Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
เริ่มต้นจากปัญญา ศีล สมาธิ ก่อนง่ายสุดครับ ได้ปัญญาจากการพิจารณาความจริงผ่านกฎ2ข้อ 1.ไตรลักษณ์2.อิทัปปัจจยตา ทุกสิ่งไม่เที่ยงเกิดดับ โดยการ วิปัสสนา ภาวนา พิจารณา ขันธ์5 และอินทรีย์6
ท่านครับ ผมว่าถ้าเลือกสมาธิต้องมาก่อนเป็นลำดับต้น สมาธิเกิดจินตนาการ จินตนาการเกิดปัญญา ปัญญาทำให้เชื่อในศีล มิใช่หรือครับ ผมว่าน่าใช่นะครับ ถ้าท่านนำปัญญามาขึ้นต้น แสดงว่าท่านได้มีปัญญาแล้ว เมื่อมีปัญญา ท่านก็ดำเนินเส้นทางสุปฏิบัณโณ ท่านก็จะพบว่าปัญญานั้นใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงแท้แน่ใหน ได้บรรลุอย่างนี้ส่งผลต่อตัวท่านอย่างไร จะได้มรรคใหนขึ้นอยู่กับสุปฏิปัณโณ มิใช่หรือครับ
สมาธิถ้าไม่มีปัญญาประกอบมีแต่หลงครับปัญญาดังของคมพกของคมเข้าป่าท่านจะเอามีทำครัวเล่มเดียวเข้าป่าหรอครับ เป็นผมไม่ ทางนี้สำหรับผู้ที่เริ่มต้นศึกษา ควรเริ่มต้นจากสติพิจารณาความจริง ใช้ในชีวิตจริงมีสติอยู่ทั้งวันพิจารณาให้ได้ก่อน ไม่ต้องนั่งสมาธิหรอกครับ ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ
@@yoyonut2695ผิดตั้งแต่จินตนาการให้เกิดปัญญาแล้วครับ การเจริญปัญญาไม่เกิดจากสิ่งใดนอกจากความจริง ผ่านการพิจารณากฎ2ข้อถ้าทำถูก สัมมาทิฏฐิ จะได้มา สัมมาสังกัปปะเกิดตามมาต่อไป ปุถุชนทำได้ด้วยการ วิปัสสนาภาวนาพิจารณาขันธ์5และอินทรีย์6 พิจารณาเมื่อถูกกระทบสัมผัสไม่ถูกกระทบก็ไม่พิจารณา แบบนี้เรียกว่าการเจริญปัญญา ไม่ใช่การจินตนาการ
@@MahesuanPuangmala บางคนสมาธิหลุดออกนอกอวกาศไปไกล ทำต่อไม่ได้
@@cate-y3b ใช่ครับเช่นนี้เขาเรียกว่าทำลายกายละเอียดตนด้วยมิจฉาสมาธิ ทำแบบผิดๆ ต้องไล่กันใหม่หมด
เป็นบทความที่ร่วมสมัย ฟังไม่น่าเบื่อ จากผู้ให้เสียงและภาพประกอบ ถ้าได้ฟังจบคือ คนทำคลิปทำการบ้านมาดีมาก เพราะจริงๆพระพุทธเจ้าสอนให้เรามีสติ ถ้าเรามีสติพอ เราจะไม่ผิดศีล เมื่อมีศีล จิตเราจะนิ่งและมีสมาธิ และเมื่อมีสมาธิ ความโลภ โกรธ หลง จะไม่มี จิตจะผ่องใส และจะเกิดปัญญา ขอบคุณมากค่ะ วัยรุ่นก็ฟังสนุก ให้กำลังใจทำคลิปต่อ
ทุกข์ ทำให้เกิดความรู้สึก สำรวม สำนึก ไตร่ตรอง พิจารณา ค่อยๆเข้าไปหาทำให้เกิดศรัทธา พอมีศรัทธา ก็เริ่มคิดดีทำดี โดยการยึดกรอบของศีลโดยมีตัวประคองคือ หิริโอตตัปปะ จากนั้นทุกๆการพิจารณาหรือตริตรึก จะทำให้เกิดปัญญา โดยการเริ่มเห็นสัจจะความจริงมากขึ้น ว่าทุกข์และปัญหาเกิดจากอะไร ตัวนี้ สามารถยึดเป็นหลักได้เลย คือ อริยสัจสี่ แต่ทุกการปฏิบัติไม่ง่ายเพราะจิตรับรู้ในเวทนา สัญญา สังขารได้เร็ว เพราะมันเป็นธรรมชาติของสัตว์ คือ อวิชชาเป็นเครื่องกั้น ตัณหาเป็นเครื่องผูก จึงไม่ง่าย ขนาดสมณะที่อยู่ในศีลในธรรมถ้าจิตไม่มั่นคง หรือเห็นสัจจะความจริง บางทีจิตก็เพลินไปกับเวทนาต่างๆได้ ไหนจะนิวรณ์ 5 อีก / ถ้าจะแนะนำในการปฏิบัติธรรม คือ เห็นอนิจจังบ่อยๆ เห็นอนัตตาบ่อยๆ เห็นอารมณ์ที่มันหม้อดไหม้บ่อยๆหลังจากได้สนองกิเลส เพื่อให้เกิดการละความยึดมั่นในตัวตน ในอารมณ์ เพราะการยึดในตัวตนหรือยึดในอารมณ์ คือ การมีอวิชชา คือ หลงที่นำไปสู่ ปัญหา หรือ ทุกข์ หรือ มรณะได้ และถ้าจะไม่ให้ชีวิตวุ่นวายหรือมีปัญหา เราต้องดับที่ต้นเหตุก่อน ด้วยการนำ อิทัปปัจจยตา มาไว้ในจิตตลอดเวลา เพราะอิทัปปัจจยตา ทำให้เรารู้เหตุเกิดทุกข์และสามารถดับเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ได้ แต่อย่างที่บอกไม่ง่ายเพราะจิตไวต่อผัสสะและเวทนา
สาธุครับ นิพพานในชาตินี่หรือชาติหน้าได้ครับ
ขอขอบคุณ คุณทำให้การฟังเรื่องมรรคมีองค์น่าสนใจและเข้าใจง่ายมากขึ้น😇
ขอบคุณครับ
คนตาดีแบบเจ้าของช่องนี่หายิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรแท้ ขอให้สร้างความรู้ ความดีต่อไปนะคราบ สาธุอนุโมทนาสาธุ
ยิ่งฟังก็ยิ่งได้คิดตาม เนื้อหาดีมากๆค่ะ
ขอบคุณที่นำหลักธรรมดีๆ ของพระพุทธเจ้ามาเผยแพร่ ท่านมีเมตตาสอนให้เราเห็นความจริงของโลกใบนี้ ถ้าท่านใดรู้สึกชีวิตว่างเปล่า มีทุกข์แฝงอยู่ทุกอิริยาบถ ลองศึกษาดูครับเช่น การพิจารณาใคร่ควรญ อารมณ์ที่เกิดขึ้น เห็นคุณและโทษ และการดับลงของอารณ์นั้นๆ ก็จะเริ่มเห็นการทำงานของโลกใบนี้ โชคดีครับ
การคิดดี พูดดี ทำดี ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน เท่านี้ก็ถึงความสุข สงบ ได้ไม่ว่าจะยืนเดินนั่งหรือนอน ผู้ปฏิบัติพึงรู้ได้ด้วยตนเอง สามารถพิสูจน์ได้
เสนอเนื้อหาได้ดีมากๆ เพียงแต่ไม่อยากให้ใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพหยาบคาย สัมมาวาจา ครับ อย่างไรก็ดี ชอบและขอบคุณครับ
ดีแล้วงามแล้วเจริญๆยิ่งขอรับ ขอ..อนุโมทามิ,,สาธุครับ
🙏🙏🙏
สาธุ...เป็นการสอนธรรมที่ฟังไม่ยาก เข้าใจง่าย ถูกใจคนรุ่นใหม่ครับ
ความตั้งใจ จะทำให้เจริญสติได้ ถ้าไม่มีความตั้งใจ การเจริญสติก็เกิดขึ้นไม่ได้ เจริญสติได้จะทำให้เกิดความเข้าใจ เกี่ยวกับตัวเอง เข้าใจเกี่ยวกับตัวเองแล้ว จะทำให้ความเข้าใจผิด ลดลง พอเข้าใจถูก ความสุขก็มีมากขึ้น ความสุขมีมากขึ้น ความตั้งใจก็เพิ่มขึ้น ความตั้งใจเพิ่มขึ้น ก็เจริญสติได้มากขึ้น องค์ธรรมเหล่านี้จะรวมตัวกัน เกื้อหนุนกัน จนเต็ม
ถ้าท่านบอกว่าเจริญสติ ใช่หรือเปล่าสติคือ การระลึกรู้อยู่ตลอดเวลา รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ เช่นออกบิณฑบาตเท้าย่าง เหยียบ โดยการกำหนด เดินด้วยตีนเปล่า ตามทางย่อมมีทั้งพืชและสัตว์ ทุกก้าวย่างย่อมมีพืชและสัตว์เล็กสัตว์น้อย ถูกพรากบ้าง ถูกกระทำบ้าง ขณะรับบิณฑบาตก็พิจารณาว่า เรามารับบิณฑบาต อาหารนี้เพื่อ กลับถึงวัดต้องปลงอาบัติ ก่อนฉันท์ต้องถวายข้าวพระพุทธ ฉันท์เสร็จต้องให้ศีลให้พรกับผู้ที่ตักบาตรทำบุญด้วยอาหาร ถ้าเป็นฆราวาส เราจะเจริญสติแบบผู้บวชไม่ได้ ภาระกิจประจำวันท่านต้องใช้ความรู้ ความชำนาญ ความถนัด ต้องกำหนด ต้องวางแผน ผมว่ามันต่างกันนะครับ เราจะเจริญสติได้ก็ตอนที่ท่านพินิจ พิจารณา สังเกตุ ค้นคว้า ค้นหา หรือถ้าแพทย์ผ่าตัดอันนี้เรียกตั้งสติ แสดงว่าได้ฝึกการมีสติมาก่อนแล้ว ครับไม่รู้ว่าผมงงกับการใช้คำหรือเปล่า เพราะความเข้าใจเรื่องสติผมมองว่า มันแยกกันนะครับระหว่างนักพรต กับมนุษย์ทั่วไปครับ ผมสับสนตรงใหนช่วยบอกทีครับ
🙏🙏🙏😇
ขอน้อมกราบอนุโมทนาบุญ และขอบพระคุณมากๆค่ะที่นำเสนอธรรมะที่ทำให้น่าสนใจมากๆเจ้าค่ะ🎉🎉🎉
ทำความเข้าใจกับบทสาธยายธรรมคุณในบทสาธยายอิติปิโส_เห็นธรรม_รู้ธรรม_ถึงธรรม_บรรลุธรรม/สาธุธรรม_สาธุธรรม_สาธุธรรม/อนิจจัง_ทุกข์ขัง_อนัตตา_
น้อมกราบอนุโมทนา สาธุ พุทธบริษัท 4 ที่ได้ทำบุญสร้างกุศลทั้งหลายไว้ในพระพุทธศาสนาและได้เผยแผ่พระธรรมในพระพุทธศาสนาที่ถูกต้องทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ด้วยครับ นิพพานังปัจจโยโหตุ นิพพานังปรมังสุขขัง นิพพานังปรมังสุญญัง
ศาสนาพุทธ เป้นของคู่กับโลกนี้และโลกอื่นมรรคองค้8มันมีอยุ่แล้วแค่พระพุทธเจ้าเป่นคนค้นพบคนแรกในกัปล้นี้เท่านั้นส่วนกัปล้อื่นๆก้อมีพระพุทธเจ้ามาหลายองค้มาแล้ว
ภาพสวยงามมาก❤
ผมกำลังจะฆ่าตัวตายแต่ผมมาเห็นคริปนี้ก่อนเลยตัดสินใจว่า ผมไม่ทำแล้ว ผมขอขอบคุณคริปนี้มากเลยนะครับ:)
อย่าคิดสั้นนะมีอะไรไห้ค้นหาอีกเยอะบางอย่างเรากำลังได้เห็นแต่เราไปตัดสินชีวิตผิดน้องเอ้ย อย่าไห้มารมาครอบงำทำอะไรผิดๆไม่ดีแก่ตนเองน้องรออีกนิดจะเห็นยุค ศิวิไลซ์ แล้วทุกอย่างพร้อมรอนายกแถลงเท่านั้น
การคิดฆ่าตัวตาย ก็คงเข้าใจว่าจะหยุดทุกอย่าง แต่ในความเป็นจริง มันคือประตูไปสู่ที่ใหม่ แล้วที่นั่น จะกันดาร จะลำบาก กว่าที่เป็นอยู่อีก ท่านควรหาความรู้ จะไม่ทำให้ท่าน ตัดสินใจผิดบนข้อมูลที่น้อย
