ไฮบริดคือของจริง? ตัวเลือกเยอะ ไม่ง้อตู้ชาร์จ ค่าซ่อมไม่แพง ราคาดี ยอดขายนำห่างรถไฟฟ้า! - [ที่สุด]
Вставка
- Опубліковано 11 лип 2024
- ใครว่ารถไฮบริดถึงจุดสิ้นสุด!? เมื่อตัวเลขยอดจดทะเบียนรถใหม่ทั้งในไทยและเทศชี้ว่าประชากรรถไฮบริดกำลังเพิ่มขึ้นๆ สวนทางกับรถไฟฟ้าล้วนที่กราฟเริ่มชะลอลงแล้ว เหตุจากโครงข่ายการชาร์จไฟและค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของรถ (Cost of ownership) ที่ผู้บริโภคมองว่ายังไม่ตอบโจทย์มากนัก จึงเป็นคราวของรถขุมพลังไฮบริดได้กลับมามีบทบาทในตลาดอีกครั้ง คลิปนี้ ‘ที่สุด’ เลยจะนำเอา 5 รุ่นรถไฮบริดใหม่ที่ใกล้จะเปิดตัวและน่าสนใจในบ้านเรามาให้ชมกันครับ
อย่าลืมกดปุ่มติดตามและกดกระดิ่ง เพื่อเป็นกำลังใจ และให้ไม่พลาดข่าวสารเรื่องรถ อัปเดตก่อนใครจากพวกเราชาว ‘ที่สุด’
สารบัญวิดีโอ:
00:00 Intro
01:27 MG 3 Hybrid+
02:31 Toyota Prius
03:41 BYD SEAL U
04:45 Nissan Serena
05:42 Toyota Ativ Hybrid
06:44 รวมรุ่นรถไฮบริด แบ่งตามราคา
08:25 สรุป
สรุป:
แม้ความนิยมของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปัจจุบันดูจะพุ่งทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีเรื่องให้ต้องประหลาดใจอยู่เหมือนกัน เมื่อข้อมูลตัวเลขรายงานยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในสหภาพยุโรปพบว่า ในเดือน พ.ค. 2024 รถยนต์ไฟฟ้าล้วน มียอดจดทะเบียนลงลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ต่างจากรถยนต์ขุมพลังไฮบริดที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่บ้านเราเองนั้น ยอดขายรถยนต์ xEV ก็มีสัดส่วนภายในที่เปลี่ยนไปเหมือนกัน คือรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนหรือ BEV ลดลง 28.8% สวนทางกับรถไฮบริดที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 92.1% เลยทีเดียว แบบนี้เท่ากับว่ายังไม่ถึงจุดอวสานของรถน้ำมันน่ะสิ?! งั้นมาดูรถยนต์ขุมพลังไฮบริดรุ่นใหม่ที่น่าสนใจกันดีกว่าว่ามีรุ่นอะไรบ้าง
MG3 Hybrid+ รถแฮทช์แบ็คขุมพลังไฮบริดที่ใกล้เปิดตัวในไทยเข้ามาเต็มทีแล้ว ขุมพลังเป็นเครื่องเบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 102 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 128 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่พละกำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร พละกำลังรวมสูงสุด 194 แรงม้า แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 1.83 kWh ซึ่งทาง MG เคลมตัวเลขเอาไว้ว่าอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 22.72 กม./ลิตร และมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.0 วินาที
Toyota Prius ที่รุ่นใหม่ล่าสุดนับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 แล้ว โดยยังไม่ได้มีข้อมูลยืนยันแบบชัวร์ๆว่าจะเป็นรถนำเข้าจากญี่ปุ่น หรือว่าขึ้นไลน์ประกอบในไทยกันแน่ ส่วนเรื่องของขุมพลังเมื่อดูจากตลาดโลกที่กำลังวางขายอยู่จะมีทั้งหมด 3 ตัวเลือก คือ 1.8 Hybrid 140 แรงม้า, 2.0 Dynamic Force Hybrid 193 แรงม้า และ 2.0 Dynamic Force Plug-in Hybrid 223 แรงม้า ส่วนรุ่น 1.8 Hybrid ที่ใกล้เคียงกับสเปกของ Prius Gen3 ทางโตโยต้าเคลมตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเอาไว้ที่ 32.6 กม./ลิตรเลยทีเดียว
BYD SEAL U รถยนต์รุ่นที่เติมน้ำมันได้รุ่นแรกของ BYD ในตลาดเมืองไทย ซึ่งมีมิติตัวรถที่ใหญ่กว่าคู่แข่งร่วมเซ็กเมนต์ มาพร้อมขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 112 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะได้พละกำลังสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 325 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ขนาด 26.6 kWh ซึ่งเคลมตัวเลขเอาไว้ว่าได้วิ่งได้ไกลสุด 1,080 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็มและมีน้ำมันเต็มถัง ส่วนเรื่องของราคานั้นเป็นเรื่องที่น่าจะเป็นเรื่องที่ต้องพยายามกันหน่อย เพราะนาทีนี้ความเชื่อมั่นเรื่องราคาช่วงเปิดตัวของ BYD ค่อนข้างจะเป็นปัญหาอยู่พอสมควร
Nissan Serena เป็นรถที่มีจุดเด่นในเรื่องของขุมพลัง e-POWER
ที่ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดน้ำมันและอัตราเร่งแบบรถไฟฟ้า ด้วยเครื่องเบนซิน 1.4 ลิตร 3 สูบ ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิด 123 นิวตันเมตร ที่ 5,600 รอบ/นาที ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร
และแบตเตอรี่ Lithium-ion ที่ทางนิสสันเคลมตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองไว้ที่ 20.4 กม./ลิตร ซึ่งตอนนี้ทาง MG MAXUS 7 เปิดราคาอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงคิวของ Nissan Serena บ้าง
Toyota Yaris Ativ ที่แม้ว่าในตอนนี้จะมีขายเพียงรุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาอย่างเดียว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะกระแสซาลงไปเลย ด้วยเหตุนี้ทางโตโยต้าเลยชะลอการมาถึงของรุ่นขุมพลังไฮบริดเอาไว้ก่อน โดยขุมพลังคาดว่าน่าจะเป็น เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ตัวเครื่องยนต์จะให้พละกำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร ที่ 4,000 - 4,800 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 80 แรงม้า 141 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันจะให้พละกำลังรวม 111 แรงม้า มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 0.7 kWh ที่เชื่อว่าตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองจะเข้าใกล้ 30 กม./ลิตร ได้ไม่ยาก
นอกจากนี้แล้ว ยังมีตารางรวมรุ่นรถไฮบริดที่ทำตลาดในไทยอยู่ตอนนี้มาให้ดูกันว่ามีอะไรบ้าง โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มราคา คือ 600,000 - 800,000, 800,000 - 1,000,000 และ 1ล้านบาทขึ้นไป เพื่อเป็นข้อมูลให้สำหรับคนที่กำลังเล็งรถไฮบริดเอาไว้แต่นึกไม่ออกว่ามีรุ่นอะไรบ้าง
ถ้าใครยังลังเลใจหรือไม่พร้อมจะไปใช้รถไฟฟ้าเต็มตัว แต่ก็ยังต้องการความประหยัดอยู่ รถไฮบริดคืออีกคำตอบที่ดีไม่แพ้รถไฟฟ้าเลย ทั้งในเรื่องของการเดินทางที่ไม่ต้องวางแผนกับการแวะชาร์จไฟ, อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่เมื่อคำนวณออกมาเป็นหน่วยบาท/กม. หรือจะเป็นเบี้ยประกันภัยที่ไม่ได้สูงขึ้นจากรถเครื่องสันดาปคันเดิมที่ใช้อยู่
____________________________
ติดต่องานได้ที่
📨 business@tsuitreview.com
📞 Tel. 099-639-2544
ติดตาม 'ที่สุด'ของเรื่องรีวิว ได้ที่
🔔 Facebook: / tsuitreview
👉 TikTok: / tsuitreview
🎙️ Apple Podcast: apple.co/3Y5j5CU
🎙️ Spotify: spoti.fi/3HtXvkk
____________________________
Source:
- Toyota
- Honda
- Nissan
- Mitsubishi
- Suzuki
- MG
- Hyundai
- GWM
- BYD
____________________________
#Hybrid #HEV #รถไฮบริด #ซื้อตอนไหนประหยัดตอนนั้น
#Tsuit #ที่สุดของเรื่องรีวิว - Авто та транспорт
เค้าว่ากันว่า.. รถไฟฟ้าซื้อทีหลังประหยัดกว่า
แต่ถ้าเป็นรถไฮบริด ซื้อวันไหนก็ประหยัดวันนั้นไปเลย สงสัยจะจริงแฮะ
ติดตาม 'ที่สุด'ของเรื่องรีวิว ได้ทุกช่องทาง:
🔔 UA-cam: ua-cam.com/users/tsuitreview
🔔 Facebook: facebook.com/tsuitreview
👉 TikTok: www.tiktok.com/@tsuitreview
🎙 Apple Podcast: apple.co/3Y5j5CU
🎙 Spotify: spoti.fi/3HtXvkk
@@tsuitreview ใช้รถไฮบริดมา 10 ปี เปลี่ยนรถคันต่อไปจะเลือก EV แน่นอน ไฮบริดมีดีอย่างเดียวคือไม่ต้องชาร์จ แต่ที่เหลือสู้ EV ไม่ได้จริงๆ อันนี้ต้องยอมรับ แค่ข้อดีหลักๆ คือไม่ต้องเติมน้ำมันแพงๆ ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 10,000 km ก็ทำให้เปลี่ยนใจไป EV ได้แล้ว ^^
ขอถามเป็นความรู้ครับ ผมกำลังจะเปลี่ยน ตัดสินใจไม่ถูก EV หรือ Hibird
ที่บอกใช้ hybrid มา10ปี
?-รถยี่ห้อะไร รุ่นอะไร-?
