Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
กบกับคางคกต่างกันมากคะ คากคกผิวตะปุ่มตะป่ำแห้งๆ กบผิวเรียบ
สุดยอดครับ
ชาวเสียมที่ว่า ผมยังไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มไหน อาจจะเป็นกลุ่มคนจากสุพรรณภูมิ หรือกลุ่มคนทางที่ราบลุ่มแม่น้ำมูลถึงแม่น้ำโขง
ขอบคุณค่ะ
ข้าวสายพันธุ์ที่ขึ้นไปตามน้ำเดี๋ยวนี้ไม่ปลูกกันแล้วครับ ตอนเป็นเด็กที่บ้านเคยปลูก แถวบ้านเรียกข้าวอีลอย ครับ
ขอบคุณมากเลยค่ะ
บันทึกนี้มีประโยชน์มาก ทำให้รู้หลายๆเรื่องของเขมรในยุกต์นั้น และได้รู้ว่าชาวเสียม หรือสยามไปค้าขายที่เขมร และเป็นผู้เลี้ยงไหม ทอผ้าไหม ตัดเย็บเสื้อผ้า คิดว่าไทยเราปัจจุบันช่วงน้ำท่วม พื้นที่ลุ่มน่าจะนำข้าวลอยมาปลูกอีกนะคะ ไม่ควรปล่อยให้ข้าวตายเพราะน้ำท่วม และนักวิชาการเกษตรไทย น่าจะปรับพันธ์ข้าวลอย ให้เมล็ดเรียว สีขาว ซึ่งจะขายได้ราคาดีกว่าแบบเก่าที่เมล็ดสั้น สีแดง คนว่ามองว่าข้าวลอยเป็นข้าวที่นำไปให้คนคุก นักโทษกินเพราะราคาถูก (นาข้าวที่บ้าน อยู่ จ. ชัยภูมิ น้ำท่วมทุกปี เดิมใช้ปลูกข้าวลอย น้ำท่วมเท่าศีรษะ 2 เดือน ข้าวก็ไม่ตาย.พอน้ำแห้ง ข้าวแก่ก็เกี่ยวได้ค่ะ
ปทัดไฟคงจะเป็นบ้างไฟเหมือนเดือนหกจะมีการเล่นบ้างไฟทุกปีเหมีอนในปัจุบันชาวบ้านจะทำทุกปี
ข้อมูลดีเยี่ยมมากๆ
พิธีเจิ้นกวานน่าจะเป็นพราหมณ์ ในวัฒนธรรมพุทธไม่น่าจะมีเรื่องอย่างนี้
ขอบคุณมากครับ
งานกัดหมูนี่มีการแกะสลักไว้ตรงกำแพงหินด้วยคับ เคยดูที่นักท่องเที่ยวถ่ายไว้
การลงโทษที่กล่าวในคัมภีร์เขมร จะมีว่า ลงโทษเสี่ยงทายด้วยการให้กลืนข้าวเปลือก และให้เอามือล้วงไข่ไก่ที่กำลังต้มในหม้อน้ำร้อน คงได้ผลจริงครับตามที่แอดมินกล่าว ไม่งั้นเขาคงไม่ทำ
คลิปนี้ตรงความเป็นจริงในสมัยนั้น100%คนจีนกับคนเขมร ค่อนข้างสนิทกันมาเป็นพันปีจริงๆ และคนจีนในเขมรพอใจพูดภาษาเขมรเต็มปากเต็มคำ ตั้งแต่พ่อแม่ลูกหลานลาว ส่วย สยาม ใกล้กันแต่ไม่สนิทกันรสเปรี้ยวมีมากมาย เขมรเขากิน ลูกกระสัง มะขาม มะม่วง มดแดงครับ ใช้ ใส่ตำ แกง
ขอบคุณมากค่ะ
ถ้าบอกว่าไม่สนิท เพราะเขมรไม่ใช่ขอม จึงละอายใจตนเองมัง
เขมรบ้านผมไม่กินมดแดงคัพ
เราคิดว่าวัฒนธรรมคล้ายอีสาน และอินเดียอะ เช่นโรยข้าวตอกงานศพ บั้งไฟ ขุดหลุมถ่าย ใช้ควายไถนา เหมือนอินเดีย คือ ทามือทาเท้าสีแดง กินข้าวมือขวา ล้างตูดมือซ้าย รักษาโรคโดยชำระกายในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
กานฉลองโดยการจุดพลุเป็นของเขมรรึนี้ แม้จ
มีแต่คนสยามหรือที่เรียกว่าคนไทย(ในยุคปัจจุบัน)เท่านั้น ที่เขียนอ่าน และรู้ความหมาย อักษรขอมโบราณ
0:03 วัฒนธรรมแขมร กลืนไทยกะได สุโขทัยอยุธยาหลายร้อยปีพวกเขาใช้อักษรแขมรดัดแปลงใส่ภาษาตนเองเป็นคาราโอเกะ🎉...มาถึงปัจจุบัน ก็นึกว่าเป็นภาษาตนเองทั้งหมด เพราะนานมากแล้ว🎉
สมัย800ปีก่อนมนุษย์สามารถพูดคุยกับเทพ เทวา นาค วิญญาณ..คือ3ภพสามารถติดต่อกันได้ มนุษย์ก็มีศีลธรรมมากเหล่าฤาษีหรือนักบวชถึงมีฤทธิมากกว่าทุกวันนี..โลกเสื่อมลงทูกอย่างก็ถดถอย
ขอบคุณมากค่ะ...
