@@PhatrawuthKensomsri มันก็ต้องใช้ทั้ง AC และ DC แหละครับ เพียงแต่มันใช้คนละโอกาส 1. คนใช้ EV ขับไปทำงานรายวัน กลับมาบ้านก็เสียบ AC ตั้งเวลาชาร์จ 22.00 น. (TOU : Off Peak) DC บ้างเมื่อเดินทางข้ามจังหวัด 2. คนที่อยู่อพาร์ทเมนท์ คอนโด ไม่มี ตู้ชาร์จ AC ที่พัก อาศัยชาร์จตามสถานนีจ่ายไฟ DC ก็มีให้เห็น 3. คนที่เดินทางไกลข้ามจังหวัด ยังไงก็ต้องใช้อยู่แล้ว DC ตามปั๊ม 4. คนที่ไม่พึงพา DC เลยก็มี เพราะใช้รถ EV ขับทำงานรายวันชาร์จ AC ที่ทำงาน ที่บ้าน เดินทางไกลท่องเที่ยวเขาใช้รถยนต์น้ำมัน อาจสะดวกในส่วนจำนวนที่นั่งผู้โดยสาร และในเรื่องของการเติมพลังงานเชื้อเพลิง
Toyota Mirai Gen แรกเปิดตัวเมื่อปี 2014 นะครับ (ในคลิปอ่านเป็น 2024) ช่วงนี้อ่านข้อมูลผิดบ่อยมาก ต้องขอโทษด้วยครับ 😓
ช่วยกันพัฒนาแบตเตอรี่ราคาไม่แพง วิ่งไกลขึ้น รีไซเคิลได้เกือบ100%ดีที่สุด
สวัสดีค่ะ โนเกียและโกดักแห่งโลกยานยนต์
ไฮโดรเจนและน้ำมันแพงและก็ทำเองไม่ได้ส่วนไฟฟ้าผลิตใช้เองได้ครับ รถไฟฟ้าตอบโจทย์ที่สุดแล้วเวลานี้
ไฟฟ้าเสียบปลั๊กที่บ้านได้ ต่อไฟใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ถ้าไฮโดเจนผลิตเองได้ เกิดแน่
Hydrogen ยังราคาแพงเกินกว่าที่จะขยับไปจากน้ำมันครับ ต่างจากไฟฟ้า EV ที่ราคาต่อกิโลเมตรถูกกว่าน้ำมันอยู่มาก EV ก็ยังสะดวกกว่าเพราะไฟฟ้ามีทุกที่ มีมากกว่าปั้มน้ำมันเสียอีก ส่วนตัวมองว่า อีลอน อาจพูดถูกในตอนนี้ครับ
ที่จีนตอนนี้ไฮโดรเจนถูกกว่าไฟฟ้าซิครับ
ไฟฟ้า ชาวบ้านผลิตเองได้ จากโซล่าเซลล์ แม้จะไม่มาก แต่ก็เป็นทางเลือก แต่ไฮโดเจน ผลิตได้ยาก
@@xury2426 มีไฮโดรเจนโฮมผลิตไฟฟ้าได้ แต่ไฮโดรเจนเติมปั้มตอนนี้ที่จีนตก 0.20 บาท น่าสนใจมั้ยครับประเทศไหนก็ผลิตได้
ทาง Shell ออกมาแถลงกับ Hydrogen Insight ว่า “Shell ได้ยุติการสร้างปั๊มไฮโดรเจนที่แคลิฟอร์เนียในปี 2023 หลังจากนั้นได้ทำการปิดตัวอย่างชั่วคราวถึง 5 แห่ง จนกระทั่งต้องตัดสินใจปิดปั๊มทั้งหมดอย่างถาวรในปี 2024 เนื่องจากมีปัจจัยอันยากลำบากในการดำเนินการของไฮโดรเจน
ดื้อดึงไปต่อไม่ไหวแล้วสินะ ไฮโดรเจนนี่ยากจริงๆ การขนส่งเชื่อเพลิง ความหนาและหนักของถังบรรจุ อันตรายของแรงระเบิด ต้นทุนต่อกิโลเมตรสูงมาก
ลุ่ยรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนต่อไป ทาเคชิ
น่าจะเหมาะกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่วิ่งเส้นทางเดิมๆมีจุดเต็มที่แน่นอนสำหรับรถทั่วไปไม่เหมาะราคาก็แพงเตฺิมเร็วจริงแต่ไม่มีที่เติมเรื่องความปลอดภัยก็ต่ำ แต่คงจะเหมาะกับประเทศญี่ปุ่นอยู่พัฒนากันต่อไป
