จาก EP แรกจน EP นี้เห็นพัฒนาการเกี่ยวกับหัวข้อทางด้านปรัชญาของพี่ฟางชัดเจนมากๆ เลยครับ ทั้งการทำการบ้านหรือการปรับตัวเข้ากับอาจารย์ภาคิน ออกมาเป็นรายการที่ฟังสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่ก็ฟังสนุกและไหลลื่นดีมากๆ อยู่แล้วตั้งแต่ EP แรก ขอบคุณพี่ฟาง อ.ภาคินและทีมงานมากๆ เลยครับที่ทำงานกันหนักจนผลงานออกมาดีขนาดนี้
ฟังพอตแคสตอนนี้แล้วคิดถึง จอย ใน everything everywhere all at once ที่มีความปราถนา อยากจบชีวิตตนเอง พอตแคสนี้ สามารถอธิบายขยายความเจตจำนงของน้องจอยได้มากขึ้น
นึกถึงหนังเรื่อง age of adaline เกี่ยวกับผู้หญิงคนนึงประสบอุบัติเหตุทำให้เธอไม่มีวันแก่ เธอต้องเฝ้ามองคนที่เธอรักรอบข้างร่วมถึงลูกเธอค่อยๆทยอยจากไป และก็ไม่กล้าจะอยากรู้จักใครคนใหม่ๆเพราะรู้อยู่ดีว่าวันหนึ่งเธอก็ต้องเสียใจเมื่อเห็นเขาจากไป เธอไม่สามารถมีความรักเพราะไม่มีใครจะแก่ไปพร้อมกับเธอได้
00:00 Highlight
00:35 การเลือกจบชีวิตในมุมปรัชญา
05:39 สิทธิในการเลือกจบชีวิต
14:23 แนวคิดการเลือกจบชีวิตเป็นสิ่งผิด?
18:58 การจบชีวิตเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง
34:28 การุณยฆาตเป็นไปได้หรือไม่
42:13 แนวคิดการเลือกจบชีวิตไม่ใช่สิ่งผิด?
01:09:57 คำถามทิ้งท้าย
ชอบอีพีก่อนหน้ากับอีพีนี้มากๆเลยค่ะ คิดเรื่องแบบนี้ สงสัยมานานแต่ไม่มีใครอยากพูดด้วยเลย เรากลายเป็นคนแปลกแยกไปเลยเวลาเปิดประเด็นนี้ เรามองว่ามันคือเรื่องปกติมาก ที่สามารถเอามาถกประเด็นกันได้แบบหัวข้ออื่นๆ ฟังแล้วตกผลึกได้หลายอย่างเลยค่ะ
จริง มาก ๆ เราสงสัยเรื่องนี้ตั้งแต่เด็ก ๆ แต่มันเป็นเรื่องที่ดูจะ tabooมาก คุยไม่ได้พูดถึงไม่ได้ มักจะโดนให้หยุดพูด และให้มองในมุมศาสนาพุทธอย่างเดียวว่าผิดบาปจบ
ดีใจมากเลยค่ะ เป็นอีกคนที่ชอบบทสนทนาแบบนี้แต่มันก็คุยบนโต๊ะกับข้าวปกติได้ไม่บ่อยนัก ขอบคุณที่ทำให้ฟางได้คุยผ่านพื้นที่รายการนะคะ 😊
ดีใจที่เจอคนที่คิดคล้ายๆกัน นี่สงสัยเเล้วลองคุยกับเพื่อน เพื่อนดูเป็นห่วงมากๆๆๆซึ่งเข้าใจได้เเต่เราสงสัยจริงๆ ตอนนั้นรู้สึกเเปลกเเยกมาก
เรื่องแบบนี้มันพูดยากอะครับ
มีคนชราคนนึงอยากอยู่บนโลกนี้นานๆ แต่คนดูแลคนชราคิดจะจบชีวิตตัวเองอยู่ทุกวัน เหนื่อย
การได้ค้นพบแชนแนลนี้ คือทำให้เราสบายใจมาก เหมือนมีเพื่อน deep talk ตลอดเวลา ขอบคุณมากนะคะสำหรับ content การ deep talk ที่มีความหมายและคุณค่าเสมอ หลาย ep มาก ที่ช่วยสะกิด กระตุ้น และทำให้ตกตะกอนได้ในหลายๆมิติของชีวิต และความคิด ขอบคุณอีกครั้ง และเป็นกำลังใจให้นะคะ ✌🏻😃
คุณภาพมากๆ ค่ะรายการนี้ Bar สูงขึ้นทุก EP เลย
ขอใช้คอมเม้นนี้ให้กำลังใจทุกคนที่กำลังอยู่ในจุดที่รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความหมาย และไม่อยากมีชีวิตต่อไปนะคะ กอดแน่นๆ เพราะเป็นคนนึงที่ผ่านจุดนั้นมาได้ เชื่อว่าถ้าผ่านมันไปได้แล้วค้นพบความหมายของชีวิตตัวเองแล้ว มันจะฟินมากๆ เลยค่ะ ส่วนตัวตอนนี้ ความหมายในชีวิตคือการมอบความรักที่ไม่สิ้นสุดให้ทุกคนและโลกใบนี้ค่ะ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ก็ดิ่งมานานอยู่ แต่ไม่ต้องกดดัน ไม่ต้องคาดหวังว่าต้องดีขึ้นภายในระยะเวลาไหนใดๆ เลยนะคะ ก้าวไปแต่ละวันด้วยจังหวะของตัวเอง เอาเท่าที่ตัวเองไหว ดีสุดฮะ ❤
ฉากหลังมันอึมครึมชวนสยองขวัญอยู่นะครับ 😅
ขอบคุณมากเลยครับ 🙂
ช่ายยยย ชอบมากกกกกกกกกกก
ชอบประโยคจากหนังโชกุนเลยครับ ชีวิตคงเหมือนการเป็นสายลมพัดดอกไม้ของผู้อื่น ก่อนที่วันนึงเราจะกลายเป็นดอกไม้ที่ร่วงหล่นบ้าง แล้วก็หนังที่พี่ฟางบอก อนาคตมนุษย์อาจต้องมาคุยกันเรื่องสิทธิเสรีภาพของหุ่นยนต์บางประเภทก็ได้ 55555
