Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
วิเคราะห์ เหตุใดจึงผิดพลาด กรณีแพทย์จบใหม่เสียชีวิตสวัสดีครับจากการที่ผมลงคลิปเมื่อวานที่มีแพทย์ที่เพิ่งจบใหม่จากประเทศจีนนะครับชื่อน้องวุ้นเสียชีวิตก่อนวัยอันควรครับก็มีคนติดใจค่อนข้างที่จะเยอะเลยทีเดียวว่าการตรวจรักษานั้นเหมาะสมหรือเปล่านะครับ เมื่อวานผมวิเคราะห์ไปในแนวทางที่ว่าน้องเขาสามารถเป็นอะไรได้บ้างที่ทำให้เขาถึงแก่ชีวิตนะครับ วันนี้ผมจะลองมาวิเคราะห์อีกมุมนึงก็คือว่าเหตุใดน้องเขาจึงไม่ได้รับการวินิจฉัยหรือรักษาตามที่เราคิดว่ามันควรจะเป็นนะครับ อันนี้สำคัญมากแล้วนะครับผมก็เลยจะลองมามองในมุมนี้ดูบ้างนะครับพบกับผมนะครับ นายแพทย์ธนีย์ ธนียวันนะครับ เป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เชี่ยวชาญโรคปอด การปลูกถ่ายปอด และวิกฤตบำบัดนะครับ
1️⃣จากคลิปเมื่อวานผมได้แจ้งไว้ตอนต้นคลิปแล้วว่าผมมีข้อมูลเพียงแค่ของฝ่ายแม่ของน้องเขาเท่านั้นนะครับผมไม่มีข้อมูลของฝ่ายทางโรงพยาบาลหรือของหมอที่เขาตรวจน้องตั้งแต่แรกนะครับ ดังนั้นการวิเคราะห์เมื่อวานของผมนั้นจะเป็นไปในแนวทางที่บอกได้ว่าน้องเขาเป็นอะไรนะครับวิเคราะห์ไปในทางนั้นเท่านั้นแต่ผมจะไม่สามารถตอบแทนสาเหตุที่หมอที่เขาดูแลน้องเขาตอนแรกนะครับคิดแบบนั้นหรือสั่งการรักษาหรือจะทำไปแบบนั้นได้นะครับ การที่เรามีข้อมูลไม่ครบเนี่ยมันไม่สามารถทำให้เราสรุปอะไรไปก่อนได้เลยนะครับ แล้วผมก็สงสัยไว้อยู่แล้วว่าจะต้องมีคนที่ไม่ได้ฟังตรงนี้แล้วฟังผ่านนะครับเลยมา Comment ว่าผมรู้ข้อมูลยังไม่ครบทุกด้านเลยทำไมผมรีบด่วนสรุป จริงๆผมก็ไม่ได้รีบด่วนสรุปอะไรแต่อย่างใดเลยนะครับ ผมสรุปเฉพาะว่าน้องเขาน่าจะเป็นจากอะไรเท่านั้น แต่วันนี้ผมจะลองมามองอีกมุมหนึ่งถ้าสมมุติว่าผมเป็นหมออยู่ตรงนั้นแล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้เนี่ยมันมีโอกาสตรงไหนบ้างที่ตัวผมเองจะพลาดได้เพราะว่าในฐานะที่ผมก็เคยเป็นแพทย์ใช้ทุนนะครับ ต้องตรวจคนไข้ปริมาณเยอะรวมทั้งในจำนวนคนไข้ปริมาณเยอะๆนั่นอาจจะมีคนไข้ป่วยแบบนี้มาก็ได้นะครับแล้วผมก็แน่ใจแล้วว่าในอดีตผมเองก็เคยพลาดมาก่อนเหมือนกันนะครับ ดังนั้นวันนี้เราเริ่มกันเลยดีกว่านะครับ🔶ข้อแรก เวลาที่เราดูข้อมูลจากฝ่ายผู้เสียชีวิตเนี่ยต้องบอกไว้ก่อนว่ามันจะทำให้เราคิดไปในทางด้านเดียวเสมอเลยนะครับการที่เรามามองข้อมูลย้อนหลังมันจะทำให้เรารู้สึกว่าเราเห็นข้อผิดพลาดเต็มไปหมดนะครับ แต่ถ้าเราเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์เสียเองนะครับแล้วมองข้อมูลไปข้างหน้าเนี่ยการที่เราจะเห็นข้อผิดพลาดเห็นข้อที่มันน่าจะอันตรายเนี่ยมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แล้วที่สำคัญต้องบอกไปก่อนว่าอาการที่น้องเขาเป็นโรคที่เขาเป็นเนี่ยต้องบอกว่ามันเป็นอะไรที่พบได้ยากมากนะครับ เหตุผลที่มันพบได้ยากเพราะว่า
2️⃣🌀1 ถ้าเราเป็นหมอที่ตรวจคนไข้เยอะๆแล้วมีคนเดินเข้ามาหาเรา คนๆนั้นเนี่ยอายุน้อย ไม่เคยมีโรคประจำตัวอะไรมาก่อนนะครับเราก็ต้องคิดว่าเป็นคนแข็งแรงต่อให้เขาป่วยอะไรเขาคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากนะครับ ก็คงคล้ายกับคนทั่วๆไปนะครับ ไอออกมาเป็นเลือด! เราฟังดูแล้วตกใจใช่ไหมครับ หรือถ่ายออกมาเป็นเลือด! เราฟังทุกคนฟังแล้วตกใจหมด แต่เอาเข้าจริงๆในเวลาที่เราเจอเคสอย่างนี้ในทางการแพทย์. เราเจอเคสที่ไอออกมาเป็นเลือดเนี่ยถ้าเราถามประวัติให้ชัดเจนจริงๆ ถ้าสมมติมันเป็นแค่เสมหะและมีเลือดปนเฉยๆนะ ผมจะสงสัยเลยว่าอันนี้ไม่มีอะไรหรอก มันน่าจะเป็นแค่คออักเสบไอรุนแรงแล้วเส้นเลือดฝอยมันแตกนะครับเลือดมันก็เลยออกมา ตรงนี้ถ้ามันเป็นแค่นี้นะตัวผมเองก็อาจจะไม่ได้คิดเยอะด้วยซ้ำไปนะครับ แต่ตรงกันข้ามถ้าสมมุติว่าไอออกมาแล้วเสมหะทั้งก้อนน่ะมันมีเลือดปนแบบเยอะมาก อย่างนี้คนละอย่างกันแล้ว อันนั้นถือว่าเลือดที่ออกมันเป็นปริมาณมาก ดังนั้นตรงนี้เนี่ยผมไม่มีข้อมูลของฝ่ายแพทย์ดังนั้นผมไม่สามารถบอกได้เลยว่าอันนี้มันเลือดเยอะหรือเลือดน้อยเพราะว่าถ้าเลือดน้อยนะเป็นแค่เสมหะแล้วมันปนเลือดเล็กๆน้อยๆนะครับเราก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก เราก็คิดว่าน้องเขาแข็งแรงน่าจะเป็นการติดเชื้ออะไรสักอย่างตรงคอนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเองนะครับ ส่วนถ่ายเป็นเลือดอย่างที่บอกแล้วว่าถ้าถ่ายเป็นเลือดแดงสดปริมาณมากอันนั้นน่ะไม่มีคนไหนให้กลับบ้านแน่นอนนะครับ มันจะต้องถ่ายเลือดแบบเลือดสดๆออกมาปริมาณเยอะๆเลยนะครับซึ่งอันนี้ก็เราจะตรวจได้ตั้งแต่แรก น้องเข้าไปตรวจค่า Complete Blood Count หรือ CBC ซึ่งก็จะสามารถบอกได้ตั้งแต่แรกว่ามีภาวะโลหิตจางที่เกิดจากการถ่ายออกมาเป็นเลือดสดเยอะๆแค่ไหนนะครับ ผมคิดว่าคงจะไม่มี เพราะว่าถ้ามีเนี่ยคนทุกคนที่เขาดูก็น่าจะเห็น แล้วก็มีการไปตรวจทวารหนักซึ่งก็น่าจะเหมาะสมดูซิว่ามันมีอะไรปนอยู่ในอุจจาระหรือเปล่าหรือมีริดสีดวงมีอะไรตรงไหนไหมนะครับ อันนั้นก็คือเป็นสิ่งหนึ่งซึ่งอาจจะทำให้บอกได้ว่าเออมันไม่ได้มีอะไรเยอะในตอนแรกนะครับ ประกอบกับการที่น้องเขาแข็งแรงนะครับการที่อาจจะเรื่องของการไอเนี่ยมีเลือดออกมาไม่เยอะเรื่องของถ่ายออกมาไม่เยอะ น่าจะเป็นจากการที่ไม่สบายทั่วๆไป บางคนเป็นหวัดเป็นไวรัสธรรมดาแล้วอาการแบบนั้นก็เป็นได้นะครับ ที่สำคัญคือเขาอาจจะชะล่าใจอย่างหนึ่งก็คือน้องเขาเป็นหมอด้วยนะครับพอเป็นหมอคิดว่าถ้าเราคุยกับน้องเขาแล้วน้องเขาไม่ได้ว่าอะไรตอบกลับมานะ ไม่ได้สงสัยอะไรไม่ได้ติดใจก็คงจะเข้าใจในอาการที่ตัวเองเป็นแล้วว่ามันไม่ได้หนักอะไรนะ คิดว่าอย่างนี้คงเป็นปกติพอบวกกันก็เลยกลายเป็นว่าไม่ได้รู้สึกว่าอันนี้หนักหนาสาหัสแต่อย่างใดนะครับ ไม่ได้รู้สึกอะไรกันแบบนั้น อันนี้ก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งซึ่งตอนนั้นเขาไม่ได้ทำการเพาะเชื้อ แล้วพอส่งไปให้อีกวันนึงเนี่ยที่เขามาตรวจนะครับก็เริ่มมีปัญหานะเพราะเท่าที่ผมเปิดไว้เพราะผมก็ยังต้องการทบทวนเคสนี้นิดนึงเหมือนกันนะครับ คือวันแรกเนี่ยที่บอกว่าแพทย์ที่ตรวจไม่ได้สนใจค่า Complete Blood Count หรือ CBC ที่บอกว่ามีเม็ดเลือดขาวสูง
3️⃣➡️อันนั้นเนี่ยผมบอกว่าจริงๆเนี่ยถ้าผมเห็นตรงนั้นผมก็สนใจเหมือนกันนะครับแต่ว่าผมอาจจะไม่ได้คิดว่ามันเป็นอะไรมาก อาจจะไม่ได้คิดว่าเป็นอะไรมากเพราะว่าหลายๆคนที่อายุน้อยเนี่ยนะครับเวลาที่มีการเจ็บป่วยติดเชื้อหรืออะไรก็แล้วแต่นะครับค่าเม็ดเลือดขาวของเขาเนี่ยจะขึ้นสูงได้ค่อนข้างที่จะรวดเร็วกว่าคนที่อายุเยอะนะครับ ซึ่งอันนี้ไม่ได้แปลกใจอะไรนะครับ และถ้ามันสูงบวกกับอาการอย่างอื่นซึ่งมันดูแล้วมันไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรตรงเนี้ยจะเป็นส่วนที่ทำให้เขาไม่ได้คิดอะไรมากแล้วก็พลาดในตอนนี้ไปก็ได้นะครับ ทีนี้วันต่อมาที่น้องเขามาหาเนี่ยนะครับผมเชื่อเลยครับว่าต้องเป็นแพทย์คนละคน ทีนี้พอเป็นแพทย์คนละคนเนี่ยบางทีเราก็อาจจะไม่ได้คิดเรื่องของอาการต่อเนื่องนะครับอ่านของแพทย์คนที่แล้วที่เขาเขียนไว้ก็อาจจะไม่ได้เยอะเท่าไหร่นะครับ พออ่านไปอ่านมาแล้วก็ความคิดชุดเดียวกันเลยก็คืออายุน้อย เป็นหมอเอง น่าจะรู้อะไรบางอย่าง ถ้าเขาไม่ได้บ่นอะไรมากน่าจะไม่มีอะไร แล้วตอนนี้ไอที่มันมีเลือดปนกับอุจจาระที่มีเลือดปนมันเยอะแค่ไหนถ้ามันยังน้อยๆอยู่เล็กๆน้อยเท่าเดิมเนี่ยก็อาจจะไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเดิมอีกนะครับ เอกซเรย์อะไรก็เออทำไปแล้วก็ไม่ได้เจออะไรนี่ คือเขาอาจจะลืมไปส่วนนึงก็คือว่าการตรวจของเมื่อวานกับการตรวจของวันนี้บางทีถ้าตรวจซ้ำเนี่ยมันอาจจะได้ข้อมูลที่แตกต่างไปจากเดิม ปัญหาก็คือผมไม่รู้ว่าเขาตรวจซ้ำอะไรบ้าง เช่นเมื่อวานตรวจ CBC วันนี้ตรวจหรือเปล่านะครับ ข้อมูลจากคุณแม่เนี่ยเราไม่มีตรงนี้นะครับ ถ้าไม่มีการตรวจซ้ำเนี่ยผมก็ไม่รู้ว่าทิศทางมันไปในทางไหนนะครับ เลือดปริมาณที่ออกมันออกมากกว่าเดิมหรือเปล่า เพราะว่าถ้าเราอ่านจากข้อมูลของคุณแม่เนี่ยนะครับน้องเขาเนี่ยมีอาการหน้ามืด เป็นลม ใจสั่น ปากซีด ➡️ซึ่งต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่าการไม่สบายหลายๆอย่างก็ทำให้เกิดอาการแบบนี้ได้ เช่นบางคนท้องเสียก็มีอาการแบบนี้นะครับ บางคนไม่สบายเป็นหวัดก็มีอาการเช่นนี้ได้ ดังนั้นอาการที่น้องเขามาแล้วชุดอาการทั้งหมดของเขาเนี่ยถ้าเราเจอกันทุกวันอย่างนี้นะครับสมมุติมีสัก 100 คนเนี่ยมันจะมีอย่างน้องวุ้นสักคนนึงแหละที่อาการหนักแล้วก็เป็นเร็ว ส่วน 99 คนที่เหลือเนี่ยต่อให้อาการเหมือนกันเปี๊ยบเลยนะก็จะไม่อาการหนักแบบนี้นะครับ จึงเป็นคราวเคราะห์จริงๆของทั้งน้องทั้งคนตรวจที่ไปเจอเพราะโอกาสที่จะเป็นแย่ๆเนี่ยมันมันน้อยมากนะครับแล้วเราก็ไม่ได้คิดถึงเพราะว่าอายุน้อย แข็งแรงดีด้วย อันนั้นคือเป็นปัจจัยหลักเลยอันดับแรกนะครับ
4️⃣ทีนี้วันที่ 2 ที่น้องเขาไปตรวจก็คือวันที่ 29 สิงหาคมที่น้องเขาตรวจว่ามีชีพจรนะครับเร็ว 130 140 นะครับแล้วก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะอักเสบทั้งร่างกายหรือ SIRS นะครับที่เมื่อวานเราอธิบายไปแล้วนะครับ ตรงนี้เนี่ยน้องเขาไม่ได้รับการตรวจ Hemoculture ก็คือไม่ได้รับการตรวจเพาะเชื้อในเลือด ➡️ซึ่งตรงนี้ผมยังคิดไม่ค่อยออกเหมือนกันว่าเหตุใดที่ไม่ได้ตรวจเลือดหาเพาะเชื้อนะครับเพราะว่ามีการสั่งจ่ายยาฆ่าเชื้อด้วยนะครับ แต่อย่างไรก็ตามตรงนี้ต้องไปดูการวินิจฉัยของแพทย์ที่ดูแลก่อนนะครับเพราะว่าก่อนที่เราจะสั่งจ่ายยาตัวนี้เนี่ยครับเราควรจะพอเดาได้ว่ามันมีการติดเชื้ออยู่บริเวณไหน เช่นบางคนอาจจะมีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หรือว่าทางเดินหายใจเพราะว่าน้องเขามีไอแล้วมันมีเลือดปนนะครับก็อาจจะเอาเชื้อตรงบริเวณนั้นไปเพาะนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาเพาะอื่นเขาไม่เพาะนะครับคือการที่ไม่ได้เพาะเชื้อในเลือดเนี่ยไม่ได้แปลว่ามันผิดนะครับ เพราะว่าหลายๆครั้งเนี่ยถ้าผมมั่นใจนะเช่นสมมุติว่ามีน้องคนนึงมาหาผมอย่างนี้แล้วผมรู้สึกว่าอันนี้ติดเชื้อในปอดแน่นอนนะครับ สมมุติว่าเป็นเชื้อตัว Streptococcus Pneumoniae ที่เราพูดกันเมื่อวานนี้เลย สมมุติเป็นแบบนั้นเลยนะถ้าผมสงสัยมากๆผมก็รู้สึกว่าถ้ามันเป็นตัวนี้นะแล้วอาการหนักเวลาอยู่ที่โรงพยาบาลเนี่ยสิ่งที่ผมให้ผมก็จะให้ยาตัวนี้แหละ เซฟไตรอะโซน(Ceftriaxone) เพราะว่ามันครอบคลุมเชื้อตรงนี้แล้วก็เชื้อตัวอื่นที่มันเจอได้ทั่วไปนะครับ แล้วก็อาจจะให้ยาอีกตัวนึงเข้าไปเสริมในตัวนั้นเช่น Azithromycin (อะซิโธรมัยซิน) นะครับ. หรือ Levofloxacin (ลีโวฟลอกซาซิน) หรืออะไรก็แล้วแต่หรือ Doxycycline (ด็อกซีไซคลิน) ก็อาจจะมีการพิจารณาตัวอื่นด้วยนะครับ แต่การรักษาในโรงพยาบาลเราก็ทำแบบนั้นเหมือนกันแล้วเราก็ไม่ต้องเพาะเชื้อนะครับ คนที่เป็นโรคปอดอักเสบติดเชื้อผมไม่ได้เพาะเชื้อทุกรายนะครับผมไม่ได้เพาะเชื้อในเลือดทุกราย ผมเพาะเชื้อจากเสมหะนะครับแล้วบางกรณีผมก็ไม่ต้องเพาะเชื้อด้วยถ้าอาการไม่ได้หนักมากเนี่ยผมให้ยาแล้วกลับบ้านก็เป็นอย่างนี้เหมือนกันนะครับ ผมคิดว่ากรณีของน้องเขาเนี่ยที่คุณหมออายุรกรรมเขาสั่งจ่ายยา Ceftriaxone (เซฟไตรอะโซน) แล้วก็ให้ฉีดวันละครั้งให้กลับบ้านผมคิดว่านะครับเขาน่าจะสงสัยกรณีแบบนี้แหละ คือน้องเขาแข็งแรงดีนะไม่ได้มีปัญหาอะไรที่เป็นโรคประจำตัวแต่ว่าน้องเขาอาการหนักเราให้เป็นยาฉีดดีกว่านะครับ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่หมอเผลอๆเขาอาจจะให้ยากินไปด้วยซ้ำไปนะครับตั้งแต่แรก แต่นี่เห็นว่าน้องเขาดูไม่ค่อยไหว อาจจะต้องไปพักผ่อนให้มากกว่านั้นก็คิดธรรมดาว่าคงไม่สบายธรรมดาให้พักผ่อนเยอะๆแต่ว่าหนักหน่อยก็เลยเอาเป็นยาฉีดละกันนะครับ ผมคิดว่าน่าจะเป็นความคิดแบบนี้แหละครับที่ทำให้น้องเขาได้รับการฉีดยาโดยที่ไม่ได้รับการตรวจเพราะเชื้อนะครับ อันนี้ผมคิดแทนเขานะครับแต่เป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่าก็ต้องไปดูเวชระเบียนในวันนั้นว่าเขาเขียนอะไรไว้บ้างนะครับ
