Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
เลิกดูในโรงนานมากแล้ว ดูหนังผีเจอคนคุยกันคุยไม่หยุด หนังฉายไปพักใหญ่มันก็ไม่หยุด พอบอกมันก็คุยน้อยลงแต่มันก็แบบทำไม่พอใจพอสตีมมิ่งมาก็จบเลย ดูออนไลนอย่างเดียวไม่ได้อรรถรถเท่าโรงแต่ไม่ต้องเสียค่าตั๋วและไม่ต้องลุ้นเจอพวกคนนี้
ตอนมอปลายเคยขับรถไปส่งเพื่อน น่าจะ2ทุ่มกว่า ขับไป2คัน 3คน สมัยก่อนรอบนอกเชียงใหม่ เปลี่ยวมากๆรถน้อย ขากลับทางโค้งนึงเห็นผชใส่เสื้อขาวหน้าตาดียืนอยู่มืดๆ แอบแซวในใจว่า มายืนทำอะไรคนเดียวสุดหล่อ พอกลับถึงบ้าน ต้มมาม่าอยู่ชั้นล่าง สายตาปกติคนเราจะมอง180องศา ปลายหางตาเห็นผช คนเดิมยืนอยู่ในบ้านตกใจมาก ไม่กล้าหันไปเลยเดินตัวเอียงวิ่งขึ้นบันได ตอนเช้าไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่าใช่โค้งตรงนั้นไหม เราบอกใช่ เพื่อนบอกว่าอาทิตก่อนมีวัยรุ่นโดนสิบล้อชนตาย2คนตรงโค้งนั้น ผู้ตายใส่เสื้อสีขาวทั้งคู่ ส่วนเพื่อนที่ขับตามมาบอกไม่เห็นอะไรเลย นอกจากเห็นเราที่ชะลอรถแล้วหันไปมองตรงโค้ง แปลกดีค่ะ มาแชร์ให้ฟัง
การยกขานั่งไขว่ห้าง ในโรงหนัง ในรถไฟฟ้า ที่ที่แคบๆ หันเท้าเข้าหาคนอื่น สำหรับผมรู้สึกว่ามันเสียมารยาทเหมือนกันนะครับ ยิ่งในรถไฟฟ้านี่เจอบ่อยมากครับ
ใช่เลยค่ะ รฟฟ.เจอบ่อยมากค่ะ ไขว่ห้างตอนคนเเน่นคือไม่มีมารยาทสุดๆ
เห็นด้วยคะ
เขาจะโชว์กีย์ให้ดูไง
ช่วงนี้ติดช่องนี้มาก เสียงพี่เนสฟังเพลินมาก ยิ่งตอนทำงาน ทำการบ้านคือดี❤
+1
ช่วงนี้จะไปดูหนังในโรงต้องคิดหนัก เพราะ2-3ครั้งล่าสุดที่ไปดูเจอคนไม่มีมารยาทเยอะมาก และล่าสุดที่ไปดูจอนวิค เจอผปคเอาเด็กเข้าไปดู เด็กพูดทั้งเรื่อง ดูไม่รู้เรื่องเลย เสียเงินไปเกือบ300 เอาตั้งไปเสียให้เนตฟริกยังดีกว่า
เคยเจอคนต่างชาติ ตั้งมือถือถ่ายในโรงเลย ตอนแรกเรานึกว่าถ่ายสั้นๆ ลง Story IG เล่นๆ สรุป ถ่ายจริงๆ ไปเลย 10 นาที เรานั่งอยู่ข้างๆ เราไม่โอเคเลย เลยเดินออกไปบอกพนักงานให้มายืนเฝ้าตรงแถวนั้นเลย ตลอดทั้งเรื่อง จะได้จับชีทัน พอเราลุกออกไปปุป แฟนที่ไปกับเราบอกว่า ชีรีบเก็บมือถือเลย แล้วทำท่าทางเหมือนลบคลิป คือ งงมากว่าทำทำไม
ไม่มีเหตุผลครับ ผมก้อเคยนะ 😅
เคยมีครั้งนึง ห้องผมจะเป็นห้องเช่า ในห้องผมก็มีของค่อนข้างครบพวก เตาแก๊ส ตู้เสื้อผ้า เครื่องซักผ้า ก็มี และวันนึงเพื่อนๆมาทำงานกลุ่มที่ห้อง รวมผมแล้วเป็นชาย 3 หญิง 3 พอมาถึงก็ทำงานอะไรกันไป ทำเสร็จก็นั่งนอนเล่นในห้องไปแล้วจู่ๆผู้หญิงทั้งสามคนก็กรีดขึ้นพร้อมกัน ผู้ชายที่เหลือก็ตกใจว่ากรี๊ดอะไรกัน พอถามเลยรู้ว่า พวกเธอเห็นยายแก่ๆคนนึงยืนอยู่หลังเครื่องซักผ้า เพื่อนผู้ชายก็แซวเล่นอะไรกันไป และผมก็นึกได้ว่าข้างบนตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้างๆเครื่องซักผ้ามีอัฐิของยายเก็บไว้อยู่
อยากให้คุณเนสทำเกี่ยวกับ ฆาตกรกิมจิ เป็นคดีของเกาหลีปี 2014 ชอบเวลาคุณวิเคราะห์คดีมากๆ ถ้าหากสนใจและทำคดีนี้ ขอบคุณมากๆค่ะ ติดตามอยู่ตลอดนะคะ
เคยมีตอนเด็กๆ เราไปร่วมงานเทศกาลกินเจที่ภูเก็ต แล้วมันจะมีพระแห่เยอะมากๆ มีกประทัด มีการแสดงอภินิหารของร่างทรงเราซึ่งยืนดูอยู่ข้างถนนก็มองไปที่อีกด้านหนึ่ง เราเห็นคนๆ หนึ่งที่ก็มาดูขบวนแห่เหมือนกันเขาทำท่าแปลกๆ แล้วเขาก็ตัวสั่น จากนั้นเขาก็สั่นไปทั้งตัว มีการส่ายหัวตลอดเวลาเหมือนร่างทรงคนอื่นๆ แล้วก็ส่งเสียงร้อง กับกระโดดไปมา ญาติเราบอกว่าเหมือนได้ยินพี่คนนั้นเขาพูดภาษาจีนด้วยผ่านไปแปบเดียวมีคนดูแลร่างทรงของศาลเจ้าวิ่งเข้ามาแล้วเอาเอี๊ยมสวมหัวให้พี่คนนั้น จากนั้นพี่เขาก็กระโดดๆ วิ่งเข้าไปรวมกับร่างทรงคนอื่นๆ ในขบวน เรายืนมองแบบอึ้งๆ นี่เราเห็นตอนเทพประทับร่างม้าทรงที่เป็นบุคคลทั่วไปกับตาเลยเหรอเนี่ยกับอีกเรื่อง เป็นตอนแห่พระเหมือนกัน แต่คนละปี ระหว่างที่กำลังดูขบวนก็มีม้าทรงวิ่งมา แล้วเอาขวานเล็กๆ ถูๆที่ลิ้น แล้วเขาก็เดินไป แต่พอเราดูที่พื้น โอ้คุณพระ ลิ้นที่มีเลือดชะโลมอยู่มันอยู่ที่พื้น!!!!! พี่เลี้ยงม้าทรงรีบเอายันต์วิ่งมาเก็บลิ้นที่พื้นแล้ววิ่งตามม้าทรงคนนั้นไป ซึ่งเดินๆ กระโดดๆ ตัวสั่น ส่ายหัวไปตลอดทาง ไม่ได้มีทีท่าตกใจเลยว่าลิ้นเขาขาด!!!!แม่บอกสงสัยพี่เลี้ยงต้องรีบพากลับอ้าม (ศาลเจ้า) เพื่อไปทำพิธีออกทรงก่อนถึงพาไปโรงพยาบาลได้บอกเลย 2 เหตุการณ์นี้จำฝังใจเลย ผ่านมา 30 ปีได้แล้วยังไม่ลืมเลย
ประสบการณ์ตอนปี1 ช่วงโควิดฉ่ำ ๆ เลย เราต้องหาเช่าหออยู่เพื่อปรับตัวจากเด็กที่ติดบ้านติดตายาย ต้องปรับตัวมากพอสมควร เราเช่าหอมากถึง3ที่ 555555ปัจจุบันอยู่หอที่3ไม่ย้ายเพราะใกล้จบแล้ว หอแรกเป็นอะไรที่แปลกและแพงมากเป็นหอนอก ซึ่งห้องเราเป็นห้องเลขอะไรไม่รู้แต่จำได้ว่าลงท้าย11 เดินเข้าไปอึ้งมาก ประตูหน้าห้องตรงกับประตูหลังห้อง (เรามีความเชื่อที่ว่าประตูหน้าหลังห้ามตรงกันเพราะเป็นเส้นที่ผ.ผ่าน) ก็เลยเอ๊ะละ เอ๊ะอีกตรงด้านหลังเป็นป่า มองออกไปคือป่าเต็ม ๆ และห้องน้ำก็อยู่ด้านนอก ตรงนั้นไม่มีม่านหรืออะไรกั้นเลยนะ เป็นลวดเหล็กปกติเลย เอ๊ะที่สามตู้เสื้อผ้ามีกระจกตรงกับเตียงนอน ถ้าเราหันหน้าก็หลอนอยู่นะตื่นมาเห็นหน้าตัวเองเลย เตียงกว้าง5ฟุตไม่ติดพื้นนะแต่เป็นเตียงที่มีใต้เตียง ก็คือช่วงนั้นไม่หลอนหรืออะไรเป็นความที่คิดไปเองมากกว่า แต่พอเราอยู่ไปได้ไม่นานทนกับปากของเจ้าของหอไม่ได้และค่าห้องที่ขูดเลือดขูดเนื้อจะตายกันไปข้างเลยเลือกที่ย้ายหอ ก่อนย้ายหอคืนนั้นน่าจะช่วงตี1-2 เรารู้สึกขยับตัวไม่ได้ ร้องก็ไม่ออก แต่ตาพร่ามัวแต่เห็นลาง ๆ ว่ามีคนตัวสูงใหญ่ผิวดำมายืนอยู่ที่ปลายเตียง คิดในใจ โดนแน่ ๆ อำกูแน่ ๆ แต่เขาไม่ได้ทำอะไรเราเพียงแค่ยืนมองเหมือนบอกประมาณว่า ไปจากที่นี้ดีแล้ว (อันนี้คิดไปเองมากกว่า) แต่ถ้ามองหลักวิทยาศาสตร์พี่เนสจะเคยเล่าแล้วหรือเปล่าเรื่องการโดนผีอำ มันเกี่ยวกับร่างกายของเรามากกว่า พอย้ายจากหอที่1 มาหอที่2ก็โดนผีอำถึง3รอบ และพอย้ายมาหอที่3 ก็โดนอำอีก เหมือนเป็นการต้อนรับน้องยังไงก็บอกไม่ถูก55555
24:01 ห้ามมีห้องน้ำไว้ชั้น 2 ฮวงจุ้ย เขาบอกจะทำให้คนในบ้านเจ็บป่วยบ่อย แต่จริงๆมันเป็นกุศโลบายสมัยก่อน เรื่องที่ถ้าเกิดมีท่อแตก หรือน้ำรั้วอะไร มันจะไหล จะซึม พังมาชั้น 1 ดูแลลำบาก
ฟังจากเรื่องของเพื่อนคุณเนสแล้วอดคิดไม่ได้ค่ะ จินตนาการเราไปไกลมากกก ถ้าสมมุติว่าเราใส่สมมติฐานแปลกๆเข้าไปในเรื่องแล้วมันก็สนุกๆแปลกๆด้วย สมมุตินะคะ" คุณป้าที่รำตรงหน้าอาคารพาณิชย์ อาจจะเคยเป็นนางรำมาก่อนเมื่อตอนสมัยสาวๆ แต่ว่าคุณป้าคนนั้นอาจจะไปเล่นของมีครูเข้า เลยทำให้เป็นคนสติไม่ดี คนในบ้านในตอนนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง เพราะค่ารักษาโรคทางจิตเวชค่อนข้างสูง แล้วคนไทยบางส่วนก็คิดว่าโรคจิตเวชสามารถหายได้เอง เลยไม่ได้พาคุณป้าคนนั้น ไปหาหมอและประกอบกับความคิดความเชื่อของคนที่บ้านที่เชื่อว่าโดนของกลับเข้าตัวเอง คุณป้าก็เลยต้องอยู่กับโรคจิตเวชแบบนั้นต่อไป จนวันหนึ่งอาการของคุณป้าเกิดกำเริบขึ้นมา ทำให้เกิดเหตุการณ์ฆตก.ยกบ้าน จนเหลือแค่คุณป้าคนเดียว และด้วยความที่จิตไม่ค่อยดีก็เลยทำให้กลายเป็นคนที่ร่อนเร่ต่อไป เพราะญาติพี่น้องก็ไม่อยู่แล้ว คนที่อยู่ไกลกันก็ไม่รู้เรื่องนี้ และด้วยความที่เป็นนางรำเก่า จากประสบการณ์ของคุณป้า เลยทำให้ความทรงจำส่วนนี้ย้อนเข้ามาและรำตามท่าทางการรำที่เคยเรียนมาและยังเดินทางต่อไปและรำตามสถานที่ต่างๆจากความทรงจำ ส่วนที่คุณป้ารำหน้าอาคารพาณิชย์ก็อาจเพราะว่าในความทรงจำหนึ่งของคุณป้าคนนั้นอาจจะมีสถานที่ใกล้เคียงกับอาคารพาณิชย์แห่งนี้ หรืออีกนัยหนึ่ง คุณป้าอาจจะโดนของจากการผิดครูจริงๆก็ได้แต่ก็ำม่อาจมีใครล่วงรู้แล้วว่า คุณป้าคนนี้ยังเกินร่อนเร่แล้วรำตามสถานที่ต่างๆในความทรงจำอยู่มั้ย... "อ่านๆเป็นทฤษฎีขำๆกันนะคะ ไม่ต้องจริงจัง แต่แว๊บแรกที่ฟังเราคิดถึงสตอรี่ประมาณนี้เลยค่ะ
มีอยู่เรื่องนึงคือ เราโดนเรียกชื่อ 3ครั้ง จากห้องเช่าเอาจริง ห้องเช่านี้ไม่ได้ใหญ่เลย แต่เรื่องนี้เกิดตอนเราเด็กมากๆ เราเป็นเด็กที่เอาจริงกลับบ้านดึกตั้งแต่เด็ก เพราะชอบไปเที่ยวเล่นบ้านเพื่อนที่อยู่ข้างๆ บ้านเพื่อนคือใกล้กันมาก สนิทกันมาก พ่อแม่เรากับเขาก็สนิทกันด้วย เราโดนเพื่อนเรียก ตอนนั้นเรากลับมาบ้านหลังจากไปเที่ยวบ้านเพื่อนคนนั้นแหละ พอกลับมาจำเวลาไม่แม่นประมาณสี่ทุ่มเราได้ยินคนเรียกชื่อเราแล้วมันเป็นเสียงเพื่อนคนนี้แหละ เราก็ตอบรับไป พร้อมเปิดประตูดูด้วยนะคะ ยํ้า เราโดนแบบนี้สามรอบเรียกชื่อเรา แม่เราก็ได้ยิน เราเปิดประตูสามรอบ จากนั้นเราก็หาคำตอบไม่เจอ แล้วหลังจากสามรอบนั้นก็ไม่มีเสียงเรียกอีกเลยค่ะ เรางงสุดๆตอนนั้น55555555555 แต่เราก็ปล่อยผ่านไป เอาจริงมีอีกเหตุการณ์ด้วยค่ะอันนี้เป็นเหตุการณ์ที่เราโตและเพิ่งเจอกับตัวเองเมื่อไม่นานมานี้ คือเรื่องนี้เกิดที่วิลัย วันนั้นที่วิลัยมีกีฬาสี ข้างล่าง เรากับเพื่อนอีกคนมาเข้าห้องนํ้าที่ตึกชั้น 2 ข้างล่างก็ได้ยินเสียงกลองเสียงเชียร์ตามปกติ ทีนี้ห้องนํ้าวิลัยเรา จะแปลกๆหน่อย คือห้องแรก จะเป็นห้องนํ้าชักโครก ส่วนห้องอื่นๆจะเป็นห้องนํ้านั่งย่องๆ ซึ่งเพื่อนเราเข้าห้องนํ้าก่อน เรารอที่หน้ากระจกคนเดียว เราเห็นเพื่อนเข้าห้องนํ้าแรกที่เป็นห้องนํ้าชักโครก เราเห็นกับตาแต่ก็ยังไม่แน่ใจ เราเห็นเพื่อนเราเงียบไปเลยไปดูที่ประตูห้องนํ้าห้องแรก เราก็เห็นประตูล็อคอยู่ เราก็โอเคเพื่อนเข้าห้องแรก อีกสักพักนึง เราก็ยืนหน้ากระจกรอ เพราะปกติเราเป็นคนเข้าห้องนํ้าชักโครกอย่างเดียว เลยรอเพื่อนออกมาก่อน เงียบไปสักพักมีเสียงดัง ตึง ดังมากๆค่ะ เหมือนเสียงประตูที่ถูกเปิดแรงๆดังๆ เราเลยเรียกเพื่อน ซึ่งเพื่อนไม่ตอบ และเพื่อนก็ออกมาจากห้องนํ้าห้องที่สอง เราเลยแบบ ห้ะ ถามเพื่อน มึงเข้าห้องที่สองเหรอ มันบอก อืม แล้วเราไปดูประตูห้องแรก ที่เป็นชักโครก เราเห็นประตูมันเปิดอยู่ เราเลยงง เมื่อกี้ประตูมันยังปิดอยู่เลย เพราะว่าถ้ามันไม่ปิดเราเข้าไปแล้ว เรางงแบบมากๆ อันนี้เป็นมุมเพื่อน เราถามเพื่อนว่าได้ยินเสียงดังตึงมั๊ย มันบอกได้ยิน แล้วเราเลยถามว่าได้ยินที่เราเรียกมันมั๊ยมันบอกไม่ได้ยิน แล้วมันก็บอกว่ามันเรียกเราด้วย แต่เราก็ไม่ได้ยินเหมือนกัน มุมของเพื่อนตอนอยู่ในห้องนํ้า คือมันได้ยินคนชักโครกด้วย แล้วมันก็คิดว่าเราเข้าห้องที่เป็นชักโครก สรุปต่างคนต่างคิดว่าอีกคนเข้าห้องชักโครก เรื่องก็จบเท่านี้เลยค่า
มีครั้งนึงเราไปบ้านแฟนซึ่งบ้านเป็นชุมชนริมคลองที่มีมานานเป็นทุ่งข้าวในสมัยก่อนเป็นร้อยปีจนกาลเวลาเปลี่ยนจากทุ่งนาเป็นเมือง เรานั่งซ้อนมอไซแฟนไปเพลินๆ เห็นคนคนนึงนั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนนั่งแบบปกติเลย แต่ตาเขามีสีดำทั้งดวง ตัวเขาสีเทาเทาทั้งตัวและมีอักขระอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ด้วยความที่มันเป็นถนนแคบๆจึงมองเห็นได้ถนัดอีกทั้งมองสายตาผสานกันกับเราจนลับตาไป กลับมาถึงบ้านเล่าให้แฟนฟังก็ไม่รู้ว่าคือใคร จนกระทั่งวันนึงเล่าให้พี่สาวแฟนฟังเขาบอกว่าเขารู้จักผช.คนนั้นเหมือนว่าจะเป็นหมอเป่าหรือหมอยาอะไรประมาณนั้นเคยให้เขารักษาตอนเจ็บป่วยและก็หายด้วยแต่เขาเสียไปเป็นสิบๆปีแล้ว..... เรื่องราวแถวนี้เยอะมากๆทั่งเจอเองหรือคนในชุมชนเล่าให้ฟัง
พ่อเคยเล่าให้ฟังค่ะว่า มันมีช่วงที่พ่อยังหนุ่มๆ พ่อต้องย้ายไปทำงานที่ภาคใต้ วันนั้นก็ทำงานเสร็จปกติ ด้วยความที่พ่อเป็นคนทำงานกลางคืนเขาก็เลิกงานจะกลับก็เกือบๆเช้า ประมาณตี4จะตี5ก็ขับรถกลับ แล้ววันนั้นมีน้องที่ทำงานของพ่อขอติดรถกลับที่พักด้วย2คนค่ะ ด้วยพ่อก็ไม่ได้อะไรก็พากลับด้วย แต่พอไปถึงทางผ่านที่จะต้องผ่านสุสาน มันจะเป็นสุสานคนจีนก่อน แล้วขับมานิดนึงก็เป็นป่าช้า พ่อก็ไม่ได้อะไรขับตามปกติ แต่สายตาของพ่อก็ไปเห็นลุงคนนึง ใส่เสื้อสีขาว อายุประมาณ70 ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าสุสานคนจีน พ่อก็เอะใจเลยหันไปถามน้องที่อยู่ข้างหลังรถว่าเห็นมั้ย รุ่นน้องคนนั้นเลยบอกว่าอย่าไปทัก แต่ด้วยความที่พ่อไม่ได้กลัวเลยเงียบเฉยๆ แต่พอขับไปถึงตรงป่าช้า ก็เห็นลุงคนเดิมเลย ยืนอยู่ พ่อเลยทักขึ้นมา ว่าเอ้ย ลุงคนเดิมเลย แล้วหันไปถามรุ่นน้องว่าเห็นรึเปล่า รุ่นน้องของพ่อเลยดุพ่อ ประมาณว่า ทักทำไมพี่ ที่นี่เขาห้ามทัก พ่อก็เหมือนจะงงๆ เลยหันมาขับรถต่อ แต่ด้วยความที่เพิ่งย้ายมาแล้วหมอกก็ลงหนามากๆ คืนนั้น คุณพ่อก็เกิดประสบอุบัติเหตุ รถที่พ่อขับชนรั่วข้างทางตกเขา ในเหตุการพ่อบอกว่า หมอกหนามาก รู้ตัวอีกทีก็กำลังตกเขารถก็กระแทกกับพื้นหมุนไป จนพอทุกอย่างเงียบ พ่อก็มาตื่นที่โรงพยาบาล พ่อกระดูกร้าวและหักหลายที่จนต้องดามเหล็กทั้งตัวเลย ส่วนรุ่นน้องที่นั่งมาด้วยเสียชีวิตทั้งสองคนค่ะ หลังจากเหตุการครั้งนั้นคุณพ่อก็ออกจากโรงพยาบาลมาพักรักษาตัวต่อที่ห้องพักของพ่อ โดยที่ตอนนั้นคุณพ่อได้พักอยู่กับแฟนสาว(ไม่ใช่คุณแม่นะคะ) กันสองคน ในคืนนึงที่พ่อนอนอยู่บนเตียง ด้วยความที่เจ็บแผลก็ไม่ค่อยจะหลับ แต่ช่วงดึกของคืนนั้นในขณะที่พ่อกำลังเคลิ้มๆจะหลับ ก็ได้สังเกตุเห็นว่ามีเหมือนชุดคลุมอาบน้ำสีขาว แขวนอยู่ตรงปลายเท้าของพ่อ พ่อเลยพยายามมองดู แล้วก็เห็นว่าผ้าคลุมผืนนั้น ค่อยๆใกล้เข้ามาช้าๆ จนพ่อสามารถเห็นได้ว่านั้นไม่ใช่แค่ผ้าคลุม แต่เป็นคนที่เดินเข้ามาตรงปลายเท้าของพ่อ เป็นผู้ชาย ตัวสูง เดินเข้ามา แต่ที่ทำให้พ่อกลัวสุดขีดก็คือ ผู้ชายคนนั้น เขาถือหัวของตัวเองอยู่แล้วค่อยๆเดินอ้อมจากปลายเท้าของพ่อ ไปทางซ้ายมือแล้วก็ค่อยๆเดินทะลุกำแพงอ้อมมาทางขวามือ ก่อนที่จะยืนข้างๆพ่อสักพักหนึ่ง และในจังหวะนั้นพ่อที่ขยับร่างกายไม่ได้ ออกเสียก็แทบไม่ได้ เนื่องจากบาดแผลที่โดนเหล็กดามไว้ ก็วิ่งหนีไม่ได้ พยายามตั้งสติแล้วสวดมนต์เท่าที่จะสวดได้ ร่างของชายคนนั้นก็ค่อยๆนั่งลงข้างๆพ่อ พ่อบอกว่าตอนเขานั่งพ่อรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าเตียงค่อยๆเอียง ยุบไปตามน้ำหนักของคนที่นั่งมา ทำให้ตัวของพ่อที่นอนอยู่ต้องเอียงตาม จนตัวไปติดเข้ากับผู้ชายคนนั้น พ่อสวดมนต์อยู่อย่างนั้น ทั้งกลัว ทั้งเจ็บ จนรุ่งเช้า ก็ได้ยินเสียงไก่ขัน แล้วพ่อก็ได้กลิ่นดอกมะลิอ่อนๆ แล้วชายคนนั้นก็ลุกขึ้นแล้วหายไป พอพูดออก พ่อรีบปลุกแฟนที่นอนข้างๆว่าผีหลอก แล้วก็ย้ายหอทันที หลังจากนั้นพ่อก็ไม่เจอชายคนนั้นอีกเลย
