พุทธศาสนาลังกาวงศ์ สู่สยามวงศ์ พระพุทธศาสนาในไทยครั้งแรกเมื่อไร..?

Поділитися
Вставка
  • Опубліковано 14 бер 2024
  • #พุทธศาสนาลังกาวงศ์ สู่ #สยามวงศ์ #พระพุทธศาสนา ในไทยครั้งแรกเมื่อไร..?
    พระพุทธศาสนาในไทย
    ความเป็นมาของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย อาจแบ่งออกได้เป็น 4 ยุค คือ
    1. ยุคเถรวาทแบบสมัยอโศก
    2. ยุคมหายาน
    3. ยุคเถรวาทแบบพุกาม
    4. ยุคเถรวาทแบบลังกาวงศ์
    ยุคที่ 1 เถรวาทแบบสมัยอโศก
    พ.ศ. 218
    #พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงอุปถัมภ์การสังคายนาครั้งที่ 3 ณ พระนครปาฏลีบุตร หลังจากเสร็จสิ้นการสังคายนาแล้ว ได้ทรงส่งพระสงฆ์ไปประกาศพระศาสนาในดินแดนต่างๆ รวม 9 สาขา บรรดา 9 สายนั้น พระโสณะ และ พระอุตตระ เป็นสายหนึ่ง (คัมภีร์สมันตปาสาทิกา อรรถกถาแห่งพระวินัยปิฎกนับเป็นสายที่ 8 แต่คัมภีร์ศาสนวงศ์นับย้อนเป็นสายที่ 2) นําพระพุทธศาสนาไปประดิษฐานใน อาณาจักรสุวรรณภูมิ ซึ่งสันนิษฐานกันว่าได้แก่ จังหวัดนครปฐม โดยมีโบราณสถานและโบราณวัตถุต่างๆ เช่น พระปฐมเจดีย์ เป็นต้น เป็นประจักษ์พยานอยู่จนบัดนี้ (พม่าว่าสุวรรณภูมิได้แก่ เมืองสะเทิม ในพม่าภาคใต้)
    ยุคที่ 2 มหายาน
    พ.ศ. 620
    พระเจ้ากนิษกะมหาราช ทรงอุปถัมภ์สังคายนาครั้งที่ 4 ของฝ่ายมหายาน ณ เมืองชลันธร และทรงส่งสมณทูตออกประกาศพระศาสนาในอาเซียกลางเป็นต้น คราวนั้นพระเจ้ามิ่งตี่ ทรงนําพระพุทธศาสนาจากอาเซียกลางเข้าไปเผยแพร่ในประเทศจีน และได้ทรงส่งทูตสันถวไมตรีมายัง ขุนหลวงเม้า กษัตริย์ไทยผู้ครองอาณาจักรอ้ายลาว คณะทูตได้นําพระพุทธศาสนาเข้ามาด้วย ทําให้หัวเมืองไทยทั้ง 77 มีราษฎร 51,890 ครอบครัว หันมานับถือพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก
    พ.ศ. 1300
    กษัตริย์แห่งศรีวิชัย ในเกาะสุมาตราเรืองอํานาจ แผ่อาณาเขตเข้ามาถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี กษัตริย์ศรีวิชัยทรงนับถือพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน จึงทําให้พระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานเผยแพร่เข้ามาในภาคใต้ของประเทศไทย ที่อยู่ในอาณาจักรของพระองค์ ดังมีเจดีย์พระธาตุไชยาและพระมหาธาตุนครศรีธรรมราชเป็นประจักษ์พยานถึงบัดนี้
    พ.ศ. 1550
    กษัตริย์กัมพูชา ราชวงศ์สุริยวรมัน เรืองอํานาจ แผ่อาณาเขตลงมาทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางของประเทศไทย และตั้งเมืองละโว้หรือลพบุรีเป็นเมืองหลวงเมืองหนึ่งสําหรับปกครองดินแดนแถบนี้ (จึงเรียกสมัยนี้ว่าสมัย ลพบุรี) กษัตริย์กัมพูชาทรงนับถือพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ซึ่งได้เผยแพร่ต่อขึ้นมาจากอาณาจักรศรีวิชัย แต่มหายานสมัยนี้ปนเปผสมกับศาสนาพราหมณ์มาก ประชาชนถิ่นนี้จึงได้รับพระพุทธศาสนาทั้งแบบเถรวาทที่สืบมาแต่เดิมกับมหายานและศาสนาพราหมณ์ที่เข้ามาใหม่ ทําให้มีผู้นับถือทั้งสองแบบ และมีพระสงฆ์ทั้ง 2 นิกาย ภาษาสันสกฤตก็เข้ามาเผยแพร่ มีอิทธิพลในภาษาและวรรณคดีไทยมากแต่บัดนั้น
    ยุคที่ 3 เถรวาทแบบพุกาม
    พ.ศ. 1600
    พระเจ้าอนุรุทธมหาราช หรืออโนรธามังช่อ กษัตริย์พุกามเรืองอํานาจขึ้น ทรงปราบรามัญรวมพม่าเข้าได้ทั้งหมด แล้วแผ่อาณาเขตเข้ามาถึงอาณาจักรล้านนา ล้านช้าง จรดลพบุรี และทวาราวดี พระเจ้าอนุรุทธทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท ทรงทํานุบํารุงและเผยแพร่พระพุทธศาสนาด้วยพระราชศรัทธาอย่างแรงกล้า
