ไอน์สไตน์พบพระพุทธเจ้าเห็น "ทฤษฎีควอนตัม&พุทธศาสนา"
Вставка
- Опубліковано 5 жов 2024
- เป็นเรื่องราวที่อ่านจากบทความในหนังสือ "ไอสไตล์พบ พระพุทธเจ้าเห็น"
ที่เขียนโดย ทัตแพทย์สม สุจารี
ท่านใดสนใจหนังสือ
สามารถกดซื้อได้ตามลิงค์นี้เลยครับ shope.ee/3VNYM...
พระพุทธเจ้าทำให้พราหมณ์เป็นพุทธ
พระหลายๆรูปปัจจุบันทำให้พุทธศาสนากลายเป็นพราหมณ์
เห็นด้วยครับ คมมาก
เหตุนี้แหละ พระพุทธเจ้าจึงไม่ตั้งพระศาสดาใหม่ขึ้นมาแทน แต่ให้ยึดพระธรรมเป็นศาสดา ซึ่งจนถึงช่วงสุดท้ายของจิต จิตก็ไม่ยึดในธรรม
ไอ้แจ้โอ้ยๆ
@@woodytanyax8225 ถูกก
ตีความหมายไปเองแบบนี้ น่าจะมองคนพุทธที่ทำตามวิธีพราหมณ์ว่าไม่ใช่พุทธแท้แน้ๆเลยใช่ไหมครีบ
@@ทฤษฎีธนูสา พุทธศาสนาไทย
คือ พุทธ+พราหมณ์+(ศาสนา)ผี
พ่อผมท่านบอกก่อนตายไว้ว่า "หากวันใดที่ท่านจากไป". วันๆนั้นให้เสียใจแปปๆ เดียวพอ หลังเสียใจไปแล้ว ขอให้ยิ้มและมีความสุขให้เหมือน วันก่อนๆที่ ผ่านมา จงความสุขกับการใช้ชีวิต แล้วทำให้คนรอบๆกายเรามีความสุข ที่สุด
จริง ครับ ทุก-สุข อยูที่จิตใจ จะเก็บไว้-หรือทิ้งไป
ควรจะทำให้ได้เช่นนั้นนะนุด(ยิ้มอ่อนๆ)
นักวิทยาศาสตร์...ต้องใช้เครื่องมือ...ในการตรวจสอบ...แต่พระพุทธเจ้า...ใช้แต่สมาธิ...ทึ่หาประมาณมิได้...ไม่มีนักวิทยาศาสตร์..คนใดฯ...ไปได้ไกลเท่ากับ...พระพุทธเจ้า...เพราะพระพุทธเจ้า...ไปได้หลายต่อหลายมิติ...รวมถึงนรกโลกันต์...และ...ทั่วทั้งจักรวาล...อีกทั้งพรมมโลก..ชั้นสูงสุด...ผู้บรรยาย...ผู้นี้ได้ศึกษา..พระธรรม..ชั้นสูงสุดมาแล้วด้วย...ระดับนึง...แต่ก็นะ...ผู้ปฎิบัติได้...ฌาน.4..ขึ้น_ไปเท่านั้นนะ...ที่จะเชื่อ...ในคำบรรยายนี้...เพราะคนที่ทำ...สมาธิได้ฌาน..4...เป็นสมาธิทึ่...ถอดจิตวิณญาณ...ออกจากกายหยาบนี้ได้แล้ว...และได้ไปอยู่ที่...นามธรรม...(เป็นพรม)...จึงจะฟังเข้าใจได้...คือ..ผู้มีศีล...มากพอที่จะ..เข้าฌาน..4..ได้เท่านั้น...ผู้ปฎิบัติจริงฯ...เท่านั้น...ที่จะเข้าใจได้จริงฯ..ขออนุโมทนาด้วยจ่ะ...ที่ออกมาอธิบาย...ให้คนที่ไม่รู้.../ด้เข้าใจได้บ้าง...ส่วนคนที่ไม่เขื่อนั้น...เป็นเพราะเขายัง..ไม่ได้เริ่ม...ปฎิบัติ..อย่างจริงจัง...สาธุ..สาธุจ่ะ
ความรู้ใหม่
คำสอนของพระพุทธเจ้าคือ ความเป็นจริงของธรรมชาติ ซึ่งก็คือ วิทยาศาสตร์ล้วนๆ...
วิทยาศาสตร์ล้วน ๆ เลยเหรอครับ
@@karlnoxx4137 ถ้าดั้งเดิมน่ะ ล้วนๆครับ แต่พุทธปัจจุบันถูกปรุงเเต่ง
โดยคนรุ่นหลังที่เอาความคิดตนเองไปอ้างว่าเป็นคำพูดของพระพุทธเจ้า
@@ภาณุวัฒน์อุทรักษ์-ฬ1อ 555
@@ภาณุวัฒน์อุทรักษ์-ฬ1อ ผมว่าคนไทยเอาพราม เอาผีแหละหลายวัฒธรรมไปรวมจนมันเพี้ยนไปหมด กลายเป็นความเชื่อและวัฒธรรมของไทยครับ
@@DR-iv9co ใช่ครับ
ที่เข้าใจพุทธะกับไอสไตน์ที่ตรงกันคือ
1.สังขารไม่เที่ยง - ทุกสรรพสิ่งมีผันแปรเปลี่ยงแปลงระหว่างสสารและพลังงาน
2.กรรม - ทุกสิ่งสัมพันธ์สอดคล้องกันจากอนุภาคเล็กสู่สิ่งที่ใหญ่กว่า การเปลี่ยนสิ่งหนึ่งย่อมกระทบสิ่งอื่นๆไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
3.การหลุดพ้น - ทุกสิ่งเป็นวัฎจักรเวียนว่ายตายเกิด ถูกนำพาไปตามกาลเวลา การหลุดพ้นจากวัฏจักรเวลา คือการอยู่กับปัจจุบัน เหมือนเราสามารถหยุดที่เวลาใดนึงได้เหมือนแผ่นฟิล์มที่หยุดนิ่งได้ไม่ไหลตามเวลา
ผมคิดว่าไอสไตน์เข้าใจตรงกันกับพระพุทธเจ้าคือ
พลังงานที่เป็นที่สุดในจักรวาล
@@BUBULIGHTNING การตายที่เราเห็นทั่วไปคือตายในชาตินี้ครับ แต่ขีวิตหลังความตายในชาตินี้ยังมีต่อ
ตายแล้วไปไหนล่ะ
ทำกรรมดีมากก็ไปภพที่ดีครับ หรือ กลับมาภพมนุษย์แต่เกิดในที่ดี ทำกรรมชั่วก็ไปภพที่ไม่ดี หรือเกิดมาเป็นมนุษย์ในที่ไม่ดี หรือเกิดเป็นสัตว์
้คยได้ยินที่คนบอกว่า ทำบุญมากๆเกิดมาชาติหน้าจะได้เกิดที่ดีๆไหมครับ ทุกวันนี้ คนรวยมีลูกยาก แต่คนจนมีลูกมากกว่า แล้วคุณมองดูคนทุกวันนี้ คนทำกรรมดีมาก กับคนทำกรรมชั่วมาก คุณว่าแบบไหนมีมากครับ มันก็สอดคล้องกันทางสถิติอยู่นะครับ
สิ่งที่ คนธรรมดา ไม่เห็น/ไม่รู้แจ้ง คือ "พลังงาน/นาม" เห็นแต่ส่วน "รูป" ที่เป็น ตัวตน พระพุทธเจ้า เห็น "นาม=พลังงาน ในตัว "คน/สัตว์" ที่เรียกว่า "พลังจิต+เจตสิก และ พลังกรรม" และเห็น สภาวะ อนิจจา อนัตตา ทุกขา ไอสไตย เห็น "พลังไฟฟ้า+ควันตัม คลิ่นความโน้มถ่วง การเกิดพลังนิวเคลียร์ ความรู้/การหยั่งรู้ ด้วยญาณทัศนะ ของไอสไตย์ เอามาสร้าง คอมส์/มือถือ/หุ่นยนต์ ช่วยคน ชนะ "ระยะทาง และ เวลา" Space & Time พระพุทธเจ้า มี "ฌาน+ญาณ" หยั่งรู้ มีอภิญญา ๖ และ ญาณทัศนะ วิสุทธิ์ ชนะ เวลา ระยะทาง และความทุกข์
ท
สุดยอดเม้นนิ
ได้ความรู้เลยค่ะ
ทฤษฏี สัมพันธภาพของไอสไตย เกิดขึ้นจากการศึกษา พุทธศาสนาค่ะ รวมทั้ง เซอร์ ไอแซค นิวตัน ผู้ค้นพบทฤษฏีแรงโน้มถ่วงโลก ก็ได้มาจากพุทธศาสนา เพราะท่านเซอร์มีพี่ภรรยาไปศึกษาพุทธศาสนาที่ธิเบต ท่านสนใจและศึกษาพุทธศาสนาจากพี่ภรรยาท่าน ในสมัยนั้นน้อยคนมากที่ได้เดินทางไปธิเบต อ่านเจอในหนังสือค่ะ
ผมมีปัญญาญาณมานานละแต่มารู้ทีหลัง หลังจากได้ย้อนกลับไปดูสิ่งที่ค้นพบสิ่งใหม่มันคือนวัตกรรมหลายรายการ ไม่เคยมีในตำรา ระดับเทพเลยทีเดียว ก็ลองรักษาศีลครบห้าจาก นั้นเริ่มรู้จักปล่อยวางให้จิตว่างง่ายขึ้นมากแล้วปัญญาญาณก็เกิดขึ้นในจิตในเศษเสี้ยววินาที แต่จดจำได้ไม่รู้ลืม รู้แจ้งเลยครับว่าเรื่องญาณหยั่งรู้ไม่ใช่เพ้อเจ้อ ต้องรู้ได้ด้วยตนไม่เคยยาก ไม่ผิดที่จะบอกว่าจิตเร็วกว่าแสง สัมผัสทางตาไม่สามารถทำได้ถ้าใช้ความเร็วสูงมากแต่จิตทำได้ วิทยาศาสตร์ทางจิตจึงน่าสนใจใฝ่รู้ ไม่ต้องศึกษาถึงระดับดอกเตอร์
ปริญญาเอกก็ทำได้ เมื่อค้นพบแล้วนวัตกรรมที่ค้นพบมันก็ไม่ได้ยากกว่าที่คิด จิตมันตอบโจทย์ที่โครตยากได้อย่างน่าอัศจรรย์ครับ ธรรมะสามารถนำมาใช้ได้ทั้งในทางโลกิยะหรือโลกุตระ
ปัจจุบันวิทยาศาสตร์แม้จะก้าวล้ำไปมาก
คำสอนในทางพระพุทธศาสนาก็ยังคงเดิม
*ปัจจุบันวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถแย้งพระธรรมคำสั่งสอนในศาสนาของพระพุทธเจ้าได้เเม้ข้อเดียว
*นับวันวิทยาศาสตร์กับพระพุทธศาสนาจะเข้ากันได้อย่างสนิท
#เจริญในธรรม เรียนรู้ศึกษาเพื่อเข้าใจ
*น้อมนำประพฤติปฏิบัติเพื่อเข้าถึง
บบบยบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
Ok.
