ค่าใช้จ่ายที่ตามมาในการใช้รถ EV ณปัจจุบันหลายๆอย่างมันมากกว่าการใช้รถน้ำมัน มันจึงไม่เหมาะกับคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ยังเป็นกลุ่มคนชั้นกลาง ไม่ได้มีรายได้ปีละหลายล้าน
สำหรับเราที่เลือกรถ EV เพราะลดภาระค่าน้ำมันไปเยอะ ซื้อรถน้ำมันในยุคนี้ต้องจ่ายทั้งค่าบำรุงรักษาน้ำมันเครื่องโน่นนี่นั่น ค่าน้ำมัน รวมค่าผ่อนไปอีกจุก รถ EV เหมือนแค่ผ่อนรถเท่านั้น ไม่ต้องมาปวดหัวค่าน้ำมัน
เห็นด้วยหลายข้อครับ แต่ที่บอกว่ายาง EV แพงกว่ายางปกติ 3-4 เท่า อันนี้เกินจริงไปเยอะ อย่าง MICHELIN PILOT SPORT 5 255/40 R20 ราคา Tyreplus 12,150 บาท ส่วน MICHELIN PILOT SPORT EV 255/40 R20 ราคา Tyreplus 15,690 บาท ยาง EV แพงกว่าประมาณ 25% เท่านั้นในยางตระกูลเดียวกัน
น่าจะมี power bank สำหรับรถยนต์ขาย หรือให้เช่า ซื้อแล้วเอาขึ้นไปไว้ท้ายรถ ต่อหัวชาร์จที่อยู่ท้ายรถ เข้ากับ power bank แล้วถ้าวิ่งต่อได้อย่างน้อย 50 กม. ก็ OK แล้ว
มันขึ้นอยู่กับไลฟสไตล์ของแต่ละคนครับ ไม่มีคนกำหนดว่าทุกคนจะต้องเปลี่ยนมาใช้ EV กันหมด คนใช้สันดาปก็จะหาเหตุผลมากลบ EV ถ้าไม่สะดวกก็ใช้แบบเดิมไม่ผิด หรือ รับไม่ได้ที่เห็นคนใช้ EV แล้วแฮปปี้ 😂ซื้อก่อน ได้ใช้ก่อนครับ 👍
การซื้อรถ EV ในปัจจุบันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย คนซื้อจะต้องศึกษาข้อมูลให้มาก และชั่งน้ำหนักให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ การใช้งานของบางคนเหมาะสมที่จะซื้อรถ EV มากกว่า แต่บางคนอาจไม่เหมาะที่จะซื้อรถ EV ในตอนนี้ เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย แอดมินควรเปิดประเด็นใหม่เป็น #เหตุผลที่เวลานี้เหมาะกับการซื้อรถ EV คนที่เข้ามาดูก็จะได้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น แล้วเขาจะได้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับตัวเขา
ใช้รถ EV อยู่ครับ เป็นคนใช้รถหนักหน่วงพอสมควร แต่ รู้สึกเห็นด้วยอยู่เรื่องเดียวคือ เรื่องจุดชาร์จในการเดินทางออกต่างจังหวัด นอกนั้น ไม่ได้รู้สึกเหมือนในความเห็นครับ อาจเป็นเพราะ มุมมองในการใช้รถที่แตกต่างกัน 😅
ผมก็ใช้อยู่ครับ ชาร์จที่บ้านตลอด ไม่เคยชาร์จที่ปั๊ม ถ้าใช้เยอะแต่กลับบ้านตลอดนี่คุ้มมากมาย
พี่เคยขึ้นรถแล้วแบต เหลือ 10% แต่...วันนั้นรีบพอดี ผมอยากทราบว่า พี่แก้ไขเหตุการณ์แบบนี้อย่างไร นอกจากแนะนำว่าให้ช้าจก่อนเข้าบ้าน หรือ เสียบช้าจทิ้งไว้
@@Abcsdeiffjkeexx668 ส่วนตัวไม่เคยเจอเหตุการณ์นี้ครับ เพราะที่หันมาใช้ รู้อยู่แล้วว่าต้องปรับตัวในการใช้อย่างไร ขับกี่วันชาร์จที ออกเดินทางต้องแวะที่ไหน ต้องปรับตัววางแผนเยอะมาก แต่ก็เตรียมใจมาอยู่แล้วครับ
แต่ถ้าจะแบบว่า กังวลว่าขึ้นรถแล้วมี 10% แล้วจะไปไหนไม่ได้ ต้องรอชาร์จเป็นชั่วโมง ผมว่าอาจจะยังไม่พร้อมในการใช้รถ EV ครับ
@@NWST0271กลับบ้านเหลือ70/80%ก็ชาร์จให้เต็มไว้ วันไหนจะวิ่งไกลหน่อยก็ไม่ต้องกลัวว่าไม่พอใช้
ถูกต้องคับ
ปีญหาเดียว ที่จะเกิดขึ้น คือ การเติมไฟนอกบ้าน ถ้ามีปริมานมากขึ้น ก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว
ตอนนี้ที่บ้านใช้ BMW X1 รถใช้มา 4 ปีนิดๆไมล์ประมาณ 90,000 ไม่ได้มีปัญหาจุกจิก เหลือ BSI 2 ปี กับ Mazda 2 รถใช้มา 7 ปีกว่าๆ ไมล์ประมาณ 140,000 ก็มีซ่อมบ้างนิดหน่อยแต่ยังใช้ดีอยู่ ปัจจัยหลักที่ยังไม่ซื้อรถ EV คือถ้ามีรถน้ำมันอยู่แล้วและใช้รถไม่เยอะ หลักๆแค่ขับรถรับส่งลูกไปโรงเรียน นานๆไปเที่ยวต่างจังหวัดที ผมไม่ดิ้นรนไปออกรถ EV แน่นอน ขายรถเดิมก็โดนกดราคาสุดๆ แล้วยังต้องมาทนผ่อนคันใหม่อีก แต่ถ้าคนที่ใช้เยอะออกไปเลย ยังไงก็คุ้ม ไม่ต้องไปคิดว่าราคาขายต่อจะเหลือแค่ไหน
ถ้าใช้ไม่เยอะ ไป EV ไม่คุ้ม คิดถูกแล้วครับ
เหมือนกันครับ จริงๆแล้วอยากใช้ EV และที่บ้านติดโซล่าเซลแล้วด้วย ถ้า manage การ charge ดีๆ ก็เแทบจะวิ่งฟรี (แฟนใช้รถเช้า-เย็น กลางวันจอดอยู่ที่บ้าน) ระยะที่ ev วิ่งได้ตอนนี้พอแล้ว เพราะวิ่งทางไกลก็เอารถน่ำมันไป แต่ที่ยังไม่ซื้อเพราะรถน้ำมันที่ใช้อยู่ยังใช้ได้อีกหลายปี และแต่ละคันวิ่งน้อยปีนึงไม่ถึง 10,000 km เลยไม่รีบครับ ยังไม่ได้จำเป็นต้องเปลี่ยน แค่ถ้าจะเปลี่ยนรถคันถัดไปน่าจะซื้อ ev ครับ ตอนนั้นก็คงพัฒนาไปไกลกว่าตอนนี้แล้วด้วย
เงื่อนไขแต่ละคนไม่เหมือนกัน ใครพิจารณาแล้วตอบโจทย์ก็ซื้อใช้ได้เลยครับ
@@Nueng9999 คล้ายๆกันเลยค่ะ แถมของเราอยู่ ตจว. สถานที่ไม่ไกลมาก รถติดมากก็ใช้มอไซน์ได้ เดินทางไกลก็เก๋งดีเซล เลยไม่ค่อยสิ้นเปลืองมาก มีแผนว่าถ้าอนาคตต้องออกรถใหม่ ก็อาจจะออก EV มาลองสักคัน อีกสัก 3 ปีข้างหน้าค่ะ ไม่รีบค่ะ ( แต่ใจก็อยากออกนะคะ เพราะมีแต่คันสวยๆทั้งนั้น 555 )
ผมว่ามันเป็นเรื่องแนวคิดที่ต่างกันครับ ถ้าถามคนใช้ ev ก็คงต้องบอกว่าคุ้มสุดๆขับผ่านปั๊มจะรู้สึกยืดอกภูมิใจ แต่ถ้าไปถามคนใช้รถน้ำมันก็คงมีความเห็นอีกแบบบ้างก็ว่าแบตแพง กลัวค่าซ่อม ห่วงราคาขาย …เอาเป็นว่าผมว่าใครสะดวกแบบไหนก็ไปแบบนั้นครับ อยากให้ทุกคนนึดถึงโทรศัพท์มือถือยุคแรกๆโมโตรุ่นกระดูกเครื่องนึงเป็นแสนถือไปมาก็โคตรเท่ห์ พอมาเรื่อยๆโนเกียเครื่องละสี่หมื่นตีตลาดจนโมโตเดี้ยง แล้วมาดูตอนนี้สิครับ มือถือเครื่องละไม่กี่พันทำได้ทุกอย่าง … ท้ายสุดคือกลไกตลาดครับ ผมเชื่อว่ามันจะเปลี่ยนไปแน่นอน ev
จริง ๆ ในอีกมุมหนึ่งต้องมองด้วยครับ หากไม่มีผู้บริโภคช่วงแรก การแข่งขันของตลาดธุรกิจ ev ก็จะไม่เกิดครับฉะนั้นผมมองว่าใครพร้อมก่อนตัดสินใจก่อน ก็ถือเป็นคนที่มีส่วนร่วมให้ธุรกิจนี้โตขึ้น ถ้ามีแต่คนรอฟังก์ชั่นดี ๆ ครบ ๆ ราคาไม่แรง และไม่มีคนซื้อเลย ผู้ผลิตคงถอยไม่พัฒนาอะไรเพิ่มเติมครับ
ส่วนตัวเห็นด้วย ยังไม่คิดจะตามกระแสเห่อรถถ่านจนต้องหามาใช้ในช่วง 5 ปีนี้แน่นอน ถึงเวลาเปลี่ยนรถก็จะยังใช้รถน้ำมันต่อไป จนกว่า..
