พระอนาคามี ที่ยังต้องเกิดอีกหลายชาติ
Вставка
- Опубліковано 15 жов 2024
- เอกาภิญญาสูตร 84000.org/tipi...
บุคคลบัญญัติ 84000.org/tipi...
อรรถกถา บุคคลบัญญัติ 84000.org/tipi...
เอกาภิญญาสูตร 0:55
พระอนาคามีผู้อันตราปรินิพพายี 2:50
พระอนาคามีผู้อุปหัจจปรินิพพายี 5:05
พระอนาคามีผู้อสังขารปรินิพพายี 7:05
พระอนาคามีผู้สสังขารปรินิพพายี 7:50
พระอนาคามีผู้อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี 8:30
อรรถกถา บุคคลบัญญัติ 11:50
บางคนนี่ ยังไม่ได้ฟังเนื้อหาในคลิป ก็คอมเมนต์ละ ผมก็ว่าในคลิปอธิบายไว้ละเอียด
สรุปสั้นๆ กลับมาเกิด แต่ไม่ได้เกิดบนโลก ไปเกิดในชั้นพรหม ชั้นสุทธาวาท
พระอนาคามี ที่ยังต้องเกิดอีกหลายชาติ เป็นเหตุนั่นเองคะ อนาคามี เกิดอีกคราวเดียว ก็ ปรินิพพาน คำตอบอยู่ที่การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ ศีล สมาธิ ปัญญา สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ นั่นเองค่ะ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ พระสูตรที่แสดงว่า พระอนาคามีเกิดได้อีกคราวเดียวก็ปรินิพพาน คือพระสูตรไหนครับ?
@@Tunhapapai ไม่รู้ค่ะ ฟังมาจาก พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล ท่านนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ ไม่ได้อ่านจากหนังสือเองค่ะ ฟังมาค่ะจึงไม่รู้ว่าอยู่ใน พระสูตรไหน พระพุทธเจ้าท่านทรงบัญญัติ พระธรรมวินัย โพธิปักขิยธรรม 37 ไว้ให้ตรวจสอบเส้นทางในการเดิน มรรค นั่นเองค่ะ ก็คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ พระธรรมวินัย โพธิปักขิยธรรม 37 คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ และ เส้นทาง ปัญญาวิมุตติ ก็คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัทธานุสารี ธัมมานุสารี และ บุคคล 4 คู่ 8 พวก นั่นเองค่ะ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ ควรดูจากพระสูตรจริง ถึงจะตัดสินได้ครับ
@@Tunhapapai เส้นทางเจโตวิมุตติ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ ศีล เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / สมาธิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / ปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ / สมถะ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / วิปัสสนา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / อานาปานสติ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา การตรวจสอบเส้นทางการเดิน มรรค ถ้า อริยมรรคมีองค์แปด เกิดปรากฏขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ก็จะเป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ แบบนี้นั่นเองค่ะ ก็จะทำให้ได้คำตอบว่า อนาคามี ไปเกิดใน รูปภพ อีกคราวเดียว ก็จะปรินิพพาน นั่นเองค่ะ
ขอบคุณครับ.ที่ให้ความรู้..สาธุ
คลิปนี้ดี ยกพระไตรปิฎกมาอ่าน พูดง่ายๆคือพระอนาคามีเกิดในพรหมแล้วบำเพ็ญไปเรื่อยๆจนถึงอรหันต์
ขอบพระคุณที่ให้ความรู้
เกิดอีกใน ที่นี้ ที่พระคุณเจ้าอ้างนั้นคือ เกิดในรูปพรหม ภูมิ อีก 5 ชั้น จนถึงนิพาน พรหม ครับ สาธุ
อนาคามีมีมานะมีอัตตาเพราะถึอตัวธาตุ4เป็นอนัตตาไม่มีญานวีปัสสนาขัน5เป็นอนัตตาไม่รู้เลยอาจารร์สาธุ
สาธุๆๆ
คำว่าไม่กลับมาเกิด หมายถึง ไม่กลับมาเกิดบนโลกมนุษย์ครับ เขาก็บอกเหตุผลแล้วว่า ตัดกามลิเลสได้แล้ว
ส่วนท่านจะอยู่พรหมนานแค่ไหนก็เรื่องของท่าน เพราะท่านไม่ถอยหลังแล้ว
ถูกเเล้วอาจารร์พรมมะโลก
จะเกิดอีกกี่ชาติ... แล้วมันมีผลอะไรกับเรา และท่านทั้งหลาย ครับ....