พระพุทธเจ้าอาจจะกาก กว่าไอน์สไตน์ก็เป็นได้นะ ดูลูกศิษย์วัดจานบินแต่ละคนเอาก็แล้วกัล ขายบ้าน ขายรถ เอามาทำบุญหมดตัวเล้ยยยย 555
ผมว่าวิทยาศาสตร์ล้าหลังกับสิ่งที่พระองค์ตรัสไว้นะครับ จนไอน์ไตน์บอกว่า น่าเสียดายที่เครื่องมือในปัญจุบันยังไม่บางอย่างไม่สามารถได้กับสิ่งที่พระองค์ตรัสสอน
แน่นอนว่าคำสอนของผม ย่อมนิรันดร์ ไม่มีสิ่งใดแย้งได้
มวลปริมาณสิ่งมีชีวิต ไม่มีที่สิ้นสุด นับจุดเริ่มต้นไม่ได้ เป็นอนัตตา มี ๔ คือ
หมู่สัตว์ ๑
สัตตนิกาย ๑
โอกาสจักรวาลอันไม่สิ้นสุด ๑
และพระพุทธญาณที่นับไม่ได้ ๑.
พระไตรปิฎก มมร เล่ม 73/140/6.
เดิมทีเรา จักรวาลมาจากสภาวะอนิจจัง คือความไม่นิ่ง ไหลไม่หยุด แต่กินเวลานานมากจึงจะขยับเป็นอวิชชาอณูเล็กๆเป็นสังขาร วิญญาณ เรื่อยไปจนเป็นปฏิจจสมุปบาทเป็นสิ่งมีชีวิตครบวงจร..
อนิจจัง = คือสภาวะในห้วงอวกาศไม่นิ่ง
ทุกขัง = คืออวิชชา คือความมีอุณหภูมิจากการไม่นิ่ง
อนัตตา = คือความไม่มีตัวตนในความไม่นิ่ง.
ในพุทธกาลผู้หลุดพ้นแล้วไม่ถามว่าตัวเรามาจากไหน เพราะได้คำตอบแล้วคือ อนัตตา ตัวผู้ถามก็ไม่ใช่ตัวตน.
การทำงานที่วิเศษที่สุดในโลกมนุษย์ คือ นักวิจัย ฉันในสถานะองค์ตถาคตเจ้า คือ ฉันวิจัยการทำงานของจิต โดยไม่เเสวงหากำไร หรือ ค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น คือ แสวงหาหนทางดับทุกข์เพื่อพบความสงบสุขอันเป็นนิรันดร์ เมตไตรย คือ ฉายาเรา❤
แสวงหา.ความรุ้เพื่อจะได้หลุดพ้นจากทุกข์#ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก#ชีวิตมนุษย์มีแต่ความทุกข์..เวียนว่ายอยุ่ในชีวิตไม่จบสิ้น(ลองสังเกตดู.ว่าในชีวิตมนุษย์จะเจอแต่.ความทุกข์.ความสุข.เวียนว่ายอยุ่แบบนั้น.ผ่านเข้ามาแล้วผ่านไป.แค่มนุษย์.เอาจิตไปปรุงแต่งให้ทุกข์มากกว่าเดิม..จิตที่ปรุงแต่งทุกเรื่อง.จะทำให้มนุษย์ยึดติดอยุ่กับสิ่งนั้น😊
ผมอายุ21ปี ผมชอบแบบทางวิทยาศาสตร์เชิงศาสนา
ตอนนอนผมชอบกำหนดลมหายใจ
มีครั้งนึงผมเคยเผลอ จิตออกจากร่าง เห็นตัวเองนอนอยู่เพียงแค่เสี้ยววินาทีเองหลังจากนั้นผมเลยสะดุ้งตื่น ความรู้สึกมันเบาสบาย ผมเลยเชื่อมาตลอด
เรื่องแบบนี้ถ่ายทอดกันไม่ได้ต้องลองเอง แบบที่ในคริปบอกเลยซึ่งวิทยาศาสตร์ยากกว่าจะอธิบาย
(ผมไม่ได้บ้า)
ผู้จริญสมาธิจะถอดจิตออกจากกายได้
อายุเท่ากันเลยครับ "ธรรมมะ ก็คือ ธรรมชาติ" "ธรรมชาติ ก็คือ วิทยาศาสตร์" เพราะฉะนั้น ธรรมมะ ก็คือ วิทยาศาสตร์ นั่นเองครับ ขอบคุณครับ
ผมก็เคยเป็นแบบนี้เช่นกันครับ
ทำต่อไปครับอาจได้อภิญญาสามารถเหาะได้หรือไม่ก็ถอดจิตไปเที่ยวในที่ต่างได้ทั่วจักรวาล
สาธุค่ะ.ฝึกไปเรื่อยๆจะเจริญขึ้นเรื่อยๆ
อย่าตกใจหรือรีบร้อนค่ะ.....
คำตอบทุกอย่างอยู่ที่จิตเรานั้นเอง ถ้าเรามีกำลังสติมากพอ ก็จะเห็นทุกสิ่งอย่างได้อย่างแจ่มแจ้ง
สาธุๆนั้นคีอเรีองจริงคะ ไม่มีอะไรเลยแต่เลยเรา แต่เรามายึดมาเป็นเรา พุทธเจ้าท่านเห็นท่านรู้
แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ระดับโลกหลายๆท่านที่ค้นพบทฤษฎีต่างๆมากมาย ก็ยังไม่สามารถเข้าใจอย่างถ่องแท้ ทั้งทฤษฎีสัมพันธภาพ ทฤษฎีควอนตัม ฯลฯ แต่เมื่อสองพันกว่าปีก่อน มีมนุษย์ท่านหนึ่ง ที่สามารถเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างถ่องแท้ และถ่ายทอดความจริงอันสูงสุดให้กับทุกๆคน มายาวนานมาก ไม่มีอะไรที่สามารถมาหักล้างความจริงนี้ได้เลย อย่าลืมว่าในสมัยนั้น ผู้คน-เทคโนโลยี-ความรู้ความเข้าใจในสิ่งต่างๆมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าเทียบกับปัจจุบัน แต่ท่านก็ได้ค้นพบมัน สิ่งนั้นเรียกว่า "ไตรลักษณ์" ตรงกับ "ทฤษฎีแห่งสรรพสิ่ง" ของ ไอน์สไตน์ ถ้าทุกคนสามารถเข้าใจในสิ่งเหล่านี้ได้ ก็จะสามารถตอบคำถามที่อยู่ในใจของตนได้ทั้งหมด และสามารถปล่อยวางได้ทุกสิ่ง เพราะทุกสรรพสิ่งในจักรวาลของเรา ล้วนแล้วเป็น "อนัตตา" ลองไปค้นหาความหมายของคำนี้ดูครับ แล้วจะเข้าใจสิ่งที่ท่านผู้นั้นค้นพบมากขึ้น ขอบคุณครับ
ถ้าถามว่าท่านผู้นั้นคือใคร ลองใช้ปัญญาพิจารณาก็จะรู้ได้เอง ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
คำสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นคำสอนที่ประเสริฐยิ่งนัก ที่ได้อบรมบ่มนิสัยของเพื่อนมนุษย์ ให้มีดวงจิตเห็นธรรม ดวง ตาเห็นธรรม เพื่อที่จะนำดวงจิตสุดท้ายไปสู่ภพภูมิที่ดี🙏🙏🙏
อัศจรรย์ยิ่งนักกับศาสตร์ที่นักวิทยฯค้นพบ หากแต่ว่าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงรอบรู้สากลจักวาล
ขอขอบคุณทีมงานผู้จัดทำด้วยนะครับ...เป็นคลิบที่มีเนื้อหาทางจิตวิญญาณและทางวิทยาศาสตร์ ที่ดีมากๆเลยครับ เรื่องวิทยาศาสตร์ควอนตัม ก็พยายามพิสูจน์และทยอยเปิดเผยรายละเอียดในสัจธรรมต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าฯ ได้ทรงรู้แจ้งด้วยสัพพัญญุตญาณมาก่อนเป็นเวลา 2500กว่าปีที่ผ่านมา...หวังว่าในอนาคตการพัฒนาของควอนตัมฟิสิกส์จะอธิบายเรื่องราวต่างๆ ในทางพระพุทธศาสนา ได้มากกว่านี้ เช่น มีเครื่องมือที่สามารถมองเห็นบางภพภูมิละเอียดที่ทับซ้อนอยู่คนละมิติกับโลกมนุษย์ ถึงแม้วิทยาศาสตน์จะยังตามและอธิบายเรื่องราวในพุทธศาสนาได้ไม่หมดก็ตาม...ก็ขอชื่นชมที่นักวิทยาศาสตร์พยายามพัฒนาและนำความรู้มาช่วยให้โลกเจริญขึ้นทางด้านวัตถุและ Technology....แต่พวกเราทุกคนต้องอย่าลืม การพัฒนาและอบรมจิต ให้สูงขึ้นตาม Technology ไปด้วย...มิเช่นนั้นเราจะเป็นทาส ของวัตถุไปตลอดกาลนานและหนทาง มรรค ผล นิพพาน ก็ดูยิ่งห่างไกลจากเราไปเรื่อยๆ....
