นึกถึงคนประเภท ทำดีเพราะอยากขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ ทำบุญจ่ายเงินเยอะๆให้พระ ดูเป็นคนธัมมะธัมโมเข้าวัดบ่อยแต่เอาเปรียบทุกคนรอบตัว เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวกว่าที่คิดเหมือนกันนะ หรือเวลาใครบอกให้เราทำอะไรแล้วจะดี บางทีมันดีต่อเค้าไม่ได้ดีต่อเรา โลกนี้มันดี แต่คนเฮงซวยมันเยอะ C'est la vie
หนังสือชื่อ The Myth of Sisyphus น่าจะถูกมาแปลไทยเป็นชื่อนี้ครับ 'เทพตำนานซีซิฟ : Le Mythe de Sisyphe' เหมือนจะไม่มีวางขายแล้ว อาจจะต้องหาอ่านเป็นออนไลน์ หรือเป็นเวอร์ชันภาษาอังกฤษแทนครับ
นึกถึงเพลง Always with me เลย “No need to search outside, nor sail across the sea Cause here shining inside me, it's right here inside me I've found a brightness, it's always with me"
-ชอบรายการนี้มาก ตอนนี้พอดีดูหนังฟังเพลง ก็จะลองคิดเล่น ๆ ดูว่า เพลงนี้ หนังเรื่องนี้ต้องการสื่อเป็นปรัชญาสายไหน -นึกถึงหลาย ๆ เพลงของ Lana del Rey Lust for life, wait for life , ride และ swan song. Lana เอง จบเอกปรัชญาสมัยเรียน และนี่ว่านางได้ใช้ ในการแต่เพลง Lust for life และ ride ฟังตอนนี้ดูจะเป็นสาย absurdism ถ้าเราเข้าใจถูกนะ Wait for life and swan song ท่าทางจะเป็น nihilism. -ส่วนคำถามทิ้งท้ายว่าถ้าจะบอกอะไรกับ Sisyfus ? คิดว่าคงร้องเพลง Swan song. ของ Lana ให้นางฟัง “Put your white tennis shoes on and follow me Why work so hard when you could just be free? You got your moment now, you got your legacy Let's leave the world for the ones who change everything Nothing could stop the two of us Let's just get lost, that's what we want” 😂😂
00:00 Highlight
00:46 สรุปแนวคิด Nihilism และ Existentialism
04:06 แนวคิด Absurdism
09:42 ชวนคิดจากแอนิเมชันเรื่อง Soul (2020)
12:19 เรื่องของซิซีฟัส
19:02 ซิซีฟัสคือเราทุกวันนี้
20:43 ซิซีฟัส ผู้ขบถและ Absurd Hero
30:51 คุณค่าชีวิตแบบซิซีฟัส
32:47 คำถามทิ้งท้าย
33:11 Bonus ถ้าชีวิตไร้ความหมาย แล้วคุณธรรมล่ะ?
อยากส่งคำถามถึง อ.ภาคิน กับ คุนฟาง ส่งได้ทางไหนบ้างครับ?
อยากให้พูดเรื่อง Egoist คับ
Nihilism = Life suck, give up
Existentialism = Life suck, deal with it
Absurdism = Life suck, enjoy it
Buddhism = Life sucks, No reborn forever.
@@jinjinjinjint2434 ต้องเชื่อว่า
1. เราสามารถกลับมาเกิดใหม่ได้
2. ต้องเชื่อว่าเราสามารถทำให้ข้อ 1 ไม่ทำงานได้
ใช้ความเชื่อเยอะเกินไปเทียบกับการจัดการความคิดตัวเองจากปรัชญาอื่นๆ
@@zakra2607 ผมว่าแก่นสารของพุทธจริงๆ ไม่ได้ว่าถึงกับกการเกิดใหม่หรือการทำให้ต้องไม่เกิดใหม่เลยครับ
ไม่ได้อาศัยความเชื่ออะไรตรงนี้
แก่นจริงๆ คือ
ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่ต้องไปยึดติด มันก็เป็นของมันแบบนั้น ก็จัดการตามความเป็นจริง
.
แล้วภาพจำที่ว่ามีการเกิดใหม่การไม่เกิดใหม่ ชาตินี้ ชาติหน้านี้ มาจากเรื่องภพชาติ
ซึ่งความหมายภพชาติในแบบที่พุทธ จะหมายถึง
การเกิดของทุกข์วนเวียน การเกิดทุกข์คือการเกิดภพ ชาติ ดับทุกข์คือดับภพ ชาติ ไม่ได้เจาะจงให้ไปตายเกิดใหม่อะไร
มันเกิดขึ้นทุกทุกขณะจิต
สรุปคือ
แก่นพุทธ คือ
เห็นชีวิตตามที่มันเป็น อย่าไปเต้นตามทุกข์ที่เกิดขึ้นจากการยึดติด คิดเอาเอฝ ผมว่านี่ใกล้เคียงadsurdismเลยนะ
@@tanakarnnoneforthemoments8162 คำว่าพุทธมีความหมายน้อยกว่าแก่นสารของสารที่สนทนาครับ
เพราะพุทธก็มีหลายความเชื่อหลายนิกาย ถ้าเราให้ความสำคัญกับคำว่าพุทธมากกว่าความหมายของสาร มันจะจับประเด็นและหาข้อสรุปไม่ได้
ในที่นี้เรากำลังพูดถึงการตายแล้วเกิดใหม่ ในแขนงหนึ่งของความเชื่อพุทธ ไม่ได้พูดถึงพุทธสายการเกิดดับของจิตตามการตีความแบบพระพุทธทาส
@@zakra2607 แต่ที่ผมเมนต์ไปแบบนั้น เพราะเห็นท่านเอาคำจำกัดความที่ว่าไปเมนต์ตอบเเมนท์ที่พูดถึงbuddhismอีกทีครับ เหมือนเหมารวม
