Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
จริงๆ การประกวดนางงาม ก็ถือเป็น Beauty Privilege อยู่แล้ว จะปฏิเสธไม่ได้เลย แต่ก็ควรใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ได้รับ เป็นกระบอกเสียง และสะท้อนปัญหาต่างๆ ของสังคม เหมือนที่มีการพยายามให้นางงามได้พูด ได้สื่อสาร เป็นกระบอกเสียงให้สังคมนั่นแหละ เช่นเดียวกันกับ Beauty Privilege อื่นๆ ก็ควรทำปล. ขอเสริมอีกนิด ผมมองว่า การกำจัด Beauty Privilege ให้หมดไปจากสังคมเป็นไปได้ยาก เพราะทุกสังคมบนโลก มี Beauty Standard กันทั้งนั้น และแทบจะทุกคนก็ยังนิยมความสวย-หล่อ ดูดี แต่นั่นแหละ หากเค้าแค่หน้าตาดี และใช้ชีวิตไปวันๆ คงไปบังคับให้เค้าทำเพื่อสังคมคงไม่ได้ แต่หากมีการประกวด แข่งขัน รึจัดตั้งองค์กรที่ให้ค่า Beauty Standard ก่อนแล้ว ควรให้อะไรคืนกลับกับสังคมบ้าง เช่นการเป็นกระบอกเสียง สื่อสารถึงปัญหาต่างๆ เพราะสังคมต้องจับจ้องที่คุณก่อน คนหน้าตาปกติอยู่แล้ว
ตรง ปล. เห็นด้วยเลยครับ
ใช่ค่ะ อย่างมารียาคือนางงามคนนึงที่เราชื่นชมมาก ก่อนได้รับตำแหน่งพูดอะไรไว้ก็ทำแบบนั้นจริงๆ เขาใช้ Beauty Privilege ที่ได้รับในการเรียกร้องให้กับสังคม ทั้งเด็ก สตรี และสิ่งแวดล้อม
ก็ต้องยอมรับให้ได้ก่อนครับ beauty privilege ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับความสามารถ, วุฒิภาวะ หรืออุดมการณ์ และหลายคนใช้จุดนี้เอาเปรียบคนอื่นๆอีกมากที่ไม่หล่อ-สวย แต่มีศักยภาพ+ความคิดอ่านมากกว่าเราต้องยอมรับให้ได้ว่าค่านิยมรูปลักษณ์พวกนี้ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทรัพยากรมนุษย์ถูกใช้ผิดทาง ...ลองจินตนาการสังคมที่ค่านิยมรูปลักษณ์ไม่สำคัญอีกต่อไปสิครับ มนุษย์ 90%ที่ไม่หล่อไม่สวย จะมีโอกาสพัฒนาศักยภาพอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่ถูกตัดตอน/คัดออก เพราะต้องเลือกคนที่ดูดีไว้ก่อนอย่างที่เป็นอยู่...ไม่ได้หวังผลเลิศอะไรมากมายครับ มันเป็นเรื่องอนาคต แต่ยังไงก็ขอต่อต้าน beauty privilege ถ้าคัดเลือกที่ความสามารถไม่ได้ ก็อยากให้เลิกไปเลยครับ.j
@@sripooh ต่อต้านสมองตัวเองสินะครับ
@@sripooh ผมเข้าใจแนวคิด ผมแค่แสดงความเห็นว่า ในทางปฏิบัติมันยากมาก ที่กำจัดให้ Beauty Privilege ให้หมดไป เพราะสังคมทุกสังคมบนโลก ยังมีค่านิยมชอบความงาม สิ่งที่ทำได้แค่ลดทอน Privilege ลง และพยายามปลูกฝังว่า Privilege ได้มา ต้องมี Responsibility ต่อสังคมคืนกลับเท่านั้นเอง
เราไม่รู้ว่าอันนี้คือ Beauty Privilege มากแค่ไหนนะ เราเคยเรียนที่มอเอกชนที่หนึ่ง เราได้ทุน 100% โดยที่ต้งรักษาเกรดตลอด ป.ตรี ห้ามดีอบ ห้ามขาด ต้องทำกิจกรรมให้มหาลัย คือเค้าใช้เราคุ้มมากเลยนะ เสร็จปุ๊บมีน้อง BNK คนหนึ่งเข้ามาเรียนจริงน้องอยู่มาปัหนึ่งละแต่ดริบแล้วกลับมาเรียน เรียนได้ไม่กี่เดือน น้องได้รับรางวัลนักเรียนเรียนดี ได้โน้นนี้ 5555 นี่ก็แบบ เอ่อ สุดยอด เราผู้ซึ่งทำกิจกรรม เรียน เก็บ ชม ไม่ได้อะไรเลย แทบจะหายไปจากสารระบบ 5555 (เกี่ยวไหมไม่รู้แต่ เราแอบรู้สึก)
สังคมไม่ได้เกลียด Beauty Privilege ขนาดนั้นหรอก แค่คุณยอมรับว่าคุณได้สิทธิประโยชน์หรือความสนใจจากมั นสังคมก็ไม่ว่าอะไรแล้ว เพราะที่สังคมตั้งคำถามคือคุณจะเอา Beauty Privilege มาทำอะไรให้กับสังคมมากกว่า เพราะการประกวดนางงามมันก็คือ Beauty Privilege อย่างหนึ่ง สิ่งที่สังคมคาดหวังจากนางงามมันจึงไม่ใช่แค่ความสวยหรือการชื่นชม แต่สังคมเองก็ต้องการให้คนที่ได้รับ Privilege ใช้ประโยชน์จากมันในการสร้างประโยชน์ให้กับสังคมมากกว่า และต้องเป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์แบบวงกว้างไม่ใช่ประโยชน์ตื้นเขินเป็นเด็กน้อย
1. จุฬาฯคฑากร, ผู้นำเชียร์, และผู้อัญเชิญพระเกี้ยว (3 องค์กร) ในปีการศึกษา 61-62 มีความเกี่ยวข้องกับ อบจ. โดยตรง เพราะอุปนายก อบจ. คนที่ 2 ต้องเสนอโครงการคัดเลือกของทั้ง 3 องค์กรให้สภานิสิตฯ อนุมัติ โดยทั้ง 3 องค์กรมีเกณฑ์คัดเลือกชัดเจนจริงตามที่ว่านะครับ จากที่ผมเคยเป็นสมาชิกสภาฯ ก็ต้องพิจารณาเกณฑ์เหล่านี้ และส่งเพื่อน ๆ สมาชิกสภาไปสังเกตการณ์การคัดเลือกด้วย+ โครงการคัดเลือก 3 องค์กรใช้งบประมาณของสโมสรนิสิตดังนั้น ปัญหาก็น่าจะอยู่ที่กรรมการที่ให้คะแนนผู้สมัคร2. งานเปิดโลกกิจกรรมเป็นงานของ อบจ. โดยตรง3. อบจ. ย่อมาจาก “องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ” นะค้าบ 😅
เอาจริงเรื่องของสวยของงามๆในสังคมมนุษย์มันอยู่กับวัฒนธรรมมนุษย์มาเป็นพันๆปีแล้วป่ะ ของสวยของงามมักจะเป็นที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนเสมอ มันคือสัญชาติญาณของมนุษย์ ถ้าไม่สวยไม่งาม คนเค้าก็ไม่ดู เหมือนประกวดนางงาม real size beauty เหตุผลฟังดู make sense แต่ไปประกวดจริงไม่มีใครซื้อ เพราะชื่อก็บอกอยู่ว่า “นางงาม” ถึงจะฟังดูเจ็บ แต่มันคือความจริง ที่เมื่อคุณโตขึ้นในอายุเริ่มทำงาน หรือเข้าสู่สังคมวัยทำงาน คนที่มีรูปร่างหน้าตาดีกว่ามักจะได้รับสิทธิและโอกาสทางสังคมมากกว่าคนอื่นเสมอ((First impression is the most important มันเป็นจิตวิทยามนุษย์ จะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับโอกาสและบริบทนั้นๆ)) อันนี้คือขั้นเรื่องต้น แต่ถ้าจะให้วัดกันที่ความสามารถ เวลาก็จะเป็นตัวช่วยบ่งบอกว่าใครคือเพชรแท้ เพราะสุดท้ายแล้วความโรยราก็จะมาพรากความสวยความงามเหล่านั้นไป ก็จะเหลือแต่ความสามารถที่คุณมี ให้เป็นที่ประจักษ์และชื่นชมของผู้คน ในโลกแห่งความจริง คนสวย หล่อ มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองแค่ถึง อายุ30 เท่านั้นแหละ อีกครึ่งชีวิตที่เหลือ มันคือ ความสามารถคุณล้วนๆ จะอ้วนเตี้ยดำ แคระ ถ้าคุณเป็นคนเก่ง ทุกคนจะเข้าหาคุณแบบที่คุณจิตนาการไม่ถึงเลยแหละ
ส่วนตัวเราคิดว่าเราจะหยุด Beauty privilege ไม่ได้หรอก เพราะทุกวันนี้เรายังชื่นชมดารา นักร้องอยู่เลย มนุษย์มันชอบอะไรที่สวยงามอยู่แล้ว เปลี่ยนไม่ได้ แต่เราควรกดดันให้ดารานักร้องมาเป็นกระบอกเสียงให้สังคมมันดีขึ้น อย่าดาราสลิ่มควรเอาไปทิ้งไม่ต้องให้ค่า
ใช่แล้ว ก็เหมือนที่หยุดพวกมีmindset ตรรกะ ความคิดโดนล้างสมอง ไม่ว่าจะมีประเด็นห่าเหวอะไร ก็จะโยงงงไปการเมืองให้ได้ ไม่ได้ไรนะแค่รำคาญ ทุกข่าวต้องไปคอมเม้นท์เรียกร้องความสนใจ เพื่ออะไร?? เหงามากหรอ ไม่มีเพื่อนคุยหรือไม่มีใครคบ คืองง?
หยุดbeauty privilege ยากจริงค่ะ สิ่งที่เราทำได้คือช่วยกันรณรงค์และต้องเริ่มจากตัวเองจริงๆอ่ะ อย่างแรกเลยทุกวันนี้สังคมส่วนใหญ่ยังตัดสินคนจาก first impressionอยู่ ซึ่งคนที่หน้าตาดีก็จะได้เปรียบในเรื่องfirst impressionด้วย เราว่าถ้าคนเลิกตัดสินคนจากภายนอกได้ ก็จะช่วยลดการเกิดbeauty privilegeประมาณนึงเลย
เห็นด้วยมากๆ
ส่วนตัวคิดว่าเราก็ไม่ควรไปกดดันใครให้ออกมาเป็นกระบอกเสียงให้เรา แต่ควรให้เขาเป็นด้วยความสมัครใจมากกว่า
เราคิดว่าดาราก็แค่อาชีพๆนึง ไม่ได้ให้ค่าเกินอาชีพหรือชื่นชมเกินอาชีพอื่นๆ
สิ่งที่น้องคนนั้นพูดก็มีส่วนจริงนะ Beauty Priviledge มันมีอยู่แล้วในทุกๆสังคม ไม่ใช่แต่ในเมืองไทย เพียงแต่สิทธิ (อย่างเป็นทางการ) ของพวกนี้ จะไม่ได้มีมากกว่าคนปกติในสังคมอื่น สังคมไทยให้สิทธิพิเศษกับคนกลุ่มนี้จริงๆแหละ เพราะอะไรเหรอ อันนี้ถ้าให้ผมเดานะ คนที่ถือสิทธิพิเศษอาจจะอยากเอาใจคนกลุ่มนี้ก็ได้ เพื่อให้ตัวเขาเป็นที่รัก การที่ อบจ. ไม่ให้สิทธิพิเศษกับคนกลุ่มนี้ผมค่อนข้างเห็นด้วยนะ ส่วนที่เนมบอกว่าทำไมคนกลุ่มนี้ไม่เอา Priviledge ของตัวเองออกมาเรียกร้องความถูกต้องต่างๆ อันนี้ผมมองว่าเป็น ตรรกะขัดแย้งนะครับ ลองคิดดูนะ พวกเขาเป็นที่รักที่เอ็นดูของกลุ่มคนที่มีอำนาจ ยิ่งทำให้เขาได้โอกาสที่คนทั่วไปเอื้อมไปไม่ถึง เขาจะออกมาต่อต้านคนพวกนี้ทำไมล่ะครับ เกิดเขามองว่าเราไม่น่ารัก ที่เราลงทุนจนมาถึงจุดนี้มิเท่ากับสูญเปล่าเหรอครับ ที่เขามาตรงนี้ก็เพื่อตัวเขาเองอยู่แล้วครับ
ถ้าเค้าคิดว่าองค์กรเค้าทำถูกจริงๆ และตอบคำถามได้ดีมันจะปังมาก เช่น เค้าจะได้ซีนโชว์ว่าได้มาเพราะความสามารถจริงๆ
ความironyคือ คำถามเรื่อง beauty privilege มาจากเวทีประกวดนางงาม
จริง555
สิ่งที่มันเลือกไม่ได้ตั่งแต่เกิดไม่ควรเอามาเป็น "สิทธิพิเศษ"
โดนใจ
นี่ไปเม้นแบบนี้แหละโดนถล่มเละ55555
เกิดมาหน้าตาดีก็ผิดด้วย อยู่ยากซะแล้วเรา
คนอื่นเองรึเปล่าที่ให้สิทธิกับเขา ?