ขอให้ทีมงานและผู้จัดทำ ตลอดจนผู้ฟังและกัลยาณมิตรทุกๆ มีความสุข และ เจริญยิ่งๆในธรรมของพระพุทธองค์ และมีโอกาสได้บรรลุ มรรค ผล นิพพาน ในอนาคตกาลด้วยเทอญ....🙏🙏🙏
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
👍
ไหนอธิบายหลักการทำงานควอนตั้มมาที ตอบให้ได้นะ ไม่ใช่หวังแต่จะเคลมผลงานวิทยาศาสตร์
กราบอนุโมทนาในการเผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ครับ แก่นของพระธรรมคำสอนยากเหลือเกินในการเรียนรู้ แต่ก็สามารถทำได้หากฝึกฝนจิตพิจารณา จนถึงความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ในความเที่ยงแท้ที่มีอยู่ น้อมเศียรกราบนมัสการพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานเป็นอนันต์ หากยังไม่บรรลุพระนิพพานแล้วไซร้ ขอเกิดใต้บวรพระพุทธศาสนาทุกภพทุกชาติไป สาธุสาธุสาธุ 🙏🙏🙏
/
฿
เป็นคลิประดับโลกเลยครับ ความรู้ที่พระพุทธเจ้าของเราได้ตรัสรู้ ช่างยิ่งใหญ่นัก และตรงกับวิทยาศาสตร์ด้วย ซึ่งวิทยาศาสตร์ไม่สามารถเข้าถึงได้เทียบเท่ากับพระพุทธเจ้าเห็น ซึ่งท่านได้พูดมาแล้วกว่า 2560 ปี นี้แหละชาวพุทธถึงต้องศึกษาพุทธวจน ให้มากๆ
ไม่เอาครับชาวพุทธปัจจุบันไม่ชอบไหว้ผีพญานาคอย่างเดียว กราบขอนู่นนี่นั่น 😂😂😂
@@theth9246 เพราะไม่ศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้าไงครับเลยหลงทางเยอะ
ขอบคุณธรรมะ (ชาติ) ของพระพุทธศาสนา ขอบคุณวิทยาศาสตร์ของไอน์สไตน์ และนักวิทยาศาสตร์ ขอบคุณผู้ทำคลิปชุดนี้ ที่นำ 2 ศาสตร์มาเชื่อมกัน
จากเวลาที่แต่ละสังขารมีไม่เท่ากัน ธรรมะ (ชาติ) กับวิทยาศาสตร์ ทางไหนคือทางตรง ทางไหนคือทางอ้อม ในห้วงเวลาที่มีจำกัด
แม้เป้าหมายจะอยู่ที่เดียวกัน แต่เวลาเรามีไม่เท่ากัน ไม่ว่าจะเลือกทางไหน เมื่อมุ่งมั่นแล้ว ขอให้ถึงที่หมายกันถ้วนทั่วเทอญ
ผู้พ้นจากวัฏฏะได้เปรียบดังผู้พ้นจากเกมส์นั้น ๆ ไม่ต้องวนอยู่ในกฎแห่งเกมส์วัฏฏะนั้น
อาจเปรียบดุจดั่งผู้ออกจากเมทริกซ์ได้ ก็ไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎแห่งเมทริกซ์นั้น
ในเมื่อทุกที่มีกฎ ไม่อยากอยู่ในกฎ ก็ต้องไม่อยู่มันทุกที่
กฎจักรวาล กฎมิติทับซ้อน กฎแห่งความไม่รู้ กฎแห่งกรอบความคิด กฎแห่งกรรม ฯลฯ ขอให้หลุดพ้นได้จากทุกกรอบกฎเทอญ
(ถ้าหลุดออกไปได้แล้ว หวังว่าคงไม่ติดใจกับมาอีกนะ ...😂😂😂...)
ื
ศาสตร์เดียวในโลก อยู่ในอภิธรรมที่สุดคือ"พระนิพพาน"(พ้นทุกข์)
.. ความรู้ของไอสไตล์เป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในระดับปุถุชนในโลกโลกียะธรรมคือรู้แล้วก็ยังไม่พ้นทุกข์ไม่สามารถดับทุกข์ได้ชีวิตยังต้องเวียนว้ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏอยู่นั่นเอง ส่วนความรู้ของพระพุทธเจ้าเป็นความรู้ในโลกโลกุตระธรรมอันจะนำไปสู้การดับทุกข์สู่วิมุติสุขที่ไม่ต้องเวียนว้ายตายเกิด คือพระนิพพานนั่นเอง...
ก็แค่พวกดมกาวนะกูอยากขำจริงๆ55มาหาเรื่องกับกูได้นะ ตรัสรู้ไม่มีวันเป็นจริงคิดหรือทำดีได้ คนเรามีอายุที่ต้องดับลงคือความตาย แสงเกิดจากความมืดที่เทพบรรพการ ขี้เกียจเขียนเอาเป็นว่ากูรั่วคนบ้า555
ตำราทางศาสนาที่เราอ่านส่วนมากเขียน เรียบเรียง..หลังไอน์สไตน์
ตายไปเดี๋ยวก็รู้
นี่แหละที่จะบอกว่าไม่เหมือน นักวิทยาศาสตร์บอกว่า มิติทับซ้อนกัน นรก สวรรค์ โลก ทับซ้อนกัน ส่วนพระพุทธเจ้าท่านทรงอธิบายระยะทางของความห่างไว้ชัดเจน คือ นักวิทยาศาสตร์นั้นมั่ว แต่คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นจริง
ความรู้มนุษย์มีขีดจำกัด
จะเทียบกับพระพุทธองค์ไม่ได้เลย ดั่งเม็ดทราย 1 กำมือไปเทียบกับทรายทั้งโลก
พระพุทธเจ้าสอนว่า#อย่าหลงเชื่อใคร#ถ้าไม่ได้#ปฏิบัติด้วยตัวเอง.จน.ตื่นรุ้
ถ้าถามว่าอะไรที่เป็นจริงแท้ในจักรวาลนี้
คือพุทธวจน คำพูดของพระพุทธเจ้า
ผมเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าอย่างไม่หวั่นไหว #ศิษย์ตถาคต
ขันธ์ุ5 มีรูป เวทนา สัญญา สังขาล วิญญาณ มันก็มีอยู่จริง "แต่" มันไม่มีในสมมุติบรรญัติ เราเป็นทุกข์เพราะเรารักในการยึดถือว่ามันจริง มันเป็นอยู่อย่างนั้นจริง แต่ถ้าเรามีความเห็นว่ามันสลายได้ไม่เที่ยง เราก็จะไม่ยอมรับว่ามันมีอยู่จริง เพราะเราจะมีความรู้ว่ามันเหนื่อยกับมันที่จะยอมยึดถือ เวียนวนไปมาซ้ำๆอยู่อย่างนั้นอย่างใร้สาระยึดและเหนื่อยกับ มิติลวงตาเราก็จะปล่อยวางมันได้ จะมีความรู้สึกเบาสบาย พระตถาคตพยายามให้เราปล่อยวางดุจตากระพริบได้ คือนิพพานนั่นเอง ความหมายถึงนิพพานคือมีความทุกข์ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ตามกำลังของตนของผู้เป็นเจ้าของตัวที่มีวิญญาณกำกับ จับในรูป จับในเวทนา จับในสัญญา จับในสังขาล และสุดท้ายก็เข้ายึดวิญญญาญ ซึ่งมีแต่ความว่างเปล่า แล้วก็ปล่อยวางวิญญาณในขั้นสุดท้าย เรียกว่าบรรลุธรรมในแต่ละขันธุ์ บางคนก็วางรูปได้เร็วดุจตากระพริบ บางคนวางเวทนาได้ดุจตากระพริบ บางคนวางสัญญาได้ดุจตากระพริบ บางคนวางสังขาลได้ดุจตากระพริบ บางคนวางวิญญาณได้ดุจตากระพริบ บางคนก็วางได้ทั้งหมดในคราวเดียวก็จะเข้าสู่นิพพานได้ ก็จะไม่มีความทุกข์อีกต่อไปเพราะว่าวางได้ หรือตามที่ชอบพูดกันว่าอยู่อย่างเป็นสุข เหตุการณ์ทุกขั้นตอนแล้วมันดับไป ต้องปฏิบัติตามและรู้เห็นตามกฏปฏิจจสมุปบาท เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป อย่างนี้ก็จะหายสงสัย อยู่เหนือโลกใบนี้โดยธรรมจนวาระสุดท้ายของชีวิต คือ ปรินิพพาน แต่ถ้ายังมีครบทั้ง5ขันธ์ุ อยู่อย่างเท่น์...รอปรินิพพาน...เหมือนเนื้อนอนทับบ่วง มีสติรู้ตัวทั่วพร้อม ทุกสถานการณ์ของชีวิต.สาธุจ้า!🙏🙏🙏(Enjoy your life while you can.) 🕵🌍🕵🌍🕵🌍.