ทาง Shell ออกมาแถลงกับ Hydrogen Insight ว่า “Shell ได้ยุติการสร้างปั๊มไฮโดรเจนที่แคลิฟอร์เนียในปี 2023 หลังจากนั้นได้ทำการปิดตัวอย่างชั่วคราวถึง 5 แห่ง จนกระทั่งต้องตัดสินใจปิดปั๊มทั้งหมดอย่างถาวรในปี 2024 เนื่องจากมีปัจจัยอันยากลำบากในการดำเนินการของไฮโดรเจน
อะไรจะสะดวกเท่ากับมีปั๊มอยู่ในบ้านหละ แถมยังมีโซล่าเซลล์พลังงานทางเลือกร่วมให้ใช้ด้วยอีก ยังไงซะ ev ก็ต้องมา ยิ่งฝืนยิ่งดื้อก็ยิ่งก้าวตามเขาช้าลงนะพี่โต ทำรถ ev ออกมาขายแข่งกับเขาเถอะ ค่ายอื่นเขาชาร์จไฟที่สถานี รถพี่โตทำสถานนีสวอบแบตเลย สถานีถอดสลับเปลี่ยนแบตลูกใหม่แบบไม่ต้องชาร์จ ลูกค้าก็จะหันมาสนใจเพราะไม่ต้องนั่งรอชาร์จแบต และไม่ต้องแคร์การเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่อีกต่อไป
ปั้มในบ้านแต่โหยหา DC!
@@PhatrawuthKensomsriก็ติด solar cell บนหลังคาบ้าน ก็ได้ ปั๊มDCละ
@@miniandroids9522 เพ้อครับ ชีวิตนี้จะไม่ชาร์จนอกบ้านเลยหรือครับ
@@PhatrawuthKensomsri มันก็ต้องใช้ทั้ง AC และ DC แหละครับ เพียงแต่มันใช้คนละโอกาส
1. คนใช้ EV ขับไปทำงานรายวัน กลับมาบ้านก็เสียบ AC ตั้งเวลาชาร์จ 22.00 น. (TOU : Off Peak) DC บ้างเมื่อเดินทางข้ามจังหวัด
2. คนที่อยู่อพาร์ทเมนท์ คอนโด ไม่มี ตู้ชาร์จ AC ที่พัก อาศัยชาร์จตามสถานนีจ่ายไฟ DC ก็มีให้เห็น
3. คนที่เดินทางไกลข้ามจังหวัด ยังไงก็ต้องใช้อยู่แล้ว DC ตามปั๊ม
4. คนที่ไม่พึงพา DC เลยก็มี เพราะใช้รถ EV ขับทำงานรายวันชาร์จ AC ที่ทำงาน ที่บ้าน เดินทางไกลท่องเที่ยวเขาใช้รถยนต์น้ำมัน อาจสะดวกในส่วนจำนวนที่นั่งผู้โดยสาร และในเรื่องของการเติมพลังงานเชื้อเพลิง
ตอนนี้เรามี ทั้งพี่จีน และเทสล่า ไม่ง้อโตโยต้าแล้วล่ะ ผู้นำของการกั้กเทคโนโลยี และขี้โม้
รถไฮโดรเจนมีต้นทุนการผลิตสูงราคารถจึงแพง สถานีไฮโดรเจนก็น้อยเพราะลงทุนสูงมาก ไม่เหมาะในการใข้งานทั่วไป ทำให้ยากที่รถไฮโดรเจนจะเติบโต นี่ขนาดรถไฟฟ้ายังมีคนบ่นเรื่องสถานีไฟฟ้าไม่ทั่วถึง กลัวไม่มีที่ชารต์
โตต้าสู้ๆ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น 555
รอ….ครับ รอ..รถไฟฟ้าจีน น่าสนใจมากกว่าในหลายๆรุ่นอิอิ
โตโยต้าเองยังยอมรับ แต่แฟนคลับยังไม่ยอมรับ 😅
เค้ายอมรับตรงไหนครับ เพิ่งปล่อย Mirai 2024 กับ Toyota Crown FCEV ฝรั่งเศสเพิ่ง import ไปนับหมื่นคัน
ดื้อด้านแบบนี้ ไม่ต่างกับโนเกียที่จะดันซิมเบี้ยนสู้ สุดท้ายเละ