@@khaschen น่าคิด คนสวยบอก ฉันผิดอะไร ในเมื่อมีคนให้โอกาส เป็นใครก็ต้องรับ
ยอมรับความจริงให้ได้ก่อนว่า beauty privilegeเป็นเรื่องปกติทั่วโลก ถึงแม้ฝั่งตะวันตกจะดูน้อยกว่าเอเชีย แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเผลอๆอาจจะหนักกว่าในบางเรื่อง เรื่องนี้มีความเป็นปัจเจกมันเป็นสิทธิของใครคนนั้น มากกว่าจะไปชี้นำใครให้ทำตามที่ตัวเองคิด สิทธิของใครของมัน ใครจะมอบอภิสิทธิใดๆให้คนสวยคนหล่อก็แล้วแต่เค้า คนหล่อคนสวยไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อสังคมคนละประเด็นนะ
เรื่องนี้ก็แค่แฟร์ๆนะ คนให้ beauty privelege กับคุณ แล้วคุณไม่เอาไปสร้างประโยชน์ให้สังคม ก็สิทธิของคุณ แต่ถ้าเขาจะแอนตี้คุณก็สิทธิของเขาเหมือนกัน
ทุกคนก็ชอบความสวยความงามอยู่แล้ว นักร้องดารา นักร้องเกาหลีคุณก็ชอบในความหล่อความสวยความสามารถ แต่ถ้าถามผมผมมองว่าคฑากรก็แค่คฑากร จะให้ไปทำอะไรขนาดนั้น แค่อำนาจในมหาลัยยังแทบไม่มีเลย บางคนก็ดราม่าไปเรื่อยเหมือนใส่ไฟไปเรื่อยไปยัดเยียดให้คนอื่นต้องพูดแบบที่ตัวเองอยากพูดมันก็ไม่ใช่ สิทธิของผู้อื่นมันก็ควรเคารพ บอกคนอื่นเก่งจริงๆสิทธิๆๆแต่ตัวเองยังละเมิดไปบังคับให้เขาต้องพูดทำนู้นนี่อยู่เลย
@@conqueror3607 น่าคิด ไปสั่งให้คนสวยทำนั่นทำนี่ แล้วคนไม่สวยก็ไม่ต้องทำอะไรเลยงี้หรอ แค่ไม่สวย ก็ได้เปรียบแล้วสิงั้น
@@analoggen4124ยิ่งสวยหล่อ ยิ่งโดดเด่น ยิ่งดัง ก็เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างที่สามารถจะชี้นำคนในสังคมได้มั้งครับ คนตัวเล็กๆในสังคมก็เลยคาดหวังให้คนเหล่านี้ทำอะไรบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม คงอาจจะเหมือนที่ลุงเบ็นพูดไว้มั้งครับว่า "พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง"
@@icecoldcool คนที่เป็นคนให้ค่าคนสวย ก็คือคนขี้เหล่นั่นแหละ ถ้าคนขี้เหล่ ไม่ไปให้ค่า ให้โอกาส เขาก็ไม่ได้รับโอกาสหรอก กลายเป็นว่าคนขี้เหล่ ลอยตัว แถมโยนภาระให้คนสวยต้องรับผิดชอบ
@@analoggen4124ช่วยไม่ได้นี่ครับ ก็เพราะว่าคนในสังคมสถาปนาพลังนี้ให้กับคนหล่อสวยไปแล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนแหละครับ จะใช้พลังนี้ไปในแนวทางไหน ถ้าใช้ไม่เป็นไปตามที่สังคมคาดหวัง เรื่องแบบนี้ก็จะเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ กระแสพลังของคนขี้เหล่ที่คุณว่า ก็จะคอยขัดแข้งขา ของคนหล่อสวยอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ จำไว้นะครับ ที่ใดมีสังคม ที่นั้นมีความยุ่งเหยิงวุ่นวายครับ
ทั้งสององค์กรในรั้วมหาลัยอย่าง คฑากร / Cheerleader ควรจะมารูปแบบในชมรมไม่ใช่จัดตั้งเป้นองค์กร เพราะมหาลัยอื่นๆ เขาก็ทำเป้นชมรมทั้งนั้น แม้แต่ มธ. ก็ยังมีชมรมเชียร์ด้วย
เป็นเรื่องปกติที่จะมีการคัดเลือกคนจากคงามสวยงามอยู่แล้ว มนุษย์ทุกคนย่อมถูกดึงดูดด้วยความสวยความงามหลีกเลี่ยงไม่ได้ 100% หรอก beauty privilege น่ะถามกลับว่า ถ้าบังเอิญเลือกคนที่มีความสามารถมาแล้วเค้าดันหน้าตาดีด้วย กรรมการผู้คัดเลือกต้องมานั่งปวดหัวอีกไหมว่าจะโดนกล่าวหาว่าเลือกคนจากหน้าตา หน้าตาดีก็เป็นลักษณะของบุคคลแบบหนึ่ง เลือกเกิดไม่ได้ งงว่าทำไมถึงมีปัญหากับแค่จุฬาคฑากร ทั้งๆที่หลายๆอย่างในสังคมไทยก็มีการคัดเลือกจากหน้าตา ดารา นักร้อง นางงาม brand ambassador หรือแม้แต่คู่ครอง ถ้าทุกอย่างดีเท่ากัน หน้าตาดีกว่าก็มี%ชนะมากกว่า บางอย่างเอาหน้าตานำด้วยซ้ำ ยอมรับ diversity ให้ได้ แล้วชีวิตจะมีความสุขเอง
เป็นคนสวยมันเหนื่อยมาก มันยาก ขนาดฉันไม่สวยฉันยังเข้าใจเลย ว่าอคติต่างๆ มันโถมใส่ ว่าเนี่ยมีดีแค่สวย สวยแต่โง่ เพราะสวยล่ะสิถึงได้เป็น ทั้งที่คนสวย เขาก็ต้องพยายามมากในการได้รับโอกาสต่างๆมา ถ้าสวยแต่โง่ ไร้ศักยภาพ ใครจะยอมรับนับถือ ในองกรณ์การทำงาน สวยอย่างเดียวก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้นคนสวยที่เขาได้ออกมายืนโดดเด่น เพราะเขามีศักยภาพไง เลิกเอาความขี้เหล่ของตัวเองไปอคติใส่เขาได้ละ
ยิ่งโดดเด่น ยิ่งดัง ก็ยิ่งมีพลังอะไรบางอย่างที่สามารถจะชี้นำคนในสังคมได้มั้งครับ คนตัวเล็กๆในสังคมก็เลยคาดหวังให้คนเหล่านี้ทำอะไรบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม คงอาจจะเหมือนที่ลุงเบ็นพูดไว้มั้งครับว่า "พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง"
น้องลายผลอยน่ารักจริงๆ อยากเลี้ยงเเมวเเบบนี้จริงๆ ปลื้มมมมมากสีสวย ก็ถ้าให้พูดน่ะครับ นิสิตนักศึกษาก็คือเด็กที่ยังอยู่ในระบบการศึกษาครับ มันคือสังคมอย่างหนึ่ง การมีองค์กรนี้ก็เหมือนผลักดันให้นิสิตได้รับความยอมรับจากคนอื่นๆ หากได้รับการยอมรับมากๆก็เหมือนตัวเองดูมีบทบาทในสังคม ดูมีพาวเวอร์ หลงในตัวเอง พวกเขาเหล่านั้นอาจจะยังมีความคิดความอ่านไม่มากพอ พอพวกเขาออกไปยังไงเค้าก็เหมือนกับคนธรรมดาอยู่ดี การอยู่ในสังคมมหาลัยเหล่าองค์กรเเบบนี้มักมีอะไรที่ดูดาคกว่านี้เเทบทุกเเบบ ถ้าในองค์กรนั้นดูไม่มีส่วนร่วมกับคนอื่นๆในมหาลัยดังนั้นการมีองค์กรเเบนี้ก็อาจเป็นเรื่องดี หากพวกเขาวางตัวอยู่ในจุดที่เหมาะสม เเละมีหน้าที่ที่เป็นประโยชน์ให้กับส่วนรวมได้จริง
งั้นลองเลือกผู้ถือคฆาจากความสามารถเป็นหลักซิครับ ไม่ต้องสนเรื่องรูปร่างหน้าตา ถึงจะเป็นการยกเลิก Beauty privilege จริง
แต่ผมว่าแบบนั้นมันจะมีต่องานจริงๆหรอครับ ในเมื่อรูปร่างหน้าตาย่อมมีผลต่อการดึงดูดคนดูอยู่แล้ว เช่น นักร้อง ส่วนใหญ่ที่ดังมากๆ ไม่ใช่แค่ร้องเพลงดีแต่รูปร่างหน้าตาก็ดีด้วย คนที่ร้องเพลงดีเฉยๆหน้าตาไม่ดี อาจจะต้องเลือกทำงานด้านการสอนร้องเพลงหรืองานเบื้องหลังไปแทน
คือเราเข้าใจว่าการควงคฆาเป็นเรื่องที่ฝึกกันได้ ถ้าเราเลือกคนสวยไปฝึกมันก็จะดีกว่ารึป่าว การที่มี Beauty privileged มันเป็นเรื่องที่สังคมมอบให้เองจริงๆอ่ะ ถ้าเราไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะคนสวยคนไม่สวยก็ปฏิบัติเท่าเทียม ก็คงไม่มีดราม่าอ่ะ
ขอโทษครับ คำว่า Beauty privilegeแปลว่าอะไรหรอครับ ไม่รู้จริงๆ เรียนมาน้อย
@@anirutlegchom539 หน้าตาดีมีอภิสิทธิ์มากกว่า ประมาณนั้นมั้ง
@@uzkrap อ่อๆครับ ขอบคุณมากครับ
ไม่มีทางหยุด beauty privilege ได้ครับ เพราะ ขนาดสัตว์, นก ยังดู ภายนอกของ ตัวอื่นเวลาหาคู่เลยครับ คนก็เหมือนกัน เราดูที่หน้าตาก่อน ถ้าหล่อสวย มีสิทธิ์เลือก ทั้งๆที ความหล่อ ความสวย คือ ความไม่แน่นอนของ 🧬 ซึ่งได้มาจาก พ่อ แม่ ของ พ่อ แม่ และ ก็ ของพ่อกับแม่ อีกที แต่นิสัย นั้นสร้างได้ เงินก็ เหมือนกัน ถ้าหน้าไม่หล่อแต่ รวย ก็มีผญติด สวยแต่ โง่ คนรวยก็เอา เพราะ งั้น อย่างเดียวที่ทําได้คือ ทําใจ มนุษย์ชอบความสวยความงามอยู่แล้ว แล้วให้ค่ามัน เพราะ งั้น ทําใจครับ this is how the world works
นึกถึงใจคฑากรบ้างเถอะ สงสารเค้า เค้าก็อุตส่าห์ฝึกมาโชว์นะ ถ้าเค้าไม่ได้ทำในสิ่งที่ซ้อมมามันก็เหมือนเสียเปล่านะ
จริงๆจุฬานี่ดูวุ่นวายมากๆนะครับ มีองค์กรนั่นๆนี่ แล้วก็ดราม่าภายในเยอะแยะ ปสด. เหมือนแบ่งชนชั้น แบ่งคลาสตามฐานะ ... นี่หรอที่ที่คนอยากไปเรียนกันมากสุด
จบออกมาก็เป็นอีลีทอยู่ในสังคมไทยเหมือนพวกที่มันไปด่าๆไว้นั่นแหละ
ถ้ายกตัวเองเป็นตัวแทน ก็ต้องทำหน้าที่เป็นตัวแทนจริง ๆ เพราะพวกคุณได้ประโยชน์จากสิ่งนี้ และโอกาสที่จะได้สิ่งนี้ต้องยอมรับก่อนว่ามันใช้ทั้งความสามารถและหน้าตา จะมาไม่ยอมรับว่ามันมีอยู่จริง แล้วไม่ทำอะไรเลย(ในฐานะตัวแทน)นอกจากโชว์สวยหล่อทำคลิปโปรโมตตัวเอง พูดประเด็นสังคมแบบแตะ ๆ วาง โปรโมตองค์กรไปวัน ๆ ก็ไม่แปลกที่ นิสิตคนอื่นจะมองว่ามันไม่มีประโยชน์ และเป็นองค์กรที่ใช้บิวตี้พริวิเลจเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ถ้าไม่ทำให้เขาเห็น ก็ห้ามความคิดคนไม่ได้หรอก ขนาดคนที่ทำเยอะยังโดนว่าเลย(ก็คนอคติอ่านะ) แล้วทำแบบขอไปทีจะเหลือเหรอ แต่ก็นะ ถ้าไม่ใช่ตัวแทนก็แค่องค์กรธรรมดาก็เรื่องของเขาแหละ และก็ถูกต้องแล้วที่ไม่ไปแสดงในกิจกรรมนิสิต เพราะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนิสิตจริง ๆ ตั้งแต่กระบวนการคัดเลือก ยันสิ่งที่ทำ สิ่งที่เหมือนกันก็แค่เรียนที่เดียวกัน
พูดถึงคำว่า “บิวตี้ พรีวิลเลจ” รู้สึกว่าโดนลำเอียง นึกถึงตอนเราเรียนมัธยมปลาย ที่ชอบทำกิจกรรม ดนตรีสากล ดนตรีไทย กีฬา ฯลฯ ไล่ทำทุกอย่าง แล้วตัวเองทำได้ดี แต่โดนเจอปฏิเสธไม่รับให้เป็น ลีดเดอร์กีฬาสี เพราะไม่สวย :( ไม่สวยของเขาคือ ต้องพิมพ์นิยม เฟลนะ แต่โตมา 27ปี ก็ชอบในแบบตัวเอง ชอบผิวเข้ม ผมดำ แต่มีหลายที ที่เจอตัดสินจาก “บิวตี้ สแตนดาร์ด” เราไม่อิจฉาคนสวย แต่เราเสียใจที่คนอื่นบางประเภท ชอบตัดสินจากตรงนั้น
ถูก อย่างน้องคนนี้ เขาใข้ความสามารถ เข้าไป ไม่ใช่แค่ความสวย เพราะเด็กจุฬา สวยๆเยอะมาก ลูกคนรวยเยอะมาก แต่น้องเขาใช้ความสามารถ ถึงได้เป็น
บิวตี้สแตนดาร์ดไทยปัจจุบัน อิงจากประเทศมหาอำนาจโซนเอเชียตะวันออกเป็นมาตรฐานทุกแนวทางทุกวงการ หล่อสวยก็ต้องสไตล์... จะไปว่าหล่อสวยสไตล์ไทยเราเอง ลาว ติมอร์ อินเดีย โอมาน อิหร่าน ฯลฯ มันไม่ป็อบปูล่าเฉยอ่ะ
เสียดายตรงที่ตอนให้คะแนนคีย์เวิร์ด ในการแข่งขันรอบคีย์เวิร์ดของปีนี้ เขาให้ตอนที่ผู้เข้าประกวดอยู่ในหลังฉาก โดยได้คีย์เวิร์ดตามที่ผู้เข้าแข่งขันสุ่มได้ แล้วต้องตอบคีย์เวิร์ดนั้นด้วยเวลา 30 วินาที ซึ่งในตอนนั้นถือว่าเรเน่ทำได้ค่อนข้างดี พอเปิดประตูแล้ว ก็ไม่ได้ให้คะแนนอีก ส่วนคำถามเรื่องคฑากรที่นำมาสู่เรื่อง beauty privilege ก็มาถามเรเน่หลังจากที่ประตูเปิดออกมาแล้ว ซึ่งถ้ามีการให้คะแนนหลังจากที่ประตูถูกเปิดแล้ว เรเน่มีสิทธิตุ๊บ
ส่วนตัวคิดว่าคฑากรคนนี้ตอบตรงคำถามนะคะสวยงามมันกำหนดไม่ได้ ประเด็นคือความสวยงามของคุณจะทำอะไรให้คนที่ไม่สวยงามแบบคุณได้ไหมนี้ไม่เห็นด้วยกับการประกวดความงาม แต่จุฬาคฑากรมีหน้าที่อะไรคะ ต้องแต่งทัพไปบุกหงสาวดีไหมแล้วคนที่คิดที่มา sotus กับการประกวดจุฬาคฑากรคือ อ วาสนา รึเปล่าคะ
มองจากอีกมุมนึง ก็เป็นเวรเป็นกรรมของพวกหน้าตาดีเหมือนกันนะ ที่ต้องถูกคาดหวัง ทั้งในเรื่องเป็นกระบอกเสียงเรื่องมหาลัย เรื่องสังคม เรื่องการเมือง หลายครั้งคนก็ตั้งความหวังไว้สูง กับดารา ผู้มีชื่อเสียงบางคนก็ถูกบูลลี่ว่าไม่ทำเพื่อสังคม ทั้ง ๆ ที่พวกหน้าตาดี ดารา เองอาจจะแค่คิดว่า หน้าที่หลักของเขาต่อสังคม ก็คือการสร้างความสุขให้คนดู นักศึกษาที่ถือคฑาก็อาจจะแค่คิดว่าหน้าที่เขามีแค่ถือคฑารึเปล่า เลยคิดว่า น่าจะกำหนดคุณสมบัติชัด ๆ ของพวกหน้าตาดีที่จะมาถือคฑา รวมทั้งพวกดาราเป็นข้อ ๆ เลยว่า ต้องทำอะไรบ้าง (เช่น ต้องเรียกร้องเพื่อสังคม ต้องเรียกร้องทางการเมือง ต้อง ๆ ๆ ๆ ... อีกมากมาย) คนที่มาสมัครจะได้รู้ว่าต้องมีหน้าที่อะไรบ้าง รับได้ไหม อันนี้เป็นมุมมองอีกมุมแค่นั้นเอง
>>หลายคนคงเห็นว่าไม่ใช่เรื่องซีเรียส หรือมองว่าเป็นสิ่งที่ลบล้างไม่ได้ก็อยู่กับมันไป
ลุคนี้น่ารักชิบหายเลยว่ะครับแอด
เห็นคนจับโยงการประกวดนางงามผมไม่ได้สนใจทั้งสองเวทีนั่นแหละ แต่พูดตามตรงว่าปัจจุบันเวทีนางงามเป็นแหล่งขับเคลื่อน เป็นแหล่งพูดคุยและเปิดประเด็นทางสังคม(ประเด็นจะได้ไปต่อมั๊ยเป็นอีกเรื่องนะ)แล้วเวทีจุฬาคฑากรหรือผู้อัญเชิญพระเกี้ยว มันขับเคลื่อนอะไรบ้าง???คำตอบแบบ "อยากให้ดูที่ความตั้งใจ" ทำให้คนอ่านขยะแขยงได้เท่ากับเวลาที่ลุงตู่ออกมาพูดว่า รัฐบาลตั้งใจทำงาน ทุ่มเทเต็มที่ เหนื่อย... เลเวลเดียวกันครับตั้งใจทำ ทุ่มเททำ แต่ไร้ประโยชน์ ก็เลิกครับ
ถ้าหน้าตาดีต้องโดนคาดหวังสูงขนาดนี้ ไม่สงสัยแล้วว่าทำไมคนหน้าตาดีหลายคนที่รู้จักถึงไม่ชอบสุงสิงกับใคร น่าสงสารจริงๆ บางคนขนาดไม่ยุ่งกับใครก็ยังเจอข้อหาหยิ่งไปอีก
อันนี้แอบเห็นด้วยค่ะ คนหน้าตาดีที่เขาถูกตัดสิทธิ์ความเป็นส่วนตัว บางกลุ่มคือยิ่งกว่ามนุษย์ล่องหน โซเชียลว่าหายาก เรียนจบคลาสแทบหาเงาไม่เจอ สุงสิงกับผู้คนน้อยมาก
สำหรับผมปรับเป็นเเค่งานจิตอาสา อยากเเต่ตัวสวย จ่ายเงินเอง อยากได้ความร่วมมือจากคนอื่นในคณะก็ไปเเนะนำมาเอง ไม่ใช่ตัวเเทนอะไรทั้งนั้น ถ้าเป็นตัวเเทนต้องมีการโหวตทั้งมหาลัย
เป็นคนหล่อคนสวยในยุคนี้มันละบากครับ พวกขึ้อิจฉามันเยอะ บางคนเลยเเทบไม่สุงสิงใครเลย โดนนินทาเปล่าๆ จขชก็biasไปหน่อยนะครับนี้ ปกติจะไม่เอนเอียง ให้คนคิดเอง คลิปนี้ชี้นำเกินไป การเป็นคนหล่อคนสวยเเล้วได้ privillage มันไม่จำเป็ฯต้องรับภาระหนักขนาดนั้น เป็น คฑากรนะครับ ไม่ใช่ผู้ว่า ถึงต้องมีหน้าที่ไปเรียกร้อง สิทธิให้นักศึกษารายอื่นๆ บางคนเเค่หล่อสวยเเล้วได้เป็นคือจะยัดหน้าที่ให้เค้าไปเป็นเเกนนำเลยก็ไม่ใช่ คฑากรมันก็เน้นหน้าตาอยู่เเล้ว เเนวคิดความสามารถมันเป็นอีกเรื่อง ไม่งั้นดาราคงไม่เป็นสลิ่มกันหรอก คนหล่อใช่ว่าจะมีเเนวคิดเหี้ย คนหน้าตาเหี้ยก็ใช่ว่าจะมีเเนวคิดดี ถ้าเรามองมนุษย์เท่ากันเเต่เเรกก็คือจบ ไม่ต้องไปยัดหน้าที่อะไรให้ใคร ไม่ต้องไปคาดหวังใครใครต้องมาขัยเคลื่อนสังคม
ตอนไปงานแรกพบแถวสนามบอล มีพี่คนดังคนนึงตะโกนมาว่า ขอทางให้เชียร์ลีดเดอร์หน่อยค่ะ แล้วผลักๆ เราออกจากทางเดินเพื่อให้กลุ่มพี่เขาเดินเข้าสนาม ตอนนั้นคืองงว่า แบบนี้ก็ได้เหรอ แต่เอาจริงๆ เราก็ชอบมองคนสวยๆ หล่อๆ แต่ไม่ควรมีอภิสิทธิ์เหนือคนหน้าตาไม่โดดเด้นขนาดนี้
มีแต่บอลประเพณีจุฬา ธรรมศาสตร์ ทำไมไม่มีบอลประเพณี ราชภัฏ-ราชมงคล เทคนิค-เทคโน บ้างล่ะ? ให้ค่ากันมากเกิน?????