ทฤษดีที่นักวิทยาศาสตร์ค้นหามาหลายยุกหลายสมัยและพึ่งค้นพบในสมัยของไอสไตน์ แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงค้นพบที่มีอยู่ตามธรรมธรรมชาติมาและพร่ำสอนบอกชาวมนุษย์โลกมาสองพันกว่าปีแล้ว
สุดท้ายก็ อจินตัย...คิดลึกไปก็มีส่วนจะเป็นบ้า
ศาสตร์ทางจิต วิทยาศาสตร์ยังเข้าไม่ถึง จึงสับสน ถกเถียงกันไปมา หาคำตอบไปเรื่อยๆอีกสักล้านปี พุทธศาสน์อาจคือคำตอบทุกอย่างของวิทยาศาสตร์....ภายใต้ความมี คือไม่มี ภายใต้ความไม่มีคือความมี มันซับซ้อนมาก ยากที่คนในยุคปัจจุบันจะเข้าใจ แต่พระพุทธเจ้าได้ค้นพบไว้แล้วเมื่อกว่า2,500ปี
อย่าพยายามเอาความคิดของปุถุชนไปเทียบกับพระสัพพัญญุตญานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงสั่งสมพระบารมีมาแล้วนับไม่ถ้วน แม้จะเจตนาดีก็ตามที
พระพุทธองค์ทรงได้ค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทรงเพียงบอกเล่าประสบการณ์ที่พระองค์ได้พบ เรียกว่า รู้แจ้ง คือเห็นแจ้งจึงรู้ ก็ด้วยประสาทสัมผัส ที่ต่างจากที่เรามี เป็นอุปกรณ์ที่เรียกว่าจิต และเพียงเราฝึกจิตจนสามารถใช้อุปกรณ์นี้ได้ เราก็จะเห็นแบบพระองค์ได้
เพราะเห็นจึงแตกต่าง..จริงแท้แน่เทียว!
นักวิทยาศาสตร์ รู้แค่หางอึ่ง
เพราะสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมามีมาก
นิพพานคือสิ่งสุดท้ายที่จิต(คน)จะรับรู้
555555555
แต่ก่อนไม่เชื่อเรื่องการเล่นแร่แปลธาตุว่ามีอยู่จริง
พอได้ฟังเรื่องธาตุกับจำนวนโปรตรอน แล้วถึงบางอ้อ
ใช่เลย ครับ เหมือนที่ผมคิดเลย คิดว่าผมบ้าอยู่คนเดียว ผมเคยเห็นจักรวาลในตัวเอง พอตื่นขึ้นมา ก็คิดว่ามันไม่ใช่ความฝัน เพราะมันเหมือนจริงมาก และก็จำได้ทุกอย่าง และจักรวาลก็ไม่ใช่ จักรวาล เหมือนเป็นโลก เป็นร้อยๆ ล้านๆ โลก ที่เราสามารถเข้าไปดู เรื่องราวของผู้คน แต่ละโลกได้ แต่ตอนที่เข้าไปดูได้นั้น มันน่ากลัว เหมือนวิญญาณเราออกจากร่างเลย แล้วกลัวกลับมาไม่ได้เลย
ขอบคุณสำหรับบทความที่ดีดีนี้ด้วยครับ🙏🏻😇
ส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่ามีผู้คนมากมายที่เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารโลกมนุษย์นรกภูมิและสวรรค์ภูมิ
ส่วนคนจำนวนมากมายเช่นกันที่ปฏิบัติตามสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จักรได้ นิพพาน ไปเกิดในภพภูมินิพพาน
ไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารอีกต่อไป 🙏🏻 🙏🏻 🙏🏻
ผมมองว่าอยู่ที่ความเชื่อของคนมากกว่านำมาเชื่อมโยงเองทั้งนั้น บางอย่างยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แต่เอาอะไรก็ไม่รู้มาอ้างอิงกับสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้สะงั้น ไอสไตน์ไม่เคยเอาพระพุทธเจ้ามาพูดหรือรู้จักเลยด้วยซ้ำ ไอสไตน์นับถือ ยูดาห์และกล่าวถึงศาสนาอื่นไม่ค่อยดีด้วยซ้ำ อ้างอิ่งจากจดหมาย(God letter)ของไอสไตน์ อย่าเอามาเกี่ยวข้องกันครับ ศาสนาอยู่ส่วนศาสนา
ขอบคุณสำหรับ แนวคิดเชิงวิเคราะห์ครับ ชอบมาก..ไม่ต้องลึกลงไปแบบละเอียด..แค่ผมมองดู แขนตัวเอง เห็นผิวหยาบๆมีขน เนื้อเเห้ง ย่นๆ ผมก้อรู้สึก ขยะแขยงแล้วครับ.. ในเมื่อเกิดเปนคน ยังหลุดพ้นไม่ได้ ก้อต้องอยู่กับร่างกายนี้ต่อไป..สักวัน ถ้าอยู่ถึง 80-90 ก้อค่อยคิดกันได้เอง ว่า พุทธเจ้าสอนมาดีเลิศทุกอย่าง..
รู้มากเท่าไร รู้น้อยแค่ไหน ? ไม่สำคัญ เท่า จิตสุดท้าย ก่อน ตาย ควรสงบ เท่าที่ฝึกมา สอ้นสุดกระบวนการจัดสรรค์ของ ธรรมชาติ...กฎ ก็คือกฏ มันคือความจริง ของลมหายใจ...ใม่ใช่ นึกคิด จิตนาการ
มาจากการอ่าน ตำรา ...ฟุ้ง ปรุงแต่ง ...
มันว่างเปล่า ...จิตวิธีคิด อารมณ์ ความรู้สึก...เมื่อแยกออกจากกัน ..แท้ที่จริง
มันไม่ใด้แยก จากกัน เพราะมันไม่เคยมีมาก่อนอยู่แล้ว...งยิ่งจินตนาการ มากเท่าไร ...มันก็ไม่มีประโยชน์ ..รู้ไปทำไม ระลึกไปทำไม ..ฌานไหนก็ไร้ค่า ...
เพราะ ...มัน ไม่เคยมีอยู่ ...มันว่างเปล่า ..
