Відео

คนออกแบบตำราเรียนนั่งอยู่บนหอคอยงาช้าง นั่งคิดทฤษฎีโง่ๆ ครูไม่ให้เตรียมการสอนให้แต่นั่งประเมินส่งกระทรวง ลูกเราอ่านไทยอังกฤษออกคล่องแต่ป.1-2เพราะเราสอน,หาเกมกระตุ้น,บัตรคำศัพท์สวยๆ เอง ประเทศนี้เอาอะไรไม่รู้มายัดใส่สมองเด็กเยอะยังกะจะเอ็นทรานซ์แต่ขาดความน่าสนใจกระตุ้นให้เด็กเรียนรู้ กระตือรือร้น ใฝ่เรียน ใช้การบังคับ ใช้กฎใช้คะแนน คัดคนคัดเกรดแบบผลไม้ มันใช่หรือ ไปดูการจัดการฟินแลนด์ สิงคโปร์ ญี่ปุ่นแล้วสมเพชการศึกษาไทย สมมุติถ้าไม่ไปไล่นายกยิ่งลักษณ์ ทุกนร.ป.1จะมีแทปเลต มีแอปลิเคชั่นช่วยการเรียนออนไลน์พัฒนามาแล้ว10ปี ไม่ใช่ให้แบกตำรากระเป๋าหนัก5-10กิโลตั้งแต่ป.1 ทุเรศมาก

ความฝันของเด็กที่เป็นไปได้ยากที่สุด

ใช่ครับ

บางคนเรียนจบออกมาได้เกรด4​ ได้เกียรตินิยม​อันดับ1​ ยังหางานทำไม่ได้เลย

การศึกษาไทยคือ. เรียนตามที่หลักสูตรกำหนด จำเนื้อหา. เข้าห้องสอบ. สอบเสร็จก้อลืม. ดูผลสอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นใครเก่งกว่าอ่อนกว่า. แล้วก้อเรียน เพื่อสอบ เปรียบเทียบ. กันแบบนี้ เวียนว่ายแบบนี้. จนลืมไปว่าเรียนแล้วเราชอบอะไร ถนัดทำอะไร มีทักษะอะไรติดตัว. รู้สึกตัวอีกทีคือเดินหางานทำ แล้วก้อทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ ไม่มีความสุขในการทำงาน การอยู่ร่วมกับคนอื่นเพราะติดนิสัยเปรียบเทียบ. สรุปทั้งชีวิต มีความสุขอยู่ 2 ช่วง. คือ. ช่วงก่อนเข้าเรียน. และตอนออกจากงาน. นี่เราเรียนเพื่อหาเงินมาซื้อความสุขหรือความทุกข์กันแน่. งง.

ตอนเด็กๆ. ไม่อยากไปโรงเรียน เพราะครูแบบเดิมคือสั่ง ดุ. ตี. สนใจเด็กเรียนดี. แต่คนที่เรียนไม่ดีก้อละเลย. ระบบคัดคนจากการกากบาทหาข้อที่ดีที่สุดใครจำเก่งได้ที่ 1. ได้เป็นหัวหน้าห้อง. แต่เพื่อนในห้องรังเกียจเพราะเห็นแก่ตัว. แต่ถึงแม้จะเห็นปัญหามานาน 40 กว่าปี. ระบบก้อยังเป็นแบบเดิม. การคัดเลือกคนเป็นครู. เป็น ผู้อำนวยการ หรือตำแหน่งใหญ่กว่านั้นก็มาจากการกากบาท. หรือดูเอกสารประกอบสร้างภาพ ใช้ความเป็นพวกพ้อง. แต่ขาดทักษะการทำงานเป็นทีม. คิดว่ายังไงระบบก้อคงเป็นแบบเดิม. ระบบกำลังทำร้ายเราทุกวัน. ทำใจเหอะ.