น้องแมวลายสวยมากครับ ดูแมวไปฟังไปเพลินดีครับ
สุดมากแอ็ดกับประเด็นนี้ 👏👏👏
มหาลัยแห่งความเหลื่อมล้ำสินะครับ
เราอาจจะไม่ควรคาดหวังตั้งแต่แรกว่า คนควงคทา(ที่หน้าตาดี หุ่นดี เป็นเงื่อนไขในการคัดเลือก) จะเป็นคนที่เข้าใจปัญหาสังคม
ขอบคุณที่ทำสรุปให้นะคะ ชอบคุณเนมสรุปที่สุดเลย เข้าใจง่ายดีป.ล. (ความคิดเห็นส่วนตัว)ในที่สุดฉันเก็ตแล้วว่า คฑากรคืออะไร เห็นเพื่อนๆ ชอบเหลือเกิน TwT
ก็เข้าใจนะ ว่ามันเป็นปกติของโลก ซึ่งก็ปกติของโลกเหมือนกันอ่ะค่ะ ที่มนุษย์จะพัฒนาความคิด ตั้งคำถาม และมันก็แฟร์นิคุณอยากเห็นด้วยกับพริวิเลจอะไรพวกนี้ก็เรื่องของคุณ คนที่เขาได้รับความเจ็บปวดจากการแบ่งแยกเขาก็ไม่เห็นด้วย ซึ่งในอนาคตก็อาจจะมีมากขึ้น ก็ปกติเหมือนกันอ่ะค่ะ ที่จะได้รับแรงกระแทกจากสังคมแบบนี้ เห็นชอบบอกว่าปกติๆกันดีนัก หลายคนบอกคนเราชอบของสวยๆงามๆอยู่แล้ว สวยคุณกับสวยคนอื่นมันก็ไม่เหมือนกันอ่ะ อย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้งว่าทุกคนโอเคที่จะให้คนสวยๆตามความคิดคุณเข้าถึงอะไรได้มากกว่าสิคะ กระบอกเสียงไม่ต้องหล่อสวยก็เป็นได้อ่ะค่ะ ไม่สนับสนุนคือไม่สนับสนุนค่ะ ไม่ได้ต้องการมาใช้ประโยชน์อะไรจากตรงนี้ ตปท คำว่าหล่อสวยเขาก็ไม่เหมือนเราค่ะ เขาเปิดกว้างกว่าเราเย้อออออออค่ะ อย่าหาเอาไปเปรียบเทียบเลยค่ะ
ขอรบกวนคุณเนมในฐานะที่มีophtusเป็นสปอน อยากให้เตือนทางเพจophtusเรื่องการโพสเกี่ยวกับคนที่คอสเป็นฮินาตะแล้วหน้าตาอาจจะไม่ได้ตรงตามตัวละครและไม่ตรงตามบิวตี้สแตนดาร์ด ทางเพจได้ตั้งหัวจั่วให้คนมาบูลลี่ ในคอมเม้นก็เต็มไปด้วยสิ่งแย่ๆ คุณเนมเคยอยู่ในวงการคอสเพลย์น่าจะพอเข้าใจว่า การที่คนๆหนึ่งจะกล้าออกมาคอส มันไม่ได้ง่ายเลย ยิ่งตัวเองลักษณะไม่ตรงกับตัวละครนั้นๆ แต่ใจมันรัก ถึงแม้คุณเนมอาจจะทำอะไรไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยคุณเนมก็เสียงดังกว่าเราที่เป็นแค่คนธรรมดา 🙏🏼
จริงๆ แล้วมันมีคนบ่นเรื่อง beauty privilege ตั้งแต่งานบอลปีล่าสุดแล้วที่ pr แต่คนหล่อสวย pr แต่เชียร์ลีดเดอร์ คฑากร คนเดินขบวน แต่ไม่มีโปรโมทนักบอลสักนิดเลย แล้วมันมาบ้งตรงไอ้คลิปของคฑากรนั่นแหล่ะ คนเลยตามสาปแช่งมาจนถึงปัจจุบัน
ผมชอบทัศนคติพี่มากๆเลยคับ ไอดอล 💙
คนใน ตต ก็มีคนนึงออกมาตอบเรื่องนี้ เป็นผช. บ้งไปรอบ รอบนี้บ้งขั้นหนักกว่าคือมาในนามผู้เข้าประกวดอีก
เป็นตัวแทนนิสิตด้านไหนต้องระบุ คงไม่ใช่ทุกด้านและการที่เชียร์เละคฑากรเป็นได้แอร์ทามมากกว่าก็ไม่ผิดนะเราว่า มีผู้นำก็ต้องมีผู้ตาม มีเบื้องหน้าก็ย่อมมีเบื้องหลัง อันนี้ความคิดส่วนตัวนะ ถ้าไม่อยากแบ่งชนชั้นก็ต้องคัดเลือกด้วยเกณฑ์ที่เป็นกลางจริงๆ
คอมมิวนิสต์ยังมีชนชั้นปกครองเลยครับ ล่ะอะไรคือการเท่ากันแบบที่น้อนๆต้องการหลายๆเรื่องอาจจะไม่ต้องเท่าเทียมทุกอย่าง แค่ทำให้มันยุติธรรมก็พอแล้ว
จริงๆก็มีหลายหน่วยงาน หลายองค์กรนะที่ไม่ได้เป็นกระบอกเสียงและไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเหมือนกัน แต่พวกนั้นก็เหมือนจะไม่โดนแขวนเพียงเพราะหน้าตาไม่ดี หน้าตาปกติเหมือนคนทั่วไป เราจะแน่ใจได้ยังไงว่านี่ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติจากกลุ่มคนที่หมั่นใส้หรือไม่ชอบพวกคนหน้าตาดีเป็นการส่วนตัว ส่วนเรื่องคนหน้าตาดีมักได้รับอะไรบางอย่างมากกว่าคนหน้าตาไม่ดี มันเป็นสัจจธรรมของโลกอยู่แล้วหรือเปล่า ใครๆก็ชอบคนหล่อคนสวยด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งมันก็คนละเรื่องกับสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ความเป็นคน ที่แน่นอนแหละว่าต้องได้เท่าเทียมกันให้ได้
ประเด็นที่หลายๆ องค์กรไม่ได้ถูกพูดถึง ทั้งที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไร เพราะเค้าไม่มี Privilege รึป่าว การไม่มีแสงส่องไปถึง ไม่ได้อภิสิทธิ์จะเป็นหน้าเป็นตา ได้ถูกจับจ้องจากสังคม แต่เมื่อองค์กรนี้ที่ว่า มีหน้าตา และได้ Privilege ต่างๆ แล้วควรใช้ประโยชน์จากมันเพื่อช่วยเหลือตอบแทนสังคมที่ให้ Privilege บ้าง
@@RashanSun เป็นอีกความเป็นไปได้ที่น่าสนใจครับ
น้องแมวน่ารักกก
สำหรับผม เฉย ๆ นะ เพราะมองมันแค่ กิจกรรม ๆ นึงเท่านั้น ส่วนเรื่อง beauty privilege นั้น บางครั้ง เรารู้สึกว่า มันเป็นธรรมชาติ ของมนุษย์อยู่แล้ว ซึ่งแตกต่างกันไปตามถิ่นที่อยู่มากกว่า เราไม่สามารถนิยามมันได้ ว่าแบบไหน สวย หรือไม่สวย หรือ ดี หรือ ไม่ดีสมัยนึงบางที่ ชอบคนอ้วน สมัยนึง ชอบคนฟันดำ ส่วนการ beauty privilege ผมว่า มันเกิดจาก รสนิยม ส่วนบุคคล ของตัวเราเองมากกว่า เราชอบคนแบบนี้ เราจึงให้ privilege เค้าเองสังคม มักเชิดชู สิ่งเหล้านี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเด่น เรื่องไหน เก่ง ฉลาด สวย แข็งแรง ฯลฯ ธรรมชาติ มันสร้างมาให้ยกย่อง สิ่งเหล้านี้อยู่แล้ว ทั้งสัตว์ ทั้งคนครับ
ทำไมพอได้ยินว่า Beauty privilege แล้วนึกถึงเบอร์ตองในตู้กระจก.....🤔
เราคิดว่าคฑากรมีไว้นำเดินขบวนพาเหรด แปลแถวในขวบวนเท่านั้น ส่วนเชียร์หลีดเดอร์ ก็ไว้นำเชียร์และให้ความบันเทิงเพิ่มเติม อย่าไปยัดเยียดหรือหน้าที่แปลกๆ ไปให้เค้าทำเลย
โคตรโดนใจ ไม่ชอบพวกนี้ ตั้งแต่สมัยเป็นนิสิต จุฬา ไม่ชอบที่เราตั้งใจทำฉาก อดหลับอดนอน แต่กลับไม่มีคนเห็นค่าในงานเลย
เหมือนคาดหวังอะไร จากคนควงคฑา กับ คนเต้นเชียร์อะ เขาเป็นเเค่คนควงคฑากับคนแค่เต้นเชียร์นะ แค่นักสันทนาการเอง
+1 คลั่งการเมืองเกินเหตุ
+1👏🏻
เราก็ชอบคนที่รูปร่างหน้าตาก่อนนะ แล้วถึงดูนิสัย ถ้ามีคนนิสัยดีเท่ากัน ก็เลือกคนที่รูปร่างหน้าตาตรงใจ btw คนสวย คนหล่อ มีจุดน่าสงสารนะ คนบางคนชอบ anti นะ
ดีและขอบใจ
สงสารคนหน้าตาดีเนอะ เลือกเกิดไม่ได้ อยู่ๆดันมาโดนเป็นประเด็น
จริงค่ะ สวย หล่อ ก็ผิด ,,ไม่มีใครถูกใจใครไปซะหมดเห้อออ
ดูมาหลายคลิปชอบควาเนียนในการขายของ 😁
อะไรคือคนไม่สวย ทุกคนดูสวยไปคนละแบบหรือป่าว คนที่ถูกมองว่าไม่สวยแต่มีความสามารถเยอะแยะ ส่วนมากจะถูกมองข้าม ต่างชาติคนผิวสิตอบคำถามดีมงลงมีเยอะ
ไม่ค่อยมีสมาธิเลยน้องน่ารักมาก เดินมาอ้อนตลอด
บอกได้เลยว่า ระบอบเก่าๆๆๆเริ่มโดนวิพากษ์วิจารณ์ แล้วพังลงเรื่อยๆๆๆ
น้องแมวลายสวยมากกกกก
ฉันก็ยังอยากดูชมคนหล่อสวยค่ะ…ยอมรับได้ อิอิ
อุตส่าสอบเข้า ม. อันดับ 1 ของไทยได้ ถถถถ
อยากจะสื่อว่าคนที่ได้อภิสิทในด้านต่างๆมันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเอาอภิสิทธินั้นไปใช้เพื่อประโยชน์ตัวเองหรือเพื่อประโยชน์ส่วนรวม จริงๆแกนหลักของเรื่องนี้มันมีแค่นั้น ในทุกอภิสิทธิที่กล่าวมาไม่ว่าจะหน้าตา ฐานะ ชื่อเสียง อะไรก็ตาม คุณได้มันมาคุณเอามันมาใช้อย่างไร คุณควรยอมรับในอภิสิทธิที่ตัวเองได้มา ว่ามันมีอยู่จริงๆและคุณก็ใช้มันอยู่ แต่พอคุณเอาสิ่งที่มีไปใช้เพื่อประโยชน์ตัวเอง คุณก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับในสิ่งที่สังคมถาม แต่ในทางกลับกันถ้าคุณนำไปใช้เพื่อส่วนรวมจริงๆ คุณคงจะยอมรับอย่างภาคภูมิในอภิสิทธินั้น บางคนใช้อภิสิทธิเพื่อป่าวประกาศว่าอยู่เคียงข้างส่วนรวม แต่พอดูจริงๆก็เป็นแค่การประกาศเพื่อเอาตัวรอดจากสังคมเอง ไม่ได้ช่วยเหลือหรือเข้าใจปัญหาสังคมส่วนรวมอย่างแท้จริง
ไม่เคยเห็นน้อนลายเสือมาก่อนเลย🐈❤️
ศิลปินเกาหลีละครับ 5555
เราอ่ะก็จัดอยู่ในหมวด บิวตี้พริวิเลทตั้งแต่เด็กๆละ เรารู้สึกว่าไม่ชอบเพราะเราเป็นพวกอินโทรเวิร์ด เราจำได้ตั้งแต่อนุบาล ต้องประกวด ถือป้าย ถือพาน เต้น ลีดเดอร์ ต้อนรับ รำ ฟ้อนสาระพัด แล้วก็ส่งผลให้แม่เราต้องสนับสนุน อิแม่ก็บ้าจี้ตามครู ยัดเยียดให้เราทำกิจกรรมรร.แต่เราก็เป็นเด็กไง ก็งอแง รำคาญไม่อยากฝึกไม่อยากซ้อม ยิ่งตอนวันงานต้องตื่นตี2ไปแต่งหน้าทำผม กว่าจะเข้างานจบพิธีเกือบ10โมงเช้า เราเหนื่อยมากเลย แม่ก็เหนื่อย เกรงใจแม่ แม่ต้องควักตังต้องสละเวลาเพื่อซับพอตเรา งานรร. เพื่อความมีหน้ามีคา พอโตขึ้นมัธยมเริ่มไม่อยากทำละ อารมณ์แบบเรียนกูก็เหนื่อยละจะมาเอาอะไรกับกูอีก แต่ แต่ค่ะ วงการนี้เข้าแล้วออกยาก พอบทจะไม่ทำ รร.กะครูก็หาว่าไม่ให้ความร่วมมือ พอทำกิจกรรมเยอะๆ คุณครูที่หัวโบราณหน่อยก็จะมองเราไม่ดี เคยโดนต่อว่าว่าดัดจริต แรด ชอบออกหน้าออกตา อย่างเทอระวังจะเรียนไม่จบ ท้องก่อนแต่ง เพราะชอบดัดจริต บลาๆครูนางนั้นแดกดันสารพัด ขนาดยืนถือป้ายรร .ในงานก็ยังเดินมาแขวะว่า "สวยจังเนอะ"แบะปากใส่เราอีก (เราผิดอาร๊าย) แล้วเรามีเพื่อนสนิทคนหนึ่งนางไม่สวยตามมาตราฐาน นางก็จะมาช่วยเราตลอด รู้แหละว่านางอยากเป็นแบบเราบ้าง คอยมาเวียนๆวนๆอยากมีส่วนร่วม แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราทำไม่ได้คือการร้องเพลง แล้วบังเอิญเพื่อนเรานางร้องเพลงเพราะ เต้นเข้าจังหวะดีย์มว๊าก จนวันหนึ่งโอกาสมาถึง มีการประกวดร้องเพลงระหว่างรร. คุณครูฝึกฝนเป็นกะเลย เป็นดูแล ครูเลือกนางคร้าาา ยินดีกะนางมาก นางได้เป็นนักร้องของรร.ประกวดร้องเพลง+แดนซ์เซอร์ อยู่มาตั้งนานกว่าจะได้ออกงาน แล้วนางทำได้ดีมาก ร้องดีเต้นเก่งเข้มแข็งขยันเป็นแม่ทัพมาวงชนะ ประกวดชนะที่1 เราดีใจกะนางมาก แต่กระนั้นก็มีคนค่อนขอดเรื่องนางไม่สวยตามมาตราฐาน ว่าไปจนแดนซ์เซอร์สวยกว่านักร้อง ว่านางมั่นเกินเบอร์งี้ แต่ยังไงก็ผ่านมาได้ถึงทุกวันนี้ ถ้าตอนนั้นมีคำว่าบิวตี้พิวิเลเราว่ายังมีหลายคนที่รอแสดงตัวตนออกมาโดยที่ไม่กลัวคำครหา
เคยโดนเหมือนกันเลยค่ะ ตอนเด็กเราเป็นนางรำ ซึ่งครูก็เป็นคนเลือกเราไปรำเองเราไม่เคยเสนอตัว แต่โดนครูภาษาไทยด่าว่าเราแรดที่ไปเต้นไปรำ ตอนนั้นเสียใจมากว่าเราผิดอะไร นั่งร้องไห้เลย
@@foxxyxx6434ของเราก็โดนครูภาษาไทยอ่ะที่ว่าเรา 🥴😅🥴😅
เพื่อนคนนั้นชีวิตสดใสมากอ่ะที่มีเธอเป็นเพื่อน👍
แค่การตอบคำถามก็บอกได้กลายๆแล้วว่า จุดที่ยืนอยู่ได้มาด้วยหน้าตาหรือหน้าตา+ความสามารถ
ตะหงิดๆมากตอนตอบว่าเสียใจที่ไม่ได้เข้าร่วมในฐานะคฑากรนี่แหละ มันจะอะไรขนาดนั้น ต้องการแอร์ไทม์คฑากรอะไรขนาดนั้น งง ตลกมาก
จะได้รู้ว่าใครเบอร์ตอง ใครธรรมดาไง นี้หละประโยชน์
คุณยูทูปเปอร์ครับ. ตุ๊กตาคาร์บิก้อน มันเน่าเก่าแล้วน่ะครับ. เอาตัวใหม่ไหมครับ? เดี๋ยวผมซื้อให้เอาตัวใหญ่เท่าคุณเลยครับ. พร้อมหัวใจและดอกไม้ด้วย💌💟😍🥰😘♥️
น้องแมวสวยจังเลยค่ะ
555...ชอบว่ะ👍👍👍
เป็นเวทีที่อยากให้มีซับไทย
