Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
สำคัญขึ้นอยู่กับขนาดเครืีองด้วย สำหรับรถเล็ก20-30-40ใช้ได้หมด สำหรับรถใหญ่ที่มีขนาดเรื่องที่ใหญ่กว่าความร้อนที่มันสูงกว่ารถเล็กเลขตัวหลังค่อนข้างมีผลต่อการปกป้องเครื่องยนต์ จริงอยู่ว่าเบอร์ไหนก็ใส่ได้ แต่มันอยู่ที่ว่าเบอร์ไหนจะปกป้องเครื่องเราได้ดีดว่าและเหมาะกับขนาดเครื่องของเรา
ผมวิ่งทางไกล อุณหภูมิเครื่องเฉียด 120°C ตลอด ยิ่งจังหวะวิ่งยาวๆ แล้วต้องจอดไฟแดงความร้อนบางทีพุ่งทะลุ 130°C เลย แถมเครื่องมีการโมดิฟายมานิดหน่อย เคยลองเบอร์ 30-40 แล้วเครื่องร้อนแล้วมีอาการกำลังตกอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ แต่พอใช้เบอร์ 60 แล้วอาการนี้ดีขึ้นชัดเจนครับ จริงๆ ตัว Wako's 20W-70 Viscosity @40°C อยู่ที่ราวๆ 251 เลยครับ (10W-50 120, 10W-30 98-99) ดังนั้นที่อุณหภูมิต่ำ เบอร์ 70 ที่มีตัวหน้าถึง 20W จัดว่าหนืดกว่าตัวอื่นเท่าตัวครับ
ใช่ครับ จะดูแค่ 100 องศาไม่ได้
คุณภาพอีกแล้วครับ ลงทุนมาก 💯✌️
หมดหลายตังอยู่ครับคลิปนี้ 555
5555@@HobbyBikeRacing
รถเดิมๆเติมตามคู่มือดีสุด เติมเบอร์สูงเกินแรงม้าตก กินน้ำมัน เติมเบอร์ต่ำกว่าคู่มือ เครื่องจะสึกหรอเร็ว เวลาขับไกลๆสักประมาณ 100-200โล เครื่องจะเริ่มมีเสียงดังเพราะน้ำมันใสเกินไปทำให้เกิดการหล่อลื่นไม่เพียงพอ แต่ถ้าเป็นรถโมดิฟายลูกโต เปิดรอบให้เกินค่าโรงงาน ผมว่าควรขยับเบอร์น้ำมันให้หนืดขึ้นสัก 1เบอร์น่าจะดีกว่า เพราะกำลังเครื่องก็สูงขึ้นแถมรอบสูงขึ้นอีก ใส่เบอร์ใสๆคิดว่าคงสึกหรอไวแน่ๆ
อันน้ผมว่าขึ้นอยู่กับผู้ใช้รถด้วย ถ้าขับรถกระชากบิดคันเร่งแรงๆ กับคนขับค่อยๆเร่ง น้ำมันเบอร์เดียวกันรถเหมือนกัน การสึกหรอก็ต่างกันคับ คนขับรถชอบบิดกระชากควรเพิ่มเบอร์น้ำมันคับกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ ถ้าคนขับปกติใช้เบอร์มาตรฐานจะดีที่สุดคับเทียบกันมาล่ะกับเพื่อนมี่ทำงานด้วยกัน ผมขับปกติ ส่วนเพื่อนชอบขับกระชากคันเร่ง เปลี่ยนน้ำมันพร้อมกันเห็นได้ชัดเจนเลยว่าน้ำมันที่เปลี่ยนออกต่างกันมากทั้งที่ใช้งานพอๆกัน
ชอบช่องนี้มากๆเลยครับ เวลาเทสอะไรก็ตาม ขึ้นไดโน่ให้เห็นๆตลอดเลย ว่ามีผลกับความเร็วมากน้อยแค่ไหน 🙏🙏🙏
แต่ที่ผมเห็นพัง แบริ่งชาร์ฟละลาย กินน้ำมันเครื่อง ก็เบอร์ 30 ทั้งนั้น ค่าเบอร์ตัวหลังไม่มีผลอะไรกับสภาพอากาศแบบบ้านเราหรอกครับ ยิ่งตัวเลขยิ่งเยอะก็จะทนความร้อนได้ดีกว่ากว่าเบอร์ต่ำ ๆ เสียอีก เค้าถึงทดสอบ นมค.ที่ 100 องศา ไงครับแต่ละเบอร์จะสูญเสียค่าความหนืดลดลงไปตามเบอร์ อย่างเบอร์ 30 ก็จะเหลือแค่ 11-12 cSt ที่ 100 องศา แล้วยิ่งเจอรถติดคุณคิดว่าอุณหภูมิภายในเครื่องยนต์จะเกิน 100 องศาไหม ยิ่งร้อนมากเบอร์ 30 ยิ่งไม่ต่างอะไรกับน้ำมัตนจักรเลยด้วยซ้ำ ส่วนเบอร์ 70 ก็จะเหลือ 32-35 cSt ที่ 100 องศา อย่างได้แบบไหนละครับที่จะปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีกว่าก็เลือกเอา แล้วที่สำคัญเรื่องเลอะเทอะ สตาร์ครั้งแรกเบอร์ 30 จะปั๊มไปเลี้ยงส่วนตัวได้ดีกว่า เลอะเทอะครับ ต่อให้เป็นเบอร์ 70 สตาร์ครั้งแรกไม่กี่วินาที ปั๊มมันก็ส่ง นมค.ไปหล่อเลี้ยงทั่วเครื่องยนต์แล้วครับ
หน้าร้อนไทย 40-46 องศา ถ้าเครื่องโดนแดดโดยตรงก็50+ ควรซบเบอร์ 50-60เป็นอย่างต่ำ หน้าหนาวหน้าฝน 30-40ใช้ไปเถอะ
สุดยอด
เมื่อเตอร์ไซตผมติดเซ็นเซอร์วัดความร้อนผมขับกรุงเทพฯไปเชียงรายช่วงหน้าร้อนเมษายนจับได้ที่ 75 ถึง 85แต่ถ้าขับในเมืองรถติด90ถึง 100 ความคิดส่วนตัวขับต่อเนื่องอุณหภูมิจะต่ำเวลาขับที่รถติดอุณหภูมิสูงมากพัดลมหม้อน้ำทำงาน
รถบ้านผมทุกคัน รถยนต์ มอไซค์ ใช้เบอร์ 50 ทุกคัน
เครื่องฟิตๆ ใหม่ๆ ใส่เบอร์ 30 คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถเอาเครื่องเก่าๆ 10 ปีขึ้นไป ผมเลือก 40-50 ขับนานๆไกลๆ ฟีล์มน้ำมันปกป้องเครื่องยนต์ได้ดี ! แต่ไม่ว่าจะเบอร์ไหน ไม่สำคัญเท่ากับ น้ำมันเครื่องหาย พร่อง ขาด
ใช่ครับ+1
Auto ขับนานๆแช่รอบเครื่องยาวๆ10w-50กำลังดีครับ ถ้าแหวนสูบไม่ตายก่อนโดยเฉพาะค่าส้อมเสียง
พิสูจน์แล้วนะครับ แต่คนไทยชอบรั้น เก่งกว่าวิศวกร ร่วมๆครึ่งประเทศ 😅
สำหรับผมนะ รถออกใหม่เบอร์30 พอใช้ไปนานๆหรือรถเก่าใช้เบอร์40 เลขหน้าไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่เลยเพราะ W มันเกี่ยวกับรถที่ใช้เมืองหนาวคือค่าความทนการเป็นไข และสิ่งสนใจคือมาตราฐาน API และ จะพยายามใช้สังเคราะห์แท้ หรือต่ำสุดที่จะใช้คือกึ่งสังเคราะห์ และที่สำคัญเลยที่รถจะพังหรือไม่พังคือ น้ำมันเครื่องอย่าขาดอันนี้ผมว่าสำคัญสุดละ😂
เพื่อนร่วมงานเป็นไรเดอร์ วิ่งงานวันละ 100-200 กว่าโลต่อวัน ใช้น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา ผมงงเขามาก ทำไมไม่ใช่สังเคราะห์100 เพราะพวกเราขี่กันแบบทัวร์ริ่ง สรุปเขาบ่นใส่ผมฟังว่า เครื่องเวลาบิดเริ่มแปลกๆ ทั้งๆที่รถอายุไม่ถึง 8ปี wave125 ตัวใหม่
สุดเกินพี่ขึ้นไดโน่เลยทีเดียวเป็นตังบงชี้ได้ว่ารถแบบไหนเหมาะไม่เหมาะแต่บ้านเราเท่าที่เห็นรถใช่งานแช่นานๆขับนานเป็นเวลา30-50นาทีบวกลมตีห้องเครื่องรอบต่ำๆ+-ไม่เกินRadline 3000-4200rpm อุณหภูมิไม่เกิน92-96ครับ เบอร์น้ำมันเครื่องก็จะอยู่ที่10w40 เป็นเบอร์ที่ขายดีที่สุดในตลาดบ้านเราและประเทศเพื่อนบ้านเราคับ (ใช้รถใช้ถนนใส่หมวกกันน็อคกันด้วยมีสติกันนะครับขับขี่ปลอดภัยครับทุกคน)
เดี๋ยวมีเรื่องทดสอบอุญหาภูมิให้ชมอีกครับ
@@HobbyBikeRacingรอครับ😊
ส่วนตัวผมนิยมเบอร์หนืดๆครับ ใช้ gms 20w50 และ เติมแต่งสารเพิ่มเติมความลื่นและฟิล์มน้ำมันให้หนาขึ้นอีกด้วยครับ ค่อนข้างพอใจมากครับ ออกทริปหมดปลอกยาวๆ 160 กม. อากาศร้อนๆ ไม่มีปัญหาใดๆ ไม่มีอาการเครื่องอืดจากความร้อนสะสม และรู้สึกว่าจะร้อนน้อยกว่าใช้ในเมืองด้วยครับ scoopy 2022
ผมเคยใช้เหมือนกันครับ สกุปปี้ตัวแรกบิดสุดเกือบ70กม. แถมลากอายุน้ำมันมา1ปี ถ่ายออกมาไร้สิ่งแปลกปลอมหรือเศษแปลกๆ ของดีจริงๆ
นี่สิคนรู้จิง ควรใช้แบบไหนไม่ใช้มั่ว
เบอร์50 gms ลื่นกว่าเบอร์40 แบรนด์ ตลาดด้วยซ้ำครับ ราคาดี ที่สำคัญ ไม่ต้องกลัวว่าจะได้ของปลอม เหมือนแบรนด์ตลาด
เห็นด้วยครับ เพราะความหนืดขนาดนี้ แทบไม่มีผลกับกำลังเครื่องยนต์เลย เพราะนี่คือน้ำมันหล่อลื่นนะครับ ไม่ใช่กาวหรือจารบี ไอ้ความเชื่อที่ผิดๆนี่มาจาก การตลาดของผู้ผลิตล้วนๆ เพราะเทคโนโลยี่น้ำมันเครื่องสารหล่อลื่นมันตันแล้ว ไม่รู้จะเล่นอะไรให้ แบรนด์มันอยู่ได้ เลยต้องสร้างเรื่องหลอกผู้บริโภคไปเรื่อยๆนึกเอาสิว่า 20-40 ปีที่ผ่านมามา วงการน้ำมันเครื่องยังพัฒนาไม่ถึงขีดสุดหรือ มันเป็นไปได้หรือ อะไรมันจะลึกล้ำขนาดนั้นกับอีแค่ น้ำมันเครื่องหล่อลื่น อ้างสารนั่น โน่น นี่หลอกผู้บริโภคไปเรื่อยเพื่อที่จะขายของแพงขึ้นให้แบรนด์มันมีชีวิตอยู่ได้
อ.กู๊ดการันตีในคุณภาพ
ที่พูดมาถูกละครับ ขอเพิ่มเติมที่ผมใช้คือเครื่องหลวมก็เพิ่มความหนืดจากคู่มือขึ้นเล็กน้อยตามสภาพเครื่อง ดรีม125 รุ่นแรกที่ติดพ่วงข้างทำงานหนักเครื่องหลวมมากเปลี่ยนมาใช้เกรดเดี่ยวเบอร์40 ดีกว่าเกรดรวม ครับ
ถ้าเอาตามทฤษฏีนะครับ จุดประสงค์ของน้ำมันเครื่องคือ ลดการสึกหรอ น้ำมันเครื่องที่เกรดใสกว่า(เลขน้อยกว่า) จะสามารถเข้าไปหล่อลื่นได้เร็วกว่า แต่น้ำมันเครื่องที่เกรดสูงกว่า(หนืดกว่า) จะลดการสึกหรอได้ดีกว่า ปกติรถที่พึ่งออกมาใหม่ หรือวิ่งไม่ค่อยบ่อย ในห้องเครื่องก็จะมีน้ำมันเครื่องที่ตกค้างเคลือบลูกสูบอยู่น้อย การใช้น้ำมันเครื่องเกรดตำ่ ก็จะทำให้น้ำมันเครื่องเข้าไปหล่อลื่นลูกสูบได้เร็วกว่า ก็จะทำให้ลดการสึกหรอได้เร็วกว่า แต่ด้วยความที่มันใสกว่า ก็จะลดการสึกหรอได้ไม่ดีนัก และพอเราดับเครื่อง มันก็จะตกลงมากองในห้องเครื่องเร็วกว่า เครื่องก็จะสึกหรอมากกว่าด้วย แต่ถ้าเครื่องที่ใช้งานเป็นประจำ เกรดของน้ำมันเครื่องที่สูงกว่า มันก็จะหนืดเคลือบห้องเครื่องไว้ได้นาน การหล่อลื่นก็จะดีกว่า แต่ด้วยความหนืดของมัน ถ้าเอามาใช้กับรถใหม่ ที่นำ้มันเครื่องยังไม่เกาะห้องเครื่องมากนัก การที่มันไหลเข้าไปช้า ก็จะทำให้เกิดการสึกหรอในช่วงสตาร์ดเครื่องมากด้วย เพราะน้ำมันเครื่องไหลเข้าไปไม่ทัน ซึ่งการสึกหรอตรงนี้ค่อนข้างสูงเพราะเหมือนเอาเหล็กมาสีกันโดยไม่มีอะไรหล่อลื่น ส่วนเรื่องการสุญเสียกำลัง มันก็มีสูญเสียบ้าง ในกรณีที่เติมน้ำมันเข้าไปมากๆจนเกือบเต็มหรือล้นจากที่บริษัทผู้ผลิตรถกำหนดไว้ แต่กำลังที่เสียไป ก็ถือว่าเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับผลที่ได้จากประสิทธิภาพการลดการสึกหรอที่ได้มา ส่วนมาก น้ำมันเครื่องเกรดสูง มักจะใช้กับรถเก่า ที่ห้องเครื่อง ดูดซึมน้ำมันเครื่องไว้จนอิ่มตัวแล้ว ความเร็วในการไหลเข้าไปในห้องเครื่อง ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการลดการสึกหรอแล้ว และความหนืดที่ได้ จะไปช่วยทำให้เครื่องฟิตขึ้นด้วย(เล็กน้อย) การจะเลือกใช้น้ำมันเครื่องเกรดอะไร ผมว่าน่าจะดูที่ประสิทธิภาพการลดการสึกหรอเป็นสำคัญนะครับ เพราะมันเป็นวัตถุประสงค์หลัก ของการใช้น้ำมันเครื่องครับ
ผมว่าเท่าที่เจอมาเลยต่อให้ค่าความหนืดหรือเหลวกว่าดีกว่ากันยังไง แต่ถ้าเป็นน้ำมันราคาถูกเกรดน้ำมันต่ำเช่นแบบกึ่งสังเคราะก็แทบจะไม่ได้ช่วยให้เครื่องลดการสึกหรอเลยอ่ะ ต้องเป็นเกรดดีๆแบบสุดๆเลยครับถึงจะมีประสิทธิภาพแบบเห็นได้ชัดเลยเท่าที่เจอกับตัวมา เรทราคาสังเคราะห์100ต่อลิตรประมาณ900-1000+ที่ให้ประสิทธิภาพสุดแล้วครับ(ความคิดส่วนตัวและที่ทดลองมานะครับพี่ ที่พิมทั้งหมดไม่ได้มาอวดเก่งนะครับพี่😅🤣)
น้ำมันเครื่องที่หนืดกว่าสตาร์ทครั้งแรกไม่กี่วินาทีปั๊มน้ำมันเครื่องมันก็ดูไปหล่อเลี้ยงทั่วเครื่องยนต์แล้วครับ แล้วหลังจากนั้นไม่เกิน 15 วินาที น้ำมันเครื่องถึงสร้างชั้นฟิมล์เพื่อปกป้องเครื่องแล้วได้แล้วครับ ฉะนั้นเป็นเรื่องโจ๊กครับที่บอกว่าหนืดกว่ามันจะเข้าไปหล่อลื่นช้ากว่า หนืดน้อยจะเข้าไปหล่อลื่นเร็วกว่า ไม่เป็นความจริงเลยสักนิดครับนมค.มีคุณสมบัติดูดความร้อน และคลายความร้อนช้านะครับ ถ้าคุณคิดว่าจอดข้ามคืนบนยอดดอยอินทนนท์อุณหภูมิ 0 องศา แล้วคิดว่า นมค.ในเครื่องยนต์จะอุณหภูมิ 0 องศาไปด้วยคิดผิดครับ ต่อให้อุณหภูมิภายนอกรถ 0 องศา แต่อณหภูมิ นมค.จะสูงกว่าครับ อยู่ 10 กวาถึง 20 องศาแล้ว ถ้าจอดในเมือง อย่าง กทม.ข้ามคืนในวันฝนตกอากาศรู้สัึกเย็น ๆ แต่อุณหภูมิ นมค.ก็ป่าไป 30 กว่า ถึง 40 องศา แล้วเหมือนกันครับ ฉะนั้นไมต้องไปกังวลว่าจะหนืดเกินไปเลย มันจะไปพอด้วยซ้ำ แล้วแถมมีคนเทส นมค.เบอร์ 30 แล้วด้วยส่งเข้าห้องแลปตรวจสภาพ นมค.หลังจากการใช้งานที่ระยะแค่ 1000 กม. ปรากฎว่า ค่าความหนืดลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ เหลือแค่ 8 Cst เท่านั้น ซึ่งมันไปต่ำกว่าเกณฑ์มาก ไม่ต่างจาก นมค.เบอร์ 20 ซึ่งจริง ๆ เบอร์ 30 ควรจะอยู่ที่ 11- 12 Cst เมื่อเจอความร้อนสูง ฉะนั้นถ้าอยากได้การปกป้องเครื่องยนต์ที่ดี ควรหันไปพิจารณาเบอร์ขั้นต่ำ 50 ไว้ ครับ จะได้การปกป้องที่ดีกว่า