1.สถานีบริการน้ำมันแทบไม่เหลือ
2.จุดชาร์ตตามจังหวัดต่างๆมีมากพอ
3.ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100 เสร็จใน 10 นาที
สำหรับผมการจอดรถชาร์จนานๆ กับหัวชาร์จที่ไม่เพียงต้องมาขี่คอกันชาร์จ มันทำให้ผม "เสียเวลาทำมาหากิน" พอดีชีวิตไม่ได้ว่างขนาดนั้น
ผมก็ไม่ใช้รถไฟฟ้าใน2-3ปีนี่....แต่เราก็ไม่ควรคิดแทนคนอื่น เพราะเค้าอาจมีเงินจนไม่ต้องห่วงที่ต้องรีบไปทำมาหากินนะครับ😅
รถควัน มันเหม็นนะ
มันมีคนทำแบตชาร์จเสร็จใน5นาทีได้แล้วครับแค่ยังไม่ขาย ณ ตอนนี้มีอยู่แบรนนึง
เงินเขา แล้วแต่เจ้าของ
รถ ค่าเชื้อเพลิง ประกัน ภาษี เขาจ่าย ไม่เห็นมีใครช่วยออก
ถ้าคุณเคยใช้ EV คุณจะไม่กลับไปหา รถน้ำมัน รถไฮบริด อีกต่อไป
ยิ่งซื้อเมื่อ 2ปีก่อน โครตคุ้ม เพราะชาร์จไฟฟรี เดินทางฟรี ไม่เสียค่าเชื้อเพลิง
ยิ่งซื้อเร็วยิ่งคุ้มเป็นความจริงจากผู้ใช้จริงไม่ใช่คิดว่า.. เรื่องรถขายต่อนั้นจริง ๆ ต่อจากนี้ไปรถสันดาปขายต่อไม่ค่อยมีราคาหรอกครับ เพราะไม่ค่อยมีคนซื้อต่อ เพราะราคาน้ำมันควบคุมไม่ได้ คนซื้อรถใหม่ไปซื้อ ev หมด การชาร์ตไม่ได้เป็นปัญหามีที่ชาร์ตทุกที่ในประเทศไทยแล้ว ก็แค่ว่างแผนหน่อยเท่านั้นเอง แต่คนส่วนใหญ่ใช้ในจังหวัดตัวเอง 90% ดังนั้นส่วนใหญ่ก็ชาร์ตที่บ้าน ถ้ากลัวเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว ก็เหมือนมือถือนะครับ ก็ต้องรอเป็น iphone15 แล้วค่อยใช้จะทำงาน work ไหม? ส่วนใหญ่ประก้นภัยรถ ev ไม่ได้แพงกว่ารถสันดาปอย่างมีนัยสำคัญ กลับเป็นผลดีมีประกัน เกิดปัญหาแบต ประกันจ่าย หรือบริษัทจ่ายแล้วแต่กรณี
แนวคิดการใช้รถ ev หลักการคือมอเตอร์ แบทเตอรี่ และซอฟท์แวร์ที่เปลี่ยนไปจากรถสันดาบ การทำงานเรียบง่ายกว่ารถสันดาปเยอะ เพราะมีกลไกการเคลื่อนไหวน้อยกว่า จึงมีค่าซ่อมบำรุงน้อยกว่ามาก ยิ่งใช้งาน ev มากเท่าไหร่ก็ยิ่งคุ้ม ความแรงทำให้การขับรถปลอดภัยชึ้นเมื่อต้องการแซงหรืออกตัว เมื่อจำเป็นต้องใช้ความเร็ว การขึ้นภูเขาที่ต่อเนื่อง ๆ ยาวๆ ประหยัดมากกก แถมได้แบตคืน ความแรง หรือแรงบิดจึงจำเป็นมาก รถบางคันแรงบิดไม่พอขึ้นดอยสูง ๆ มีปัญหาแน่ครับ แต่ ev เร็วและแรงราคาถูกว่ารถน้ำมันมาก เพราะรถ ev แรงบิดสูงมาตั้งแต่รอบแรกๆ ไม่ต้องรอรอบให้แรงบิดตามสเปค 4000-5000 พันรอบเหมือนรถน้ำมัน ค่าใช้จ่าย ev ต่อ กม. .60 ถึง 1 บาท ถูกว่ารถน้ำมันหลายเท่าครับ ราคา ev ต่ำล้านทำได้ดีมากในปัจจุบัน จากใจจริง คนใช้ ev จริง ไม่คิดเองหรือคนอื่นเล่าครับ
@@truth2317 ซื้อต่ำล้านครับ ยังไงก็คุ้ม ผมใช้ชาร์จบ้าน95% จะไปห่วงเรื่องนอกบ้านก็ต่อเมื่อขับทางไกล ก็แค่ต้องวางแผน ขับน้ำมันไม่วางแผนกันรึไงมันปกติเลย ค่าไฟผมแค่เดือน1300บาท ก็วิ่งทุกวัน3-4วันชาร์จที ถ้าชนมันก็พังครับ รถน้ำมันก็พังเครื่องอยู่ด้านหน้า ใครอยากรอก็ดีครับ แต่ใครซื้อก่อนได้ใช้ก่อน ความแรงของรถก็อีก คนก็อยากได้รถเเรงๆกันทั้งนั้นครับ แค่ตามงบตอนออกรถน้ำมัน แต่เป็นไฟฟ้านี่ได้แรงแต่ถูกกว่าน้ำมัน อ้อ รถออกทีหลังวิ่งไกลขึ้นจริงครับ แต่แพงขึ้นตามลำดับ น้ำมันเติมเต็มถังก็วิ่งได้ 4-500โล อยากวิ่งไกลก็เติมใส่แกลอนใส่ท้ายรถไป เอาเป็นว่าแนวโน้มการใช้รถevเพิ่มขึ้น มือสองมีขาย แต่รถที่โดนยึดยังไม่เห็น(ตามข่าว)ค่ายรถไหนจะยื้อใว้ยังไงก็หยุดไม่อยู่ คนหันมารักโลกกันมากขึ้น แค่เอาขยะจากการผลิตไฟฟ้าไปกองใว้ไม่กี่ที่ ไม่เหมือนควันรถน้ำมัน ปล่อยกันทุกที่กำจัดขยะยากกว่า บ่นไปครับ
ขับก่อนประหยัดก่อน ขับที่หลังประหยัดทันที
ถ้าคุณเคยใช้ EV คุณจะไม่กลับไปหา รถน้ำมัน รถไฮบริด อีกต่อไป
@@lovedocomo สแปมขนาดนี้ เป็นคนหรือบอทครับ
แหม วิเคราะห์ซะละเอียด แต่เรื่องยางก็มั่วล่ะ รถไฟฟ้าใช้ยางรถน้ำมันก็ได้
เรื่องจุดชาร์จต้องวางแผนหน่อย แต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร ผมไปเชียงราย ภูเก็ตด้วยรถไฟฟ้าก็สบายๆ
เวลานี้ ซื้อหรือไม่ซื้อรถไฟฟ้า แล้วแต่ความจำเป็น แต่ที่แน่ๆ เวลานี้ ไม่ใช่เวลาซื้อรถน้ำมันเลย
เห็นด้วยเลยครับ ผมกำลังจะไปจอง BYD ที่งาน Motor Show ผมมั่นใจว่าคิดมาดีแล้ว 👍🎉
เรื่องเทคโนโลยีเปลี่ยนไวนี่เข้าใจได้นะครับ แต่เรื่องยางนี่ผมว่าเหตุผลไม่ make sense เท่าไรนะครับ
1. ยางแพงกว่า 3-4 เท่านี่เทียบว่ารถไฟฟ้าต้องใช้แต่ยางสปอร์ตตัวท็อปเส้นละ 6000 เทียบกับยาง eco เส้นละ 1500 งี้เหรอครับ ผมว่ามันไม่ใช่นะ จริงๆ รถไฟฟ้าจะใส่ยางอะไรก็ได้ครับ แต่มันแรงคนเลยอยากใส่ยางดีๆ ซึ่งถ้าคนจะประหยัดจริง จะเอายางเส้นละ 1500 มาใส่ก็ได้ มันก็ไม่ได้จะระเบิดหรืออะไร มันแค่ขับไม่ดี
2. เรื่องรถไฟฟ้าเสียงเครื่อวเงียบ เลยต้องใช้ยางเงียบ ผมว่าถ้าคนมันอยากใช้รถเงียบ ใช้รุ่นไหนมันก็ต้องหาทางให้เงียบอยู่ดีล่ะครับ ไม่ได้เกี่ยวกับรถไฟฟ้าหรือสันดาปเลย
2.