ผมว่าอีกอย่างนึงคือ จะต้องมีครูบางคนที่บอกนักเรียนว่า "อย่าเอานิสัยแบบฝรั่งมาใช้ , ฝรั่งมันเจริญแต่วัตถุ , เด็กฝรั่งไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่ ฯลฯ " ความคิดแบบฝรั่งนี่แหละทำให้เด็กรู้จักคิด เพราะผู้ใหญ่ฝรั่งเค้ารู้จักฟังความคิดเห็นของเด็ก เด็กฝรั่งส่วนใหญ่ถึงจะฉลาด กล้าแสดงออก กล้ายกมือถาม ของเราถ้ากล้าแสดงออกและกล้าพูดกับผู้ใหญ่บางคน ก็ถูกหาว่าบ่นบ้างเถียงบ้าง เพราะโบราณว่าเถียงผู้ใหญ่จะบาป บางวิชาที่ไม่ค่อยจำเป็นอย่างลูกเสือควรเป็นแบบสมัครใจมากกว่า อย่างต่างประเทศเช่นญี่ปุ่น อังกฤษ เค้าเป็นแบบสมัครใจไม่ใช่มาบังคับแบบเรา บางที่ม.ปลายยังเรียนลูกเสืออยู่เลยด้วยช้ำ การศึกษากำลังจะเริ่มล้าหลัง เพราะมีคนหัวโบราณบางคนนี่แหละ

ทั้งหมดนี้ภาครัฐรู้วิธีแก้แต่ไม่ทำเพราะ -เงินเอาไปเป็นทุนให้คนฉลาดหมด -ถ้าเรียนดี น.ร.อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างหรือต่อต้านจากภาครัฐเลยต้องสกัดขาไว้ก่อน -รัฐอยากเอาเงินไปบำรุงพวก น.ท.ท. มากกว่าเอามาพัฒนาบ้านเมือง

อยากหมดอายุไขของตัวเองแล้วไปเกิดที่ประเทศที่มีการศึกษาดีดี

พูดมากไปก็แค่นั้น ลงมือทำดีที่สุด ต้องเผชิญกับสถานการณ์จริง แล้วสิ่งที่สั่งสมมามันจะชี้ทางออกเราเอง แล้วอย่างมงายกับทฤษฎีจนเกินไป อย่างเช่นบางอย่างเขาบอกสเปคมาว่าต้องใช้กับไฟ 220VAC หน้างานมีแต่ไฟ 110VAC ชีวิตมาถึงทางตันแล้ว แบบนี้เขาเรียกพวกงมงายกับทฤษฎี บางอย่างมันก็ใช้แทนกันได้ อย่างจอมอนิเตอร์ LCD ไฟตกไปถึง 56VAC มันก็ยังทำงานได้ปรกติ

ปี2020แล้วการศึกษาไทยก็ยังเหมือนเดิม ต้องเรียนพากย์บังคับเรียนวิชาที่ไม่ชอบไม่รู้ความฝันอยากจะเป็นอะไร เครียด งานเยอะเรียนหนักเวลาพักผ่อนต้องมานั่งทำการบ้านจนดึก เห้อมันเหนื่อยมันกดดัน เรียนแล้วจะมีงานทำมันมีแค่ต้องเรียนอย่างเดียวจริงๆหรอคะ อยากให้การศึกษาไทยปรับปรุงให้เด็กได้ทำในทางที่ตัวเองชอบเรียนเฉพาะสิ่งที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันสามารถนำไปสร้างอาชีพได้

ถ้าจะเปรียบการศึกษาเหมือนการชกมวยไทย ความรู้ในสถานศึกษาก็เหมือนสอนท่าทางการออกอาวุธแต่ละท่า สอนการไหว้ครู แต่คนที่ท่าทางการออกอาวุธสวย ไหว้ครูสวย ก็ยังไม่ใช่หลักประกันว่าชกจริงจะชนะ มันมีปัจจัยอื่นด้วย ร่างกายก็ต้องฟิตซ้อมให้แข็งแรงพอ ไม่ใช่ยกหนึ่งสูสี ขึ้นยกสองเหนื่อยหอบออกอาการป้อแป้เพราะอ่อนซ้อม ยืนให้เขาเตะต่อยเป็นกระสอบทรายจนสลบ พอขึ้นชกจริงมันกลายเป็นความสามารถของตัวนักมวยเองเป็นส่วนใหญ่ โค้ชก็ได้แค่บอกแค่สอน จะชนะหรือแพ้ส่วนหนึ่งมาจากการฝึกสอน อีกส่วนมาจากตัวนักมวย อีกส่วนมาจากคู่ชก ถ้าเหนือกว่ามากก็ชนะยาก

