หลวงปู่เฮง ปภาโส[พระ] พระอริยสงฆ์เกจิ จ.สุรินทร์ พระเถระ พระเกจิเข้มขลัง พระสงฆ์ พระศิษย์หลวงพ่อคง
Вставка
- Опубліковано 27 січ 2023
- #หลวงปู่เฮง ปภาโส[พระ]#พระอริยสงฆ์พระเกจิชื่อดังของ จ.สุรินทร์#พระเถระมากด้วยบารมี พุทธาคมและพลังจิต#พระเกจิอาจารย์ที่มีวิทยาคมเข้มขลัง#พระสงฆ์ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ#พระศิษย์เอกหลวงพ่อคง สุวัณโณ#ปัจจุบันสิริอายุ 95 ปี(ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2565)
=====================
ติดตามช่อง ทศพล ดำเนินผล Channel คลิปดีฯเพื่อคุณ
: / ทศพลดําเนินผล
=====================
หลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม หรือ)วัดบ้านด่านช่องจอม) บ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พระเกจิชื่อดัง เป็นศิษย์สืบทอดพุทธาคมหลวงพ่อคง สุวัณโณ หรือพระครูอาคมวิสุทธิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังสรรพรส อ.ขลุง จ.จันทบุรี สมญานามว่า"เทพเจ้าแห่งเขาสมิง" อดีตพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดรูปหนึ่ง ของภาคตะวันออกเป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยกับหลวงปู่ทิม อิสริโก หรือพระครูภาวนาภิรัต"เทพเจ้าแห่งตะวันออก" อดีตเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ จ.ระยอง
หลวงปู่เฮง ปภาโส กลายเป็นศิษย์เอกแห่งหลวงพ่อคง สุวัณโณ นับตั้งแต่พ.ศ. 2519 ท่านยังคงใช้ชีวิตเรียบง่าย ด้วยปฏิปทาอันงดงาม ยังความนับถือศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชนทั่วทั้งประเทศ จวบจนปัจจุบัน
หลวงปู่เฮง ปภาโส ท่านเกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2470 พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครองประเทศกัมพูชา โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท อ.เมืองจ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 7 ที่หมู่บ้านปราสาทในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติพี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะธุดงค์ไปเรื่อยๆ
ก่อนที่จะไปบอกกับโยมแม่ของหลวงปู่เฮง ว่า"โยมอาฉันอยากจะขอให้น้องไปด้วย โยมอาจะว่าอย่างไร ฉันจะได้สอนให้น้องได้หัดเรียนเขียนอ่าน จะได้รู้หนังสือ" ทำให้ได้ศึกษาอักษรของศาสตร์วิชาแขนงต่างๆตั้งแต่บัดนั้นมา
หลังจากนั้นก็ออกเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาตามแนวเขตชายแดนกัมพูชา เจอลานหินใหญ่ๆท่านก็พาหยุดพักค้างคืน แต่ก่อนที่จะนอนพระอาจารย์เฉิด จะเดินรอบๆลานหินก่อน 3 รอบ และขีดเป็นวงกลมให้นั่งให้นอนอยู่บริเวณที่ขีดไว้ ห้ามออกนอกพื้นที่ เจอที่พักท่านจะทำแบบนี้เป็นประจำทุกครั้ง ท่านจะสอนให้เขียนอ่านภาษาขอมภาษาบาลี ท่านสอนอะไรมาหลวงปู่เฮง ก็เข้าใจง่าย
