กระเเสเทคโนโลยี มาดึงใจนักเรียน จนไม่สนใจเรียน สนใจเกมส์ สนใจโซเชียลมันน่าตื่นเต้นสนุก สนใจสิ่งเเวดล้อม รักกันชอบกันเป้นแต่เด็กๆ การเรียนก็งั้นๆ เด็กบางคนติดเพื่อนที่วันๆ โลกมันเปลี่ยนไป ผู้ปกครองบางคนไม่มีเวลาให้ลูกหลาน ทำงานส่งเงิน เด็กอยุ่กับตา ยาย ซึ่งก็บอกอะไรบ้างไม่ได้เท่าที่ควรการบ้านก็ไม่รุ้ สั่งงานไม่ส่งงาน ส่วนที่ส่งก็ส่งมางั้นๆ พอให้มันผ่านๆ ปัญหานะเหรอ ท่านจะนับต้นสายปลายเหตุตรงไหนหละ นับที่เด็กก่อน หรือ นับที่ครอบครัว สังคมหรือ ครู หรือ สิ่งเร้าภายนอกทุกปัญหา มันมีจุดเริ่มต้น จากปัญหานี้ โยงให้เกิดอีกปัญหาตามมา มันเป็นลูกโซ่จะนับ ลูก ไหนก่อนหละมันคล้องจ้องกันอยุ่
นี่เป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมผมถึง ต้องขนขวายหาความรู้ไปเรียนต่างประเทศ
ลูกผมเรียนอนุบาล1 แต่หลักสูตรที่เกินเด็กตามวัย ให้เด็กบวกเลขมันจะทำได้เหรอ ทั้งที่เขายังไม่รู้เลยว่าเลข 1 มันเป็นอย่างไง
เน้นคนดี มีคุณธรรม ไม่ชี้นำวัตถุนิยมออกรถขับรถเกลื่อนถนน ควรจะเป็นเด็ก 15 ปี ควรจะขับมอเตอร์ไซค์ได้และต้องสอบโดยขนส่ง กรมตำรวจเข้าควบคุม เด็กชอบอวดมีรถมอเตอร์ มีมือถือ มีแฟนฯ โดยลืมดูฐานะของครอบครัว กลับสู่ธรรมชาติบนพื้นฐาน พอดี พอประมาณ พอใจ พอเพียง อยากให้ตัณหานำหน้า(อยากได้ๆๆ) ทำอย่างไรชี้ชัดรักกตัญญูต่อพ่อแม่ผู้ปกครอง เป็นคนดี คนขยัน ความเก่ง จะได้มาจากการงานที่ช่วยทางบ้าน มีจิตอาสาในชุมชน และโรงเรียนฯ ง่ายๆๆอย่าเห็นแก่ตัว
ความอดทน ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย และคุณธรรมอื่นๆจำเป็นต้องฝึกด้วยการบังคับหรือเปล่า?
เหตุผลที่นักเรียนในไทยไม่ได้คุณภาพ (awful)ไม่ได้อยู่ที่ตัวนักเรียนทั้งหมดนะครับ แต่กระทรวงศึกษาธิการไม่มีความรู้ในการจัดปัจจัยที่ทำให้นักเรียนมีคุณภาพเหมือนกับปัจจัยทั้ง 4ในทางเศรษฐศาสตร์ ปัจจัยที่ทำให้นักเรียนมีคุณภาพ1.เรียนเพื่อนำไปใช้จริงมากกว่าเนื้อหาที่ไม่ค่อยนำไปใช้ เพราะปัจจัยนี้เป็นสิ่งจำเป็นมาก ถ้านักเรียนโตไปจะต้องนำความรู้ที่นำไปใช้ได้จริงไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว2.เน้นความสามารถเด็ก เมื่อเด็กมี ความชอบในวิชานั้นก็ต้องมีการเกิดการเรียนรู้ แล้วเด็กก็จะฝักใฝ่ในการเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองชอบ3.เวลาเรียน **ควรลด**4.ความเหมาะสมของเนื้อหาและเนื้อหาบทเรียน*บทเรียนควรลด*ในแต่ละระดับชั้น แล้วเน้นความสามารถเด็กเเทน5.การทดลองปฎิบัติ ต้องเกิดการปฎิบัติจริงเพื่อให้เด็กเกิดการรับรู้เเล้วเห็นภาพจริง **ไม่การบ้าน การสั่งโครงงาน งานทุกชนิด***ให้เด็กปฎิบัติจริงแทน6.ครู ปัจจัยนี้ก็สำคัญไม่เเพ้กันครูควรเป็นผู้มีคุณภาพ มีความรู้ในวิชาที่ตนเองได้จบการเล่าเรียนมา และครูจะต้องมีกลวิธีในการสอนเพื่อดึงดูดเด็กให้เกิดความสนใจในการเรียน 7.ตัวนักเรียน ***สำคัญที่สุด***เพราะนักเรียนเป็นผู้ที่เก็บเกี่ยวความรู้เพื่อนำไปใช้ในวันข้างหน้า และเพื่อนำความรู้ไปพัฒนาฐานะครอบครัวให้เกิดความมั่นคั่ง 8.การปลูกฝังคุณธรรมให้เป็นคนดีของสังคม ปล.เวลาจะดูผลสอบให้สอบปลายภาคใน 100 คะแนน แทนการเก็บคะแนน งานต่างๆ ข้อสอบจะต้องมีความเหมาะสมในเนื้อหาที่เราเรียน เพื่อ 1.วัดผลผู้เรียนว่านักเรียนมีความรู้ความสามารถขนาดไหน
จริงๆเรื่องอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ผู้ปกครองต้องช่วยด้วยนะครับ ไม่ใช่โยนภาระให้ครูเป็นผู้รับผิดชอบเพียงอย่างเดียว ครูไม่ได้สอนเด็กแค่คนๆเดียวนะครับ สอนเป็นห้อง เป็นชั้น ในส่วยของที่ผู้ปกครองต้องช่วยกันนั้น หมายถึง การทบทวนความรู้ที่บ้าน ผู้ปกครองควรถามเด็กว่าวันนี้เรียนอะไรมาบ้าง ฝึกอ่าน ฝึกเขียน ผมเข้าใจว่าครูทุกคนที่เจอเด็กอ่านไม่ออกเค้าต้องจี้และให้ฝึกอ่านแน่นอนครับ จะมีส่วนน้อยเท่านั้นที่เล็ดลอดไปได้ครับ ดั้งนั้นผู้ปกครองจึงสำคัญนะครับและมีส่วยช่วยกันรับผิดชอบนะครับ วีดีโอดูดีหมดเลยนะครับ แต่ติดอยู่ที่เดียวครับ ตรงที่ว่าใครรับผิดชอบนะครับ ดูวีดีโอแล้วเนื้อหาดีนะครับ
เพราะปรับปรุงแล้วพวกมันไม่ได้เงินไงครับ มันเอาเวลาไปหาวิธีดูดเงินคนไทยดีกว่าครับ
ตอนผมเรียนไม่รุ้เป้าหมายในชีวิตเลย เรียนตั้งแต่8โมงถึง6โมงเย็นไม่มีอะไรดีขึ้นเลยเรียนไปวันๆไม่รุ้เลยว่าต้องจบละมีสอบเรียนต่ออะไรไม่มีใครแนะแนวเลย
15-01-2559 วันประกาศผลการสอบข้อเขียนโควตา ภาคเหนือ ประจำปีการศึกษา 2559 ปล.เร่งความเร็ว 1.5 เหมือนเกมส์เลยครับ
เราผลการเรียน ค่อยข้างดี แต่ความรู้แทบไม่มีเลย เพราะคะแนนส่วนใหญ่มาจากการส่งงานล้วนๆ
1. ระบบต้องแก้ ใบประกอบวิชาชีพ แยกสายการสอนหรือระดับการสอนที่ชัดเจน เพื่อได้ครูตรงตามความสามารถในการสอนหรือมีทักษะในแต่ละระดับ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่มล้ำในตัวเด็ก 2. เอางบออกจากส่วนกลาง ลงมายัง รร. บริหารจัดการเอง ส่วนกลางมีหน้าที่ตรวจสอบกับจัดสรรเท่านั้น3. เปลี่ยนการประเมินวิทยฐานะใหม่ ดูผลงานการสอนย้อนหลังอย่างน้อย 3 ปี และผลงานเชิงประจักษ์ที่เกิดจากความสามารถของเด็ก 4.หลักสูตรตัวชี้วัดกับข้อสอบส่วนกลางควรออกไปในแนวเดียวกัน ไม่ใช่ที่อวดภูมิคนออกข้อสอบ ที่เฉพาะคนเฉพาะกลุ่มหรือบางพื้นที่รู้จัก จนเกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ5.อย่าใช่การประเมิน รร.เล็กใหญ่ มาตรฐานเดียวกัน ควรมุ่งเน้นลดภาระงานครู ให้เข้าสู่ระบบการเรียนการสอนให้มากขึ้น มีเวลาว่างที่จะพัฒนาการสอนและอยู่กับเด็กมากขึ้น6.สร้างขวัญกำลังใจและโอกาส ให้กับบุคลากรทุกระดับ ข้าราชการ พนักงาน พนักงานราชการ ลูกจ้างชั่วคราว ให้มีโอกาสก้าวหน้า เพื่อมีกำลังใจในการพัฒนาตนและคุณภาพงาน7.มีองค์กรภายนอกสามารถตรวจสอบความโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณ และเพิ่มโทษขั้นรุงแรงในการทุจริตทุกรูปแบบ8.องค์กรการศึกษาเป็นเอกเทศ ไม่ขึ้นกับระบบการเมือง ระบบการเมืองมีหน้าที่ประเมินผลงานและจัดสรรงบประมาณตามผลงานและภาระงานเท่านั้น
อยู่ตรงความไม่ก้าวหน้า แต่กลับถอยหลัง นับวันยิ่งเละเทะ ไร้ความรู้ มุ่งสู่แค่หวังผลงาน
ใช่เราจึงต้องเปิดโอกาสให้เด็กทุกคน ได้ไปต่อในสิ่งที่เขาต้องการไป โดยไม่ต้องสอบมากมาย อยากเป็นทหารได้เป็น อยากเป็นตำรวจได้เป็น อยากเป็นหมอได้เป็น อยากเป็นอะไรก็ให้เด็กได้เข้าไปเรียนต่อได้ ถ้ามันเป็นความต้องการของเด็กจริงเขาก็จะมุมานะผ่านไปให้ได้แน่นอน
ไปเพื่อเก็บความรู้ไม่ใช้เก็บงาน
ตั้งแต่ผมเรียนลายมือ...มา..ผมเข้าใจแล้วแหละว่า..ทำไมเด็กบางคนใฝ่เรียนหรือไม่...ไม่งั้นก็คงเก่งกันหมดทุกคนแล้ว...
ทำไปเถอะคลิปโน่นนี่นั่นต้องงั้นงี้ เดี่ยวเหมือนเดิมไม่มีไรเปลี่ยนเกิดมา 30 ปีก็ยังเห็นแบบนี้อยู่เหมือนเดิม
โทษพ่อแม่เฉย โทษสิ่งที่สร้างค่านิยมให้พ่อแม่ดีกว่า โทษกระทรวงที่ออกแบบการศึกษาที่อาจจะไม่เคยสอนนักเรียน
การศึกษาไทยคือ. เรียนตามที่หลักสูตรกำหนด จำเนื้อหา. เข้าห้องสอบ. สอบเสร็จก้อลืม. ดูผลสอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นใครเก่งกว่าอ่อนกว่า. แล้วก้อเรียน เพื่อสอบ เปรียบเทียบ. กันแบบนี้ เวียนว่ายแบบนี้. จนลืมไปว่าเรียนแล้วเราชอบอะไร ถนัดทำอะไร มีทักษะอะไรติดตัว. รู้สึกตัวอีกทีคือเดินหางานทำ แล้วก้อทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ ไม่มีความสุขในการทำงาน การอยู่ร่วมกับคนอื่นเพราะติดนิสัยเปรียบเทียบ. สรุปทั้งชีวิต มีความสุขอยู่ 2 ช่วง. คือ. ช่วงก่อนเข้าเรียน. และตอนออกจากงาน. นี่เราเรียนเพื่อหาเงินมาซื้อความสุขหรือความทุกข์กันแน่. งง.