ถ้าพูดว่ามันเป็นแค่แขนงหนึ่ง มีหลายความเชื่อ หลายนิกายอันนี้เห็นด้วย
“ถ้าเราเชื่อว่าสิ่งดีงามต้องมีคนอื่นมาบอก แปลว่าเราปฏิเสธด้านดีงามของตัวเอง” ฟังแล้วเหมือนโดนทุบหัว ปลดล็อกความคิดตัวเองมากเลยค่ะ ❤
ความจริงคงไม่เหมือนกับความเชื่อหรอก🩶
แต่มีหนังสือเล่มนึงบอกว่า เราไม่ทำดีบนเกาะร้างหรอก เพราะมันเปนเวทีที่ไม่มีคนดู
ทั้งนี้ทั้งนั้น เราต้องมั่นใจก่อนนะครับว่า "สิ่งดีงาม" ที่เราเชื่อและอาจจะไม่ตรงกับที่คนอื่นบอกนั้น เป็นสิ่งดีงามจริง ๆ ไม่ใช่ว่าเราคิดเองเออเอง เพราะทุกวันนี้คนที่คิดไปเองและแยกไม่ออกนั้นมีเยอะ
@@Anittha262 ผมเห็นด้วยนะถ้าเอาแค่การทำดี (เพื่อให้รู้สึกว่าเราเป็นคนดี) แต่ถ้าการทำตนเองให้ดีขึ้น ทำที่เกาะร้างก็น่าจะทำได้อยู่ ไม่งั้นคงไม่มีพระธุดงค์ในป่า
@@pattriratana7794 เราคิดว่าพระธุดงเป็นคนที่แสวงหาบางอย่างนะ ส่วนการทำให้เราเปนคนดีขึ้นมันไม่ใช่ของพุทธเลย มันของพวกสโตอิกหรือชาวคริสต์ไรแบบนั้น พุทธเราเน้นเลิกยึดติดเพื่อดับทุกข์ ทีนี้ถ้าเข้าในทั้งในทางร่างกายทั้งทางสังคมหรือทางโลก สิ่งที่”ดี” มันเปนแค่โลกของแบบ ร่างกายเราก็เปนแค่สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งบนโลกเท่านั้น ตัวตนเราไม่ได้มีจริงขนาดนั้น
ชอบลีลาครูภาคิน ep นี้มาก
ทำไมปรัชญามันสนุกได้ขนาดนี้ เหลือเชื่อเลย
มีจังหวะเสียงหลุดไมค์บ้างอันนี้ไม่ติดเลย เพราะมันเป็น feeling 5555
Thanks
4 ep กับความหมายของชีวิต
เป็นตอนสรุป ที่ชอบที่สุด ฟังแล้วสั่นสะเทือน
ตอนต่อไปคงเป็น ชีวิต มุม Biological แล้ว
เสียตายที่ไม่ได้ไปฟัง
หลังจากฟัง ก็ปรากฏเพลงหนึ่งขึ้นมา
ชั้นจำเป็นต้องยอม ยอมรับความจริง
ร่างกายไม่ใช่ทุกสิ่ง ความจริงคือเข้าใจ
ชั้นจะไม่ยินยอม ยอมแพ้ความตาย
ชั้นจะไม่ยินยอม
ชีวิตเรานั้นยิ่งใหญ่ ก็ชีวิตเรานั้นยิ่งใหญ่
ท้องฟ้าสีคราม แม่น้ำลำธาร
ช่างสวยงาม เมื่อยามเรามอง
ชีวืตที่เจ็บปวดของคนป่วย
มาโนช พุฒตาล
ขอบคุณมากๆ ครับ
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปครับ 💜
ร้องไห้เลยค่ะ เหมือนถูกตบไหล่แล้วบอกว่าแค่เราเป็นเราก็เพียงพอแล้ว แค่นั้นก็ควรค่าต่อการมีชีวิตแล้ว absurdism เท่มาก 🥹
เป็นแนวคิดที่ดีมาก เหมาะสำหรับคนยุคใหม่ที่จะต้องทำทุกอย่างให้มีคุณค่ามีความหมายเสมอ ต้องยิ่งใหญ่ ต้องประสบความสำเร็จ ตอนนี้เราก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่าอยากทำอะไรเพื่อใครดี กดดันมาก รู้สึกผิดที่ไม่มีจุดมุ่งหมายใดๆจริงๆ พอได้ฟังแนวคิดนี้ทำให้เข้าใจชีวิตแม่งก็แค่นี้แหละ ขอบคุณพอร์ตแคสที่ช่วยทำให้เรามีชีวิตอย่างมีความหมายในแบบของตัวเองค่ะ✨
ชอบซีรีส์ปรัชญา Existentialism, Nihilism และ Absurdism มากๆ เพราะเป็นชุดปรัชญาที่เหมาะสำหรับคนยุคปัจจุบันได้ดี ได้ฟังเรื่อง Sisyphus ตั้งแต่เรียนอยู่มหาลัยแล้ว เป็นเรื่องโปรดในดวงใจ โดยเฉพาะประโยคทองของเรื่อง “One must imagine Sisyphus happy”
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปครับ 💜
ฟังตอนนี้จากPodcasts เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกแย่กับชีวิตมากทั้งเรื่องงาน ที่เราตกงาน เรื่องเรียนป.โท ที่ไม่จบซักที และชีวิตความรักที่มีอุปสรรค์ ทั้งหมดนี้ในวัย33 รู้สึกแย่กับชีวิตพอได้ฟัง การพูดคุยและได้รู้จัก Sisyphus มันทำให้รู้สึกดีขึ้นมากๆ ขอบคุณค่ะ
ถ้าบอกซิซิฟัสได้ ผมคงอยากบอกว่า :ความเจ็บปวดของคุณไม่ได้พิเศษ ชีวิตของคุณก็เช่นกัน คุณไม่ใช่คนเดียวที่อยู่บนเส้นทางนี้ อย่าเหงาไปเลย
ตอนฟังความหมาย absurdism สั้นๆแล้วรู้สึกเฉยๆ แต่พอฟังเรื่องซิซีฟัสแล้วชอบเลยครับ จากการกระทำที่ดูไม่มีความหมาย แต่จริงๆเป็นคนที่มีจิตใจแข็งแกร่งมาก ฟังแล้วสะกิดความคิดดีครับ สุดยอดเลยครับซิซีฟาง 👍
ตอนนี้ดีจัง กำลังรู้สึกว่าชีวิตมันได้ทุกอย่างที่หวังครบหมดแล้ว ไม่มีครอบครัว รู้สึกเบื่อๆ ไม่ได้ต้องการอะไรอีก จนตอนนี้ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม แต่ก็ต้องอยู่เพราะเกมมันยังไม่จบ