จาก EP แรกจน EP นี้เห็นพัฒนาการเกี่ยวกับหัวข้อทางด้านปรัชญาของพี่ฟางชัดเจนมากๆ เลยครับ ทั้งการทำการบ้านหรือการปรับตัวเข้ากับอาจารย์ภาคิน ออกมาเป็นรายการที่ฟังสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่ก็ฟังสนุกและไหลลื่นดีมากๆ อยู่แล้วตั้งแต่ EP แรก ขอบคุณพี่ฟาง อ.ภาคินและทีมงานมากๆ เลยครับที่ทำงานกันหนักจนผลงานออกมาดีขนาดนี้
ขอบคุณมากเลยนะคะ ยังพยายามอยู่เสมอ 🥹 จะขอเป็นเพื่อนคุยต่อไปน้า
ฟังมาทั้งอีพี ชอบมากๆค่ะหนูเป็นคนนึงที่มีปัญหาซึมเศร้า วิตกกังวล บุคลิกภาพผิดปกติได้เลยค่ะ ชีวิตเรามันมีค่าได้แม้แต่ในวันที่เราไม่เหลือตัวตนของตัวเองคนเดิมอีกต่อไป คำถามทิ้งท้ายทำน้ำตาไหลเลยค่ะ จะเกิดมาเป็นใบไม้ที่ซักวันก็ร่วงหล่น หรือจะเป็นสายลมที่สร้างสิ่งสวยงามก่อนสายลมนั้นจะสูญสิ้นไป
ในทางพระพุทธศาสนาสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นจากความอยาก
เมื่อจิตของตนอยากมีชีวิตก็จะมีการเกิดขึ้นในสื่งแวดล้อมจากการกระทำของตนเองทั้งทางสิ่งแวดล้อมที่ดีหรือสิ่งแวดล้อมที่เลวร้าย
ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการกระทำของตนเอง ทำดีย่อมอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ทำสิ่งเลวร้ายย่อมอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เลวร้าย
ในทางพระพุทธศาสนาให้ความสำคัญที่สุดคือการมีสติรู้ตัวอยู่กับปัจจุบัน คิดดี พูดดี ทำดี ความดีจากการกระทำของตนเองจะพบแต่สิ่งที่ดีโดยไม่ต้องพึ่งพระเจ้าเพราะพระเจ้าไม่มีจริง
รายการทำให้มองอะไรเดิมๆได้หลายมุมมองมากขึ้นเยอะเลย ชอบความเป็นกลางของเนื้อหา ไม่ได้ชักนำไปทางไหนมากจนเกินไป เหมือนเอามาเล่าให้ฟังเฉยๆ
เราฟังมาทุกตอน รู้สึกว่าตอนนี้เป็นตอนที่มีความสมบูรณ์มากนะคะ ผสมผสานระหว่างตัวทฤษฎี และตัวบทอื่นๆ ตัวอย่างที่คัดเลือกมาใช้ เราชอบและเห็นด้วยทุกประการเลยค่ะ
ประเด็นเรื่องการฆ่าตัวตาย (ขอเรียกตรงๆ นะคะ เข้าใจว่ารายการพยายามเลี่ยงคำนี้) เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและ controversial มาก เราทำงานอยู่ในสายการศึกษา ต้องพบเจอนักศึกษาซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางมากกลุ่มนึง (นอกเหนือจากผู้สูงอายุ) เป็นเรื่องที่เรารู้สึกกังวลด้วยเหมือนกันเพราะนักศึกษาเกิดความเครียดได้ตลอด มีความทุกข์ทนจนเป็นซึมเศร้ากันมาก เรื่องโรคซึมเศร้านี้ก็เกี่ยวเนื่องกับประเด็นทางสังคมและเศรษฐกิจด้วย เป็นเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวด้วย จุดนึงที่คิดว่าเป็นพัฒนาการในแง่บวกคือ มีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น มีระบบสนับสนุนต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือเพิ่มขึ้น รายการนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ address ประเด็นนี้ได้ดีค่ะ
สิ่งที่อาจจะเป็นประเด็นให้คิดกันต่อคือ แนวโน้มการเป็นโรคซึมเศร้านี้มีเพิ่มขึ้นในสังคมสมัยใหม่ สังคมที่มีความเป็นทุนนิยมสูง แข่งขันสูง โดดเดี่ยว มีเทคโนโลยีมาก (arguably) ยิ่งทำให้มีแนวโน้มซึมเศร้าและ (อาจนำไปสู่) การฆ่าตัวตายมากขึ้น ประเด็นนี้ก็ทำให้เห็นว่า เรื่องของการตัดสินใจจบชีวิตตนเองมีปัจจัยทางสังคมมาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอนค่ะ
แต่ก็อย่างที่พิธีกรทั้งสองทิ้งท้ายไว้นะคะ เราเห็นด้วยว่าวัคซีนสำคัญที่จะทำให้คนมีแรงต่อสู้กับความทุกข์ทนที่มาปะทะกับเราทุกคนในแต่ละวันคือ คุณค่าและความหมายของชีวิต บ่อยครั้งเป็นครอบครัว-คนรัก-เพื่อน-หรือแม้แต่ตัวเอง บางทีเป็นสัตว์เลี้ยง บางทีก็เป็นงาน หรือการทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคม -- อยากทิ้งท้ายไว้ให้เผื่อใครรู้สึกเคว้งคว้างหาหนทางไม่เจอ มืดมนไปหมด ลองค่อยๆ หาหรือสร้างความหมายของตัวเองจากสิ่งเหล่านี้ดูค่ะ ถ้ามีหลายด้านเผื่อๆ ไว้ (กระจายความเสี่ยงอย่างที่คุณภาคิณบอก) ก็จะยิ่งทำให้มีภูมิต้านทานต่อความว่างเปล่า สิ้นหวังและทุกข์ทนของชีวิตกันต่อไปได้ค่ะ