ตอนนี้เปลี่ยนหลักสูตรใหม่เพื่ออะไร??? คือการที่ต้องมานั่งจดอะไรท่องจำอะไรไมรุ้มาทำเป็นภาคปฏิบัติจะดีกว่าบอกเลยถ้าเปรียบเทียบการรับสมัคงานมีคนเรียนอาชีพกับสามัญเค้าต้องเลือกสายอาชีพมากกว่าถูกม่ะเพราะประสบการมากกว่าจิงม่ะคือบางทีการเน้นวิท-คนิตมากก็ไม่ช่วยนะคือถ้ามีการฟังความคิดเห็นเด็กมากกว่านี้มันจะดีมากกก
พูดช้า อนิเมชั่นช้า น่าจะปรับปรุง
ครูผมบอกว่า ข้อสอบไม่ได้อยู่ในหลักสูตร แต่ อยู่นอกหลักสูตร ซึ่งก็เป็นความจริง
ให้เรียนจากของจริงดีที่สุด ให้ครูพาเด็กทำงานไม่ใช่มาอัดความรู้กันในห้องอย่างเดียว ถ้าอยากให้เด็กทำงานได้จริงต้องให้เรียนวิชาชีพตั้งแต่เด็กจนจบ ปวช ปวส และปริญญาตรี ให้มากๆรับรองเด็กจะได้ทักษะชีวิตและการทำงานที่ดีกว่านี้ อย่าไปเน้นวิชาการที่ไม่ได้ใช้ในชีวิตจริงให้มันมากไปเรียนน้อยๆทำมากๆเก่งทุกคนครับ อย่าไปวัดทางทฤษฎีมากไปเด็กมันไม่เข้าใจหลอก ถ้าไม่ได้ทำจริง เห็นของจริง ไม่กี่วันก็ลืม ปัจจุบันเด็กอยากรู้อะไรถ้าสนใจค้นได้หมด จะว่าเด็กสมัยนี้ไม่เก่งไม่ใช่เขามีเทคโนโลยีช่วยอย่าไปสอนเขาดีกว่า แต่แนะนำวิธีการค้นหาความรู้ให้เขาหาเองดีกว่าปะ ให้เขาเรียนในสิ่งที่เขาอยากรู้ไม่ดีกว่ารึครับ
เพราะนโยบาย เพราะกำหนด ว่าเด็กต้องเรียนให้ครบจบตามหลักสูตร ครูเลยต้องอัด ยัดเนื้อหาให้เด็ก ตามนโยบาย ปรับเปลี่ยนการวัดประเมินผลเด็ก ที่พยายามทำอยู่ทุกครั้งคือประเมินผลตามสภาพจริง (วัดจากทักษะที่เด็กมีของแต่ละคน แต่ไม่ใช่ว่าเอาเด็กเก่งกับเด็กอ่อนมาวัดใส่กัน แบบนั้นเด็กอ่อนก็ไม่มีวันผ่านการประเมิน) แต่ในกรณีนี้ เด็กบางคนก็สุดจะทนจริง ๆ ต้องให้ 0 บ้าง (ซึ่งใจจริงไม่มีครูคนไหนอยากจะให้ เพราะนอกจากต้องมารอให้ด็กมาแก้อีก แก้ไปก็ได้เกรดต่ำสุด บางคนมา บางคนไม่มา คนที่ต้องตามแทบจะประเคนเกรดให้ ตอบคำถามผู้บริหารอีก) แต่ต้องทำ เพื่อให้เด็กได้รับผิดชอบบทเรียน นี่คือทักษะชีวิต แต่นโยบายโรงเรียนบางที่ ก็มีนโยบายห้ามให้เกรด 0 เด็ก ครูก็เลยต้องเหมือนหลับตาข้างหนึ่งให้เด็ก ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าความจริงคืออะไร (พยายามมองด้านดีทั้งพฤติกรรม ความรู้ ทักษะ แต่บางทีมันก็ปล่อยผ่านไม่ได้จริง ๆ) ส่วนใครต้องรับผิดชอบ หลายคนมักมองว่า ครู โรงเรียน กระทรวง แต่เคยมองย้อนกลับบ้างหรือไม่ โรงเรียนไม่ใช่ที่เบ็ดเสร็จของการผลิตคน ผู้ปกครองใส่ใจเด็กของตนแค่ไหน ผู้ปกครองมีพฤติกรรมแบบไหน ผู้ปกครองเข้มงวด อบรม บ่มเพาะลูกมากเพียงใด เมื่อผลิตเขามาแล้ว พ่อแม่มีส่วนรับผิดชอบอย่างไร อย่าใช้คำพูดว่า ก็เพราะเด็กอยู่โรงเรียนมากกว่าอยู่บ้าน (ข้อนี้จริง ส่วนหนึ่งเพราะกระทรวงกำหนดว่าเวลาเรียนของเด็กบ้านเราต้องกี่ชั่วโมง) แต่เหนือสิ่งอื่นใด ทุกอย่างเริ่มต้นที่ บ้าน ต่อให้โรงเรียน ครู อบรมเด็กให้ดีแค่ไหน กลับไปอยู่บ้าน เด็กถูกละเลย ความพยายามทั้งหมดที่ครู โรงเรียนช่วยบ่มเพาะก็เท่ากับศูนย์ เรื่องการจัดสรรงบประมาณ ทุกอย่างต้องใช้เงิน คนเป็นครู อย่างไรเสียก็มองที่ผลประโยชน์ของเด็ก แต่ในการบริหารจัดการ มันก็ต้องเพียงพอเช่นกัน งบลงสู่ตัวเด็ก แต่อาจจะทั้งโดยตรงและในรูปแบบอื่น ดังนั้นงบประมาณในการจัดสรรไม่ควรเหลื่อมล้ำกันเกินไป ในทางทฤษฎี ในทางความคิดมันทำได้ แต่ในทางปฏิบัติมันยากมาก เพราะอะไรนั้น ทุกคนน่าจะทราบกันดี สรุปคือ การศึกษาผิดตรงไหน ผิดทุกภาคส่วน ต่างคนต่างโยน คนที่ได้รับผลคือเด็ก แต่เด็กเองบางทีก็ไม่เคยมองว่าตนผิดเลย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าพฤติกรรมของตนเป็นเช่นไร นโยบายรัฐบอกให้ครูลดเอกสารในการประเมิน แต่หลักฐานเพื่อประกอบการประเมิน(ส่วนมาก)ก็มาจากการยัดความรู้ให้เด็ก แล้วออกมาในรูปเอกสาร เพราะเอกสารสามารถทำได้ชัดเจน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ทำไมครูต้องประเมิน เพราะความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เงินเดือนครูใช่ว่าจะเยอะ ภาระที่ต้องแบกรับอีกเท่าใดกับลูก ๆ ของท่าน ซึ่งคนจะมาเป็นครูต้องทราบดีอยู่แล้ว คนที่เป็นครูจึงต้องเป็นคนที่มีทั้งความรู้และความรัก เมตตาต่อศิษย์ แต่เพราะข้าวปลาอาหาร ไม่ได้แลกมาด้วยใบไม้แห้ง แต่แลกมาด้วยเงินทอง ครูจึงต้องดิ้นรนเพื่อวิชาชีพเช่นกัน ท้ายที่สุดการศึกษาก็ขึ้นอยู่กับนโยบาย การเมือง แต่คนเป็นครูต้องทำหน้าที่ต่อไป จะให้พูดว่าครบ 100% คงเป็นไปไม่ได้ ด้วยความจริง เพราะบนโลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบนะ
ผมเดินรอบหมู่บ้านแล้วไล่ถามคนแถวนั้นยังได้ความรู้เยอะกว่าอีก
ยังไงก็ ไม่คิดจะแก้ไข อยู่แล้วหนิ การศึกษาไทย พยามปรับปรุง กี่ปีแล้ว พูดแบบนี้ ผมดูคลิปนี้ ตอน นี้ ยังคงเป็นแบบ เมื่อ ก่อนเลย
การศึกษาไทยพัฒนายาก ต้องเปลี่ยนความคิดผู้ใหญ่ให้ได้ และต้องไม่ปิดกั้นหรือตีกรอบความคิดของเด็ก
ผู้ปฏิบัติงานต้องทำตามนโยบายครับ ....
เริ่มจากบ้าน ครู ในท้องถิ่น พื้นฐาน ในท้องถิ่น เรียนให้ลงมือทำ เด็กรักอาชีพอะไร เน้นการใช้ชีวิตจริง อย่าเน้นวิชาการ มาก เพราะสุดท้ายความรู้ทีเรียนมาใช้ไม่ได้ในชีวิตจริง เพราะสุดท้ายมันต้องลงมือทำ ใช้สมองคิดทำๆในชีวิตประจำวัน
4 ปีมาแล้วยังไม่ค่อยเปลี่ยนเลย 2018
เรียนวิทย์จดอย่างเดียว เลย เบื่อมาก ทำไมไม่ให้ลงมือทำ
อยากถามระบบการศึกษาไทยว่า ผมยังเป็นคนอยู่ไหม ผมก็มีความฝันเป็นของตัวเองนะ ทำไมต้องพยายามล้างสมองผมและเอาวิชาการเข้ามาใส่ในหัวผมด้วย ทำไมต้องสร้างเส้นทางและให้ผมเดินไปตามทางของคุณด้วย พอผมทำไม่ได้ก็หาว่า โง่ ปัญญาอ่อน เป็นขยะของสังคม และทำให้ผมค้นหาตัวเองไม่เจอเนี้ย แต่ตอนนี้ เสียใจด้วยนะระบบการศึกษาไทย ผมได้สร้างทางเดินเป็นของตนเองเรียบร้อยแล้ว และผมกำลังจะเดินไปตามเส้นทางนั้น คุณอยากจะไล่ตามผมมาก็ได้นะ แต่ผมก็จะวิ่งหนีสุดชีวิตเหมือนกัน เพราะอยู่กับพวกคุณ ผมมีแต่ตายอย่างเดียวแน่ๆ ทำไมต้องคิดเรื่องนายตัวเองตอนหลังเกษียญหรืออายุ 50 ด้วย เป็นผม ผมเตรียมเข้าโรงแล้ว ทำไม 30 ปีในชีวิตจะต้องไปทำงานรับใช้ความฝันของคนอื่นด้วย คุณรู้ได้ไงว่าผมจะตายเมื่อใหร่ เกิดมาทั้งทีก็อย่าให้เสียชาติเกิดสิ ทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ ทำไมต้องเรียนอยู่แต่ในห้องไปกับการอ่าน! ฟัง!! ดูวีดีโอ!!! แล้วอย่างงี้ผมจะเอาประสบการณ์ที่ไหนไปประกอบอาชีพที่ผมต้องการหละ ทำไมต้องเรียนวันละแปดชั่วโมงนะหรือ ก็เพราะระบบการศึกษาไทยอยากจะฆ่าพวกเราทั้งหมดยังไงหละ!!!!! ระบบการศึกษาไทยมันเป็นของโบราณในแบบยุคอุสาหกรรมที่ตกยุคไปแล้ว โลกมันได้เข้าสู่ยุคดิจิตอลที่ทำงานผ่านสื่อต่างๆแล้ว ระบบการศึกษาไทยกำลังทำอะไรกันอยู่? แถมยังมองพวกคนที่ประสบความสำเร็จทางด้านนี้เป็นพวกโกงกิน ไม่มั่นคง! ผมอยากถามว่าแล้วโลกนี้ยังจะเหลือความมั่นคงให้พวกเราอยู่อีกหรือ หากมองคนพวกนี้ว่าไม่มั่นคงก็คงจะไม่มีอะไรมั่นคงไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่รู้จักสอนวิธีการหาเงินตรงๆ แต่กลับอ้อมค้อมให้ความรู้ทุกวิชาที่แทบจะไม่ได้เอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ผมอยากจะบอกคนที่อยู่ต่างประเทศนะครับ ไทยเรามีดีแค่ด้านวัตถุเท่านั้น แต่ไม่ได้ทันสมัยอย่างที่พวกคุณคิดนะครับ อยากให้ทุกคนรู้ว่า เด็กไทยกำลังอิจฉาระบบการศึกษาของประเทศคุณอยู่
มีประเทศหนึ่งที่แต่จำไม่ได้แล้วว่าประเทศใด เข้าให้เด็กเรียน5ชั่วโมง แต่ ประเทศนั้นเด็กเรียนเก่งติดTop ระดับ โลกเลย
1.ห้ามทำให้เด็กเหนื่อย2.ครูห้ามบังคับเด็กเพราะเด็กไม่สามารถทำได้หมด3.ครูควรให้โอกาสเด็กได้ทำสิ่งที่เขาอยากทำ4.ถ้าครูไม่ให้โอกาสเด็กหรือตีทำร้ายเพราะเด็กคนอื่นพอเห็นจะกลายเป็นคนไม่ดี
เรียไปเพื่อสอบเข้าทำงานส่วนประสบการณ์ไว้ใช้ตอนหาเงิน-.-
คลิบนี้ก็4ปีแล้วแต่ความต่างมันอยู่ที่ไหน
แต่ก่อนเรียนแบบเลข คัด เลิก ท่องอาขยาน ก็จบดร. เก่งๆก็เยอะเดี๋ยวนี้ วันนี้การศึกษาขึ้นอยู่ผู้มีอำนาจจะกำหนดทิศทางตามความคิดตนเอง
เราเป็นคนนึงที่ไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรจนเป็นปัญหาการเรียนจนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่ว่สขี้เกียดเรียนเหมือนคนอื่นหรือผู้ใหญ่เข้าใจ แต่ได้พยายามแล้ว ก่อนพบว่าไม่ชิบและเรียนไปเพื่อสอบให้มันผ่านๆไป ยอมรับว่าระบบการศึกษาไทยแย่มาก น่าจะมีการสามารถไม่ลงวิชาเอก2ปีค้นหาตัวเองว่าชอบอะไรเหมือนมหาลัยต่างประเทศ
เราควรดูภาพรวมบ้างนะครับ ไม่ใช่เด็กไม่ดีโทษเกม โทษครู โทษระบบ ถ้าหากระบบไม่ดีจริงก็ไม่เห็นใครที่พูดๆมาเปลี่ยนได้นิครับ ถ้าจะเปลี่ยนก็ควรเปลี่ยนจากทัศนคติของทุกคนครับผมคิดว่าอย่างนี้นะ
เป็นมาตั้งแต่เบื้องบน ครูรุ่นใหม่ไฟแรงอยากปรับนู่นนี่ใจจะขาดแต่ต้นสายไม่ยอมก็โดนกดจนเป็นอย่างที่เห็น คนในรร.ไม่ใช่ครูรึหน่วยพัฒนาคนจริงๆหรอกมันคือนักบริหารเพื่อการเงินทั้งนั้น นร.แค่เป็นสินค้าตัวนำพาเงินมา ตามคลิปเลย ..เหนื่อยจริงจังแค่คิดแค่มองก็เหนื่อย
ผมว่าทางแก้ควรเพิ่มวิชาแนะแนว
ถ้าจะเปรียบการศึกษาเหมือนการชกมวยไทย ความรู้ในสถานศึกษาก็เหมือนสอนท่าทางการออกอาวุธแต่ละท่า สอนการไหว้ครู แต่คนที่ท่าทางการออกอาวุธสวย ไหว้ครูสวย ก็ยังไม่ใช่หลักประกันว่าชกจริงจะชนะ มันมีปัจจัยอื่นด้วย ร่างกายก็ต้องฟิตซ้อมให้แข็งแรงพอ ไม่ใช่ยกหนึ่งสูสี ขึ้นยกสองเหนื่อยหอบออกอาการป้อแป้เพราะอ่อนซ้อม ยืนให้เขาเตะต่อยเป็นกระสอบทรายจนสลบ พอขึ้นชกจริงมันกลายเป็นความสามารถของตัวนักมวยเองเป็นส่วนใหญ่ โค้ชก็ได้แค่บอกแค่สอน จะชนะหรือแพ้ส่วนหนึ่งมาจากการฝึกสอน อีกส่วนมาจากตัวนักมวย อีกส่วนมาจากคู่ชก ถ้าเหนือกว่ามากก็ชนะยาก
เราว่ายุคนี้ ความรู้หาค่อนข้างง่าย อยากรู้อะไร ตื้น-ลึกแค่ไหน โลกทั้งใบแทบจะอยู่ในมือองค์ความรู้ ที่จะเป็นโอกาสให้ประสบความสำเร็จ-ร่ำรวย มีตั้งมากมายจะโทษใครได้ ถ้าไม่โทษที่ตัวเรา....ปัญหาการศึกษาไทยมีมานานแล้ว สั่งสมมานานหลาย10ปี แต่ก็ยังมีคนที่ประสบความสำเร็จร่ำรวยให้เห็นทุกๆวัน....ดังนั้น พ่อแม่ที่ยังไม่พร้อม จะส่งเสียลูกเข้าโรงเรียนดีๆมีคุณภาพ อาจต้องคุมกำเนิดไว้ก่อนปัญหาเด็กด้อยโอกาส ก็จะลดน้อยลงไป (เรื่องเด็กด้อยโอกาส ในความน่าสงสาร มีความน่าสมเพชอยู่ด้วย)บางทีเด็กๆก็ปริมาณมันเยอะเกินไป ประเทศควบคุมคุณภาพไม่ไหวครับ....