    ย้อนกล่าวถึงชนชาติไทยในจีน ถูกจีนรุกราน อพยพลงมาทางใต้ตามลําดับ หลังจากอาณาจักรอ้ายลาวสลายตัว ก็ได้มาตั้งอาณาจักรน่านเจ้า ครั้นถึงประมาณ พ.ศ. 1299 ขุนท้าวกวาโอรสขุนบรมแห่งอาณาจักรน่านเจ้า ได้มาตั้งอาณาจักรโยนก เชียงแสนในสุวรรณภูมิ กาลเวลาผ่านไปคนไทยก็กระจัดกระจายอยู่ทั่วภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทยปัจจุบัน เมื่ออาณาจักรกัมพูชาเรืองอํานาจ คนไทยที่อยู่ในเขตล้านนาคือภาคพายัพได้รับอิทธิพลขอมน้อย แต่เมื่ออาณาจักรพุกามแผ่เข้ามาครอบงํา คนไทยในถิ่นนี้ซึ่งนับถือพระพุทธศาสนาสืบๆ มาอยู่แล้ว ก็รับนับถือพระพุทธศาสนาแบบพุกามจนเจริญแพร่หลายขึ้นทั่วไปในฝ่ายเหนือ
    ยุคที่ 4 เถรวาทแบบลังกาวงศ์
    พระพุทธศาสนาในยุคนี้ คือ แบบที่นับถือมาเป็นศาสนาประจําชาติของไทยจนถึงปัจจุบัน สําหรับยุคนี้ มีรายละเอียดที่ปรากฏในประวัติศาสตร์มากกว่ายุคก่อนๆ จึงแยกย่อยเป็นสมัยๆ ดังนี้
    1. สมัยสุโขทัย
    พ.ศ. 1800
    ระยะนี้ อาณาจักรพุกามและกัมพูชาเสื่อมอํานาจลงแล้ว คนไทยตั้งตัวเป็นอิสระขึ้นได้ ทางเหนือเกิดอาณาจักรล้านนา ใต้ลงมาเกิดอาณาจักรสุโขทัย
    ย้อนกล่าวทางฝ่ายพระศาสนาในประเทศลังกา พ.ศ. 1696 พระเจ้าปรากรมพาหุมหาราช ขึ้นครองราชย์ ทรงปราบทมิฬ ทําบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่น ทรงอุปถัมภ์พระศาสนารวมพระสงฆ์เข้าเป็นนิกายเดียว และโปรดให้มีการสังคายนาครั้งที่ 7 ขึ้น พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองในลังกาทวีปทั้งการศึกษาและปฏิบัติ พระสงฆ์ประเทศต่างๆ เดินทางไปศึกษาธรรมวินัยและบวชแปลงใหม่ แล้วกลับไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ในประเทศของตน บ้างก็นิมนต์พระลังกามาด้วย สําหรับประเทศไทยพระสงฆ์ไทยและลังกาเช่นนี้ได้มาตั้งสํานักเผยแพร่อยู่ ณ เมือง นครศรีธรรมราช ได้รับความนับถืออย่างรวดเร็ว
    พ.ศ. 1820
    พ่อขุนรามคําแหง เสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงสดับกิตติศัพท์ของพระสงฆ์ลังกาวงศ์แล้วอาราธนา พระมหาเถรสังฆราช จากนครศรีธรรมราชเข้ามาพํานัก ณ วัดอรัญญิก ในกรุงสุโขทัย พระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ก็รุ่งเรืองแต่นั้นมา เบื้องต้นยังมีพระสงฆ์ 2 พวก คือ คณะสงฆ์เดิมกับคณะสงฆ์ลังกาวงศ์ แต่ในที่สุดได้รวมเข้ามาเป็นนิกายเดียวกัน ส่วนพระพุทธศาสนามหายานก็เสื่อมแล้วสูญไป ในรัชกาลนี้ได้นํา พระพุทธสิหิงค์ ซึ่งสร้างในลังกาขึ้นมาจากนครศรีธรรมราชไว้ ณ กรุงสุโขทัยด้วย (ชินกาลมาลีปกรณ์ว่า ได้พระพุทธสิหิงค์มาใน พ.ศ. 1800 รัชกาลพ่อขุนศรีอินทราทิตย์) ศิลปะแบบลังกาเริ่มเข้ามาแทนที่ศิลปะแบบมหายาน เช่น เจดีย์พระมหาธาตุนครศรีธรรมราชแปลงรูปเป็นสถูปแบบลังกา เป็นต้นพ.ศ. 1897
    พระเจ้าลิไท กษัตริย์องค์ที่ 5 ขึ้นครองราชย์ ทรงอาราธนาพระมหาสามีสังฆราชเมืองลังกานามว่า สุมนะ เข้ามาสู่สุโขทัย ใน พ.ศ. 1904 ครั้นออกพรรษาแล้ว พระองค์ก็ได้เสด็จออกผนวชชั่วคราว ณ วัดอรัญญิก ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือ เตภูมิกถา หรือ ไตรภูมิพระร่วง ทรงสั่งสอนศีลธรรมแก่ประชาชนด้วยพระองค์เอง และเผดียงพระ
    #เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ

КОМЕНТАРІ • 17

  • @user-wo5rg2gm1t
    @user-wo5rg2gm1t 3 місяці тому +9

    ประวัติแบบคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไตอิอิอิอิเลอะเทอะๆๆๆๆๆๆอิอิอิ

  • @shakaya51
    @shakaya51 3 місяці тому +5

    พระเจ้าวรมันต์เกี่ยวไรกัมพูชาวะ แถมสมัยนั้นกัมพูชายังไม่เกิดขึ้นเลยเลอะเทอะ หาข้อมูลก่อนก็ดี

    • @user-ut1rw4tn5c
      @user-ut1rw4tn5c 3 місяці тому

      กัมพูชา​คือ คนป่า หรือคนเกาะชวาที่ชั้นเจ้านาย ขอมหรือ อินเดียนาฑู เอามาเป็นคนรับใช้ จนกระทั่ง​ชนชั้นทาส พระเจ้าแตงหวาน ล้มล้ายขอม ยึดมาเป็กษัตริย์​เสียเอง ทำให้ ราชวงศ์​ขอมสิ้นสุดลง จึงเป็นประเทศ​กัมพูชา​ทุกวันนี้​

    • @user-jt6mj3fq7o
      @user-jt6mj3fq7o 3 місяці тому

      ตำราฝากฝรั่งเศษจ้าก้รู้กันอยู่จ้า

  • @user-jq1sw7vn4n
    @user-jq1sw7vn4n 2 місяці тому +1

    ພະພຸດສາດສະໜາຢູ່ໄທບໍ່ມີປຸ້ນແຕ່ລາວໄປແຕ່ລັດຊະການທີ 1 ຈົນເຖິງປະຈຸບັນນີ້ບໍ່ເຊື່ອກະໄປເບິ່ງພະໄຕທີ່ດົກທີ່ລັດຊະການທີ່ 1 ເອົາໄປຫັ້ນ

  • @user-sd9mn5im7f
    @user-sd9mn5im7f 3 місяці тому +3

    ข้อมูลผิดพลาดตกหล่นเยอะนะครับ
    สุวรรณภูมิ ก็คล้ายๆกับคำว่า ชมภูทวีป เมื่อกล่าวถึงในเชิงแผนที่บนดาวโลก หมายถึง
    แผ่นขอบพื้นผิวที่ดี(ของชมภูทวีป) ในทางธรณีวิทยา เป็นที่ทรายข้อมูลว่า แผ่นอินเดียและมหาสมุทร ตรงนี้ เป็นแผ่นดินโผล่น้ำ มาแค่ 2 โซน คือ อินเดีย ขอบด้านบน และ อาเซียน ขอบด้านตะวันออก ดังนั้น สุวรรณภูมิ ความหมายตรงๆ เลย คือ
    อนุทวีป ข้างๆของแผ่นอินเดีย หรือ อาเซียน หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปจรด หมู่เกาะต่างๆ ไปยัน ออสเตรเรีย โน่น ก็ยังได้ แต่ เป็นที่รู้จักหลักๆ คือ แถบสันเขา ต่างๆ แต่เดิมเป็นเกาะแก่งริมทะเลเป็นส่วนใหญ่ ที่ราบลุ่ม มีน้อย มีในโซน ภาคเหนือไทยภาคเหนือพม่า จะมีที่ราย ภูเขาตะวันตก ทอดยาวไปอินโด ส่วน ภาคอีสาน นี่เป็นแผ่นแตก เล็กๆ เป็นระหว่าง แต่เหตุเดียวกัน ลากยาวไปรวม ลาว เวียดนาม ก็ คล้ายๆ ที่บิ่นที่แตกออกไปเท่านั้น เพราะเป็น พื้นที่ ระหว่าง 3 แผ่นใหญ่ คือแผ่นเอเชีย แผ่นแปซิฟิก และแผ่นอินเดีย