จริงๆแล้วรู้สึกยินดี ที่มีการพูดคุยเรื่องความตาย เพราะความตายมันเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเรามาก แต่คนเราไม่ค่อยพูดถึง
ถ้าในทางพุทธศาสนา จริงๆแล้วก็มีการพูดถึงความตายอยู่บ่อยครั้ง ให้พึงระลึกถึงความตาย ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ไม่มีอะไรเที่ยงแท้ยั่งยืน มันเป็นการระลึกถึงไม่ใช่ในเชิงหดหู่ หรือในทางซึมเศร้า แต่เป็นการระลึกถึง เพื่อให้เห็นคุณค่าของปัจจุบัน เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ เพื่อให้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นปกติ
แต่สิ่งที่น่าแปลก คือ เรื่องความตายดูเหมือนเป็นเรื่องต้องห้ามที่ไม่ให้พูดในสังคมไทย เวลาพูดก็ดูจะเป็นความอัปมงคล มันจึงทำให้เมื่อใครสักคนหนึ่งต้องเผชิญกับภาวะนั้นจริงๆ ที่จะต้องมีใครสักคนนึงจากไป มันเลยยากที่จะทำใจ เพราะไม่เคยคิดที่จะเตรียมความพร้อมของใจในเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ
จึงรู้สึกดีที่มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้ค่ะ แล้วก็ได้หลายแง่หลายมุมจากการพูดคุยครั้งนี้ค่ะ และชื่นชมรายการนะคะ ที่ยกประเด็นนี้ขึ้นมาคุยเอง และมีการเตือนก่อนดำเนินรายการ และเมื่อจบรายการก็มีหมายเลขสายด่วนที่ให้คำปรึกษา สำหรับคนที่อาจจะหวั่นไหวไว้ให้ด้วย ขอบคุณค่ะ😊
ดอกไม้จะเป็นดอกไม้เมื่อยามมันร่วงหล่น
แต่โชคดีที่สายลมยังพัดปลิว 🥺
ขอบคุณนะคะที่ทำรายการนี้ออกมา ประทับใจทุก ep เลยค่ะ โดยเฉพาะ ep นี้และ ep ก่อนหน้า ชอบการพูดคุยเพื่อเข้าใจ ไม่ตัดสิน และนำเสนอความเชื่อแบบอื่นที่อาจไม่เคยนึกมาก่อน รู้เลยค่ะว่าทำการบ้านกันมาหนักมากจริง ๆ เป็นกำลังใจให้ทำต่อไปเรื่อย ๆ จะรอติดตามเสมอนะคะ 🩵
เป็นอีก 1 EP. ที่ได้คิดตามเยอะมากๆ และทำให้ผมคงต้องกลับมาหาความหมายของชีวิตอีกครั้งผ่านความทุกข์ที่ผ่านมาบ้าง เพราะที่ผ่านมาผมอาจจะมองความหมายของชีวิตจากความสุขตรงหน้าเพียบอย่างเดียว และมันยังไม่โจทย์ผมมากขนานนั้น ขอบคุณรายการดีๆ และทีมงาน standard มากครับ ที่กล้าหยิบยกเนื้อหานี้ขึ้นมาพูดคุยกัน
โอโห ลึกซึ้งมาก จะเป็น Ep. ที่ฟังย้อนอีกหลายรอบแน่นอน เพื่อทบทวนความหมายของการมีชีวิต
ขอบคุณสำหรับหัวข้อนี้มากๆเลยนะคะ ทรงคุณค่าสุดๆ
จริงๆ เป็นแฟนรายการนี้แบบตั้งตารอ ดีใจที่มีอีพีนี้ค่ะ พออายุนึงมันจะมีคำถามนี้จริงๆ และควรเป็นคำถามที่ต้องหมั่นถามตัวเอง อย่างที่คุณฟางพูดตอนจบสุดท้าย เมื่อตั้งคำถามเรื่องการจากไป เราจะตัเงใจมองความหมายของการมีชีวิตอยู่ ส่วนตัวคิดว่าการมีชีวิตอยู่ในทุกๆ วันอย่างดี หมายความถึงเข้าใจการตั้งอยู่ดับไปของตัวตน เป็นอนัตตานั่นแหละมั้ง ของตะวตน อารมณ์ ความคิด ความรู้สึกต่อสิ่งรอบข้างที่เข้ามาเป็นเงื่อนไขในการมีชีวิต เข้าใจแล้ว ก็ยอมรับมัน เมื่อคิดได้แบบนี้จะรู้สึกสนุกกับชีวิตทุกวันมากๆ เพราะยอมรับความทุกข์ได้ง่ายขึ้น มีเวลาและพื้นที่ให้ความสุขในการมีชีวิตได้เยอะขึ้น 😊
ฟังพอตแคสตอนนี้แล้วคิดถึง จอย ใน everything everywhere all at once ที่มีความปราถนา
อยากจบชีวิตตนเอง พอตแคสนี้ สามารถอธิบายขยายความเจตจำนงของน้องจอยได้มากขึ้น
อย่าไปเสียใจสงสารคนตายเลย ควรสงสารคนที่ยังมีขีวิตอยู่เถอะครับ
อย่าสงสารคนตายเลยแฮรี่ สงสารคนที่วันนี้ยังต้องไปทำงานเถอะ
เด็กพวกนี้็ไม่ผิด เค้าอยากช่วย แต่การรู้กับการสัมผัสคุณก็รู้ว่าเป็นยังไง😊😊😊เหนื่อยเหมือนคุณครับ😊😊😊
ดับเบิลดอกล่าวไว้
@@anandaintarasuwan6862 คร้าบเคยอ่านครับแต่ก็ดีเผื่ออีกหลายคน🤣🤣🤣
@@anandaintarasuwan6862 อาจารย์แดงได้กล่าวไว้ว่า "ผมมีสองดอ ดับเบิ้ลดอ"
อีพีนี้ รายการนี้ ดีมากครับ ทำให้เราได้เผยเเพร่ การพูดคุย ในหลายด้าน ที่ไม่ตื่นเขิน ติดตาม และ ขอนำตัวอย่างหลายๆบท ไปพูดคุย แก่ลูกศิษย์ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาปัญญา ด้วยนะครับ😊😊😊