เห้นด้วย

วิธีสอนงานของผมคือไม่สอนงาน ปล่อยให้ทำเองคิดเอง อย่างมากก็เตรียมสิ่งต่างๆที่จำเป็นในการทำงานไว้ให้ ทำไม่ได้ค่อยทำให้เลย ตอนจบมาทำงานใหม่ๆผมก็ไม่มีใครมาสอน ให้นั้งโต๊ะทำงานต่อจากคนเก่าที่ทำค้างอยู่เลยกับคู่มือภาษาอังกฤษกองหนึ่งแค่นั้น ช่วงที่ผมทำที่นั่นเกียรติ์นิยมอันดับหนึ่งอันดับสองจากสถาบันชื่อดังด้านวิศวกรรมระดับ TOP 3 ของประเทศเข้ามาทำกันสามคน เจอสภาพนี้มาทำงานได้แค่สามวันสี่วันก็ไม่มาทำงานแล้ว โบนัส 12 เดือนยังไม่ทำไม่อยู่ ความเครียดความกดดันในการทำงานสูงมาก บริษัทสุดท้ายที่ผมทำก่อนออกผมนั้งคุยกับลูกน้องในรถว่าผมคงอยู่ไม่นาน พอว่างั้นน้องมันรีบไปสมัครงานที่ใหม่เลย อาทิตย์เดียวได้งานใหม่ อีกคนไม่ได้เล่าให้ฟัง รู้วันผมลาออก พอรู้ผมออกออกตามวันนั้นเลย ทำงานจริงไม่มีใครมาป้อนความรู้ต้องแสวงหาเอง ที่มีการอบรมส่วนใหญ่ก็จะเป็นแค่ความรู้ทั่วไปแค่พอให้ทำงานร่วมกับระบบที่เขาวางไว้ได้

เรียนเยอะแต่เอาไปใช้จริงน้อย ยิ่งไปทำงานที่อาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะความรู้ที่เอาไปใช้จริงยิ่งเหลือน้อย บางทีอ่านตำราตามร้านหนังสือยิ่งอ่านยิ่งงงทั้งที่มีทักษะในงานจริงในเรื่องที่อ่าน

อีกอย่างที่จะบอกว่า ครูต้องรับผิดชอบ คือ เด็กจะส่งงาน แต่หาครูไม่เจอ ที่จริงครูต้องติดตามงานเด็ก

สำนวนว่า เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด แต่เราว่าหมามันน่าจะกัดผู้ใหญ่ก่อนอีก

ผู้ใหญ่ส่วนน้อยที่จะยอมรับ

ครู:ไหนใครไม่เข้าใจคะ //เพื่อนยกมือ// เพื่อนในห้อง:ทำไมทำไม่ได้อ่ะง่ายนะ เรา:ก็เพื่อนมันด่ากันอย่างงี้ไงถึงไม่กล้ายกกัน //14นาทีต่อมา// เพื่อน:บักปึก เอ้ยยย ง่ายแค่นี้ก็ทำไม่ได้ มีใครเคยเจอเพื่อนร่วมห้องประเภทนี้ไหมฮ้ะ😋😙

ความเป็นจริงกับปล่อยให้เด็กมาเจอแต่ปัญหาปล่อยให้เด็กโตมาพร้อมกับตัวอย่างความเห็นแก่ตัวของผู้ใหญ่เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า โปรดคิดเรื่องนี้คิดให้ดีดีนะปัญหาที่ไม่แก้มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่