แล้วทำไมเค้าต้องพูดด้วยอ่ะครับ ไม่ใช่หน้าที่ปะวะครับ ตังก็ไม่ได้เสี่ยงคุกเสี่ยงหน้าที่การงานอีก คนที่แม่งไม่มีอะไรเลยจะเรียกร้องอะไรก็ได้ปะ55
ถ้าคฑากรออกมาเรียกร้อง ก็คงโดนยุบ ตัดงบเเน่ เข้าจ้างมาเเล้วต้องทำงานให้คุ้มเงิน
อยากขายสวยก็มั่นๆไปเลยไม่ต้องแอ๊ป จะโดนเชียร์หรือจะโดนสาปก็ต้องยอมรับ แค่นั้นแหล่ะ
...........[๒๕๕] ท้าวสักกะจอมเทพ อันพระผู้มีพระภาคทรงให้โอกาสแล้ว ได้ทูลถามปัญหาข้อแรกกะพระผู้มีพระภาคอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ พวกเทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ มีอะไรเป็นเครื่องผูกพันใจไว้ อนึ่งชนเป็นอันมากเหล่าอื่นนั้น เป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีอาชญา ไม่มีศัตรู ไม่มีความพยาบาท ย่อมปรารถนาว่า ขอพวกเราจงเป็นผู้ไม่มีเวรอยู่เถิด ก็และพวกเขามีความปรารถนาอยู่ดังนี้ ก็ไฉน เขายังเป็นผู้มีเวร มีอาชญา มีศัตรู มีความพยาบาทยังจองเวรกันอยู่ ท้าวสักกะจอมเทพได้ทูลถามปัญหากะพระผู้มีพระภาคด้วยประการฉะนี้ ฯ พระผู้มีพระภาคอันท้าวสักกะจอมเทพทูลถามปัญหาแล้ว ทรงพยากรณ์ว่าดูกรจอมเทพ พวกเทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ มีความริษยาและความตระหนี่เป็นเครื่องผูกพันใจไว้ อนึ่ง ชนเป็นอันมากเหล่าอื่นนั้น เป็นผู้ไม่มีเวรไม่มีอาชญา ไม่มีศัตรู ไม่มีความพยาบาท ย่อมปรารถนาว่า ขอพวกเราจงเป็นผู้ไม่มีเวรอยู่เถิด ก็และพวกเขามีความปรารถนาอยู่ดังนี้ ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเป็นผู้มีเวร มีอาชญา มีศัตรู มีความพยาบาท ยังจองเวรกันอยู่ พระผู้มีพระภาคอันท้าวสักกะจอมเทพทูลถามปัญหาแล้ว ทรงพยากรณ์ด้วยประการฉะนี้ ฯ ท้าวสักกะจอมเทพทรงดีพระทัย ชื่นชมอนุโมทนาภาษิตของพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ข้าแต่พระสุคต ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ในข้อนี้ ข้าพระองค์ข้ามความสงสัยแล้ว ปราศจากถ้อยคำที่จะพูดว่าอย่างไรแล้ว เพราะได้ฟังการพยากรณ์ปัญหาของพระผู้มีพระภาค ฯ[๒๕๖] ท้าวสักกะจอมเทพทรงชื่นชมอนุโมทนาภาษิตของพระผู้มีพระภาคในปัญหาพยากรณ์ข้อแรกดังนี้แล้ว จึงได้ทูลถามปัญหากะพระผู้มีพระภาคยิ่งขึ้นไปว่า ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ก็ความริษยาและความตระหนี่ มีอะไรเป็นเหตุ มีอะไรเป็นสมุทัย มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด เมื่ออะไรมี ความริษยาและความตระหนี่จึงมี เมื่ออะไรไม่มี ความริษยาและความตระหนี่จึงไม่มี ฯ ภ. ดูกรจอมเทพ ความริษยาและความตระหนี่มีอารมณ์เป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รักเป็นเหตุ เป็นสมุทัย เป็นกำเนิด อันเป็นแดนเกิด เมื่ออารมณ์อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รักมีอยู่ ความริษยาและความตระหนี่จึงมี เมื่ออารมณ์อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รักไม่มี ความริษยาและความตระหนี่จึงไม่มี ฯ ส. ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ อารมณ์อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รัก มีอะไรเป็นเหตุ มีอะไรเป็นสมุทัย มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิดเมื่ออะไรมี อารมณ์อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รักจึงมี เมื่ออะไรไม่มีอารมณ์อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รักจึงไม่มี ฯ ดูกรจอมเทพ อารมณ์อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รัก มีความพอใจเป็นเหตุ เป็นสมุทัย เป็นกำเนิด เป็นแดนเกิด เมื่อความพอใจมี อารมณ์อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รักจึงมี เมื่อความพอใจไม่มี อารมณ์อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รักจึงไม่มี ฯ ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ความพอใจมีอะไรเป็นเหตุ มีอะไรเป็นสมุทัยมีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด เมื่ออะไรมี ความพอใจจึงมี เมื่ออะไรไม่มี ความพอใจจึงไม่มี ฯ ดูกรจอมเทพ ความพอใจมีความตรึกเป็นเหตุ เป็นสมุทัย เป็นกำเนิดเป็นแดนเกิด เมื่อความตรึกมี ความพอใจจึงมี เมื่อความตรึกไม่มี ความพอใจจึงไม่มี ฯ ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ความตรึกมีอะไรเป็นเหตุ มีอะไรเป็นสมุทัยมีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด เมื่ออะไรมี ความตรึกจึงมี เมื่ออะไรไม่มีความตรึกจึงไม่มี ฯ ดูกรจอมเทพ ความตรึกมีส่วนแห่งสัญญาอันประกอบด้วยปปัญจธรรมเป็นเหตุ เป็นสมุทัย เป็นกำเนิด เป็นแดนเกิด เมื่อส่วนแห่งสัญญาอันประกอบด้วยปปัญจธรรมมี ความตรึกจึงมี เมื่อส่วนแห่งสัญญาอันประกอบด้วยปปัญจธรรมไม่มี ความตรึกจึงไม่มี ฯ
มันก้ออออพูดยากในระดับ๑ เลยนะ#บิวตี้อะไรนี้นะ เพราะในชีวิตจริงมันก้อมีการเลือกปฏิบัติจนเห็นๆๆๆ กันอยู่แล้วและมันก้อกลายเป็นเรื่องปกติ ของการแบ่งชนชั้นวรรณะ ไปแล้วนะ
สวยให้มีประโยชน์ก็เริดค่ะ
ยกเลิก อภิสิทธิ์ชน การแบ่งชนชั่นทางสังคม
เกิดมาสวย หล่อ มันก็ได้เปรียบคนอื่นอยู่แล้ว ยอมรับแค่นี้มันจะตายเหรอไงวะ
จริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
❌ไม่ได้เปรียบทุกอย่างเลยสักนิด
Ophtus นี่ออก 15 กรกฎาคม ปะครับ
คนไม่สวยไม่มีสิทธิ์ได้เกิดเลยเหรอ
สงสารคนหน้าตาไม่ดีเนอะ นอกจากจะเลือกเกิดไม่ได้เเล้ว ยังต้องใช้ความสามารถมากว่าคนหน้าตาดีเพื่อให้ตัวเองมีที่ยืนทางสังคม
สงสารตัวเอง
ทำไมถึงคิดว่าเขาไม่ใช้ความสามารถล่ะเขาใช้ความสามารถเยอะกว่าคนทั่วไปไง ถึงได้เข้าไปเป็นคฑากรได้ เพราะคนสวยในจุฬามีเยอะกว่ามาก คนรวยก็เยอะมากๆ แต่เขาได้เป็น เพราะใช้ความพยายาม แบะความสามารถเยอะกว่าคนอื่นไง
@@tuls8427 แต่บอกว่าคนไม่สวยใช้ความสามารถมากกว่า รู้ได้ไงล่ะ ว่าคนสวยเขาใช้ความสามารถนัอยกว่าคนไม่สวย ในกรณีการเป็นจุฬาคฑากร
@@analoggen4124 งั้นเราใส่ not all เเล้วกันเนอะ
@@analoggen4124 เรารู้ว่ามันอยู่หัวข้อของคลิปแต่เราก็แค่พิมรวมๆหลายอย่างที่เจอมาน่ะ
ขอสรุปดราม่า แขก คำผกา กับ spoke dark หน่อยค่า
ความเท่าเทียมคืออะไร ผมเห็นแต่เรียกร้องกันเยอะมาก แล้วการเท่าเทียมจะต้องทำยังไงใครเป็นคนกำหนดว่าแบบนี้คือความเท่าเทียม หรือเรากำหนดเอง หรือความพอใจคือความเท่าเทียม
คฑา อ่านว่า คะ-ทา ไม่ใช่ ค่ะ-ทา หรือเปล่าคะฟังแล้วขัดๆ
ที่ร่ายมาซะยืดยาวก็เพราะเหตุผลสั้นๆเหตุผลนึงน่ะแหละ "อิจฉา"
Beauty Privilege มันก็แลกมากับการโดนเขม่น โดนจ้องจับผิดเช่น ไปถ่ายรูปกับสายไฟ ก็ยังโดนด่าได้
ขนาดนางสาวไทยยังพูดสะท้อนปัญหาสังคมไม่ได้เลย จำตอนที่อาแมนด้าออกมาพูดได้หรือเปล่า แล้วนางต้องเจอกับอะไรบ้าง
ส่งยิ้ม
ระบบชนชั้นมีอยู่ทุกหย่อมหญ้า
❤
การทำกิจกรรมในมหาลัยทุกกลุ่มควรจะมีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมในมหาลัยเหมือนๆกัน ที่ไม่ได้ทำให้มหาลัยเสียหายเสียชื่อเสียงไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร จะมาจำกัดสิทธิ์นิสิตหน้าตาดีบุคลิกดีไม่ให้ทำกิจกรรมที่พวกเขาถนัดมีความรู้ความสามารถในด้านของเขา คนที่เข้ามาเรียนในรั้วจุฬาได้ทุกคนผ่านการคัดกรองระดับสติปัญญามาแล้วทั้งนั้นจะไปด้อยค่าหาว่าหน้าตาดีแต่ความรู้ความสามารถสติปัญญาไม่ดีไม่น่าใช่ ความรู้ความสามารถก็แตกต่างกันไปตามคณะที่เรียน (ประชาธิปไตย) คือฉันไม่ชอบพวกเธอเธอห้ามทำงั้นเหรอคะ นี่คือการต่อต้านความแตกต่างรูปลักษณ์ภายนอกกันอยู่หรือเปล่าคะ ตรรกะอะไรคะเนี่ย
ผมถามจริงค่านิยมเหยียดมหาลัยอื่นมาจากใครรับ
สมัยก่อน ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองก่อน2475 คนที่เรียนจุฬาคือชนชั้นเจ้านาย คนชั้นบนของสังคม คนทั่วไป ราษฎรไม่มีสิทธิ์เรียนครับ
@@กฤษฎาสุกกานันท์-ด1ธ ทุกวันนี้ยังมีอยู่ไหมครับ
@@พิรวุฒิอินทร์จันทร์ มีแน่นอนค่ะ ทั้งมหาลัยเล็กแขวะมหาลัยใหญ่ และก็แขวะกันไปมา โดยเฉพาะ ราชฎัชคนเหยียดเยอะกว่ามหาลัยอื่นค่ะ แบบด่อยค่าเขาอ่ะว่าเรียนราชฎัชไม่มีคุณภาพไม่มีความสามารถมากพอไรงี้ แบบเข้าง่ายๆ
เนม เคยเรียนจุฬาแล้วรู้ไหมเขาใช้เกณฑ์ อะไรในการเลือก
สนุกว่ะ
ดีแล้วล่ะ เปลี่ยนไปเหอะ ถ้าเขาจะร่วมงานก็ควรมาในฐานะรุ่นพี่ นักศึกษา ไม่ใช่คฑากร
เน้นสวย ครับ
แมวสวยมากครับ
คนนี้เข้ารอบไหมครับ
จริงๆ การประกวดนางงาม ก็ถือเป็น Beauty Privilege อยู่แล้ว จะปฏิเสธไม่ได้เลย แต่ก็ควรใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ได้รับ เป็นกระบอกเสียง และสะท้อนปัญหาต่างๆ ของสังคม เหมือนที่มีการพยายามให้นางงามได้พูด ได้สื่อสาร เป็นกระบอกเสียงให้สังคมนั่นแหละ เช่นเดียวกันกับ Beauty Privilege อื่นๆ ก็ควรทำ
ปล. ขอเสริมอีกนิด ผมมองว่า การกำจัด Beauty Privilege ให้หมดไปจากสังคมเป็นไปได้ยาก เพราะทุกสังคมบนโลก มี Beauty Standard กันทั้งนั้น และแทบจะทุกคนก็ยังนิยมความสวย-หล่อ ดูดี แต่นั่นแหละ หากเค้าแค่หน้าตาดี และใช้ชีวิตไปวันๆ คงไปบังคับให้เค้าทำเพื่อสังคมคงไม่ได้ แต่หากมีการประกวด แข่งขัน รึจัดตั้งองค์กรที่ให้ค่า Beauty Standard ก่อนแล้ว ควรให้อะไรคืนกลับกับสังคมบ้าง เช่นการเป็นกระบอกเสียง สื่อสารถึงปัญหาต่างๆ เพราะสังคมต้องจับจ้องที่คุณก่อน คนหน้าตาปกติอยู่แล้ว
ตรง ปล. เห็นด้วยเลยครับ
ใช่ค่ะ อย่างมารียาคือนางงามคนนึงที่เราชื่นชมมาก ก่อนได้รับตำแหน่งพูดอะไรไว้ก็ทำแบบนั้นจริงๆ เขาใช้ Beauty Privilege ที่ได้รับในการเรียกร้องให้กับสังคม ทั้งเด็ก สตรี และสิ่งแวดล้อม
ก็ต้องยอมรับให้ได้ก่อนครับ beauty privilege ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับความสามารถ, วุฒิภาวะ หรืออุดมการณ์ และหลายคนใช้จุดนี้เอาเปรียบคนอื่นๆอีกมากที่ไม่หล่อ-สวย แต่มีศักยภาพ+ความคิดอ่านมากกว่า
เราต้องยอมรับให้ได้ว่าค่านิยมรูปลักษณ์พวกนี้ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทรัพยากรมนุษย์ถูกใช้ผิดทาง ...ลองจินตนาการสังคมที่ค่านิยมรูปลักษณ์ไม่สำคัญอีกต่อไปสิครับ มนุษย์ 90%ที่ไม่หล่อไม่สวย จะมีโอกาสพัฒนาศักยภาพอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่ถูกตัดตอน/คัดออก เพราะต้องเลือกคนที่ดูดีไว้ก่อนอย่างที่เป็นอยู่...