นึกถึงคนประเภท ทำดีเพราะอยากขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ ทำบุญจ่ายเงินเยอะๆให้พระ ดูเป็นคนธัมมะธัมโมเข้าวัดบ่อยแต่เอาเปรียบทุกคนรอบตัว
เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวกว่าที่คิดเหมือนกันนะ
หรือเวลาใครบอกให้เราทำอะไรแล้วจะดี บางทีมันดีต่อเค้าไม่ได้ดีต่อเรา
โลกนี้มันดี แต่คนเฮงซวยมันเยอะ
C'est la vie
อืมมม ฉันเป็นคนดียยย คนดีไม่พูดว่าตัวเองเป็นคนดีป่าวว
สนุกมากเลยค่ะ ไม่เคยเข้าถึงปรัชญามาก่อนรู้สึกว่ามันเข้าใจยาก พอตแคสนี้เปลี่ยนมุมมองไปเลย เป็นกำลังใจให้พี่ฟาง พี่ภาคิน และทีมงานนะคะ
ได้รับกำลังใจเต็มเปี่ยมมม ขอบคุณมากๆนะคะ
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปครับ 💜
เป็น ep ที่ฟังแล้ว ใจฟู และ ฮึกเหิม ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกทีเดียว😊
ร้องไห้ให้กับ Episode นี้เฉย 🥹
ขอบคุณนะคะ ❤
สนุกมากกกกกกกกก พอฟังจบแล้วได้กำลังใจเยอะเลย ชีวิตมันเฮงซวย แต่ไม่ได้แปลว่าไร้ความหมาย เท่มากค่ะ😍
เป็นรายการที่ Healthy ต่อจิตใจมากๆๆๆ ❤❤❤
ตอนฟัง Nihilism ก็รอ Absurdlism เลย เป็นแนวคิดที่ผมชอบมากกก ขอบคุณที่ทำออกมาครับ
แค่ใช้ชีวิตให้มีความสุขทุกวัน ฝันไว้ใกล้ไกลเอื้อมถึงไม่ถึงก็ไม่เป็นไร
สิ่งที่่ fact ที่สุด คือ ความว่างเปล่า รายการนี้ดีมากครับ อยากให้นำไปเปิดให้นักเรียนฟังมาก ๆ ครับ เป็นวิชาปรัชญาชีวิต
เราเห็นว่าจริงๆชีวิตก็เป็นแค่เซลล์ที่มีวันหมดอายุ และคนก็ไปสร้างคติดราม่ากันเองให้วุ่นวาย แต่ด้วยความที่มนุษย์วิวัฒนาการจนมีประสบการณ์ทางอารมณ์ได้หลากหลายแบบ พอมีชีวิตมาแล้วแต่ละคนอยากมีประสบการณ์แบบไหนก็ไปสร้างกันเอง แต่จริงๆมันเป็นประสบการณ์อารมณ์บนพื้นฐานที่ว่าเป็นแค่เซลล์ที่มีวันหมดอายุ ไม่ได้มีความหมายหรือคุณค่าที่ต้องตามหาอะไรเลย สัมผัสแล้วจบไป การเดินออกจากห้องหรือฆ่าตัวตายก็ไม่ได้ผิดอะไร ดูเหมือนควรจะเป็นสิทธิที่เราควรจะมีด้วยซ้ำ แต่ทางเลือกมีมากกว่านั้นเหมือนที่ EP นี้ให้คำแนะนำไว้
การมีชีวิตยังทำให้เราวุ่นวายกับการทำความเข้าใจและเลือกมีประสบการณ์ให้เหมาะกับเราที่สุดขนาดนี้ แต่ต้องทำเพราะดันมีชีวิตมาแล้ว แต่การจะให้กำเนิดชีวิตใหม่นี่เป็นอีกเรื่องเลย เราจะสร้างความวุ่นวายใหม่เพียงเพื่อตอบสนองประสบการณ์ทางอารมณ์ของตัวเองมั้ย (sex, ความอิ่มเอมของการเป็นพ่อแม่ ฯลฯ) ไอ้ชีวิตที่จะเกิดมามันไม่ได้เลือกเลย หรือมันเป็นความเห็นแก่ตัวที่มนุษย์พึงทำได้ ผมคิดประเด็นนี้เยอะเลยไม่อยากมีลูกเลย
เป็น EP ที่ดีมากเลยครับ พิธีกรทั้ง 2 ท่านเก่งและทำการบ้านดีมาก ใช้คำอธิบายแต่ละสภาวะได้ดี รู้สึกเหมือนพิธีกรมาช่วยอธิบายความสึกที่เรามีอยู่ให้เราเข้าใจตัวเองได้มากขึ้น เยี่ยมครับ
คอมเม้นนี้ทำให้เราเข้าใจชัดขึ้นไปอีก ขอบคุณนะคะ🎉
MVP สำหรับ ep นี้ พิธีกร 2 ท่าน เก่งมาก ๆ ขอบคุณมากๆ ค่ะ
EP. นี้คือ MVP มากๆ แบบอยากอ่านต่อมากๆ 🥹🥹🥹
สุดยอดครับ ep นี้
นี่เป็นคลิปที่ชอบที่สุดในปีนี้เลย ได้ฟังอะไรแบบนี้ก็รู้สึกว่าชีวิตมีความหมายแล้วค่ะ
เป็น content ที่ดีมากๆๆ ครับ
ขอชื่นชมทีมงานและพิธีกรที่ย่อยเรื่องให้สามารถเข้าใจ และเข้าถึงได้ดีมาก
ชอบช่องนี้มากค่ะ ถ้าป้ามีเวลาจะเข้ามาฟังประจำ ได้ประโยชน์มากๆ ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณ ep นี้ลึกซึงมาก ได้อะไรเยอะมากครับ ตอบคำถามตัวเองหลายๆอย่าง 🥺
ค้นพบความหมายของชีวิต ตอนที่จะ ฆตต เพราะซึมเศร้า เราเติบโตมากับครอบครัวที่เต็มไปด้วยความเศร้า เริ่มถามตัวเองตั้งแต่ประถมว่าเราเกิดมาทำไม ยิ่งเรียนจบยิ่งพยายามไล่หาความหมายและคุณค่าของชีวิตหนักขึ้น ฟังพอดแคสต์ของคนที่ประสบความสำเร็จ ก็บอกแต่ว่าจงค้นหาความหมายของชีวิต จงทำชีวิตให้มีคุณค่า จงทำงานในสิ่งที่เรามีแพชชัน
วิ่งหาจนเหนื่อย ยิ่งหา ยิ่งไม่เจอ ยิ่งไม่เจอ ยิ่งท้อ พอถึงวันที่จะตาย แว้บเห็นภาพคนที่จะร้องไห้ในงานศพเราแน่ๆ เลยเปลี่ยนใจ แล้วไปหาหมอ มุ่งหาปรัชญาของพระพุทธเจ้ามากขึ้น เลยค้นพบว่า