สุดยอดครับ ตามหามานาน สุดท้ายมันมีเหตุผลสอดคล้อง ผมตารมศึกษาทั้งสองเรื่องมาระยะหนึ่งแล้วครับ นี่ล่ะน่าจะเป็นหนทางสู่ทฤษฐีเดียวครับ
เป็นอีกหนึ่งแนวทางครับ ที่บรรยายไปอาจจะไม่ถูก 100 แต่ถ้ามองเป็นภาพรวมเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาต่อยอดครับจะดีมากเลยครับ
แบบนี้ อีก20นาที รู้ว่าจะตาย ก็เปิด วันพีช ดู ตายไปก็จะเกิดในโลกวันพีชดีครับ
พลังงานทางจิต มีความถี่ที่สูงกว่าพลังงานแสงมากมาย นักวิทยาศาสตร์จึงยังไม่มีเครื่องมือตรวจจับได้...แต่และภพภูมิก็มีคลื่นความถี่ที่แตกต่างกันจึงไม่สามารถมองเห็นกันได้...ทั้งๆที่อาจอยู่ทับซ้อนกันมากมายบนโลกใบนี้ โลกมนุษย์มีแค่3มิติ...ภพภูมิอื่นคงมีมิติที่แตกต่างกัน
ใช่ครับถูกต้องครับ
พระพุธเจ้าเกิดทุกทวีปหลายพื้นที่
ทุกสายงานช่วยโลกได้แค่ปล่อยน้ำทะเลไปดังเดิมหาจุดกั้นน้ำทะเล แต่ต้องเอาสิ่งมีชีวิตขึ้นมาก่อนก่อนปล่อยน้ำทะเลแล้วทุกอย่างที่เราค้นหาจะปรากฎ❤
พระเยซู พระอัลเลาะ อีกหลายหลายองที่พระพุธเจ้ากลับมาเกิดเพื่อสอนแต่น้ำทะเลขวางกันเลยมีคนเอามาแปลผิดผิด คนที่ไม่นับถือศาสนาก้อเพราะว่าเขาไม่ได้รับความรักความเป็นธรรม
#อย่าทอดทิ้งบรรพบุรุษของเราที่อีกฝั่งทะเลทราย
ขอบคุณมากๆครับ เป็นคลิปที่ดีมากๆ
ติดตามช่องเหมือนกันนะครับ ให้ความรู้เหมือนกัน ได้บุญด้วย👍
จิตสุดท้ายก่อนจากไปสำคัญจริงๆครับ พระอาจารย์ผมก็สอนมา คนเราถึงต้องฝึกจิตฝึกสมาธิ
ซูมดูลึกๆในร่างกายของเราไม่มีอะไรเป็นของเราแม้แต่เส้นผมทุกอย่างเป็นพลังงานหมดยกเว้นจิตวิญญาณ
ในร่างกายของเราก็คือธาตุทั้งสี่..ดิน..น้ำ .ลม.ไฟ..ก็มาจากธรรมชาติ.#ธรรมะ...คือ..ธรรมชาติ😊😊😊
🎉ศีลห้ามีกฎวินัยสอนตนเอง
🎉ศีลห้ามีกฎระเบียบสอนตนเอง
🎉ศีลห้าคือไม่มีความคิด
คิดร้ายต่อใคร🎉🎉🎉🎉
สวัสดีครับอาจารย์ หลักแห่งฟิสิกห์ควอนตั้มทำให้เราเบ้าใจสภาวะการณ์หลักการคำสอนของศาสนาอย่างเข้าใจถ่องแท้และสามารถบรรลุใด้ถึงสาระของแก่นธรรมทำความดีใด้สวรรค์ตอบแทนสัมปายภพความสุขคือกุศโลบายอันยิ่งใหญ่ของทุกๆศาสนา🌏🌎🌍Ameen
ขอบคุณทีมงาน..ที่บรรยายได้ละเอียดดี..เปรียบเทียบได้ลึกกับทางฟิสิกส์..ช่วยให้เห็นภาพรวมเป็นอย่างดี..คงต้องฟังซ้ำในหลายตอน..เพื่อสรุปภาพในจินตนาการตนเอง...ขอบคุณมากครับ
เคยอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ทำให้เข้าใจธรรมชาติมากขึ้น
ผมซื้อหนังสือชื่อแบบนี้มาอ่านเมื่อสิยกว่าปีก่อน มันจริงนะ วิทยาศาตร์ยิ่งก้าวหน้ายิ่งเข้าใกล้คำพระพุทธเจ้าตรัสจนต้องเริ่มมองคำสอนศาสนาพุทธกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เขาว่าศาสนาพุทธเป็นวิทยาศาสตร์ เช่นบริบทเกิดตรงไหน ก็ให้แก้ที่ตรงนั้น ตรงหลักวิทยาศาสตร์ที่ว่า อะไรคือสาเหตุของปัญหา ... หลุยส์ ปาสเตอร์สงสัยว่าทำไมเนื้อที่วางทิ้งไว้ในชามถึงเน่าเปื่อยและมีเชื้อรา ... ผู้คนฝั่งหนึ่งหาวิธีถนอมอาหาร ส่วนอีกฝั่งหนึ่งมองว่าเป็นตถตา รีบกินก่อนที่จะเสีย ไม่เอาจิตเข้าไปจับเพราะจะเสียอารมณ์ ... ผู้คนแต่ละฝั่งจะมีวิธีอก้ปัญหาแตกต่างกันครับ
ระหว่างพระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์
1.พระไตรปิฎกของพุทธศาสนาใช้วิทยาศาสตร์
มาเป็นเครื่องมือสำหรับประกอบคำสอนธรรมะ
โดยพระไตรปิฎกยังคงใช้อธิบายธรรมะ
2.ทั้งพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ต่างก็ศึกษา
เรื่องของ “ธรรม” ก็คือ “ธรรมชาติ” เพียงต่างกัน
ที่พุทธศาสนามุ่งเรื่องความพ้นทุกข์ แต่วิทยาศาสตร์
นำมาประยุกต์ให้เป็นประโยชน์กับมนุษย์
ที่เหมือนกันคือ พุทธศาสนาสอนให้รู้ทันตามเหตุ
ปัจจัยหรือหลักปฏิจจสมุปบาท โดยวิทยาศาสตร์
ต้องสามารถพิสูจน์ของที่มาที่ไปได้อย่างมีเหตุผล
ศาสนาพุทธในโลกปัจจุบันผิดเพี้ยนไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้ามาก แม้แต่พระไตรปิฎกของไทยเองก็มีคำสอนของพระพุทธเจ้าประมาณ 30 เปอร์เซ็น มีคำแต่งใหม่ประมาณ 70 เปอร์เซ็น ต้องศึกษาเฉพาะพระสูตรที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เรียกว่า "พุทธวจน" เท่านั้น จึงจะไม่หลงทาง แล้วจะพบว่า ศาสนาพุทธ คือความจริงของธรรมชาติที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้แต่เพียงผู้เดียว วิทยาศาสตร์เป็นเพียงเศษเสี้ยวความรู้ของพระองค์เท่านั้น
ฟังเค้าพุดมา ฟังเค้าว่ามา พวกบ้าวจนะแล้วทึกทักว่าตัวเองถุกสุด เพ้อเจ้อ
ไม่เคยทึกทักว่าตัวเองถูก แต่มีบางคนที่ชอบทึกทักว่่า คนอื่นผิด อยู่เฉย ๆ ดีกว่ามั้ย จะได้ไม่หลงกล่าวมิจฉาวาจา ไม่อยากทำดีก็อย่าทำชั่ว ไม่อยากทำบุญก็อย่าทำบาป
จริงแท้ ครับ แค่ สัมมาวาจา ตามหนังสือพระไตรปิฏก ก็ไม่เหมือน สัมมาวาจา ที่พระอาจารย์เราได้สอนเรามา ท่านท้าให้พิสูจน์ ,,, ,,, เพียงแค่นี้-ข้อเดียวในมรรคมีองค์แปด ก็ปองกันการตกนรกได้แล้ว หรือ นรก-เขาก็ไม่ต้องการเรา แล้ว
การศึกษาเรียนรู้สูงสุดคือการเรียนรู้ตัวเราเองพุทธศาสนา เราเรียนรู้ตัวเองได้สำเร็จมาแล้ว 2565 ปี ระยะเวลาที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายได้ศึกษาเพียงแค่พิสูจน์ (PROVE IT) ว่าเป็นอย่างไร ทำไม อยากรู้ เท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มจากตัวเองก่อนถ้าเรารู้จักตัวตนของตัวเองแล้วการศึกษาสิ่งอื่นจะง่ายขึ้น
ทุกอย่างในจักรวาลน่า เกิด และ ดับ วนเวียน ไม่จบ สิ้น แต่ มนุษย์ มี อายุ ไม่เกิน 100 ปี
มีจิตตั้งมั่น มองเห็นโลกตามความเป็นจริง...ได้มาประโยคเดียว หลังจากศึกษาคำสอนของพระศาสดามาหลายปี
ช่วยอธิบาย ข้อดีข้อเสียของ การเพ่งแสง แสงดวงอาทิตย์ ด้วยครับ ทำพฤติกรรมนี้มา10กว่สปีแล้ว ช่วยอธิบายด้วยครับ
นี้มันการทำกรรมฐานนี้หว่า
อาโลกสิณ เนรมิตรูปให้มีรัศมีสว่างไสวได้ ทำที่มืดให้เกิดแสงสว่างได้เป็นกรรมฐานสร้างทิพยจักขุญาณโดยตรง
เพ่งเพื่อก่อให้เกิดสมาธิ บรรลุ มรรค ผล ก็ได้อานิสงส์ตามนั้น
เพ่งเพื่อคุณวิเศษ เฉย ๆ ตาจะเป็นต้อและบอด แต่ไม่ลดละก็จะบบรลุธรรมเช่นกัน
ค้นเรื่อง อาโลกกสิณเพิ่มเติม ดีกว่าครับ
ไปที่ประเทศเนปาลครับ พระราชวังสวยงามมาก Unseen เบอร์ 1 ของโลกครับ
เห็นเองตั้งแต่เด็กว่าภพภูมินี้ซ้อนกันอยู่จริงๆ เพราะสิ่งที่เราเห็นแม่มองไม่เห็น
*_👉คุณมีสัมผัสพิเศษเหรอครับ_*
อะไรครับเนี่ย🤣
สุดยอดมากๆเลยครับทุกๆอย่างเกี่ยวเนื่องกันหมดเลยอยู่ที่ว่ามนุษย์ยุคๆนั้นค้นพบได้มากน้อยแค่ไหนยิ่งค้นพบมากเท่าไหร่ยิ่งตรงกับคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สิ่งที่มนุษย์เราไม่สามารถมองเห็นไม่สามารถพิสูจน์ได้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีจริง เพียงแต่ว่ามนุษย์เรายังมองไม่เห็นยังพิสูจน์ไม่ได้แค่นั้นเอง