ใช่หรอนํ้ามันเกรดตํ่าหล่อลื่นได้เร็วกว่า😂
@@พันธกานต์พูลผลทําไมนํ้ามันเครื่องบางตัวใช้ไปถ่ายออกมาหนืดกว่าเดิมบางตัวเหลวกว่าเดิมครับ
@@สวัสดีครับน้าๆ แล้วน้ำมันเครื่องตัวไหนละครับที่ใช้งานไปแล้วถ่ายออกมาแล้วหนืดกว่าเดิม แล้วตัวไหนที่ใช้แล้วเหลวกว่าเดิม อยากเห็นมาก ๆ ครับบอกได้ไหม แต่ที่ผมเห็นนี้คือยิ่งใช้เจอความร้อนยิ่งเหลวลงทุกเบอร์นะคับ ยังไม่เคยเห็นยิ่งใช้ยิ่งหนืดเลย หรือเจ้าของรถคันนั้นไปใส่หัวเชื้อ หรือเติมสารเติมแต่ง นมค.อะไรมาหรือป่าว แม็คนาโน 5 5
อยาก ดู ปรับ แต่งองศาไฟจุดระเบิด อ่อน แก และ องศาเดิม ทดสอบบนไดโนครับว่าอันไหนให้ แรงม้า มากสุด
ขับในเมืองร้อนมาก_ข้ามจังหวัดเย็นครับ_ยาวกทม_ยโส_สปป15,w50ฟอร์ซ่าทุกรุ่นแรงปลายเยี่ยม_เพาเวอร์
รถเขาออกแบบมาใช้เบอร์อะไรก็ใส่เบอร์นั้นของผมเครื่องดีเซลรุ่นใหม่ใช้เบอร์5/30ก็ใช้มาตลอดจะเป็นยี่หัออะไรก็ใด้ขอแค่ของใหม่แท้ก็พอแลัวไม่มีฟ้งแน่นอน
ตอนนี้ผมเติมน้ำมันเฟืองl5 ในเวสป้าv3 นิ่มแรงดี เครื่องสะอาดดีไม่ดำ ส่วนตัว ใส่เพราะไม่รู้ว่าในขวดนั้นๆคือน้ำมันเกียร์และเฟืองท้ายพ่อมาถามหาที่กรอกไว้ เลยรู้ว่าทีเติมไป ...แต่ดีและใช้อยู่ ณ วันนี้ 26/9/66 ครับ
คหสต.ของผมในการเลือกใช้น้ำมันเครื่อง(รถเดิมๆ) สภาพอากาศร้อนในประเทศไทย1. เบอร์5w30 เหมาะสำหรับขับขี่ในเมือง ใช้งานทั่วไป 2. เบอร์10w50 เหมาะสำหรับดันยาว ทริปต่างอำเภอ ขับทางไกลในระยะทางที่ต่อเนื่อง 3.เบอร์20w70 ส่วนตัวผมแล้วยังไม่เคยใช้เลยครับ เเต่เพื่อนผมบอกว่าถ้าไม่ใช่รถแต่งจัดๆหรือรถccไม่สูงก็ไม่แนะนำสำหรับคนที่ไม่รู้จะเลือกเบอร์ไหนดีผมขอแนะนำเบอร์10w30หรือไม่ก็10w40ครับ พอหน้าฝนมาก็ค่อยเปลี่ยนเป็น5w30ครับ
ใช้เบอร์ที่เหมาะสมช่วยในเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิงด้วยครับ
คลิปคุณภาพครับ ขอบคุณมากๆที่ทดสอบให้ชมครับ เยี่ยมมาก
ลองทำ Used oil analysis เลยครับพี่ ส่งตัวอย่างน้ำมันที่ใช้แล้ว ให้แลปวิเคราะห์เลยครับว่า น้ำมันตัวไหน สึกหรอเยอะหรือน้อยกว่ากัน ระหว่าง30 50 70
จิ๊ง
ควบคุมรอบเครื่อง อัตราเร่ง engine break ให้เหมือนกันด้วยไหมครับ
@@gaptactics5231 ไม่น่าจะนะครับ เอาที่ผมที่รู้นะครับ คือ Used Oil Analysis หลักๆ คือ ตรวจหา สิ่งปนเปื้อน คุณสมบัติเคมี ค่าความหนืด ค่าการสึกหรอและอีกหลายๆอย่าง จากน้ำมันหล่อที่ใช้แล้วประมาณนี้ครับ ข้อมูลเต็มๆลองดูหรือสอบถามที่ สำนักงานคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงก็เพลิงก็ได้ครับ น่าจะให้คำตอบได้มากกว่าผมครับ😂
@@scootercamp2109 ถ้าใช้งานไม่เหมือนกันมันก็จะสึกหรอไม่เท่ากันอยู่แล้วไหมครับ อันนึงบิดสุดตลอด อีกอันนึงค่อยๆบิด อัตราการสึกหรอมันก็ไม่เท่ากันแล้ว ผลที่ออกมาจะเชื่อถือได้ยังไงหล่ะครับ
@@gaptactics5231 ถ้าผลจากแลปมันไม่น่าเชื่อเถือ งั้นที่พูดที่บอกปากเปล่าหรือตามช่องต่างๆที่ออกมาให้ความรู้นี่ไม่น่าเชื่อถือหนักกว่าเหรอครับ แลปเขาก็มีเกณฑ์ มีวิธีวิเคราะห์ มีข้อมูลและสถิติต่างๆของเขาใว้ครบครับ ยังไงก็เชื่อถือได้กว่าครับ
หนืดกว่าก็ไม่ได้แปลว่าไม่ดี จุดประสงหลักของความหนืดคือการหล่อลื่นที่ดีกว่าในรอบสูง อุณหภูมิสูง ไม่ใช่เพิ่มแรงม้า ลื่นกว่าแต่ถ้าพังไวมันก็คงไม่คุ้ม เลือกให้ถูกต้องตามการใช้งานครับ
Q : รถยนต์เก่าควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดสูงไว้ก่อนแบบที่เขาแชร์กันนี้ จริงไหม ?A : ข้อความนี้ก็จริงนะ แต่ว่าก็ก้ำกึ่งเพราะว่าไม่เป็นแบบนั้นทั้งหมดเสมอไป ก็อย่างที่บอกว่ารถยนต์เก่า แล้วเก่าขนาดไหนหล่ะ ค่ามาตรฐานกับเบอร์อุณหภูมิของตัวน้ำมันเครื่องแล้วก็ค่าความหนืดที่มีการทดสอบ น้ำมันเครื่องหนืดขนาดไหนจะได้ตัวเลขจาก 30 ขยับเป็น 40 50 60 ที่อุณหภูมิเท่าไหร่ เขาทดสอบที่อุณหภูมิ 100 องศา แต่ว่าภายในการทำงานของตัวเครื่องยนต์เอง ในหลาย ๆ จุดมีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 100 องศา เพราะฉะนั้น รถยนต์ยุคเก่าก็เลยมีการระบุค่าสเปคในตัวน้ำมันเครื่องที่จะใช้งานเป็นตัวเลขค่อนข้างสูง คือมีความหนืดสูงเพื่อที่จะให้เผื่อน้ำมันเครื่องเวลาเจอความร้อนสูงกว่าที่ทดสอบแล้ว หรือว่าผ่านอายุการใช้งานมาแล้ว เจ้าฟิล์มน้ำมันหรือความหนืดน้ำมันบางลดลง แต่ว่าตัวเครื่องถามว่าพอเราเก่าเกินกว่ายุค ถ้านับปัจจุบันนี้เกินกว่า 30 ปี รถยุคประมาณสัก 80 ตัวเบอร์ค่าคุณภาพของตัวน้ำมันเครื่องก็ดูมาตรฐาน API เกี่ยวข้องด้วยก็จะต่ำลงมาเก่ากว่าตัว SM นะ เพราะฉะนั้น เบอร์น้ำมันเครื่องในยุคนั้นจะค่อนข้างสูง จะอยู่ในช่วงเบอร์ประมาณเลขตัวหลังอยู่ที่ 40 หรือว่า 50 ก็มี เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดเราเป็นรถตรงยุคนั้นได้คุ้ยดูเอกสารข้อมูลของตัวรถ หรือว่าทราบสเปคของตัวรถเราว่าระบุว่า ให้ใช้อยู่ที่เบอร์ 40 เราก็ควรใช้ไม่ต่ำกว่า ตามที่ผู้ผลิตกำหนดเมื่อผ่านอายุการใช้งานไปเยอะ ๆ จะเพิ่มความหนืดมากขึ้น จริง ๆ สามารถทำได้นะ อาจจะทำหนึ่งเบอร์ก็ได้ แต่ว่าไม่เสมอไป นั่นก็เพราะว่ารถที่มีอายุ รถที่เก่าแล้ว แต่ว่าถูกดูแลอย่างดีมีการใช้งานมีการดูแลซ่อมบำรุงตัวรถให้อยู่ในสภาพที่ดีเหมาะสมเสมอไม่จำเป็นต้องเพิ่มเบอร์น้ำมันเครื่องที่หนืดขึ้นเสมอไปQ : แล้วที่เขาบอกว่า การใช้น้ำมันเครื่องที่หนืดไว้ก่อนจะช่วยลดปัญหาการกินน้ำมันเครื่องในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน ?A : ก็สำหรับเรื่องการใช้น้ำมันเครื่องหนืดขึ้นแล้วจะกินน้ำมันเครื่องลดลง อันนี้เป็นความเชื่อที่เก่าเลย ถือว่าเป็นน้ำมันเครื่องในยุคประมาณสัก 20 ปีที่แล้ว เหตุผลเพราะว่าน้ำมันเครื่องในยุคเก่าจะมีส่วนเบสผสมของน้ำมันจากธรรมชาติ น้ำมันหล่อลื่นจากธรรมชาติ เวลาเขาถูกเครื่องยนต์ใช้ความร้อนสูง ๆ มีโอกาสที่น้ำมันเครื่องบางส่วนจะถูกเผาไหม้ไปด้วย เพราะฉะนั้น น้ำมันเครื่องก็จะค่อย ๆ ลดลง ๆ ลดลงตามช่วงเวลาการใช้งานหลังจากผ่าน 5,000 ผ่าน 7,000 ผ่าน 10,000 กิโล แต่ว่าน้ำมันเครื่องยุคใหม่พอเป็น Semi Synthetic จนถึง Fully Synthetic ก็ยังมีเรื่องของการถูกเผาไหม้ให้ปริมาณน้ำมันลดลงไปตามอายุการใช้งาน แต่ว่าน้อยลงกว่าเดิมเยอะ เพราะฉะนั้น เราไม่จำเป็นต้องมีการเผื่อตัวค่าความหนืดเพื่อที่จะป้องกันให้ตัวน้ำมันเผาไหม้น้อยลง ตรงกันข้ามเลยน้ำมันเครื่องยุคใหม่ เราเปลี่ยนจากการดูที่ตัวเบอร์ค่าความหนืด ไปดูตัวค่าประสิทธิภาพของตัวน้ำมันเครื่องดีกว่า ก็คือตัว API หรือว่าตัว JASO หรือว่าตัว ACEA เหล่านี้คือค่าที่บอกประสิทธิภาพของตัวน้ำมันเครื่อง ส่วนค่าความหนืด ณ ปัจจุบันสามารถที่จะเลือกย้อนกลับไปตรงตัวเลขที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ได้เลยQ : สรุปแล้วรถยนต์เก่าควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดสูงไว้ก่อนแบบที่เขาแชร์กันนี้ เป็นยังไง ?A : คงจะต้องดูที่ต้นเหตุของการกินน้ำมันเครื่องมากกว่า ไม่ใช่ว่าเครื่องยนต์มีอาการกินน้ำมันเครื่องหรือเครื่องยนต์เก่ามีการสึกหรอสูง แล้วการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่เบอร์หนืดเพิ่มมากขึ้นจะแก้ไขปัญหานี้ได้เสมอไป ถ้าเกิดเริ่มมีการสึกหรอตามการใช้งานแบบปกติ การเพิ่มเบอร์ขึ้นหนึ่งเบอร์ก็อาจจะพอช่วยลดอาการที่เกิดขึ้นได้ แต่ว่าถ้าเกิดสึกหรอจากการใช้งานแบบผิดปกติ การที่จะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้มีเบอร์ความหนืดเพิ่มมากขึ้นก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา หรือว่าลดการกินน้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ตัวนั้นได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดจะแชร์ต่อสามารถแชร์ต่อได้แต่ควรมีคำแนะนำเพิ่มเติม 👉 คู่มือรถ ถือเป็นคำแนะนำที่ดีในการดูแลรถยนต์เบื้องต้นนะ
@@aeonthailandเรื่องน้ำมันเครื่องคู่มือรถไม่ได้แนะนำดีที่สุด แต่แนะนำมาตรฐานเท่าที่รถต้องการเท่านั้น ใช้สูงกว่ามาตรฐานได้ยิ่งดี
@@OUW9999ข้อความนี้คือผู้ตกผลึกมาแล้ว ตามนี้เลยถ้าไม่ติดเรื่องทุนทรัพย์
น้ำมันเครื่องไม่ได้ทำหน้าที่หล่อลื่นอย่างเดียวนะ
ควรเลือกให้ถูกต้องตามการใช้งาน หรือความเหมาะสมกับการขับขี่ของแต่ละท่าน เบอร์สูงๆก็ดีครับ เซฟเครื่องยนต์ได้ดีกว่าเบอต่ำๆ แต่ต้องดูรถ และการใช้งานอีกด้วย บางทีใส่หนาเกินไป น้ำมัน มันก็ไม่ได้เข้าไปเคลือบและป้องกันชิ้นส่วนบางชิ้น เบอร์ 10W40 กำลังดี เพราะอยู่ระหว่างกลาง ส่วนรถที่โมดิฟายมา ใส่เบอร์สูงได้ยิ่งดี 1.เซฟกำลังอัดและช่วยเสริมความทนทานของชิ้นส่วนได้ดีขึ้น 2.ลดอาการน้ำมันเครื่องขาดหรือหายจากการขับขี่ในเขตเมืองเป็นเวลานานหรืออากาศร้อนแต่รถเดิมๆ 10w40 ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ ส่วนใครจะใช้เบอร์สูงกว่าก็ตามที่สะดวกครับ
โดยประสบการนะครับ 10w30 วิ่งไกลไม่ได้ ถ้าเป็นเบอร์50จะดีกว่าครับ รถ r15 2017 17000โล
ผมขับcbr650 ใช้นำ้มันเครื่องสูนเบอ30 แห้งไวมาก ตั้งแต่่ออกรถ1000โลแรกก้อจิ้มไม่ติดแล้ว แต่พอเปลี่ยนมาเติมเบอ40โมตุล นมค ไม่เคยหายอีกเลย
เครื่องหลวมหรือป่าวครับ
สำหรับรถที่โมดิฟายเครื่องยนต์มากๆ แล้วใช้รอบค่อนข้างสูง ควรใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ที่หนืดๆรึเปล่าครับ
เลือกตามการใช้งานเป็นหลัก ความร้อนเท่าไหร่ก็เอาเท่านั้นไม่ต้องเผื่อเปลี่ยนถ่ายตามการใช้งาน เช็คบ่อยๆถ้านมค.เริ่มดำ เกียร์แข็งก็ควรควรเปลี่ยน
ถูกต้องครับ
ทำไม มันคิดกันว่าขับในเมืองไม่ร้อนวะ กูว่าออก ตจว เครื่องยังจะเย็นกว่าอีก ขับยาวๆ ลมโกรกเครื่อง ค ปล. ขอบคุณสำหรับคลิปครับ
ใช่ครับ ขับในเมืองรถติดๆ แปปๆพัดลมหม้อน้ำทำงาน ร้อนมาก ตัดมาออกนอกเมือง ลมปะทะตลอดความร้อนน่าจะน้อยกว่า
