เป็นคน gen z ค่ะ มองว่าสุขภาพจิตสำคัญนะ ถ้าให้วันหยุดเพื่อดูแลสุขภาพจิตหรือสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานไม่ toxic จะทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพเยอะขึ้นแน่นอนค่ะ
@@Parunyupurunyayarunpuyurunpa มันเป็นเพราะว่า gen z ในไทยมันไม่สามารถนับตามแบบสากลได้ gen ในไทยมันจะ late กว่า เพราะเทคโนโลยีมันค่อยๆไหลเข้ามาผ่านคนมีฐานะก่อน ส่วนตาสีตาสาก็เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานแบบเดิมๆไม่ได้เข้าถึงเทคโนโลยีและสื่อใหม่ๆแบบคนรวยในเมือง
ผม gen X ช่วงโควิท นี่จิตตกไปเลยครับ กลัวตกงาน กลัวมากเพราะมีภาระทั้งพ่อแม่ แล้วก็ลูกเมีย ไม่แปลกใจที่ที่ผลสำรวจออกมาว่า gen Y มีความสุขน้อยลง เพราะมันถึงวัยที่เริ่มสร้างครอบครัว แล้วมาเจอความไม่แน่นอนในหน้าที่การงานอีก น่าจะทำให้ตัดสินใจลำบาก ผมว่ามันส่งผลมาถึงจำนวนเด็กเกิดใหม่น้อยลงด้วย
ผมGEN-X ครับ น่าจะแก่สุดในนี้ มองว่าน้อง X Y Z มีความเก่งเฉพาะตัวเอามากๆ จนผมเข้าไม่ถึงจริงๆ ขอชื่นชมน้องๆรุ่นใหม่ เจอความคิดรุ่นเก่าๆอย่าท้อครับ จงทำให้สุดแรงและรับผิดชอบมันให้สุดตัว สู้ๆครับ
การผลัดเปลี่ยนในเรื่องของคนรุ่นเก่าที่หัวแข็ง กับคนรุ่นใหม่ที่ครีเอต มันโหดร้ายมาก ซึ่ง gen y รับความกดดันเป็นทัพหน้าไปเต็มๆ ทั้งการออมเงินน้อยลง เงินเฟ้อ ความต้องการมันสวนทางกับการเงินที่สามารถเก็บได้น้อยลง gen y คนที่มีครอบครัวก็เครียด ความยากลำบากของการเป็นแนวหน้าด้านการนำทิศทางสังคม โดยไร้การสนับสนุนจากคนยุคเก่า เป็นเรื่องที่ดับไฟแรงให้มอดอย่างสิ้นหวัง
เป็นคน gen y ที่เคยเจอกับคน gen z ไม่ใช่ว่าเราไม่ยอมรับความสามารถหรือไม่เปิดช่องทางในการทำงาน แต่ถ้าคน ๆ นั้น เอาแต่คิดว่าอยากมี work life balance แล้วบวกกับคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำดีที่สุุดแล้วไม่เคยทำความเข้าใจกับการถูกประเมินหรือการแก้งาน มัวแต่คิดว่าสิ่งที่ทำดีแล้วอย่างเดียว ทั้ง ๆ ที่คุณเพิ่งจะเข้ามาทำงานในองค์กรไม่ถึงปี มันคือสิ่งที่คน gen x และ y ต้องยอมรับการกระทำนั้นหรือไม่ ความยืดหยุ่นและความปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เรายืนอยู่ ณ ตอนนั้น น่าจะดีกว่าที่จะคิดเข้าข้างแต่้เรื่องตัวเอง เพราะถ้าคุณทำแบบนั้น ก็แปลว่าคุณแค่เป็นคนต้องการแค่ฝ่้ายเดียวหรือไม่ ทำไมคุณถึงไม่มองการทำงานของ gen x และ y ในบางอย่างแล้วเอามาปรับใช้เพื่อจะร่วมงานกันได้อย่างมีความสุข แต่ในทางกลับกับ คนในยุค gen x และ y ก็ต้องไม่วางอำนาจจนมากเกินไปจน gen z เข้าถึงไม่ได้
Thank you for sharing kh😊 💕 Gen Y และ Z จากการสังเกตและประสบการณ์ ทั้งในประเทศไทยและในสวีเดนและประเทศในสหภาพยุโรปอื่น ๆ - พวกเขาผิดหวังได้ง่าย - แล้วนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า .. มาก มากมาย...แม้จะเป็นคนรุ่นที่มีมาตรฐานชีวิตที่ดีแต่ก็ต้องฝึกฝนและจัดการกับจิตวิญญาณของตน ดังนั้น เราจะได้คนรุ่นที่ดีที่สุดมาพัฒนาสังคมให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ✌🌼🌺🌻 Have A Good Day! Best Wishes from STOCKHOLM - SWEDEN
อยากรู้เหมือนกันค่ะ เรา gen x พนักงาน gen y คือปรับกันตลอด เจอประโยคหนึ่ง ทำงานขนาดนี้ ต้องได้… แล้วแหล่ะ เราเลยตอบกลับ ไปเรียน แล้วสอบให้ได้ จะได้เท่าที่ขอมา
อาจจะเป็นเพระเจน Y อยู่ในช่วงระหว่างการเปลี่ยนถ่ายระหว่างยุคของเจน X มาสู่เจน Z เลยค่อนข้างจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้มีที่ๆรู้สึกเป็นของตัวเองอย่างแท้จริง ค่อนข้างที่จะเฉยเมยกับวัฒนธรรมของทั้งสองเจน ระหว่างการเปลี่ยนจากเจน X มาเป็นเจน Z นั่นคือช่วงยุคสมัยของเจน Y ซึ่งเร็วมากเพราะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปค่อนข้างเร็ว เลยจะเหมือนมีความรู้สึกว่าแรกๆเดินๆอยู่ดีๆก็ต้องมาวิ่งช่วงหลัง แต่ก็ดูจะเป็นกลุ่มคนที่ปรับตัวได้ดีที่สุดเช่นกัน ซึ่งน่าจะเป็นข้อได้เปรียบอย่างนึงเพราะโตมากับการเลี้ยงดูของเจน X แต่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับเจน Z เป็นส่วนใหญ่
ไม่แปลกที่ Gen Z จะแฮปปี้ขึ้นค่ะ ทุกคน address ความยากในการรับมือของ Gen Z แต่คนที่รับมือกับ Gen Z คือ Gen Y เวลา Gen Y เครียดไม่มีคนมาดูแล Gen Y ผู้คลั่ง Productivity จึงต้องทั้งทำงานให้ได้ดี ทั้งขยันให้เข้าตา Gen X (เจ้านาย) ทั้งต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้ Gen Z (ลูกน้อง) จึงเครียดมาก