ดีแล้วงามแล้ว ท่านพร้อมตื่นแล้วครับอภัยทานให้หมดเริ่มจากฟังบทสวด และจิตท่านจะน้อมเข้าหาเอง จากศีล5ก็จะมาได้ศีล8 สวดมนต์เช้าเย็นไม่ถึง2เดือนก็เริ่มจะนั่งสมาธิเอง นั่งแค่ไม่ให้จิตออกนอกครับ พุทธโธ รึจะนับลมหายใจ ทำไปครับ ขอให้จำไว้ว่าอย่ากลัวครับตายก็ให้มันตายไปกับพุทธโธ พอสมาธิได้ที่จะมีเสียงโครมครามเหมือนฟ้าผ่าลงหลังคาบ้าน พอสมาธิหลุดก็เข้าใหม่แต่คราวนี้จะเข้าง่ายครับ ไม่ต้องอยากรู้ว่าได้อะไร รู้แค่ว่าพอเข้าสมาธิได้แล้วสงบและรู้ว่าทำไมเราถึงโดนขนาดนี้ เราทำเขามายิ่งกว่านี้ครับ ศีลสมาธิบริสุทธิ์ถึงขั้นยุงไม่กัด ผึ้งไม่ต่อยก็พอครับ แต่ถ้าจิตออกนอกคลื่นตรงกันกับวิญญานตายโหง ก็มีวิ่งขึ้นมาถึงคอบ้าง แต่ก็ไม่ต้องห่วงนะครับ พุทธธังสะระณังคัจฉามิ ธรรมมังสะระณังคัจฉามิ สังฆังสะระณังคัจฉามิ ครับจบเดียวหายครับ ที่เล่ามาผมฟังมาจาก คนบ้าที่โดนทรยศมา10ทิศ ที่พึ่งทางใจเดียวก็คือแม่ ก็เป็นอัลไซเมอร์อีก เขาเลยได้กินเผือกกินมันแทนข้าวมา2ปีคุยแต่กับอีกากับหมาหลงทางครับ แต่ดูเค้าจะรู้นะครับว่าโลกมันบิดเบี้ยวเพราะเค้าเข้ากับใครไม่ได้เลยครับ มนุษย์ชอบเบียดเบียนเค้าเลยคุยแต่กับ สรรพสัตว์สรรพสิ่งทุกอณูและวิญญานครับ ดูเค้ามีความสุขดีครับ เพราะในโลกนี้คงไม่มีอะไรทำเค้าสะเทือนได้อีกแล้วมั้งครับ555 ผมเป็นคนไม่เคยคอมเม้นใครเลยนะครับ เห็นคุณคงจะร้องให้จนน้ำตาไม่สามารถไหลได้อีกแล้วเลย อยากเอาสิ่งที่คนบ้าที่ผมเคยเห็นมามาเล่าให้ฟังครับ สู้นะ ครับ
ตายอะดีแล้ว หลุดพ้น
ตัดทางโลก คือ ไม่รู้ไม่คิดไม่ทุก คิดมากกังวลไม่สายใจ ตัดทุกทางเป้นสะพานปันหา
ขอบคุณเนื้อหาที่เรียบเรียงนำมาเสนอให้ได้รับชมรับฟังมากๆครับ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั่นเห็นเรา เป็นกำลังใจให้ผลิตผลงานต่อไปครับ 🙏
❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤สาธุ สาธุ สาธุ
เป็นกำลังใจให้ทีมงานครับ
สาธูๆคะ
ขอขอบคุณ😊
แค่ได้ฟังสองสามนาทีก็ถูกจริต ติดตามเลยพี่ ธรรมะ มันส์ๆ 😅😅😅😅
ข้าพเจ้านายเทวกฤต นุ่มนวน ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ 🙏
คลิปนี้ดีจัดเลยครับ ภาพประกอบ เสียงพากย์ แล้วการอธิบายที่ฟังง่าย เป็นกันเอง 🙏🏻✨💯 บุคคลหาได้ยากในโลก 🌍
ฟังจบแล้ว เข้าใจได้ง่ายๆ ไม่ได้ยากเลยในการ ทำความดีเพื่อ ถึงพระนิพพาน
อย่าว่าผมมืดบอดนะครับ ผมเข้าใจว่านิพพานคือการไปจากโลกใบนี้ พันไปจากโลก แต่อรหันต์ยังไม่พ้นไปจากโลกนี้ ยังวนเวียนมาเกิดนะครับ เห็นหนังสือสวดมนต์หน้าหลังสุดได้เขียนแผนผังไว้อย่างนี้ ท่านเป็นผู้ฝักใฝ่ในทางนี้ นิพพานคือจุดประสงค์สุดท้ายที่ทุกศาสนากำหนดไว้ ผมว่าผมเรียนรู้มาไม่ผิดในคำว่านิพพาน คือไม่วนเวียนมาเกิดบนโลกนี้ ในทางวิทยาศาสตร์กลับตรงกันข้าม วิทยาศาสตร์บอกไว้ว่าสัตว์เป็นผู้ที่ทำหน้าที่รักษาสมดุลย์ของโลก พืชปกป้องโลก พืชมีหน้าที่ป้องกันดินมิให้น้ำ ลม ไฟ ทำลายดิน ดินเป็นมวลสารของโลกเป็นที่สถิตเสถียรของน้ำ ของลม ของไฟ ดังนั้นนิพพานจึงไม่เป็นสิ่งที่ควรสรรเสริญให้มีขึ้นกับสรรพสัตว์ จิตวิญญาณทุกอย่างครับ และจิตวิญญาณมิต้องการคืนสู่จักวาลที่มืดมิด วิเวก เดียวดาย อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งเป็นร้อยเท่า ถ้าท่านเข้าใจที่มาของจิตวิญญาณ จิตวิญญาณเขาไม่ต้องการจริงๆครับ
@@yoyonut2695 การเข้าใจผิดก็แก้ให้ถูกได้ โดยการค้นหาคำตอบจากผู้รู้จริง คือบุคคลผู้มีตาทิพย์ หูทิพย์ และมีญาณทิพย์ บุคคลเหล่านี้ ไม่ใช่คนรวย ไม่ใช่จบดอกเตอร์ ไม่ใช้ผู้เรียนจบกาศึกษาทางโลก ค้นหาให้พบ แล้วคุณจะรู้จริง มีศาสนาเดียวที่สอนเรื่องพระนิพพานไว้ชัดและมีอริยะบุคคลเห็นแจ้งด้วยการปฏิบัติจนสำเร็จคือพุทธศาสนาเท่านั้น เรื่องพระนิพพานกับเรื่องทางวิทยาศาสตร์ ต่างกันเหมือนฟ้ากับดิน นักวิชาการพยายามเขียนเรื่องให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เทียบเท่ากับศาสนาพุทธ หากใครเชื่อก็หลงทาง ครับ
ขอบคุณมากครับ!
สาธุ พุทธวจน 🙏🏼🎶🌹
ฟังแล้วมีปัญญาขึ้นมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆแบบนี้นะคะ น้ำเสียงและภาษาที่ผู้พูดใช้ให้ความรู้สึกชักชวนตลอดว่าเราต้องเข้าไปค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง ไม่ดูน่าเบื่อ คลิปนี้ต้องมีประโยชน์กับหลายๆคน หลายช่วงวัยแน่ๆ 👍👍👍
เพราะคุณมีปัณญาอยุ่แล้วภายในตนเองนะคร้บ
ถ่ายทอดได้ดีมากๆเลยคับ ติดตามและเป็นกำลังใจให้ผลิตคลิปที่ดีและมีประโยชน์ออกมาเรื่อยๆนะคับ อนุโมทนาบุญกับผู้จัดทำด้วยนะคับสาธุ🙏🙏🙏
กราบ อนุโมทนาบุญกับหลักธรรมคำสอนครับ สาธุ 🙏
สาธุสาธุสาธุ
สาธุครับ❤
🙏
เยี่ยมเลยครับ....สาธุๆๆ
ขอขอบคุณ
ขอบคุณครับ
สวัสดีแอดตามดูคลิปไปเรื่อยๆ คลิปแอดฟังตัองมีสมาธิถึงจะเข้าใจละเอียด บางคลิปต้องดูหลายๆครั้งค่ะ
ผมดูทุกคลิปเลยนะครับ เเอ้ดมินพูดเหมือนเข้าใจทุกอย่าง😊(รู้เเจ้ง)
สุดยอดครับ❤ จะนำไปปฏิบัติดูครับ 🙏 เริ่มจากทีละนิดๆ 😄 🌄
คลิปดีงามมากเลยครับ ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณเนื้อหาคำสอนครับอาจารย์
สาธุค่ะ 34:31
ขอบคุณท่านที่ชี้แนะแนวทางธรรม🙏🙏🙏
สุดยอดการนำเสนอที่สมบูรณ์แบบ และผมเชื่อว่าจะได้ความลึกของความรู้อย่างแท้จริง ติดตามครับ❤❤❤
ถ้าอยากเห็นเส้นทางก็พิจาราณาอสุภะธาตุก่อนจะเดินถูกเองวิธีดูธาตุที่เร็วที่สุดคือเน้นใช้ความรู้สึกไม่ใช้ตาอันนี้เป็นวิธีส่วนตัวที่ใช้มานะตอนเห็นก็เพราะเห็นด้วยวิธีนั้นอยู่เฉยๆนิ่งๆสบายที่สุดไม่จำเป็นต้องนั่งหลับตา เอามือขยำฝุ่นดินและดินเหนียวดินทรายดูว่าความรู้สึกในสภาพของดินนั้นเป็นยังไงแล้วเอาความรู้สึกที่สัมผัสได้นั้นมาระลึกไว้ว่าร่างกายนี้กับดินนั้นเป็นเนื้อเดียวกันให้เอาความรู้สึกของความเป็นดินนี้มาอยู่กับกายนี้มันคือสิ่งเดียวกันมันคือเนื้อเดียวกันจดจ่อรู้สึกอยู่กับตัวแบบนั้นยังไม่ต้องสนใจอย่างอื่นยังไม่ดูความคิดแต่เมื่อความคิดมาไม่ปรุงต่อปัดทิ้งไปอยู่ทุกครั้งเน้นที่ความรู้สึกกำหนดรู้ธาตุก่อนถ้าต้องการรู้ความจริงในเรื่องธาตุก่อนปัดทิ้งอยู่เรื่อยๆพอเริ่มจะรวมก็อย่าใส่ใจอะไรเน้นความรู้สึกไม่ใช้ตาเวลาที่จะรวมเห็นชัดๆความคิดทุกอย่างหรือจะอารมณ์วิ่งเข้ามาไกล้ไม่ได้มันเด้งออกไปเด้งอยู่3วิ ดิ่งลงจนสุดมีแสงสีขาววาปขึ้นมาพร้อม กับมีเสียงดังก้องขึ้นมาว่าดินก็เป็นอยู่อย่างงั้นต่อจากนั้นจึงจะเห็นกิเลสทุกตัวที่ผูกมัดเอาไว้ในจิตใจ
อนุโมทนาสำหรับเนื้อหาครับ ขอบคุณมาก
เยี่ยมเลยค่ะ อธิบายได้ดีกลมกลืน และร่วมสมัยค่ะ อนุโมทนาสาธุค่ะ🙂💖🌷
❤
แค่มีความศรัทธาอย่างลงมั่นในพระพุทธเจ้าในพระธะรรม(พุทธวจน)ในพระสงฆ์ มีศีล๕ที่บริบูรณ์ หากินโดยธรรมโดยไม่เครียดครัด ก็เป็นฆราวาสชั้นชั้นเลิศก็เพียงพอที่จะก้าวล่วงพ้นจากทุคติวินิบาตนรก ก้าวสู่ภูมิที่ถูกต้อง จิตโน้มไปเอียนเอียงไปสู่นิพพานในกาลเบื้องหน้าแล้วละครับ
ท่านครับ นรก สวรรค์ท่านไปไม่ถึงหรอกครับ ด้วยศีล 5 ท่านก็ไม่รอดมาจากท้องแม่แล้ว แม่ไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่กินพืช ดินแต่เกลือ แม่ก็ไม่รอดเป็นแม่ท่านได้ ท่านก็ไม่มีโอกาสปฏิสนธิ มันจบครับถ้าท่านยึดศีลเป็นสรณะ เราหลงทางนี้มา 3,000 ปีแล้วครับ ถ้าท่านจะบอกว่าสิ่งนี้เป็นอาหารให้มนุษย์ ใช่ครับ ถูกต้องครับ และเป็นหน้าที่ต้องกินครับ เป็นหน้าที่จริงๆครับ
@@yoyonut2695 :ถูกต้องแล้วครับผู้รักษาศีล๕ ปิดหนทางไปนรก แต่เปิดหนทางไปสวรรค์นั้น ไปถึงได้ครับ แต่หากคิดว่าสิ่งนี้(การฆ่าสัตว์)เป็นอาหารให้มนุษย์ ชอบที่จะฆ่ามันหรือบัญญัติให้มีการฆ่า นั่นแหละหนทางไปนรกละ.! ส่วนเรื่องไม่กินพืช ไม่กินเนื้อสัตว์ ในศาสนาพุทธ ไม่มีห้ามครับ กินได้ปกติ ส่วนเด็กทารกการรอดออกมาจากท้องแม่ได้หรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับการรักษาศีล๕ ของมนุษย์ผู้เป็นแม่แต่ประการใด.ครับ สรรพสัตว์ร่างกาย ย่อมอยู่ได้ด้วยอาหาร. สรรพสัตว์ผู้ถูกการเกิดครอบงำแล้ว ย่อมรักตัวกลัวตายกลัวถูกการถูกฆ่าทั้งนั้นไม่ว่าสุตว์นั้นจะเป็นมนุษย์ หรือ สัตว์เดรัจฉาน โค-กระบือ-แพะ-แกะ-ไก่ฯลฯ ก็ตามนะ! หรือคุณได้เกิดแล้ว ยินดีที่ให้ถูกเขาฆ่าหรือไม่ละครับ! ?