เค้าอาจจะหมายถึง การขับขี่ในเมืองส่วนใหญ่เป็นระยะทางที่ใกล้ ไม่ไกลเท่าตจว.รึเปล่าครับ ทำให้เครื่องไม่ต้องทำงานเป็นระยะเวลานาน อุณหภูมิเลยไม่สูงมาก(การขับขี่ทั่วไป ไม่รวมถึงไรเดอร์หรือคนที่ขับขี่ทั้งวัน)เพราะยกตัวอย่าง พวกคลิปรีวิวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอะครับ พวกรถที่วิ่งได้ระยะทางน้อยๆ เค้าก็จะบอกว่าเป็นรถที่เหมาะกับการใช้ในเมือง คำว่าเมืองกันตจว.ในความเป็นจริงกับนิยามน่าจะต่างกันครับ
@@nikez8382 โอ้โห จอดไฟแดงเดียว พัดลมทำงานไม่ตัดเลยเหอะ สงสัยอยู่ทุ่งลาเวนเดอร์อันสวยงาม
@@jmsssx ไม่เห็นเกี่ยวกับทุ่งลาเวนเดอร์นะครับ
@@nikez8382 แค่ใกล้ๆ แล้วเจอรถติด จอดรอไฟแดง มันก็ร้อนกว่าวิ่งทางโล่งๆอยู่ดีครับ รถติดๆ ขยับได้ทีละนิด ไปจอดรอไฟแดงแป๊บๆ พัดลมก็ทำงานล่ะ สรุป มันไม่เกี่ยวว่าระยะทางในเมืองใกล้กว่า มันต้องดูว่า ทางมันโล่งให้รถวิ่งได้แค่ไหนด้วย ระยะทางแค่ไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร แต่รถวิ่งไม่ได้ จอดติดแหง็กอยู่เป็นชั่วโมง ก็ร้อนกว่าอยู่ดี
โอ้สุดยอดมากครับ...มีข้อตำหนินิดเดียวคือเป็นน้ำมันคนละแบรนด์กัน.ซึ่งตรงนี้ก็เข้าใจได้เพราะแต่ละแบรนด์มีย่านค่าความหนืดไม่มากเต็มที่แค่30-50หรือ40-60แต่มี1แบรนด์ที่มีย่านค่าความหนืดมากสุดคือ RedLine แบรนด์นี้มีความหนืดตั้งแต่ 5/10/20/30/40/50/60/70W เลยครับ.น่าซื้อมาลองเทสนะครับฮ่าๆๆ.เสียแค่ว่ามันราคา 1200/ลิตร.R3 ผมใช้ 30 อยู่ถ่ายทุก 1 ปีหรือ 10000-12000 กม.ถ้าซื้อมาเทสน่าลองตัว 5W-30W-70W ครับ.เพราะมีความหนืดที่ต่างกันชัดเจนในแต่ละย่าน.ซึ่งก็น่าจะให้เห็นภาพกำลังต่างกันได้ชัดเจนเช่นกัน
หายี่ห้อที่มีครอบคลุมเบอร์ขนาดนี้ยากครับ และก็อาจจะโดนฟ้องได้ครับถ้าผลลัพท์ออกมาไม่ดี เลยคละยี่ห้อเพื่อความเป็นกลางครับ
ผมใส่เบอร์50ในเวฟ110i ขับดีมากเครื่องไม่ค่อยร้อนวิ่งไกลๆไหลดีกว่าเบอร์ 30เครื่องร้อนรถตื้อวิ่งไม่ออก
รถwave i ผมควันเยอะ เร่งไม่ขึ้น สะดุด ช่างบอกว่า ลูกสูบลวม ต้องผ่าเครื่องเสียเงินเยอะ ลองใช้เบอร์50 ดีขึ้นมาก ควันน้อยมองแถบไม่เห็น รถมอไซขับ6แสนโล กลับมาเป็นปกติแล้ว ก็ได้เวลาขายทิ้งแล้วคับ😂
ผมเลือกเบอร์หนืดสุดในตลาดที่หาซื้อง่ายคับมันจะทนทาน ยืดอายุยาวนานครับ ใครไม่ชอบก็ใช้เบอเหลวๆไปส่วนผมไม่ตามใครเพราะผมเป็นช่าง ไม่ใช่แค่ขี่แต่ซ่อมเอวด้วย
เลอะเทเะ
ขี่ทำงานทั้งวัน ผมใช้ 10-40 เคยใช้ 30 ละ พอมันร้อนนี่รู้สึกเคริ่องดังกว่าปกติ นี่ก็40 มาจนจะ แสนโลละ
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
น้ำมันเครื่อง ความหนืดต่ำ เบอร์ 30 เมื่อสตาร์ทรถ จะวิ่งขึ้นไป เลี้ยงเสื้อสูบ ได้ไวกว่า ส่วน เบอร์ 50 จะขึ้นช้ากว่า แต่เมื่อรอบสูงๆ แช่นานๆ น้ำมันเครื่องเบอร์ 50 ฟิมล์น้ำมัน จะซิลเสื้อสูบ และอุปกรณ์ ในเครื่อง ได้ดีกว่า
อยากดูการเทสรถสกูตเตอร์สายพาน (nmax pcx fino บลาๆ) กับน้ำมันเครื่องรถยนต์ เบอร์ 20 / 30 / 40 / 50 หน่อยครับ
มีความรู้สึกว่าดรีม 125 ที่ใช้งานหนัก จากเดิมใช้ 10W-40 พอเครื่องเริ่มหลวมเสียงเขกเริ่มดังไม่นิ่มนวล ลองเพิ่มความหนืดเป็น 10W-50 ก็ดีขึ้น และพอเอาเกรดเดี่ยว SAE 40 แล้วถูกใจเลยครับ ประหยัดเงินด้วย
ใช้ของญี่ปุ่น 20w-50 ดีแน่นอน
คหสต. บ้านเราเมืองร้อน ร้อนจัด ร้อนเห้ๆ -Tmax530 ผมใช้ 15w-50 ออกทริปยาวๆ 3,000-3,500 สบายมาก-R6 ใช้ 10w-40(นมค.ศูนย์) นี่สุดยอดของความร้อน ร้อนแบบ น่องขวาด้านในเป็นตุ่มน้ำ พอ เปลี่ยนเป็น 20w-60 ดีขึ้น -Zx10R(รีแมพ) ใช้ 10w-40 รอบเดียวเข็ด ขี่กลางวัน ติดไฟแดง 118-114องศา , 10w50 ติดไฟแดง 110-109องศา ,10w-60 แดง110-108-106 องศา-อีก1,000โล ได้ระยะถ่าย นมค.อยากลอง 20w-70 เหมือนกันน่าจะเหมาะกับช่วงนี้ดี 🤣 ทั้งหมดเป็น คหสต. กับรถที่ใช้จริงๆ ตัวเลขอาจคลาดเคลื่อน งดดราม่านะค้าบ 555+
ยิ่งอากาศ+อุณหภูมิร้อน ใช้เบอร์หนืดสูงๆ ดีแล้วครับ ถ้าอากาศปกติ ไม่ต้องหนืดสูงสุดก็ได้ ความเห็นผมนะ
จะเปลี่ยนนมค.ทีนึงต้องเดาฤดูกาลสภาพอากาศไปพร้อมๆด้วยเลย555
@@Jeminineth บ้านเรามันร้อนทุกฤดูครับ 5555+
@@rryuzzzz9320 ร้อนครับกลางวัน หน้าหนาวยังร้อน 🤣
จัดเลยครับ สบายๆเลยเบอร์70 เหมาะเลย
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ🙏🏽
ขอบคุณครับ
เบอร์หลังน้อย 30 แรง/รอบมาไวกว่านิดหน่อย แต่ไม่ทน ขับแช่ก็ไม่ได้ เหมาะกับรถแม่บ้านข่ายตลาด เช้า-เย็น เปลี่ยนทุก 1-2เดือน40 มาตรฐาน เปลี่ยนทุก 2-3เดือน50รถทำเครื่องไม่หนัก รถทั่วรริ่ง รถขับแช่รอบสูง หรือรถ cc สูงส่วนนอกเหนือจากนั้น ก็เอาไว้ใส่รถ cc สูงๆส่วนเลขหน้า รถเล็ก เบอร์ 10 หรือต่ำกว่า รถ cc กลางๆสูงๆ 15 ก็พอถ้าคุณขับ 110-125 10w-40 ก็พอๆ ไม่ว่าจะแช่มากน้อย 150-300 10w50 สังเคราะห์แท้ กำลังดีเลยไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยถ้าสูงกว่านั้น สังเคราะห์แท้ 10-15w 50-60 เลือกเอาครับ😂
ผมใช้เบอร์30 ตามคู่มือบอกมาตลอด แรงดีไม่เคยพังครับ
สุดยอดครับ
แลกเปลี่ยนเป็นความรู้ละกัน ประเทศผมอุณหภูมิเฉลี่ย 9-17 องศาประมาณนี่้ ผมเคยขี่จาก Quebec ไป Ottawa เกือบ 500 โล ขาไปใช้ 5w30 ขากลับใช้ 0w20 บนรถ AK550 ขาไปนี่ขี่คนเดียว ขากลับขี่ 2 คน สรุปว่าขากลับที่ขี่ 2 คนใช้ 0w20 ดันขี่ดีกว่าซะงั้น ตอนขาไป 5w30 ก็ว่าขี่ดีแล้วนะ แต่ขากลับดันลื่นดีกว่าอีก อาจจะเป็นเพราะขากลับอุณหภูมิตอนนั้นมันลงมาเหลือ 11 องศา ต่างจากขาไปวันนั้น 13 องศาปล.น้ำมันเครื่องถ่ายก่อนเดินทางทั้งขาไปและขากลับ Valvoline ทั้งไปและกลับ จะมีขาไปที่ขี่วนๆเล่นดูโน่นนี่นั้นในเมืองอยู่ 2 วัน
เพราะข้างหน้าเป็น 0สูบฉีดดีทั่วถึง ข้างหลัง 20 ชั้นฟิลม์ไม่เหนียวแน่นยืดหยุ่นกว่า หน้า15 หนืดกว่ายืดเกาะมากกว่าเพราะหลัง 30 เหนียวแน่นกว่า
เหลวกว่า ดูเหมือนจะปั่นรอบได้มากกว่าแต่ความสึกหรอที่อุณหภูมิสูง เป็นสิ่งที่ต้องพิสูจน์ถ้าจะสมบูรณ์แบบ ต้องส่งน้ำมันจากการทดสอบ ไปหาค่าเปอร์เซ็นต์โลหะที่สึกหรอปนมาในน้ำมันเครื่องด้วย จะตอบคำถามได้ครบถ้วนครับ
คนที่บอกหนืดกว่าแล้วให้ผลเหมทอนกัน คือยังไ หนืดปว่า ต้องกินพลังรถมากกว่า แต่อาจจะรักษาเครื่องยนต์ดีกว่า ต้องแลกกัน
สวัสดีครับ พี่หาข้อมูลรีวิวน้ำมันเครื่อง duckham ให้ดูหน่อยครับ.
ผมส่งอาหารรถแกรนใช้ptt 0w20 อัตตราเร่งดีมาก บางครั้งก็เปลี่ยนจาก95โซฮอล์มาเติมน้ำมันวีพาวเวอร์ยิ่งเร่งดีคูณ2 ท่านอื่นใช้แบบไหนกัน
สมุติแบบผสม เช่น 40 จาก 1 กระป๋อง เอาออกไป 2 ฝา แล้วใส่ 30 แทนไป 2ฝาเศษ (คิดแบบตื่นเช้ามาได้ให้เศษ30นำไปรันก่อน) แบบนี้จะเป็นไรมั้ย
แต่ หากเทียบกันที่ความเร็วสูงๆที่อุณหภูมิสูงๆ บิดแช่นานๆ เบอร์หนืด ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ปล.รถที่ผ่านการใช้งานมาอย่างน้อย1หมื่นโล เทียบแล้วใช้เบอร์หนืดสบายใจกว่าและปกป้องดีกว่า
ยังไม่เข้าใจเรื่องน้ำมันเครื่องอยู่ดีความหนืดให้เอาเบอร์หลังเป็นความสำคัญตัวเลขสูงคือหนืดสูงตัวหน้าคือความใสเช่นเมืองหนาวใช้5w30หรือ40เวลาสตาร์ทน้ำมันจะไม่ข้นแข็งตัวนั่นเองส้วนเมืองไทยร้อนอยู่แล้วไม่ต้องห่วงให้เน้นเบอร์หลังก็พอชอบเบอร์อะไรทางที่ดีใช้สังเคราะห์100%ดีที่สุดชอบเบอร์อะไรเลือกเอา
ส่วนมาก ดูที่ค่า มาตรฐาน API ล่าสุด Api SP ยังมี SP rr ด้วยนะเคยเห็น Jaso Scooter mb รถเกียร์ Ma ครับหนักma2 ส่วนมาก น้ำมันเครื่องที่มีค่า มาตรฐาน Api spจะมี ค่า LPSI Low-speed pre-ignitionชิงจุดที่รอบต่ำ น้ำมันเครื่อง SP เลยมีค่าflash pointสูงจุดวาปไฟ และ ค่าต้านทานการจุดระเบิดสูงค่า vi Viscosity Index ความหนืด มี หลายมาตรฐาน ที่อุณหภูมิ@40องศา และ @100องศาส่วนมาก น้ำมันเครื่อง จะ ความหนืดลดลง เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น และหนืดมากขึ้นเมื่ออุณหภูมิลดลง
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ
125 2023 ใช้น้ำมันเครื่องถึงลิตรไหมคับ
เวฟ125ledปี 2022 ของผมพอเครื่องร้อนจะมีเสียงดังเก๊ๆๆๆ ช่างเค้าเลยเเนะนำ ใช้น้ำมันเครื่อง 10-50 หรือเบอร์ที่หนึดขึ้น เสียงตังเก๊ๆๆๆ ก็ยังอยู่ อยากรู้เวฟ125led ปี 2022 ของใครเป็นเเบบผมไหมครับ ขอความรู้ทีครับ🙏
ได้เอาเข้าไปตั้งวาล์วบ้างมั้ยครับ ของผมตัวปี22 เหมือนกัน รู้สึกว่าวาล์วจะดังนิดหน่อยไม่นิ่มเหมือนใหม่ตอนออกศูนย์ รถ10600โล
ขออนุญาตสอบถามเพื่อเป็นความรู้ครับ รถผมดรีมคุรุสภาพึ่งคว้านลูกสูบมาใหม่ ควรใช้น้ำมันเครื่องเบอไหนดีครับ จึงเหมาะสม
มีสาระมากเลยค่ะ อยากรู้ว่า น้ำมัน MA2 กับ MB ที่เบอร์ความหนืดเดียวกันเช่น 10W40 แต่น้ำมัน MB จะลื่นกว่ามากเลยจริงไหมค่ะเพราะฉนั้นเราควรเติ่มน้ำมันเครื่องให้ตรงกับชนิดรถใช่ไหม 🙏🙏
ลื่นกว่าไหมนี่ขึ้นอยู่กับสารเติมแต่งที่ใส่เข้าไปmbมีสารบางตัวถ้าใส่ในรถครัชเปียกมันจะทำให้ครัชลื่น ครับ
MA=เฉพาะรถเกียร์MB=เฉพาะรถออโต้MA2=ได้ทั้งเกียร์และออโต้
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ จากคนไม่เป็นเรื่องรถเลย เริ่มเป็นจากการค้นคว้าหาความรู้จากช่องทางyoutube และช่องนี้ครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ
ปัจจุบันทั้งในกรุงเทพฯและปริมลฑล การจราจรติดขัดช่วงเวลาเร่งด่วนมาก ขับรถขึ้นสะพานพระราม9ไปลงดินแดงขับยาวไปถึงย่านคลองหลวงปทุมธานี เครื่องยนต์ทำงานตลอด ขากลับก็เช่นกัน😅
คลิปนี้ลงทุนมากเลยครับ สุดยอด ถ้าเอารถที่โมดิฟายมาเทสด้วยน่าจะดี
อยากเอาเบสคนทั่วๆไปที่ใช้รถเดิมครับเลยเอารถเดิมมาทดสอบก่อน
Wave110i 2016 เครื่องเดิม วิ่ง60000 กิโล วิ่งไกลวันละ 80 กิโล/วัน ควรขยับเบอร์น้ำมันเครื่องไหมครับ ปัจจุบันยังใช้ 10W-30
10w-40เลยครับรึไป10w-50
ชอบหนืดๆ รักษากำลังอัดดี กลายเป็นประหยัดน้ำมันไปอีก แต่พอรอบมาไม่อืดนะ
เห็นด้วย จากการใช้จริงแต่ก่อนใช้ตามคู่มือ 10w30ช่างบอกรถเก่าแล้วให้ใช้ 20w50ความรู้สึกแรก รถออกจะอืดๆนิดนึง พอได้ขี่ทางไกล(แปดริ้วไปโคราช) อัตราเร่งดี ยืนพื้น140 เวลาเร่งแซง รถมีแรงอัดดีมาก ตอนนี้ใช้20w50 มาตลอด
@@prasittanuwong8019 รถเก่าเคลียร์แร้นเยอะ จำเป็นต้องใช้หนืดๆมาช่วยอุดถูกต้องแล้วครับ แต่ถ้าพวกบิ๊กไบค์เขาเล่นหนืดกันแต่แรกอยู่แล้ว
ผม52000กว่าโลใช้ 10w60 เสียงแน่นดีท่าว่าหนืดมันก็ไม่ได้หนืดอะไรขนาดนั้นครับเครื่องเงียบกริป😂 ยิ่งร้อนยิ่งลื่นครับ
รถแม่บ้านใช้งานหรือวิ่งบ่อยๆ แนะนำใช้แบบสังเคราะห์100 10W40หรือ10W50ก็ได้ครับ
เราใช้เบอร์ 30 ถูกใจมาก...