ไม่จริง ทารุณกรรม ยากลำบาก ศีลธรรมค่ำใครแพ้เป็นทาส ส่วนใหญ่นับถือผี
@@RangsantBandhukul ใช่แล้วครับ ทุกวันนี้ดีกว่าเยอะเมื่อเทียบกับสมัยนั้น แม้จีนเองสมัยนั้นก็ฆ่าฟันกันเป็นระยะเวลายาวนาน แย่งชิงอำนาจกัน
คนสมัยนี้จิตใจเป็นโจรมากปลูกผักอยู่ขางบ้านแอบโขมยตัดจนเกลี้ยงของในบ้านมีข้าวของเสื้อผ้าไปไหนมาไหนย่าลืมลอ็กประตูบ้านแม้หมูหมากาไก่คนสมัยนี้ไม่ธรรมดาโจรมีมาก
ผมว่าไม่แปลกครับจัดงาน15วันและจัดงานทุกเดือน....เพราะไม่มีอินเทอร์เน็ต...เหงา
ไม่เห็นมีงาน สงกรานต์.. ที่เขมรเคลมว่าเป็นของตัวเอง555
ผมว่าชนชั้นปกครองคือคนไทยสยาม,เพราะรูปสลักข้างปราสาทที่เป็นเสียมกุกที่ไม่ค่อยเดินเป็นระเบียบหนักซึ่งถือตัวเองเป็นพระญาติพระเจ้าแผ่นดินเลยไม่เกรงกลัวพระอำนาจ,และอีกอย่างหลักฐานต้นกำเนิดอาณาจักรที่เคยฟังจากสุจิตต์วงเทศน์นั้นเริ่มจากที่อีสานโคราชก่อนอพยพลงพื้นที่ลุ่มต่ำที่อุดมสมบูรณ์กว่าตามหลักการอยู่รอด,ส่วนคนพื้นเมืองคือกัมพูชา,ก่อนที่ชาวพื้นเมืองจะลุกขึ้นปฎิวัติกษัตริย์ตั้งตนเป็นผู้ปกครองต่อยันปัจจุบัน,ส่วนกษัตริย์เดิมก็หนีกลับแถวอีสานและลุ่มน้ำเจ้าพระยามาก่อตั้งรัฐตัวเองขึ้นมาจนมาเป็นไทยสยาม
ภาษาไทยอักษรไทย ในนครวัดไม่มีเลยสักคำ
555
@@kkh6489 สมัยสร้างนครวัดยังไม่มีภาษาไทย จะมีเฉพาะภาษาขอม ลูกกษัตริย์ต่างเมืองส่วนมากจะมาร่ำเรียนวิชาที่ขอม
@@kkh6489 ในยุคสมันนั้นยังไม่มีหนังสือไทยครับใช้ภาษาขอมเป็นหลัก หนังสือไทยมาเริ่มยุคพ่อขุนรามคนอีสานยุคโบราณเขาก็เรียนภาษาขอม
ตอนที่3 ..วันปีใหม่-งานรื่นเริงประเพณี-คดีความพิพากษาโทษ-โรคภัย-ความตาย-ทำนาทำไร่-ส้วม-ตลาดสินค้า-พืชผัก-สัตว์น้ำ-สุรา-ไหมป่าน-
เรื่องราวน่าสนใจมากครับแต่เสียงดนตรีน่าจะมากไปหน่อยครับ รบกวนสมาธิที่จะฟังเนื้อหามาก .. 🥴
ดนตรีแถวอีสารเขาก็เล่นคนชอซุงค้องกลองฉิ่งฉาบ
สมัยนันน่าจะเป็นตะกูลไทลาวคือเวียงจันหรือสุโขทัยคนที่ปลูกหมอ่นไหมอยู่ทุดวันนี้คืออิสานนะครับทำผ้าสิ้นผ้าสโร่งสวน่มากมีแต่ลาวอิสานครับสว่นทางเหนือสุโขทัยสว่นมากทำเป็นแต่ผ้าฝ้ายครับ
รุ่นปู่ย่าตายายทางขุนหาญตั้งแต่เด็กเห็นผู้เฒ่าผู้แก่ทำไหมทอผ้ากันทุกบ้านถ้าวางจากการเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว
ขอมไม่ใช่เขมรครับขอมคือพวกสยามครับ