เราซื้อบ้านมือสอง ซึ่งสภาพดีมาก ยังใหม่ และตกแต่ง ต่อเติมหน้าบ้าน -หลังบ้านแล้วเรียบร้อย ทำเรื่องซื้อบ้านเสร็จเรียบร้อย แต่ยังไม่มีเวลาย้ายเข้า และเราได้ไปดูฤกษ์งามยามดีการย้ายเข้ากับลุงเราที่เป็นคนทรง ลุงบอกวันที่มา อย่างที่บอก เราไม่มีเวลาเลย ลุงจึงบอกว่า งั้นไปนอนเอาฤกษ์เอาชัยก่อน ในวันฤกษ์ดีนั้น อ่ะ เราก็เชื่อลุงนะ ขนอุปกรณ์การนอน กับชุดนอน- ชุดทำงาน ไปนอนก่อนสักคืน ในคืนฤกษ์ดี เราไปกับแฟน 2 คน นอนห้องใหญ่ ติดระเบียงทางหน้าบ้าน เราก็หลับไป ไม่ได้คิด หรือกลัวอะไร แล้วเราฝัน … ฝันว่า ประตูห้องนอนเปิดออก แล้วมีผู้ชายตัวสูงมาก สูงจนหน้าเขาพ้นขอบประตู จึงไม่สามารถมองเห็นหน้าได้ ไม่ใส่เสื้อ รูปร่างกำยำล่ำสัน เห็นกล้ามชัดเจน ใส่ผ้าหยักรั้งสีปูนแดง (ผ้าหยักรั้งรึเปล่า เรียกไม่ถูก ไม่สั้นเท่าผ้าเตี่ยว แต่ไม่ยาวเท่าโจงกระเบนอ่ะค่ะ ) เราหันไปมอง มีแสงสว่างสาดส่องมาจากทางด้านหลังเค้า จึงเห็นร่างยืนทะมึนอยู่ แต่ในฝัน เราไม่ได้กลัวอะไรเลยนะ คือ มีอะไรบางอย่างที่เราสัมผัสได้ว่า เขามาดี เขาถามเราว่า จะมาอยู่กันกี่คน เราเลยบอกว่า 4 คนค่ะ มีใครบ้าง เราก็ไล่ให้เค้าฟัง ว่ามีใครบ้าง เขาถามต่อว่า 4 คนนี้ ขายคนละ 35 บาทได้ไหม ? ในฝันเราปฏิเสธเสียงแข็ง ยังไงก็ไม่ขายค่ะ นี่คือครอบครัวของหนู !!! เถียงกันอยู่พักนึง เราก็สะดุ้งตื่น จำฝันได้แม่นยำ รูปร่างหน้าตา ยังไง เราก็เล่าเรื่องนี้ ให้ลูกน้องในที่ทำงานฟัง ลูกน้องเราซื้อหวย 435 หวยออกเลขนี้เป๊ะ เลยเราเล่าเรื่องความฝันให้ลุงที่เป็นคนทรง ฟัง แกบอกว่า เป็นเจ้าที่เจ้าทางของที่นี่ ใจดี บอกชื่อมาด้วย บอกเราตรงทุกอย่าง เกี่ยวกับรูปร่าง ลักษณะ ไม่ต้องกลัว เขาใจดี
เราคนนึงเบื่อโรงหนังไปแล้ว พักหลังๆมาเจอแต่คนไม่มีมารยาทต่อคนอื่น เล่นโทรศัพท์บ้าง เล่นนานด้วย ถีบเบาะบ้าง เอาลูกมาเลี้ยงในโรงกันบ้าง เดี๋ยวแกะขนมให้ลูก เดี๋ยวดุลูก รำคาญสุดๆ ทุกวันนี้ไม่อยากเสียตังเข้าไปดูเลยค่ะ อึดอัดสุดๆ
เราเคยได้ฟังเรื่องแปลกๆจากย่ามา ช่วงนั้นอาเราเพิ่งเสียได้ไม่กี่วัน ยังทำพิธีต่างๆไม่เสร็จเลย ช่วงที่ย่านอนอยู่ที่บ้าน ประมาณตี3หรือตี4ไม่แน่ใจค่ะ ได้ยินเสียงคนใส่รองเท้าบูทเดินข้างๆบ้านแทบทุกวัน เจอแบบนั้นอยู่เกือบเดือน ย่าคิดว่านั่นเสียงเดินของอาหรือเปล่า เพราะว่าอาชอบออกไปหากบหาปลาตอนกลางคืน กลับมาเกือบๆเช้าบ่อยๆ แล้วก็ชอบใส่รองเท้าบูทตลอด ไม่รู้ว่าจริงแค่ไหนนะคะ แต่ย่าเรายืนยันว่าได้ยินจริงๆ เพราะกำแพงบ้านเป็นไม้ มันก็เรื่องแปลกๆไม่น่ากลัวเท่าไรค่ะ ส่วนตัวเราไม่เคยเจอ
ไปนอนโฮมสเตย์ที่จันทบุรี ไปกัน 7 คน เรือนที่พักจะเป็นห้องแบบบังกะโลด้านหน้าเป็นกระจก ติดม่านปิด พอเข้าไปข้างในก็จะปูที่นอนสองฝั่ง ด้านในสุดเป็นห้องน้ำสองห้องนะคับ ส่วนข้างหน้าจะเป็นระเบียงรูปตัวแอลมีที่นั่งเล่นได้ พอตอนกลางคืนหลังกินอาหารเสร็จ เพื่อน 3 คนก็ออกมานั่งแอ๊วผู้ตรงที่นั่งที่ระเบียง อีก 4 คนอยู่ในห้องก็เตรียมตัวนอนกัน ในห้องปิดไฟหมด เปิดไฟในห้องน้ำแล้วแง้มประตูไว้ ผังที่นอนคือ นอนฝั่งซ้ายสี่คน ขวาสามคน อธิบายแบบใส่เบอร์ที่นอนให้ที่นอนเบอร์ 1 คือที่นอนริมกระจกหน้าห้อง แล้วเรียงกันมาเรื่อย ๆ เบอร์ 4 คือติดห้องน้ำนะครับ ที่นอนที่มีคนนอนตอนนี้คือ ซ้าย 3 ซ้าย 4 ขวา 1 ขวา 4 ขวา 2 ไม่มีคนนอน ส่วนคนที่นอนซ้าย 1 ซ้าย 2 ขวา 3 ออกไปแอ๊วผู้ข้างหน้าห้องทีนี้เพื่อนที่นอนซ้าย 1 นางยังไม่หลับ แล้วก็แง้มชายผ้าม่านดูข้างนอกเพราะข้างนอกเสียงดังมาก สักพักนางก็บอกว่า เฮ้ย ก.น่าจะได้ผู้ว่ะ เพื่อนที่นอนซ้าย 3 ก็วิ่งไปแง้มผ้าม่านตรงประตูดูอีกคน นี่นอนในสุดและเล่นเกมอยู่เลยไม่ได้สนใจ ส่วนอีกคนหลับแล้ว สองคนนั้นก็ดูกันสักพักแล้วก็กลับมานอนพอเช้าก็มากินข้าวกัน พอมากันพร้อม น้องหนึ่งในสามที่แอ๊วผู้เมื่อคืนก็บอกว่า พี่ อยากดูก็ออกมาดูสิ จะมุดม่านดูทำไมกัน หนูเห็นนะ ต้องเป็นพี่ ข. พี่ ค. พี่ ง. แน่เลย คนที่อยู่ในห้องก็งง บอกว่า ข.กะ ค.อะใช่ แต่ชั้นกะพี่ ง.ไม่ใช่ เพราะชั้นเล่นเกม ส่วนพี่ ง.เค้านอนแล้ว ยัย ก.ยืนยันว่าต้องสามคนแน่ ๆ เพราะหนูเห็นม่านเปิดสามที่ ตรงมุมขวา (ที่ข.นอน) ตรงประตู (ที่พี่ ค.ยืนดู) แล้วก็ตรงมุมซ้าย (ที่ จ.ซึ่งเป็นหนึ่งในสามคนนอน แต่ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ตรงนั้น) น่ะ แน่นอนพี่ หนูเห็น ยิ่งตรงมุมซ้ายนะ พอหนูหันไปเห็นยังมีการปิดม่านหลบ แล้วเปิดอีกรอบด้วยทุกคนเลยบอกนางว่า มึงโดนแล้วค่ะ ไปทำบุญด่วน สรุป ปิดทริปคือไปวัดไปทำบุญ คนที่หนักสุดคือ จ.ที่นอนตรงนั้น มีการขอรดน้ำมนต์ด้วย ส่วน ก.ยัยคนเห็นยังเชื่อว่าโดนเพื่อนหลอกอยู่
ทางนี้ก็เคยมีค่ะ แบบนั่งดูจอยๆอยู่ แต่ดันมีคนข้างหลังถีบที่นั่งเเรงมาก แถมยังพูดแทรกหนังเสียงดัง ไหนจะมีเด็กเล็กที่เดินไปเดินมาตลอดอีก
ตอนช่วงประถมฯ ปลาย (เกือบ 20 ปีที่แล้ว) หลังจากที่ยายเสียไปได้ไม่ถึงปี ก็ต้องตื่นมารีดเสื้อนักเรียนเอง ช่วงนั้นคือพ่อกับแม่อยู่ ตปท. ก็อยู่บ้านกับพี่ ๆ แต่ว่าปกติ พี่สาวคนโตจะคอยรีดชุด นร.ให้ แต่ช่วงนั้น พี่ไปค่ายอาสาตอนเรียนมหาลัย เลยทำให้เราต้องรีดผ้าเองตอนเช้า (เพราะขี้เกียจอะแหละ) แล้วรถรับส่งมารับที่บ้าน 6 โมงครึ่ง เพราะเป็นคิวแรกของคัน จึงต้องตื่นเช้ากว่าปกติมาอาบน้ำ กินข้าว รีดผ้า และแต่งตัว ช่วงประมาณ 6 โมง หลังจากอาบน้ำ กินข้าวเสร็จ ก็มารีดเสื้อนร. โลเคชั่นของที่รีดผ้า กับราวชุด นร. อยู่ใต้บันไดฝั่งที่ไม่ค่อยได้ใช้ (ที่บ้านมี บันได 2 ฝั่ง ที่ขึ้นไปห้องนอนชั้น 2 เหมือนกัน) เวลารีดผ้าก็จะลากที่รีดผ้าพร้อมเตารีดออกมาจากใต้บันได หันหน้าออกไปทางหน้าบ้าน มุมมอง ณ เวลานั้นคือ ถ้าเงยหน้าจากที่รีดผ้า จะมองทอดยาวไปเจอกระจก นอกกระจกเป็นทางเดินเล็ก ๆ จากประตูกระจกหน้าบ้านข้ามไปสวน เดินเข้าไปในสวนจะเจอศาลตายาย เลยทางเดินไปเป็นพุ่มดอกไม้ ถัดจากพุ่มดอกไม้ เป็นบ่อปลาคราฟ ซึ่งด้านซ้ายของบ่อปลาเป็นทางเดินไปที่ศาล ด้านขวาเป็นลานกว้างและประตูบ้านพร้อมลานจอดรถ ถัดจากบ่อปลาก็เป็นพุ่มต้นจันทร์ผาใหญ่ 2 ต้น อยู่ติดกับรั้วบ้าน ณ เวลานั้น ตื่นมาคนเดียว เด็กอายุประมาณ 11 ขวบ ยืนรีดผ้าอยู่ ด้านนอกอึมครึมบรรยากาศของเช้ามืด ที่ยังไม่สว่าง แต่มีแสงจากรั้วบ้านลอดข้ามพุ่มจันทร์ผามา ไอเด็กคนนี้มันก็ยืดรีดผ้า พร้อมร้องเพลงการ์ตูนไปเรื่อย ออกอาวุธ ๆ ที่พัฒนามาเป็นชุด ฯลฯ ด้วยความที่มันมืด ด้านนอกทางเดินตรงสวนและบ่อปลามันก็มีแสงเล็ก ๆ ขยับไปมาตามพุ่มไม้ ก็เลยหยุดรีดแล้วมองออกไปนอกกระจก เรียกว่าเหม่อ (ระยะห่างจากที่รีดผ้าไปหน้ากระจกประมาณ 10 ก้าว) จังหวะนั้น เห็นคนผมยาวมาก ใส่ชุดสีขาวแขนยาว กระโปรงยาว หันหน้าเข้าศาลตายาย บรรยากาศคือลมด้านนอกเหมือนจะแรงจนชุดพริ้วไหวไปมา เขายืนอยู่แบบนั้น ซึ่งเราก็จ้องเขาแบบนั้น เพราะตอนเด็ก กลัวผีมาก ๆๆๆๆ แต่คือภาพนั้นมองไม่ละสายตาเลย กำลังตกตะกอนว่า "ใครอะ" ภาพที่เห็นคิดไปถึงท่านหญิงกาลาเดียล ในหนังเรื่อง The lord Of The Rings แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า ที่เขายืนตรงนั้น หันหน้าเข้าศาล เป็นบ่อปลาคราฟ คนปกติไม่สามารถยืนบนบ่อได้เลย พอคิดได้แบบนั้นก็ก้มหน้างุด ๆ รีบรีดผ้าให้เสร็จแล้วปิดไฟใต้บันได ไปนั่งเล่นหน้าทีวีรอรถรับส่งมารับดีกว่า หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ก็ไม่คิดจะรีดผ้าตอนเช้าอีกเลย แล้วก็ใช้เวลาหลายปี กว่าจะบอกพี่ ๆ กับพ่อแม่ว่า เราเจออะไรในวันนั้น แล้วก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า ที่เจอคืออะไร 555555
ยิ่งดูยิ่งสนุกครับ ช่องนี้ ชอบมากครับ ขอให้ทำคลิปดีๆแบบนี้ ตลอดไปนะคะรับ ✌️👍😁
เคยเจอประสบการณ์ตรงค่ะ มีหลายเรื่องมากเป็นคนเจอเรื่องนี้บ่อยมาก มีครั้งนึงไปอยู่หอพักกับเพื่อน เป็นหอพักในที่ฝึกงาน ที่ฝึกงานเป็นโรงแรมโลเคชั่นเป็นภูเขาค่ะ หอพักก็จะแยกเป็น หอหญิง-ชาย หอครอบครัว หอผู้บริหาร เราอยู่หอหญิงที่มีรั้วล้อมรอบ ทางเข้ามีทางเดียวคือด้านหน้า แต่ประตูใหญ่คือต้องเดินผ่านห้องมา 2 ห้องก่อนแล้วเดินเข้าไปจะเป็นห้องโถงค่ะ ห้องเราจะอยู่ห้องแรกเลย จะมองเห็นทางเข้าด้านหน้าถ้าใครเดินผ่าน คืนแรกที่เข้าไปอยู่เลย เรากับเพื่อนมองเห็นเงาคนตรงหน้าต่าง หน้าต่างเป็นกระจกค่ะ เราใส่ผ้าม่านแล้วตรงทางเข้าจะมีเสาไฟใหญ่อยู่ คือถ้าใครมายืนตรงนั้นเงามันจะมากระทบกับผ้าม่านพอดี เรากับเพื่อนเลยคิดว่ามีคนมาแอบดู เลยแกล้งทำไม่เห็นแล้วเดินไปใกล้ม่านค่ะ พอไปใกล้แล้วก็กระชากม่านออก แต่ไม่มีใครค่ะ พอปิดม่านลง เงานั้นก็หายไป ตอนนั้นก็กลัวแต่ก็คิดว่าเจ้าที่เจ้าทางแหละ เลยไปไหว้ศาลตอนเช้าค่ะ อยู่มาอีกหลายคืน เราก็ป่วยหนัก ไม่ได้ไปทำงานหลายวันเลยค่ะ หยุดงานมาเข้าวันที่ 4 เราก็นอนกันปกติ แต่พอสักเที่ยงคืนน่าจะได้ เรายังนอนไม่ค่อยหลับเพร่ะหลับช่วงกลางวันมาเกือบทั้งวัน ก็เลยปลุกเพื่อนมานอนคุยกันค่ะ สักพักได้ยินเสียงประตูรั้วหน้าหอเปิด ก็เลยหยุดคุยกันค่ะเพราะนินทาพี่ๆที่ทำงานกันอยุ่กลัวคนเข้ามาได้ยิน พอประตูรั้วปิดเสียงคนใส่กลอนปุ๊ป ก็มีเสียงคนวิ่งค่ะ ผ่านหน้าต่างห้องเราไป ไปสุดที่ห้องสุดท้ายค่ะ แต่ไม่มีเสียงเปิดประตูตรงห้องโถง มีแค่เสียงหยุด แล้วก็กระทืบเท้า แล้วก็วิ่งกลับมาหยุดตรงใกล้ๆหน้าต่างห้องเรา เรากับเพื่อนที่นอนคนล่ะเตียง กระโดดมานอนติดกันแน่นเลยค่ะกลั้นใจไม่กล้ามองนอกหน้าต่างเลยกลัวเจออะไรแปลกๆ ไม่กล้าคุยกันเลยต่างคนต่างนอนแต่จับมือกันยันเช้าเลยค่ะ พอตื่นเช้ามาไปถามพี่ๆในหอ ว่าคืนนั้นมีใครกลับดึกบ้าง เพราะที่โรงแรมไม่มีลูกค้ากรุ๊ปเลยค่ะ เลยไม่มีงานเลี้ยงที่ต้องเลิกเวลานั้น ก็เลยเล่าให้พี่ๆในหอฟังว่าเราเจอแบบนี้ พี่ที่หอก็ใจดีค่ะ พาไปไหว้ศาลที่เราไม่รู้ว่ามีในหอ แล้วก็ศาลที่เป็นศาลใหญ่บนเขาค่ะ หลังจากวันนั้นมาเราก็หายป่วย ไม่ป่วยอีกเลยจนฝึกงานจบค่ะ แต่ก็มีเรื่องแปลกๆอีกหลายเรื่องเลย ที่อธิบายไม่ได้แล้วก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย กลัวครว่าเราบ้าค่ะ 😅
ผมเป็นคนที่ดูหนังในโรงแบบมีคนเยอะๆนะ ผมชอบบรรยากาศแบบนั้น
เราเป็นสมาชิกบัตร M Pass ชอบดูหนังในโรง เพื่ออรรถรสที่ดีกว่า แต่เจอคนคุยเสียงดังกับคนกลิ่นตัวแรงๆ ตลอด บางทีเอาลูกมาด้วย คือรำคาญมากกก
มีเรื่องแปลกมาเล่าค่ะ เป็นทำเลบ้านของเราเอง ส่วนตัวตอนเด็กไม่รู้ว่าแปลกแต่พอมาสังเกตุตอนโตมันค่อนข้างไม่ปกติ หน้าบ้านเราเป็นถนนเล็กๆให้มอเตอร์ไซค์พอผ่านได้ค่ะ ถัดไปเป็นคลองน้ำที่เชื่อมกับโรงพยาบาลใหญ่แห่งนึง ฝั่งตรงข้ามเป็นป่าช้า แบบว่าเจดีย์เรียงเป็นสวนเลย สมัยก่อนคุณย่าบอกว่าเขาจะขนศพผ่านเรือ เวลาลงไปซักผ้าในคลองจะเห็นร่างในผ้าขาวมาที่วัด เรียกได้ว่าเห็นวงจร เกิด แก่ เจ็บ ตาย ตลอด55555555 ส่วนบ้านอีกหลังอยู่ห่างออกไปไม่ไกลค่ะแต่ไม่ติดคลองแล้ว เวลาเราเปิดหน้าต่างชั้นสองจะเห็นเมรุเผาศพของวัดตลอด ส่วนตัวไม่รู้ว่าคุณปู่เลือกทำเลบ้านจากอะไร แต่ทั้งสองหลังที่เลือกมาเรามิเครสุดๆ เหมือนอยู่กับคนตายมากกว่าคนเป็นอีกค่ะ
ไม่รู้ว่าเรื่องนี้อธิบายได้ไหม เราเคยนอนๆอยู่แล้วฝัน ฝันน่ากลัวมาก ว่ามีผู้หญิง(ผี) มาดึงเล็บเราทีละนิ้ว ในฝันคือเลือดออก เจ็บมากๆ เจ็บมากจนตื่นขึ้นมา ดูเล็บตัวเอง สรุปเล็บเราเลือดออกจริงๆ ประมาณ2นิ้ว แล้วเราก็หันซ้ายหันขวา ว่ามันเกิดจากอะไรวะ คือเราไม่ได้เป็นแผลอะไรก่อนหน้านี้เลย ห้องก็ปกติ ไม่มีอะไรเลย มือก็ไม่ได้ไปโดนอะไรที่มันบาดจนเลือดออกได้เลยอะ ลองคิดทุกๆทาง มันเป็นไปไม่ได้เลย แล้วก็ยังคงเป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ ฝันนั้นก็ยังจำติดตา 5-6ปีที่แล้ว
- นอนอยู่ได้ยินเสียงคนเดินผ่านห้องนอน (คิดว่าพ่อเลี้ยงไปเข้าห้องน้ำ)- มีเสียงเปิดประตูห้องของเรา-เราพยายามเปิดตาเพื่อดูว่าใคร-เห็นเหมืิอนแสงแฟลชจากทรศ.และหัวที่ยื่นเข้ามาตรงประตู-สิ่งนั้นถอยกลับไปและทำเสียง ฮิฮิฮิ ก่อนปิดประตู (เสียงแหลมเหมือนผู้หญิง)-ง่วงมากเลยนอนต่อ และคิดว่าเป็นแม่ที่เข้ามาเช็คว่าเรานอนรึยัง-ถามแม่ในตอนเช้าแม่บอกว่าไม่ได้เปิดประตู แต่เดินไปเข้าห้องน้ำจริงๆ ลูกน่าจะฝัน-แต่เราว่าเราไม่ได้ฝัน เพราะเสียงเปิดประตูมันชัดมาก และ จำได้ว่าตัวเองพยายามลืมตา -แต่สุดท้ายก็มาคิดว่าน่าจะหลับไม่สนิท สมองเลยสร้างภาพอะไรแปลกๆ อีกอย่างอยู่มาที่นี่หลายปีแล้วไม่เคยเจอเรื่องแปลกๆเลย นี่เป็นครั้งแรก
เปิดฟังคลิปช่องนี้ทุกวันวนๆไป ปล. เจอบ่อยในโรงหนังคนไม่ค่อยมีมารยาท ถ้าไม่สุดจริงๆก็ทนไป😂
อยากให้พี่ทำวิเคราะห์เพลง 20 ตุลา ของชิลลี่ฟูค่ะ ❤😊😢
มันคือ เพลงที่ Silly fools ไม่เคยนำมาร้องสดที่ไหนเลย ตลอดกาลร้องรอบเดียว เสียงเดียว MV เดียว คือจบเพราะ Silly fools ไม่กล้านำเพลงนี้มาร้องซ้ำอีก (ผมจะไม่สปอยเหตุผลนะ ว่าทำไม Silly fools ถึงไม่นำเพลงนี้ มาร้องสด)
เรื่องปกติหรือเปล่าคะ 1. ที่ตรงกลาง หลังสุด เป็นตำแหน่งดีที่สุดในการดูหนังอยู่แล้ว การที่จะโดนล้อมหน้า หรือประกบข้าง ต้องมีอยู่แล้วค่ะ 2. การนั่งสบายเกิ้น เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมใจเจอ 😅 นั่งนานสองชั่วโมง มันต้องหาท่าที่สบายที่สุด เพราะโรงหนังสมัยนี้ บางโรงก็วางผังเบียดสุดๆ บางโรงก็นั่งสบายหน่อย ทำใจกว้างๆ เลยค่ะ เวลาไปดูหนังที่โรง ส่วนตัวแก้ปัญหาด้วยเงินเลย ถ้ามีที่นั่งแบบแยกโซน ก็จะเลือกแบบนั้นเลยค่ะ ไม่ต้องเบียดคนอื่น ไม่ต้องเอาแขนสี ไม่ต้องมีใครมากวนสมาธิเลย 😊
นี่เจอตอนไปดูธี่หยด เขาเป็นผู้หญิงมากับแฟนเขาก็เอนไปอิงแฟนแต่ขายกขึ้นมาบนเบาะตัวเองไม่อะไรหรอกแต่ดีดดิ้นตลอดเดี๋ยวถีบมาโดนเราเดี๋ยวแขนมากระแทก เป็นการดูหนังที่เลวร้ายที่สุดเลยโคตรรไม่สนุก คนเราควรมีมารยาทโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาบอกรึป่าว โดนรอบเดียวก็ควรรู้ตัวแล้วอะ