Rhodey James ปัญหาคือเด็กตอนนี้อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ วิเคราะห์หาข้อเท็จจริงไม่ได้ มีข้อมูลในมือก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ
Rhodey James พูดง่ายๆคือ เด็กจะจบมายังไงก็ได้ ตุณภาพเท่าไหร่ก็ได้ เพราะไม่มีใครรับผิดชอบคุณภาพอยู่แล้ว ถีบๆส่งออกมากันเยอะๆ ใครว่ายไปเร็วก็ดีไป ใครว่ายไม่เร็วก็จอดไป ถ้าอ้างอิงตามคลิปนี้ 1 ใน 10 ทำงานดี อีก 9 คือออกมาแบบไร้คุณภาพ แต่ 1 ใน 9 นั้นอาจดิ้นรนออกมาตั้งตัวเป็นเถ้าแก่ได้ ส่วนอีก 8 คนที่เหลือ...? แบบนี้บอกว่าที่ยังมีคนประสบความสำเร็จแม้จบมาไม่ดีก็จริงก็ใช่ แต่มองภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศแล้ว มันทำให้มีคนมีคุณภาพในด้านการงานและความรับผิดชอบต่อสังคมน้อยมาก
เมืาอไหรจะปฏิรูปครับครูไม่ฟังเลยว่าเราไม่ถนัดแล้วให้เรียนหลายๆว
เห็นด้วยนะครับ
เราเรียนกับครูต่างชาติ มีครั้งนึงตอนครูเค้าเข้ามาใหม่ๆครูต่างชาติเคยถามว่าทำไมครูไทยให้การบ้านเยอะ. เรียนกับครูต่างชาติมา4คนละ ที่เรียนมานี้การบ้านนานๆจะมีทีไม่ได้ให้เยอะจดเยอะ สอนกันเเบบเฮฮา คือในความคิดเราครูต่างชาติเค้า สอนเเบบเป็นกันเองไม่ต้องคิดอะไรมาก
ส่วนใหญ่ประเทศไทยจะเอาคนที่สอบได้ดี - ดีมาก เป็นอาชีพ หมอ,วิศวะซื่งส่วนไหญ่เป็นอาชีพท้ายๆช่วงของชีวิตแต่จะเอาคนที่สอบได้แย่ - กลาง เป็นอาชีพครูซื่งเป็นอาชีพที่เป็นแม่พิมของชาติ มันสวนทางกับประเทศที่เขาเจริญ(แต่ถ้าพยายามสอนเด็กให้เป็คนดี ผมก็สนับสนุน👍)
เขาพูดเสร็จก็เริ่มทำเลยสิมัวทำอะไรครับ
นภันต์ นภสินธุ์
สำคัญตรงที่เจ้าของคลิปไม่มีสิทธิจะทำอะไรได้
จริง
พูดไปก็เท่านั้นเราไม่ได้พัฒณาที่ใจเด็กแต่พัฒณาความย่ำแย่ของเด็กเก็กเด่นกีฬาควรที่จะฝึกให้เขาเก่งมากกว่านี้วิชาสำคัญคือวิชา เต้น ศิลปะ ฟุตบอล คือวิชาที่ดีที่สุด
อยู่ตรงที่เด็กไม่เรียนเพราะพ่อแม่ตามใจซื้อรถซื้อโทรศัพท์ให้เล่น
ผมว่าอีกอย่างนึงคือ จะต้องมีครูบางคนที่บอกนักเรียนว่า "อย่าเอานิสัยแบบฝรั่งมาใช้ , ฝรั่งมันเจริญแต่วัตถุ , เด็กฝรั่งไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่ ฯลฯ " ความคิดแบบฝรั่งนี่แหละทำให้เด็กรู้จักคิด เพราะผู้ใหญ่ฝรั่งเค้ารู้จักฟังความคิดเห็นของเด็ก เด็กฝรั่งส่วนใหญ่ถึงจะฉลาด กล้าแสดงออก กล้ายกมือถาม ของเราถ้ากล้าแสดงออกและกล้าพูดกับผู้ใหญ่บางคน ก็ถูกหาว่าบ่นบ้างเถียงบ้าง เพราะโบราณว่าเถียงผู้ใหญ่จะบาป บางวิชาที่ไม่ค่อยจำเป็นอย่างลูกเสือควรเป็นแบบสมัครใจมากกว่า อย่างต่างประเทศเช่นญี่ปุ่น อังกฤษ เค้าเป็นแบบสมัครใจไม่ใช่มาบังคับแบบเรา บางที่ม.ปลายยังเรียนลูกเสืออยู่เลยด้วยช้ำ การศึกษากำลังจะเริ่มล้าหลัง เพราะมีคนหัวโบราณบางคนนี่แหละ
ควรปรับความเข้าในให้พ่อแม่เด็กก่อน แล้วค่อยไปปรับที่กฎหมาย
อยากหมดอายุไขของตัวเองแล้วไปเกิดที่ประเทศที่มีการศึกษาดีดี
ผมขอโทษผมจะไมโทษใครทั้งนั้นผมไม่เก่งคณิตวิทย์เลย
ผมขาดเรียนบ่อยคับจนวันสอบครูบอกว่าจะไห้สอบก็ได้(เป็นการสอบปติบัต)แต่เรื่องที่สอบผมไม่ได้เข้าเรียนเลย (แต่ผมเคยทำงานกับอาของผมาก่อนก็เลยรู้นิดๆ) แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าผมจะทำได้ โดยไม่มีไครบอกเลยเพราะตอนผมสอบเพื่อนก็ไม่รู้หายไปไหนหมด ครูก็ทำเป็นไม่สนจัย คิดไปแกล้งกันหรานี้ แต่เด็กที่นั้งเรียนทุกวันแม่งเสียบสายผิดถ้าทำจริงๆระมันจะเกิดอะไรขึ้น (การเติมสารความเย็นรถยนต์และอะไรอีกอย่างนึ่งจำไม่ได้)ไม่ได้ว่าว่าผมเก่งนะแต่เป็นวิธีการถ่ายทอดและการป้อนความรู้ไห้กับผู้รับมันไม่ถูกวิธีจึงได้รับไม่เต็มที่ สำหลับผมลงมือทำจริงผมว่าผมทำได้ แต่นั้งเรียนนั้งจดผมช้าไม่ทันเพื้อนจริงๆ ต้อนนี้ก็ยู่ ป ว ช 3 ช.ย.ผมตัดสินจัยไม่ไปเรียนแล้วเกรดเทอมแลกผมแย่มา อยากเรียนไห้จบเพื่อพ่อของผม แต่ผมบอกพ่อว่าจะย้ายขอเรียนปี3ปีหน้าที่อื่น ถ้าเทียบโอนได้นะ ที่เก่ามีปัยหาเกิดขึ้นจนได้ รู้สึกอึดอัดจนเรียนไม่ไหว มันไม่ไหวจริงๆ
เสียจัยคับผมยมเปลี่ยนตัวแล้วเทอนี้แต่รู้สึกแปลกมากอึดอัดมากผมทำแย่ก็จริงแต่ผมเปลี่ยนความคิดแล้วนะกับมาเทอสุดท้ายจะตั้งจัยเรียน แต่แล้วผมก็หยุดจนได้มันอึดอัดเกินเหมือเรียนคนเดียวในวิลัยนั้น ถ้าย้ายที่ได้ก็ต่อปีหน้าถ้าย้ายไม่ได้ก็ออก เพราะปี1-2ผมไม่มีติดอะไรเลย มีแค่ปี3เทอม1 ถ้าหาที่เรียนได้เทียบโอนได้ก็ต่อปี3 วิชาไหนได้เรียนเพิ่งก็ลงเพิ่ม (ที่วิลัยไหม่) ไม่ใช่ว่าผมไม่ผิดผมผิดเต็ม แต่กลับตัวมาแล้วไง โอกาศ พื้นที่ไห้คนที่กลับตัว TT ย้ายที่ต่ออีกปีไปที่ที่น้าจะมีพื้นที่ไห้เรา
เรียนรู้พื้นฐาน ค้นหาตัวตน ทำงาน
การศึกษาควรทำให้เด็กเข้าใจ ไม่ใช่เอาความรู้มายัดใส่เด็ก
thanakorn inthakesorn เห็นด้วยครัย
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ
Washington เห็นด้วยครับ
เห็นด้วยคับ
เห็นด้วยค่ะ
เรียนสิบกว่าปี จบไปเพื่อเป็นลูกจ้างของคนอื่นอีกที
Montag Sieben เออนั้นดิ บางคนนี้ในรร.เรียนเก่งมาก จบมาเป็นลูกจ้างน้ากุอีกที น้ากุจบม.1
ผมว่าปัญหาของการศึกษาไทยคือ #ไม่ลงมือทำ#
อย่างจริงจัง เพราะถ้าทำแบบจริงจังการศึกษาไทยคงดีกว่านี้
ใช้ๆๆ
ปาณเดชา พิกุลแก้ว การที่ให้เด็กเรียนรู้ได้ถึงที่สุดคือการทำในสถานการณ์จริง
ผมไปถามแม่ที่เป็นครู ว่า กูเรียนไปเพื่ออะไร แม่ก็เลยบอกว่า ออนั้นสิแม่ก้เคยคิดเหมือนกัน
Violet ColorBlast แม่อายุ30กว่าๆเองนิรุ่นอายุ45-50แรงมาก
การศึกษาไทยทำไมเขาไม่ฟังความคิดเห็นเด็กได้มากขึ้น
chinnapat nengmeng ใช่ๆ
เ
chinnapat nengmeng ก็เพราะผู้ใหญ่ประเทศนีัมันยังอยู่ในกะลา
ใช่ค่ะ
ผู้ใหญ่บางคนเค้าก็หวังดีบางแต่!ก็ไม่ได้รู้ซึ้งถึงความถนัดที่แท้จริงของเด็ก ก็จะบังคับให้ตั้งใจต่างๆนานา หวังว่าจะเก่งขึ้น แต่ก็ไม่ พออธิบายให้ฟังก็หาว่าเถียง เหมือนกับการปิดความถนัดด้วยเส้นทางที่เป็นเส้นทางหลอกลวงว่าจะเก่งอย่างนั้นอย่างนี้
ทำไมพวกผู้บริหารตำแหน่งใหญ่ๆมีแต่เต่าล้านปีล่ะ ประเทศนี้วัดความสามารถคนด้วยอายุเหรอวะ
เรียนอนุบาลประมาณ 3 ปี
ประถมอีก 6 ปี
มัธยม 6 ปี
มหาลัย 4 ปี
เราเสียเวลาประมาณ 19 ปีเพื่อเรียน...
สุดท้ายยังไงล่ะคนบางคนก็ไปเป็นลูกจ้างเขาอยู่ดี เฮ้ออออ~
เรียนไปเพื่ออะไรว่ะ
@Jinju San ค่านิยมคนไทยที่ทำให้แย่ครับเพราะผมว่าระบบมันดีอยู่แล้วแต่ผิดที่ค่านิยม
การศึกษาไทยสอนให้เราเป็นลูกจ้างมากกว่าเป็นนายตัวเอง ถามว่าแล้วไง เพราะคนจากประเทศเพื่อนบ้านจะเป็นใหญ่ คือเขาจะมาเปิดบริษัทในไทยเเล้วคนไทยเป็นลูกจ้างทั้งหมด คนไทยในปัจจุบันคนฉลาดมีเยอะแต่เอาตัวไม่รอดเพราะไม่มีประสบการณ์ ถึงการศึกษาจะสอนเเต่มาสอน2ปีหลังก่อนจะไปทำงาน ไอเหี้ยกุว่าดีกว่ามานั่งเรียนหนังสืออีกกุเสียเวลามาสิบกว่าปีเพื่อนั่งเรียนเฮ้ออออ
เป็นแค่ประชาชนตาดำๆจะปฏิรูปยังไงได้...