เรื่องยางผมเห็นด้วยกับคุณ100%
เห็นด้วยเลยครับ
เรื่องเทคโนโลยีแบตผมก็ว่าเริ่มอั้นอั้นไม่ได้ก้าวกระโดดแล้ว
ใช้เป็นรถคันที่สองในครอบครัว ขับสบายๆ ชิวชิวในเมือง วิ่งกระหน่ำแทนรถคันแรก ชาร์ตที่บ้านอย่างเดียว ใช้ยางถูกๆ ทั่วไป จ่ายประกันตัวถังพอ ใช้เลยประหยัดเลยได้ลองของใหม่เลย เตรียมขายรถน้ำมันคันที่สองในบ้านละครับ555
เรื่องยาง ผมเห็นด้วยครับ เพียงแต่ใช้เกรดดีหน่อย เส้นละ 2-3000 ผมก็พอรับไหวนะ
เห็นด้วยกับคอมเมนต์แรกนะครับ ปัจจุบันใช้รถน้ำมันก็ใช้ยางเส้นละ 4 พัน ถ้าเทียบยางสำหรับ EV ก็ประมาณ 6 พัน แพงกว่า 1.5 หรือ 2 เท่า ถ้าใช้ยางสมรรถนะใกล้ๆกันนะ
ส่วนเรื่องประกันก็ต้องทำใจถ้าจะใช้รถไฟฟ้าก็ต้องยอมรับค่าเบี้ยที่สูงกว่า
แต่เรื่องนึงที่คนไม่ค่อยพูดถึงและสนใจคือค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงตามรอบระยะทาง รถไฟฟ้าถูกกว่ามาก นอกเหนือจากประหยัดค่าเชื้อเพลิง/ค่าน้ำมันแล้ว
อันนี้จริงครับ ผลคิดว่าเจ้าของคลิปคงให้เหตุผลเฉพาะกับรถไฟฟ้าสมรรถนะสูง แต่ความจริงรถไฟฟ้ามีหลายเกรด หลายรุ่น หลายเซ็กเม้นท์เหมือนรถน้ำมัน อย่างเช่น Neta V ก็ไม่เจาะจงต้องใช้ยางอะไรแบบที่ในคลิปบอกมา ส่วนพวกเครื่องแรงระดับ 500 แรงม้า พวกที่มีแรงบิดสูงๆ สมรรถนะสูงขนาดนั้นก็คงไม่แปลกที่ต้องใส่ยางสมรรถนะสูงตามไปด้วย เหมือนรถสปอร์ต ซึ่งคนที่จ่ายเงินซื้อรถราคาขนาดนั้นก็คงต้องรู้อยู่แล้วว่าควรจะมีเงินสำหรับค่า MA อะไรพวกนี้สูงกว่าปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าหักกลบกับค่า MA ของรถน้ำมันเทียบเซ็กเม้นท์เดียวกัน ราคายางที่เพิ่มมาอาจยังไม่เท่ากับค่า MA รถน้ำมันด้วยซ้ำ การดูแลรักษารถไฟฟ้าจะต่ำกว่ามาก
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ ในมุมการใช้รถ EV ของผม เป็นรถคันแรก ใช้งานเป็นรถหลัก ไม่ได้ลำบาก และกังวลอะไรเลยครับ
ถ้าคุณเคยใช้ EV คุณจะไม่กลับไปหา รถน้ำมัน รถไฮบริด อีกต่อไป
ถ้าไม่เริ่มใช้ ก็ไม่มีการพัฒนา
ครับๆ ยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน
ถ้าเคยอยู่จีนและเห็นรถกองเป็นขยะ ราคาตกจนจอดทิ้ง ความคิดจะเปลี่ยนเล็กน้อย
ซื้อต่ำล้านครับ ยังไงก็คุ้ม ผมใช้ชาร์จบ้าน95% จะไปห่วงเรื่องนอกบ้านก็ต่อเมื่อขับทางไกล ก็แค่ต้องวางแผน ขับน้ำมันไม่วางแผนกันรึไงมันปกติเลย ค่าไฟผมแค่เดือน1300บาท ก็วิ่งทุกวัน3-4วันชาร์จที ถ้าชนมันก็พังครับ รถน้ำมันก็พังเครื่องอยู่ด้านหน้า ใครอยากรอก็ดีครับ แต่ใครซื้อก่อนได้ใช้ก่อน ความแรงของรถก็อีก คนก็อยากได้รถเเรงๆกันทั้งนั้นครับ แค่ตามงบตอนออกรถน้ำมัน แต่เป็นไฟฟ้านี่ได้แรงแต่ถูกกว่าน้ำมัน อ้อ รถออกทีหลังวิ่งไกลขึ้นจริงครับ แต่แพงขึ้นตามลำดับ น้ำมันเติมเต็มถังก็วิ่งได้ 4-500โล อยากวิ่งไกลก็เติมใส่แกลอนใส่ท้ายรถไป เอาเป็นว่าแนวโน้มการใช้รถevเพิ่มขึ้น มือสองมีขาย แต่รถที่โดนยึดยังไม่เห็น(ตามข่าว)ค่ายรถไหนจะยื้อใว้ยังไงก็หยุดไม่อยู่ คนหันมารักโลกกันมากขึ้น แค่เอาขยะจากการผลิตไฟฟ้าไปกองใว้ไม่กี่ที่ ไม่เหมือนควันรถน้ำมัน ปล่อยกันทุกที่กำจัดขยะยากกว่า บ่นไปครับ
ใช้ EV อยู่ค่ะ เห็นด้วยทุกข้อค่ะ มันคือ fact ใครจะแซะยังไงก็ตามสุดท้ายสิ่งที่พูดก็คือ feedback จากผู้ใช้จริงที่พูดๆอยู่ในทุกกลุ่มนั่นแหละค่ะ ถ้าคนมีเงินเหลือ รับความเสี่ยงได้ ยังไงก็เข้ามาใช้ได้ก่อนอยู่แล้ว ส่วนคนที่ยังไม่พร้อมก็ต้องรอต่อไปจริงๆ อีกอย่างตลาด EV ปีหน้าน่าสนใจกว่าปีนี้เยอะค่ะ รอได้ก็รอ ส่วนทางนี้ไม่รอค่ะ มีบ้านแล้ว มีรถ EV ต่อเลย แฮปปี้ทุกวันที่ใช้ค่ะ
ผมแฮ๊ปปี้ทุกครั้งที่วิ่งผ่านปั๊มน้ำมัน😅😅😊😊😊 นึกในใจมันไม่กินเงินกุแล้ว555😊
มีเงินเหลือ รับความเสี่ยงได้ ถูกต้องทีืสุดครับ ใครไคร่ซื่อ ซื้อครับ ส่วนผมรอรถev ครึ่งประเทศก่อน
@@uegenehonta7214👍เหลือเหมือนกันครับ เเต่ขอสังเกตุการณ์ก่อน😊
เราไม่มีเงินเหลือนะ แค่พอใช้ ยังมีหนี้ แต่ก็ใช้อีวีมาจะเข้าสามปีแล้ว ตอนแรกจะเอาออกมา คนรอบข้างค้านกันทั้งบ้าน ลูกบอก อนาคตแบตมานจะยังไง เด่วก็มีทางแก้ปัญหา เรื่องของอนาคต คนเราเก่ง ยุ่แล้ว
😂😂😂
ถูกทุกข้อ อีกประเด็น คือ เวลาไปเทื่ยว ขับรถไปถึงโรงแรม ดึกดื่น แบตเหลือไม่มากพอขับเที่ยววันรุ่งขึ้น ถ้าโรงแรมไม่มีservices เรื่องการชาร์จแบต ต้องเผื่อเวลา หาที่ชาร์จ ก่อนเอารถไปขับเที่ยว และขับกลับ ก็ แพ้รถน้ำมัน
อนาคต ไม่รู้ว่าจะมีเรื่อง ที่โรงแรมก็ต้องมา จัดที่และบริการเรื่องนี้ เพื่อแก้painpoint ก็จะทำให้ลูกค้าโรงแรมตัดสินใจง่ายขึ้น มันคือ infrastructure นั่นแหละ ที่ยังมาไม่ทัน รอดูตอนเค้าเปลี่ยนรถ จะ trade-in กันยังไง สรุป คือรอดู ใช้รถ ที่ใช้อยู่ไปก่อน ตอนนี้ใช้ hybrid ยัง happy ดี เลยรอได้สบายๆ ครับ
เหมือนกันครับ ใช้ไฮบริดดูความเป็นไปเรื่อยๆ
มุมมองของคนใช้รถ ev ในชีวิตประจำวันแล้วไม่คอมเม้นต์มากให้ปวดหัวในภาพรวมตอบได้เลยว่า" ไม่อยากกลับไปใช้รถสันดาปอีกเลย"
@@truth2317 มันก็ไม่เสมอไปหรอกครับ ผมมีทั้งEV ทั้งไฮบริด ทั้งเครื่องยนต์ รถแต่ล่ะประเภทมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย กระแสตอนนี้EV มาแรงแข่งขันเรื่องราคาและเทคโนโลยี แต่ส่วนตัวได้สัมผัสใช้แล้วก็รู้สึกว่าขึ้นอยู่กับเราใช้ไปไหนสะส่วนใหญ่ ถ้าคิดว่าเน้นประหยัดก็ไปEV ถ้าไปแนวครอบครัวเดินทางบ่อยก็ไปไฮบริดหรือเครื่องยนต์ แต่ผมมองว่าเครื่องยนต์อยู่ระหว่างกลาง เพราะว่าราคามีให้เลือกเยอะกว่าEV คนที่เค้ามีตังไม่มากมีเงินไม่เกินครึ่งล้าน เค้าก็เลือกซื้อเครื่องยนต์ เพราะEV มีราคาเกินครึ่งล้าน แล้วก็ตัวเลือกน้อย
ทุกวันนี้ก็เหมือนใช้ในราคาเช่าขับครับ ไม่ได้ซีเรียสเรื่องขาย
ตลกพวกคนจน ไม่เคยพักโรงแรมดีๆสินะ โรงแรมดีๆ มีที่ชาร์ททุกที่แล้ว สงสัยเข้าแต่ม่านรูดเลยไม่รู้
ถ้าคิดแบบนี้ทุกคน. คงไม่มีใครไปซื้อ แล้วผู้ผลิต ก็หยุดการผลิต หยุดการพัฒนา เพราะไม่มีคนซื้อจึงไม่มีทุนหมุนเวียน
ใช่คับ กระแสเงินสะพัดตั้งเท่าไร และ ค่ายที่มาขายรถไฟฟ้าในไทยก็เริ่มตั้งโรงงานกันแล้ว เขาไม่ได้มาเล่นๆ มีการต้องจ้างงานกันอีกเท่าไร ไหนจะเทคโลโลยี่ การชาร์ท ที่กำลังเกิด เป็นคนทำคลิปที่แมร่งไม่ได้ใช้รถไฟฟ้า ก็พูดไปเรื่อง มโนนั่งเทียน เหลาในกระดาษ