GEN Y อย่างผมจะลาออกจากงาานล่ะครับ สาเหตุคือ เป็นโรคกะเพาะ+กรดไหลลย้อน+แพนิค ไม่หายสักที เครียด อาหารไม่ย่อย เหมือนจะตาย เพราะที่บ้านห้ามให้ลาออกจากงาน
01:00 เกริ่นนำ
03:32 ความกังวล
07:42 ความคาดหวัง
11:10 Financial Concerns
12:37 Work-Life Balance
16:13 Mental Health
17:36 Climate Change
24:26 Key Takeaways
ขอ reference หน่อยครับ
ยากครับ ผมทำงานในหน่วยงาน ราชการ และเคยทำในรัฐวิสาหกิจ เชื่อไหม ค่าแรงรุ่น Babyboomer สูงมาก แต่ Skill ต่ำบ้างคน เปิดคอมไม่เป็น ส่งอีเมลไม่เป็น เงินเดือน 7-8 หมื่น แต่เด็ก GEN Y Z ทำได้หลายอย่างครับ Multi skill แต่ว่า เงินเดือนน้อยมาก แถมตำแหน่งจ้างเป็นชั่วคราว ไม่มีบรรจุประจำง่ายๆเหมือน Babyboomer ผมเลยไม่ชอบ Mindset ผู้ประกอบการว่า Pay by Skill ? ถ้าเอา Pay by Skill คนรุ่นเก่า ตายครับ เงินเดือนน้อยแน่นอน แต่หลักๆ มันเอามาใช้ กับคนรุ่นใหม่ๆแค่นั้นเอง
พึ่งเราทุกอย่างแต่มากะแนะกะแหนเรา บางคนดูถูกเราก็มี มีนะคำว่าเด็กพึ่งเกิดเมื่อวานจะทำอะไรเป็น
ผู้ใหญ่แย่ๆมีเยอะมาก คิดว่า80%เลยที่เจอมา อีก20%คือผู้ใหญ่ที่เก่งจริงมีคุณภาพ แต่โคตรน้อย
อย่างว่าทำไมประเทศชาติไม่เดินหน้าไปไหน babyboomer ดักดานเกินไปที่จะเข้าาใจคนรุ่นหลัง แต่จะพยายามเรียกร้องให้คนอื่นมาเข้าใจตนเอง
แล้วถ้าผู้ใหญ่ที่คุณว่ากาก ทำไรไม่เป็น แล้วเจ้าของจะเก็บไว้ทำซากอะไรครับ เก็บไว้เงินเดือนก็จ่ายให้เยอะ เอามาจ่ายเด็กใหม่ ดีไม่ดี เงินเดือนผู้ใหญ่ที่พวกว่ามาจ้างได้ตั้ง2-3คนเลย มีปัจจัยอะไรหรอครับ ถึงไม่ไล่ออกถ้าทำอะไรไม่เป็นอย่างที่พวกคุณว่า
@@สกรรจ์ยะมาพัฒน์-ภ5ฉ อ่านเม้นจริงมั้ยครับ? หรือเเค่เห็นคำว่า Pay by Skill เเล้วมันไปสกิดปมด้อยเเล้วรีบตอบ? เขาก็บอกอยู่ว่าทำงานในหน่วยงาน **ราชการ**
เป็นคน gen z ค่ะ มองว่าสุขภาพจิตสำคัญนะ ถ้าให้วันหยุดเพื่อดูแลสุขภาพจิตหรือสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานไม่ toxic จะทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพเยอะขึ้นแน่นอนค่ะ
น้องเจน Z เก่งมากครับ ยอมรับเลยว่าเก่งกว่าเจน X เจน Y แต่ สกิลการเอาตัวรอดในสังคม อาจน้อยกว่า การคาดหวังสูง มั่นใจตัวเเองสูง ถ้าเกิดปัญหาในงานจะขาดความมั่นคงในอารมณ์ แพนิคง่าย ความคาดหวังสูง พร้อมทำทุกอย่างเพื่อความสำเร็จ แต่ขาดความรอบคอบ ขาดความยืดหยุน ผ่อนหนักผ่อนเบา อันนี้จากที่เจอกับตัวมานะ
มีความหวังสูง แต่ขาดความมุงมั่น ที่จะทำไห้ได้ ขาดวินั้ย ไม่ค่อยสร้างรากฐานของงาน เผื่อหากผิดพลาดในอนาคต สับสนเปลี่ยนงานบ่อยพลาดก็คือล้มเลย ผมดูรอบๆตัวนะ 20+ไม่เกิน25-26 เอาจริงมันก็เหมือนๆกันทุกสมั้ยนะผมว่า ซึ่งไม่แปลกที่บางแห่ง รับสมัคงาน24-25+หรื่อคนมีภาระ
ผมจำไม่ได้แล้วว่าเห็นกราฟมาจากที่ไหนเหมือนเคบผ่านตา คนเก่งของเจนz เก่งคือเก่งเลยเก่งมาก แต่ถัวเฉลี่ยกลุ่มใหญ่เทียบความเก่งสู้เจนเก่าไม่ได้ มันเป็นความเหลื่อมล้ำกันเองในเจนใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น
@@Parunyupurunyayarunpuyurunpa มันเป็นเพราะว่า gen z ในไทยมันไม่สามารถนับตามแบบสากลได้ gen ในไทยมันจะ late กว่า เพราะเทคโนโลยีมันค่อยๆไหลเข้ามาผ่านคนมีฐานะก่อน ส่วนตาสีตาสาก็เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานแบบเดิมๆไม่ได้เข้าถึงเทคโนโลยีและสื่อใหม่ๆแบบคนรวยในเมือง
คนไหนที่เก่งกว่า Gen XY ส่งมาสักคนเถอะค่ะ มีแต่คิดว่าตนเก่งมาก พอให้งานทำ canva presentation ง่ายๆ บอกเลยต้องเอามาทำเอง แก้สารพัด ผิดหลายจุดๆ ง่ายๆ ก็ ผิด เหนื่อยใจมาก
เจน Z คือไม่มีความอดทน ความสามารถก็งั้นๆ แต่อยากได้เงินเดือนสูงๆ
ผม 21 ปี ก็ gen z
ความเห็นต่อเรื่องเงิน ผมมองว่าเงินเดือนที่เหมาะสมกับงานที่ได้รับ( เอาจริงๆก็อยากได้ 20,000 ขึ้น )และมีเหลือต่อเดือนเป็นสิ่งที่มองหา และวางแผนลงทุนเพื่อต่อเงิน
เรื่องงาน เอาจริงก็อยากได้งานที่ทำน้อยๆอยู่แล้ว แต่จริงๆ 5 วันต่อสัปดาห์ผมโอเคนะ
เรื่องสิ่งแวดล้อมเฉยๆ ไม่ได้กลัวว่าโลกจะเป็นอะไร แต่ถ้ามีอะไรที่ช่วยสิ่งแวดล้อมก็ชอบเช่นกัน และก็ไม่จำเป็นต้องไปสุด รวมๆเฉยๆ
เรื่องสุขภาพจิต อันนี้ก็มีตลอดนะบางทีเครียดง่าย แต่ก็มีวิธีจัดการ เลยไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เลยพยายามชิว
.