ใช่มันก็เหมือนกับคนที่อยู่จุดสูงแต่มาดูแลคนที่จุดต่ำโดยไม่เคยเข้าใจคนเลยแม้แต่น้อยคนเราก็ชอบบอกเงี้ยต้องมีเกรดดีดีพ่องพอไปยื่นงานเขาก็ใช้ไม่เยอะหรอกถ้าทำงานไม่ได้ถึงจะเกรดเขาก็ไม่รับมึงหรอกเนี่ยแหละสิ่งที่พวกจุดสูงไม่มองพอคนที่อยู่สูงดีดีมาจะทำก็มีคนมาค้านตลอดไอที่ค้านเนี่ยแหละปัญหาหล่ะ
1.ให้การบ้านเยอะ 3อย่าง/d
2.ไว้แต่เกรียน
3.ชอบให้เด็กตากแดด
4.เวลาพักน้อย
5.เรียนเยอะ ต่างประเทศเรียนน้อยแต่ฉลาดกว่า
6.ไม่สนับสนุนเกม
7.ไม่ให้เด็กแสดงความคิดเห็น
8.ชอบตีทั้งๆที่กุไม่ได้ทำไรเลย
9.เด็กไทยบางคนก็อยากทำอาชีพที่อยากทำแต่ก็โดนดับฝัน
10.ออกข้อสอบไม่ตรงที่สอน
ประเทศอื่นไม่ ทำอย่างที่ไทยทำแต่กลับประสบความสำเร็จมากกว่า แล้วก็มาบอกว่าเด็กไทยห่วยแตก
พวก โรงเรียนดังๆก็ให้เรียนวันละหลายคาบ เคยเห็นตารางสอนของ ร.ร นึ่งให้เรียนวันละ9คาบผมยืนอึ่งแปปนึ่ง ผมเคยถามนักเรียนที่เรียนเก่งๆเรียนวันละ7-9คาบ จำอะไรได้บ้าง คำตอบคือ จำไม่ได้
แล้วอีกอย่างวิชา ศีลธรรม เอาออกจากวิชาเรียนเพื่อ !!!
ปาณเดชา พิกุลแก้ว ผมอะเรียน9คาบ TwT
ของผมเรียน 8 คาบ ตอนเช้า เรียน4คาบ ครูเขาปล่อยให้เล่นบ้าง เรียนบ้าง คุยได้ตามสบายเเต่ห้ามเสียงดัง เพราะครูเขารู้ ต้องสอนเป็นกัน เเล้วเด็กจะสนุกเเละจำง่าย เรียนคาบล่ะ 45-50 นาที บางครั้งทำตัวดี เข้าใจบทเรียน ไม่ค่อยเสียงดังก็ ปล่อยเร็ว ซัก5-15 นาที ตอนบ่ายมี4 คาบ เรียนเบาๆยามบ่าย เพราะมีประวัติ ซึ่งครูเขาปล่อยให้ทำตัวสบาย เล่าเรื่อนสนุก เลยชอบมาก เเต่ชอบสังคมมากที่สุด เพราะเขาไม่ได้ให้คัด เเต่เขาเล่า เเละยกตัวอย่างในชีวิตจริงมาเป็นตัวอย่าง บางครั้งก็มีเล่นมุกตลก เรียนเบาๆ2คาบ จิตเเจ่มใส อีกสองคาบที่เหลือ เป็นช่วงลดเวลา ซึ่งครูเขาก็เปิดหนังให้ดู บางครับก็ปล่อยให้เล่น บางที่ก็มีการประดิษฐ์เล็กๆน้อยๆ #ใครอ่านจบ ขอบคุณครับ🙏🙏
นฤตา ยุวรัตน์ อยู่โรงเรียนไหนอ่าาาา @.@
ปาณเดชา พิกุลแก้ว ใช่
นฤตา ยุวรัตน์ โห...ชีวิตดี๊ดีอ่ะ
การศึกษาไม่น่าบังคับให้เด็กเรียนเลย น่าจะเเบบ ใครอยากเรียนอะไรก็เรียน ไม่ใช่อัดให้หมด พอคิดดีๆ สิ่งที่เรียนมา นำไปใช้ไม่ได้จริง
เเล้วน่าจะให้สิทธิว่า
ใครอยากเรียนก็เรียน ใคนไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องเรียน ไม่ใช่ ใครไม่เรียน พ่อเเม่ต้องติดคุก ที่เด็กเรียนไม่เก่ง เพราะไปบังคับให้เด็กเรียนไง น่าจะให้เด็กสมัครใจเรียนเสียมากกว่า
เเบบ ใครไม่ได้เรียนก็หาเเนวทางการหางานที่ถนัดเลย และอยากให้โรงเรียนมีการเลือกคาบเรียน ใคนอยากเรียนอะไร ก็เดินไปหาห้องเรียนวิชานั้นเลย
Yo Redarmy ใช่ครับ คือคนที่ไม่เรียนต่อจะโดนมองว่าเป็นเด็กเกเร ไม่เอาถ่าน ทั้งที่ความจริงแล้วคือ มันไม่มีสิ่งที่เขาอยากรู้แล้วจะเรียนให้เสียเงินทำไม บางคนเรียนเก่ง แต่เข้าสังคมไม่เป็นไม่กล้าพูด กลัวทำผิด
ต้องแก้ไขค่านิยมภายในประเทศในหลายๆข้อครับ ฝังรากมานานตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายลุงป้าน้าอาพ่อแม่ ผู้ใหญ่ไม่เปลี่ยนจะหวังให้เด็กเปลี่ยนได้ยังไง? เด็กมานก็เห็นและเลียนแบบจากมนุษย์ป้าๆลุงๆนี่แหละครับ
ลองทบทวนดูนะครับ ในรอบปีที่ผ่านมา มีการกระทำอันใดที่คุณไม่สามารถเชิดหน้าบอกลูกหลานของเราได้บ้าง? ผมว่าบานตะไท สำนึกไว้เถิดผู้ใหญ่นั่นแหละ ทำชาติอ่อนแอ ทำตัวผู้ใหญ่ให้แข็งแรงก่อนแล้วเด็กของชาติจะแข็งแรงตาม
+Babadook Kookkooo ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยากไง แต่เราว่าดัดคู่กันไปเลยก็ดีนะ555
ความจริงอ่ะ ควรตั้งคำถามกับตัวเองว่าอยากทำอะไรตอนอนาคต ดูว่าตัวเองถนัดอะไร แต่เน้นว่าอยากทำอะไรดีกว่า จากนั้นก็พยายามฝึกฝน ให้เรามีคุณสมบัติในสิ่งที่เราอยากเป็น ยกตัวอย่างเรานะ เราอยากเป็นนักแสดง คือวิชาคณิต วิทย์ ประวัติสง ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้ใช้ คือ....เพื่ออะไรอ่ะ วิชาแบบศีลธรรม ตัดออกเพื่อ อันที่มันใช้ได้จริงก็ตัดออกเนอะๆ ตัดเค้าไปๆ ช่วงเวลาของเด็กมันสั้นนะ ควรให้เด็กได้เรียนรู้กับคำว่าเด็กอย่างเต็มที่ ให้เด็กเรียนในสิ่งที่อยากเรียน ไม่ใช่ว่ามีอะไรก็ยัดๆ วิทย์อย่างดาราศาตร์ คือคิดว่าหนูโตไปหนูจะไปรอบโลก ดันอุกบาตที่จะชนโลกให้ออกไป เหรอ?? คือเอาตรงๆนะ แบบเด็กอ่ะ โดนบังคับ เอะอ้ะๆก็เงียบ อย่างเช่น อบรมหน้าเสาธงทุก้ช้าเนี่ย เพื่ออะไร เสียเวลาเป็นครึ่งชั่วโมง พอเลิกปุ๊กเรียนปั๊ป เออดีมากกกก เด็กจะเป็นกระเพาะปัสวะแล้วค่ะ เวลาคั่นแต่ละคาบก็ไม่มีให้ การบ้านก็สั่งเยอะเวอร์ วัน1มี9คาบบ แต่ล่ะวิชาก็สั่งเป็นกอง เรียนได้อาทิตเดียว สอบๆ เรียนเพื่อสอบเหรอ ประเทศไทยแต่ละโรงเรียนคุณภาพมันไม่เท่ากันเนอะ พ่อแม่ก็อยากให้เข้า รร ดีๆ เด็กก็ต้องตื่นเช้า แล้วกลับบ้านดึกอีก ดีไม่ดีเรียนพิเศษตอนเย็นอีก แล้วเด็กจะเอาเวลาไหนไปทำการบ้านอ่านหนังสือ เด็กก็เลยเอาแต่ลอก อืมม ดีมากกกกกก ที่เด็กไปเรียนพิเศษเพราะไม่เข้าใจในห้องเรียน เด็กมันก็เลยต้องเรียนเพิ่มคูณสอง คือแต่ละวิชา ถ้าจำก็ได้เต็ม555นี่แหละประเทศไทย คำว่าการบ้านมันล้าสมัยมากๆ คุณดูสิว่า การบ้านมีตั้งแต่ไหนแต่ไร เเต่กลับเหมือนเดิม แต่คุณลองดู ทรศ มีการเปลี่ยนเข้ากับยุค กับสมัย ไม่ใช่แค่ทรศ ทีวี บ้าน รถ ทุกคนก็รู้ดี นี่เป็นการระบายของเด็กคนหนึ่ง อยากพิมพ์ยาวกว่านี้นะ😁😁
มีข่าวดีมาบอกครับว่าทุกวันนี้ก็เหมือนเดิม
แย่จัดๆ
ผมตามหาข้อความดีๆแบบนี้อยู่ ขอบคุณที่คุณมีความคิดดีๆหวังดีต่อเด็กเป็นอย่างมากถ้าคนที่เขามีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงได้เห็นบ้างก็คงจะดีนะ
พอคุณพูดถึงการศึกษา ผมแบ่งเป็น 2 มุมที่ต้องแก้ 1)ครู 2)เนื้อหา
ครู... ถ้าอำเภอไหนโรงเรียนไหนมันต่ำกว่ามาตรฐานมากๆถึง 2 SD แนะนำเอา ครู(วิดีโอ) มาสอนแทนครูเป็นๆ อ.อุ๊ อ.ปิง อ..... เอามันครอบทุกวิชาเลย กะรันตีคุณภาพระดับประเทศ
ส่วนครูก็ย้ายไปแรงงานด้านอื่น (ประหยัดเงินเดือนและสวัสดิการครูเปนๆ จ่ายแค่ค่าทีวีกับไฟฟ้า) อย่าเอา(แค่)ความเป็นครู ดราม่า บลาๆๆ เปนตัวถ่วงประเทศ ถ่วงเยาวชนในอนาคต
2)เนื้อหา... เนื่องจากเปนประเทศเรียนหนังสืเยอะสุดในโลก(ใช้เวลาเรียนต่อวันเยอะสุดในโลก) แนะปรับเนื้อหา เอาไอ้พวกเนื้อหาคลั่งชาติ หรือ พวกย้อนยุคไปถึงพ่อง ขุนราม ให้พวกนี้เป็นวิชาเลือกไปซะ คือ รู้มันก็ภูมิใจ(ละมั้ง)แต่แล้วไง? ต่อให้เขียนชื่อเจ้าได้แม้งทุกองค์ แล้วใครสนวะ?? เมกา จีน จะสนหรอ?(เรื่องของมึง) เอาเวลาไปศึกษาปัจจุบันอนาคตดีก่า แล้ววิชาภาษาไทยจิงๆก็สอดแสรก อยู่ละยังจะมีหลักการใช้ ภาษาบาลีพ่อง... เรียนแล้วโคดได้ใช้เลย
Victor J 5555+
อยากเอาเม้นนี้ไปปาใส่หน้าคนจัดการศึกษาไทยจริงๆ
สรุปว่า..เราจะสร้าง"คนเก่ง"ท่ามกลางสังคมไทย ที่กำลังขาดแคลน"คนดี"
คนดีคืออะไร? ลองอธิบายเป็นรูปธรรม มากหน่อยสิครับ
Simon Riley ไม่โกง ไม่เหี้ยต่อสังคมครับ
คุณพูดว่า "เราจะสร้างคนเก่ง" น่าขำหว่ะ กระทรวงศึกษาแม่งไม่สนใจหรอก
Rachchai HO
เราขาดความมุ่งมั่น
Rachchai HO เรื่องทำให้เด็กเป็นคนดีนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองสำคัญที่สุดไม่ใช่โรงเรียนครับ
ขอยกตัวอย่างในต่างประเทศ(ที่พัฒนา) วิชาคณิตศาสตร์ระดับมัธยม เขาเรียนสอนเด็กกันยังไง ?
เขาไม่ได้สอนให้เด็กจำสูตรมากมายเป็นร้อยเป็นพันสูตร แต่สอนพื้น ๆ มาก สูตรไม่ยากและไม่เยอะในแต่ละหัวข้อ เขาจะถามเด็กเช่นว่า นักเรียนคิดว่าการคำณวนหาพื้นที่รูปทรงนี้ ด้วยวิธีนี้ ถูกหรือผิด ? ถ้าถูกเพราะอะไร ถ้าผิดเพราะอะไร ลองอธิบายแบบมีเหตุผลให้ครูดูหน่อยสิ ? ถ้านักเรียนไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ ก็ให้ยกตัวอย่างวิธีอื่นและอธิบายด้วย เด็กก็ต้องไปพยายามหาความรู้ สูตร วิธีอะไรมาอธิบายคำตอบตัวเองให้ได้
เขาไม่ได้สอนเด็กว่า หาพื้นที่นี้ใช้สูตรนี้ มีกี่สูตร จำสูตรน่ะแทนค่าบวกลบคูณหารแล้วตอบผ่านแค่นั้น แต่สอนให้เด็กรู้จัก "หัดคิด" รู้จักให้เหตุผลและมีที่มาที่ไป ทำไมต้องคิดแบบนี้ทำวิธีนี้ใช้สูตรนี้ ทำแบบอื่นได้ไหม เป็นต้น
ถ้าเด็กคนไหนที่ชอบวิชาคณิตศาสตร์มากมีความถนัดสูง เขาให้เด็กคนนั้นไปศึกษาสูตรลึก ๆ เยอะ ๆ เรียนพิเศษเพิ่มเอาเอง แล้วมาปรึกษาครู ถ้าเด็กมันอยากเป็นวิศวะ เป็นหมอ ทำอาชีพสายวิทย์มันก็ต้องมีความถนัดวิทย์อยู่แล้วในตัว มันก็ศึกษาลึก ๆ ยาก ๆ ได้สบายอยู่แล้วและไปสอบแข่งเองได้ ถนัดวิชาไหนก็ไปศึกษาลึก ๆ เยอะ ๆ ต่อเองเพื่อไปสอบทำอาชีพสาขานั้น ๆ ได้ เขาก็เลยสอนพื้น ๆ ไม่มากเพื่อให้ทุกคนได้เรียน แต่เน้นวิธีคิดแบบมีเหตุมีผลเยอะ ๆ
นี้คือวิธีการเรียนในทุกวิชา ! เวลาออกไปใช้ชีวิต เด็กก็จะเป็นคนมีความคิดมีเหตุมีผล คิดได้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ ไม่เป็นคนไร้หัวคิด เช่นแว้นมอไซต์กวนเมือง หาผัวหาเมียแต่วัยเรียน เป็นนักเลงยกพวกตีกัน แบมือขอเงินผลาญพ่อแม่ไปวัน ๆ สร้างปัญหาสังคมให้พ่อแม่ปวดหัว เพราะไร้หัวคิด คิดกันไม่เป็น!