อ่อ จริงๆชีวิตไม่ต้องมีความหมายก็ได้ หรือถ้ามันมีความหมายจริงๆ เราก็ไม่ต้องรู้ก็ได้ งานที่ทำ ไม่ต้องมีแพชชั่นก็ได้ อะไรก็ได้ที่ทำได้ดี ได้เงิน ซื้อข้าวกิน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ หรือจะสะสมทรัพยากรตามโปรแกรมวิวัฒนาการของธรรมชาติ
เราเกิดมาทำไม? ก็แค่เกิดอ่ะ ธรรมชาติให้เกิด ธรรมชาติให้มีชีวิต ธรรมชาติให้ตาย ก็แค่เดินไปตามวัฏจักรธรรมชาติ วันต่อวัน ถ้าไม่ส่งผลต่อปากท้อง ก็ช่างแม่งมันไม่หมด
เข้าใจเลยครับจากเด็ก 18 คนนึง
ชอบEpนี้มากเลยค่ะฟังแล้ว ชุบ ชู ใจมากๆค่ะ
ฟังมา 4 แนวคิด essentialism, existentialism, nihilism, absurdism สรุปอันสุดท้ายเริดสุดปังสุด ชื่อว่า absurd แต่เนื้อหาไม่ได้ absurd เลย ขอเป็นเอฟซีของซิซีฟัสด้วยค่ะ
ซีซีฟัส ไม่ได้มีคุณคนเดียวหรอก ที่ต้องทำเรื่องเดิมๆซ้ำๆทุกวัน 5555 ขอบคุณนะคะ ได้คิดตามยามเช้าก่อนไปทำงาน อย่างน้อยๆ ขอบคุณที่ช่วยย่อยปรัชญายากๆให้เข้าใจง่าย และคิดตามได้ง่ายค่ะ สุดยอดจริงๆ 💪🏼
ชอบมากๆ ค่ะ ทำให้ปรัชญาสนุกขึ้นมากๆ จริงๆ
ชอบซีรี่ส์นี้มากๆค่ะ ดีมากเลย
สนุก
สุดยอดมากครับ อีพีนี้ กราบบบบ ขอบคุณ คุณภาคิน คุณฟาง และก็คุณการ์มูด้วยครับ
รอฟังตอนใหม่ทุกวันเลย ฟังวนซ้ำๆรอนะคะ
ฉันรักEP.นี้ที่สุดในโลก😍
อยากขบฏ อยากกำหนดรู้แค่ปัจจุบัน และไม่หาความหมายของชีวิตจนเป็นการยึดติด อยากปล่อยวาง ขอบคุณที่ทำให้การนิยามการรู้เท่าทันปัจจุบัน พยายามอยู่กับตัวเอง รู้เท่าทันและเข้าใจจิตใจตัวเองแบบเข้าใจง่ายๆ ซึ่งข้อนี้เองเคยได้ยินได้ฟังตามหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าแนะแนวไว้ มาแต่เด็กแต่ไม่เคยเข้าใจ 😊😊😊
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปครับ 💜
ขอบคุณครับ ร้องไห้เลย
รู้สึกดีมากที่ได้ฟังอีพีนี้ ขอบคุณค่ะ
ติดตามเสมอ และขอบคุณ EP นี้มากๆ inspired ให้ยืนอยู่ มีชีวิตอยู่ต่อไปมากๆครับ😭
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปครับ 💜
เคยเป็นคนเชื่อว่าชีวิตเรามีความหมาย โลกนี้ยุติธรรม ทุกคนเท่าเทียมกัน เราทำดีกับเขาเขาทำดีกับเรา เราทำชั่วกับเขาเขาก็ทำแบบนั้นกับเรา แต่พอโตขึ้นถึงรู้ว่าไม่มีอะไรจริงสักอย่าง ทุกอย่างบิดเบี้ยวไปหมดจนเราคิดว่าเราคาดหวังกับอะไรอยู่ ธรรมชาติมนุษย์อาจจะมีหรือไม่มีแบบแผนหรือรูปแบบเลยก็ได้ เลยทำให้เรามองว่าโลกนี้แม่งสุ่มผลลัพธ์สุดๆ แต่ก็ต้องทำใจยอมรับให้ได้
ชอบดูรายการนี้มากค่ะ
อยากให้พี่ภาคิณ เล่า การปฏิบัติตัวต่อผู้อื่น ผ่าน จริยศาสตร์ ของคานท์ กับมิลล์หน่ิยครับ หน้าที่กับผลประโยชน์
เป็นความเห็นผิดที่น่ากลัวมาก
27:15 เมื่อมนุษย์ผู้กล้าเผชิญหน้ากับความไร้สาระของชีวิต ตรึกตรองถึงความทุกข์ทรมานหรือหินของเรา เขาจะทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดเงียบเสียงลง มนุษย์ผู้ตระหนักว่าโลกไร้แก่นสารจะพูดว่า ได้เลย จัดมา และความพยายามของเขาจะไม่หยุดยั้งอีกต่อไป ในชั่วขณะอันละเอียดอ่อนที่มนุษย์หันกลับไปพิจารณาหินของตน ในช่วงจังหวะเล็กๆนี้ มนุษย์จะตรึกตรองถึงการกระทำมากมายที่ผ่านมา ซึ่งอาจไม่เป็นเหตุเป็นผลเลย ไม่ได้สอดคล้องเกี่ยวข้องกันเลย แต่เป็นการกระทำที่กลายเป็นชะตากรรมของตัวเขา ถูกสร้างขึ้นโดยตัวเขา ผสานรวมภายใต้สายตาแห่งความทรงจำของตัวเขา และในไม่ช้าจะถูกปิดผนึกด้วยความตายของตัวเขาเอง และในวินาทีนั้น เมื่อมนุษย์เชื่อมั่นแล้วว่าทุกสิ่งที่ทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์ ล้วนเกิดจากมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งสิ่งที่ไปไกลกว่าตัวมนุษย์เอง ชายตาบอดที่กระหายการมองเห็น แม้จะรู้ว่าความมืดนั้นไม่สิ้นสุด ก็จะยังคงเดินต่อไป ก้อนหินก้อนนั้นยังคงกลิ้งอยู่-Albert Camus