ระยะเวลาที่เดินธุดงค์ไปกลับพระอาจารย์เฉิด ทำให้หลวงปู่เฮงแปลกใจอยู่หลายเรื่องแต่ก็ไม่กล้าถาม
มีอยู่วันหนึ่งท่านบอกให้นั่งหลับตาหลวงปู่เฮงก็นั่งหลับตาตามที่ท่านบอก สักพักหลวงปู่เฮง ก็แอบลืมตาดูท่านแต่ก็ไม่เห็นท่านนั่งอยู่เลย เห็นแต่เสือแต่ช้างเดินอยู่ข้างลานหินเต็มไปหมด หลวงปู่เฮงก็กลัวเลยหลับตาต่อ ลืมตาอีกครั้งก็เห็นท่านนั่งอยู่ที่เดิม
แปลกใจจริงๆเวลาฝนตกเหมือนกัน แปลกใจทำไมไม่เปียกนั่งอยู่ที่ลานหินที่พักไม่มีอะไรบังแดดบังฝนเลย ฝนตกก็แรง น้ำไหลเต็มไปหมด ท่านก็ไม่เปียกหลวงปู่เฮงก็ไม่เปียก อัศจรรย์จริงๆ
ตอนเช้าก็เหมือนกันไม่รู้ไปบิณฑบาตเอาข้าวเอาน้ำมาจากไหน ตอนเดินธุดงค์ก็ไม่เคยเดินผ่านหมู่บ้านเลยสักหลัง เวลากินข้าวท่านจะให้กินวันละ 7 คำเท่านั้น แต่ก่อนจะกินท่านจะเสกให้ทุกครั้ง แล้วก็ออกเดินทางต่อทั้งวันไม่รู้สึกหิวเลย เวลานอนก็เหมือนกัน เสื่อไม่มีปูนอน ผ้าก็ไม่มีห่ม แต่ก็ไม่มียุงกัด หนาวก็ไม่หนาวร้อนก็ไม่ร้อน
ตลอดระยะเวลาที่เดินธุดงค์อยู่ในป่ากับท่านนานถึง 14 เดือน ได้รู้ได้เห็นอะไรหลายอย่างที่ท่านได้สั่งสอนอักจระ จนแตกฉานทุกตัว
ท่านก็กลับพามาส่งที่ประเทศไทยแล้วท่านก็เดินทางกลับประเทศกัมพูชา
พออายุครบ 21 ปี ก็ไปเป็นทหารอยู่ที่ลพบุรี ที่กรมทหารม้าลพบุรีหลังจากปลดประจำการเป็นทหารตอนนั้นก็ได้เริ่มออกเที่ยวไปในหลายจังหวัดหลายอำเภอ เที่ยวไปเที่ยวมาก็กลายเป็นเสือเป็นนักเลง ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้รับอันตรายเลย
จากนั้นในปีพ.ศ. 2492 ก็ได้เดินทางหลบไปอยู่ประเทศกัมพูชา 3 ปี และในปีพ.ศ. 2495 ได้กลับมา จ.จันทบุรี อยู่ระยะหนึ่งก็บวชอยู่กับหลวงพ่อคง สุวัณโณที่วัดวังสรรพรส อ.ขลุง จ.จันทบุรี ตอนที่จำพรรษาอยู่ที่วัดวังสรรพรส ท่านให้หลวงปู่เฮง เป็นผู้จานอักขระวัตถุมงคลที่ท่านสร้าง ท่านจะเขียนเป็นภาษาไทยมาให้ หลวงปู่เฮง ก็จะจารเป็นภาษาขอมให้ท่านเพราะว่าตอนนั้นท่านยังไม่เก่งภาษาขอม
พ.ศ. 2532 หลวงพ่อคง มรณภาพหลวงปู่เฮง จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดวังสรรพรส แทนจำพรรษาอยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันหลวงปู่เฮง ปภาโส เป็นเจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมารามหรือ(วัดบ้านด่านช่องจอม)เมื่อปีพ.ศ. 2549 การศึกษาทางโลกจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ทางธรรมได้นักธรรมเอกเปรียญธรรม 5 ประโยค สิริอายุวัฒนมงคลครบ 95 ปีในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2565) ที่ผ่านมานี้
