ใจจริงอยากเห็น Live action เรื่อง The princess and the frog เพราะเป็นการ์ตูนในดวงใจที่นางเอกเป็นคนธรรมดา มีความฝัน ความพยายาม และชอบในการเล่าเรื่อง ซึ่งในเรื่องคนผิวสีเป็นตัวหลัก สามารถกระจายบทบาทได้แบบไม่ต้องยัดเยียดเลย ชอบที่คุณวิเคราะห์และสื่อสารชัดเจนตามประเด็นที่ต้องการจะสื่อ มีเหตุผลที่ ส่งเสริมคำอธิบาย คุณทำได้ดีแล้ว พัฒนาต่อไปให้ดีขึ้นเรื่อยๆนะคะ❤
เห็นด้วยค่ะ Aladdinดีสุด ยิ่งฉาก Prince Ali ยกขบวนมานี่เหมีอนanimationเลย Beauty & the beast ก็พอได้ Cinderella ก็โอเคนะ หน้าไม่เหมือนแต่จริตเป็นเจ้าหญิงDisneyมากๆ
ก็แค่ทีมงานของ Disney มองคนละมุมกับคนดูมันก็แค่นั้น พบกันครึ้งทางกับแฟนๆก็ไม่เคยมีDisneyจะทำไปสุดทางของตัวเองอย่างเดียวแล้วจะมาเรียกร้องอะไรกับแฟนๆทุกคนดูหนังก็อยากเห็นในสิ่งที่ตัวเองอยากเห็นเมื่อผู้สร้างไปทำตรงกันข้ามเขาไม่อยากดูก็สิทธิของคนดูคุณจะมาบอกว่าทำไมไม่เปิดรับก็เมื่อดูตัวอย่างโปรโมทแล้วมันไม่ใช้เหมือนศิลปินร้องเพลงโปรโมทแล้วเราไม่ชอบเราก็ไม่ชื้ออัลบั้มชุดนี้ของศิลปินคนนั้นมาฟังก้แค่นั้นง่ายๆ
ที่จริงเรื่องมู่หลานต้องเป็นหนังไลฟ์แอคชั่นแรงผลักดันมากกว่าเรื่องอื่น เพราะเป็นวีรสตรีคนธรรมดาสู่แม่ทัพได้ แต่ทางทีมงานกลับใส่เฟมมินิสต์มากเกินไปจนด้อยค่าเพศสภาพอื่น ๆ และใส่ตัวละครดรอปไปเลย ทำให้กลับกลายเป็นว่าหนังไลฟ์แอคชั่นเรื่องอื่น เช่น อะลาดิน แสดงความปมในใจ แบกภาระ และการเมือง , อลิส เป็นต้น เป็นแรงผลักดันแทน
สปอยทีค่ะ นี้เลิกดูตั้งแต่บอกว่าไม่มีมังกรกับแม่ทัพ
นี่เห็นต่างแฮะ การที่หนังให้มู่หลานมีพลังตั้งแต่เกิดถึงจะได้การยกย่องแต่ขณะเดียวกันผู้หญิงธรรมดาแบบน้องสาวต้องทำตามขนบอย่างแต่งงานเป็นแม่บ้านมันไม่เฟมินิสต์ มันไม่ใช่การแตะประเด็นความเท่าเทียมอะไรเลย มันโฟกัสที่กำลังภายในแฟนตาซีจนกลบแมสเสจดีๆจากการ์ตูน คนดูไม่ได้อะไรเลยทั้งความสนุกกับประเด็นสังคมนอกจากถ้าคุณไม่มีลมปราณแบบมู่หลานก็กลายเป็นทหาร abc โดนมู่หลานตบต่อไป
@@namelastname3653 นอกจากลบตลค.บางตัวก็มีเพิ่มตลค.อย่างเช่นน้องสาว แม่มดฝั่งศัตรูที่โดนกดขี่แต่ต้องอยู่แบบจำใจ และหงส์แดงในตำนานจีนค่ะ ซึ่งหงส์แดงแทบไม่จำเป็น นอกจากเป็น GPS แป๊บๆก็เหมือนมู่หลานเมาแดดอ่ะ
สปอย
.
.
หนังเพิ่มให้มู่หลานมีพลังแต่เกิดแต่พ่อแม่ให้ปกปิดเพราะกลัวหาสามีไม่ได้(ซึ่งสุดท้ายตอนไปหาแม่สื่อก็โดนไล่ตะเพิดออกมา) ฉากต่อจากนั้นก็คล้ายๆเดิมค่ะแต่น่าเบื่อขึ้นมากกกกกก พาร์ทการฝึกฝนมู่หลานดูจะแทบไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลยเพราะมีลมปราณ ฉากต่อสู้กับกองทัพหรือไปช่วยฮ่องเต้อย่าหวังเห็นมู่หลานโชว์ความฉลาดอย่างพวกยิงภูเขาให้กองหิมะถล่มทัพศัตรูตุย มันเปลี่ยนให้เป็นฉากบู๊ที่เจอได้ตามหนังจีนทั่วไปอ่ะค่ะ ช่วงที่กองทัพรู้ว่ามู่หลานเป็นผญ.แล้วทิ้งแม่มดก็เข้ามาขายตรงให้เป็นพวกแต่มู่ไม่เอา พอชีไปช่วยฮ่องเต้แล้วจะพลาดท่าแม่มดก็ตัดสินใจช่วยมู่โดยบินไปรับธนูแทนตาย(ชีมีพลังนะ ตายง่ายเกิน)ตอนจบปฏิเสธรางวัลเอวี่ติงจากฮ่องเต้เพราะอยากกลับบ้าน บอกลาพระเอก(มั้ง)คนใหม่ตรงสะพาน ถึงบ้านน้องสาววิ่งมาบอกว่าหาผัวได้ พ่อแม่ภูมิใจ ทหารบกทัพเอาดาบมาให้และเหมือนจะขายตรงให้มาทำงานด้วยอีกรอบ ตรงนี้เราจำไม่ค่อยได้ จบ
ทั้งนี้ทั้งนั้นเราแนะนำว่าอย่าดูเลย555 คือตัดเรื่องบิดสารจากต้นฉบับกับหลิวอี้เฟยเป็นโปรจีนเรื่องมันไม่สนุกและฉากไหนก็ไม่ทำให้มีอารมณ์ร่วมเลยไม่ว่าจะฉากเศร้าดีใจฮึกเหิม
อีกปัญหาคือ มันเป็นจีนที่ฝรั่งทำ มันไม่มีกลิ่นอายของความจีนจริงๆเลย
และขนบต่างๆมันไม่เมคเซนส์เท่าการ์ตูน
เฟมมินิสต์ยังไม่ชอบเลย ตั้งแต่เอานกมาเปลี่ยนกับมังกรละ เหมือนยัดเยียดว่าผู้หญิงต้องคู่กับนกฟีินิกส์
ชอบการวิเคราะห์มากเลยครับ ผมรู้สึกว่าคุณไม่ได้เกลียดดิสนีย์เลย เพราะหาข้อมูลมารองรับมาอธิบายให้คนดูเข้าใจได้จริง ๆ ไม่ได้แสดงความเห็นในแง่ลบอย่างเดียว
ผมเองก็ไม่เคยดูมู่หลาน แต่พอได้ฟังบทวิเคราะห์นี้แล้ว รู้สึก เอ้อ! นี่สิ ตัวละครที่ไม่ได้สอนเพียงเรื่องแบ่งแยกชาย-หญิง แต่ยังมุ่งเน้นสอนไปที่ความเพียรพยายาม ซึ่งนอกจากเรื่องเพศสภาพแล้ว มันยัง realate กับคนดูทุกคนได้ด้วยว่า แม้เราจะยังเก่งไม่เท่าคนอื่น แต่ถ้าเราพยายาม เราต้องเก่งเทียบเท่าพวกเขาในสักวันแน่นอน
ส่วนเรื่องวิเคราะห์เรื่อง Character Development ก็ดีมากเลยครับ คนดูไม่ได้ต้องการดูคนเก่ง คนเทพ แต่ต้องการดูว่าตัวละครจะมีพัฒนาการอย่างไร ทำให้หนังสมัยนี้ที่ปูมาเก่งเทพเพอร์เฟคตั้งแต่แรกโดยไม่มีพัฒนาการนั้นน่าเบื่อมาก ๆ หวังว่าดิสนีย์จะกลับไปเป็นยุคทองเหมือนเมื่อก่อนครับ
ติดนิดนึงครับ คำว่าคนผิวสีกับคน African amrican ใช้คำว่าคนผิวดำได้เลยครับ เพราะมันไม่ใช่คำเหยียด และเป็นคำที่ยอมรับอย่างเป็นทางการแล้วครับผม
อย่างฝรั่งก็ใช้คำว่า Black people ไปเลยเหมือนกันครับ ถ้าคนผิวสีจะเป็นผิวลาติน หรือประมาณผิวคล้ำลงมาหน่อยแบบบ้านเรานี่แหละครับ
ขอบคุณมากเลยครับ ❤️
ลลิล