ไม่ได้หวังผลเลิศอะไรมากมายครับ มันเป็นเรื่องอนาคต แต่ยังไงก็ขอต่อต้าน beauty privilege ถ้าคัดเลือกที่ความสามารถไม่ได้ ก็อยากให้เลิกไปเลยครับ.j
@@sripooh ต่อต้านสมองตัวเองสินะครับ
@@sripooh ผมเข้าใจแนวคิด ผมแค่แสดงความเห็นว่า ในทางปฏิบัติมันยากมาก ที่กำจัดให้ Beauty Privilege ให้หมดไป เพราะสังคมทุกสังคมบนโลก ยังมีค่านิยมชอบความงาม สิ่งที่ทำได้แค่ลดทอน Privilege ลง และพยายามปลูกฝังว่า Privilege ได้มา ต้องมี Responsibility ต่อสังคมคืนกลับเท่านั้นเอง
เราไม่รู้ว่าอันนี้คือ Beauty Privilege มากแค่ไหนนะ เราเคยเรียนที่มอเอกชนที่หนึ่ง เราได้ทุน 100% โดยที่ต้งรักษาเกรดตลอด ป.ตรี ห้ามดีอบ ห้ามขาด ต้องทำกิจกรรมให้มหาลัย คือเค้าใช้เราคุ้มมากเลยนะ เสร็จปุ๊บมีน้อง BNK คนหนึ่งเข้ามาเรียนจริงน้องอยู่มาปัหนึ่งละแต่ดริบแล้วกลับมาเรียน เรียนได้ไม่กี่เดือน น้องได้รับรางวัลนักเรียนเรียนดี ได้โน้นนี้ 5555 นี่ก็แบบ เอ่อ สุดยอด เราผู้ซึ่งทำกิจกรรม เรียน เก็บ ชม ไม่ได้อะไรเลย แทบจะหายไปจากสารระบบ 5555 (เกี่ยวไหมไม่รู้แต่ เราแอบรู้สึก)
สังคมไม่ได้เกลียด Beauty Privilege ขนาดนั้นหรอก แค่คุณยอมรับว่าคุณได้สิทธิประโยชน์หรือความสนใจจากมั นสังคมก็ไม่ว่าอะไรแล้ว
เพราะที่สังคมตั้งคำถามคือคุณจะเอา Beauty Privilege มาทำอะไรให้กับสังคมมากกว่า เพราะการประกวดนางงามมันก็คือ Beauty Privilege อย่างหนึ่ง
สิ่งที่สังคมคาดหวังจากนางงามมันจึงไม่ใช่แค่ความสวยหรือการชื่นชม แต่สังคมเองก็ต้องการให้คนที่ได้รับ Privilege ใช้ประโยชน์จากมันในการสร้างประโยชน์ให้กับสังคมมากกว่า และต้องเป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์แบบวงกว้างไม่ใช่ประโยชน์ตื้นเขินเป็นเด็กน้อย
1. จุฬาฯคฑากร, ผู้นำเชียร์, และผู้อัญเชิญพระเกี้ยว (3 องค์กร) ในปีการศึกษา 61-62 มีความเกี่ยวข้องกับ อบจ. โดยตรง เพราะอุปนายก อบจ. คนที่ 2 ต้องเสนอโครงการคัดเลือกของทั้ง 3 องค์กรให้สภานิสิตฯ อนุมัติ โดยทั้ง 3 องค์กรมีเกณฑ์คัดเลือกชัดเจนจริงตามที่ว่านะครับ จากที่ผมเคยเป็นสมาชิกสภาฯ ก็ต้องพิจารณาเกณฑ์เหล่านี้ และส่งเพื่อน ๆ สมาชิกสภาไปสังเกตการณ์การคัดเลือกด้วย
+ โครงการคัดเลือก 3 องค์กรใช้งบประมาณของสโมสรนิสิต
ดังนั้น ปัญหาก็น่าจะอยู่ที่กรรมการที่ให้คะแนนผู้สมัคร
2. งานเปิดโลกกิจกรรมเป็นงานของ อบจ. โดยตรง
3. อบจ. ย่อมาจาก “องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ” นะค้าบ 😅
เอาจริงเรื่องของสวยของงามๆในสังคมมนุษย์มันอยู่กับวัฒนธรรมมนุษย์มาเป็นพันๆปีแล้วป่ะ ของสวยของงามมักจะเป็นที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนเสมอ มันคือสัญชาติญาณของมนุษย์ ถ้าไม่สวยไม่งาม คนเค้าก็ไม่ดู เหมือนประกวดนางงาม real size beauty เหตุผลฟังดู make sense แต่ไปประกวดจริงไม่มีใครซื้อ เพราะชื่อก็บอกอยู่ว่า “นางงาม” ถึงจะฟังดูเจ็บ แต่มันคือความจริง ที่เมื่อคุณโตขึ้นในอายุเริ่มทำงาน หรือเข้าสู่สังคมวัยทำงาน คนที่มีรูปร่างหน้าตาดีกว่ามักจะได้รับสิทธิและโอกาสทางสังคมมากกว่าคนอื่นเสมอ((First impression is the most important มันเป็นจิตวิทยามนุษย์ จะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับโอกาสและบริบทนั้นๆ)) อันนี้คือขั้นเรื่องต้น แต่ถ้าจะให้วัดกันที่ความสามารถ เวลาก็จะเป็นตัวช่วยบ่งบอกว่าใครคือเพชรแท้ เพราะสุดท้ายแล้วความโรยราก็จะมาพรากความสวยความงามเหล่านั้นไป ก็จะเหลือแต่ความสามารถที่คุณมี ให้เป็นที่ประจักษ์และชื่นชมของผู้คน ในโลกแห่งความจริง คนสวย หล่อ มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองแค่ถึง อายุ30 เท่านั้นแหละ อีกครึ่งชีวิตที่เหลือ มันคือ ความสามารถคุณล้วนๆ จะอ้วนเตี้ยดำ แคระ ถ้าคุณเป็นคนเก่ง ทุกคนจะเข้าหาคุณแบบที่คุณจิตนาการไม่ถึงเลยแหละ
ส่วนตัวเราคิดว่าเราจะหยุด Beauty privilege ไม่ได้หรอก เพราะทุกวันนี้เรายังชื่นชมดารา นักร้องอยู่เลย มนุษย์มันชอบอะไรที่สวยงามอยู่แล้ว เปลี่ยนไม่ได้ แต่เราควรกดดันให้ดารานักร้องมาเป็นกระบอกเสียงให้สังคมมันดีขึ้น อย่าดาราสลิ่มควรเอาไปทิ้งไม่ต้องให้ค่า
ใช่แล้ว ก็เหมือนที่หยุดพวกมีmindset ตรรกะ ความคิดโดนล้างสมอง ไม่ว่าจะมีประเด็นห่าเหวอะไร ก็จะโยงงงไปการเมืองให้ได้ ไม่ได้ไรนะแค่รำคาญ ทุกข่าวต้องไปคอมเม้นท์เรียกร้องความสนใจ เพื่ออะไร?? เหงามากหรอ ไม่มีเพื่อนคุยหรือไม่มีใครคบ คืองง?
หยุดbeauty privilege ยากจริงค่ะ สิ่งที่เราทำได้คือช่วยกันรณรงค์และต้องเริ่มจากตัวเองจริงๆอ่ะ อย่างแรกเลยทุกวันนี้สังคมส่วนใหญ่ยังตัดสินคนจาก first impressionอยู่ ซึ่งคนที่หน้าตาดีก็จะได้เปรียบในเรื่องfirst impressionด้วย เราว่าถ้าคนเลิกตัดสินคนจากภายนอกได้ ก็จะช่วยลดการเกิดbeauty privilegeประมาณนึงเลย
เห็นด้วยมากๆ
ส่วนตัวคิดว่าเราก็ไม่ควรไปกดดันใครให้ออกมาเป็นกระบอกเสียงให้เรา แต่ควรให้เขาเป็นด้วยความสมัครใจมากกว่า
เราคิดว่าดาราก็แค่อาชีพๆนึง ไม่ได้ให้ค่าเกินอาชีพหรือชื่นชมเกินอาชีพอื่นๆ
สิ่งที่น้องคนนั้นพูดก็มีส่วนจริงนะ Beauty Priviledge มันมีอยู่แล้วในทุกๆสังคม ไม่ใช่แต่ในเมืองไทย เพียงแต่สิทธิ (อย่างเป็นทางการ) ของพวกนี้ จะไม่ได้มีมากกว่าคนปกติในสังคมอื่น สังคมไทยให้สิทธิพิเศษกับคนกลุ่มนี้จริงๆแหละ เพราะอะไรเหรอ อันนี้ถ้าให้ผมเดานะ คนที่ถือสิทธิพิเศษอาจจะอยากเอาใจคนกลุ่มนี้ก็ได้ เพื่อให้ตัวเขาเป็นที่รัก การที่ อบจ. ไม่ให้สิทธิพิเศษกับคนกลุ่มนี้ผมค่อนข้างเห็นด้วยนะ
ส่วนที่เนมบอกว่าทำไมคนกลุ่มนี้ไม่เอา Priviledge ของตัวเองออกมาเรียกร้องความถูกต้องต่างๆ อันนี้ผมมองว่าเป็น ตรรกะขัดแย้งนะครับ ลองคิดดูนะ พวกเขาเป็นที่รักที่เอ็นดูของกลุ่มคนที่มีอำนาจ ยิ่งทำให้เขาได้โอกาสที่คนทั่วไปเอื้อมไปไม่ถึง เขาจะออกมาต่อต้านคนพวกนี้ทำไมล่ะครับ เกิดเขามองว่าเราไม่น่ารัก ที่เราลงทุนจนมาถึงจุดนี้มิเท่ากับสูญเปล่าเหรอครับ ที่เขามาตรงนี้ก็เพื่อตัวเขาเองอยู่แล้วครับ
ถ้าเค้าคิดว่าองค์กรเค้าทำถูกจริงๆ และตอบคำถามได้ดีมันจะปังมาก เช่น เค้าจะได้ซีนโชว์ว่าได้มาเพราะความสามารถจริงๆ
ความironyคือ คำถามเรื่อง beauty privilege มาจากเวทีประกวดนางงาม
จริง555
สิ่งที่มันเลือกไม่ได้ตั่งแต่เกิดไม่ควรเอามาเป็น "สิทธิพิเศษ"
โดนใจ
นี่ไปเม้นแบบนี้แหละโดนถล่มเละ55555
เกิดมาหน้าตาดีก็ผิดด้วย อยู่ยากซะแล้วเรา
คนอื่นเองรึเปล่าที่ให้สิทธิกับเขา ?