ที่ถามยี่ห้ออะไรรุ่นอะไรเพราะ
เห็นที่ขายอยู่ในไทยตอนนี้ hybridมีหลายแบบมาก เท่าที่ได้เห็นญี่ปุ่น3ยี่ห้อ Toyota Honda Nissan ระบบไม่เหมือนกันเลย hybridยุโรปPHEVเสียบปลั๊กได้ก็ไม่เหมือนญี่ปุ่นที่ไม่ต้องเสียบปลั๊ก
อีกอย่างเทคโนโลยี่hybridเมื่อ10ปีที่แล้ว กับวันนี้น่าจะมีอะไรพัฒนาไปบ้าง
@@cando13589 เอาราคาน้ำมันกับเงินในกระเป๋าเป็นที่ตั้งครับ ถ้าน้ำมันลิตรละ 45-50 แล้วยังไม่กระทบ ก็ใช้รถน้ำมันไปครับ ^^
@@perotra
ขอบคุณ@pittruntiที่ตอบ แต่ไม่ได้ตอบคำถามที่ถามไป ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ
@@perotra
รถไฮบริดรุ่น10ที่แล้ว กับ รุ่นปีนี้ มันไม่เหมือนกันแล้วมั้ง
evค่าประกันแพง hybridซ่อมสองระบบ สรุปใช้คันเดิมยอมจ่ายค่าน้ำมันต่อไป ใช้มา19ปี และใช้ต่ออีกยาวๆ
ใช้ไฮบริดมาแล้วสิบกว่าปี มันก็ไม่ดีเด่อะไรนักหรอก ประหยัดกว่าน้ำมัน แต่ราคาซื้อถ้าเทียบขนาดรถแพงกว่ารถน้ำมันมาก เอามาหักกับการประหยัดน้ำมันแล้วเหมือนไม่ได้ลดค่าใช้จ่ายอะไร แถมราคาขายต่อแม่งขี้หมาชัดๆตัดใจขายไม่ลงคงใช้จนพังคาตีนไปนี่หละ ซ่อมก็โคตรแพง แบตไฮบริดก็แพง ถ้าเปลี่ยนคันใหม่ไม่เอาแล้ว เป็นEVแน่นอน ประหยัดจริง ราคาขายต่อก็คงห่วยไม่ต่างกว่าไฮบริดนักหรอก การขับEVดีกว่าด้วย ออกตัวก็ดีกว่า เทคโนโลยีก็ดีกว่า
ขอถามเป็นความรู้ครับ ที่บอกใช้ hybrid มา10ปี
?-รถยี่ห้อะไร รุ่นอะไร-?
ผมกำลังจะเปลี่ยน ตัดสินใจไม่ถูก EV หรือ Hibird
ที่ถามยี่ห้ออะไรรุ่นอะไรเพราะ
เห็นตอนนี้hybridมีหลายแบบมาก เท่าที่ได้เห็นญี่ปุ่น3ยี่ห้อ Toyota Honda Nissan ระบบไม่เหมือนกันเลย hybridยุโรปPHEVเสียบปลั๊กได้ก็ไม่เหมือนญี่ปุ่นที่เสียบปลั๊กไม่ได้
อีกอย่างเทคโนโลยี่hybridเมื่อ10ปีที่แล้ว กับวันนี้น่าจะมีอะไรพัฒนาไปบ้าง
@@cando13589มันไม่ตอบหรอก พวกนี้มันขี่มอไซ😂😂😂
@@cando13589 ฟังก็น่าจะ camry hybrid นะ
ไฮบริด ยี่ห้อเบนซ์ เหรอ ถึงบ่นเหมือนหมีกินผึ้ง หรือขาเชียร์ EV กันแน่ 😂
@@cando13589 ไปเกี่ยวอะไรกับรุ่นและยี่ห้อละครับ จะถามก็ถามเรื่อง Hybrid ไปเลยสิว่า มีอะไรที่สงสัย
เอาพื้นฐานระบบ Hybrid คนเล่นเค้าจะรู้กันดีว่าระบบ Hybrid จะมีอะไหล์ 4 เทพ ที่มันราคาแพง เสียง่าย(เพราะการออกแบบเหมือนจะจงใจ เพื่อขายอะไหล์) ในที่นี้ขอพูดถึงระบบไฮบริทของพี่โตก่อนนะ เพราะนิยมสุด
ที่นี้ปัญหามันคือว่า หาช่างซ่อมเฉพาะทางยากมาก โดยเฉพาะตจว. เอาง่ายๆขนาดแค่เปลี่ยนน้ำมันเบรก อู่ข้างนอกมักทำกันไม่ได้ไม่เป็น เพราะมันต้องรู้จักเข้า Service mode ของรถก่อน ไม่พอยังต้องไล่ลมออกระบบให้หมดจริงๆอีก ผลก็คือส่วนใหญ่คนตจว.มันต้องไปจบที่ศูนย์บริการทั้งนั้น แล้วมันเกิดอะไรขึ้นเหรอ ศูนย์เค้าไม่ซ่อมครับ เค้าเปลี่ยนอะไหล์ใหม่ลูกเดียว ราคาก็ระดับเผากระท่อมกันเลยที่เดียว ยกตัวอย่างล่าสุด อย่าง Yaris Hybrid ถ้า 1 ในองค์เทพคือระบบเบรก(เทพองค์นี้จะเป็นแฝดครับ จะมีอยู่ 2 ตัว คือ Actcuator(เรียกสั้นๆกันว่าปั้ม ABS) และ Break booster) ปั้มพวกนี้อายุการใช้งานมันสั้น(ขึ้นกับว่าจะเหยียบเบรกกันมากขนาดไหน ถ้าวิ่งในกทม. 4 ปีพังก็มีกันเยอะ โดยเฉลี่ยก็ไม่เกิน 7-8 ปีก็พัง) โดยราคาอะไล์ในศูนย์ถ้าของ Yaris Hybrid เอาปั้ม ABS นะครับก็ 112,290 บาท(ยังไม่รวม vat และค่าบริการ) ส่่วน Break booster ก็ 44,555 บาท ถ้าอู่นอกที่รับซ่อม Hybrid บางตัวก็ซ่อมได้บางตัวก็ซ่อมไม่ได้ ส่วนใหญ่ตัวแพงๆมักซ่อมไม่ได้ แถมซ่อมแล้วก็ใช้ไม่ทนต้องกลับมาแก้ใหม่เรื่อยๆ เอาง่ายๆนี้แค่เทพองค์แรกนะครับยังสนุกขนาดนี้
ปล.ไม่ต้องไปพูดถึงรถ Hybrid เบนซ์นะครับ อันนี้แพงนรกแตกเลยค่าซ่อม ราคารถเบนซ์ Hybrid มือสองมันถึงตกกราวรูด ใครซื้อมือสองไปใช้ถ้าไม่รู้เรื่องระบบ Hybrid ดีจริงๆ คือรู้ว่าอนาคตต้องจ่ายเท่าไร ต้องสำรองเงินจ่ายไว้เท่าไร เพราะพวกนี้บทจะเสียมันก็เสียเลยครับ ไม่มีอาการเตือนอะไรล่วงหน้า
เอาพื้นฐานระบบ Hybrid คนเล่นเค้าจะรู้กันดีว่าระบบ Hybrid จะมีอะไหล์ 4 เทพ ที่มันราคาแพง เสียง่าย(เพราะการออกแบบเหมือนจะจงใจ เพื่อขายอะไหล์) ในที่นี้ขอพูดถึงระบบไฮบริทของพี่โตก่อนนะ เพราะนิยมสุด
ที่นี้ปัญหามันคือว่า หาช่างซ่อมเฉพาะทางยากมาก โดยเฉพาะตจว. เอาง่ายๆขนาดแค่เปลี่ยนน้ำมันเบรก อู่ข้างนอกมักทำกันไม่ได้ไม่เป็น เพราะมันต้องรู้จักเข้า Service mode ของรถก่อน ไม่พอยังต้องไล่ลมออกระบบให้หมดจริงๆอีก ผลก็คือส่วนใหญ่คนตจว.มันต้องไปจบที่ศูนย์บริการทั้งนั้น แล้วมันเกิดอะไรขึ้นเหรอ ศูนย์เค้าไม่ซ่อมครับ เค้าเปลี่ยนอะไหล์ใหม่ลูกเดียว ราคาก็ระดับเผากระท่อมกันเลยที่เดียว ยกตัวอย่างล่าสุด อย่าง Yaris Hybrid ถ้า 1 ในองค์เทพคือระบบเบรก(เทพองค์นี้จะเป็นแฝดครับ จะมีอยู่ 2 ตัว คือ Actcuator(เรียกสั้นๆกันว่าปั้ม ABS) และ Break booster) ปั้มพวกนี้อายุการใช้งานมันสั้น(ขึ้นกับว่าจะเหยียบเบรกกันมากขนาดไหน ถ้าวิ่งในกทม. 4 ปีพังก็มีกันเยอะ โดยเฉลี่ยก็ไม่เกิน 7-8 ปีก็พัง) โดยราคาอะไล์ในศูนย์ถ้าของ Yaris Hybrid เอาปั้ม ABS นะครับก็ 112,290 บาท(ยังไม่รวม vat และค่าบริการ) ส่่วน Break booster ก็ 44,555 บาท ถ้าอู่นอกที่รับซ่อม Hybrid บางตัวก็ซ่อมได้บางตัวก็ซ่อมไม่ได้ ส่วนใหญ่ตัวแพงๆมักซ่อมไม่ได้ แถมซ่อมแล้วก็ใช้ไม่ทนต้องกลับมาแก้ใหม่เรื่อยๆ เอาง่ายๆนี้แค่เทพองค์แรกนะครับยังสนุกขนาดนี้