ใจจริงอยากเห็น Live action เรื่อง The princess and the frog เพราะเป็นการ์ตูนในดวงใจที่นางเอกเป็นคนธรรมดา มีความฝัน ความพยายาม และชอบในการเล่าเรื่อง ซึ่งในเรื่องคนผิวสีเป็นตัวหลัก สามารถกระจายบทบาทได้แบบไม่ต้องยัดเยียดเลย ชอบที่คุณวิเคราะห์และสื่อสารชัดเจนตามประเด็นที่ต้องการจะสื่อ มีเหตุผลที่ ส่งเสริมคำอธิบาย คุณทำได้ดีแล้ว พัฒนาต่อไปให้ดีขึ้นเรื่อยๆนะคะ❤
เราเองก็ชอบ princess and the frog มากเลย แต่เราก็ยังจินตนาการไม่อออกจริงๆว่า จะทำCGยังไงให้คนกลัวกบน้อยที่สุดและภาพก็ยังต้องสวยด้วย 😂😂 ถ้าเป็น
2Dคือมันพอจะลดทอนให้เป็นการ์ตูนน่ารักๆได้ แต่พอคิดจะCG เรียลๆแค่คิดก็กลัวแล้วค่ะ 55555
@@KurochiAyaAmnesia ก็จริงค่ะ พอดูจากผองเพื่อนแอเรียลแล้ว จะสร้างกบน้อยให้ออกมาดีคงต้องใช้เวลา ไหนจะจระเข้ กับหิ่งห้อยอีก นึกภาพละคือแบบ นะ🥲😂
@@KurochiAyaAmnesia ต้องทำแบบโซนิคค่ะ อย่างน้อยก็เพิ่มความการ์ตูนขึ้นมา เราเห็นฟลาวเดอร์แล้วรับไม่ได้
ภาพจำมันมี หลายๆคนเติบโตมากับการ์ตูนดิสนีย์ แต่พอมาเป็น Live Action หลายๆเรื่องทำลายภาพจำลงในพริบตา มู่หลานมีซีนเพลงหลัก เงา มีมูซู เอาออกหมด ใครจะดูอ่ะ เมอร์เมด ภาพจำ ผู้หญิงผมแดงสลวย (เอาจริงขาวไม่ขาวไม่ติดนะแต่คงความแบบเดิมนี้ไว้หน่อย) ลองเอาเทียน่ามาผิวขาวคนก็ด่า เพราะสุดท้ายเทียน่าคือสาวผิวดำเท่านั้น ไม่เริ่ด ดูการ์ตูนแบบเดิม จบ.
การบรรยาย น้ำเสียง อินเนอร์ บวกการสรุปประเด็นที่ต้องการสื่อสาร ให้ผู้ดูคลิป สามารถเข้าใจง่าย เห็นภาพตาม ได้อย่างมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากช่องอื่น ขอชื่นชม และเป็นกำลังใจให้ทำในสิ่งที่รักต่อไปนะครับ ผมจะคอยติดตามผลงานนะครับ
ขอบคุณมากครับ ❤️
เดี๊ยวเอาคนผิวสีมาเป็นเจ้าหญิง แล้วอ้างความเท่าเทียม 🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣
เอาจริง ๆ มู่หลานคือเมสเสจดีมากตั้งแต่เวอร์ชั่นการ์ตูนแล้ว ทั้งเพลงจะสร้างนายเป็นชายแท้ที่มูหลานเป็นคนแรกที่เอาธนูลงมาได้ทั้งที่เป็นผู้หญิงเพราะมุมานะ แถมตอนช่วยฮ่องเต้ที่แก๊งเพื่อนแต่งหญิงพร้อมเพลงตอนฝึก สื่อเลยว่าที่เพลงบอกจะสร้างนายเป็นชายแท้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเพศหรือการแต่งตัว ความเป็นผู้ชาย doesn't matter with การจะทำอะไรให้สำเร็จถ้าเราพยายาม
ไหนจะตอนเดินทัพที่ร้องเพลงหญิงคนงามที่มี Dark Joke สะท้อนสังคมสมัยนั้นด้วยการที่มู่หลานถามว่าชอบผู้หญิงเก่งไหม แล้วคนอื่นตอบไม่ด้วย
หนังควรเอาเมสเสจนั้นออกมา ไม่ใช่ทำหนังกำลังภายใน เพราะในการ์ตูนมันยังไม่เว่อร์เลย
คห นี้คิดตรงใจกับเราเลย
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราชอบที่สุด แต่ทำออกมา
ตีความได้แย่มากจริงๆค่ะ 😂
@@greencatnme53 จริงค่าเห็นด้วยเลย แบบมู่หลานคือเมนเราเหมือนกันเลยค่ะ เปิดจนแผ่นไม่อ่าน ตอนแรกได้ยินเรื่องไลฟ์แอคชั้นก็ดีใจ แต่พอบอกจะเอานกฟินิกซ์มาแทนมูชู และไม่มีจิ้งหรีดคือมันไม่ใช่ สองตัวนี้มันขาดไปไม่ได้ เราเลยไม่ดูเลยทั้งในโรงและก็ในแอป พอฟังที่คนบ่นก็คือดีแล้วที่ไม่ไปดู พยายามตีตลาดชาวจีนเกินไป แย่จริง ๆ
หนังทำไม่ได้ครับ เพราะเขาตั้งใจจะขายคนจีน และคิดเอาเองว่า ถ้าทำหนังที่มีเนื้อหาแบบในการ์ตูน คนจีนจะโกรธ เพราะมองว่าคนจีนใจแคบ ล้าหลัง
และเขาคิดว่าคนจีนชอบกำลังภายในด้วย ผลเลยเละอย่างที่เห็น
จนิงเสียดายขนาดแคสนางเอกมาตรงปกมากอี้เฟยคือเป้ะแจ่ดันไม่มีมูชู
มูซูมีในหนังไม่ได้ครับ เพราะมังกร = สัญลักษณ์ของกษัตริย์ ผู้นำ จะเอามาเป็นตัวโจ้กไม่ได้ เดี๋ยวคนจีนเคือง
@@mich8757
ชอบช่องนี้มาก พูดเเต่เรื่องจริงไม่เหมือนช่องอื่นๆ เป็นกําลังใจให้คะ
วิเคราะห์ถูกใจมากครับ
เพราะดิสนีย์เคยเหยียดมาก่อน เลยแก้ตัวมาPandering เอาใจเหล่าWoke
หวังกับมู่หลานมาก พอดูปั๊ปนั่งร้องไห้แทนเลย 😢 ไม่ใช่ซึ้งแต้รำคาญตัวละครที่ตัวเองเคยรักที่สุด
มู่หลานแบบเดิมๆคือ The best จริมๆ ช่างลึกซึ้งกินใจ ตอนพ่อเดินไปรับหมายคือ โคตร touch ใจ แต่ที่ ไม่ดู live action เพราะว่า … ไม่พูดดีกว่า 🤣
ชอบที่วิเคราะห์มากค่ะ โดยเฉพาะมู่หลานกับแอเรียลสำหรับเราคือรู้สึกเหมือนเอ็งทำอะไรของเอ็ง ทั้งๆที่ต้นแบบมันดีมาก แต่ทำไมตัวใหม่ที่ทำกลับแย่ลง อย่างแอเรียลก็ยอมรับว่าติดภาพจำของตัวละครเดิม ไม่ค่อยเห็นด้วยกับแคส คือคิดว่าถ้าอยากสนับสนุนความเท่าเทียมจริง ทำไมไม่สร้างเรื่องใหม่ที่ไม่ติดภาพจำเลย หรืออย่างก็เลือกเรื่องที่คาแรกเตอร์เข้ากันกว่านี้ รู้สึกเหมืแนพยายามยัดเยียดความหลากหลายเข้ามาแล้วหาคนดูไม่ปรับตัวแทน
ประเด็นยัดเยียดนี่แอบแฝงมาด้วยความขี้เกียจ และมักง่ายในการเขียนเรื่องใหม่ๆ กลับเอาตัวละครเก่าๆมาย้อมสีเอาแบบมักง่าย
พีน็อคคิโอ เป็นการ์ตูนที่ผมชอบมากตอนเด็กๆ และมันสอนให้ผมกลัวการสูบบุหรี่และดื่มเหล้า ต้องมีความประพฤติที่ดี ไม่เกเร แต่ข้อผิดพลาดของหนัง ดันกลายมาเป็นเด็กดีตั้งแต่แรก ในหนังพีน็อคคิโอไม่เคยทำอะไรผิดเลย หนังทำมาให้พีน็อคคิโอเป็นเด็กที่ทำผิด เพราะโดนคนอื่นบังคับ สรุปพีน็อคคิโอได้เรียนรู้อะไรบ้าง?