ฟังแรกๆไม่ค่อยเข้าใจแนวคิดนี้เท่าไหร่ คือabsurdตามชื่อจริงๆ5555555 ส่วนตัวคิดว่าอินกับแนวคิดexistentialismมากกว่า แต่พอฟังไปเรื่อยๆก็รู้สึกว่าเอ้อมันมีแนวคิดที่เราคิดไม่ถึงไม่เคยมองในจุดจุดนั้น ในวันนี้อาจจะไม่เข้าใจซิซิฟัสว่าทำไมต้องทนทำอะไรที่เราไม่ได้ประโยชน์กับมันทำไมไม่พยายามหาทางออกหรือทางแก้ไขปัญหาแล้วไปใช้“ชีวิตที่เป็นชีวิตจริงๆ” เพราะถ้ามองในโลกความจริงว่าเรากลายเป็นคนตาบอดเราอาจจะยอมแพ้กับชีวิตไม่มานั่งคิดว่าเอ้อชีวิตมันต้องใช้ต่อไป ชีวิตจริงไม่ได้ใช้ไปวันๆแล้วง่ายอย่างที่อยากให้เป็น แต่ถ้ามองอีกมุมคนตาบอดที่ยังสามารถใช้ชีวิตไปได้โดยที่ไม่รู้สึกทนทุกข์กับมันต่างหากที่ทำให้รู้สึกว่าโหแม่งโคตรเจ๋ง ชะตากรรมเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้แต่เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะรับมือกับมันยังไง และซิซิฟัสเลือกที่จะใช้ชีวิตต่อไปแม้มันจะเฮงซวยแม้มันจะเป็นชีวิตที่ไม่น่าใช้ต่อสายตาคนอื่นมากแค่ไหนก็ตาม แต่เท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่ทำให้ชีวิตซิซิฟัสมีคุณค่าต่อการใช้เพราะเขาทำให้ชีวิตกลายเป็นของเขาคนอื่นไม่มีอำนาจเหนือเขาในการตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร ถึงแม้ตอนนี้ส่วนตัวยังไม่ได้เข้าถึงแนวคิดนี้เต็มร้อย แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเจ๋งมากๆ คิดว่าสักวันนึงหากโตขึ้นมากกว่านี้น่าจะเข้าใจแนวคิดนี้มากขึ้น ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆค่ะ ชวนให้คิดตามดีมากเลย
รู้สึกขอบคุณที่มีรายการนี้และอีพีนี้ มันชุบชูใจมากๆ เป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนนะคะ🤍🤍 ทำต่อไปนะคะะ🥹
ในแนวคิด 3 สายที่ฟังมานี่ อันนี้นี่ฟังดูกล้ามโตที่สุดแล้วมั้ง แบบว่าทำเอา 2 สาย ก่อนหน้านี้ตัวลีบไปเลย....
ทุกอย่างไร้ความหมาย -> เออ รู้
จบชีวิตดีกว่าไหม ? -> ไม่
ที่กำลังทำอยู่มันมีคุณค่าอะไร -> ต้องสนด้วยหรือไง
ชีวิตมันห่วยเนอะ -> เออ รู้ จัดมา
เมื่อช่วงบ่ายๆ เจอคุณฟางในร้านอาหาร แต่ไม่กล้าทัก กลัวจะรบกวน อยากบอกว่าเป็นกำลังใจให้นะครับ เป็นแฟนรายการ ตามฟังตั้งแต่ ep แรกออกเลยครับ
อ.นวลจันทร์ ก็เทศน์แบบนี้
แก้ที่เขาไม่ได้ก็แก้ที่เรา
สุดทางจริงๆ ไห้มองเป็นเรื่องปกติ มันปกติยังไงไม่เข้าใจ บลาๆๆ อ๋อ ปกติของเรา 😅
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
อยากถาม Sisyphus ว่า ทั้งที่(ร่างกาย)เหนื่อย แต่ได้กำลัง(ใจ)ที่จะไปต่อ จากอะไร
หนังสือชื่อ The Myth of Sisyphus น่าจะถูกมาแปลไทยเป็นชื่อนี้ครับ 'เทพตำนานซีซิฟ : Le Mythe de Sisyphe' เหมือนจะไม่มีวางขายแล้ว อาจจะต้องหาอ่านเป็นออนไลน์ หรือเป็นเวอร์ชันภาษาอังกฤษแทนครับ
นึกถึงเพลง Always with me เลย
“No need to search outside, nor sail across the sea
Cause here shining inside me, it's right here inside me
I've found a brightness, it's always with me"
ชอบมากครับฟังตลอด❤❤❤
-ชอบรายการนี้มาก ตอนนี้พอดีดูหนังฟังเพลง ก็จะลองคิดเล่น ๆ ดูว่า เพลงนี้ หนังเรื่องนี้ต้องการสื่อเป็นปรัชญาสายไหน
-นึกถึงหลาย ๆ เพลงของ Lana del Rey Lust for life, wait for life , ride และ swan song. Lana เอง จบเอกปรัชญาสมัยเรียน และนี่ว่านางได้ใช้ ในการแต่เพลง
Lust for life และ ride ฟังตอนนี้ดูจะเป็นสาย absurdism ถ้าเราเข้าใจถูกนะ
Wait for life and swan song ท่าทางจะเป็น nihilism.
-ส่วนคำถามทิ้งท้ายว่าถ้าจะบอกอะไรกับ Sisyfus ? คิดว่าคงร้องเพลง Swan song. ของ Lana ให้นางฟัง
“Put your white tennis shoes on and follow me
Why work so hard when you could just be free?
You got your moment now, you got your legacy
Let's leave the world for the ones who change everything
Nothing could stop the two of us
Let's just get lost, that's what we want” 😂😂
เคยฟังประวัตซิซิฟัสใน myth universe ของ salmon podcast ตอนท้ายๆเกริ่นเรื่องนี้ด้วย และพอมาฟังตอนนี้ขยายความได้เข้าใจมากๆครับ
พีค เคลียร์ทุกอย่างในใจด้วยEP.นี้เลย
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ❤
14:19 โห แบบโหหหหหห
คำสอนของศาสนาพุทธ เป็นลักษณะปรัชญา ที่ไม่ได้บังคับให้เชื่อ แต่จะเชื่อเมื่อ คนคิดแล้ว และเข้าใจ ด้วยตัวเอง เพราะศาสนาิไม่บังคับให้เชื่อ
Thanks!