ปล.ไม่ต้องไปพูดถึงรถ Hybrid เบนซ์นะครับ อันนี้แพงนรกแตกเลยค่าซ่อม ราคารถเบนซ์ Hybrid มือสองมันถึงตกกราวรูด ใครซื้อมือสองไปใช้ถ้าไม่รู้เรื่องระบบ Hybrid ดีจริงๆ คือรู้ว่าอนาคตต้องจ่ายเท่าไร ต้องสำรองเงินจ่ายไว้เท่าไร เพราะพวกนี้บทจะเสียมันก็เสียเลยครับ ไม่มีอาการเตือนอะไรล่วงหน้า
ค่าดูแลEV.ถูกกว่า
นี้คือคนใช้จริง รู้จริง
แบตเตอรี่ ยาริส ไฮบริด ใช้ 9-10 ปี..ราคาเท่าไร ครับอยากรู้
ปั้ม ABS ถ้าเป็น toyota ไม่ต้องห่วงเลย ครับ ซ่อมได้ แถมมีเครือ่งมือ reset ถ้าเป็น toyota ไม่ต้องห่วงเรื่อง Hybrid มากนัก อะไหล่ในตลาด มือหนึ่ง มือสองเพียบครับ
@@KimKim-xp4fg รู้จริง อ่านแล้วรู้สึกเลย ขอบคุณครับที่มาแฉ ส่วนผม เคยสนใจไฮบริดตอนออกขายใหม่ๆ ยี่ห้อตลาดรถตลาด เลยคิดว่าไว้ใจได้ แต่ๆๆๆ พอจะซื้อ มีราคาผู้บริหาร ลด 1 แสนทันที ผู้บริหารไม่มีเงินซื้อหรอก ส่วนผมไม่ใช่ผู้บริหาร ดันจะซื้อ เลยถอยเลย ไม่เอา ใช้รถน้ำมันเก่าๆต่อไป ทุกวันนีสบายใจครับ ใช้ ev ทุกคนจ่ายเท่ากัน แถมขับสนุกกว่า ในราคาต่ำกว่าครึ่ง ของรถที่เคยจะซื้อเมื่อสิบกว่าปีก่อน
ผมก็ใช้ ev นะ ทุกวันนี้ก็ไม่เคยใช้ตู้ชาร์จที่ปั๊มน้ำมัน เพราะตั้งแต่ซื้อมาชาร์จไฟที่บ้านตลอด ใช้ใน กทม+ปริมณฑล ไม่ต้องง้อตู้ชาร์จอยู่แล้วครับ
ขอแชร์บ้าง ใช้รถน้ำมันอยู่ ไม่เคยมองไฮบริดเลย คันต่อไป EV เคยเช่าขับไปตจว. 2 วัน (รถUS) รับได้กับการเข้าชาร์จไฟ (ไปแบบไม่ต้องวางแผนอะไร) ข้อดีคือ 1.ไม่เสียเวลาดูแลเครื่องยนต์ เข้าศูนย์ตามกำหนดเวลา เปลี่ยนถ่ายของเหลวต่างๆ ยังไม่รวมถึงการต้องซ่อมแซมชิ้นส่วนที่สึกหรอเมื่อถึงเวลา 2.อัตราเร่งที่โคตรฉับไวมากๆ หนีพวกขับรถแช่ขวา ไปได้ไวๆ ส่วนข้อเสียให้เท่าที่รู้ ศูนย์น้อย รออะไหล่นาน หากเกิดอุบัติเหตุรุนแรง (อันนี้รับได้)
ขอบคุณสำหรับการทำคลิปดีๆ ออกมาให้ชมครับ
ถ้าไม่นับเรื่องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เรื่องชิ้นส่วนสึกหรอต่างๆ ถึงเวลารถไฟฟ้าก็ต้องเปลี่ยนครับ ระบบช่วงล่าง ชุดขับเคลื่อน ใช้หลักการเดียวกัน เพราะไฮบริดก็ใช้มอเตอร์ไฟห้าขับเคลื่อน
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ยังพัฒนาได้อีกเยอะมาก มอเตอร์ก็พัฒนา การชาร์จเร็วก็พัฒนาเร็วทั้งนั้น มันไม่ต่างจากเครื่องยนต์ที่พัฒนามา100ปีแล้ว ไฟฟ้ายังพัฒนาได้อีกเยอะ
@@gdmoteen รถTesla model3 มีคนใช้ในประเทศไทย ขับไปสองแสนกว่ากิโลเมตร ยังไม่ต้องเปลี่ยนอะไรอย่างที่คุณว่าเลย ^^
เช่นกัน
@@foncecamustang3373 อันนี้ผมก็เห็นด้วยอยู่นะครับถ้าเป็นรถฝั่งยุโรปหรือเมกา แต่ถ้าหากจะซื้อเป็นรถจีน ผมว่าเรายอมเจ็บตัวซื้อ รถไฮบริดน่าจะดีกว่าครับรถจีนก็อย่างที่เป็นข่าวครับจอดตากฝนหน้าบ้าน 20 นาทีรถพัง ค่าซ่อม1.1ล้านบาท ประกันไม่รับเคลมนี่ถ้าหากเป็นข่าวผมว่าเจ้าของรถคงมีนั่งร้องไห้อ่ะครับเสียดายตังค์
ค่าซ่อมแพงครับ จากเสียงคนใช้จริง
ใช่ ซ่อมสองระบบทั้งไฟฟ้าและเครื่องยนต์มันจะไม่แพงได้ไง แถมจะดีแค่ช่วงนี้ล่ะอีกไม่กี่ปีค่ายอื่นก็ไปไฟฟ้าล้วนกันหมดตู้ชาร์จก็คงขึ้นเป็นดอกเห็ดเองล่ะ
เห็นด้วย
แทบไม่ต้องซ่อมอะไรเลยนอกจากเปลี้ยนแบต2000กว่าบาท คนใช้จริงจ่ะ
@@ajoefamily อย่าไปพูดแบบนั้นครับผม เดี๋ยวไอ้พวกติ่งรถไฟฟ้า เขาจะว่า คุณมีสิทธิ์อะไรไปห้ามคนโน้นคนนี้ซื้อใช้ (ผมโดนมาแล้ว งงฉิบ)
@@Tanawat-tssจริง ผมก็ใช้รถไฟฟ้านะ เเต่เห็นไอ้เม้นท์ที่ออกตัวเเรงไปนั่งไล่เถียงกะชาวบ้านแถมใช้ถ้อยคำแซะแดกดันคนอื่น ผมว่าดูเขาคงคิดว่าเขาเจ๋งมากอ่ะ เหมือนเด็กๆไปนั่งไล่เถียงกับคนอื่นพยายามจะอวดของเล่นไรเงี้ยะ5555
สิ่งสำคัญต้องคำนึง นอกจากประหยัดพลังงานมันคือบริการหลังการขาย การเข้าศูนย์เพื่อเช็ครถทุกระยะ คือกินยาว
..ตราบใดที่ยังเป็นเครื่องสันดาปอยู่ อะไหล่และชิ้นส่วนก็ยังเยอะอยู่ และยังต้องเช็คทั้ง 2 ระบบ คือไฟฟ้ากับน้ำมัน .ค่าบริการก็แพงขึ้น
.และ.อย่าลืมว่ารถ 2 ระบบ น้ำมันกับแบตตัวเล็กๆ เมื่อใช้งานมากมันก็ต้องพังไวเป็นธรรมดา แล้วระยะยาวมันจะประหยัดจริงหรือ..
..ความจริง คนเรายังไม่คุ้นกับการใช้รถไฟฟ้า ..ยังไงรถไฟฟ้าก็ประหยัดกว่า เพียงแต่ต้องปรับตัววางแผนการเดินทางให้ดี .
..เพราะคุยกับคนที่ใช้รถไฟฟ้าจริงๆแล้ว ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรมากเลย..