@@yoyonut2695 :ภัยเวร๕ประการ ที่ผู้รักษาศีล๕ ไม่ต้องตกไปสู่อบายอีกแล้ว...(ไม่ต้องตกนรก,หรือไม่ต้องไปเกิดเป็นกำเนิดเดรัจฉาน,หรือ เป็นเปรตวิสัย) ภ้ยเวร๕ประการเหล่าไหนเล่า อันอริสาวกทำให้สงบรำงับได้แล้ว? (๑) คหบดี! บุคคลผู้ฆ่าสัตว์(สัตว์เดรัจฉาน-มนุษย์) เป็นปกติอยู่ ย่อมประสพภัยเวรใดในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน) บ้าง; ย่อมเสวยเวรใดในสัมปรายิก(ในเวลาถัดมา)บ้าง; ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสแห่งจิตบ้างเพราะปาณาติบาติ(การฆ่า)เป็นปัจจัย ภัยเวรนั้นๆ เป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วจากปาณาติบาต(การฆ่า) ทำให้สงบรำงับได้แล้ว. (๒) บุคคลผู้ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้(ขโมย) เป็นปกติอยู่ ย่อมประสพภัยเวรใดในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน) บ้าง; ย่อมเสวยเวรใดในสัมปรายิก(ในเวลาถัดมา)บ้าง; ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสแห่งจิตบ้างเพราะถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้ เป็นปัจจัย ภัยเวรนั้นๆ เป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วจากการถือเอาของที่เจ้าของมิได้ให้ ทำให้สงบรำงับได้แล้ว. (๓)บุคคลผู้ประพฤติผิดในกามทั้งหลาย เป็นปกติอยู่ ย่อมประสพภัยเวรใดในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน) บ้าง; ย่อมเสวยเวรใดในสัมปรายิก(ในเวลาถัดมา)บ้าง; ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสแห่งจิตบ้างเพราะประพฤติผิดในกามทั้งหลาย เป็นปัจจัย ภัยเวรนั้นๆ เป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลายทำให้สงบรำงับได้แล้ว. (๔)บุคคลผู้กล่าวคำเท็จ(พูดโกหก) เป็นปกติอยู่ ย่อมประสพภัยเวรใดในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน) บ้าง; ย่อมเสวยเวรใดในสัมปรายิก(ในเวลาถัดมา)บ้าง; ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสแห่งจิตบ้างเพราะการกล่าวคำเท็จ เป็นปัจจัย ภัยเวรนั้นๆ เป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วจากการกล่าวคำเท็จ ทำให้สงบรำงับได้แล้ว. (๕) บุคคลผู้ดื่มสุราและเมรัย(เหล้า-สิ่งมึนเมา)อันเป็นตั้งของความประมาทอยู่เป็นปกติ ย่อมประสพภัยเวรใดในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน) บ้าง; ย่อมเสวยเวรใดในสัมปรายิก(ในเวลาถัดมา)บ้าง; ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสแห่งจิตบ้าง เพราะการดื่มสุราและเมรัย ฯเป็นปัจจัย ภัยเวรนั้นๆ เป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วจากการดื่มสุรา-เมรัยอันเป็นที่ตั้งของความประมาท ทำให้สงบรำงับได้แล้ว. ภัยเวร๕ประการเหล่านี้แล อันอริยสาวกทำให้สงบรำงับได้แล้ว อ้างอิง พุทธวจน หมวดธรรม เล่มที่ ๒ คู่มือโสดาบัน หน้า ๑๑
@@yoyonut2695ศานาพุทธห้ามกินเนื้อสัตว์ห้ามกินพืชเอามาจากไหนครับ บ่งบอกว่าคุณไม่เข้าใจนะครับ หรือเรียกว่าหลงผิด ศาสนาพุทธห้ามฆ่าสัตว์ครับ ถ้าสงสัยอะไรก็ถามมาได้ครับผมยินดีตอบ
@@yoyonut2695ยิ่งคุณบอกคนมีหน้าที่ต้องกินสัตว์นี่ คือ ใครบอกคุณเหรอครับว่า คนมี "หน้าที่" ต้องกินสัตว์
1🙏พระพุทธ 2🙏พระธรรม 3🙏พระสงฆ์ สากล2024/1/25 ค.ส สำหรับส่วนตัวผมแล้วผมใช้ พ.ส2567 ผมคนลาวครับรู้แจ้งเห็นจริงสำหรับส่วนตัวผมน่ะ(ช่องนี้ไม่ธรรมดา)ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ+มากๆจากใจจริง🙏🙏🙏
เอฟซีจากแมคม่านะครับ
ขอบคุณครับ😊❤😊
คุณนำเสนอ ได้เยี่ยมมาก นายแน่มาก ซูฮกๆ
ชอบตรง “ ไม่ควรเชื่ออะไรง่ายๆ” เพียงเพราะคนอื่นบอกให้เราเชื่อ“
ขอชื่นชมการนำเสนอของช่องครับแตกต่างและเข้าถึงง่ายขึ้น ขอบคุณหลายๆครับ
กราบสาธุสาธุสาธุครับ
ทำแบบนั้น ได้อย่างนี้ ทำแบบนี้ เป็นอย่างไร มาจนเป็นตัวเรา ตัวเค้า ทำแบบเรา ได้แบบไหน เป็นอย่างเรา ก็ตัวเค้า ได้อย่างไร ความเข้าใจ ที่มาอยู่ในยุคสมัย ของ พุทธฯ ที่จะดำเนินการยอมรับ รับรู้จัก ได้ตามสภาพของ การรู้ตนเอง อย่างไร ต่อ สถานะ สิ่ง ที่ค่อยๆจัดการ ความชัดแจ้ง ในความหมาย ต่อกัน ❤ ขอบคุณครับ👍😃
yes
นำเสนอได้ดีครับ จะรอชใใน content ศาสนาพุทธ เรื่อยๆ นะคัรบ
สาธุๆๆ ค่ะ😊😊
สุดยอดขอบคุณค่ะ❤
ขอบคุณมากครับ
ความเข้าใจในมรรคแปดของแต่ละคนต่างกัน…ถ้าเป็นปุถุชน ก็มองแบบปุถุชน แต่เมื่อนำไปปฏิบัติ ก็นำความสุขมาให้ถ้าเป็นพระอริยชน ก็จะมองรู้แบบพระอริยเจ้า ย่อมนำไปสู่มรรคผลนิพพาน ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ
มนุษย์เกิดมาย่อมมีอืนทรีย์๕ที่สั่งสมมาไม่เท่ากัน พระศาสดาจึงอุปมาหมือน บัว๓เหล่าครับ แค่ขอให้มีสัญญาและใจ(ที่ปกติ) ก็สามารถบรรลุธรรมได้ ครับ
ชอบค่ะ
มาแล้ว มรรค8
ขอบคุณมากนะค่ะ....สาธุ
❤❤🙏
กำลังรอเลย
❤ทานศีลภาวนาสาธุคะ
❤ เข้าใจง่ายมากครับ
❤เยี่ยมครับ อนุโมทนา.