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปครับ 💜
ชีวิตจะมีความหมายหรือไม่มีความหมาย แต่ในท้ายสุดมันก็คือ 'ชีวิต' และบางครั้งความไร้แก่นสารก็ไม่ได้ 'ไร้ความหมาย' ไปเสียทีเดียว
กลับกันเพราะมันไร้ความหมาย ถึงเลยต้องดิ้นรนต่อไปเพื่อหา 'คำตอบ' มาแทนที่ 'ความไร้ความหมาย' ตรงนั้น อาจไม่ต้องยึดติดอยู่กับนิยามที่สังคมกำหนดก็ได้ อาจเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ เรื่องเดียวที่มันช่วยเติมเต็มชีวิตของเราไม่ให้ต้องสิ้นหวังกับชีวิตมากเกินไปจนต้องจบชีวิตตัวเอง
สุดท้ายแล้ว ใครใคร่จะยึดถือในแนวคิดใด ๆ ขอเพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข และไม่สร้างปัญหาในสังคมก็เป็นพอแล้วแหละครับ :)
ชอบๆมีเนื้อหาextra!!! 😮😮
สุดดดด ดีใจที่ฟังต่อจนจบนะคะ
สนุกสุดๆครับ
ชอบตอนนี้ วะ โคตรจริง real โลกก็เป็นแบบนี้
Don't trust, verify อย่าพึ่งเชื่อ และจงพิสูจน์สิ่งนั้นด้วยตัวของคุณเอง แล้วคุณจะตัดสินใจไปแบบใหน เลือกเลย และคุณจะต้องยอมรับผลจากการตัดสินใจเลือกสิ่งนั้นด้วย
ติดตามทุก ep ครับ
ชอบอีพีนี้มากเลยคับ มองโลกตามความเป็นจริง
อยากให้มีแนวเกี่ยวกับ Jacques Lacan ค่ะ
37:50 ส่วนตัว ผมมาถึงจุดนี้แล้ว และได้เริ่มคิดด้วยตัวเองว่า ทำแบบนี้ไม่เบียดเบียน ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ทำแบบนี้สังคมจะสงบสุข ฯลฯ. แต่พอทำ กลับกลายเป็นคนที่เสียเปรียบ. ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เราต่อคิวตอนรถติดไฟแดง แต่ปรากฏว่า รถคันอื่นแซงออกไหล่ทางไปแล้วไปปาดเข้าข้างหน้า แล้วได้ไปก่อน เป็นต้น. พอเจออะไรแบบนี้บ่อยๆ ก็กลับมาคิดว่า โลกนี้ควรจะมี พระเจ้า หรือกฏแห่งกรรม (ที่เที่ยงธรรมและรู้เห็นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งต่างจากกฏหมาย) มาคอยให้ความยุติธรรม. แต่กี่ทีๆ ก็เห็นว่ารถที่แซงไหล่ทางไป ก็ได้ไปก่อนทุกที ไม่เห็นจะโดนลงโทษอะไร. มันก็วนกลับมาที่ Nihilism เหมือนเดิม ด้วยประโยคที่ว่า "God is dead ..."
อย่าสนใจที่ผลสิครับ มันดีงามเพราะว่ามันดีงามในตัวแล้ว ถ้านี่คือการถูกเอาเปรียบก็ให้มันมาอีก เรายึดอกขึ้นแล้วมองมันยิ้มให้มัน แล้วทำสิ่งที่เรามั่นใจว่าดีงามอีกครั้ง
ปล. ไอ้ของอย่างว่ามันก็มี แค่เราไม่เขาใจการทำงานของมัน
นั่งคิดดู เพราะว่าเราพยายามจะเป็นคนดี พยายามจะใช้เหตุผล/ตรรกะที่ถูกต้อง นี่แหละคือปัญหา. ถ้าเป็นคนที่ไม่สนใจเรื่องดี-ชั่ว ไม่สนใจเหตุผล/ตรรกะ ก็ไม่มีปัญหาอะไร. Ignorance is Bliss. 😆
เราเป็นคนแบบคุณมาทั้งชีวิต มองว่าโลกนี้ต้องยุติธรรม ใครทำอะไรไว้ก็ควรรับผิดชอบ ใครทำตัวทุเรศใส่คนอื่นก็ต้องรับผล แต่กลับกลายเป็นตัวเราแหละที่ทุกข์ซะเอง เพราะโลกนี้มันไม่เท่าเทียม ไม่ยุติธรรมตั้งแต่แรกแล้ว คนชั่วร่ำรวยอยู่ดีกินดีก็มีให้เห็น คนดีตกที่นั่งลำบากก็เพียบ ดังนั้นเราคาดหวังอะไรกับโลกเฮงซวยนี้ไม่ได้หรอก เริ่มทำใจได้เร็วยิ่งดี จิตใจมนุษย์มันแลนด้อมสุดๆ ผลลัพธ์ไม่เป็นแบบที่เราคิดเสมอไป ปล่อยจอยแล้วใช้ชีวิตแบบไหลไปเรื่อยๆ เจอคนดีก็ดีไป เจอคนเหี้ยก็ทำใจ แล้วนี่แหละคือธรรมชาติของมนุษย์
ผมคิดว่าผมก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน อาการมันเหมือนคนผิดหวังกับโลก โมโหโลก
แต่ตอนนี้ก็พอเริ่มเข้าใจได้บ้างว่าโลกมันเป็นอย่างนี้จริงๆ บิดเบี้ยวบ้าง ย้อนแย้งมาเสมอๆ
ผมเลยคิดว่าจะต้องไม่คาดหวังหรือดูที่ผลลัพธ์มากจนเกินไป โฟกัสที่การกระทำกับตัวเราพอ
แล้วยิ่งได้ฟังเรื่อง absurdism ep นี้ ก็ยิ่งตอกย้ำ รวมถึงคอมเม้นท์ด้านบนนีีด้วยครับ
เราคงต้องเรียนรู้มันไปเรื่อยๆ ในมุมผม คงจะยังเข็นหินมันต่อไปครับ
ชอบตอนนี้ real จัด
ขอบคุณครับนึกว่าผมเป็นบ้าคนเดียวคิดว่าสิ่งต่างๆไม่สำคัญรวมทั้งความตายของตัวเองก็ไม่สำคัญ ดีนะที่ไม่ตายเลยได้ดูคลิปนี้😉
ขอบคุณครับ
อยากถามว่า เรายืนหยัดกับความหมายในชีวิตของเรายังไง ในเมื่อเสียงรอบข้างบอกว่าเราไม่มีความหมายเลย
สุดจัด
ผมว่า ซิซีฟัส น่าจะอยากได้คอร์สสปา นวดคลายกล้ามเนื้อนะครับ 😊☺️
ผมคิดว่า ความหมายในชีวิตแต่ละคนสร้างและเขียนนิยามขึ้นมาเองได้และเป็นความหมายที่ตรงใจตัวเองที่สุด
แนะนำว่าพกยางลบไว้ด้วยนะครับ เพราะความหมายในชีวิตเปลี่ยนแปลงได้ตลอด❤
