รีวิว New Honda City e:HEV SV รุ่นย่อยใหม่ไฮบริด ปรับเปลี่ยนจุดไหนบ้าง แตกต่าง RS อย่างไรไปดู!!
Вставка
- Опубліковано 27 сер 2023
- New Honda City รุ่น e:HEV SV ราคา 769,000 บาท
.
ดีไซน์ภายนอกปรับใหม่
- กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่
- กระจังหน้าโครเมียม
- ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
- เปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- มือจับประตูด้านนอกโครเมียม (รุ่น SV และ e:HEV SV)
- กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
- ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
- เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ
- ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว แบบทูโทน (รุ่น SV) และแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV)
.
ขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน แรงบิดมอเตอร์สูงสุด ที่ 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 3,000 รอบต่อนาที และยังให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27.8 กิโลเมตร/ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 83 กรัม/กิโลเมตร
.
รองรับพลังงานทางเลือก E20 ทั้งนี้ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV จะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติตามความเหมาะสม ประกอบด้วย 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
.
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน จักรยาน และจักรยานยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย 6 ฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) (รุ่น V, SV และ RS) พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low Speed Follow: with LSF) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) - Авто та транспорт
รุ่นย่อยนี้แหละคุ้มสุด ได้ไฮบริด ประหยัดค่าตัว ประหยัดน้ำมัน
รีวิวได้ดีครับ
รีวิวค่ิอนข้างดี ข้อมูลละเอียดดีครับ
เปรียบเทียบแตกต่างละเอียดดี ตั้งแต่ดูทดสอบประหยัดล่าสุด 1 เดือน ครับ
แอดขอบคุณครับ
ชื่อรุ่นชัดเจนดีไม่ผิดเลย แต่เน้นเสียงชัดและดังเกินไปจนสาระไปอยู่ที่ชื่อรุ่นมากไปครับ
เรียก SV RS น่าจะฟังง่ายกว่า 😅 ฟังจนหลงรุ่นกันเลยทีเดียว 😂
ฟังชื่อรุ่นแล้วงงตามเลยครับ น่าจะเรียกให้มันง่ายกว่านี้ รุ่นเครื่อง 1000 turbo top, รุ่น 1500 รองท๊อป ฯลฯ
ลองเปลี่ยนชื่อรุ่นให้เข้าใจง่าย เช่น ท็อป รองท็อป ไฮบริด ได้ไหมครับ ผมฟังแล้วเหนื่อยมากครับ เข้าใจยาก
อยากดูรีวิวตัวขาวsv
รุ่นนี้น่าสนใจมาก สําหรับคนเน้นใช้งานอ๊อฟชั่นเพียงพอครับ
ถูกต้องครับ
รีวิวอัตราการจอดนอนหน่อยครับ 1ชมประมานกี่ลิตร
ขับสัก 120 เกาะถนนดีมั้ยครับ
แบรนด์แข็งทำรถแบบไหนออกมาก็ขายได้ ขนาดกั๊กออฟชั่นขนาดนี้ ก็ยังขายดี
ถ้าเปลี่ยนจาก ehev เป็นคำว่า ไฮบริด จะทำให้เข้าใจมากขึ้นครับ แล้วรุ่น เป็นรุ่นท้อป รองท้อป จะง่ายขึ้นครับ
ขอบคุณมากๆ สำหรับคำแนะนำครับ
ใช่ครับ เห็นด้วย
คลิปนี้เกี่ยวกับเครื่องehev(ไฮบริด)ล้วนๆไม่เกี่ยวกับเครื่องเทอร์โบ เวลาพูดรุ่นRS SVก็พอ ไม่ต้องมีehevหลายๆรอบ ฟังแล้วงงๆหลงๆ
ขออนุญาต ถามเรื่องเบาะนั่งสบายมั้ยคะ เบาะนั่งยาวถึงข้อพับเข่าในมั้ยคะ ขับทางไกลเมื่อยขามั้ยคะสำหรับคนขายาว มีความสูง170ค่ะ
ระดับความสูง 170 Cm. แอดว่ายังนั่งได้สบายอยู่ครับ ส่วนเรื่องการซับพอร์ตใต้ท้องขาของฐานเบาะก็ไม่ได้สั้นจนเกินไป แต่ยังไงอยากให้ไปลองนั่งดูก่อนครับ เพราะความยาวขาแต่ละคนไม่เท่ากัน
ผมมองว่ารุ่นย่อยตัวนี้คุ้มสุดละครับ เพิ่มเงินจากรุ่นท็อปเทอร์โบนิดเดียวได้ออฟชั่นเพิ่ม แถมได้เครื่องไฮบริดอีก
ใช่ครับ ไม่ต้องไปถึง RS ก็ได้
ใช่ครับ ฮอนด้าเซนซิ่งของE-HEVมีมากกว่าเครื่องเทอร์โบ
รุ่นนี้ลงตัวสำหรับผมเหมือนกันครับ ชอบตรงใช้โซ่ขับวาลว์ ได้เครื่อง 1,500 cc
มีไฟตัดหมอกมั้ยคะ
SV ไม่มีครับ
ดิสเบรกคู่เลยใช่ไหมครับ
ใช่ครับ SV e:HEV เป็นดิสก์เบรกหน้าหลัง
AVG 35 mk/l ขับความเร็วเท่าไหรครับ
ค่า AVG อัตราความสิ้นเปลือง 35 กม./ชม. ความเร็วเฉลี่ย 50-70 กม./ชม. ระยะทางรวม 133 กม. ภายใต้เวลา 2.30 ชม. ครับ ซึ่งเป็นการแข่งขันประหยัดน้ำมัน แต่หากขับใช้งานจริงๆ ปกติ 18-20 กม./ลิตร ผู้ใช้รถทั่วไปที่ขับคันนี้ก็สามารถทำได้ครับ
ใช้งานทั่วไปขับทางไกลแบบไม่ปั้นตัวเลข ได้เกิน 23 กิโลเมตรต่อลิตรแน่นอนครับ ผมใช้อยู่ เว้นแต่ว่าคุณจะขับเร็วมากๆ จริงๆ
เบาะหลังพับไม่ได้ ไม่มีที่วางแขน ที่บังแดดกระจกส่องหน้าไม่มีไฟ สรุปคือแพงเกินไป
สำหรับเครื่อง 1.5ลิตร+ไฮบริด ผมว่าไม่แพงเลย
แต่ก็นั้นแหละ ถ้าได้ไฟหน้า LED กับ ไฟตัดหมอกมา ผมว่าน่าจะตัดสินใจได้ง่ายกว่านี้
สำหรับ honda sensing และ เบรคมือไฟฟ้า สำหรับผมที่อยู่เชียงใหม่ มองว่าไม่ได้ต้องการอะไรขนาดนั้น 555
เหนื่อยแทน ต้องพูดชื่อเต็มสลับกันไปมา 555
555 เหนื่อยจริงครับ