มีความเห็นว่าความปฏิรูปโดยให้มีเวลาทำงานมากขึ้นศึกษาไม่เยอาะเน้นความรู้ที่ใช้จริง

ขอยกตัวอย่างในต่างประเทศ(ที่พัฒนา) วิชาคณิตศาสตร์ระดับมัธยม เขาเรียนสอนเด็กกันยังไง ? เขาไม่ได้สอนให้เด็กจำสูตรมากมายเป็นร้อยเป็นพันสูตร แต่สอนพื้น ๆ มาก สูตรไม่ยากและไม่เยอะในแต่ละหัวข้อ เขาจะถามเด็กเช่นว่า นักเรียนคิดว่าการคำณวนหาพื้นที่รูปทรงนี้ ด้วยวิธีนี้ ถูกหรือผิด ? ถ้าถูกเพราะอะไร ถ้าผิดเพราะอะไร ลองอธิบายแบบมีเหตุผลให้ครูดูหน่อยสิ ? ถ้านักเรียนไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ ก็ให้ยกตัวอย่างวิธีอื่นและอธิบายด้วย เด็กก็ต้องไปพยายามหาความรู้ สูตร วิธีอะไรมาอธิบายคำตอบตัวเองให้ได้ เขาไม่ได้สอนเด็กว่า หาพื้นที่นี้ใช้สูตรนี้ มีกี่สูตร จำสูตรน่ะแทนค่าบวกลบคูณหารแล้วตอบผ่านแค่นั้น แต่สอนให้เด็กรู้จัก "หัดคิด" รู้จักให้เหตุผลและมีที่มาที่ไป ทำไมต้องคิดแบบนี้ทำวิธีนี้ใช้สูตรนี้ ทำแบบอื่นได้ไหม เป็นต้น ถ้าเด็กคนไหนที่ชอบวิชาคณิตศาสตร์มากมีความถนัดสูง เขาให้เด็กคนนั้นไปศึกษาสูตรลึก ๆ เยอะ ๆ เรียนพิเศษเพิ่มเอาเอง แล้วมาปรึกษาครู ถ้าเด็กมันอยากเป็นวิศวะ เป็นหมอ ทำอาชีพสายวิทย์มันก็ต้องมีความถนัดวิทย์อยู่แล้วในตัว มันก็ศึกษาลึก ๆ ยาก ๆ ได้สบายอยู่แล้วและไปสอบแข่งเองได้ ถนัดวิชาไหนก็ไปศึกษาลึก ๆ เยอะ ๆ ต่อเองเพื่อไปสอบทำอาชีพสาขานั้น ๆ ได้ เขาก็เลยสอนพื้น ๆ ไม่มากเพื่อให้ทุกคนได้เรียน แต่เน้นวิธีคิดแบบมีเหตุมีผลเยอะ ๆ นี้คือวิธีการเรียนในทุกวิชา ! เวลาออกไปใช้ชีวิต เด็กก็จะเป็นคนมีความคิดมีเหตุมีผล คิดได้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ ไม่เป็นคนไร้หัวคิด เช่นแว้นมอไซต์กวนเมือง หาผัวหาเมียแต่วัยเรียน เป็นนักเลงยกพวกตีกัน แบมือขอเงินผลาญพ่อแม่ไปวัน ๆ สร้างปัญหาสังคมให้พ่อแม่ปวดหัว เพราะไร้หัวคิด คิดกันไม่เป็น! ไม่ต้องแปลกใจทำไมฝรั่งมันคิดเก่งมีไอเดียสูง เช่น สตี๊ฟจ๊อป , บิลเก็ตส์ , มาร์คซัคเคอเบริ์ก ฯลฯ เพราะมันถูกสอนให้รู้จักคิดเป็นแต่เด็ก เด็กฝรั่งจึงโตเป็นผู้ใหญ่เร็ว เด็กไทยจำโคตรเก่งจำได้โคตรเยอะแต่คิดอะไรไม่ออก ถ้าเด็กไทยคิดอะไรไม่เป็น ก็สร้างปัญหาสังคมโตเป็นผู้ใหญ่ไร้หัวคิด ไปเป็นพ่อแม่ที่ไร้หัวคิดมีลูกต่อ ส่งผลเสียต่อชาติเพราะมีประชาชนที่คิดอะไรกันไม่เป็น พัฒนาก็ยาก ...................."การศึกษาไม่ได้แค่เรียนให้รู้ แต่เรียนเพื่อให้คิดเป็น"