ขอบคุณที่สร้างเนื้อหาน่าสนใจครับ
สวัสดีครับ ผมเป็นหนึ่งใน Gen Z ในมุมมองของเราครับ
1.ด้านชีวิตและการทำงาน : Gen Z ขึ้นไปเติบโตขึ้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีและโลกที่เปิดกว้างทุกอย่างเชื่อมถึงกัน พวกเราใช้ชีวิตท่ามกลางสังคมที่ทุกอย่างพร้อม เช่น การเข้าถึงข้อมูล เทคโนโลยี การแข่งขันสูง มีโอกาสมาก และด้วยความที่ทุกอย่างเร็วไปหมดนั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องปรับตัวตลอดเวลา ถ้าไม่ปรับตัวเราก็จะล้าหลัง จึงเป็นเหตุผลที่เรามีทางเลือกในงาน บริษัท รูปแบบงาน WFH, Office, Remote working ( ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่มีความอดทน )
พวกเราแค่ คือ วัยที่กำลังหาตัวเองกับงานให้ตอบโจทย์ Career path ในปัจจุบันและอนาคต นี่คือสิ่งที่อยากให้ Gen อื่นเข้าใจ
2.ด้านการเงินและเศรฐกิจ : สำหรับ Gen Z อย่างพวกเราดันตกไปอยู่ในจังหวะเวลา ที่ปัจจุบันเข้าสู่ช่วงเศรษฐกิจถดถอยและจะตกต่ำ เผชิญกับดอกเบี้ยสูง เงินเฟ้อ ค่าครองชีพสูง รายได้ต่ำ ราคาสินค้าที่แพง เป็นต้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่วัยพวกเราสร้างตัวกันยากมาก ต้องขวนขวายในการสร้างช่องทางรายได้หลายทาง ไม่ได้ง่ายเลย การจะมีบ้าน รถ หรือ Lifestyle ในวัยเราจึงทำให้เกิดการสร้างหนี้สินจำนวนมากเพื่อให้สามารถเป็นส่วนหนึ่งกับสังคมที่มีการแข่งขันและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้ และผลกระทบในโลกอีกมากมาย
3.ด้านสุขภาพและความสัมพันธ์ : ไม่แปลกเลยที่วัย Gen Z อย่างพวกเราจะเจอกับปัญหาสุขภาพ ความสัมพันธ์และความเครียดสูง ด้วยความที่มิติในด้านต่างๆของชีวิตหนักขนาดนั้น เรียนจบมาหรือเริ่มต้นทำงานก็ต้องเจอกับปัญหาชีวิตและสังคมที่หนักอึ้งแล้ว เจอกับความคาดหวังตลอดเวลา การจะเป็นส่วนหนึ่งในสังคมโดยที่ยังสามารถถูกยอมรับและเติบโตไปได้ไม่ง่ายเลยจริงๆ
สิ่งที่กล่าวมานี่แค่มิติด้านใหญ่ๆที่ทุกคนเจอครับ แต่ถ่ายทอดผ่านมุมของ Gen Z กับสิ่งที่พวกเราเผชิญกันอยู่
ยังไม่รวมถึงความเหลื่อมล้ำของสังคม รัฐบาล ความเท่าเทียม หรือสิทธิการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน เป็นต้น
และนี่สิ่งที่พวกเราอยากให้พวกคุณเข้าใจครับ
เติมให้ครับ genz รู้เยอะแต่ไม่ active ห่าอะไรเลย พยายามหาตัวตนเพื่อออกจาก circle น่าเบื่อโง่ๆกับงานประจำ อยากรู้ว่าช่วงชีวิต และตัวตนตัวเอง เลยไปหาดูดวงกับ mbti ปัญหาอ่อนทั้งหลาย ผมบอกให้มันผิดทาง whatever ยิ่งคุณหาคุณจะไม่เจอ หัดพึ่งอะไรที่จับต้องไม่ได้บ้างนะ สำหรับผมเข้าวัดก็เหมือนตัวเย็นมีออร่าแล้วครับ
เถียงผู้ใหญ่ชนะ แล้วมาเจ็บปวดเอง มันไม่เท่ห์ครับ เจ็บปวดต่อไป
สวัสดีครับ เราเห็นว่าควรเปลี่ยนให้รู่นใหม่ได้ทำงานดูบ้างแล้วให้คุณลุงคุณป้าคุณพ่อคุณแม่คอยให้กำลังใจตรงไหนควรทำตรงไหนไม่ควรทำจะดีครับ ให้โอกาศรุ่นใหม่เพราะยังไงพวกเขาก็ต้องขึ้นมาแทนเป็นเสาหลักของครอบครัวอยู่แล้วรครับ คนไหนถนัดงานไหนก็ทำงานนั้น ไม่บังครับว่าต้องทำงานที่เราไม่ถนัด ถ้างานที่เราไม่รักเราจะไม่มีความสุขในการทำงานนั้น😊
@@mackwizard392เหยดๆๆๆๆ ครับคนเก่ง ว้าวๆๆๆๆๆ แล้ววัดจับต้องได้ปะ ศาสนาจับต้องได้ปะ สิ่งที่คนรุ่นเก่า(คุณ) ไม่มีคือไม่มีหัวคิด ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ อยู่แต่ในกรอบ ไม่รู้จักเคารพสิทธิ์ผู้อื่น ทำตัวเป็นอีแก่แย่งอากาศคนอื่นหายใจไปวัน ๆ คหสต.คร้าบบบบ🥰🥰
@@mackwizard392ที่บ้านก็มีเข้าวันทำบุญแต่ทิ้งหนี้11ล้านไว้ให้เด็กอายุ19แล้วให้เห็ตผลว่าก็ทำไม่ไหวแล้วอะให้ทำไง ไม่อยากจะให้เอาเรื่องนี้มาพูดเลยจริงๆอะไรที่จับต้องไม่ได้ที่ว่าเนี่ยอีกอย่างทุกGไม่ว่าจะเป็นGไหนก็ควรให้ เกียรติกันดีกว่านะแล้วการที่เราเชื่อในสิ่งที่จับต้องได้ก็เป็นเรื่องที่เรามีเหตุผลของเราค่ะ
@@Nero20021 ผมจะสื่อว่าถ้าคุณ manage การจัดการในความเป็นจริงของคุณไม่ได้ คุณแค่ไม่เจอแพทเทิ้ลตัวเองอะครับสำหรับผม แพทเทิ้ลคุณคือะไร? คุณก็แค่ฮาร์ดแวร์อะครับ หาซอฟต์แวร์ตรงรุ่นตัวเอง ไม่เจอ ผมมองคนแค่สถิติอะครับ บางคนก็ตายห่าก่อนจะรู้แพทเทิ้ลตัวเอง สรุปคือเสียชาติเกิดนะครับสำหรับผม ปลดบล็อคสมองให้ผมนิสนึงนะครับ
เรามองว่าGenz ก่ำกึ่งกับยุคสมัยอะ ทั้งเก่าและใหม่ คือบางคนติดหัวโบราณ ในขณะที่บางคนหัวสมัยใหม่ มันอยู่ที่พ่อแม่เด็กๆด้วยนะ เป็นยุคที่ให้สำคัญกับการเรียนที่สุดนะ ซึ่งถ้าบ้านเด็กคนไหนไม่ได้ร่ำรวยก็ยอมเป็นหนี้เพื่อการศึกษา ยุคที่การจัดตั้งรัฐบาลมีปัญหาด้วยอะ ซึ่งไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง ถ้าเป็นรุ่นก่อนgenz คือทุกคนจะให้ความสำคัญกับการทำงานหนักใช่มั้ย คนทำธุรกิจบางคนเรียนจบไม่สูง เอาจริงๆ คนGenz ให้ความสำคัญของการเรียนสูงๆมากกว่าการกระทำนะ พูดง่ายๆคือส่วนใหญ่เด็กgenzจะเรียนปตรีกันเยอะ ความน่ากลัวของเราที่เกิดgenนี้คือออ ถ้าเลือกผิดทางล่ะจะเป็นยังไง ระหว่างทุ่มเทกับการเรียนไปเลย หรือทุ่มเทกับการหาประสบการณ์ดีกว่า มีโซเชียลมีเดียที่พัฒนาซึ่งเป็นเครื่องมือตัวดีของการเปรียบเทียบกันได้ง่ายๆเลย คนนี้เรียนจบสูง คนนั้นประสบความสำเร็จ คนนี้สวย คนนั้นรวย การแข่งขันสูง ความกดดันเยอะ มันแอบหว่าเหว่จริงๆนะ ตอนนี้เรา21ปีค่ะ เครียดมากๆ