ไฮบริด เก่าจะก็วุ่นแหละ อะไหล่สุดโหด มีสี่ส่วนที่แพงคือ แบต อินเวอร์เตอ ABS และ คอมแอร์ แล้วยัง เครื่องยนต์ที่จะเสียอีก ในห้องเครื่องอัดแน่น ไดสตาร์ทเสียแกะไม่ออกต้องยายแม่อย่างเดียว ไม่น่าเล่น ไปรถไฟฟ้าดีกว่า ใช้ไปคุ้ม พวกไฮบริดขายต่อก็ไม่ได้ราคาดูแคมรี่สิ ซื้อมาล้านแปดขาย ขับไปหกเจ็ดปี เต้นรับ ห้าแสน หายไป ล้านสาม พอดีกับรถไฟฟ้าคันหรูๆหนึ่งคัน แต่รถไฟฟ้า ประหยัดน้ำมันไปแล้ว แถมค่าบำรุงรักษาต่ำกว่าตลอดทาง
ตอนนี้รถไฮบริดมือสองราคาร่วงลงมาก ซื้อถูก แต่ซ่อมทีก็มีจุกโดนทั้งแบต โดนทั้งเครื่อง😂
เมื่อไรประเทศเราจะมีขนส่งสาธารณะดีๆ ที่เข้าถึงได้ง่าย จะได้ไม่ต้องมานั่งเถียงเรื่องรถส่วนบุคคลกันมากนัก
โตต้าพรีอุซแม่ ตั้งแต่ 2014 ครบ10ปีพอดี เปลี่ยนแบตตอนปี 2021(warranty) + ซ่อมนิดหน่อย 20,000กว่าบาท ก็ขับได้ 16-18 กิโลลิตรอยู่นะ
ถ้าทำรถไฟฟ้าเต็มระบบ ได้ดีมากๆ แล้วจะมาทำรถ Hybrid ไม่น่าใช่เรื่องยากอะไร แต่ถ้าทำรถ Hybrid แต่อยากทำรถไฟฟ้าเต็มตัว อันนี้ยากครับ และจะไม่ได้เสถียรพอ เทคแบตก็ไม่เท่ากัน แบบที่จีนทำซ่อมง่ายกว่า แยกระบบเครื่องออกจากมอเตอร์ เพราะตัวเองทำมอเตอร์ได้ดีอยู๋แล้ว ซ่อมแยกกันทำได้ง่ายกว่า ถ้าเอาไปรวมแบบ Toyota ซ่อมทีร้องเสียงหลง 4-5 ปีก็พังกันเต็มไปหมด
ยอดขายนำห่างเพราะอะไร ก็เพราะหลายๆค่ายมันยกเลิกเครื่องสันดาบล้วนๆในบางรุ่นไปแล้ว คนมันก็ถูกบังคับไป Hybrid ไง ก็แค่นั้น เอาง่ายๆ HRV รุ่นก่อนมีแต่เครื่อง 1.8 ยอดขายเดือนนึง 2-3000 คัน ปัจจุบันแต่ HEV ล้วนๆ ก็ยอดเดือนนึง 1-2000 คัน ก็แค่ลูกค้าเดิมที่ Royalty ในแบรนด์ ในรุ่นนั้นๆถูกบังคับให้มา Hybrid แบบเลือกไม่ได้แค่นั้นเอง
ไฮบริดถึงคราวซ่อม เจอทั้งแบต เจอทั้งเครื่องยนต์ แพงคูณ 2 เลยนะ ใช้กันก่อนแล้วเจอกันช่างรออยู่
รถไฟฟ้าไม่ต้องรอแบตพังก็เปลี่ยนรถใช่ป่าว
55555ระวังน้ำตาตกเหมือนทุกคนทร่ใช้อีวีนะครับ
@@user-tx3tk1pe1jใช้รถน้ำมันไม่น้ำตาตกเหรอ แต่ที่แน่ๆตกทุกครั้งตอนเข้าปั๊มนะ555555
ค่าซ่อม hybrid ก็แพงเหมือนกันแหละจ้า ราคารถก็บวกราคาแพงเอากำไรเกินจริงไปเยอะมากเมื่อเทียบกับ option ที่ได้รับ
หลายคนบอกว่ารถน้ำมันขายต่อยังได้ราคาดี ผมซื้อรถมา840000ใช้ไปอีก8ปียังนึกไม่ออกว่าตอนขายจะได้เท่าไหร่สมมุติขายที่50%420000บาท ใคร่จะมาซื้อในเมื่อรถไฟฟ้าใหม่เอี่ยมราคาแค่490000บาท เค้าจะมาซื้อรถมือสองอายุ8ปีทำมัย
ไฮบริด ชิ้นส่วนเยอะ อะไหล่เยอะมาก ซ่อมบำรุงแพง จุกจิก ราคาแพง นี่หรือประหยัดคุ้มค่าที่ว่า ไฮบริดอย่างพรีอุตขายแพงและขายมานาน ในเอเชียขายได้เท่าไหร่ กี่ปีก็เข็นไม่ขึ้น แล้วจะมาบอกเหนือชั้นที่ผ่านมารถญี่ปุ่นขายอะไหล่ แถมตั้งราคาไว้แพงมากในไทย รถกิ๊กก๊อกราคา 6-7 แสน รถดีๆไปขายอเมริกา ยุโรปแถมราคาถูก แต่เอารถกระจอกๆคุณภาพงั้นๆตั้งราคาแพงๆมาหลอกขายคนเอเชีย ถามว่าจริงใจขนาดไหน
ค่าซ่อมไฮบริดไม่แพงนี่ไม่น่าใช่ ยิ่งถ้าเป็นไฮบริดญี่ปุ่นหรือยุโรปนี่แรงเอาเรื่อง ส่วยไฮบริดจีนต้องรอพิสูจน์ว่าเป็นยังไง
อันนี้คือใช้กับตัวเองใช่ไหมครับ ผมใช้พรีอุส ใช้มาเปลี่ยนแบทก่อนหมดรับประกันไปรอบเดียวเองครับ ดูแลรักษาไม่ได้มีอะไรต่างจากรถทั่วไปเลย คิดกันไปเองทั้งนั้น
@@gunkongthip4458 ผมก็เคยใช้พรีอุสครับ ขายไปแล้ว อะหลั่ยแท้ศูนย์นี่แพงทุกอย่าง ถ้าได้เปลี่ยนอะหลั่ยศูนย์นี่มีสะดุ้ง
อวยจีนไม่ไหว 555555555555
@@gunkongthip4458 เค้าน่าจะไปเจอช่างหิวมั้งครับ บวกกับไม่ศึกษาอะไรเลยฟังจากที่เขาพูดมาก็เลยมีอคติอยู่ในตัว😂😂😂😂😂😂
เหตุผลที่รถไฮบริดยอดขายเพิ่มขึ้นในยุโรปเพราะในหลายประเทศ แทบจะไม่ขายรถน้ำมันล้วนแล้ว ถ้าขายราคาก็จะแพงกว่ารถไฮบริดในรถรุ่นเดียวกัน ยกตัวอย่าง BMW 320D M sport จะแพงกว่า 330e Msport พอสมควร บางประเทศรถยนต์หลายยี่ห้อหลายรุ่นยกเลิกจำหน่อยรถยนต์น้ำมันล้วนทั้งเบนซินและดีเซลไปแล้ว
ชั่วโมงนี้ ต้อง ER-EV หรือ PHEV ที่สามารถวิ่งไฟฟ้าล้วนได้ 150 กม. ขึ้นไป เท่านั้นครับ
ผมก็รอ ER-EV ที่จะเปิดตัว ในประเทศไทย ปลายปี 2024 นี้อยู่เหมือนกันครับ
ราคามือสองร่วงกว่าเครื่องยนต์เพียว แต่มันก็ประหยัดกว่าสันดาบล้วน ส่วนตัวคิดว่าถ้าถ้าจะซื้อ EV ควรจะเป็นคันที่ 2 หรือ 3 จะดีกว่า
ปล. ยามยากเครื่องสันดาบยี่ห้อตลาดเอาเข้าไฟแนนส์มาหมุนเงินง่ายผ่านง่ายและยังมีรถขับ(ยืมคนยืมยากยืมจากรถนี่แหล่ะ) พอมีเงินก็เอาไปไถ่เขาออกมา จากประสบการณ์ต้องใช้เงินนั่งคิดหาทางเหมือนมีอะไรบางอย่างให้หันไปหารถประมาณว่า "ผมอยู่นี่ไงผมช่วยได้พาผมไปไฟแนนส์สิ"😢😢😢😢 โคตรรักรถเลยตอนนี้เพื่อนแท้ยามยาก😅😅😅😅😅😅
ผมว่า คนบางกลุ่ม ตรรกะ ตลกนะ รถคือ ยานพาหนะ ที่นำพาเราไปในที่ที่เราอยากไปเพื่อความสะดวกสบาย แต่คนไทย บางกลุ่ม กลับมองว่า ซื้อมาแล้ว มือสองราคาจะเหลือเท่าไหร่จะ ตกหรือไม่ตก มันโครตตลก ไม่มี ที่ไหนเค้ามาคิดเรื่องไร้สาระแบบนี้กัน หรอก สิ่ง แรกที่ควรจะคิดคือ ก่อนจะซื้อมีรายได้มากพอหรือยัง มีพื้นฐานที่มั่นคงพอมั้ย หรือว่ามีเงินปันผลจากอะไรมาผ่อนรถคันนี้ให้เราหรือป่าว เพราะมันเป็นแค่ของใช้ที่ต้องเสื่อมสภาพลงไปทุก วัน ไม่ใช่ผ่อนเอามาใช้ เพื่อที่จะหวังว่า สักวันนึงคงได้ขายคืนได้ราคาที่ดีแปลว่า คุณไม่ได้อยากจะใช้รถจริงๆ ถ้าคนใช้งานจริงๆ อย่างพวกรถ หรูแพงๆ เปิดตัวที่ 4-5 ล้าน ผ่านไปไม่กี่ปีเหลือไม่ถึง 2.5 ล้านราคาหายไปเกือบครึ่ง เค้ายังไม่ซีเรียสกันเลย เพราะ ก่อนตัดสินใจซื้อสำหรับคนที่มี สมองคิดแล้วไม่ว่าจะรถอะไรก็แล้วแต่ มูลค่ามันจะลดลง แน่นอน ถ้าคุณชอบก็แค่ซื้อแต่ ถ้า ไม่ชอบก็ ไม่ต้องไปซื้อมัน ถ้ากรณีที่เป็นผม เงินเดือน 3-4 แสน ผมก็ยังไม่ซื้อรถยนต์ ผมเอาไปซื้อหุ้นตปท และสะสมมันเข้าไปเรื่อยๆ จนสักวันนึงมันมีปันผลเพียงพอที่จะผ่อนรถได้ แล้วค่อยเอาไปซื้อ เพราะถ้าต้องเลือกระหว่างผ่อนรถที่เรา เป็นหนี้ กับ เอาเงินที่จะผ่อนรถไปลงทุน ศึกษาสิ่งที่มันมีประโยชน์ แล้วเอาเงินที่ผ่อนรถไป เติมพอท สัก 5 ปี ในมูลค่าเท่ากัน เงินที่ ลงกับพอทหุ้นที่ดี มันจะโตเป็นปันผลและดอกเบี้ย = รายได้ของเรา แต่ถ้าผ่อนรถ เราจะได้ของที่เสื่อมราคาลงไปทุกๆ ปี ทำไมเราต้องคิดว่ารถรุ่นอะไร ซื้อมาเท่าไหร่จะขายได้เท่าไหร่ ทำไมเราถึงไม่คิดว่า เพราะอะไรทำไมรถที่เราซื้อเราต้องลำบากหาเงินมาผ่อนมันจำเป็นจริงๆหรือป่าว และกลไกลของราคาตลาดมันคืออะไร เราจะวิ่งตาม กลไกลทำไม ในเมื่อประเทศเราแม่งซื้อรถแพงกว่าชาวบ้านเค้าหลายขุม ผมไม่ได้ว่าคุณนะ แต่แค่ ผมมองในมุมมองของผม ผมมองว่าคนไทยยังติดกับดัก ของตลาดอีกเยอะเลย