ลองอีกรอบรับ ใช้น้ำมันเครื่องที่หนืดกว่าก่อน แล้วเอาน้ำมันเครื่องใสไว้ท้ายสุดครับ
หนืดน้อยมาก ไม่ใช่ประเด็นหลักครับเราต้องดูเกรด API-S... เป็นหลัก เพราะมันเป็นตัวเกรดบ่งชี้ค่าฟอสฟอรัส การระเหย และการกำจัดเขม่า
พอเครื่องร้อน มันก็ไหล่เคียงกันหมดแต่ถ้าเหนียวหน่อย ก็จะดีต่อรถ ที่ใช้ความเร็ว หรือใชงานต่อเนื่อง เช่นรถทัวริ่ง
ขับ stallion ครับ ต้องใช้เบอร์หนืด 20w50 ใช้ 5-20w40 แคมกระเดื่องโคตรสึก
ตัวเลขเบอร์ที่เหมาะกับอุณหภูมิประเทศไทยที่สุดคือSAE:0W-40 , 5W-40 ,10W-40 ตัวหน้า0W,5W,10Wใช้กับประเทศหนาวมากๆส่วน-40คืออุณหภูมิร้อนแถบประเทศไทยครับใช้กับเครื่องยนต์นะครับส่วนเบอร์สูงๆขึ้นใช้กับเกียร์กับเฟืองท้ายครับเช่นเบอร์90 มิน่าหละรถรุ่นนี้ที่เห็นอยู่จอดสนิทเป็นส่วนมากเพราะใช้น้ำมันเครื่องผิดเบอร์นี่เอง
เบอร์40วิ่งไรเดอร์ใช้นานๆ ไม่รอดน้ำมันเครื่องหาย แนะนำ50 ดีตอนเครื่องร้อนจัดๆ
@@ใบไม้ปีศาจรอดคครับ ผมใช้อยู่ วิ่งยังไง มันก็ไม่หาย ครับ ถ้าเปลี่ยนทุกๆ 2000 โล ไม่ลากยาวเกินกว่า 2500
ช่วยแนะนำสำหรับไรเดอร์ ขับวันละ100-150โลหน่อยครับควรยังไงดี รถใหม่กำลังเปลี่ยน พันโลแรก
ตามครับดันๆ+1
แนะน้ำเบอ10-40คับจบๆเบาได้หนักก็ได้
แต่เป็นสังเคราะเเท้100น่ะ
จากที่ฟังจนจบ ถ้าผมใช้เวฟเดิมโรงงาน ที่เขาแนะนำ30W ฤดูร้อนขับทางไกลผมจะใช้เบอร์40W ขับในเมือง50W ส่วนฤดูฝนกับหนาวใช้30W น่าจะตรงโจทย์ที่สุดสำหรับผมแล้วครับ
วัดที่ condition อะไรPlug temp?Oil temp?สองค่านี้มีผลต่อแรงม้าน้ำมันทั้ง3ตัวคุม conditon เท่ากันไหมครับ
เวฟ110i เป็นรถเก่าปี2015 เครื่องทำลูก53 ใช้แบบไหนดีครับปกติใช้10w50 ครับ
ที่ผมทำเลยก็ถ้าเครื่องพึ่งผ่าพึ่งทำเลยใส่ตัวW40ไปเคลือบในตัวเครื่องก่อนอ่ะครับซัก3000โลแล้วหลังจากนี้ก็ใส่W50ครับแต่เกรดน้ำมันต้องดีด้วยผมใช้ตัวไหนนี่แหละนานแล้วลืม5555แต่ราคาอยู่ประมาณลิตรละ900กว่าๆใช้ดีมากกแต่7100ก็ไม่แพ้กันเลย แล้วแต่ความสะดวกเลยครับ5555
กึ่งสังเคาระห์ กับ สังเคราะห์100%ราคาต่างกันคุณภาพต่างกันเยอะใหมครับ ต่างกันยังไงครับเพราะให้เปลี่ยนทุก4,000-5,000 กม.เหมือนกันครับ
น้ำมันเครื่องแพงๆ อัตราการไหลดีเวลาเครื่องเย็นคงความหนืดเวลาเครื่องร้อนน้ำมันเครื่องถูกตอนเครื่องเย็น ตรงตามสเปคตอนเครื่องร้อน เหลวไม่คงความหนืดสรุป น้ำมันแพงๆค่าความหนืดสวิงน้อยกว่าเมื่อเทียบตอนเย็นกับตอนร้อน
สำหรับผมเดิมรถใหม่หรือรถใช้งานไม่เกิน10กิโล=ตามคู่มือมือ30w,40wรถใช้งานทางไกล,รถติดบ่อยๆ=40wรถใช้งานเครื่องเริ่มหลวม=50wรถ100-300ccผมว่าไม่ควรเกิน50W#ข้อมูลข้างต้นเป็นความคิดเห็นผมล้วนๆอาจผิดถูกแต่มั่นใจว่าไม่ทำให้เครื่องพังแน่
ผมเป็นรถสายพานรถ10ปีกว่าถ้าผใช้เบอร์50จะเป็นไรไหมครับ
@@heartunruly4438 ถ้าใช้งานปกติไม่ใช่200cc+ผมว่า40Wก็น่าจะเพียงพอนะถ้า50Wต้องใช้เวลาวอมอุณหภูมิน้ำมันเครื่องสักพักแต่ถ้าวิ่งส่งของใช้ได้เลยครับเพราะใช้งานหนุกเครื่องร้อนตลอด
@@heartunruly4438 ถ้าใช้งานหนักวิ่งส่งของทั้งวัน50wได้ครับแต่ถ้าใช้ปจว.ไม่ได้หนักอะไรมาก40Wก็น่าจะเพียงพอ
ขับในเมือง ร้อนเพราะการระบายอุณหภูมิไม่ดีขับนอกเมืองทางไกล ร้อนเพราะรอบสูงเครื่องจะเย็นที่สุดที่รอบการทำงานพอดีๆ ในตอนที่เราเดินทางไกลครับ บวกกับการระบายอุณหภูมิได้ดีที่สุด
ผมใช้เบอร์40กึ่งสังเคราะห์ ใช้รอบสูง 9,000-12,000 ระยะทาง800กิโล น้ำมันเครื่องหายไปประมาน300-400ml. 🤣
❤❤❤❤เห็นความระเอียด เห็นความตั้งใจทำคลิปแล้ว กดติดตาม กดหัวให้ให้เลยครับ❤❤❤❤
รถออกทริปบ่อยผมว่าใช้หนืดกว่าเดิมหน่อยดีกว่าขับรอบสูงลากยาวๆช่วยลดการเสียดสีของเหล็กดีกว่าแน่นอน..รถขับในเมืองเน้นออกตัวตามไฟแดง..รถติด.รอบต่ำ..ใช้ปกติตามคู่มือไปเลยครับ
จริงๆแล้วขับในเมืองความร้อนสะสมสูงกว่าครับ เพราะใช้ความเร็วได้ไม่มาก็ต้องจอดบ่อยๆความร้อนสูงกว่าขับทางไกลยาวมีลมผ่านเครื่องตลอดเวลาครับ
เป็นความรู้ดีๆครับ
ใช้ตามคู่มือดีที่สุด.รถใหม่ๆใส่ความหนืดมากๆเครื่องพังเร็ว ใสไปก็พังเร็วเช่นกัน ต้องใช้ตามคู่มือของแต่ล่ะรุ่นเขตร้อนเมืองไทยความหนืด30-40-50โดยประมาณ เลือกใช้ใหเหมาะสม ส่วนที่สำคัญอีกอย่างคือAPI ตัวนี้จะบอกคุณภาพของน้ำมันเครื่องยนต์เบนซินขึ้นต้นด้วยอักษรS ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลขึ้นต้นด้วยอักษรC
รถใหม่บางรุ่นก็ชอบหนืดๆ เช่นพวกค่า clearance สูงๆแบบบิ๊กไบค์
ผมว่าการพังเร็วคือคนที่ไม่ถ่ายน้ำมันเครื่องใช้ลากยาวนานๆมากกว่าครับ
ท่องตามตำรามาเป้ะเลยนะครับ ใช้งานจริง อุณหภูมิ แต่ละประเทศไม่เหมือนกันนะครับ คิดดีๆ
รถญี่ปุ่น ผลิต ที่ ไทย แต่ R&D ทำงาน อยู่ ขั้วโลก เหนือ คู่มือ ก็ไม่ได้พัฒนา ตามประเทศ นั้นๆ ครับ
ประสิทธิภาพสูงสุดได้คำนวณมาแล้วจากผู้ผลิตเครื่องยนต์ แต่ละรุ่น ได้เหมาะสมแล้ว ส่วนเบอร์อะไรดูตามคู่มือได้เลยครับ ❤
ยอดเยี่ยมครับที่ทดสอบให้เห็นภาพ
ขอบคุณมากครับ
การที่เครื่องอืดไม่ใช้น้ำมัน นืดหรือไม่นืดครับ คุณเติมน้ำมันเครื่องจนหมดขวด ท่าเป็นช่างจริง เขาจะดูการเติมของรถแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน และเติมตาม ขีด บอกขนาดที่เป็นขีดอยู่ข้างขวดน้ำมันเครื่อง ครับ😅😅😅 ความรู้จากช่าง...
พี่จ๋ายเชื่อไหมครับ รถผม125ledเดิมๆเลย ผมเคยใช้เบอร์10w30วิ่งได้แค่120 แต่พอใช้10w50วิ่งได้130 เป็นเพราะอะไรครับ#คลิปพี่จ๋ายคุณภาพทุกคลิปจริงๆ #1แสนซับไวๆครับ
ถ้าเป็นรถ Honda กล่องecuจะมีการปรับลดน้ำมันและองศาจุดระเบิดลง เมื่ออุณหภูมิสูงถึงที่กำหนดไว้ครับ เพื่อดรอปกำลังเครื่อง เป็นไปได้ว่าพอใช้เบอร์น้ำมันที่สูงขึ้น อุณหภูมิเครื่องเลยไม่ไปแตะถึงครับ
นำ้มันเครื่องเบอร์70นี้พึ่งเคยเห็นเลยครับ ปกติเคยเห็นแต่เบอร์60ครับ
ส่วนมากเป็น น้ำมันเฟืองท้ายคับ ที่ ความหนืดเยอะๆ
@@FLOOKRock 😂
ผมก็พึ่งเคยเห็นเหมือนกันครับตอนแรกจะเอาเบอร์60มาทดสอบนี่ละ
จริงแน่นอน หนืดเกินวิ่งไม่ออกเลยหล่ะ
ขอช่วยเพิ่มให้อีกนิดนึงเผื่ออาจมีประโยชน์ในการทำคลิปครั้งต่อไปนะครับ และขึ้นอยู่กับการออกแบบโครงสร้างชิ้นส่วนการหล่อลื่นภายในของเครื่องยนต์แต่ละรุ่นเครื่องยนต์ปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่ชิ้นส่วนภายในที่เยอะขึ้นทำให้น้ำมันที่มีความหนืดมากไปเลี้ยงชิ้นส่วนต่างๆไม่ทั่วถึงหรืออาจไปช้ากว่าน้ำมันที่มีความหนืดน้อยกว่าดังนั้นเช็คของน้ำมันที่โรงงานระบุมาให้ใส่จึงสำคัญมากเพราะมีการพัฒนาควบคู่มากับเครื่องยนต์นั้นๆเขาจึงระบุออกมาว่าใส่เบอร์นี้เหมาะที่สุดแต่ถ้ารถที่ใช้งานมานานเริ่มสึกหรอก็สามารถเพิ่มเบอร์น้ำมันให้เกิดขึ้นได้อีก 1-2เบอร์ได้เช่นจากเบอร์ 30เป็นเบอร์ 40หรือ 50จะไม่เกินนี้เพื่อชดเชยกับการสึกหรอของโลหะที่หายไปทำให้เครื่องยนต์ยืดอายุการใช้งานค่าความหนืดมากเกินไปจะทำให้ซึมเข้าผ่านรูเล็กๆได้ช้าทำให้การหล่อลื่นไม่เพียงพอถึงขั้นชาร์ปละลายได้เลยรายละเอียดมันเยอะ
ทุกวันนี้อากาศบ้านเราร้อนมาก รับน้ำมันเครื่องเมืองซาอุฯ มาใช้ยังได้เลย เวฟ125iของผมใช้เบอร์50วิ่งข้ามจังหวัดสบายๆ
ใส่ มาก ใส น้อย มันบอกอะไร ถ้า ยิ่งใสมันยิ่งหนืดหรือ แล้วเค้าทำให้ใส่มาก แล้วหนืดไม่ใช้ไหมครับ
บ้านเราเมืองร้อน รถผมDream Dupercup ขี่80มาจอดเอาDoctor apiมาวัดอุณหภูมิ120+ถ้าใช้เบอร์30ตามคู่มือบรรลัยแน่นอน
ที่แน่ๆเนํ้ามันหนืดและใส่เยอะเกินค่ามาตราฐานติดเครื่องยากเพราะเคยทําไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าพอนํ้ามันหนืดตํ่าและแห้งลงกว่าค่าปกตินิดนึงละติดเครื่องง่ายกว่าแต่ถ้านํ้ามันน้อยและความหนืดน้อยเกินก็ปกป้องเครื่องได้ไม่ดีอีกในระยะทางไกลๆความหนืดสูงก็ดีกว่าโดยเฉพาะรถเล็ก
ผมว่ามีผลนะ เจอมากับตัว รถเกียร์ออโต้ ช่างเอาน้ำมันเกียร์ธรรมดามาใส่ให้ จากรถที่วิ่งได้100 ลดเหลือแค่ 90 ทำให้รถอืด แล้วเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น10%
ต้องดูระยะยาวในการใช้ เพิ่งเปลี่ยนมันไม่ต่างวิ่งไปนานๆสักพักจะรู้
รถผมใช้มา3หมื่นกิโล ใช้เบอร์40โอเครไหมคับ
เพื่อรถโมดิฟายเพื่อแข่งขัน กระป๋องสีน้ำเงิน, ใชกับรถปกติขี่ทางไกล กระปํองดำ, ใช้กับรถปกติ ขี่ใช้งานทั่วไป กระป๋องเทา
ช่างครับเเนะนำน้ำยาหล่อเย็นหน่อยครับ บางยี่ห้อผมใช้ไปยังไม่ถึงเดือนเลย เป็นสนิมละเเล้ว😢
รถใหม่ใช้เบอร์30ความเผาไหม้ยังดีอยู่ รถเก่าควรใช้เบอร์40
ถ้าบิ๊กไบค์เมืองไทยเบอร์ค่าตัวหลังต่ำกว่า 30 ขี่ไม่ได้ครับ ย้วยสุดๆเลย ยิ่งหน้าร้อนต้องเบอร์ 50 ด้วยซ้ำ
ถ้า 650ccขึ้นไปแนะนำให้ใช้ 15W50-60ไปเลยครับผมวิ่งมา5-6ปีแล้วครับ เบอร์40ไม่ไหวครับ เมืองไทยร้อนมากๆ
ผมวิ่งแกร๊ปครับ วิ่งทั้งวันเครื่องร้อนมาก ผมใช้ปิโตนาสเบอร์50 ยิ่งร้องยิ่งลื่นเสียงเครื่องนิ่ม ใช้เบอร์ต่ำกว่านี้ 30-40 น้ำมันเครื่องหายไปเยอะ
น้านจริงด้วย ไอพวกขี่รถไปซื้อแกง อย่าหาซื้อ 50เถอะ
@@kittipannut2460ละผมรถมีโมดิฟายนิดนึงเเต่ลูกสูบของเดิมโรงงานขับไปทำงานทุกวันละขับเร็วด้วย พี่ว่าควรใข้เเบบไหนเเต่มีตัวนึงเคยรับรองถึง50องศารถก็วิ่งปกติอีกอย่างมันหอมมากครับ