จะเอาไอน์ไปเปรียบเทียบกับคนอื่นก็ได้ ยกเว้นนำมาเปรียบเทียบกับพระพุทธเจ้า มันคนละชั้นกัน
กราบสาธุครับ🙏😊😊🥰
ขอบคุณครับ🙏🥰😊
ขออนุโมทนาสาธุในความดีในบุญกุศลในธรรมด้วยน่ะ
🙏สาธุครับ😊😊❤
ความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้ายิ่งใหญ่เหนือกาลเวลา เรียกว่า อกาลิโก ผมโชคดีมากที่ได้ฟังคำสั่งสอนและปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธองค์
มันเป็นเรื่องของแสง
มันเป็นเรื่องของอะตอม
แล้วทำไมอะตอมถึงได้จับกลุ่มหน้าตาแตกต่างกันไป
จริงอยู่ตัวเราคือการรวมตัวของดีเอ็นเอต่างๆ
และการสัมผัสคือการตอบโต่ของอะตอม
และแสงเป็นได้ทั้งคบื่นและอนุภาค
เคลื่อนที่ในความว่างเปล่า
ตัวเราเองก็เช่นกันไม่ใข้หรือ
จิตเราเองก็เข่นกันไม่ใช้หรือ
ตรวจไม่พบก็เป็นเพียงคลื่นพลังงาน
เมื่อตรวจพบก็แสดงตัวเป็นอะตอมมีรูปร่างๆ
17:09 "อกาลิโก"
ขอบคุณที่เอามาเล่าให้ฟัง
ทุก ย่อหน้าใจความ ทำเอา"ว้าววว" และ "อ๋อ" ตลอดเนื้อหาเลยค่ะ
รวมเรื่องจักรวาล ที่เป๊นคำตรัสของพระศาสดาจริงๆครับ ua-cam.com/video/Hc7m84yL_Ys/v-deo.html
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้ค่ะ ขอให้บุญรักษา พระคุ้มครองพบแต่ความดีไม่มีทุกข์ตลอดกาลนะคะ
🎉ศีลทั้งห้า ก็คือตรวจภาวะ
จิตใจคน 🎉🎉🎉
🎉และคนก็ปฎิบัติตน สอนคนได้ มีขอบเขตตัวเอง
เป็นระเบียบสอนตน ในกฏทำดี มีวินัย🎉🎉🎉ของตน
เยี่ยมมากค่ะ คุณทำได้ดีมากๆ ขอให้ช่วยทำอะไรดีๆที่มีสาระดีๆแบบนี้ออกมามากๆนะคะทั้งประเทศไทยและทั้งโลกจะได้ตาสว่างกันเสียทีค่ะ ขอให้คุณและคณะของคุณจงมีแต่ความสุขควมเจริญทั้งทางฏลกและทางธรรมโดยมีปัญญาธรรมนำปัญญาโลก และก็ขอให้ได้บรรลุธรรมแท้ในขั้นโสดาบันเป็นอย่างต่ำ และในขั้นอรหันต์เป็นอย่างสูงก่อนละธาตุขันธ์(หลังได้ธรรมแท้แล้ว)ไปจากปัจจุบันชาตินะคะ ขอบคุณค่ะ
เช่นเดียวกับ"นิพพาน"หรือความว่าง ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้เพราะเป็นวิมุต ต้องปฏิบัตรเองเพื่อรู้แจ้ง จิตก็เป็นเพียงธรรมธาตุ หรือธาตุรู้ ที่เปรียบคล้ายอวกาศธาตุไม่มีตัวตน ไม่เคยเกิดไม่เคยตาย แต่สัตว์โลกหลงยึดด้วยอวิชชาจึงหลงมาเกิดมาตายไม่มีวันจบสิ้น เมื่อเห็นธรรมจึงจะเห็นตถาคต
สิ่งต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์ ที่ค้นพบ..ทึ่คิดว่าใหม่ทันสมัย..แค่ไหนก็ตาม...
คือสิ่งที่ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า..ได้ ค้นพบ และ กล่าวไว้ทั้งหมดแล้ว...สาธุ...
และสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์รู้ ค้นพบ ก็เปรียบได้ดังหยดน้ำกับมหาสมุทร(เมื่อเทียบกับพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นสัพพัญญู)
แล้วพระพุทธทำไมเค้าไม่เขียนหรือบอกกล่าวถึงเรื่องหลุมดำหรอครับ แรงโน้มถ่วง ควอนตัม หลุมดำ ไฟฟ้า ล้วนมาจากนักวิทยาศาสตร์ครับ
@@asstasin2 ถ้า ทรงบอก หรือใครนำมาเขียนในสมัย ๒๕๖๖ ปีมาแล้ว ใครเล่า จะพอจะเข้าใจได้ สู่ทรงสอนให้ รู้ธรรม + เห็นธรรม (ญาณ + ทัศนะ) ก็หายสงสัยเองได้
ใช่ที่สุดถูกที่สุดสำหรับคลิปนี้ มนุษย์เริ่มรู้ถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่และสิ่งนี้จะนำพาให้มนุษย์มีการเปลียนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับมนุษย์ชาติในการพัฒนาในทุกๆด้านในอีกไม่นาน รวมไปถึงด้านเทศโนโลยี่ มนุษย์จะสามารถพัฒนาเครื่องจักรกลหรือยานที่ข้ามกาแล็คซี่ได้ หรือแม้แต่ข้ามเวลา จะเห็นได้ชัดเจนว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล ที่เป็นใจความสำคัญที่สุดของจักรวาล ทั้งเทศโนโลยี่การเดินทางที่ไปได้ทุกที่ในจักรวาล หรือแม้แต่ข้ามไปสู่มิติภาพอื่นๆ ด้วยพลังงานที่ไม่มีวันจบสิ้น จากพลังลังงานรอบตัวเรา ด้วยพลังงานที่ระเอียดที่สุดในจักรวาลและเป็นพลังงานที่เป็นที่สุดของพลังงานทั้งหมดในจักรวาล เมื่อใดที่มนุษย์สามารถสร้างเครื่องจักร ที่เป็นตัวแปลพลังงานเหล่านี้ได้ มนุษย์ก็จะสามารถมองเห็นและเดินทางไปได้ทุกที่ ทุกจักรวาล ทุกมิติ สามารถสำผัสสิ่งที่ไม่เห็นในมิติอื่นได้
ศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับวิทย์กับธรรมมาวิทย์ตามธรรมไม่ทันค่ะ ตถาคตคือสุดยอดจริงๆ สาธุ
อธิบายได้ดีมาก ภูมิจิตมีอย่างไรก็เห็นเป็นอย่างนั้น เห็นในระดับอิเล็กตรอน เห็นในระดับอะตอม หรือในระดับสสาร แต่มันก็ตั้งอยู่ไม่ได้ตลอดไป มันเกิดและดับเวียนว้ายอยู่ในความเห็นนั้นแหละ จักรวาลจึงเป็นของสมมุติชั่วขณะเท่านั้นเอง มันเป็นธรรมชาติ เป็นควันตั้ม
แต่ถ้าผู้ใดบำเพ็ญจิตให้หลุดพ้นออกมาจากความเห็นได้ ก็เข้าถึงความว่าง จึงไม่ต้องตกอยู่ในความเกิดและดับ อยู่เหนือกาลเวลา ทุกอย่างก็จบหมดทุกข์
ผมฟังช่องต่างๆมาก็มากแต่ที่สะดุดหูก็คือน้ำเสียงและจังหวะจะโคนในการอ่าน การถ่ายทอดอารมณ์ ผู้อ่านทำได้ดีมากขอชื่นชมครับ
ขอบคุณครับ : 🥰
เห็นด้วยครับ
ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆนะคะ ฟังแล้วทำให้มองโลกง่ายขึ้น ใช้ชีวิตให้ทุกข์ลดลงและมีความสุขมากขึ้นค่ะ
ผมชอบ ศึกษามากพุทกับวิท ของจริงครับจับต้องได้ จิตนี้และครับสำคัญมีโอกาศผมจะบวชดูให้เห็น
ฝึกสมาธิด้วยความโลภ คงยากที่จะเห็นความจริง
สาธุค่ะ 😊
นั้นแหละครับคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ว่าว่าจริงแล้วควอนตั้มคืออะไร
แล้วทำไมพระพุทธเจ้าถึงพ้นจากทุกข์เพราะไม่ทีตัวไม่มีตน ทุกข์จากอะไรทุกข์จากการยึดมั่นถือมั่น ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับระดับจิตใจของใครชองมันด้วยขึงขะปล่อยวางไปได้มากหรือน้อยในการเข้าใจว่าทุกอย่างในเอกภพนี้มันไม่มีจริง ทุกอย่างเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางควอนตัมให้เป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ในไดเมนชั่นที่มนุษย์เข้าใจและสัมผัสได้
เท่าที่รู้มีแค่เรื่องเดียวที่ตรงทฤษฎีควันตัม
คือการสังเกตเหตุการณ์ หากไม่มีการสังเกตก็ไม่มีคำตอบ ตามทฤษฎีแมวในกล่อง
ที่ตรงคือ หากไม่สังเกตจิต มันก็ผันผวน หากเราสังเกตมันถึงจะเห็นคำตอบ หากไม่สังเกตคำตอบก็คงผันผวนอยู่ และภาวะจิตมันละเอียดและเล็กมากๆ เท่ากับควันตัม… เท่านั้นเอง
และทุกครั้งที่เราพิจารณา เวลาของทั้งสองสิ่งจะเท่ากัน เราเลยไม่สามารถกำหนดระยะสังเกตุเพื่อพิจารณาให้ละเอียดขึ้นอีกต่อไปได้ เราจำเป็นต้องหยุด และสังเกตุเหตและผลสองที่ในเวลาเดียวกัน เราจึงจะพิจารณาความต่างเพื่อวิเคารห์ให้เห็นแจ้งได้ นั่นคือปัญหาที่พึ่งเจอ CERN 13.6TeV 🙃