5️⃣ทีนี้วันต่อมาเนี่ยบอกว่าน้องเขามีอาการเหนื่อยง่ายมากเลยนะครับเดินแล้วก็ต้องหยุดพักทุกๆ 500 เมตรอะไรอย่างนี้➡️ซึ่งตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าถ้าที่ตรวจเนี่ยทราบตรงนี้หรือเปล่านะครับเพราะว่าวันที่เขานัดมาฉีดยานี่แหละครับก็มีวันที่ฉีดยานี้คือไม่ได้เจอแพทย์ก็คือมาฉีดเฉยๆวันต่อมาก็มาฉีดแต่วันต่อมาเนี่ยคือมีการเจอแพทย์ด้วยนะครับว่าเราลองเปลี่ยนเป็นยากินนะครับ แล้วตรงบริเวณตรงแถวนี้แหละครับ ตรงช่วง 2 วันนี้ก็มีคนถามว่าแล้วทำไมถึงไม่ได้รับการแอดมิดเข้าโรงพยาบาลหมอใจร้ายหรือเปล่า หมอประมาท หมอเลินเล่ออะไรสักอย่างหรือเปล่านะครับ➡️ผมว่ามันเป็นแบบนี้ครับ คือประการแรกเลยน้องเป็นหมอนะครับ แข็งแรงดี อายุน้อย ไม่ได้มีโรคประจำตัว น่าจะเป็นการอ่อนเพลียธรรมดาทั่วๆไปจากการเจ็บป่วยเพราะบางคนคนเจ็บป่วยกินน้ำไม่พออะไรไม่พอเนี่ยก็อาจจะมีอาการเหมือนน้องเขาเป๊ะเลยนะครับเป๊ะทุกอย่างเลย คืออ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว แล้วก็เจ็บป่วย ก็คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาก็ลองรักษาไปแล้วลองดูซิว่าดีขึ้นไหมนะครับ คือถ้าคนเป็นหมอเองเนี่ยบางครั้งถ้าน้องเขารู้สึกว่าคุยกับแพทย์เจ้าของไข้แล้วโอเคนะ บอกน้องว่า “เดี๋ยวลองฉีดยาดูก่อนไหม แล้วลองสังเกตตัวเองที่บ้าน น้องโอเคหรือเปล่านะครับ” ถ้าโอเคส่วนใหญ่เราก็ให้รักษาที่บ้านนะครับ เพราะว่าถ้าหนักจริงๆนะถ้าหมอเขารู้ว่าหนักจริงๆไม่มีใครปล่อยกลับบ้านแน่นอนต่อให้มันเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลแล้วก็ไม่มีเตียงในโรงพยาบาลนะเราก็ให้นอนกันอยู่ตรงห้องฉุกเฉินนั่นแหละครับ เราก็ส่งจากห้องตรวจ OPD เนี่ยไปห้องฉุกเฉินแล้วก็นอนอยู่ตรงนั้นน่ะรอห้องนะครับ รอไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้ว่าเราไม่ให้กลับบ้านนะครับก็จะทำแบบนั้น แต่แน่นอนถ้าเป็นเอกชนเนี่ยนิดหน่อยก็ให้นอนแล้วครับ คือมันจะมีข้อแตกต่างอย่างหนึ่งของเอกชนนะครับผมไม่ได้ว่า ว่าทางไหนผิดทางไหนถูกนะแต่ที่ผมรู้แน่ๆนะครับก็คือทางเอกชนมีการ Admit มากกว่าปกติเกินที่จำเป็นอยู่แล้วอันนี้เป็นที่รู้กัน รัฐบาล Admit ค่อนข้างไปทางน้อยเพราะว่าจะนวนเตียงมันจำกัดมากนะครับ แต่ถ้ามันอาการหนักต่อให้ไปเอกชนหรือรัฐบาลยังไงก็ได้รับการ Admit หรือถ้าไม่มีเตียงจริงๆก็ต้องอยู่ห้องฉุกเฉินหรือมิฉะนั้นก็ต้องส่งต่อโรงพยาบาลข้างเคียง แล้วในกรณีนี้รู้ว่าน้องเขาเป็นหมอ การส่งต่อไป Admit โรงพยาบาลข้างเคียงที่มันมีศักยภาพทัดเทียมในการรักษาโรคพวกนี้ยังไงก็ทำได้อยู่แล้วนะครับ แล้วถ้าอยู่ในกรุงเทพฯเนี่ยนะครับก็แน่นอนว่าโรงพยาบาลใหญ่ๆโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลทุกอย่างเยอะแยะไปหมดเราก็สามารถเลือกโรงพยาบาลที่ต้องการส่งต่อได้ไม่ได้ยากเย็นอะไรนักนะครับ ตรงนี้ก็เลยคิดว่าเรื่องของการ Admit เนี่ยผมเลยมองว่ามันน่าจะเป็นอย่างนี้มากกว่า มองว่าน้องเขาอายุน้อยไม่ได้มีปัญหาอะไรนะแล้วก็เป็นหมอน่าจะสามารถพอดูแลตัวเองได้ น่าจะรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ตัวเองไม่ไหวอาจจะมา Admit นะครับ คุยกับพี่หมอที่เขาตรวจนะก็น่าจะทำนองนนี้นะครับเท่าที่ผมเดานะ ส่วนจะเป็นอย่างนี้จริงหรือเปล่าต้องไปดูรายละเอียดนะครับเพราะว่าผมไม่มีนะครับ ดังนั้นผมจะวิเคราะห์ได้แค่ประมาณเท่านี้เท่านั้นเอง
ผู้ป่วยเวลาไปหาหมอก็วัดดวงเหมือนกันนะคะ เราไม่รู้เลยว่าจะเจอคุณหมอที่ใช้ดุลพินิจได้ตรงกับโรคที่เป็นรึเปล่า คุณหมอมีประสบการณ์มากน้อยเพียงใด เหตุผลความจำเป็นในภาวะเช่นนั้น ก็ภาวนาว่าอย่าให้ทุกฝ่ายได้เจอกับเหตุการณ์แบบนี้นะคะ#ขอบคุณอาจารย์หมอมากค่ะ🥰
ชอบที่ อจ.วิเคราะห์ค่ะ..ไม่blame ไม่มองแบบretrospectiveฝ่ายเดียว..เข้าใจและfairกับคนหน้างานว่ากำลังเผชิญกับเค้สหิน..หลายครั้งที่"หมอคนสุดท้ายเก่งเสมอ"
ในความคิดของเรา หมอก็เหมือนนักสืบ ต้องมีองค์ความรู้ ความใส่ใจในการซักประวัติ และมีตรรกะในการวินิจฉัยโรค
เป็นกำลังใจให้คุณหมอ ครับ ผมก็เป็นหมอ แต่ที่แปลกใจคือ ทำไม่ admit ยากจัง คือจังหวัดที่ผมอยู่ admit ง่ายมาก โดยเฉพาะแพทย์ด้วยกัน แค่บอกเพลียก็ให้นอนแล้ว
คลิปใหม่มาแล้วค่ะหัวข้อวันนี้ เรื่อง... วิเคราะห์ เหตุใดจึงผิดพลาด กรณีแพทย์จบใหม่เสียชีวิต1. เมื่อวานนี้อาจารย์หมอลงคลิปว่า คุณหมอวุ้นแพทย์จบใหม่อาจจะเสียชีวิตด้วยสาเหตุใดบ้าง แต่วันนี้อาจารย์จะมาวิเคราะห์ว่า เหตุใดคุณหมอวุ้นจึงไม่ได้รับการรักษาตามหลักที่ควรจะเป็น2. ทางอาจารย์แจ้งไว้ก่อนแล้วว่าข้อมูลที่นำเสนอเมื่อวานเป็นเพียงข้อมูลจากคุณแม่ของคุณหมอวุ้นเท่านั้น แต่ไม่มีข้อมูลของทางโรงพยาบาลจากหมอที่ตรวจรักษา จึงได้วิเคราะห์ไปในแนวทางเดียวเท่านั้น จึงมีบางท่านเข้ามาคอมเม้นท์ว่า ยังไม่ทราบข้อมูลทุกด้านเลย เหตุใดจึงสรุปแบบนั้น ซึ่งจริงๆไม่ใช่การรีบด่วนสรุปแต่อย่างใด แต่เป็นมุมมองที่ว่า คุณหมอวุ้นน่าจะเสียชีวิตจากอะไรเท่านั้น3. อาการต่างๆของคุณหมอวุ้น ไม่ว่าจะเป็น◾อาการไอเป็นเลือด หมอที่รักษาอาจจะมองว่า น่าจะเกิดจากไอรุนแรงมีเส้นเลือดฝอยแตก จึงมีเลือดออกมา (แต่ก็ไม่ทราบว่า ปริมาณเลือดมากน้อยแค่ไหน)◾การถ่ายเป็นเลือด ถ้ามีเลือดสดปริมาณมากคงไม่มีหมอคนไหนให้กลับบ้านแน่นอน เพราะมีการตรวจทวารหนักด้วยว่ามีเรื่องของริดสีดวงหรือไม่◾เมื่อทำการเอ็กซ์เรย์ก็ไม่มีอะไร◾อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หมอที่ตรวจก็คงวินิจฉัยว่า เป็นเรื่องปกติ◾อีกอย่างหนึ่งตัวคุณหมอวุ้นเอง (ซึ่งปกติสุขภาพแข็งแรงดี) ก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร ทางหมอที่ตรวจก็ไม่ได้ทำอะไรพิเศษ เพราะถ้าหนักจริงๆคงไม่มีหมอคนไหนให้คนไข้กลับบ้าน หมออาจจะคิดว่าคนไข้ไม่เป็นอะไรมากเพราะอายุยังน้อย◾การแอดมิตก็เช่นกัน ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยาก ถ้าคุณหมอวุ้นรู้สึกว่าตนเองไม่ไหวจริงๆ คุณหมอวุ้นสามารถตัดสินใจขอแอดมิตได้แน่นอน◾เรื่องการวิจารณ์ว่า ไม่ได้ทำตาม guideline เรื่องนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะการรักษาหมอก็ไม่ได้ทำการไกด์ไลน์ทุกขั้นตอนเสมอไป ในหลายๆกรณีหากให้ยาแล้วดีขึ้น หรือ ปรับยาฉีดเป็นยากินแล้วอาการดีขึ้น ไม่มีไข้เป็นเวลา 48 ชั่วโมงถือว่า โอเค◾ไม่มีใครทราบว่า คุณหมอวุ้นมีการคุยกับหมอที่รักษาอย่างไร บอกเล่าอาการอย่างไร ละเอียดแค่ไหน และหมอที่รักษามีการบันทึกอาการต่างๆของคุณหมอวุ้นไว้ละเอียดแค่ไหน ◾เคสนี้เป็นเคสที่เป็นการติดเชื้อที่หายาก เช่น การติดเชื้อ Streptococcus pneumoniae ที่รุนแรงมากบางกรณีจะไม่มีไข้ หรือมีไข้ต่ำ ซึ่งเป็นเคสที่เจอได้น้อยมาก และวินิจฉัยได้ยากมาก นั่นหมายความว่า หมอที่ตรวจรักษากำลังเจอเคสที่ยากยิ่งกว่ายาก เพราะการติดเชื้อ Streptococcus pneumoniae ในคนอายุน้อยและรุนแรงมันเจอได้ยากอยู่แล้ว และยังมาเจอชนิดที่ไม่มีไข้ก็ยิ่งทำให้การรักษายิ่งยากขึ้นไปอีก4. เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วเราควรจะทำอย่างไร◾เราจะต้องทำ Morbidity and mortality (M&M) Conference คือ การนำข้อมูลการรักษาทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบว่าวิเคราะห์ว่า ทำไมจึงเกิดข้อผิดพลาดเช่นนั้นได้ ไม่ได้วิเคราะห์แค่ในส่วนของผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วย แต่เป็นดูข้อมูล "ทุกอย่าง" ที่ทางหมอผู้รักษาได้บันทึกไว้ทั้งกระบวนการว่า บันทึกอะไรไว้บ้าง มีตรงไหนที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาด และจะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีกได้อย่างไร ต้องมีการวิเคราะห์ทุกข้อมูลอย่างละเอียด◾ปรับปรุงเรื่องการสื่อสารระหว่างคนไข้ ญาติคนไข้ และแพทย์ผู้รักษาให้ชัดเจน เช่น หมอวินิจฉัยอย่างไร หมอรักษาอย่างไร เหตุใดจึงไม่ให้นอนโรงพยาบาล เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน เรื่องนี้สามารถป้องกันปัญหาได้หลายอย่าง
วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ทุกสาขา จึงเป็นศาสตร์และศิลป์ ที่ต้องใช้ทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ ย้อนย้อนกลับ คิดอย่างครอบคลุม ประมวลข้อมูลอาการที่เกิดขึ้นกับอาการที่เคยบันทักไว้ในอดีตจากคนที่เคยเป็น ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกันทั้งหมด ต้องมีศิลปะในการคิดนอกกรอบอย่างมีหบักการด้วย รวมทั้งการมีปฏิสัมพันธ์ การเก็บข้อมูลจากญาติ แหล่งข้อมูลอื่นๆ ก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่งเช่นกัน ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อีกกรณีคือ พื้นฐานและสรีรวิทยาของผป.แต่ละคนเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้ อาการที่แสดงออกมาแตกต่างกันในผป.โรคเดียวกัน
ขอบคุณอาจารย์มากครับที่แสดงความคิด ที่เป็นความจริงทั้งสองฝ่าย อาจารย์เก่งมากเลยครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอธนีย์เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบเคสนี้คุณหมอแนะนำให้ทำMorbidity - Mortality (M - M) คือการประชุมเชิงวิชาการ โดยนำเหตุการณ์จริงที่ผู้ป่วยเสียชีวิต ขณะอยู่ในความดูแลของแพทย์ มาปรึกษากันจุดประสงค์เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีก ซึ่งจะมีประโยชน์ทั้งกับแพทย์และคนไข้การสื่อสารระหว่างแพทย์ คนไข้ และญาติคนไข้ เป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกัน เป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นคุณหมออยู่เวร ยังเสียสละเวลามาวิเคราะห์ให้ฟังอีกครั้ง คุณหมอใจดีและเมตตามากค่ะขอบคุณมากค่ะคุณหมอแทนรักษาสุขภาพด้วยนะคะ🌻🌻🌻🧡🌻🌻🌻
คนเก่งมากๆ ก็ใช่ว่าจะไม่เคยทำผิดพลาด ทุกคนทำผิดพลาดกันได้ สังคมต้องการผู้ปฎิบัติงานที่รักษาจรรยาบรรณในระดับสูง ละเอียด รอบคอบ คนเก่งบางคนก็ไม่ยอมรับความผิดพลาด มนุษย์ไม่ใช่เทวดา
การรักษาผู้ป่วย เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ไม่มีใครอยากให้ผิดพลาด เป็นเรื่องน่าเสียใจมาก เหตุจบแล้วเมื่อเรียบเรียงไทม์ไลน์ มันจึงทำให้ เอ๊ะ แต่ในสถานการณ์แต่ละครั้ง ต่างเวลาต่างการรับรู้ .. ไม่น่าเลย รวดเร็วมาก 😔
ไม่ครับ เคสนี้คือความประมาทเลินเล่อชัดๆ ไม่ใช่การงมเข็มแล้วหาสาเหตุไม่เจอ ถ้าผมเป็นแม่นะจะฟ้องหมอและรพ.