เบอร์น้ำมันเครื่อง น่าจะเอามาคุยเรื่องการรักษาความหนืดในการขับขี่ยาวๆหรือในความร้อนมากกว่านะครับ ไม่น่าจะเอามาดูของเรื่องแรงม้าสักเท่าไหร่
ถ่ายแร้วอย่าพึ่งทิ้งจ้า ขอใช้ต่อ เสียดาย
เดี๋ยวมีใช้งานต่ออีกคลิปครับ
ต้องบิดยาวครับ เช่น แช่ไปซัก ๑ ชั่วโมง แล้วขึ้นไดโน่เทสต์อีกที
เอ็นดูโร 4t sport จักบาทค่ะ
มิใช่ ความข้นใส จะสำคัญ เพียง อย่างเดียว สารหล่อลื่น ก็สำคัญไม่น้อย ไปกว่า
โอ้ว เจอช่องเทสจริงๆด้วย
สำคัญขึ้นอยู่กับขนาดเครืีองด้วย สำหรับรถเล็ก20-30-40ใช้ได้หมด สำหรับรถใหญ่ที่มีขนาดเรื่องที่ใหญ่กว่าความร้อนที่มันสูงกว่ารถเล็กเลขตัวหลังค่อนข้างมีผลต่อการปกป้องเครื่องยนต์ จริงอยู่ว่าเบอร์ไหนก็ใส่ได้ แต่มันอยู่ที่ว่าเบอร์ไหนจะปกป้องเครื่องเราได้ดีดว่าและเหมาะกับขนาดเครื่องของเรา
ผมวิ่งทางไกล อุณหภูมิเครื่องเฉียด 120°C ตลอด ยิ่งจังหวะวิ่งยาวๆ แล้วต้องจอดไฟแดงความร้อนบางทีพุ่งทะลุ 130°C เลย แถมเครื่องมีการโมดิฟายมานิดหน่อย เคยลองเบอร์ 30-40 แล้วเครื่องร้อนแล้วมีอาการกำลังตกอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ แต่พอใช้เบอร์ 60 แล้วอาการนี้ดีขึ้นชัดเจนครับ
จริงๆ ตัว Wako's 20W-70 Viscosity @40°C อยู่ที่ราวๆ 251 เลยครับ (10W-50 120, 10W-30 98-99) ดังนั้นที่อุณหภูมิต่ำ เบอร์ 70 ที่มีตัวหน้าถึง 20W จัดว่าหนืดกว่าตัวอื่นเท่าตัวครับ
ใช่ครับ จะดูแค่ 100 องศาไม่ได้
คุณภาพอีกแล้วครับ ลงทุนมาก 💯✌️
หมดหลายตังอยู่ครับคลิปนี้ 555
5555@@HobbyBikeRacing
รถเดิมๆเติมตามคู่มือดีสุด เติมเบอร์สูงเกินแรงม้าตก กินน้ำมัน เติมเบอร์ต่ำกว่าคู่มือ เครื่องจะสึกหรอเร็ว เวลาขับไกลๆสักประมาณ 100-200โล เครื่องจะเริ่มมีเสียงดังเพราะน้ำมันใสเกินไปทำให้เกิดการหล่อลื่นไม่เพียงพอ แต่ถ้าเป็นรถโมดิฟายลูกโต เปิดรอบให้เกินค่าโรงงาน ผมว่าควรขยับเบอร์น้ำมันให้หนืดขึ้นสัก 1เบอร์น่าจะดีกว่า เพราะกำลังเครื่องก็สูงขึ้นแถมรอบสูงขึ้นอีก ใส่เบอร์ใสๆคิดว่าคงสึกหรอไวแน่ๆ
อันน้ผมว่าขึ้นอยู่กับผู้ใช้รถด้วย ถ้าขับรถกระชากบิดคันเร่งแรงๆ กับคนขับค่อยๆเร่ง น้ำมันเบอร์เดียวกันรถเหมือนกัน การสึกหรอก็ต่างกันคับ คนขับรถชอบบิดกระชากควรเพิ่มเบอร์น้ำมันคับกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ ถ้าคนขับปกติใช้เบอร์มาตรฐานจะดีที่สุดคับเทียบกันมาล่ะกับเพื่อนมี่ทำงานด้วยกัน ผมขับปกติ ส่วนเพื่อนชอบขับกระชากคันเร่ง เปลี่ยนน้ำมันพร้อมกันเห็นได้ชัดเจนเลยว่าน้ำมันที่เปลี่ยนออกต่างกันมากทั้งที่ใช้งานพอๆกัน
ชอบช่องนี้มากๆเลยครับ เวลาเทสอะไรก็ตาม ขึ้นไดโน่ให้เห็นๆตลอดเลย ว่ามีผลกับความเร็วมากน้อยแค่ไหน 🙏🙏🙏
แต่ที่ผมเห็นพัง แบริ่งชาร์ฟละลาย กินน้ำมันเครื่อง ก็เบอร์ 30 ทั้งนั้น ค่าเบอร์ตัวหลังไม่มีผลอะไรกับสภาพอากาศแบบบ้านเราหรอกครับ ยิ่งตัวเลขยิ่งเยอะก็จะทนความร้อนได้ดีกว่ากว่าเบอร์ต่ำ ๆ เสียอีก เค้าถึงทดสอบ นมค.ที่ 100 องศา ไงครับแต่ละเบอร์จะสูญเสียค่าความหนืดลดลงไปตามเบอร์ อย่างเบอร์ 30 ก็จะเหลือแค่ 11-12 cSt ที่ 100 องศา แล้วยิ่งเจอรถติดคุณคิดว่าอุณหภูมิภายในเครื่องยนต์จะเกิน 100 องศาไหม ยิ่งร้อนมากเบอร์ 30 ยิ่งไม่ต่างอะไรกับน้ำมัตนจักรเลยด้วยซ้ำ ส่วนเบอร์ 70 ก็จะเหลือ 32-35 cSt ที่ 100 องศา อย่างได้แบบไหนละครับที่จะปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีกว่าก็เลือกเอา แล้วที่สำคัญเรื่องเลอะเทอะ สตาร์ครั้งแรกเบอร์ 30 จะปั๊มไปเลี้ยงส่วนตัวได้ดีกว่า เลอะเทอะครับ ต่อให้เป็นเบอร์ 70 สตาร์ครั้งแรกไม่กี่วินาที ปั๊มมันก็ส่ง นมค.ไปหล่อเลี้ยงทั่วเครื่องยนต์แล้วครับ
หน้าร้อนไทย 40-46 องศา ถ้าเครื่องโดนแดดโดยตรงก็50+ ควรซบเบอร์ 50-60เป็นอย่างต่ำ หน้าหนาวหน้าฝน 30-40ใช้ไปเถอะ
สุดยอด
เมื่อเตอร์ไซตผมติดเซ็นเซอร์วัดความร้อนผมขับกรุงเทพฯไปเชียงรายช่วงหน้าร้อนเมษายนจับได้ที่ 75 ถึง 85แต่ถ้าขับในเมืองรถติด90ถึง 100 ความคิดส่วนตัวขับต่อเนื่องอุณหภูมิจะต่ำเวลาขับที่รถติดอุณหภูมิสูงมากพัดลมหม้อน้ำทำงาน
รถบ้านผมทุกคัน รถยนต์ มอไซค์ ใช้เบอร์ 50 ทุกคัน
เครื่องฟิตๆ ใหม่ๆ ใส่เบอร์ 30 คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถเอาเครื่องเก่าๆ 10 ปีขึ้นไป ผมเลือก 40-50 ขับนานๆไกลๆ ฟีล์มน้ำมันปกป้องเครื่องยนต์ได้ดี
! แต่ไม่ว่าจะเบอร์ไหน ไม่สำคัญเท่ากับ น้ำมันเครื่องหาย พร่อง ขาด
ใช่ครับ+1
Auto ขับนานๆแช่รอบเครื่องยาวๆ10w-50กำลังดีครับ ถ้าแหวนสูบไม่ตายก่อนโดยเฉพาะค่าส้อมเสียง
พิสูจน์แล้วนะครับ แต่คนไทยชอบรั้น เก่งกว่าวิศวกร ร่วมๆครึ่งประเทศ 😅
สำหรับผมนะ รถออกใหม่เบอร์30 พอใช้ไปนานๆหรือรถเก่าใช้เบอร์40 เลขหน้าไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่เลยเพราะ W มันเกี่ยวกับรถที่ใช้เมืองหนาวคือค่าความทนการเป็นไข และสิ่งสนใจคือมาตราฐาน API และ จะพยายามใช้สังเคราะห์แท้ หรือต่ำสุดที่จะใช้คือกึ่งสังเคราะห์ และที่สำคัญเลยที่รถจะพังหรือไม่พังคือ น้ำมันเครื่องอย่าขาดอันนี้ผมว่าสำคัญสุดละ😂
เพื่อนร่วมงานเป็นไรเดอร์ วิ่งงานวันละ 100-200 กว่าโลต่อวัน ใช้น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา ผมงงเขามาก ทำไมไม่ใช่สังเคราะห์100 เพราะพวกเราขี่กันแบบทัวร์ริ่ง สรุปเขาบ่นใส่ผมฟังว่า เครื่องเวลาบิดเริ่มแปลกๆ ทั้งๆที่รถอายุไม่ถึง 8ปี wave125 ตัวใหม่
สุดเกินพี่ขึ้นไดโน่เลยทีเดียวเป็นตังบงชี้ได้ว่ารถแบบไหนเหมาะไม่เหมาะแต่บ้านเราเท่าที่เห็นรถใช่งานแช่นานๆขับนานเป็นเวลา30-50นาทีบวกลมตีห้องเครื่องรอบต่ำๆ+-ไม่เกินRadline 3000-4200rpm อุณหภูมิไม่เกิน92-96ครับ เบอร์น้ำมันเครื่องก็จะอยู่ที่10w40 เป็นเบอร์ที่ขายดีที่สุดในตลาดบ้านเราและประเทศเพื่อนบ้านเราคับ (ใช้รถใช้ถนนใส่หมวกกันน็อคกันด้วยมีสติกันนะครับขับขี่ปลอดภัยครับทุกคน)
เดี๋ยวมีเรื่องทดสอบอุญหาภูมิให้ชมอีกครับ
@@HobbyBikeRacingรอครับ😊
ส่วนตัวผมนิยมเบอร์หนืดๆครับ ใช้ gms 20w50 และ เติมแต่งสารเพิ่มเติมความลื่นและฟิล์มน้ำมันให้หนาขึ้นอีกด้วยครับ ค่อนข้างพอใจมากครับ ออกทริปหมดปลอกยาวๆ 160 กม. อากาศร้อนๆ ไม่มีปัญหาใดๆ ไม่มีอาการเครื่องอืดจากความร้อนสะสม และรู้สึกว่าจะร้อนน้อยกว่าใช้ในเมืองด้วยครับ scoopy 2022
ผมเคยใช้เหมือนกันครับ
สกุปปี้ตัวแรกบิดสุดเกือบ70กม. แถมลากอายุน้ำมันมา1ปี ถ่ายออกมาไร้สิ่งแปลกปลอมหรือเศษแปลกๆ ของดีจริงๆ
นี่สิคนรู้จิง ควรใช้แบบไหนไม่ใช้มั่ว
เบอร์50 gms ลื่นกว่าเบอร์40 แบรนด์ ตลาดด้วยซ้ำครับ
ราคาดี ที่สำคัญ ไม่ต้องกลัวว่าจะได้ของปลอม เหมือนแบรนด์ตลาด
เห็นด้วยครับ เพราะความหนืดขนาดนี้ แทบไม่มีผลกับกำลังเครื่องยนต์เลย เพราะนี่คือน้ำมันหล่อลื่นนะครับ ไม่ใช่กาวหรือจารบี ไอ้ความเชื่อที่ผิดๆนี่มาจาก การตลาดของผู้ผลิตล้วนๆ เพราะเทคโนโลยี่น้ำมันเครื่องสารหล่อลื่นมันตันแล้ว ไม่รู้จะเล่นอะไรให้ แบรนด์มันอยู่ได้ เลยต้องสร้างเรื่องหลอกผู้บริโภคไปเรื่อยๆ
นึกเอาสิว่า 20-40 ปีที่ผ่านมามา วงการน้ำมันเครื่องยังพัฒนาไม่ถึงขีดสุดหรือ มันเป็นไปได้หรือ อะไรมันจะลึกล้ำขนาดนั้นกับอีแค่ น้ำมันเครื่องหล่อลื่น อ้างสารนั่น โน่น นี่หลอกผู้บริโภคไปเรื่อยเพื่อที่จะขายของแพงขึ้นให้แบรนด์มันมีชีวิตอยู่ได้
อ.กู๊ดการันตีในคุณภาพ
ที่พูดมาถูกละครับ ขอเพิ่มเติมที่ผมใช้คือเครื่องหลวมก็เพิ่มความหนืดจากคู่มือขึ้นเล็กน้อยตามสภาพเครื่อง ดรีม125 รุ่นแรกที่ติดพ่วงข้างทำงานหนักเครื่องหลวมมากเปลี่ยนมาใช้เกรดเดี่ยวเบอร์40 ดีกว่าเกรดรวม ครับ
ถ้าเอาตามทฤษฏีนะครับ จุดประสงค์ของน้ำมันเครื่องคือ ลดการสึกหรอ น้ำมันเครื่องที่เกรดใสกว่า(เลขน้อยกว่า) จะสามารถเข้าไปหล่อลื่นได้เร็วกว่า แต่น้ำมันเครื่องที่เกรดสูงกว่า(หนืดกว่า) จะลดการสึกหรอได้ดีกว่า ปกติรถที่พึ่งออกมาใหม่ หรือวิ่งไม่ค่อยบ่อย ในห้องเครื่องก็จะมีน้ำมันเครื่องที่ตกค้างเคลือบลูกสูบอยู่น้อย การใช้น้ำมันเครื่องเกรดตำ่ ก็จะทำให้น้ำมันเครื่องเข้าไปหล่อลื่นลูกสูบได้เร็วกว่า ก็จะทำให้ลดการสึกหรอได้เร็วกว่า แต่ด้วยความที่มันใสกว่า ก็จะลดการสึกหรอได้ไม่ดีนัก และพอเราดับเครื่อง มันก็จะตกลงมากองในห้องเครื่องเร็วกว่า เครื่องก็จะสึกหรอมากกว่าด้วย แต่ถ้าเครื่องที่ใช้งานเป็นประจำ เกรดของน้ำมันเครื่องที่สูงกว่า มันก็จะหนืดเคลือบห้องเครื่องไว้ได้นาน การหล่อลื่นก็จะดีกว่า แต่ด้วยความหนืดของมัน ถ้าเอามาใช้กับรถใหม่ ที่นำ้มันเครื่องยังไม่เกาะห้องเครื่องมากนัก การที่มันไหลเข้าไปช้า ก็จะทำให้เกิดการสึกหรอในช่วงสตาร์ดเครื่องมากด้วย เพราะน้ำมันเครื่องไหลเข้าไปไม่ทัน ซึ่งการสึกหรอตรงนี้ค่อนข้างสูงเพราะเหมือนเอาเหล็กมาสีกันโดยไม่มีอะไรหล่อลื่น ส่วนเรื่องการสุญเสียกำลัง มันก็มีสูญเสียบ้าง ในกรณีที่เติมน้ำมันเข้าไปมากๆจนเกือบเต็มหรือล้นจากที่บริษัทผู้ผลิตรถกำหนดไว้ แต่กำลังที่เสียไป ก็ถือว่าเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับผลที่ได้จากประสิทธิภาพการลดการสึกหรอที่ได้มา ส่วนมาก น้ำมันเครื่องเกรดสูง มักจะใช้กับรถเก่า ที่ห้องเครื่อง ดูดซึมน้ำมันเครื่องไว้จนอิ่มตัวแล้ว ความเร็วในการไหลเข้าไปในห้องเครื่อง ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการลดการสึกหรอแล้ว และความหนืดที่ได้ จะไปช่วยทำให้เครื่องฟิตขึ้นด้วย(เล็กน้อย) การจะเลือกใช้น้ำมันเครื่องเกรดอะไร ผมว่าน่าจะดูที่ประสิทธิภาพการลดการสึกหรอเป็นสำคัญนะครับ เพราะมันเป็นวัตถุประสงค์หลัก ของการใช้น้ำมันเครื่องครับ