สาธูค่ะ
เยี่ยม
ความตื่นเต้น ที่คุณเลือกได้
หินยานไม่ได้หมายถึงความยากในการบรรลุธรรมนะครับ แต่หมายถึงยานลำเล็กๆ คับแคบ นำพาสัตว์ให้พ้นจากความทุกข์ได้น้อย ซึ่งเป็นเรื่องยากที่สัตว์น้อยใหญ่จะช่วงพ้นจากความทุกข์ เหตุเพราะหินยานถูกมองว่าเป็นการเอาตัวรอดเฉพาะตนเองก่อน (อริยบุคคล ๔ ประเภท) แล้วจึงช่วยผู้อื่น โดยมีเป้าหมายคือสำเร็จเป็นอรหันต์ ซึ่งต่างจากมหายานที่เชื่อว่าจะช่วยสัตว์ให้พ้นจากความทุกข์ได้มากกว่า ด้วยยานลำใหญ่ กว้างขวาง (มหายาน) โดยมีเป้าหมายเป็นพระโพธิสัตว์ ...ก็ประมาณนี้ครับ
เปิดหัวมาน่าฟังเลยนะครับ เเต่พอเริ่มทำเสียงพากษ์ตาก็เริ่มจะปิดละ
ภาคสุดยอด😊
เมื่อเข้าใจว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ธรรมทั้งหลายไม่มีเรา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือ เช่นไร อริยมรรค มีองค์ 8 จริง สัมมาศีล สัมมาสมาธิ สัมมาสติ คืออะไร หากเข้าใจผิดเพี้ยนจึงสอนผิดเพี้ยน จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด เพราะเจตนาดี
ศาสนาพุทธส่วนทางกับทางโลก ทางโลกเขายินดีกับวัตถุสิ่งของที่หามาได้แตะต้องได้ เลยทำให้คนยึดติดว่านี้คือความสุขที่ต้องหาต้องมีข้าวของเงินทองเยอะๆมาบำเรอความต้องการของตัวเอง โดยไม่รู้ว่านั้นมันทำให้ใจเป็นทุกข์กับสิ่งที่ต้องดิ้นรนหา หามาได้มากแต่ก็ไม่รู้จักพอ พอมีสิ่งนี้ก็อยากได้สิ่งนั้น กิเลสในใจคนหาให้มากเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม และก็ไม่มีวันสิ้นสุดกับความต้องการ แต่ทางธรรมเมื่อว่ายนําถึงฝั่งก็จบกิจเลยไม่ต้องกับมาเป็นทุกข์กับการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ
ขอท่านลองมองในแง่ตรงกันข้ามซิครับ ทางโลกท่านเกิดก่อน ทางธรรมท่านเกิดทีหลัง ท่านเป็นลูกพ่อ ลูกแม่ นานเท่าไรจึงได้เป็นลูกศาสนา ใครมีอำนาจกับชีวิตทุกคน ทางโลกหรือทางธรรม ที่ท่านเห็นว่าทางโลกละโมบ ท่านก็อยู่ทางโลกตลอด ทางธรรมของพระสมณโคดมท่านไม่ได้เข้าถึงได้ ท่านได้แค่พอจะรู้ แต่ธรรมะของท่าน ท่านชัดเจน ทำไมคนต้องละโมบโลภมากท่านก็ใช้ธรรมะของท่านชี้ชัดได้ครับ ธรรมะของท่านไม่มีข้อห้ามครับ ถ้าผมชี้ว่าเพราะรักขีวิตครับที่ทำให้คนโลภ ที่ตัวท่านเองเลย ท่านก็มีคำตอบ และตอบตรงกับผม เพราะท่านเชื่อว่าถ้ามีเงินมันซื้อได้ ถ้ามีสมบัติมันมั่นคงมิใช่หรือครับ
สาธุ
ต่อให้เราฟังคนมากมาย แต่ไม่เคยปฏิบัติเอง ก็จะไม่มีวันรู้แจ้งเห็นจริง เช่น การนั่งสมาธิ เปรียบเสมือนคุณอยู่กลางทะเล จะมีคลื่นลมคอยพัดตลอด ถ้าเราสามารถควบคุมจิตให้นิ่งได้ ผมว่านั้นแหละ คือก้าวแรกที่จะนำไปสู่ การปล่อยวาง
สุดยอด
ขอบคุณค่ะ😊
ขอบคุณมนุษย์ต่างดาว
😂😂😂😂
😶🌫️😡😶🌫️
เหมือนจะง่าย แต่ยาก เหมือนจะทำไม่ได้แต่เกิดขึ้นได้ ปฎิบ้ติเห็นเองรุ้สึกเอง ตื่นจากการหลับไหลในปัณญาการมองตนเอง
ขอบคุณสำหรับสาระดีๆครับ
ขอบคุณครับ ผมเพิ่งเริ่มต้นศึกษา ชอบคลิปของคุณมากครับ
เยี่ยมครับ
ิอยากออกบวชละกิเลศทางโลกแต่ทำยากเหลือเกิน เพราะเราเกิดมาในยุคที่มีแต่สิ่งยั่วยุทางกิเลสทั้งนั้นเลย ยิ่งเจริญทางด้านวัตถุมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ความบันเทิงเยอะแยะมากมาย มันยิ่งเพิ่มพูลสิ่งยั่วยุให้เกิดกิเลศ ให้เกิดความต้องการให้กับตัวเอง ต่างจากยุคสมัยก่อน เช่นสมัยหลวงปู่มั่น ที่มีพระละกิเลศได้มากมายเพราะสมัยก่อนไม่มีอะไรเลยเทคโนโลยี สิ่งยั่วยุแทบไม่มีมีแต่ป่าเขา บ้านนอกคอกนาสภาพชีวิตคนสมัยก่อนเอื้อแก่การปฏิบัติได้ง่าย ถ้าเลือกเกิดได้ขอไปเกิดยุคนั้นดีกว่า แม้ว่าสมัยนี้จะมีสิ่งที่ทันสมัยทุกอย่างก็จะไม่เลือก
❤❤❤
เยี่ยมมากค่ะ
ขอบคุณมากๆๆครับ
กราบสาธุครับ
สวัสดีครับแอดมิน ว่าที่ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษา📚✏📚✏
หากใครฟังแล้วยังหาจุดสิ้นสุดไม่ได้ ลองอ่านสิ่งที่ผมตีความให้ครับ ธรรมะ คือ แนวทางปฏิบัติที่จะพาให้เราหลุดพ้นจาก เกิด แก่ เจ็บ ตาย ซึ่งการที่จะหลุดพ้นคือ ไปสู่นิพพาน นิพพานคือสภาวะ ไร้ตัวตน ไร้ยิ่งกว่าความว่างเปล่า คือ สภาวะที่ไม่วนกลับมาเกิดอีก เมื่อไม่กลับมาเกิด ก็จะไม่เกิดวัฏจักร เกิด แก่ เจ็บ ตาย คือหลุดพ้น แล้วนิพพานจะเกิดขึ้นตอนไหน นิพพานจะขึ้นตอนเราใกล้ตาย ถ้าในทางวิทยาศาสตร์ก็คือ ตอนเราใกล้ตาย สมองเราจะดึงภาพความทรงจำในชีวิตทั้งหมดมาแสดง หรือคำโบราณคือ เห็นหน้าพ่อแก้วแม่แก้วลอยมาเลย ตอนนั้นแหละครับที่ทางพุทธศาสนาบอกคือการสร้างภพใหม่ หากเราบุญมาทั้งชีวิต เราก็จะเห็นกรรมดี หากเราทำบาปมาทั้งชีวิต ก็จะเห็นแต่กรรมชั่ว ผมขออธิบายคำว่า บุญกับบาป อีกทีนะครับเพื่อใครที่เข้าใจผิดอยู่ บุญคือการพฤตัวดี ไม่ว่าจะเป็นการมีน้ำใจแบ่งปันหรือช่วยเหลื่อผู้อื่นๆ บาปคือการกระทำชั่วทำร้ายผู้อื่นสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ส่วนกรรมนั้น คือผลของการกระทำ มีทั้งกรรมเลวและกรรมดี กรรมดีเกิดจากการทำบุญ คือ พฤตัวดี เช่น ช่วยเหลือเพื่อนบ้านมีน้ำใจต่อเพื่อนบ้าน เกิดวันนึงไฟไหม้บ้านหรือโจรเข้าบ้าน เพื่อนบ้านเห็นจะช่วยเหลือเรา = ทำบุญ คือทำดีกับเพื่อนบ้าน กรรมดี คือเพื่อนบ้านช่วยเหลือเรา หากทำบาปละ เช่น ไปฆ่าใครเขาตาย ก็จะโดนตำรวจจับหรือโดนญาติเขาตามมาฆ่ากลับ = ทำบาป คือ ฆ่าคน กรรมเลวคือ ตำรวจจับหรือเขาตามาเอาคืน ที่ผมต้องอธิบายเพราะว่ามันจะมีผลต่อการไปนิพพาน เพราะพระพุทธเจ้าบอกว่า จิตใจมนุษย์มีความลาดเอียงเท่เอียงไม่เท่ากัน ที่นี้กลับมาตอนใกล้ตายที่ภาพความทรงจำมันย้อนกลับมา ตอนนั้นมันคือการสร้างภพ หากใจเราไปจดจ่อกับภาพความทรงจำและให้ค่าความรู้สึกกับมัน เมื่อเราตายไปเราก็จะไปเกิดเป็นสิ่งนั้น เช่น เราเห็นภาพเราได้ช่วยเหลือคน ในใจเราเกิดความสุขที่ได้ช่วยเหลือ เราออาจจะได้ไปเกิดเป็นเทวดา หรือ ถ้าเราทำเลว ภาพตอนเราฆ่าคนหรืออื่นๆที่ผิดบาป และใจเรารู้สึกกระวนวาย จิตใจไม่สงบเราก็จะได้ไปสู่นรก แต่ถ้าหากใจเรานิ่งสงบ เห็นภาพทรงจำต่างๆ ไม่รู้สึกอะไรเลย จิตเราก็จะไปสู่นิพพาน หลายคนอ่านแล้วอาจจะบอกว่าเพ้อเจ้อคิดเอาเองหรือป่าว ใช่ครับผมคิดเอาเอง แต่ผมคิดตามคำสอนและหาหลักของเหตุผลตามเสมอ พระพุทธเจ้าตรัสว่าสิ่งที่ทำให้มนุษย์เราเป็นทุกนั้นคือการเกิด เกิดอยากจะกินข้าว เกิดอยากจะสิ่งของต่างๆ นั้นคือกิเลส และการกลับมาเกิดใหม่ก็คือกิเลส ที่จะนำมาสู่วงจรชีวิตอีกเช่นกัน อาจจะมีคนคิดว่างั้น ถ้าอย่างนี้คนเลวก็ไปสู่นิพพานได้สิ ใช่ครับมีโอกาสไปได้ แต่จะน้อยกว่าคนที่เขาปฏิบัติตัวตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าสอนให้ปล่อยวาง ไม่ยึดติด และมั่นทำสมาธิ เห็นการเกิดดับอยู่ตลอดเวลา อาจจะต้องลองคิดว่าตอนใกล้ตายคนที่ไม่ได้ฝึกสมาธิมาเลยจะสามารถควบคุมสติตอนใกล้ตายได้หรือไม่ สิ่งที่ผมอธิบายมาทั้งหมด เพื่อให้ทุกคนได้เห็นปลายทางและเห็นถึงวิธีที่จะไป หากใครที่ยังมีกิเลสอยู่มีภาระต้องรับผิดชอบก็ไม่จำเป็นต้อง ห่มเหลืองก็ได้ครับ แค่เราทำสิ่งที่ดี มีประโยชน์ต่อผู้อื่นและมั่นทำสมาธิทุกวันเพื่อควบคุมจิตใจ ผมเชื่อว่าวันนั้นมาถึงทุกคนก็มีโอกาสไปยังนิพพานได้เช่นกัน หากไม่ได้ก็ยังได้ไปอยุ่ในภพภูมิสวรรค์ก็เป็นได้ และไม่ต้องกลัวนะครับว่าหากสิ่งที่พุทธเจ้าบอกนั้นไม่ใช่เรื่องจริง เพราะทางวิทยาศาสตร์ทุกวันนี้ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้เหมือนกัน วิทยาศาสตร์บอกว่าการตายก็คือการสิ้นสภาพ ไม่มีวิญญานอะไรทั้งสิ้น แบบนั้นก็ดีแล้วครับ เพราะมันก็ไม่ต่างอะไรจากไปนิพพานเลย ถือว่าหากเราปฏิบัติตามแล้วท้ายที่สุดผลจะเป็นอย่างไร มันก็คุ้มแล้วที่เราได้ลงมือทำ สิ่งที่ผมพิมไปทั้งหมดเป็นสิ่งที่ผมคิดขึ้นเองและตีความจากคำสอนนะครับ หากใครอ่านแล้วรุ้สึกว่าหลุดพ้นไม่กลัวการตายอีกต่อไป ผมก็ดีใจด้วยเพราะเราได้ปลดล็อคความกลัวที่สุดของมนุษย์ออกไปแล้ว ต่อไปทำอะไรก็จะได้ไม่กลัวอีกต่อไป สาธุ