ไม่ต้องแปลกใจทำไมฝรั่งมันคิดเก่งมีไอเดียสูง เช่น สตี๊ฟจ๊อป , บิลเก็ตส์ , มาร์คซัคเคอเบริ์ก ฯลฯ เพราะมันถูกสอนให้รู้จักคิดเป็นแต่เด็ก เด็กฝรั่งจึงโตเป็นผู้ใหญ่เร็ว เด็กไทยจำโคตรเก่งจำได้โคตรเยอะแต่คิดอะไรไม่ออก ถ้าเด็กไทยคิดอะไรไม่เป็น ก็สร้างปัญหาสังคมโตเป็นผู้ใหญ่ไร้หัวคิด ไปเป็นพ่อแม่ที่ไร้หัวคิดมีลูกต่อ ส่งผลเสียต่อชาติเพราะมีประชาชนที่คิดอะไรกันไม่เป็น พัฒนาก็ยาก
...................."การศึกษาไม่ได้แค่เรียนให้รู้ แต่เรียนเพื่อให้คิดเป็น"
มีประโยชน์มากมายค่ะ ขอบคุณค่ะ #จะเป็นครูที่ดีของชาติ
บางเรื่องเราก็ทำไม่ได้ ได้แค่ทำตามสิ่งที่ผู้ใหญ่สั่งๆมา แล้วทำตาม
ผมว่าการศึกษาไทยเรียนหนักไปนะครับ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
Yes
อยากให้เน้นปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี
แรงกระตุ้นภายในของตัวเด็ก แก้ข้อนี้ข้อเดียวก็พอแล้ว ตัวเด็กนักเรียนเองเป็นสภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่สำคัญ เท่าที่เห็นเด็กส่วนใหญ่ไม่คิดที่จะเรียนให้เก่งไม่พยายามพัฒนาตนเองเรียนแค่สอบผ่านถ้าเด็กส่วนใหญ่คิดอย่างนี้จนกลายเป็นค่านิยม มันยากที่จะบอกเด็กให้ตั้งใจเรียนให้ดีได้ เพราะจะคิดว่าใครๆเขาก็เป็นกันอย่างนี้นี่แหละคือสิ่งที่ถูกต้องพอแล้ว เขาไม่เคยเห็นการเรียนแบบแข่งขัน เหมือนสมัยก่อนหรือในประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม สมัยก่อนหลายคนคงเคยเรียนโรงเรียนบ้านนอกแล้วสอบติดมหา'ลัยชั้นนำได้ ความพร้อมทางการศึกษาแทบไม่มีเลยแล้วทำไมจึงเก่งกว่าเด็กสมัยนี้มาก ธุรกิจไม่มีการแข่งขัน ก็ไม่มีการพัฒนาสินค้าเพราะยังไงก็ขายได้อยู่แล้วจะทำไปทำไม ลักษณะเดียวกัน อันนี้เป็นสภาพจริงๆที่เกิดขึ้นที่บ้านสมัยพ่อแม่ไม่มีเงินจะเรียนแล้วก็เรียนอยู่ต่างจังหวัดห่างไกลกรุงเทพไม่เคยเข้าติวเตอร์แต่สอบติดคณะดีๆได้ มีลูกเรียนในยุคนี้เข็นก็เดิน หยุดเข็นเขาก็หยุด เรียนได้เข้าใจได้ แต่ไม่ยอมทำด้วยตัวเอง
ถั่วต้ม ปืนโหด ใช่ๆ บางทีก็ไม่รู้จะกระตุ้นมันยังไง มันแบบ ไร้การตอบสนอง บางห้องเรียนเด็กก็เยอะเกินไปควบคุมดูแลไม่ทั่วถึง พวกมากลากไป ส่วนใหญ่เป็นยังไง ที่เหลือมันก็เป็นตามกันไปหมด
ปัญหาหาคือ คนสร้างนโยบาย สร้างหลักสูตร นั้น ไม่เคยสอนนักเรียนด้วยซ้ำ
คลิปมีตั้วแต่2014 ป่านนี้2019และ ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนจากเดิมเท่าไหร่เลย
ครูบอกว่าที่ประเทศเราไม่เจริญ
เพราะ....
.
.
.
.
คนโง่อย่างพวกเราพัฒนาประเทศไม่ได้
อยากถามไปจริงหรอ สอนแค่ตามหน้าที่ป้ะอิสระเสรีก้อก้อไม่มี โทษแต่พวกเราการบ้านก้อเยอะ เอาจริงป้ะโรงเรียนสร้างภาพจริงๆไม่ได้ว่าน่ะคือมีคนมาตรวจความเรียบร้อยของรร.
อ้ะจ้า สร้างภาพ สอบเกือบทุกวันสอบเก็บคะแนน เห้อ ลองถามตัวเองน่ะ
อยากให้การศึกษาไทยมุ่งเน้นไปทางปฏิบัตจริงมากกว่ามาท่องจำค่ะ เพราะการที่เอาแต่อ่านๆๆๆจำๆๆๆแล้วก็ทำแบบฝึกหัด คือมันหน้าเบื่อแล้วก็ไม่ทำให้เด็กเรียนดีขึ้นอย่างที่ควร ทำไมคุณครูผู้สอนและกระทรวงศึกษาธิการถึงไม่คำนึงถึงจุดนี้บ้าง ลองลดจำนวนหนังสือที่ให้ท้องจำสิ แล้วลองเพิ่มความสนุกในการปฏิบัติจริงสิ
มีประโยชน์มากครับ
เป็นธรรมดาที่เด็กส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ( ที่จริงเขาชอบหลายอย่างปนๆกันไปครับ ) ซึ่งก็เป็นปรกติ เป็นนิสัยของผู้บริโภค ( หรือลูกจ้าง ) ซึ่งก็เป็นกลไกสำคัญมากๆในสังคม ครับ ! ....... ส่วนคนที่เรียนเก่งเขาก็จะเรียนไปเรื่อยๆแล้วก็ เข้าเรียนกับ ม.ดีๆ ( ที่มีไม่กี่แห่ง ) จบมาก็เข้าไปทำงานใน บ.ดีๆ ( ไม่กี่แห่งอีกเหมือนกัน ) ........เขาเหล่านั้นเป็นคนส่วนน้อย ที่ไม่ควรยึดถือเป็นมาตรฐาน ครับ ........
สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ หา บ.หรือ นายจ้างเข้ามาทำงานเยอะๆ แล้วตอนแรกๆเขาก็จะรับเด็กที่จบไม่ตรงวุฒิฯ หรือ วุฒิฯที่มันกว้างๆ มาฝึกเพิ่มเติม....... เมื่อ บ.มีความมั่นคง หรือ มีการแข่งขันสูง เขาก็จะรับสมัครเด็กที่มีวุฒิฯตามต้องการได้เอง ........( นี่คือโลกของความเป็นจริงครับ ) .........
เด็กที่จบ วิทยาลัย หรือ มหาวิทยาลัย แล้วปรากฏว่ามีทักษะไม่พอ คือ อะไรครับ ! คุณยังมีเวลาทดลองงานอีก 1-3 เดือน ไม่ใช่หรือครับ ......... ถ้าคุณ ออกแบบการทำงาน ของ บ.ของคุณให้มันยุ่งยากเกินไป ( ศัพท์เทคนิค เขาเรียกว่า " วางยา " ครับ ! ) ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม .......ก็อย่าไปโทษเด็กมันสิครับ ! ....... เดี๋ยวเด็กมันจะว่าลับหลังเอานะครับ ! ..........
ความจริงมันเปลี่ยนได้ถ้าเราปรับทัศนคติกันทุกคน และทุกคนให้ความร่วมมือ แต่คนที่ได้ผลประโยชน์ เค้าไม่ได้อยากจะเปลี่ยนแปลงระบบเหมือนกับเราไง
เนื้อหาน่าสนใจ แต่การทำ infographic นานเกินไป (บางช่วงมีจังหวะรอและข้อมูลที่แสดงน้อย) ต้องนั่งรอ ดูได้ครึ่งเดียวผมเลิกดูแล้วครับ เลยทำให้ไม่ทราบเนื้อหาท้ายๆ เอาเป็นว่า มีเวลาเยอะๆ จะเข้ามาดูอีกครั้งหนึ่ง
ก็ที่คิดกันก็สร้างวางแผนทุกอย่างมาไว้เพื่อป้อนข้อมูลลงไป หลักสูตรการเรียนการสอน เราอยากให้คนรุ่นหลังเป็นยังไงเราก็แค่สร้างไว้เพื่อยัดเพื่อป้อนข้อมูลลงไป โดยไม่นึกถึงว่าแต่ละคนถนัดด้านอะไร มีการใช้เกรดเพื่อยกระดับตัวเอง มีวิชาที่ง่าย ที่ง่าย เป็นการแบ่งชนชั้น เช่น เด็กที่ได้เกรด4คณิต จะดีกว่าเด็กที่ได้เกรด4ศิลปะ เราไม่ได้ให้เด็กเป็นตัวของตัวเอง เราจะทำให้เด็กเป็นเครื่องจักรที่เราสร้างขึ้นมา ไม่แปลกหรอกว่าทำไมมันถึงมีการไม่ตั้งใจเรียน ไม่อยากเรียน บุคลากรก็เช่นกัน การสอนยกตัวอย่างจากชีวิตจริงๆเลย ชอบวิชาภาษาอังกฤษมากๆ อยากลองใช้จริงๆ ออกพูดหน้าชั้น ไม่ใช่เอาแต่ๆจด จำๆ ทำงานเสร็จวันนั้นก็จบ ตอนสอบก็ตกก็แก้แล้วก็ผ่านพ้นไป มันแก้ยากมากๆ เพราะระบบของเรามันเป็นแบบนี้ไปแล้ว
เรียนวันละ4 ชม.พอ เช้า2 บ่าย2
เริ่ม09.00-10.00 พักน้อย10.30-11.30. พักเที่ยง บ่าย13.00-14.00 พักน้อย 14.30-15.30 แล้วเด็กได้ทำอื่นๆบ้าง ทั่งเข้าและเย็น
เอาง่ายๆคือ...การศึกษาของเรานั้นเราคิดว่าดีแล้วในเมื่อเราคิดว่าเราดีแล้วจึงไม่ต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงมันก้เลยเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหามายันปัจจุบันหอยทากเรียกพี่
ผู้ใหญ่มักเห็นสิ่งที่เด็กพูดไรสาระแม้จะพูดฉลาดกว่าก็ว่าไรสาระเพราะว่าเด็กคำว่าผู้ใหญ่ไม่ได้แปลว่าความคิดเป็นผู้ใหญ่เสมอไป
ปี2020แล้วการศึกษาไทยก็ยังเหมือนเดิม ต้องเรียนพากย์บังคับเรียนวิชาที่ไม่ชอบไม่รู้ความฝันอยากจะเป็นอะไร เครียด งานเยอะเรียนหนักเวลาพักผ่อนต้องมานั่งทำการบ้านจนดึก เห้อมันเหนื่อยมันกดดัน เรียนแล้วจะมีงานทำมันมีแค่ต้องเรียนอย่างเดียวจริงๆหรอคะ อยากให้การศึกษาไทยปรับปรุงให้เด็กได้ทำในทางที่ตัวเองชอบเรียนเฉพาะสิ่งที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันสามารถนำไปสร้างอาชีพได้
อยากให้การศึกษาไทย• เน้น√ความถนัดแต่ละบุคคล เช่นใครรักภาษาอยากให้เขาได้เรียนเกี่ยวกับ¤ภาษาเยอะ เพราะจบมาจะได้มีงานทำตามความถนัดของตนเองครับ~~~
แก้ที่ เป้าหมาย
เป้าหมายเปลี่ยน วิธีจะไปหาเป้าหมายก็เปลี่ยน
นั่นก็คือ วิธีคัดเลือก ถ้าเปลี่ยนไดุ้ ืุทุกอย่างจะเปลี่ยนหมด
เลิกสักที วัดผลจากข้อสอบ กาๆ เนื้อหาอยู่แค่ในกระดาษ
ควรวัดผลใหม่ เช่น หากเด็กจะเป็นครู เด็กต้องส่งเทปบันทึกการสอนของตัวเอง เข้ามาคัดเลือก หรือหากมีผลงานการสอนออนไลน์ผ่านสื่อออนไลน์ มีคนติดตาม ก็จะถือเป็นผลงานส่วนหนึ่ง
เพราะต้องยอมรับว่าการคัดเลือกครูจากแค่ข้อกาไม่ได้บอกว่าจะสอนดี หรือถ่ายทอดดี
เรื่องเนื้อหา เข้าไปเรียนต่อได้ หรือจะสอบวัดผลก่อนเรียนจบก็ได้ ว่ามีความรู้พอจะสอนหรือเปล่า เป็นต้น
1.การศึกษาเหมือนแม่พิมพ์
สอนแบบเดียวโดยที่เด็กต้องการความถนัดที่อยากได้
แต่
การศึกษาไทยเอาแต่สอนในแบบเดียวกัน
2.ครูไม่ผิด
เพราะครูอยากสอนในแบบว่า สามารถหาสร้างได้แบบไม่เหมือนใคร ให้โอกาสเด็ก ฯลฯ
แต่
ครูไม่ได้ออกการสอน การศึกษาไทยออกการสอน โดยที่ไม่รู้วว่าเด็กเป็นอย่างไร
3.เหมือนคุก
ตารางเรียน=บอกเวลานักโทษว่าเวลาไหน นอน ตื่น กินข้าว เข้าแถว ฯลฯ
4.การสอบ (กา)
มี ก.