ผม gen X ช่วงโควิท นี่จิตตกไปเลยครับ กลัวตกงาน กลัวมากเพราะมีภาระทั้งพ่อแม่ แล้วก็ลูกเมีย ไม่แปลกใจที่ที่ผลสำรวจออกมาว่า gen Y มีความสุขน้อยลง เพราะมันถึงวัยที่เริ่มสร้างครอบครัว แล้วมาเจอความไม่แน่นอนในหน้าที่การงานอีก น่าจะทำให้ตัดสินใจลำบาก ผมว่ามันส่งผลมาถึงจำนวนเด็กเกิดใหม่น้อยลงด้วย
ผมเชื่อว่าอย่างนึงคือคนสมัยใหม่เขารู้ว่าต้นตอของปัญหาต่างๆมาจากอะไร ชีวิตคนๆคนนึงต้องใ้ชทรัพยากรต้นทุนในมิติต่างๆเยอะมากถึงจะมีชีวิตที่ดีได้ และเมื่อรวมกับความต้องการของตัวเองการอยากมีครอบครัวตามช่วงวัย(ตามยีนส์ตามช่วงจิตวิญญาณ) อยากให้ลูกได้ดี มันกลายเป็นความไม่พร้อมและความกดดันในชีวิต ทำให้พวกเขาต้องเครียดและสับสนต่อการก้าวไปในชีวิต
ผมGEN-X ครับ น่าจะแก่สุดในนี้ มองว่าน้อง X Y Z มีความเก่งเฉพาะตัวเอามากๆ จนผมเข้าไม่ถึงจริงๆ ขอชื่นชมน้องๆรุ่นใหม่ เจอความคิดรุ่นเก่าๆอย่าท้อครับ จงทำให้สุดแรงและรับผิดชอบมันให้สุดตัว สู้ๆครับ
GEN Z บวกเลขยังไม่เป็น ต้องหยิบมือถือขึ้นมากดเครื่องคิดเลข GEN Z อยากรวยเร็วอยากเงินเดือนสูงๆ แต่ไม่อยากเรียนไม่อยากทำงานหนัก
@sutheeinkaew9212 ลุงนี่มีปมกับเด็กนะ
ความเปลี่ยนแปลงแค่ระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี คนเจน Y น่าจะรู้สึกได้ว่า เมื่อก่อนเราเป็น First Jobber เงินเดือนไม่ได้เยอะ แต่สามารถใช้ชีวิตได้มากกว่าปัจจุบันนี้ ทุกวันนี้เดือนเยอะขึ้น แต่ความสุขน้อยลง ใช้ชีวิตได้น้อยลงกว่าเมื่อ 8 - 9 ปี ก่อนอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนตัวเพิ่งจบเครียดกับเงินมากเห็นเงินเดือนมาก เห็นเเล้วน้ำตาไหล 😂 มันแทบจะไม่ขึ้นเลยเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อ
15000 11ปีที่แล้ว ตอนนี้ก็15000
เอาง่ายๆ ออกกฎหมายรแงงาน ให้ภาคเอกชน ทำงาน 5 วันหยุด สองวันครับ ไม่จำเป็นต้องหยุดเสาร์อาทิตย แต่ต้องได้หยุดสัปดาห์ละ 2 วัน ถ้าเอกชน 6 วันหยุด 1 มันก็ แก้ปัญหาหลายอย่างไม่ได้ครับ คนก็ไม่อยากมีลูกกัน ค่าแรงถ้าขึ้นไม่ได้ ก็ต้องลดเวลาการทำงานลงครับ ค่าแรงก็ไม่ขึ้น ชั่วโมงการทำงานก็ไม่ลด นายทุนสบายฝ่ายเดียวเลย ไตรภาคี เอาจริงๆ ฝ่ายลูกจ้างไม่มีน้ำหนักมากหรอกครับ ฝ่ายผู้ว่าจ้าง ได้เปรียบตลอด
ลาคลอด 3 เดือน? สำหรับพนักงาน
ผู้บริหาร ลาไปดิ
และเคยเสนอกฎหมายเข้าไปแล้ว สมัยประยุทธ์เป็นนายก โดนประยุทธ์ปัดทิ้ง
ไม่ดีเดี๋ยวนายจ้างย้ายฐาน
บางบริษัทยังไม่ให้ ot ทั้งที่ผิดกฏหมายแรงงานอะ
@@ggcway ลาออกไปเถอะ เอกชนบอก ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องมาทำงาน นอนรอรัฐสวัสดิการไปดิ
Work from any where ตอนนี้มีความสุขมาก ไม่ต้องไปเจอรถติด
องค์กรไหนมีแบบนี้โครตดี
ทำงานเดียว ไม่พอใช้
Second jobs พอใช้แต่ไม่มีเก็บ
Third jobs พอจะมีเก็บ แต่โ-ตรเหนื่อย 😢
เป็นผมให้แนะนำนะ ทำหลายอย่างมันเหนื่อย ถ้ามีหนทาง สร้างทักษะเดียวแล้วหาเงินได้ผ่านความคาดหวังจะดีกว่ามาก คือเน้นเรื่องเดียวรายได้พอรับได้สำหรับคนมีหนทางดีกว่า ไปลองทำหลายๆอย่างครับ
ผมเกิด 2533 ผมให้ความสำคัญกับ work life balance มาก ปีนี้บริษัทให้เข้าทำงาน 100% แล้วเงินเดือนก็ขึ้นน้อย ลดคอส์ททุกอย่างเอามาเป็น kpi มีแผนหางานใหม่
ตอบในฐานะ millennial นะครับ
- Work places สำคัญมาก ถ้าต้องทำงานในออฟฟิศ100% จะพิจารณาเยอะมากว่าจะเลือกที่นี่มั้ย
- เวลาในการทำงานที่ยืดหยุ่นก็สำคัญครับ
ส่วนตัวสามารถทำงานได้ทั้งวันทั้งคืน ในวีคที่บางช่วงWorkloadมากๆ แต่ต้องมีช่วงเบรกระหว่างสัปดาห์
- empathy สำคัญมาก อยากให้นายจ้างหลายๆที่ คัดหัวหน้างานที่มีEmpathyเข้ามาเป็นเกณฑ์ครับ
จากใจ Millennials เลิกเสพ social ฟัง podcast น้อยลง แล้วมาอ่านหนังสือแทน ช่วยได้เยอะเลย เพราะพอไม่เทียบพอใจแค่เท่าที่มีคือโค่ดสบายใจ ใครร้ายมากเกินก็แค่ย้ายงานอ่ะ
การผลัดเปลี่ยนในเรื่องของคนรุ่นเก่าที่หัวแข็ง กับคนรุ่นใหม่ที่ครีเอต มันโหดร้ายมาก ซึ่ง gen y รับความกดดันเป็นทัพหน้าไปเต็มๆ
ทั้งการออมเงินน้อยลง เงินเฟ้อ
ความต้องการมันสวนทางกับการเงินที่สามารถเก็บได้น้อยลง gen y คนที่มีครอบครัวก็เครียด
ความยากลำบากของการเป็นแนวหน้าด้านการนำทิศทางสังคม โดยไร้การสนับสนุนจากคนยุคเก่า เป็นเรื่องที่ดับไฟแรงให้มอดอย่างสิ้นหวัง