ใช่ครับ มันต้องมีคนที่อยากเปลี่ยน อยากเริ่ม อยากใช้ก่อน มันถึงจะพัฒนาไปเรื่อยๆ ถ้าตอนที่โทรศัพท์หน้าจอสัมผัสมา แล้วคนคิดว่าอย่าพึ่งใช้อย่าพึ่งเปลี่ยน ตอนนี้เราคงจะยังได้ใช้ nokia ปุ่มกดแน่ๆ 😂
@@shortcliptv6106 55555 ชอบๆ
ถ้าคุณเคยใช้ EV คุณจะไม่กลับไปหา รถน้ำมัน รถไฮบริด อีกต่อไป
เหรอผมเห็นข่าวต่างประเทศเทสล่าแบตเสื่อม แม่งเผารถทิ้งเลย เจอค่าเปลี่่ยนแบตเหมือนต้องซื้อรถใหม่@@lovedocomo
ตอนนี้รถEV อยู่ในช่วงฮานีมูน รัฐบาลช่วยจ่ายต่อคันเป็นแสนแต่มันเป็นนโยบายระยะสั้นเท่านั้นเพื่อเปิดตลาด EV ให้บูมในบ้านเราเดียวถ้ารัฐไม่ช่วยสนับสนุนหรือช่วยออกคันละแสนกว่า ที่นี้ก็คงคิดหนักกันแน่นอน🤣 ส่วนตัวขอรออีกสัก4-5ปีเก็บตังและรอดูการเปลี่ยรแปลงการพัฒนา ความนิ่งของศูนย์บริการของแบรนรถไฟฟ้า ภาษีต่างๆให้มันนิ่งกว่านี้ก็ค่อยตัดสินใจ ทุกวันนี้ยัง happyกับรถ hybrid และ Eco carอยู่😊
ได้คุยกับหลายๆคนในงานมอเตอร์เอ็กโป เค้าไม่คิดหนักอะไรเลย ไม่สนส่วนลดของรัฐด้วย คันต่อไปEVแน่นอน มีแผนซื้อปีหน้า เพราะอยากรอดูรุ่นใหม่ๆ(รุ่นที่ชอบ ที่เล็งๆไว้มาปีหน้า)
@@teerarujirekanusorn8498 ดีครับ รอดูพี่ๆน้องๆริวิวการใช้งานการเข้าศูนย์ในเพจต่างๆไว้เลยครับจะได้เตรียมความพร้อม
เห็นด้วยครับ รออีกหน่อยดีกว่า แต่ตอนนี้ถ้าซื้อรถใหม่ผมสนใจรถ Toyota Hybrid มากกว่า
ไม่เห็นด้วย 80% เห็นด้วยบางเรื่อง คิดต่างครับ ev ตอนนี้โครตคุ้มถ้ารู้จักวางแผน มีพลังงานส่วนตัวที่บ้าน ค่าประกันมีหลายบริษัทใหญ่เริ่มทำราคาไม่ต่างรถน้ำมันมาก ยางรถเห็นถอดเปลี่ยนมาใส่ยางเกรดดีๆก็ถูกใจกัน(ส่วนใหญ่จะรถจีน) แต่ราคาแบตฯกับเทคโนโลยีอนาคตทำให้ราคาตกเห็นด้วย ปล.รถน้ำมันก็ไม่ต่าง รถยุโรปราคาหายเป็นล้าน
1. ราคาถูกเพราะรัฐช่วยลดภาษีนำเข้า ราคาของมันจริง ๆ แบบไม่มีรัฐช่วยยังแพงอยู่พอสมควร
2. การเดินทางแล้วต้องมานั่งวางแผนชาร์จก็นั้นละคือความไม่สะดวกที่คนไม่อยากเสี่ยง
3. เบี้ยประกันก็ยังแพงกว่ารถน้ำเฉลี่ย 50%
4. รถเพิ่งมาบูม Manitanence ต่าง ๆ ต้องรอระยะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์อยู่ดีว่าไม่สาหัสกว่ารถน้ำมันซึ่งบางคนเขายังไม่กล้าเสี่ยง
สรุป ข้อดีของรถน้ำมันตอนนี้มีอย่างเดียวคือเชื้อเพลิงต่อกิโลถูก
เหตุผลที่ดีสุดตอนนี้ก็คือมันตกรุ่นไว รอไปอีกปปี จะมีรถที่เทคโนโลยีดีกว่ามากๆ คนซื้อวันนี้ต้องทำใจว่าปีหน้ารถที่ออกมา จะดีกว่ารถที่เราซื้อวันนี้เยอะ อาจจะน้อยใจหน่อยๆ 555
โคตรคุ้มถ้าไม่เจอปัญหา หรืออุบัติเหตุ
คุ้มไม่คุ้ม วัดที่ใช้รถเยอะ หรือ ไม่
อย่างอื่นเป็นไปตามคลิปนี้บอกทั้งหมด
เทคโนโลยีเผลอแปปเดียว มันจะกระโดดไปอีกขั้น
ถ้าทุกวันนี้ยังตามโทรศัพท์ไม่ทัน รถไม่ต้องพูดถึง
โทรศัพท์นี่ยากมาก เพราะต้องทำให้ทุกอย่างเล็ก ต้องนาโน
รถนี่ง่ายกว่ามาก จะใส่อะไรเพิ่้มก็แค่ต้องทำให้มันน้ำหนักเบา
ไม่นับแบตนะ อันนี้ตัวยากอีกตัวนึง
เดียวพอใช้รถไฟฟ้า นิสัยการขับจะเปลี่ยนแน่นอน ไปไหนมาไหนโดยใช้รถตัวเองบ่อยมากขึ้น เพราะไม่หวงค่าน้ำมัน
@@chavalitdeeudomwongsa8418
เทคโนโลยีมันก็พัฒนาไปเรื่อยๆไม่หยุดครับ รอใปก็ไม่มีวันถึงจุดขีดสุดได้หรอกครับ ซื้อเดี๋ยวนี้ก็ได้ใช้เดี๋ยวนี้ ไม่ซื้อก็ไม่มีวันได้ใช้หรอกครับ รอจนแก่ตายเทคโนโลยีมันก็ยังไม่หยุดพัฒนาครับ
คิดลบไปก็ไม่ค่อยดีนะ เอาคอนเทนต์ฟังแล้วมันไปต่อได้ดีกว่าครับ อย่าพยายามกดหรือด้อยค่าสิ่งอื่นที่เราคิดต่างมากนัก คล้ายๆกับคนที่เขากล้ารับเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเป็นคนไม่รอบคอบมองไม่เห็นปัญหาในอนาคต ปัญหามันมีทางออกเสมอหละครับ มันต้องสนับสนุนเขานะครับ เขาอุตส่าห์ทำราคาลงมาอีกเพื่อให้เราเข้าถึงได้ง่าย ประหยัดเงินในกระเป๋าเราอีก เรื่องยิบย่อยไม่ต้องเอาพูดก็ได้ครับ สื่อสารดีแต่ควรปรับปรุงเรื่องเนื้อหาหน่อยนะ
คนมันไม่เห็นด้วย มันก็หาเหตุผล 108 มาส่งเสริมความคิดตัวเองจนได้ ไม่เคยใช้รถไฟฟ้า ไม่รู้หรอก
รถ EV ไม่ทำลายอากาศดีดี ธรรมชาติดีดีบนโลกใบนี้ คิดแค่นี้ก็คุ้มค่าแล้วครับ ส่วนข้อเสียข้อด้อยอื่นๆสามารถบริหารจัแการได้ด้วยตัวของเราเองครับ
เคยใช้มาทั้งรถสันดาป และ Hybrid และปัจจุบันใช้ EV เห็นได้ชัดเจนอยู่แล้วเรื่องมลภาวะจาก EV น้อยกว่ารถสันดาปแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ แต่มีผู้ตั้งข้อสังเกตุซึ่งน่าคิดว่า การผลิตแบตเตอรี๋ที่ใช้กับ EV หนึ่งคันนั้น ต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติแค่ไหน เช่น Lithium ช่วงนี้ใครยกประเด็นนี้มาพูดอย่างตรงไปตรงมา ก็อาจถูกโจมตีได้ว่าขวางโลก หรือไม่ก็ไม่สนับสนุน EV อะไรทำนองนั้น ความจริงคือเป็นเรื่องที่ต้องเปิดใจกว้างยอมรับฟังข้อมูลประเด็นดังกล่าวด้วย และเราจำเป็นต้องเอาใจช่วยผู้ผลิต EV ให้ใช้ธรรมยากรธรรมชาติให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ๆ ด้วย
รถน้ำมันวันนี้ใครจะซื้อต้องคิดให้ดี อีก 4-5 ปีข้างหน้า ราคาจะตกยิ่งกว่ารถไฟฟ้า
แต่รถ EV ซื้อวันนี้ อีก 4-5 ปี ราคาก็ตกหนักเช่นกันนะครับ
@@MonkeyDhydeรอซื้อครับ รถไฟฟ้ามือสอง5ปี ถ้าตกเหลือสัก30%ซื้อเลย เพราะอัตราการเสื่อมของแบต5ปีไท่ถึง10%
รถน้ำมันจะกลายเป็นเศษเหล็กในไม่ช้า
ส่วนรถไฟฟ้า อนาคตน่าจะมีแบตเตอรี่ มาให้เปลี่ยน และใช้ต่อได้อีก 10 ปี 😊
ตอนนี้พ่อค้ารถน้ำมันก็ต้องออกมาพูด ออกข่าว พยุงสถานการณ์ขายรถน้ำมันไว้ ไม่ให้เจ๊งไปมากกว่านี้ ถ้าราคาน้ำมันอยู่ที่ 15 บาทถึง 20 บาท รถไฟฟ้าเกิดยาก
แต่ถ้า น้ำมันราคา 40- 45 บาท มีตังค์ก็ใช้รถน้ำมันได้สบายครับ
@@คนบ้าท้าชนคนโง่ ผมรับซื้อ good cat atto3 ไม่เกิน 8หมื่นโล คันละ 250,000 ไปทำรถเช่าที่หัวหินคับ
ไม่เห็นด้วยหลายเรื่อง เรื่องราคาตกเปลี่ยนแบตแพง รถน้ำมันตอนนี้ราคาตกมาก รถมือ2เริ่มขายไม่ออก รถยี่ปุ่นใช้มา9ปี จาก1.79ล้านเหลือ4แสน รถเยอรมัน9ปี จาก4.29เหลือ7แสน บอกหน่อยเถอะ รถไฟฟ้า ราคาล้านกว่าผ่านไป8-9ปี เงินหายมากกว่าตรงไหน แล้วค่าน้ำมันที่ประหยัด จากกิโลละ3-6บาท เหลือไม่ถึงบาทเนี่ย ใช้ปีละ15,000-20,000โล ปีนึงประหยัดเท่าไหร่?4-6หมื่นสบายๆ 9ปีมีเกือบ4-5แสน เอามาคำนวนมั้ย? ค่าบำรุงรักษาที่บอกว่าอาจจะมากกว่า คุณบอกมามั่วๆนะครับ ชิ้นส่วนรถไฟฟ้าน้อยชิ้นกว่า มีโอกาศเสียน้อยกว่า ค่าน้ำมันเครื่องไม่ต้องเสีย ที่มีต้องจ่ายมากกว่าที่ชัดเจนคือแค่ยาง ที่เปลี่ยนทุก2-3ปี แพงกว่าเท่าไหรคิดดูเองได้ และอีก2ปีราคายางก็ถูกลงอีกเพราะปริมาณการใช้เพิ่ม และยางที่บอกแพงกว่าเพราะSpecก็สูงกว่า