เห็นด้วยนะครับ

เรียนฟรี ทำไหมต้องเสียค่าเทอม

เรียนวันละ4 ชม.พอ เช้า2 บ่าย2 เริ่ม09.00-10.00 พักน้อย10.30-11.30. พักเที่ยง บ่าย13.00-14.00 พักน้อย 14.30-15.30 แล้วเด็กได้ทำอื่นๆบ้าง ทั่งเข้าและเย็น

ครูไทยโง่ ไม่มีความสามารถ ยังคิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ เมื่อนักเรียนมีคำถามแล้วตอบไม่เป็น

แก้ที่ เป้าหมาย เป้าหมายเปลี่ยน วิธีจะไปหาเป้าหมายก็เปลี่ยน นั่นก็คือ วิธีคัดเลือก ถ้าเปลี่ยนไดุ้ ืุทุกอย่างจะเปลี่ยนหมด เลิกสักที วัดผลจากข้อสอบ กาๆ เนื้อหาอยู่แค่ในกระดาษ ควรวัดผลใหม่ เช่น หากเด็กจะเป็นครู เด็กต้องส่งเทปบันทึกการสอนของตัวเอง เข้ามาคัดเลือก หรือหากมีผลงานการสอนออนไลน์ผ่านสื่อออนไลน์ มีคนติดตาม ก็จะถือเป็นผลงานส่วนหนึ่ง เพราะต้องยอมรับว่าการคัดเลือกครูจากแค่ข้อกาไม่ได้บอกว่าจะสอนดี หรือถ่ายทอดดี เรื่องเนื้อหา เข้าไปเรียนต่อได้ หรือจะสอบวัดผลก่อนเรียนจบก็ได้ ว่ามีความรู้พอจะสอนหรือเปล่า เป็นต้น

คลิปมีตั้วแต่2014 ป่านนี้2019และ ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนจากเดิมเท่าไหร่เลย

ควรจะมีการฆ่ากันให้มากๆ ครู นักเรียนควรฆ่ากันเอง เพื่อความเข้าใจกันที่มากขึ้น ผมเองอยากจะทำลายไอประเทศเหี้ยนี่เหมือนกัน แม้งเต็มไปด้วยควาย ฆ่าควายไม่น่าจะบาปอะไร

การศึกษาไทยมันมีต้นตอจากRussiaหลังจากยืดGermanได้ในWW2และอยากให้คนเยอรมันตกอยู่ในการปกครองของตนจึงคิดค้นระบบนี้ขึ้นมาเพื่อจำกัดความคิดอะไรต่างๆเพื่อที่จะได้ควบคุมการศึกษานี้มิได้ไว้สอนเพื่อให้ผู้เรียนฉลาดแต่สอนให้โง่ให้มีค่านิยมผิดๆและไทยเห็นได้เห็นดีจึงเอามาใช้บ้าง(ผมไม่ได้ด่าว่าทุกคนโง่นะครับเพราะเราไม่ได้โง่แต่เราถูกทำให้โง่)อาชีพครูไทยเป็นอาชีพที่น่าสงสารมากที่สุดครับเงินเดือนก็น้อยด้วย ยกตัวอย่างSingapore สิครับ ครูรวยมากและระบบการศึกษาของประเทศเขาดีกว่าของเราเยอะครับ