Gen z ค่ะ ต้องดิ้นรนมากค่ะ ทำงานอิสระจนได้เงินมากกว่าเงินเดือนประจำ แต่เลือกทำงานกระจายๆไปค่ะ กลัวความเสี่ยงถ้าเราทำงานที่เดียว แพนิคเกี่ยวกับอนาคตมากค่ะเพราะโควิดรอบก่อน ถึงแม้ว่าปัจจุบันการเงินจะค่อนข้างดี ทำงาน6-7 วันค่ะ🥹
เป็นคน gen y ที่เคยเจอกับคน gen z ไม่ใช่ว่าเราไม่ยอมรับความสามารถหรือไม่เปิดช่องทางในการทำงาน แต่ถ้าคน ๆ นั้น เอาแต่คิดว่าอยากมี work life balance แล้วบวกกับคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำดีที่สุุดแล้วไม่เคยทำความเข้าใจกับการถูกประเมินหรือการแก้งาน มัวแต่คิดว่าสิ่งที่ทำดีแล้วอย่างเดียว ทั้ง ๆ ที่คุณเพิ่งจะเข้ามาทำงานในองค์กรไม่ถึงปี มันคือสิ่งที่คน gen x และ y ต้องยอมรับการกระทำนั้นหรือไม่ ความยืดหยุ่นและความปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เรายืนอยู่ ณ ตอนนั้น น่าจะดีกว่าที่จะคิดเข้าข้างแต่้เรื่องตัวเอง เพราะถ้าคุณทำแบบนั้น ก็แปลว่าคุณแค่เป็นคนต้องการแค่ฝ่้ายเดียวหรือไม่ ทำไมคุณถึงไม่มองการทำงานของ gen x และ y ในบางอย่างแล้วเอามาปรับใช้เพื่อจะร่วมงานกันได้อย่างมีความสุข แต่ในทางกลับกับ คนในยุค gen x และ y ก็ต้องไม่วางอำนาจจนมากเกินไปจน gen z เข้าถึงไม่ได้
คนจิตตกเยอะจนน่ากลัวครับ อัตราเจอคนสติแตกก็สูง ความไว้ใจระหว่างผู้คนต่ำจนคนจำนวนมากเลือกที่จะไว้ใจคนแปลกหน้าที่ห่างไกลอย่างเช่นสตรีมเมอร์มากกว่าคนในครอบครัวตัวเอง หลังจากสัมผัส WFH แล้ว คนจำนวนมากอยากที่จะใช้ชีวิตแบบ WFH มากกว่า วัฒนธรรมการทำงานรูปแบบเก่า(บริษัทที่ไม่ยอมปรับเปลี่ยน) ไม่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ เพราะระดับสติปัญญาของคนรุ่นใหม่สูงขึ้นจึงไม่อาจจะยอมรับความไม่เป็นธรรมได้ การเดินทางส่งผลต่อสมดุลชีวิตอย่างมาก บางคนเดินทางวันละ 2-4 ชั่วโมงในการไปกลับจากที่พักและที่ทำงาน หมดวันก็หมดแรงแล้ว เพราะว่าเวลาในการพักผ่อนและดูแลตัวเองต่ำ โอกาสที่จะใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพก็มีน้อยลงด้วย ส่งผลให้เกิดปัญหาทางการเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าสามารถลดเวลาที่สูญเปล่าไปได้ ลดชั่วโมงการทำงานได้ มีการฝึกอบรมให้ความรู้ในการใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัญหาเรื่องสุขภาพจิตและการเงินจะแก้ง่ายขึ้นครับ ส่วนเรื่องพนักงานพาร์ทไทม์หรือฟรีแลนซ์ ผมคิดว่าใช้ระบบ contribution เพื่อเพิ่มค่าตอบแทนหรือมอบโบนัสก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ
แล้วคนgenz จะโดนคนgen y บอกว่าไม่ค่อยมีความอดทน ซึ่ง คนgen y เค้าผ่านอะไรมาหนักหน่วง ครูที่อยู่gen y (บางคน) จะพยายามดึงศักยภาพเด็กgenz สูงมาก เพราะเด็กเกิดgenzเกิดมาในยุคที่สบายแล้ว การแข่งขันสูง ถ้าคนgenzคนไหน ไม่มีศักยภาพพอ สู้เพื่อนไม่ได้ คนนั้นก็ใจฟ่อไปเลย เฟลไปเลย สิ่งที่ควรลดจริงๆ คือควรลดความกดดันของเด็กgenz แล้วให้กำลังใจมากกว่า
- ยุคพ่อแม่เรา เราสงสารเขาที่ต้องใช้แรงงานหนักเพื่อที่จะมีกินมีใช้ การสื่อสารลำบาก ข้อมูลไม่มี การพัฒนาในอาชีพมีน้อย แต่เขาก็ยังมีที่ทำมาหากินและอยู่มาได้ ความเคลียดเรื่องความคิดและอารมณ์จึงไม่ค่อยเกิดยังเชื่อในความพยายาม ทำมากได้มากทำน้อยได้น้อย
- ยุคของเราเป็นยุคที่เริ่มมีการแข็งขัน การสื่อสาร การเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลงจากการใช้แรงงานไปสู่การใช้สมองความรู้ข้อมูล เป็นยุคที่อยากเปลี่ยนแปลง มีไฟสูง เป็นยุคที่สามารถจบจากโรงเรียนวัดแล้วสามารถหากินได้ ยังพอมีบ้านพร้อมที่ดินที่ยังพอผ่อนจ่ายเป็นที่อยู่อาศัยได้ ยังมีความเชื่อว่าทำดีได้ดี ถ้าขยันก็ไม่มีวันอดตาย
-ยุคลูกเป็นยุคที่ข้อมูลการสื่อสารมากมาย การแข่งขันที่สูงมาก มีทั้งโลกเสมือนจริงที่ไม่จำเป็นต้องอยู่กับโลกความเป็นจริงเลยก็ได้ สามารถอยู่คนเดียวในห้องเป็นเดือนๆเป็นปีๆโดยไม่ต้องสื่อสารกับใคร ขอแค่มีโลกเสมือนจริงให้สิงห์ ไม่มีที่ให้ทำมาหากินเหมือนยุคพ่อแม่ ราคาที่อยู่อาศัยก็สูงเกินจะไขว่คว้าได้ ทำให้ท้อ จบจากโรงเรียนวัดไม่สามารถใช้ทำมาหากินได้อีกต่อไป ความเคลียดสูงจนบางคนยอมที่จะไม่สู้ อยู่ไปวันๆ ไม่หวังไม่แข่ง ความเชื่อแทบจะไม่มี เป็นยุคที่น่ากังวลมาก ปัญหาเรื่องสุขภาพจิตเป็นปัญหาอันดับแรกของคนยุคนี้
ผมว่าเป็นวัยกำลังดี เพราะวันที่เขาเติบโตคือวันที่เศรษฐกิจโลกดีขึ้น ดังนั้น หาโอกาสในการหาเงินให้ได้มากๆ
เศรษฐกิจโลกดีขึ้น คือไม่ได้ดูข่าวสารเลยใช่ไหม เศรษฐกิจโลกมีแต่ทรุดไม่มีวันดีขึ้นอีกแล้ว ตอนนี้ทั่วทุกมุมโลกมีแต่สงคราม สงครามทหาร สงครามการค้า สงครามเศรษฐกิจ
ข้อมูลที่ นำเสนอดีมากๆสำหรับคนที่ทำธุรกิจครับ เพราะสามารถเข้าใจหัวอกลูกจ้างได้อย่างดีเพราะไม่ว่ายังไง บริษัทก็ต้องรับพนักงานรุ่นใหม่ๆเสมอครับ