แผนที่วัฏฏะครับ
อย่างนั้นอนาคามีก็น่าสงสารสิ
ท่านที่อยู่ในสุทธาวาสภูมิ ท่านไม่มีทุกข์ทางกาย ทางใจแล้ว ปลอดภัยจากอบายภูมิ และไม่มีอันตกต่ำแล้วครับ ไม่มีจุดไหนที่น่าสงสารเลยครับ
สาธุคะอาจารย์
พระอนาคามีคือ non returner จะไปในพรหมโลก เริ่มจากชั้นที่12 พอครบจะต้องไปชั้น13 ... จนถึงชั้นที่16
กามมันหมดจากจิตใจแล้วจะกลับมาเกิดในกามภูมิทำไม.เหมือนคนตกหลุมส่วนแล้ว.ขึ้นมาได้ใครจะยอมกลับไปอยู่ในหลุมส้วมอีก(หลุมส้วมเปรียบคือกามคุณ)
เก่ง ๆ คงเป็นพระอนาคามีแล้วน้อ ถึงได้รู้ว่าพระอนาคามีเกิดอีกไม่เกิดอีก คำว่าเกิดไม่เกิดอีก ไม่ได้หมายความว่าเกิดทางกายอย่างเดียว คือเกิดทางจิต เมือ่จิตถึงขั้นอรหันต์แล้วก็ไม่มีเกิดอีก พระโสดา สกิทาคาก็เหมือนกันเกิดทางจิต ชำระจิตยี่ง ๆ ขึ้นไป ตามลำดับ ถึงอรหันต์ จบ ไม่ต้องเวียนว่าย ตาย เกิดอีก
สรุปแล้วคือ เกิดได้แต่ไม่ใช่กลับมาเกิด ต้องไปเกิดในพบภูมิต่อ ๆ ไป เป็นขั้น ๆ ใช่ไหม
เฉพาะกลุ่มอุทธังโสโตอกนิฏฐคามีครับ ที่ต้องเกิดในชั้นสุทธาวาสภูมิไล่ขึ้นไปทุกชั้น
ทนายอนันตชัยอยู่ไหนครับ?
ถ้าท่านทนายเก่งจริง ช่วยไปจัดการลัทธิบิดเบือนพระพุทธศาสนาใหญ่ ๆ หน่อยคับ เช่น ลัทธิพระพุทธเจ้าองค์ปฐม นิพพานเมืองแก้ว , ลัทธิปราบมาร พระต้นธาตุต้นธรรม อย่าเก่งแต่กับเด็กคับ ลัทธิพวกนี้บิดเบือนพระธรรมวินัยมาจะเป็นร้อยปีแล้วคับ ลูกศิษย์ลูกหา เต็มบ้านเต็มเมือง ทำอะไรเขาได้ไม๊ล่ะคับ เก่งแต่รังแกเด็ก
นอกจาก มหาอุบาสิกาวิสาขาแล้ว ยังเคยได้ยินว่าท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีก็เป็นพระอริยบุคคลผู้มีความยินดีในวัฏฏสงสารเหมือนกัน แต่ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่นะคับ
เคยได้ยินเหมือนกันครับ
@@Tunhapapai เจริญ สุตตมยปัญญา เป็น ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ พระพุทธเจ้าบอกว่า เจริญอานาปานสติ แม้เพียงชั่วลัดนิ้วมือ ถือว่าอยู่ไม่เหินห่างจาก ฌาน ทำตามโอวาทของพระศาสดา หายใจเข้ายาวก็รู้ชัดว่าหายใจเข้ายาว หายใจออกยาวก็รู้ชัดว่าหายใจออกยาว หายใจเข้าสั้นก็รู้ชัดว่าหายใจเข้าสั้น หายใจออกสั้นก็รู้ชัดว่าหายใจออกสั้น เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อานาปานสติ นั่นเองค่ะ
@@Tunhapapai การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อานาปานสติ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศีล คือ วิญญาณเข้ามาตั้งที่รูปในช่องทาง จมูก เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิ คือ วิญญาณเข้ามาตั้งที่ เวทนาอุเบกขา เป็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ / การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อานาปานสติ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นปัญญา ฌาน 4 สัมมาสังกัปปะ / การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อานาปานสติ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ / ละนันทิจิตหลุดพ้น คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ คือ นิพพาน นั่นเองค่ะ อนาคามี ไปเกิด ใน รูปภพ คราวเดียว ก็ ปรินิพพาน นั่นเองค่ะ พวกสะเก็ดไฟ 7 จำพวก ก็คือเริ่มตั้งแต่ อนาคาปฏิมรรค ก็คือการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศใน เวทนาทุกข์ นั่นเองค่ะ และ ตามมาด้วย การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน 4 สัมมาสังกัปปะ ตามมาด้วย สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ นั่นเองค่ะ ที่เป็นพวก สะเก็ดไฟ 7 จำพวก พวกที่ 7 คือ อนาคาปฏิมรรค และ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ ส่วน การเกิด ปรากฏขึ้นมาของ สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ ก็คือ 6 ุ5,4,3,2,1 นั่นเองค่ะ