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ ฟังแล้วได้ความรู้มากเลยค่ะ หนูอยู่เมืองนอกคนเดียว เมื่อ 2 ปีที่แล้วมีอาการแบบนี้เลย หมอให้แอดมิดแต่หนูดื้อไม่อยากนอนโรงพยาบาล กลับมานอนรักษาตัวเองที่บ้าน สะบักสบอมมาก โชคดีที่ไม่เป็นอะไร พอแข็งแรงและหายดีก็ออกกำลังกาย ได้ฟังคำแนะนำและคำปรึกษา หนูถามอะไรอาจารย์หมอก็ตอบตลอดมา ขอบพระคุณมากค่ะ
เพื่อนมีหลานชายเรียนจบหมอหลังจากเลือกเรียนศัลยกรรมไปเปิดคลีนิกเสริมความงามอยู่ กทม.เขาทำงานหนักเพราะลูกค้ามาใช้บริการเยอะมากการพักผ่อนเลยน้อยตลอดมาวันหนึ่งเขาไม่สบายเข้าตรวจรพ.เอกชนที่ กทม.ผลออกมาเขาป่วยเป็นโรคปอด นอนรักษาตัวอยู่หลายวันอาการไม่ดีขึ้นเขาพ่อแม่ไปรับกลับมาปรึกษาอาจารย์หมอที่รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ที่ที่เขาเรียนจบอาจารย์หมอรับตัวไว้รักษา เพื่อนบอกว่าถ้าไม่มาหาอาจารย์หมอเร็วหลานเขาคงไม่รอดตอนนี้เขาสบายดีแล้ว ก็โชคดีไป เขาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใหม่ทุกอย่างดูแลตนเองอย่างดีเพื่อนบอกหลานเขาสมบูรณ์แข็งแรงดีมากๆแล้ว😎
ขอบคุณนะคะ คุณหมอวิเคราะห์ได้อย่างเป็นกลางมากๆคะ ตัวเองก้เคยเจอคะไปหาหมอแล้วก้ได้แค่ซักถามแล้วบอกว่าถ้ามีอาการอีก(แบบเดิม)ให้กลับมาใหม่ แต่ตัวเองก้เลยเลือกที่จะไปหาอาจารย์หมอที่ รพ อีกแห่งคะ 🙏
ติดตามต่อจากคลิปเมื่อวานค่ะ อาจารย์วิเคราะห์มุมแพทย์การดูคนไข้ของหมอได้ตรงกับตัวเราเองเลยค่ะ หลายครั้งเราคิดว่าคนอายุน้อยไม่มีโรคประจำตัวน่าจะแข็งแรง นำไปสู่ความคิดว่าไม่น่าเป็นอะไรมาก กับคนไข้เป็นบุคคลากรการแพทย์น่าจะเชื่อถือได้สังเกตอาการตัวเองได้ อันนี้เป็นความคิดบางครั้งที่เกิดขึ้นจริงกับตัวเองเวลาดูแลคนไข้ แล้วพอเกิดเหตุการณ์แบบนี้มันทำให้รู้สึกกลัวว่าเป็นชุดความคิดที่ทำให้เราละเอียดน้อยลงกว่าที่ควรรึป่าว กับบริบทการต้องดูแลคนไข้ปริมาณมากในเวลาจำกัดทำให้การซักประวัติ ตรวจร่างกายทำได้ละเอียดลดลง การวินิจฉัยเป็นไปตาม pattern recogniton และความ common ของ disease ไม่ได้เป็นไปตามการหลักการ approach ที่ควรเป็นเพราะเวลาที่จำกัด
ฟังคุณหมอทั้ง 2 คลิป รู้สึกว่าคุณหมออธิบายได้แฟร์มากๆ และมีประโยชน์กับเราจริงๆ ขอบคุณค่ะ😊
ขอบคุณอจ ที่มาให้ความรู้และข้อคิดค่ะ ได้ฟังที่อจ วิเคราะห์ทั้ง2ตอนเลย ได้ประโยชน์มาก ในมุมมองของเจ้าหน้าที่ด้วยกัน ถ้ามารพ อาการไม่หนักมาก ก็อาจจะไม่แอดมิทเพราะคิดว่าเขามีความรู้สามารถดูแลตัวเองได้ เจ้าหน้าที่บางท่านขอดริปยา OD เพื่อจะได้ไปทำงานต่อ(แบบป่วยๆ) แบบนี้มีอยู่จริงค่ะเหตุการณ์นี้ได้เรียนรู้หลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องความไม่ประมาท …ไม่ประมาทว่าเจ้าหน้าที่เขาคงดูแลตัวเองได้/ไม่ประมาทว่าอายุน้อยคงไม่เป็นแรง/ไม่ประมาทในการทำงานในฐานะแพทย์/ไม่ประมาทpathogen ว่าอาจจะเป็นไม่รุนแรง ขอบคุณที่อจ เตือนสติทำให้คิดได้ว่าต้องรอบคอบให้มากกว่านี้ ต้องทบทวนตลอด เพื่อไม่ให้เราและคนไข้ตกอยู่ในอันตราย
ถ้าการรักษา ถ้า รพ เอกชน ยอมรับถ้ามีประกัน หมอให้ นอนเลยค่ะ ขนาดไซนัสอักเสบเรื้อรังจับให้ยา 2 วันค่ะ เพราะปวดมาก กินยาแก้ปวดไม่หาย ให้ยาทางสายน้ำเกลือแล้วดีขึ้นค่ะ รักษาและการดูแลต่างกันค่ะ เรื่องแบบนี้ ต้องยอมรับจริงๆ ค่ะ ของ การรักษา
สวัสดีค่ะ คุณหมอแทน อาจารย์แพทย์🙏😍 จากการที่ฟังคุณหมอ วิเคราะห์เรื่องการเสียชีวิต ของ น้องวุ้น ครั้งแรก กับวันนี้ ซึ่งคุณหมอแจ้งว่า ไม่มีข้อมูลทางการแพทย์เลย คุณหมอก็วิเคราะห์ตามข้อความของคุณแม่ เท่านั้นคุณหมอวิเคราะห์ ให้ความรู้ในเรื่องโรคที่น้องน่าจะเป็น จริงๆแล้ว ถ้าคิดในด้าน กรรมเวร และสิ่งที่จะเกิด คนที่จะต้องไป เพราะหมด อายุ นั่นคือ ทุกอย่าง มันจะผิดพลาดไปหมด คิดพลาด ทำพลาดไปหมด คือ สิ่งที่จะเกิด มันก็ต้องเกิด คุณหมอ ผู้รักษา มีความเห็น ว่าไม่อันตราย ตัวน้องเอง ก็คงคิดทางเดียวกัน เลยคิดว่าไม่อันตราย มาก แค่ไอ มีเสมหะ มีเลือด และถ่ายอุจจาระ มีเลือดปน แต่ถ้าไม่มาก และตรวจทุกอย่างแล้วไม่ เจออะไรการตรวจที่เปลี่ยนหมอ และไม่มีการตรวจซ้ำ อาจพลาด และอาการ ของโรค บางทีเหมือนกับการเป็นโรคทั่วๆไป การไม่ได้ตรวจเลือด เพาะเชื้อ อาจไม่ผิด ถ้ามั่นใจว่าติดเชื้อ แล้วให้ยาฆ่าเชื้อ ให้ฉีดยา นั้น คงไม่ได้คิดมาก การเปลี่ยน ยา นั้น จากฉีดมากิน และการไม่แอคมิด นั้น คงเพราะ น้องเค้าไม่มีอาการ มาก ยังมีเหตุผล อีก หลายอย่าง ไม่สามารถแอคมิดได้ ที่สำคัญ คิดว่าน่าจะขึ้นอยู่กับตัวน้องเค้ าเอง ถ้าเจ้าตัวบอกดีขึ้น ไม่มีไข้ ด้วย การที่เม็ดเลือดขาว มากๆนั้นแล้วไม่ทำตาม ไก้ด์ไลน์ ผิดไหม ไม่ผิดขึ้นอยู่กับแพทย์ ที่รักษา ไก้ด์ไลน์ บางทีคุณหมอก็ไม่ทราบ เพราะแต่ละโรคก็มีไก้ด์ไลน์ ไม่เหมือนกัน ให้รู้วิธีคิด🌿การย้ายคนไข้ จากอีกที่ไปอีกที่นั้นทำให้อาการยิ่งแย่ การรักษาจึงไม่ทัน เหตุการณ์ จากการมีประสยการณ์ น่าคิดตรงทีว่า คนที่จะจากไป เราเอง คนไข้เอง มีเหตุที่ทำให้ เสียชีวิต เคยเจอแบบนี้ มาแล้ว ยังโทษตัวเองว่าพลาด เพราะ อะไร ที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า เค้าหมด อายุ ต้องไป จึงรักษา ไม่ทัน ไม่ถูกโรคไม่ถูกทาง คือกรรมค่ะ จึงไม่โทษใคร เพราะทุกคนต้องมีเหตุผล และทำดีที่สุด ถึงอย่างไร ก็ช่วย น้องเค้าไม่ได้ เพราะ ชะตาน้องต้องไปค่ะ ขอบคุณ คุณหมอ มาวิเคราห์ต่อ ค่ะ ได้ความรู้เพิ่มอีกแง่มุมหนึ่ง บางทีเราก็ลืมนึกไปเฉยเลย การคิดอะไรอย่างรอบคอย คุณหมอ เหมือน สอนไปในตัวเลยค่ะ 🙏❤️👍
คุณหมอวิเคราะห์และพูดได้ดี เป็นที่เข้าใจได้มากเลยค่ะ เป็นประโยชน์กับหลายๆ ฝ่ายจริงๆ ค่ะ❤
สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะคุณหมอสันนี้มาให้ความรู้เรื่องวิเคราะห์ เหตุผลใดจึงผิดพลาด กรณีแพทย์จบใหม่เสียชีวิต 👍 ตาขอให้คุณหมอมีความสุข สุขภาพแข็งแรงและปลอดภัยนะคะ.🙏❤️🌹
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ ขอแสดงความเสียใจต่อคุณหมอวุ้น และคุณแม่เล้ง และน้องว่าน ครอบครัว ของ คุณหมอวุ้น ด้วยนะคะ ถ้าย้อนเวลาได้ หาก แพทย์ที่ดูแล เพาะหาเชื้อตั้งแต่แรก แล้วให้ยา ฆ่าเชื้อ ตรงกับเชื้อตั้งแต่แรก โอกาส จะไม่เสียชีวิต มีมากน้อยเท่าไหร่คะติดใจ อยู่ 2 เรื่องค่ะ 1. หมอวุ้น ส่งตรวจ CBC ตัวเอง แล้ว พบ WBC สูง และ Neutrophils สูงตั้งแต่แรก ติดเชื้อ bacteria 🦠 แน่ๆ ได้ Cef 3 แบบฉีด ถือว่า ได้ยา ดีมาก ในการฆ่าเชื้อ (ซึ่ง ควรจะรวมถึง เชื้อ Streptococcus pneumoniae ) แต่อาจจะไม่เพียงพอ เพราะ เชื้อรุนแรงมาก ๆ หรือยา ไม่พอต้องได้ยา เพิ่มตามที่ อาจารย์แทน แนะนำ คะ 2. หมอวุ้น น่าจะเบิกได้ ช่วงหมอ รพ. แรก ให้กลับบ้าน กินยาเม็ด ต่อ ทำไมจะกลับบ้าน ที่แพร่ เพื่อ ไปรักษา รพ. ที่ป้า ทำงานอยู่ ( คุยกับหมอ ได้ง่ายกว่า ) ก็เป็น รพ. ทั่วไป ต่างจังหวัด หมอวุ้น สามารถ ไป รามา ศิริราช จุฬาลงกรณ์ ได้เลย โรงเรียนแพทย์ แต่หมอวุ้น อาจไม่รู้จัก ใครเลย เลยไม่ได้ไป รพ. เหล่านี้ หรือ กลับไป ที่ทำงานตัวเอง ส่งตรวจเพาะเชื้อตัวเอง เพราะหมอวุ้น สงสัยตรงนี้ อยู่ แต่หมอ ที่ตรวจก็ส่ง ปรึกษา หมอ ศัลยกรรม ตรวจทางทวารหนักอยู่ หรือ ที่ทำงาน หมอวุ้นเพาะเชื้อ hemo culture 🔬ไม่ได้ ขอแสดงความเสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับ คุณหมอวุ้น และครอบครัว ค่ะ
ขอบคุณค่ะ Tany สำหรับ 🧡🧡🧡🧡🧡🧡💙💙💙💙💚💚💚💚 Have a wonderful & happiness moment time together with an adorable Rosy ค่ะ . ⛅️⛅️☁️☁️🌤️🌤️
ฟังทั้งคลิปแรกและคลิปสองจบแล้ว ขอบคุณสำหรับมุมมอง หลายแง่มุม โดยเฉพาะการประเมินสถานการณ์ที่เรามีข้อมูล ณ.ตอนนั้นกับข้อมูลตอนจบเหตุการณ์อาจแตกต่างกัน ทำให้ผลการตัดสินใจ แตกต่างในช่วงเวลา ไปด้วย ผู้ที่ติดตามข่าวนี้ จึงไม่ควรด่วนสรุป ควรเข้าอกเข้าใจ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ด้วยความเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้นนะคะ ขอบคุณทางช่องที่เป็นสื่อกลางสื่อสารประเด็นนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมจ้ะ 🙏🏻✨
สวัสดีค่ะ คิดว่าไม่มีใครอยากจะสูญเสียแน่นอนค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณหมอทุกท่านค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ คุณหมอแทน 🙏ได้ความรู้เพิ่มหลายมุมเลยค่ะ นำไปใช้ได้กับตนเองได้ดีมากค่ะ ❤
ไม่ดีขึ้นไม่ยอมปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นรพ.อื่น น้องเชื้อมั่นและอดทนมาก
อ.พูดถูกเลยครับเรื่องเกี่ยวกับguideline ผมเจอspecialist ที่เค้าอัพเดตงานวิจัยไวๆบางอย่างก็ไม่ตรงกับ guideline 100% ไปแล้วแต่ก็ต้องอิงจากพื้นฐานต่างๆ ของโรคนั้นๆ ด้วย
ขอบคุณ อ.หมอ ที่จัดทำคลิปนี้ค่ะ ได้เข้าใจหลักการวิเคราะห์ การรักษา ขอบคุณนะคะ 🙏
สวัสดีค่ะคุณหมอ วันที่. 10 เดือน 10 เมื่อเหตุการณ์นี้ผ่านไป ข้อสรุป หรือผลการชันสูตรคืออะไร อยากรู้ว่าโรคอะไร ทำคุณหมออายุน้อย แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ถึงแก่ชีวิตค่ะ เชื่อว่าใบมรณะบัตร" ต้อง" ระบุสาเหตุการเสียชีวิตค่ะ ขอบคุณค่ะ❤
ขอบคุณค่ะคุณหมอแทน สำหรับการวิเคราะห์และความรู้ในคลิปนี้ เป็นกำลังใจให้ครอบครัวคุณหมอวุ้นด้วยค่ะ
ชอบที่คุณหมอวิเคราะห์ มีเหตุมีผล ไม่โทษใครให้เป็นแพะรับบาป
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ สองปีมานี่เราสูญเสีย บุคลากรที่เป็นทรัพยากรของชาติไปหลายคนเลย เสียดายค่ะ ทั้งวิศวะทั้งหมอ
สวัสดีค่ะ คุณหมอแทน ป้ามาชมมารับฟังย้อนหลัง ขอโทษนะค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณหมอแทนสู้ๆๆ✌️✌️นะค่ะ สุขภาพดีมีสุขนะค่ะคุณหมอและน้องโรชี่ด้วยค่ะ❤❤❤ค่ะ
เป็นกำลังใจคะ ❤
ขอบคุนค่ะ อาจารย์หมอ
ขอบพระคุณท่านอาจารย์หมอมากครับ ในความคิดของคนที่ไม่ได้เป็นหมอ ผมแอบคิดว่าการที่หมอที่ตรวจสรุปว่าเป็น SIRS ทำไมไม่สั่งแอดมิทล่ะครับ ต่อให้คิดว่าน้องเค้าเป็นแพทย์สามารถประเมินสถานการณ์และดูแลตัวเองได้ แต่มันก็น่าจะเป็นการประมาทเลินเล่อมากไปนะครับ
อย่าลืมว่าเราไม่มีข้อมูลครบนะครับ เช่น ถ้าหมอเขาแนะนำให้แอดมิท แต่น้องเขาไม่อยาก นอน รพ เป็นต้น ครับ
@@DrTany ครับ จริงๆด้วยครับ ผมลืมนึกถึงประเด็นนี้ไป ขอบพระคุณมากครับ
ทุก รพ.ควรเหมือนกันไหม.และถึงจะมีระบบคอมฯ หมอก็ต้องมีความเฉลียวใจรอบคอบ คือเคยเจอค่ะ ระบบคอมฯ คลาดเคลื่อนฯ หมอดูประวัติในคอมฯ สั่งจ่ายยาตามนั้น (ซึ่งผิด) แล้วไม่ทบทวนเพราะรีบ ฝ่ายจ่ายยาก็ไม่ทบทวน ไม่เฉลียวใจ....ผลคือความสูญเสีย.