ฉากในกรง ในต้นฉบับพีน็อคคิโอโกหกเอาตัวรอดแต่ "ไม่รู้" ว่ามันทำให้จมูกยาว พีน็อคคิโอเลยขอร้องอ้อนวอน ว่าตัวเองจะไม่โกหกอีกต่อไป แต่ในรีแมค พีน็อคคิโอ จงใจโกหก "เพื่อ" ให้จมูกยาวแล้วหนีเอาตัวรอดได้ ... แล้วไง? สรุปคือการโกหกเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ถ้ามันทำให้ตัวเองรอด? นี่ใช่ไหมที่เขาจะสอนเด็กๆ?? ฉากสูบบุหรี่ก็เหมือนจะไม่มีด้วยมั้ง ทุกวันนี้ผมก็ไม่ได้สูบบุหรี่หรือดื่มเหล้า ไม่ใช่เพราะมันไม่ดีหรืออะไรนะ แต่ภาพมันติดตามาจนโตจริงๆ ตอนผมเห็นบุหรี่ผมไม่ได้มานั่งนึกถึงการ์ตูนหรอก สมองบันทึกความน่ากลัวไว้เป็นอัติโนมัติ
การ์ตูนอย่างดาร์ค แปลงร่างเด็กเป็นลา ตัวที่พูดไม่ได้ก็โดนส่งไปขาย พ่อแม่เด็กก็ไม่รู้ด้วย ส่วนตัวที่พูดได้ก็ ...เป็นปริศนา แถมตอนจบไม่เฉลยด้วยว่าคนร้ายลักพาตัวมีจุดจบยังไง อาจจะลอยนวลไปได้ ซึ่งก็แปลว่ายังมีเด็กโดนจับไปขายอยู่ ตอนเด็กดูไม่เข้าใจ แต่ก็รู้สึกหดหู่อยู่ดี
พินอคคิโอของกิลเยโม่ เดลโตโร่ดันตีประเด็นนี้ได้แตกกว่าอีก
ดูแค่ Pinocchio ของดิสนีย์ กับPinocchio ของ Guillermo del Toro ที่ได้ออสก้าไป ดิสนีย์น่าจะคิดได้นะว่าก่อนจะเป็นไลฟแอคชั่น จากตัวการ์ตูนควรไปเป็นอนิเมชั่นก่อน และเป็นของถนัดกว่า พิกซ่าร์ก็อยู่ในมือ ถ้าเอามาทำแนวพิกซาร์จะไม่มีใครว่าเลยแถมจะได้รับคำชื่นชม ไม่รู้จะฝืนทำไลฟแอคชั่นให้ชื่อเสียงไม่ดีทำไม
Aladin อ่ะ work เรื่องเดียวนะคิดว่า Beauty and the beast ก็พอได้พลังดาราเต็มๆ เรื่องอื่นๆ ก็ตามที่บอกเลย
เห็นด้วยค่ะ Aladdinดีสุด ยิ่งฉาก Prince Ali ยกขบวนมานี่เหมีอนanimationเลย
Beauty & the beast ก็พอได้ Cinderella ก็โอเคนะ หน้าไม่เหมือนแต่จริตเป็นเจ้าหญิงDisneyมากๆ
เพราะ ผู้กับกำเป็นตัวเอง เยอะไป
ใส่นี้ถอดนู้น อยากใส่ไอเดียตัวเองลงไป
แต่คนดูไม่ใด้อยากดูไอเดียผู้กำกับ
คนดูอยากดูคนแสดง เคารพต้นฉบับ
พูดดีมากค่ะ คือจริงๆ แค่เคารพต้นฉบับ และอย่าขี้เกียจทำทางรัด คุณก็สง่างามแล้ว ให้ดูอาละดินกะซินเดอเรลล่าเป็นตัวอย่าง
เห็นด้วยครับ classic animation คือส่วนหนึ่งของการเติบโตของผม ครอบครัวชอบเปิดให้ดูมากตอนเด็กๆ ไม่ใช่แค่สอนภาษาอังกฤษ แต่มันส่งเสริมในเรื่องของจินตนาการมากๆ มันทำให้เด็กๆได้ฝันเว้ยคือมันดีย์ แต่กลิ่นเริ่มออกตั้งแต่หลัง beauty and the beast live action แล้ว(คหสต) คือ มู่หลานไม่มี มูชู ผมไม่ดูเลย ไม่คิดที่จะมีความคิดจะดูเลยด้วยซ้ำ ไปดูแค่สปอยเอาในยูทูป ผลคือไม่ผิดคาด ไม่ดูอ่ะดีแล้ว (คหสต) แล้วจนมาเจอกับ The little mermaid มันทำให้ผมไม่คาดหวังใน live action จาก Disney อีกแล้วละ แต่ในใจลึกๆก็อยากให้มันดีนะ เพราะมีหลายเรื่องที่เราชอบแล้วอยากให้ทำออกมาแล้วสนุก ผมหวังว่าถ้ามีแผนจะทำเรื่อง Hercules นะ ขอดีๆเลย ขอให้คัดคนที่จะมาเป็นตัวเอกและตัวประกอบอื่นๆดีๆนะ ขอร้องหละ
เมื่อเทียบกับบริษัทญี่ปุ่น ไม่ว่าจะอนิเมะหรือLive Action เขาจะให้ความเคารพต้นฉบับมากๆ ผู้แต่งเล่ามายังไงก็เล่ามายังงั้น อาจจะมีตัดเนื้อหาบางส่วน แก้ไขฉากนิดหน่อย แต่เนื้อเรื่องก็ดำเนินต่อไปได้ ส่วนLive Action มีทั้งประสบความสำเร็จ ทั้งล้มเหลว แต่ที่เหมือนๆกันคือ เขาไม่Woke แบบดันทุรังใส่เข้ามา ในส่วนที่ล้มเหลวส่วนใหญ่มาจากการดำเนินเรื่องสะมากกว่า อย่างเช่น AOT ฉบับคนแสดง
เอาจริง เขาแคสนักแสดงก็ดี CG ก็ใช้ได้
แต่พลาดตรงการดำเนินเรื่อง ก็เลยโดนวิจารณ์อย่างหนัก การWoke เปลี่ยนให้มันต่างไปจากต้นฉบับโดนสิ้นเชิง จะทำให้โดนแฟนๆหรือคอมมูนิตี้ทั่วโลก
อนิเมะเรื่องนั้นๆรุมด่าแน่นอน อย่างเช่นเรื่อง Tokyo Revengers พระเอกของเรื่องเป็นนักเลงธรรมดาๆไม่ได้เก่งเรื่อง การชกต่อยอะไรมาก ที่ต้องการจะช่วยชีวิตแฟนสาว(นางเอก)ของเขา เลยย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตเพื่อช่วยคนที่เขารัก สมมุติว่าในLive Action เขาเปลี่ยนCharacter พระเอกให้ชกต่อยโครตเก่ง รู้อนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้น เลยย้อนเวลากลับไปจัดการตัวร้ายก่อนที่ตัวร้ายจะลงทำอะไร ทุกคนคิดว่า