ขอบคุณสารคดีนี้ค่ะ เปิดโลกจริงๆ เราต้องใช้เวลากับการจัดการสติมากขึ้น คลื่นมากระทบสำคัญมาก มีแต่ข่าวร้ายๆที่ไม่ค่อยเกี่ยวกะเรา แต่เราชอบไปยุ่งเหมือนประสบเอง เหมือนabsorbสิ่งไม่ดีก็ดึงดูดเรื่องที่คนอื่นโชคร้าย ไม่จำเป็น ไม่มีประโยชน์กับจิต กับการกำหนดคลื่นที่ดึงชีวิตขึ้น ข่าวต่างๆไม่ค่อยนำเสนอสิ่งดี เขาแค่ปั่นต้องการยอดวิว เราเห็นด้วยค่ะ แสง กาล ระยะทางคือมายา วินาที,ปฏิทินรึปีแสงมีจริงไหม? มนุษย์สร้างขึ้นเองล้วนๆ มนุษย์สามารถกำหนดระยะทางจากแสงเดินทางได้จริงหรือ? ในอวกาศแสงเดินทางอัตราเร็วตรงกับแสงในโลกจริงหรือ? เคยรับรู้อัศจรรย์ทางวิทยาศาสตร์ พระอาทิตย์ก็มีบิ๊กแบงระเบิดเกิดตั้งอยู่ดับไป ใหญ่กว่าพระอาทิตย์ยังมี หลุมดำ เนบิวล่าร์ใหญ่กว่าพระอาทิตย์ซึ่งมีทั้งไม่มีแสงและมีแสงเรืองรองดุจแสงเหนือ ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อน จักรวาลซ้อนกันมีอยู่จริง เครือญาติที่ตายไป อาจกลับเป็นลูกหลานให้เลี้ยง มาเจอกันอีก ยิ่งโตยิ่งนิสัยคล้ายบรรพบุรุษอุปนิสัย ความชอบ มันมีอยู่จริง เรายังอยากสืบเสาะการทำงานของจิต ว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าพูดจริงทุกอย่างไหม? เราเชื่อว่าพระพุทธเจ้าเป็นจริง แต่ก็มีเดียรถีย์ ชนชั้นปกครอง เอาศาสนามากำกับ หาประโยชน์จากคนงมงายกดคนให้ต่ำกว่าเท้าอยู่เยอะเพื่อสะสมเงินทอง กลายเป็นพุทธพานิชย์ แต่เรายังเชื่อมั่นคำสอนพระพุทธเจ้าที่เชื่อมโยงกะวิทยาศาสตร์รับรู้ได้ด้วยตนเอง เมื่อ"ตัวรู้" เกิดขึ้น ชอบฟังวิธีฝึกจิตแบบ หลวงตาเยื้อน ขันติพโล ท่านคือพระอริยะที่ตื่นรู้ ธรรมะของท่านpureมาก ไม่เคยอวดรู้รึยกตนข่มท่านผู้ใด
ฟังการบรรยายชุดนี้แล้วยิ่งอัศจรรย์ของการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เมื่อก่อนเคยพยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับวันเวลาของสวรรค์กับโลกมนุษย์ เช่น50ปีเมืองมนุษย์เท่ากับหนึ่งวันของสวรรค์ชั้นจาตุมมหาราช สวรรค์ชั้นล่างสุด
ส่วนสวรรค์ชั้นบนสุด1600ปีเมืองมนุษย์เท่ากับหนึ่งวันที่นั่น น่าอัศจรรย์ เท่ากับวิทยาศาสตร์ค้นพบสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
ต้องฟังหลายๆ รอบค่ะ เเต่ก็พยายามทำความเข้าใจ จนมาอธิบายถึงการขยายเหรียญบาทค่อยใกล้บางอ้อเข้ามาอีกหน่อย😊
สาธุสาธุสาธุ🙏🙏🙏 อนุโมทนาบุญนะค่ะ ดิฉัน ศึกษาธรรมะอยู่ค่ะ รู้สึกว่า สอดคล้องต่อหลักธรรม มากเลยค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ส่วนนึงนะค่ะ🙏🙏🙏
นรกสวรรค์ดรรมและมหานฤพานมีอยู่ในทุกอณู ผู้ค้นคว้าอย่างจริงจังจึงจะพบและมีความเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งสาธุๆๆ!!!!!
ขอบคุณสำหรับความรู้้
เจ้าพุทธเจ้า ถึงได้ห้ามภิกษุ ฉี่ลงดิน🙏🙏🙏
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั่นเห็นเรา ไฮน์สไตล์ ยังไม่ถึงขั้นนั้นคับ
บรรยายได้เข้าใจง่าย ทำให้ผมรู้สึกว่าเออจริงว่ะ
ลึกซึ้งยิ่งนักต้องฟังหลายๆรอบ
ดีมากๆคับ
FC ครับผม ทำคลิปและบรรยายได้น่าฟังลงตัวดีเดียวครับ
ขอบคุณครับ พี่เชิด
ขอบคุณมากค่ะ เข้าใจง่ายและเข้าใจธรรม กับวิทยาศาสตร์ไปพร้อมกันดีค่ะ
จิตมนุษย์เล็กกว่าควอนตัมจึงสามารถมองเห็นทางจิตได้และนี่แหละจะมองเห็นจุดกำเนิดของจักรวาลและการวิวัฒนาการสู่สรรพสิ่งในจักรวาลที่ไอสไตยอยากรู้แล้วจึงใหญ่ขึ้นในระดับควอนตัม อะตอม โมเลกุล มวล ดวงดาว และภาพที่เห็นในปัจจุบัน สำหรับวิญญาณมีอยู่จริงและสามารถสร้างแสงให้กับตัวเองได้ถ้าตายใหม่ๆแสงวิญญาณสู้แสงตอนกลางวันได้ถ้าตายนานแล้วจะสามารถมองเห็นในที่มืดเหมือนที่เรามองเห็นดาวตอนกลางคืน ส่วนที่กล้องจับภาพไม่ได้เพราะวิญญาณมิได้ปรากฏตัวให้เห็น
อยากรู้เรื่อง การเกิดขึ้นและดับลง ของวิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนา ครับ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น มันต้องเกิดขึ้นและดับลง วนเวียนแบบนี้ซำ้ๆหรือป่าวครับ
ครับ อัคคัญญสูตร ชัดเจนครับ
แต่เรื่องวิทยาศาตร์ และพุทธศาสตร์ ก็เช่นกันครับ ตามกาลเวลา ( เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปคือกลับไปจุดกำเนิด )
สิ่งที่พิสูจน์ได้ คุณว่าพระพุทธเจ้าสมณโคดมตรัสไว้ว่า " ในอดีตกาลมีพระพุทธเจ้าผ่านมาแล้วกี่พระองค์ " นั่นแหละครับ
เช่นเดียวกับ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี อารยธรรมที่ล่มสลายในอดีตของโลกเรา เช่น แอตแลนติส หรือ พีระมิด สิ่งเหล่านี้บ่งบอกชัดเจนว่ามนุษย์ในยุคนั้น มีเทคโนโลยี ที่ก้าวหน้ามาก และล่มสลายไปในโลกของเรา ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ใช้ครับ เกิด ดับ คือ ความจริงของมัน มีในพระไตรปิฎก ว่า การเกิดแรกเริ่มคือ ความไม่คงที่ไม่สามารถทนยูได้ ด้วยเหตุและปัญใจ มีในภาษาธรรมคือ อนิจจังทุกขังอนัตตา ไม่มีตัวตนไม่มีพระเจ้าที่ไหน มนุษต่างดาวอาจมี แต่ไม่มีใครสร้างใครแน่นอน เพราะเกิดจากความจริงหนึ่งเดียววว่างยุมายาวววนานมาก จริงมีเหตุ การก่อเกิด สมมุติขึ้นด้วยการรวมตัวของพลังงานด้วยความไม่คงที่ บิ๊กแบง เกิดขึ้น เหมือนเม็ดต้นโพเล็ก การเกิดที่ขยายไปเลื่อยๆ จนต้นใหญ่ ต่อมาสัพสิ่งเกิดโดยกดธรรมชาติ ในต้นโพธิ์ นั้น มีหนอนเกิดขึ้น มีแมลงวิวัฒนาการขึ้น ธาตุ ที่เป็นพลังงานเดิมพต่างกันหลากสี ที่เรียกว่าจิต เข้าจุติสุ้สัตว์น้อยใหญ่ ตามวาละตน ออกมาเป็นจริตนิสัยต่ายกันไปด้วยสีของพลังงานละเอียดที่ยุในจิตเราตอนนิ แต่เวลายาวนานมาก เราไม่อาจเจอ แต่พอเข้าใจได้ ความจริงแท้คือ ไม่มีอะไรเลย ว่างเปล่า แต่จิตดวงนี้ยังไม่พ้น ยังไม่เข้าใจ ต้อง ปฎิบัติ บรรลุ พิจารณาขันได้หลุดสมมุทไปจะพอเข้าใจ แต่คนสมัยก่อนไม่รู้จักคำว่าวิทยาศาสตร์ แต่มันคือสิ่งเดียวกัน แต่กะนั้นสมัยนี้ก็สอนแบบนั้นไม่ได้ เพราะมันเป็นภาษาของพระพุทธเจ้า เปรียบเหมือน คนอิสานทำสมาธิปฎิบัติธรรมไป เห็นธรรมข้อนึง แล้วมาสอนคนว่า ธรรมข้อนี้มันคือ ซื่อปลาแตก ต่อมานักวิทยาศาสตร์ศึกษาพลังงานไป เอาไปตั้งซื้อว่า ปลาล่า แล้วคนที่มาอ่านไม่เคยเห็นหรือไม่ได้บรรลุมรรคผล เข้าใจว่า ปลาเป็นปลาที่เหนื่อย
ปลาแดกคือปลาที่กินเยอะ พอปฎิไป เห็นเองรู้เอง อ้อ นี้คือภาษาสมมุติ อันที่จริงมันคือปลาที่เอาไปหมัก จะเป็นปลาแดก หรือปลาล่า กะอันเดียวกัน
เหมือน วิทยาศาสตร์ กะ พุทธเจ้าสอนไว้ในเบี้ยงลึก ทินิจะไม่สงสัยพระไตรปิฏก เลย เพราะเห็นของจริงละ พระไตรปิฎกไม่ผิด แต่คนที่อ่านและไม่ปฎิบัติเข้าใจเองตามสภาวะจิตตัวเองไปต่างๆนาๆ
@@วินมาวิน-พ7ญ ครับ เขียนมา ดีมากครับ ขอขอบคุณ ยิ่ง
คุณลองไปจับเปลือกไม้ยางรถกางเกงยีนก้อนหินแล้วเอามานั่งต่อเทียบลายเส้นของมันดูสิ..มันตรงกันทุกอย่างทั่งๆที่มันคนละมวลสาร..แปลกอิหลีเดะ
🙏🙏🙏Thank you Sir!