อนาถ..ท่านไปอยู่ชั้นดุสิต ..เป็นชั้นที่พระโพธิสัตว์..อยู่
การบรรลุธรรมก็ต้องเป็นไปตามรำดับ พระโสดาบันเมื่อตาย ก็ต้องเกิดใหม่ เพื่อบำเพ็ญตนต่อ พระกสิทาคา พระอนาคามีก็เช่นกันเพื่อมาบำเพ็ญตนต่อ แม้พระอรหันต์ก็ไม่ต่างกันเพราะพระอรหันต์ท่านจบจิตของตนเท่านั้นถ้าท่านตั่งงจิตที่จะไปสู่พุทธภูมิท่านก็ต้องกลับมาต่อเช่นกัน เพราะไครๆก็พอรู้กันอยู่ว่าภูมิที่ดีที่สุดในการบรรลุธรรมมีแต่ภูมิของมนุษย์เท่านั้นไม่ใช่หรือ
เริ่มมั่วแระ
@@วาสทองจันทร์-ฦ6ฎ พระอรหันต์นิพพานแล้ววิญญาณและจิตละลายหายไปสิ้น กลับมาเกิดเพื่อสร้างบารมีต่อเป็นพระศาสดาไม่ได้ ท่านที่อธิษฐานเป็นพระพุทธเจ้าจะไม่สำเร็จธรรมใด จนกว่าจะถึงกำหนดเวลาได้เป็นพระศาสดาจึงจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าได้ทีเดียวเลย
อรหันต์ยังจะกลับมาเกิดอีกเอาตำราที่ไหนมา
เอาอีกละ
ดิฉันแนะนำคุณเอาง่ายๆเลยนะไปฟังพุทธวจน(คำตรัสของพระพุทธเจ้าล้วนๆไม่มีคำแต่งใหม่ปนเลยนะ)
อภิธีมปิฏกที่คึกริดรู้ ยะงไม่แตกเลย เลอะเทอะ 😆😆😆😆
ที่ชอบๆค่ะ@@กฤษณ์เสนามาตย์-ฆ6ฅ
ที่ชอบๆค่ะ@@กฤษณ์เสนามาตย์-ฆ6ฅ
ที่ชอบๆค่า@@กฤษณ์เสนามาตย์-ฆ6ฅ
ที่ชอบๆค่า😊
มันเป็นใคร.อยากเห็นหน้า
ใครรู้ใครตั้งกฎนี้ขึ้นมา😮😮
เป็นธรรมชาติของพระอนาคามีครับ
อีกไม่นานน่าจะความกระจ่างเพราะต่างก็แตกแยกไปกันหมด ถ้ากระจ่างก็กระจาย
พระสูตร(ถูกต้องครับ)
แต่การอธิบายผิดคลาดเคลื่อน
มีอยู่เพียงภูมิเดียวเท่านั้น
คือ"อุทธังโสโตอัฏฐคามี"
เพราะ(คติยังมีอยู่)
นอกนั้น
ปรินิพพายี
ต่าวกันเพียวข่วงอายุที่าั้นและยาวนานกว่า
เช่น
กึ่งของอานุขัย
และ
อวิหา อนุปาทิเสสปริพพานธาตุในภพนั้นก่อนอนาคามีใน๕จำพวกดังนี้แล
ฯ
สาธุครับ
ผิดคลาดเคลื่อนจุดไหน อธิบายเพิ่มได้ไหม๊ครับ ผมอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ
@@Tunhapapai คลาดเคลื่อน คือ พระอนาคามี ที่ยังต้องเกิด อีกหลายชาติ นั่นเองค่ะ จัดการกับความผิดพลาดนี้ ด้วย การเจริญ สุตตมยปัญญา อานาปานสติ นั่นเองค่ะ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อานาปานสติ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ (ศีล)>(สมาธิ)>(ปัญญา)>(สมถะ)>(วิปัสสนา)>(อานาปานสติ) ศีล เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ ได้เกิดปรากฏขึ้นมาหรือยัง สมาธิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ ได้เกิดปรากฏขึ้นมาหรือยัง ปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ ได้เกิดปรากฏขึ้นมาหรือยัง สมถะ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ ได้เกิดปรากฏขึ้นมาหรือยัง วิปัสสนา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ ได้เกิดปรากฏขึ้นมาหรือยัง อานาปานสติ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ ได้เกิดปรากฏขึ้นมาหรือยัง เป็นการตรวจสอบเส้นทางการเดิน มรรค นั่นเองค่ะ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ ลองอ่านดูกลุ่มที่เป็น อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี นะครับ 84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=36&A=4222
ขออนุโมทนา ในการศึกษาพระธรรมครับ
เพิ่มเติม ลองอ่านทำความเข้าใจกลุ่ม อุทธังโสโต อกนิฏฐคามี จากพจนานุกรมฉบับประมวลธรรม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) นะครับ
84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=60