ไม่มีใครรู้จักคำว่ามรรคแปดได้เต็ม ไม่มีใครอธิบายได้ว่ามรรคแปดมีอะไรบ้างอย่างละเอียด แต่ก็มีคนสอนมรรคแปดตรึม ฟังหมาหลายคลิบแล้วฉันก็ยังโง่เหมือนเดิม ไม่เข้าใจว่ามรรคแปดต้องทำอย่างไรบ้าง
เริ่มต้นจากปัญญา ศีล สมาธิ ก่อนง่ายสุดครับ ได้ปัญญาจากการพิจารณาความจริงผ่านกฎ2ข้อ 1.ไตรลักษณ์2.อิทัปปัจจยตา ทุกสิ่งไม่เที่ยงเกิดดับ โดยการ วิปัสสนา ภาวนา พิจารณา ขันธ์5 และอินทรีย์6
ท่านครับ ผมว่าถ้าเลือกสมาธิต้องมาก่อนเป็นลำดับต้น สมาธิเกิดจินตนาการ จินตนาการเกิดปัญญา ปัญญาทำให้เชื่อในศีล มิใช่หรือครับ ผมว่าน่าใช่นะครับ
ถ้าท่านนำปัญญามาขึ้นต้น แสดงว่าท่านได้มีปัญญาแล้ว เมื่อมีปัญญา ท่านก็ดำเนินเส้นทางสุปฏิบัณโณ ท่านก็จะพบว่าปัญญานั้นใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงแท้แน่ใหน ได้บรรลุอย่างนี้ส่งผลต่อตัวท่านอย่างไร จะได้มรรคใหนขึ้นอยู่กับสุปฏิปัณโณ มิใช่หรือครับ
สมาธิถ้าไม่มีปัญญาประกอบมีแต่หลงครับ
ปัญญาดังของคมพกของคมเข้าป่าท่านจะเอามีทำครัวเล่มเดียวเข้าป่าหรอครับ เป็นผมไม่ ทางนี้สำหรับผู้ที่เริ่มต้นศึกษา ควรเริ่มต้นจากสติพิจารณาความจริง ใช้ในชีวิตจริงมีสติอยู่ทั้งวันพิจารณาให้ได้ก่อน ไม่ต้องนั่งสมาธิหรอกครับ ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ
@@yoyonut2695ผิดตั้งแต่จินตนาการให้เกิดปัญญาแล้วครับ การเจริญปัญญาไม่เกิดจากสิ่งใดนอกจากความจริง ผ่านการพิจารณากฎ2ข้อถ้าทำถูก สัมมาทิฏฐิ จะได้มา สัมมาสังกัปปะเกิดตามมาต่อไป ปุถุชนทำได้ด้วยการ วิปัสสนาภาวนาพิจารณาขันธ์5และอินทรีย์6 พิจารณาเมื่อถูกกระทบสัมผัสไม่ถูกกระทบก็ไม่พิจารณา แบบนี้เรียกว่าการเจริญปัญญา ไม่ใช่การจินตนาการ
@@MahesuanPuangmala บางคนสมาธิหลุดออกนอกอวกาศไปไกล ทำต่อไม่ได้
@@cate-y3b ใช่ครับเช่นนี้เขาเรียกว่าทำลายกายละเอียดตนด้วยมิจฉาสมาธิ ทำแบบผิดๆ ต้องไล่กันใหม่หมด
เป็นบทความที่ร่วมสมัย ฟังไม่น่าเบื่อ จากผู้ให้เสียงและภาพประกอบ ถ้าได้ฟังจบคือ คนทำคลิปทำการบ้านมาดีมาก เพราะจริงๆพระพุทธเจ้าสอนให้เรามีสติ ถ้าเรามีสติพอ เราจะไม่ผิดศีล เมื่อมีศีล จิตเราจะนิ่งและมีสมาธิ และเมื่อมีสมาธิ ความโลภ โกรธ หลง จะไม่มี จิตจะผ่องใส และจะเกิดปัญญา ขอบคุณมากค่ะ วัยรุ่นก็ฟังสนุก ให้กำลังใจทำคลิปต่อ
ทุกข์ ทำให้เกิดความรู้สึก สำรวม สำนึก ไตร่ตรอง พิจารณา ค่อยๆเข้าไปหาทำให้เกิดศรัทธา พอมีศรัทธา ก็เริ่มคิดดีทำดี โดยการยึดกรอบของศีลโดยมีตัวประคองคือ หิริโอตตัปปะ จากนั้นทุกๆการพิจารณาหรือตริตรึก จะทำให้เกิดปัญญา โดยการเริ่มเห็นสัจจะความจริงมากขึ้น ว่าทุกข์และปัญหาเกิดจากอะไร ตัวนี้ สามารถยึดเป็นหลักได้เลย คือ อริยสัจสี่ แต่ทุกการปฏิบัติไม่ง่ายเพราะจิตรับรู้ในเวทนา สัญญา สังขารได้เร็ว เพราะมันเป็นธรรมชาติของสัตว์ คือ อวิชชาเป็นเครื่องกั้น ตัณหาเป็นเครื่องผูก จึงไม่ง่าย ขนาดสมณะที่อยู่ในศีลในธรรมถ้าจิตไม่มั่นคง หรือเห็นสัจจะความจริง บางทีจิตก็เพลินไปกับเวทนาต่างๆได้ ไหนจะนิวรณ์ 5 อีก / ถ้าจะแนะนำในการปฏิบัติธรรม คือ เห็นอนิจจังบ่อยๆ เห็นอนัตตาบ่อยๆ เห็นอารมณ์ที่มันหม้อดไหม้บ่อยๆหลังจากได้สนองกิเลส เพื่อให้เกิดการละความยึดมั่นในตัวตน ในอารมณ์ เพราะการยึดในตัวตนหรือยึดในอารมณ์ คือ การมีอวิชชา คือ หลงที่นำไปสู่ ปัญหา หรือ ทุกข์ หรือ มรณะได้ และถ้าจะไม่ให้ชีวิตวุ่นวายหรือมีปัญหา เราต้องดับที่ต้นเหตุก่อน ด้วยการนำ อิทัปปัจจยตา มาไว้ในจิตตลอดเวลา เพราะอิทัปปัจจยตา ทำให้เรารู้เหตุเกิดทุกข์และสามารถดับเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ได้ แต่อย่างที่บอกไม่ง่ายเพราะจิตไวต่อผัสสะและเวทนา
สาธุครับ นิพพานในชาตินี่หรือชาติหน้าได้ครับ
ขอขอบคุณ คุณทำให้การฟังเรื่องมรรคมีองค์น่าสนใจและเข้าใจง่ายมากขึ้น😇
ขอบคุณครับ
คนตาดีแบบเจ้าของช่องนี่หายิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรแท้ ขอให้สร้างความรู้ ความดีต่อไปนะคราบ สาธุ
อนุโมทนาสาธุ
ยิ่งฟังก็ยิ่งได้คิดตาม เนื้อหาดีมากๆค่ะ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณที่นำหลักธรรมดีๆ ของพระพุทธเจ้ามาเผยแพร่ ท่านมีเมตตาสอนให้เราเห็นความจริงของโลกใบนี้ ถ้าท่านใดรู้สึกชีวิตว่างเปล่า มีทุกข์แฝงอยู่ทุกอิริยาบถ ลองศึกษาดูครับ
เช่น การพิจารณาใคร่ควรญ อารมณ์ที่เกิดขึ้น เห็นคุณและโทษ และการดับลงของอารณ์นั้นๆ ก็จะเริ่มเห็นการทำงานของโลกใบนี้ โชคดีครับ
การคิดดี พูดดี ทำดี ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน เท่านี้ก็ถึงความสุข สงบ ได้ไม่ว่าจะยืนเดินนั่งหรือนอน ผู้ปฏิบัติพึงรู้ได้ด้วยตนเอง สามารถพิสูจน์ได้
เสนอเนื้อหาได้ดีมากๆ เพียงแต่ไม่อยากให้ใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพหยาบคาย สัมมาวาจา ครับ
อย่างไรก็ดี ชอบและขอบคุณครับ
ดีแล้วงามแล้วเจริญๆยิ่งขอรับ ขอ..อนุโมทามิ,,สาธุครับ
🙏🙏🙏
สาธุ...เป็นการสอนธรรมที่ฟังไม่ยาก เข้าใจง่าย ถูกใจคนรุ่นใหม่ครับ
ความตั้งใจ จะทำให้เจริญสติได้ ถ้าไม่มีความตั้งใจ การเจริญสติก็เกิดขึ้นไม่ได้ เจริญสติได้จะทำให้เกิดความเข้าใจ เกี่ยวกับตัวเอง เข้าใจเกี่ยวกับตัวเองแล้ว จะทำให้ความเข้าใจผิด ลดลง พอเข้าใจถูก ความสุขก็มีมากขึ้น ความสุขมีมากขึ้น ความตั้งใจก็เพิ่มขึ้น ความตั้งใจเพิ่มขึ้น ก็เจริญสติได้มากขึ้น องค์ธรรมเหล่านี้จะรวมตัวกัน เกื้อหนุนกัน จนเต็ม
ถ้าท่านบอกว่าเจริญสติ ใช่หรือเปล่าสติคือ การระลึกรู้อยู่ตลอดเวลา รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ เช่นออกบิณฑบาตเท้าย่าง เหยียบ โดยการกำหนด เดินด้วยตีนเปล่า ตามทางย่อมมีทั้งพืชและสัตว์ ทุกก้าวย่างย่อมมีพืชและสัตว์เล็กสัตว์น้อย ถูกพรากบ้าง ถูกกระทำบ้าง ขณะรับบิณฑบาตก็พิจารณาว่า เรามารับบิณฑบาต อาหารนี้เพื่อ กลับถึงวัดต้องปลงอาบัติ ก่อนฉันท์ต้องถวายข้าวพระพุทธ ฉันท์เสร็จต้องให้ศีลให้พรกับผู้ที่ตักบาตรทำบุญด้วยอาหาร ถ้าเป็นฆราวาส เราจะเจริญสติแบบผู้บวชไม่ได้ ภาระกิจประจำวันท่านต้องใช้ความรู้ ความชำนาญ ความถนัด ต้องกำหนด ต้องวางแผน ผมว่ามันต่างกันนะครับ เราจะเจริญสติได้ก็ตอนที่ท่านพินิจ พิจารณา สังเกตุ ค้นคว้า ค้นหา หรือถ้าแพทย์ผ่าตัดอันนี้เรียกตั้งสติ แสดงว่าได้ฝึกการมีสติมาก่อนแล้ว ครับไม่รู้ว่าผมงงกับการใช้คำหรือเปล่า เพราะความเข้าใจเรื่องสติผมมองว่า มันแยกกันนะครับระหว่างนักพรต กับมนุษย์ทั่วไปครับ ผมสับสนตรงใหนช่วยบอกทีครับ
🙏🙏🙏😇
ขอน้อมกราบอนุโมทนาบุญ และขอบพระคุณมากๆค่ะที่นำเสนอธรรมะที่ทำให้น่าสนใจมากๆเจ้าค่ะ🎉🎉🎉
ทำความเข้าใจกับบทสาธยายธรรมคุณในบทสาธยายอิติปิโส_เห็นธรรม_รู้ธรรม_ถึงธรรม_บรรลุธรรม/สาธุธรรม_สาธุธรรม_สาธุธรรม/อนิจจัง_ทุกข์ขัง_อนัตตา_
น้อมกราบอนุโมทนา สาธุ พุทธบริษัท 4 ที่ได้ทำบุญสร้างกุศลทั้งหลายไว้ในพระพุทธศาสนาและได้เผยแผ่พระธรรมในพระพุทธศาสนาที่ถูกต้องทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ด้วยครับ
นิพพานังปัจจโยโหตุ นิพพานังปรมังสุขขัง นิพพานังปรมังสุญญัง
ศาสนาพุทธ เป้นของคู่กับโลกนี้และโลกอื่น
มรรคองค้8มันมีอยุ่แล้วแค่พระพุทธเจ้าเป่นคนค้นพบคนแรกในกัปล้นี้เท่านั้นส่วนกัปล้อื่นๆก้อมีพระพุทธเจ้ามาหลายองค้มาแล้ว
ภาพสวยงามมาก❤
ผมกำลังจะฆ่าตัวตายแต่ผมมาเห็นคริปนี้ก่อนเลยตัดสินใจว่า ผมไม่ทำแล้ว ผมขอขอบคุณคริปนี้มากเลยนะครับ:)
อย่าคิดสั้นนะมีอะไรไห้ค้นหาอีกเยอะบางอย่างเรากำลังได้เห็นแต่เราไปตัดสินชีวิตผิดน้องเอ้ย อย่าไห้มารมาครอบงำทำอะไรผิดๆไม่ดีแก่ตนเองน้องรออีกนิดจะเห็นยุค ศิวิไลซ์ แล้วทุกอย่างพร้อมรอนายกแถลงเท่านั้น