ข.
ค.
ง.
จ. (บางที่)
และ
A.
B.
C.
D.
เท่านี้
5.บางทีไม่จำเป็น เช่น
คณิตฯ
ป.1 ถึง ป.3 ok
แต่
ป.4 ถึง ป.6 not work
ตัวอย่าง
ร้านบะหมี่
พ่อค้า เอาอะไร
เด็ก ขอ บะหมี่น้ำใส
โดย มี
น้ำ 65%
เส้น 40% 8 ความยาว 6.254344 m.
ลูกชิ้นมีรัศมี 2 cm.
พ่อค้า ...
ดูเข้าใจดีครับ
ขออนุญาตแชร์ ครับ
ใช่ครับ
การศึกษาไทยมันมีต้นตอจากRussiaหลังจากยืดGermanได้ในWW2และอยากให้คนเยอรมันตกอยู่ในการปกครองของตนจึงคิดค้นระบบนี้ขึ้นมาเพื่อจำกัดความคิดอะไรต่างๆเพื่อที่จะได้ควบคุมการศึกษานี้มิได้ไว้สอนเพื่อให้ผู้เรียนฉลาดแต่สอนให้โง่ให้มีค่านิยมผิดๆและไทยเห็นได้เห็นดีจึงเอามาใช้บ้าง(ผมไม่ได้ด่าว่าทุกคนโง่นะครับเพราะเราไม่ได้โง่แต่เราถูกทำให้โง่)อาชีพครูไทยเป็นอาชีพที่น่าสงสารมากที่สุดครับเงินเดือนก็น้อยด้วย ยกตัวอย่างSingapore สิครับ ครูรวยมากและระบบการศึกษาของประเทศเขาดีกว่าของเราเยอะครับ
ท่านมีบุตรหลาน ควรเป็นครูคนเเรกให้เขา สรรหาสิ่งที่ดีแก่เขา
ถ้าหวังพึ่งโรงเรียนอาจจะไม่เพียงพอ
ถามตัวเด็กว่า หนูอยากจะทำงานอะไร ชอบอะไรในอนาคต
ความเป็นจริงกับปล่อยให้เด็กมาเจอแต่ปัญหาปล่อยให้เด็กโตมาพร้อมกับตัวอย่างความเห็นแก่ตัวของผู้ใหญ่เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า โปรดคิดเรื่องนี้คิดให้ดีดีนะปัญหาที่ไม่แก้มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
คุณไม่ควรตั้งหน่วยกิตบางวิชาให้มันสูงขึ้นกว่าวิชาอื่นๆเพราะทุกวิชาเท่าเทียมกันหมดเกรดที่มากใช้เปรียบว่าเด็กคนนี้ถนัดทางนี้มากที่สุดไม่ได้เอาไว้ใช้กดดันให้เด็กทำวิชาที่เกรดต่ำให้ดีขึ้น?ถ้าเค้าเกรดขึ้นนั้นแปลว่าเค้าถนัดทางนั้นจริงๆหรือเพราะถูกกดดันจากระบบที่กำลังสร้างแรงงานเพื่อที่จะสามารถใช้ต่อได้ในอนาคต?
เรียนไปเพี่อรับใช้อำมาตย์หรือเข้าไปกินภาษีของปชช.
(อีกมุมมองหนึ่ง) กระเเสเทคโนโลยี มาดึงใจนักเรียน จนไม่สนใจเรียน สนใจเกมส์ สนใจโซเชียล
มันน่าตื่นเต้นสนุก สนใจสิ่งเเวดล้อม รักกันชอบกันเป้นแต่เด็กๆ การเรียนก็งั้นๆ เด็กบางคนติดเพื่อนที่
วันๆ โลกมันเปลี่ยนไป ผู้ปกครองบางคนไม่มีเวลาให้ลูกหลาน ทำงานส่งเงิน เด็กอยุ่กับตา ยาย ซึ่งก็บอกอะไรบ้างไม่ได้เท่าที่ควร
การบ้านก็ไม่รุ้ สั่งงานไม่ส่งงาน ส่วนที่ส่งก็ส่งมางั้นๆ พอให้มันผ่านๆ
ปัญหานะเหรอ ท่านจะนับต้นสายปลายเหตุตรงไหนหละ นับที่เด็กก่อน หรือ นับที่ครอบครัว สังคม
หรือ ครู หรือ สิ่งเร้าภายนอก
ทุกปัญหา มันมีจุดเริ่มต้น จากปัญหานี้ โยงให้เกิดอีกปัญหาตามมา มันเป็นลูกโซ่
จะนับ ลูก ไหนก่อนหละมันคล้องจ้องกันอยุ่
นี่เป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมผมถึง ต้องขนขวายหาความรู้ไปเรียนต่างประเทศ
ลูกผมเรียนอนุบาล1 แต่หลักสูตรที่เกินเด็กตามวัย ให้เด็กบวกเลขมันจะทำได้เหรอ ทั้งที่เขายังไม่รู้เลยว่าเลข 1 มันเป็นอย่างไง
เน้นคนดี มีคุณธรรม ไม่ชี้นำวัตถุนิยม
ออกรถขับรถเกลื่อนถนน ควรจะเป็นเด็ก 15 ปี ควรจะขับมอเตอร์ไซค์ได้
และต้องสอบโดยขนส่ง กรมตำรวจเข้าควบคุม เด็กชอบอวดมีรถมอเตอร์ มีมือถือ มีแฟนฯ โดยลืมดู
ฐานะของครอบครัว กลับสู่ธรรมชาติ
บนพื้นฐาน พอดี พอประมาณ พอใจ พอเพียง อยากให้ตัณหานำหน้า(อยากได้ๆๆ) ทำอย่างไรชี้ชัด
รักกตัญญูต่อพ่อแม่ผู้ปกครอง เป็นคนดี คนขยัน ความเก่ง จะได้มาจากการงานที่ช่วยทางบ้าน มีจิตอาสาในชุมชน และโรงเรียนฯ ง่ายๆๆอย่าเห็นแก่ตัว
ความอดทน ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย และคุณธรรมอื่นๆจำเป็นต้องฝึกด้วยการบังคับหรือเปล่า?
เหตุผลที่นักเรียนในไทยไม่ได้คุณภาพ (awful)ไม่ได้อยู่ที่ตัวนักเรียนทั้งหมดนะครับ แต่กระทรวงศึกษาธิการไม่มีความรู้ในการจัดปัจจัยที่ทำให้นักเรียนมีคุณภาพเหมือนกับปัจจัยทั้ง 4ในทางเศรษฐศาสตร์
ปัจจัยที่ทำให้นักเรียนมีคุณภาพ
1.เรียนเพื่อนำไปใช้จริงมากกว่าเนื้อหาที่ไม่ค่อยนำไปใช้ เพราะปัจจัยนี้เป็นสิ่งจำเป็นมาก ถ้านักเรียนโตไปจะต้องนำความรู้ที่นำไปใช้ได้จริงไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
2.เน้นความสามารถเด็ก เมื่อเด็กมี ความชอบในวิชานั้นก็ต้องมีการเกิดการเรียนรู้ แล้วเด็กก็จะฝักใฝ่ในการเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองชอบ
3.เวลาเรียน **ควรลด**
4.ความเหมาะสมของเนื้อหาและเนื้อหาบทเรียน*บทเรียนควรลด*ในแต่ละระดับชั้น แล้วเน้นความสามารถเด็กเเทน
5.การทดลองปฎิบัติ ต้องเกิดการปฎิบัติจริงเพื่อให้เด็กเกิดการรับรู้เเล้วเห็นภาพจริง **ไม่การบ้าน การสั่งโครงงาน งานทุกชนิด***ให้เด็กปฎิบัติจริงแทน
6.ครู ปัจจัยนี้ก็สำคัญไม่เเพ้กันครูควรเป็นผู้มีคุณภาพ มีความรู้ในวิชาที่ตนเองได้จบการเล่าเรียนมา และครูจะต้องมีกลวิธีในการสอนเพื่อดึงดูดเด็กให้เกิดความสนใจในการเรียน
7.ตัวนักเรียน ***สำคัญที่สุด***เพราะนักเรียนเป็นผู้ที่เก็บเกี่ยวความรู้เพื่อนำไปใช้ในวันข้างหน้า และเพื่อนำความรู้ไปพัฒนาฐานะครอบครัวให้เกิดความมั่นคั่ง
8.การปลูกฝังคุณธรรมให้เป็นคนดีของสังคม
ปล.เวลาจะดูผลสอบให้สอบปลายภาคใน 100 คะแนน แทนการเก็บคะแนน งานต่างๆ ข้อสอบจะต้องมีความเหมาะสมในเนื้อหาที่เราเรียน เพื่อ 1.วัดผลผู้เรียนว่านักเรียนมีความรู้ความสามารถขนาดไหน
จริงๆเรื่องอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ผู้ปกครองต้องช่วยด้วยนะครับ ไม่ใช่โยนภาระให้ครูเป็นผู้รับผิดชอบเพียงอย่างเดียว ครูไม่ได้สอนเด็กแค่คนๆเดียวนะครับ สอนเป็นห้อง เป็นชั้น ในส่วยของที่ผู้ปกครองต้องช่วยกันนั้น หมายถึง การทบทวนความรู้ที่บ้าน ผู้ปกครองควรถามเด็กว่าวันนี้เรียนอะไรมาบ้าง ฝึกอ่าน ฝึกเขียน ผมเข้าใจว่าครูทุกคนที่เจอเด็กอ่านไม่ออกเค้าต้องจี้และให้ฝึกอ่านแน่นอนครับ จะมีส่วนน้อยเท่านั้นที่เล็ดลอดไปได้ครับ ดั้งนั้นผู้ปกครองจึงสำคัญนะครับและมีส่วยช่วยกันรับผิดชอบนะครับ วีดีโอดูดีหมดเลยนะครับ แต่ติดอยู่ที่เดียวครับ ตรงที่ว่าใครรับผิดชอบนะครับ ดูวีดีโอแล้วเนื้อหาดีนะครับ
เพราะปรับปรุงแล้วพวกมันไม่ได้เงินไงครับ มันเอาเวลาไปหาวิธีดูดเงินคนไทยดีกว่าครับ
ตอนผมเรียนไม่รุ้เป้าหมายในชีวิตเลย เรียนตั้งแต่8โมงถึง6โมงเย็นไม่มีอะไรดีขึ้นเลยเรียนไปวันๆไม่รุ้เลยว่าต้องจบละมีสอบเรียนต่ออะไรไม่มีใครแนะแนวเลย
15-01-2559 วันประกาศผลการสอบข้อเขียนโควตา ภาคเหนือ ประจำปีการศึกษา 2559 ปล.เร่งความเร็ว 1.5 เหมือนเกมส์เลยครับ
เราผลการเรียน ค่อยข้างดี แต่ความรู้แทบไม่มีเลย เพราะคะแนนส่วนใหญ่มาจากการส่งงานล้วนๆ
1. ระบบต้องแก้ ใบประกอบวิชาชีพ แยกสายการสอนหรือระดับการสอนที่ชัดเจน เพื่อได้ครูตรงตามความสามารถในการสอนหรือมีทักษะในแต่ละระดับ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่มล้ำในตัวเด็ก
2. เอางบออกจากส่วนกลาง ลงมายัง รร. บริหารจัดการเอง ส่วนกลางมีหน้าที่ตรวจสอบกับจัดสรรเท่านั้น
3. เปลี่ยนการประเมินวิทยฐานะใหม่ ดูผลงานการสอนย้อนหลังอย่างน้อย 3 ปี และผลงานเชิงประจักษ์ที่เกิดจากความสามารถของเด็ก
4.หลักสูตรตัวชี้วัดกับข้อสอบส่วนกลางควรออกไปในแนวเดียวกัน ไม่ใช่ที่อวดภูมิคนออกข้อสอบ ที่เฉพาะคนเฉพาะกลุ่มหรือบางพื้นที่รู้จัก จนเกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ
5.อย่าใช่การประเมิน รร.เล็กใหญ่ มาตรฐานเดียวกัน ควรมุ่งเน้นลดภาระงานครู ให้เข้าสู่ระบบการเรียนการสอนให้มากขึ้น มีเวลาว่างที่จะพัฒนาการสอนและอยู่กับเด็กมากขึ้น
6.สร้างขวัญกำลังใจและโอกาส ให้กับบุคลากรทุกระดับ ข้าราชการ พนักงาน พนักงานราชการ ลูกจ้างชั่วคราว ให้มีโอกาสก้าวหน้า เพื่อมีกำลังใจในการพัฒนาตนและคุณภาพงาน
7.มีองค์กรภายนอกสามารถตรวจสอบความโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณ และเพิ่มโทษขั้นรุงแรงในการทุจริตทุกรูปแบบ
8.องค์กรการศึกษาเป็นเอกเทศ ไม่ขึ้นกับระบบการเมือง ระบบการเมืองมีหน้าที่ประเมินผลงานและจัดสรรงบประมาณตามผลงานและภาระงานเท่านั้น
อยู่ตรงความไม่ก้าวหน้า แต่กลับถอยหลัง นับวันยิ่งเละเทะ ไร้ความรู้ มุ่งสู่แค่หวังผลงาน
ใช่เราจึงต้องเปิดโอกาสให้เด็กทุกคน ได้ไปต่อในสิ่งที่เขาต้องการไป โดยไม่ต้องสอบมากมาย อยากเป็นทหารได้เป็น อยากเป็นตำรวจได้เป็น อยากเป็นหมอได้เป็น อยากเป็นอะไรก็ให้เด็กได้เข้าไปเรียนต่อได้ ถ้ามันเป็นความต้องการของเด็กจริงเขาก็จะมุมานะผ่านไปให้ได้แน่นอน
ไปเพื่อเก็บความรู้ไม่ใช้เก็บงาน
ตั้งแต่ผมเรียนลายมือ...มา..ผมเข้าใจแล้วแหละว่า..ทำไมเด็กบางคนใฝ่เรียนหรือไม่...ไม่งั้นก็คงเก่งกันหมดทุกคนแล้ว...