#เปิดบันทึกตำนานหลวงปู่เฮง ปภาโส พระวัดพัฒนาธรรมมาราม(วัดบ้านด่านพัฒนาช่องจอม)
#ประวัติความเป็นมาหลวงปู่เฮง ปภาโส
#ประวัติปฏิปทาหลวงปู่เฮง ปภาโส
#ประสบการณ์ธุดงค์หลวงปู่เฮง ปภาโส
#ทศพล ดำเนินผล
สาธุ เฮงๆๆๆรวยๆๆๆ🎉🎉🎉ครับ
นับถือมากๆ ผ่านประสบการมา.ดีจริงๆ
สาธุๆ หลวงปู่เฮงหูนใด้ไปกราบท่านก่อนจะเดินทางมาต่างประเทศ เมือสามปีทีแสว สาธุ สาธุๆค่ะ🙏
สาธุครับ
สาธุ
ขอพระอาจารย์บุญเรือน อธิปัญโญ วัดหนองเข้ อุทัยธานีด้วยครับ
@Akarin Lava
" ขอบคุณครับ คุณAkarin ที่แนะนำพระอาจารย์บุญเรือน อธิปัญโญ วัดหนองเข้ จ.อุทัยธานี ให้นะครับ "
สาธุคับ
น้อมกราบสาธุ.สาธุ.สาธุ.ค่ะ
ผมกำลังตามหาพระเครื่องของหลวงพ่อยู่เลยครับ
สาธุครับ ขอบคุณอาจารย์ มากครับ
กราบนมัสการหลวงปู่เฮงครับสาธุสาธุสาธุ
อยากทราบว่าวัตถุมงคลท่านบางรุ่นทำมัยเป็นวัดสะตอน้อย อ.ขลุง จ.จันทบุรีครับ
@คุณAaAa
" เดิมทีหลวงปู่เฮง ปภาโส ท่านเคยอยู่วัดสะตอน้อยอ.ขลุง จ.จันทบุรี(สมัยหนุ่มๆ )จึงมีวัตถุมงคลในนามวัดสะตอน้อย ถึงแม้ว่าปัจจุบันท่านจะอยู่วัดบ้านด่านช่องจอม วัดสะตอน้อย เป็นเหมือนวัดสาขาของท่าน ที่ท่านอุปถัมภ์อยู่ ในปัจจุบันท่านอายุมากแล้ว หากทางวัดสะตอน้อยต้องการจะจัดสร้างวัตถุมงคล ท่านก็ให้มาปลุกเสกที่วัดบ้านด่านช่องจอม ปีหนึ่งท่านจะอนุญาตให้สร้างได้ประมาณ 3-4 รุ่นเท่านั้น ครับ "
วัดสะตอน้อยเป็นวัด3เกจิ3ยุคหลวงพ่ออำ่ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อคงวัดวังสรรพรสเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกหลวงปู่เฮงท่านก็ได้บวชเรียนเป็นศิษย์ของกลวงพ่อคงวัดวังสรรพรสอีกทีหลังจากท่านพ่อคงมรณะภาพหลวงปู่เฮงก็อย็วัดวังได้ระยะหนึ่งจึงมาเป็นเจ้าอาวาสวัดสะตอน้อย และได้้ร่ำเรียนตำราโบราณที่หลวงพ่ออ่ำเก็บใว้ตำรานี้คนที่ไม่บุญบารมีจับไม่ได้เคยมีคนจับหลายครั้งล้วนแต่ชักตาตั้งกันทุกรายแต่หลวงปู่เฮงท่านจับและศึกษาตำราโบราณนั้นได้ระหว่างที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดสะตอน้อยนั้นหลวงปู่ท่านชอบขึ้นไปยในป่าบนเขาหลังวัดสมัยนั้นวัดสะตอน้อยไม่ค่อยมีพระสงฆ์จำวัดมีหลวงปู่เพียงองค์เดียวชาวบ้านไปหาก็ไม่ค่อยเจอทำให้ชาวบ้านบางส่วนมีอัคติกับท่านว่าไม่ค่อยดูแลวัดแต่คนที่รู้ว่าท่านอยู่ไหนก็จะเดินขึ้นป่าหลังวัดไปพบท่านได้จึงมีทั้งคนที่เคารพศรัทธาและกลุ่มคนที่ไม่เข้าใจส่วนนึงหลวงปู่ท่านก็สละตำเเหน่งเจ้าอาวาสและกลับไปบ้านเกิดท่านกลับไปบ้านเกิดและกลับมาจำพรรษาที่วัดสะตอน้อยอีกครั้งต้นปี2558ถึงปี2559จากนั้นชาวบ้านวัดด่านช่องจอมได้มานิมนต์หลวงปู่กลับไปจนถึงปัจจุบันนี้
สาธุ
สาธุครับ
สาธุครับ