@@khaschen น่าคิด คนสวยบอก ฉันผิดอะไร ในเมื่อมีคนให้โอกาส เป็นใครก็ต้องรับ
ยอมรับความจริงให้ได้ก่อนว่า beauty privilegeเป็นเรื่องปกติทั่วโลก ถึงแม้ฝั่งตะวันตกจะดูน้อยกว่าเอเชีย แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเผลอๆอาจจะหนักกว่าในบางเรื่อง เรื่องนี้มีความเป็นปัจเจกมันเป็นสิทธิของใครคนนั้น มากกว่าจะไปชี้นำใครให้ทำตามที่ตัวเองคิด สิทธิของใครของมัน ใครจะมอบอภิสิทธิใดๆให้คนสวยคนหล่อก็แล้วแต่เค้า คนหล่อคนสวยไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อสังคมคนละประเด็นนะ
เรื่องนี้ก็แค่แฟร์ๆนะ คนให้ beauty privelege กับคุณ แล้วคุณไม่เอาไปสร้างประโยชน์ให้สังคม ก็สิทธิของคุณ แต่ถ้าเขาจะแอนตี้คุณก็สิทธิของเขาเหมือนกัน
ทุกคนก็ชอบความสวยความงามอยู่แล้ว นักร้องดารา นักร้องเกาหลีคุณก็ชอบในความหล่อความสวยความสามารถ แต่ถ้าถามผมผมมองว่าคฑากรก็แค่คฑากร จะให้ไปทำอะไรขนาดนั้น แค่อำนาจในมหาลัยยังแทบไม่มีเลย บางคนก็ดราม่าไปเรื่อยเหมือนใส่ไฟไปเรื่อยไปยัดเยียดให้คนอื่นต้องพูดแบบที่ตัวเองอยากพูดมันก็ไม่ใช่ สิทธิของผู้อื่นมันก็ควรเคารพ บอกคนอื่นเก่งจริงๆสิทธิๆๆแต่ตัวเองยังละเมิดไปบังคับให้เขาต้องพูดทำนู้นนี่อยู่เลย
@@conqueror3607 น่าคิด ไปสั่งให้คนสวยทำนั่นทำนี่ แล้วคนไม่สวยก็ไม่ต้องทำอะไรเลยงี้หรอ แค่ไม่สวย ก็ได้เปรียบแล้วสิงั้น
@@analoggen4124ยิ่งสวยหล่อ ยิ่งโดดเด่น ยิ่งดัง ก็เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างที่สามารถจะชี้นำคนในสังคมได้มั้งครับ คนตัวเล็กๆในสังคมก็เลยคาดหวังให้คนเหล่านี้ทำอะไรบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม คงอาจจะเหมือนที่ลุงเบ็นพูดไว้มั้งครับว่า "พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง"
@@icecoldcool คนที่เป็นคนให้ค่าคนสวย ก็คือคนขี้เหล่นั่นแหละ
ถ้าคนขี้เหล่ ไม่ไปให้ค่า ให้โอกาส เขาก็ไม่ได้รับโอกาสหรอก กลายเป็นว่าคนขี้เหล่ ลอยตัว แถมโยนภาระให้คนสวยต้องรับผิดชอบ
@@analoggen4124ช่วยไม่ได้นี่ครับ ก็เพราะว่าคนในสังคมสถาปนาพลังนี้ให้กับคนหล่อสวยไปแล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนแหละครับ จะใช้พลังนี้ไปในแนวทางไหน ถ้าใช้ไม่เป็นไปตามที่สังคมคาดหวัง เรื่องแบบนี้ก็จะเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ กระแสพลังของคนขี้เหล่ที่คุณว่า ก็จะคอยขัดแข้งขา ของคนหล่อสวยอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ จำไว้นะครับ ที่ใดมีสังคม ที่นั้นมีความยุ่งเหยิงวุ่นวายครับ
ทั้งสององค์กรในรั้วมหาลัยอย่าง คฑากร / Cheerleader ควรจะมารูปแบบในชมรมไม่ใช่จัดตั้งเป้นองค์กร เพราะมหาลัยอื่นๆ เขาก็ทำเป้นชมรมทั้งนั้น แม้แต่ มธ. ก็ยังมีชมรมเชียร์ด้วย
เป็นเรื่องปกติที่จะมีการคัดเลือกคนจากคงามสวยงามอยู่แล้ว มนุษย์ทุกคนย่อมถูกดึงดูดด้วยความสวยความงาม
หลีกเลี่ยงไม่ได้ 100% หรอก beauty privilege น่ะ
ถามกลับว่า ถ้าบังเอิญเลือกคนที่มีความสามารถมาแล้วเค้าดันหน้าตาดีด้วย กรรมการผู้คัดเลือกต้องมานั่งปวดหัวอีกไหมว่าจะโดนกล่าวหาว่าเลือกคนจากหน้าตา
หน้าตาดีก็เป็นลักษณะของบุคคลแบบหนึ่ง เลือกเกิดไม่ได้
งงว่าทำไมถึงมีปัญหากับแค่จุฬาคฑากร ทั้งๆที่หลายๆอย่างในสังคมไทยก็มีการคัดเลือกจากหน้าตา ดารา นักร้อง นางงาม brand ambassador หรือแม้แต่คู่ครอง ถ้าทุกอย่างดีเท่ากัน หน้าตาดีกว่าก็มี%ชนะมากกว่า บางอย่างเอาหน้าตานำด้วยซ้ำ ยอมรับ diversity ให้ได้ แล้วชีวิตจะมีความสุขเอง
เป็นคนสวยมันเหนื่อยมาก มันยาก ขนาดฉันไม่สวยฉันยังเข้าใจเลย ว่าอคติต่างๆ มันโถมใส่ ว่าเนี่ยมีดีแค่สวย สวยแต่โง่ เพราะสวยล่ะสิถึงได้เป็น
ทั้งที่คนสวย เขาก็ต้องพยายามมากในการได้รับโอกาสต่างๆมา
ถ้าสวยแต่โง่ ไร้ศักยภาพ ใครจะยอมรับนับถือ ในองกรณ์การทำงาน สวยอย่างเดียวก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้นคนสวยที่เขาได้ออกมายืนโดดเด่น เพราะเขามีศักยภาพไง เลิกเอาความขี้เหล่ของตัวเองไปอคติใส่เขาได้ละ
ยิ่งโดดเด่น ยิ่งดัง ก็ยิ่งมีพลังอะไรบางอย่างที่สามารถจะชี้นำคนในสังคมได้มั้งครับ คนตัวเล็กๆในสังคมก็เลยคาดหวังให้คนเหล่านี้ทำอะไรบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม คงอาจจะเหมือนที่ลุงเบ็นพูดไว้มั้งครับว่า "พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง"
น้องลายผลอยน่ารักจริงๆ อยากเลี้ยงเเมวเเบบนี้จริงๆ ปลื้มมมมมากสีสวย ก็ถ้าให้พูดน่ะครับ นิสิตนักศึกษาก็คือเด็กที่ยังอยู่ในระบบการศึกษาครับ มันคือสังคมอย่างหนึ่ง การมีองค์กรนี้ก็เหมือนผลักดันให้นิสิตได้รับความยอมรับจากคนอื่นๆ หากได้รับการยอมรับมากๆก็เหมือนตัวเองดูมีบทบาทในสังคม ดูมีพาวเวอร์ หลงในตัวเอง พวกเขาเหล่านั้นอาจจะยังมีความคิดความอ่านไม่มากพอ พอพวกเขาออกไปยังไงเค้าก็เหมือนกับคนธรรมดาอยู่ดี การอยู่ในสังคมมหาลัยเหล่าองค์กรเเบบนี้มักมีอะไรที่ดูดาคกว่านี้เเทบทุกเเบบ ถ้าในองค์กรนั้นดูไม่มีส่วนร่วมกับคนอื่นๆในมหาลัย
ดังนั้นการมีองค์กรเเบนี้ก็อาจเป็นเรื่องดี หากพวกเขาวางตัวอยู่ในจุดที่เหมาะสม เเละมีหน้าที่ที่เป็นประโยชน์ให้กับส่วนรวมได้จริง
งั้นลองเลือกผู้ถือคฆาจากความสามารถเป็นหลักซิครับ ไม่ต้องสนเรื่องรูปร่างหน้าตา ถึงจะเป็นการยกเลิก Beauty privilege จริง
แต่ผมว่าแบบนั้นมันจะมีต่องานจริงๆหรอครับ ในเมื่อรูปร่างหน้าตาย่อมมีผลต่อการดึงดูดคนดูอยู่แล้ว เช่น นักร้อง ส่วนใหญ่ที่ดังมากๆ ไม่ใช่แค่ร้องเพลงดีแต่รูปร่างหน้าตาก็ดีด้วย คนที่ร้องเพลงดีเฉยๆหน้าตาไม่ดี อาจจะต้องเลือกทำงานด้านการสอนร้องเพลงหรืองานเบื้องหลังไปแทน
คือเราเข้าใจว่าการควงคฆาเป็นเรื่องที่ฝึกกันได้ ถ้าเราเลือกคนสวยไปฝึกมันก็จะดีกว่ารึป่าว
การที่มี Beauty privileged มันเป็นเรื่องที่สังคมมอบให้เองจริงๆอ่ะ ถ้าเราไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะคนสวยคนไม่สวยก็ปฏิบัติเท่าเทียม ก็คงไม่มีดราม่าอ่ะ
ขอโทษครับ คำว่า Beauty privilege
แปลว่าอะไรหรอครับ ไม่รู้จริงๆ เรียนมาน้อย
@@anirutlegchom539 หน้าตาดีมีอภิสิทธิ์มากกว่า ประมาณนั้นมั้ง
@@uzkrap อ่อๆครับ ขอบคุณมากครับ
ไม่มีทางหยุด beauty privilege ได้ครับ เพราะ ขนาดสัตว์, นก ยังดู ภายนอกของ ตัวอื่นเวลาหาคู่เลยครับ คนก็เหมือนกัน เราดูที่หน้าตาก่อน ถ้าหล่อสวย มีสิทธิ์เลือก ทั้งๆที ความหล่อ ความสวย คือ ความไม่แน่นอนของ 🧬 ซึ่งได้มาจาก พ่อ แม่ ของ พ่อ แม่ และ ก็ ของพ่อกับแม่ อีกที แต่นิสัย นั้นสร้างได้ เงินก็ เหมือนกัน ถ้าหน้าไม่หล่อแต่ รวย ก็มีผญติด สวยแต่ โง่ คนรวยก็เอา
เพราะ งั้น อย่างเดียวที่ทําได้คือ ทําใจ มนุษย์ชอบความสวยความงามอยู่แล้ว แล้วให้ค่ามัน
เพราะ งั้น ทําใจครับ this is how the world works
นึกถึงใจคฑากรบ้างเถอะ สงสารเค้า เค้าก็อุตส่าห์ฝึกมาโชว์นะ ถ้าเค้าไม่ได้ทำในสิ่งที่ซ้อมมามันก็เหมือนเสียเปล่านะ
จริงๆจุฬานี่ดูวุ่นวายมากๆนะครับ มีองค์กรนั่นๆนี่ แล้วก็ดราม่าภายในเยอะแยะ ปสด. เหมือนแบ่งชนชั้น แบ่งคลาสตามฐานะ ... นี่หรอที่ที่คนอยากไปเรียนกันมากสุด
จบออกมาก็เป็นอีลีทอยู่ในสังคมไทยเหมือนพวกที่มันไปด่าๆไว้นั่นแหละ
ถ้ายกตัวเองเป็นตัวแทน ก็ต้องทำหน้าที่เป็นตัวแทนจริง ๆ เพราะพวกคุณได้ประโยชน์จากสิ่งนี้ และโอกาสที่จะได้สิ่งนี้ต้องยอมรับก่อนว่ามันใช้ทั้งความสามารถและหน้าตา จะมาไม่ยอมรับว่ามันมีอยู่จริง แล้วไม่ทำอะไรเลย(ในฐานะตัวแทน)นอกจากโชว์สวยหล่อทำคลิปโปรโมตตัวเอง พูดประเด็นสังคมแบบแตะ ๆ วาง โปรโมตองค์กรไปวัน ๆ ก็ไม่แปลกที่ นิสิตคนอื่นจะมองว่ามันไม่มีประโยชน์ และเป็นองค์กรที่ใช้บิวตี้พริวิเลจเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ถ้าไม่ทำให้เขาเห็น ก็ห้ามความคิดคนไม่ได้หรอก ขนาดคนที่ทำเยอะยังโดนว่าเลย(ก็คนอคติอ่านะ) แล้วทำแบบขอไปทีจะเหลือเหรอ แต่ก็นะ ถ้าไม่ใช่ตัวแทนก็แค่องค์กรธรรมดาก็เรื่องของเขาแหละ และก็ถูกต้องแล้วที่ไม่ไปแสดงในกิจกรรมนิสิต เพราะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนิสิตจริง ๆ ตั้งแต่กระบวนการคัดเลือก ยันสิ่งที่ทำ สิ่งที่เหมือนกันก็แค่เรียนที่เดียวกัน
พูดถึงคำว่า “บิวตี้ พรีวิลเลจ” รู้สึกว่าโดนลำเอียง นึกถึงตอนเราเรียนมัธยมปลาย ที่ชอบทำกิจกรรม ดนตรีสากล ดนตรีไทย กีฬา ฯลฯ ไล่ทำทุกอย่าง แล้วตัวเองทำได้ดี แต่โดนเจอปฏิเสธไม่รับให้เป็น ลีดเดอร์กีฬาสี เพราะไม่สวย :( ไม่สวยของเขาคือ ต้องพิมพ์นิยม เฟลนะ แต่โตมา 27ปี ก็ชอบในแบบตัวเอง ชอบผิวเข้ม ผมดำ แต่มีหลายที ที่เจอตัดสินจาก “บิวตี้ สแตนดาร์ด” เราไม่อิจฉาคนสวย แต่เราเสียใจที่คนอื่นบางประเภท ชอบตัดสินจากตรงนั้น
ถูก อย่างน้องคนนี้ เขาใข้ความสามารถ เข้าไป ไม่ใช่แค่ความสวย เพราะเด็กจุฬา สวยๆเยอะมาก ลูกคนรวยเยอะมาก แต่น้องเขาใช้ความสามารถ ถึงได้เป็น
บิวตี้สแตนดาร์ดไทยปัจจุบัน อิงจากประเทศมหาอำนาจโซนเอเชียตะวันออกเป็นมาตรฐานทุกแนวทางทุกวงการ หล่อสวยก็ต้องสไตล์... จะไปว่าหล่อสวยสไตล์ไทยเราเอง ลาว ติมอร์ อินเดีย โอมาน อิหร่าน ฯลฯ มันไม่ป็อบปูล่าเฉยอ่ะ
เสียดายตรงที่ตอนให้คะแนนคีย์เวิร์ด ในการแข่งขันรอบคีย์เวิร์ดของปีนี้ เขาให้ตอนที่ผู้เข้าประกวดอยู่ในหลังฉาก โดยได้คีย์เวิร์ดตามที่ผู้เข้าแข่งขันสุ่มได้ แล้วต้องตอบคีย์เวิร์ดนั้นด้วยเวลา 30 วินาที ซึ่งในตอนนั้นถือว่าเรเน่ทำได้ค่อนข้างดี พอเปิดประตูแล้ว ก็ไม่ได้ให้คะแนนอีก ส่วนคำถามเรื่องคฑากรที่นำมาสู่เรื่อง beauty privilege ก็มาถามเรเน่หลังจากที่ประตูเปิดออกมาแล้ว ซึ่งถ้ามีการให้คะแนนหลังจากที่ประตูถูกเปิดแล้ว เรเน่มีสิทธิตุ๊บ
ส่วนตัวคิดว่าคฑากรคนนี้ตอบตรงคำถามนะคะ
สวยงามมันกำหนดไม่ได้ ประเด็นคือความสวยงามของคุณจะทำอะไรให้คนที่ไม่สวยงามแบบคุณได้ไหม
นี้ไม่เห็นด้วยกับการประกวดความงาม แต่จุฬาคฑากรมีหน้าที่อะไรคะ ต้องแต่งทัพไปบุกหงสาวดีไหม
แล้วคนที่คิดที่มา sotus กับการประกวดจุฬาคฑากรคือ อ วาสนา รึเปล่าคะ
มองจากอีกมุมนึง ก็เป็นเวรเป็นกรรมของพวกหน้าตาดีเหมือนกันนะ ที่ต้องถูกคาดหวัง ทั้งในเรื่องเป็นกระบอกเสียงเรื่องมหาลัย เรื่องสังคม เรื่องการเมือง หลายครั้งคนก็ตั้งความหวังไว้สูง กับดารา ผู้มีชื่อเสียงบางคนก็ถูกบูลลี่ว่าไม่ทำเพื่อสังคม ทั้ง ๆ ที่พวกหน้าตาดี ดารา เองอาจจะแค่คิดว่า หน้าที่หลักของเขาต่อสังคม ก็คือการสร้างความสุขให้คนดู นักศึกษาที่ถือคฑาก็อาจจะแค่คิดว่าหน้าที่เขามีแค่ถือคฑารึเปล่า
เลยคิดว่า น่าจะกำหนดคุณสมบัติชัด ๆ ของพวกหน้าตาดีที่จะมาถือคฑา รวมทั้งพวกดาราเป็นข้อ ๆ เลยว่า ต้องทำอะไรบ้าง (เช่น ต้องเรียกร้องเพื่อสังคม ต้องเรียกร้องทางการเมือง ต้อง ๆ ๆ ๆ ... อีกมากมาย) คนที่มาสมัครจะได้รู้ว่าต้องมีหน้าที่อะไรบ้าง รับได้ไหม
อันนี้เป็นมุมมองอีกมุมแค่นั้นเอง
>>หลายคนคงเห็นว่าไม่ใช่เรื่องซีเรียส หรือมองว่าเป็นสิ่งที่ลบล้างไม่ได้ก็อยู่กับมันไป
ลุคนี้น่ารักชิบหายเลยว่ะครับแอด
เห็นคนจับโยงการประกวดนางงาม
ผมไม่ได้สนใจทั้งสองเวทีนั่นแหละ แต่พูดตามตรงว่าปัจจุบันเวทีนางงามเป็นแหล่งขับเคลื่อน เป็นแหล่งพูดคุยและเปิดประเด็นทางสังคม(ประเด็นจะได้ไปต่อมั๊ยเป็นอีกเรื่องนะ)
แล้วเวทีจุฬาคฑากรหรือผู้อัญเชิญพระเกี้ยว มันขับเคลื่อนอะไรบ้าง???