จิต..เป็น..อกาลิโก..เชื่อมกันเป็นเนื้อเดียวกัน
ในเชิงควอนต้ม..อดีต ปัจจุบัน อนาคต เชื่อมเข้าด้วยกัน..เป็นอนันต์..เกิดหรือตายอยู่ในอกาลิโก
โยงกันแบบจับแพะชนแกะมากเลยครับ แต่ละเรื่องที่เชื่อมโยงกันแบบไม่ได้มีลอจิคอะไรเลย แบบนี้ผมสามารถสร้างคอนเท้นท์อัลเลาะห์กับควอนตัมได้ไม่ยากเลย แม้แต่โดราเอมอนกับควอนตั้มก็สามารถโยงได้เช่นกัน แม้แต่การอ้างทฤษฎีควอนตั้มที่ว่า "จักรวาลแต่ละจักรวาล จะมีลักษณะเหมือนจริง ตามที่สติรับรู้" ไม่ทราบว่าตรงนี้อ้างอิงคำพูดของใคร แล้วมันเกี่ยวกับทฤษฎีควอนตั้มยังไง
เรื่องสุดท้ายที่ชอบโยงกันก็คือ การดิสเครดิตคลาสสิเคิลฟิสิกส์ แล้วอวยควอนตั้มฟิสิกส์
เอาจริงๆในทางฟิสิกส์ สองทฤษฎีนี้เกื้อหนุนกัน ไม่ได้มีส่วนขัดแย้งกันเลย แค่ควอนตั้มเป็นสิ่งที่ใหม่กว่า เรารู้อะไรเพิ่มเติม มนย่อมเปลี่ยนแปลงความเข้าใจผิดเดิมๆที่มีอยู่บ้าง ก็ปรับให้มันตรงตามความเป็นจริงมากขึ้น ส่วนอื่นๆที่มันถูกอยู่แล้วก็ยิ่งเข้าใจความถูกต้องได้ลึกซึ้งขึ้น อนาคตถ้ามีองค์ความรู้ใหม่เพิ่มขึ้นมา ทฤษฎีฟิสิกส์ก็ต้องมานั่งเช็คความถูกต้องอีกรอบ เป็นแบบนี้วนไปเรื่อยๆจนกว่าจะเข้าใกล้ความจริงของธรรมชาติที่สุดแค่นั้นเอง
นั่นสิงมงาย
Bias ล้วน ๆ เลยยิ่งการไม่มีศาสนาตอนจะตายจะอันตรายไม่เห็นด้วยเลย ยิ่งบอกว่าถ้าไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยว สมาธิจะไปภพภูมิไม่ดี ถ้างั้นสมมุติก่อนตายผมนึกถึงการคำนวณโจทย์เลข แบบมีสมาธิละตายก็ได้ไหม? อีกอย่างคนถ้าแบบนี้คนเกิดก่อนมีศาสนาคือ ไปไม่ดีหมดหรอ บางอย่างเขียนแบบจับนั่นนี่มาล้วน ๆ หนังสืออันนี้
@@melodylife5365 ที่กล่าวว่าถ้าตายแล้วคุณนึกถึงโจทย์เลขแบบมีสมาธิละตายก็ได้ค่ะ ไม่ใช่ไม่ได้ แต่ที่น่าห่วงคือถ้าคุณตายคุณจะนึกถึงโจทย์เลขหรือตั้งสมาธิทันมั้ย ถ้าไม่เคยฝึกจิตมาก่อน ลองนั่งสมาธิสักห้านาทีมั้ยคะ แล้วคุณจะรู้ว่าในห้านาทีนี้คุณไม่ได้แค่คิดได้แค่โจทย์เลขอย่างเดียวมันจะมาอีกหลายเรื่องเลยในความคิดคุณ ถ้าศึกษาตามศาสนาพุทธเรามองทุกอย่างตามหลักเหตุและปัจจัย ถ้ามองว่าตายแล้วสูญก็แค่เสมอตัวค่ะ คนในศาสนาพุทธหรือศาสนาอื่นก็แค่เชื่อผิดๆ แต่ถ้ามันไม่สูญละ คุณพูดคิดแบบนี้ได้เพราะยังไม่เคยตาย คนตายแล้วก็มาพูดไม่ได้ค่ะลองศึกษาด้วยตัวเองดูนะคะ เพราะที่คุณลงความเห็นมายังไม่ได้ศึกษาในด้านศาสนาเลยคุณก็ bias เหมือนกัน
@@TheLadacora ผมว่าถ้าคุณยังไม่แจ้งก็ไม่ต้องมาบอกกล่าวดีกว่าครับ มันเหมือนการมโนไปเอง จะสอนคนอื่นตัวเองต้องรู้แจ้งก่อนดีกว่า ถ้ายังไม่ใช่ก็เงียบๆ แล้วนั่งทำสมาธิไปครับ จนแก่ตายไปเองแบบงง ๆ ว่าทำไปทำไม
@@melodylife5365 ไม่ได้มีเจตนาสอนเลยค่ะ ขอโทษหากทำให้มองเป็นเช่นนั้น แค่กล่าวให้เห็นแง่มุมศาสนา คุณเองไม่มีทฤษฎีใดมาแย้งเช่นเดียวกัน ไม่ต้องคิดไปถึงความตายไกลขนาดนั้นก็ได้ค่ะ คุณยังไม่ลองจะรู้ได้อย่างไร อย่างน้อยสมาธิก็เป็นการให้อยู่รู้ในปัจจุบัน คุณลองดูสิค่ะ จะได้เป็นผู้มีสติ …. สมาธิดีอย่างไร เยอะมาก ลองหางานวิจัยต่างๆ ใน Googleได้ค่ะ ดิฉันไม่ได้มโนไปเอง (เมื่อกี้เหมือนจะพิมพ์ตอบไปแล้ว หากขึ้นอีกรอบขออภัยนะคะ) ua-cam.com/video/nKESbiVM0oM/v-deo.html อันนี้วิดิโอแนะนำการทำสมาธิและฝึกสติค่ะ เผื่ออยากหางานวิจัยมาอ้างอิง ua-cam.com/users/liveRtI92HjYAVI?feature=share
ขอบคุณมากครับที่ลูกๆๆหลานผม
ทำไมต้องลดตัวไปโหนวิทยาศาสตร์ครับ
สร้างสีสันให้คนสนใจไงล่ะ
ผมเป็นนักศึกษาสายวิทย์มาดูครับ รู้สึกว่าช่วยให้เห็นมุมมองใหม่ๆมากขึ้น มีประโยชน์ครับ ยิ่งสำหรับคนที่เห็นแต่มุมมองด้านวิทยาศาสตร์มาอย่างเดียว
พุทธะ Buddha ผู้รู้แจ้ง enlightened person Buddha science and Buddha religion ความรู้อย่าง
เป็นวิทยาศาตร์ของตะวันออก เป็นวิทยาศาสตร์สากล Universal science ที่อธิบายครอบคลุม ทั้งจักรวาล ซึ่งได้ถ่ายทอด ผ่านทางพุทธศาสนา เริ่มมีการผิดเพี้ยนเมื่อ ผ่านมาเพียง 500 ปี เริ่มกลับไปยึดติด อัตตา โดยการสร้างพระพุทธรูป ขึ้นมากราบไหว้ ประกอบความเชื่อในสิ่งศักดิสิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ พิธีกรรม คำสวด ในขณะที่ วิทยาศาสตะวันตกได้พยายามผลิต คิดค้นเครื่องมือเพื่อการพิสูจน์ แล้ว วันหนึ่ง ความเข้าใจจะเป็นหนึ่งเดียว สันติสุขจึงจะเกิดในโลกนี้