จากที่ดูมานะคือ 1 ต้องทำให้รถสามารถชาร์ทไฟฟ้าได้และเมื่อเต็มก็สามารถเอาไฟฟ้าส่วนเกินมาผลิตไฮโดรเจนเก็บตัวรถ และขนาดแบตต้องอย่างน้อย 400กม ส่วนไฮโดรเจนแค่ช่วยให้วิ่งได้ไกลขึ้น ต้องไม่หวังที่จะขายไฮโดรเจนไม่งั้นก็ขายไม่ออกอยู่อย่างนั้นครับ
แนวคิดดีครับ แต่ในรถต้องเพิ่มถังก๊าซ ชุดกรองก๊าซ แต่ที่ยากคือปั๊มแรงดันสูง ที่จะอัดก๊าซเข้าถัง ตัวเบิ้มๆ
แนวคิดผมคือ แพ็คก้อน(เหมือนน้ำแข็งแห้ง) ในเคสนิรภัย หนักโล หรือ 2โล พอ
ทาง Shell ออกมาแถลงกับ Hydrogen Insight ว่า “Shell ได้ยุติการสร้างปั๊มไฮโดรเจนที่แคลิฟอร์เนียในปี 2023 หลังจากนั้นได้ทำการปิดตัวอย่างชั่วคราวถึง 5 แห่ง จนกระทั่งต้องตัดสินใจปิดปั๊มทั้งหมดอย่างถาวรในปี 2024 เนื่องจากมีปัจจัยอันยากลำบากในการดำเนินการของไฮโดรเจน
ค่ายรถญี่ปุ่นพัฒนาร่วมกับบริษัทเกี่ยวกับพลังงานมั้ย ค่ายรถยุโรปพัฒนาร่วมกับบริษัทงานรถยุโรปผลิตเครื่องใช้เชื้อเพลิงอะไรบริษัทพลังงานจะปรับจูนชนิดพลังานให้ตรงกับเครื่องยนต์ รถยุโรปใช้ไฮโดรเจนต้องพัฒนาร่วมกับบริษัทพลังงาน
มองการตลาดผิดไม่ว่าแถมเดินเกมส์ผิดอีกอนาคตคงเสร็จรถไฟฟ้าค่ายจีนหมด
ผมว่า โตโยต้าคิดไปเองครับ ผู้ผลิตและผู้ขายพลังงานยังขายน้ำมันกับไฟฟ้าอยู่เลย ถ้าจะเอาไฮโดเจนมาขายก็ต้องลงทุนปั้มขายไฮโดเจนเองด้วย (ทำไปก่อนคิดไปเอง ใครมันจะไปลงทุ่นกับพลังงานคุณละคิดสิคิด)
เค้าเรียกดันทุรัง ทุกวันนี้สถานีไฮโดรเจนมีทั่วประเทศญี่ปุ่นแค่ 120 กว่าแห่ง ใครจะบ้ามาซื้อ
พัฒนาไฮโดรเจนต่อไป
เชื้อเพลิงแบบนี้ทำยาก ถ้าชนกันมา ระเบิดตู้ม น่าจะหนัก ไหนจะการขนส่ง การแปลงอีก แพงยับ
ควรหาแนวทางอื่นได้แล้ว แต่คิดว่า ทางญี่ปุ่นคงรู้แล้วว่ามาผิดทางพอควร
FCEV ระเบิดไม่ได้ครับ
@@PhatrawuthKensomsriระเบิดได้ครับ ความดันในถังขนาดนั้นมีโอกาส
ดู ngv เป็นตัวอย่าง แรงดันน้อยกว่า ยังตูมได้
@@miniandroids9522 ไม่มีทางครับ ถังคนละชนิดกันใน FCEV ไปศึกษาเรื่องไฮโดรเจนก่อนนะครับ
ดื้อนะ เป็นไงล่ะ
อ้าวกลับลำซะงั้น แล้วอย่างนี้คนที่อวยโตโยต้ารอไฮโดรเจนอยู่จะทำยังไงอ่ะ เขาหน้าแหกไปแล้วนะ อย่าหาว่างั้นงี้นะ สมัยก่อนสัก 20 30 ปีเห็นเยอรมันพัฒนา ทั้ง BMW และเบนซ์ แท่นเติมเขาก็มี แต่อยู่ดีๆก็หายไป ตอนนั้นคุ้นๆว่า วิธีการเก็บรักษา กับการโอนถ่ายเข้ารถ มันค่อนข้าง ยุ่งยากและอันตราย
ก็ยังพัฒนาต่อครับ แต่ตอนนี้คงเน้นไปที่รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์แทน เพราะสถานีเชื้อเพลิงน้อยมาก ไม่เหมาะกับรถยนต์นั่ง