ส่วนใหญ่ประเทศไทยจะเอาคนที่สอบได้ ดี - ดีมาก เป็นอาชีพ หมอ,วิศวะ ซื่งส่วนไหญ่เป็นอาชีพท้ายๆช่วงของชีวิต แต่จะเอาคนที่สอบได้ แย่ - กลาง เป็นอาชีพครู ซื่งเป็นอาชีพที่เป็นแม่พิมของชาติ มันสวนทางกับประเทศที่เขาเจริญ (แต่ถ้าพยายามสอนเด็กให้เป็คนดี ผมก็สนับสนุน👍)

ต่างประเทศเรียนเพื่อใช้ในชีวิต ไทยแลนด์เรียนเพื่อใช้สอบ เสาร์อาทิตย์ต่างประเทศผ่อนคลาย เคลียงานเล็กน้อย ทำกิจกรรม ไทยแลนด์เรียนพิเศษ ติว ทำงานกลุ่ม ทำการบ้าน อ่านหนังสือ ครูเมืองนอก=ให้เด็กค้นคว้าเองคอยประคองห่างๆให้เด็กมีความสุขกับการเรียน ครูไทย=อวยเด็กเก่ง สอนพิเศษหาเงิน ทำผลงานเพื่อเลื่อนขั้น ไม่สนใจเด็กไม่เก่ง เมืองนอกไม่มีประเมินโรงเรียน ไม่มีสอบโอเน็ต แกทแพท อะไรบ้าบอให้ยุ่งยาก ไทยแลน สอบๆๆๆๆๆสอบตามที่กระทรวงหามาให้สอบ สอบผ่าน=เด็กเก่ง สอบตก=เด็กโง่ ประเมินโรงเรียนเอารางวัล แข่งกับโรงเรียนอื่นเพื่อแซงตำแหน่งโรงเรียนดังในประเทศ ต่างประเทศครูเงินเดือนสูงทำงานแฮปปี้ ไทยแลนด์ครูเงินเดือนน้อยแข่งขันสูงหารายได้เสริมกันเอาเอง ต่างประเทศเรียนวันละ5ชม. ที่เหลือเสรีทำกิจกรรมของตัวเองที่ชอบ ไมยแลนด์เรียน8ชั่วโมงต่อคาบ9อีกไปเรียนพิเศษอีกถึง2-3ทุ่ม ทำการบ้านถึงเที่ยงคืนตื่นตีห้าไปโรงเรียน ทั้งหมดนี้ไม่ได้ว่าไรนะครับ เปรียบเทียบให้เห็นว่าการศึกษาที่ด้อยกับที่สำเร็จเป็นยังไง

ทำมาเสียเวลาป่าวบอกตงมีแต่คนสถุนคนดีมีน้อย

เด็กไทยนั่งเงียบเด็กต่างชาติแย่งกันตอบ

เรียนวันละ 6 ชั่วโมง ครูเข้ามาละ สั่งๆ สอนก็ไม่เข้าใจ ใครเก่งอวยจังเลย ต้องเสียเงินพิเศษอีก -เข้าห้องมาบ่น ทำไมไม่ทำห้อง โต๊ะครูก็ไม่ถู แล้วครูทำไร นั่งคุยกันสนุกจัง!! แล้วสั่งการบ้านเยอะจัง! ถ้าเขียนจดหมายหารัฐบาลได้นะ ก็จะเขียนไปเลย