ขอม น่าจะเป็น คำเรียก วิถีชีวิตแทนกลุ่มคน กลุ่มหนึ่ง เหมือน ชาว เติร์ก ในยุโรป นะครับเป็นความเข้าใจ ของคนต่างถิ่นสมัยก่อนที่ เรียกกลุ่มคนที่แตกต่างจากตนเอง ตามความเข้าใจ แบบรวมๆ กัน แต่คนในพื้นที่ อาจเรียกตัวเอง เป็นแบบอื่น
@@leesamartgmail แล้วขอมสบาดโขลนลำพงที่แปลว่านักลบผู้เก่งเกล้าชาวขอม(สยาม)ครับท่านเป็นการเรียกกลุ่มคนก็คือขอม(สยาม)ยังไงละครับท่าน
@@ruaylus9567 ก่อนที่จะมี ละโว้ สยาม มีการเรียก ว่า ขอม หมายถึง อะไร ?ตอนนั้น ชาวพื้นเมือง ที่เป็น บรรพบุรุษสยาม น่าจะยังไม่มี วัฒนธรรมเป็นของตนเอง จนมีเอกลักษณ์ให้เรียก แทนได้และ ถ้าสยามอิทธิพลมากพอ จะเรียกตัวเองว่า ชาวขอม เราน่าจะใช้ คำว่า ขอม เป็น ชื่อเรียก มากกว่า สยามทำให้ผม คิดว่า ขอม คือ กลุ่มคน กลุ่มวิถีชีวิต พอจะเป็น ไปได้มากกว่า ในทัศนคติของผมแต่ ขอม อาจ ไม่ได้เป็น แค่ คำนาม เท่านั้นในวัฒนธรรม ของกลุ่มชนอื่น จึง เป็นไปได้ว่า ขอม ใช้เรียก แทนกลุ่มคน อย่างที่ คุณบอก ตามการพัฒนาของภาษาตอนมี พุกาม มอญ ขอม ล้านนา ที่ ชาวต่างเมือง น่าจะพอรู้จัก เรียกขานกัน ผมก็ คืดว่าน่าจะเป็น ไปได้ ว่า ขอม ก็คือ ส่วนผสมหนึ่ง ของ อดีตสยาม เหมือนกันพอได้ฟัง เรื่องชาวเติร์ก ยิ่งมั่นใจ ว่า ขอม กับ เติร์ก คือ แบบเดียวกัน
@@leesamartgmail สยามไม่ได้มาแค่700_800ปีอย่างที่นักประวัตศาสตร์ระบุไว้หลอกครับท่านสยามมีมาเป็นพันๆปีมาแล้วเคยมีเมืองเป็นพันเมืองครับท่านคนเราต้องมองอะไรกว้างๆเช่นมองช้างให้เป็นช้างอย่าไปดูแค่หางช้างเล็บช้างหูช้างงวงช้างครับท่าน
นำมากอย่างนั้นเขาใช้ข้าวลอยค่ะนำมากก็จะลอยตามน้ำเดียวนี้คนอีสารไม่ตอ่ยใส่ข้าวพันนี้แล้วคงสูญพันไปแล้ว
กบกับคางคกต่างกันมากคะ คากคกผิวตะปุ่มตะป่ำแห้งๆ กบผิวเรียบ
สุดยอดครับ
ชาวเสียมที่ว่า ผมยังไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มไหน อาจจะเป็นกลุ่มคนจากสุพรรณภูมิ หรือกลุ่มคนทางที่ราบลุ่มแม่น้ำมูลถึงแม่น้ำโขง
ขอบคุณค่ะ
ข้าวสายพันธุ์ที่ขึ้นไปตามน้ำเดี๋ยวนี้ไม่ปลูกกันแล้วครับ ตอนเป็นเด็กที่บ้านเคยปลูก แถวบ้านเรียกข้าวอีลอย ครับ
ขอบคุณมากเลยค่ะ