ความผิดพลาดพวกนี้ เราไม่มีทางทำให้มันหายไปหมดได้หรอกครับ มนุษย์เราเกิดมายังไงก็ต้องมีผิดพลาด เราต้องมาปรับปรุงที่ระบบให้มันลดความผิดพลาด และมีการทบทวนเมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้นแล้ว ที่สำคัญ ต้องไม่มามัวโทษที่ตัวบุคคล โดยเฉพาะพวกที่มองย้อนหลัง พวกนี้ชี้ผิดชี้ถูกง่าย แต่เอาจริงๆ ถ้าให้พวกเขาไปเจอสถานการณ์เดียวกัน ผมก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะไม่ทำพลาด ที่สำคัญมีคนกลุ่มนึงบอกว่าหมอควรสอบเข้าง่ายกว่านี้ เพื่อเพิ่มจำนวนหมอ อันนี้ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะแค่นี้เราก็มีปัญหาเรื่องความสามารถของหมอแล้ว ถ้าสอบเข้าง่ายกว่านี้คงไม่ต้องพูดถึงแล้วครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอ
สวัสดีค่ะอาจารย์ๆเก่งมากๆค่ะ
ขอบคุณสำหรับความรู้น่ะค่ะ😊
ฟังคลิปของอาจารย์ทั้งสองคลิปแล้วเห็นใจทั้งสองฝ่ายทั้งครอบครัวของน้องและแพทย์ผู๊ทำการรักษาไม่มีใครอยากให้เกิดกรณีแบบนี้ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ถ้าแพทย์ผู้ทำการรักษาทราบถึงภาวะติดเชิ้อในกระแสเลือดก็คงทำทุกอย่างที่จะรักศาลน้องเค้าความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้แต่อย่าปล่อยให้ผ่านเลยไปต้องตั้งเป็นข้อเตือนใจในการปฏิบัติครั้งต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ของน้องวุ้นด้วย ขอบพระคุณอาจารย์ที่มอบความรู้ที่มีประโยชน์ให้ค่ะ
อยากให้คุณแชร์ เรื่องการทำประกัน กรณีเจ็บป่วยของเมืองนอกค่ะ คล้ายๆที่ไทยมั้ยคะ
บางส่วนคล้าย บางส่วนก็ต่างครับ
🎉🎉🎉ขยับอีกแล้วค่ะ 5.04+..ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรม/ดวงค่ะ ให้เกียรติและขออนุญาตผู้ล่วงลับ🙏🏻เป็นกำลังใจให้แม่เข้มแข็งและเดินต่อไปค่ะ👍💪💚
😊🌼🍃ขอบคุณมากนะคะ🙏
🙏สวีสดีค่ะอาจารย์หมอขอบพระคุณข้อมูลดีๆค่ะ🍀☕🍩
สวัสดีค่ะคุณหมอ ขอบคุณนะคะ😊😍😍
เสียดายคนเก่งมากๆอย่างคุณหมอ ไม่ได้อยู่ช่วยคนไทยด้วยกัน
ที่หมอทำอยู่นี้ไม่ได้ช่วยคนไทยด้วยกันเหรอครับ ผมว่าคุณหมออยู่ไทยสิจะไม่ได้ช่วยคนไทยมากกว่า
ใช่คุณหมอเสียสละมาก ขอบพระคุณคุณหมอแทนค่ะ
@@armnakornthab6867 คุณอาจตีความผมผิดไปนะครับ
แล้วคุณคิดว่าอย่างไร ที่ว่าคุณหมออยู่ช่วยคนไทยด้วยกันครับ@@greenworld2833
@@armnakornthab6867เห็นด้วยครับ ถ้าอยู่เมืองไทยขึ้นเวร จนตาโหลเลย อดหลับอดนอน ไม่มีเวลาทำคลิปให้ความรู้ครับ
ตื่นขึ้นมาฟังค่ะ..LV😅
หนูก็ว่ากรณีนี้ไม่ควรจะโทษใครนะคะ เพราะได้ยินว่าไม่ได้ถูกปฏิเสธไม่ให้ admit เพราะเตียงเต็มอะไรด้วย แต่น้องหมอขอไม่นอน รพ ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะเจ้าตัวไม่อยากลางาน และคิดว่าตัวเองน่าจะยังไหว การรักษาที่ได้รับก็น่าจะเป็นการที่ทั้งหมอที่สั่งการและตัวคนไข้โอเคกันแล้วทั้งสองฝ่าย (เพราะเป็นหมอทั้งคู่ เข้าใจตรงกัน) ถ้าถามความคิดหนู คิดว่าที่แย่คือระบบอะค่ะ ที่ส่วนใหญ่ไม่ยอมให้แพทย์ได้ลางานทั้งงานกลางวัน และงานในเวรนอกจากหาคนแลกเวรได้ (ซึ่งบางทีมันก็หาแลกไม่ได้จริงๆ) หนูเคยเจอรุ่นพี่หมอที่รู้จักต้อง admit กะทันหัน เขายังต้องมาไล่โทรหาคนแลกเวร ER ของวันนั้นแทบแย่ แล้วหาใครแลกไม่ได้เลย สุดท้ายเขาโทรวนมาหาหนูซึ่งแทบจะไม่รู้จักกัน บอกว่าไม่มีใครยอมแลกให้เลย หนูเลยแลกให้ค่ะเพราะวันนั้นว่างพอดี มันแย่มากนะแบบนี้ ควรจะมีคนจัดหาหมออยู่เวรแทน ไม่ใช่ให้คนป่วยรับผิดชอบหาคนเองอะค่ะ และไม่ควรจะมีการทำเหมือน negative feedback ใส่หมอที่ลางานเพราะป่วยด้วยค่ะ เพราะมีน้องหมอที่รู้จัก เป็น SVT ต้องลาไปรักษาช็อตไฟฟ้าหัวใจตอนเป็น resident แล้วโดนเพื่อนๆหมอคนอื่นไม่พอใจหาว่าทำให้ load งานคนอื่นมากขึ้นก็มีค่ะ ระบบการทำงานของหมอมันไม่ไหวจริงๆค่ะ
Thanks
ชอบเเนวทางการวิเคราะห์ในหลายๆมุม เป็นการมองเเบบสร้างสรรค์ วิเคราะ์เพื่อหาทางป้องกันเเกัไข เผื่อเจอกับเคสลักษณะนี้อีก เเละมีเน้นให้เห็นความสำคัญในบางจุดที่ตัวเองก็มองว่าสำคัญมาก คือ การสื่อสารกับญาติ การอธิบายในสิ่งที่พบ เหตุผลเเละทางเลือกของวิธีการรักษา มีความสำคัญจริงค่ะ ขอบคุณค่ะ
ส่วนหนึ่งผิดพลาดท่ีระบบ สาสุข จำนวน ผป ต่อ แพทย์ อาจมีผล
หมอก็วิเคราะห์พลาดได้เหมือนกันค่ะ ผิดก็คือผิด ขนาด fed ก็ยังคาดการณ์เกี่ยวกับดอกเบี้ยผิด ทั้งที่มีคนเก่งในงานร่วมเป็นด็อกเตอร์ 400คนในนั้น
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
ขอบคุณครับ
26:03 ขอบคุณสำหรับคำอธิบายค่ะ❤ตาหลับสักทีเคยพยายามอธิบายแทนหมอว่าเขารักษาตามอาการ หลายคนก็ยังหัวเสียกับเรื่องแบบนี้อยู่😢
สวัสดีคะคุณหมอ
อาจารย์คะ มีข่าวเกี่ยวกับรถพยาบาลของรพ.นครนายกค่ะ1. มีคนโทรเรียกรถพยาบาล เพราะมีคนป่วยมีอาการแน่นหน้าอกมาก หอบ เวียนหัว2. รถพยาบาลมารับผู้ป่วยค่ะและมีหลานอายุ 22 ปีนั่งไปด้วย3. ระหว่างไปโรงพยาบาล รถพยาบาลมีการชะลอดูต้นไม้ระหว่างทาง (เพราะเห็นว่าต้นไม้สวยดี)4. ระหว่างทางมีแวะไปรับกล้วยทอดที่สั่งไว้! จากนั้นก็นำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล5. พอถึง รพ. ก็ส่งตัวผู้ป่วยให้คุณหมอตรวจดูอาการ ผู้ป่วยปลอดภัยดี ให้ยาและกลับบ้านไป6. ถึงแม้ว่าผู้ป่วยจะปลอดภัยดีกลับบ้านได้แล้ว แต่เรื่องนี้ทางญาติผู้ป่วยนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนที่โรงพยาบาล ถามเหตุผลว่า เหตุใดรถพยาบาลจึงไม่รีบนำคนป่วยส่งโรงพยาบาลทันที ทางรพ.ก็ออกมาขอโทษกับญาติผู้ป่วยนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้แจ้งว่าจะมีมาตรการลงโทษอะไรหรือไม่7. จากนั้นญาติผู้ป่วยมีการโพสต์เรื่องนี้ในโซเชียลมีเดีย เรื่องราวแพร่ออกไปใหญ่โต go so big ค่ะ8. สุดท้ายทาง รพ.หอบกระเช้าดอกไม้มาขอโทษผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยที่บ้าน พร้อมชี้แจงว่า มีการแวะรับกล้วยทอดจริง แต่แวะเพียง 3 วินาที! ตอนนี้ก็ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว ต้องขออภัยที่ทำให้สังคมไม่สบายใจและน้อมรับข้อผิดพลาดทั้งหมดค่ะ
ได้เห็นแล้วเหมือนกันครับ กรณีนี้บกพร่องต่อหน้าที่ชัดเจนมากๆครับ
@@DrTany ใช่ค่ะ บกพร่องมากๆค่ะ หวังว่าทาง รพ.นครนายกจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีกค่ะ (ตอนนี้ทัวร์ถล่มเพจโรงพยาบาลหนักเลยค่ะ)
พึ่งดูคลิปเมื่อวานเลย ขอดูฟังคุณหมอต่อละกันเลย
สวัสดืครับติดตามรับชมอยู่ครับ
ระบบ รพ.เมืองไทยเป็นแบบนี้แหละค่ะ บางทีอาการหนักแต่ให้กลับบ้าน เจอมาแล้วค่ะ
น่าจะ ตรวจ ค่าเม็ดเลือด ขาวทุกๆวันนะครับ น่าจะ แม่นยำ ในการรักษา บางที ใช้ความรู้สึก รักษา มันอาจจะผิดพลาดสูง เสียใจกับครอบครัวแพทย์ ที่เสียชีวิต ด้วยนะครับ และระบบ ไกด์ไลน์ ด้วยคอมพิวเตอร์ ในไทย ควรมีเอามาใช้ อย่างที่ คุณหมอ เจอในเมกา
การ วินิจฉัยโรค ต้อง อาศัย การซักประวัติ การตรวจร่างกาย และ การตรวจชันสูตร
17:30 ในบางอาชีพ guidelineใช้เป็นprotectionสำหรับคนทำงานในกรณีเกิดผลร้ายขึ้นก็อ้างว่าทำตามguidelineคนทำก็พ้นผิด เพราะguidelineผิด
ยา Diacerein (Atordar) มีผลกับตับไหมครับ
ไม่น่ามีครับ
สวัสดีครับหมอ ผมิยาดสิบถามหน่อยครับ ค่า HBeAb ii quant มันมีเท่าไหร่ถึงจะปลอดภัย เเละเท่าไหร่คืออันตรายครับ พอดีเป็นตับอักเสบB ค่า HBeAb มี 10043.00มันเยอะไปมั้ยครับ เเละมีโอกาสหายมั้ยครับ ส่วนค่า anti hbs positive มี 143 ครับ
ไม่ได้เยอะอะไรครับ แต่มันก็อันตราย ดังนั้นก็ต้องรักษาตามที่หมอเขาแนะนำเสมอครับ ผมเคยเล่ารายละเอียดไปแล้วตามนี้ครับ ua-cam.com/video/hdW6o9Lep8Q/v-deo.htmlsi=9WWYXoQgUyX-0Qro
เคยถูกมอไซชนหัวกระแทกพื้นความดันขึ้น170แต่หมอจะให้กลับบ้านแต่เราไม่กลับ จะขอนอนดูความดันต่อ เตียงห้องฉุกเฉินก็ยังว่างตั้งหลายเตียง งงว่าทำไมไม่ให้นอน สุดท้ายหมอยอมให้นอน ความดันขึ้นสุดที่180 แล้วค่อยๆลงมาจนปกติ
คล้ายกรณีอุบัติเหตุรถชนที่ผู้ชายร่างกายไม่มีแผล ส่วนผู้หญิงเลือดออก คนรุมแห่กันไปช่วยแต่ผู้หญิง สุดท้ายผู้ชายเสียชีวิต เลือดคั่งในสมอง
Source การติดเชื้อไม่ชัดเจน ยังจับเชื้อไม่ได้ ไม่รู้ว่ากรัมบวกกรัมลบ ถ้ากรัมลบเมืองไทยดื้อยามหาศาล ยากินแทบไม่ได้ผลสำหรับการติดเชื้อรุนแรง
ก่อนหน้ามีเพจบรรดาหมอๆแชร์บันทึกข้อความในระบบการรักษาว่า น้องหมอปฏิเสธการแอดมิต ครับอาจารย์ ซึ่งไม่มั่นใจกันว่ามันสามารถแก้ย้อนหลังได้ไหม มีบางคนออกมาบอกว่ามันแก้ไม่ได้หากบันทึกครั้งแรก แต่เหมือนทุกเพจลบไปหมดแล้วครับ
มาไม่ทันฟังสด มาไล่ตามเอามาฟังช่องคุณหมอมีสาระ ใกล้ตัวเองมาดที่สุด
Good morning ka Doctor
Wishing you an Autumn Leaf Morning and Sweet Tea Afternoon on this fine Tuesday ka Doctor Tany 🌤️🍂🍵Now delivering only a big bowl of Smiles.Happy Tuesdayyy! 🙃🍁🍐🌻🍇🌾
ผมมีอาการแบบหมอคนนี้ครับตอนแรกเป็นไข้เลือดออก x-ray ปอด สองครั้งปกติหมอบอกว่าปกติ แต่ไอเป็นเลือดหมอวินิจฉัยว่าอาจเกิดจากการไอแล้วเส้นเลือดที่ลำคอแตก แต่อาการผมไม่ดีขึ้นครับไอเป็นเลือดตลอดแต่ไม่มีไข้ เลยไปตรวจที่ขอนแก่นรามโชคดีที่หมอวินิจฉัยถูกครับ แล้วได้รับการรักษาได้ยาฉีดเข้าเส้นเลือดอาการเลยดีขึ้นและหยุดไอเป็นเลือด แล้วได้รับยากินมากินรักษาที่บ้านต่อครับ
เคยหายใจไม่ออกค่ะ หมอให้กลับบ้าน แต่เราไม่กลับ ขอนอนเลยค่ะ ไม่ให้ออกซิเจน ที่ใส่จมูก ก็ขอพยาบาล รัวๆๆๆ นอนไป2 อาทิตย์ ขอกลับบ้านเองเพราะอยู่แต่ในห้อง รพ. ก็ อุดอู้ ตากแอร์ ไม่เจอแดด ไม่ได้เดินเล่น#กลัวตายสุด ๆ ตอนนี้ ผ่านมา 8 เดือนปลง ทำใจ หมอยังหาสาเหตุไม่ได้รักษาตามอาการ
ปกติหายใจไม่ออกไม่ได้ต้องใช้ออกซิเจนอยู่แล้วครับ ยกเว้นกรณีที่ออกซิเจนในเลือดต่ำเราถึงให้ออกซิเจน และถ้าตรวจทุกอย่างปกติ หมอหาสาเหตุไม่ได้ สาเหตุคือโรคแพนิกซึ่งเป็นการป่วยทางจิตใจครับ จิตใจเรามันทำให้เรารู้สึกเหนื่อยได้ด้วย ซึ่งตรงนี้หลายคนไม่รู้ และที่สำคัญหลายๆคนไม่ยอมรับว่าเป็นอาการทางจิตใจ ทำให้ไม่ยอมรักษา ไปหาหมอหลายๆที่ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา สุดท้ายโรคก็เป็นเรื้อรังรักษายากมากๆ เรื่องแพนิกอาการเป็นอย่างไร และรักษายังไง ผมเคยทำคลิปไปแล้วต้องไปดูครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอ❤
ถ้าไปเอกชน.ไม่ตายดอกคะ.เขาไม่ปล่อย.ให้ออกมาง่ายๆๆดอกคะ🙄🙄🙄🙄🙄🙄🙄🙄
ใช่ครับ เอกชนไม่ปล่อยให้ตายที่ รพ.เค้าหรอกครับ พอใกล้ตายเค้าจะรีเฟอร์ให้ รพ.รัฐไปรักษาอีกที
เห็นด้วยค่ะ ต้องไปเอกชน
เห็นด้วยกับคุณหมอค่ะ
คนฉลาด เรียนรู้จากข้อผิดพลาดคนอื่นครับ
ฟังแล้วทำให้นึกถึงซีรี่ย์ Dr. House สมัยซีซั่นแรกๆ
ทีหลัง ไม่ต้องไปเรียนแพทย์ที่จีน เรียนที่ไทย มหาลัยของรัฐเก่งๆ..
การใช้จักรยานแบบมีพนักพิงให้ผลดีแบบ cardio เหมือนวิ่ง ได้ไหมครับ ผมเข่าเสื่อม
ได้ ถ้าเล่นหนักพอสมควรครับ
เมื่อวานนี้หนูได้อ่านข่าวเพิ่มเติมจากทางทวิตเตอร์ มีคนถ่ายภาพหน้าจอมาค่ะว่าได้บันทึกในระบบไว้ว่าทางหมอจะให้แอดมิดดูอาการแต่ตัวคนไข้ที่เสียชีวิตเลือกที่จะไม่แอดมิดค่ะ หนูไม่แน่ใจว่าข่าวจริงไหม
❤🎧😊
อายุน้อย แข็งแรง ป่วยหนักไม่ชัดเจน ไม่เคยมีประวัติป่วยนำมาก่อน หน้ามืดเป็นลม ใจสั่น ปากซีด เป็นอาการป่วยปกติทั่วไป ผู้ป่วยเป็นหมอ .ที่สำคัญไม่มีไข้. ผู้ป่วยไม่ทักท้วงขอร้องจริงจัง แพทย์รักษาจึงไม่สั่งเข้าพักรักษาตัวที่รพ. อีกทั้งเป็น รพ.รัฐ ต้อง ผ่าตัด อาการสาหัสใกล้ตาย จึงรับเข้า เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาแล้วกัน เราไม่ใช่แพทย์นะคะ คิดเห็นเพิ่มเติมตามแนวอาจารย์ ค่ะ
หมอที่มาหาหมอ เขาน่าจะมีอาการไม่ปกตินะคะ
❤❤❤🙏
คุนแม่เคยเข้าห้องฉุกเฉินรัฐ คุนหมอก้อจะไม่ให้กลับนอนห้องฉุกเฉินจนกว่าจะดีขึ้น
สวัสดีค่ะอจ.หมอแทน / \__/ \ ( .❛ ᴗ ❛.) ขอบคุณ 🙏 มาก (ෆ ෆ) ค่ะ☺️💕
น่ารักมากๆเลย กระต่ายน้อย 🐰
❤❤❤❤❤
❤❤❤❤❤👍👍👍
🥰🥰🥰🥰🥰🥰🥰🥰🥰🥰