    พระพุทธศาสนา เถรวาท มาชุดแรกตั้งแต่พุทธกาล คือ
    พระสีวลี ครับได้เอกทคะ ด้านได้ลาภสัการะมาก ธุดงค์เพื่อนำพระพุทธศาสนามา ตั้งแต่โน้น เป็นที่รู้จักและถวายสักการะ จากชาวอาเซียน มาตลอด ถึงปัจจุบัน แบบไม่ขาดสาย จึงเป็นพระเถระที่ได้รลาภสักการะมากที่สุด เพราะพระพุทธศาสนา อยู่กับอาเซียนตลอด
    ประเด็นที่จะฝาก 2 ประเด็นสุดท้าย คือ ขอม/เขมร คือกลุ่มที่ถือไศวะนิกาย บูชาศิวะลึงค์ นักบวชไศวะ คือกลุ่มคนที่ชอบอ้างมหาเทพเพื่อทำลายพระพุทธศาสนามากที่สุดเมื่อมีอำนาจหรือผลักดันใครเคลมอำนาจได้
    เป็นกลุ่มที่ รบกับ ชาวพุทธ ประจำ ถือพุทธอย่างมากแค่ชนปกครองเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาติ ที่ขอมถือพุทธ โดยส่วนมากมี 2 เหตุ คือ เป็นเมืองขึ้น ส่งชาวพุทธมาปกครอง จึงส่งเสริมศาสนาพุทธ และร่วมมือกับชาวพุทธเพื่อสร้างฐานอำนาจจึงศรัทธาในพุทธศาสนา ส่งเสริมให้ชนปกครองสามารถนับถือพุทธได้ เหตุผลที่ไม่ให้ชาวบ้านนับถือพุทธเพราะว่า นักบวชไศวะจะทำหน้าที่เปิดซิงสาวบริสุทธิ์ที่เป็นขอมทุกคนตามจารีต มาแต่พระทองนางนาค สาวๆ จึงท้องกับนักบวชเสียเป็นจำนวนมาก
    ส่วน สายที่รบกับขอมมากที่สุด มี 2 สาย คือ
    1.ศรีมาร/ศรีราม/สยาม/จาม/สยำ/เสียม/เสียน/ฉาน ไตกะไดโบราณ ถือรามอวตาร อยู่ลุ่มน้ำป่าสัก คือ เมืองโบราณศรีเทพ พระราม พระนารายณ์ พระวิษณุ พระพิษณุ พระลว/พระลาว(ลูกพระราม) ยุคหลังๆ จำพวกอาณาจักร สุโขทัย สลวงสองแคว(สืบต่อมาอยุธยา) ล้านช้าง นี่คือสายตรง กรุงเทพทวารวดีอโยธยาศรีรามเทพนคร(ศรีเทพ)-อโยธยาศรีรามเทพ(ปากน้ำป่าสัก)-อยุธยาศรีรามเทพนคร
    2.ศรีวิชัย คือ ถือพระอินทรอวตาร เดิมอยู่เกาะชวา ยึดเมืองที่ขอมเคลมพนมฟูนัน ไปเรื่อยๆ มาจนถึง ลวปุระ หรือลพบุรี กาอนที่จะไปมีอำนาจ ในเมืองพระนคร ได้แก่ อินทร 3 อินทร4 และอินทร5(ชัย9 วรมันคนสุดท้าย)