การคิดฆ่าตัวตาย ก็คงเข้าใจว่าจะหยุดทุกอย่าง แต่ในความเป็นจริง มันคือประตูไปสู่ที่ใหม่ แล้วที่นั่น จะกันดาร จะลำบาก กว่าที่เป็นอยู่อีก ท่านควรหาความรู้ จะไม่ทำให้ท่าน ตัดสินใจผิดบนข้อมูลที่น้อย
ดีแล้วงามแล้ว ท่านพร้อมตื่นแล้วครับอภัยทานให้หมดเริ่มจากฟังบทสวด และจิตท่านจะน้อมเข้าหาเอง จากศีล5ก็จะมาได้ศีล8 สวดมนต์เช้าเย็นไม่ถึง2เดือนก็เริ่มจะนั่งสมาธิเอง นั่งแค่ไม่ให้จิตออกนอกครับ พุทธโธ รึจะนับลมหายใจ ทำไปครับ ขอให้จำไว้ว่าอย่ากลัวครับตายก็ให้มันตายไปกับพุทธโธ พอสมาธิได้ที่จะมีเสียงโครมครามเหมือนฟ้าผ่าลงหลังคาบ้าน พอสมาธิหลุดก็เข้าใหม่แต่คราวนี้จะเข้าง่ายครับ ไม่ต้องอยากรู้ว่าได้อะไร รู้แค่ว่าพอเข้าสมาธิได้แล้วสงบและรู้ว่าทำไมเราถึงโดนขนาดนี้ เราทำเขามายิ่งกว่านี้ครับ ศีลสมาธิบริสุทธิ์ถึงขั้นยุงไม่กัด ผึ้งไม่ต่อยก็พอครับ แต่ถ้าจิตออกนอกคลื่นตรงกันกับวิญญานตายโหง ก็มีวิ่งขึ้นมาถึงคอบ้าง แต่ก็ไม่ต้องห่วงนะครับ พุทธธังสะระณังคัจฉามิ ธรรมมังสะระณังคัจฉามิ สังฆังสะระณังคัจฉามิ ครับจบเดียวหายครับ ที่เล่ามาผมฟังมาจาก คนบ้าที่โดนทรยศมา10ทิศ ที่พึ่งทางใจเดียวก็คือแม่ ก็เป็นอัลไซเมอร์อีก เขาเลยได้กินเผือกกินมันแทนข้าวมา2ปีคุยแต่กับอีกากับหมาหลงทางครับ แต่ดูเค้าจะรู้นะครับว่าโลกมันบิดเบี้ยวเพราะเค้าเข้ากับใครไม่ได้เลยครับ มนุษย์ชอบเบียดเบียนเค้าเลยคุยแต่กับ สรรพสัตว์สรรพสิ่งทุกอณูและวิญญานครับ ดูเค้ามีความสุขดีครับ เพราะในโลกนี้คงไม่มีอะไรทำเค้าสะเทือนได้อีกแล้วมั้งครับ555
ผมเป็นคนไม่เคยคอมเม้นใครเลยนะครับ เห็นคุณคงจะร้องให้จนน้ำตาไม่สามารถไหลได้อีกแล้วเลย อยากเอาสิ่งที่คนบ้าที่ผมเคยเห็นมามาเล่าให้ฟังครับ สู้นะ ครับ
ตายอะดีแล้ว หลุดพ้น
ตัดทางโลก คือ ไม่รู้ไม่คิดไม่ทุก คิดมากกังวลไม่สายใจ ตัดทุกทางเป้นสะพานปันหา
ขอบคุณเนื้อหาที่เรียบเรียงนำมาเสนอให้ได้รับชมรับฟังมากๆครับ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั่นเห็นเรา เป็นกำลังใจให้ผลิตผลงานต่อไปครับ 🙏
❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤สาธุ สาธุ สาธุ
เป็นกำลังใจให้ทีมงานครับ
สาธูๆคะ
ขอขอบคุณ😊
แค่ได้ฟังสองสามนาทีก็ถูกจริต ติดตามเลยพี่ ธรรมะ มันส์ๆ 😅😅😅😅
ข้าพเจ้านายเทวกฤต นุ่มนวน ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ 🙏
คลิปนี้ดีจัดเลยครับ ภาพประกอบ เสียงพากย์ แล้วการอธิบายที่ฟังง่าย เป็นกันเอง 🙏🏻✨💯
บุคคลหาได้ยากในโลก 🌍
ฟังจบแล้ว เข้าใจได้ง่ายๆ ไม่ได้ยากเลยในการ ทำความดีเพื่อ ถึงพระนิพพาน
อย่าว่าผมมืดบอดนะครับ ผมเข้าใจว่านิพพานคือการไปจากโลกใบนี้ พันไปจากโลก แต่อรหันต์ยังไม่พ้นไปจากโลกนี้ ยังวนเวียนมาเกิดนะครับ เห็นหนังสือสวดมนต์หน้าหลังสุดได้เขียนแผนผังไว้อย่างนี้ ท่านเป็นผู้ฝักใฝ่ในทางนี้ นิพพานคือจุดประสงค์สุดท้ายที่ทุกศาสนากำหนดไว้ ผมว่าผมเรียนรู้มาไม่ผิดในคำว่านิพพาน คือไม่วนเวียนมาเกิดบนโลกนี้ ในทางวิทยาศาสตร์กลับตรงกันข้าม วิทยาศาสตร์บอกไว้ว่าสัตว์เป็นผู้ที่ทำหน้าที่รักษาสมดุลย์ของโลก พืชปกป้องโลก พืชมีหน้าที่ป้องกันดินมิให้น้ำ ลม ไฟ ทำลายดิน ดินเป็นมวลสารของโลกเป็นที่สถิตเสถียรของน้ำ ของลม ของไฟ ดังนั้นนิพพานจึงไม่เป็นสิ่งที่ควรสรรเสริญให้มีขึ้นกับสรรพสัตว์ จิตวิญญาณทุกอย่างครับ และจิตวิญญาณมิต้องการคืนสู่จักวาลที่มืดมิด วิเวก เดียวดาย อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งเป็นร้อยเท่า ถ้าท่านเข้าใจที่มาของจิตวิญญาณ จิตวิญญาณเขาไม่ต้องการจริงๆครับ
@@yoyonut2695 การเข้าใจผิดก็แก้ให้ถูกได้ โดยการค้นหาคำตอบจากผู้รู้จริง คือบุคคลผู้มีตาทิพย์ หูทิพย์ และมีญาณทิพย์ บุคคลเหล่านี้ ไม่ใช่คนรวย ไม่ใช่จบดอกเตอร์ ไม่ใช้ผู้เรียนจบกาศึกษาทางโลก ค้นหาให้พบ แล้วคุณจะรู้จริง มีศาสนาเดียวที่สอนเรื่องพระนิพพานไว้ชัดและมีอริยะบุคคลเห็นแจ้งด้วยการปฏิบัติจนสำเร็จคือพุทธศาสนาเท่านั้น เรื่องพระนิพพานกับเรื่องทางวิทยาศาสตร์ ต่างกันเหมือนฟ้ากับดิน นักวิชาการพยายามเขียนเรื่องให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เทียบเท่ากับศาสนาพุทธ หากใครเชื่อก็หลงทาง ครับ
ขอบคุณมากครับ!
สาธุ พุทธวจน 🙏🏼🎶🌹
ฟังแล้วมีปัญญาขึ้นมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆแบบนี้นะคะ น้ำเสียงและภาษาที่ผู้พูดใช้ให้ความรู้สึกชักชวนตลอดว่าเราต้องเข้าไปค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง ไม่ดูน่าเบื่อ คลิปนี้ต้องมีประโยชน์กับหลายๆคน หลายช่วงวัยแน่ๆ 👍👍👍
เพราะคุณมีปัณญาอยุ่แล้วภายในตนเองนะคร้บ
ถ่ายทอดได้ดีมากๆเลยคับ ติดตามและเป็นกำลังใจให้ผลิตคลิปที่ดีและมีประโยชน์ออกมาเรื่อยๆนะคับ อนุโมทนาบุญกับผู้จัดทำด้วยนะคับสาธุ🙏🙏🙏
กราบ อนุโมทนาบุญกับหลักธรรมคำสอนครับ สาธุ 🙏
สาธุสาธุสาธุ
สาธุครับ❤
🙏
เยี่ยมเลยครับ....สาธุๆๆ
ขอขอบคุณ
ขอบคุณครับ
สวัสดีแอดตามดูคลิปไปเรื่อยๆ คลิปแอดฟังตัองมีสมาธิถึงจะเข้าใจละเอียด บางคลิปต้องดูหลายๆครั้งค่ะ
ผมดูทุกคลิปเลยนะครับ เเอ้ดมินพูดเหมือนเข้าใจทุกอย่าง😊(รู้เเจ้ง)
สุดยอดครับ❤ จะนำไปปฏิบัติดูครับ 🙏 เริ่มจากทีละนิดๆ 😄 🌄
คลิปดีงามมากเลยครับ ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณเนื้อหาคำสอนครับอาจารย์
สาธุค่ะ 34:31
ขอบคุณท่านที่ชี้แนะแนวทางธรรม🙏🙏🙏
สุดยอดการนำเสนอที่สมบูรณ์แบบ และผมเชื่อว่าจะได้ความลึกของความรู้อย่างแท้จริง ติดตามครับ❤❤❤
ถ้าอยากเห็นเส้นทางก็พิจาราณาอสุภะธาตุก่อนจะเดินถูกเอง
วิธีดูธาตุที่เร็วที่สุดคือเน้นใช้ความรู้สึกไม่ใช้ตาอันนี้เป็นวิธีส่วนตัวที่ใช้มานะตอนเห็นก็เพราะเห็นด้วยวิธีนั้น
อยู่เฉยๆนิ่งๆสบายที่สุดไม่จำเป็นต้องนั่งหลับตา เอามือขยำฝุ่นดินและดินเหนียวดินทรายดูว่าความรู้สึกในสภาพของดินนั้นเป็นยังไงแล้วเอาความรู้สึกที่สัมผัสได้นั้นมาระลึกไว้ว่าร่างกายนี้กับดินนั้นเป็นเนื้อเดียวกันให้เอาความรู้สึกของความเป็นดินนี้มาอยู่กับกายนี้มันคือสิ่งเดียวกันมันคือเนื้อเดียวกันจดจ่อรู้สึกอยู่กับตัวแบบนั้นยังไม่ต้องสนใจอย่างอื่นยังไม่ดูความคิดแต่เมื่อความคิดมาไม่ปรุงต่อปัดทิ้งไปอยู่ทุกครั้งเน้นที่ความรู้สึกกำหนดรู้ธาตุก่อนถ้าต้องการรู้ความจริงในเรื่องธาตุก่อนปัดทิ้งอยู่เรื่อยๆ
พอเริ่มจะรวมก็อย่าใส่ใจอะไรเน้นความรู้สึกไม่ใช้ตา
เวลาที่จะรวมเห็นชัดๆความคิดทุกอย่างหรือจะอารมณ์วิ่งเข้ามาไกล้ไม่ได้มันเด้งออกไปเด้งอยู่3วิ ดิ่งลงจนสุด
มีแสงสีขาววาปขึ้นมาพร้อม กับมีเสียงดังก้องขึ้นมาว่า
ดินก็เป็นอยู่อย่างงั้น
ต่อจากนั้นจึงจะเห็นกิเลสทุกตัวที่ผูกมัดเอาไว้ในจิตใจ
อนุโมทนาสำหรับเนื้อหาครับ ขอบคุณมาก
เยี่ยมเลยค่ะ อธิบายได้ดีกลมกลืน และร่วมสมัยค่ะ อนุโมทนาสาธุค่ะ🙂💖🌷
❤
แค่มีความศรัทธาอย่างลงมั่นในพระพุทธเจ้าในพระธะรรม(พุทธวจน)ในพระสงฆ์ มีศีล๕ที่บริบูรณ์ หากินโดยธรรมโดยไม่เครียดครัด ก็เป็นฆราวาสชั้นชั้นเลิศก็เพียงพอที่จะก้าวล่วงพ้นจากทุคติวินิบาตนรก ก้าวสู่ภูมิที่ถูกต้อง จิตโน้มไปเอียนเอียงไปสู่นิพพานในกาลเบื้องหน้าแล้วละครับ
ท่านครับ นรก สวรรค์ท่านไปไม่ถึงหรอกครับ ด้วยศีล 5 ท่านก็ไม่รอดมาจากท้องแม่แล้ว แม่ไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่กินพืช ดินแต่เกลือ แม่ก็ไม่รอดเป็นแม่ท่านได้ ท่านก็ไม่มีโอกาสปฏิสนธิ มันจบครับถ้าท่านยึดศีลเป็นสรณะ เราหลงทางนี้มา 3,000 ปีแล้วครับ ถ้าท่านจะบอกว่าสิ่งนี้เป็นอาหารให้มนุษย์ ใช่ครับ ถูกต้องครับ และเป็นหน้าที่ต้องกินครับ เป็นหน้าที่จริงๆครับ
@@yoyonut2695 :ถูกต้องแล้วครับผู้รักษาศีล๕ ปิดหนทางไปนรก แต่เปิดหนทางไปสวรรค์นั้น ไปถึงได้ครับ
แต่หากคิดว่าสิ่งนี้(การฆ่าสัตว์)เป็นอาหารให้มนุษย์ ชอบที่จะฆ่ามันหรือบัญญัติให้มีการฆ่า นั่นแหละหนทางไปนรกละ.!