คุณหมอวุ้นไม่ได้เป็นริดสีดวงทวาร แต่คุณหมอถ่ายเป็นเลือด คุณหมอวุ้นน่าจะทราบว่าตัวเองไม่ได้เป็นริดสีดวง คุณหมอวุ้นไม่น่าจะปล่อยให้ตัวเองท้องผูก ทั้งไอเสมหะมีเลือดปน ถ่ายเป็นเลือด อาการแบบนี้น่าเป็นห่วง เหตุผลที่ว่าหมอวุ้นยังอายุไม่มากร่างกายแข็งแรงมาตลอด แต่ว่าน่าจะเอะใจไหมคะ ทำไมมีเลือดออกปาก ออกทวารหนัก หมอได้พูดคุยถามคนไข้รึป่าวว่าหมอเป็นริดสีดวง ซึ่งถ้าสอบถามหมอวุ้นต้องตอบว่าไม่ได้เป็นแน่นอน แบบนี้น่าจะเอะใจ และเพาะเชื้อ คุณหมอคนที่2แย่หนัก ไม่มีข้อมูลของหมอคนแรก คุณหมอวุ้นน่าจะรู้ตัวและบอกอาการหมอคนที่2ว่าฝืนไปทำงานอ่อนเพลียเป็นลม หมอคนที่2เปลี่ยนยาฆ่าเชื้อเป็นยากินแทน ทำไมหมอคนที่2ถึงเห็นว่าหมอวุ้นดีขึ้นเร็วขนาดนั้น หมอวุ้นต้องบอกแน่นอนว่ายังไม่ไหวฝืนทำงานแล้วเป็นลม หมอคนที่2หนักกว่าหมอคนแรก ยังไงทุกฝ่ายต้องฟังฝั่งผู้เสียหายให้มาก โรงพยาบาลแรก และหมอที่รักษาทั้ง2คนจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ รวมถึงระบบสาธารณสุขไทยมีปัญหาอย่างมาก ทั้งภาระงาน สุขภาพจิตหมอ พยาบาล บุคลากร เสียใจกับครอบครัวคุณหมอวุ้นด้วยค่ะ ส่วนตัวคิดว่าเคสยากแค่ไหนก็ไม่มีอะไรที่จะเกินความสามารถหมอหากหมอสังเกต คิดเอะใจ และคิดว่าคนไข้คือญาติมิตร
ถ้าเราไม่ได้เป็นหมอที่ตรวจน้องเขาเอง ไม่มีทางที่จะเข้าใจหรอกครับ คนมามองย้อนหลังจะพูดอะไรมันก็ดูง่ายไปหมด แต่ผมเจอมากับตัวเองหลายทีแล้วว่าเรื่องจริงๆไม่ได้ง่ายแบบที่คนทั่วไปคิดเลยครับ
คุณหมอคะ ถ้ากรณีแบบว่า หมอคนที่3เห็นว่าควรนอนพยาบาล และเพาะเชื้อ แต่คนไข้คือหมอวุ้นปฏิเสธ การเพาะเชื้อยุ่งยากใช้เวลาเยอะไหมคะคุณหมอ หนูไม่ใช่หมอเลยไม่รู้ ถ้าหมอวุ้นกลัวการเพาะเชื้อ ถ้าเป็นคุณหมอจะแก้ไขตรงนี้อย่างไรคะ หรือต้องตามใจคนไข้ สงสัยจังค่ะ
@@English_pabsecret เจาะเลือดไปเพาะ ง่ายครับ
อันนี้ข้อความจากเพจ ไม่ใช่หมอบ่น-aggressivenotdoctor ครับ.เรื่อง int เสียชีวิตเท่าที่ดูrecord(แก้ไขหลังจากผ่านวันที่บันทึกครั้งแรกไม่ได้) หมอคนที่สาม ที่เจอคือ อาการดีขึ้นผลเลือดดีขึ้น แต่ยังไม่ได้วินิจฉัย เลยจะให้เพาะเชื้อและนอนรพแต่ตัวคนไข้ปฏิเสธ เลยนัดให้ยาฆ่าเชื้อ7วัน + นัดเจาะเลือดซ้ำอีก 1 อาทิตย์ปล RIP
แปลกจังเลยค่ะต่อให้หมอวุ้นปฏิเสธการเพาะเชื้อ ถ้าอยู่ในดุลพินิจของหมอผู้รักษา หมอผู้รักษาต้องยืนกรานตามขั้นตอนที่วิเคราะห์ ไม่ใช่ปล่อยไปตามใจคนไข้
คลิปที่แล้ว เป็นพยานฝ่ายโจทก์(คุณแม่)คลิปนี้ เป็นพยานฝ่ายจำเลย(แพทย์)
มันต้องมองให้ครบทุกมุมครับ
@@DrTany อาจารย์ทำถูกต้องแล้วค่ะ เราต้องนำเสนอข้อมูลทั้ง 2 ด้าน เพื่อความเป็นธรรมให้กับทั้งฝั่งคนไข้และแพทย์ที่รักษาค่ะ
ประมาทและชะล่าใจด้วยจากการดูสภาพแวดล้อมของผุ้ป่วย ยิ่งกว่าเคราะห์ร้ายคือการไม่เอะใจของผู้มีประสบการณ์ในการรักษาและเจอผู้ป่วยมเป็นหมื่นๆ คน ซึ่งเราไว้วางใจว่าจะตั้งข้อสังเกตได้ละเอียดกว่าคนทั่วไป ขอแสดงความเสียใจแก่การสูญเสีญบุคคลากรทางการแพทย์อีกคนหนึ่งค่ะ
❤❤❤❤❤❤
วิเคราะห์ เหตุใดจึงผิดพลาด กรณีแพทย์จบใหม่เสียชีวิต
สวัสดีครับ
จากการที่ผมลงคลิปเมื่อวานที่มีแพทย์ที่เพิ่งจบใหม่จากประเทศจีนนะครับชื่อน้องวุ้นเสียชีวิตก่อนวัยอันควรครับก็มีคนติดใจค่อนข้างที่จะเยอะเลยทีเดียวว่าการตรวจรักษานั้นเหมาะสมหรือเปล่านะครับ เมื่อวานผมวิเคราะห์ไปในแนวทางที่ว่าน้องเขาสามารถเป็นอะไรได้บ้างที่ทำให้เขาถึงแก่ชีวิตนะครับ วันนี้ผมจะลองมาวิเคราะห์อีกมุมนึงก็คือว่าเหตุใดน้องเขาจึงไม่ได้รับการวินิจฉัยหรือรักษาตามที่เราคิดว่ามันควรจะเป็นนะครับ อันนี้สำคัญมากแล้วนะครับผมก็เลยจะลองมามองในมุมนี้ดูบ้างนะครับ
พบกับผมนะครับ นายแพทย์ธนีย์ ธนียวันนะครับ เป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เชี่ยวชาญโรคปอด การปลูกถ่ายปอด และวิกฤตบำบัดนะครับ
1️⃣
จากคลิปเมื่อวานผมได้แจ้งไว้ตอนต้นคลิปแล้วว่าผมมีข้อมูลเพียงแค่ของฝ่ายแม่ของน้องเขาเท่านั้นนะครับผมไม่มีข้อมูลของฝ่ายทางโรงพยาบาลหรือของหมอที่เขาตรวจน้องตั้งแต่แรกนะครับ ดังนั้นการวิเคราะห์เมื่อวานของผมนั้นจะเป็นไปในแนวทางที่บอกได้ว่าน้องเขาเป็นอะไรนะครับวิเคราะห์ไปในทางนั้นเท่านั้นแต่ผมจะไม่สามารถตอบแทนสาเหตุที่หมอที่เขาดูแลน้องเขาตอนแรกนะครับคิดแบบนั้นหรือสั่งการรักษาหรือจะทำไปแบบนั้นได้นะครับ การที่เรามีข้อมูลไม่ครบเนี่ยมันไม่สามารถทำให้เราสรุปอะไรไปก่อนได้เลยนะครับ แล้วผมก็สงสัยไว้อยู่แล้วว่าจะต้องมีคนที่ไม่ได้ฟังตรงนี้แล้วฟังผ่านนะครับเลยมา Comment ว่าผมรู้ข้อมูลยังไม่ครบทุกด้านเลยทำไมผมรีบด่วนสรุป จริงๆผมก็ไม่ได้รีบด่วนสรุปอะไรแต่อย่างใดเลยนะครับ ผมสรุปเฉพาะว่าน้องเขาน่าจะเป็นจากอะไรเท่านั้น
แต่วันนี้ผมจะลองมามองอีกมุมหนึ่งถ้าสมมุติว่าผมเป็นหมออยู่ตรงนั้นแล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้เนี่ยมันมีโอกาสตรงไหนบ้างที่ตัวผมเองจะพลาดได้เพราะว่าในฐานะที่ผมก็เคยเป็นแพทย์ใช้ทุนนะครับ ต้องตรวจคนไข้ปริมาณเยอะรวมทั้งในจำนวนคนไข้ปริมาณเยอะๆนั่นอาจจะมีคนไข้ป่วยแบบนี้มาก็ได้นะครับแล้วผมก็แน่ใจแล้วว่าในอดีตผมเองก็เคยพลาดมาก่อนเหมือนกันนะครับ ดังนั้นวันนี้เราเริ่มกันเลยดีกว่านะครับ
🔶ข้อแรก เวลาที่เราดูข้อมูลจากฝ่ายผู้เสียชีวิตเนี่ยต้องบอกไว้ก่อนว่ามันจะทำให้เราคิดไปในทางด้านเดียวเสมอเลยนะครับการที่เรามามองข้อมูลย้อนหลังมันจะทำให้เรารู้สึกว่าเราเห็นข้อผิดพลาดเต็มไปหมดนะครับ แต่ถ้าเราเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์เสียเองนะครับแล้วมองข้อมูลไปข้างหน้าเนี่ยการที่เราจะเห็นข้อผิดพลาดเห็นข้อที่มันน่าจะอันตรายเนี่ยมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แล้วที่สำคัญต้องบอกไปก่อนว่าอาการที่น้องเขาเป็นโรคที่เขาเป็นเนี่ยต้องบอกว่ามันเป็นอะไรที่พบได้ยากมากนะครับ เหตุผลที่มันพบได้ยากเพราะว่า
2️⃣
🌀1 ถ้าเราเป็นหมอที่ตรวจคนไข้เยอะๆแล้วมีคนเดินเข้ามาหาเรา คนๆนั้นเนี่ยอายุน้อย ไม่เคยมีโรคประจำตัวอะไรมาก่อนนะครับเราก็ต้องคิดว่าเป็นคนแข็งแรงต่อให้เขาป่วยอะไรเขาคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากนะครับ ก็คงคล้ายกับคนทั่วๆไปนะครับ ไอออกมาเป็นเลือด! เราฟังดูแล้วตกใจใช่ไหมครับ หรือถ่ายออกมาเป็นเลือด! เราฟังทุกคนฟังแล้วตกใจหมด แต่เอาเข้าจริงๆในเวลาที่เราเจอเคสอย่างนี้ในทางการแพทย์. เราเจอเคสที่ไอออกมาเป็นเลือดเนี่ยถ้าเราถามประวัติให้ชัดเจนจริงๆ ถ้าสมมติมันเป็นแค่เสมหะและมีเลือดปนเฉยๆนะ ผมจะสงสัยเลยว่าอันนี้ไม่มีอะไรหรอก มันน่าจะเป็นแค่คออักเสบไอรุนแรงแล้วเส้นเลือดฝอยมันแตกนะครับเลือดมันก็เลยออกมา ตรงนี้ถ้ามันเป็นแค่นี้นะตัวผมเองก็อาจจะไม่ได้คิดเยอะด้วยซ้ำไปนะครับ แต่ตรงกันข้ามถ้าสมมุติว่าไอออกมาแล้วเสมหะทั้งก้อนน่ะมันมีเลือดปนแบบเยอะมาก อย่างนี้คนละอย่างกันแล้ว อันนั้นถือว่าเลือดที่ออกมันเป็นปริมาณมาก ดังนั้นตรงนี้เนี่ยผมไม่มีข้อมูลของฝ่ายแพทย์ดังนั้นผมไม่สามารถบอกได้เลยว่าอันนี้มันเลือดเยอะหรือเลือดน้อยเพราะว่าถ้าเลือดน้อยนะเป็นแค่เสมหะแล้วมันปนเลือดเล็กๆน้อยๆนะครับเราก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก เราก็คิดว่าน้องเขาแข็งแรงน่าจะเป็นการติดเชื้ออะไรสักอย่างตรงคอนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเองนะครับ ส่วนถ่ายเป็นเลือดอย่างที่บอกแล้วว่าถ้าถ่ายเป็นเลือดแดงสดปริมาณมากอันนั้นน่ะไม่มีคนไหนให้กลับบ้านแน่นอนนะครับ มันจะต้องถ่ายเลือดแบบเลือดสดๆออกมาปริมาณเยอะๆเลยนะครับซึ่งอันนี้ก็เราจะตรวจได้ตั้งแต่แรก น้องเข้าไปตรวจค่า Complete Blood Count หรือ CBC ซึ่งก็จะสามารถบอกได้ตั้งแต่แรกว่ามีภาวะโลหิตจางที่เกิดจากการถ่ายออกมาเป็นเลือดสดเยอะๆแค่ไหนนะครับ ผมคิดว่าคงจะไม่มี เพราะว่าถ้ามีเนี่ยคนทุกคนที่เขาดูก็น่าจะเห็น แล้วก็มีการไปตรวจทวารหนักซึ่งก็น่าจะเหมาะสมดูซิว่ามันมีอะไรปนอยู่ในอุจจาระหรือเปล่าหรือมีริดสีดวงมีอะไรตรงไหนไหมนะครับ อันนั้นก็คือเป็นสิ่งหนึ่งซึ่งอาจจะทำให้บอกได้ว่าเออมันไม่ได้มีอะไรเยอะในตอนแรกนะครับ ประกอบกับการที่น้องเขาแข็งแรงนะครับการที่อาจจะเรื่องของการไอเนี่ยมีเลือดออกมาไม่เยอะเรื่องของถ่ายออกมาไม่เยอะ น่าจะเป็นจากการที่ไม่สบายทั่วๆไป บางคนเป็นหวัดเป็นไวรัสธรรมดาแล้วอาการแบบนั้นก็เป็นได้นะครับ ที่สำคัญคือเขาอาจจะชะล่าใจอย่างหนึ่งก็คือน้องเขาเป็นหมอด้วยนะครับพอเป็นหมอคิดว่าถ้าเราคุยกับน้องเขาแล้วน้องเขาไม่ได้ว่าอะไรตอบกลับมานะ ไม่ได้สงสัยอะไรไม่ได้ติดใจก็คงจะเข้าใจในอาการที่ตัวเองเป็นแล้วว่ามันไม่ได้หนักอะไรนะ คิดว่าอย่างนี้คงเป็นปกติพอบวกกันก็เลยกลายเป็นว่าไม่ได้รู้สึกว่าอันนี้หนักหนาสาหัสแต่อย่างใดนะครับ ไม่ได้รู้สึกอะไรกันแบบนั้น อันนี้ก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งซึ่งตอนนั้นเขาไม่ได้ทำการเพาะเชื้อ แล้วพอส่งไปให้อีกวันนึงเนี่ยที่เขามาตรวจนะครับก็เริ่มมีปัญหานะเพราะเท่าที่ผมเปิดไว้เพราะผมก็ยังต้องการทบทวนเคสนี้นิดนึงเหมือนกันนะครับ คือวันแรกเนี่ยที่บอกว่าแพทย์ที่ตรวจไม่ได้สนใจค่า Complete Blood Count หรือ CBC ที่บอกว่ามีเม็ดเลือดขาวสูง
3️⃣
➡️อันนั้นเนี่ยผมบอกว่าจริงๆเนี่ยถ้าผมเห็นตรงนั้นผมก็สนใจเหมือนกันนะครับแต่ว่าผมอาจจะไม่ได้คิดว่ามันเป็นอะไรมาก อาจจะไม่ได้คิดว่าเป็นอะไรมากเพราะว่าหลายๆคนที่อายุน้อยเนี่ยนะครับเวลาที่มีการเจ็บป่วยติดเชื้อหรืออะไรก็แล้วแต่นะครับค่าเม็ดเลือดขาวของเขาเนี่ยจะขึ้นสูงได้ค่อนข้างที่จะรวดเร็วกว่าคนที่อายุเยอะนะครับ ซึ่งอันนี้ไม่ได้แปลกใจอะไรนะครับ และถ้ามันสูงบวกกับอาการอย่างอื่นซึ่งมันดูแล้วมันไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรตรงเนี้ยจะเป็นส่วนที่ทำให้เขาไม่ได้คิดอะไรมากแล้วก็พลาดในตอนนี้ไปก็ได้นะครับ ทีนี้วันต่อมาที่น้องเขามาหาเนี่ยนะครับผมเชื่อเลยครับว่าต้องเป็นแพทย์คนละคน ทีนี้พอเป็นแพทย์คนละคนเนี่ยบางทีเราก็อาจจะไม่ได้คิดเรื่องของอาการต่อเนื่องนะครับอ่านของแพทย์คนที่แล้วที่เขาเขียนไว้ก็อาจจะไม่ได้เยอะเท่าไหร่นะครับ พออ่านไปอ่านมาแล้วก็ความคิดชุดเดียวกันเลยก็คืออายุน้อย เป็นหมอเอง น่าจะรู้อะไรบางอย่าง ถ้าเขาไม่ได้บ่นอะไรมากน่าจะไม่มีอะไร แล้วตอนนี้ไอที่มันมีเลือดปนกับอุจจาระที่มีเลือดปนมันเยอะแค่ไหนถ้ามันยังน้อยๆอยู่เล็กๆน้อยเท่าเดิมเนี่ยก็อาจจะไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเดิมอีกนะครับ เอกซเรย์อะไรก็เออทำไปแล้วก็ไม่ได้เจออะไรนี่ คือเขาอาจจะลืมไปส่วนนึงก็คือว่าการตรวจของเมื่อวานกับการตรวจของวันนี้บางทีถ้าตรวจซ้ำเนี่ยมันอาจจะได้ข้อมูลที่แตกต่างไปจากเดิม ปัญหาก็คือผมไม่รู้ว่าเขาตรวจซ้ำอะไรบ้าง เช่นเมื่อวานตรวจ CBC วันนี้ตรวจหรือเปล่านะครับ ข้อมูลจากคุณแม่เนี่ยเราไม่มีตรงนี้นะครับ ถ้าไม่มีการตรวจซ้ำเนี่ยผมก็ไม่รู้ว่าทิศทางมันไปในทางไหนนะครับ เลือดปริมาณที่ออกมันออกมากกว่าเดิมหรือเปล่า
เพราะว่าถ้าเราอ่านจากข้อมูลของคุณแม่เนี่ยนะครับน้องเขาเนี่ยมีอาการหน้ามืด เป็นลม ใจสั่น ปากซีด
➡️ซึ่งต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่าการไม่สบายหลายๆอย่างก็ทำให้เกิดอาการแบบนี้ได้ เช่นบางคนท้องเสียก็มีอาการแบบนี้นะครับ บางคนไม่สบายเป็นหวัดก็มีอาการเช่นนี้ได้ ดังนั้นอาการที่น้องเขามาแล้วชุดอาการทั้งหมดของเขาเนี่ยถ้าเราเจอกันทุกวันอย่างนี้นะครับสมมุติมีสัก 100 คนเนี่ยมันจะมีอย่างน้องวุ้นสักคนนึงแหละที่อาการหนักแล้วก็เป็นเร็ว ส่วน 99 คนที่เหลือเนี่ยต่อให้อาการเหมือนกันเปี๊ยบเลยนะก็จะไม่อาการหนักแบบนี้นะครับ จึงเป็นคราวเคราะห์จริงๆของทั้งน้องทั้งคนตรวจที่ไปเจอเพราะโอกาสที่จะเป็นแย่ๆเนี่ยมันมันน้อยมากนะครับแล้วเราก็ไม่ได้คิดถึงเพราะว่าอายุน้อย แข็งแรงดีด้วย อันนั้นคือเป็นปัจจัยหลักเลยอันดับแรกนะครับ
4️⃣
ทีนี้วันที่ 2 ที่น้องเขาไปตรวจก็คือวันที่ 29 สิงหาคมที่น้องเขาตรวจว่ามีชีพจรนะครับเร็ว 130 140 นะครับแล้วก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะอักเสบทั้งร่างกายหรือ SIRS นะครับที่เมื่อวานเราอธิบายไปแล้วนะครับ ตรงนี้เนี่ยน้องเขาไม่ได้รับการตรวจ Hemoculture ก็คือไม่ได้รับการตรวจเพาะเชื้อในเลือด