ทำไปเถอะคลิปโน่นนี่นั่นต้องงั้นงี้ เดี่ยวเหมือนเดิมไม่มีไรเปลี่ยนเกิดมา 30 ปีก็ยังเห็นแบบนี้อยู่เหมือนเดิม
โทษพ่อแม่เฉย โทษสิ่งที่สร้างค่านิยมให้พ่อแม่ดีกว่า โทษกระทรวงที่ออกแบบการศึกษาที่อาจจะไม่เคยสอนนักเรียน
การศึกษาไทยคือ. เรียนตามที่หลักสูตรกำหนด จำเนื้อหา. เข้าห้องสอบ. สอบเสร็จก้อลืม. ดูผลสอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นใครเก่งกว่าอ่อนกว่า. แล้วก้อเรียน เพื่อสอบ เปรียบเทียบ. กันแบบนี้ เวียนว่ายแบบนี้. จนลืมไปว่าเรียนแล้วเราชอบอะไร ถนัดทำอะไร มีทักษะอะไรติดตัว. รู้สึกตัวอีกทีคือเดินหางานทำ แล้วก้อทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ ไม่มีความสุขในการทำงาน การอยู่ร่วมกับคนอื่นเพราะติดนิสัยเปรียบเทียบ. สรุปทั้งชีวิต มีความสุขอยู่ 2 ช่วง. คือ. ช่วงก่อนเข้าเรียน. และตอนออกจากงาน. นี่เราเรียนเพื่อหาเงินมาซื้อความสุขหรือความทุกข์กันแน่. งง.
ตอนนี้เปลี่ยนหลักสูตรใหม่เพื่ออะไร??? คือการที่ต้องมานั่งจดอะไรท่องจำอะไรไมรุ้มาทำเป็นภาคปฏิบัติจะดีกว่าบอกเลยถ้าเปรียบเทียบการรับสมัคงานมีคนเรียนอาชีพกับสามัญเค้าต้องเลือกสายอาชีพมากกว่าถูกม่ะเพราะประสบการมากกว่าจิงม่ะคือบางทีการเน้นวิท-คนิตมากก็ไม่ช่วยนะคือถ้ามีการฟังความคิดเห็นเด็กมากกว่านี้มันจะดีมากกก
พูดช้า อนิเมชั่นช้า น่าจะปรับปรุง
ครูผมบอกว่า ข้อสอบไม่ได้อยู่ในหลักสูตร แต่ อยู่นอกหลักสูตร ซึ่งก็เป็นความจริง
ให้เรียนจากของจริงดีที่สุด ให้ครูพาเด็กทำงานไม่ใช่มาอัดความรู้กันในห้องอย่างเดียว ถ้าอยากให้เด็กทำงานได้จริงต้องให้เรียนวิชาชีพตั้งแต่เด็กจนจบ ปวช ปวส และปริญญาตรี ให้มากๆรับรองเด็กจะได้ทักษะชีวิตและการทำงานที่ดีกว่านี้ อย่าไปเน้นวิชาการที่ไม่ได้ใช้ในชีวิตจริงให้มันมากไปเรียนน้อยๆทำมากๆเก่งทุกคนครับ อย่าไปวัดทางทฤษฎีมากไปเด็กมันไม่เข้าใจหลอก ถ้าไม่ได้ทำจริง เห็นของจริง ไม่กี่วันก็ลืม ปัจจุบันเด็กอยากรู้อะไรถ้าสนใจค้นได้หมด จะว่าเด็กสมัยนี้ไม่เก่งไม่ใช่เขามีเทคโนโลยีช่วยอย่าไปสอนเขาดีกว่า แต่แนะนำวิธีการค้นหาความรู้ให้เขาหาเองดีกว่าปะ ให้เขาเรียนในสิ่งที่เขาอยากรู้ไม่ดีกว่ารึครับ
เพราะนโยบาย เพราะกำหนด ว่าเด็กต้องเรียนให้ครบจบตามหลักสูตร ครูเลยต้องอัด ยัดเนื้อหาให้เด็ก ตามนโยบาย ปรับเปลี่ยนการวัดประเมินผลเด็ก ที่พยายามทำอยู่ทุกครั้งคือประเมินผลตามสภาพจริง (วัดจากทักษะที่เด็กมีของแต่ละคน แต่ไม่ใช่ว่าเอาเด็กเก่งกับเด็กอ่อนมาวัดใส่กัน แบบนั้นเด็กอ่อนก็ไม่มีวันผ่านการประเมิน) แต่ในกรณีนี้ เด็กบางคนก็สุดจะทนจริง ๆ ต้องให้ 0 บ้าง (ซึ่งใจจริงไม่มีครูคนไหนอยากจะให้ เพราะนอกจากต้องมารอให้ด็กมาแก้อีก แก้ไปก็ได้เกรดต่ำสุด บางคนมา บางคนไม่มา คนที่ต้องตามแทบจะประเคนเกรดให้ ตอบคำถามผู้บริหารอีก) แต่ต้องทำ เพื่อให้เด็กได้รับผิดชอบบทเรียน นี่คือทักษะชีวิต แต่นโยบายโรงเรียนบางที่ ก็มีนโยบายห้ามให้เกรด 0 เด็ก ครูก็เลยต้องเหมือนหลับตาข้างหนึ่งให้เด็ก ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าความจริงคืออะไร (พยายามมองด้านดีทั้งพฤติกรรม ความรู้ ทักษะ แต่บางทีมันก็ปล่อยผ่านไม่ได้จริง ๆ) ส่วนใครต้องรับผิดชอบ หลายคนมักมองว่า ครู โรงเรียน กระทรวง แต่เคยมองย้อนกลับบ้างหรือไม่ โรงเรียนไม่ใช่ที่เบ็ดเสร็จของการผลิตคน ผู้ปกครองใส่ใจเด็กของตนแค่ไหน ผู้ปกครองมีพฤติกรรมแบบไหน ผู้ปกครองเข้มงวด อบรม บ่มเพาะลูกมากเพียงใด เมื่อผลิตเขามาแล้ว พ่อแม่มีส่วนรับผิดชอบอย่างไร อย่าใช้คำพูดว่า ก็เพราะเด็กอยู่โรงเรียนมากกว่าอยู่บ้าน (ข้อนี้จริง ส่วนหนึ่งเพราะกระทรวงกำหนดว่าเวลาเรียนของเด็กบ้านเราต้องกี่ชั่วโมง) แต่เหนือสิ่งอื่นใด ทุกอย่างเริ่มต้นที่ บ้าน ต่อให้โรงเรียน ครู อบรมเด็กให้ดีแค่ไหน กลับไปอยู่บ้าน เด็กถูกละเลย ความพยายามทั้งหมดที่ครู โรงเรียนช่วยบ่มเพาะก็เท่ากับศูนย์ เรื่องการจัดสรรงบประมาณ ทุกอย่างต้องใช้เงิน คนเป็นครู อย่างไรเสียก็มองที่ผลประโยชน์ของเด็ก แต่ในการบริหารจัดการ มันก็ต้องเพียงพอเช่นกัน งบลงสู่ตัวเด็ก แต่อาจจะทั้งโดยตรงและในรูปแบบอื่น ดังนั้นงบประมาณในการจัดสรรไม่ควรเหลื่อมล้ำกันเกินไป ในทางทฤษฎี ในทางความคิดมันทำได้ แต่ในทางปฏิบัติมันยากมาก เพราะอะไรนั้น ทุกคนน่าจะทราบกันดี สรุปคือ การศึกษาผิดตรงไหน ผิดทุกภาคส่วน ต่างคนต่างโยน คนที่ได้รับผลคือเด็ก แต่เด็กเองบางทีก็ไม่เคยมองว่าตนผิดเลย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าพฤติกรรมของตนเป็นเช่นไร นโยบายรัฐบอกให้ครูลดเอกสารในการประเมิน แต่หลักฐานเพื่อประกอบการประเมิน(ส่วนมาก)ก็มาจากการยัดความรู้ให้เด็ก แล้วออกมาในรูปเอกสาร เพราะเอกสารสามารถทำได้ชัดเจน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ทำไมครูต้องประเมิน เพราะความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เงินเดือนครูใช่ว่าจะเยอะ ภาระที่ต้องแบกรับอีกเท่าใดกับลูก ๆ ของท่าน ซึ่งคนจะมาเป็นครูต้องทราบดีอยู่แล้ว คนที่เป็นครูจึงต้องเป็นคนที่มีทั้งความรู้และความรัก เมตตาต่อศิษย์ แต่เพราะข้าวปลาอาหาร ไม่ได้แลกมาด้วยใบไม้แห้ง แต่แลกมาด้วยเงินทอง ครูจึงต้องดิ้นรนเพื่อวิชาชีพเช่นกัน ท้ายที่สุดการศึกษาก็ขึ้นอยู่กับนโยบาย การเมือง แต่คนเป็นครูต้องทำหน้าที่ต่อไป จะให้พูดว่าครบ 100% คงเป็นไปไม่ได้ ด้วยความจริง เพราะบนโลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบนะ
ผมเดินรอบหมู่บ้านแล้วไล่ถามคนแถวนั้นยังได้ความรู้เยอะกว่าอีก
ยังไงก็ ไม่คิดจะแก้ไข อยู่แล้วหนิ การศึกษาไทย พยามปรับปรุง กี่ปีแล้ว พูดแบบนี้ ผมดูคลิปนี้ ตอน นี้ ยังคงเป็นแบบ เมื่อ ก่อนเลย
การศึกษาไทยพัฒนายาก ต้องเปลี่ยนความคิดผู้ใหญ่ให้ได้ และต้องไม่ปิดกั้นหรือตีกรอบความคิดของเด็ก
ผู้ปฏิบัติงานต้องทำตามนโยบายครับ ....