    • @user-jt6mj3fq7o
      @user-jt6mj3fq7o 3 місяці тому +1

      จำไว้พระพุทธเจ้าตรัสรู้บนแผ่นดินไทยมิใช่แขกและหรือชมพูทวีปที่มิใช่แจกแต่เป็นสุวรรณภูมิจ้าคิดเอา

    • @user-sd9mn5im7f
      @user-sd9mn5im7f 3 місяці тому +1

      @@user-jt6mj3fq7o เลอะเทอะครับ ที่จะพิมพ์แบบนี้ ข้อมูลใน พระไตรปิฎก บอกไม่ใช่สุวรรณภูมิ ครับ
      ชมภูทวีป เท่านั้น อินเดีย มันอยู่กลางแม็ป ศูนย์รวมอารยธรรม ทุกยุค อยู่แถบนั้น ศาสนาส่วนใหญ่เกิดอยู่แถบนั้น มันมีเหตุผลของมัน
      สุวรรณภูมิ นี่มีระบุว่าอยู่นอกพื้นที่ ร่วมสมัย มีแต่ตำนานพระพุทธบาท ขนาดในตำนานนี้ ก็ยังไม่กล้ากล่าวว่าตรัสรู้ในแถบนี้

  • @user-nc1sd8qs3z
    @user-nc1sd8qs3z 3 місяці тому +4

    อ่านตามนัก ประวัติศาสตร์ที่ฝรั่งเศสเขียนให้อ่าน

    • @user-jt6mj3fq7o
      @user-jt6mj3fq7o 3 місяці тому

      ใช่และพระพุทธเจ้ามิใชแขกแต่เป็น....

  • @daimondchiangmai7479
    @daimondchiangmai7479 2 місяці тому +1

    ที่เชียงใหม่มีพระพุทธบาทพระพุทธเจ้าถึง4พระองค์และมีการสังขยานาพระไตรปิฎกครั้งแรกที่วัดเจ็ดยอด