บันทึกนี้มีประโยชน์มาก ทำให้รู้หลายๆเรื่องของเขมรในยุกต์นั้น และได้รู้ว่าชาวเสียม หรือสยามไปค้าขายที่เขมร และเป็นผู้เลี้ยงไหม ทอผ้าไหม ตัดเย็บเสื้อผ้า คิดว่าไทยเราปัจจุบันช่วงน้ำท่วม พื้นที่ลุ่มน่าจะนำข้าวลอยมาปลูกอีกนะคะ ไม่ควรปล่อยให้ข้าวตายเพราะน้ำท่วม และนักวิชาการเกษตรไทย น่าจะปรับพันธ์ข้าวลอย ให้เมล็ดเรียว สีขาว ซึ่งจะขายได้ราคาดีกว่าแบบเก่าที่เมล็ดสั้น สีแดง คนว่ามองว่าข้าวลอยเป็นข้าวที่นำไปให้คนคุก นักโทษกินเพราะราคาถูก (นาข้าวที่บ้าน อยู่ จ. ชัยภูมิ น้ำท่วมทุกปี เดิมใช้ปลูกข้าวลอย น้ำท่วมเท่าศีรษะ 2 เดือน ข้าวก็ไม่ตาย.พอน้ำแห้ง ข้าวแก่ก็เกี่ยวได้ค่ะ
ปทัดไฟคงจะเป็นบ้างไฟเหมือนเดือนหกจะมีการเล่นบ้างไฟทุกปีเหมีอนในปัจุบันชาวบ้านจะทำทุกปี
ข้อมูลดีเยี่ยมมากๆ
พิธีเจิ้นกวานน่าจะเป็นพราหมณ์ ในวัฒนธรรมพุทธไม่น่าจะมีเรื่องอย่างนี้
ขอบคุณมากครับ
งานกัดหมูนี่มีการแกะสลักไว้ตรงกำแพงหินด้วยคับ เคยดูที่นักท่องเที่ยวถ่ายไว้
การลงโทษที่กล่าวในคัมภีร์เขมร จะมีว่า ลงโทษเสี่ยงทายด้วยการให้กลืนข้าวเปลือก และให้เอามือล้วงไข่ไก่
ที่กำลังต้มในหม้อน้ำร้อน คงได้ผลจริงครับตามที่แอดมินกล่าว ไม่งั้นเขาคงไม่ทำ
คลิปนี้ตรงความเป็นจริงในสมัยนั้น100%
คนจีนกับคนเขมร ค่อนข้างสนิทกันมาเป็นพันปีจริงๆ และคนจีนในเขมรพอใจพูดภาษาเขมรเต็มปากเต็มคำ ตั้งแต่พ่อแม่ลูกหลาน
ลาว ส่วย สยาม ใกล้กันแต่ไม่สนิทกัน
รสเปรี้ยวมีมากมาย เขมรเขากิน ลูกกระสัง มะขาม มะม่วง มดแดงครับ ใช้ ใส่ตำ แกง
ขอบคุณมากค่ะ
ถ้าบอกว่าไม่สนิท เพราะเขมรไม่ใช่ขอม จึงละอายใจตนเองมัง
เขมรบ้านผมไม่กินมดแดงคัพ
เราคิดว่าวัฒนธรรมคล้ายอีสาน และอินเดียอะ เช่นโรยข้าวตอกงานศพ บั้งไฟ ขุดหลุมถ่าย ใช้ควายไถนา เหมือนอินเดีย คือ ทามือทาเท้าสีแดง กินข้าวมือขวา ล้างตูดมือซ้าย รักษาโรคโดยชำระกายในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
กานฉลองโดยการจุดพลุเป็นของเขมรรึนี้ แม้จ
มีแต่คนสยามหรือที่เรียกว่าคนไทย(ในยุคปัจจุบัน)เท่านั้น ที่เขียนอ่าน และรู้ความหมาย อักษรขอมโบราณ
0:03 วัฒนธรรมแขมร กลืนไทยกะได สุโขทัยอยุธยา
หลายร้อยปี
พวกเขาใช้อักษรแขมรดัดแปลงใส่ภาษาตนเอง
เป็นคาราโอเกะ🎉
...มาถึงปัจจุบัน ก็นึกว่า
เป็นภาษาตนเอง
ทั้งหมด เพราะ
นานมากแล้ว🎉
สมัย800ปีก่อนมนุษย์สามารถพูดคุยกับเทพ เทวา นาค วิญญาณ..คือ3ภพสามารถติดต่อกันได้ มนุษย์ก็มีศีลธรรมมากเหล่าฤาษีหรือนักบวชถึงมีฤทธิมากกว่าทุกวันนี..โลกเสื่อมลงทูกอย่างก็ถดถอย
ขอบคุณมากค่ะ...