@@Tunhapapai นำเส้นทาง สัมมาทิฏฐิ ไปเพ่งพิสูจน์ นั่นเองค่ะ ถึงจะสามารถ ละ มิจฉาทิฏฐิ ได้ เส้นทาง สัมมาทิฏฐิ จะมีอยู่ใน ตถาคตภาษิต เท่านั้นค่ะ เส้นทาง สัมมาทิฏฐิ ที่มี สังขตธรรม เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ ก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ ( สังขตธรรม เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ กฏอิทัปปัจจยตา )> ( กฏอิทัปปัจจยตา เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ / กฏอิทัปปัจจยตา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ปฏิจจสมุปบาท *กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท*) (สังขตธรรม>กฏอิทัปปัจจยตา)>(กฏอิทัปปัจจยตา>ปฏิจจสมุปบาท *กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท *)
คคคคคคคอย่าปรุงแต่ง คิดได้น่อกลับเกิดได้
ลองอ่านทำความเข้าใจกลุ่ม อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี จากพจนานุกรมฉบับประมวลธรรม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) นะครับ
84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=60
ฟัง อ่าน เรียนรู้มา ใครอยากรู้จริง ก็ต้องฝึกปฏิบัติให้รู้แจ้งด้วยตัวเองครับตามคำสอนของตถาคต
ตีความผืดหรือเปล่าท่านที่ว่า..กลับมาเกิด..ผมตีความว่ากว่าท่านจะได้เป็นอรหันต์ใน ภูมินั้นๆบารมีธรรมต้องศึกษานานกว่าครับ
ท่านไม่กลับมาเกิดในกามภูมิ แต่ท่านเกิดในสุทธาวาสภูมิได้อีกหลายชาติครับ ในพระไตรปิฏกแสดงเรื่องการเกิดในสุทธาวาสภูมิไล่ขึ้นไปจาก อวิหา ไป อตัปปา ไป สุทัสสา ไป สุทัสสี ไปอกนิฏฐา แล้วถึงค่อยบรรลุอรหันต์ ที่อกนิฏฐาภูมิ ตรงนี้ไม่ต้องตีความ เพราะแสดงไว้ชัดๆเลยครับ
"บุคคลนั้นจุติจากอวิหาภพแล้วไปสู่ชั้นอตัปปาภพ จุติจากชั้นอตัปปาภพแล้วไปสู่ชั้น สุทัสสาภพ จุติจากชั้นสุทัสสาภพแล้วไปสู่ชั้นสุทัสสีภพ จุติจากชั้นสุทัสสีภพแล้ว
ไปสู่ชั้นอกนิฏฐภพ ยังอริยมรรคให้เกิดขึ้นในชั้นอกนิฏฐภพเพื่อละสังโยชน์เบื้องสูง บุคคลนี้เรียกว่า อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี"
ลองอ่านดูกลุ่มที่เป็น อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี นะครับ 84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=36&A=4222
ขออนุโมทนา ในการศึกษาพระธรรมครับ
เพิ่มเติม ลองดูในคลิปนี้ ช่วงนาทีที่ 1:35:55 นะครับ ua-cam.com/video/93PCVW0j2g0/v-deo.htmlsi=P0XpAigb2fVs_18t
@@Tunhapapai เส้นทาง สัมมาทิฏฐิ คือ สังขตธรรม>กฏอิทัปปัจจยตา >ปฏิจจสมุปบาท*กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท* เส้นทาง สัมมาทิฏฐิ นี้จะมีอยู่ในคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่มี ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา (สังขตธรรม) เพราะว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า มี ธรรมที่เป็นเหตุ คือ อสังขตธรรม ด้วยนั่นเองค่ะ เส้นทาง สัมมาทิฏฐิ จะช่วยได้นั่นเองค่ะ เป็นการละ มิจฉาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ
@@อนีกทรัพย์ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ ก็จะเป็นคำตอบ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อานาปานสติ คือ การรับรู้ ลมหายใจเข้าออก การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อานาปานสติ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศีล สมาธิ ปัญญา (ปัญญาฌาน4 สัมมาสังกัปปะ) สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ ละนันทิจิตหลุดพ้น คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ วิมุตติญาณทัศนะ คือ ผู้รู้ในการหลุดพ้น คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปฏิจจสมุปบาท สายดับ นั่นเองค่ะ ถ้า อนาคามี ยังต้องเกิดอีกหลายชาติ เร่งความเพียรด่วนๆ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อานาปานสติ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมถะ คือ ละนันทิ ใน เวทนาอุเบกขา ปีติสุข ด้วยการเจริญอานาปานสติ นั่นเองค่ะ เมื่อสมถะเกิดปรากฏขึ้นมาแล้วก็จะพ้นแล้วจาก สะเก็ดไฟพวกที่ 7 นั่นเองค่ะ เป็นสะเก็ดไฟพวกที่ 6 นั่นเองค่ะ