คำตอบแบบ "อยากให้ดูที่ความตั้งใจ" ทำให้คนอ่านขยะแขยงได้เท่ากับเวลาที่ลุงตู่ออกมาพูดว่า รัฐบาลตั้งใจทำงาน ทุ่มเทเต็มที่ เหนื่อย... เลเวลเดียวกันครับ
ตั้งใจทำ ทุ่มเททำ แต่ไร้ประโยชน์ ก็เลิกครับ
ถ้าหน้าตาดีต้องโดนคาดหวังสูงขนาดนี้ ไม่สงสัยแล้วว่าทำไมคนหน้าตาดีหลายคนที่รู้จักถึงไม่ชอบสุงสิงกับใคร น่าสงสารจริงๆ บางคนขนาดไม่ยุ่งกับใครก็ยังเจอข้อหาหยิ่งไปอีก
อันนี้แอบเห็นด้วยค่ะ คนหน้าตาดีที่เขาถูกตัดสิทธิ์ความเป็นส่วนตัว บางกลุ่มคือยิ่งกว่ามนุษย์ล่องหน โซเชียลว่าหายาก เรียนจบคลาสแทบหาเงาไม่เจอ สุงสิงกับผู้คนน้อยมาก
สำหรับผมปรับเป็นเเค่งานจิตอาสา อยากเเต่ตัวสวย จ่ายเงินเอง อยากได้ความร่วมมือจากคนอื่นในคณะก็ไปเเนะนำมาเอง ไม่ใช่ตัวเเทนอะไรทั้งนั้น ถ้าเป็นตัวเเทนต้องมีการโหวตทั้งมหาลัย
เป็นคนหล่อคนสวยในยุคนี้มันละบากครับ พวกขึ้อิจฉามันเยอะ บางคนเลยเเทบไม่สุงสิงใครเลย โดนนินทาเปล่าๆ จขชก็biasไปหน่อยนะครับนี้ ปกติจะไม่เอนเอียง ให้คนคิดเอง คลิปนี้ชี้นำเกินไป การเป็นคนหล่อคนสวยเเล้วได้ privillage มันไม่จำเป็ฯต้องรับภาระหนักขนาดนั้น เป็น คฑากรนะครับ ไม่ใช่ผู้ว่า ถึงต้องมีหน้าที่ไปเรียกร้อง สิทธิให้นักศึกษารายอื่นๆ บางคนเเค่หล่อสวยเเล้วได้เป็นคือจะยัดหน้าที่ให้เค้าไปเป็นเเกนนำเลยก็ไม่ใช่ คฑากรมันก็เน้นหน้าตาอยู่เเล้ว เเนวคิดความสามารถมันเป็นอีกเรื่อง ไม่งั้นดาราคงไม่เป็นสลิ่มกันหรอก คนหล่อใช่ว่าจะมีเเนวคิดเหี้ย คนหน้าตาเหี้ยก็ใช่ว่าจะมีเเนวคิดดี ถ้าเรามองมนุษย์เท่ากันเเต่เเรกก็คือจบ ไม่ต้องไปยัดหน้าที่อะไรให้ใคร ไม่ต้องไปคาดหวังใครใครต้องมาขัยเคลื่อนสังคม
ตอนไปงานแรกพบแถวสนามบอล มีพี่คนดังคนนึงตะโกนมาว่า ขอทางให้เชียร์ลีดเดอร์หน่อยค่ะ แล้วผลักๆ เราออกจากทางเดินเพื่อให้กลุ่มพี่เขาเดินเข้าสนาม ตอนนั้นคืองงว่า แบบนี้ก็ได้เหรอ แต่เอาจริงๆ เราก็ชอบมองคนสวยๆ หล่อๆ แต่ไม่ควรมีอภิสิทธิ์เหนือคนหน้าตาไม่โดดเด้นขนาดนี้
มีแต่บอลประเพณีจุฬา ธรรมศาสตร์ ทำไมไม่มีบอลประเพณี ราชภัฏ-ราชมงคล เทคนิค-เทคโน บ้างล่ะ? ให้ค่ากันมากเกิน?????
น้องแมวลายสวยมากครับ ดูแมวไปฟังไปเพลินดีครับ
สุดมากแอ็ดกับประเด็นนี้ 👏👏👏
มหาลัยแห่งความเหลื่อมล้ำสินะครับ
เราอาจจะไม่ควรคาดหวังตั้งแต่แรกว่า คนควงคทา(ที่หน้าตาดี หุ่นดี เป็นเงื่อนไขในการคัดเลือก) จะเป็นคนที่เข้าใจปัญหาสังคม
ขอบคุณที่ทำสรุปให้นะคะ ชอบคุณเนมสรุปที่สุดเลย เข้าใจง่ายดี
ป.ล. (ความคิดเห็นส่วนตัว)ในที่สุดฉันเก็ตแล้วว่า คฑากรคืออะไร เห็นเพื่อนๆ ชอบเหลือเกิน TwT
ก็เข้าใจนะ ว่ามันเป็นปกติของโลก ซึ่งก็ปกติของโลกเหมือนกันอ่ะค่ะ ที่มนุษย์จะพัฒนาความคิด ตั้งคำถาม และมันก็แฟร์นิคุณอยากเห็นด้วยกับพริวิเลจอะไรพวกนี้ก็เรื่องของคุณ คนที่เขาได้รับความเจ็บปวดจากการแบ่งแยกเขาก็ไม่เห็นด้วย ซึ่งในอนาคตก็อาจจะมีมากขึ้น ก็ปกติเหมือนกันอ่ะค่ะ ที่จะได้รับแรงกระแทกจากสังคมแบบนี้ เห็นชอบบอกว่าปกติๆกันดีนัก หลายคนบอกคนเราชอบของสวยๆงามๆอยู่แล้ว สวยคุณกับสวยคนอื่นมันก็ไม่เหมือนกันอ่ะ อย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้งว่าทุกคนโอเคที่จะให้คนสวยๆตามความคิดคุณเข้าถึงอะไรได้มากกว่าสิคะ กระบอกเสียงไม่ต้องหล่อสวยก็เป็นได้อ่ะค่ะ ไม่สนับสนุนคือไม่สนับสนุนค่ะ ไม่ได้ต้องการมาใช้ประโยชน์อะไรจากตรงนี้ ตปท คำว่าหล่อสวยเขาก็ไม่เหมือนเราค่ะ เขาเปิดกว้างกว่าเราเย้อออออออค่ะ อย่าหาเอาไปเปรียบเทียบเลยค่ะ
ขอรบกวนคุณเนมในฐานะที่มีophtusเป็นสปอน อยากให้เตือนทางเพจophtusเรื่องการโพสเกี่ยวกับคนที่คอสเป็นฮินาตะแล้วหน้าตาอาจจะไม่ได้ตรงตามตัวละครและไม่ตรงตามบิวตี้สแตนดาร์ด ทางเพจได้ตั้งหัวจั่วให้คนมาบูลลี่ ในคอมเม้นก็เต็มไปด้วยสิ่งแย่ๆ คุณเนมเคยอยู่ในวงการคอสเพลย์น่าจะพอเข้าใจว่า การที่คนๆหนึ่งจะกล้าออกมาคอส มันไม่ได้ง่ายเลย ยิ่งตัวเองลักษณะไม่ตรงกับตัวละครนั้นๆ แต่ใจมันรัก ถึงแม้คุณเนมอาจจะทำอะไรไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยคุณเนมก็เสียงดังกว่าเราที่เป็นแค่คนธรรมดา 🙏🏼
จริงๆ แล้วมันมีคนบ่นเรื่อง beauty privilege ตั้งแต่งานบอลปีล่าสุดแล้วที่ pr แต่คนหล่อสวย pr แต่เชียร์ลีดเดอร์ คฑากร คนเดินขบวน แต่ไม่มีโปรโมทนักบอลสักนิดเลย แล้วมันมาบ้งตรงไอ้คลิปของคฑากรนั่นแหล่ะ คนเลยตามสาปแช่งมาจนถึงปัจจุบัน
ผมชอบทัศนคติพี่มากๆเลยคับ ไอดอล 💙
คนใน ตต ก็มีคนนึงออกมาตอบเรื่องนี้ เป็นผช. บ้งไปรอบ
รอบนี้บ้งขั้นหนักกว่าคือมาในนามผู้เข้าประกวดอีก
เป็นตัวแทนนิสิตด้านไหนต้องระบุ คงไม่ใช่ทุกด้าน
และการที่เชียร์เละคฑากรเป็นได้แอร์ทามมากกว่าก็ไม่ผิดนะเราว่า มีผู้นำก็ต้องมีผู้ตาม มีเบื้องหน้าก็ย่อมมีเบื้องหลัง อันนี้ความคิดส่วนตัวนะ ถ้าไม่อยากแบ่งชนชั้นก็ต้องคัดเลือกด้วยเกณฑ์ที่เป็นกลางจริงๆ
คอมมิวนิสต์ยังมีชนชั้นปกครองเลยครับ ล่ะอะไรคือการเท่ากันแบบที่น้อนๆต้องการ
หลายๆเรื่องอาจจะไม่ต้องเท่าเทียมทุกอย่าง แค่ทำให้มันยุติธรรมก็พอแล้ว
จริงๆก็มีหลายหน่วยงาน หลายองค์กรนะที่ไม่ได้เป็นกระบอกเสียงและไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเหมือนกัน แต่พวกนั้นก็เหมือนจะไม่โดนแขวนเพียงเพราะหน้าตาไม่ดี หน้าตาปกติเหมือนคนทั่วไป เราจะแน่ใจได้ยังไงว่านี่ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติจากกลุ่มคนที่หมั่นใส้หรือไม่ชอบพวกคนหน้าตาดีเป็นการส่วนตัว ส่วนเรื่องคนหน้าตาดีมักได้รับอะไรบางอย่างมากกว่าคนหน้าตาไม่ดี มันเป็นสัจจธรรมของโลกอยู่แล้วหรือเปล่า ใครๆก็ชอบคนหล่อคนสวยด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งมันก็คนละเรื่องกับสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ความเป็นคน ที่แน่นอนแหละว่าต้องได้เท่าเทียมกันให้ได้
ประเด็นที่หลายๆ องค์กรไม่ได้ถูกพูดถึง ทั้งที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไร เพราะเค้าไม่มี Privilege รึป่าว การไม่มีแสงส่องไปถึง ไม่ได้อภิสิทธิ์จะเป็นหน้าเป็นตา ได้ถูกจับจ้องจากสังคม แต่เมื่อองค์กรนี้ที่ว่า มีหน้าตา และได้ Privilege ต่างๆ แล้วควรใช้ประโยชน์จากมันเพื่อช่วยเหลือตอบแทนสังคมที่ให้ Privilege บ้าง
@@RashanSun เป็นอีกความเป็นไปได้ที่น่าสนใจครับ
น้องแมวน่ารักกก
สำหรับผม เฉย ๆ นะ เพราะมองมันแค่ กิจกรรม ๆ นึงเท่านั้น ส่วนเรื่อง beauty privilege นั้น บางครั้ง เรารู้สึกว่า มันเป็นธรรมชาติ ของมนุษย์อยู่แล้ว ซึ่งแตกต่างกันไป
ตามถิ่นที่อยู่มากกว่า เราไม่สามารถนิยามมันได้ ว่าแบบไหน สวย หรือไม่สวย หรือ ดี หรือ ไม่ดี
สมัยนึงบางที่ ชอบคนอ้วน สมัยนึง ชอบคนฟันดำ ส่วนการ beauty privilege ผมว่า มันเกิดจาก รสนิยม ส่วนบุคคล ของตัวเราเองมากกว่า เราชอบคนแบบนี้ เราจึงให้ privilege เค้าเอง
สังคม มักเชิดชู สิ่งเหล้านี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเด่น เรื่องไหน เก่ง ฉลาด สวย แข็งแรง ฯลฯ ธรรมชาติ มันสร้างมาให้ยกย่อง สิ่งเหล้านี้อยู่แล้ว ทั้งสัตว์ ทั้งคนครับ
ทำไมพอได้ยินว่า Beauty privilege แล้วนึกถึงเบอร์ตองในตู้กระจก.....🤔
เราคิดว่าคฑากรมีไว้นำเดินขบวนพาเหรด แปลแถวในขวบวนเท่านั้น ส่วนเชียร์หลีดเดอร์ ก็ไว้นำเชียร์และให้ความบันเทิงเพิ่มเติม อย่าไปยัดเยียดหรือหน้าที่แปลกๆ ไปให้เค้าทำเลย
โคตรโดนใจ ไม่ชอบพวกนี้ ตั้งแต่สมัยเป็นนิสิต จุฬา ไม่ชอบที่เราตั้งใจทำฉาก อดหลับอดนอน แต่กลับไม่มีคนเห็นค่าในงานเลย
เหมือนคาดหวังอะไร จากคนควงคฑา กับ คนเต้นเชียร์อะ เขาเป็นเเค่คนควงคฑากับคนแค่เต้นเชียร์นะ แค่นักสันทนาการเอง
+1 คลั่งการเมืองเกินเหตุ
+1👏🏻
เราก็ชอบคนที่รูปร่างหน้าตาก่อนนะ แล้วถึงดูนิสัย ถ้ามีคนนิสัยดีเท่ากัน ก็เลือกคนที่รูปร่างหน้าตาตรงใจ btw คนสวย คนหล่อ มีจุดน่าสงสารนะ คนบางคนชอบ anti นะ
ดีและขอบใจ
สงสารคนหน้าตาดีเนอะ เลือกเกิดไม่ได้ อยู่ๆดันมาโดนเป็นประเด็น
จริงค่ะ สวย หล่อ ก็ผิด ,,ไม่มีใครถูกใจใครไปซะหมดเห้อออ
ดูมาหลายคลิปชอบควาเนียนในการขายของ 😁
อะไรคือคนไม่สวย ทุกคนดูสวยไปคนละแบบหรือป่าว คนที่ถูกมองว่าไม่สวยแต่มีความสามารถเยอะแยะ ส่วนมากจะถูกมองข้าม ต่างชาติคนผิวสิตอบคำถามดีมงลงมีเยอะ
ไม่ค่อยมีสมาธิเลยน้องน่ารักมาก เดินมาอ้อนตลอด
บอกได้เลยว่า ระบอบเก่าๆๆๆเริ่มโดนวิพากษ์วิจารณ์ แล้วพังลงเรื่อยๆๆๆ
น้องแมวลายสวยมากกกกก
ฉันก็ยังอยากดูชมคนหล่อสวยค่ะ…ยอมรับได้ อิอิ
อุตส่าสอบเข้า ม. อันดับ 1 ของไทยได้ ถถถถ
อยากจะสื่อว่าคนที่ได้อภิสิทในด้านต่างๆมันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเอาอภิสิทธินั้นไปใช้เพื่อประโยชน์ตัวเองหรือเพื่อประโยชน์ส่วนรวม จริงๆแกนหลักของเรื่องนี้มันมีแค่นั้น ในทุกอภิสิทธิที่กล่าวมาไม่ว่าจะหน้าตา ฐานะ ชื่อเสียง อะไรก็ตาม คุณได้มันมาคุณเอามันมาใช้อย่างไร คุณควรยอมรับในอภิสิทธิที่ตัวเองได้มา ว่ามันมีอยู่จริงๆและคุณก็ใช้มันอยู่ แต่พอคุณเอาสิ่งที่มีไปใช้เพื่อประโยชน์ตัวเอง คุณก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับในสิ่งที่สังคมถาม แต่ในทางกลับกันถ้าคุณนำไปใช้เพื่อส่วนรวมจริงๆ คุณคงจะยอมรับอย่างภาคภูมิในอภิสิทธินั้น
บางคนใช้อภิสิทธิเพื่อป่าวประกาศว่าอยู่เคียงข้างส่วนรวม แต่พอดูจริงๆก็เป็นแค่การประกาศเพื่อเอาตัวรอดจากสังคมเอง ไม่ได้ช่วยเหลือหรือเข้าใจปัญหาสังคมส่วนรวมอย่างแท้จริง
ไม่เคยเห็นน้อนลายเสือมาก่อนเลย🐈❤️
ศิลปินเกาหลีละครับ 5555
เราอ่ะก็จัดอยู่ในหมวด บิวตี้พริวิเลทตั้งแต่เด็กๆละ เรารู้สึกว่าไม่ชอบเพราะเราเป็นพวกอินโทรเวิร์ด เราจำได้ตั้งแต่อนุบาล ต้องประกวด ถือป้าย ถือพาน เต้น ลีดเดอร์ ต้อนรับ รำ ฟ้อนสาระพัด แล้วก็ส่งผลให้แม่เราต้องสนับสนุน อิแม่ก็บ้าจี้ตามครู ยัดเยียดให้เราทำกิจกรรมรร.แต่เราก็เป็นเด็กไง ก็งอแง รำคาญไม่อยากฝึกไม่อยากซ้อม ยิ่งตอนวันงานต้องตื่นตี2ไปแต่งหน้าทำผม กว่าจะเข้างานจบพิธีเกือบ10โมงเช้า เราเหนื่อยมากเลย แม่ก็เหนื่อย เกรงใจแม่ แม่ต้องควักตังต้องสละเวลาเพื่อซับพอตเรา งานรร. เพื่อความมีหน้ามีคา พอโตขึ้นมัธยมเริ่มไม่อยากทำละ อารมณ์แบบเรียนกูก็เหนื่อยละจะมาเอาอะไรกับกูอีก แต่ แต่ค่ะ วงการนี้เข้าแล้วออกยาก พอบทจะไม่ทำ รร.กะครูก็หาว่าไม่ให้ความร่วมมือ พอทำกิจกรรมเยอะๆ คุณครูที่หัวโบราณหน่อยก็จะมองเราไม่ดี เคยโดนต่อว่าว่าดัดจริต แรด ชอบออกหน้าออกตา อย่างเทอระวังจะเรียนไม่จบ ท้องก่อนแต่ง เพราะชอบดัดจริต บลาๆครูนางนั้นแดกดันสารพัด ขนาดยืนถือป้ายรร .ในงานก็ยังเดินมาแขวะว่า "สวยจังเนอะ"แบะปากใส่เราอีก (เราผิดอาร๊าย)