เพราะเหตุการแบบนี้เกิดบ่อย ทั้ง ขำคิกๆ คุยซุบซิบ โดยเฉพาะเล่นโทรศัพท์ทำให้เบื่อการดูหนังในโรง อยู่บ้าน ดูหนัง สบายใจกว่า
พูดถึงโรงหนังคือ จำได้ว่าครั้งล่าสุดดูบ้านเช่าบูชายัน บ่ายวันธรรมดา กะว่าคนน้อยไม่น่ามีปัญหา แต่สรุปคือฝันร้ายสุดๆ เจอทั้งแสงมือถือประมาณ5คนได้+แก๊งวัยรุ่นหัวเราะดังๆ(หัวเราะหนังผี???) จบ เซ็ง ปฏิญาณตนว่าจะไม่เข้าโรงหนังอีก //ส่วนเรื่องยกขาที่คุณเนสเจอ เราว่าเขาไม่มีมารยาทอะ นอกจากจะขวางทางแล้ว พื้นรองเท้าที่สกปรกอาจจะมาโดนขาคนอื่นอีก
เอ็มพาสขึ้นเป็นเดือนละ 350 ละครับ (บุคคลธรรมดา) ถ้าจ่ายราย 3 เดือน 900 บ. // ส่วนประสบการณ์ที่ไปเจอตอนดู4คิง2คือ เด็กเวรเดินเข้าห้องน้ำทั้งเรื่องสลับกันไปกับเพื่อนในกลุ่มมันอย่างเซ็ง
ผมเคยอยู่ออฟฟิศนึง มี 4-5 ชั้น ผมอยู่ชั้น 3 ตึกนี้มีลิฟท์ ผมมักจะเอาจักรยานขึ้นมาจอดที่โถงหน้าลิฟท์ จะเป็นโถงไม่กว้างนัก ออกจากลิฟท์ทางซ้ายเป็นห้องน้ำ ทางขวาเป็นประตูเข้าออฟฟฟิศ วันนั้นเป็นวันศุกร์ออฟฟิศจะกลับกันเร็ว ผมนัดเพื่อนไปกินชาบูก็กินจนเสร็จแล้วกลับมาที่ออฟฟิศ แต่ลืมไปว่าเอาจักรยานไว้ด้านบน ผมชวนเพื่อนขึ้นไปด้วยแต่เพื่อนไม่ไป ผมขึ้นไปคนเดียว ประตูลิฟท์เปิด ไม่มีไฟ มืดทั้งชั้น ผมกดลิฟท์ค้างไว้และเดินไปเอาจักรยาน ตอนเข้าลิฟท์ก็ยกจักรยานขึ้นเป็นแบบยกล้อขึ้นเป็นแนวตั้ง ประตูลิฟท์กำลังปิด แต่มันมีเสียงดังขึ้น ปิ๊งงงง!! เสียงลิฟท์ และลิฟท์เปิด ผมกดปิด และก็ลงมา จริงๆ เรื่องควรจบเท่านี้ แต่เมื่อสังเกตุบางอย่างหลายๆ วันเข้า ผมก็นึกย้อนกลับไป ลิฟท์ตัวนี้เวลาเปิดจะมีเสียงดัง แต่จะมีเสียงเฉพาะกดจากนอกลิฟท์เท่านั้น(ผมทดลองหลายรอบ) แต่วันนั้นผมจำได้ว่ามันมีเสียงลิฟท์ในขณะผมอยู่ในลิฟท์ มันเหมือนกับมีคนกดลิฟท์ทั้งๆ ที่มีผมอยู่คนเดียวทั้งชั้น ณ เวลานั้น เรื่องก็ประมาณนี้ครับ
เคยโดนทักว่ามีเคราะห์ เลยไปทำบุญบริจาคโลง(ศพไร้ญาติ) พอกลับถึงบ้านในคืนนั้น เผลอหลับไป แต่สะดุ้งตื่นเพราะทีวีเปิดเอง ทั้งๆที่มันไม่เคยเปิดเองเลย งัวเงียจับรีโมทขึ้นมาปิด นั่งตั้งสติได้ประมาณ10วินาที ทีวีเปิดเองรอบที่2 ต่อหน้าต่อตา ทีวีเปิดเองยังไม่เท่าไหร่ คิดว่ารีโมทอาจจะร่วน แต่…. มันเปิดช่องล่าท้าผี (สุสานศพไร้ญาติ) ที่เราไม่เคยดู ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยเสิร์ท คือถ้ามันจะเปิดเอง ทำไมมันไม่เปิดช่องที่เราดูประจำ หรือดูเป็นปกติ ทำไมต้องเป็นสุสานศพไร้ญาติ 😅 เป็นเรื่องที่อธิบายไม่ได้ แต่คิดในใจว่า เขาคงมาบอกว่าได้รับผลบุญแล้ว
ต้องดูทุกคืนก่อนนอนค่ะ เสียงคือฟังเพลินมากกกก จนเผลอหลับก่อนตลอด😅❤
เราก็ชอบดูหนังในโรงนะคะ แต่ไม่ได้ดูมานานม๊าก เราว่าพอเป็นไปดูในโรงหนัง มันต้องตั้งใจจะไปน่ะค่ะ ต้องมีเวลาว่าง วางแผนไปดู มั่นใจว่าไม่มีงานด่วนเข้าระหว่างดู ราคาอีก แพ๊ง เลยจะเก็บไว้ดูกับหนังที่อยากดูมากๆๆๆๆจริงๆ
ประสบการณ์โรงหนังผมก็คล้ายๆพี่นะ 14:22 แต่ผมใช้เงินแก่ปัญหา5555555ส่วนมากผมจะไปดูคนเดียว ส่วนมากจะนั่งABC แล้วแต่โรงดูจนจำได้แล้วว่าโรงในพื้นที่เป็นยังไงทุกครั้งที่ซื้อผมนั่งกลางสองฝั่งผมผมจะซื้อไว้เป็น3ที่อาจจะดูปัญญาอ่อนแต่ก็ซื้อความสบายใจ
เรามีแต่เรื่องเล่าในโรงหนังที่น่าอายที่สุด คือเผลอกินน้ำของคนข้างๆ คือครั้งแรกและยังครั้งเดียวในชีวิตอยู่ รู้สึกผิดและอายมาก ขอโทษคนข้างๆแล้วและจะให้เงินค่าน้ำเขาคืนแต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร นี่เศร้ามากรู้สึกผิดสุดๆ เรื่องของเรื่องคือเข้าโรงหนังช้า พอถึงที่นั่งที่วางแก้วฝั่งขวามือมีแก้ววางอยู่แล้ว นี่ก็เลยต้องวางฝั่งซ้ายมือ แล้วคือถนัดขวา ดูหนังเพลินก็ยกแก้วมาดูดน้ำ แล้วก็วาง แล้วก็ดื่มอีก แล้วก็แบบ เอ้ะน้ำหมดไวจัง (ยังไม่รู้ตัว) แล้วก็ยกดื่มอีก อึ้มมมีน้ำรสชาติเข้ม(ยกแก้วฝั่งซ้าย) เลยแบบ เอ้ะ เอ้ะ ทำไมก่อนหน้านี้น้ำหมด แล้วทำไมตอนนี้มีน้ำ เลยรู้ตัว รีบขอโทษเจ้าของแก้ว ใจตอนนั้นคืออยากลุกออกจากโรงเลย😭😭
มัธยมเคยบนกับรูปปั้นที่เค้าว่าศักสิทธิ์ของ รร ไว้ว่าถ้าติดจะวิ่งแก้บน แล้วสรุปลืมไปวิ่ง หลังเลิกเรียนวันที่นึกขึ้นได้ ฝนตกฟ้าร้องไม่หยุด เลยบอกว่าจะไปวิ่งแก้แล้ว แล้วก็ไปวิ่งฝ่าฝนทั้งแบบนั้น พอวิ่งครบรอบที่บนฟ้าเปิด ฝนหยุดเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น ปี 1 เคยอยู่หอในวันแรกที่เข้าหอ เจอประตูห้องเปิดค้างไว้ ตอนแรกก็นึกว่าป้าแม่บ้านเปิดแต่ไปถถามดูเค้าบอกไม่ได้เปิด ตอนอยู่ไม่มีอะไร ช่วงตอนใกล้ๆย้ายหอ ปี 2 ทำโปรเจคเกี่ยวกับเรื่องผี มีคืนนึงนอนอยู่แต่เห็นคนชะโงกหน้าก้มมาดูแต่ง่วงเกินเลยบอกไปว่าจะนอนแล้วก็ไม่เจออีกเลย หลังจากนั้น นึกภาพผังห้องเปิดประตูเข้ามา หันซ้ายจะเจอโต๊ะนั่งทำงาน หันหน้าจะเจอเตียง แล้วมีช่วงนึงตอนตี 2-4นั่งปั่นงานเจอประตูเปิดเองทั้งที่มั่นใจว่าล็อคประตูแล้ว แต่ไปดูข้างหน้าไม่มีใครอยู่ เป็นอยู่ 2-3 รอบ พอมาวันพรีเพื่อนโทรตามตื่นขึ้นมาไม่มีอะไรพอลุกจะออกจากเตียง ประตูเปิดให้เองอีกรอบเหมือนจะมาเตือนว่าให้ไปพรีได้แล้ว ถือว่ามาดีปี 3 พอย้ายหอมาหอใหม่ นอกจากที่ไปเจอนอกรอบ ของหอใหม่เจอแค่ครั้งนึงเคยขึ้นลิฟกับคนแปลกหน้าจากชั้น 1 เค้าไปชั้น 5 เราไปชั้น 8 พอถึงชั้น 5 คนนั้นลงละเดินเข้าห้องตามปกติ แต่พอจะปิดประตูลิฟประตูจะเปิดเอง เลยคิดว่าใครมันกดละไม่ยอมขึ้น เลยชะโงกหน้าไปดูไม่มีคนกด เป็นอยู่แบบนั้น 3-4 รอบ จนคิดว่าถ้ายังมีอีกรอบจะเดินขึ้นไปเองแล้วนะถึงจะปิดได้แต่ก็ขนคอลุกมาจนถึงหน้าห้องตััวเองถึงจะหาย
ประสบการณ์ที่หาคำตอบไม่ได้ของหนูมีเยอะมากค่ะ ที่มันไม่ใช่การคิดเอาเอง เพราะบางเหตุการณ์คือเจอพร้อมกันหลายๆคน แต่ที่รู้สึกกลัวคือการที่เจออะไรแบบนี้คนเดียว มีครั้งนึงตอนสมัยเรียน ที่ต้องทำโปรเจ็คจนถึงช่วง 6 โมงกว่า ช่วงนั้นที่วิทยาลัยใกล้ปิดเทอมแล้ว เด็กบางสาขา บางชั้นจะเลิกเรียนกันตั้งแต่บ่าย 2-3 แต่ของหนูเป็นชั้นที่ใกล้จบแล้วค่ะ (ปวส.2) เลยต้องปั่นโปรเจ็คที่เป็นรูปเล่มกับชิ้นงานส่ง ละต้องออกจากวิทยาลัยก่อ 1 ทุ่ม เพราะเด่ะจะไม่มีรถโดยสารกลับบ้านค่ะ แต่วันนั้นกลับเลทหน่อยเพราะได้รถมาขับเอง ก็เลยออกช้าค่ะ แต่มีเพื่อนๆอยู่นะคะ ประมาณ 6-7 คน ทางเดินไปสนามที่จอดรถ จะต้องเดินผ่านทางเชื่อมตึกซึ่งต้องผ่านห้องสมุดค่ะ ตอนนั้นทุกคนก็คุยกันเสียงดังตามปกติ ทางที่เดินก็เดินผ่านอยู่ทุกวันไม่มีอะไรต้องระแวงเลย แล้วมีเพื่อนที่เดินนำหน้าหนูเค้าแวะส่องกระจกค่ะ ซึ่งเป็นกระจกที่สามารถมองทะลุไปเห็นข้างในห้องสมุดได้ ถ้าในห้องปิดไฟหมดมันจะสะท้อนเห้นตัวเราชัดมากด้วยค่ะ หนูเลยแวะส่องด้วยข้างๆเพื่อน ผญ 2 คนที่ส่องอยู่แล้ว กำลังจะถามว่ามึงส่องอะไรกันวะ แต่หนูดันไปเห็นว่า มีคนกำลังนั่งยองๆบนโต๊ะอ่านหนังสือค่ะ (โต๊ะในห้องสมุดที่วิทยาลัยจะเป็น โต๊ะขาเหล็กที่พับเก็บได้เป็นตัวยาวๆสีขาว) มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วค่ะ ที่จะมีคนไปนั่งยองบนโต๊ะแบบนั้น ที่ชัดเจนมากๆคือ ประตูถูกคล้องแม่กุญแจเอาไว้ เพื่อนอีก 2 คนที่ส่องกระจกอยู่ก็น่าจะมองไม่เห็น เพราะเค้าก็ส่องกระจก เติมลิป หวีผมกันชิลเลย แต่หนูตอนนั้นไม่อยู่แล้วค่ะ ลาเพื่อนแล้วก็วิ่งไปที่จอดรถเลยค่ะ ในเหตุการณ์วันนั้นเอง ที่ระหว่างขับรถจนถึงบ้านกลับมาเล่าให้ที่บ้านฟัง หนูถึงได้รู้ตัวตอนที่ยายทักค่ะว่า สายสินญ์ ที่ผูกแขนไว้ มันขาดทั้ง 2 เส้นเลยแสดงว่ามันไม่ปกติแล้วละ เลยเอาเส้นใหม่ที่หน้าหิ้งพระมาผูกใหม่ แล้วก็หนูก็ไม่เดินไปส่องกระจกที่ไหนมั่วๆอีกเลยค่ะ แต่จนทุกวันนี้ก็ยังหาคำอธิบายไม่ได้ว่าคือไร ประวัติเป็นไง แต่ในวิทลัยมีแต่เรื่องแปลกๆเยอะค่ะ ทั้งศาลหลายๆที่ตามจุด รร เพราะอยู่ใกล้เขา ตึกเรียนที่อยู่หลังวิทยาลัย ต้องทำบุญตึกทุกปี แล้วก็พันสายสินญ์ไว้รอบๆตึก แต่ทุกคนก็ปฎิบัติสิ่งเหล่านี้ร่วมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ละก็ไม่มีใครคิดจะถามเลยด้วยค่ะ
ชอบแบบนี้มากกว่าเรื่องผีอีกค่ะ อยากให้ทำอีก
เขาแปลกๆค่ะ พฤติกรรมที่เขาทำเกิบทั้งหมดเลย คนส่วนใหญ่เลือกได้ ไม่ค่อยอยากนั้งติดกันเท่าไหร่ค่ะ มันอึดอัด😅
เคยเจอตอนกลับไปบ้านตายาย(เสียแล้ว)ช่วงสงกรานต์ฟิวแบบกลับไปเยี่ยมบ้าน บ้านเป็นบ้านไม้นะคะ เราเป็นคนเชียงใหม่ ก็จะไปทำบุญบ้านปีใหม่เมือง ละทีนี่เรากับน้องขึ้นไปสรงน้ำพระ ไปเปลี่ยนดอกไม้ไรงี้ ทรงบ้านข้างบนจะเป็นรูปตัวL ละมีหิ่งพระ เราให้น้องรอข้างบนแล้วเราลงไปเอาดอกไม้อันมาใส่แจกันแล้วเดินขึ้นมาหน้าหิ่งพระ ได้ยินเสียงมีคนเดินตาม ตอนแรกคิดว่าพ่อ พอหันไปเป็นเหงาดำๆร่างใหญ่ๆหน่อย เหมือนเค้าชงักที่เราหักไปมอง ละเขาก็เข้าไปในร่องไม้ที่ต่อกัน ต่อนั้นคือขนลุกแบบขนหน้าลุก ละเรากับน้องคือเห็นเหมือนกัน พร้อมกัน รู้สึกตัวแข็ง(บ้านหลังนี้เป็รบ้านที่ตาเราsuicide) เราเอาไปเล่าใครญาติๆฟังบอกมีแต่คนพูดว่าตามั้ง คือสุดท้ายไม่รู้ว่าคืออะไรอยู่ดีแล้วก็มีแค่เรากับน้องที่มั่นใจมากๆว่าเห็นจริงๆ ส่วนลุงๆป้าๆที่เราเอาไปเล่าให้ฟังก็ไม่รู้จะเชื่อรึป่าว แต่เรามั่นใจว่าเห็นจริงๆแบบ100% ถ้าตัดเรื่องผีออกไปก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายว่ามันคืออะไรอยู่ดี เอามาเล่าให้ฟังจอยๆนะคะ😊
แต่เหตุการณ์อื่นๆ ที่อธิบายไม่ได้เลย..เรื่องหลอนนิดๆ เกิดขึ้นตอนไปเที่ยวต่างจังหวัด แล้วที่พักสวยมากๆ แต่สิ่งที่แปลกใจคือ ค่าเช่าถูกผิดปกติ ทั้งวิวดีติดทะเลสวยมาก แต่ห้องนอนพอไปถึง อยู่ๆแอร์ห้องเสีย เจ้าของเรียกช่างมาดูให้ แก้ไขให้เรียบร้อย ซักพักห้องน้ำมีเสียงกดชักโครกตอนแรกนึกว่าพี่ชายแวะมาเข้าหรือป่าว เลยไม่เอะใจอะไร จนเราจะเข้ามั้ง เลยเดินไปห้องน้ำกำลังจะถามว่าเสร็จยัง..แต่ไม่มีใครเข้าห้องน้ำเลย แล้วเสียงกดชักโครกตะกี้ คือ ใคร? เข้าล่ะ กดหลายรอบด้วย 3-4 รอบได้ ตอนนั้นได้แต่มองหน้ามองกับพี่สาวว่ามันคืออะไร? ถ้าไม่ใช่พี่ชายมาเข้า แล้ว..ใครเข้าว่ะ (ห้องน้ำอยู่ในตัวที่พักนะ) ใครเข้าออกห้องคือเห็นหมด นี้คือประสบการณ์ที่ได้ยินเสียงแต่ไม่มีผีโผล่มา แต่กดชักโครกเล่น ทั้งคืน 😅
เคยไปปฎิบัติธรรมที่วัดๆหนึ่ง พระสวดอะไรไม่รู้ เราผู้ไม่ยอมหลับตา รั้นไง เห็นคนลุกขึ้นมาทำท่าต่างๆ แต่สาระเพื่อนของเรากลับโยกตัวค่อยๆแรง ไอ้เราก็ตกใจเพราะคนอื่นทำท่าแปลกๆเราก็เอะ 50/50 แต่เพื่อนเรามีอาการด้วยนิสิคิดหนักเลย พอเสร็จพิธีเราก็ถามเพื่อนๆบอกไม่รู้ตัวเลย
ฟังพี่ทุกวัน แค่ได้ยินเสียงก็ง่วง😅❤️
ส่วนตัวผม เวลาดูหนังในโรง ผมจะชอบ นั่งแถวกลางโรงเลย ตรงที่มีทางเดินกว้างๆ เหยียดขาได้เต็มที่ ลุกง่าย เข้าออกง่าย คนเดินผ่าน ก็ไม่อึดอัด
ประสบการณ์ตรงตอนประถม จำไม่ลืมเลยค่ะ ตอนประถมเคยไปแอบซ่อนคุณแม่ในรถยนต์ (ตรงเบาะหน้า ช่องสำหรับวางเท้า) เข้าไปมุดในนั้น ไม่รู้ว่านานแค่ไหน รู้แค่ว่าเราอยากอยู่ตรงนั้นนานๆ ไม่อยากจะออกไปไหน จนช่วงหนึ่งเรา รู้สึกร้อนมาก หายใจไม่ออก เลยยอมที่จะออกมา พอมาฟังตอนโต คุณพาอเล่าว่า ตามหาตั้งแต่ ห้าโมง ถึง หนึ่งทุ่ม หายังไงก็ไม่เจอ แถมเปิดดูในรถตั้งสองสามรอบ (แต่เราไม่เห็น) จนคุณปู่จุดธูปขอเจ้าที่เจ้าทาง แล้วเป็นจังหวะที่เราออกจากรถมาพอดี เลยไม่แน่ใจจนถึงทุกวันนี้ว่างบังเอิญหรือยังไงกันแน่😅
ถ้าวันไหน exhuma เข้าสตรีมเเล้วมาวิเคราะห์ให้หน่อยนะคะ อยากดูพี่วิเคราะห์มากค่ะ
เราชอบเข้าโรงหนังมากค่ะ แบบต้องอัพเดทหนังใหม่ทุกวีค ก็จะเจอคนแปลกๆทุกประเภท เขย่าแก้ว ถ่ายคลิป เล่นเกม แต่เหตุการณ์น่ารำคาญที่สุดคือคนมาเดท แล้วฉากในหนังเป็นไงก็จะพูดๆกับแฟนให้ไปในเวย์ 18+ แซวๆ ให้ได้ จะจุ๊บให้ได้ นี่ก็เลยบอกช่วยเบาเสียงหน่อยได้ไหมคะ เขาก็เงียบให้ จบเรื่องผช.อะพูดขึ้นมาว่า”อยากดูเงียบๆก็ดูที่บ้าน” หมดคำจะพูดนอกจากเลิกกันเร็วๆไอคนแบบนี้
เจอแบบนี้เดือดแทนเลยครับ อยากจะสวนกลับไปว่า “อยู่ที่สาธารณะก็มีมารยาทบ้าง”
ชอบมากครับ เพลินๆ เลย ฟังไปตีป้อมไป😅
ตอนนั้นไปเที่ยวกับคุณแม่ที่พัทยาแล้วไปพักโฮสเทลนึงเป็นทั้งคาเฟ่และที่พักไปในตัว แว้บแรกที่เดินเข้าไปเจอกุมารตัวใหญ่ตั้งอยู่หน้าเคาเตอร์ก็มองไปผ่านๆไม่ได้คิดไร และตอนที่เข้าไปพักไปไม่ได้จองหรือแพลนอะไรก่อนเลยเพราะไปแบบจอยๆ ในส่วนที่พักมีเหลือแค่ห้องสุดท้ายเป็นเกือบชั้นบนสุด ก็ไม่ได้ซีเรียสเพราะขอแค่ที่พักอาศัยจริงๆ พอเข้าไปในห้อง บรรยากาศและการตกแต่งโดยเข้าคือก็ดูดีระดับนึง ดูไม่ผีสิงอาจจะเพราะตอนกลางวันด้วย และหลังจากเก็บของสัมภาระอะไรเสร็จ นี่ก็เข้าไปทำธุระในห้องน้ำ และก้นั่งแช่ไปได้สักพักนึงแบบเงียบๆยังไม่ทันได้เปิดคลิปหรืออะไรที่ให้มีเสียง อยู่ๆคุณแม่ก้เดินมาและพยายามเปิดประตู ถามเป็นอะไรๆเสียงดูร้อนรนมาก ตอนนั้นนี่ตกใจมากและงงว่าทำไมอยู่ๆคุณแม่ถึงทำแบบนั้น พอทำธุระเสร็จก็ออกจากห้องน้ำมาถามว่าทำไมถึงทำแบบนั้นคุณแม่บอกได้ยินเสียงเราครวญคราง ตอนนั้นเรางงมากเพราะไม่ได้ส่งเสียงอะไรเลย ยังไม่ทันเล่นโทรศัพ ก๊อกแรกผ่านไปโอเคก็ไม่ได้อะไรนี่คิกว่าแม่อาจจะหูแววแหละมั้ง แต่พอก๊อกสองก็คือตอนที่หลังจากเราออกไปเที่ยวข้างนอกจนถึงคว่ำ พอกลับมาถึงที่พักก่อนออกมาจำได้เลยว่าเตียงที่เราเป็นเตียงคู่ที่จะมีโต๊ะเล็กมากั้นเหมือนโรงแรมทั่วไป และมันก็ตั้งอยู่ปกติของมัน พอเปิดประตูเข้าไปนี่กับแม่ก็อึ้งสักแปบ บวกกับงงว่าทำไมเตียงอยู่ๆก็เอนเข้าหากันเพราะจำได้ว่าตอนออกมาคือตั้งอยู่ปกติแต่พอกลับมาเหมือนมีคนไปดันมันให้ชนกัน ตอนนั้นก็เลยโทษไปว่าเตียงอาจจะไหล่มาชนกันเองแหละเพราะตัวเตียงเองก้มีล้อที่เคลื่อนที่ได้อยู่ แต่ในใจจริงๆตอนนั้นคือ ทะแมงๆดูไม่ใช่ละ5555 ระหว่างที่คุณแม่ไปอาบน้ำ นี่ก็เลยพูดออกมาว่าเออ ขอไม่เล่นด้วยนะ ละหลังจากคืนนั้นก้ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก แต่พอเช้าวันต่อมาเช็คอินกลับกทม พนักงานก็ถามเป็นไงบ้างคะห้องพัก ไม่ได้มีอะไรใช่มั้ยคะ โอเคใช่มั้ยคะ ตอนนั้นก้ตอบโอเคแหละแต่ก็แอบทะแมงกับคำถามอีก ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถกับคุณแม่ขับกลับกทมก็คุยกันเรื่องที่พักแล้วถามถึงรายละเอียดเหตุการณ์อีกครั้งว่าเออตอนนั้นหนูครวญครางอะไรหรอ คุณแม่บอกได้ยินหนูร้องบอก ช่วยด้วยๆโดนดูด หรือลื่นล้มอะไรสักอย่างที่เหมือนเรามีอุบัติเหตุในห้องน้ำ และเราเลยบอกคุณแม่ว่าเออ แม่ได้สักเกตุรึป่าวว่าตรงเคาเตอร์มีกุมารนะ อยู่ๆตอนนัันคือแม่ก้ตกใจบอก จริงหรอ ขนลุกเลย สงสัยเค้าคงอยากเล่นกับแม่มั้ง ก็พูดขำๆแก้หลอนกันไป แต่ตัวเราเองก้สังเกตุได้มาสักพักละตั้งแต่ได้ยินเสียงห้องข้างบนเหมือนเสียงเท้าเด็กวิ่งเล่นจากข้างบนเพดาน แต่คือเข้าบอกว่าห้องที่เป็นที่พักมันสุดแค่ห้องเราละไง คือบอกก่อนว่าส่วนตัวคุณแม่เราเป็นคนจิตอ่อนมาก มักจะโดนอำง่ายหรือเจออะไรแบบนี้บ่อยแต่ไม่ได้มาเป็นตัวเป็นตนมากนัก ก็เลยคิดว่าต้องใช่แล้วแหละ55555(และที่เรากล้าพูดนะตอนนั้นเลยเพราะอารมตอนนั้นเราแอบโกดมากที่ทำให้แม่เราแพนนิคเป็นห่วงเรามากนึกว่าเราเป็นอะไรไปจริงๆ)