@@jirapongzazzroxxunu3106 ความคิดในแง่ของคุณก็ไม่ผิด แต่บางครั้งผมว่าบางครั้ง บางคน ในตอนที่ซื้อเขาก็มีพร้อมหลายๆอย่างทั้งเรื่องเงิน เรื่องความชอบ แต่บางครั้งวิกฤตเข้ามาในชีวิตแม้จะตั้งรับไว้หมดทุกทางแต่ก็อาจจะพลาดกันได้เพราะคงไม่มีใครสมบูรณ์แบบในโลก และต้นทุนชีวิตแต่ละคนก็อาจจะมีไม่เท่ากันเพราะระบบความคิดมันจะให้เก่งหรือฉลาดเท่ากันหมดก็คงเป็นไปไม่ได้ ส่วนตัวผมไม่ได้เข้าไปนั่งดูชีวิตพวกเขาตลอดเวลาจึงไม่รู้ว่าช่วงนี้ชีวิตเขาลงทุนอะไรไปมหาศาลผลตอบแทนกลับมามากน้อยเท่าไหร่ หรือกำลังทำธุรกิจอะไรอยู่แล้ววันหนึ่งที่เขาล้มลงมาเขาล้มเพราะอะไร พิษเศรษฐกิจหรือว่าโดนโกง หรือเดินเกมส์พลาดผมก็ไม่ได้รู้อะไรกับเขาเพราะมันชีวิตเขา ผมก็ไม่รู้จะไปยุ่งเรื่องของเขาทำไม แต่ส่วนตัวผม ผมซื้อรถไม่ใช่เพราะผมรักรถอะไรขนาดนั้น(เพราะรู้ว่าสักวันในอนาคตมันก็ต้องพัง และก็เสื่อมไปเรื่อยๆเลยรู้สึกเฉยๆกับรถแม้จะซื้อมันมาก็ไม่ได้รู้สึกว่าหวงหรือรักมากขนาดนั้น พังก็ซ่อม ซ่อมมากเดินไปก็ขายทิ้งไปซะ ความเห็นส่วนตัวนะ) ผมแค่ซื้อมาใช้งานมันมีหน้าที่แค่ให้ผมใช้งาน และถ้าถึงช่วงเวลาหนึ่งผมก็จะปล่อยมันออกเพื่อจะเอามาซื้อคันใหม่ที่เทคโนโลนีดีขึ้นกว่ารุ่นเก่าตกยุคหรืออาจจะไม่ซื้อถ้าไม่เดือดร้อน ก็เอาเก็บไว้แต่ก็นั่นแหล่ะแต่บางครั้งก็คนเราจะมีช่วงต้องใช้เงินมากกระทันหันแม้จะเตรียมความพร้อมไว้แล้วก็ตาม ผมก็ไม่ได้ว่าคุณเรื่องแนวคิดของคุณนะ แต่ส่วนตัวผมคือผมไม่รู้ว่าคนอื่นที่ซื้อรถเขาซื้อหรือขายเพราะอะไรเพราะมันไม่ใช่เรื่องของผม มันเป็นเรื่องของพวกเขาเท่านั้นเอง
@@jirapongzazzroxxunu3106ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ให้คนอื่นอ่านยาวขนาดนี้หรอก มันไม่คิดแบบเราก็คือไม่คิดแบบเรา แค่นั้น เอาความรู้สึกมาจับกับเรื่องแบบนี้เหนื่อยเปล่า
@@MrJamesP ก็จริง
Toyota Prius เจนใหม่มันสวยจริงๆนะ โดยเฉพาะตัว Prime
รถไฮบริดถ้าเก่ามาจะรู้สึกต้องซ่อมสองระบบทีนีละ"ร้อง"
@@user-bs8pz1hg6g รถไฮบรีด ไม่ใช่อย่างที่คุณรู้สึกครับแต่ถ้าเป็นรุ่นเก่าเก่าไม่แน่แต่รุ่นใหม่ทุกวันนี้มันเป็นปลั๊กอินครับเพราะการทำงานมันต่างจากรุ่นก่อนมากและแบตเตอรี่เค้าก็พัฒนาพัฒนาขึ้นไปได้เยอะกว่าเดิมอันนี้แชร์จากประสบการณ์จริงๆของผมเลยเพราะผมใช้ hybrid อยู่ครับการเสื่อมโทรมของเครื่องยนต์น้ำมันและเครื่องยนต์ไฟฟ้ามันคนละส่วนกันครับและรถรุ่นใหม่ใหม่มาในส่วนเครื่องยนต์แทบไม่ได้แตะต้องเลย มีเพียงอย่างเดียวแค่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเครื่องยนต์น้ำมันเท่านั้นใส่กรองอากาศกรองแอร์กรองน้ำมันเครื่องนี่แหละครับสิ่งหลักๆที่เราต้องเมนเทนแนนท์มันแต่จะให้บอกสรรพคุณจริงๆก็คงอธิบายยาวยืดเลยครับแต่รวบรัดง่ายง่ายคือการทำงานมันไม่ได้ทำงานพร้อมกันไฮบริด ปลั๊กอินมันจะใช้งานแบตเตอรี่จนกว่าแบตเตอรี่จะหมดมันถึงจะรันเครื่องยนต์เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ในตัวของมันเองในกรณีที่เราวิ่งไม่เกินระบบที่มันกำหนดไว้แต่ถ้าหากเราใช้งานขับในความเร็วที่สูงขึ้นมามันก็จะไม่ใช้งานเครื่องยนต์ไฮบริดมันจะใช้งานเครื่องยนต์ น้ำมันเต็มที่ 100% แต่ถ้าหากถึงขั้นทำเครื่องยนต์น้ำมันน้ำมันพังได้ก็คงต้องขับราวๆ 180 190+
@@user-bs8pz1hg6g หรือตอบง่ายง่ายคือเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องยนต์ไม่ได้ทำงานพร้อมกันครับอาจจะมีบ้างบางโอกาสที่มันทำงานพร้อมกันเพราะ การเลือกโหมดการขับของเราเอง
รถไฟฟ้ามันเพิ่งเริ่มต้นออกสตาร์ท แบตเตอรี่ถูกลงเรื่อยๆ และแบตเจนเรชั่นที่2กำลังจะออกมาในปลายปีนี้ คล้ายมือถือที่คุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆทุกๆปี มองไม่เห็นทางเลยที่รถสันดาปจะมาสู้รถไฟฟ้าได้
ปีนี้ถึงรอบที่ต้องเปลี่ยนรถ ก็รอแบต BYDเจน2 ที่มีประสิทธิ์ภาพสูงขึ้น ถ้าเข้ามาก็จะซื้อแน่นอน
ชอบแอดมินนะ นำเสนอได้รอบด้านดี 😊
ท้ายสุดไม่ว่าจะ HEV BEV EV EE 2E ABC AAA หรือ เติมน้ำมัน ยางรถยนต์ต้องเปลี่ยนตามระยะทางนะ
PHEV ใช่สุด สำหรับความเป็นกลางของไฟฟ้าและไฮบริด อยากจะกี่กิโลเมตร/ลิตรก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ยืดหยุ่นความประหยัดแบบถัวๆกันไป
ลองขับละ รถไฮบริดที่ว่าขายดี อัตราเร่งไม่ได้ ความประหยัดทางไกล แทบไม่ต่างกับรถน้ำมันปกติ ขับไม่สนุกเลย สู้ ev ไม่ได้ ถ้าจะจ่าย 8 แสนกว่า ไป ซื้อ ev ที่กำลังลดแลกแจกแถมดีกว่า
เห็นด้วยเห็นด้วยจริงแต่เบื่อเวลาชาร์จ😂
@@tanapon144 นี่ล่ะที่ผมทบทวนกลับมาไฮบริจ
@@user-fq5gq3lu4w รอ bye sellion 6 dmi เป็นไฮบริดของบีวายดีน่าจะตอบโจทย์
@@chandhaket ราคา 800,000 น่าซื้ออยู่ถ้า 1,000,000 กว่า 1.2,1.4 หรือ 2,000,000 ต้องคิดหน่อยเพราะว่าราคามือสองร่วงเยอะแทบไม่ต้องเปลี่ยนรถเลยชอบคันไหนตัดสินใจเอาคันนั้นทีเดียว
@@tanapon144 90% ของการใช้ทั่วไป น่าจะชาร์จที่บ้านนะ ผมเดินทางบ่อย 60% ชาร์จปั๊ม ไม่เบื่อเลย สบายๆ พอดีชอบคำนวณ จะกะเวลาชาร์จได้เป๊ะมาก เดี๋ยวนี้ที่ชาร์จก็มีทุกอำเภอ สบายๆ
ผมเลือกที่จะใช้รถไฟฟ้าไปทำงานประจำวัน แต่มีรถน้ำมันคันเล็กๆอีกคันไว้เที่ยวในวันหยุดเพื่อความสะดวกครับ
ไฮบริด ก็นึกถึงสมัยที่ใช้แก๊ส lpg มีแต่เรื่องปวดหัว ปวดกระเป๋า
ใช้ CAMRY ปี 2017 วิ่งความเร็ว 110กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราสิ้นเปลือง ยังทำได้ ที่ 19กิโล/ลิตร❤❤❤
แล้วไง?