เริ่มจากบ้าน ครู ในท้องถิ่น พื้นฐาน ในท้องถิ่น เรียนให้ลงมือทำ เด็กรักอาชีพอะไร เน้นการใช้ชีวิตจริง อย่าเน้นวิชาการ มาก เพราะสุดท้ายความรู้ทีเรียนมาใช้ไม่ได้ในชีวิตจริง เพราะสุดท้ายมันต้องลงมือทำ ใช้สมองคิดทำๆในชีวิตประจำวัน
4 ปีมาแล้วยังไม่ค่อยเปลี่ยนเลย 2018
เรียนวิทย์จดอย่างเดียว เลย เบื่อมาก ทำไมไม่ให้ลงมือทำ
อยากถามระบบการศึกษาไทยว่า ผมยังเป็นคนอยู่ไหม ผมก็มีความฝันเป็นของตัวเองนะ ทำไมต้องพยายามล้างสมองผมและเอาวิชาการเข้ามาใส่ในหัวผมด้วย ทำไมต้องสร้างเส้นทางและให้ผมเดินไปตามทางของคุณด้วย พอผมทำไม่ได้ก็หาว่า โง่ ปัญญาอ่อน เป็นขยะของสังคม และทำให้ผมค้นหาตัวเองไม่เจอเนี้ย แต่ตอนนี้ เสียใจด้วยนะระบบการศึกษาไทย ผมได้สร้างทางเดินเป็นของตนเองเรียบร้อยแล้ว และผมกำลังจะเดินไปตามเส้นทางนั้น คุณอยากจะไล่ตามผมมาก็ได้นะ แต่ผมก็จะวิ่งหนีสุดชีวิตเหมือนกัน เพราะอยู่กับพวกคุณ ผมมีแต่ตายอย่างเดียวแน่ๆ ทำไมต้องคิดเรื่องนายตัวเองตอนหลังเกษียญหรืออายุ 50 ด้วย เป็นผม ผมเตรียมเข้าโรงแล้ว ทำไม 30 ปีในชีวิตจะต้องไปทำงานรับใช้ความฝันของคนอื่นด้วย คุณรู้ได้ไงว่าผมจะตายเมื่อใหร่ เกิดมาทั้งทีก็อย่าให้เสียชาติเกิดสิ ทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ ทำไมต้องเรียนอยู่แต่ในห้องไปกับการอ่าน! ฟัง!! ดูวีดีโอ!!! แล้วอย่างงี้ผมจะเอาประสบการณ์ที่ไหนไปประกอบอาชีพที่ผมต้องการหละ ทำไมต้องเรียนวันละแปดชั่วโมงนะหรือ ก็เพราะระบบการศึกษาไทยอยากจะฆ่าพวกเราทั้งหมดยังไงหละ!!!!! ระบบการศึกษาไทยมันเป็นของโบราณในแบบยุคอุสาหกรรมที่ตกยุคไปแล้ว โลกมันได้เข้าสู่ยุคดิจิตอลที่ทำงานผ่านสื่อต่างๆแล้ว ระบบการศึกษาไทยกำลังทำอะไรกันอยู่? แถมยังมองพวกคนที่ประสบความสำเร็จทางด้านนี้เป็นพวกโกงกิน ไม่มั่นคง! ผมอยากถามว่าแล้วโลกนี้ยังจะเหลือความมั่นคงให้พวกเราอยู่อีกหรือ หากมองคนพวกนี้ว่าไม่มั่นคงก็คงจะไม่มีอะไรมั่นคงไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่รู้จักสอนวิธีการหาเงินตรงๆ แต่กลับอ้อมค้อมให้ความรู้ทุกวิชาที่แทบจะไม่ได้เอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ผมอยากจะบอกคนที่อยู่ต่างประเทศนะครับ ไทยเรามีดีแค่ด้านวัตถุเท่านั้น แต่ไม่ได้ทันสมัยอย่างที่พวกคุณคิดนะครับ อยากให้ทุกคนรู้ว่า เด็กไทยกำลังอิจฉาระบบการศึกษาของประเทศคุณอยู่
มีประเทศหนึ่งที่แต่จำไม่ได้แล้วว่าประเทศใด เข้าให้เด็กเรียน5ชั่วโมง แต่ ประเทศนั้นเด็กเรียนเก่งติดTop ระดับ โลกเลย
1.ห้ามทำให้เด็กเหนื่อย
2.ครูห้ามบังคับเด็กเพราะเด็กไม่สามารถทำได้หมด
3.ครูควรให้โอกาสเด็กได้ทำสิ่งที่เขาอยากทำ
4.ถ้าครูไม่ให้โอกาสเด็กหรือตีทำร้ายเพราะเด็กคนอื่นพอเห็นจะกลายเป็นคนไม่ดี
เรียไปเพื่อสอบเข้าทำงานส่วนประสบการณ์ไว้ใช้ตอนหาเงิน-.-
คลิบนี้ก็4ปีแล้วแต่ความต่างมันอยู่ที่ไหน
แต่ก่อนเรียนแบบเลข คัด เลิก ท่องอาขยาน ก็จบดร. เก่งๆก็เยอะเดี๋ยวนี้ วันนี้การศึกษาขึ้นอยู่ผู้มีอำนาจจะกำหนดทิศทางตามความคิดตนเอง
เราเป็นคนนึงที่ไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรจนเป็นปัญหาการเรียนจนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่ว่สขี้เกียดเรียนเหมือนคนอื่นหรือผู้ใหญ่เข้าใจ แต่ได้พยายามแล้ว ก่อนพบว่าไม่ชิบและเรียนไปเพื่อสอบให้มันผ่านๆไป ยอมรับว่าระบบการศึกษาไทยแย่มาก น่าจะมีการสามารถไม่ลงวิชาเอก2ปีค้นหาตัวเองว่าชอบอะไรเหมือนมหาลัยต่างประเทศ
เราควรดูภาพรวมบ้างนะครับ ไม่ใช่เด็กไม่ดีโทษเกม โทษครู โทษระบบ ถ้าหากระบบไม่ดีจริงก็ไม่เห็นใครที่พูดๆมาเปลี่ยนได้นิครับ ถ้าจะเปลี่ยนก็ควรเปลี่ยนจากทัศนคติของทุกคนครับ
ผมคิดว่าอย่างนี้นะ
เป็นมาตั้งแต่เบื้องบน ครูรุ่นใหม่ไฟแรงอยากปรับนู่นนี่ใจจะขาดแต่ต้นสายไม่ยอมก็โดนกดจนเป็นอย่างที่เห็น คนในรร.ไม่ใช่ครูรึหน่วยพัฒนาคนจริงๆหรอกมันคือนักบริหารเพื่อการเงินทั้งนั้น นร.แค่เป็นสินค้าตัวนำพาเงินมา ตามคลิปเลย ..เหนื่อยจริงจังแค่คิดแค่มองก็เหนื่อย
ผมว่าทางแก้ควรเพิ่มวิชาแนะแนว
ถ้าจะเปรียบการศึกษาเหมือนการชกมวยไทย ความรู้ในสถานศึกษาก็เหมือนสอนท่าทางการออกอาวุธแต่ละท่า สอนการไหว้ครู แต่คนที่ท่าทางการออกอาวุธสวย ไหว้ครูสวย ก็ยังไม่ใช่หลักประกันว่าชกจริงจะชนะ มันมีปัจจัยอื่นด้วย ร่างกายก็ต้องฟิตซ้อมให้แข็งแรงพอ ไม่ใช่ยกหนึ่งสูสี ขึ้นยกสองเหนื่อยหอบออกอาการป้อแป้เพราะอ่อนซ้อม ยืนให้เขาเตะต่อยเป็นกระสอบทรายจนสลบ พอขึ้นชกจริงมันกลายเป็นความสามารถของตัวนักมวยเองเป็นส่วนใหญ่ โค้ชก็ได้แค่บอกแค่สอน จะชนะหรือแพ้ส่วนหนึ่งมาจากการฝึกสอน อีกส่วนมาจากตัวนักมวย อีกส่วนมาจากคู่ชก ถ้าเหนือกว่ามากก็ชนะยาก
เราว่ายุคนี้ ความรู้หาค่อนข้างง่าย อยากรู้อะไร ตื้น-ลึกแค่ไหน โลกทั้งใบแทบจะอยู่ในมือ
องค์ความรู้ ที่จะเป็นโอกาสให้ประสบความสำเร็จ-ร่ำรวย มีตั้งมากมาย
จะโทษใครได้ ถ้าไม่โทษที่ตัวเรา....
ปัญหาการศึกษาไทยมีมานานแล้ว สั่งสมมานานหลาย10ปี แต่ก็ยังมีคนที่ประสบความสำเร็จ
ร่ำรวยให้เห็นทุกๆวัน....
ดังนั้น พ่อแม่ที่ยังไม่พร้อม จะส่งเสียลูกเข้าโรงเรียนดีๆมีคุณภาพ อาจต้องคุมกำเนิดไว้ก่อน
ปัญหาเด็กด้อยโอกาส ก็จะลดน้อยลงไป (เรื่องเด็กด้อยโอกาส ในความน่าสงสาร มีความน่าสมเพชอยู่ด้วย)
บางทีเด็กๆก็ปริมาณมันเยอะเกินไป ประเทศควบคุมคุณภาพไม่ไหวครับ....
Rhodey James ปัญหาคือเด็กตอนนี้อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ วิเคราะห์หาข้อเท็จจริงไม่ได้ มีข้อมูลในมือก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ
Rhodey James พูดง่ายๆคือ เด็กจะจบมายังไงก็ได้ ตุณภาพเท่าไหร่ก็ได้ เพราะไม่มีใครรับผิดชอบคุณภาพอยู่แล้ว ถีบๆส่งออกมากันเยอะๆ ใครว่ายไปเร็วก็ดีไป ใครว่ายไม่เร็วก็จอดไป ถ้าอ้างอิงตามคลิปนี้ 1 ใน 10 ทำงานดี อีก 9 คือออกมาแบบไร้คุณภาพ แต่ 1 ใน 9 นั้นอาจดิ้นรนออกมาตั้งตัวเป็นเถ้าแก่ได้ ส่วนอีก 8 คนที่เหลือ...? แบบนี้บอกว่าที่ยังมีคนประสบความสำเร็จแม้จบมาไม่ดีก็จริงก็ใช่ แต่มองภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศแล้ว มันทำให้มีคนมีคุณภาพในด้านการงานและความรับผิดชอบต่อสังคมน้อยมาก
เมืาอไหรจะปฏิรูปครับครูไม่ฟังเลยว่าเราไม่ถนัดแล้วให้เรียนหลายๆว
เห็นด้วยนะครับ
เราเรียนกับครูต่างชาติ
มีครั้งนึงตอนครูเค้าเข้ามาใหม่ๆครูต่างชาติเคยถามว่าทำไมครูไทยให้การบ้านเยอะ. เรียนกับครูต่างชาติมา4คนละ ที่เรียนมานี้การบ้านนานๆจะมีทีไม่ได้ให้เยอะจดเยอะ สอนกันเเบบเฮฮา
คือในความคิดเราครูต่างชาติเค้า สอนเเบบเป็นกันเองไม่ต้องคิดอะไรมาก
ส่วนใหญ่ประเทศไทยจะเอาคนที่สอบได้
ดี - ดีมาก เป็นอาชีพ หมอ,วิศวะ
ซื่งส่วนไหญ่เป็นอาชีพท้ายๆช่วงของชีวิต
แต่จะเอาคนที่สอบได้
แย่ - กลาง เป็นอาชีพครู
ซื่งเป็นอาชีพที่เป็นแม่พิมของชาติ มันสวนทางกับประเทศที่เขาเจริญ
(แต่ถ้าพยายามสอนเด็กให้เป็คนดี ผมก็สนับสนุน👍)
เขาพูดเสร็จก็เริ่มทำเลยสิมัวทำอะไรครับ
นภันต์ นภสินธุ์
สำคัญตรงที่เจ้าของคลิปไม่มีสิทธิจะทำอะไรได้
จริง
พูดไปก็เท่านั้นเราไม่ได้พัฒณาที่ใจเด็กแต่พัฒณาความย่ำแย่ของเด็กเก็กเด่นกีฬาควรที่จะฝึกให้เขาเก่งมากกว่านี้วิชาสำคัญคือวิชา เต้น ศิลปะ ฟุตบอล คือวิชาที่ดีที่สุด
อยู่ตรงที่เด็กไม่เรียนเพราะพ่อแม่ตามใจซื้อรถซื้อโทรศัพท์ให้เล่น
ผมว่าอีกอย่างนึงคือ จะต้องมีครูบางคนที่บอกนักเรียนว่า "อย่าเอานิสัยแบบฝรั่งมาใช้ , ฝรั่งมันเจริญแต่วัตถุ , เด็กฝรั่งไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่ ฯลฯ " ความคิดแบบฝรั่งนี่แหละทำให้เด็กรู้จักคิด เพราะผู้ใหญ่ฝรั่งเค้ารู้จักฟังความคิดเห็นของเด็ก เด็กฝรั่งส่วนใหญ่ถึงจะฉลาด กล้าแสดงออก กล้ายกมือถาม ของเราถ้ากล้าแสดงออกและกล้าพูดกับผู้ใหญ่บางคน ก็ถูกหาว่าบ่นบ้างเถียงบ้าง เพราะโบราณว่าเถียงผู้ใหญ่จะบาป บางวิชาที่ไม่ค่อยจำเป็นอย่างลูกเสือควรเป็นแบบสมัครใจมากกว่า อย่างต่างประเทศเช่นญี่ปุ่น อังกฤษ เค้าเป็นแบบสมัครใจไม่ใช่มาบังคับแบบเรา บางที่ม.ปลายยังเรียนลูกเสืออยู่เลยด้วยช้ำ การศึกษากำลังจะเริ่มล้าหลัง เพราะมีคนหัวโบราณบางคนนี่แหละ
ควรปรับความเข้าในให้พ่อแม่เด็กก่อน แล้วค่อยไปปรับที่กฎหมาย
อยากหมดอายุไขของตัวเองแล้วไปเกิดที่ประเทศที่มีการศึกษาดีดี
ผมขอโทษผมจะไมโทษใครทั้งนั้นผมไม่เก่งคณิตวิทย์เลย
ผมขาดเรียนบ่อยคับจนวันสอบ
ครูบอกว่าจะไห้สอบก็ได้(เป็นการสอบปติบัต)แต่เรื่องที่สอบผมไม่ได้เข้าเรียนเลย (แต่ผมเคยทำงานกับอาของผมาก่อนก็เลยรู้นิดๆ) แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าผมจะทำได้ โดยไม่มีไครบอกเลยเพราะตอนผมสอบเพื่อนก็ไม่รู้หายไปไหนหมด ครูก็ทำเป็นไม่สนจัย คิดไปแกล้งกันหรานี้ แต่เด็กที่นั้งเรียนทุกวันแม่งเสียบสายผิดถ้าทำจริงๆระมันจะเกิดอะไรขึ้น (การเติมสารความเย็นรถยนต์และอะไรอีกอย่างนึ่งจำไม่ได้)
ไม่ได้ว่าว่าผมเก่งนะแต่เป็นวิธีการถ่ายทอดและการป้อนความรู้ไห้กับผู้รับมันไม่ถูกวิธีจึงได้รับไม่เต็มที่ สำหลับผมลงมือทำจริงผมว่าผมทำได้ แต่นั้งเรียนนั้งจดผมช้าไม่ทันเพื้อนจริงๆ
ต้อนนี้ก็ยู่ ป ว ช 3 ช.ย.ผมตัดสินจัยไม่ไปเรียนแล้วเกรดเทอมแลกผมแย่มา อยากเรียนไห้จบเพื่อพ่อของผม แต่ผมบอกพ่อว่าจะย้ายขอเรียนปี3ปีหน้าที่อื่น ถ้าเทียบโอนได้นะ ที่เก่ามีปัยหาเกิดขึ้นจนได้ รู้สึกอึดอัดจนเรียนไม่ไหว มันไม่ไหวจริงๆ
เสียจัยคับผมยมเปลี่ยนตัวแล้วเทอนี้แต่รู้สึกแปลกมากอึดอัดมากผมทำแย่ก็จริงแต่ผมเปลี่ยนความคิดแล้วนะกับมาเทอสุดท้ายจะตั้งจัยเรียน แต่แล้วผมก็หยุดจนได้มันอึดอัดเกินเหมือเรียนคนเดียวในวิลัยนั้น ถ้าย้ายที่ได้ก็ต่อปีหน้าถ้าย้ายไม่ได้ก็ออก เพราะปี1-2ผมไม่มีติดอะไรเลย มีแค่ปี3เทอม1 ถ้าหาที่เรียนได้เทียบโอนได้ก็ต่อปี3 วิชาไหนได้เรียนเพิ่งก็ลงเพิ่ม (ที่วิลัยไหม่) ไม่ใช่ว่าผมไม่ผิดผมผิดเต็ม แต่กลับตัวมาแล้วไง โอกาศ พื้นที่ไห้คนที่กลับตัว TT ย้ายที่ต่ออีกปีไปที่ที่น้าจะมีพื้นที่ไห้เรา
เรียนรู้พื้นฐาน ค้นหาตัวตน ทำงาน