เด็กเรียนดีชมครูเด็กเรียนแย่โทษเด็กมัน-หี้-นะครัย

ทำไมคนไทยรู้ทั้งประเทศ แต่รัฐมนตรีไม่รู้ ผมเคยฟังรัฐมนตรีพูดในงานอะไรสักอย่าง (พูดไทยคำ อังกฤษคำ ฟังไม่ค่อยเข้าใจ) สรุปว่าการศึกษาไทยต้องเป็นอย่างนี้ ผมก็คิดตามแล้วเอ็งเป็นรัฐมนตรีรู้ทั้งรู้ทำไมเสือกไม่ทำวะ....โยนภาระงานทุกอย่างให้ครู แล้วที่นั่งอยู่ใน สพฐ. มีหน้าที่แค่ออกหนังสือต้องใช้คนขนาดนั้นเลยเหรอวะ ทำไมไม่ทำหลักสูตรขึ้นมา (เพราะยังไงเอ็งก็ประเมินจาก O-net อย่างเดียวอยู่แล้ว) ครูจะได้มีเวลาว่าจะสอนเด็กอย่างไรให้ได้ตามแผนที่ สพฐ. ให้มา นี้ให้ครูมีแต่หลักสูตรแกนแล้วให้ครูออกแบบกันเอง (แล้วนักวิชาการเอ็งจ้างมันมาแพงๆเพื่ออะไร สุดท้ายภาระก็ครูอีก) เด็กครูก็ตองดู ผู้ปกครองครูก็ต้องฟัง สอนก็ต้องสอน แผนก็ต้องทำ หลังแผนก็ต้องเขียน เอกสารประจำชั้นเรียนก็ต้องทำ ประกาศผลการเรียนก็ต้องทำ เอกสารเข้าออกก็ต้องทำ เด็กมีปัญหาครูก็ต้องแก้ ถามหน่อยรัฐมนตรีมีไว้เพื่ออะไรเงินเดือนครู (โดยเฉพาะครูอัตราจ้าง กับครูเอกชน ) เงินเดือนเท่าเห็บหมัด แต่ภาระงานเท่าภูเขา รัฐมนตรีนั่งกระดิดเท้าเงินเดือนเป็นแสน เพื่อ..............................????????????

เรียนไม่รุเรื่องแต่สั่งงานเยอะชิปทำแทบไม่ทัน

เรียนวิทย์จดอย่างเดียว เลย เบื่อมาก ทำไมไม่ให้ลงมือทำ

ครูบอกว่าที่ประเทศเราไม่เจริญ เพราะ.... . . . . คนโง่อย่างพวกเราพัฒนาประเทศไม่ได้ อยากถามไปจริงหรอ สอนแค่ตามหน้าที่ป้ะอิสระเสรีก้อก้อไม่มี โทษแต่พวกเราการบ้านก้อเยอะ เอาจริงป้ะโรงเรียนสร้างภาพจริงๆไม่ได้ว่าน่ะคือมีคนมาตรวจความเรียบร้อยของรร. อ้ะจ้า สร้างภาพ สอบเกือบทุกวันสอบเก็บคะแนน เห้อ ลองถามตัวเองน่ะ

แต่ก่อนเรียนแบบเลข คัด เลิก ท่องอาขยาน ก็จบดร. เก่งๆก็เยอะเดี๋ยวนี้ วันนี้การศึกษาขึ้นอยู่ผู้มีอำนาจจะกำหนดทิศทางตามความคิดตนเอง

ทำคริปน้ียังไงรัฐบาลไม่สนใจอยู่ดีครับ

ควรปรับความเข้าในให้พ่อแม่เด็กก่อน แล้วค่อยไปปรับที่กฎหมาย

ทำยังไงละถึงจะมาเห็นหน่ะ ไม่อ่ะมีแต่พูดป่ะรัฐบาล โง่วอ่ะ คิดไหม??? ดูสิเรียนไปโง่ไปอะ น่าเบื่อ ดูสิคนต่างชาติอะ เขาให้เด็กทำอะไม่ใช่สอนๆอย่างเดียว บอกเลย ผู้อำนวยการ ร.ร.กูอะ ทำคนดีๆ ออกจากโรงเรียนไป3-4คนแล้วมั้ง รุ่นกุอะ 2คนแล้ว บอกเนี่ยดีแล้วดีพ่องอ่ะ มีครมาก็ทำแอ๊บแม่ง อาหารมีแต่อะไรอ่ะช่วยเสริมสมองไหมสัจห่ะ เด็กอนุบาลเนี่ย มันแบบ...... ให้เด็กแดกแต่ไส้กรอกเนี่ยได้เชี้ยไรไหม ห่ะ เดี๋ยวๆมันเกี่ยวเหรอ ขอโทษหยาบเยอะเกินอะเนาะ คนมันขึ้นอ่ะ55555555