ไม่น่าใช่เรื่องแปลกอะไร แต่อยากแชร์ค่ะพ่อกับแม่เคยเล่าให้ฟังว่าเราเป็นโคลิค (ที่เด็กตื่นมาร้องไห้ตอนกลางคืน) แล้วเป็นเวลามากคือ ตั้งแต่เที่ยงคืนถึงประมาณตีสาม (สงสารพ่อกับแม่แล้วก็เพื่อนบ้านมากเลยค่ะ5555) ฟังแล้วก็แปลกดี ที่แปลกอีกอย่างคือ ปกติอาการนี้จะหายเมื่อเด็กอายุ 4 - 6 เดือนไปแล้ว แต่เราเป็นจนขวบหนึ่งเลย ไม่รู้ร้องอะไรนักหนา😂หลายครั้งมีคนบอกว่า บางทีเด็กอายุประมาณนี้ถ้าร้องไห้ตอนกลางคืนนาน ๆ แบบนี้ อาจจะเห็นอะไรสักอย่างก็ได้
ส่วนตัวเคยเจอประสบการณ์ที่นั่งดูหนังในโรงหนังกับเพื่อน แล้วเจอคนนั่งไขว้ห้างแล้วเท้าเขาอยู่ตรงหน้าเราพอดีแล้วมันมีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ด้วย ตอนนั้นเราเก็บอารมณ์มากๆ พยายามหันไปอีกทางแล้วดูหนังให้จบแล้ว ออกมาจากโรงก็เล่าเพื่อนเพื่อนบอกว่า ทำไมไม่บอกไปเลยสุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องขำแบบประสบการณ์ชีวิตของเราไปเลยค่ะ
พ่อแม่จะชอบเล่าให้ฟังตอนเราเริ่มพูดชื่อตัวเองได้จะชอบพูดชื่อเกินตลอด ชื่อจริงเราชื่อธนาลักษณ์ แต่เวลาผู้ใหญ่ถามว่าชื่ออะไรจะชอบบอกว่าชื่อเด็กหญิงธนาลักษณ์ธวรรณตาด้วยนามสกุล แต่เราจำช่วงเวลานั้นไม่ได้อาจจะเพราะเป็นช่วงที่ยังจำความไม่ได้ด้วย พออายุ7-8ขวบแม่ก็ท้องน้องเรา วันที่แม่ไปคลอดน้องเราบอกว่าขอตั้งชื่อน้องเอง เราคิดแค่ว่าจะเอาตัวธ.จากชื่อเรา และคำว่าวรรณจากพี่ชายเรามารวมกันเป็นคำหน้าชื่อจากพี่2คน น้องเลยได้ชื่อธวรรณมา แล้วแม่กับพ่อก็จะเล่าถึงเรื่องนี้บ่อยว่าตอนเด้กเราชอบบอกว่าเราชื่อธนาลักษณ์ธวรรณ เหมือนเป็นการตั้งล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะต้องมีอีกคนแน่ๆ แต่นั่นแหละ เราจำเรื่องตอนเด้กที่พ่อเล่ามาไม่ได้เลย😂
จริงมากค่ะ ไปดูหนังผีเก้าอี้ที่นั่งข้างๆ เล่นทรศ. คุยทรศ. แสงก็เปิเสว่างมาก ข้างหลังเตะเบาะอีก หัวจะปวด😅
เคยดูหนังที่เหมือนจะเหมาโรง มีคนจองอยู่ 1 คนก่อนหน้านี้แถวกลางๆ เรากดจองแถวหลังไปเพราะอยากได้ฟิลกว่าซึ่งแพงกว่า แต่พอเข้าโรงไปหาที่นั่ง คนที่จองก่อนหน้านั้นมานั่งแทนที่เราแถมตอนเราเดินไปทำท่างงเหมือนที่ตัวเอง จนเราต้องบอกว่านี่ที่นั่งเราเราจองไว้ค่ะชูตั๋วให้ดูเค้าถึงค่อยเขยิบหนี จะว่าคิดเยอะก็ได้นะแต่สำหรับเรามันคือความไม่ซื่อสัตย์จองที่ถูกแต่ขี้โกงมานั่งที่แพงกว่า
เรื่องในโรงหนัง เราเคยเจอแบบคุณเนสเป๊ะ แต่เป็นคู่มนุษย์ลุงกับป้า ตีมึนสุดจัด เรารู้นะว่าเขารู้ตัว แต่เขาทำเป็นตีมึนไป
ตอนไปพักที่โรงเเรมแห่งหนึ่งในจังหวัดน่านได้ห้องที่ค่อนข้างเก่า และเป็นห้องสองเตียง (แต่เราพักคนเดียว) สักประมาณ 2 ทุ่ม มีเพื่อนโทรมา ก็เลยรับสายและเราก็นั่งคุยกับเพื่อนอยู่ตรงปลายเตียงตัวที่เราจะนอนในห้องเนี่ย ฝั่งตรงข้ามเตียงมันจะมีกระจกแต่งหน้าบานหนึ่งอยู่ เป็นกระจกเก่า ๆ ส่องเข้ามาทางช่องว่างระหว่างเตียงอยู่จังหวะหนึ่งที่คุย ๆ อยู่ ปลายตาเห็นผ่านกระจกที่ส่องสะท้อนว่าข้างหลังเรา ฝั่งเตียงตรงข้ามที่เราไม่ได้นอน มันมีอะไรบางอย่างอยู่บนเพดานเหนือเตียงอันนั้น ตอนเเรกคิดว่าเพราะเหนื่อยจากการไปเที่ยวทั้งวันเลยตาลายไปเอง ก็คุยกับเพื่อนต่อไม่ได้สนใจอะไร แต่พอผ่านไปสัก 10-15 นาที สิ่งสิ่งนั้นยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน พอลองในกระจะดี ๆ มันเป็นกลุ่มก้อนอะไรไม่รู้ดำ ๆ สลัว ๆ (เราดูไม่ค่อยออกจริง ๆ) แต่ถ้าจะอนุมาน มันเหมือนเงาคนนั่งยอง ๆ แล้วห้อยหัวลงมาจากเพดาน จังหวะนั้นตกใจมาก เลยตั้งสติรวบรวมสมาธิแล้วพูดกับเพื่อนที่อยู่ปลายสายว่า “ตอนเนี้ย เราเห็นอะไรแปลก ๆ ในห้อง น่าจะเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คอลสายเป็นเพื่อน แล้วเออออไปด้วยไปก่อนนะ” จังหวะที่คุยกันจนเข้าใจกับเพื่อน เราเห็นเงานั้นย้ายจากเพดาน ลงมานั่งอยู่บนเตียงข้าง ๆ แล้วตอนนั้นนึกขึ้นได้ เลยท่องบทแผ่เมตตาออกมาหลายรอบมาก แต่เงาไม่หายไปเลย อยู่ ๆ อะไรไม่รู้ดลใจ นึกถึงคำสอนพระเรื่องกฎแห่งกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด เลยท่องออกมาดัง ๆ สักครู่หนึ่ง เงานั้นก็หายไปเลย เเละไม่เจออะไรอีกเลย
😮 อ่านจบขนลุกอยู่นะครับ
ทำ Time stamp เอาไว้ให้หน่อยได้ไหมครับ คลิป 50 นาที เล่าเรื่องอะไรไม่รู้เกือบครึ่ง คลิป เสียเวลาสุดๆไปเลยครับ
เคยเจอคือเข้าไปดูหนังตามปกติ ซึ่งนี้จองช่วงกลางโรง เพราะจำได้คนเยอะมาก ช่วงเริ่มต้นหนังก็ปกติดี แต่คนนั่งข้างขวามือเหมือนเจ้าเข้า คือสั่นขาไม่หยุด วิธีแก้ปัญหาของนี่ก็เลยสั่นกลับเจ้าเข้าแรงกว่าเขา เขาเลยหยุด (วิธีนี่ไม่ดีนะคะแต่ตอนนั้นไม่ไหว)55555555555555
เจอเหมือนกันแต่เราจองล่างกลางๆ ทั้งแถวมีเราคนเดียว แล้วมันมีคู่แฟนมาข้างเราเลยแบบข้างๆ แต่เราแก้โดยการเท้าแขนข้างคนที่มานั่งข้างไม่ไปฝั่งที่ว่าง หนังเรื่องนั้นเลยเป็นการดูหนังสามคน
เป็นเรื่องของความsensitive แต่ละคน บางคนถึงแก้ปัญหา เหมาโรง เหมาที่นั่งรอบตัว หรือไม่ ยกระดับ ไป cinema by omazz
ฟีลคนอินโทเวิดค่ะ คนลักษณะนี้จะรู้สึกแบบนี้แหละไม่ผิดเลย
หมายถึงเนสหรือคนในโรงหนัง
รอเรื่อง exhuma นะคะ ❤️
มีอยู่รอบนึงไปดูหนัง เจอเด็กมัธยมนั่งข้างหลังแบบเอาเท้ามาทีบเบาะ หลายรอบด้วยนะ พอหันไปทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรานี่แบบอารมณ์เสียเลย หลังๆเลยซื้อที่นั่งบนๆที่อัพราคาขึ้นมาหน่อย
ส่วนตัวจะรอไปดูหลังจากหนังเข้าโรงสัก1-2อาทิตย์ คนจะน้อยค่ะ ประมาณให้คนเขาไปดูกันก่อน ได้ฟีลเหมือนเหมาโรงหนัง สบายใจไม่อึดอัด
เราเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ นั่งแถว2 หันหน้าไปด้านข้างไปจ๊ะเอ๋กับเท้าของคนที่นั่งแถวบนแบบในรูปเลยค่ะ ไม่โอเคคคค
คุณคนที่อยู่เบาะหน้าจะแบบอาจจะได้กลิ่นอะไรบางอย่างลอยไป 😅 ไม่มีมารยาทเลย ตั้งแต่ขยับเบาะแล้วค่ะแบบนี้
ส่วนตัวนี่เคยไปจองที่นั่ง ตอนแรกทั้งโรงยังไม่มีคนจองเลย เราก็เลือกที่นั่งตรงกลางที่มันไม่มีใครนั่งเพราะจะได้แบบซึ้งคนเดียวได้และเป็นเดอะเบสseatสำหรับเรา ทีนี้พอตอนหนังจะเริ่มเราก็ไปเช็คคนที่จองใหม่ทุกคนมามะรุมมะตุ้มนั่งข้างเราหมดเลย 😂 พ้มไปดูหนังเศร้าก็กลัวว่าตอนเราซึ้งน้ำตาไหลแล้วมันต้องแบบเช็ดหน้าคนข้างๆจะรำคาญเราไหม สุดท้ายเลยจบที่สตรีมมิ่ง เพราะเคยร้องไห้ในโรงหนังแล้วโดนเหยียด โดนถีบเบาะบ้าง เลิก
ประสบการณ์ดูหนังในโรงหนังแล้วเจอคนประเภทไม่มีมารยาทในการดูหนังในโรงหนัง อย่างพูดคุยกันเสียงดังกวนคนอื่น ไม่ก็พวกไม่ปิดเสียงโทรศัพท์ ปัญหาสองอย่างนี้เรายังแก้ไม่ได้ เราทำได้แค่แสดงทีท่าไม่พอใจ เช่น "แกล้งพูดว่าคุยกันเยอะจังวะ"(ขอโทษที่ดูเหมือนพูดหยาบนะคะ) ให้พวกมันได้ยิน ถามว่ามันเงียบไหม? ก็ไม่5555 คนไร้จิตสำนึกมันก็ไร้จิตสำนึกอยู่วันยังค่ำอ่ะเนอะส่วนอีกปัญหานึงที่เราพอจะสวนกลับไปได้คือพวกที่นั่งหน้าเราแล้วพิงมาข้างหลังเยอะจนเราอึดอัด อันนี้วิธีแก้เราคือขยับขาขยับเท้าให้ชนเบาะเขาเบาๆ ให้เขารู้ว่าเราอึดอัดนะ ที่เราเลือกวิธีนี้เพราะไม่อยากบอกเขาให้เสียสมาธิ แต่ถ้ามันรู้ตัวแล้วว่าเราอึดอัดแล้วยังเอนหลังอยู่แบบนั้น เราถีบเบาะค่ะ แล้วก็จะทำขายุกยิกไปเรื่อยๆให้รำคาญเล่น ถือว่าคุณไม่มีน้ำใจเผื่อพื้นที่ให้คนอื่นก่อน เราก็ไม่จำเป็นต้องมีน้ำใจไม่รบกวนเขากลับ ถ้าเขาเอนจนไม่เบียดช่องว่างคนข้างหลัง อันนี้เราไม่มีปัญหา แต่ถ้ามันกินพื้นที่ว่างของเราล่ะก็ ก็ต้องเจอสวนกลับไปหน่อยล่ะค่ะ
เคยเจอเหตุการณ์ที่อธิบายไม่ได้หลายครั้งอยู่ แต่ล่าสุดคือนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นแล้วได้ยินเหมือนเสียงถุง ตอนแรกไม่ได้กลัว ก็อาจจะมีขยะขยับในถุงนั่นนี่ปกติสักพักก็จะเดินไปอาบน้ำ เจอว่าขยะออกมาอยู่นอกถุงประมาณ2-3ชิ้น ทั้งๆที่มันไม่น่าจะเด้งออกมาได้เลยเพราะขยะยังไม่ถึงครึ่งถัง ก็งงๆแต่ก็เก็บใส่ตามปกติ อาจจะโยนไม่ลงถังแต่แรกแล้วไม่เห็นก็ได้ พอเข้าไปแช่น้ำ ได้ยินเสียงเหมือนคนเคาะประตู แบบ “ก๊อก ก๊อก” 2ที เลยตะโกนเรียกชื่อแฟนว่ากลับมาละเหรอ แต่ก็เงียบ นี่เลยเลือกโทรหาแฟน สรุปแฟนยังไม่กลับมาเลย ก็ไม่ได้กลัวนะคะ อาจจะเป็นการลั่นของประตูก็เป็นไปได้ + กับไม่ใช่คนกลัวผีเท่าไหร่ เลยแช่น้ำต่อ แต่ก็ไม่มีอะไรแล้วในวันนั้น ก็เป็น2เหตุการณ์ในวันเดียวกันแบบงงๆ ที่หาคำตอบไม่ได้ว่าสรุปมันเกิดจากอะไร 😅
ส่วนใหญ่ผมจะจองแถว a ไม่ก็ b ชิดมุมเลยครับ ไม่ซ้ายก็ขวา เพราะเคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้เหมือนกัน
ติดตามตลอดครับ❤
ครั้งนั้นไปดูหนังแล้วข้างๆเป็นเด็กมัธยมต้นสองคนผู้หญิงกับผู้ชายน่าจะเป็นแฟนกันก็นั่งดูไปเรื่อยๆ เริ่มมีเสียงที่ไม่ค่อยพึงประสงค์ของน้องผู้หญิงร้องออกมาเบาๆประมาณนึง ละจังหวะนั้นหนังก็ฉายเป็นโทนสว่างเลยเห็นว่าน้องผู้ชายล้วงใต้กระโปรงน้องผู้หญิงอยู่ ตอนนั้นหงุดหงิดมาก ก็แกล้งทำเป็นไอ ให้น้องรู้ตัวบ้างแต่ก็ยังไม่หยุด เลยต้องทนดูยันหนังจบแบบดูไม่รู้เรื่องแล้วโมโหด้วย
ประสบการณ์ของผมล่าสุดก็ ดาบพิฆาตอสูร เหมือนกันเลยครับ มีเด็ก3คนมานั่งโซนหน้าผม แล้วคนขวาสุดเปิดมือถือตั้งแต่ต้นเรื่องจนกลางเรื่อง ไถ่เฟส ไถ่ไอจี จนแฟนผมเห็นผมหงุดหงิด ถึงทักเตือนให้แทน ตอนนั้นคือหงุดหงิดมากครับ😂 มารยาทในโรงหนังแย่เกิน เพื่อนก็ไม่ยอมเตือน
การยกขาขึ้นมาแบบนั้น ทั้งๆที่มีคนนั่งข้างๆ เป็นการเสียมารยาทมากๆ ค่ะ มันเป็นการไม่ให้เกียรติเอามากๆ การอยู่ที่สาธารณะไม่ใช่ว่าคุณจะเอานิสัยที่บ้านมาใช้ได้นะคะ ไม่มีใครรักคุณและใจดีได้เท่าแม่คุณอีกแล้ว 👊👊👊
มาแล้วว
ฟังไปแปปๆจะชั่วโมงนึงแล้วแต่ยังคีย์งานไม่ถึงไหน 5555555555555
เรื่องแย่ๆในโรงหนังมีครั้งเดียวแต่รู้สึกเสียอารมณ์มากๆ คือผมกำลังดูหนังBumbleอยู่ตอนนั้นหนังมันฉาย11โมง แล้วมันเป็นวันหยุดเลยมีเด็กสองคนมากับแม่ แล้วไอเด็กสองคนก็เล่นกันส่งเสียงดังแต่ตอนนั้นในโรงมันยังฉายแค่ตัวอย่างหนังกับโฆษณาอยู่เลยยังทนได้ แต่เมื่อหนังจริงเริ่มฉายปุ๊บ ตอนนี้มีแต่ไอเด็กผู้ชายพูดคนเดียวพยายามบอกแต่แม่ๆดูนั้นบัมเบิ้ลบีๆ แทบทั้งเรื่องจนผมกับคนด้านหน้าหันหลังไปดูไอเด็กนั้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย จนตอนจบกำลังซึ้งทุกอย่างจบทันทีโดยไอเด็กนั้นพูดบัมเบิลบี~~ แบบกวนๆเอื่อย ความรู้สึกตอนนั้นแบบจบเลยคือในใจอยากไปตบปากไอเด็กนั้นมาก และตอนนั้นผมดูเสร็จก็รอดูDBS Brolyต่อ แล้วเห็นไอเด็กนั้นยืนบ่นกับพนักงานว่าเมื่อไรDBจะฉาวอยู่นั้นแหละ จนเมื่อรอบฉายมาพนักงานเหมือนประชดไอเด็กนั้นฌดยบอกว่าฉายแล้วๆ ตอนนั้นภาวนเลยว่าอย่าเจอไอเด็กนั้นนะ สุดท้ายก็ไม่เจอโชคดีไป
สำหรับผมคือเหมือนเขาตั้งใจทำให้เรารำคาญนะ มันสามารถนั่งไขว่ห้างไปอีกทางได้นะ
แบบตั้งใจกลั่นแกล้ง แล้วตอแxล ไม่รู้ไรเเบบนี้มั้ง
ผมไม่ค่อยไปดูหนังเพราะเหตุผลแบบนี้น้องเนสเจอแบบนี้แหละ เหตุผลที่เราเจอคนไม่มีมารยาท มันทำให้เราไม่มีความสุขในการดู
เหตุการณ์ที่เล่าตอนท้ายนี่เหมือนเคยดูจากช่องไหนน้าาา อยากกลับไปดูอีกรอบ ใครจำได้บ้าง😂😂
ผมจะยกขาขึ้นต่อเมื่อไม่มีคนที่นั่งชิดทั้งซ้ายและขวาครับ แต่ถ้ามีต่อให้ไม่ใช่ด้านที่เท้าชี้ไป ก็จะไม่ยกขึ้นเลย มันรู้สึกไม่สบายตัว+เกรงใจ
เคยยืนฉี่ในห้องน้ำที่บ้าน แล้วมีคนจับไหล่จากด้านหลัง ความรู้สึกชัดมาก แต่หันหลังไปไม่มีอะไรทั้งนั้น
เคยเจอแบบอยู่บนห้องละยายเข้าห้องน้ำเลยต้องลงไปเข้าห้องน้ำข้างล่างของบ้าน ปกติจะไม่ชอบเปิดไฟตอนลงไปข้างล่างค่ะ พอลงไปทางซ้ายมือจะเป็นประตูบ้านบ้านนี่จะเป็นประตูแบบนิรภัยมันจะสามารถมองเห็นเงาคนข้างนอกได้ กำลังจะเข้าห้องน้ำทางขาวมือตรงบันได หันไปเจอเงาผชหน้าประตูบ้านเลยนึกว่าเป็นน้าเพราะน้ายังไม่กลับบ้านเลยตะโกนเรียกไปแต่เห็นไม่ตอบเลยเข้าห้องน้ำไป พอออกมาก็ไม่เห็นคนหน้าบ้านเงานั้นแล้วเลยขึ้นห้องไปละก็บอกยายว่าเห็นใคร สักพักประมาณ10นาทีน้าโทรมาบอกปู่เสีย ยายเลยบอกคนนั้นที่เห็นน่าจะเป็นปู่มาหาเพราะก่อนปู่ไปรพ ปู่นอนข้างล้างตรงบ้านเพราะปู่ขยับตัวไม่ได้ นี่ก็ไม่แน่ใจว่าที่เห็นคือใคร
เรื่องที่นั่งที่มีคนนั่งหน้าพี่ เขาก็อยากได้ที่นั่งดีๆกลางๆเหมือนกันรึปล่าว จริงๆเขาอาจจะอยากได้แถว A กลาง แต่พอมีคนจอง ก็จะซื้อต่ำลงมา เป็น B กลางแทน จากใจคนนั่งกลาง ส่วนคนที่นั่งข้างๆ ปวดหัวจริงๆ ถ้านี่เจอก็ไม่ชอบ😂
รู้สึกว่า เวลาโฆษณาจะน้อยลงครับ แต่ก่อน ประมาณ30นาทีตอนที่เรียนอยู่(กทม)แล้วเพิ่งไปเมื่อเร็วๆ นี้ เหลือ 20นาที (ต่างจังหวัด) ไม่แน่ใจเป็นทุกโรงหรือเปล่า
เคยเจอเรื่องอธิบายไม่ได้อยู่ แบบว่า อิหยังว่ะคือวันนึง ผมนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านกับแม่แล้วเสียงพ่อ เรียกแม่มาจากในบ้านว่า เธอๆ(พ่อแม่ผมจะเรียกกันว่าเธอ)ผมได้ยิน ก็มองแม่ ทำไมแม่เฉย พ่อเรียกออกจะดังอีกซักอึดใจนึง พ่อผมเดินเข้ามาจากประตูรั้วหน้าบ้านผมนี้งงเลย อิหยังว่ะถามแม่ แม่ก็บอกไม่ได้ยินถามพ่อ พ่อก็บอกเพิ่งเดินเข้ามาเนี่ย???????????