Ep.นี้ เสนอข้อมูล และแนวคิดทางทฤษฏีเนื้อหาแน่นมากค่ะ ขอบคุณคุณฟาง คุณภาคิณและทีมงานมาก เป็นEp.ที่มีคุณค่ามากจนอยากให้ทำsub เป็นภาษาอังกฤษด้วย สมควรที่จะแชร์ระดับอินเตอร์ทีเดียว
บทสรุปคือ...ดีที่สุด เปิดมุมมองใหม่ที่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยทั้งที่แก่มากขนาดนี้
เรื่องใน EP นี้หนักจริงๆ
เรื่องนี้พูดยากจริงๆแหละ บ้านเราเมืองพุทธ เชื่อเรื่องกรรม การมีชีวิตอยู่คือการสร้างบุญและบาปที่เป็นกรรม และชดใช้กรรมจากอดีตชาติ ไม่ว่าจะดีหรือเลว การจบชีวิตตัวเองคือการหนี ซึ่งจะมีค่าปรับที่หนักหนา แต่พอมาคิดเรื่องจบจบชีวิตเพื่อผู้อื่นมันก็ดูขัดแย้งหน่อยนะ เพราะไม่ได้เจตนาหนี งั้นถ้าตีว่าเอาเกณฑ์เรื่องเจตนาหนีมาตัดก็พอฟังขึ้น แต่พอมาคิดเรื่องคนทีทุกข์ทรมานจากโรคก็น่าเห็นใจ .... ยากจัง 😅 เป็นรายการที่ชวนให้ใช้สมองน่าดูเลย ติดตามทุก ep เลยครับ 😁
ตอนนี้ยังอยากอยู่เพื่อดูการเติบโตของใครบางคน ยังอยากเห็นเขาในอีกหลายมุมมอง ในอีกหลายๆบทบาท แต่ถ้าต้องไปก็พร้อมไปเสมอ คงนึกเสียดาย แต่ไม่นึกเสียใจ 😊
มีชีวิตมานานมากๆ แล้ววันหนึ่ง ความตายก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ชีวิตผ่านอะไรเยอะ จนคิดว่า เมื่อไหร่จะได้พักผ่อนเสียที
เหตุผลที่ยังมีชีวิตคือยังทำอะไรอย่างที่ใจอยากจะทำไม่ครบค่ะ
ปล. ชอบคำพูดที่ว่าเราสามารถเป็นสายลมให้ใครได้ 1-2ปีที่ผ่านมาเราสูญเสียคนที่รักสัตว์เลี้ยงที่รัก ติดๆกันเลยค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังทำใจไม่ค่อยได้ แต่พอยอมรับได้บ้างแล้ว ได้ขอคิดจากepนี้ที่ว่าเราเหมือนเป็นสายลมให้กับบุคคลที่สูญเสีย เราได้ดูแลเขาเต็มที่ ได้อยู่ด้วยกัน ถึงแม้เราจะเสียใจมากๆที่พวกเขาจากไป แต่เราก็ไม่เป็นห่วงเพราะเขาไม่ทุกข์ทรมานจากปัญหาสุขภาพแล้วค่ะ🫶🏻
การมีชีวิตอยู่คือการเรียนรู้ รับรู้ สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และใช้สิ่งเหล่านั้นสร้างปัญญาให้จิตที่รู้
ส่วนตัวถึงจะไม่ได้รอบรู้ในเรื่องทางปรัชญามากนัก แต่สำหรับ EP. นี้ต้องยอมรับว่ามัน 'ตรงใจ' ในหลายความหมายเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญจริง ๆ ครับ
ผมมองว่า 'ความตาย' เปรียบเหมือนกับการได้กลับไปสู่รากเหง้าดั้งเดิมที่มนุษย์เคยเป็น หรือเอาง่าย ๆ ว่าการที่ร่างกายของเราสลายไปมันคือการที่เรา 'ส่งคืนตัวเอง' ไปสู่ธรรมชาติที่ตัวมันไม่ได้สนใจใยดีอะไรกับเรา นอกจากเพียงดำเนินไปตามวัฐจักรที่มันควรเป็น สรรพสิ่งชีวิตเกือบหลายสิ่งในโลกที่ตายไปก็กลับคืนไปตามจุดที่มันควรเป็น แต่ใด ๆ แล้ว แนวคิดเรื่องของการจากลากับสังคมความเป็นอยู่โดยรอบ มันก็ทำให้ผมแอบฉุกคิดและลังเลไม่ได้จริง ๆ ว่า "เราควรที่จะออกแบบหรือวางแผนเรื่องการเกษียณตัวเองจากการเป็นมนุษย์แล้วหรือเปล่า?"
ใด ๆ คือจะติดตามต่อไปครับ ไม่ค่อยเสพคอนเทนต์แนวใช้ความคิดนี้นาน ๆ เท่าไหร่ แต่เสพทีแล้วเหมือนมีอะไรให้น่าคิดมากหลาย ๆ เรื่องเลย
ความหมายของการมีชีวิตอยู่…เอาจริงๆ ตัวเรา ณ วันนี้ก็ยังไม่ทราบเลยค่ะว่ามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร แต่ไม่ได้หมายความว่าอยากจะไปจากโลกนี้แล้วนะคะ😅แค่วันนี้โฟกัสกับสิ่งที่ทำในปัจจุบัน ค่อยๆก้าวผ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ที่ละก้าว พยายามมองหาความสุขเล็กๆที่เกิดขึ้นรอบตัว ชีวิตของเรา ณ วันนี้ก็มีแค่นี้แหละค่ะ เลยไม่รู้เหมือนกันว่าจะตอบคำถามนี้ยังไง😂
🫂🎗️🇹🇭
ชอบมากครับฟังเวลาทำงานตลอด
คิดเหมือนกัน แต่ชีวิตเป็นของผู้เขียน ไม่มีใครอีกแล้ว เจ็บปวดกับการมีชีวิตอยู่ ข้างในสู้กันอยู่
ขอบคุณในการมีอยู่ของรายการนี้ค่ะ❤