➡️ซึ่งตรงนี้ผมยังคิดไม่ค่อยออกเหมือนกันว่าเหตุใดที่ไม่ได้ตรวจเลือดหาเพาะเชื้อนะครับเพราะว่ามีการสั่งจ่ายยาฆ่าเชื้อด้วยนะครับ แต่อย่างไรก็ตามตรงนี้ต้องไปดูการวินิจฉัยของแพทย์ที่ดูแลก่อนนะครับเพราะว่าก่อนที่เราจะสั่งจ่ายยาตัวนี้เนี่ยครับเราควรจะพอเดาได้ว่ามันมีการติดเชื้ออยู่บริเวณไหน เช่นบางคนอาจจะมีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หรือว่าทางเดินหายใจเพราะว่าน้องเขามีไอแล้วมันมีเลือดปนนะครับก็อาจจะเอาเชื้อตรงบริเวณนั้นไปเพาะนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาเพาะอื่นเขาไม่เพาะนะครับคือการที่ไม่ได้เพาะเชื้อในเลือดเนี่ยไม่ได้แปลว่ามันผิดนะครับ เพราะว่าหลายๆครั้งเนี่ยถ้าผมมั่นใจนะเช่นสมมุติว่ามีน้องคนนึงมาหาผมอย่างนี้แล้วผมรู้สึกว่าอันนี้ติดเชื้อในปอดแน่นอนนะครับ สมมุติว่าเป็นเชื้อตัว Streptococcus Pneumoniae ที่เราพูดกันเมื่อวานนี้เลย สมมุติเป็นแบบนั้นเลยนะถ้าผมสงสัยมากๆผมก็รู้สึกว่าถ้ามันเป็นตัวนี้นะแล้วอาการหนักเวลาอยู่ที่โรงพยาบาลเนี่ยสิ่งที่ผมให้ผมก็จะให้ยาตัวนี้แหละ เซฟไตรอะโซน(Ceftriaxone) เพราะว่ามันครอบคลุมเชื้อตรงนี้แล้วก็เชื้อตัวอื่นที่มันเจอได้ทั่วไปนะครับ แล้วก็อาจจะให้ยาอีกตัวนึงเข้าไปเสริมในตัวนั้นเช่น Azithromycin (อะซิโธรมัยซิน) นะครับ. หรือ Levofloxacin (ลีโวฟลอกซาซิน) หรืออะไรก็แล้วแต่หรือ Doxycycline (ด็อกซีไซคลิน) ก็อาจจะมีการพิจารณาตัวอื่นด้วยนะครับ แต่การรักษาในโรงพยาบาลเราก็ทำแบบนั้นเหมือนกันแล้วเราก็ไม่ต้องเพาะเชื้อนะครับ คนที่เป็นโรคปอดอักเสบติดเชื้อผมไม่ได้เพาะเชื้อทุกรายนะครับผมไม่ได้เพาะเชื้อในเลือดทุกราย ผมเพาะเชื้อจากเสมหะนะครับแล้วบางกรณีผมก็ไม่ต้องเพาะเชื้อด้วยถ้าอาการไม่ได้หนักมากเนี่ยผมให้ยาแล้วกลับบ้านก็เป็นอย่างนี้เหมือนกันนะครับ ผมคิดว่ากรณีของน้องเขาเนี่ยที่คุณหมออายุรกรรมเขาสั่งจ่ายยา Ceftriaxone (เซฟไตรอะโซน) แล้วก็ให้ฉีดวันละครั้งให้กลับบ้านผมคิดว่านะครับเขาน่าจะสงสัยกรณีแบบนี้แหละ คือน้องเขาแข็งแรงดีนะไม่ได้มีปัญหาอะไรที่เป็นโรคประจำตัวแต่ว่าน้องเขาอาการหนักเราให้เป็นยาฉีดดีกว่านะครับ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่หมอเผลอๆเขาอาจจะให้ยากินไปด้วยซ้ำไปนะครับตั้งแต่แรก แต่นี่เห็นว่าน้องเขาดูไม่ค่อยไหว อาจจะต้องไปพักผ่อนให้มากกว่านั้นก็คิดธรรมดาว่าคงไม่สบายธรรมดาให้พักผ่อนเยอะๆแต่ว่าหนักหน่อยก็เลยเอาเป็นยาฉีดละกันนะครับ ผมคิดว่าน่าจะเป็นความคิดแบบนี้แหละครับที่ทำให้น้องเขาได้รับการฉีดยาโดยที่ไม่ได้รับการตรวจเพราะเชื้อนะครับ อันนี้ผมคิดแทนเขานะครับแต่เป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่าก็ต้องไปดูเวชระเบียนในวันนั้นว่าเขาเขียนอะไรไว้บ้างนะครับ
5️⃣
ทีนี้วันต่อมาเนี่ยบอกว่าน้องเขามีอาการเหนื่อยง่ายมากเลยนะครับเดินแล้วก็ต้องหยุดพักทุกๆ 500 เมตรอะไรอย่างนี้
➡️ซึ่งตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าถ้าที่ตรวจเนี่ยทราบตรงนี้หรือเปล่านะครับเพราะว่าวันที่เขานัดมาฉีดยานี่แหละครับก็มีวันที่ฉีดยานี้คือไม่ได้เจอแพทย์ก็คือมาฉีดเฉยๆวันต่อมาก็มาฉีดแต่วันต่อมาเนี่ยคือมีการเจอแพทย์ด้วยนะครับว่าเราลองเปลี่ยนเป็นยากินนะครับ
แล้วตรงบริเวณตรงแถวนี้แหละครับ ตรงช่วง 2 วันนี้ก็มีคนถามว่าแล้วทำไมถึงไม่ได้รับการแอดมิดเข้าโรงพยาบาลหมอใจร้ายหรือเปล่า หมอประมาท หมอเลินเล่ออะไรสักอย่างหรือเปล่านะครับ
➡️ผมว่ามันเป็นแบบนี้ครับ คือประการแรกเลยน้องเป็นหมอนะครับ แข็งแรงดี อายุน้อย ไม่ได้มีโรคประจำตัว น่าจะเป็นการอ่อนเพลียธรรมดาทั่วๆไปจากการเจ็บป่วยเพราะบางคนคนเจ็บป่วยกินน้ำไม่พออะไรไม่พอเนี่ยก็อาจจะมีอาการเหมือนน้องเขาเป๊ะเลยนะครับเป๊ะทุกอย่างเลย คืออ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว แล้วก็เจ็บป่วย ก็คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาก็ลองรักษาไปแล้วลองดูซิว่าดีขึ้นไหมนะครับ คือถ้าคนเป็นหมอเองเนี่ยบางครั้งถ้าน้องเขารู้สึกว่าคุยกับแพทย์เจ้าของไข้แล้วโอเคนะ บอกน้องว่า “เดี๋ยวลองฉีดยาดูก่อนไหม แล้วลองสังเกตตัวเองที่บ้าน น้องโอเคหรือเปล่านะครับ” ถ้าโอเคส่วนใหญ่เราก็ให้รักษาที่บ้านนะครับ เพราะว่าถ้าหนักจริงๆนะถ้าหมอเขารู้ว่าหนักจริงๆไม่มีใครปล่อยกลับบ้านแน่นอนต่อให้มันเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลแล้วก็ไม่มีเตียงในโรงพยาบาลนะเราก็ให้นอนกันอยู่ตรงห้องฉุกเฉินนั่นแหละครับ เราก็ส่งจากห้องตรวจ OPD เนี่ยไปห้องฉุกเฉินแล้วก็นอนอยู่ตรงนั้นน่ะรอห้องนะครับ รอไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้ว่าเราไม่ให้กลับบ้านนะครับก็จะทำแบบนั้น แต่แน่นอนถ้าเป็นเอกชนเนี่ยนิดหน่อยก็ให้นอนแล้วครับ คือมันจะมีข้อแตกต่างอย่างหนึ่งของเอกชนนะครับผมไม่ได้ว่า ว่าทางไหนผิดทางไหนถูกนะแต่ที่ผมรู้แน่ๆนะครับก็คือทางเอกชนมีการ Admit มากกว่าปกติเกินที่จำเป็นอยู่แล้วอันนี้เป็นที่รู้กัน รัฐบาล Admit ค่อนข้างไปทางน้อยเพราะว่าจะนวนเตียงมันจำกัดมากนะครับ แต่ถ้ามันอาการหนักต่อให้ไปเอกชนหรือรัฐบาลยังไงก็ได้รับการ Admit หรือถ้าไม่มีเตียงจริงๆก็ต้องอยู่ห้องฉุกเฉินหรือมิฉะนั้นก็ต้องส่งต่อโรงพยาบาลข้างเคียง แล้วในกรณีนี้รู้ว่าน้องเขาเป็นหมอ การส่งต่อไป Admit โรงพยาบาลข้างเคียงที่มันมีศักยภาพทัดเทียมในการรักษาโรคพวกนี้ยังไงก็ทำได้อยู่แล้วนะครับ แล้วถ้าอยู่ในกรุงเทพฯเนี่ยนะครับก็แน่นอนว่าโรงพยาบาลใหญ่ๆโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลทุกอย่างเยอะแยะไปหมดเราก็สามารถเลือกโรงพยาบาลที่ต้องการส่งต่อได้ไม่ได้ยากเย็นอะไรนักนะครับ ตรงนี้ก็เลยคิดว่าเรื่องของการ Admit เนี่ยผมเลยมองว่ามันน่าจะเป็นอย่างนี้มากกว่า มองว่าน้องเขาอายุน้อยไม่ได้มีปัญหาอะไรนะแล้วก็เป็นหมอน่าจะสามารถพอดูแลตัวเองได้ น่าจะรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ตัวเองไม่ไหวอาจจะมา Admit นะครับ คุยกับพี่หมอที่เขาตรวจนะก็น่าจะทำนองนนี้นะครับเท่าที่ผมเดานะ ส่วนจะเป็นอย่างนี้จริงหรือเปล่าต้องไปดูรายละเอียดนะครับเพราะว่าผมไม่มีนะครับ ดังนั้นผมจะวิเคราะห์ได้แค่ประมาณเท่านี้เท่านั้นเอง
ผู้ป่วยเวลาไปหาหมอก็วัดดวงเหมือนกันนะคะ เราไม่รู้เลยว่าจะเจอคุณหมอที่ใช้ดุลพินิจได้ตรงกับโรคที่เป็นรึเปล่า คุณหมอมีประสบการณ์มากน้อยเพียงใด เหตุผลความจำเป็นในภาวะเช่นนั้น ก็ภาวนาว่าอย่าให้ทุกฝ่ายได้เจอกับเหตุการณ์แบบนี้นะคะ#ขอบคุณอาจารย์หมอมากค่ะ🥰
ชอบที่ อจ.วิเคราะห์ค่ะ..ไม่blame ไม่มองแบบretrospectiveฝ่ายเดียว..เข้าใจและfairกับคนหน้างานว่ากำลังเผชิญกับเค้สหิน..หลายครั้งที่"หมอคนสุดท้ายเก่งเสมอ"
ในความคิดของเรา หมอก็เหมือนนักสืบ ต้องมีองค์ความรู้ ความใส่ใจในการซักประวัติ และมีตรรกะในการวินิจฉัยโรค
เป็นกำลังใจให้คุณหมอ ครับ ผมก็เป็นหมอ แต่ที่แปลกใจคือ ทำไม่ admit ยากจัง คือจังหวัดที่ผมอยู่ admit ง่ายมาก โดยเฉพาะแพทย์ด้วยกัน แค่บอกเพลียก็ให้นอนแล้ว
คลิปใหม่มาแล้วค่ะ
หัวข้อวันนี้ เรื่อง... วิเคราะห์ เหตุใดจึงผิดพลาด กรณีแพทย์จบใหม่เสียชีวิต
1. เมื่อวานนี้อาจารย์หมอลงคลิปว่า คุณหมอวุ้นแพทย์จบใหม่อาจจะเสียชีวิตด้วยสาเหตุใดบ้าง แต่วันนี้อาจารย์จะมาวิเคราะห์ว่า เหตุใดคุณหมอวุ้นจึงไม่ได้รับการรักษาตามหลักที่ควรจะเป็น
2. ทางอาจารย์แจ้งไว้ก่อนแล้วว่าข้อมูลที่นำเสนอเมื่อวานเป็นเพียงข้อมูลจากคุณแม่ของคุณหมอวุ้นเท่านั้น แต่ไม่มีข้อมูลของทางโรงพยาบาลจากหมอที่ตรวจรักษา จึงได้วิเคราะห์ไปในแนวทางเดียวเท่านั้น จึงมีบางท่านเข้ามาคอมเม้นท์ว่า ยังไม่ทราบข้อมูลทุกด้านเลย เหตุใดจึงสรุปแบบนั้น ซึ่งจริงๆไม่ใช่การรีบด่วนสรุปแต่อย่างใด แต่เป็นมุมมองที่ว่า คุณหมอวุ้นน่าจะเสียชีวิตจากอะไรเท่านั้น
3. อาการต่างๆของคุณหมอวุ้น ไม่ว่าจะเป็น
◾อาการไอเป็นเลือด หมอที่รักษาอาจจะมองว่า น่าจะเกิดจากไอรุนแรงมีเส้นเลือดฝอยแตก จึงมีเลือดออกมา (แต่ก็ไม่ทราบว่า ปริมาณเลือดมากน้อยแค่ไหน)
◾การถ่ายเป็นเลือด ถ้ามีเลือดสดปริมาณมากคงไม่มีหมอคนไหนให้กลับบ้านแน่นอน เพราะมีการตรวจทวารหนักด้วยว่ามีเรื่องของริดสีดวงหรือไม่
◾เมื่อทำการเอ็กซ์เรย์ก็ไม่มีอะไร
◾อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หมอที่ตรวจก็คงวินิจฉัยว่า เป็นเรื่องปกติ
◾อีกอย่างหนึ่งตัวคุณหมอวุ้นเอง (ซึ่งปกติสุขภาพแข็งแรงดี) ก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร ทางหมอที่ตรวจก็ไม่ได้ทำอะไรพิเศษ เพราะถ้าหนักจริงๆคงไม่มีหมอคนไหนให้คนไข้กลับบ้าน หมออาจจะคิดว่าคนไข้ไม่เป็นอะไรมากเพราะอายุยังน้อย
◾การแอดมิตก็เช่นกัน ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยาก ถ้าคุณหมอวุ้นรู้สึกว่าตนเองไม่ไหวจริงๆ คุณหมอวุ้นสามารถตัดสินใจขอแอดมิตได้แน่นอน
◾เรื่องการวิจารณ์ว่า ไม่ได้ทำตาม guideline เรื่องนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะการรักษาหมอก็ไม่ได้ทำการไกด์ไลน์ทุกขั้นตอนเสมอไป ในหลายๆกรณีหากให้ยาแล้วดีขึ้น หรือ ปรับยาฉีดเป็นยากินแล้วอาการดีขึ้น ไม่มีไข้เป็นเวลา 48 ชั่วโมงถือว่า โอเค
◾ไม่มีใครทราบว่า คุณหมอวุ้นมีการคุยกับหมอที่รักษาอย่างไร บอกเล่าอาการอย่างไร ละเอียดแค่ไหน และหมอที่รักษามีการบันทึกอาการต่างๆของคุณหมอวุ้นไว้ละเอียดแค่ไหน
◾เคสนี้เป็นเคสที่เป็นการติดเชื้อที่หายาก เช่น การติดเชื้อ Streptococcus pneumoniae ที่รุนแรงมากบางกรณีจะไม่มีไข้ หรือมีไข้ต่ำ ซึ่งเป็นเคสที่เจอได้น้อยมาก และวินิจฉัยได้ยากมาก นั่นหมายความว่า หมอที่ตรวจรักษากำลังเจอเคสที่ยากยิ่งกว่ายาก เพราะการติดเชื้อ Streptococcus pneumoniae ในคนอายุน้อยและรุนแรงมันเจอได้ยากอยู่แล้ว และยังมาเจอชนิดที่ไม่มีไข้ก็ยิ่งทำให้การรักษายิ่งยากขึ้นไปอีก
4. เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วเราควรจะทำอย่างไร
◾เราจะต้องทำ Morbidity and mortality (M&M) Conference คือ การนำข้อมูลการรักษาทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบว่าวิเคราะห์ว่า ทำไมจึงเกิดข้อผิดพลาดเช่นนั้นได้ ไม่ได้วิเคราะห์แค่ในส่วนของผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วย แต่เป็นดูข้อมูล "ทุกอย่าง" ที่ทางหมอผู้รักษาได้บันทึกไว้ทั้งกระบวนการว่า บันทึกอะไรไว้บ้าง มีตรงไหนที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาด และจะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีกได้อย่างไร ต้องมีการวิเคราะห์ทุกข้อมูลอย่างละเอียด
◾ปรับปรุงเรื่องการสื่อสารระหว่างคนไข้ ญาติคนไข้ และแพทย์ผู้รักษาให้ชัดเจน เช่น หมอวินิจฉัยอย่างไร หมอรักษาอย่างไร เหตุใดจึงไม่ให้นอนโรงพยาบาล เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน เรื่องนี้สามารถป้องกันปัญหาได้หลายอย่าง
วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ทุกสาขา จึงเป็นศาสตร์และศิลป์ ที่ต้องใช้ทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ ย้อนย้อนกลับ คิดอย่างครอบคลุม ประมวลข้อมูลอาการที่เกิดขึ้นกับอาการที่เคยบันทักไว้ในอดีตจากคนที่เคยเป็น ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกันทั้งหมด ต้องมีศิลปะในการคิดนอกกรอบอย่างมีหบักการด้วย รวมทั้งการมีปฏิสัมพันธ์ การเก็บข้อมูลจากญาติ แหล่งข้อมูลอื่นๆ ก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่งเช่นกัน ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อีกกรณีคือ พื้นฐานและสรีรวิทยาของผป.แต่ละคนเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้ อาการที่แสดงออกมาแตกต่างกันในผป.โรคเดียวกัน
ขอบคุณอาจารย์มากครับที่แสดงความคิด ที่เป็นความจริงทั้งสองฝ่าย
อาจารย์เก่งมากเลยครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอธนีย์
เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบเคสนี้คุณหมอแนะนำให้ทำ
Morbidity - Mortality (M - M) คือการประชุมเชิงวิชาการ โดยนำเหตุการณ์จริงที่ผู้ป่วยเสียชีวิต ขณะอยู่ในความดูแลของแพทย์ มาปรึกษากัน
จุดประสงค์เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีก ซึ่งจะมีประโยชน์ทั้งกับแพทย์และคนไข้
การสื่อสารระหว่างแพทย์ คนไข้ และญาติคนไข้ เป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกัน เป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น
คุณหมออยู่เวร ยังเสียสละเวลามาวิเคราะห์ให้ฟังอีกครั้ง คุณหมอใจดีและเมตตามากค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอแทน
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
🌻🌻🌻🧡🌻🌻🌻
คนเก่งมากๆ ก็ใช่ว่าจะไม่เคยทำผิดพลาด ทุกคนทำผิดพลาดกันได้ สังคมต้องการผู้ปฎิบัติงานที่รักษาจรรยาบรรณในระดับสูง ละเอียด รอบคอบ คนเก่งบางคนก็ไม่ยอมรับความผิดพลาด มนุษย์ไม่ใช่เทวดา
การรักษาผู้ป่วย เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ไม่มีใครอยากให้ผิดพลาด เป็นเรื่องน่าเสียใจมาก เหตุจบแล้วเมื่อเรียบเรียงไทม์ไลน์ มันจึงทำให้ เอ๊ะ แต่ในสถานการณ์แต่ละครั้ง ต่างเวลาต่างการรับรู้ .. ไม่น่าเลย รวดเร็วมาก 😔
ไม่ครับ เคสนี้คือความประมาทเลินเล่อชัดๆ ไม่ใช่การงมเข็มแล้วหาสาเหตุไม่เจอ ถ้าผมเป็นแม่นะจะฟ้องหมอและรพ.