ผมว่าเท่าที่เจอมาเลยต่อให้ค่าความหนืดหรือเหลวกว่าดีกว่ากันยังไง แต่ถ้าเป็นน้ำมันราคาถูกเกรดน้ำมันต่ำเช่นแบบกึ่งสังเคราะก็แทบจะไม่ได้ช่วยให้เครื่องลดการสึกหรอเลยอ่ะ ต้องเป็นเกรดดีๆแบบสุดๆเลยครับถึงจะมีประสิทธิภาพแบบเห็นได้ชัดเลยเท่าที่เจอกับตัวมา เรทราคาสังเคราะห์100ต่อลิตรประมาณ900-1000+ที่ให้ประสิทธิภาพสุดแล้วครับ(ความคิดส่วนตัวและที่ทดลองมานะครับพี่ ที่พิมทั้งหมดไม่ได้มาอวดเก่งนะครับพี่😅🤣)
น้ำมันเครื่องที่หนืดกว่าสตาร์ทครั้งแรกไม่กี่วินาทีปั๊มน้ำมันเครื่องมันก็ดูไปหล่อเลี้ยงทั่วเครื่องยนต์แล้วครับ แล้วหลังจากนั้นไม่เกิน 15 วินาที น้ำมันเครื่องถึงสร้างชั้นฟิมล์เพื่อปกป้องเครื่องแล้วได้แล้วครับ ฉะนั้นเป็นเรื่องโจ๊กครับที่บอกว่าหนืดกว่ามันจะเข้าไปหล่อลื่นช้ากว่า หนืดน้อยจะเข้าไปหล่อลื่นเร็วกว่า ไม่เป็นความจริงเลยสักนิดครับ
นมค.มีคุณสมบัติดูดความร้อน และคลายความร้อนช้านะครับ ถ้าคุณคิดว่าจอดข้ามคืนบนยอดดอยอินทนนท์อุณหภูมิ 0 องศา แล้วคิดว่า นมค.ในเครื่องยนต์จะอุณหภูมิ 0 องศาไปด้วยคิดผิดครับ ต่อให้อุณหภูมิภายนอกรถ 0 องศา แต่อณหภูมิ นมค.จะสูงกว่าครับ อยู่ 10 กวาถึง 20 องศาแล้ว ถ้าจอดในเมือง อย่าง กทม.ข้ามคืนในวันฝนตกอากาศรู้สัึกเย็น ๆ แต่อุณหภูมิ นมค.ก็ป่าไป 30 กว่า ถึง 40 องศา แล้วเหมือนกันครับ ฉะนั้นไมต้องไปกังวลว่าจะหนืดเกินไปเลย มันจะไปพอด้วยซ้ำ
แล้วแถมมีคนเทส นมค.เบอร์ 30 แล้วด้วยส่งเข้าห้องแลปตรวจสภาพ นมค.หลังจากการใช้งานที่ระยะแค่ 1000 กม. ปรากฎว่า ค่าความหนืดลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ เหลือแค่ 8 Cst เท่านั้น ซึ่งมันไปต่ำกว่าเกณฑ์มาก ไม่ต่างจาก นมค.เบอร์ 20 ซึ่งจริง ๆ เบอร์ 30 ควรจะอยู่ที่ 11- 12 Cst เมื่อเจอความร้อนสูง ฉะนั้นถ้าอยากได้การปกป้องเครื่องยนต์ที่ดี ควรหันไปพิจารณาเบอร์ขั้นต่ำ 50 ไว้ ครับ จะได้การปกป้องที่ดีกว่า
ใช่หรอนํ้ามันเกรดตํ่าหล่อลื่นได้เร็วกว่า😂
@@พันธกานต์พูลผลทําไมนํ้ามันเครื่องบางตัวใช้ไปถ่ายออกมาหนืดกว่าเดิมบางตัวเหลวกว่าเดิมครับ
@@สวัสดีครับน้าๆ แล้วน้ำมันเครื่องตัวไหนละครับที่ใช้งานไปแล้วถ่ายออกมาแล้วหนืดกว่าเดิม แล้วตัวไหนที่ใช้แล้วเหลวกว่าเดิม อยากเห็นมาก ๆ ครับบอกได้ไหม แต่ที่ผมเห็นนี้คือยิ่งใช้เจอความร้อนยิ่งเหลวลงทุกเบอร์นะคับ ยังไม่เคยเห็นยิ่งใช้ยิ่งหนืดเลย หรือเจ้าของรถคันนั้นไปใส่หัวเชื้อ หรือเติมสารเติมแต่ง นมค.อะไรมาหรือป่าว แม็คนาโน 5 5
อยาก ดู ปรับ แต่งองศาไฟจุดระเบิด อ่อน แก และ องศาเดิม ทดสอบบนไดโนครับว่าอันไหนให้ แรงม้า มากสุด
ขับในเมืองร้อนมาก_ข้ามจังหวัดเย็นครับ_ยาวกทม_ยโส_สปป15,w50ฟอร์ซ่าทุกรุ่นแรงปลายเยี่ยม_เพาเวอร์
รถเขาออกแบบมาใช้เบอร์อะไรก็ใส่เบอร์นั้นของผมเครื่องดีเซลรุ่นใหม่
ใช้เบอร์5/30ก็ใช้มาตลอดจะเป็นยี่หัอ
อะไรก็ใด้ขอแค่ของใหม่แท้ก็พอแลัว
ไม่มีฟ้งแน่นอน
ตอนนี้ผมเติมน้ำมันเฟืองl5 ในเวสป้าv3 นิ่มแรงดี เครื่องสะอาดดีไม่ดำ ส่วนตัว ใส่เพราะไม่รู้ว่าในขวดนั้นๆคือน้ำมันเกียร์และเฟืองท้ายพ่อมาถามหาที่กรอกไว้ เลยรู้ว่าทีเติมไป ...แต่ดีและใช้อยู่ ณ วันนี้ 26/9/66 ครับ
คหสต.ของผมในการเลือกใช้น้ำมันเครื่อง(รถเดิมๆ) สภาพอากาศร้อนในประเทศไทย
1. เบอร์5w30 เหมาะสำหรับขับขี่ในเมือง ใช้งานทั่วไป
2. เบอร์10w50 เหมาะสำหรับดันยาว ทริปต่างอำเภอ ขับทางไกลในระยะทางที่ต่อเนื่อง
3.เบอร์20w70 ส่วนตัวผมแล้วยังไม่เคยใช้เลยครับ เเต่เพื่อนผมบอกว่าถ้าไม่ใช่รถแต่งจัดๆหรือรถccไม่สูงก็ไม่แนะนำ
สำหรับคนที่ไม่รู้จะเลือกเบอร์ไหนดีผมขอแนะนำเบอร์10w30หรือไม่ก็10w40ครับ พอหน้าฝนมาก็ค่อยเปลี่ยนเป็น5w30ครับ
ใช้เบอร์ที่เหมาะสมช่วยในเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิงด้วยครับ
คลิปคุณภาพครับ ขอบคุณมากๆที่ทดสอบให้ชมครับ เยี่ยมมาก
ลองทำ Used oil analysis เลยครับพี่ ส่งตัวอย่างน้ำมันที่ใช้แล้ว ให้แลปวิเคราะห์เลยครับว่า น้ำมันตัวไหน สึกหรอเยอะหรือน้อยกว่ากัน ระหว่าง30 50 70
จิ๊ง
ควบคุมรอบเครื่อง อัตราเร่ง engine break ให้เหมือนกันด้วยไหมครับ
@@gaptactics5231 ไม่น่าจะนะครับ เอาที่ผมที่รู้นะครับ คือ Used Oil Analysis หลักๆ คือ ตรวจหา สิ่งปนเปื้อน คุณสมบัติเคมี ค่าความหนืด ค่าการสึกหรอและอีกหลายๆอย่าง จากน้ำมันหล่อที่ใช้แล้วประมาณนี้ครับ ข้อมูลเต็มๆลองดูหรือสอบถามที่ สำนักงานคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงก็เพลิงก็ได้ครับ น่าจะให้คำตอบได้มากกว่าผมครับ😂
@@scootercamp2109 ถ้าใช้งานไม่เหมือนกันมันก็จะสึกหรอไม่เท่ากันอยู่แล้วไหมครับ อันนึงบิดสุดตลอด อีกอันนึงค่อยๆบิด อัตราการสึกหรอมันก็ไม่เท่ากันแล้ว ผลที่ออกมาจะเชื่อถือได้ยังไงหล่ะครับ
@@gaptactics5231 ถ้าผลจากแลปมันไม่น่าเชื่อเถือ งั้นที่พูดที่บอกปากเปล่าหรือตามช่องต่างๆที่ออกมาให้ความรู้นี่ไม่น่าเชื่อถือหนักกว่าเหรอครับ แลปเขาก็มีเกณฑ์ มีวิธีวิเคราะห์ มีข้อมูลและสถิติต่างๆของเขาใว้ครบครับ ยังไงก็เชื่อถือได้กว่าครับ
หนืดกว่าก็ไม่ได้แปลว่าไม่ดี จุดประสงหลักของความหนืดคือการหล่อลื่นที่ดีกว่าในรอบสูง อุณหภูมิสูง ไม่ใช่เพิ่มแรงม้า ลื่นกว่าแต่ถ้าพังไวมันก็คงไม่คุ้ม เลือกให้ถูกต้องตามการใช้งานครับ
Q : รถยนต์เก่าควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดสูงไว้ก่อนแบบที่เขาแชร์กันนี้ จริงไหม ?
A : ข้อความนี้ก็จริงนะ แต่ว่าก็ก้ำกึ่งเพราะว่าไม่เป็นแบบนั้นทั้งหมดเสมอไป ก็อย่างที่บอกว่ารถยนต์เก่า แล้วเก่าขนาดไหนหล่ะ ค่ามาตรฐานกับเบอร์อุณหภูมิของตัวน้ำมันเครื่องแล้วก็ค่าความหนืดที่มีการทดสอบ น้ำมันเครื่องหนืดขนาดไหนจะได้ตัวเลขจาก 30 ขยับเป็น 40 50 60 ที่อุณหภูมิเท่าไหร่ เขาทดสอบที่อุณหภูมิ 100 องศา แต่ว่าภายในการทำงานของตัวเครื่องยนต์เอง ในหลาย ๆ จุดมีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 100 องศา
เพราะฉะนั้น รถยนต์ยุคเก่าก็เลยมีการระบุค่าสเปคในตัวน้ำมันเครื่องที่จะใช้งานเป็นตัวเลขค่อนข้างสูง คือมีความหนืดสูงเพื่อที่จะให้เผื่อน้ำมันเครื่องเวลาเจอความร้อนสูงกว่าที่ทดสอบแล้ว หรือว่าผ่านอายุการใช้งานมาแล้ว เจ้าฟิล์มน้ำมันหรือความหนืดน้ำมันบางลดลง แต่ว่าตัวเครื่องถามว่าพอเราเก่าเกินกว่ายุค ถ้านับปัจจุบันนี้เกินกว่า 30 ปี
รถยุคประมาณสัก 80 ตัวเบอร์ค่าคุณภาพของตัวน้ำมันเครื่องก็ดูมาตรฐาน API เกี่ยวข้องด้วยก็จะต่ำลงมาเก่ากว่าตัว SM นะ เพราะฉะนั้น เบอร์น้ำมันเครื่องในยุคนั้นจะค่อนข้างสูง จะอยู่ในช่วงเบอร์ประมาณเลขตัวหลังอยู่ที่ 40 หรือว่า 50 ก็มี เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดเราเป็นรถตรงยุคนั้นได้คุ้ยดูเอกสารข้อมูลของตัวรถ หรือว่าทราบสเปคของตัวรถเราว่าระบุว่า ให้ใช้อยู่ที่เบอร์ 40 เราก็ควรใช้ไม่ต่ำกว่า ตามที่ผู้ผลิตกำหนดเมื่อผ่านอายุการใช้งานไปเยอะ ๆ จะเพิ่มความหนืดมากขึ้น จริง ๆ สามารถทำได้นะ อาจจะทำหนึ่งเบอร์ก็ได้ แต่ว่าไม่เสมอไป นั่นก็เพราะว่ารถที่มีอายุ รถที่เก่าแล้ว แต่ว่าถูกดูแลอย่างดีมีการใช้งานมีการดูแลซ่อมบำรุงตัวรถให้อยู่ในสภาพที่ดีเหมาะสมเสมอไม่จำเป็นต้องเพิ่มเบอร์น้ำมันเครื่องที่หนืดขึ้นเสมอไป
Q : แล้วที่เขาบอกว่า การใช้น้ำมันเครื่องที่หนืดไว้ก่อนจะช่วยลดปัญหาการกินน้ำมันเครื่องในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน ?
A : ก็สำหรับเรื่องการใช้น้ำมันเครื่องหนืดขึ้นแล้วจะกินน้ำมันเครื่องลดลง อันนี้เป็นความเชื่อที่เก่าเลย ถือว่าเป็นน้ำมันเครื่องในยุคประมาณสัก 20 ปีที่แล้ว เหตุผลเพราะว่าน้ำมันเครื่องในยุคเก่าจะมีส่วนเบสผสมของน้ำมันจากธรรมชาติ น้ำมันหล่อลื่นจากธรรมชาติ เวลาเขาถูกเครื่องยนต์ใช้ความร้อนสูง ๆ มีโอกาสที่น้ำมันเครื่องบางส่วนจะถูกเผาไหม้ไปด้วย เพราะฉะนั้น น้ำมันเครื่องก็จะค่อย ๆ ลดลง ๆ ลดลงตามช่วงเวลาการใช้งานหลังจากผ่าน 5,000 ผ่าน 7,000 ผ่าน 10,000 กิโล แต่ว่าน้ำมันเครื่องยุคใหม่พอเป็น Semi Synthetic จนถึง Fully Synthetic ก็ยังมีเรื่องของการถูกเผาไหม้ให้ปริมาณน้ำมันลดลงไปตามอายุการใช้งาน แต่ว่าน้อยลงกว่าเดิมเยอะ
เพราะฉะนั้น เราไม่จำเป็นต้องมีการเผื่อตัวค่าความหนืดเพื่อที่จะป้องกันให้ตัวน้ำมันเผาไหม้น้อยลง ตรงกันข้ามเลยน้ำมันเครื่องยุคใหม่ เราเปลี่ยนจากการดูที่ตัวเบอร์ค่าความหนืด ไปดูตัวค่าประสิทธิภาพของตัวน้ำมันเครื่องดีกว่า ก็คือตัว API หรือว่าตัว JASO หรือว่าตัว ACEA เหล่านี้คือค่าที่บอกประสิทธิภาพของตัวน้ำมันเครื่อง ส่วนค่าความหนืด ณ ปัจจุบันสามารถที่จะเลือกย้อนกลับไปตรงตัวเลขที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ได้เลย
Q : สรุปแล้วรถยนต์เก่าควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดสูงไว้ก่อนแบบที่เขาแชร์กันนี้ เป็นยังไง ?