ถ้าเนื้อเรื่องออกมาเป็นแบบนี้ ผมคนนึงที่จะไม่ดูเหมือนกัน แฟนๆหรือคอมมูนิตี้ก็คงไม่ต่างกัน นี่คงเป็นข้อแตกต่างระหว่างบริษัทDisneyและบริษัทที่ญี่ปุ่นเขาทำกัน
และก็เป็นเหตุผลว่าทำไมหนังLive Action ของDisney ถึงไม่ประสบความสำเร็จ เพราะWoke และไม่เคารพต้นฉบับ
อวยญี่ปุ่นอีกเสียง พวกเดียวกัน
ตกใจอย่างเดียว นี่ไม่เคยดูเวอร์ชั่นคนแสดงของมู่หลานนะ แต่แบบ ห้ะ... คือพอฟังละแบบ จากความพยายาม ความสามารถที่ได้มาเพราะฝึกฝนและไม่ย่อท้อ กลายเป็นเก่งอยู่แล้วตั้งแต่เกิด แล้วมันจะช่วยอะไร มันก็ไม่ต่างจากอนิเมะที่นางเอกเก่งแต่เกินเลยสิแบบนั้น
อีกอย่าง ชี่กงที่ว่าเนี่ย ถ้าเป็นการ์ตูนเรื่องอื่นที่เห็นๆมา ฝึกไปเรื่อยๆมันเว่อร์มากเลยนะ แต่มันก็ไม่ใช่ทุกคนที่มีได้ไง ถือว่าหายากเลย แล้วมันแบบ
สรุปฉันไม่ได้ดูคนไม่เก่งแล้วพยายามไม่หยุดจนเก่งได้ กลายเป็นดูคนที่เก่งอยู่แล้ว
อย่าเพิ่งเลิกทำนะครับ ช่องของคุณดีมากๆเลย
วิเคราะห์ได้ดีมากค่ะ 👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻 ดีใจที่เจอช่องนี้ กดสับตะไคร้ให้กะละมังใจเรียบร้อยค่ะ
นอยมาก เพราะมู่หลานคือเรื่องโปรดมาก แต่กลับทำหนังเป็นโทนจริงจังมากเกินไป โกรธสุดคือตัดมูซูออกไป แบบงงมาก เคสตรงนะ แต่เรื่องไม่ได้เลย
ช่องนี้คือพูดแทนใจทุกอย่าง ❤❤❤
ก็ว่าเวลาดูแล้วรู้สึกนิดๆว่าไม่อิน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร พอมาคิดตามคลิปนี้ ก็อ๋อว่านี่อาจจะเป็นเหตุผลที่เรารู้สึกแบบนั้นก็ได้ เหมือนตอนดูเราคิดแค่ว่า เปิดประสบการณ์ใหม่ ดูรูปแบบใหม่ ดูเอามัน ประมาณภาพสวยสมจริง อลังการ แต่ความอินกับเนื้อเรื่องหรือ เติบโตไปกับตัวละครมันลดลงจริงๆนั่นแหล่ะ เหมือนดูหนังเรื่องใหม่ที่ใช้ชื่อเดิม ชอบคลิปนีค่ะ เพิ่งมาดูครั้งแรกเลย จะรอดูคลิปอื่นๆนะคะ
เข้ามาดูครั้งเเรกชอบมากก❤ เป็นกำลังใจทำต่อไปอีกน่ะค่า 🤟🏻💗
ผมไม่ชอบค่ายดิสนีย์อยู่อย่างหนึ่งคือมันชอบเอาของเก่ามาปัดฝุ่นทำใหม่ ถ้าทำดีกว่าเดิมได้ก็ถือว่าดีไป แต่ถ้าไม่ได้ล่ะ?? แต่นี่ก็ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นแท้จริงคือมันเอาของเก่ามาทำใหม่ เหมือนละครไทยน้ำเน่าที่เอาแต่เรื่องเดิมมาฉายซ้ำนั่นแหละครับ เพียงแค่เปลี่ยนแปลงบทเล็กน้อยและนักแสดง
ผมว่านะ อะไรที่มันเป็นตำนานไปแล้วก็ควรปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ ไม่ควรเอามาทำใหม่ แต่ถ้าอยากจะขายใหม่ ผมว่าควรเพิ่มรายละเอียดของภาพและเสียงหรือฉากบางฉากเข้าไปจะดีที่สุด ทำเหมือนเรื่องไททานิคนั่นไง เพิ่มรายละเอียดภาพให้มันคมชัดมากขึ้น ทำเป็นสามมิติให้หน้าตื่นใจมากขึ้น แต่ไม่ควรเอามาทำใหม่
หรือถ้าต้องการมีภาคต่อ ถ้าพิจารณาแล้วว่ามันไม่ดีเทียบเท่าภาคแรกหรือทำไม่ให้มันดีกว่านั้นได้ ผมว่าอย่าทำเลยดีกว่า เหมือนกับภาพยนตร์เรื่องมังกรหัวใจเขย่าโลก มันไม่ควรมีภาคต่อ เพราะยิ่งทำมันก็ยิ่งแย่และขัดแย้งในเนื้อหา (ก็ในเมื่อมังกรภาคแรกตายหมดเกลี้ยงแล้ว ยังจะมามีต่อภาคต่อไปอีก แถมความสมเหตุสมผลนั้นก็แย้งมาก)
ยอดเยียมมากครับวิเคราะห์ได้ดีมากๆ ติดตามเลย
Disney ช่วงนี้ woke แปลกๆ ตัวนักแสดงเฉยๆ นะ แสดงดี เสียงเพราะ ไม่ติแต่อยากด่าค่ายสักหน่อยแบบอะไรอ่ะ... ตัดกลับมาที่ Dreamwork ทำการ์ตูนยังดู Woke กว่าอีก ทั้งบิวตี้แสตนดาร์ด การเหยียดผิว ชายเป็นใหญ่ ตัวดีตัวร้าย ตีความตัวละครใหม่จากการเอาต้นฉบับที่มีความบ้งอยู่แล้วมาสลับกัน อันนี้ยังน่าดูกว่าอีก
อวยดิสนีย์ล่ะ1
เห็นด้วยเลยค่ะ ตอนนี้คนดูก็ยังหลงการตลาดดิสนีย์ จนมีคนเอาการตลาดนี้ไปเลียนแบบ ออกมาเป็น velma