ไฟฟ้าคือคำตอบ เพราะระยะทางวิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ชาจน์ไวขึ้นเรื่อยๆ ราคาถูกลงเรื่อยๆ
ผมใช้ plug-in hybrid มา 4 ปีกว่า
ใช้ดี ประหยัด เดินทางไกลสะดวก วิ่งในเมือง ประหยัด ใช้แล้วชอบมาก
ใครที่ตั้งแง่กับ ev สุดท้ายคุณก็ต้องใช้ ev เปรียบรถสันดาปเป็นโทรศัพท์ปุ่มกด ev เป็นสมาร์ทโฟน สุดท้ายแก่แค่ไหนก็ต้องใช้สมาร์ทโฟนในที่สุด
รอรุ่นตลาดวายอยู่ครับ
ต่อไปไทยแลนด์จะใช้รถไฟฟ้าEVเยอะตามนโยบายรัฐ โรงงานรถไฟฟ้าเข้ามาแล้ว 5 แบนด์ ส่วนรถสันดาปจะปิดไปเรื่อยๆ
ถูกต้องแล้ว คร้าบ...มีโงงานผลิต 5 ยี่ห้อแล้ว..
เดี๋ยวเจอค่าบำรุงรักษาไปกรี๊ดแน่
ขอให้โชคดี รอซื้อรถจีนดีกว่า ยังไง ระยะยาว ราคาแบตจีนได้อานิสงค์ที่ดีกว่า เทคไปไกลกว่ามาก รอๆๆๆ ครับ
ใครที่คิดว่าไฮบริดคือทางออกก็ลองไปดูtoyota prius ทั้งค่าบำรุงรักษาและค่าแบตเตอรี่แพงกว่ารถไฟฟ้าหรือรถน้ำมันล้วนเพราะต้องดูแลทั้งเครื่องและระบบแบตเตอรี่สุดท้ายไม่ประหยัดอะไรเลย
อย่าลืมว่าถ้ามีระบบอะไรที่มันเยอะ ซับซ้อนมากมาย มันคือค่าเมนเทอร์แน๊นที่รออยู่ คนรวยคงไม่เป็นปัญหา แต่พวกพอมีพอกินต้องคิดให้หนักครับ..
แล้วคิดว่ารถไฟฟ้าไม่มีค่าเมนเทนแนนท์รอหรือครับ ก็ลองเปิด Google ศึกษาดูว่าอะไหล่รถไฮบริดและอะไหล่EV อันไหนจะแพงกว่ากันไม่ต้องไปฟังใครทั้งสิ้นเปรียบเทียบจาก Google ได้เลยข้อดีและ ข้อเสียของรถแต่ละแบบ
จิตวิทยาสกัด BEV ในไทยถือว่าประสบความสำเร็จ สกัดทั้งเรื่องข่าวค่าซ่อมแพงซึ่งจำนวนคนซ่อมแบบนั้นมีไม่มาก ค่าประกันที่ค่ายประกันพร้อมใจออกมาขย่มเพราะไม่สามารถซ่อมอู่นอกเพื่อกดราคาได้เหมือนเดิม แถมการโหมว่าไฮบริดเป็นทางออก หากสังเกตุจะเห็นว่าราคาน้ำมันหยุดการขึ้นแบบกระฉากและค่อยข้างราคาคงที่ไม่เกิน 40 บาทต่อลิตร เพราะ USA ต้องการสกัด BEV จีน จะปล่อยให้ ICE ตายไปไม่ได้
เพราะมีคนขาดการศึกษาแบบคุณไง หารู้ไม่ประกันรถEv ทำไมต้องลดทุนประกันลงทุกปี แต่ราคาประกันไม่ลด มันเพราะอะไร ไม่มช่เพร่ะแบตเหรอ?โถ
@@Tokeyin1 การดูถูกคนอื่นว่าขาดการศึกษา เป็นคนไร้ประโยชน์ที่จะอธิบาย เพราะเรามีคุณธรรมที่ต่างกัน
ใช่ครับ..เลือกให้คุ้มค่า...อย่าใช้คำว่า...รู้งี้
555 เขารอ แบตดีขึ้น(รุ่นใหม่) charge เร็วขึ้น โดยราคาไม่สูง.....รถ2ระบบที่ต้องดูแลมากกว่า น้ำมัน และ EV...เมื่อนั้นก็เอวัง(มันก็จะคล้ายโทรศัพท์บ้านที่หายไป หลังมือถือดีพอ และราคาหลากหลาย)
จริงครับ เอาแค่ชาร์ตเร็ว 5c 6c ก็ไม่ต้องรอแบตใหญ่ที่วิ่ง 700 ต่อชาร์จก็ได้ ชาร์จ สิบนาทีได้สามร้อยโล ก็วิ่งต่อได้เลยไม่ต้องรอชาร์จเต็ม แต่อายุแบตอาจจะสั้นลหน่อยง แต่คิดว่าคงไม่วิ่งต่างจังหวัดบ่อยๆ จนต้องชาร์จเร็วบ่อยๆ ธรรมดาก็ ชาร์จ AC สองวันสามวันชาร์จครั้ง อยู่แล้ว
ตามสบายคับ คนละทาง ทางอีวีก็ไปอีวี 😅😊
Prius 2.0 dynamic แรงจัด เช่าขับที่ญี่ปุ่น6วัน มีข้อเสียเดียวคือ ท้ายรถเก็บเป๋าเดินทาง29“ ได้2ใบเท่านั้น
ไฮบริดมีจุดจบแบบรถน้ำมันในไม่ช้าแน่ๆ เจ้ง ตลอดชาติรถน้ำมัน
ดูยอดขายรึยัง รถEVไม่ได้ครึ่งของรถน้ำมัน รถน้ำมันไม่มีวันหมดตราบใดที่โลกยังมีน้ำมันให้ใช้
@@user-jj6du9sn7xไม่น่าใช่ประเทศในโลกที่หนึ่งสั่งห้ามผลิตรถสันดาปแล้ว
ชอบอันใหนก็ซื้อครับ
เคยใช้ไฮบริดแล้ว ของแบรนด์ระดับท้อปเลย ต้องบอกว่าระยะยาวค่าซ่อมโคตรแพง ประหยัดไหมคือไม่ได้มากมายอะไร ตอนนี้ใช้ไฟฟ้ามาได้ 2 ปีละ บอกเลยว่าดีกว่าไฮบริดมากครับ
พรีอุส ถ้าขับไม่เกินร้อย น้ำมันจะยุบยากเลย แต่ถ้า120-140 จะเริ่มหายไปทีละขีดอย่างไว ถ้าจะขายเกินล้านก็อาจจะขายไม่ค่อยออกแบบ crz เพราะมันเล็กไป
เมื่อก่อนใช้ไฮบริดแต่ขายมาใช้อีวีแล้วใช้ดีต่างกันเลยอะ
เมื่อไหร่ที่รถให้บิดทำเทคโนโลยีที่ประหยัดน้ำมันได้สาม 10 กิโลเมตรต่อลิตรไม่จำเป็นต้องใช้รถไฟฟ้าเลยครับตอนนี้ก็ได้ประมาณ 20 ถึง 25 กิโลลิสต์แล้ว
EV คือของแท้ ไฮบริดมันเอามาแก้ขัดมันไม่สุดสักทาง
การแข่งขันการค้านอกจากสู้คุณภาพ ราคาและบริการกันแล้ว ยังมีการสู้กันทางโฆษณาทั้งสื่อหลักและสื่อโซเชียล แต่สุดท้าย รถทางเลือกใหม่ด้วยความก้าวล้ำเทคโนโลยีทั้งอีวี อีอาร์อีซี ไฮโดเจนหรือรถที่ไม่ใช้น้ำมันอีกต่อไปในราคาสมเหตุสมผล จะเป็นผู้ครองตลาด เพราะคนซื้อรถหลักแสนหรือล้านไม่ใช่คนโง่ครับ
มีเครื่องยนต์เดี่ยวหรือร่วม คงใช้แค่กะบะไว้ขนเท่านั้น เก๋งหรือ suv คงใช้ bev หมด
เทียบลูกเล่นและเทคโนโลยีหรือยังครับ หรือแค่ปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไรไม่เป็นอะไร ยังต้องเจอสงครามราคาอีกนะคนซื้อมีทางเลือกขึ้นอีกเยอะ
ไฮบริดดีตอนใช้ แต่ๆๆหากถึงเวลาต้องดูแล ต้องดูแลทั้งสองระบบ ต้องจ่ายสองทาง ช่วงนี้คือช่วงเปลี่ยนผ่าน สุดท้ายก็ไปรถ EV อยู่ดี ตอนนี้ต้องให้เวลา EV พัฒนาแบตเตอร์รี่ให้เหมาะสม
ผมที่ขับ Prius มา 10 ปี
แล้วคันต่อไปรถ ev แน่นอน แต่อีก 5-10 ปี ค่อยเจอกัน
ค่ายญี่ปุ่นยึดพัฒนา Hybrid ต่อไปคือสิ่งที่ดี ผู้บริโภคมีทางเลือกในการประหยัดตามการใช้งานจริง
เมื่อไหร่จะมาขายสักที....