ฟังตอนนี้แล้วนึกถึงตอนเล่นเกม Hades เราก็จะต้องเจอ Sisyphus ที่อยู่กับหินจนเป็นเพื่อนรัก (ในเกมเค้าตั้งชื่อให้ว่า Bouldy) คุยกันรู้เรื่อง สนิทกันมาก แล้วมีเนื้อความที่ค่อนข้างเห็นชัดเจนว่าเค้าสำนึกผิดในสิ่งที่ทำ และยอมรับว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นผิด และยินดีที่จะใช้ชีวิตตามบทลงโทษที่ได้รับไปตราบชั่วชีวิตของวิญญาณในยมโลก แล้วนอกจากเรื่องที่ต้องเข็น Bouldy เค้าก็ยังต้องเจอการลงโทษจาก Fury Sisters ที่จะคอยเอาแส้มาฟาดในระหว่างที่เค้ากำลังเข็นหินด้วยนะ แต่เค้าก็มองว่าเพราะนี่คือบทลงโทษที่สมควรได้รับ และนั่นก็เป็นหน้าที่ของ Fury Sisters เค้าเลยเฉยๆกับมัน
Sisyphus เป็นตัวละครพระราชาของเมือง Corinth ที่ผิดใจกับ Zeus ทำให้ Zerus ส่ง Thanatos มาพรากชีวิตของเค้า แต่เค้าก็เจ้าเล่ห์มากพอที่จะหลอก Thanatos สำเร็จ และสร้างความปั่นป่วนในโลก เพราะเค้าหลอกล่าม Thanatos ไว้กับเรือของ Charon (เป็นคนขับเรือพาวิญญาณข้ามแม่น้ำ Styx เพื่อไป Tartarus) เมื่อเทพแห่งความตายทำงานไม่ได้ โลกมนุษย์ก็ไม่มีการตายเกิดขึ้น จนเรื่องเดือดร้อนถึงเทพ Olympus จึงได้ส่งให้ Ares มาช่วย Thanatos โลกจึงกลับมาเป็นปกติ อีกครั้งที่เค้าโกงความตายคือก่อนจะถูกส่งไปนรกอีกครั้งเค้าก็ไปบอกภรรยาเค้าว่าอย่าทำพิธีศพชั้นนะ ไม่ต้องฝังด้วย ที่เค้าทำแบบนี้ก็เพราะจะใช้เป็นข้ออ้างในการขอกลับขึ้นมาบนโลกทำทีว่าจะไปถามว่าทำไมภรรยาถึงไม่ทำและจะไปลงโทษ เพราะตามความเชื่อในสมัยนั้นคือคนตายเนี่ยต้องได้รับการทำพิธีศพดวงวิญญาณถึงจะไปสู่สุคติ ซึ่งแน่นอว่าเค้าก็ใช้ข้ออ้างนี้หนีกลับมาใช้ชีวิตบนโลก เท่ากับโกงความตายถึง 2 ครั้ง ทั้งหมดนี้จึงเป็นสาเหตุที่ถูกลงโทษให้กลิ้งหินขึ้นภูเขาซึ่งเจ้าหินนี่มันก็จะกลิ้งหล่นกลับมาที่ปลายเนินเขาแล้วเข้าก็ต้องเข็นมันขึ้นไปใหม่เช่นนี้ตลอดกาล
Absurdism สุดยอดมากครับให้ความกมายได้ดี
ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ชอบ shortcut ปรัชญามากค่ะ เหมือนได้กลับไปเรียน Tu110 (แต่สนุกกว่า อิอิ)
ขอ minimalist หน่ิอยค้า หลักการน่าสนใจ ดูโฟกัสกับสิ่งที่มีอยู่จริงๆ
ส่วนตัวผมไม่รู้สึกอินกับนิทานซิซิฟัส เพราะรู้สึกว่ามันลดทอนความจริงอะไรไปเยอะ แล้วรีบสรุป เช่น ถึงจะขบถไป ทวยเทพก็อาจจะไม่ได้แคร์เลยก็ได้ แต่ความเหนื่อยล้า บาดเจ็บ จากการกลิ้งหินนั้น ก็ยังเป็นของเรา เป็นต้น
ถ้าลองเปลี่ยนเนื้อเรื่องใหม่ว่า เราคือ ไก่ในฟาร์ม ที่มีหน้าที่ออกไข่ทุกวัน เพื่อให้เจ้าของฟาร์มมาเก็บไป (เช่น โดนเก็บภาษี โดนคนที่ฉลาดกว่าเอาเปรียบ ฯลฯ) และวันนึงที่ออกไข่ไม่ได้แล้ว ไก่ก็จะถูกฆ่าและเอาเนื้อไปขาย (เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำศพ ฯลฯ) . ไก่ตัวนั้นจะออกไข่ทุกวัน อย่างตั้งใจต่อไปหรือไม่?
So true. Camus ต้องมาดูงานเลยค่ะอันนี้ 55
มันก้จะกลับมาที่ existentialism ไก่ก็ต้องเปลี่ยนความคิด ว่าไข่ของเค้าสามารถเป็นอาหารให้สิ่งมีชีวิตประทังชีวิต มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เป็นอาหารที่ให้คุณค่าและประโยชน์แก่ทุกคน
แล้วก้คิดอีกแง่ ว่าซิซิฟัสไม่ควร prove ตัวเองกับใคร แต่ทำเพราะมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่เป็นความรับผิดชอบ เราไม่จำเป็นต้องมีความสุข แต่ต้องทำเพราะมีความรับผิดชอบ สามารถ adapt ได้กับเรื่องงานเช่นเดียวกันค่ะ
ถ้าเปรียบตัวเองเป็นไก่ที่โดนเลี้ยง ก็หมายความว่าเราไม่สามารถควบคุมอะไรในชีวิตได้เลย แต่มนุษย์มีศักยภาพมากพอที่จะควบคุมในสิ่งที่ตัวเองควบคุมได้ และมีแต่ตัวเราเองนี่แหละที่เป็นคนกำหนดชะตากรรมของชีวิตเรา การแบกหินถ้าเทียบเป็นชีวิตมนุษย์แบบง่ายๆก็คือ การที่คุณต้องตื่นไปทำงานทุกวัน การที่คุณต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ หรือลูกของคุณ ไปตลอด หรือ หินที่จู่ๆพระเจ้าสาปลงมาในวันนึง เช่น อาจจะโดนไล่ออกจากงานกระทันหัน หรือ โรคภัย เราเลือกไม่ได้แต่เราก็ต้องยอมรับมันให้ได้ว่ามันเป็นส่วนนึงของชีวิต และ ใช้พลังในตัวคุณเองใช้ความพยายามและความปราถนาให้สิ่งต่างๆดีขึ้น แม้ตอนสุดท้ายจะได้ผลหรือไม่ก็ตามจงทำมันอย่างถึงที่สุด
ถ้าเป็นAlbert Camus ผมก้คิดนะเค้าก้คงบอกว่า ก็ถึงสุดท้ายชีวิตต้องวนกับการออกไข่แล้วต้องถูกฆ่า ก้ยังจะขอมีชีวิตต่อไป, แต่ถ้ามีทางที่หนีออกมาได้ แล้วมันมีความสุขมากกว่า ก้ลองหนีดู เพราะไก่มีข้อจำกัดในชีวิต มนุษย์ก้เช่นกันเพียงแต่เราไม่awareแค่นั้นว่าเรามีข้อจำกัด เราถึงไม่รู้สึกว่าโลกมันเป็นกรงขังใบใหญ่
เราจัดการกับอนาคตยังไงกับ แนวคิดนี้หรอคับ
ยิ่งเฮงซวย ยิ่งต้องทำตัวให้มีค่า
เอาอะไรมากำหนดว่าสิ่งไหนมีคุณค่า
@@user-unknown420 ถ้าคิดได้แสดงว่ายังมีอยู่ เพราะมีอยู่เลยมีคุณค่าครับ
ผมเล็กเกินกว่ากำหนดอะไร ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเราเอง
ให้ใช้ชีวิตอย่างมีสุข เหมือนกับคนที่ อยากมีชีวิตอยู่.