ส่วนปัญหาเรื่องที่ชาร์จนั้นมีจริง ต้องรอให้จุดบริการมากขึ้น แต่อันนี้คือสำหรับคนวิ่งตจวช่วงวันหยุดยาว ปกติตจววันธรรมดาก็ยังหาที่ชาร์จได้ไม่ยากเลย สำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้าและไม่มีที่ชาร์จในบ้าน ก็มีบ้าง แต่ไม่มากนัก บางคนอยู่คอนโด แต่ถ้าอยู่บ้าน ส่วนมากมีที่ชาร์จ และการใช้งานส่วนมากคือขับในเมือง แบตพอเหลือๆไม่ต้องหาที่ชาร์จเลย ที่พูดมานี่เหมือนเป็นความเห็นคนที่ไม่ได้ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำมาพูด คนที่้ใช้อยู่ผมว่ามีหลายคนไม่เห็นด้วยกับคลิปเลย ค่าประกันยังแพงจริง แต่คงแค่1-2ปีนี้ ซึ่งแพงกว่าหลักหมื่น บวกลบกันแล้วไม่หนีกัน ส่วนตัวใช้รถไฟฟ้าอยู่ มีไปตจวบ้าง โดยรวม9เดือนที่ใช้ รู้สึกดีจนไม่อยากกลับไปขับรถน้ำมัน เทคโนโลยีจะดีขึ้นจริง แต่กว่าจะมีความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด คนที่ใช้งานรถไฟฟ้าทุกวันนี้ก็คุ้มไปแล้ว
ทำคลิปออกมา อย่างปั่นเลย ไม่รู้ว่าไม่รู้จริงหรือสร้างกระแส
ประกันมี หาประกันดีๆ แบตเสียก่อนกำหนดเปลี่ยนยกเซ็ตยังมี 👍👍👍
สิ่งที่เจ้าของคลิปพูด เราก็เห็นด้วยหลายเรื่องนะ คุณคิดเห็นไม่เหมือนเค้า ก็ไม่จำเป็นต้องแขวะเค้า ออกความเห็นเชิงสร้างสรร ดีกว่ามั้ย
เราเห็นด้วยที่เจ้าของคลิปบอกว่า ตอนนี้เทคโนโลยีมันกำลังพัฒนาไปไกล อนาคตชาร์ต 1 ครั้ง น่าจะวิ่งได้เยอะกว่านี้ และค่าใช้จ่ายแฝงของรถ ev ค่าประกันแพง หรือการไปชาร์ตในห้าง เจอของถูกใจจ่ายแพงกว่าค่าชาร์ตอีก
ไม่เห็นด้วยครับ กับคลิปคับ ...จบ
เรื่อง ประกันภัย ที่ น่าคิด คือ ถ้ารถ เกิน 7 ปี บริษัท ประกันภัย จะรับ หรือไม่ หรือ ถ้ารับ จะมี เงื่อนไข อื่นตามหรือไม่
มุมมองสำหรับผมนะครับ
EV ออพชั่นจัดเต็ม เร่งแซงสบายขึ้นเยอะ เรื่องระยะไม่กังวลเลย ผมว่าคนที่เค้าขับไม่ไกลก็มีเยอะมากครับ
Neta V โคตรคุ้มแล้วครับ ลดเหลือ5แสน ของแถมจัดเต็ม แก้ปัญหาหลายๆอย่างที่ออกมาจากโรงงานแต่แรกได้เลย
ตัวใหม่มา ไม่น่าสามารถทำราคานี้ได้แล้ว
อีกคนละ เอาอนาคตมาเทียบกับตอนนี้ได้อย่างไร มันก็จริง อีก2ปี รถอาจจะราคาไม่เกิน1ล วิ่งได้1000กิโลเมตร อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่คิดแบยนี้มันไม่ถูกหรอก คุณต้องเทียบกับเวลาปัจจุบัน ว่า1 จำเป็นต้องซื้อรถใหม่หรือยัง 2. ค่าใช้จ่ายในการใข้งานคุ้มกว่ารถน้ำมันมั้ย 3. ความปลอดภัยหรือออฟขั่นดีกว่ารถอื่นๆในปัจจุบันมั้ย ต้องเทียบเวลาปัจจุบันครับ
ผมขอถามเล่นๆนะครับ ไม่เครียด ไม่ได้แอนตี้รถ EV นะครับ ถ้าคุณหาเงินได้เดือนละ 10 ล้าน ก็เท่ากับ 1 วันจะหาเงินได้วันละ 333,333 บาท 1 ชม หาได้ 13,888 บาท คุณจะเลือกซื้อรถ EV ที่ต้องมานั่งรอ 30 นาที หรือรถสันดาปที่แค่เติมน้ำมันไม่ถึง 5 นาทีครับ?
@@PB-PBK โลกนี้มีกี่คนที่มีรายได้ขนาดนี้ คนรวยจะซื้อไรไม่มีใครว่าหรอกคา้บ คันละ100ล้าน 1000ล้านก็ได้ ขี่เครื่องบินส่วนตัว ไม่ต้องแวะเติมน้ำมันด้วย
เหตุผลเดียวที่ผมยังไม่ซื้อรถ EV คือ ยังขับ และ ผ่อนรถสันดาปอยู่คับ ตอนนี้คงประมาณว่า คนซื้อขับแล้วไม่ได้บ่น แต่คนบ่นยังไม่ซื้อใช้ มั๊ง...
ซื้อก่อนคุ้มก่อนครับเพราะรถใช้ได้ 10 ปีก็ทิ้งซื้อใหม่ 10 ปี น่าจะจ่ายไฟไม่เกิน 200,000 บ.ถ้าเป็นน้ำมันน่าจะต้องจ่ายที่ 800,000 บ.
รถใช้แล้วทิ้งราคา ล้านกว่า รวยเกิ้น
ใช้แปีบเดียว รถมีปัญหา รถชน รออะไหล่นาน ทนไม่ไหวก่อน 10 ปี = ขาดทุน ขายมือสองใครจะซื้อ
@@TheDrgate เงินมันเฟ้อนะครับ ล้านกว่าตอนออกใหม่ หลัง 10 ปีแล้ว อาจเหลือไม่เกินครึ่งล้าน
ผมใช้ตั้งแต่ ZS 2019 รถไฟฟ้า เกิน 5 ปี ขายไม่ได้ราคาแล้วครับ
5555 รถอีวี10ปีทิ้ง แต่รถสันดาป10ปีขายต่อราคาเกิน 1ใน3 ของราคารถ
แล้วรถอีวีมันมีค่าใช้จ่ายราว 0.6บาทก็กิโล แต่รถสันดาปอีโค่คาร์ราว 1.4บาทต่อกิโลเพราะงั้นถ้าอีวีค่าไฟ2แสน สันดาปก็จะมีค่าน้ำมันราว4.6แสน ไม่ได้ทิ้งห่างไปขนาด8แสนหรอก นี่ยังไม่นับว่าถ้ารถสันดาปเครื่องพังก็ทำเครื่องใหม่ได้ แต่อีวีแบตพังนี่ราคาแบบเหมือนจะต้องซื้อรถใหม่
ปัญหาที่คุณพูด ไม่ได้กระทบใดๆ กับผมเลย คำนวณดูดีๆ แล้วก็ยังถูกกว่ารถน้ำมันเยอะอยู่ดี แถมได้ความสะดวกกว่าด้วย และทุกๆ อย่างในรถอีวีราคาก็จะลดลงเรื่อยๆ ถึงเวลานั้นสบายๆ ครับ
ไม่ว่าช่วงไหนก็ไม่คุ้มอยู่ดี ถ้าราคาแบตเตอรี่ยังราคาครึ่งหนึ่งของราคารถ ยิ่งขายมือยองยิ่งแล้วใหญ่เลย เพราะคนซื้อเขาก็กลัวเรื่องแบตพังอีก ลองสังเกตุรถไฮบริดดู ราคามือสองตกฮวบๆ หักลบดูตอนนี้เครื่องยนต์ล้วนดีกว่า รถEVเหมาะสำหรับคนข้อนข้างมีตัง
เห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงการขายเป็นรถมือสองหรอก ไม่มีใครซื้ออยู่แล้ว เอาแค่เจ้าของรถนี่แหละ ว่าจะตัดสินใจยังไงในวันที่จะเปลี่ยนแบตถ้าราคาแบตยังอยู่ประมาณนี้หรือลดลงแค่10-20% สำหรับผมให้ฟรีๆ ไปเปลี่ยนแบตใช้เองเลยก็ยังไม่เอา รถ8-10 ปีต้องมาลงทุนอีก5-6แสน นึกถึงภาพจะทิ้งรถต้องเสียเงินขึ้นมาเลย
ถ้าไม่เริ่มก็ไม่ได้เกิด มันจะต้องมีกลุ่มผู้กล้า นำหน้าไปก่อนเสมอ แล้วพัฒนา/ปรับปรุงกันไปเรื่อยๆ ส่วนคนขี้ขลาดก็รอไปเรื่อยๆล่ะกันนะ
แล้วพี่อยู่ในกลุ่มไหนครับ
ขอขี้ขลาดรอพี่ๆผู้กล้าทดลองให้เสถียรก่อนค่อยย้ายไปละกัน เงินทองหายากประหยัดได้ก็ต้องประหยัด 😊
ถ้าคนไม่ซื้อใช้ บริษัทก็ไม่มีเงินทุนไปพัฒนารถรุ่นใหม่ให้ดีขึ้น
ใช้ก่อน ประหยัดก่อน
@@noombeat ผมใช้ Atto3 มาจะครบปีล่ะ
ความแรงใครจะโง่ขับแรงยังงั้นหนักหนาอย่างผมแค่ 80 เผลอๆ 100 ขึ้น ปล่อยคันเร่งแล้วขึ้นเฉยเลย ก็กลัวจะถูกจับแล้วเดียวไปรษณีส่งไปบ้านเฉยเลย
ผมเป็นคนลาวครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูล ตอนนี้กำลังวางแผน จะชื้อรถไฟฟ้า zeekr 001 วิ่งได้1000km