พัฒนา ไฮโดรเจน สำหรับพาหนะ เพื่อการพานิชย์ดีที่สุด เพราะไปจุดเติมไฮโดรเจนแน่นอน👍
ไม่ไม่รอด มันเหมาะกับ รถไฟ รถลากพวง เรือ บรรทุก อาไรทีใหญ่ๆพานิช มากกว่ามาใช้ในชีวิตประจำวัน ชิ้นส่วนมันเยอะมากๆ ต้นทุนผลิตก็สูงลิป
ทำไวๆเลยครับ รออยู่
เขาทำรถ ไม่ใช่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ทาง Shell ออกมาแถลงกับ Hydrogen Insight ว่า “Shell ได้ยุติการสร้างปั๊มไฮโดรเจนที่แคลิฟอร์เนียในปี 2023 หลังจากนั้นได้ทำการปิดตัวอย่างชั่วคราวถึง 5 แห่ง จนกระทั่งต้องตัดสินใจปิดปั๊มทั้งหมดอย่างถาวรในปี 2024 เนื่องจากมีปัจจัยอันยากลำบากในการดำเนินการของไฮโดรเจน
แค่ toyota ออกจากแบตนิเกิ้ลเมทรัลไฮไดร์ ก็ยากแล้ว ให้ toyota ออกจาก ice คงยากกว่า
ไม่ไหวอย่าฝืน ทำเป็นตาแก่ดื้อ
สู้รถไฟฟ้าไม่ได้
เขาหยุดผลิตขาย แต่เขาไม่ได้หยุดพัฒนานะครับ ... !!! เกือบทุกบริษัทรถต่างก็มีรถทดสอบไฮโครเจนกันทั้งนั้น ....
ก็ยังพัฒนาครับ ทุกค่ายพัฒนาขุมพลังไฮโดรเจนหมด แต่ค่ายอื่นไม่ได้ให้ความสำคัญมากเท่ารถยนต์ไฟฟ้า BEV ในตอนนี้ ส่วนในอนาคตนั้นยังไม่ทราบได้ครับ
@@CarRaverBEV คือจุดเริ่มต้นแล้วก็เปลี่ยนผ่านเป็น Hydrogen มันหนีไม่พ้นหรอกครับ ขายคู่ขนานกันไปพฤติกรรมผู้ใช้จะเป็นตัวตอบโจทย์เอง แต่ข่าวโบราณมากครับ
@@CarRaver ผมได้ยินเรื่องไฮโดรเจนจากค่ายมาสด้าไม่ต่ำกว่า 30 ปีมาแล้ว และตอนนี้ก็ยังได้ข่าวอยู่ แต่ก็ยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาอยู่ แสดงว่าคงต้องเป็นจริงในสักวันอย่างแน่นอน .. รอกันไป ..!!
สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียเยอะๆ ยุ่นจะได้มีไฟพอใช้และมาพัฒนารถไฟฟ้าซักทีม มีรถไฟฟ้าแต่ไม่มีไฟชาร์จก็ไร้ค่า
ก๊อปมาไม่หมด..ยุ่นปล่อยน้ำนิวเคลียลงทะเลส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แถมโดนเมกาเทไม่เอารถไฮโดเจนมีอย่างเดียวที่ยุ่นจะมีไฟฟ้าพอใช้กับรถ EVคือสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียเพิ่มถ้าซื้อน้ำมันมาปั่นไฟก็เจ้งทั้งประเทศเพราะรถน้ำมันก็ขายได้น้อยลงทุกปี
@@theoneyouknowwhonoonecall5693ผลิต H2 ได้ แต่ไม่มีปัมป์เติม ก็ไม่ต่างกับ ผลิตไฟฟ้าได้แต่ไม่มีสถานีชาร์จ
คิดว่าลงทุนเปิดแบบไหนคุ้มกว่า
ยังดื้อมึนเพื่ออุ้ม เครื่องยนต์สันดาปยุอีก เฮ้อออ😢😢
ไม่ผ่าน,หาที่เติมน้อย,สู้รถไฟฟ้าไม่ได้,
รถไฟ. เครื่องบิน ส่วนตัว รถขุดดิน รถขนส่งขนาดใหญ่ น่าจะเหมาะกว่านะ