อนาคามี เกิดอีกครั้งเดียวแล้วปรินิพพานที่สุทธาวาสภูมิ เท่านั้น
ลองอ่านทำความเข้าใจกลุ่ม อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี จากพจนานุกรมฉบับประมวลธรรม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) นะครับ
84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=60
อนาคามี เกิดอีก คราวเดียว ก็ปรินิพพาน
ลองอ่านดูกลุ่มที่เป็น อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี นะครับ 84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=36&A=4222
ขออนุโมทนา ในการศึกษาพระธรรมครับ
@@Tunhapapai การเกิดปรากฏขึ้นมาของเส้นทาง เจโตวิมุตติ อนาคาปฏิมรรค จะเริ่มที่ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ คือ ละอารมณ์ได้ดุจกระพริบตา ใน เวทนาทุกข์ ใน เวทนาสุข ก็คือปัญญา ฌาน4 ยังไม่เกิดปรากฏขึ้นมานั่นเองค่ะ พวก อนาคาปฏิมรรค เมื่อกายแตกทำลาย ก็จะไปเกิดใหม่ใน รูปภพ นั่นเองค่ะ เพราะว่าสังโยชน์ที่สร้างการเกิดใน กามภพ สั้นลงมากๆแล้วนั่นเองค่ะ ก็คือการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ นั่นเองค่ะ เมื่อปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ เกิดปรากฏขึ้นมา คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อนาคามี นั่นเองค่ะ
@@Tunhapapai ในการเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ บอกว่า อนาคามี เกิดอีกคราวเดียว ก็จะ ปรินิพพาน ในภพนั้น ไม่กลับมาเกิดใน กามภพ อีกแล้ว นั่นเองค่ะ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อานาปานสติ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ (ศีล) การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อานาปานสติ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ (สมาธิ) การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อานาปานสติ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ (ปัญญา เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ นั่นเองค่ะ เพราะว่าเป็น สัมมาสมาธิ) / สมาธิ มี 9 ระดับ มีสัมมาสมาธิ/ มีมิจฉาสมาธิ/ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อานาปานสติ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ (สมถะ) การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อานาปานสติ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ (วิปัสสนา) การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อานาปานสติ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ (อานาปานสติ) เส้นทาง เจโตวิมุตติ คือ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ (ปลายทาง เป็น อานาปานสติ คือ ละนันทิ ใน รูปขันธ์ ด้วยการเจริญอานาปานสติ นั่นเองค่ะ) ละนันทิ ใน เวทนาทุกข์ เวทนาสุข ซึ่งก็คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัมมาสังกัปปะ คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน นั่นเองค่ะ ละนันทิ ใน เวทนาอุเบกขา ละนันทิ ใน สัญญา ละนันทิ ใน รูป นั่นเองค่ะ (ศีล สมาธิ ปัญญา สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ) พระอริยสงฆ์สาวก ท่านนำ คำสอนของพระพุทธเจ้า มาบอกต่อ ๆๆๆๆ กันไว้ ซึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็ยังมีอยู่ นั่นเองค่ะ