ผมเจน X แต่ทำงาน แบบ Y Z เราทำงานร่วมกัน รวมกันแล้วสุดจริงๆน้องๆ
สุขภาพจิตสำคัญสุด🙏
Thank you for sharing kh😊 💕 Gen Y และ Z จากการสังเกตและประสบการณ์ ทั้งในประเทศไทยและในสวีเดนและประเทศในสหภาพยุโรปอื่น ๆ - พวกเขาผิดหวังได้ง่าย - แล้วนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า .. มาก มากมาย...แม้จะเป็นคนรุ่นที่มีมาตรฐานชีวิตที่ดีแต่ก็ต้องฝึกฝนและจัดการกับจิตวิญญาณของตน ดังนั้น เราจะได้คนรุ่นที่ดีที่สุดมาพัฒนาสังคมให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ✌🌼🌺🌻 Have A Good Day! Best Wishes from STOCKHOLM - SWEDEN
เจน C. ที่ไม่จบ ม.6 สำรวจด้วยหรือไม่ครับ ถ้าตกสำรวจ กล่มนี้ก็เป็นกล่มใหญ่มากนะครับ ดูจากจำนวนคนจบมหาลัย ต่อปี กับจำนวนคนเกิดก็พอรู้จำนวนครับ
z ครับหอยหลอด
อยากรู้ งานที่ดี เงินที่ดี ของแต่ละ Gen คืออะไร เท่าไหร่ แล้วรายจ่ายแต่ละรุ่นคือเท่าไหร่ จ่ายค่าอะไรออกไปบ้าง เอามาเทียบกัน
แล้วซอยเวลา 24 ชม แต่ละ Gen ใช้ทำอะไรบ้าง
คนที่อยูแล้วแบ่งเป็นช่วงอายุว่าที่ผ่านมาช่วงอายุเท่านี้ๆ เค้าทำอะๆรกันบ้าง ในคนแต่ละ Gen
อยากรู้เหมือนกันค่ะ เรา gen x พนักงาน gen y คือปรับกันตลอด เจอประโยคหนึ่ง ทำงานขนาดนี้ ต้องได้… แล้วแหล่ะ เราเลยตอบกลับ ไปเรียน แล้วสอบให้ได้ จะได้เท่าที่ขอมา
ขนาดวัยรุ่นที่สิงคโปร์ยังอยากย้ายประเทศกันเลย บ้านแพง จะมีรถต้องเสียอีกหลาย
ไม่ต่างจากไทย
รพ มีคนแผนกเดียวกันลาออกพร้อมกัน 5 คน
เพราะ ระบบงานที่ขาด work life balance
ทำงานในเวลา => อยู่เวรนอกเวลาทั้งคืน => ทำงานต่อในเวลา
ไม่มีเวลาพัก
ไม่มีเวลาให้ไปประชุมเพิ่มความรู้
มาบังคับให้ไปเรียนต่อไม่งั้นไม่เพิ่มเงินเดือนให้
หัวหน้าแผนกถามว่าทำไมลาออก เขาก็ไม่บอกสาเหตุที่แท้จริงกันหรอกค่ะ เพราะเคยบอกไปมานานก่อนออกเขาก็ไม่เคยสนใจ ยังบังคับให้ทำตามที่เขาสั่ง พูดมากก็กลายเป็นตัวปัญหา
ผบห. เจนวาย บอก รายได้ก็เยอะนะ บางคนได้เกือบแสนต่อเดือน
ได้แต่คิดในใจว่า คุณหารชั่วโมงการทำงานก่อนสิคะ ได้เงินออกมาคิดเป็นชั่วโมงละกี่บาท
และเขาโดนบังคับทำโอที บ้านช่องไม่ต้องกลับ
คนเขาก็มีครอบครัว แม้เขายังไม่มีลูกก็มีพ่อแม่ที่สูงวัย แล้วไหนจะกิจธุระส่วนตัว
ที่สำคัญยังคิดว่า ลาออกก็แค่เปิดรับคนจบใหม่ ให้เงินซักก้อนไว้ทำสัญญาสัก 2 ปี
ทั้งที่งานมันต้องใช้ skill ต้องมีประสบการณ์ จบใหม่ได้แค่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ทำอะไรยังไม่เป็นก็ต้องมีคนจบมานานแล้วคอยฝึกสอน นี่คนสอนก็ลาออกไปด้วย
ผบห. Mindset severe มากค่ะ พอไปคุยด้วยก็มองว่าเราเป็นตัวปัญหา โดนนั่นโดนนี่เยอะไปหมด ขนาดคนลาออกไปเป็นโขยง ก็ยังมาโทษว่าเราเป็นตัวปัญหาทำให้พวกเขาลาออก
ขอเงียบดีกว่าค่ะ
และมีอีกประเด็นคือ
หลังจากโควิดใหญ่ 2 ปี
หลายคนที่รู้จักก็จะพยายามกลับไปอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด
ไม่ว่าจะย้ายงานกลับภูมิลำเนา (ถ้าหางานได้)
เลือกงานใหม่ที่ได้มีเวลาใช้ชีวิตกับพ่อกับแม่ที่เกษียณแล้ว มีเวลาให้กับครอบครัว
ไม่อยากเป็นแบบบางคนที่ทำงานหนักไม่ค่อยได้กลับบ้าน กลับอีกทีงานศพพ่อแม่ หรืองานศพก็ไม่ได้กลับแบบช่วงโควิด
เดอะ สแตนดาร์ด
มีฐานข้อมูลผู้ติดตามมาก
น่าจะทำผลสำรวจคนไทยที่สำคัญได่
วัย/เรื่อง ต่างๆ
ลองต่อยอดดู
ผมเจน Y ตอนปลายๆ คาบเกี่ยวกับ Z รู้สึกตรงนะ
เข้าใจเห็นใจคนยุคนี้ genZ คงต้องถูกบอกให้ปลงกับการเป็นไปในปัจจุบัน ที่ดิฉันมองว่าต่างจากยุคดิฉันบูมเมอร์มาก จนดิฉันก็ไม่อาจเข้าใจสถานการณ์ได้แท้จริงว่าจะเปลี่ยนไปในแนวทางลบอีกเท่าใดสำหรับgenZและต่อๆไป แต่ก็คิดว่าถ้าสู้ สู้ได้
ถ้าสมัครงาน แล้วเจอคำว่า
ทนต่อแรงกดดันสูงได้
ผมปัดออกเลยครับ
ไม่ใช่ไม่สู้งาน ทำงานหนักได้ ทำตลอด
แต่งานหนักและมีความกดดัน ปั่นประสาท มันให้ผลเสียในระยะยาว
ทั้งคนทำงานและองค์กร
ขอเป็นกำลังใจให้น้องเจน z จากพี่เจน y ที่เกือบตายเพราะเครียดเรื่องงานจนเป็นซึมเศร้าขั้นรุนแรง
ในฐานะ Gen Z มองว่าอยากมีการตัดสินใจในชีวิตตัวเองได้ ไม่ได้หมายถึงการเอาแต่ใจนะ แต่มันคือการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม
ถ้าจะให้เจน Z ทำงานหนัก อดทน หรืออะไรก็ตามที่คนเจนก่อนๆ ทำแล้วมองว่าเจน Z ขาดไป ก็ต้องเอาความยืดหยุ่นในเวลาและสถานที่ทำงาน วันหยุด หรืออะไรต่างๆ มาแลกไป เพราะยิ่งมันเป็นโลกออนไลน์ที่ข้อมูลทุกอย่างเข้าถึงได้หมดแบบนี้ คนเจน Z รู้อยู่แล้วว่าทำอะไรแล้วในสุดท้ายมันจะเป็นยังไง ถ้ามันไม่คุ้มค่าที่จะแลกแล้วทำไมถึงต้องยอมเสียล่ะ อย่าเอาหมูกระทะชาบูมาแลกเลย หรืออย่างน้อยๆ ก็ให้ทำงานตามกรอบงานก็ยังดี ไม่ใช่ให้ไปทำอันนั้นที อันนี้ที ที่มันไม่ได้เชื่อมโยงกันน่ะนะ