ในความเห็นของผมนะ สาเหตุที่ทำไมดิสนี่ย์ถึงกลายเป็นแบบนี้มีหลักๆ2สาเหตุครับคือ 1ทีมงานดิสนี้เก้าไม่พ้นมาเวล หนีไม่พ้นความสำเร็จของมาเวล เลยทำหนังออกมาให้เหมือนมาเวลไม่ต้องทำความรู้จักตัวละคร ไม่ต้องปูเรื่องไม่ต้องตอบว่าไอ้นี้ใคร แล้วก็จับใส่ๆมาให้เวลามันครบ 2 คือ ปัญหาของผู้บริหารดิสนีย์เอง เอาความชอบส่วนตัว เอาความอยากส่วนตัวที่อยากเอาความคิดของตัวเองออกมาให้คนอื่นดู ที่พี่บอกว่าเขาเอาใจเนี้ยผมว่าเขาไม่ได้ดอาใจคนดู เขาเอาใจผู้บริหารของเขาเอง
เป็นช่องที่อธิบายชัดเจนมาก นี่เป็นคนนึงที่ดูดิสนีย์แต่เด็กและไม่ค่อยอะไรกับ live action ของดิสนีย์เลย ทำก็ดีว่างๆจะไปหาดู แล้วมีความคิดว่ากระแสที่เค้าแอนตี้กันเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก ๆ พวกที่แอนตี้คือทำตามกระแสโดยที่เหตุผลก็เดิมๆ เช่นไม่ตรงตามต้นฉบับ ดิสนีย์ทำลายภาพจำ บลาๆ ซึ่งไม่มีใคร/เราอาจไม่เจอเอง😅/ ออกมาวิเคราะห์ว่าทำไมมันไม่ดี ซึ่งคุณอธิบายออกมาได้เห็นภาพสุด ๆ แต่เราเห็นด้วยว่าหนังของดิสนีย์มันขาดวิญญาณจริงๆ ไม่สนุกเท่าต้นฉบับเลย😢
เห็นตรงด้วยมาก ๆๆๆ รู้สึกตกหลุมรักช่องนี้ไปแล้ว ขอติดตามต่อไปเรื่อย ๆ ครับ
สู้ๆคับ ขอให้หมื่นซับไวๆ
หนังทุกเรื่องต้องมีปัญหา เพื่อให้ตีวละครเอกแก้ปัญหา เพื่อเรียนรู้ ชอบมากๆเวลาตัวละครเจอปัญหา แล้วแก้ไขปัญหา แล้วรู้จักที่จะเรียนรู้ ตัวละครบอกสิ่งที่ผู้กำกับ คนเขียนบทอยากสื่อ ชอบมากๆ ตอนเป็นแอนิเมชั่น ดิสนีย์ขายเรื่องราว พอมายุคนี้ดิสนีย์ขายแค่ชื่อเรื่อง โดนไม่สนใจเรื่องราวของตัวละครเลย ให้คนเก่าๆมาดู โดยไม่สนใจว่าจะขายคนที่ไม่เคยดูได้มั้ย ถ้าจะดูมู่หลาน ไปดูมู่หลาน ของจีนต้นฉบับดีกว่า
ช่ายเลย😊😊😊
ช่องนี้คุณภาพน่ะ ขอให้ยอดซับพุ่งๆเลยค่ะ
เห็นด้วยในทุกประเด็นเลยครับ ชอบมาก
"คนเราควรมีมาตรฐานในการดูหนัง เพราะถ้าไม่มีค่ายหนังก็จะทำระยำแบบนี้ต่อไป" ผมขอสรุปคลิปนี้แบบนี้เลยละกัน และเห็นด้วยมากๆ แล้วไอ้สามประเด็นพวกนี้มันไม่ได้จบแค่ในหนังรีเมคจากการ์ตูนของดิสนีย์ด้วยนะ มันลามเข้าไปในหนังมาร์เวลแล้วด้วย มาตรฐานหนังฮีโร่ดรอปลงสุดๆ เลยตอนนี้
ชอบ Cinderella กับการตีความให้ Maleficent ภาคแรก ดีงามมาก นอกนั้นก็พอดูได้
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ที่ออกมาพูดเรื่องนี้ คุณพูดถึงประเดนและปัญหาต่างๆได้ดีมากๆเลยค่ะ อยากให้ทุกคนได้ฟัง❤
เป็นการวิพากษ์แบบสะกดอารมณ์5555 ทำออกมาดีมากค่ะ
วิจารณ์ได้อย่างมีเหตุมีผลและเห็นด้วยกับประเด็นที่หยิบมาพูดนะ หลายเรื่องตอนเป็น Animation ดีกว่าตอนทำเป็น Live Action จริงๆ (ดูทั้งสองเวอร์ชั่นแล้ว)
พบช่องนี้ช้าไปจริง ๆ ผมกดติดตามแล้วครับ
เราขอแย้งของเรื่องมู่หลานค่ะ คือดิสนีย์เค้าพยายามทำออกมาขอโทษและดึงตลาดจีนกลับมา โดยการเอาเนื้อเรื่องมาแปลงเป็นเวอร์ชั่นที่อิงกับตำนานจีนมากยิ่งขึ้น เพราะช่วงที่มู่หลานการ์ตูนมาแรกๆคือจีนแบนยับๆเลยค่ะ เพราะไม่เหมือนตำนานพื้นบ้านเค้า แต่ทำออกมาเป็นlife actionสำหรับเราก็ไม่โอเคสำหรับเราอยู่อยู่ดี แม่ทับชางก็หายเหลือยังโอมมาโผล่เป็นพระเอก ไม่ไหวๆๆ😅😅😅😅
หรือแม้กระทั่งเพลงนำศักศรีก็กลายเป็นแค่เพลงแบคกลาวซีนมู่หลานแต่ตัว เพลงจะสร้างนายเป็นชายแท้หายไปเลย ตอนเด็กๆ เราชอบเพลงนำศักศรีมากนะคะพอไปดูแล้วสิ้นหวังมาเป็นบรรเลงดนตรีจีนก็ได้ยาวหน่อยนี่มาแค่บางท่อนปล่อยเป็นต่อนๆ เครียด😅😅😅
วิเคราะห์ดีมากเลย ตอนดูมู่หลาน live action แล้วรู้สึกเฉยมากๆ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พอดูช่องนี้ก็คือ เออ เป็นแบบนั้นจริงๆ ส่วนเรื่อง little mermaid ส่วนตัวก็รู้สึกว่ายัดเยียดจริงๆ แต่ผิดที่ดิสนีย์ ไม่ได้ผิดที่นักแสดง รู้สึกสงสารน้องที่ต้องเจอคนยกขึ้นมาแซะเรื่อยๆ ไม่ได้วิเคระห์อะไรได้สาระ
พูดได้เห็นความต่างชัดเจนมากครับ
ดิสนี่ย์หลังๆ มานี้ท่าทางจะชอบแมรี่ซูเป็นพิเศษนะคร้บ ทั้งมู่หลานอันใหม่ ทั้งเรย์สตาร์วอร์...