สำหรับผมการการุณยฆาตตัวเองในตอนชรา เป็นสิ่งที่ผมอยากผมอยากให้ถูกกฏหมายครับ เพราะเราได้เลือกไปในตอนที่เราต้องการได้ ไม่ต้องทุกข์ทรมานในตอนที่เราดูแลตัวเองไม่ได้ ในแง่ของสังคมก็จะได้เอาทรัพยากรต่างๆ ที่ต้องจัดสรรมาดูแลเรา ไปทำอย่างอื่นให้เกิดประโยชน์กับสังคมดีกว่า ในเเง่ของหน้าที่เรามองว่าหน้าที่ทั้งหมดที่เราทำได้ เราได้ทำไปแล้วในตอนหนุ่ม
มีชีวิตอยู่.. เพื่อรอดูว่า Shortcut ปรัชญา EP หน้า จะคุยเรื่องอะไรสนุกๆอีกนะ 🤗
และ เพื่อรอดูวันที่ ดอกไม้ ปลิวไปสูงเสียดฟ้า
วันนี้คุณฟาง MVP
ถ้าเรามองว่าเราเป็นเจ้าของชีวิต ชีวิตเป็นของคุณ พ่อแม่ก็มองว่าคุณเป็นลูกของเขา เพื่อนก็มองว่าคุณเป็นเพื่อนของเขา ชื่งมีเจ้าของเยอะเลย แต่ถ้ามองแบบพุทธ์ก็คุณไม่ใช่เจ้าของ ไม่มีสิทธ์ทำลาย
ผมได้คำตอบของความหมายของชีวิตเมื่อตอนอายุ21 การจะได้คำนิยามความหมายของชีวิตนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแต่ผมก็ดีใจที่หามันจนเจอ สำหรับผมชีวิตคือการเรียนรู้ ฝึกฝนและพัฒนา ฟังผ่านๆมันช่างจืด ช่างไม่น่าสนใจ แต่ผมนิยามมันไว้อย่างนี้จริงๆและก็ได้เข้าใจว่าความหมายของชีวิตนั้นมันไม่ได้ซับซ้อน มันเรียบง่ายเหมือนกับที่ผมนิยามเอาไว้แต่ผู้คนส่วนใหญ่มักไม่ตั้งคำถามและเรียนรู้หาคำตอบอย่างจริงจังและคิดไปเองว่าความหมายของชีวิตต้องพิเศษ สวยหรูและว้าว การจะหาคำนิยามของมันต้องอาศัยประสบการณ์หลายๆอย่างเข้าด้วยกัน ทำไมนิยามชีวิตของผมถึงคือการเรียนรู้
ชีวิตก็เหมือนขวดทรงกระบอกใบนึงที่อยู่บนยอดเขาและสุดท้ายต้องหล่นไปถึงตีนเขา แน่นอนว่าขวดทุกใบต้องหล่นมาถึงตีนเขาแต่ระหว่างที่ไหลลงมานั้นขวดใบไหนจะไหลลงมาได้เรียบง่ายที่สุด ต้องเป้นขวดที่เป็นทรงกระบอกที่สุดไม่บิดเบี้ยว ไม่นูนไม่หยาบ ผมเข้าใจเลยว่าทุกปลายทางของชีวิตก็คือความตายเหมือนกันแต่ระหว่างทางบางคนเป็นทุกข์มาก มากคนเป็นสุข คนที่มีแต่ความทุกข์ก็เปรียบได้กับขวดที่บิดเบี้ยว มีทัศนะคติในการใช้ชีวิตที่บิดเบี้ยว ไม่ฝึกฝนพัฒนาตนเอง ไม่ทำความเข้าใจโลก ไม่ทำความเข้าใจตัวเอง มีแต่โทษผู้อื่น และไม่มีขวดใบไหนที่จะสมบูรณ์แบบแต่ระหว่างทางเราต้องเรียนรู้และพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆเพื่อให้ขวดของเราเป็นทรงกระบอกที่สุด ในหนังสือบอกไว้ว่าเรากำหนดรูปลักษณ์ของขวดได้ แต่เรากำหนดเนินเขาไม่ได้ เนินเขาก็คือโชคชะตา เราควบคุมโชคชะตาไม่ได้แต่เราควบคุมและพัฒนาตัวเองได้ ผมขอให้ทุกคนทุกคนตามหานิยามความหมายของชีวิตตัวเองให้เจอครับ
อยากให้ฟังถึงตอนจบกันนะที่ว่าการมีชีวิตอยู่ก็ทำสิ่งยิ่งใหญ่ได้เหมือนกัน
ส่วนตัวผมคิดว่าเรื่องการจบชีวิตยังไงก็ควรห้ามกันไว้ ยกเว้นเคสเจ็บป่วยสาหัส
ที่เราไม่อยากให้เขาตายก็เพราะคิดว่าเขามีคุณค่า
ผมเคยมีคนรู้จักที่เคยฆ่าตัวตาย แต่มีคนรอบตัวช่วยไว้ เริ่มต้นใหม่ จนตอนนี้ก็มีชีวิตที่ดี มีครอบครัวที่ดี
เพราะงั้นผมจะถือวิสาสะ ตัดสินคนอื่นโดยคิดว่ามันน่าจะมีตัวเลือกที่ดีกว่านี้ จะผิดจะถูกมันไม่มีใครรู้อนาคต
การเสียสละชีวิตเพื่ออุดมการณ์ ผมก็เห็นว่าก็มีหลายๆคนก็มีความหมาย และน่ายกย่อง ที่สำคัญ การเมืองก็มีทั้งคนดีและไม่ดี และบางคนใช้ประโยชน์จากอุดมการณ์นี้เพื่อบงการคน อยากให้ระวังว่าเราเข้าใจปัญหาดีหรือยัง รู้ชัดเจนว่าสิ่งที่เราคิดอยู่บนหลักการที่ดีต่อส่วนรวมจริงๆ ทั้งในภาพใกล้ ภาพไกล ควรจะเข้าใจเกม เข้าใจทุกมิติ ไม่อยากให้ใครถูกใช้เป็นเครื่องมือ
ความหมายสำหรับชีวิตสำหรับผมมันเปลี่ยนไปตามช่วงของชีวิต ในช่วงนี้คือรักษาสิ่งที่มีอยู่ ทำให้ดีขึ้น ทำเพื่อคนรอบข้างเท่าที่จะทำได้
การส่งต่อ การส่งมอบภาพความดีงามความฝันอาจจะเป็นแรงบันดาลใจของคุณ ต่อการตัดสินใจจบชีวิต
สายลมกับดอกไม้ มันลึกมากกก ชอบๆๆๆๆ ไม่เคยมองแง่นี้เลย เอามาอีกค่ะ
เเนะนำซีรี่ย์แนวนี้ the good place ดีมากเลยแนะนำ
ใช่เลย คุณสืบ นาคะเสถียร เป็นการตายที่ไม่ได้ทำเพื่อตนเอง
ขอบคุณนะคะ❤
ความหมายของการมีชีวิตอยู่ของคุณคืออะไร ?