แน่นอนว่าทุกคนอยากพัฒนาตัวเอง แต่ก็มีความคาดหวังว่าการพัฒนานี้จะมีความหมาย ถ้าบริษัทหรือผู้บริหารมองไม่เห็น มันก็จะนำไปสู่ Laying Flat หรือ Quiet Quitting เอง
และสุดท้ายทุก Generation และเชื้อชาติ มันก็จะมีคนที่มองโลกอีกแบบนึงเสมอ มีคนสุขก็ต้องมีคนทุกข์ มีคนสำเร็จก็มีคนล้มเหลว หวังว่าวันนึงทุกคนจะเจอจุดสมดุลในชีวิตตัวเองครับ
ขอบคุณคุณเคนค่ะ👑
Gen zก็ทำงานเก่งครับ แต่เขาใจไม่อด กับความ ไม่ยุติธรรมในองค์กร ความคุ้มทุนของพวกเขา เป็นหลัก ต่อไปพวกเขาจะตกงานแน่ๆเพราะจะต้องได้อยู่กับ Ai
องค์กรมีนโยบายนืดหยุ่นอยู่ wfh ได้ แต่ “ดุลพินิจ” ของหัวหน้าทีม ที่ยังจมปลัก บอกว่าไม่ให้ wfh…. ทั้งๆที่เข้ามา กูก็ทำเหมือนถ้ากูทำตอนอยู่บ้าน หัวหน้ายุคบูมเมอร์คือ ตันต่อการพัฒนาแล้ว คุยอะไรก็ใช้เวลามากขึ้นเพื่ออธิบายว่ากลไกของยุคนี้มันเชื่อมโยงแบบใหม่ไปนานแล้ว
อาจจะเป็นเพระเจน Y อยู่ในช่วงระหว่างการเปลี่ยนถ่ายระหว่างยุคของเจน X มาสู่เจน Z เลยค่อนข้างจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้มีที่ๆรู้สึกเป็นของตัวเองอย่างแท้จริง ค่อนข้างที่จะเฉยเมยกับวัฒนธรรมของทั้งสองเจน ระหว่างการเปลี่ยนจากเจน X มาเป็นเจน Z นั่นคือช่วงยุคสมัยของเจน Y ซึ่งเร็วมากเพราะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปค่อนข้างเร็ว เลยจะเหมือนมีความรู้สึกว่าแรกๆเดินๆอยู่ดีๆก็ต้องมาวิ่งช่วงหลัง แต่ก็ดูจะเป็นกลุ่มคนที่ปรับตัวได้ดีที่สุดเช่นกัน ซึ่งน่าจะเป็นข้อได้เปรียบอย่างนึงเพราะโตมากับการเลี้ยงดูของเจน X แต่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับเจน Z เป็นส่วนใหญ่
ผมขอถามแต่ว่า ทำไมรุ่นปู่ เงินเดือนออกซื้อทองได้ แต่รุ่นนี้เงินเดือนออกทองสักสลึงยังไม่ได้ เกิดจากอะไรครับ
สมัยก่อนทอง บาทละ 6,000 บาท แล้วขึ้นเป็น 8,000 บาท 12,000 ตอนนี้ไม่อยากคิด
ช่วงที่พ่อผมซื้อทองได้ แม่ทำชายก๋วยเตี๋ยว พ่อทำโรงหล่อเหล็ก ช่วงนั้น งาน OT มาเยอะ ถ้าทำงานเก่งมีผลผลิต จะมีรายได้ดีครับ ส่วนคนขายของ มีเงินหมุนเพราะคนที่ทำ OT มักจะซื้อของกินเพิ่มอีกมื้อนึง
ขอบคุณค่ะ🙏❤️
ถ้าเก่งจริงจะกังวลกับการใช้ชีวิตทำไม ??
ไม่ต้องแบ่งรุ่นไหน เป็นรุ่นไหนหรอก ถ้าไม่เข้าใจชีวิตลำบากทุกรุ่น😃😃😃
ทุกเจนต้องมาสายเกษตรดิจิตอลผสมผสานงานหลักไร้กังวลลดรายจ่ายสร้างรายได้ยังขาดตำแหน่งอีกนับล้านอย่างสายทุเรียนและการแปรรูปส่งออก
อยากให้มี empathy เราเจอหัวหน้ากับเพื่อนร่วมงานไม่มีอันนี้แล้วเครซี่มากค่ะ😂 ที่ทำงานเรายืดหยุ่นพอสมควรยอมรับว่าช่วงที่ wfh มีความสุขที่สุดค่ะ แต่ที่ทำงานเราเป็นองค์กรใหญ่การเมืองฉ่ำมากเหมือนไปสงครามในทุกวินาที เด็กๆแบบเราก็โดนเละมากค่ะต่อให้ทำดียังไงก็จะมีเรื่องมาเล่นให้ยับอีกเสียสุขภาพจิตจนต้องไปบำบัดเลยค่ะ ทั้งที่คิดว่าน่าจะปรับคุยกันได้กลายเป็นเราอาจจะโชคไม่ดี ที่เค้าไม่อยากคุยหรือฟังแล้วจัสเลยกลายเป็นเราหมดใจเลยค่ะ ปัจจุบันเรายังทำงานอยู่ที่เดิมค่ะยังคิดว่าจะรับรู้รสชาติขมๆขององค์กร รสการเป็นผู้ใหญ่การเติบโตอยู่ให้สุด แล้วเราคงออกไปหาที่อื่นค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ🧡
ขอบคุณมากค่ะ
ใช่ครับ Financial concern
ที่จริงก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่สิ้นหวัง แล้วพวกเขาสะท้อนกลับมาที่พวกเรา ให้เรารู้สึกเหมือนพวกเขา
36:15 จะ work life balance ยังไง ปิดงบไม่ลง ก็นอน office ไปดิ ไม่มี OT นะ
ความคิดแบบนี้ในไทย"ส่วนมาก"จะอยู่ในพวกคนที่เรียนมหาลัยtop20ในไทย หรือไม่ก็พวกที่มีความรู้ เพราะบางคนอาจจะไม่ตระหนักว่าเรื่องนี้สำคัญ
มองว่าที่ไม่กล้าบอกนายจ้างตรงๆคงเพราะ นายจ้างทุกวันนี้ยังมีความคิดเดิมอยู่ ถ้าทำไม่ได้ก็ออกไป ทำไม่ไหวเดี๋ยวหาคนใหม่ เหมือนพูดไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน
ไม่ว่า Gen ไหนก็ลำบาก ทุกอย่างมันเริ่มจากสิ่งที่มีมาตั้งแต่เกิด ถ้ามีน้อยก็ตามสภาพ ถ้ามีมากก็สบายหน่อย
เป็นซึมเศร้าเยอะกันมากสมัยนี้
ไม่แปลกที่ Gen Z จะแฮปปี้ขึ้นค่ะ ทุกคน address ความยากในการรับมือของ Gen Z แต่คนที่รับมือกับ Gen Z คือ Gen Y
เวลา Gen Y เครียดไม่มีคนมาดูแล Gen Y ผู้คลั่ง Productivity จึงต้องทั้งทำงานให้ได้ดี ทั้งขยันให้เข้าตา Gen X (เจ้านาย) ทั้งต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้ Gen Z (ลูกน้อง) จึงเครียดมาก
แล้วคนเขาจะอ่านรู้เรื่องไหม
เจนxครับ ทุกข์ทุกเรื่อง ยังไม่เจอบริษัทและceoที่ดีเก่งและเข้่ใจเลย ยังไม่เจอHRเก่งเข้าใจคนเลย มีแต่พวกแก่ๆ
2nd job เป็น norm นี้มัน dystopia หรือยังไง
อะไรกันแค่นี้เรียก dystopia
@@ppeak-jm6nx รับงานสองจ็อบไปผ่อนบ้าน 30 ปีให้สนุกละกันนะลูกพี่นะ เอาใจช่วย
แค่ต้องอยู่ด้วยโอทีนี่ก็กลายเป็น norm ของคนไทยมาหลาย 10 ปีแล้ว