ชอบมากครับ เป็นการวิเคราะห์ที่ดีครับ
แต่ผมก็การตีความใหม่ๆนะ ดูอย่างละครบ้านเรารีเมคบ่อยมากๆ ก็ไม่เคยคิดกลับไปดู เรื่องผิวดำอย่าพูดเลยว่าไม่เหยียดผมเชื่อว่า ร้อยละเก้าสิบแค่ไม่โอเครก็เพราะน้องมันผิวดำเท่านั้นแหละ เล่นมุกดำๆกันสนุกสนาน แต่ก็อย่างว่าประเทศเรามันคลั่งขาวหน้าสื่อดาราพิธีกรแทบไม่มีพื้นที่ให้คนผิวสีอื่นเลย มันก็น่าจะพอเข้าใจความรู้สึกของคนดำกับเรื่องนี้บ้าง แต่ก็อย่างว่าแหละหนังเค้าไม่ได้มีกลุ่มเป้าหมายเป็นประเทศที่ดูแต่หนังเถื่อนแต่ชอบดูถูกรูปลักษณ์คนอื่นหรอกมั้ง😊
พี่พูดความรู้สึกผมออกมาหมดเลย เห็นด้วยมากๆครับ
ก็แค่ทีมงานของ Disney มองคนละมุมกับคนดูมันก็แค่นั้น พบกันครึ้งทางกับแฟนๆก็ไม่เคยมีDisneyจะทำไปสุดทางของตัวเองอย่างเดียวแล้วจะมาเรียกร้องอะไรกับแฟนๆทุกคนดูหนังก็อยากเห็นในสิ่งที่ตัวเองอยากเห็นเมื่อผู้สร้างไปทำตรงกันข้ามเขาไม่อยากดูก็สิทธิของคนดูคุณจะมาบอกว่าทำไมไม่เปิดรับก็เมื่อดูตัวอย่างโปรโมทแล้วมันไม่ใช้เหมือนศิลปินร้องเพลงโปรโมทแล้วเราไม่ชอบเราก็ไม่ชื้ออัลบั้มชุดนี้ของศิลปินคนนั้นมาฟังก้แค่นั้นง่ายๆ
วิเคราะห์สุดยอดมาก สงสัยมาพักนึงแล้วว่าทำไมไม่อินกับlive action มากๆ ทั้งที่เนื้อเรื่องก็คล้ายๆเดิม พอคุณชี้ปุ้ปก็อ๋อเลยทันที บางเรื่องแม้จะเปลี่ยนไม่กี่จุด แต่เป็นจุดที่สำคัญที่ทำให้เราตกหลุมรักการ์ตูนเรื่องนั้นสมัยยังเด็กๆ พอโดนตัดไปเสน่ห์มันหายไปเลยจริงๆ
คิดเหมือนกัน เอาจริงตอนนี้ของดิสนีย์เนี่ยจะดูในพลัสยังคิดว่าเสียเวลาหายใจทิ้งเลยครับ เมะที่ตามในพลัสก็หมดแล้วสวสัยไม่ได้ต่อล่ะนะครับ
ชอบมากครับ ตรงประเด็นดีมาก ตรงจุดที่สุด
ผิดกับอีกช่องนึงที่แม่งพูดไม่ตรงจุดสักนิดแล้วบอกพินอคคิโอเดินตามเส้นเรื่องเดิมแบบก็อปมา นี่ดูไปสามสี่รอบยังคิดเลยว่ามึงเคยดูต้นฉบับจริงๆเหรอวะ????
ไลอ้อนคิง ไปอ่านเจอจากที่ไหนไม่รู้เขาบอกว่าต้องการให้มันสมจริง มันเลยแสดงความรู้สึกออกมาไม่มากพอ
เรานี้แบบอยากปา นาเนียร์ไปให้ดู รู้จักอัสลานไหม
โห่พูดดีมาก พูดแทนใจสุดๆ🫶🏻
พูดได้ดีโดนใจมากครับ 👍🏻
อันนี้นอกเรื่อง ใน the lion king live
ยังตลกฉากเพลง can you feel the love tonight อยู่เลย
tonight มากกกกแดดเปรี้ยงๆ เลย
เป็นการวิเคราะห์ที่ฟังแล้วสบายมากเลย😊👏
มู่หลานไม่ให้อะไรเลย เนื้อเรื่องน่าเบื่อ เพลงไม่มี ตลค.ที่เพิ่มมาก็เท่านั้น วัฒนธรรมก็ใส่มาแบบยำยุคยำราชวงศ์ และแมสเสจหลักๆจากการ์ตูนอย่างไม่ว่าคุณจะเพศไหนคุณก็สำเร็จได้ก็กลายเป็นกำลังภายในไรก็ไม่รู้ มันเหมือนแบบผญ.ที่เลือกชีวิตเป็นของตัวเองได้ต้องมีพลังแบบมู่หลาน ถ้าธรรมดาก็แต่งงานเป็นแม่บ้านต่อไปแบบน้องสาวนางเอก และอีกอย่างคือคสพ.พ่อลูก ในการ์ตูนมู่หลานนิสัยแก่นแก้วจนถึงวัยจะแต่งงานครอบครัวก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรขนาดนั้น ตอนก่อเรื่องใส่แม่สื่อครอบครัวผิดหวังก็จริงแต่พ่อยังมาให้กำลังใจเลย ตอนจบพ่อก็แสดงออกว่ารักและภูมิใจมากๆ แต่หนังไม่ได้แสดงให้รู้สึกขนาดนั้นอ่ะ ทำไมดูเข้มงวดกว่าแบบแปกๆ
วิเคราะห์ได้ดีมากๆๆๆเลย
ตอนท้ายประโยค อย่าเบาครับ มันเสียงหายไป ขาดจังหวะ
เห็นด้วย ฟังแทบไม่รู้เรื่อง ต้องเปิดดังๆ หรือ ใส่หูฟัง เพราะเดี๋ยวค่อย เดี๋ยวดัง มันทำให้เสียอรรถรสมาก ทั้งๆที่อยากจะฟังเนื้อหา
เสียดายมู่หลานมาก ถ้าทำแบบการ์ตู CGสวยๆ คงพันล้านแบบอลาดินไปละ นี่เอาใจพี่จีน สุดท้ายโดนด่าอีก
มู่หลานไม่ได้เป็นจอมยุทธ์หรือผู้หญิงทอมบอย เป็นผู้หญิงปกตินี่แหละแต่ห่วยกว่าปกตินิดหน่อย ต้องการนำเกียรติยศให้วงศ์ตระกูลแต่ในเมื่อหาผัวดีๆให้พ่อไม่ได้ แถมพ่อต้องไปรบ เลยไปรบแทนพ่อเพราะได้ทั้งช่วยพ่อได้ทั้งเกียรติยศมันก็แค่นั้น ไม่ได้เหมือนในไลฟ์เอกชั่นที่เก่งเป็นจอมยุทธ์ ห้าวทอมบอย อยากไปรบจนตัวสั่น //จริงๆต้นฉบับมันไม่ได้สวยงามเลย มู่หลานโดนข่มขืนด้วยซ้ำ มันดาร์กกว่าที่คิด
พูดตรงใจทุกคำครับ
มีวาร์ป Reflection เวอร์เปียโนตอนต้นคลิปมั้ยครับ?