ถ้าเติมน้ำมันอยู่จะต่างอะไรจากรถน้ำมันทั่วไป อะไรที่เติมน้ำมันขอลาก่อน บาย ใครจะใช้ก็ใช้ไป แต่ผมไม่โง่แบกราคาน้ำมันต่อไปแน่นอน
ปกติไม่เคยคอมเม้นเลยครับ แต่ครั้งนี้ผมรบกวนถามพี่ๆน้องๆหน่อยนะครับ ว่าToyotaมีแนวโน้มจะเอา CHR Gen ใหม่มาวางขายในตลาดไทยมั้ยครับ ผมเฝ้ารอตัวนี้มานานมาก🥲
ไม่ทำตลาดเมืองไทยละคร้าบ เขาเอายาริสครอส มาถล่มตลาดแล้วไงครับ😅
ยืนยันคับ ไม่ทำในไทยแล้วยอดขายไม่ค่อยดี cross ขายดีกว่าหลายเท่า
ค่าซ่อมจะไปถูกกว่าได้ไง รถ 2ระบบ ชิ้นส่วนก็เพิ่มคือ 2เท่า ซ่อมทีจุกๆ
ถ้า Hybrid จีน VS EV จีน อันนั้นหนะใช่ แต่ Hybrid ญี่ปุ้น VS EV จีน ........อันนี้อะไม่ใช่
สำคัญที่ชิ้นส่วนรถที่จุกจิกนี่ล่ะครับ มันโคตรน่าเบื่อ
ถ้าชาร์จไฟ 10 -15 นาที วิ่งได้ 500 โลขึ้น ใครจะใช้รถน้ำมันต่อไป คงคิดหนัก 555
ใช้สองระบบ ก็ต้อง ซ้อมสองระบบ นะครับ
มอล phev, erev เพราะแยตใหญ่ขึ้นอีกหน่อยวิ่งไฟฟ้าล้วนได้ 100-200 กม. รอดูต้าพรีอูดเจน 5 เทียบ erev รถจีน ต้าได้ 30กม./ลิตรถ้าจีนกินกม./ลิตร
ประหยัดจรงไหน แบกทั้งเครื่องยนต์+แบต น้ำหนักก็เยอะ
ดูแล2ระบบค่าใช้จ่ายก็x2
ตอนนี้ lpg ประหยัดครับ
รอพรีอุสไม่ไหว ซื้อ hrv แล้วครับ รอมาเกือบ2ปี
รอบ Serena จนเหนื่อย นานแล้วนะ มาเถอะ
สั่งนำเข้าได้ครับ อยากได้ต้องจัด
ตอนนี้ก็มองปลั๊กอินไฮบริตไว้โดยมีข้อกำหนดว่าต้องวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนเกิน 100 กิโล แล้วโหมดไฮบริตต้องวิ่งได้เกิน 1000 กิโล ขนของได้แบบเดียวกับรถ 7 ที่นั่ง ที่สำคัญต้องประกอบไทยเท่านั้น ตัวไหนทำได้ก็เอา
อันนี้ PHEVแล้ว สเป็คโหดไปไหม ที่สำคัญราคา 😊
@@ultrasnook ก็ตอนนี้ที่ดูไว้ byd seal u dm-i กับ haval h6 phev แต่รอดูรถญี่ปุ่นว่ามีตัวไหนตรงสเปคบ้าง ถ้าตัวไหนตรงก็เอาคันนั้น
@@user-kt4kr6zt4x รถจีนไม่แนะนำ เครื่องไฮบริดญี่ปุ่นทำได้ดีก็ว่า แต่สเป็คอาจจะไม่หวือหวา
ไฮบริดเจ้าตลาดเก่าแบตเท่าหิ่งห้อย เมื่อไร่จะพัฒนา😂
@@kamonsuwanpradit9566 พัฒนาแล้ว แต่ได้แค่นี้ ปั๊ดโธ่
ขนาดเล็ก อายุสั้นแล้วราคาก็แพงอีกด้วยครับ
คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า😅😂😢
มือสองรถไฟฟ้าปีแรกพ่อค้ารับซื้อในราคา40%ปีต่อไปลดตามสภาพ5ปีไม่รับซื้อ...ใครพร้อมใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่มีซ่อมขายเป็นของเก่าได้เลย
ราคาลง 40% จริงหรอครับ งั้นหามาขายผมหน่อย 200 คัน ขอด่วนนะรีบใช้
รถน้ำมันก็โดนกดราคา จะเทินรถev ยังคิดหนัก ไม่ได้มีราคาเลย ดูข่าวสิ เต้นรถเจ๊งยับ
ขอล่ะตัดคำว่า ค่าซ่อมไม่แพง ออกไปได้ใหม ซ่อมทีกินแกลบไปเป็นเดือน
รถไฮบริดต้องเข้าศูนย์ตลอดอายุใช้งาน อู่นอกหมดสิทธิ์😊
EV เข้าอู่นอกได้ใช่ไหมครับ
ตั้งแต่ใช้รถมา30 กว่าปีไม่เคยซ่อมอู่นอก จะซ่อมอู่นอกทำไมในเมื่อราคาใก้ลเคียงกัน แต่ศูนย์ฯมีประกันหลังซ่อม 6 เดือน
@@cando13589EV เข้าอู่นอกไม่ได้เลยทุกยี่ห้อ เพราะต้องตรวจเช็คด้วยระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทนั้นๆเท่านั้น
@@cando13589 เข้าได้ครับ ถ้าพวกเรื่องพื้นๆเช่นช่วงล่าง แต่ถ้าเรื่องเฉพาะทางก็ต้องอู่ที่เค้าศึกษา EV มา อย่าง Neta ตอนนี้ก็มีอู่เฉพาะทางแล้ว รถไฮบริทก็เช่นกัน เรื่องพื้นๆเข้าอู่นอกได้ แต่ถ้ายุ่งกับระบบไฮบริทเมื่อไรก็ต้องเข้าอู่ซ่อมไฮบริทเหมือนกัน
คิดว่ามันต้องเป็นเรื่องของเวลา รถ EV เพิ่งมาจะให้มีอู่นอกเกิดเยอะได้ไงจริงไหมครับ ขนาดรถไฮบริทขายมาเป็นสิบกว่าปี ตามตจว.ยังแทบไม่มีอู่นอกเฉพาะทางซ่อมรถไฮบริทเลย ยังกระจุกตัวในกทม.มาโดยตลอด
@@KimKim-xp4fg
รถที่ใช้อยู่ก็ตามที่คุณบอก บางอย่างต้องเข้าศูนย์ ที่ไม่ต้องก็ทำข้างนอกได้
EV ยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
รถไฟฟ้ายังแพงกว่า แล้วเวลาชนพังอะไรขึ้นมา โอกาสที่จะเสียหายมาก มีมากกว่ารถน้ำมัน
ราคาประกัน มูลค่ารถ ประกันคืนทุกจะคุ้มไหม ความคงทน ทำให้ คิดเยอะ…
แพงของจริงอะดิ แพงขนาดนี้รถไฟฟ้าลดราคาแล้วทำตัวชาตในตัวรับรองบริดจ์ไม่ออกขายถูกๆนะเน้นขายถูกๆเพราะช่างไทยอะไรเกียวกับไฟฟ้า ซ้อมและดัดแปลงได้หมดจำไว้ ไอ้หนู55555
อยากจะทิ้งรถไฟฟ้ากลับมาใช้ไฮบริด
@@ytpremium4862 ใช้รถไฟฟ้ารุ่นไหนอยู่ครับ ? ...ไม่โกหก ไม่มโนนะ มันบาป ^^
@@perotra atto3 ซื้อมาตอนราคาเต็ม เกือบ 1.2 คิดว่าไม่ได้ซื้อเหรอทำไมต้องมาแรงยังขับอยู่ ใช้รถน้ำมันไปหาไฟฟ้าแล้วไฟฟ้าจะไปลองไฮบริดใช้มาปีกว่าก็ไม่ได้เจอปัญหามีวันนึงรถสตาร์ทไม่ติดติดต่อเข้าไปที่ศูนย์บอกว่ายกรถมาเองให้เบอร์โทรติดต่อเองราคา ลดลงเยอะมันเป็นความพอใจอยากใช้ต่อหรือว่าอยากจะเปลี่ยนจากจีนไปใช้ญี่ปุ่นแค่นั้นเอง
@@perotra BYD ATTO 3, 15 Feb 2023 , 1.19 million. สีเขียวครับ ปัจจุบันราคาลดไปเท่าไหร่ไม่รู้แต่รถเยอะอยู่ใช้มาปีกว่ามีครั้งนึงสตาร์ทไม่ติดทางศูนย์แจ้งเบอร์โทรให้ยกรถไปเอง คนเคยใช้รถน้ำมันไปลองไฟฟ้าตอนนี้อยากจะจะลองไฮบริดแค่นั้นเองไม่เห็นต้องร้อนเลยใครชอบอะไรก็ใช้อันนั้นไปเพราะว่าเป็นงานเราแต่ตอนนี้มือสองตั้งราคาไม่ถูกเลย ไม่รู้เงินดาวน์ 700,000 จะออกมาไหม
ขี้โม้
ขอถามเป็นความรู้ครับ ผมกำลังจะเปลี่ยน ตัดสินใจไม่ถูก EV หรือ Hibird
มีคนเชียร์ทั้ง2แบบ เดิมใช้เบ็นซินมาตลอด
EV ที่ทำให้คุณคิดแบบนี้
?-รถยี่ห้อะไร รุ่นอะไร-?