ในโรงหนัง ไม่น่าจะใช่เรื่องแปลกครับแค่คนๆนั้นเป็นคนไม่มีมารยาทครับ แค่เค้ากล้าที่จะมานั่งในที่ๆไม่ใช่ของตัวเองนี้ก็รู้ละ
สาเหตุที่เลิกดูหนังในโรงก็แบบที่คุณเนสเจอเลยค่ะ เป็นคนชอบดูหนังในโรงมาก ๆ แต่เจอพฤติกรรมคนดูหลาย ๆ คนแล้วจะบ้า เหมือนลืมมารยาทไว้ที่บ้าน
เป็นคนไม่ค่อยเจออะไรในชีวิตเเค่เคยเห็นเด็กเหมือนกุมารยืนอยู่ใต้บันได ตอนผมเดินขึ้น เดาว่าน่าจะหลอนเเหละไม่มีไรหรอก เเต่กลัวนะกลัวจริงงงง😂
เป็นคนที่ชอบดูหนังในโรงคนเดียวยกเว้นเพื่อนชวนอันนั้นก็จะไปหลายคน ประสบการณ์ในโรงหนังเจอมาแล้วหลายอย่าง ไม่ว่า คุยโทรศัพท์ นักพากย์+ผู้กำกับ กลิ่นไม่พึงประสงค์ เก้าอี้ผีเข้าจากคนข้างๆนั่งเขย่าขา คนเดินไปนั่งโดยกระเป๋าละหัวเราไป หรือไม่ก็หันไปเจอติน👣คนคู่พนักเก้าอี้ที่นั่งถัดไป เราจะทำไรได้ เฮ้อ ต้องทำใจ😢ล่าสุดที่เข้าโรงหนังนานมากจนจำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไรคือเพื่อนชวนและคนเต็มโรง ข้างหลังเราเป็นเด็กวัยรุ่นต่างชาติกลุ่มนึงยกเข่าขึ้นมายันเก้าอี้เราเป็นพักๆ เราก็หันไปมองไม่อะไรมากต่างชาติอะนะขายาวคงนั่งไม่สบาย แต่เออะเริ่มถี่จนความอดทนของเราหดหาย...ลุกขึ้นด่าจ้า(ภาษาอังกฤษ) เจ้านั้นก็ sorry จบ ซักพักมาอีกแล้ว ไอ้เจ้านี่ด่าภาษาของมึนไม่จำใช่มั้ย คราวนี้ลุกขึ้นเว่าภาษาไทยไปพร้อมชี้หน้าด้วยก็เกินจะทนแล้วจนเพื่อนเราต้องดึงมือให้นั่งลง สรุปดูไม่รู้เรื่องและไม่เข้าโรงหนังอีกเลย😂😂😂
เคยนอนอยู่ที่บ้านบนเตียงที่ติดพื้นแล้วรู้สึกมีคนเดินเหยียบทะลุตัวยํ่าลงบนเตียง ที่รู้สึกได้เพราะเตียงมันยุบแล้วตัวผมมันยวบลงไป
ความรู้สึกไปดูหนังในโรงคือลบแล้วอะตอนนี้ มันแบบคนไม่ค่อยมีมารยาทเลย ล่าสุดที่เจอคือ คนนั่งติดกันเขย่าขาตลอด ส่วนคนข้างหน้าเล่นมือถือ เล่นไอจีตลอด เหลื่อจเชื่อเลย :(
เรื่องสุดท้ายที่พี่เล่านี่เคยได้ฟังมาเหมือนกันค่ะ อันนั้นคนวางแผนมาเล่าเองเลย😂 แต่ตอนฟังคือขนลุกจริงค่ะแล้วยิ่งมีรูปประกอบของพี่ที่รำตอนนั้นคือสุดๆ แต่จากที่จะแกล้งคนคนเดียวคิอมีคนบาดเจ็บนิ้วหักไปร.พ คือมันวุ่นวายสุดๆ😂
อยากให้เล่าปรากฏการณ์ที่ไม่ใช่ผี
เลิกดูในโรงนานมากแล้ว ดูหนังผีเจอคนคุยกันคุยไม่หยุด หนังฉายไปพักใหญ่มันก็ไม่หยุด พอบอกมันก็คุยน้อยลงแต่มันก็แบบทำไม่พอใจ
พอสตีมมิ่งมาก็จบเลย ดูออนไลนอย่างเดียว
ไม่ได้อรรถรถเท่าโรงแต่ไม่ต้องเสียค่าตั๋วและไม่ต้องลุ้นเจอพวกคนนี้
ตอนมอปลายเคยขับรถไปส่งเพื่อน น่าจะ2ทุ่มกว่า ขับไป2คัน 3คน สมัยก่อนรอบนอกเชียงใหม่ เปลี่ยวมากๆรถน้อย ขากลับทางโค้งนึงเห็นผชใส่เสื้อขาวหน้าตาดียืนอยู่มืดๆ แอบแซวในใจว่า มายืนทำอะไรคนเดียวสุดหล่อ พอกลับถึงบ้าน ต้มมาม่าอยู่ชั้นล่าง สายตาปกติคนเราจะมอง180องศา ปลายหางตาเห็นผช คนเดิมยืนอยู่ในบ้านตกใจมาก ไม่กล้าหันไปเลยเดินตัวเอียงวิ่งขึ้นบันได ตอนเช้าไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่าใช่โค้งตรงนั้นไหม เราบอกใช่ เพื่อนบอกว่าอาทิตก่อนมีวัยรุ่นโดนสิบล้อชนตาย2คนตรงโค้งนั้น ผู้ตายใส่เสื้อสีขาวทั้งคู่ ส่วนเพื่อนที่ขับตามมาบอกไม่เห็นอะไรเลย นอกจากเห็นเราที่ชะลอรถแล้วหันไปมองตรงโค้ง แปลกดีค่ะ มาแชร์ให้ฟัง
การยกขานั่งไขว่ห้าง ในโรงหนัง ในรถไฟฟ้า ที่ที่แคบๆ หันเท้าเข้าหาคนอื่น สำหรับผมรู้สึกว่ามันเสียมารยาทเหมือนกันนะครับ ยิ่งในรถไฟฟ้านี่เจอบ่อยมากครับ
ใช่เลยค่ะ รฟฟ.เจอบ่อยมากค่ะ ไขว่ห้างตอนคนเเน่นคือไม่มีมารยาทสุดๆ
เห็นด้วยคะ
เขาจะโชว์กีย์ให้ดูไง
ช่วงนี้ติดช่องนี้มาก เสียงพี่เนสฟังเพลินมาก ยิ่งตอนทำงาน ทำการบ้านคือดี❤
+1
ช่วงนี้จะไปดูหนังในโรงต้องคิดหนัก เพราะ2-3ครั้งล่าสุดที่ไปดูเจอคนไม่มีมารยาทเยอะมาก และล่าสุดที่ไปดูจอนวิค เจอผปคเอาเด็กเข้าไปดู เด็กพูดทั้งเรื่อง ดูไม่รู้เรื่องเลย เสียเงินไปเกือบ300 เอาตั้งไปเสียให้เนตฟริกยังดีกว่า
เคยเจอคนต่างชาติ ตั้งมือถือถ่ายในโรงเลย ตอนแรกเรานึกว่าถ่ายสั้นๆ ลง Story IG เล่นๆ สรุป ถ่ายจริงๆ ไปเลย 10 นาที เรานั่งอยู่ข้างๆ เราไม่โอเคเลย เลยเดินออกไปบอกพนักงานให้มายืนเฝ้าตรงแถวนั้นเลย ตลอดทั้งเรื่อง จะได้จับชีทัน พอเราลุกออกไปปุป แฟนที่ไปกับเราบอกว่า ชีรีบเก็บมือถือเลย แล้วทำท่าทางเหมือนลบคลิป คือ งงมากว่าทำทำไม
ไม่มีเหตุผลครับ ผมก้อเคยนะ 😅
เคยมีครั้งนึง ห้องผมจะเป็นห้องเช่า ในห้องผมก็มีของค่อนข้างครบพวก เตาแก๊ส ตู้เสื้อผ้า เครื่องซักผ้า ก็มี และวันนึงเพื่อนๆมาทำงานกลุ่มที่ห้อง รวมผมแล้วเป็นชาย 3 หญิง 3 พอมาถึงก็ทำงานอะไรกันไป ทำเสร็จก็นั่งนอนเล่นในห้องไปแล้วจู่ๆผู้หญิงทั้งสามคนก็กรีดขึ้นพร้อมกัน ผู้ชายที่เหลือก็ตกใจว่ากรี๊ดอะไรกัน พอถามเลยรู้ว่า พวกเธอเห็นยายแก่ๆคนนึงยืนอยู่หลังเครื่องซักผ้า เพื่อนผู้ชายก็แซวเล่นอะไรกันไป และผมก็นึกได้ว่าข้างบนตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้างๆเครื่องซักผ้ามีอัฐิของยายเก็บไว้อยู่
อยากให้คุณเนสทำเกี่ยวกับ ฆาตกรกิมจิ เป็นคดีของเกาหลีปี 2014 ชอบเวลาคุณวิเคราะห์คดีมากๆ ถ้าหากสนใจและทำคดีนี้ ขอบคุณมากๆค่ะ ติดตามอยู่ตลอดนะคะ
เคยมีตอนเด็กๆ เราไปร่วมงานเทศกาลกินเจที่ภูเก็ต แล้วมันจะมีพระแห่เยอะมากๆ มีกประทัด มีการแสดงอภินิหารของร่างทรง
เราซึ่งยืนดูอยู่ข้างถนนก็มองไปที่อีกด้านหนึ่ง เราเห็นคนๆ หนึ่งที่ก็มาดูขบวนแห่เหมือนกันเขาทำท่าแปลกๆ แล้วเขาก็ตัวสั่น จากนั้นเขาก็สั่นไปทั้งตัว มีการส่ายหัวตลอดเวลาเหมือนร่างทรงคนอื่นๆ แล้วก็ส่งเสียงร้อง กับกระโดดไปมา ญาติเราบอกว่าเหมือนได้ยินพี่คนนั้นเขาพูดภาษาจีนด้วย
ผ่านไปแปบเดียวมีคนดูแลร่างทรงของศาลเจ้าวิ่งเข้ามาแล้วเอาเอี๊ยมสวมหัวให้พี่คนนั้น จากนั้นพี่เขาก็กระโดดๆ วิ่งเข้าไปรวมกับร่างทรงคนอื่นๆ ในขบวน เรายืนมองแบบอึ้งๆ นี่เราเห็นตอนเทพประทับร่างม้าทรงที่เป็นบุคคลทั่วไปกับตาเลยเหรอเนี่ย
กับอีกเรื่อง เป็นตอนแห่พระเหมือนกัน แต่คนละปี ระหว่างที่กำลังดูขบวนก็มีม้าทรงวิ่งมา แล้วเอาขวานเล็กๆ ถูๆที่ลิ้น แล้วเขาก็เดินไป แต่พอเราดูที่พื้น โอ้คุณพระ ลิ้นที่มีเลือดชะโลมอยู่มันอยู่ที่พื้น!!!!! พี่เลี้ยงม้าทรงรีบเอายันต์วิ่งมาเก็บลิ้นที่พื้นแล้ววิ่งตามม้าทรงคนนั้นไป ซึ่งเดินๆ กระโดดๆ ตัวสั่น ส่ายหัวไปตลอดทาง ไม่ได้มีทีท่าตกใจเลยว่าลิ้นเขาขาด!!!!
แม่บอกสงสัยพี่เลี้ยงต้องรีบพากลับอ้าม (ศาลเจ้า) เพื่อไปทำพิธีออกทรงก่อนถึงพาไปโรงพยาบาลได้
บอกเลย 2 เหตุการณ์นี้จำฝังใจเลย ผ่านมา 30 ปีได้แล้วยังไม่ลืมเลย
ประสบการณ์ตอนปี1 ช่วงโควิดฉ่ำ ๆ เลย เราต้องหาเช่าหออยู่เพื่อปรับตัวจากเด็กที่ติดบ้านติดตายาย ต้องปรับตัวมากพอสมควร เราเช่าหอมากถึง3ที่ 555555ปัจจุบันอยู่หอที่3ไม่ย้ายเพราะใกล้จบแล้ว หอแรกเป็นอะไรที่แปลกและแพงมากเป็นหอนอก ซึ่งห้องเราเป็นห้องเลขอะไรไม่รู้แต่จำได้ว่าลงท้าย11 เดินเข้าไปอึ้งมาก ประตูหน้าห้องตรงกับประตูหลังห้อง (เรามีความเชื่อที่ว่าประตูหน้าหลังห้ามตรงกันเพราะเป็นเส้นที่ผ.ผ่าน) ก็เลยเอ๊ะละ เอ๊ะอีกตรงด้านหลังเป็นป่า มองออกไปคือป่าเต็ม ๆ และห้องน้ำก็อยู่ด้านนอก ตรงนั้นไม่มีม่านหรืออะไรกั้นเลยนะ เป็นลวดเหล็กปกติเลย เอ๊ะที่สามตู้เสื้อผ้ามีกระจกตรงกับเตียงนอน ถ้าเราหันหน้าก็หลอนอยู่นะตื่นมาเห็นหน้าตัวเองเลย เตียงกว้าง5ฟุตไม่ติดพื้นนะแต่เป็นเตียงที่มีใต้เตียง ก็คือช่วงนั้นไม่หลอนหรืออะไรเป็นความที่คิดไปเองมากกว่า แต่พอเราอยู่ไปได้ไม่นานทนกับปากของเจ้าของหอไม่ได้และค่าห้องที่ขูดเลือดขูดเนื้อจะตายกันไปข้างเลยเลือกที่ย้ายหอ ก่อนย้ายหอคืนนั้นน่าจะช่วงตี1-2 เรารู้สึกขยับตัวไม่ได้ ร้องก็ไม่ออก แต่ตาพร่ามัวแต่เห็นลาง ๆ ว่ามีคนตัวสูงใหญ่ผิวดำมายืนอยู่ที่ปลายเตียง คิดในใจ โดนแน่ ๆ อำกูแน่ ๆ แต่เขาไม่ได้ทำอะไรเราเพียงแค่ยืนมองเหมือนบอกประมาณว่า ไปจากที่นี้ดีแล้ว (อันนี้คิดไปเองมากกว่า) แต่ถ้ามองหลักวิทยาศาสตร์พี่เนสจะเคยเล่าแล้วหรือเปล่าเรื่องการโดนผีอำ มันเกี่ยวกับร่างกายของเรามากกว่า พอย้ายจากหอที่1 มาหอที่2ก็โดนผีอำถึง3รอบ และพอย้ายมาหอที่3 ก็โดนอำอีก เหมือนเป็นการต้อนรับน้องยังไงก็บอกไม่ถูก55555
24:01 ห้ามมีห้องน้ำไว้ชั้น 2 ฮวงจุ้ย เขาบอกจะทำให้คนในบ้านเจ็บป่วยบ่อย แต่จริงๆมันเป็นกุศโลบายสมัยก่อน เรื่องที่ถ้าเกิดมีท่อแตก หรือน้ำรั้วอะไร มันจะไหล จะซึม พังมาชั้น 1 ดูแลลำบาก
ฟังจากเรื่องของเพื่อนคุณเนสแล้วอดคิดไม่ได้ค่ะ จินตนาการเราไปไกลมากกก ถ้าสมมุติว่าเราใส่สมมติฐานแปลกๆเข้าไปในเรื่องแล้วมันก็สนุกๆแปลกๆด้วย สมมุตินะคะ
" คุณป้าที่รำตรงหน้าอาคารพาณิชย์ อาจจะเคยเป็นนางรำมาก่อนเมื่อตอนสมัยสาวๆ แต่ว่าคุณป้าคนนั้นอาจจะไปเล่นของมีครูเข้า เลยทำให้เป็นคนสติไม่ดี คนในบ้านในตอนนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง เพราะค่ารักษาโรคทางจิตเวชค่อนข้างสูง แล้วคนไทยบางส่วนก็คิดว่าโรคจิตเวชสามารถหายได้เอง เลยไม่ได้พาคุณป้าคนนั้น ไปหาหมอและประกอบกับความคิดความเชื่อของคนที่บ้านที่เชื่อว่าโดนของกลับเข้าตัวเอง คุณป้าก็เลยต้องอยู่กับโรคจิตเวชแบบนั้นต่อไป จนวันหนึ่งอาการของคุณป้าเกิดกำเริบขึ้นมา ทำให้เกิดเหตุการณ์ฆตก.ยกบ้าน จนเหลือแค่คุณป้าคนเดียว และด้วยความที่จิตไม่ค่อยดีก็เลยทำให้กลายเป็นคนที่ร่อนเร่ต่อไป เพราะญาติพี่น้องก็ไม่อยู่แล้ว คนที่อยู่ไกลกันก็ไม่รู้เรื่องนี้ และด้วยความที่เป็นนางรำเก่า จากประสบการณ์ของคุณป้า เลยทำให้ความทรงจำส่วนนี้ย้อนเข้ามาและรำตามท่าทางการรำที่เคยเรียนมาและยังเดินทางต่อไปและรำตามสถานที่ต่างๆจากความทรงจำ ส่วนที่คุณป้ารำหน้าอาคารพาณิชย์ก็อาจเพราะว่าในความทรงจำหนึ่งของคุณป้าคนนั้นอาจจะมีสถานที่ใกล้เคียงกับอาคารพาณิชย์แห่งนี้ หรืออีกนัยหนึ่ง คุณป้าอาจจะโดนของจากการผิดครูจริงๆก็ได้แต่ก็ำม่อาจมีใครล่วงรู้แล้วว่า คุณป้าคนนี้ยังเกินร่อนเร่แล้วรำตามสถานที่ต่างๆในความทรงจำอยู่มั้ย... "
อ่านๆเป็นทฤษฎีขำๆกันนะคะ ไม่ต้องจริงจัง แต่แว๊บแรกที่ฟังเราคิดถึงสตอรี่ประมาณนี้เลยค่ะ
มีอยู่เรื่องนึงคือ เราโดนเรียกชื่อ 3ครั้ง จากห้องเช่าเอาจริง ห้องเช่านี้ไม่ได้ใหญ่เลย แต่เรื่องนี้เกิดตอนเราเด็กมากๆ เราเป็นเด็กที่เอาจริงกลับบ้านดึกตั้งแต่เด็ก เพราะชอบไปเที่ยวเล่นบ้านเพื่อนที่อยู่ข้างๆ บ้านเพื่อนคือใกล้กันมาก สนิทกันมาก พ่อแม่เรากับเขาก็สนิทกันด้วย เราโดนเพื่อนเรียก ตอนนั้นเรากลับมาบ้านหลังจากไปเที่ยวบ้านเพื่อนคนนั้นแหละ พอกลับมาจำเวลาไม่แม่นประมาณสี่ทุ่มเราได้ยินคนเรียกชื่อเราแล้วมันเป็นเสียงเพื่อนคนนี้แหละ เราก็ตอบรับไป พร้อมเปิดประตูดูด้วยนะคะ ยํ้า เราโดนแบบนี้สามรอบเรียกชื่อเรา แม่เราก็ได้ยิน เราเปิดประตูสามรอบ จากนั้นเราก็หาคำตอบไม่เจอ แล้วหลังจากสามรอบนั้นก็ไม่มีเสียงเรียกอีกเลยค่ะ เรางงสุดๆตอนนั้น55555555555 แต่เราก็ปล่อยผ่านไป เอาจริงมีอีกเหตุการณ์ด้วยค่ะ
อันนี้เป็นเหตุการณ์ที่เราโตและเพิ่งเจอกับตัวเองเมื่อไม่นานมานี้ คือเรื่องนี้เกิดที่วิลัย วันนั้นที่วิลัยมีกีฬาสี ข้างล่าง เรากับเพื่อนอีกคนมาเข้าห้องนํ้าที่ตึกชั้น 2 ข้างล่างก็ได้ยินเสียงกลองเสียงเชียร์ตามปกติ ทีนี้ห้องนํ้าวิลัยเรา จะแปลกๆหน่อย คือห้องแรก จะเป็นห้องนํ้าชักโครก ส่วนห้องอื่นๆจะเป็นห้องนํ้านั่งย่องๆ ซึ่งเพื่อนเราเข้าห้องนํ้าก่อน เรารอที่หน้ากระจกคนเดียว เราเห็นเพื่อนเข้าห้องนํ้าแรกที่เป็นห้องนํ้าชักโครก เราเห็นกับตาแต่ก็ยังไม่แน่ใจ เราเห็นเพื่อนเราเงียบไปเลยไปดูที่ประตูห้องนํ้าห้องแรก เราก็เห็นประตูล็อคอยู่ เราก็โอเคเพื่อนเข้าห้องแรก อีกสักพักนึง เราก็ยืนหน้ากระจกรอ เพราะปกติเราเป็นคนเข้าห้องนํ้าชักโครกอย่างเดียว เลยรอเพื่อนออกมาก่อน เงียบไปสักพักมีเสียงดัง ตึง ดังมากๆค่ะ เหมือนเสียงประตูที่ถูกเปิดแรงๆดังๆ เราเลยเรียกเพื่อน ซึ่งเพื่อนไม่ตอบ และเพื่อนก็ออกมาจากห้องนํ้าห้องที่สอง เราเลยแบบ ห้ะ ถามเพื่อน มึงเข้าห้องที่สองเหรอ มันบอก อืม แล้วเราไปดูประตูห้องแรก ที่เป็นชักโครก เราเห็นประตูมันเปิดอยู่ เราเลยงง เมื่อกี้ประตูมันยังปิดอยู่เลย เพราะว่าถ้ามันไม่ปิดเราเข้าไปแล้ว เรางงแบบมากๆ อันนี้เป็นมุมเพื่อน เราถามเพื่อนว่าได้ยินเสียงดังตึงมั๊ย มันบอกได้ยิน แล้วเราเลยถามว่าได้ยินที่เราเรียกมันมั๊ยมันบอกไม่ได้ยิน แล้วมันก็บอกว่ามันเรียกเราด้วย แต่เราก็ไม่ได้ยินเหมือนกัน มุมของเพื่อนตอนอยู่ในห้องนํ้า คือมันได้ยินคนชักโครกด้วย แล้วมันก็คิดว่าเราเข้าห้องที่เป็นชักโครก สรุปต่างคนต่างคิดว่าอีกคนเข้าห้องชักโครก เรื่องก็จบเท่านี้เลยค่า
มีครั้งนึงเราไปบ้านแฟนซึ่งบ้านเป็นชุมชนริมคลองที่มีมานานเป็นทุ่งข้าวในสมัยก่อนเป็นร้อยปีจนกาลเวลาเปลี่ยนจากทุ่งนาเป็นเมือง เรานั่งซ้อนมอไซแฟนไปเพลินๆ เห็นคนคนนึงนั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนนั่งแบบปกติเลย แต่ตาเขามีสีดำทั้งดวง ตัวเขาสีเทาเทาทั้งตัวและมีอักขระอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ด้วยความที่มันเป็นถนนแคบๆจึงมองเห็นได้ถนัดอีกทั้งมองสายตาผสานกันกับเราจนลับตาไป กลับมาถึงบ้านเล่าให้แฟนฟังก็ไม่รู้ว่าคือใคร จนกระทั่งวันนึงเล่าให้พี่สาวแฟนฟังเขาบอกว่าเขารู้จักผช.คนนั้นเหมือนว่าจะเป็นหมอเป่าหรือหมอยาอะไรประมาณนั้นเคยให้เขารักษาตอนเจ็บป่วยและก็หายด้วยแต่เขาเสียไปเป็นสิบๆปีแล้ว..... เรื่องราวแถวนี้เยอะมากๆทั่งเจอเองหรือคนในชุมชนเล่าให้ฟัง
พ่อเคยเล่าให้ฟังค่ะว่า มันมีช่วงที่พ่อยังหนุ่มๆ พ่อต้องย้ายไปทำงานที่ภาคใต้ วันนั้นก็ทำงานเสร็จปกติ ด้วยความที่พ่อเป็นคนทำงานกลางคืนเขาก็เลิกงานจะกลับก็เกือบๆเช้า ประมาณตี4จะตี5ก็ขับรถกลับ แล้ววันนั้นมีน้องที่ทำงานของพ่อขอติดรถกลับที่พักด้วย2คนค่ะ ด้วยพ่อก็ไม่ได้อะไรก็พากลับด้วย แต่พอไปถึงทางผ่านที่จะต้องผ่านสุสาน มันจะเป็นสุสานคนจีนก่อน แล้วขับมานิดนึงก็เป็นป่าช้า พ่อก็ไม่ได้อะไรขับตามปกติ แต่สายตาของพ่อก็ไปเห็นลุงคนนึง ใส่เสื้อสีขาว อายุประมาณ70 ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าสุสานคนจีน พ่อก็เอะใจเลยหันไปถามน้องที่อยู่ข้างหลังรถว่าเห็นมั้ย รุ่นน้องคนนั้นเลยบอกว่าอย่าไปทัก แต่ด้วยความที่พ่อไม่ได้กลัวเลยเงียบเฉยๆ แต่พอขับไปถึงตรงป่าช้า ก็เห็นลุงคนเดิมเลย ยืนอยู่ พ่อเลยทักขึ้นมา ว่าเอ้ย ลุงคนเดิมเลย แล้วหันไปถามรุ่นน้องว่าเห็นรึเปล่า รุ่นน้องของพ่อเลยดุพ่อ ประมาณว่า ทักทำไมพี่ ที่นี่เขาห้ามทัก พ่อก็เหมือนจะงงๆ เลยหันมาขับรถต่อ แต่ด้วยความที่เพิ่งย้ายมาแล้วหมอกก็ลงหนามากๆ คืนนั้น คุณพ่อก็เกิดประสบอุบัติเหตุ รถที่พ่อขับชนรั่วข้างทางตกเขา ในเหตุการพ่อบอกว่า หมอกหนามาก รู้ตัวอีกทีก็กำลังตกเขารถก็กระแทกกับพื้นหมุนไป จนพอทุกอย่างเงียบ พ่อก็มาตื่นที่โรงพยาบาล พ่อกระดูกร้าวและหักหลายที่จนต้องดามเหล็กทั้งตัวเลย ส่วนรุ่นน้องที่นั่งมาด้วยเสียชีวิตทั้งสองคนค่ะ