ส่วนเรื่องไม่กินพืช ไม่กินเนื้อสัตว์ ในศาสนาพุทธ ไม่มีห้ามครับ กินได้ปกติ
ส่วนเด็กทารกการรอดออกมาจากท้องแม่ได้หรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับการรักษาศีล๕ ของมนุษย์ผู้เป็นแม่แต่ประการใด.ครับ สรรพสัตว์ร่างกาย ย่อมอยู่ได้ด้วยอาหาร.
สรรพสัตว์ผู้ถูกการเกิดครอบงำแล้ว ย่อมรักตัวกลัวตายกลัวถูกการถูกฆ่าทั้งนั้นไม่ว่าสุตว์นั้นจะเป็นมนุษย์ หรือ สัตว์เดรัจฉาน โค-กระบือ-แพะ-แกะ-ไก่ฯลฯ ก็ตามนะ!
หรือคุณได้เกิดแล้ว ยินดีที่ให้ถูกเขาฆ่าหรือไม่ละครับ! ?
@@yoyonut2695 :ภัยเวร๕ประการ ที่ผู้รักษาศีล๕ ไม่ต้องตกไปสู่อบายอีกแล้ว...(ไม่ต้องตกนรก,หรือไม่ต้องไปเกิดเป็นกำเนิดเดรัจฉาน,หรือ เป็นเปรตวิสัย)
ภ้ยเวร๕ประการเหล่าไหนเล่า อันอริสาวกทำให้สงบรำงับได้แล้ว?
(๑) คหบดี! บุคคลผู้ฆ่าสัตว์(สัตว์เดรัจฉาน-มนุษย์) เป็นปกติอยู่ ย่อมประสพภัยเวรใดในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน) บ้าง; ย่อมเสวยเวรใดในสัมปรายิก(ในเวลาถัดมา)บ้าง; ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสแห่งจิตบ้างเพราะปาณาติบาติ(การฆ่า)เป็นปัจจัย
ภัยเวรนั้นๆ เป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วจากปาณาติบาต(การฆ่า) ทำให้สงบรำงับได้แล้ว.
(๒) บุคคลผู้ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้(ขโมย) เป็นปกติอยู่ ย่อมประสพภัยเวรใดในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน) บ้าง; ย่อมเสวยเวรใดในสัมปรายิก(ในเวลาถัดมา)บ้าง; ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสแห่งจิตบ้างเพราะถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้ เป็นปัจจัย
ภัยเวรนั้นๆ เป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วจากการถือเอาของที่เจ้าของมิได้ให้ ทำให้สงบรำงับได้แล้ว.
(๓)บุคคลผู้ประพฤติผิดในกามทั้งหลาย เป็นปกติอยู่ ย่อมประสพภัยเวรใดในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน) บ้าง; ย่อมเสวยเวรใดในสัมปรายิก(ในเวลาถัดมา)บ้าง; ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสแห่งจิตบ้างเพราะประพฤติผิดในกามทั้งหลาย เป็นปัจจัย
ภัยเวรนั้นๆ เป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลายทำให้สงบรำงับได้แล้ว.
(๔)บุคคลผู้กล่าวคำเท็จ(พูดโกหก) เป็นปกติอยู่ ย่อมประสพภัยเวรใดในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน) บ้าง; ย่อมเสวยเวรใดในสัมปรายิก(ในเวลาถัดมา)บ้าง; ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสแห่งจิตบ้างเพราะการกล่าวคำเท็จ เป็นปัจจัย
ภัยเวรนั้นๆ เป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วจากการกล่าวคำเท็จ ทำให้สงบรำงับได้แล้ว.
(๕) บุคคลผู้ดื่มสุราและเมรัย(เหล้า-สิ่งมึนเมา)อันเป็นตั้งของความประมาทอยู่เป็นปกติ ย่อมประสพภัยเวรใดในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน) บ้าง; ย่อมเสวยเวรใดในสัมปรายิก(ในเวลาถัดมา)บ้าง; ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสแห่งจิตบ้าง เพราะการดื่มสุราและเมรัย ฯเป็นปัจจัย
ภัยเวรนั้นๆ เป็นสิ่งที่อริยสาวกผู้เว้นขาดแล้วจากการดื่มสุรา-เมรัยอันเป็นที่ตั้งของความประมาท ทำให้สงบรำงับได้แล้ว.
ภัยเวร๕ประการเหล่านี้แล อันอริยสาวกทำให้สงบรำงับได้แล้ว
อ้างอิง
พุทธวจน หมวดธรรม เล่มที่ ๒
คู่มือโสดาบัน หน้า ๑๑
@@yoyonut2695ศานาพุทธห้ามกินเนื้อสัตว์ห้ามกินพืชเอามาจากไหนครับ บ่งบอกว่าคุณไม่เข้าใจนะครับ หรือเรียกว่าหลงผิด ศาสนาพุทธห้ามฆ่าสัตว์ครับ ถ้าสงสัยอะไรก็ถามมาได้ครับผมยินดีตอบ
@@yoyonut2695ยิ่งคุณบอกคนมีหน้าที่ต้องกินสัตว์นี่ คือ ใครบอกคุณเหรอครับว่า คนมี "หน้าที่" ต้องกินสัตว์
1🙏พระพุทธ 2🙏พระธรรม 3🙏พระสงฆ์
สากล2024/1/25 ค.ส
สำหรับส่วนตัวผมแล้วผมใช้ พ.ส2567
ผมคนลาวครับ
รู้แจ้งเห็นจริง
สำหรับส่วนตัวผมน่ะ(ช่องนี้ไม่ธรรมดา)
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ+มากๆ
จากใจจริง🙏🙏🙏
เอฟซีจากแมคม่านะครับ
ขอบคุณครับ😊❤😊
คุณนำเสนอ ได้เยี่ยมมาก นายแน่มาก ซูฮกๆ
ชอบตรง “ ไม่ควรเชื่ออะไรง่ายๆ” เพียงเพราะคนอื่นบอกให้เราเชื่อ“
ขอชื่นชมการนำเสนอของช่องครับแตกต่างและเข้าถึงง่ายขึ้น ขอบคุณหลายๆครับ
กราบสาธุสาธุสาธุครับ
ทำแบบนั้น ได้อย่างนี้ ทำแบบนี้ เป็นอย่างไร มาจนเป็นตัวเรา ตัวเค้า ทำแบบเรา ได้แบบไหน เป็นอย่างเรา ก็ตัวเค้า ได้อย่างไร ความเข้าใจ ที่มาอยู่ในยุคสมัย ของ พุทธฯ ที่จะดำเนินการยอมรับ รับรู้จัก ได้ตามสภาพของ การรู้ตนเอง อย่างไร ต่อ สถานะ สิ่ง ที่ค่อยๆจัดการ ความชัดแจ้ง ในความหมาย ต่อกัน ❤ ขอบคุณครับ👍😃
yes
นำเสนอได้ดีครับ จะรอชใใน content ศาสนาพุทธ เรื่อยๆ นะคัรบ
สาธุๆๆ ค่ะ😊😊
สุดยอดขอบคุณค่ะ❤
ขอบคุณมากครับ
ความเข้าใจในมรรคแปดของแต่ละคนต่างกัน…
ถ้าเป็นปุถุชน ก็มองแบบปุถุชน แต่เมื่อนำไปปฏิบัติ ก็นำความสุขมาให้
ถ้าเป็นพระอริยชน ก็จะมองรู้แบบพระอริยเจ้า ย่อมนำไปสู่มรรคผลนิพพาน
ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ
มนุษย์เกิดมาย่อมมีอืนทรีย์๕ที่สั่งสมมาไม่เท่ากัน พระศาสดาจึงอุปมาหมือน บัว๓เหล่าครับ แค่ขอให้มีสัญญาและใจ(ที่ปกติ) ก็สามารถบรรลุธรรมได้ ครับ
ชอบค่ะ
มาแล้ว มรรค8
ขอบคุณมากนะค่ะ....สาธุ
❤❤🙏
กำลังรอเลย
❤ทานศีลภาวนาสาธุคะ
❤ เข้าใจง่ายมากครับ
❤เยี่ยมครับ อนุโมทนา.