ปัจจุบันใช่รถน้ำมัน แต่คันต่อไปจะเป็น Tesla
รวมๆแล้วEVดีกว่าคุ้มกว่าครับ
ยังไงก็สู้รถไฟฟ้าไม่ได้หรอก ขนาดเพิ่งมา ดับไปแล้ว2ค่าย ดูปี2025-2030นะ มีดับอีก2-3
ประเทศไทย ไม่จำเป็นต้องมีรถน้ำมันญี่ปุ่นอีกต่อไปแล้ว จร้าาา 😂😂😂
เพราะเรามีรถเมล์ไฟฟ้า เรือไฟฟ้า รถไฟฟ้า ครบหมดแล้วทุกปรพเภท
ยอดจดทะเบียนอเมริกาและยุโรปมันต้องน้อยลงอยู่แล้วครับ ดักทาง EV จีนขนาดนี้ ตัวเลขมันลดลงอยู่แล้ว
คิดได้ยัง ชิ้นส่วนสามพันชิ้นต้องดูแล น้ำมันก็แพง
ทำไมต้องดูแลสองระบบด้วยล่ะ
ตอนนี้ผมใช้รถไถอยู่งับ ไม่มีรถไถ EV มาสักรุ่นเรยงับ
ไม่ง้อตู้ชาร์ตแต่มันก็ยังไปง้อน้ำมันไม่ใช่หรือ
ปั้มหาง่ายไง ไปไม่เกิน 10 โล มี ตลอด แต่ ไฟฟา ไกล superchange หา ยาก
ไม่เคยสนใจรถพันธุ์ผสม ไม่ว่าน้ำมันกับแก๊ส หรือน้ำมันผสมไฟฟ้า เพราะต้องพึ่งพาปั้มตลอดเวลา แล้วราคาน้ำมันก็มีแต่แพงกับแพง
ไฮบริดคือคนงานไทยหลายแสนคนครับ ที่อยู่เป็นแรงงาน สนับสนุนให้โรงงานญี่ปุ่นยังอยู่คู่คนไทย ด้วยความคิดเห็นส่วนตัวคุณภาพไฮบริดม่ตรฐานญี่ปุ่นเมดอินไทยแลนครับ❤
@@Herb-Yamo ก็ส่งออกสิครับ จะมาอัฎยายซื้อขนมยายเพื่อ
พรีอุส ก็ช้าเกิน สรุปจะมามั้ยครับ
ได้ยินว่ามาแค่ 200 คัน ประเดิมตลาด คล้ายๆ BZ4X
@@-fivefreedoms-4511 ไม่ได้ทำตลาดจริงจังหรอครับ
พอเถอะขับรถน้ำมันไม่ไหวจะเติมแล้ว
ใช้รถไฮบริดมา 10 ปี เปลี่ยนรถคันต่อไปจะเลือก EV แน่นอน ไฮบริดมีดีอย่างเดียวคือไม่ต้องชาร์จ แต่ที่เหลือสู้ EV ไม่ได้จริงๆ อันนี้ต้องยอมรับ แค่ข้อดีหลักๆ คือไม่ต้องเติมน้ำมันแพงๆ ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 10,000 km ก็ทำให้เปลี่ยนใจไป EV ได้แล้ว
ผมคิดต่าง ผมใช้คัมรั่ไฮบริดมานาน ผมว่าซ่อมง่าย อะไหล่ใช้ร่วมกับรถสันดาปได้ พังที่ไหนช่างก็ซ่อมได้เคยขับไปแล้วหัวฉีดพัง คือคลานหาอู่ข้างหน้าเปลี่ยนไม่กี่บาทใช้เวลา2ช.ม.เสร็จไม่ต้องจ้างรถสไลด์เข้าศุนย์ แบตไฮบริดราคา6-8หมื่น ถูกมากถ้าเทียบกับรถไฟฟ้าที่ราคาแบต4-5แสน ส่วนเรื่องกินน้ำมันก็พอๆกับมอเตอร์ไซค์ ,ถ้าต้องเปลี่ยนจะใช้เบนซ์ไฮบริดปลั๊กอินที่เลือกขับไฟฟ้าล้วนตอนอยากประหยัดได้หรือจะขับพร้อมกัน2ระบบเวลาเร่งรีบๆได้
@@ErikJansene ความคิดใครความคิดมันครับ แต่ผมไป EV แน่นอน เพราะเบื่อเติมน้ำมัน ^^
@@firstmiracle ความคิดใครความคิดมันครับ ไม่ตัดสินว่าใครคิดถูกหรือคิดผิด แต่ผมไป EV แน่นอน เพราะเบื่อเติมน้ำมัน ส่วนเรื่องปัญหาจุกจิกนั่นนี่ ก็เป็นเพียงการมโนของคุณเอง ทั้งที่ไม่เคยใช้ EV มาก่อน คนจะซื้อรถสักคัน ไม่มีใครที่ไม่ศึกษาข้อมูลหรอกครับ พอใจรับได้ก็ซื้อ แต่ต้องไม่หลงเชื่อข้อมูลของพวกที่ชอบมโนเลอะเทอะไปเอง ^^
ขออนุญาตท่านเจ้ากระทู้ที่ใช้hybridมา10ปีครับ
อยากทราบข้อมูลเพิ่ม เพื่อเป็นความรู้ครับ
?-ใช่ยี่ห้ออะไร รุ่นอะไรครับ-?
ผมก็คนนึงที่เปลี่ยน EV แน่นอนครับ รถใช้ 12 ปีหมดไปกับค่าน้ำมัน ค่าเช็คระยะ ไม่ต่างจากราคาแบตเตอร์รี่ เทคโนโลยี่เก้าไปข้างหน้า อีก 8 ปีราคาแบต ก็คงถูกลงมาก น้ำมันมีแต่จะขึ้น
ถ้าวิ่งได้ 50 กม ต่อลิตร ev คงไม่ได้เกิดครับ😂
ทำไม่ได้หรอก
มันจะแยกกัน ฝัง อาหรับก็จะใช้น้ำมัน ฝั่งยุโรปจะใช้รถไฟฟ้า เอเชีย 60%ใช้รถน้ำมัน 40%รถไฟฟ้า
MGของจริงกว่าครับ
รถBEVผมว่าไปต่อยาก ยอดขายมีแต่จะลดลงเรื่อยๆ รถไฟฟ้าที่น่าจะตอบโจทย์ต้องเป็นแบบนิสสันทำอ่ะ คือใช้เครื่องปั่นไฟ จะแบบเติมน้ำมันก้อได้ ใช้การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า นี่แหละจะยั่งยืนในระยะยาว
รถที่ใช้เครื่องยนต์ไปปั่นไฟ ก็เกือบดีแล้วครับ แต่มันก็ต้องบำรุงรักษาฝั่งของเครื่องยนต์ด้วย ค่าถ่ายน้ำมันเครื่องและจิปาถะอีกมากมาย ส่วนตัวมองว่าค่าบำรุงรักษาแพงกว่า ev แน่นอน ส่วนที่ประหยัดน้ำมันได้ ก็ต้องเอามาจ่ายค่าบำรุงรักษาทางฝั่งของเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ ต้องรอดูกันต่อไปครับ
@@x.nat10 มันสะดวกกว่า ใช้น้ำมันก้อน้อยกว่า ตอนนี้บริษัทรถของจีนก้อกำลังวิจัยแบบที่ผมพูดไว้แล้ว นี่ต่างหากที่ คือสิ่งที่จะทำให้รถไฟฟ้าไปต่อได้ในระยะยาว
@@id4kaka753 รอดูครับ ช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงที่เทคโนโลยียังไม่นิ่ง รอไว้ก่อนดีที่สุด
@@id4kaka753 แล้วขายดีมั้ย นิสสัน
ไม่ต้องเถี่ยงกันเอาทืีชอบใช้แล้วสบายใจกับคุณก้อOkแล้ว
ถ้าขาย bz4x แบบไม่อั้น toyota มีปัญญาผลิต EV ล็อตใหญ่ๆคืนหรอ ฮอนด้ายังให้เช่าใช้แทนขายเลย
ทั้งสองยี่ห้อนั้นสู้เทคโนรถไฟฟ้าของจีนไม่ได้ไม่ใช่รึ ที่สำคัญสุดสเปคเท่ากันดันแพงกว่าจีนเป็นสองเท่า จนเกิดอาการขายไม่ออก เลยเลี่ยงไปทางให้เช่าแทนสำหรับคนที่ยึดติดกับสองยี่ห้อนี้ไม่ใช่รึ แต่ไม่ค่อยมีข่าวคนเช่าใช้เลยนะ