@@Tunhapapai สังคสามัคคี เกิดปรากฏขึ้นมาหรือยังค่ะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด / สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ / การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ ก็จะมีการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศีล สมาธิ ปัญญา (เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ) สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ ( เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ ) ไม่ใช่ พระอนาคามี ยังต้องเกิดอีกหลายชาติ อันนี้ไม่ใช่แน่นอนนั่นเองค่ะ อนาคามี จะเกิดใน รูปภพ อีกคราวเดียว ก็จะปรินิพพาน อริยมรรคมีองค์แปด จะเกิดปรากฏขึ้นมา คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ จะเป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมถะ นั่นเองค่ะ เป็นเส้นทาง สัมมาทิฏฐิ คือ สมถะ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ ( กฏอิทัปปัจจยตา ก็จะเกิดปรากฏขึ้นมา คือ สมถะ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ วิปัสสนา ) ( ปฏิจจสมุปบาท *กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท * เกิดปรากฏขึ้นมา สมถะ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ วิปัสสนา ( วิปัสสนา เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ) วิปัสสนา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ อานาปานสติ ( อานาปานสติ เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ) อานาปานสติ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ ก็จะมาจบที่ทางออกของโลก คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง สัมมาทิฏฐิ จะทำให้ไม่ขัดแย้งกันนั่นเองค่ะ
รู้ได้งัยไครจะมามาเกิด
ก็ไม่ลงมาเกิดเมืองมนุษย์เลยก็พ้นกรรมแลัวครับ
เกิดได้ชาติเดียว
ลองอ่านทำความเข้าใจกลุ่ม อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี จากพจนานุกรมฉบับประมวลธรรม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) นะครับ
84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=60
@@Tunhapapai โซดาสกิทาคามีอนาคาอรหันคืออาการของจิตลองวันหนึ่งไม่พูดกับใครไม่ตบยุงไม่อยากได้ของคนอื่นไม่มีเซ็กไม่กินเหล้าสัตธาในพระพุทธเจ้าพระพุทธเจ้าบอกว่าเราไม่มีจะเชื่อพระพุทธเจ้าหรื่อเปล่าเหรือพระพทธเจ้าพูดเล่นเพ้อเจ้อส่อเสียดโกหกถ้าเราเชื่อพระพุทธเจ้านี่หล่ะอารมณ์โสดาบันทำให้ได้เท่านี้ก่อนรอดนรกก่อน1ยังไม่ได้ไป3เลยเฮ้อ
เข้าใจผิดแล้วละครับ อานาคามีทั้ง5ชั้น เมื่อตายแล้ว จะปรินิพพานเลยครับ.
ที่คุณยกพระสูตรมา 3กลุ่มหลังเมื่อตายแล้ว ไปเกิดที่ไหนอีกละครับ
"อรรถกถา" เชื่อไม่ได้ครับ ต้องพุทธวน (คำของพระศาสดา) เท่านั้น
พุทธวจน พระสูตรไหนแสดงว่า พระอนาคามีทั้ง 5 ชั้น เมื่อตายแล้ว จะปรินิพพานเลยครับ?
บุคลบัญญัติ ไม่ใช่อรรถกถานะครับ
@@Tunhapapai ดูคำจำกัดความ(ไม่มาสู่ความเป็นอย่างนี้) ในพระสูตรนี้ครับ
ฯลฯ
ภิกษุทั้งหลาย! บุคคลผู้พรากแล้วจากกามโยคะ (กามโยควิส°ยุตโต)
(แต่)ยังประกอบแล้วด้วยภวโยคะ(ภวโยคยุตโต) เป็น "อนาคามี" ไม่มาสู่ความเป็นอย่างนี้.
ฯลฯ
อ้างอิง
บาลี อิติวุ.ขุ ๒๕/๓๐๓/๒๗๖.
@@Tunhapapai (บุคคลบัญญัติ)
บุคคลนั้นคือใครครับ? พระพุทธเจ้า- หรือใครครับ?
@@User_ub3ts9mh5x พุทธพจน์ ไม่มาสู่ความเป็นอย่างนี้ หมายความว่าไม่กลับมาเกิดในภูมิมนุษย์ครับ ไม่ได้หมายความว่า ท่านไปเกิดในภพไหนแล้วก็จะปรินิพพานในชั้นนั้น เพราะฉะนั้นคำกล่าวที่ว่า "พระอนาคามีทั้ง 5 ชั้น เมื่อตายแล้ว จะปรินิพพานเลย" นี้เป็นคำแต่งใหม่ถูกไหมครับ?