สาธูค่ะ
เยี่ยม
ความตื่นเต้น ที่คุณเลือกได้
หินยานไม่ได้หมายถึงความยากในการบรรลุธรรมนะครับ แต่หมายถึงยานลำเล็กๆ คับแคบ นำพาสัตว์ให้พ้นจากความทุกข์ได้น้อย ซึ่งเป็นเรื่องยากที่สัตว์น้อยใหญ่จะช่วงพ้นจากความทุกข์ เหตุเพราะหินยานถูกมองว่าเป็นการเอาตัวรอดเฉพาะตนเองก่อน (อริยบุคคล ๔ ประเภท) แล้วจึงช่วยผู้อื่น โดยมีเป้าหมายคือสำเร็จเป็นอรหันต์ ซึ่งต่างจากมหายานที่เชื่อว่าจะช่วยสัตว์ให้พ้นจากความทุกข์ได้มากกว่า ด้วยยานลำใหญ่ กว้างขวาง (มหายาน) โดยมีเป้าหมายเป็นพระโพธิสัตว์ ...ก็ประมาณนี้ครับ
เปิดหัวมาน่าฟังเลยนะครับ เเต่พอเริ่มทำเสียงพากษ์ตาก็เริ่มจะปิดละ
ภาคสุดยอด😊
เมื่อเข้าใจว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ธรรมทั้งหลายไม่มีเรา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือ เช่นไร อริยมรรค มีองค์ 8 จริง สัมมาศีล สัมมาสมาธิ สัมมาสติ คืออะไร หากเข้าใจผิดเพี้ยนจึงสอนผิดเพี้ยน จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด เพราะเจตนาดี
ศาสนาพุทธส่วนทางกับทางโลก ทางโลกเขายินดีกับวัตถุสิ่งของที่หามาได้แตะต้องได้ เลยทำให้คนยึดติดว่านี้คือความสุขที่ต้องหาต้องมีข้าวของเงินทองเยอะๆมาบำเรอความต้องการของตัวเอง โดยไม่รู้ว่านั้นมันทำให้ใจเป็นทุกข์กับสิ่งที่ต้องดิ้นรนหา หามาได้มากแต่ก็ไม่รู้จักพอ พอมีสิ่งนี้ก็อยากได้สิ่งนั้น กิเลสในใจคนหาให้มากเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม และก็ไม่มีวันสิ้นสุดกับความต้องการ แต่ทางธรรมเมื่อว่ายนําถึงฝั่งก็จบกิจเลยไม่ต้องกับมาเป็นทุกข์กับการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ
ขอท่านลองมองในแง่ตรงกันข้ามซิครับ ทางโลกท่านเกิดก่อน ทางธรรมท่านเกิดทีหลัง ท่านเป็นลูกพ่อ ลูกแม่ นานเท่าไรจึงได้เป็นลูกศาสนา ใครมีอำนาจกับชีวิตทุกคน ทางโลกหรือทางธรรม ที่ท่านเห็นว่าทางโลกละโมบ ท่านก็อยู่ทางโลกตลอด ทางธรรมของพระสมณโคดมท่านไม่ได้เข้าถึงได้ ท่านได้แค่พอจะรู้ แต่ธรรมะของท่าน ท่านชัดเจน ทำไมคนต้องละโมบโลภมากท่านก็ใช้ธรรมะของท่านชี้ชัดได้ครับ ธรรมะของท่านไม่มีข้อห้ามครับ ถ้าผมชี้ว่าเพราะรักขีวิตครับที่ทำให้คนโลภ ที่ตัวท่านเองเลย ท่านก็มีคำตอบ และตอบตรงกับผม เพราะท่านเชื่อว่าถ้ามีเงินมันซื้อได้ ถ้ามีสมบัติมันมั่นคงมิใช่หรือครับ
สาธุ
ต่อให้เราฟังคนมากมาย แต่ไม่เคยปฏิบัติเอง ก็จะไม่มีวันรู้แจ้งเห็นจริง เช่น การนั่งสมาธิ เปรียบเสมือนคุณอยู่กลางทะเล จะมีคลื่นลมคอยพัดตลอด ถ้าเราสามารถควบคุมจิตให้นิ่งได้ ผมว่านั้นแหละ คือก้าวแรกที่จะนำไปสู่ การปล่อยวาง
สุดยอด
ขอบคุณค่ะ😊
ขอบคุณมนุษย์ต่างดาว
😂😂😂😂
😶🌫️😡😶🌫️
เหมือนจะง่าย แต่ยาก เหมือนจะทำไม่ได้แต่เกิดขึ้นได้ ปฎิบ้ติเห็นเองรุ้สึกเอง ตื่นจากการหลับไหลในปัณญาการมองตนเอง
ขอบคุณสำหรับสาระดีๆครับ
ขอบคุณครับ ผมเพิ่งเริ่มต้นศึกษา ชอบคลิปของคุณมากครับ
เยี่ยมครับ
ิอยากออกบวชละกิเลศทางโลกแต่ทำยากเหลือเกิน เพราะเราเกิดมาในยุคที่มีแต่สิ่งยั่วยุทางกิเลส
ทั้งนั้นเลย ยิ่งเจริญทางด้านวัตถุ
มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ความบันเทิงเยอะแยะมากมาย มันยิ่งเพิ่มพูลสิ่งยั่วยุให้เกิดกิเลศ ให้เกิดความต้องการให้กับตัวเอง ต่างจากยุคสมัยก่อน เช่นสมัยหลวงปู่มั่น ที่มีพระละกิเลศได้มากมาย
เพราะสมัยก่อนไม่มีอะไรเลย
เทคโนโลยี สิ่งยั่วยุแทบไม่มี
มีแต่ป่าเขา บ้านนอกคอกนา
สภาพชีวิตคนสมัยก่อนเอื้อแก่การปฏิบัติได้ง่าย ถ้าเลือกเกิดได้ขอไปเกิดยุคนั้นดีกว่า แม้ว่าสมัยนี้จะมีสิ่งที่ทันสมัยทุกอย่างก็จะไม่เลือก
❤❤❤
เยี่ยมมากค่ะ
ขอบคุณมากๆๆครับ
กราบสาธุครับ
สวัสดีครับแอดมิน ว่าที่ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษา📚✏📚✏
หากใครฟังแล้วยังหาจุดสิ้นสุดไม่ได้ ลองอ่านสิ่งที่ผมตีความให้ครับ ธรรมะ คือ แนวทางปฏิบัติที่จะพาให้เราหลุดพ้นจาก เกิด แก่ เจ็บ ตาย ซึ่งการที่จะหลุดพ้นคือ ไปสู่นิพพาน นิพพานคือสภาวะ ไร้ตัวตน ไร้ยิ่งกว่าความว่างเปล่า คือ สภาวะที่ไม่วนกลับมาเกิดอีก เมื่อไม่กลับมาเกิด ก็จะไม่เกิดวัฏจักร เกิด แก่ เจ็บ ตาย คือหลุดพ้น แล้วนิพพานจะเกิดขึ้นตอนไหน นิพพานจะขึ้นตอนเราใกล้ตาย ถ้าในทางวิทยาศาสตร์ก็คือ ตอนเราใกล้ตาย สมองเราจะดึงภาพความทรงจำในชีวิตทั้งหมดมาแสดง หรือคำโบราณคือ เห็นหน้าพ่อแก้วแม่แก้วลอยมาเลย ตอนนั้นแหละครับที่ทางพุทธศาสนาบอกคือการสร้างภพใหม่ หากเราบุญมาทั้งชีวิต เราก็จะเห็นกรรมดี หากเราทำบาปมาทั้งชีวิต ก็จะเห็นแต่กรรมชั่ว ผมขออธิบายคำว่า บุญกับบาป อีกทีนะครับเพื่อใครที่เข้าใจผิดอยู่ บุญคือการพฤตัวดี ไม่ว่าจะเป็นการมีน้ำใจแบ่งปันหรือช่วยเหลื่อผู้อื่นๆ บาปคือการกระทำชั่วทำร้ายผู้อื่นสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ส่วนกรรมนั้น คือผลของการกระทำ มีทั้งกรรมเลวและกรรมดี กรรมดีเกิดจากการทำบุญ คือ พฤตัวดี เช่น ช่วยเหลือเพื่อนบ้านมีน้ำใจต่อเพื่อนบ้าน เกิดวันนึงไฟไหม้บ้านหรือโจรเข้าบ้าน เพื่อนบ้านเห็นจะช่วยเหลือเรา = ทำบุญ คือทำดีกับเพื่อนบ้าน กรรมดี คือเพื่อนบ้านช่วยเหลือเรา หากทำบาปละ เช่น ไปฆ่าใครเขาตาย ก็จะโดนตำรวจจับหรือโดนญาติเขาตามมาฆ่ากลับ = ทำบาป คือ ฆ่าคน กรรมเลวคือ ตำรวจจับหรือเขาตามาเอาคืน ที่ผมต้องอธิบายเพราะว่ามันจะมีผลต่อการไปนิพพาน เพราะพระพุทธเจ้าบอกว่า จิตใจมนุษย์มีความลาดเอียงเท่เอียงไม่เท่ากัน ที่นี้กลับมาตอนใกล้ตายที่ภาพความทรงจำมันย้อนกลับมา ตอนนั้นมันคือการสร้างภพ หากใจเราไปจดจ่อกับภาพความทรงจำและให้ค่าความรู้สึกกับมัน เมื่อเราตายไปเราก็จะไปเกิดเป็นสิ่งนั้น เช่น เราเห็นภาพเราได้ช่วยเหลือคน ในใจเราเกิดความสุขที่ได้ช่วยเหลือ เราออาจจะได้ไปเกิดเป็นเทวดา หรือ ถ้าเราทำเลว ภาพตอนเราฆ่าคนหรืออื่นๆที่ผิดบาป และใจเรารู้สึกกระวนวาย จิตใจไม่สงบเราก็จะได้ไปสู่นรก แต่ถ้าหากใจเรานิ่งสงบ เห็นภาพทรงจำต่างๆ ไม่รู้สึกอะไรเลย จิตเราก็จะไปสู่นิพพาน หลายคนอ่านแล้วอาจจะบอกว่าเพ้อเจ้อคิดเอาเองหรือป่าว ใช่ครับผมคิดเอาเอง แต่ผมคิดตามคำสอนและหาหลักของเหตุผลตามเสมอ พระพุทธเจ้าตรัสว่าสิ่งที่ทำให้มนุษย์เราเป็นทุกนั้นคือการเกิด เกิดอยากจะกินข้าว เกิดอยากจะสิ่งของต่างๆ นั้นคือกิเลส และการกลับมาเกิดใหม่ก็คือกิเลส ที่จะนำมาสู่วงจรชีวิตอีกเช่นกัน อาจจะมีคนคิดว่างั้น ถ้าอย่างนี้คนเลวก็ไปสู่นิพพานได้สิ ใช่ครับมีโอกาสไปได้ แต่จะน้อยกว่าคนที่เขาปฏิบัติตัวตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าสอนให้ปล่อยวาง ไม่ยึดติด และมั่นทำสมาธิ เห็นการเกิดดับอยู่ตลอดเวลา อาจจะต้องลองคิดว่าตอนใกล้ตายคนที่ไม่ได้ฝึกสมาธิมาเลยจะสามารถควบคุมสติตอนใกล้ตายได้หรือไม่ สิ่งที่ผมอธิบายมาทั้งหมด เพื่อให้ทุกคนได้เห็นปลายทางและเห็นถึงวิธีที่จะไป หากใครที่ยังมีกิเลสอยู่มีภาระต้องรับผิดชอบก็ไม่จำเป็นต้อง ห่มเหลืองก็ได้ครับ แค่เราทำสิ่งที่ดี มีประโยชน์ต่อผู้อื่นและมั่นทำสมาธิทุกวันเพื่อควบคุมจิตใจ ผมเชื่อว่าวันนั้นมาถึงทุกคนก็มีโอกาสไปยังนิพพานได้เช่นกัน หากไม่ได้ก็ยังได้ไปอยุ่ในภพภูมิสวรรค์ก็เป็นได้ และไม่ต้องกลัวนะครับว่าหากสิ่งที่พุทธเจ้าบอกนั้นไม่ใช่เรื่องจริง เพราะทางวิทยาศาสตร์ทุกวันนี้ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้เหมือนกัน วิทยาศาสตร์บอกว่าการตายก็คือการสิ้นสภาพ ไม่มีวิญญานอะไรทั้งสิ้น แบบนั้นก็ดีแล้วครับ เพราะมันก็ไม่ต่างอะไรจากไปนิพพานเลย ถือว่าหากเราปฏิบัติตามแล้วท้ายที่สุดผลจะเป็นอย่างไร มันก็คุ้มแล้วที่เราได้ลงมือทำ สิ่งที่ผมพิมไปทั้งหมดเป็นสิ่งที่ผมคิดขึ้นเองและตีความจากคำสอนนะครับ หากใครอ่านแล้วรุ้สึกว่าหลุดพ้นไม่กลัวการตายอีกต่อไป ผมก็ดีใจด้วยเพราะเราได้ปลดล็อคความกลัวที่สุดของมนุษย์ออกไปแล้ว ต่อไปทำอะไรก็จะได้ไม่กลัวอีกต่อไป สาธุ
ไม่มีใครรู้จักคำว่ามรรคแปดได้เต็ม ไม่มีใครอธิบายได้ว่ามรรคแปดมีอะไรบ้างอย่างละเอียด แต่ก็มีคนสอนมรรคแปดตรึม ฟังหมาหลายคลิบแล้วฉันก็ยังโง่เหมือนเดิม ไม่เข้าใจว่ามรรคแปดต้องทำอย่างไรบ้าง