ผมขอโทษผมจะไมโทษใครทั้งนั้นผมไม่เก่งคณิตวิทย์เลย

ครู : เห้อ.....เหนื่อยจังเลย นักเรียน : คุณครูสอนแค่นี้เหนื่อยหรอครับ ครู : เหนื่อยสิ เหนื่อยมากเลย นักเรียน : แล้วคุณครูไม่คิดหรอว่าพวกผมเรียน 7-8 วิชาพวกผมจะไม่เหนื่อยบ้างเลยหรอ ครู : ครูไม่ใช่แค่สอน ครูต้องกรอกคะแนนอีก นักเรียน : ผมมีการบ้าน 7 วิชา เป็นโครงงาน 3 วิชา mind map 3 วิชา เรียงความ 1 วิชา ครู : อืม......

พูดช้า อนิเมชั่นช้า น่าจะปรับปรุง

ท่านมีบุตรหลาน ควรเป็นครูคนเเรกให้เขา สรรหาสิ่งที่ดีแก่เขา ถ้าหวังพึ่งโรงเรียนอาจจะไม่เพียงพอ ถามตัวเด็กว่า หนูอยากจะทำงานอะไร ชอบอะไรในอนาคต

ที่ผมคิดไว้ "คอรับชั่น" คือ บ่อนทำลายชาติ และสังคม และการศึกษา เพราะทุกอย่างต้องดำเนินการด้วยเงินจึงสามารถขับเคลื่อนได้ ประเทศควรพัฒนาไปไกลกว่านี้ เเทนที่จะได้สิ่งที่มีคุณภาพ งบไปไหนหละ ฝนตกไม่ทั่วฟ้า อีกหลายคนรอความหวัง "รัฐสวัสดิการแห่งประชาชน" การโกงกิน (ใครก็ตามที่โกง) งบไม่มีทำไรฝืนเคือง ประเทศเจริญช้า เพราะมีปลิงดูดเลือดประชาชน นั้นคือ "คอรับชั่น" อีกหลายชีวิตที่สิ้นหวัง อีกหลายครอบครัวต้องอดอยาก อีกหลายชีวิตที่ทนทุกข์ทรมาน "คอรับชั่น" คือ สิ่งด้วยที่ทำให้ประเทศไม่เจริญ เพราะมีปลิงดูดเลือด ปรสิต (สิ่งมีชีวิตพึ่งพาอาศัยดูดทรัพย์ ประเทศจึงผอมโซ อ่อนล้า)

(อีกมุมมองหนึ่ง) กระเเสเทคโนโลยี มาดึงใจนักเรียน จนไม่สนใจเรียน สนใจเกมส์ สนใจโซเชียล มันน่าตื่นเต้นสนุก สนใจสิ่งเเวดล้อม รักกันชอบกันเป้นแต่เด็กๆ การเรียนก็งั้นๆ เด็กบางคนติดเพื่อนที่ วันๆ โลกมันเปลี่ยนไป ผู้ปกครองบางคนไม่มีเวลาให้ลูกหลาน ทำงานส่งเงิน เด็กอยุ่กับตา ยาย ซึ่งก็บอกอะไรบ้างไม่ได้เท่าที่ควร การบ้านก็ไม่รุ้ สั่งงานไม่ส่งงาน ส่วนที่ส่งก็ส่งมางั้นๆ พอให้มันผ่านๆ ปัญหานะเหรอ ท่านจะนับต้นสายปลายเหตุตรงไหนหละ นับที่เด็กก่อน หรือ นับที่ครอบครัว สังคม หรือ ครู หรือ สิ่งเร้าภายนอก ทุกปัญหา มันมีจุดเริ่มต้น จากปัญหานี้ โยงให้เกิดอีกปัญหาตามมา มันเป็นลูกโซ่ จะนับ ลูก ไหนก่อนหละมันคล้องจ้องกันอยุ่