จะเกิดก็ไม่ใช่ จะไม่เกิดก็ไม่ใช่🤍🥲😌
เม้นท์นี้ใช่ท่านสัญชัยมาเองเลยหรือเปล่าคับนี่
@@sirisutipoj673 พระโสดาบัน มาเองจ้ะ😁😁😁
@@Coffeeordie._88. งั้นขอให้ท่านพระโสดาบันช่วยขยายความว่า เหตุใด จะเกิดก็ไม่ใช่ จะไม่เกิดก็ไม่ใช่ เกี่ยวข้องอย่างไรกับหัวข้อพระอนาคามี ที่ยังต้องเกิดอีกหลายชาติ ขอเชิญอธิบายครับ
@@sirisutipoj673 พระอนาคามี ไม่เกิดในแดนมนุษย์ แต่ยังเกิดในแดนพรหมโลก =จะเกิดก็ไม่ใช่ จะเกิดไม่ก็ไม่ใช่ ok😊
อนาคามิผล จะปฏิสนธิในรูปภูมิชั้นสุทธาวาสเท่านั้น ถือว่าเกิดไหมล่ะ?
พวกนี้เยอะเหลือเกิน โผล่ออกมาเรื่อยๆ พวกอรรถกถา
คัมภีร์บุคลบัญญัติ ไม่ใช่อรรถกถานะครับ
@@Tunhapapai คำสอนของพุทธะ จะไม่ขัดแย้งกัน เป็นอกาลิโก
@@sathatitan มีจุดไหนขัดแย้งกันครับ
@@Tunhapapai เหนื่อยแทน 555
บางคนไม่ได้ฟังเนื้อหาเลย เห็นแค่หัวข้อ ก็รีบอวดภูมิ คอมเม้นท์เถียงทันที ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเคยอ่านพระไตรปิฏกบ้างหรือปล่าวก็ไม่รู้ อวดรู้ไว้ก่อน 5555
แม้แต่สำนักพุทธวจน เวลา พอจ.คึกฤทธิ์อธิบายให้พวกคุณฟังนั่นก็ไม่ใช่พุทธวจนแล้วคับ บางครั้งผมว่าตีความผิดนะ แต่ผมก็ฟังนะพุทธวจน ส่วนตัวเห็นว่ามีประโยชน์มากกว่ามีโทษ แต่อย่ามาด้อยค่าอรรถกถาคับ ภิกษุที่เข้ามาสังคยานาพระธรรมวินัยผมว่าต้องมีภูมิธรรมระดับหนึ่งนะคับ เช่นการสังคยานาครั้งแรกก็เป็นพระอรหันต์ทั้งหมด แล้วการที่ภิกษุในปัจจุบันเพียง 1 รูป จะมาค้าน มาด้อยค่าความเห็นของเหล่าอรรถกถาจารย์จำนวนมากในอดีต ผมเห็นว่าไม่สมควรคับ
เรื่องนี้น่าจะจบลงด้วยอาคมยุติ ได้แล้ว อย่ามากความ รู้รับรู้ทุกวันกิเลสยังอยู่ครบ ไม่ทำให้กิเลสขาด อาจเพิ่มมากขึ้น ควรหันมาปรารภวิปัสสนากรรมฐาน อันยังกิเลสให้ขาดทีละ7ชาติๆ ดีกว่า..ขยันทำอย่างอุกฤษณ์จึงจะบรรลุธรรมชั้นเยี่ยม(อันไม่มีในศาสนาอื่น)ในศาสนานี้ได้..