จากที่ได้ลองถอยหลังมาสักก้าว สองก้าวแล้วมองตัวเองใช้ชีวิตดูดี ๆ อีกครั้ง ก็ทำให้เห็นว่า เรานั้นกำลังมุ่งหาการมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น และหาการยอมรับจากบุคคลอื่น รวมถึงตัวเอง ทำให้สรุปได้ว่า ผมนั้นมีความหมายมากขึ้น หากได้อยู่กับเพื่อน ครอบครัว สังคม ได้รับความรัก ได้รับการยอมรับ รู้สึกมีตัวตนมากขึ้น ก็เหมือนได้มีความต่อใครบางคนบ้าง และถ้าให้มองไปถึงอนาคต ก็คงอยากจะเป็นบุคคลที่สั่งสม เพื่อสั่งสอนบุคคลอื่น ๆ เพียงเท่านี้ก็คงจะพอทำให้ชีวิตมีความหมายขึ้นมาได้บ้างครับ ❤❤
สัตว์ทุกชนิดเกิดมาเพื่อใช้ชีีวิตเป็นเดิมพัน
ยุงจะกินเลือดมันก็ยอมเสี่ยงตายเพื่อมีชีวิตต่อ เจ๋งมาก
ดีมากค่ะ ชอบฟังมากได้มุมมองที่จริงขึ้นเยอะมากเลย รออีพีต่อไปนะคะ❤❤❤❤❤❤
เร่ไม่ได้เลือกจะมาเกิด ฉะนั้นการตายายเป็นสิทธิของเรา
ความตายคือจุดเริ่มต้น😊❤❤
จิตใจกาย ไม่ใช่ตัวเราและของเรา (อนัตตา) ว่างจากตัวเรา และว่างจากของเรา (สุญญตา) ที่มีมาจากอวิชชากิเลสตัณหา จึงจะเป็นการจบชีวิตที่ประเสริฐ อันสุดยอด และหลุดพ้นจาก การเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย และรวมถึง การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป นั่นแหละน่ะขอรับ
ชอบฟังเสมอ
ภูมิใจนะครับ
ติดตามตลอดครับชอบมากๆ
ดีมากๆทุกตอนเลย
พุทธศาสนาให้คำตอบถึง เป้าหมายสูงที่สุดที่มนุษย์จะบรรลุุได้ และยิ่งกว่านั้นยังทำให้การดำรงอยู่ต่อจากนั้นเป็นคุณค่าต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
ไม่รู้ว่าจะสปอยชีวิตใครมั้ย ความกดดันต่างๆ การแคร์สังคมรอบข้าง มันจะค่อยๆ หายไป ก้าวข้ามช่วงกดดันแล้วมีชีวิตอยู่ มาให้ได้ครับ จากที่เคยต้องการพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้คนยอมรับ สุดท้ายคนเราต่างคนต่างอยู่ เงินที่เคยคิดว่าไม่พอใช้ สุดท้ายแทบไม่ได้ใช้เลย อยู่บ้านเฉย คือความสุขแล้ว อยู่เพื่อใครไม่รู้ แต่เราต้องอยู่เพื่อตัวเองนี่แหละ
ประโยชน์ของการมีชีวิตอยู่ การใช้ชีวิตต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆที่กำลังเผชิญ ง่ายบ้าง ยากบ้าง ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง สำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง อย่างน้อยคือได้เป็นข้อมูลพื้นฐานให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่คนอื่นๆที่อาจได้เห็น หรืออาจได้ยินจากการกระซิบของสายลม
เผื่อว่าเพื่อนมนุษย์ผู้ร่วมชะตากรรมเหล่านั้น นำไปหาเหตุผล ปรับแปลง ประยุกต์ใช้แก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ตามเส้นทางชีวิตที่ตนเองกำลังดำเนินอยู่ ให้ชีวิตมันง่ายขึ้น เดาว่าอย่างนั้นนะ.
หนึ่งในรายการดีๆ ครับ
เคยค่ะ เคยโทรไปตามเบอร์นั้น แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รับเลย สุดท้ายวันนั้นสิ่งยึดเราเอาไว้ได้คือศิลปินที่เราชื่นชอบเพียงแต่เขาลงรูปและเขียนว่า “ทานข้าวเย็นให้อร่อยนะ” ในวันที่เราไม่อยากอยู่อีกต่อไปแล้ว ในวันที่เรารู้สึกว่ามันยากเหลือเกินในการอยู่ต่อไป
เคยได้ยินมาว่าหาหมอก็ช่วยได้เยอะนะครับ
ดีใจที่ได้ฟังเสียงน้องอีกครั้ง
พิธีกรถามว่า “ความหมายในการมีชีวิตอยู่คืออะไร”
มองไปทางคู่ชีวิตพบว่า มันคือการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับญาติพี่น้อง ครอบครัว คนรอบข้าง การทำหน้าที่สร้างประโยชน์ให้กับชุมชน สังคมรอบตัว
มองไปที่หลานที่อยู่ในวัยเรียนพบว่า มันคือการเรียนรู้ และการเติบโต ความแข็งแรงทางร่างกาย ความรู้สติปัญญาที่เพิ่มขึ้น การพัฒนาความสามารถต่างๆ การได้เป็นส่วนหนึ่งของเพื่อนๆ ในโรงเรียน
มองไปที่อาที่บวชเป็นพระมานานหลายสิบพรรษา คิดว่าความหมายของชีวิตของท่านคือการปฏิบัติตนเพื่อความหลุดพ้นจากความทุกข์
มองไปที่พ่อตา ผู้ซึ่งเคยเป็นนักการเมืองท้องถิ่น พบว่ามันคือ การทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น การมีส่วนร่วมในสังคม การช่วยเหลือผู้อื่นให้มีชีวิตที่ดีขึ้น การได้รับการยกย่อง การยอมรับนับถือ การที่รู้สึกว่าคนอื่นให้ความสำคัญต่อตนเองในเรื่องต่างๆ
มองไปที่ตัวเอง … คือความรับผิดชอบต่อครอบครัว สามารถดูแลให้คนในครอบครัวให้อยู่ได้แม้ในวันที่ไม่มีเรา การส่งเสริมสนับสนุนให้สังคมดีขี้นทั้งทางตรงทางอ้อม การที่ตนเองเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เข้าใจเรื่องต่างๆ อย่างหลากหลายและลึกซึ้ง การพัฒนาตนเองทั้งทางด้านความสามารถและพัฒนาด้านความคิดและจิตวิญญาณ การที่ยังรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าต่อผู้อื่น
ตอนนี้คือสุดมากกอธิบายเข้าใจง่ายสุดๆ
หัวข้อนี้สมกับความคิดตะวันออก😮😮 ตรูไม่รับผิดชอบอยู่รึไปเอาเลยถ้าอยู่ชั้นก็แค่เหนื่อย😏เต็มๆสองหู😏(ลูกหลานสังคมสบายใจ+เราคนดีเว้ย)
เมื่อมีกฏหมายรับรองการจบชีวิต เงื่อนไขการรับประกันชีวิตของบริษัทประกัน น่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยน
ดีใจที่มีภาพบุ้ง แต่คำถามที่ว่า บุ้งเสียชีวิตได้อย่างไรนั้น รับยังไม่ให้คำตอบกับญาติและเพื่อนเขาเลย ยังคงเป็นปริศนากับการตายของบุ้ง
ผู้ที่อยากลาออกไปจากชีวิต โดยมากมาจากคุณค่าในตัวเองที่ลดลง ทั้งที่ความจริงอาจจะใช่หรือไม่ก็ได้ สิ่งที่น่ากลัวในความเข้าใจของผม เริ่มเกิดขึ้นในเด็ก พ่อแม่ที่เลี้ยงดูดีเกินไป ไม่รู้สึกถึงสิ่งที่ขาด จนเด็ก ๆ เหล่านั้น มองไม่เห็นความหมายของความพยายาม ..