สำหรับคนใช้รถเก๋งขี่โก้ๆ ไปใช้รถไฟฟ้าเถิดครับ แต่ถ้าคุณ เป็นสายกะบะใช้รถหนัก แนะนำใช้รถน้ำมันไปเถิด ดีกว่าเยอะ.... ก็อย่างรายการว่า เบี้ยประกันถูก ไม่ต้องจอดรอไฟเป็นครึ่งชั่วโมง และอีกอย่างคือหาช่างง่าย ไปซ่อมบำรุง เปลี่ยนยาง อู่รถธรรมดาก็สามารถซ่อมให้ได้ ... ในระยะยาว ราคารถก็ไม่ตกมากแบบรถไฟฟ้าแน่นอน (ไม่เชื่อก็ค่อยดูได้เลย) ....อีกอย่างนะครับ รถสันดาปก็พิสูทธ์การใช้งาน มานาน 2 ชั่วอายุคน อย่างบ้านผม ยังใช้ กะบะ tfr อยู่เลย ใช้ไม่ยาว ขี่เรื่อยๆ บรรทุนปาล์ม วิ่งไปซื้อของ ไปเที่ยว ...ได้สบาย ((อายุรถ 27 ปี))
แบตเสื่อม มีจอดทิ้งกันแน่นอนครับ
ข้างบ้านยังไม่รู้เลยว่ารถไฟฟ้าจีนยี่ห้อที่ใช้อะไหล่แพงกว่ายุโรป ไฟแตกหน้ายุบนิดหน่อยศูนย์เขียนมา3-4แสน
ค่าเบี้ยยังนึกว่า1-2หมื่นตามราคารถความจริง4หมื่น+ ปีหน้าเบี้ยและทุนซ่อมมีการแยกแบตฯออกมาต่างหาก ที่7ปีทุนแค่10%+- เชื่อว่าคนส่วนมากที่ใช้ก็ไม่รู้
ผมมองว่ายังไม่คุ้ม
เท่าที่ควร ผมเองก็ประกอบแบตเตอรี่เองได้ เรื่องพวกมอเตอร์
หรือระบบไฟก็รู้
แต่มันยังไม่ค่อยคุ้มเท่าที่ควร
จะแพ็คแบตเตอรี่เองยังไม่คุ้มเลย
รอให้เทคโนโลยีแบตเตอรี่
ดีกว่า ลิเธียม ฟอสเฟต
หรือ NMC ก่อนตอนนี้มันก็พอมีนะแต่ราคา😂😂😂 ไม่ค่อยน่าคบเลย
กลุ่มที่คุ้มคือกลุ่มที่ใช้รถ หนักหน่วง ใช้ทุกวัน ขับไปทำงาน อันนี้คุ้ม
กลุ่มที่ไม่คุ้มคือ กลุ่มคนที่ใช้รถนานๆครั่ง กลุ่มสายจอด ใช้รถเสาร์-อาทิตย์ แล้วจะเปลี่ยนตามกระแส อันนี้ไม่คุ้ม
สำหรับผมเป็นทั้ง 2 กรณี แต่ใช้รถต่างประเภทกัน
จ-ศ. ใช้รถทุกวัน แต่เป็นรถกระบะ ที่บ้านทำสวน ใช้งานรถหนัก ทั่งขับไปทำงาน ขนของ ขนผลผลิตไปขาย ปัจจุบันไม่มีรถไฟฟ้าในกลุ่มรถกระบะเลย รถน้ำมันที่ใช้อยู่ ก็อายุ 25ปี up ทุกคัน และมั่นใจว่าใช้ได้ถึง 30 ปี เพราะอะไหล่ยังหาได้ง่ายๆ ถ้าเปลี่ยนเป็นไฟฟ้า ไม่รู้จะใช้ได้ถึง 30 ปีไหม กรณีนี้คิดหนัก ถ้ามีรถกลุ่มนี้ก็อยากลอง แต่ใจลึกๆรู้แน่ ว่ามันใช้ๆม่ได้นาน เผลอๆ 7-8ปี ได้ขายซากแล้วซื้อใหม่ ความคุ้มค่าไม่มีใครรับรองได้เลย
เสาร์ - อาทิตย์ ใช้เก๋ง และ suv ส่งแม่บ้านไปซื้อของในเมือง ระยะทางไปกลับ 70km. อายุรถย่าง 20ปีทั้ง 2 คัน อะไหล่ก็ยังมี ค่าน้ำมันก็รับได้ อันนี้ไม่คิดเปลี่ยน เพราะรู้ว่าเปลี่ยนยังหงก็ไม่คุ้ม เพราะรถใช้น้อย รถ ย่างยี่สิบปี เลขไมค์ ไม่ถึง 8 หมื่น ทั้งสองคัน นานๆมีใช้ออกต่างจังหวัดท่องเที่ยวที
รอไปครับอีก10-20ปีรอใช้วิวแชร์ไฟฟ้าเอาครับ เทคโนโลยีเดินหน้าทุกวัน ความคิดกังวลล้าหลังมาก ที่พูดๆมาคือเหมือนคนไม่เคยใช่ชัดๆ คนใช่เค้าโน้นไม่กลับมาใช้รถน้ำมันแล้ว
เหมาะกับคนใช้งานเดินทางประมาณหนึ่งถึงไกลครับ เช่นวันละ 50-100 กม. ต่อวัน ควรใช้รถไฟฟ้านะครับ เพราะถูกกว่ารถน้ำมันแน่นอน ส่วนต่างเอาไว้เป็นค่าซ่อม ก็ยังถูกกว่ารถน้ำมัน ส่วนตัวคิดว่า ตอนนี้ค่อนข้างเหมาะ แต่การเดินทางไกล อาจไม่ค่อยสะดวกอย่างที่คิด หมายความว่า เหมาะกับการเดินทางไปเที่ยวใกล้ๆ ไปกลับ ตามระยะรถ เช่นวิ่งได้ 300-400 กม.ก็เผื่อไว้ว่า ไป 100 กม. กลับ 100 กม. เหลือๆ ถ้าแบบไป-กลับ มาชาร์จที่บ้าน แบบนี้ยิ่งสะดวกมากครับ ยังไงก็มาและคุ้มกว่าครับ
เรื่องราคาตก ลองไปดูรถน้ำมันตอนนี้
แล้วคนซื้อเผื่ออนาคต ถ้าราคาพวกแบตมันลงมาแล้ว ก็ถึงจุดคุ้มทุนยังครับ ภายใน 4-5 ปีข้างหน้า น่าจะมาไหมครับ
ตอบง่ายๆ คือยังครับ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ตอนนี้มันยังไม่นิ่ง โตโยต้าบอกจะออกแบต Solid State มาเกือบ 10 ปีแล้วยังออกไม่ได้ ถ้าจะรอให้นิ่งคิดว่าคงต้อง 20 ปีโดยประมาณครับ
@@kengbiz9343 ถ้า 20 ปี ก็คงไม่ต้องรอแล้วละคับ เกษียณไม่มีเงิน ไม่ทันใช้พอดี 🥹
เทคโนโลยีนิ่งแปลว่าตายครับ คือพัฒนาต่ไม่ไ้ด้ครับ ทุกวันนี้ไอโฟนนิ่งแล้วหรือครับ ขนาดเปลี่ยนโน่นนิดนี่หน่อยคนยังซื้อทุกปีเลยครับไม่เห็นมีใครรอมันนิ่งซักคน แล้วไอโฟนรุ่นเก่าๆก็ยังเห็นมีคนซื้อมือ2อยู่เลย
ค่าใช้จ่ายที่ตามมาในการใช้รถ EV ณปัจจุบันหลายๆอย่างมันมากกว่าการใช้รถน้ำมัน มันจึงไม่เหมาะกับคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ยังเป็นกลุ่มคนชั้นกลาง ไม่ได้มีรายได้ปีละหลายล้าน
ศูนย์ช้าตไม่นานก็จะดีกว่านี้ครับเทคโนโลยี มันก้าวไปเร็วมากสมัยนี้ แบตก็เช่นกันยังไงๆ ก็จะมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ผมไปศึกษาที่พี่เวลมาเพราะสนใจในเรืองรถยนต์ไฟฟ้ามากพอสมควรใครว่าไม่ดียังไงมันก็ดีแล ทางบ้านบอกว่า รถจีนไม่ดีงั้นงี้ จริงๆจีนเขาพัฒนากว่านี้ไปเยอะแล้วทั้งๆที่จีนเขา (เมื่อก่อน) ชอบดัดลอกของต่างๆนาๆ จะไปโทษเขาได้ไงว่าเขาไม่ดี เป็นผมถ้ามีคนติดคุกออกมาผมก็จะโอกาสเข้ามาทำงานได้อยู่ครับมองแง่ดีสะบ้างปล่อยวางค่อยๆคิดตริตรองว่าไหนดีไม่ดี
ไม่อยากให้คนมาเถียงกันเริ่องรถๆ ราๆ ยังงี้เลยเรื่องแค่นี้ หัวจะปวดเปล่าๆ เราว่าพอเหอะเรื่อง รถๆ อะไรแบบนี้
ตอนแรกนึกว่าจะวิชาการหรือเชิงข้อมูล ดันเอาความรู้สึกมาพูดเป็นหลักเลย คือมันไม่มีไม่คุ้มหรอครับ เพราะซื้อมาก็ใช้งานได้เลย กว่าจะเปลี่ยนก็ 3 ปี 5 ปีอย่างน้อย ผมเทียบง่ายๆแบบนี้ รถน้ำมันใช้งานเกิน 10 ปี มีเยอะกว่าคนซื้อรถใหม่กี่เท่า ต่อให้รถใหม่เร็วกว่า สวยกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า ดีกว่าทุกด้านทำไมเขาไม่เทิร์นรถตลอดเวลาล่ะครับ หรือต่อให้มือถือก็เถอะ ราคาย่อมเยาว์กว่าด้วย ทำไมไม่เห็นคนเทิร์นมือถือทุกปีล่ะครับ ยังไงแล้วคนก็ใช้ของเดิมเยอะกว่าซื้อของใหม่เรื่อยๆอยู่แล้วครับ ถามว่าไม่คุ้มยังไงครับ ยกเว้นว่าถ้าคุณบอกมันแพงกว่าในส่วนนี้ๆ นวัตกรรมใหม่กำลังจะมาแล้วทำให้รุ่นเก่าคือง่อยไปเลย ต่างกันสุดๆ แบบนั้นค่อยมาพูดว่าไม่คุ้มหรือให้รอก่อนได้ครับ สรุปคือถ้าจะเปรียบเทียบคุ้มหรือไม่คุ้ม ควรรอไปก่อนไหม ต้องมีข้อมูลมาเปลี่ยนเทียบครับ ต้องใช้ข้อมูลนำ ไม่ใช่เอาความเห็นความรู้สึกนำ
อันดับ1ความซวย คือไปเที่ยว ขับไปถึงโรงแรม ดึกๆแบทหมด ต้องไปหาที่ชาร์ท วันรุ่งขึ้นเพราะโรงแรมมันก็ไม่มีให้ หาปั้มต่อคิวแย่งคนอื่น เสียเวลาโครตๆ เข้าใจว่าประหยัดจริง แต่ไปเที่ยว ต่างจังหวัดยังไงน้ำมันชนะขาด. ยิ่งช่วงเทศกาล รถติด ไม่ต้องพูดถึง EVเหมาะ กับ การขับในเมืองตอนนี้คับ.