ไม่จริง ทารุณกรรม ยากลำบาก ศีลธรรมค่ำใครแพ้เป็นทาส ส่วนใหญ่นับถือผี
@@RangsantBandhukul ใช่แล้วครับ ทุกวันนี้ดีกว่าเยอะเมื่อเทียบกับสมัยนั้น แม้จีนเองสมัยนั้นก็ฆ่าฟันกันเป็นระยะเวลายาวนาน แย่งชิงอำนาจกัน
คนสมัยนี้จิตใจเป็นโจรมากปลูกผักอยู่ขางบ้านแอบโขมยตัดจนเกลี้ยงของในบ้านมีข้าวของเสื้อผ้าไปไหนมาไหนย่าลืมลอ็กประตูบ้านแม้หมูหมากาไก่คนสมัยนี้ไม่ธรรมดาโจรมีมาก
ผมว่าไม่แปลกครับจัดงาน15วันและจัดงานทุกเดือน....เพราะไม่มีอินเทอร์เน็ต...เหงา
ขอบคุณค่ะ
ไม่เห็นมีงาน สงกรานต์.. ที่เขมรเคลมว่าเป็นของตัวเอง555
ผมว่าชนชั้นปกครองคือคนไทยสยาม,เพราะรูปสลักข้างปราสาทที่เป็นเสียมกุกที่ไม่ค่อยเดินเป็นระเบียบหนักซึ่งถือตัวเองเป็นพระญาติพระเจ้าแผ่นดินเลยไม่เกรงกลัวพระอำนาจ,และอีกอย่างหลักฐานต้นกำเนิดอาณาจักรที่เคยฟังจากสุจิตต์วงเทศน์นั้นเริ่มจากที่อีสานโคราชก่อนอพยพลงพื้นที่ลุ่มต่ำที่อุดมสมบูรณ์กว่าตามหลักการอยู่รอด,ส่วนคนพื้นเมืองคือกัมพูชา,ก่อนที่ชาวพื้นเมืองจะลุกขึ้นปฎิวัติกษัตริย์ตั้งตนเป็นผู้ปกครองต่อยันปัจจุบัน,ส่วนกษัตริย์เดิมก็หนีกลับแถวอีสานและลุ่มน้ำเจ้าพระยามาก่อตั้งรัฐตัวเองขึ้นมาจนมาเป็นไทยสยาม
ขอบคุณมากค่ะ
ภาษาไทยอักษรไทย ในนครวัดไม่มีเลยสักคำ
555
@@kkh6489 สมัยสร้างนครวัดยังไม่มีภาษาไทย จะมีเฉพาะภาษาขอม ลูกกษัตริย์ต่างเมืองส่วนมากจะมาร่ำเรียนวิชาที่ขอม
@@kkh6489
ในยุคสมันนั้นยังไม่มีหนังสือไทยครับใช้ภาษาขอมเป็นหลัก หนังสือไทยมาเริ่มยุคพ่อขุนรามคนอีสานยุคโบราณเขาก็เรียนภาษาขอม
ตอนที่3 ..วันปีใหม่-งานรื่นเริงประเพณี-คดีความพิพากษาโทษ-โรคภัย-ความตาย-ทำนาทำไร่-ส้วม-ตลาดสินค้า-พืชผัก-สัตว์น้ำ-สุรา-ไหมป่าน-
เรื่องราวน่าสนใจมากครับ
แต่เสียงดนตรีน่าจะมากไปหน่อยครับ รบกวนสมาธิที่จะฟังเนื้อหามาก .. 🥴
ขอบคุณมากค่ะ
ดนตรีแถวอีสารเขาก็เล่นคนชอซุงค้องกลองฉิ่งฉาบ
สมัยนันน่าจะเป็นตะกูลไทลาวคือเวียงจันหรือสุโขทัยคนที่ปลูกหมอ่นไหมอยู่ทุดวันนี้คืออิสานนะครับทำผ้าสิ้นผ้าสโร่งสวน่มากมีแต่ลาวอิสานครับสว่นทางเหนือสุโขทัยสว่นมากทำเป็นแต่ผ้าฝ้ายครับ