นักเขียนสมัยก่อนนี่เก่งมากนะครับ สื่อที่เขามีคือตัวอักษร ภาพ2มิติง่อยๆ มารวมกับจินตนาการของผู้สร้าง เกิดเป็นภาพจำของแต่ละคนที่สวยงาม ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่
แต่ทุกวันนี้สารพัดเครื่องมือ สุดยอดเทคโนฯ แต่ทำให้ดีได้ไม่ถึงเสี้ยวของคนในอดีต พกมาแต่อุดมการณ์เท่าเทียมแบบปลอมๆ กับการยัดเยียด ปู้ยี่ปู้ยำต้นฉบับแบบไม่เหลือซาก
น่าเศร้าจริงๆดิสนีย์ยุคนี้
คลิปนี้เห็นด้วยทุกประการครับ ในฐานะแฟนดิสนี่ที่โตมากับอนิเมชั่นดิสนี่
Little mermaid ผมขัดใจอยู่ 2 เรื่อง
1. ทรงผมแอเรียล เงือกอยู่ใต้ทะเล มันสามารถทำทรงแบบนั้นไง(สงสัยนางแอบหนีขึ้นมาถักบนโลก)
2. สิวหรือไฝอะไรซักอย่างตรงคิ้วน้องเค้า มันดึงดูดสายตามาก 5555
ปัญหาคือภาพจำความรู้สึกในวัยเด็กมันมีสูงมากครับพอมาทำ ฉบับคนแสดง ยังไงมันก็ไม่เหมือนฉบับการ์ตูนครับ
ผมก็ชอบรุ่นคลาสสิคมากกว่าครับ ความคิดเดียวกับแอดเลยครับ
มันคือยุคแห่งการตลาดอย่างแท้จริง ยุคที่ศิลปะถูกนำมาหากิน ปัจจุบันเราจะหาศิลปินที่สร้างผลงานที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจแทบไม่เจอเลย ศิลปินส่วนใหญ่มักจะสร้างผลงานจากความต้องการของตลาด ซึ่งมันไม่แปลก เพราะชีวิตมันก็ต้องกินต้องใช้ มันเลยทำให้คุณภาพของงานมันลดลงมาก ถ้ามองจากจำนวนในปัจจุบัน😂 ผมเห็นใจคนที่สร้างผลงานที่มาจาก Passion แต่กลับหากินกับมันแทบไม่ได้ ตัดภาพมาดูคนพวกนี้สิ ทำอะไรกับงานศิลปะลงไปบ้าง 😂
อย่าว่าแต่Disneyเลยครับ บาร์บี้ก็เปลี่ยนไป จนน่าตกใจ
เยี่ยมมากเลยครับ
พูดถึงเรื่องเพลงประกอบ
มู่หลัน พลาดสุดๆ เพราะ หลิวอี้เฟย ออกอัลบั้มเพลงเยอะมาก ทั้งจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น แต่ดันไม่มีบทร้องในเรื่องให้หลิว แต่มาร้องแยกแทน
พูดตรงใจมากคะ ขอบคุณคะ❤
ใช่ครับเหมือนดิสนีย์หลงลืมแก่นสารสำคัญที่เป็นเสน่ห์ของเรื่องราวนั้นๆ ไปครับ ทำให้สิ่งที่นำเสนอออกมาใหม่มีแต่โครงแต่ภายในกลวง ไม่กินใจผู้ชมเหมือนที่ดิสนีย์ในอดีตเคยทำมาตรฐานเอาไว้ครับ
เราว่าดิสนีย์ดีมากนะในการ์ตูนสไตล์แนวคิดปรับปรุงนิทานดาร์กๆให้สดใสแฝงข้อคิดเลยอะ แม้หลายครั้งจะแฝงเรื่องไม่ดีปนมาด้วยก็ตาม(ผิวสี,ชนเผ่า,การเหยียด) เราว่าเป็นปัญหาภายในทีมงานผู้กำกับ ผู้ลงทุน มากกว่าตัวนักแสดงเอง หลายเรื่องละที่ทำเป็นหนังรีเทคได้ไม่ตรงกับแก่นแท้ในการ์ตูนและทำให้เนื้อเรื่องหนังแย่ลง
เรื่องเงือก รู้สึกเลยนะทีมงานแกงนางเอก ต่อให้ตัดประเด็นคนดำออกไป งานฉากไม่ได้มีความสวยเลยนะ
เซบาสเตี้ยน ฟลาวเดอร์ โดยเฉพาะตัวหลัง เอาแบบนี้จริงดิ !!!!
ฉากตอนนั่งรถม้า เฮ้ยมันไม่รู้สึกเดทเลยนะโว้ย เหมือนไปทำ.......... มากกว่า
ปล. อยากเห็นรีวิว puss in boot last wish
นางเหงือกเขาว่ายน้ำในทะเล หรือบ่อโคลนอะ เช็ดโคลนออกหน่อยดีไม อิหยั่งวะ งง ดูการ์ตูนมานางเหงือกผิวขาวจ๊วะ ทำไมพอสร้างเป็นหนังคนแสดงเอานางเหงือกคนผิวดำมาแสดง มันใช่หรอ ถ้านางเหงือกที่เป็นการ์ตูนเป็นนางเหงือกผิวสีดำมาก่อนเราก็จะไม่ว่าเลยนะ คือภาพจำมันติดตาไงตั้งแต่เด็กๆแล้วแม่นบ่ การแคสนักแสดงก็อ้างอิงจากตัวการ์ตูนดั้งเดิมมั่งเถอะ แม่งเปลี่ยนตามใจผู้กำกับ แต่ไม่คิดถึงใจคนดูเลย เห้อ ระเหี่ยใจ บอกเลยเจอมาหลายเรื่องแล้วนะแคสนักแสดงถูกใจผู้กำกับ แต่ไม่ถูกใจคนดู
ใข่หากินกับบุญเก่าหากินกับคนดำในอเมริกา เปลี่ยนทุกอย่างยกเว้นชื่อแอเรียลเพราะหากินกับคัวละครที่สร้างกำไรมากสุด
คนแค่อยากดูภาพของหนัง
จากการ์ตูนมาสู่รูปแบบของมนุษย์เฉยๆ
อยากดูเส้นเรื่องเดิมแต่ภาพที่เป็น
โลกความจริงเฉยๆ การไปเปลี่ยนแปลง
แต่งเติมให้มันไม่เหมือนการ์ตูนคือ
มันไม่ Work 😊
จริง เดี่ยวนี้ทิ้งความเป็นภาพยนตร์ไปมาก อาศัยเทคนิคกราฟฟิกกับการตลาด เน้นธุรกิจอย่างเดียว มีทำ remake , version ต่อเพราะกลัวขาดทุน _ เดี่ยวนี้ผมดูหนังน้อยมาก สื่อสารผ่าน smartphone เรียกว่าหนังขาดความดี จิตวิญญาณ อย่างว่าครับ หากหนังดี เรื่องราวดี แต่คนดูตัดสินใจจะดู แค่ในมือถือ ภาพต้องอลังการ ขายไม่ได้ก็ขาดทุน หากขาดได้ ก็โดนด่า
วิเคราะห์ดีมากเลยค่ะ เราเป็นแฟนดิสนี่ย์มาตั้งแต่เด็ก ดูทุกวัน ร้องได้ทุกเพลง แต่พอมีไลฟ์เอคชั่นมาเรื่อยๆ เราไม่รู้สึกอินเลย แต่เราตอบตัวเองไม่ได้ว่าเพราะอะไร อยากจะชอบแต่มันไม่สุดอะ จนได้มาฟังคลิปคุณ ตรงใจมากกก ขอบคุณมากค่ะ
ถ้าเอาแค่ไลฟ์เอคชั่น เราชอบอะลาดินสุด แต่ก็ติดตรง forcing diversity ตามที่คุณบอกเลย คือเอาแขกขาวมาเป็นคนใช้ เป็นคนผิวขาวคนเดียวในเรื่องด้วยนะ (ถ้าเราจำไม่ผิด) ซึ่งแบบ เอิ่ม ไม่ต้องก็ได้มั้ยยย
ผมไม่คิดว่าเขาเอาใจคนหมู่มากนะถ้าเอาใจคนหมู่มากได้จริงรายได้ของหนังมันคงดีไปแล้ว
ผมเห็นด้วยว่าถ้าอยากให้พื้นที่กับคนบางกลุ่มควรสร้างเรื่องใหม่มาเลย
ตอนนี้หนังดิสนีย์เป็นเหมือนกาฝากที่เกาะกับความสำเร็จเดิมเพื่อเอาใจคนสร้างหรือผู้กำกับมากกว่าคนดู