แล้วเรามีเพื่อนสนิทคนหนึ่งนางไม่สวยตามมาตราฐาน นางก็จะมาช่วยเราตลอด รู้แหละว่านางอยากเป็นแบบเราบ้าง คอยมาเวียนๆวนๆอยากมีส่วนร่วม แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราทำไม่ได้คือการร้องเพลง แล้วบังเอิญเพื่อนเรานางร้องเพลงเพราะ เต้นเข้าจังหวะดีย์มว๊าก จนวันหนึ่งโอกาสมาถึง มีการประกวดร้องเพลงระหว่างรร. คุณครูฝึกฝนเป็นกะเลย เป็นดูแล ครูเลือกนางคร้าาา ยินดีกะนางมาก นางได้เป็นนักร้องของรร.ประกวดร้องเพลง+แดนซ์เซอร์ อยู่มาตั้งนานกว่าจะได้ออกงาน แล้วนางทำได้ดีมาก ร้องดีเต้นเก่งเข้มแข็งขยันเป็นแม่ทัพมาวงชนะ ประกวดชนะที่1 เราดีใจกะนางมาก แต่กระนั้นก็มีคนค่อนขอดเรื่องนางไม่สวยตามมาตราฐาน ว่าไปจนแดนซ์เซอร์สวยกว่านักร้อง ว่านางมั่นเกินเบอร์งี้ แต่ยังไงก็ผ่านมาได้ถึงทุกวันนี้ ถ้าตอนนั้นมีคำว่าบิวตี้พิวิเลเราว่ายังมีหลายคนที่รอแสดงตัวตนออกมาโดยที่ไม่กลัวคำครหา
เคยโดนเหมือนกันเลยค่ะ ตอนเด็กเราเป็นนางรำ ซึ่งครูก็เป็นคนเลือกเราไปรำเองเราไม่เคยเสนอตัว แต่โดนครูภาษาไทยด่าว่าเราแรดที่ไปเต้นไปรำ ตอนนั้นเสียใจมากว่าเราผิดอะไร นั่งร้องไห้เลย
@@foxxyxx6434ของเราก็โดนครูภาษาไทยอ่ะที่ว่าเรา 🥴😅🥴😅
เพื่อนคนนั้นชีวิตสดใสมากอ่ะที่มีเธอเป็นเพื่อน👍
แค่การตอบคำถามก็บอกได้กลายๆแล้วว่า จุดที่ยืนอยู่ได้มาด้วยหน้าตาหรือหน้าตา+ความสามารถ
ตะหงิดๆมากตอนตอบว่าเสียใจที่ไม่ได้เข้าร่วมในฐานะคฑากรนี่แหละ มันจะอะไรขนาดนั้น ต้องการแอร์ไทม์คฑากรอะไรขนาดนั้น งง ตลกมาก
จะได้รู้ว่าใครเบอร์ตอง ใครธรรมดาไง นี้หละประโยชน์
คุณยูทูปเปอร์ครับ. ตุ๊กตาคาร์บิก้อน มันเน่าเก่าแล้วน่ะครับ. เอาตัวใหม่ไหมครับ? เดี๋ยวผมซื้อให้เอาตัวใหญ่เท่าคุณเลยครับ. พร้อมหัวใจและดอกไม้ด้วย💌💟😍🥰😘♥️
น้องแมวสวยจังเลยค่ะ
555...ชอบว่ะ👍👍👍
เป็นเวทีที่อยากให้มีซับไทย
แล้วทำไมเค้าต้องพูดด้วยอ่ะครับ ไม่ใช่หน้าที่ปะวะครับ ตังก็ไม่ได้เสี่ยงคุกเสี่ยงหน้าที่การงานอีก คนที่แม่งไม่มีอะไรเลยจะเรียกร้องอะไรก็ได้ปะ55
ถ้าคฑากรออกมาเรียกร้อง ก็คงโดนยุบ ตัดงบเเน่
เข้าจ้างมาเเล้วต้องทำงานให้คุ้มเงิน
อยากขายสวยก็มั่นๆไปเลยไม่ต้องแอ๊ป จะโดนเชียร์หรือจะโดนสาปก็ต้องยอมรับ แค่นั้นแหล่ะ
...........[๒๕๕] ท้าวสักกะจอมเทพ อันพระผู้มีพระภาคทรงให้โอกาสแล้ว ได้
ทูลถามปัญหาข้อแรกกะพระผู้มีพระภาคอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ พวก
เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ มีอะไรเป็นเครื่องผูกพันใจไว้ อนึ่ง
ชนเป็นอันมากเหล่าอื่นนั้น เป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีอาชญา ไม่มีศัตรู ไม่มีความ
พยาบาท ย่อมปรารถนาว่า ขอพวกเราจงเป็นผู้ไม่มีเวรอยู่เถิด ก็และพวกเขามี
ความปรารถนาอยู่ดังนี้ ก็ไฉน เขายังเป็นผู้มีเวร มีอาชญา มีศัตรู มีความพยาบาท
ยังจองเวรกันอยู่ ท้าวสักกะจอมเทพได้ทูลถามปัญหากะพระผู้มีพระภาคด้วยประการ
ฉะนี้ ฯ
พระผู้มีพระภาคอันท้าวสักกะจอมเทพทูลถามปัญหาแล้ว ทรงพยากรณ์ว่า
ดูกรจอมเทพ พวกเทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ มีความริษยาและ
ความตระหนี่เป็นเครื่องผูกพันใจไว้ อนึ่ง ชนเป็นอันมากเหล่าอื่นนั้น เป็นผู้ไม่มีเวร
ไม่มีอาชญา ไม่มีศัตรู ไม่มีความพยาบาท ย่อมปรารถนาว่า ขอพวกเราจงเป็น
ผู้ไม่มีเวรอยู่เถิด ก็และพวกเขามีความปรารถนาอยู่ดังนี้ ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเป็น
ผู้มีเวร มีอาชญา มีศัตรู มีความพยาบาท ยังจองเวรกันอยู่ พระผู้มีพระภาค
อันท้าวสักกะจอมเทพทูลถามปัญหาแล้ว ทรงพยากรณ์ด้วยประการฉะนี้ ฯ
ท้าวสักกะจอมเทพทรงดีพระทัย ชื่นชมอนุโมทนาภาษิตของพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ข้าแต่พระสุคต ข้อนี้เป็น
อย่างนั้น ในข้อนี้ ข้าพระองค์ข้ามความสงสัยแล้ว ปราศจากถ้อยคำที่จะพูดว่า
อย่างไรแล้ว เพราะได้ฟังการพยากรณ์ปัญหาของพระผู้มีพระภาค ฯ
[๒๕๖] ท้าวสักกะจอมเทพทรงชื่นชมอนุโมทนาภาษิตของพระผู้มีพระภาค
ในปัญหาพยากรณ์ข้อแรกดังนี้แล้ว จึงได้ทูลถามปัญหากะพระผู้มีพระภาคยิ่งขึ้นไป
ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ก็ความริษยาและความตระหนี่ มีอะไรเป็นเหตุ มี
อะไรเป็นสมุทัย มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด เมื่ออะไรมี ความริษยา
และความตระหนี่จึงมี เมื่ออะไรไม่มี ความริษยาและความตระหนี่จึงไม่มี ฯ
ภ. ดูกรจอมเทพ ความริษยาและความตระหนี่มีอารมณ์เป็นที่รักและ
อารมณ์อันไม่เป็นที่รักเป็นเหตุ เป็นสมุทัย เป็นกำเนิด อันเป็นแดนเกิด เมื่อ
อารมณ์อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รักมีอยู่ ความริษยาและความตระหนี่
จึงมี เมื่ออารมณ์อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รักไม่มี ความริษยาและความ
ตระหนี่จึงไม่มี ฯ
ส. ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ อารมณ์อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็น
ที่รัก มีอะไรเป็นเหตุ มีอะไรเป็นสมุทัย มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด
เมื่ออะไรมี อารมณ์อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รักจึงมี เมื่ออะไรไม่มี
อารมณ์อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รักจึงไม่มี ฯ
ดูกรจอมเทพ อารมณ์อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รัก มีความพอ
ใจเป็นเหตุ เป็นสมุทัย เป็นกำเนิด เป็นแดนเกิด เมื่อความพอใจมี อารมณ์
อันเป็นที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รักจึงมี เมื่อความพอใจไม่มี อารมณ์อันเป็น
ที่รักและอารมณ์อันไม่เป็นที่รักจึงไม่มี ฯ
ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ความพอใจมีอะไรเป็นเหตุ มีอะไรเป็นสมุทัย
มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด เมื่ออะไรมี ความพอใจจึงมี เมื่ออะไร
ไม่มี ความพอใจจึงไม่มี ฯ
ดูกรจอมเทพ ความพอใจมีความตรึกเป็นเหตุ เป็นสมุทัย เป็นกำเนิด
เป็นแดนเกิด เมื่อความตรึกมี ความพอใจจึงมี เมื่อความตรึกไม่มี ความพอใจ
จึงไม่มี ฯ
ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ความตรึกมีอะไรเป็นเหตุ มีอะไรเป็นสมุทัย
มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด เมื่ออะไรมี ความตรึกจึงมี เมื่ออะไรไม่มี
ความตรึกจึงไม่มี ฯ
ดูกรจอมเทพ ความตรึกมีส่วนแห่งสัญญาอันประกอบด้วยปปัญจธรรม
เป็นเหตุ เป็นสมุทัย เป็นกำเนิด เป็นแดนเกิด เมื่อส่วนแห่งสัญญาอันประกอบ
ด้วยปปัญจธรรมมี ความตรึกจึงมี เมื่อส่วนแห่งสัญญาอันประกอบด้วยปปัญจธรรมไม่มี ความตรึกจึงไม่มี ฯ
มันก้ออออพูดยากในระดับ๑ เลยนะ
#บิวตี้อะไรนี้นะ เพราะในชีวิตจริงมันก้อมีการเลือกปฏิบัติจนเห็นๆๆๆ กันอยู่แล้ว
และมันก้อกลายเป็นเรื่องปกติ ของการแบ่งชนชั้นวรรณะ ไปแล้วนะ
สวยให้มีประโยชน์ก็เริดค่ะ
ยกเลิก อภิสิทธิ์ชน การแบ่งชนชั่นทางสังคม
เกิดมาสวย หล่อ มันก็ได้เปรียบคนอื่นอยู่แล้ว ยอมรับแค่นี้มันจะตายเหรอไงวะ
จริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
❌ไม่ได้เปรียบทุกอย่างเลยสักนิด
Ophtus นี่ออก 15 กรกฎาคม ปะครับ
คนไม่สวยไม่มีสิทธิ์ได้เกิดเลยเหรอ
สงสารคนหน้าตาไม่ดีเนอะ นอกจากจะเลือกเกิดไม่ได้เเล้ว ยังต้องใช้ความสามารถมากว่าคนหน้าตาดีเพื่อให้ตัวเองมีที่ยืนทางสังคม
สงสารตัวเอง
ทำไมถึงคิดว่าเขาไม่ใช้ความสามารถล่ะ
เขาใช้ความสามารถเยอะกว่าคนทั่วไปไง ถึงได้เข้าไปเป็นคฑากรได้ เพราะคนสวยในจุฬามีเยอะกว่ามาก คนรวยก็เยอะมากๆ แต่เขาได้เป็น เพราะใช้ความพยายาม แบะความสามารถเยอะกว่าคนอื่นไง
@@tuls8427 แต่บอกว่าคนไม่สวยใช้ความสามารถมากกว่า รู้ได้ไงล่ะ ว่าคนสวยเขาใช้ความสามารถนัอยกว่าคนไม่สวย ในกรณีการเป็นจุฬาคฑากร
@@analoggen4124 งั้นเราใส่ not all เเล้วกันเนอะ
@@analoggen4124 เรารู้ว่ามันอยู่หัวข้อของคลิปแต่เราก็แค่พิมรวมๆหลายอย่างที่เจอมาน่ะ
ขอสรุปดราม่า แขก คำผกา กับ spoke dark หน่อยค่า
ความเท่าเทียมคืออะไร ผมเห็นแต่เรียกร้องกันเยอะมาก แล้วการเท่าเทียมจะต้องทำยังไงใครเป็นคนกำหนดว่าแบบนี้คือความเท่าเทียม หรือเรากำหนดเอง หรือความพอใจคือความเท่าเทียม
คฑา อ่านว่า คะ-ทา ไม่ใช่ ค่ะ-ทา หรือเปล่าคะ
ฟังแล้วขัดๆ
ที่ร่ายมาซะยืดยาวก็เพราะเหตุผลสั้นๆเหตุผลนึงน่ะแหละ "อิจฉา"
Beauty Privilege มันก็แลกมากับการโดนเขม่น โดนจ้องจับผิด
เช่น ไปถ่ายรูปกับสายไฟ ก็ยังโดนด่าได้
ขนาดนางสาวไทยยังพูดสะท้อนปัญหาสังคมไม่ได้เลย จำตอนที่อาแมนด้าออกมาพูดได้หรือเปล่า แล้วนางต้องเจอกับอะไรบ้าง
ส่งยิ้ม
ระบบชนชั้นมีอยู่ทุกหย่อมหญ้า
❤
การทำกิจกรรมในมหาลัยทุกกลุ่มควรจะมีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมในมหาลัยเหมือนๆกัน ที่ไม่ได้ทำให้มหาลัยเสียหายเสียชื่อเสียงไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร จะมาจำกัดสิทธิ์นิสิตหน้าตาดีบุคลิกดีไม่ให้ทำกิจกรรมที่พวกเขาถนัดมีความรู้ความสามารถในด้านของเขา คนที่เข้ามาเรียนในรั้วจุฬาได้ทุกคนผ่านการคัดกรองระดับสติปัญญามาแล้วทั้งนั้นจะไปด้อยค่าหาว่าหน้าตาดีแต่ความรู้ความสามารถสติปัญญาไม่ดีไม่น่าใช่ ความรู้ความสามารถก็แตกต่างกันไปตามคณะที่เรียน (ประชาธิปไตย) คือฉันไม่ชอบพวกเธอเธอห้ามทำงั้นเหรอคะ นี่คือการต่อต้านความแตกต่างรูปลักษณ์ภายนอกกันอยู่หรือเปล่าคะ ตรรกะอะไรคะเนี่ย
ผมถามจริงค่านิยมเหยียดมหาลัยอื่นมาจากใครรับ
สมัยก่อน ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองก่อน2475 คนที่เรียนจุฬาคือชนชั้นเจ้านาย คนชั้นบนของสังคม คนทั่วไป ราษฎรไม่มีสิทธิ์เรียนครับ
@@กฤษฎาสุกกานันท์-ด1ธ ทุกวันนี้ยังมีอยู่ไหมครับ
@@พิรวุฒิอินทร์จันทร์ มีแน่นอนค่ะ ทั้งมหาลัยเล็กแขวะมหาลัยใหญ่ และก็แขวะกันไปมา โดยเฉพาะ ราชฎัชคนเหยียดเยอะกว่ามหาลัยอื่นค่ะ แบบด่อยค่าเขาอ่ะว่าเรียนราชฎัชไม่มีคุณภาพไม่มีความสามารถมากพอไรงี้ แบบเข้าง่ายๆ
เนม เคยเรียนจุฬาแล้วรู้ไหมเขาใช้เกณฑ์ อะไรในการเลือก
สนุกว่ะ
ดีแล้วล่ะ เปลี่ยนไปเหอะ ถ้าเขาจะร่วมงานก็ควรมาในฐานะรุ่นพี่ นักศึกษา ไม่ใช่คฑากร
เน้นสวย ครับ
แมวสวยมากครับ
คนนี้เข้ารอบไหมครับ