รุ่นปู่ย่าตายายทางขุนหาญตั้งแต่เด็กเห็นผู้เฒ่าผู้แก่ทำไหมทอผ้ากันทุกบ้านถ้าวางจากการเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว
ขอมไม่ใช่เขมรครับขอมคือพวกสยามครับ
ขอบคุณค่ะ
ขอม น่าจะเป็น คำเรียก วิถีชีวิตแทนกลุ่มคน กลุ่มหนึ่ง เหมือน ชาว เติร์ก ในยุโรป นะครับ
เป็นความเข้าใจ ของคนต่างถิ่นสมัยก่อนที่ เรียกกลุ่มคนที่แตกต่างจากตนเอง ตามความเข้าใจ แบบรวมๆ กัน แต่คนในพื้นที่ อาจเรียกตัวเอง เป็นแบบอื่น
@@leesamartgmail แล้วขอมสบาดโขลนลำพงที่แปลว่านักลบผู้เก่งเกล้าชาวขอม(สยาม)ครับท่านเป็นการเรียกกลุ่มคนก็คือขอม(สยาม)ยังไงละครับท่าน
@@ruaylus9567 ก่อนที่จะมี ละโว้ สยาม มีการเรียก ว่า ขอม หมายถึง อะไร ?
ตอนนั้น ชาวพื้นเมือง ที่เป็น บรรพบุรุษสยาม น่าจะยังไม่มี วัฒนธรรมเป็นของตนเอง จนมีเอกลักษณ์ให้เรียก แทนได้
และ ถ้าสยามอิทธิพลมากพอ จะเรียกตัวเองว่า ชาวขอม เราน่าจะใช้ คำว่า ขอม เป็น ชื่อเรียก มากกว่า สยาม
ทำให้ผม คิดว่า ขอม คือ กลุ่มคน กลุ่มวิถีชีวิต พอจะเป็น ไปได้มากกว่า ในทัศนคติของผม
แต่ ขอม อาจ ไม่ได้เป็น แค่ คำนาม เท่านั้น
ในวัฒนธรรม ของกลุ่มชนอื่น
จึง เป็นไปได้ว่า ขอม ใช้เรียก แทนกลุ่มคน อย่างที่ คุณบอก ตามการพัฒนาของภาษา
ตอนมี พุกาม มอญ ขอม ล้านนา ที่ ชาวต่างเมือง น่าจะพอรู้จัก เรียกขานกัน
ผมก็ คืดว่าน่าจะเป็น ไปได้ ว่า ขอม ก็คือ ส่วนผสมหนึ่ง ของ อดีตสยาม เหมือนกัน
พอได้ฟัง เรื่องชาวเติร์ก ยิ่งมั่นใจ ว่า ขอม กับ เติร์ก คือ แบบเดียวกัน
@@leesamartgmail สยามไม่ได้มาแค่700_800ปีอย่างที่นักประวัตศาสตร์ระบุไว้หลอกครับท่านสยามมีมาเป็นพันๆปีมาแล้วเคยมีเมืองเป็นพันเมืองครับท่านคนเราต้องมองอะไรกว้างๆเช่นมองช้างให้เป็นช้างอย่าไปดูแค่หางช้างเล็บช้างหูช้างงวงช้างครับท่าน
นำมากอย่างนั้นเขาใช้ข้าวลอยค่ะนำมากก็จะลอยตามน้ำเดียวนี้คนอีสารไม่ตอ่ยใส่ข้าวพันนี้แล้วคงสูญพันไปแล้ว