เอาจริงค่าตั๋วหนังเดี๋ยวนี้แพงกว่าแต่ก่อนมาก แต่ดูสภาพหนัง 😢 ดูแล้วโคตรจะว่างเปล่า จุดดีๆของต้นฉบับก็ตัดออกแล้วยัดเยียดอะไรแปลกๆมาเต็มไปหมด เนื้อหาก็กลวง ตีความอะไรก็ไม่ได้ ความทรงจำเก่าๆก็ไม่กลับมา ไปไม่สุดซักทาง ฝั่งพิกซ่าที่ดีๆก็โปรโมทห่วยแทน
รีวืว pinocchio guillermo del toro หน่อยครับพี่หนังดี
แก้นิดนึงมู่หลานร้องreflectionก่อนจะรู้ว่าพ่ออยากไปรบเลยทะเลาะกัน นอกนั้นเห็นด้วยกับแอดทั้งปวง
ดิสนีย์หลังๆเหมือนคนแก่ที่ใช่ความสำเร็จในอดีตมาย้อมขายตัวเองใหม่โดยwokeจัดๆเพื่อเพิ่มความหลสกหลาย แต่ไม่คิดที่จะสร้างใหม่เพราะต่อให้ล้มก็ล้มบนเตียงโดยหากิยกับฐานแฟนๆที่ชอบอนิเมชั่นก่อนทำlive action
ไม่รู้ความคิดเห็นของผมจะขัดใจใครไหมนะครับ คือสำหรับผม ผมว่าDisneyเขาก็มีจุดยืนในองค์กรที่ชัดเจน ซึ่งจุดยืนขององค์กรที่ชัดแบบนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนไม่ชอบ แต่ใดๆเรามองว่าถือเป็นเรื่องที่ดีนะที่มีองค์กรที่กล้าที่จะทำเรื่องที่แตกต่างถึงแม้มันจะไม่ประสบความสำเร็จในแง่ของธุรกิจหรือรายได้ก็ตาม ในเมื่อองค์กรเขาก็ชัดเจนในแบบของเขาที่เหลือมันอยู่ที่ผู้บริโภคแล้วว่าจะซื้อสิ่งที่ผู้ผลิตผลิตออกมามั้ย มันไม่มีหรอกว่าWokeไม่Wokeมันมีแต่รับได้หรือรับไม่ได้ ชอบหรือไม่ชอบ ซื้อหรือไม่ซื้อ และการที่Disneyมีจุดยืนในองค์กรที่ชัดเจนแบบนี้มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนไม่ชอ
เอาจริงที่สนุกค่ายนี้มันก็สลับออกมาเรื่อยๆ น่าจะ 50 50 ได้ เลยยังไม่ท้อใจ เท่า netflix. ให้ไล่ก็มี 101, 102, ชุด alice สนุกใช้ได้, maleficent ชุดนี้ก็ดี, cruella และ aladdin ตัวอย่างหนังจากกาตูนที่ยอดเยี่ยม
ส่วนตัวคิดว่า ความยากอีกอย่างคือ พอมันเป็นฉบับคนแสดง การต้องทำให้บทตัวละครเหล่านั้นดูเป็นคนที่จับต้องได้จริงๆ มันทำให้พาร์ทบางส่วนสร้างผลกระทบที่อิมแพคต่อเสน่ห์บางอย่างของหนังเรื่องนั้นๆ ดิสนีย์มีต้นทุนวัตถุดิบที่ดีแต่แง่หนึ่งก็คือเมื่อมันถูกนำมาผลิตซ้ำ อย่างแรกที่ถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นเสมอคือ “การเปรียบเทียบกับภาพจำแห่งความประทับใจที่มีมาอย่างยาวนานต่อการ์ตูนเรื่องนั้นๆ”
ตอนผมดูก็มีความรู้สึกๆ"อีหยังวะๆ"อยู่... แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไร... แต่ฟังแล้วโอเครผมเข้าใจล่ะ... เพราะเราก็โตมากับการ์ตูนพวกนั้นสนุกและประทับใจกับมันอ่า
พูดดี มากตรับ ชอบ ชอบ
คุณภาพมากครับ
เราชอบคุณรีวิว ตรงใจ
ทั้งหนัง ทั้งเกมส์ พยายามยัดเยียดอะไรแบบนี้เข้ามามากๆ เราเป็นคนหนึ่ง ต้องการความเป็น original ไม่เปลี่ยนอะไรมันมากเกินไป ไม่พยายามยัดเยียดอะไรแบบนี้เข้ามา แล้วมาบอกกับคนที่ไม่ชอบผลงานของตัวเอง ว่าพวกเหยียด..... หนักใจเลย
ไม่แปลกใจทำไมเวอร์ชั่นไลฟ์แอคชั่นของพวกนี้เจ๊ง แล้วหนังที่คุณยกตัวอย่างมา เราไม่ดูในโรงหนังและในDisney +ด้วยค่ะ ดูไปก็เสียอารมณ์ โมโหคนสร้างที่ทำลายการ์ตูนที่มีภาพจำมาหลายสิบปี …-ดิสนีย์ไม่เคยเรียนรู้จริงๆ
อันนี้เป็นความทรงจำของผมตอนเด็กกับเรื่องThe Little Mermaidที่กำลังมีดราม่าอยู่ คือเหตุผลหลักๆที่เราชอบหนังเรื่องนี้อันดับ1เลยคือเพลงที่สนุกม่วนและพาให้เราจอยไปกับหนัง และทำให้หนังสนุกมากขึ้นจากเนื้อเรื่องที่ดีและเพลินอยู่มากๆแล้วส่วนที่ชอบรองลงมาจากเพลงคือเนื้อเรื่องที่เราดูแล้วเราจอยเราสนุก แถมตอนเด็กๆคือเอาใจช่วยแอเรียลมากว่าจะครองรักกับเจ้าชายสำเร็จรึเปล่า แล้วตอนได้ขามาแอเรียลชั้นจะตุยมั้ย(คือในใจก็รู้แหละว่าไม่ตุย แต่ด้วยความเป็นเด็กเราก็ลุ้นและเอาใจช่วยอ่ะ) รวมๆคือเนื้อเรื่องที่ปังมากๆ และนั้นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงรักหนังเรื่องนี้ ซึ่งที่พิมพ์มาจะเห็นเลยว่าเรารักหนังเรื่องนี้ที่องค์ประกอบของมันไม่ใช่ลักษณะหน้าตาหรือสีผิวของตัวละคร ซึ่งก็อาจใช่ที่เราชอบแอเรียลที่ผมแดงผิวขาวหน้าตาจิ้มลิ้ม แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลหลักๆที่เราชอบหนังเรื่องนี้ ตัดมาที่เวอร์ชั่นLive actionที่เป็นที่ถกเถียงและดราม่ากันสุดๆ เรามองว่าหนังเวอร์ชั่นนี้จะทำให้เราหลงรักเรื่องThe Little Mermaidได้เพิ่มมากยิ่งๆขึ้นไปอีกเพราะเราเชื่อในตัวของผู้กำกับและทีมงาน รวมถึงนักแสดงที่ทุกคนตั้งใจถ่ายถอดหนังเรื่องนี้ให้ดีที่สุด
ในส่วนของHalle Baileyเราเชื่อว่าฮัลลีมีบางอย่างซ่อนเราไว้อยู่ ซึ่งนี้เราคงต้องไปดูในหนังว่าเซอร์ไพร์ชิ้นนี้คืออะไร แต่ใดๆเแล้วราเชื่อว่าฮัลลีจะสามารถถ่ายถอด"ความเป็นแอเรียล"ออกมาได้อย่างดีแน่นอน เราเชื่อว่าการที่ผู้กำกับและDisneyได้ตัดสินใจเลือกฮัลลีมานั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
ส่วนตัว ชอบ Alice in wonderland ทั้งสองภาค ที่สุดในบรรดา live action ทุกเรื่อง คือต้นฉบับ animation ก็ไม่เคยดู เเต่เเบบ live action เรากลับไปเปิดเเผ่นดูหลายรอบมาก ความแฟนตาซี ลึกลับ กับเนื้อหาที่เข้มข้น ดูเเล้วไม่เบื่อกลางทาง แต่โทนเรื่องก็อาจจะหม่นๆหน่อย เด็กอาจจะดูไม่สนุก😅