A : คงจะต้องดูที่ต้นเหตุของการกินน้ำมันเครื่องมากกว่า ไม่ใช่ว่าเครื่องยนต์มีอาการกินน้ำมันเครื่องหรือเครื่องยนต์เก่ามีการสึกหรอสูง แล้วการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่เบอร์หนืดเพิ่มมากขึ้นจะแก้ไขปัญหานี้ได้เสมอไป ถ้าเกิดเริ่มมีการสึกหรอตามการใช้งานแบบปกติ การเพิ่มเบอร์ขึ้นหนึ่งเบอร์ก็อาจจะพอช่วยลดอาการที่เกิดขึ้นได้ แต่ว่าถ้าเกิดสึกหรอจากการใช้งานแบบผิดปกติ การที่จะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้มีเบอร์ความหนืดเพิ่มมากขึ้นก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา หรือว่าลดการกินน้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ตัวนั้นได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดจะแชร์ต่อสามารถแชร์ต่อได้แต่ควรมีคำแนะนำเพิ่มเติม
👉 คู่มือรถ ถือเป็นคำแนะนำที่ดีในการดูแลรถยนต์เบื้องต้นนะ
@@aeonthailandเรื่องน้ำมันเครื่องคู่มือรถไม่ได้แนะนำดีที่สุด แต่แนะนำมาตรฐานเท่าที่รถต้องการเท่านั้น ใช้สูงกว่ามาตรฐานได้ยิ่งดี
@@OUW9999ข้อความนี้คือผู้ตกผลึกมาแล้ว ตามนี้เลยถ้าไม่ติดเรื่องทุนทรัพย์
น้ำมันเครื่องไม่ได้ทำหน้าที่หล่อลื่นอย่างเดียวนะ
ควรเลือกให้ถูกต้องตามการใช้งาน หรือความเหมาะสมกับการขับขี่ของแต่ละท่าน เบอร์สูงๆก็ดีครับ เซฟเครื่องยนต์ได้ดีกว่าเบอต่ำๆ แต่ต้องดูรถ และการใช้งานอีกด้วย บางทีใส่หนาเกินไป น้ำมัน มันก็ไม่ได้เข้าไปเคลือบและป้องกันชิ้นส่วนบางชิ้น เบอร์ 10W40 กำลังดี เพราะอยู่ระหว่างกลาง ส่วนรถที่โมดิฟายมา ใส่เบอร์สูงได้ยิ่งดี 1.เซฟกำลังอัดและช่วยเสริมความทนทานของชิ้นส่วนได้ดีขึ้น
2.ลดอาการน้ำมันเครื่องขาดหรือหายจากการขับขี่ในเขตเมืองเป็นเวลานานหรืออากาศร้อน
แต่รถเดิมๆ 10w40 ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ ส่วนใครจะใช้เบอร์สูงกว่าก็ตามที่สะดวกครับ
โดยประสบการนะครับ 10w30 วิ่งไกลไม่ได้ ถ้าเป็นเบอร์50จะดีกว่าครับ รถ r15 2017 17000โล
ผมขับcbr650 ใช้นำ้มันเครื่องสูนเบอ30 แห้งไวมาก ตั้งแต่่ออกรถ1000โลแรกก้อจิ้มไม่ติดแล้ว แต่พอเปลี่ยนมาเติมเบอ40โมตุล นมค ไม่เคยหายอีกเลย
เครื่องหลวมหรือป่าวครับ
สำหรับรถที่โมดิฟายเครื่องยนต์มากๆ แล้วใช้รอบค่อนข้างสูง ควรใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ที่หนืดๆรึเปล่าครับ
เลือกตามการใช้งานเป็นหลัก ความร้อนเท่าไหร่ก็เอาเท่านั้นไม่ต้องเผื่อเปลี่ยนถ่ายตามการใช้งาน เช็คบ่อยๆถ้านมค.เริ่มดำ เกียร์แข็งก็ควรควรเปลี่ยน
ถูกต้องครับ
ทำไม มันคิดกันว่าขับในเมืองไม่ร้อนวะ กูว่าออก ตจว เครื่องยังจะเย็นกว่าอีก ขับยาวๆ ลมโกรกเครื่อง ค ปล. ขอบคุณสำหรับคลิปครับ
ใช่ครับ ขับในเมืองรถติดๆ แปปๆพัดลมหม้อน้ำทำงาน ร้อนมาก ตัดมาออกนอกเมือง ลมปะทะตลอดความร้อนน่าจะน้อยกว่า
เค้าอาจจะหมายถึง การขับขี่ในเมืองส่วนใหญ่เป็นระยะทางที่ใกล้ ไม่ไกลเท่าตจว.รึเปล่าครับ ทำให้เครื่องไม่ต้องทำงานเป็นระยะเวลานาน อุณหภูมิเลยไม่สูงมาก(การขับขี่ทั่วไป ไม่รวมถึงไรเดอร์หรือคนที่ขับขี่ทั้งวัน)
เพราะยกตัวอย่าง พวกคลิปรีวิวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอะครับ พวกรถที่วิ่งได้ระยะทางน้อยๆ เค้าก็จะบอกว่าเป็นรถที่เหมาะกับการใช้ในเมือง คำว่าเมืองกันตจว.ในความเป็นจริงกับนิยามน่าจะต่างกันครับ
@@nikez8382 โอ้โห จอดไฟแดงเดียว พัดลมทำงานไม่ตัดเลยเหอะ สงสัยอยู่ทุ่งลาเวนเดอร์อันสวยงาม
@@jmsssx ไม่เห็นเกี่ยวกับทุ่งลาเวนเดอร์นะครับ
@@nikez8382 แค่ใกล้ๆ แล้วเจอรถติด จอดรอไฟแดง มันก็ร้อนกว่าวิ่งทางโล่งๆอยู่ดีครับ รถติดๆ ขยับได้ทีละนิด ไปจอดรอไฟแดงแป๊บๆ พัดลมก็ทำงานล่ะ สรุป มันไม่เกี่ยวว่าระยะทางในเมืองใกล้กว่า มันต้องดูว่า ทางมันโล่งให้รถวิ่งได้แค่ไหนด้วย ระยะทางแค่ไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร แต่รถวิ่งไม่ได้ จอดติดแหง็กอยู่เป็นชั่วโมง ก็ร้อนกว่าอยู่ดี
โอ้สุดยอดมากครับ...มีข้อตำหนินิดเดียวคือเป็นน้ำมันคนละแบรนด์กัน.ซึ่งตรงนี้ก็เข้าใจได้เพราะแต่ละแบรนด์มีย่านค่าความหนืดไม่มากเต็มที่แค่30-50หรือ40-60แต่มี1แบรนด์ที่มีย่านค่าความหนืดมากสุดคือ RedLine แบรนด์นี้มีความหนืดตั้งแต่ 5/10/20/30/40/50/60/70W เลยครับ.น่าซื้อมาลองเทสนะครับฮ่าๆๆ.เสียแค่ว่ามันราคา 1200/ลิตร.R3 ผมใช้ 30 อยู่ถ่ายทุก 1 ปีหรือ 10000-12000 กม.ถ้าซื้อมาเทสน่าลองตัว 5W-30W-70W ครับ.เพราะมีความหนืดที่ต่างกันชัดเจนในแต่ละย่าน.ซึ่งก็น่าจะให้เห็นภาพกำลังต่างกันได้ชัดเจนเช่นกัน
หายี่ห้อที่มีครอบคลุมเบอร์ขนาดนี้ยากครับ และก็อาจจะโดนฟ้องได้ครับถ้าผลลัพท์ออกมาไม่ดี เลยคละยี่ห้อเพื่อความเป็นกลางครับ
ผมใส่เบอร์50ในเวฟ110i ขับดีมากเครื่องไม่ค่อยร้อนวิ่งไกลๆไหลดีกว่าเบอร์ 30เครื่องร้อนรถตื้อวิ่งไม่ออก
รถwave i ผมควันเยอะ เร่งไม่ขึ้น สะดุด ช่างบอกว่า ลูกสูบลวม ต้องผ่าเครื่องเสียเงินเยอะ ลองใช้เบอร์50 ดีขึ้นมาก ควันน้อยมองแถบไม่เห็น รถมอไซขับ6แสนโล กลับมาเป็นปกติแล้ว ก็ได้เวลาขายทิ้งแล้วคับ😂
ผมเลือกเบอร์หนืดสุดในตลาดที่หาซื้อง่ายคับมันจะทนทาน ยืดอายุยาวนานครับ ใครไม่ชอบก็ใช้เบอเหลวๆไปส่วนผมไม่ตามใครเพราะผมเป็นช่าง ไม่ใช่แค่ขี่แต่ซ่อมเอวด้วย
เลอะเทเะ
ขี่ทำงานทั้งวัน ผมใช้ 10-40 เคยใช้ 30 ละ พอมันร้อนนี่รู้สึกเคริ่องดังกว่าปกติ นี่ก็40 มาจนจะ แสนโลละ
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
น้ำมันเครื่อง ความหนืดต่ำ เบอร์ 30 เมื่อสตาร์ทรถ จะวิ่งขึ้นไป เลี้ยงเสื้อสูบ ได้ไวกว่า ส่วน เบอร์ 50 จะขึ้นช้ากว่า แต่เมื่อรอบสูงๆ แช่นานๆ น้ำมันเครื่องเบอร์ 50 ฟิมล์น้ำมัน จะซิลเสื้อสูบ และอุปกรณ์ ในเครื่อง ได้ดีกว่า
อยากดูการเทสรถสกูตเตอร์สายพาน (nmax pcx fino บลาๆ) กับน้ำมันเครื่องรถยนต์ เบอร์ 20 / 30 / 40 / 50 หน่อยครับ
มีความรู้สึกว่าดรีม 125 ที่ใช้งานหนัก จากเดิมใช้ 10W-40 พอเครื่องเริ่มหลวมเสียงเขกเริ่มดังไม่นิ่มนวล ลองเพิ่มความหนืดเป็น 10W-50 ก็ดีขึ้น และพอเอาเกรดเดี่ยว SAE 40 แล้วถูกใจเลยครับ ประหยัดเงินด้วย
ใช้ของญี่ปุ่น 20w-50 ดีแน่นอน
คหสต. บ้านเราเมืองร้อน ร้อนจัด ร้อนเห้ๆ -Tmax530 ผมใช้ 15w-50 ออกทริปยาวๆ 3,000-3,500 สบายมาก
-R6 ใช้ 10w-40(นมค.ศูนย์) นี่สุดยอดของความร้อน ร้อนแบบ น่องขวาด้านในเป็นตุ่มน้ำ พอ เปลี่ยนเป็น 20w-60 ดีขึ้น
-Zx10R(รีแมพ) ใช้ 10w-40 รอบเดียวเข็ด ขี่กลางวัน ติดไฟแดง 118-114องศา , 10w50 ติดไฟแดง 110-109องศา ,10w-60 แดง110-108-106 องศา
-อีก1,000โล ได้ระยะถ่าย นมค.อยากลอง 20w-70 เหมือนกันน่าจะเหมาะกับช่วงนี้ดี 🤣 ทั้งหมดเป็น คหสต. กับรถที่ใช้จริงๆ ตัวเลขอาจคลาดเคลื่อน งดดราม่านะค้าบ 555+
ยิ่งอากาศ+อุณหภูมิร้อน ใช้เบอร์หนืดสูงๆ ดีแล้วครับ ถ้าอากาศปกติ ไม่ต้องหนืดสูงสุดก็ได้ ความเห็นผมนะ
จะเปลี่ยนนมค.ทีนึงต้องเดาฤดูกาลสภาพอากาศไปพร้อมๆด้วยเลย555
@@Jeminineth บ้านเรามันร้อนทุกฤดูครับ 5555+
@@rryuzzzz9320 ร้อนครับกลางวัน หน้าหนาวยังร้อน 🤣
จัดเลยครับ สบายๆเลยเบอร์70 เหมาะเลย
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ🙏🏽
ขอบคุณครับ
เบอร์หลังน้อย 30 แรง/รอบมาไวกว่านิดหน่อย แต่ไม่ทน ขับแช่ก็ไม่ได้ เหมาะกับรถแม่บ้านข่ายตลาด เช้า-เย็น เปลี่ยนทุก 1-2เดือน
40 มาตรฐาน เปลี่ยนทุก 2-3เดือน
50รถทำเครื่องไม่หนัก รถทั่วรริ่ง รถขับแช่รอบสูง หรือรถ cc สูง
ส่วนนอกเหนือจากนั้น ก็เอาไว้ใส่รถ cc สูงๆ
ส่วนเลขหน้า รถเล็ก เบอร์ 10 หรือต่ำกว่า รถ cc กลางๆสูงๆ 15 ก็พอ
ถ้าคุณขับ 110-125 10w-40 ก็พอๆ ไม่ว่าจะแช่มากน้อย
150-300 10w50 สังเคราะห์แท้ กำลังดีเลยไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
ถ้าสูงกว่านั้น สังเคราะห์แท้ 10-15w 50-60 เลือกเอาครับ😂
ผมใช้เบอร์30 ตามคู่มือบอกมาตลอด แรงดีไม่เคยพังครับ
สุดยอดครับ
แลกเปลี่ยนเป็นความรู้ละกัน ประเทศผมอุณหภูมิเฉลี่ย 9-17 องศาประมาณนี่้ ผมเคยขี่จาก Quebec ไป Ottawa เกือบ 500 โล ขาไปใช้ 5w30 ขากลับใช้ 0w20 บนรถ AK550 ขาไปนี่ขี่คนเดียว ขากลับขี่ 2 คน สรุปว่าขากลับที่ขี่ 2 คนใช้ 0w20 ดันขี่ดีกว่าซะงั้น ตอนขาไป 5w30 ก็ว่าขี่ดีแล้วนะ แต่ขากลับดันลื่นดีกว่าอีก อาจจะเป็นเพราะขากลับอุณหภูมิตอนนั้นมันลงมาเหลือ 11 องศา ต่างจากขาไปวันนั้น 13 องศา
ปล.น้ำมันเครื่องถ่ายก่อนเดินทางทั้งขาไปและขากลับ Valvoline ทั้งไปและกลับ จะมีขาไปที่ขี่วนๆเล่นดูโน่นนี่นั้นในเมืองอยู่ 2 วัน
เพราะข้างหน้าเป็น 0สูบฉีดดีทั่วถึง ข้างหลัง 20 ชั้นฟิลม์ไม่เหนียวแน่นยืดหยุ่นกว่า หน้า15 หนืดกว่ายืดเกาะมากกว่าเพราะหลัง 30 เหนียวแน่นกว่า
เหลวกว่า ดูเหมือนจะปั่นรอบได้มากกว่า
แต่ความสึกหรอที่อุณหภูมิสูง เป็นสิ่งที่ต้องพิสูจน์
ถ้าจะสมบูรณ์แบบ ต้องส่งน้ำมันจากการทดสอบ ไปหาค่าเปอร์เซ็นต์โลหะที่สึกหรอปนมาในน้ำมันเครื่องด้วย
จะตอบคำถามได้ครบถ้วนครับ
คนที่บอกหนืดกว่าแล้วให้ผลเหมทอนกัน คือยังไ หนืดปว่า ต้องกินพลังรถมากกว่า แต่อาจจะรักษาเครื่องยนต์ดีกว่า ต้องแลกกัน
สวัสดีครับ พี่หาข้อมูลรีวิวน้ำมันเครื่อง duckham ให้ดูหน่อยครับ.
ผมส่งอาหารรถแกรนใช้ptt 0w20 อัตตราเร่งดีมาก บางครั้งก็เปลี่ยนจาก95โซฮอล์มาเติมน้ำมันวีพาวเวอร์ยิ่งเร่งดีคูณ2 ท่านอื่นใช้แบบไหนกัน
สมุติแบบผสม เช่น 40 จาก 1 กระป๋อง เอาออกไป 2 ฝา แล้วใส่ 30 แทนไป 2ฝาเศษ
(คิดแบบตื่นเช้ามาได้ให้เศษ30นำไปรันก่อน) แบบนี้จะเป็นไรมั้ย
แต่ หากเทียบกันที่ความเร็วสูงๆที่อุณหภูมิสูงๆ บิดแช่นานๆ เบอร์หนืด ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า
ปล.รถที่ผ่านการใช้งานมาอย่างน้อย1หมื่นโล เทียบแล้วใช้เบอร์หนืดสบายใจกว่าและปกป้องดีกว่า
ยังไม่เข้าใจเรื่องน้ำมันเครื่องอยู่ดีความหนืดให้เอาเบอร์หลังเป็นความสำคัญตัวเลขสูงคือหนืดสูงตัวหน้าคือความใสเช่นเมืองหนาวใช้5w30หรือ40เวลาสตาร์ทน้ำมันจะไม่ข้นแข็งตัวนั่นเองส้วนเมืองไทยร้อนอยู่แล้วไม่ต้องห่วงให้เน้นเบอร์หลังก็พอชอบเบอร์อะไรทางที่ดีใช้สังเคราะห์100%ดีที่สุดชอบเบอร์อะไรเลือกเอา
ส่วนมาก ดูที่ค่า มาตรฐาน API ล่าสุด Api SP
ยังมี SP rr ด้วยนะเคยเห็น
Jaso Scooter mb
รถเกียร์ Ma ครับหนักma2
ส่วนมาก น้ำมันเครื่องที่มีค่า มาตรฐาน Api sp
จะมี ค่า LPSI Low-speed pre-ignition
ชิงจุดที่รอบต่ำ
น้ำมันเครื่อง SP เลยมีค่าflash pointสูงจุดวาปไฟ และ ค่าต้านทานการจุดระเบิดสูง
ค่า vi Viscosity Index ความหนืด มี หลายมาตรฐาน ที่อุณหภูมิ@40องศา และ @100องศา
ส่วนมาก น้ำมันเครื่อง จะ ความหนืดลดลง เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น และหนืดมากขึ้นเมื่ออุณหภูมิลดลง
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ
125 2023 ใช้น้ำมันเครื่องถึงลิตรไหมคับ
เวฟ125ledปี 2022 ของผมพอเครื่องร้อนจะมีเสียงดังเก๊ๆๆๆ ช่างเค้าเลยเเนะนำ ใช้น้ำมันเครื่อง 10-50 หรือเบอร์ที่หนึดขึ้น เสียงตังเก๊ๆๆๆ ก็ยังอยู่ อยากรู้เวฟ125led ปี 2022 ของใครเป็นเเบบผมไหมครับ ขอความรู้ทีครับ🙏
ได้เอาเข้าไปตั้งวาล์วบ้างมั้ยครับ ของผมตัวปี22 เหมือนกัน รู้สึกว่าวาล์วจะดังนิดหน่อยไม่นิ่มเหมือนใหม่ตอนออกศูนย์ รถ10600โล
ขออนุญาตสอบถามเพื่อเป็นความรู้ครับ
รถผมดรีมคุรุสภาพึ่งคว้านลูกสูบมาใหม่ ควรใช้น้ำมันเครื่องเบอไหนดีครับ จึงเหมาะสม
มีสาระมากเลยค่ะ อยากรู้ว่า น้ำมัน MA2 กับ MB ที่เบอร์ความหนืดเดียวกันเช่น 10W40 แต่น้ำมัน MB จะลื่นกว่ามากเลยจริงไหมค่ะ
เพราะฉนั้นเราควรเติ่มน้ำมันเครื่องให้ตรงกับชนิดรถใช่ไหม 🙏🙏
ลื่นกว่าไหมนี่ขึ้นอยู่กับสารเติมแต่งที่ใส่เข้าไปmbมีสารบางตัวถ้าใส่ในรถครัชเปียกมันจะทำให้ครัชลื่น ครับ
MA=เฉพาะรถเกียร์
MB=เฉพาะรถออโต้
MA2=ได้ทั้งเกียร์และออโต้
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ จากคนไม่เป็นเรื่องรถเลย เริ่มเป็นจากการค้นคว้าหาความรู้จากช่องทางyoutube และช่องนี้ครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ
ปัจจุบันทั้งในกรุงเทพฯและปริมลฑล การจราจรติดขัดช่วงเวลาเร่งด่วนมาก ขับรถขึ้นสะพานพระราม9ไปลงดินแดงขับยาวไปถึงย่านคลองหลวงปทุมธานี เครื่องยนต์ทำงานตลอด ขากลับก็เช่นกัน😅
คลิปนี้ลงทุนมากเลยครับ สุดยอด ถ้าเอารถที่โมดิฟายมาเทสด้วยน่าจะดี
อยากเอาเบสคนทั่วๆไปที่ใช้รถเดิมครับเลยเอารถเดิมมาทดสอบก่อน
Wave110i 2016 เครื่องเดิม วิ่ง60000 กิโล วิ่งไกลวันละ 80 กิโล/วัน ควรขยับเบอร์น้ำมันเครื่องไหมครับ ปัจจุบันยังใช้ 10W-30
10w-40เลยครับรึไป10w-50
ชอบหนืดๆ รักษากำลังอัดดี กลายเป็นประหยัดน้ำมันไปอีก แต่พอรอบมาไม่อืดนะ
เห็นด้วย จากการใช้จริง
แต่ก่อนใช้ตามคู่มือ 10w30
ช่างบอกรถเก่าแล้วให้ใช้ 20w50
ความรู้สึกแรก รถออกจะอืดๆนิดนึง พอได้ขี่ทางไกล(แปดริ้วไปโคราช) อัตราเร่งดี ยืนพื้น140 เวลาเร่งแซง รถมีแรงอัดดีมาก ตอนนี้ใช้20w50 มาตลอด
@@prasittanuwong8019 รถเก่าเคลียร์แร้นเยอะ จำเป็นต้องใช้หนืดๆมาช่วยอุดถูกต้องแล้วครับ แต่ถ้าพวกบิ๊กไบค์เขาเล่นหนืดกันแต่แรกอยู่แล้ว
ผม52000กว่าโลใช้ 10w60 เสียงแน่นดีท่าว่าหนืดมันก็ไม่ได้หนืดอะไรขนาดนั้นครับเครื่องเงียบกริป😂 ยิ่งร้อนยิ่งลื่นครับ
รถแม่บ้านใช้งานหรือวิ่งบ่อยๆ แนะนำใช้แบบสังเคราะห์100 10W40หรือ10W50ก็ได้ครับ
เราใช้เบอร์ 30 ถูกใจมาก...