ถ้าเป็นผู้ใหญ่ ประสบการณ์อาจจะช่วยได้บ้าง แต่ในเด็กที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน คือสิ่งที่ต้องระวัง ในสังคม ..
25:00 การยืนยันความคิดตัวเองโดยใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน
ยมบาลใจเย็น ช่วงนี้ขึ้นฟีดไม่พักเลยน๊าา
อยากให้พูดเกี่ยวกับ Absurdism ด้วยค่ะ
ลูกพรี่ กามูว์ สุดเท่
ปรัชญา แห่งความสำคัญ การให้ความสำคัญ มีไหมครับ
นั้นสิครับ เราคงเกิดมาเพื่อดูแลคนอื่นละมั้ง
.
.
.
.
.
เราเกิดมาก็ถูกหล่อหลอมมาตลอดการมีชีวิตจนเกิดนิสัย ความคิด และสร้างเรื่องราวของตัวเอง
แต่ก็ไม่เข้าใจความตายเลย
ผมคิดว่าเราคือธรรมชาติ เราจะหายไปจริงๆถ้าตาย แต่ก็มีชีวิตใหม่ที่ไม่ใช่เราเกิดขึ้นมา
อยากเห็นผีจัง
มนุษย์เราเกิดมาเพื่อเผชิญกับความท้าทายให้ได้ทุกรูปแบบ..
จริงๆอีพีนี้สุ่มเสี่ยงมาก ชอบการตั้งชื่อคลิปแบบอ้อมๆ กับสิบห้านาทีสุดท้ายที่ตบกลับเข้าแนวคิดของสังคม 5555
เป็นอยู่วันๆหนึ่ง กับ ความสนใจรอบตัว แปรผันต่อ การทำอะไรๆออกไป ของตน ซึ่งสำคัญขนาดไหนเชียว เมื่อ สิ่งหนึ่งในรอบข้างนั้น คือ ความหมายว่า เช่นกันกับตน หรือ ? อยากตาย ที่เป็นผลที่ได้จาก วันๆหนึ่งนี้ อย่างไรเชียว ต่อกัน หรือ ? ต้องตาย ของตน ที่สำคัญขนาด ว่า ต่อกันนั้น ไม่ได้มีแค่เราในเหตุผล หรือ ? ตายไปแล้ว กับการบอกว่า ถ้า ฟื้นมาได้ เจอ แบบนั้น อย่างนั้น ของเค้า ของใคร ที่เราเอง ก็สบายพอสำหรับ วันๆหนึ่ง ที่มีแต่ปัญหาง่ายๆ โง่ๆ มาให้ปล่อยวาง 😅🥹🤣🤣❤️✌️
ผมก็คิดและเคยคิด เราน่าจะเลือกได้
ป้องกันพวกฆ่าตัวตายหนีความรับผิดชอบ เช่น หนีหนี้
😊🙏❤️
❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤🎉
อีพีนี้ดีมากกก แต่ทริกเกอนะคะคนhigh risk for suicide ไม่ควรฟังค่ะ
เช้ามาเมาหามรุ่งหามค่ำ เปิดเกราะไว้ก่อนจะได้ไม่เจ็บ
ในคลิปเปรียบเทียบความตายได้น่าสนใจว่า ถ้าพนักงานคนหนึ่ง ทำทุกอย่างจนพบว่าตัวเองไม่สามารถสร้างประโยชน์ให้บริษัทแล้ว จึงเลือกลาออก ผิดไหม บางคนอาจชื่นชมด้วยซ้ำเพราะซื่อสัตย์กับตัวเอง
เช่นกัน ถ้าหากใครคนหนึ่งปีนเขาทุกลูกในชีวิตที่ต้องการมาหมดแล้ว จนถึงลูกสุดท้าย เขาไม่เลือกเดินลง แต่ตั้งใจกระโดดลงเพื่อจบการเดินทางอันยาวนาน อันนี้เขาผิดไหมครับ เพราะดูเหมือนว่านักเดินทางคนนั้นกำลังครุ่นคิดอยู่ที่ขอบเหวครับ
เป็นคำถามที่น่าสนใจมากครับ ผมคิดว่าผิดไหมอาจจะต้องกลับมาตั้งต้นว่าเรากำลังคุยเรื่องนี้บนฐานคิดเรื่องไหน ถ้าในมุมมองของรัฐและศาสนา ก็คงผิดไม่ว่าอย่างไร เว้นแต่การตัดสินใจยุติเส้นทางนั้นเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่นักเดินทางเจ็บปวดทางกายใจอย่างแสนสาหัส แต่ถ้าเป็นฮิวม์ คำตอบคงเป็นทำนองว่า มีแต่ตัวนักเดินทางคนนั้นเองที่ตอบได้ เขาต้องทบทวนตัวเองว่าตนมีหน้าที่อะไรต่อตัวเองบ้าง และการตัดสินใจจบการเดินทางอันยาวนานนั้นละเมิดหน้าที่อะไรที่เขามีต่อตัวเองหรือไม่ ถ้าเราทำหน้าที่ต่อตนเองหมดแล้วและทำได้เป็นอย่างดี ก็คงไม่มีอะไรในการตัดสินใจนั้นที่ผิดเลย
เป็นกำลังใจให้นักเดินทางคนนั้น ขอให้หาคำตอบที่เหมาะสมที่สุดได้สักวันหนึ่งนะครับ 🙂
ติดตามพี่ภาคินทางไหนได้บ้างครับ
เพื่อจะได้ซื้อของชิ้นต่อไป >_
ขอบคุณที่สื่อสารเรื่องนี้ได้ดีครับ
แต่สุดท้าย ตอนนี้ก็ไม่น่าจะมีสิทธิ์เลือกนะ
แสดงว่าคุณคล้ายผม😢แล้วตรูจะรู้ไหมว่าช่วงไหนคือข้อสอบให้กา แล้วตอนนี้หนังของผมถึงช่วงท้าย😢พึ่งให้ตาสว่าง😢😢
เค้าก็ให้เลือกครับ😢😢แต่ไม่สวยงามเท่าไหร่ ทำใจ,ทน,ท้อแท้😭😭
ผมมองว่า เพราะมีconcept ของการ ฆตต. นั้น ทำให้ผม เลือกที่จะยังไม่จบชีวิต เพียงเพราะเรารู้ว่ามีทางเลือกที่จะจบชีวิตเสมอ
พบว่ายากเสมอต่อการอดทนให้ชีวิตยืนยาว ณ ปัจจุบัน ดูสถิติการตายต่อวันทั่วโลกและในไทย มีอัตราหนึ่งที่คอยช่วยเหลือเราให้ประมาทไปทางจบเสมอ การแข่งขันกันเอาเป็นเอาตายเพื่อมีชีวิตที่ดีขึ้นกับทรุดหนักร่างกายเสื่อมโทรม
47:34 ในส่วนนี้ไม่มีในระบบราชการ ระบบนี้มีแต่ฉุดรั้งการพัฒนาไปข้างหน้า(ชวนจินตนาการดูแบบว่าจรวดจะพุ่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศเพื่อให้พ้นแรงดึงดูดของโลกแต่น้ำหนักมันเกินไป) นั่นล่ะครับ!