หลังจากเหตุการครั้งนั้นคุณพ่อก็ออกจากโรงพยาบาลมาพักรักษาตัวต่อที่ห้องพักของพ่อ โดยที่ตอนนั้นคุณพ่อได้พักอยู่กับแฟนสาว(ไม่ใช่คุณแม่นะคะ) กันสองคน ในคืนนึงที่พ่อนอนอยู่บนเตียง ด้วยความที่เจ็บแผลก็ไม่ค่อยจะหลับ แต่ช่วงดึกของคืนนั้นในขณะที่พ่อกำลังเคลิ้มๆจะหลับ ก็ได้สังเกตุเห็นว่ามีเหมือนชุดคลุมอาบน้ำสีขาว แขวนอยู่ตรงปลายเท้าของพ่อ พ่อเลยพยายามมองดู แล้วก็เห็นว่าผ้าคลุมผืนนั้น ค่อยๆใกล้เข้ามาช้าๆ จนพ่อสามารถเห็นได้ว่านั้นไม่ใช่แค่ผ้าคลุม แต่เป็นคนที่เดินเข้ามาตรงปลายเท้าของพ่อ เป็นผู้ชาย ตัวสูง เดินเข้ามา แต่ที่ทำให้พ่อกลัวสุดขีดก็คือ ผู้ชายคนนั้น เขาถือหัวของตัวเองอยู่แล้วค่อยๆเดินอ้อมจากปลายเท้าของพ่อ ไปทางซ้ายมือแล้วก็ค่อยๆเดินทะลุกำแพงอ้อมมาทางขวามือ ก่อนที่จะยืนข้างๆพ่อสักพักหนึ่ง และในจังหวะนั้นพ่อที่ขยับร่างกายไม่ได้ ออกเสียก็แทบไม่ได้ เนื่องจากบาดแผลที่โดนเหล็กดามไว้ ก็วิ่งหนีไม่ได้ พยายามตั้งสติแล้วสวดมนต์เท่าที่จะสวดได้ ร่างของชายคนนั้นก็ค่อยๆนั่งลงข้างๆพ่อ พ่อบอกว่าตอนเขานั่งพ่อรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าเตียงค่อยๆเอียง ยุบไปตามน้ำหนักของคนที่นั่งมา ทำให้ตัวของพ่อที่นอนอยู่ต้องเอียงตาม จนตัวไปติดเข้ากับผู้ชายคนนั้น พ่อสวดมนต์อยู่อย่างนั้น ทั้งกลัว ทั้งเจ็บ จนรุ่งเช้า ก็ได้ยินเสียงไก่ขัน แล้วพ่อก็ได้กลิ่นดอกมะลิอ่อนๆ แล้วชายคนนั้นก็ลุกขึ้นแล้วหายไป พอพูดออก พ่อรีบปลุกแฟนที่นอนข้างๆว่าผีหลอก แล้วก็ย้ายหอทันที หลังจากนั้นพ่อก็ไม่เจอชายคนนั้นอีกเลย
เราซื้อบ้านมือสอง ซึ่งสภาพดีมาก ยังใหม่ และตกแต่ง ต่อเติมหน้าบ้าน -หลังบ้านแล้วเรียบร้อย ทำเรื่องซื้อบ้านเสร็จเรียบร้อย แต่ยังไม่มีเวลาย้ายเข้า และเราได้ไปดูฤกษ์งามยามดีการย้ายเข้ากับลุงเราที่เป็นคนทรง ลุงบอกวันที่มา อย่างที่บอก เราไม่มีเวลาเลย ลุงจึงบอกว่า งั้นไปนอนเอาฤกษ์เอาชัยก่อน ในวันฤกษ์ดีนั้น อ่ะ เราก็เชื่อลุงนะ ขนอุปกรณ์การนอน กับชุดนอน- ชุดทำงาน ไปนอนก่อนสักคืน ในคืนฤกษ์ดี เราไปกับแฟน 2 คน นอนห้องใหญ่ ติดระเบียงทางหน้าบ้าน เราก็หลับไป ไม่ได้คิด หรือกลัวอะไร แล้วเราฝัน … ฝันว่า ประตูห้องนอนเปิดออก แล้วมีผู้ชายตัวสูงมาก สูงจนหน้าเขาพ้นขอบประตู จึงไม่สามารถมองเห็นหน้าได้ ไม่ใส่เสื้อ รูปร่างกำยำล่ำสัน เห็นกล้ามชัดเจน ใส่ผ้าหยักรั้งสีปูนแดง (ผ้าหยักรั้งรึเปล่า เรียกไม่ถูก ไม่สั้นเท่าผ้าเตี่ยว แต่ไม่ยาวเท่าโจงกระเบนอ่ะค่ะ ) เราหันไปมอง มีแสงสว่างสาดส่องมาจากทางด้านหลังเค้า จึงเห็นร่างยืนทะมึนอยู่ แต่ในฝัน เราไม่ได้กลัวอะไรเลยนะ คือ มีอะไรบางอย่างที่เราสัมผัสได้ว่า เขามาดี เขาถามเราว่า จะมาอยู่กันกี่คน เราเลยบอกว่า 4 คนค่ะ มีใครบ้าง เราก็ไล่ให้เค้าฟัง ว่ามีใครบ้าง เขาถามต่อว่า 4 คนนี้ ขายคนละ 35 บาทได้ไหม ? ในฝันเราปฏิเสธเสียงแข็ง ยังไงก็ไม่ขายค่ะ นี่คือครอบครัวของหนู !!! เถียงกันอยู่พักนึง เราก็สะดุ้งตื่น จำฝันได้แม่นยำ รูปร่างหน้าตา ยังไง เราก็เล่าเรื่องนี้ ให้ลูกน้องในที่ทำงานฟัง ลูกน้องเราซื้อหวย 435 หวยออกเลขนี้เป๊ะ เลย
เราเล่าเรื่องความฝันให้ลุงที่เป็นคนทรง ฟัง แกบอกว่า เป็นเจ้าที่เจ้าทางของที่นี่ ใจดี บอกชื่อมาด้วย บอกเราตรงทุกอย่าง เกี่ยวกับรูปร่าง ลักษณะ ไม่ต้องกลัว เขาใจดี
เราคนนึงเบื่อโรงหนังไปแล้ว พักหลังๆมาเจอแต่คนไม่มีมารยาทต่อคนอื่น เล่นโทรศัพท์บ้าง เล่นนานด้วย ถีบเบาะบ้าง เอาลูกมาเลี้ยงในโรงกันบ้าง เดี๋ยวแกะขนมให้ลูก เดี๋ยวดุลูก รำคาญสุดๆ ทุกวันนี้ไม่อยากเสียตังเข้าไปดูเลยค่ะ อึดอัดสุดๆ
เราเคยได้ฟังเรื่องแปลกๆจากย่ามา ช่วงนั้นอาเราเพิ่งเสียได้ไม่กี่วัน ยังทำพิธีต่างๆไม่เสร็จเลย ช่วงที่ย่านอนอยู่ที่บ้าน ประมาณตี3หรือตี4ไม่แน่ใจค่ะ ได้ยินเสียงคนใส่รองเท้าบูทเดินข้างๆบ้านแทบทุกวัน เจอแบบนั้นอยู่เกือบเดือน ย่าคิดว่านั่นเสียงเดินของอาหรือเปล่า เพราะว่าอาชอบออกไปหากบหาปลาตอนกลางคืน กลับมาเกือบๆเช้าบ่อยๆ แล้วก็ชอบใส่รองเท้าบูทตลอด ไม่รู้ว่าจริงแค่ไหนนะคะ แต่ย่าเรายืนยันว่าได้ยินจริงๆ เพราะกำแพงบ้านเป็นไม้ มันก็เรื่องแปลกๆไม่น่ากลัวเท่าไรค่ะ ส่วนตัวเราไม่เคยเจอ
ไปนอนโฮมสเตย์ที่จันทบุรี ไปกัน 7 คน เรือนที่พักจะเป็นห้องแบบบังกะโลด้านหน้าเป็นกระจก ติดม่านปิด พอเข้าไปข้างในก็จะปูที่นอนสองฝั่ง ด้านในสุดเป็นห้องน้ำสองห้องนะคับ ส่วนข้างหน้าจะเป็นระเบียงรูปตัวแอลมีที่นั่งเล่นได้ พอตอนกลางคืนหลังกินอาหารเสร็จ เพื่อน 3 คนก็ออกมานั่งแอ๊วผู้ตรงที่นั่งที่ระเบียง อีก 4 คนอยู่ในห้องก็เตรียมตัวนอนกัน ในห้องปิดไฟหมด เปิดไฟในห้องน้ำแล้วแง้มประตูไว้
ผังที่นอนคือ นอนฝั่งซ้ายสี่คน ขวาสามคน อธิบายแบบใส่เบอร์ที่นอนให้ที่นอนเบอร์ 1 คือที่นอนริมกระจกหน้าห้อง แล้วเรียงกันมาเรื่อย ๆ เบอร์ 4 คือติดห้องน้ำนะครับ ที่นอนที่มีคนนอนตอนนี้คือ ซ้าย 3 ซ้าย 4 ขวา 1 ขวา 4 ขวา 2 ไม่มีคนนอน ส่วนคนที่นอนซ้าย 1 ซ้าย 2 ขวา 3 ออกไปแอ๊วผู้ข้างหน้าห้อง
ทีนี้เพื่อนที่นอนซ้าย 1 นางยังไม่หลับ แล้วก็แง้มชายผ้าม่านดูข้างนอกเพราะข้างนอกเสียงดังมาก สักพักนางก็บอกว่า เฮ้ย ก.น่าจะได้ผู้ว่ะ เพื่อนที่นอนซ้าย 3 ก็วิ่งไปแง้มผ้าม่านตรงประตูดูอีกคน นี่นอนในสุดและเล่นเกมอยู่เลยไม่ได้สนใจ ส่วนอีกคนหลับแล้ว สองคนนั้นก็ดูกันสักพักแล้วก็กลับมานอน
พอเช้าก็มากินข้าวกัน พอมากันพร้อม น้องหนึ่งในสามที่แอ๊วผู้เมื่อคืนก็บอกว่า พี่ อยากดูก็ออกมาดูสิ จะมุดม่านดูทำไมกัน หนูเห็นนะ ต้องเป็นพี่ ข. พี่ ค. พี่ ง. แน่เลย คนที่อยู่ในห้องก็งง บอกว่า ข.กะ ค.อะใช่ แต่ชั้นกะพี่ ง.ไม่ใช่ เพราะชั้นเล่นเกม ส่วนพี่ ง.เค้านอนแล้ว ยัย ก.ยืนยันว่าต้องสามคนแน่ ๆ เพราะหนูเห็นม่านเปิดสามที่ ตรงมุมขวา (ที่ข.นอน) ตรงประตู (ที่พี่ ค.ยืนดู) แล้วก็ตรงมุมซ้าย (ที่ จ.ซึ่งเป็นหนึ่งในสามคนนอน แต่ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ตรงนั้น) น่ะ แน่นอนพี่ หนูเห็น ยิ่งตรงมุมซ้ายนะ พอหนูหันไปเห็นยังมีการปิดม่านหลบ แล้วเปิดอีกรอบด้วย
ทุกคนเลยบอกนางว่า มึงโดนแล้วค่ะ ไปทำบุญด่วน สรุป ปิดทริปคือไปวัดไปทำบุญ คนที่หนักสุดคือ จ.ที่นอนตรงนั้น มีการขอรดน้ำมนต์ด้วย ส่วน ก.ยัยคนเห็นยังเชื่อว่าโดนเพื่อนหลอกอยู่
ทางนี้ก็เคยมีค่ะ แบบนั่งดูจอยๆอยู่ แต่ดันมีคนข้างหลังถีบที่นั่งเเรงมาก แถมยังพูดแทรกหนังเสียงดัง ไหนจะมีเด็กเล็กที่เดินไปเดินมาตลอดอีก
ตอนช่วงประถมฯ ปลาย (เกือบ 20 ปีที่แล้ว) หลังจากที่ยายเสียไปได้ไม่ถึงปี ก็ต้องตื่นมารีดเสื้อนักเรียนเอง ช่วงนั้นคือพ่อกับแม่อยู่ ตปท. ก็อยู่บ้านกับพี่ ๆ แต่ว่าปกติ พี่สาวคนโตจะคอยรีดชุด นร.ให้ แต่ช่วงนั้น พี่ไปค่ายอาสาตอนเรียนมหาลัย เลยทำให้เราต้องรีดผ้าเองตอนเช้า (เพราะขี้เกียจอะแหละ) แล้วรถรับส่งมารับที่บ้าน 6 โมงครึ่ง เพราะเป็นคิวแรกของคัน จึงต้องตื่นเช้ากว่าปกติมาอาบน้ำ กินข้าว รีดผ้า และแต่งตัว ช่วงประมาณ 6 โมง หลังจากอาบน้ำ กินข้าวเสร็จ ก็มารีดเสื้อนร. โลเคชั่นของที่รีดผ้า กับราวชุด นร. อยู่ใต้บันไดฝั่งที่ไม่ค่อยได้ใช้ (ที่บ้านมี บันได 2 ฝั่ง ที่ขึ้นไปห้องนอนชั้น 2 เหมือนกัน) เวลารีดผ้าก็จะลากที่รีดผ้าพร้อมเตารีดออกมาจากใต้บันได หันหน้าออกไปทางหน้าบ้าน มุมมอง ณ เวลานั้นคือ ถ้าเงยหน้าจากที่รีดผ้า จะมองทอดยาวไปเจอกระจก นอกกระจกเป็นทางเดินเล็ก ๆ จากประตูกระจกหน้าบ้านข้ามไปสวน เดินเข้าไปในสวนจะเจอศาลตายาย เลยทางเดินไปเป็นพุ่มดอกไม้ ถัดจากพุ่มดอกไม้ เป็นบ่อปลาคราฟ ซึ่งด้านซ้ายของบ่อปลาเป็นทางเดินไปที่ศาล ด้านขวาเป็นลานกว้างและประตูบ้านพร้อมลานจอดรถ ถัดจากบ่อปลาก็เป็นพุ่มต้นจันทร์ผาใหญ่ 2 ต้น อยู่ติดกับรั้วบ้าน ณ เวลานั้น ตื่นมาคนเดียว เด็กอายุประมาณ 11 ขวบ ยืนรีดผ้าอยู่ ด้านนอกอึมครึมบรรยากาศของเช้ามืด ที่ยังไม่สว่าง แต่มีแสงจากรั้วบ้านลอดข้ามพุ่มจันทร์ผามา ไอเด็กคนนี้มันก็ยืดรีดผ้า พร้อมร้องเพลงการ์ตูนไปเรื่อย ออกอาวุธ ๆ ที่พัฒนามาเป็นชุด ฯลฯ ด้วยความที่มันมืด ด้านนอกทางเดินตรงสวนและบ่อปลามันก็มีแสงเล็ก ๆ ขยับไปมาตามพุ่มไม้ ก็เลยหยุดรีดแล้วมองออกไปนอกกระจก เรียกว่าเหม่อ (ระยะห่างจากที่รีดผ้าไปหน้ากระจกประมาณ 10 ก้าว) จังหวะนั้น เห็นคนผมยาวมาก ใส่ชุดสีขาวแขนยาว กระโปรงยาว หันหน้าเข้าศาลตายาย บรรยากาศคือลมด้านนอกเหมือนจะแรงจนชุดพริ้วไหวไปมา เขายืนอยู่แบบนั้น ซึ่งเราก็จ้องเขาแบบนั้น เพราะตอนเด็ก กลัวผีมาก ๆๆๆๆ แต่คือภาพนั้นมองไม่ละสายตาเลย กำลังตกตะกอนว่า "ใครอะ" ภาพที่เห็นคิดไปถึงท่านหญิงกาลาเดียล ในหนังเรื่อง The lord Of The Rings แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า ที่เขายืนตรงนั้น หันหน้าเข้าศาล เป็นบ่อปลาคราฟ คนปกติไม่สามารถยืนบนบ่อได้เลย พอคิดได้แบบนั้นก็ก้มหน้างุด ๆ รีบรีดผ้าให้เสร็จแล้วปิดไฟใต้บันได ไปนั่งเล่นหน้าทีวีรอรถรับส่งมารับดีกว่า หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ก็ไม่คิดจะรีดผ้าตอนเช้าอีกเลย แล้วก็ใช้เวลาหลายปี กว่าจะบอกพี่ ๆ กับพ่อแม่ว่า เราเจออะไรในวันนั้น แล้วก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า ที่เจอคืออะไร 555555
ยิ่งดูยิ่งสนุกครับ ช่องนี้ ชอบมากครับ ขอให้ทำคลิปดีๆแบบนี้ ตลอดไปนะคะรับ ✌️👍😁
เคยเจอประสบการณ์ตรงค่ะ มีหลายเรื่องมากเป็นคนเจอเรื่องนี้บ่อยมาก มีครั้งนึงไปอยู่หอพักกับเพื่อน เป็นหอพักในที่ฝึกงาน ที่ฝึกงานเป็นโรงแรมโลเคชั่นเป็นภูเขาค่ะ หอพักก็จะแยกเป็น หอหญิง-ชาย หอครอบครัว หอผู้บริหาร เราอยู่หอหญิงที่มีรั้วล้อมรอบ ทางเข้ามีทางเดียวคือด้านหน้า แต่ประตูใหญ่คือต้องเดินผ่านห้องมา 2 ห้องก่อนแล้วเดินเข้าไปจะเป็นห้องโถงค่ะ ห้องเราจะอยู่ห้องแรกเลย จะมองเห็นทางเข้าด้านหน้าถ้าใครเดินผ่าน คืนแรกที่เข้าไปอยู่เลย เรากับเพื่อนมองเห็นเงาคนตรงหน้าต่าง หน้าต่างเป็นกระจกค่ะ เราใส่ผ้าม่านแล้วตรงทางเข้าจะมีเสาไฟใหญ่อยู่ คือถ้าใครมายืนตรงนั้นเงามันจะมากระทบกับผ้าม่านพอดี เรากับเพื่อนเลยคิดว่ามีคนมาแอบดู เลยแกล้งทำไม่เห็นแล้วเดินไปใกล้ม่านค่ะ พอไปใกล้แล้วก็กระชากม่านออก แต่ไม่มีใครค่ะ พอปิดม่านลง เงานั้นก็หายไป ตอนนั้นก็กลัวแต่ก็คิดว่าเจ้าที่เจ้าทางแหละ เลยไปไหว้ศาลตอนเช้าค่ะ อยู่มาอีกหลายคืน เราก็ป่วยหนัก ไม่ได้ไปทำงานหลายวันเลยค่ะ หยุดงานมาเข้าวันที่ 4 เราก็นอนกันปกติ แต่พอสักเที่ยงคืนน่าจะได้ เรายังนอนไม่ค่อยหลับเพร่ะหลับช่วงกลางวันมาเกือบทั้งวัน ก็เลยปลุกเพื่อนมานอนคุยกันค่ะ สักพักได้ยินเสียงประตูรั้วหน้าหอเปิด ก็เลยหยุดคุยกันค่ะเพราะนินทาพี่ๆที่ทำงานกันอยุ่กลัวคนเข้ามาได้ยิน พอประตูรั้วปิดเสียงคนใส่กลอนปุ๊ป ก็มีเสียงคนวิ่งค่ะ ผ่านหน้าต่างห้องเราไป ไปสุดที่ห้องสุดท้ายค่ะ แต่ไม่มีเสียงเปิดประตูตรงห้องโถง มีแค่เสียงหยุด แล้วก็กระทืบเท้า แล้วก็วิ่งกลับมาหยุดตรงใกล้ๆหน้าต่างห้องเรา เรากับเพื่อนที่นอนคนล่ะเตียง กระโดดมานอนติดกันแน่นเลยค่ะกลั้นใจไม่กล้ามองนอกหน้าต่างเลยกลัวเจออะไรแปลกๆ ไม่กล้าคุยกันเลยต่างคนต่างนอนแต่จับมือกันยันเช้าเลยค่ะ พอตื่นเช้ามาไปถามพี่ๆในหอ ว่าคืนนั้นมีใครกลับดึกบ้าง เพราะที่โรงแรมไม่มีลูกค้ากรุ๊ปเลยค่ะ เลยไม่มีงานเลี้ยงที่ต้องเลิกเวลานั้น ก็เลยเล่าให้พี่ๆในหอฟังว่าเราเจอแบบนี้ พี่ที่หอก็ใจดีค่ะ พาไปไหว้ศาลที่เราไม่รู้ว่ามีในหอ แล้วก็ศาลที่เป็นศาลใหญ่บนเขาค่ะ หลังจากวันนั้นมาเราก็หายป่วย ไม่ป่วยอีกเลยจนฝึกงานจบค่ะ แต่ก็มีเรื่องแปลกๆอีกหลายเรื่องเลย ที่อธิบายไม่ได้แล้วก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย กลัวครว่าเราบ้าค่ะ 😅
ผมเป็นคนที่ดูหนังในโรงแบบมีคนเยอะๆนะ ผมชอบบรรยากาศแบบนั้น
เราเป็นสมาชิกบัตร M Pass ชอบดูหนังในโรง เพื่ออรรถรสที่ดีกว่า แต่เจอคนคุยเสียงดังกับคนกลิ่นตัวแรงๆ ตลอด บางทีเอาลูกมาด้วย คือรำคาญมากกก
มีเรื่องแปลกมาเล่าค่ะ เป็นทำเลบ้านของเราเอง
ส่วนตัวตอนเด็กไม่รู้ว่าแปลกแต่พอมาสังเกตุตอนโตมันค่อนข้างไม่ปกติ
หน้าบ้านเราเป็นถนนเล็กๆให้มอเตอร์ไซค์พอผ่านได้ค่ะ ถัดไปเป็นคลองน้ำที่เชื่อมกับโรงพยาบาลใหญ่แห่งนึง ฝั่งตรงข้ามเป็นป่าช้า แบบว่าเจดีย์เรียงเป็นสวนเลย สมัยก่อนคุณย่าบอกว่าเขาจะขนศพผ่านเรือ เวลาลงไปซักผ้าในคลองจะเห็นร่างในผ้าขาวมาที่วัด เรียกได้ว่าเห็นวงจร เกิด แก่ เจ็บ ตาย ตลอด55555555
ส่วนบ้านอีกหลังอยู่ห่างออกไปไม่ไกลค่ะแต่ไม่ติดคลองแล้ว เวลาเราเปิดหน้าต่างชั้นสองจะเห็นเมรุเผาศพของวัดตลอด ส่วนตัวไม่รู้ว่าคุณปู่เลือกทำเลบ้านจากอะไร แต่ทั้งสองหลังที่เลือกมาเรามิเครสุดๆ เหมือนอยู่กับคนตายมากกว่าคนเป็นอีกค่ะ
ไม่รู้ว่าเรื่องนี้อธิบายได้ไหม เราเคยนอนๆอยู่แล้วฝัน ฝันน่ากลัวมาก ว่ามีผู้หญิง(ผี) มาดึงเล็บเราทีละนิ้ว ในฝันคือเลือดออก เจ็บมากๆ เจ็บมากจนตื่นขึ้นมา ดูเล็บตัวเอง สรุปเล็บเราเลือดออกจริงๆ ประมาณ2นิ้ว แล้วเราก็หันซ้ายหันขวา ว่ามันเกิดจากอะไรวะ คือเราไม่ได้เป็นแผลอะไรก่อนหน้านี้เลย ห้องก็ปกติ ไม่มีอะไรเลย มือก็ไม่ได้ไปโดนอะไรที่มันบาดจนเลือดออกได้เลยอะ ลองคิดทุกๆทาง มันเป็นไปไม่ได้เลย แล้วก็ยังคงเป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ ฝันนั้นก็ยังจำติดตา 5-6ปีที่แล้ว
- นอนอยู่ได้ยินเสียงคนเดินผ่านห้องนอน (คิดว่าพ่อเลี้ยงไปเข้าห้องน้ำ)
- มีเสียงเปิดประตูห้องของเรา
-เราพยายามเปิดตาเพื่อดูว่าใคร
-เห็นเหมืิอนแสงแฟลชจากทรศ.และหัวที่ยื่นเข้ามาตรงประตู
-สิ่งนั้นถอยกลับไปและทำเสียง ฮิฮิฮิ ก่อนปิดประตู (เสียงแหลมเหมือนผู้หญิง)
-ง่วงมากเลยนอนต่อ และคิดว่าเป็นแม่ที่เข้ามาเช็คว่าเรานอนรึยัง
-ถามแม่ในตอนเช้าแม่บอกว่าไม่ได้เปิดประตู แต่เดินไปเข้าห้องน้ำจริงๆ ลูกน่าจะฝัน
-แต่เราว่าเราไม่ได้ฝัน เพราะเสียงเปิดประตูมันชัดมาก และ จำได้ว่าตัวเองพยายามลืมตา
-แต่สุดท้ายก็มาคิดว่าน่าจะหลับไม่สนิท สมองเลยสร้างภาพอะไรแปลกๆ อีกอย่างอยู่มาที่นี่หลายปีแล้วไม่เคยเจอเรื่องแปลกๆเลย นี่เป็นครั้งแรก
เปิดฟังคลิปช่องนี้ทุกวันวนๆไป
ปล. เจอบ่อยในโรงหนังคนไม่ค่อยมีมารยาท ถ้าไม่สุดจริงๆก็ทนไป😂
อยากให้พี่ทำวิเคราะห์เพลง 20 ตุลา ของชิลลี่ฟูค่ะ ❤😊😢
มันคือ เพลงที่ Silly fools ไม่เคยนำมาร้องสดที่ไหนเลย ตลอดกาล
ร้องรอบเดียว เสียงเดียว MV เดียว คือจบ
เพราะ Silly fools ไม่กล้านำเพลงนี้มาร้องซ้ำอีก (ผมจะไม่สปอยเหตุผลนะ ว่าทำไม Silly fools ถึงไม่นำเพลงนี้ มาร้องสด)
เรื่องปกติหรือเปล่าคะ
1. ที่ตรงกลาง หลังสุด เป็นตำแหน่งดีที่สุดในการดูหนังอยู่แล้ว การที่จะโดนล้อมหน้า หรือประกบข้าง ต้องมีอยู่แล้วค่ะ
2. การนั่งสบายเกิ้น เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมใจเจอ 😅 นั่งนานสองชั่วโมง มันต้องหาท่าที่สบายที่สุด เพราะโรงหนังสมัยนี้ บางโรงก็วางผังเบียดสุดๆ บางโรงก็นั่งสบายหน่อย
ทำใจกว้างๆ เลยค่ะ เวลาไปดูหนังที่โรง
ส่วนตัวแก้ปัญหาด้วยเงินเลย ถ้ามีที่นั่งแบบแยกโซน ก็จะเลือกแบบนั้นเลยค่ะ ไม่ต้องเบียดคนอื่น ไม่ต้องเอาแขนสี ไม่ต้องมีใครมากวนสมาธิเลย 😊
นี่เจอตอนไปดูธี่หยด เขาเป็นผู้หญิงมากับแฟนเขาก็เอนไปอิงแฟนแต่ขายกขึ้นมาบนเบาะตัวเองไม่อะไรหรอกแต่ดีดดิ้นตลอดเดี๋ยวถีบมาโดนเราเดี๋ยวแขนมากระแทก เป็นการดูหนังที่เลวร้ายที่สุดเลยโคตรรไม่สนุก คนเราควรมีมารยาทโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาบอกรึป่าว โดนรอบเดียวก็ควรรู้ตัวแล้วอะ