ครับยังไงก็ได้ขออย่างเดียวท่านมาสเตอร์พรหมาเหล่านั้นจะไม่มีเข้าไปเกิดในครรภ์ของสัตว์ใดๆใน31ภพภูมินี้แน่นอน
ขอให้ความบัตรพินาจจังไรจงบังเกิดกับครอบครัววงตระกูลของตุณ
ขันฑ์ห้าคือชีวิตถ้าไม่มีชีวิตก็ไม่มีขันฑ์ห้าผู้จะทำนิพพานได้ต้องมีขันฑ์ห้าเพราะฉนั้นการตายเหลือแต่จิตวิญญาณเท่านั้นไม่มีขันฑ์ห้าไม่สามารถทำนิพพานให้แจ้งในสภาวะเหลือแค่จิตวิญญาณคำสอนนี้ต้องถูกบิดเบือนจึงเชื่อไม่ได้
พระอนาคามี ที่เกิดบนสุทธาวาสภูมิท่านมีขันธ์ 5 ครบครับ
@@Tunhapapai ต้องปฏิบัติให้เข้าถึงก่อนครับท่านพุทธทาสได้กล่าวไว้ว่าขัณฑ์ห้าคือชีวิตผมก็ยังไม่ถึงผมเชื่อท่านพุทธทาสครับ
เหลือแต่จิตวิญญาณเท่านั้น ไม่มีนะคับ ไม่มีภพภูมิที่มีจิตเพียงขันธ์เดียวคับ สัตว์ในภพภูมิทั่วไปจะมี 5 ขันธ์ครบ ภพภูมิที่มีขันธ์ไม่ครบ ก็จะเป็น อสัญญสัตตา จะมีแค่รูปเพียง 1 ขันธ์ ไม่มีนาม ส่วนอรูปพรหมก็จะมีนาม 4 ขันธ์ครบ ไม่มีรูป , ความจริงชีวิตมันก็ไม่ใช่ขันธ์ห้าหรอกคับ มันยังมีสิ่งที่เรียกว่า ชีวิตรูป ชีวิตนาม (ชีวิตินทรีย์) คอยอนุบาลรักษาอยู่ด้วย ชีวิตมันซับซ้อนกว่าเรื่องขันธ์คับ เช่นมีเรื่อง สภาวรูป อุปาทายรูป, สมุฏฐานเป็นต้น
อนาคามีแปลว่าไม่กลับมาเกิดกามภูมิอีกต่อไป
เกิดชั้นพรหมครับ แต่่ยังไม่ได้เป็นอรหันต์
พระ พุธทวจนก็พูดครับ
อนาคามีเกิดอีหลายชาติมาเพื่อเชื่อมจิตรพวกเจ้า
พระอนาคามีเกิดอีกชาติเดียวชาติสุดท้ายก็บรรลุนิพพานแล้วค่ะ
ลองอ่านดูกลุ่มที่เป็น อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี นะครับ 84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=36&A=4222
ขออนุโมทนา ในการศึกษาพระธรรมครับ
สมเด็จโตยืนยัน พระอนาคามี ลงมาเกิดตามแรงที่เคยอธิษฐานไว้ก่อนเป็นอนาคามี ลงมาเพื่อสงเคราะห์
ua-cam.com/video/vAx6Beo3FHE/v-deo.htmlsi=DNhs90WKTlJMB_hb
อนาคาปฏิมรรค คือ เริ่มที่ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ คือ ละอารมณ์ได้ดุจกระพริบตา ใน เวทนาทุกข์ เวทนาสุข นั่นเองค่ะ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อนาคามี บางคนมีการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศใน เวทนาทุกข์ บางคนมีการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศใน เวทนาสุข บางคนคือการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ ทำให้มีที่เกิดที่แตกต่างกันนั่นเองค่ะ แต่เกิดอีกคราวเดียวก็ ปรินิพพาน นั่นเองค่ะ
เพิ่มเติม ลองอ่านทำความเข้าใจกลุ่ม อุทธังโสโต อกนิฏฐคามี จากพจนานุกรมฉบับประมวลธรรม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) นะครับ
84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=60
สอนผิดครับที่ว่าเกิดอีกหลายชาติครับขอหลักฐานที่ไม่ใช่ความคิดของคุณนะตรับอย่าบิดเบื่อนเพื่อให้เป็นที่ให้โอกาสแก่ตนเองที่พูดเป็นอนาคามี
ลองอ่านดูกลุ่มที่เป็น อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี นะครับ 84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=36&A=4222
ขออนุโมทนา ในการศึกษาพระธรรมครับ
สมเด็จโตยืนยัน พระอนาคามี ลงมาเกิดตามแรงที่เคยอธิษฐานไว้ก่อนเป็นอนาคามี ลงมาเพื่อสงเคราะห์
ua-cam.com/video/vAx6Beo3FHE/v-deo.htmlsi=DNhs90WKTlJMB_hb
@@ภาสวัฒน์บารมีธรรมมารักษ์ ควรเอาพระไตรปิฏกเป็นหลักครับ
นั่นเป็นสายโลกธรรม พระอริยะสงฆ์ท่านอยู่สายโลกุตรธรรม ถึงอนาคามีแล้วทำความเพียรต่อเข้านิพพานเลย มันคนละสายกัน อย่าเอาปริยัติมารวมกับปฏิบัติ เรียนมากรู้มากเลยกลายเป็นสัญญาปิดสัจธรรมเสียหมด ละกิเลสไม่เป็น ได้แต่ตัวหนังสือ กิเลสยิ่งเพิ่ม
@@สมุททิพย์อักษร คุณเป็นพระพุทธเจ้าเหรอคับ ไม่ต้องเรียนปริยัติ ปฏิบัติรู้เองได้ 5555 ใช่ฐานะเหรอคับ ระวังจะวิปลาสนะคับ