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ ฟังแล้วได้ความรู้มากเลยค่ะ หนูอยู่เมืองนอกคนเดียว เมื่อ 2 ปีที่แล้วมีอาการแบบนี้เลย หมอให้แอดมิดแต่หนูดื้อไม่อยากนอนโรงพยาบาล กลับมานอนรักษาตัวเองที่บ้าน สะบักสบอมมาก โชคดีที่ไม่เป็นอะไร พอแข็งแรงและหายดีก็ออกกำลังกาย ได้ฟังคำแนะนำและคำปรึกษา หนูถามอะไรอาจารย์หมอก็ตอบตลอดมา ขอบพระคุณมากค่ะ
เพื่อนมีหลานชายเรียนจบหมอหลังจากเลือกเรียนศัลยกรรมไปเปิดคลีนิกเสริมความงามอยู่ กทม.เขาทำงานหนักเพราะลูกค้ามาใช้บริการเยอะมากการพักผ่อนเลยน้อยตลอดมาวันหนึ่งเขาไม่สบายเข้าตรวจรพ.เอกชนที่ กทม.ผลออกมาเขาป่วยเป็นโรคปอด นอนรักษาตัวอยู่หลายวันอาการไม่ดีขึ้นเขาพ่อแม่ไปรับกลับมาปรึกษาอาจารย์หมอที่รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ที่ที่เขาเรียนจบอาจารย์หมอรับตัวไว้รักษา เพื่อนบอกว่าถ้าไม่มาหาอาจารย์หมอเร็วหลานเขาคงไม่รอดตอนนี้เขาสบายดีแล้ว ก็โชคดีไป เขาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใหม่ทุกอย่างดูแลตนเองอย่างดีเพื่อนบอกหลานเขาสมบูรณ์แข็งแรงดีมากๆแล้ว😎
ขอบคุณนะคะ คุณหมอวิเคราะห์ได้อย่างเป็นกลางมากๆคะ ตัวเองก้เคยเจอคะไปหาหมอแล้วก้ได้แค่ซักถามแล้วบอกว่าถ้ามีอาการอีก(แบบเดิม)ให้กลับมาใหม่ แต่ตัวเองก้เลยเลือกที่จะไปหาอาจารย์หมอที่ รพ อีกแห่งคะ 🙏
ติดตามต่อจากคลิปเมื่อวานค่ะ อาจารย์วิเคราะห์มุมแพทย์การดูคนไข้ของหมอได้ตรงกับตัวเราเองเลยค่ะ หลายครั้งเราคิดว่าคนอายุน้อยไม่มีโรคประจำตัวน่าจะแข็งแรง นำไปสู่ความคิดว่าไม่น่าเป็นอะไรมาก กับคนไข้เป็นบุคคลากรการแพทย์น่าจะเชื่อถือได้สังเกตอาการตัวเองได้ อันนี้เป็นความคิดบางครั้งที่เกิดขึ้นจริงกับตัวเองเวลาดูแลคนไข้ แล้วพอเกิดเหตุการณ์แบบนี้มันทำให้รู้สึกกลัวว่าเป็นชุดความคิดที่ทำให้เราละเอียดน้อยลงกว่าที่ควรรึป่าว กับบริบทการต้องดูแลคนไข้ปริมาณมากในเวลาจำกัดทำให้การซักประวัติ ตรวจร่างกายทำได้ละเอียดลดลง การวินิจฉัยเป็นไปตาม pattern recogniton และความ common ของ disease ไม่ได้เป็นไปตามการหลักการ approach ที่ควรเป็นเพราะเวลาที่จำกัด
ฟังคุณหมอทั้ง 2 คลิป รู้สึกว่าคุณหมออธิบายได้แฟร์มากๆ และมีประโยชน์กับเราจริงๆ ขอบคุณค่ะ😊
ขอบคุณอจ ที่มาให้ความรู้และข้อคิดค่ะ ได้ฟังที่อจ วิเคราะห์ทั้ง2ตอนเลย
ได้ประโยชน์มาก
ในมุมมองของเจ้าหน้าที่ด้วยกัน
ถ้ามารพ อาการไม่หนักมาก ก็อาจจะไม่แอดมิทเพราะคิดว่าเขามีความรู้สามารถดูแลตัวเองได้
เจ้าหน้าที่บางท่านขอดริปยา OD เพื่อจะได้ไปทำงานต่อ(แบบป่วยๆ) แบบนี้มีอยู่จริงค่ะ
เหตุการณ์นี้ได้เรียนรู้หลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องความไม่ประมาท …
ไม่ประมาทว่าเจ้าหน้าที่เขาคงดูแลตัวเองได้/ไม่ประมาทว่าอายุน้อยคงไม่เป็นแรง/ไม่ประมาทในการทำงานในฐานะแพทย์/ไม่ประมาทpathogen ว่าอาจจะเป็นไม่รุนแรง
ขอบคุณที่อจ เตือนสติทำให้คิดได้ว่าต้องรอบคอบให้มากกว่านี้
ต้องทบทวนตลอด เพื่อไม่ให้เราและคนไข้ตกอยู่ในอันตราย
ถ้าการรักษา ถ้า รพ เอกชน ยอมรับถ้ามีประกัน หมอให้ นอนเลยค่ะ ขนาดไซนัสอักเสบเรื้อรังจับให้ยา 2 วันค่ะ เพราะปวดมาก กินยาแก้ปวดไม่หาย ให้ยาทางสายน้ำเกลือแล้วดีขึ้นค่ะ รักษาและการดูแลต่างกันค่ะ เรื่องแบบนี้ ต้องยอมรับจริงๆ ค่ะ ของ การรักษา
สวัสดีค่ะ คุณหมอแทน อาจารย์แพทย์🙏😍 จากการที่ฟังคุณหมอ วิเคราะห์เรื่องการเสียชีวิต ของ น้องวุ้น ครั้งแรก กับวันนี้ ซึ่งคุณหมอแจ้งว่า ไม่มีข้อมูลทางการแพทย์เลย คุณหมอก็วิเคราะห์ตามข้อความของคุณแม่ เท่านั้น
คุณหมอวิเคราะห์ ให้ความรู้ในเรื่องโรคที่น้องน่าจะเป็น จริงๆแล้ว ถ้าคิดในด้าน กรรมเวร และสิ่งที่จะเกิด คนที่จะต้องไป เพราะหมด อายุ นั่นคือ ทุกอย่าง มันจะผิดพลาดไปหมด คิดพลาด ทำพลาดไปหมด คือ สิ่งที่จะเกิด มันก็ต้องเกิด
คุณหมอ ผู้รักษา มีความเห็น ว่าไม่อันตราย ตัวน้องเอง ก็คงคิดทางเดียวกัน เลยคิดว่าไม่อันตราย มาก แค่ไอ มีเสมหะ มีเลือด และถ่ายอุจจาระ มีเลือดปน แต่ถ้าไม่มาก และตรวจทุกอย่างแล้วไม่ เจออะไร
การตรวจที่เปลี่ยนหมอ และไม่มีการตรวจซ้ำ อาจพลาด
และอาการ ของโรค บางทีเหมือนกับการเป็นโรคทั่วๆไป การไม่ได้ตรวจเลือด เพาะเชื้อ อาจไม่ผิด ถ้ามั่นใจว่าติดเชื้อ แล้วให้ยาฆ่าเชื้อ ให้ฉีดยา นั้น คงไม่ได้คิดมาก การเปลี่ยน ยา นั้น จากฉีดมากิน และการไม่แอคมิด นั้น คงเพราะ น้องเค้าไม่มีอาการ มาก ยังมีเหตุผล อีก หลายอย่าง ไม่สามารถแอคมิดได้ ที่สำคัญ คิดว่าน่าจะขึ้นอยู่กับตัวน้องเค้ าเอง ถ้าเจ้าตัวบอกดีขึ้น ไม่มีไข้ ด้วย การที่เม็ดเลือดขาว มากๆนั้นแล้วไม่ทำตาม ไก้ด์ไลน์ ผิดไหม ไม่ผิดขึ้นอยู่กับแพทย์ ที่รักษา ไก้ด์ไลน์ บางทีคุณหมอก็ไม่ทราบ เพราะแต่ละโรคก็มีไก้ด์ไลน์ ไม่เหมือนกัน ให้รู้วิธีคิด
🌿การย้ายคนไข้ จากอีกที่ไปอีกที่นั้นทำให้อาการยิ่งแย่ การรักษาจึงไม่ทัน เหตุการณ์ จากการมีประสยการณ์ น่าคิดตรงทีว่า คนที่จะจากไป เราเอง คนไข้เอง มีเหตุที่ทำให้ เสียชีวิต เคยเจอแบบนี้ มาแล้ว ยังโทษตัวเองว่าพลาด เพราะ อะไร ที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า เค้าหมด อายุ ต้องไป จึงรักษา ไม่ทัน ไม่ถูกโรคไม่ถูกทาง คือกรรมค่ะ จึงไม่โทษใคร เพราะทุกคนต้องมีเหตุผล และทำดีที่สุด ถึงอย่างไร ก็ช่วย น้องเค้าไม่ได้ เพราะ ชะตาน้องต้องไปค่ะ ขอบคุณ คุณหมอ มาวิเคราห์ต่อ ค่ะ ได้ความรู้เพิ่มอีกแง่มุมหนึ่ง บางทีเราก็ลืมนึกไปเฉยเลย การคิดอะไรอย่างรอบคอย คุณหมอ เหมือน สอนไปในตัวเลยค่ะ 🙏❤️👍
คุณหมอวิเคราะห์และพูดได้ดี เป็นที่เข้าใจได้มากเลยค่ะ เป็นประโยชน์กับหลายๆ ฝ่ายจริงๆ ค่ะ❤
สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะคุณหมอสันนี้มาให้ความรู้เรื่องวิเคราะห์ เหตุผลใดจึงผิดพลาด กรณีแพทย์จบใหม่เสียชีวิต 👍 ตาขอให้คุณหมอมีความสุข สุขภาพแข็งแรงและปลอดภัยนะคะ.🙏❤️🌹
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
ขอแสดงความเสียใจต่อคุณหมอวุ้น และคุณแม่เล้ง และน้องว่าน ครอบครัว ของ คุณหมอวุ้น ด้วยนะคะ
ถ้าย้อนเวลาได้
หาก แพทย์ที่ดูแล เพาะหาเชื้อตั้งแต่แรก แล้วให้ยา ฆ่าเชื้อ ตรงกับเชื้อตั้งแต่แรก
โอกาส จะไม่เสียชีวิต มีมากน้อยเท่าไหร่คะ
ติดใจ อยู่ 2 เรื่องค่ะ
1. หมอวุ้น ส่งตรวจ CBC ตัวเอง แล้ว พบ WBC สูง และ Neutrophils สูงตั้งแต่แรก ติดเชื้อ bacteria 🦠 แน่ๆ
ได้ Cef 3 แบบฉีด ถือว่า ได้ยา ดีมาก ในการฆ่าเชื้อ (ซึ่ง ควรจะรวมถึง เชื้อ Streptococcus pneumoniae ) แต่อาจจะไม่เพียงพอ เพราะ เชื้อรุนแรงมาก ๆ หรือยา ไม่พอต้องได้ยา เพิ่มตามที่ อาจารย์แทน แนะนำ คะ
2. หมอวุ้น น่าจะเบิกได้ ช่วงหมอ รพ. แรก ให้กลับบ้าน กินยาเม็ด ต่อ ทำไมจะกลับบ้าน ที่แพร่ เพื่อ ไปรักษา รพ. ที่ป้า ทำงานอยู่ ( คุยกับหมอ ได้ง่ายกว่า ) ก็เป็น รพ. ทั่วไป ต่างจังหวัด หมอวุ้น สามารถ ไป รามา ศิริราช จุฬาลงกรณ์ ได้เลย โรงเรียนแพทย์ แต่หมอวุ้น อาจไม่รู้จัก ใครเลย เลยไม่ได้ไป รพ. เหล่านี้
หรือ กลับไป ที่ทำงานตัวเอง ส่งตรวจเพาะเชื้อตัวเอง เพราะหมอวุ้น สงสัยตรงนี้ อยู่ แต่หมอ ที่ตรวจก็ส่ง ปรึกษา หมอ ศัลยกรรม ตรวจทางทวารหนักอยู่
หรือ ที่ทำงาน หมอวุ้นเพาะเชื้อ hemo culture 🔬ไม่ได้
ขอแสดงความเสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับ คุณหมอวุ้น และครอบครัว ค่ะ
ขอบคุณค่ะ Tany สำหรับ 🧡🧡🧡🧡🧡🧡💙💙💙💙💚💚💚💚 Have a wonderful & happiness moment time together with an adorable Rosy ค่ะ . ⛅️⛅️☁️☁️🌤️🌤️
ฟังทั้งคลิปแรกและคลิปสองจบแล้ว ขอบคุณสำหรับมุมมอง หลายแง่มุม โดยเฉพาะการประเมินสถานการณ์ที่เรามีข้อมูล ณ.ตอนนั้นกับข้อมูลตอนจบเหตุการณ์อาจแตกต่างกัน ทำให้ผลการตัดสินใจ แตกต่างในช่วงเวลา ไปด้วย ผู้ที่ติดตามข่าวนี้ จึงไม่ควรด่วนสรุป ควรเข้าอกเข้าใจ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ด้วยความเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้นนะคะ ขอบคุณทางช่องที่เป็นสื่อกลางสื่อสารประเด็นนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมจ้ะ 🙏🏻✨
สวัสดีค่ะ คิดว่าไม่มีใครอยากจะสูญเสียแน่นอนค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณหมอทุกท่านค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ คุณหมอแทน 🙏ได้ความรู้เพิ่มหลายมุมเลยค่ะ นำไปใช้ได้กับตนเองได้ดีมากค่ะ ❤
ไม่ดีขึ้นไม่ยอมปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นรพ.อื่น น้องเชื้อมั่นและอดทนมาก
อ.พูดถูกเลยครับเรื่องเกี่ยวกับguideline
ผมเจอspecialist ที่เค้าอัพเดตงานวิจัยไวๆ
บางอย่างก็ไม่ตรงกับ guideline 100% ไปแล้ว
แต่ก็ต้องอิงจากพื้นฐานต่างๆ ของโรคนั้นๆ ด้วย
ขอบคุณ อ.หมอ ที่จัดทำคลิปนี้ค่ะ ได้เข้าใจหลักการวิเคราะห์ การรักษา ขอบคุณนะคะ 🙏
สวัสดีค่ะคุณหมอ วันที่. 10 เดือน 10
เมื่อเหตุการณ์นี้ผ่านไป ข้อสรุป หรือผลการชันสูตรคืออะไร
อยากรู้ว่าโรคอะไร ทำคุณหมออายุน้อย แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ถึงแก่ชีวิตค่ะ
เชื่อว่าใบมรณะบัตร" ต้อง" ระบุสาเหตุการเสียชีวิตค่ะ ขอบคุณค่ะ❤
ขอบคุณค่ะคุณหมอแทน
สำหรับการวิเคราะห์และความรู้ในคลิปนี้
เป็นกำลังใจให้ครอบครัวคุณหมอวุ้นด้วยค่ะ
ชอบที่คุณหมอวิเคราะห์ มีเหตุมีผล ไม่โทษใครให้เป็นแพะรับบาป
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ สองปีมานี่เราสูญเสีย บุคลากรที่เป็นทรัพยากรของชาติไปหลายคนเลย เสียดายค่ะ ทั้งวิศวะทั้งหมอ
สวัสดีค่ะ คุณหมอแทน ป้ามาชมมารับฟังย้อนหลัง ขอโทษนะค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณหมอแทนสู้ๆๆ✌️✌️นะค่ะ สุขภาพดีมีสุขนะค่ะคุณหมอและน้องโรชี่ด้วยค่ะ❤❤❤ค่ะ
เป็นกำลังใจคะ ❤
ขอบคุนค่ะ อาจารย์หมอ
ขอบพระคุณท่านอาจารย์หมอมากครับ ในความคิดของคนที่ไม่ได้เป็นหมอ ผมแอบคิดว่าการที่หมอที่ตรวจสรุปว่าเป็น SIRS ทำไมไม่สั่งแอดมิทล่ะครับ ต่อให้คิดว่าน้องเค้าเป็นแพทย์สามารถประเมินสถานการณ์และดูแลตัวเองได้ แต่มันก็น่าจะเป็นการประมาทเลินเล่อมากไปนะครับ
อย่าลืมว่าเราไม่มีข้อมูลครบนะครับ เช่น ถ้าหมอเขาแนะนำให้แอดมิท แต่น้องเขาไม่อยาก นอน รพ เป็นต้น ครับ
@@DrTany ครับ จริงๆด้วยครับ ผมลืมนึกถึงประเด็นนี้ไป ขอบพระคุณมากครับ
ทุก รพ.ควรเหมือนกันไหม.
และถึงจะมีระบบคอมฯ หมอก็ต้องมีความเฉลียวใจรอบคอบ คือเคยเจอค่ะ ระบบคอมฯ คลาดเคลื่อนฯ หมอดูประวัติในคอมฯ สั่งจ่ายยาตามนั้น (ซึ่งผิด) แล้วไม่ทบทวนเพราะรีบ ฝ่ายจ่ายยาก็ไม่ทบทวน ไม่เฉลียวใจ....ผล
คือความสูญเสีย.