ลองอีกรอบรับ ใช้น้ำมันเครื่องที่หนืดกว่าก่อน แล้วเอาน้ำมันเครื่องใสไว้ท้ายสุดครับ
หนืดน้อยมาก ไม่ใช่ประเด็นหลักครับ
เราต้องดูเกรด API-S... เป็นหลัก เพราะมันเป็นตัวเกรดบ่งชี้ค่าฟอสฟอรัส การระเหย และการกำจัดเขม่า
พอเครื่องร้อน มันก็ไหล่เคียงกันหมดแต่ถ้าเหนียวหน่อย ก็จะดีต่อรถ ที่ใช้ความเร็ว หรือใชงานต่อเนื่อง เช่นรถทัวริ่ง
ขับ stallion ครับ ต้องใช้เบอร์หนืด 20w50 ใช้ 5-20w40 แคมกระเดื่องโคตรสึก
ตัวเลขเบอร์ที่เหมาะกับอุณหภูมิประเทศไทยที่สุดคือSAE:0W-40 , 5W-40 ,10W-40 ตัวหน้า0W,5W,10Wใช้กับประเทศหนาวมากๆส่วน-40คืออุณหภูมิร้อนแถบประเทศไทยครับใช้กับเครื่องยนต์นะครับส่วนเบอร์สูงๆขึ้นใช้กับเกียร์กับเฟืองท้ายครับเช่นเบอร์90 มิน่าหละรถรุ่นนี้ที่เห็นอยู่จอดสนิทเป็นส่วนมากเพราะใช้น้ำมันเครื่องผิดเบอร์นี่เอง
เบอร์40วิ่งไรเดอร์ใช้นานๆ ไม่รอดน้ำมันเครื่องหาย แนะนำ50 ดีตอนเครื่องร้อนจัดๆ
@@ใบไม้ปีศาจรอดคครับ ผมใช้อยู่ วิ่งยังไง มันก็ไม่หาย ครับ ถ้าเปลี่ยนทุกๆ 2000 โล ไม่ลากยาวเกินกว่า 2500
ช่วยแนะนำสำหรับไรเดอร์ ขับวันละ100-150โลหน่อยครับควรยังไงดี รถใหม่กำลังเปลี่ยน พันโลแรก
ตามครับดันๆ+1
แนะน้ำเบอ10-40คับจบๆเบาได้หนักก็ได้
แต่เป็นสังเคราะเเท้100น่ะ
จากที่ฟังจนจบ ถ้าผมใช้เวฟเดิมโรงงาน ที่เขาแนะนำ30W ฤดูร้อนขับทางไกลผมจะใช้เบอร์40W ขับในเมือง50W ส่วนฤดูฝนกับหนาวใช้30W น่าจะตรงโจทย์ที่สุดสำหรับผมแล้วครับ
วัดที่ condition อะไร
Plug temp?
Oil temp?
สองค่านี้มีผลต่อแรงม้า
น้ำมันทั้ง3ตัวคุม conditon เท่ากันไหมครับ
เวฟ110i เป็นรถเก่าปี2015 เครื่องทำลูก53 ใช้แบบไหนดีครับปกติใช้10w50 ครับ
ที่ผมทำเลยก็ถ้าเครื่องพึ่งผ่าพึ่งทำเลยใส่ตัวW40ไปเคลือบในตัวเครื่องก่อนอ่ะครับซัก3000โลแล้วหลังจากนี้ก็ใส่W50ครับแต่เกรดน้ำมันต้องดีด้วยผมใช้ตัวไหนนี่แหละนานแล้วลืม5555แต่ราคาอยู่ประมาณลิตรละ900กว่าๆใช้ดีมากกแต่7100ก็ไม่แพ้กันเลย แล้วแต่ความสะดวกเลยครับ5555
กึ่งสังเคาระห์ กับ สังเคราะห์100%
ราคาต่างกันคุณภาพต่างกันเยอะใหมครับ ต่างกันยังไงครับเพราะให้เปลี่ยนทุก4,000-5,000 กม.เหมือนกันครับ
น้ำมันเครื่องแพงๆ
อัตราการไหลดีเวลาเครื่องเย็น
คงความหนืดเวลาเครื่องร้อน
น้ำมันเครื่องถูก
ตอนเครื่องเย็น ตรงตามสเปค
ตอนเครื่องร้อน เหลวไม่คงความหนืด
สรุป น้ำมันแพงๆค่าความหนืดสวิงน้อยกว่าเมื่อเทียบตอนเย็นกับตอนร้อน
สำหรับผมเดิม
รถใหม่หรือรถใช้งานไม่เกิน10กิโล=ตามคู่มือมือ30w,40w
รถใช้งานทางไกล,รถติดบ่อยๆ=40w
รถใช้งานเครื่องเริ่มหลวม=50w
รถ100-300ccผมว่าไม่ควรเกิน50W
#ข้อมูลข้างต้นเป็นความคิดเห็นผมล้วนๆอาจผิดถูกแต่มั่นใจว่าไม่ทำให้เครื่องพังแน่
ผมเป็นรถสายพานรถ10ปีกว่าถ้าผใช้เบอร์50จะเป็นไรไหมครับ
@@heartunruly4438 ถ้าใช้งานปกติไม่ใช่200cc+ผมว่า40Wก็น่าจะเพียงพอนะถ้า50Wต้องใช้เวลาวอมอุณหภูมิน้ำมันเครื่องสักพักแต่ถ้าวิ่งส่งของใช้ได้เลยครับเพราะใช้งานหนุกเครื่องร้อนตลอด
@@heartunruly4438 ถ้าใช้งานหนักวิ่งส่งของทั้งวัน50wได้ครับแต่ถ้าใช้ปจว.ไม่ได้หนักอะไรมาก40Wก็น่าจะเพียงพอ
ขับในเมือง ร้อนเพราะการระบายอุณหภูมิไม่ดี
ขับนอกเมืองทางไกล ร้อนเพราะรอบสูง
เครื่องจะเย็นที่สุดที่รอบการทำงานพอดีๆ ในตอนที่เราเดินทางไกลครับ บวกกับการระบายอุณหภูมิได้ดีที่สุด
ผมใช้เบอร์40กึ่งสังเคราะห์ ใช้รอบสูง 9,000-12,000 ระยะทาง800กิโล น้ำมันเครื่องหายไปประมาน300-400ml. 🤣
❤❤❤❤เห็นความระเอียด เห็นความตั้งใจทำคลิปแล้ว กดติดตาม กดหัวให้ให้เลยครับ❤❤❤❤
รถออกทริปบ่อยผมว่าใช้หนืดกว่าเดิมหน่อยดีกว่าขับรอบสูงลากยาวๆช่วยลดการเสียดสีของเหล็กดีกว่าแน่นอน..รถขับในเมืองเน้นออกตัวตามไฟแดง..รถติด.รอบต่ำ..ใช้ปกติตามคู่มือไปเลยครับ
จริงๆแล้วขับในเมืองความร้อนสะสมสูงกว่าครับ เพราะใช้ความเร็วได้ไม่มาก็ต้องจอดบ่อยๆความร้อนสูงกว่าขับทางไกลยาวมีลมผ่านเครื่องตลอดเวลาครับ
เป็นความรู้ดีๆครับ
ใช้ตามคู่มือดีที่สุด.รถใหม่ๆใส่ความหนืดมากๆเครื่องพังเร็ว ใสไปก็พังเร็วเช่นกัน ต้องใช้ตามคู่มือของแต่ล่ะรุ่นเขตร้อนเมืองไทยความหนืด30-40-50โดยประมาณ เลือกใช้ใหเหมาะสม ส่วนที่สำคัญอีกอย่างคือAPI ตัวนี้จะบอกคุณภาพของน้ำมันเครื่องยนต์เบนซินขึ้นต้นด้วยอักษรS ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลขึ้นต้นด้วยอักษรC
รถใหม่บางรุ่นก็ชอบหนืดๆ เช่นพวกค่า clearance สูงๆแบบบิ๊กไบค์
ผมว่าการพังเร็วคือคนที่ไม่ถ่ายน้ำมันเครื่องใช้ลากยาวนานๆมากกว่าครับ
ท่องตามตำรามาเป้ะเลยนะครับ ใช้งานจริง อุณหภูมิ แต่ละประเทศไม่เหมือนกันนะครับ คิดดีๆ
รถญี่ปุ่น ผลิต ที่ ไทย แต่ R&D ทำงาน อยู่ ขั้วโลก เหนือ คู่มือ ก็ไม่ได้พัฒนา ตามประเทศ นั้นๆ ครับ
ประสิทธิภาพสูงสุดได้คำนวณมาแล้วจากผู้ผลิตเครื่องยนต์ แต่ละรุ่น ได้เหมาะสมแล้ว ส่วนเบอร์อะไรดูตามคู่มือได้เลยครับ ❤
ยอดเยี่ยมครับที่ทดสอบให้เห็นภาพ
ขอบคุณมากครับ
การที่เครื่องอืดไม่ใช้น้ำมัน นืดหรือไม่นืดครับ คุณเติมน้ำมันเครื่องจนหมดขวด ท่าเป็นช่างจริง เขาจะดูการเติมของรถแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน และเติมตาม ขีด บอกขนาดที่เป็นขีดอยู่ข้างขวดน้ำมันเครื่อง ครับ😅😅😅 ความรู้จากช่าง...
พี่จ๋ายเชื่อไหมครับ รถผม125ledเดิมๆเลย ผมเคยใช้เบอร์10w30วิ่งได้แค่120 แต่พอใช้10w50วิ่งได้130 เป็นเพราะอะไรครับ
#คลิปพี่จ๋ายคุณภาพทุกคลิปจริงๆ #1แสนซับไวๆครับ
ถ้าเป็นรถ Honda กล่องecuจะมีการปรับลดน้ำมันและองศาจุดระเบิดลง เมื่ออุณหภูมิสูงถึงที่กำหนดไว้ครับ เพื่อดรอปกำลังเครื่อง เป็นไปได้ว่าพอใช้เบอร์น้ำมันที่สูงขึ้น อุณหภูมิเครื่องเลยไม่ไปแตะถึงครับ
นำ้มันเครื่องเบอร์70นี้พึ่งเคยเห็นเลยครับ ปกติเคยเห็นแต่เบอร์60ครับ
ส่วนมากเป็น น้ำมันเฟืองท้ายคับ ที่ ความหนืดเยอะๆ
@@FLOOKRock 😂
ผมก็พึ่งเคยเห็นเหมือนกันครับตอนแรกจะเอาเบอร์60มาทดสอบนี่ละ
จริงแน่นอน หนืดเกินวิ่งไม่ออกเลยหล่ะ
ขอช่วยเพิ่มให้อีกนิดนึงเผื่ออาจมีประโยชน์ในการทำคลิปครั้งต่อไปนะครับ และขึ้นอยู่กับการออกแบบโครงสร้างชิ้นส่วนการหล่อลื่นภายในของเครื่องยนต์แต่ละรุ่นเครื่องยนต์ปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่ชิ้นส่วนภายในที่เยอะขึ้นทำให้น้ำมันที่มีความหนืดมากไปเลี้ยงชิ้นส่วนต่างๆไม่ทั่วถึงหรืออาจไปช้ากว่าน้ำมันที่มีความหนืดน้อยกว่าดังนั้นเช็คของน้ำมันที่โรงงานระบุมาให้ใส่จึงสำคัญมากเพราะมีการพัฒนาควบคู่มากับเครื่องยนต์นั้นๆเขาจึงระบุออกมาว่าใส่เบอร์นี้เหมาะที่สุดแต่ถ้ารถที่ใช้งานมานานเริ่มสึกหรอก็สามารถเพิ่มเบอร์น้ำมันให้เกิดขึ้นได้อีก 1-2เบอร์ได้เช่นจากเบอร์ 30เป็นเบอร์ 40หรือ 50จะไม่เกินนี้เพื่อชดเชยกับการสึกหรอของโลหะที่หายไปทำให้เครื่องยนต์ยืดอายุการใช้งานค่าความหนืดมากเกินไปจะทำให้ซึมเข้าผ่านรูเล็กๆได้ช้าทำให้การหล่อลื่นไม่เพียงพอถึงขั้นชาร์ปละลายได้เลยรายละเอียดมันเยอะ
ทุกวันนี้อากาศบ้านเราร้อนมาก รับน้ำมันเครื่องเมืองซาอุฯ มาใช้ยังได้เลย เวฟ125iของผมใช้เบอร์50วิ่งข้ามจังหวัดสบายๆ
ใส่ มาก ใส น้อย มันบอกอะไร ถ้า ยิ่งใสมันยิ่งหนืดหรือ แล้วเค้าทำให้ใส่มาก แล้วหนืดไม่ใช้ไหมครับ
บ้านเราเมืองร้อน รถผมDream Dupercup ขี่80มาจอดเอาDoctor apiมาวัดอุณหภูมิ120+ถ้าใช้เบอร์30ตามคู่มือบรรลัยแน่นอน
ที่แน่ๆเนํ้ามันหนืดและใส่เยอะเกินค่ามาตราฐานติดเครื่องยากเพราะเคยทําไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าพอนํ้ามันหนืดตํ่าและแห้งลงกว่าค่าปกตินิดนึงละติดเครื่องง่ายกว่าแต่ถ้านํ้ามันน้อยและความหนืดน้อยเกินก็ปกป้องเครื่องได้ไม่ดีอีกในระยะทางไกลๆความหนืดสูงก็ดีกว่าโดยเฉพาะรถเล็ก
ผมว่ามีผลนะ เจอมากับตัว รถเกียร์ออโต้ ช่างเอาน้ำมันเกียร์ธรรมดามาใส่ให้ จากรถที่วิ่งได้100 ลดเหลือแค่ 90 ทำให้รถอืด แล้วเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น10%
ต้องดูระยะยาวในการใช้ เพิ่งเปลี่ยนมันไม่ต่างวิ่งไปนานๆสักพักจะรู้
รถผมใช้มา3หมื่นกิโล ใช้เบอร์40โอเครไหมคับ
เพื่อรถโมดิฟายเพื่อแข่งขัน กระป๋องสีน้ำเงิน, ใชกับรถปกติขี่ทางไกล กระปํองดำ, ใช้กับรถปกติ ขี่ใช้งานทั่วไป กระป๋องเทา
ช่างครับเเนะนำน้ำยาหล่อเย็นหน่อยครับ บางยี่ห้อผมใช้ไปยังไม่ถึงเดือนเลย เป็นสนิมละเเล้ว😢
รถใหม่ใช้เบอร์30ความเผาไหม้ยังดีอยู่ รถเก่าควรใช้เบอร์40
ถ้าบิ๊กไบค์เมืองไทยเบอร์ค่าตัวหลังต่ำกว่า 30 ขี่ไม่ได้ครับ ย้วยสุดๆเลย ยิ่งหน้าร้อนต้องเบอร์ 50 ด้วยซ้ำ
ถ้า 650ccขึ้นไปแนะนำให้ใช้ 15W50-60ไปเลยครับผมวิ่งมา5-6ปีแล้วครับ เบอร์40ไม่ไหวครับ เมืองไทยร้อนมากๆ
ผมวิ่งแกร๊ปครับ วิ่งทั้งวันเครื่องร้อนมาก ผมใช้ปิโตนาสเบอร์50 ยิ่งร้องยิ่งลื่นเสียงเครื่องนิ่ม ใช้เบอร์ต่ำกว่านี้ 30-40 น้ำมันเครื่องหายไปเยอะ
น้านจริงด้วย ไอพวกขี่รถไปซื้อแกง อย่าหาซื้อ 50เถอะ
@@kittipannut2460ละผมรถมีโมดิฟายนิดนึงเเต่ลูกสูบของเดิมโรงงานขับไปทำงานทุกวันละขับเร็วด้วย พี่ว่าควรใข้เเบบไหนเเต่มีตัวนึงเคยรับรองถึง50องศารถก็วิ่งปกติอีกอย่างมันหอมมากครับ
เบอร์น้ำมันเครื่อง น่าจะเอามาคุยเรื่องการรักษาความหนืดในการขับขี่ยาวๆหรือในความร้อนมากกว่านะครับ ไม่น่าจะเอามาดูของเรื่องแรงม้าสักเท่าไหร่
ถ่ายแร้วอย่าพึ่งทิ้งจ้า ขอใช้ต่อ เสียดาย
เดี๋ยวมีใช้งานต่ออีกคลิปครับ
ต้องบิดยาวครับ เช่น แช่ไปซัก ๑ ชั่วโมง แล้วขึ้นไดโน่เทสต์อีกที
เอ็นดูโร 4t sport จักบาทค่ะ
มิใช่ ความข้นใส จะสำคัญ เพียง อย่างเดียว
สารหล่อลื่น ก็สำคัญไม่น้อย ไปกว่า
โอ้ว เจอช่องเทสจริงๆด้วย