มันจะงานง่ายกว่านี้ถ้าพี่โตฯ ออกมาเป็น รถรักโล๊กก รักโลก
Plug-in Range Extended -FCEV
รถไฟฟ้าเสียบปลั๊ก เพิ่มระยะทางด้วยชุดแปลงพลังงานด้วยก๊าซไฮโดรเจน (Fuel cell)
ชื่อยาวดี อลังการทั้งชื่อและราคา
แต่เอางานหยาบ พี่โตฯออก RE-EV(phev+ e-power) แบบรถจีน
หรือแบบ e-power ก็ได้ แล้วพัฒนาระบบปั่นไฟกลับ ให้ได้ไฟมากกว่าของ e-power ก็พอ
ขายดีสุดไม่ใช่จะนำเทรนด์ได้
ตื่นๆๆๆพี่โต ก่อนจะสายเกินไป
ควรตื่นได้แล้ว จะขายอะไรต้องดูกระแสและทิศทางตลาดด้วย ในเมื่อทั้งโลกมุ่งหน้าสู่BEV โตโยต้าก็อย่าฝืน
โตโยต้า ต้องพัฒนา รถเซลล์เชื้อเพลิง จากการเติมน้ำ ถ้าทำได้ ยอดขายดีกว่าไฟฟ้าแน่นอน
ทำไมพี่โตไม่ทำรถบันทุกขนาดใหญ่เหมือนอีซูซุ เคยได้ยินมาว่าฮีโน่เป็นบริษัทลูกของโตโยต้า ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหนอิอิ
โตโยต้าเป็นเจ้าของฮีโน่
แบบนี้นี่เองถึงว่าทำไมเขาไม่มีรถขนาดใหญ่ในแบรนด์โตโยต้า
เมื่อก่อนมีครับ.10ล้อหน้ายาว.ต่อมาเหลือแค่6ล้อรุ่นไดน่า.และร่วมกับไดฮัทสุอีกหลายรุ่น.หลังๆมายกให้ฮีโน่รับหน้าที่ไป
เอาไฮโดรเจนมาติดเครื่องปั่นไฟฟ้าแทนแก๊สธรรมชาติ
/น้ำมันเตา ดีกว่าผลิตมาใช้กับรถเครื่องยนต์โดยตรง,....😅
ส่วนที่ผลิตไฮโดรเจนได้ก็เอามาผลิตไฟฟ้าและเติมรถไฟฟ้าไฮโดรเจนงัยครับเป็นพลังงานต้นน้ำ
มันดื้อไงโตต้า😂
แรงอัด มันน่ากลัว นะสิ
ต่อใหีค่าเชื้อเพลิงราคาถูก ค่าบำรุงรักษาก็ยังแพงกว่ารถไฟฟ้าอยู่ดี
ใครจะซื้อ😢
ยังไง H2 ก็ยังเป็นอนาคตที่ต้องใช้ แต่ตอนนี้เทคโนฯ ยังไม่พร้อม ทั้งราคาและประสิทธิภาพ ที่แม้ปรับปรุงแล้ว ยังอยู่ที่ 30%lost แต่มันก็แก้ได้ด้วยการลดราคา H2(ต่อระยะทาง) ให้ต่ำกว่าน้ำมัน 40% ไม่ใช่วิ่งแพงกว่าน้ำมัน
อีกอย่างคือ ถ้าเทคโนฯการอัดก้อน H2 เป็นแพ็คเปลี่ยนขนาดเล็ก (เหมือนก้อนน้ำแข็งแห้ง) หาและเปลี่ยนเองได้ง่าย เช่นตามศูนย์โตฯ ถ้าทำได้ก็ไม่จำเป็นต้องมีปัํมH2 แต่ทั้งหมดนี้คงอีกนานเป็น 20-30 ปี ประมาณ รุ่นที่5ของพี่โตฯนั่นแหละ
ใช้มูลวัวแทน
พี่โตตื่นแล้ว
เปลี่ยนหัวเรือใหม่ อะไรๆ ก็เปลี่ยนครับ ^^
เน้นโม้ ไม่เน้นขาย
พี่โตรีบขึ้นขบวนเถอะก่อนที่จะตกขบวนหาพันธมิตรที่ทำแบตให้ดีกว่าขายevราคาอาจจะแพงกว่าค่ายจีนแต่เชื่อว่ายังไงก็มีคนซื้อเพราะชื่อเสียงแบรนด์พี่โตขายได้อยู่แล้ว
คุณทำออกมาขายได้แต่ที่สำคัญจะมีคนซื้อคนใหม่
เวลาชนจะเคลมใน้อยกว่าแบตผมว่สน่าจะเป็นทางเลือกนะครับเพราะถ้าราคาเชื้อเพลิงมีราคาถุกรถแบตยังสูงลิ่วอ้อเดอรยังค้างคา