ความผิดพลาดพวกนี้ เราไม่มีทางทำให้มันหายไปหมดได้หรอกครับ มนุษย์เราเกิดมายังไงก็ต้องมีผิดพลาด เราต้องมาปรับปรุงที่ระบบให้มันลดความผิดพลาด และมีการทบทวนเมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้นแล้ว ที่สำคัญ ต้องไม่มามัวโทษที่ตัวบุคคล โดยเฉพาะพวกที่มองย้อนหลัง พวกนี้ชี้ผิดชี้ถูกง่าย แต่เอาจริงๆ ถ้าให้พวกเขาไปเจอสถานการณ์เดียวกัน ผมก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะไม่ทำพลาด ที่สำคัญมีคนกลุ่มนึงบอกว่าหมอควรสอบเข้าง่ายกว่านี้ เพื่อเพิ่มจำนวนหมอ อันนี้ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะแค่นี้เราก็มีปัญหาเรื่องความสามารถของหมอแล้ว ถ้าสอบเข้าง่ายกว่านี้คงไม่ต้องพูดถึงแล้วครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอ
สวัสดีค่ะอาจารย์ๆเก่งมากๆค่ะ
ขอบคุณสำหรับความรู้น่ะค่ะ😊
ฟังคลิปของอาจารย์ทั้งสองคลิปแล้วเห็นใจทั้งสองฝ่ายทั้งครอบครัวของน้องและแพทย์ผู๊ทำการรักษาไม่มีใครอยากให้เกิดกรณีแบบนี้ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ถ้าแพทย์ผู้ทำการรักษาทราบถึงภาวะติดเชิ้อในกระแสเลือดก็คงทำทุกอย่างที่จะรักศาลน้องเค้า
ความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้แต่อย่าปล่อยให้ผ่านเลยไปต้องตั้งเป็นข้อเตือนใจในการปฏิบัติครั้งต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ของน้องวุ้นด้วย ขอบพระคุณอาจารย์ที่มอบความรู้ที่มีประโยชน์ให้ค่ะ
อยากให้คุณแชร์ เรื่องการทำประกัน กรณีเจ็บป่วยของเมืองนอกค่ะ คล้ายๆที่ไทยมั้ยคะ
บางส่วนคล้าย บางส่วนก็ต่างครับ
🎉🎉🎉ขยับอีกแล้วค่ะ 5.04+..ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรม/ดวงค่ะ ให้เกียรติและขออนุญาตผู้ล่วงลับ🙏🏻เป็นกำลังใจให้แม่เข้มแข็งและเดินต่อไปค่ะ👍💪💚
😊🌼🍃ขอบคุณมากนะคะ🙏
🙏สวีสดีค่ะอาจารย์หมอ
ขอบพระคุณข้อมูลดีๆค่ะ🍀☕🍩
สวัสดีค่ะคุณหมอ ขอบคุณนะคะ😊😍😍
เสียดายคนเก่งมากๆอย่างคุณหมอ ไม่ได้อยู่ช่วยคนไทยด้วยกัน
ที่หมอทำอยู่นี้ไม่ได้ช่วยคนไทยด้วยกันเหรอครับ ผมว่าคุณหมออยู่ไทยสิจะไม่ได้ช่วยคนไทยมากกว่า
ใช่คุณหมอเสียสละมาก ขอบพระคุณคุณหมอแทนค่ะ
@@armnakornthab6867 คุณอาจตีความผมผิดไปนะครับ
แล้วคุณคิดว่าอย่างไร ที่ว่าคุณหมออยู่ช่วยคนไทยด้วยกันครับ
@@greenworld2833
@@armnakornthab6867เห็นด้วยครับ ถ้าอยู่เมืองไทยขึ้นเวร จนตาโหลเลย อดหลับอดนอน ไม่มีเวลาทำคลิปให้ความรู้ครับ
ตื่นขึ้นมาฟังค่ะ..LV😅
หนูก็ว่ากรณีนี้ไม่ควรจะโทษใครนะคะ เพราะได้ยินว่าไม่ได้ถูกปฏิเสธไม่ให้ admit เพราะเตียงเต็มอะไรด้วย แต่น้องหมอขอไม่นอน รพ ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะเจ้าตัวไม่อยากลางาน และคิดว่าตัวเองน่าจะยังไหว การรักษาที่ได้รับก็น่าจะเป็นการที่ทั้งหมอที่สั่งการและตัวคนไข้โอเคกันแล้วทั้งสองฝ่าย (เพราะเป็นหมอทั้งคู่ เข้าใจตรงกัน) ถ้าถามความคิดหนู คิดว่าที่แย่คือระบบอะค่ะ ที่ส่วนใหญ่ไม่ยอมให้แพทย์ได้ลางานทั้งงานกลางวัน และงานในเวรนอกจากหาคนแลกเวรได้ (ซึ่งบางทีมันก็หาแลกไม่ได้จริงๆ) หนูเคยเจอรุ่นพี่หมอที่รู้จักต้อง admit กะทันหัน เขายังต้องมาไล่โทรหาคนแลกเวร ER ของวันนั้นแทบแย่ แล้วหาใครแลกไม่ได้เลย สุดท้ายเขาโทรวนมาหาหนูซึ่งแทบจะไม่รู้จักกัน บอกว่าไม่มีใครยอมแลกให้เลย หนูเลยแลกให้ค่ะเพราะวันนั้นว่างพอดี มันแย่มากนะแบบนี้ ควรจะมีคนจัดหาหมออยู่เวรแทน ไม่ใช่ให้คนป่วยรับผิดชอบหาคนเองอะค่ะ และไม่ควรจะมีการทำเหมือน negative feedback ใส่หมอที่ลางานเพราะป่วยด้วยค่ะ เพราะมีน้องหมอที่รู้จัก เป็น SVT ต้องลาไปรักษาช็อตไฟฟ้าหัวใจตอนเป็น resident แล้วโดนเพื่อนๆหมอคนอื่นไม่พอใจหาว่าทำให้ load งานคนอื่นมากขึ้นก็มีค่ะ ระบบการทำงานของหมอมันไม่ไหวจริงๆค่ะ
Thanks
ชอบเเนวทางการวิเคราะห์ในหลายๆมุม เป็นการมองเเบบสร้างสรรค์ วิเคราะ์เพื่อหาทางป้องกันเเกัไข เผื่อเจอกับเคสลักษณะนี้อีก เเละมีเน้นให้เห็นความสำคัญในบางจุดที่ตัวเองก็มองว่าสำคัญมาก คือ การสื่อสารกับญาติ การอธิบายในสิ่งที่พบ เหตุผลเเละทางเลือกของวิธีการรักษา มีความสำคัญจริงค่ะ ขอบคุณค่ะ
ส่วนหนึ่งผิดพลาดท่ีระบบ สาสุข จำนวน ผป ต่อ แพทย์ อาจมีผล
หมอก็วิเคราะห์พลาดได้เหมือนกันค่ะ ผิดก็คือผิด ขนาด fed ก็ยังคาดการณ์เกี่ยวกับดอกเบี้ยผิด ทั้งที่มีคนเก่งในงานร่วมเป็นด็อกเตอร์ 400คนในนั้น
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
ขอบคุณครับ
26:03 ขอบคุณสำหรับคำอธิบายค่ะ❤ตาหลับสักที
เคยพยายามอธิบายแทนหมอว่าเขารักษาตามอาการ หลายคนก็ยังหัวเสียกับเรื่องแบบนี้อยู่😢
สวัสดีคะคุณหมอ
อาจารย์คะ มีข่าวเกี่ยวกับรถพยาบาลของรพ.นครนายกค่ะ
1. มีคนโทรเรียกรถพยาบาล เพราะมีคนป่วยมีอาการแน่นหน้าอกมาก หอบ เวียนหัว
2. รถพยาบาลมารับผู้ป่วยค่ะและมีหลานอายุ 22 ปีนั่งไปด้วย
3. ระหว่างไปโรงพยาบาล รถพยาบาลมีการชะลอดูต้นไม้ระหว่างทาง (เพราะเห็นว่าต้นไม้สวยดี)
4. ระหว่างทางมีแวะไปรับกล้วยทอดที่สั่งไว้! จากนั้นก็นำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล
5. พอถึง รพ. ก็ส่งตัวผู้ป่วยให้คุณหมอตรวจดูอาการ ผู้ป่วยปลอดภัยดี ให้ยาและกลับบ้านไป
6. ถึงแม้ว่าผู้ป่วยจะปลอดภัยดีกลับบ้านได้แล้ว แต่เรื่องนี้ทางญาติผู้ป่วยนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนที่โรงพยาบาล ถามเหตุผลว่า เหตุใดรถพยาบาลจึงไม่รีบนำคนป่วยส่งโรงพยาบาลทันที ทางรพ.ก็ออกมาขอโทษกับญาติผู้ป่วยนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้แจ้งว่าจะมีมาตรการลงโทษอะไรหรือไม่
7. จากนั้นญาติผู้ป่วยมีการโพสต์เรื่องนี้ในโซเชียลมีเดีย เรื่องราวแพร่ออกไปใหญ่โต go so big ค่ะ
8. สุดท้ายทาง รพ.หอบกระเช้าดอกไม้มาขอโทษผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยที่บ้าน พร้อมชี้แจงว่า มีการแวะรับกล้วยทอดจริง แต่แวะเพียง 3 วินาที! ตอนนี้ก็ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว ต้องขออภัยที่ทำให้สังคมไม่สบายใจและน้อมรับข้อผิดพลาดทั้งหมดค่ะ
ได้เห็นแล้วเหมือนกันครับ กรณีนี้บกพร่องต่อหน้าที่ชัดเจนมากๆครับ
@@DrTany ใช่ค่ะ บกพร่องมากๆค่ะ หวังว่าทาง รพ.นครนายกจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีกค่ะ (ตอนนี้ทัวร์ถล่มเพจโรงพยาบาลหนักเลยค่ะ)
พึ่งดูคลิปเมื่อวานเลย ขอดูฟังคุณหมอต่อละกันเลย
สวัสดืครับติดตามรับชมอยู่ครับ
ระบบ รพ.เมืองไทยเป็นแบบนี้แหละค่ะ บางทีอาการหนักแต่ให้กลับบ้าน เจอมาแล้วค่ะ
น่าจะ ตรวจ ค่าเม็ดเลือด ขาวทุกๆวันนะครับ น่าจะ แม่นยำ ในการรักษา บางที ใช้ความรู้สึก รักษา มันอาจจะผิดพลาดสูง
เสียใจกับครอบครัวแพทย์ ที่เสียชีวิต ด้วยนะครับ และระบบ ไกด์ไลน์ ด้วยคอมพิวเตอร์ ในไทย ควรมีเอามาใช้ อย่างที่ คุณหมอ เจอในเมกา
การ วินิจฉัยโรค ต้อง อาศัย การซักประวัติ การตรวจร่างกาย และ การตรวจชันสูตร
17:30 ในบางอาชีพ guidelineใช้เป็นprotectionสำหรับคนทำงาน
ในกรณีเกิดผลร้ายขึ้น
ก็อ้างว่าทำตามguideline
คนทำก็พ้นผิด เพราะguidelineผิด
ยา Diacerein (Atordar) มีผลกับตับไหมครับ
ไม่น่ามีครับ
สวัสดีครับหมอ ผมิยาดสิบถามหน่อยครับ ค่า HBeAb ii quant มันมีเท่าไหร่ถึงจะปลอดภัย เเละเท่าไหร่คืออันตรายครับ
พอดีเป็นตับอักเสบB ค่า HBeAb มี 10043.00มันเยอะไปมั้ยครับ เเละมีโอกาสหายมั้ยครับ ส่วนค่า anti hbs positive มี 143 ครับ
ไม่ได้เยอะอะไรครับ แต่มันก็อันตราย ดังนั้นก็ต้องรักษาตามที่หมอเขาแนะนำเสมอครับ ผมเคยเล่ารายละเอียดไปแล้วตามนี้ครับ ua-cam.com/video/hdW6o9Lep8Q/v-deo.htmlsi=9WWYXoQgUyX-0Qro
เคยถูกมอไซชนหัวกระแทกพื้นความดันขึ้น170แต่หมอจะให้กลับบ้านแต่เราไม่กลับ จะขอนอนดูความดันต่อ เตียงห้องฉุกเฉินก็ยังว่างตั้งหลายเตียง งงว่าทำไมไม่ให้นอน สุดท้ายหมอยอมให้นอน ความดันขึ้นสุดที่180 แล้วค่อยๆลงมาจนปกติ
คล้ายกรณีอุบัติเหตุรถชนที่ผู้ชายร่างกายไม่มีแผล ส่วนผู้หญิงเลือดออก คนรุมแห่กันไปช่วยแต่ผู้หญิง สุดท้ายผู้ชายเสียชีวิต เลือดคั่งในสมอง
Source การติดเชื้อไม่ชัดเจน ยังจับเชื้อไม่ได้ ไม่รู้ว่ากรัมบวกกรัมลบ ถ้ากรัมลบเมืองไทยดื้อยามหาศาล ยากินแทบไม่ได้ผลสำหรับการติดเชื้อรุนแรง
ก่อนหน้ามีเพจบรรดาหมอๆแชร์บันทึกข้อความในระบบการรักษาว่า น้องหมอปฏิเสธการแอดมิต ครับอาจารย์ ซึ่งไม่มั่นใจกันว่ามันสามารถแก้ย้อนหลังได้ไหม มีบางคนออกมาบอกว่ามันแก้ไม่ได้หากบันทึกครั้งแรก แต่เหมือนทุกเพจลบไปหมดแล้วครับ
มาไม่ทันฟังสด มาไล่ตามเอา
มาฟังช่องคุณหมอมีสาระ ใกล้ตัวเองมาดที่สุด
Good morning ka Doctor
Wishing you an Autumn Leaf Morning and Sweet Tea Afternoon on this fine Tuesday ka Doctor Tany 🌤️🍂🍵
Now delivering only a big bowl of Smiles.
Happy Tuesdayyy! 🙃
🍁🍐🌻🍇🌾
ผมมีอาการแบบหมอคนนี้ครับตอนแรกเป็นไข้เลือดออก x-ray ปอด สองครั้งปกติหมอบอกว่าปกติ แต่ไอเป็นเลือดหมอวินิจฉัยว่าอาจเกิดจากการไอแล้วเส้นเลือดที่ลำคอแตก แต่อาการผมไม่ดีขึ้นครับไอเป็นเลือดตลอดแต่ไม่มีไข้ เลยไปตรวจที่ขอนแก่นรามโชคดีที่หมอวินิจฉัยถูกครับ แล้วได้รับการรักษาได้ยาฉีดเข้าเส้นเลือดอาการเลยดีขึ้นและหยุดไอเป็นเลือด แล้วได้รับยากินมากินรักษาที่บ้านต่อครับ
เคยหายใจไม่ออกค่ะ หมอให้กลับบ้าน แต่เราไม่กลับ ขอนอนเลยค่ะ
ไม่ให้ออกซิเจน ที่ใส่จมูก ก็ขอพยาบาล รัวๆๆๆ
นอนไป2 อาทิตย์ ขอกลับบ้านเอง
เพราะอยู่แต่ในห้อง รพ. ก็ อุดอู้ ตากแอร์ ไม่เจอแดด ไม่ได้เดินเล่น
#กลัวตายสุด ๆ
ตอนนี้ ผ่านมา 8 เดือน
ปลง ทำใจ หมอยังหาสาเหตุไม่ได้
รักษาตามอาการ
ปกติหายใจไม่ออกไม่ได้ต้องใช้ออกซิเจนอยู่แล้วครับ ยกเว้นกรณีที่ออกซิเจนในเลือดต่ำเราถึงให้ออกซิเจน และถ้าตรวจทุกอย่างปกติ หมอหาสาเหตุไม่ได้ สาเหตุคือโรคแพนิกซึ่งเป็นการป่วยทางจิตใจครับ จิตใจเรามันทำให้เรารู้สึกเหนื่อยได้ด้วย ซึ่งตรงนี้หลายคนไม่รู้ และที่สำคัญหลายๆคนไม่ยอมรับว่าเป็นอาการทางจิตใจ ทำให้ไม่ยอมรักษา ไปหาหมอหลายๆที่ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา สุดท้ายโรคก็เป็นเรื้อรังรักษายากมากๆ เรื่องแพนิกอาการเป็นอย่างไร และรักษายังไง ผมเคยทำคลิปไปแล้วต้องไปดูครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอ❤
ถ้าไปเอกชน.ไม่ตายดอกคะ.เขาไม่ปล่อย.ให้ออกมาง่ายๆๆดอกคะ🙄🙄🙄🙄🙄🙄🙄🙄
ใช่ครับ เอกชนไม่ปล่อยให้ตายที่ รพ.เค้าหรอกครับ พอใกล้ตายเค้าจะรีเฟอร์ให้ รพ.รัฐไปรักษาอีกที
เห็นด้วยค่ะ ต้องไปเอกชน
เห็นด้วยกับคุณหมอค่ะ
คนฉลาด เรียนรู้จากข้อผิดพลาดคนอื่นครับ
ฟังแล้วทำให้นึกถึงซีรี่ย์ Dr. House สมัยซีซั่นแรกๆ
ทีหลัง ไม่ต้องไปเรียนแพทย์ที่จีน เรียนที่ไทย มหาลัยของรัฐเก่งๆ..
การใช้จักรยานแบบมีพนักพิงให้ผลดีแบบ cardio เหมือนวิ่ง ได้ไหมครับ ผมเข่าเสื่อม
ได้ ถ้าเล่นหนักพอสมควรครับ
เมื่อวานนี้หนูได้อ่านข่าวเพิ่มเติมจากทางทวิตเตอร์ มีคนถ่ายภาพหน้าจอมาค่ะว่าได้บันทึกในระบบไว้ว่าทางหมอจะให้แอดมิดดูอาการแต่ตัวคนไข้ที่เสียชีวิตเลือกที่จะไม่แอดมิดค่ะ หนูไม่แน่ใจว่าข่าวจริงไหม
❤🎧😊
อายุน้อย แข็งแรง ป่วยหนักไม่ชัดเจน ไม่เคยมีประวัติป่วยนำมาก่อน หน้ามืดเป็นลม ใจสั่น ปากซีด เป็นอาการป่วยปกติทั่วไป ผู้ป่วยเป็นหมอ .ที่สำคัญไม่มีไข้. ผู้ป่วยไม่ทักท้วงขอร้องจริงจัง แพทย์รักษาจึงไม่สั่งเข้าพักรักษาตัวที่รพ. อีกทั้งเป็น รพ.รัฐ ต้อง ผ่าตัด อาการสาหัสใกล้ตาย จึงรับเข้า เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาแล้วกัน เราไม่ใช่แพทย์นะคะ คิดเห็นเพิ่มเติมตามแนวอาจารย์ ค่ะ
หมอที่มาหาหมอ เขาน่าจะมีอาการไม่ปกตินะคะ
❤❤❤🙏
คุนแม่เคยเข้าห้องฉุกเฉินรัฐ คุนหมอก้อจะไม่ให้กลับนอนห้องฉุกเฉินจนกว่าจะดีขึ้น
สวัสดีค่ะอจ.หมอแทน
/ \__/ \
( .❛ ᴗ ❛.) ขอบคุณ
🙏 มาก
(ෆ ෆ) ค่ะ☺️💕
น่ารักมากๆเลย กระต่ายน้อย 🐰
❤❤❤❤❤
❤❤❤❤❤👍👍👍
🥰🥰🥰🥰🥰🥰🥰🥰🥰🥰
คุณหมอวุ้นไม่ได้เป็นริดสีดวงทวาร แต่คุณหมอถ่ายเป็นเลือด คุณหมอวุ้นน่าจะทราบว่าตัวเองไม่ได้เป็นริดสีดวง คุณหมอวุ้นไม่น่าจะปล่อยให้ตัวเองท้องผูก ทั้งไอเสมหะมีเลือดปน ถ่ายเป็นเลือด อาการแบบนี้น่าเป็นห่วง เหตุผลที่ว่าหมอวุ้นยังอายุไม่มากร่างกายแข็งแรงมาตลอด แต่ว่าน่าจะเอะใจไหมคะ ทำไมมีเลือดออกปาก ออกทวารหนัก หมอได้พูดคุยถามคนไข้รึป่าวว่าหมอเป็นริดสีดวง ซึ่งถ้าสอบถามหมอวุ้นต้องตอบว่าไม่ได้เป็นแน่นอน แบบนี้น่าจะเอะใจ และเพาะเชื้อ คุณหมอคนที่2แย่หนัก ไม่มีข้อมูลของหมอคนแรก คุณหมอวุ้นน่าจะรู้ตัวและบอกอาการหมอคนที่2ว่าฝืนไปทำงานอ่อนเพลียเป็นลม หมอคนที่2เปลี่ยนยาฆ่าเชื้อเป็นยากินแทน ทำไมหมอคนที่2ถึงเห็นว่าหมอวุ้นดีขึ้นเร็วขนาดนั้น หมอวุ้นต้องบอกแน่นอนว่ายังไม่ไหวฝืนทำงานแล้วเป็นลม หมอคนที่2หนักกว่าหมอคนแรก ยังไงทุกฝ่ายต้องฟังฝั่งผู้เสียหายให้มาก โรงพยาบาลแรก และหมอที่รักษาทั้ง2คนจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ รวมถึงระบบสาธารณสุขไทยมีปัญหาอย่างมาก ทั้งภาระงาน สุขภาพจิตหมอ พยาบาล บุคลากร เสียใจกับครอบครัวคุณหมอวุ้นด้วยค่ะ ส่วนตัวคิดว่าเคสยากแค่ไหนก็ไม่มีอะไรที่จะเกินความสามารถหมอหากหมอสังเกต คิดเอะใจ และคิดว่าคนไข้คือญาติมิตร
ถ้าเราไม่ได้เป็นหมอที่ตรวจน้องเขาเอง ไม่มีทางที่จะเข้าใจหรอกครับ คนมามองย้อนหลังจะพูดอะไรมันก็ดูง่ายไปหมด แต่ผมเจอมากับตัวเองหลายทีแล้วว่าเรื่องจริงๆไม่ได้ง่ายแบบที่คนทั่วไปคิดเลยครับ
คุณหมอคะ ถ้ากรณีแบบว่า หมอคนที่3เห็นว่าควรนอนพยาบาล และเพาะเชื้อ แต่คนไข้คือหมอวุ้นปฏิเสธ การเพาะเชื้อยุ่งยากใช้เวลาเยอะไหมคะคุณหมอ หนูไม่ใช่หมอเลยไม่รู้ ถ้าหมอวุ้นกลัวการเพาะเชื้อ ถ้าเป็นคุณหมอจะแก้ไขตรงนี้อย่างไรคะ หรือต้องตามใจคนไข้ สงสัยจังค่ะ
@@English_pabsecret เจาะเลือดไปเพาะ ง่ายครับ
อันนี้ข้อความจากเพจ ไม่ใช่หมอบ่น-aggressivenotdoctor ครับ
.
เรื่อง int เสียชีวิตเท่าที่ดูrecord(แก้ไขหลังจากผ่านวันที่บันทึกครั้งแรกไม่ได้)
หมอคนที่สาม ที่เจอคือ อาการดีขึ้นผลเลือดดีขึ้น แต่ยังไม่ได้วินิจฉัย เลยจะให้เพาะเชื้อและนอนรพ
แต่ตัวคนไข้ปฏิเสธ เลยนัดให้ยาฆ่าเชื้อ7วัน + นัดเจาะเลือดซ้ำอีก 1 อาทิตย์
ปล RIP
แปลกจังเลยค่ะต่อให้หมอวุ้นปฏิเสธการเพาะเชื้อ ถ้าอยู่ในดุลพินิจของหมอผู้รักษา หมอผู้รักษาต้องยืนกรานตามขั้นตอนที่วิเคราะห์ ไม่ใช่ปล่อยไปตามใจคนไข้
คลิปที่แล้ว เป็นพยานฝ่ายโจทก์(คุณแม่)
คลิปนี้ เป็นพยานฝ่ายจำเลย(แพทย์)
มันต้องมองให้ครบทุกมุมครับ
@@DrTany อาจารย์ทำถูกต้องแล้วค่ะ เราต้องนำเสนอข้อมูลทั้ง 2 ด้าน เพื่อความเป็นธรรมให้กับทั้งฝั่งคนไข้และแพทย์ที่รักษาค่ะ
ประมาทและชะล่าใจด้วยจากการดูสภาพแวดล้อมของผุ้ป่วย ยิ่งกว่าเคราะห์ร้ายคือการไม่เอะใจของผู้มีประสบการณ์ในการรักษาและเจอผู้ป่วยมเป็นหมื่นๆ คน ซึ่งเราไว้วางใจว่าจะตั้งข้อสังเกตได้ละเอียดกว่าคนทั่วไป ขอแสดงความเสียใจแก่การสูญเสีญบุคคลากรทางการแพทย์อีกคนหนึ่งค่ะ
❤❤❤❤❤❤