พี่ภาคิมคร้บ แล้วในเมื่อเรารู้ว่า ชีวิตมันเจ็บปวดและไร้ความหมายเหลือเกิน มนุษยังต้องมีลูก เพื่อให้เขาเกิดมา พบกับความเจ็บปวดที่ไร้ความหมายนี้อีกไหม?
เดี๋ยวจะไม่สร้าง. ชอบบบบ😊❤
กับตอนนี้ฟังแล้วคิดถึง Nanami Kento จาก Jujutsu Kaisen ด้วยครับ
“เรื่องที่ผมรู้สึกตัวหลังจากเล่าเรียนที่โรงเรียนคือ ผู้ใช้คุณไสยมันเฮงซวยครับ
และเรื่องที่ผมรู้สึกตัวหลังจากทำงานในบริษัททั่วไปก็คือ การใช้แรงงานมันเฮงซวยครับ
ถ้าเฮงซวยเหมือนกันก็เอาทางที่เหมาะกว่า“
🤣
ชีวิตนักคุณไสย มันเฮงซวย 5555
หนังสือ The myth of sisyphus มีแปลภาษาไทยไหมคะ
พี่ครับ Buddhism มันแตกไปหลายสายมากอยากให้ทำได้ไหมครับผมอยากจะรู้ว่าต้องไปศึกษาแนวคิดไหนดี ตอนนี้อ่าน Buddhism, zen มันตีกัน55555
ขอบคุณครับ
Thanks
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปครับ 💜
อยากทราบว่าถ้าเราเชื่อในหลักความคิดของ Absurdism มันจะขัดกับหลักปรัชญาของ Absurdism ไหมคะ เพราะว่าเขาบอกว่า ศาสนา ปรัชญา ความเชื่อคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อหาคำตอบในการใช้ชีวิตต่อไปของตัวเอง
ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่นำเสนอมุมมองทางปรัชญาที่ย่อยง่ายฟังสนุกและมีคุณค่าในตัวมันเองจริงๆค่ะ ❤
นาทีที่29 พี่ภาคินเล่ามันส์มาก อินมาก จนพี่คินหันไปหันมา คงต้องเพิ่มไมค์อีก2ตัว ตั้งรอบๆพี่ภาคิน เสียงพูดจะได้ไม่ดรอป 😂😂😂
ชีวิตคือชีวิต สังคมมองสิ่งที่ทำไม่ใช่สิ่งที่พูด สู้ต่อไปทาเคชิ
ผมขอพูดหน่อยเถอะ ผมทำดีไม่ได้ดีเลย แต่ผมยังคงทำอยู่ ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมผมถึงยังทำอยู่ แม้งเจ็บปวดเสมอที่เห็นคนทำไม่ดีแต่ได้ดีได้ประโยชน์ได้โอกาสเสมอทั้งที่ผมรู้ว่าทำแบบไหนผมจะได้เปรียบคนอื่น ทำไมผมต้องว่าวุ่นวายทะเลาะกับเสียงความคิดในหัวของตัวเองเวลาทำไม่ดี เห้ยเมื่อกี้มึงเอาเปรียบคนอื่นมึงเบียดเบียนเขาอยู่นะ ถ้าผมทำผมจะรู้สึกแย่กับตัวเองมันจะดังหลอกหลอนอยู่ในหัวตลอด แล้วต้องมาเห็นคนที่ทำไม่ดีแต่ได้ดี เขาทำโดยที่ไม่ได้รู้สึกแย่กับตัวเขาเลย ทำไมผมทำไม่ได้ ผมนอยน้อยใจโลกนี้มากๆเลย ผมไม่นับถือศาสนาใดทั้งสิ้น ไม่เชื่อบาปบุญคุณโทษทั้งสิ้นแต่ผมยังคงทำดีอยู่ ถึงบางครั้งไม่ได้ทำดีแต่ผมไม่ทำแย่ไม่เบียดเบียนไม่เอาเปรียบใครผมยังทำได้ดีกว่าคนที่นับถือศาสนาหลายๆคนซะอีก ผมชอบที่ตัวเองยังยืดหยัดอยู่ถึงแม้มันจะทำให้ผมใช้ชีวิตลำบากเศร้าผิดหวัง ผมโดนกัดเซาะอยู่เรื่อยๆ ผมไม่รู้เลยในอนาคตว่าผมจะถูกกลืนกินไหม
ผมคิดว่าผมเข้าใจคุณนะ เพราะผมก็เกิดคำถามแบบนี้กับตัวเองบ่อยๆ มันจะหงุดหงิดทุกครั้งที่โลกไม่เป็นดังหวัง ผิดหวังกับโลกสุดๆ
แต่เรายังทำในสิ่งที่เราคิดว่า “เป็นสิ่งที่ดี” (ไม่ใช่การทำความดี แบบที่ใครเข้าบอกกัน) ที่เรารู้สึกถึงมัน ถึงผลลัพธ์จะไม่ได้เป็นดังหวั่ง
แต่หลังจากฟังเรื่อง absurdism แล้ว ผมคิดว่าเราต้องขยับตัวเองไป phase ต่อไป คือ “ไม่ต้องไปโฟกัสที่ผลลัพธ์”
มันคือชีวิตแหละ ย้อนแย้งบ้าง บิดเบี้ยวบ้าง แต่เราก็ยังเชื่อของเรา และทำมันต่อไป