@@Kanann ไม่จำเป็นผมใช้แค่งานเดียวพอ
@@ppeak-jm6nx ไม่ลองรับ 2 ดูล่ะ เผื่อเหลือผ่อนแค่ 15 ปี
สิ้นหวังกับการเมือง
ขอนอกเรื่องนะคะ อันนี้ช่างแต่งหน้าให้ใช่มั้ยคะ คือว่าหน้ามันลอยน่ะค่ะ แล้วแสงส่องไปอีก 😓
GEN Y อย่างผมจะลาออกจากงาานล่ะครับ สาเหตุคือ เป็นโรคกะเพาะ+กรดไหลลย้อน+แพนิค ไม่หายสักที เครียด อาหารไม่ย่อย เหมือนจะตาย เพราะที่บ้านห้ามให้ลาออกจากงาน
ไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี
ตำรวจ ต้องเป็นหน่วยงานแรกที่ต้องจัดการกับพฤติกรรมแบ่งแยก การเลือกปฏิบัติ มากสุดเป็นอันดับ 1
เข้ามายกมือครับทำงานเป็นหลายอย่างแต่เงินเดือนไม่ถึงหมื่น ทำจนจะตัวแตกอยู่ละครับ
จริงซื้อบ้านยังไงก่อน เงินเดือนแค่นี้
ตอนทำงานใหม่ก้อเงินเดือนไม่เยอะ แต่เลือกที่พัฒนาตัวเองจา คุมระบบได้ จากนั้นก้อรวยยย
การคุกความทางเพศ คือ สูงนะ😢
เจอระบบราชการไทยเข้าไป จะไหวไหม
เปิดใจเหมือนใครเหมือนผู้ใหญ่คนใหนดีให้เป็นตัวอย่าง พอที่ผมจะได้พอสังเกตุเห็นจะพอได้เริ่มทำตามได้บ้างครับ
ผมงงตัวเอง ทำไมผมไปตรงกับgen z มากกว่าจริงๆผมก็ y
อีก 10 ปีข้างหน้า Gen x จะครองตำแหน่งผู้นำเกือบทั้งหมดในโลกการตลาดค่ะ🙏❤️
วัดความพึงพอใจต่อสถานการณ์ หมายรวมถึงการการกระทำที่สร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยไหม? เพราะความพึงพอใจที่เพิ่มขึ้นอาจหมายความว่าปรับตัวจนอยู่ได้ ไม่ได้แปลว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงภายนอก >>>>>>>>>>>>>>>>> การเปลี่ยนแปลงภายใน (ความพึงพอใจ) สามารถเกิดขึ้นได้แม้การเปลี่ยนแปลงภายนอก (สภาพแวดล้อม นโยบาย วิถีและวิธีปฏิบัติ) ไม่ได้เกิดขึ้น
แอปเปิ้ลลูกเล็กต้นปี10บาทขึ้นม่ตอนนี้18บาท บางบ่อ กินน้อยลงละ
มันต้องปรับตัวกับทุกเจน ไหม
เด็กรุ่นใหม่ไม่เข้าใจความลำบาก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน
มี=ไม่มีมันคือจุดเดียวกัน
เป็นผู้ประกอบการคนนึงที่ไม่เลือกคนที่อยู่ในกลุ่มนี้ และกลุ่มนี้&คิดแบบนี้ ตราบใดที่ยังมีเจน x y ที่พร้อมกว่าในวุฒิภาวะให้เลือก เรื่องไม่มากเท่า
อยากเห็นวิจัยแบบแค่ในคนไทยจัง อันนี้มันทั่วโลกอะ
ปัญหาเงินเฟ้อ ค่าครองชีพ ที่ไม่สัมพันธ์กับเงินเดือน
เขาจะทำร้ายโลกยังไงมันก็โลกของเขา เขาจะ ignore โลกยังไงมันก็โลกของเขา (แต่แค่เราแม่งยังต้องอยู่รวมกับโลกของเขา) อะไรควรทำอะไรไม่ควรทำไม่ควรปล่อยให้เป็นไปตาม Gen ไหมคะ
อะไรเอ่ยคนกู้ไม่ต้องใช้คนใช้คืน คนใช้คืนไม่ได้กู้
.
.
.
เฉลย กู้เงินมาแจก กู้เงินมาพิมพ์เงิน local เพิ่ม
เนี่ยว ?
ไม่สิ้นหวังแล้ว
ค่าแรง 600 เงินเดือนขั้นต่ำ 25,000 คนจนจะหมดจากประเทศไทย ใน 100 วัน
ไม่น่าจะได้ทุกงาน
ค่าแรง 600 บ. ยากมากครับ
น่าจะแค่โปร ใช้หาเสียงของพวก นักการเมือง
@@QBORA ยากจริง แต่เขาระบุชัดว่าภายในปี 2570 และมีโครงการกระตุ้นเศรษบกิจประกอบ ไม่ใช่ขึ้นเฉยๆ และถ้าไม่เคยเห็น พท เขามีที่มาจาก ทรท ที่เป็นต้นแบบของการศึกษาข้อมูลก่อนหาเสียง แล้วทำได้มากกว่าที่หาเสียง ลองไปศึกษาดู ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา แต่โดนปล้นอำนาจขัดขวางการทำตลอด
สิ้นหวัง หาลู่ทางโยกย้าย
ยาก
เบื่อกับการแบ่งแยก generation
เรียนครูมา โอกาสขยายไปทางอื่นน้อยมาก แต่สายตัวเองก็เงินน้อย และ work life balance แย่มากๆ
เงินเดือนชนเดือน ทำให้ไม่อยากสร้างครอบครัว เพิ่มภาระขึ้นมาอีก
ผมอายุ20ละ หมดหวังมั้ยหรอ..😂
🎉🤞🤟💯🙏🙏
😂🥶😪😭🥺😜
เจนZความอดทนต่ำ เอาแต่ใจ โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง
ใช่ครับ เหมือนพวก babyboom x y ด้วยแหละครับ พวกหัวหงอก
Wokeness generation
❤❤❤สวัสดีคะ ขอบคุณคุณเคนกับความรู้ดีๆในepนี้อีกครั้ง
บ้านผมจริง น้องผมเอง
ไปนอกละ555
AI กับ โรบอท คือ ตัวแปรสำคัญด้วย ห่วงไม่มีงานดีกว่าไหม
เห็นพูดแบบนี้มาหลายปีละครับ ก็ไม่เห็นจะแทนทั้งหมด โดยเฉพาะ-ภาคบริการ แล้วเอาจริงๆลองถามตัวเอง คำว่างาน ถ้าให้ทำงานแบบแรงงาน คุณจะอยากทำไหม ก็ไม่ หรือถ้าเป็นงานที่รายได้น้อยมากๆ ทุกวันนี้เยอะนะครับ แม้แต่Skill ดีๆ เงินเดือนยังน้อย ส่วนใหญ่ อยุ่ตำแหน่งสบาย แล้วชอบผลักความลำบากให้คนอื่นแค่นั้นแหละครับ
รพ.,ธนาคาร,โรงงานอุตสาหกรร มรับคนน้อยลงใช้ai,ระบบดิจิตอล,ไฮเทคโนโลยีทั้งหมด อย่างระบบห้องยารพ.ใช้ระบบใหม่ที่มีคนคุมระบบไม่กี่คนเท่านั้น,คนส่งผลแล็บเดินเอกสารเอไอแทนนานแล้วทำงานดีกว่าคนจริงอีก
@@310thebank ระบบธนาคารปลดคนออกแล้ว ใช้ AI ทำงานแทนคน 🤣🤣🤣🤣🤣
ดิฉันเป็นสนามอารมณ์ตลอดให้สังคมไทย
work life balace ควรปรับมากๆ เดี๋ยวนี้งานหยุดวันเดียวเยอะมากๆ ตื่น ซักผ้า กวาดห้อง กิน ตากผ้า หมดแล้ววันหยุด😅
เอาจริงๆ เราเจน Z ไม่ต้องการอะไรมาก แค่ Empathy ระหว่างบริษัทกับบุคคลกรเท่านั้น
ต่อให้ยังไม่ได้ทำงานก็เครียดตลอดเวลา😢