เพราะเหตุการแบบนี้เกิดบ่อย ทั้ง ขำคิกๆ คุยซุบซิบ โดยเฉพาะเล่นโทรศัพท์ทำให้เบื่อการดูหนังในโรง อยู่บ้าน ดูหนัง สบายใจกว่า
พูดถึงโรงหนังคือ จำได้ว่าครั้งล่าสุดดูบ้านเช่าบูชายัน บ่ายวันธรรมดา กะว่าคนน้อยไม่น่ามีปัญหา แต่สรุปคือฝันร้ายสุดๆ เจอทั้งแสงมือถือประมาณ5คนได้+แก๊งวัยรุ่นหัวเราะดังๆ(หัวเราะหนังผี???) จบ เซ็ง ปฏิญาณตนว่าจะไม่เข้าโรงหนังอีก //ส่วนเรื่องยกขาที่คุณเนสเจอ เราว่าเขาไม่มีมารยาทอะ นอกจากจะขวางทางแล้ว พื้นรองเท้าที่สกปรกอาจจะมาโดนขาคนอื่นอีก
เอ็มพาสขึ้นเป็นเดือนละ 350 ละครับ (บุคคลธรรมดา) ถ้าจ่ายราย 3 เดือน 900 บ. // ส่วนประสบการณ์ที่ไปเจอตอนดู4คิง2คือ เด็กเวรเดินเข้าห้องน้ำทั้งเรื่องสลับกันไปกับเพื่อนในกลุ่มมันอย่างเซ็ง
ผมเคยอยู่ออฟฟิศนึง มี 4-5 ชั้น ผมอยู่ชั้น 3 ตึกนี้มีลิฟท์ ผมมักจะเอาจักรยานขึ้นมาจอดที่โถงหน้าลิฟท์ จะเป็นโถงไม่กว้างนัก ออกจากลิฟท์ทางซ้ายเป็นห้องน้ำ ทางขวาเป็นประตูเข้าออฟฟฟิศ วันนั้นเป็นวันศุกร์ออฟฟิศจะกลับกันเร็ว ผมนัดเพื่อนไปกินชาบูก็กินจนเสร็จแล้วกลับมาที่ออฟฟิศ แต่ลืมไปว่าเอาจักรยานไว้ด้านบน ผมชวนเพื่อนขึ้นไปด้วยแต่เพื่อนไม่ไป ผมขึ้นไปคนเดียว ประตูลิฟท์เปิด ไม่มีไฟ มืดทั้งชั้น ผมกดลิฟท์ค้างไว้และเดินไปเอาจักรยาน ตอนเข้าลิฟท์ก็ยกจักรยานขึ้นเป็นแบบยกล้อขึ้นเป็นแนวตั้ง ประตูลิฟท์กำลังปิด แต่มันมีเสียงดังขึ้น ปิ๊งงงง!! เสียงลิฟท์ และลิฟท์เปิด ผมกดปิด และก็ลงมา จริงๆ เรื่องควรจบเท่านี้ แต่เมื่อสังเกตุบางอย่างหลายๆ วันเข้า ผมก็นึกย้อนกลับไป ลิฟท์ตัวนี้เวลาเปิดจะมีเสียงดัง แต่จะมีเสียงเฉพาะกดจากนอกลิฟท์เท่านั้น(ผมทดลองหลายรอบ) แต่วันนั้นผมจำได้ว่ามันมีเสียงลิฟท์ในขณะผมอยู่ในลิฟท์ มันเหมือนกับมีคนกดลิฟท์ทั้งๆ ที่มีผมอยู่คนเดียวทั้งชั้น ณ เวลานั้น เรื่องก็ประมาณนี้ครับ
เคยโดนทักว่ามีเคราะห์ เลยไปทำบุญบริจาคโลง(ศพไร้ญาติ) พอกลับถึงบ้านในคืนนั้น เผลอหลับไป แต่สะดุ้งตื่นเพราะทีวีเปิดเอง ทั้งๆที่มันไม่เคยเปิดเองเลย งัวเงียจับรีโมทขึ้นมาปิด นั่งตั้งสติได้ประมาณ10วินาที ทีวีเปิดเองรอบที่2 ต่อหน้าต่อตา ทีวีเปิดเองยังไม่เท่าไหร่ คิดว่ารีโมทอาจจะร่วน แต่…. มันเปิดช่องล่าท้าผี (สุสานศพไร้ญาติ) ที่เราไม่เคยดู ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยเสิร์ท คือถ้ามันจะเปิดเอง ทำไมมันไม่เปิดช่องที่เราดูประจำ หรือดูเป็นปกติ ทำไมต้องเป็นสุสานศพไร้ญาติ 😅 เป็นเรื่องที่อธิบายไม่ได้ แต่คิดในใจว่า เขาคงมาบอกว่าได้รับผลบุญแล้ว
ต้องดูทุกคืนก่อนนอนค่ะ เสียงคือฟังเพลินมากกกก จนเผลอหลับก่อนตลอด😅❤
เราก็ชอบดูหนังในโรงนะคะ แต่ไม่ได้ดูมานานม๊าก เราว่าพอเป็นไปดูในโรงหนัง มันต้องตั้งใจจะไปน่ะค่ะ ต้องมีเวลาว่าง วางแผนไปดู มั่นใจว่าไม่มีงานด่วนเข้าระหว่างดู ราคาอีก แพ๊ง เลยจะเก็บไว้ดูกับหนังที่อยากดูมากๆๆๆๆจริงๆ
ประสบการณ์โรงหนังผมก็คล้ายๆพี่นะ 14:22 แต่ผมใช้เงินแก่ปัญหา5555555ส่วนมากผมจะไปดูคนเดียว ส่วนมากจะนั่งABC แล้วแต่โรงดูจนจำได้แล้วว่าโรงในพื้นที่เป็นยังไงทุกครั้งที่ซื้อผมนั่งกลางสองฝั่งผมผมจะซื้อไว้เป็น3ที่อาจจะดูปัญญาอ่อนแต่ก็ซื้อความสบายใจ
เรามีแต่เรื่องเล่าในโรงหนังที่น่าอายที่สุด คือเผลอกินน้ำของคนข้างๆ คือครั้งแรกและยังครั้งเดียวในชีวิตอยู่ รู้สึกผิดและอายมาก ขอโทษคนข้างๆแล้วและจะให้เงินค่าน้ำเขาคืนแต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร นี่เศร้ามากรู้สึกผิดสุดๆ เรื่องของเรื่องคือเข้าโรงหนังช้า พอถึงที่นั่งที่วางแก้วฝั่งขวามือมีแก้ววางอยู่แล้ว นี่ก็เลยต้องวางฝั่งซ้ายมือ แล้วคือถนัดขวา ดูหนังเพลินก็ยกแก้วมาดูดน้ำ แล้วก็วาง แล้วก็ดื่มอีก แล้วก็แบบ เอ้ะน้ำหมดไวจัง (ยังไม่รู้ตัว) แล้วก็ยกดื่มอีก อึ้มมมีน้ำรสชาติเข้ม(ยกแก้วฝั่งซ้าย) เลยแบบ เอ้ะ เอ้ะ ทำไมก่อนหน้านี้น้ำหมด แล้วทำไมตอนนี้มีน้ำ เลยรู้ตัว รีบขอโทษเจ้าของแก้ว ใจตอนนั้นคืออยากลุกออกจากโรงเลย😭😭
มัธยมเคยบนกับรูปปั้นที่เค้าว่าศักสิทธิ์ของ รร ไว้ว่าถ้าติดจะวิ่งแก้บน แล้วสรุปลืมไปวิ่ง หลังเลิกเรียนวันที่นึกขึ้นได้ ฝนตกฟ้าร้องไม่หยุด เลยบอกว่าจะไปวิ่งแก้แล้ว แล้วก็ไปวิ่งฝ่าฝนทั้งแบบนั้น พอวิ่งครบรอบที่บนฟ้าเปิด ฝนหยุดเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น
ปี 1 เคยอยู่หอในวันแรกที่เข้าหอ เจอประตูห้องเปิดค้างไว้ ตอนแรกก็นึกว่าป้าแม่บ้านเปิดแต่ไปถถามดูเค้าบอกไม่ได้เปิด ตอนอยู่ไม่มีอะไร ช่วงตอนใกล้ๆย้ายหอ ปี 2 ทำโปรเจคเกี่ยวกับเรื่องผี มีคืนนึงนอนอยู่แต่เห็นคนชะโงกหน้าก้มมาดูแต่ง่วงเกินเลยบอกไปว่าจะนอนแล้วก็ไม่เจออีกเลย หลังจากนั้น นึกภาพผังห้องเปิดประตูเข้ามา หันซ้ายจะเจอโต๊ะนั่งทำงาน หันหน้าจะเจอเตียง แล้วมีช่วงนึงตอนตี 2-4นั่งปั่นงานเจอประตูเปิดเองทั้งที่มั่นใจว่าล็อคประตูแล้ว แต่ไปดูข้างหน้าไม่มีใครอยู่ เป็นอยู่ 2-3 รอบ พอมาวันพรีเพื่อนโทรตามตื่นขึ้นมาไม่มีอะไรพอลุกจะออกจากเตียง ประตูเปิดให้เองอีกรอบเหมือนจะมาเตือนว่าให้ไปพรีได้แล้ว ถือว่ามาดี
ปี 3 พอย้ายหอมาหอใหม่ นอกจากที่ไปเจอนอกรอบ ของหอใหม่เจอแค่ครั้งนึงเคยขึ้นลิฟกับคนแปลกหน้าจากชั้น 1 เค้าไปชั้น 5 เราไปชั้น 8 พอถึงชั้น 5 คนนั้นลงละเดินเข้าห้องตามปกติ แต่พอจะปิดประตูลิฟประตูจะเปิดเอง เลยคิดว่าใครมันกดละไม่ยอมขึ้น เลยชะโงกหน้าไปดูไม่มีคนกด เป็นอยู่แบบนั้น 3-4 รอบ จนคิดว่าถ้ายังมีอีกรอบจะเดินขึ้นไปเองแล้วนะถึงจะปิดได้แต่ก็ขนคอลุกมาจนถึงหน้าห้องตััวเองถึงจะหาย
ประสบการณ์ที่หาคำตอบไม่ได้ของหนูมีเยอะมากค่ะ ที่มันไม่ใช่การคิดเอาเอง เพราะบางเหตุการณ์คือเจอพร้อมกันหลายๆคน แต่ที่รู้สึกกลัวคือการที่เจออะไรแบบนี้คนเดียว มีครั้งนึงตอนสมัยเรียน ที่ต้องทำโปรเจ็คจนถึงช่วง 6 โมงกว่า ช่วงนั้นที่วิทยาลัยใกล้ปิดเทอมแล้ว เด็กบางสาขา บางชั้นจะเลิกเรียนกันตั้งแต่บ่าย 2-3 แต่ของหนูเป็นชั้นที่ใกล้จบแล้วค่ะ (ปวส.2) เลยต้องปั่นโปรเจ็คที่เป็นรูปเล่มกับชิ้นงานส่ง ละต้องออกจากวิทยาลัยก่อ 1 ทุ่ม เพราะเด่ะจะไม่มีรถโดยสารกลับบ้านค่ะ แต่วันนั้นกลับเลทหน่อยเพราะได้รถมาขับเอง ก็เลยออกช้าค่ะ แต่มีเพื่อนๆอยู่นะคะ ประมาณ 6-7 คน ทางเดินไปสนามที่จอดรถ จะต้องเดินผ่านทางเชื่อมตึกซึ่งต้องผ่านห้องสมุดค่ะ ตอนนั้นทุกคนก็คุยกันเสียงดังตามปกติ ทางที่เดินก็เดินผ่านอยู่ทุกวันไม่มีอะไรต้องระแวงเลย แล้วมีเพื่อนที่เดินนำหน้าหนูเค้าแวะส่องกระจกค่ะ ซึ่งเป็นกระจกที่สามารถมองทะลุไปเห็นข้างในห้องสมุดได้ ถ้าในห้องปิดไฟหมดมันจะสะท้อนเห้นตัวเราชัดมากด้วยค่ะ หนูเลยแวะส่องด้วยข้างๆเพื่อน ผญ 2 คนที่ส่องอยู่แล้ว กำลังจะถามว่ามึงส่องอะไรกันวะ แต่หนูดันไปเห็นว่า มีคนกำลังนั่งยองๆบนโต๊ะอ่านหนังสือค่ะ (โต๊ะในห้องสมุดที่วิทยาลัยจะเป็น โต๊ะขาเหล็กที่พับเก็บได้เป็นตัวยาวๆสีขาว) มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วค่ะ ที่จะมีคนไปนั่งยองบนโต๊ะแบบนั้น ที่ชัดเจนมากๆคือ ประตูถูกคล้องแม่กุญแจเอาไว้ เพื่อนอีก 2 คนที่ส่องกระจกอยู่ก็น่าจะมองไม่เห็น เพราะเค้าก็ส่องกระจก เติมลิป หวีผมกันชิลเลย แต่หนูตอนนั้นไม่อยู่แล้วค่ะ ลาเพื่อนแล้วก็วิ่งไปที่จอดรถเลยค่ะ ในเหตุการณ์วันนั้นเอง ที่ระหว่างขับรถจนถึงบ้านกลับมาเล่าให้ที่บ้านฟัง หนูถึงได้รู้ตัวตอนที่ยายทักค่ะว่า สายสินญ์ ที่ผูกแขนไว้ มันขาดทั้ง 2 เส้นเลยแสดงว่ามันไม่ปกติแล้วละ เลยเอาเส้นใหม่ที่หน้าหิ้งพระมาผูกใหม่ แล้วก็หนูก็ไม่เดินไปส่องกระจกที่ไหนมั่วๆอีกเลยค่ะ แต่จนทุกวันนี้ก็ยังหาคำอธิบายไม่ได้ว่าคือไร ประวัติเป็นไง แต่ในวิทลัยมีแต่เรื่องแปลกๆเยอะค่ะ ทั้งศาลหลายๆที่ตามจุด รร เพราะอยู่ใกล้เขา ตึกเรียนที่อยู่หลังวิทยาลัย ต้องทำบุญตึกทุกปี แล้วก็พันสายสินญ์ไว้รอบๆตึก แต่ทุกคนก็ปฎิบัติสิ่งเหล่านี้ร่วมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ละก็ไม่มีใครคิดจะถามเลยด้วยค่ะ
ชอบแบบนี้มากกว่าเรื่องผีอีกค่ะ อยากให้ทำอีก
เขาแปลกๆค่ะ พฤติกรรมที่เขาทำเกิบทั้งหมดเลย คนส่วนใหญ่เลือกได้ ไม่ค่อยอยากนั้งติดกันเท่าไหร่ค่ะ มันอึดอัด😅
เคยเจอตอนกลับไปบ้านตายาย(เสียแล้ว)ช่วงสงกรานต์ฟิวแบบกลับไปเยี่ยมบ้าน บ้านเป็นบ้านไม้นะคะ เราเป็นคนเชียงใหม่ ก็จะไปทำบุญบ้านปีใหม่เมือง ละทีนี่เรากับน้องขึ้นไปสรงน้ำพระ ไปเปลี่ยนดอกไม้ไรงี้ ทรงบ้านข้างบนจะเป็นรูปตัวL ละมีหิ่งพระ เราให้น้องรอข้างบนแล้วเราลงไปเอาดอกไม้อันมาใส่แจกันแล้วเดินขึ้นมาหน้าหิ่งพระ ได้ยินเสียงมีคนเดินตาม ตอนแรกคิดว่าพ่อ พอหันไปเป็นเหงาดำๆร่างใหญ่ๆหน่อย เหมือนเค้าชงักที่เราหักไปมอง ละเขาก็เข้าไปในร่องไม้ที่ต่อกัน ต่อนั้นคือขนลุกแบบขนหน้าลุก ละเรากับน้องคือเห็นเหมือนกัน พร้อมกัน รู้สึกตัวแข็ง(บ้านหลังนี้เป็รบ้านที่ตาเราsuicide) เราเอาไปเล่าใครญาติๆฟังบอกมีแต่คนพูดว่าตามั้ง คือสุดท้ายไม่รู้ว่าคืออะไรอยู่ดีแล้วก็มีแค่เรากับน้องที่มั่นใจมากๆว่าเห็นจริงๆ ส่วนลุงๆป้าๆที่เราเอาไปเล่าให้ฟังก็ไม่รู้จะเชื่อรึป่าว แต่เรามั่นใจว่าเห็นจริงๆแบบ100% ถ้าตัดเรื่องผีออกไปก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายว่ามันคืออะไรอยู่ดี เอามาเล่าให้ฟังจอยๆนะคะ😊
แต่เหตุการณ์อื่นๆ ที่อธิบายไม่ได้เลย..เรื่องหลอนนิดๆ เกิดขึ้นตอนไปเที่ยวต่างจังหวัด แล้วที่พักสวยมากๆ แต่สิ่งที่แปลกใจคือ ค่าเช่าถูกผิดปกติ ทั้งวิวดีติดทะเลสวยมาก แต่ห้องนอนพอไปถึง อยู่ๆแอร์ห้องเสีย เจ้าของเรียกช่างมาดูให้ แก้ไขให้เรียบร้อย ซักพักห้องน้ำมีเสียงกดชักโครกตอนแรกนึกว่าพี่ชายแวะมาเข้าหรือป่าว เลยไม่เอะใจอะไร จนเราจะเข้ามั้ง เลยเดินไปห้องน้ำกำลังจะถามว่าเสร็จยัง..แต่ไม่มีใครเข้าห้องน้ำเลย แล้วเสียงกดชักโครกตะกี้ คือ ใคร? เข้าล่ะ กดหลายรอบด้วย 3-4 รอบได้ ตอนนั้นได้แต่มองหน้ามองกับพี่สาวว่ามันคืออะไร? ถ้าไม่ใช่พี่ชายมาเข้า แล้ว..ใครเข้าว่ะ (ห้องน้ำอยู่ในตัวที่พักนะ) ใครเข้าออกห้องคือเห็นหมด นี้คือประสบการณ์ที่ได้ยินเสียงแต่ไม่มีผีโผล่มา แต่กดชักโครกเล่น ทั้งคืน 😅
เคยไปปฎิบัติธรรมที่วัดๆหนึ่ง พระสวดอะไรไม่รู้ เราผู้ไม่ยอมหลับตา รั้นไง เห็นคนลุกขึ้นมาทำท่าต่างๆ แต่สาระเพื่อนของเรากลับโยกตัวค่อยๆแรง ไอ้เราก็ตกใจเพราะคนอื่นทำท่าแปลกๆเราก็เอะ 50/50 แต่เพื่อนเรามีอาการด้วยนิสิคิดหนักเลย พอเสร็จพิธีเราก็ถามเพื่อนๆบอกไม่รู้ตัวเลย
ฟังพี่ทุกวัน แค่ได้ยินเสียงก็ง่วง😅❤️
ส่วนตัวผม เวลาดูหนังในโรง ผมจะชอบ นั่งแถวกลางโรงเลย ตรงที่มีทางเดินกว้างๆ เหยียดขาได้เต็มที่ ลุกง่าย เข้าออกง่าย คนเดินผ่าน ก็ไม่อึดอัด
ประสบการณ์ตรงตอนประถม จำไม่ลืมเลยค่ะ ตอนประถมเคยไปแอบซ่อนคุณแม่ในรถยนต์ (ตรงเบาะหน้า ช่องสำหรับวางเท้า) เข้าไปมุดในนั้น ไม่รู้ว่านานแค่ไหน รู้แค่ว่าเราอยากอยู่ตรงนั้นนานๆ ไม่อยากจะออกไปไหน จนช่วงหนึ่งเรา รู้สึกร้อนมาก หายใจไม่ออก เลยยอมที่จะออกมา พอมาฟังตอนโต คุณพาอเล่าว่า ตามหาตั้งแต่ ห้าโมง ถึง หนึ่งทุ่ม หายังไงก็ไม่เจอ แถมเปิดดูในรถตั้งสองสามรอบ (แต่เราไม่เห็น) จนคุณปู่จุดธูปขอเจ้าที่เจ้าทาง แล้วเป็นจังหวะที่เราออกจากรถมาพอดี เลยไม่แน่ใจจนถึงทุกวันนี้ว่างบังเอิญหรือยังไงกันแน่😅
ถ้าวันไหน exhuma เข้าสตรีมเเล้วมาวิเคราะห์ให้หน่อยนะคะ อยากดูพี่วิเคราะห์มากค่ะ
เราชอบเข้าโรงหนังมากค่ะ แบบต้องอัพเดทหนังใหม่ทุกวีค ก็จะเจอคนแปลกๆทุกประเภท เขย่าแก้ว ถ่ายคลิป เล่นเกม แต่เหตุการณ์น่ารำคาญที่สุดคือคนมาเดท แล้วฉากในหนังเป็นไงก็จะพูดๆกับแฟนให้ไปในเวย์ 18+ แซวๆ ให้ได้ จะจุ๊บให้ได้ นี่ก็เลยบอกช่วยเบาเสียงหน่อยได้ไหมคะ เขาก็เงียบให้ จบเรื่องผช.อะพูดขึ้นมาว่า”อยากดูเงียบๆก็ดูที่บ้าน” หมดคำจะพูดนอกจากเลิกกันเร็วๆไอคนแบบนี้
เจอแบบนี้เดือดแทนเลยครับ อยากจะสวนกลับไปว่า “อยู่ที่สาธารณะก็มีมารยาทบ้าง”
ชอบมากครับ เพลินๆ เลย ฟังไปตีป้อมไป😅
ตอนนั้นไปเที่ยวกับคุณแม่ที่พัทยาแล้วไปพักโฮสเทลนึงเป็นทั้งคาเฟ่และที่พักไปในตัว แว้บแรกที่เดินเข้าไปเจอกุมารตัวใหญ่ตั้งอยู่หน้าเคาเตอร์ก็มองไปผ่านๆไม่ได้คิดไร และตอนที่เข้าไปพักไปไม่ได้จองหรือแพลนอะไรก่อนเลยเพราะไปแบบจอยๆ ในส่วนที่พักมีเหลือแค่ห้องสุดท้ายเป็นเกือบชั้นบนสุด ก็ไม่ได้ซีเรียสเพราะขอแค่ที่พักอาศัยจริงๆ พอเข้าไปในห้อง บรรยากาศและการตกแต่งโดยเข้าคือก็ดูดีระดับนึง ดูไม่ผีสิงอาจจะเพราะตอนกลางวันด้วย และหลังจากเก็บของสัมภาระอะไรเสร็จ นี่ก็เข้าไปทำธุระในห้องน้ำ และก้นั่งแช่ไปได้สักพักนึงแบบเงียบๆยังไม่ทันได้เปิดคลิปหรืออะไรที่ให้มีเสียง อยู่ๆคุณแม่ก้เดินมาและพยายามเปิดประตู ถามเป็นอะไรๆเสียงดูร้อนรนมาก ตอนนั้นนี่ตกใจมากและงงว่าทำไมอยู่ๆคุณแม่ถึงทำแบบนั้น พอทำธุระเสร็จก็ออกจากห้องน้ำมาถามว่าทำไมถึงทำแบบนั้นคุณแม่บอกได้ยินเสียงเราครวญคราง ตอนนั้นเรางงมากเพราะไม่ได้ส่งเสียงอะไรเลย ยังไม่ทันเล่นโทรศัพ ก๊อกแรกผ่านไปโอเคก็ไม่ได้อะไรนี่คิกว่าแม่อาจจะหูแววแหละมั้ง แต่พอก๊อกสองก็คือตอนที่หลังจากเราออกไปเที่ยวข้างนอกจนถึงคว่ำ พอกลับมาถึงที่พักก่อนออกมาจำได้เลยว่าเตียงที่เราเป็นเตียงคู่ที่จะมีโต๊ะเล็กมากั้นเหมือนโรงแรมทั่วไป และมันก็ตั้งอยู่ปกติของมัน พอเปิดประตูเข้าไปนี่กับแม่ก็อึ้งสักแปบ บวกกับงงว่าทำไมเตียงอยู่ๆก็เอนเข้าหากันเพราะจำได้ว่าตอนออกมาคือตั้งอยู่ปกติแต่พอกลับมาเหมือนมีคนไปดันมันให้ชนกัน ตอนนั้นก็เลยโทษไปว่าเตียงอาจจะไหล่มาชนกันเองแหละเพราะตัวเตียงเองก้มีล้อที่เคลื่อนที่ได้อยู่ แต่ในใจจริงๆตอนนั้นคือ ทะแมงๆดูไม่ใช่ละ5555 ระหว่างที่คุณแม่ไปอาบน้ำ นี่ก็เลยพูดออกมาว่าเออ ขอไม่เล่นด้วยนะ ละหลังจากคืนนั้นก้ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก แต่พอเช้าวันต่อมาเช็คอินกลับกทม พนักงานก็ถามเป็นไงบ้างคะห้องพัก ไม่ได้มีอะไรใช่มั้ยคะ โอเคใช่มั้ยคะ ตอนนั้นก้ตอบโอเคแหละแต่ก็แอบทะแมงกับคำถามอีก ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถกับคุณแม่ขับกลับกทมก็คุยกันเรื่องที่พักแล้วถามถึงรายละเอียดเหตุการณ์อีกครั้งว่าเออตอนนั้นหนูครวญครางอะไรหรอ คุณแม่บอกได้ยินหนูร้องบอก ช่วยด้วยๆโดนดูด หรือลื่นล้มอะไรสักอย่างที่เหมือนเรามีอุบัติเหตุในห้องน้ำ และเราเลยบอกคุณแม่ว่าเออ แม่ได้สักเกตุรึป่าวว่าตรงเคาเตอร์มีกุมารนะ อยู่ๆตอนนัันคือแม่ก้ตกใจบอก จริงหรอ ขนลุกเลย สงสัยเค้าคงอยากเล่นกับแม่มั้ง ก็พูดขำๆแก้หลอนกันไป แต่ตัวเราเองก้สังเกตุได้มาสักพักละตั้งแต่ได้ยินเสียงห้องข้างบนเหมือนเสียงเท้าเด็กวิ่งเล่นจากข้างบนเพดาน แต่คือเข้าบอกว่าห้องที่เป็นที่พักมันสุดแค่ห้องเราละไง คือบอกก่อนว่าส่วนตัวคุณแม่เราเป็นคนจิตอ่อนมาก มักจะโดนอำง่ายหรือเจออะไรแบบนี้บ่อยแต่ไม่ได้มาเป็นตัวเป็นตนมากนัก ก็เลยคิดว่าต้องใช่แล้วแหละ55555(และที่เรากล้าพูดนะตอนนั้นเลยเพราะอารมตอนนั้นเราแอบโกดมากที่ทำให้แม่เราแพนนิคเป็นห่วงเรามากนึกว่าเราเป็นอะไรไปจริงๆ)
ไม่น่าใช่เรื่องแปลกอะไร แต่อยากแชร์ค่ะ