ใช้ก่อน ประหยัดก่อน , อย่างiphone 30ดีกว่า 15แน่นอน จะรอมั้ย 555
ถ้าไม่เคยใช้แล้วมาวิจารณ์ ผมว่าไม่แฟร์ เพราะไม่ใช่เองแล้วพูดอย่างงี้คือรู้ไม่จริง การวิเคราะห์ที่ไม่ถูกต้องเลย
นอกจากเหตุผลที่พูดมา คนจะเปลี่ยนมาใช้รถ อีวีได้ คือ เรื่อง mindset ครับ ถ้าไม่เคยลองใช้ แล้วพูดเป็นตุเป็นตะ ก็เข้าตำรา อย่าเชื่อแม้จะพูดให้น่าเชื่อถือแค่ไหนก็ตาม
ทุกสรรพสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เวลาจะบอกคุณภาพได้ ไม่ผิด ไม่ถูก มีแต่ชอบกับไม่ชอบเท่านั้น
ใช่ครับ แล้วแต่ความชอบ และการวางแผนใช้งานของแต่ละคน
หาข้อมูลเยอะๆ รถไฟฟ้าไม่ได้เหมาะกับทุกคน ส่วนตัวใช้แค่ไปกลับทำงาน วันละ 100 โล ไม่ออกตจว. ชาร์จไฟที่บ้าน ตอบโจทย์มาก ใช้แล้ว Happy ดีทุกอย่าง ^^
ผมใช้ตั้งแต่ ZS EV 2019 ถ้ามองแค่เรื่องประหยัด หากคุณไม่เน้นชาสไฟ TOU ที่บ้าน มันจะไม่ได้ประหยัดมากกว่ารถไฮบริด ขนาด 2 3 เท่า ชาสปั้มตอนกลางวันทีก็ 3-5 ร้อย ค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่า เกือบสองเท่า ค่ายางรถที่แพงกว่าด้วย แต่ถ้าขับเยอะๆ วันนึ่งเกิน 100 กิโล และไม่คิดขายต่อในอนาคต ซื้อใช้เลยคุ้มแน่นอน
ราคามือ2 รถน้ำมัน เละมาก รถแค่1ปี
เทคโนโลยีตอนนี้ก็โอเคพอได้แล้วครับ ใช้ตอนนี้ประหยัดค่าน้ำมันก่อนเลย ปีนึงประหยัดไป 5-6 หมื่นบาท ชาร์จที่บ้านได้ครับ นานๆไปตจว.
คนไม่เคยใช้ ก็วิจารณ์ไป คนใช้เค้ารู้กัน ตลกดี
ผมอยู่ที่่ความคิด และ ความพร้อม แต่ละคน ครับ ไม่พร้อมอย่าใช้ ครับ แต่แปลกใจว่ารถ EV มีประสิทธิภาพดีกว่าเกือบทุกด้าน แต่ราคาถูกกว่ารถ สันดาป ใน performance เดียวกัน
เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ยังไม่ตวรรีบซื้อรถไฟฟ้าตอนนี้
ปีหน้า Ev ราคาขึ้นแล้วนะครับ เงื่อนไขภาษีสรรพสามิต
ใช้ Tesla มา 4-5 ปี รู้สึกคุ้มมากค่ะ เพราะน้ำมันแพงกว่าค่าไฟมากมายเลยค่ะ ชุดชาร์จมีเยอะมากค่ะ เรื่องนี้ไม่มีปัญหาทางยุโรปค่ะ 🇩🇪🇪🇺🌍
อิจฉา ต่างประเทศมากเลยครับ จุดชาร์จรู้สึกว่าจะมีเยอะมาก และมีการสนับสนุนที่ดี ตัดมาที่บ้านเรา กลัวเสียผลประโยชน์ ไม่พัฒนาไปไหนกันสักที ที่จริงพัฒนาได้ แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีพอ
ผมก็เป็นอีกคนที่รอเหมือนกันครับ ถ้าซื้อตอนนี้คิดว่าเหมาะกับคนที่มีบ้านแล้วใช้เป็นรถคันที่ 2 มากกว่า
*ถ้าใช้เยอะในเมืองรีบซื้อเลย คุ้มสุดๆ//
*ถ้าวิ่งต่างจว.บ่อย ให้รอเพิ่มสถานีชาร์จอีกหน่อย 1-2ปี ไม่งั้นจะหงุดหงิดมาก (ถึงมีแต่ไม่ว่างก็ต้องรอ) //
*ถ้าใช้น้อยมาก ใช้คันเดิมไปก่อน รอๆๆจนEVราคาถูกลงมาก รถเดิมเก่ามาก ค่อยเปลี่ยนเป็นEV พอดีเลย ตอนนั้นที่ชาร์จของเต็มเมืองแล้ว
ปกติเห็นทำการบ้านดีนะครับ
แต่คลิปนี้ ทำการบ้านมาไม่ค่อยดี อาศัยข้อมูลจากเพื่อนบอกต่อ แล้วเอามาลงคลิป ไม่หาข้อมูลเชิงประจักษ์ ทำให้ข้อมูลมีส่วนที่แปลกๆเยอะเลยครับ
ไม่ใช่ว่าเหมาะ หรือไม่เหมาะ แต่พร้อม หรือไม่พร้อมต่างหาก ส่วนตัวผมไม่พร้อม 😂😂😂
ไม่ทนเท่าสันดาปแน่นอน รออีก 8 ปี รู้ผลครับ วีออสผมใช้มา 18 ปีแล้ว ไม่เคยเสียจริงๆจังๆ ขับได้ 2.8 แสนไมล์แล้วครับ ส่วนอะไหล่ไม่แพง
เอาตรงๆนะครับต้องรอดูระยะยาว เรื่องคุณภาพ ค่าบำรุงรักษา
อีก3-4ปี เขาหันไปใช้รถ Ev มากขึ้น รถน้ำมันจะเหลือเท่าไหร่ครับ แล้วจะมีใครอยากซื้อไหมครับ ?
ยังไม่เจอปัญหาใดๆ มีแต่คุ้มค่าทุกเดือน วันไหนไฟดับยังเอาหุงข้าวได้เลย ทดลองคันราคาต่ำไปก่อนก็ได้ถ้ายังไม่พร้อม แล้วจะรู้ว่าความสุขมีอยู่จริง
สำหรับเราที่เลือกรถ EV เพราะลดภาระค่าน้ำมันไปเยอะ ซื้อรถน้ำมันในยุคนี้ต้องจ่ายทั้งค่าบำรุงรักษาน้ำมันเครื่องโน่นนี่นั่น ค่าน้ำมัน รวมค่าผ่อนไปอีกจุก รถ EV เหมือนแค่ผ่อนรถเท่านั้น ไม่ต้องมาปวดหัวค่าน้ำมัน
ตอนนี้ PHEV ที่ปรับเป็นวิ่งไฟฟ้าอย่างเดียวได้น่าใช้ที่สุด รออีก 3 ปี ให้แบต EV ถูกลงและได้ระยะทางต่อการชาร์ตแต่ละครั้ง มากขึ้นขนาด 800 ถึง 1,000 กม. ในรถ EV ทุกรุ่น ตั้งแต่ ถูกยันแพง ค่อยน่าซื้อมาใช้ ถึงเวลานั้น จุดชาร์ตแบตสาธารณะ จะกระจายทั่วประเทศไทย แบบไม่ต้องเข้าคิวรอ หรือจองในแอพ ล่วงหน้า อีกทั้งไม่ต้องหัวเสียกับคันที่ชาร์ตเต็มแล้วเจ้าของไม่มาเลื่อนรถออกจากที่ชาร์ต เพราะเมืองไทยคนหัวร้อน คนเห็นแก่ตัวเยอะ จิตสาธารณะด้อยกว่าคนชาติอื่น การแย่งที่ชาร์ต บนลานชาร์ตแบตสาธาณณะ แล้วเขม่นกัน จะเกิดขึ้นบ่อย ต้องมีสติ ใจเย็น ไม่เช่นนั้นอาจพิการ หรือเสียชีวิต บนลานชาร์ตแบตสาธารณะนั้น อีกอย่าง Long weekend อย่าไปชาร์ตแบตในที่ชาร์จสาธารณะ โดยเฉพาะ ตาม หัวเมือง ตจว. ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เดี๋ยวจะมีเหตุขึ้นโรงพัก หรือไป รพ. แทนที่จะไปเที่ยว
เขาว่า PHEV เกิดไฟไหม้ได้ง่ายกว่ารถน้ำมันเสียอีก
อันดับสองคือรถน้ำมัน อันดับสามคือรถ EV
ผมเห็นด้วยนะ อีก 3-4 ปีค่อยซื้อ รอเทคโนโลยีและความพร้อมต่างๆมันนิ่งกว่านี้ ถึงตอนนั้นใครซื้อมีหลังได้เปรียบกว่า
ผมใช้ mg EV ZX ปกติครับ ศูนย์ เติมไฟฟ้าเฉพาะ MG อย่างเดียวก็ 100 กว่าแห่งแล้วครับ ใช้ดีมากครับคุ้มสุดๆนาทีนี้รัฐบาลช่วยตั้ง 250,000 บาท MG ช่วยอีกแสนนึงแล้วไม่คุ้มตรงไหนครับ คิดได้ไงครับนี่ ทำไม Nokia 3210 ใช้กันครับไม่รอให้เป็น iPhone ก่อนละครับ รถซื้อเพื่อมาใช้ครับไม่ได้มาขายต่อ 8 ปีคุ้มค่าน้ำมันแล้วครับ
เหตุผลดี เหมือนโทรศัพท์มือถือ ตกเร็ว รอสัก 4-5 ค่อยซื้อ ใครรอได้ 10-20 ปีโคตรคุ้ม นั่งรถเมล์ไปก่อนนะครับ
อยู่คอนโดที่ไม่มี EV charger ส่วนตัวเลยตัดปัญหาเรื่ิองอยากได้ไปเลย ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีๆ ที่แบ่งปันเสมอมาครับ
ยังไม่เห็นข้อเสียของ EV ใช้มา 10 เดือนแล้วครับ
ไม่มีคนซื้อใช้ก็ไม่มีการพัฒนาให้มันดีขึ้น ถ้ายอดขายไม่ดีการพัฒนาก็หยุด การที่จะได้ประกันราคาถูก หรืออะไหล่ราคาถูกก็จะไม่เกิด คอนเทนต์หยุดความเจริญ
ผมเห็นด้วยนะครับ ค่าประกันจะได้ลดลงด้วย เล่นออกมาบอกยังไม่เหมาะเพื่อ....ก็ให้เค้าอยู่กะลาแลนต่อไป 😂
เราซื้อใช้เองคุ้มมากๆๆๆ ขับ 4พันกว่าโล/เดือน จากเติมน้ำมันเดือน15,000 ตอนนี้จ่ายค่าไฟ 3พันกว่าเอง
วิเคราะห์ได้ครบถ้วน คมกริบ ฟังง่ายมากๆ ชื่นชมครับ
ในตอนนี้ แต่ละค่าย ทำมาสู้ด้านตัวเลขกัน
หากเรามีการพัฒนามอเตอร์ร่วมกับแบต มีการใช้กำลังมอเตอร์ที่เหมาะสมมากขึ้น ... เราจะวิ่งได้ไกลขึ้น
เช่น อีกหน่อย มอเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้ทั่วไป 200Nm สามารถวิ่งได้ถึง 10kw/100km ก็ได้
เมื่อร่วมกับ เทคโนโลยีแบตสมัยนี้ แค่ 50kw ก็ทำให้วิ่งได้ถึง400กิโลได้ง่ายๆ
จริงครับ เห็นล้อ 20 นี่ถอยแทบไม่ทัน
เปลี่ยนยางทีละหกหมื่น ขนหัวลุกมากกก
ซื้อแคมรี่ยังไม่ต้องจ่ายค่ายางแพงขนาดนี้เลย
ฉลาดลงคลิปให้เกิดความแตกแยกแล้วเอา ทรายฟิกจากคอมเม้น ยอมใจช่องนี้จริงๆ
เห็นด้วยหลายข้อครับ
แต่ที่บอกว่ายาง EV แพงกว่ายางปกติ 3-4 เท่า อันนี้เกินจริงไปเยอะ
อย่าง MICHELIN PILOT SPORT 5 255/40 R20 ราคา Tyreplus 12,150 บาท
ส่วน MICHELIN PILOT SPORT EV 255/40 R20 ราคา Tyreplus 15,690 บาท
ยาง EV แพงกว่าประมาณ 25% เท่านั้นในยางตระกูลเดียวกัน
น่าจะมี power bank สำหรับรถยนต์ขาย หรือให้เช่า
ซื้อแล้วเอาขึ้นไปไว้ท้ายรถ ต่อหัวชาร์จที่อยู่ท้ายรถ
เข้ากับ power bank แล้วถ้าวิ่งต่อได้อย่างน้อย 50
กม. ก็ OK แล้ว
มีแล้ว เช่าแบตเปลี่ยนไปได้เลย
ใช้อยู่.ไม่จุกจิก.ไม่ต้องกังวลเติมน้ำมันน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรอง.น้ำมันเกียร์ น้ำมันพาวเว่อร์ เติมน้ำหม้อน้ำ คอยเช็คความร้อนของเครื่องยนต์ สบายขึ้นเยอะ ไม่ต้องประสาท แดกเวลาราคาน้ำมันขึ้นลง ต้องรีบไปเข้าปั๊ม😂😂😂
ถูกต้องเลยครับโลกสวยเพราะการตลาด ยังรอการพัฒนาที่จะคุ้มกว่านี้อีกใน 4-5 ปัข้างหน้าทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆและรถ EV ญี่ปุ่นก็จะออกมาแข่งขันในตลาดด้วย.