ผมจะไม่ตายจนกว่าจะได้เห็น จักรวรรดิ์ โรมัน กลับมาผงาดอีกครั้ง!
ความตลกร้ายของแนวคิดแบบอรรถนิยมคือ คนที่ ฆตต ส่วนใหญ่ มักจะไม่มี social support เจ้าตัวอยู่แล้ว
และในเมื่อทั้งเราและสังคมต่างมีไดนามิกซึ่งกันและกัน แต่แนวคิดนี้กลับมาบอกให้คำนึงถึง ความทุกข์ของสังคม ของคนรอบข้าง
ถ้าเปรียบเทียบแบบสุดโต่งหน่อยคือ เหมือนบอกเด็กที่โดนบุลลี่ที่โรงเรียนทุกวันว่า "อย่าตายนะ เดี๋ยวคนที่รังแกเสียใจ เดี๋ยวคนที่อิกนอรอบ ๆ ตัวเธอเสียใจ" เหอะ ๆ
👍
สมมติผมจะพูดโดยละเรื่องปรัชญาความหมายชีวิตไปเลย(อ้าว) ถ้ามองในแง่มุมของผู้ปกครองการที่คนจบชีวิตลง เสียประชากรก็เหมือนการสูญเสียทรัพยากร ไม่ว่าในแง่รัฐจารีตหรือรัฐสมัยใหม่ การสูญเสียประชากรไปก็เป็นผลเสียต่อเมืองทั้งนั้น ไม่ว่าแบบจากเป็น(อยู่ไม่ได้แล้วชั้นย้ายประเทศ) หรือจากตาย
ทีนี้ผมตั้งคำถามว่า ถ้าผู้มีอำนาจของสังคมเห็นถึงข้อเสียของการเสียทรัพยากรคนไป เป็นไปได้ไหมว่า การที่ศาสนาหรือปรัชญาบางกลุ่มรวมถึงกฎหมายบางรัฐเลือกให้ความหมายหรือคุณค่าของการขอจบชีวิตตนเองไปในแง่ที่ไม่ดีหรือไม่
และในคำถามที่สอง ศาสนาหรือกฎนั้น ถูกออกมาเพื่อ support การรวมกลุ่มของสังคมมากกว่าการเป็นกฎแห่งธรรมชาติหรือไม่
"รู้ว่าอาหารมีพิษ กินแล้วต้องตายแน่นอน แต่ก็ยังกิน"
ให้ทายว่า ผมพูดถึงใคร?
ใครๆก็ชอบหนังโรแมนติก แต่ คนดูเค้าคงเบื่อ ธรรมดาซีรีย์จึงมีหลายแบบ😅 ครับนอกจากการช่วยงานวิจัย มนุษย์ยังให้สุนทรีย์ แล้วอิสระคือ?ผลของการกระทำคือ?แล้วก็มาเฉลยให้รู้ช่วงท้าย อ้าว..อิสระที่ให้ เฮียเอ้ย มันข้อสุดท้าย...เลือกดิเด็กโง่😢ปลงแบบเจ็บๆ/เจ็บแต่ทน/เจ็บโว้ยพาลโว้ยสาดดดดด(หนังผมเอง)😭😭😭😭
ไม่รู้ใครตอบแทนผมนะครับ
ไม่มีการจาก
น้องฟางเป็นผู้หญิงไม่สวย ที่สามารถนั่งมองได้ทั้งวันโดยไม่เบื่อ
นั่นก็แปลว่าสวยสำหรับคุณแล้วหรือเปล่าครับ
จริงๆ ยกตัวอย่างบุ้งก็ได้นะครับ มหาตมะ คานธีไม่ได้อดอาหารจนตาย
นึกถึงหนังเรื่อง age of adaline เกี่ยวกับผู้หญิงคนนึงประสบอุบัติเหตุทำให้เธอไม่มีวันแก่ เธอต้องเฝ้ามองคนที่เธอรักรอบข้างร่วมถึงลูกเธอค่อยๆทยอยจากไป และก็ไม่กล้าจะอยากรู้จักใครคนใหม่ๆเพราะรู้อยู่ดีว่าวันหนึ่งเธอก็ต้องเสียใจเมื่อเห็นเขาจากไป เธอไม่สามารถมีความรักเพราะไม่มีใครจะแก่ไปพร้อมกับเธอได้
ความหมายในการมีชีวิตอยู่ของเราคือทำให้คนรอบข้างที่รักเรายิ้มได้
หนึ่งชีวิตสมีสองจิตมีหญิหยางมีสองเหมือนนิ้วตอน