พ่อกับแม่เคยเล่าให้ฟังว่าเราเป็นโคลิค (ที่เด็กตื่นมาร้องไห้ตอนกลางคืน) แล้วเป็นเวลามากคือ ตั้งแต่เที่ยงคืนถึงประมาณตีสาม (สงสารพ่อกับแม่แล้วก็เพื่อนบ้านมากเลยค่ะ5555) ฟังแล้วก็แปลกดี ที่แปลกอีกอย่างคือ ปกติอาการนี้จะหายเมื่อเด็กอายุ 4 - 6 เดือนไปแล้ว แต่เราเป็นจนขวบหนึ่งเลย ไม่รู้ร้องอะไรนักหนา😂
หลายครั้งมีคนบอกว่า บางทีเด็กอายุประมาณนี้ถ้าร้องไห้ตอนกลางคืนนาน ๆ แบบนี้ อาจจะเห็นอะไรสักอย่างก็ได้
ส่วนตัวเคยเจอประสบการณ์ที่นั่งดูหนังในโรงหนังกับเพื่อน แล้วเจอคนนั่งไขว้ห้างแล้วเท้าเขาอยู่ตรงหน้าเราพอดีแล้วมันมีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ด้วย ตอนนั้นเราเก็บอารมณ์มากๆ พยายามหันไปอีกทางแล้วดูหนังให้จบแล้ว ออกมาจากโรงก็เล่าเพื่อนเพื่อนบอกว่า ทำไมไม่บอกไปเลยสุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องขำแบบประสบการณ์ชีวิตของเราไปเลยค่ะ
พ่อแม่จะชอบเล่าให้ฟังตอนเราเริ่มพูดชื่อตัวเองได้จะชอบพูดชื่อเกินตลอด ชื่อจริงเราชื่อธนาลักษณ์ แต่เวลาผู้ใหญ่ถามว่าชื่ออะไรจะชอบบอกว่าชื่อเด็กหญิงธนาลักษณ์ธวรรณตาด้วยนามสกุล แต่เราจำช่วงเวลานั้นไม่ได้อาจจะเพราะเป็นช่วงที่ยังจำความไม่ได้ด้วย พออายุ7-8ขวบแม่ก็ท้องน้องเรา วันที่แม่ไปคลอดน้องเราบอกว่าขอตั้งชื่อน้องเอง เราคิดแค่ว่าจะเอาตัวธ.จากชื่อเรา และคำว่าวรรณจากพี่ชายเรามารวมกันเป็นคำหน้าชื่อจากพี่2คน น้องเลยได้ชื่อธวรรณมา แล้วแม่กับพ่อก็จะเล่าถึงเรื่องนี้บ่อยว่าตอนเด้กเราชอบบอกว่าเราชื่อธนาลักษณ์ธวรรณ เหมือนเป็นการตั้งล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะต้องมีอีกคนแน่ๆ แต่นั่นแหละ เราจำเรื่องตอนเด้กที่พ่อเล่ามาไม่ได้เลย😂
จริงมากค่ะ ไปดูหนังผีเก้าอี้ที่นั่งข้างๆ เล่นทรศ. คุยทรศ. แสงก็เปิเสว่างมาก ข้างหลังเตะเบาะอีก หัวจะปวด😅
เคยดูหนังที่เหมือนจะเหมาโรง มีคนจองอยู่ 1 คนก่อนหน้านี้แถวกลางๆ เรากดจองแถวหลังไปเพราะอยากได้ฟิลกว่าซึ่งแพงกว่า แต่พอเข้าโรงไปหาที่นั่ง คนที่จองก่อนหน้านั้นมานั่งแทนที่เราแถมตอนเราเดินไปทำท่างงเหมือนที่ตัวเอง จนเราต้องบอกว่านี่ที่นั่งเราเราจองไว้ค่ะชูตั๋วให้ดูเค้าถึงค่อยเขยิบหนี จะว่าคิดเยอะก็ได้นะแต่สำหรับเรามันคือความไม่ซื่อสัตย์จองที่ถูกแต่ขี้โกงมานั่งที่แพงกว่า
เรื่องในโรงหนัง เราเคยเจอแบบคุณเนสเป๊ะ แต่เป็นคู่มนุษย์ลุงกับป้า ตีมึนสุดจัด เรารู้นะว่าเขารู้ตัว แต่เขาทำเป็นตีมึนไป
ตอนไปพักที่โรงเเรมแห่งหนึ่งในจังหวัดน่าน
ได้ห้องที่ค่อนข้างเก่า และเป็นห้องสองเตียง (แต่เราพักคนเดียว)
สักประมาณ 2 ทุ่ม มีเพื่อนโทรมา ก็เลยรับสายและเราก็นั่งคุยกับเพื่อนอยู่ตรงปลายเตียงตัวที่เราจะนอน
ในห้องเนี่ย ฝั่งตรงข้ามเตียงมันจะมีกระจกแต่งหน้าบานหนึ่งอยู่ เป็นกระจกเก่า ๆ ส่องเข้ามาทางช่องว่างระหว่างเตียงอยู่
จังหวะหนึ่งที่คุย ๆ อยู่ ปลายตาเห็นผ่านกระจกที่ส่องสะท้อนว่าข้างหลังเรา ฝั่งเตียงตรงข้ามที่เราไม่ได้นอน มันมีอะไรบางอย่างอยู่บนเพดานเหนือเตียงอันนั้น ตอนเเรกคิดว่าเพราะเหนื่อยจากการไปเที่ยวทั้งวันเลยตาลายไปเอง ก็คุยกับเพื่อนต่อไม่ได้สนใจอะไร แต่พอผ่านไปสัก 10-15 นาที สิ่งสิ่งนั้นยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน พอลองในกระจะดี ๆ มันเป็นกลุ่มก้อนอะไรไม่รู้ดำ ๆ สลัว ๆ (เราดูไม่ค่อยออกจริง ๆ) แต่ถ้าจะอนุมาน มันเหมือนเงาคนนั่งยอง ๆ แล้วห้อยหัวลงมาจากเพดาน
จังหวะนั้นตกใจมาก เลยตั้งสติรวบรวมสมาธิแล้วพูดกับเพื่อนที่อยู่ปลายสายว่า “ตอนเนี้ย เราเห็นอะไรแปลก ๆ ในห้อง น่าจะเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คอลสายเป็นเพื่อน แล้วเออออไปด้วยไปก่อนนะ” จังหวะที่คุยกันจนเข้าใจกับเพื่อน เราเห็นเงานั้นย้ายจากเพดาน ลงมานั่งอยู่บนเตียงข้าง ๆ แล้ว
ตอนนั้นนึกขึ้นได้ เลยท่องบทแผ่เมตตาออกมาหลายรอบมาก แต่เงาไม่หายไปเลย อยู่ ๆ อะไรไม่รู้ดลใจ นึกถึงคำสอนพระเรื่องกฎแห่งกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด เลยท่องออกมาดัง ๆ
สักครู่หนึ่ง เงานั้นก็หายไปเลย เเละไม่เจออะไรอีกเลย
😮 อ่านจบขนลุกอยู่นะครับ
ทำ Time stamp เอาไว้ให้หน่อยได้ไหมครับ คลิป 50 นาที เล่าเรื่องอะไรไม่รู้เกือบครึ่ง คลิป เสียเวลาสุดๆไปเลยครับ
เคยเจอคือเข้าไปดูหนังตามปกติ ซึ่งนี้จองช่วงกลางโรง เพราะจำได้คนเยอะมาก ช่วงเริ่มต้นหนังก็ปกติดี แต่คนนั่งข้างขวามือเหมือนเจ้าเข้า คือสั่นขาไม่หยุด วิธีแก้ปัญหาของนี่ก็เลยสั่นกลับเจ้าเข้าแรงกว่าเขา เขาเลยหยุด (วิธีนี่ไม่ดีนะคะแต่ตอนนั้นไม่ไหว)55555555555555
เจอเหมือนกันแต่เราจองล่างกลางๆ ทั้งแถวมีเราคนเดียว แล้วมันมีคู่แฟนมาข้างเราเลยแบบข้างๆ แต่เราแก้โดยการเท้าแขนข้างคนที่มานั่งข้างไม่ไปฝั่งที่ว่าง หนังเรื่องนั้นเลยเป็นการดูหนังสามคน
เป็นเรื่องของความsensitive แต่ละคน บางคนถึงแก้ปัญหา เหมาโรง เหมาที่นั่งรอบตัว หรือไม่ ยกระดับ ไป cinema by omazz
ฟีลคนอินโทเวิดค่ะ คนลักษณะนี้จะรู้สึกแบบนี้แหละไม่ผิดเลย
หมายถึงเนสหรือคนในโรงหนัง
รอเรื่อง exhuma นะคะ ❤️
มีอยู่รอบนึงไปดูหนัง เจอเด็กมัธยมนั่งข้างหลังแบบเอาเท้ามาทีบเบาะ หลายรอบด้วยนะ พอหันไปทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรานี่แบบอารมณ์เสียเลย หลังๆเลยซื้อที่นั่งบนๆที่อัพราคาขึ้นมาหน่อย
ส่วนตัวจะรอไปดูหลังจากหนังเข้าโรงสัก1-2อาทิตย์ คนจะน้อยค่ะ ประมาณให้คนเขาไปดูกันก่อน ได้ฟีลเหมือนเหมาโรงหนัง สบายใจไม่อึดอัด
เราเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ นั่งแถว2 หันหน้าไปด้านข้างไปจ๊ะเอ๋กับเท้าของคนที่นั่งแถวบนแบบในรูปเลยค่ะ ไม่โอเคคคค
คุณคนที่อยู่เบาะหน้าจะแบบอาจจะได้กลิ่นอะไรบางอย่างลอยไป 😅
ไม่มีมารยาทเลย ตั้งแต่ขยับเบาะแล้วค่ะแบบนี้
ส่วนตัวนี่เคยไปจองที่นั่ง ตอนแรกทั้งโรงยังไม่มีคนจองเลย เราก็เลือกที่นั่งตรงกลางที่มันไม่มีใครนั่งเพราะจะได้แบบซึ้งคนเดียวได้และเป็นเดอะเบสseatสำหรับเรา ทีนี้พอตอนหนังจะเริ่มเราก็ไปเช็คคนที่จองใหม่ทุกคนมามะรุมมะตุ้มนั่งข้างเราหมดเลย 😂 พ้มไปดูหนังเศร้าก็กลัวว่าตอนเราซึ้งน้ำตาไหลแล้วมันต้องแบบเช็ดหน้าคนข้างๆจะรำคาญเราไหม สุดท้ายเลยจบที่สตรีมมิ่ง เพราะเคยร้องไห้ในโรงหนังแล้วโดนเหยียด โดนถีบเบาะบ้าง เลิก
ประสบการณ์ดูหนังในโรงหนังแล้วเจอคนประเภทไม่มีมารยาทในการดูหนังในโรงหนัง อย่างพูดคุยกันเสียงดังกวนคนอื่น ไม่ก็พวกไม่ปิดเสียงโทรศัพท์ ปัญหาสองอย่างนี้เรายังแก้ไม่ได้ เราทำได้แค่แสดงทีท่าไม่พอใจ เช่น "แกล้งพูดว่าคุยกันเยอะจังวะ"(ขอโทษที่ดูเหมือนพูดหยาบนะคะ) ให้พวกมันได้ยิน ถามว่ามันเงียบไหม? ก็ไม่5555 คนไร้จิตสำนึกมันก็ไร้จิตสำนึกอยู่วันยังค่ำอ่ะเนอะ
ส่วนอีกปัญหานึงที่เราพอจะสวนกลับไปได้คือพวกที่นั่งหน้าเราแล้วพิงมาข้างหลังเยอะจนเราอึดอัด อันนี้วิธีแก้เราคือขยับขาขยับเท้าให้ชนเบาะเขาเบาๆ ให้เขารู้ว่าเราอึดอัดนะ ที่เราเลือกวิธีนี้เพราะไม่อยากบอกเขาให้เสียสมาธิ แต่ถ้ามันรู้ตัวแล้วว่าเราอึดอัดแล้วยังเอนหลังอยู่แบบนั้น เราถีบเบาะค่ะ แล้วก็จะทำขายุกยิกไปเรื่อยๆให้รำคาญเล่น ถือว่าคุณไม่มีน้ำใจเผื่อพื้นที่ให้คนอื่นก่อน เราก็ไม่จำเป็นต้องมีน้ำใจไม่รบกวนเขากลับ ถ้าเขาเอนจนไม่เบียดช่องว่างคนข้างหลัง อันนี้เราไม่มีปัญหา แต่ถ้ามันกินพื้นที่ว่างของเราล่ะก็ ก็ต้องเจอสวนกลับไปหน่อยล่ะค่ะ
เคยเจอเหตุการณ์ที่อธิบายไม่ได้หลายครั้งอยู่ แต่ล่าสุดคือนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นแล้วได้ยินเหมือนเสียงถุง ตอนแรกไม่ได้กลัว ก็อาจจะมีขยะขยับในถุงนั่นนี่ปกติ
สักพักก็จะเดินไปอาบน้ำ เจอว่าขยะออกมาอยู่นอกถุงประมาณ2-3ชิ้น ทั้งๆที่มันไม่น่าจะเด้งออกมาได้เลยเพราะขยะยังไม่ถึงครึ่งถัง ก็งงๆแต่ก็เก็บใส่ตามปกติ อาจจะโยนไม่ลงถังแต่แรกแล้วไม่เห็นก็ได้
พอเข้าไปแช่น้ำ ได้ยินเสียงเหมือนคนเคาะประตู แบบ “ก๊อก ก๊อก” 2ที เลยตะโกนเรียกชื่อแฟนว่ากลับมาละเหรอ แต่ก็เงียบ นี่เลยเลือกโทรหาแฟน สรุปแฟนยังไม่กลับมาเลย ก็ไม่ได้กลัวนะคะ อาจจะเป็นการลั่นของประตูก็เป็นไปได้ + กับไม่ใช่คนกลัวผีเท่าไหร่ เลยแช่น้ำต่อ แต่ก็ไม่มีอะไรแล้วในวันนั้น ก็เป็น2เหตุการณ์ในวันเดียวกันแบบงงๆ ที่หาคำตอบไม่ได้ว่าสรุปมันเกิดจากอะไร 😅
ส่วนใหญ่ผมจะจองแถว a ไม่ก็ b ชิดมุมเลยครับ ไม่ซ้ายก็ขวา เพราะเคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้เหมือนกัน
ติดตามตลอดครับ❤
ครั้งนั้นไปดูหนังแล้วข้างๆเป็นเด็กมัธยมต้นสองคนผู้หญิงกับผู้ชายน่าจะเป็นแฟนกันก็นั่งดูไปเรื่อยๆ เริ่มมีเสียงที่ไม่ค่อยพึงประสงค์ของน้องผู้หญิงร้องออกมาเบาๆประมาณนึง ละจังหวะนั้นหนังก็ฉายเป็นโทนสว่างเลยเห็นว่าน้องผู้ชายล้วงใต้กระโปรงน้องผู้หญิงอยู่ ตอนนั้นหงุดหงิดมาก ก็แกล้งทำเป็นไอ ให้น้องรู้ตัวบ้างแต่ก็ยังไม่หยุด เลยต้องทนดูยันหนังจบแบบดูไม่รู้เรื่องแล้วโมโหด้วย
ประสบการณ์ของผมล่าสุดก็ ดาบพิฆาตอสูร เหมือนกันเลยครับ มีเด็ก3คนมานั่งโซนหน้าผม แล้วคนขวาสุดเปิดมือถือตั้งแต่ต้นเรื่องจนกลางเรื่อง ไถ่เฟส ไถ่ไอจี จนแฟนผมเห็นผมหงุดหงิด ถึงทักเตือนให้แทน ตอนนั้นคือหงุดหงิดมากครับ😂 มารยาทในโรงหนังแย่เกิน เพื่อนก็ไม่ยอมเตือน
การยกขาขึ้นมาแบบนั้น ทั้งๆที่มีคนนั่งข้างๆ เป็นการเสียมารยาทมากๆ ค่ะ มันเป็นการไม่ให้เกียรติเอามากๆ การอยู่ที่สาธารณะไม่ใช่ว่าคุณจะเอานิสัยที่บ้านมาใช้ได้นะคะ ไม่มีใครรักคุณและใจดีได้เท่าแม่คุณอีกแล้ว 👊👊👊
มาแล้วว
ฟังไปแปปๆจะชั่วโมงนึงแล้วแต่ยังคีย์งานไม่ถึงไหน 5555555555555
เรื่องแย่ๆในโรงหนังมีครั้งเดียวแต่รู้สึกเสียอารมณ์มากๆ คือผมกำลังดูหนังBumbleอยู่ตอนนั้นหนังมันฉาย11โมง แล้วมันเป็นวันหยุดเลยมีเด็กสองคนมากับแม่ แล้วไอเด็กสองคนก็เล่นกันส่งเสียงดังแต่ตอนนั้นในโรงมันยังฉายแค่ตัวอย่างหนังกับโฆษณาอยู่เลยยังทนได้ แต่เมื่อหนังจริงเริ่มฉายปุ๊บ ตอนนี้มีแต่ไอเด็กผู้ชายพูดคนเดียวพยายามบอกแต่แม่ๆดูนั้นบัมเบิ้ลบีๆ แทบทั้งเรื่องจนผมกับคนด้านหน้าหันหลังไปดูไอเด็กนั้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย จนตอนจบกำลังซึ้งทุกอย่างจบทันทีโดยไอเด็กนั้นพูดบัมเบิลบี~~ แบบกวนๆเอื่อย ความรู้สึกตอนนั้นแบบจบเลยคือในใจอยากไปตบปากไอเด็กนั้นมาก และตอนนั้นผมดูเสร็จก็รอดูDBS Brolyต่อ แล้วเห็นไอเด็กนั้นยืนบ่นกับพนักงานว่าเมื่อไรDBจะฉาวอยู่นั้นแหละ จนเมื่อรอบฉายมาพนักงานเหมือนประชดไอเด็กนั้นฌดยบอกว่าฉายแล้วๆ ตอนนั้นภาวนเลยว่าอย่าเจอไอเด็กนั้นนะ สุดท้ายก็ไม่เจอโชคดีไป
สำหรับผมคือเหมือนเขาตั้งใจทำให้เรารำคาญนะ มันสามารถนั่งไขว่ห้างไปอีกทางได้นะ
แบบตั้งใจกลั่นแกล้ง แล้วตอแxล ไม่รู้ไรเเบบนี้มั้ง
ผมไม่ค่อยไปดูหนังเพราะเหตุผลแบบนี้น้องเนสเจอแบบนี้แหละ เหตุผลที่เราเจอคนไม่มีมารยาท มันทำให้เราไม่มีความสุขในการดู
เหตุการณ์ที่เล่าตอนท้ายนี่เหมือนเคยดูจากช่องไหนน้าาา อยากกลับไปดูอีกรอบ ใครจำได้บ้าง😂😂
ผมจะยกขาขึ้นต่อเมื่อไม่มีคนที่นั่งชิดทั้งซ้ายและขวาครับ แต่ถ้ามีต่อให้ไม่ใช่ด้านที่เท้าชี้ไป ก็จะไม่ยกขึ้นเลย มันรู้สึกไม่สบายตัว+เกรงใจ
เคยยืนฉี่ในห้องน้ำที่บ้าน แล้วมีคนจับไหล่จากด้านหลัง ความรู้สึกชัดมาก แต่หันหลังไปไม่มีอะไรทั้งนั้น
เคยเจอแบบอยู่บนห้องละยายเข้าห้องน้ำเลยต้องลงไปเข้าห้องน้ำข้างล่างของบ้าน ปกติจะไม่ชอบเปิดไฟตอนลงไปข้างล่างค่ะ พอลงไปทางซ้ายมือจะเป็นประตูบ้านบ้านนี่จะเป็นประตูแบบนิรภัยมันจะสามารถมองเห็นเงาคนข้างนอกได้ กำลังจะเข้าห้องน้ำทางขาวมือตรงบันได หันไปเจอเงาผชหน้าประตูบ้านเลยนึกว่าเป็นน้าเพราะน้ายังไม่กลับบ้านเลยตะโกนเรียกไปแต่เห็นไม่ตอบเลยเข้าห้องน้ำไป พอออกมาก็ไม่เห็นคนหน้าบ้านเงานั้นแล้วเลยขึ้นห้องไปละก็บอกยายว่าเห็นใคร สักพักประมาณ10นาทีน้าโทรมาบอกปู่เสีย ยายเลยบอกคนนั้นที่เห็นน่าจะเป็นปู่มาหาเพราะก่อนปู่ไปรพ ปู่นอนข้างล้างตรงบ้านเพราะปู่ขยับตัวไม่ได้ นี่ก็ไม่แน่ใจว่าที่เห็นคือใคร
เรื่องที่นั่งที่มีคนนั่งหน้าพี่ เขาก็อยากได้ที่นั่งดีๆกลางๆเหมือนกันรึปล่าว จริงๆเขาอาจจะอยากได้แถว A กลาง แต่พอมีคนจอง ก็จะซื้อต่ำลงมา เป็น B กลางแทน จากใจคนนั่งกลาง ส่วนคนที่นั่งข้างๆ ปวดหัวจริงๆ ถ้านี่เจอก็ไม่ชอบ😂
รู้สึกว่า เวลาโฆษณาจะน้อยลงครับ แต่ก่อน ประมาณ30นาทีตอนที่เรียนอยู่(กทม)แล้วเพิ่งไปเมื่อเร็วๆ นี้ เหลือ 20นาที (ต่างจังหวัด) ไม่แน่ใจเป็นทุกโรงหรือเปล่า
เคยเจอเรื่องอธิบายไม่ได้อยู่ แบบว่า อิหยังว่ะ
คือวันนึง ผมนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านกับแม่
แล้วเสียงพ่อ เรียกแม่มาจากในบ้านว่า เธอๆ(พ่อแม่ผมจะเรียกกันว่าเธอ)
ผมได้ยิน ก็มองแม่ ทำไมแม่เฉย พ่อเรียกออกจะดัง
อีกซักอึดใจนึง พ่อผมเดินเข้ามาจากประตูรั้วหน้าบ้าน
ผมนี้งงเลย อิหยังว่ะ
ถามแม่ แม่ก็บอกไม่ได้ยิน
ถามพ่อ พ่อก็บอกเพิ่งเดินเข้ามาเนี่ย
???????????
ในโรงหนัง ไม่น่าจะใช่เรื่องแปลกครับแค่คนๆนั้นเป็นคนไม่มีมารยาทครับ แค่เค้ากล้าที่จะมานั่งในที่ๆไม่ใช่ของตัวเองนี้ก็รู้ละ
สาเหตุที่เลิกดูหนังในโรงก็แบบที่คุณเนสเจอเลยค่ะ เป็นคนชอบดูหนังในโรงมาก ๆ แต่เจอพฤติกรรมคนดูหลาย ๆ คนแล้วจะบ้า เหมือนลืมมารยาทไว้ที่บ้าน
เป็นคนไม่ค่อยเจออะไรในชีวิตเเค่เคยเห็นเด็กเหมือนกุมารยืนอยู่ใต้บันได ตอนผมเดินขึ้น เดาว่าน่าจะหลอนเเหละไม่มีไรหรอก เเต่กลัวนะกลัวจริงงงง😂
เป็นคนที่ชอบดูหนังในโรงคนเดียวยกเว้นเพื่อนชวนอันนั้นก็จะไปหลายคน ประสบการณ์ในโรงหนังเจอมาแล้วหลายอย่าง ไม่ว่า คุยโทรศัพท์ นักพากย์+ผู้กำกับ กลิ่นไม่พึงประสงค์ เก้าอี้ผีเข้าจากคนข้างๆนั่งเขย่าขา คนเดินไปนั่งโดยกระเป๋าละหัวเราไป หรือไม่ก็หันไปเจอติน👣คนคู่พนักเก้าอี้ที่นั่งถัดไป เราจะทำไรได้ เฮ้อ ต้องทำใจ😢
ล่าสุดที่เข้าโรงหนังนานมากจนจำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไรคือเพื่อนชวนและคนเต็มโรง ข้างหลังเราเป็นเด็กวัยรุ่นต่างชาติกลุ่มนึงยกเข่าขึ้นมายันเก้าอี้เราเป็นพักๆ เราก็หันไปมองไม่อะไรมากต่างชาติอะนะขายาวคงนั่งไม่สบาย แต่เออะเริ่มถี่จนความอดทนของเราหดหาย...ลุกขึ้นด่าจ้า(ภาษาอังกฤษ) เจ้านั้นก็ sorry จบ ซักพักมาอีกแล้ว ไอ้เจ้านี่ด่าภาษาของมึนไม่จำใช่มั้ย คราวนี้ลุกขึ้นเว่าภาษาไทยไปพร้อมชี้หน้าด้วยก็เกินจะทนแล้วจนเพื่อนเราต้องดึงมือให้นั่งลง สรุปดูไม่รู้เรื่องและไม่เข้าโรงหนังอีกเลย😂😂😂
เคยนอนอยู่ที่บ้านบนเตียงที่ติดพื้น
แล้วรู้สึกมีคนเดินเหยียบทะลุตัวยํ่าลงบนเตียง ที่รู้สึกได้เพราะเตียงมันยุบแล้วตัวผมมันยวบลงไป
ความรู้สึกไปดูหนังในโรงคือลบแล้วอะตอนนี้ มันแบบคนไม่ค่อยมีมารยาทเลย ล่าสุดที่เจอคือ คนนั่งติดกันเขย่าขาตลอด ส่วนคนข้างหน้าเล่นมือถือ เล่นไอจีตลอด เหลื่อจเชื่อเลย :(
เรื่องสุดท้ายที่พี่เล่านี่เคยได้ฟังมาเหมือนกันค่ะ อันนั้นคนวางแผนมาเล่าเองเลย😂 แต่ตอนฟังคือขนลุกจริงค่ะแล้วยิ่งมีรูปประกอบของพี่ที่รำตอนนั้นคือสุดๆ แต่จากที่จะแกล้งคนคนเดียวคิอมีคนบาดเจ็บนิ้วหักไปร.พ คือมันวุ่นวายสุดๆ😂
อยากให้เล่าปรากฏการณ์ที่ไม่ใช่ผี