รออีกแปบ LTO จะมาเปลี่ยนเทคโนโลยีแบต มันดีกว่า LFP ประมาณ 10 เท่าทั้งอายุการใช้งานเขาเคลมที่ 5000-30000 cycle ใช้กันที 80ปี
ชาร์ตเร็ว 0-80% ภายในเวลาแค่ 6 นาที
อิลอน เขาเอาแน่เท่คโนโลยีนี้
มันจะคุ้มค่าหรือไม่อยู่ที่ความพอใจแต่ละบุคคล ถ้าคิดว่าตอนนี้ไม่คุ้มก็ซื้อรถน้ำมันไปก่อนไม่เสียหายอะไร แต่ถ้ามีทุนพร้อมอยากลองเอาเลย
มันขึ้นอยู่กับไลฟสไตล์ของแต่ละคนครับ ไม่มีคนกำหนดว่าทุกคนจะต้องเปลี่ยนมาใช้ EV กันหมด คนใช้สันดาปก็จะหาเหตุผลมากลบ EV
ถ้าไม่สะดวกก็ใช้แบบเดิมไม่ผิด หรือ รับไม่ได้ที่เห็นคนใช้ EV แล้วแฮปปี้ 😂ซื้อก่อน ได้ใช้ก่อนครับ 👍
การซื้อรถ EV ในปัจจุบันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
คนซื้อจะต้องศึกษาข้อมูลให้มาก และชั่งน้ำหนักให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ
การใช้งานของบางคนเหมาะสมที่จะซื้อรถ EV มากกว่า
แต่บางคนอาจไม่เหมาะที่จะซื้อรถ EV ในตอนนี้
เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย แอดมินควรเปิดประเด็นใหม่เป็น
#เหตุผลที่เวลานี้เหมาะกับการซื้อรถ EV
คนที่เข้ามาดูก็จะได้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น
แล้วเขาจะได้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับตัวเขา
รถไฟฟ้า ถ้าเกิดเพลิงไหม้ พนักงานดับเพลิง ต้องปลดล๊อค ระบบไฟฟ้า ก่อนฉีดน้ำ ไปที่รถ เพราะยังมีกระแสฟฟ้า ผ่าน หลายหมื่น volts
ใช้เลย ดี ใช้อยู่คับบบบ 😅
ตาสว่างกระจ่างเสียที กำลังจะตัดสินใจ ขอบใจเด้อ
ผมว่าใช้ตอนนี้กำลังดี ไม่ต้องแย่งกันชาจ ถ้ามีกันเยอะกว่านี้ อาจก็รอหน่อย ขั้นต่ำ 30นาที จนถึง 1 ชม😂😂 รอชาจอะ ตอนนี้ดีเลย ขับเที่ยว แวะชาจากที่ บุรีรัมย์ สบายเลยครับ คนใช้น้อย แล้วนั่ง กินกาแฟสบาย
ถ้าคิดแต่รอ ประเทศนี้ก็คงได้บ่นเรื่อง PM2.5 บ่นอากาศไม่ดี อยากให้รัฐทำอะไรสักอย่าง แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังคงคิดแต่รอให้พร้อมก่อน ถ้าไม่ใช่คุณแล้วจะเป็นใคร ใช้รถไฟฟ้าเลย เดี๋ยวเค้าก็ทำที่ชาร์จเพิ่มเอง
เทคโนโลยี EV ตอนนี้ยังไม่นิ่ง มาตรฐานกลาง ยังไม่มี เพราะแต่ละฝ่ายใช้มาตรฐานของใครของมัน แถมค่ายต่างๆ ก็ตามใจฉัน เพราะเทคโนโลยีมันก้าวกระโดด ไม่มีใครเป็นผู้นำ ประเทศมหาอำนาจไหนได้เป็นคนกำหนดมาตรฐานก็จะกลายเป็นพ่อทุกสถาบัน
ข้อ 1. ที่บอกว่า จะวิ่งได้ 700-800 ต้องใช้เทคโนโลยีลิเธียมซัลเฟอร์ เพราะลิเธียมไอออน 500 km/cycle ตันแล้ว
ข้อ 2. ถ้าแยกแบตเตอรี่ในแต่ละโมดูลได้ อาจจะมีการเปลี่ยนแบตในแต่ละโมดูล ซึ่งอาจจะทำให้เร็วขึ้นมากกว่าเดิม
สรุป รถ EV ซื้อตอนนี้ ใช้รถตอนนี้
จะดี รึไม่ดี ก็ขึ้นกับเงินในกระเป๋าตังค์เรา
แค่เรา พอใจ ขับสนุก สบายใจกับรถที่ได้มา ซื้อรุ่นไหนก็เป็นรถที่เราเลือกเอง
ขอแค่ อย่าซื้อมาแล้ว คิดว่า ไม่น่าซื้อมาเลย
ส่วนตัว ขับ CEFIRO A31 MT RB25
ขับสนุก แซงได้ดี เข้าโค้งได้ดี เสียงท่อดี
แอร์เย็น เพลงเพราะ
เหมือนขับรถแข่งทุกวัน มีความสุขทุกวัน
ค่าน้ำมัน 8-10 กม/ลิตร รับได้🤣
เพราะเป็นรถที่ชอบ🥰🤣🤣
คิดตรงกันกับผมเลยครับ ขอเพิ่มเติมอีกข้อคือ หากใช้รถมาก ใช้ทุกวัน คุ้มกว่า คนที่ซื้อมาจอดมากกว่าวิ่งครับ
ไม่ต้องคิดมากฟังผมเถอะถ้าคุณเป็นคนใช้รถคิดว่าจะใช้เกินสิบปีวิ่งเกินสามแสนโลแน่แน่ยังไงรถสันดาปก็ดีกว่าแน่นอนแต่ถ้าซื้อมาใช้แล้ววิ่งมากมากในระยะไม่เกินห้าหกปีเปลี่ยนอันนี้รถEVหรือไฮยริดดีกว่าแน่นอนแต่ถ้าคุณคิดว่าEVมันแรงคุณตัองมองย้อนว่าเอาเร็วแรงไปไหน แข่งกะใครนอกจากความสะใจก็แค่นั้นครับซึ่งรถอะไรก็แรงเร็วได้ถ้าเงินถึง
ไม่เเห็นด้วย ครับ ผมใช้ทั้ง EV ทั้งน้ำมัน เคยใช้ รถน้ำมัน ค่าน้ำมันเดือนล่ะ 6000 ตอนนี้ใช้ EV เดือนล่ะ 700 บาท ค่าซ่อมบำรุง รายปี น้ำมัน แพงกว่าเยอะ พอครบ 5 ปี 7 ปีต้องซ่อมใหญ่มี จุกๆ และเดี๋ยวนี้ราคาตกอย่างรวดเร็ว เหมือนๆ กัน เอาแค่โตโยต้าปี ล่ะ 150000 . สำหรับ รถ EV การเปลี่ยนแบตก็จ้ะราคาถูกลงเพราะมันไม่ได้ซับซ้อน แค่เอาอันเก่าออก ก็ใส่อันใหม่ได้แล้ว
ซื้อก่อนใช้ก่อนครับ
กลัว 10 ตัวครับ กลัวความไม่สเถียร กลัวแบตพัง กลัวรถจีน กลัวไม่มีศูนย์ กลัวเสียเวลา กลัวไม่ได้ประหยัดกว่าเดิม ผมว่าความประหยัด มันแปรผันออกมา ตามราคารถ และความเสี่ยงนั้นแล้ว