Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
กราบสาธุในธรรมคำสอนของแม่ชีค่ะ อยู่เยอรมันค่ะ
#ผู้ที่ได้ฟังผมถือว่าคุณเป็นผู้ที่มีบุญมากจริงๆครับ 🙏🏻#ผมขออนุโมทนาบุญร่วมกับท่านเจ้าของห้องและทีมงานทุกท่านในการเผยแผ่ธรรมทานนี้ด้วยใจที่บริสุทธิ์จริงครับ 🙏🏻#สาธุอนุโมทามิครับผม 🙏🏻
น้อมกราบแม่ ครับสาธุ สาธุ สาธุ ครับกราบอนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วย ครับขอให้แม่มีสุขภาพแข็งแรงนะ......ครับ
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
สาธุสาธุสาธุธรรมค่ะแม่
ขอบคุณค่ะสาธุค่ะิแม่
สาธุค่ะแม่ชี ลูกก็เป็นอิกคนที่ไปเข้าพิธีไหว้ครูที่สำนักแห่งหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว ด้วยความเชื่อที่ผิดๆ ลูกขอตั้งจิตอธิฐานต่อคลิปของแม่ชีในวันนี้ที่ลูกได้มีบุญเข้ามาฟัง ขอให้การคืนขันธ์ต่อร่างทรงองค์เทพทุกท่านที่ลูกได้รับมาใส่ตัวขอให้ท่านทั้งหลายจงอย่าได้ถือโทษโกรธแค้นในตัวข้าพเจ้าอิกต่อไปเลยนะคะ ขอให้อโหสิกรรมต่อข้าพเจ้าและข้าพเจ้าก็ขออโหสิกรรมต่อท่านทั้งหลาย ขอยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อไป สาธุๆๆ
กราบสาธุสาธุแม่ชีทศพรคะ
สาธุๆค่ะแม่
กราบสาธุค่ะ
สาธุค่ะ
พระโพธิสัตว์ไม่มาทำให้มนุษย์เดือดร้อน ใช่ค่ะ ได้อ่านการบำเพ็ญบุญของ พระโพธิสัตย์ รักษาศีล สละให้ทาน ละได้ เพื่อประโยชน์ ของทุกชีวิต ไม่เบียดเบียนใคร
U7u76
สาธุครับแม่ชี.....
ได้ความรู้จริงๆครับ🙏🙏🙏
ความดับทุกข์มี เพราะความดับแห่งนันทิ ปุณณะ ! รูป ที่เห็นด้วยตาก็ดี, เสียง ที่ฟังด้วยหูก็ดี, กลิ่น ที่ดมด้วยจมูกก็ดี, รส ที่ลิ้มด้วยลิ้นก็ดี, โผฏฐัพพะ ที่สัมผัสด้วยกายก็ดี และธรรมารมณ์ ที่รู้แจ้งด้วยใจก็ดี, อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ เป็นที่ยวนตา ยวนใจให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้ง แห่งความกำหนัด ย้อมใจ มีอยู่. ภิกษุย่อมไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมก ซึ่งอารมณ์ มีรูปเป็นต้นนั้น. เมื่อภิกษุไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมก ซึ่ง อารมณ์มีรูป เป็นต้นนั้นอยู่, นันทิ (ความเพลิน) ย่อมดับไป. ปุณณะ ! เรากล่าวว่า “ความดับไม่มีเหลือแห่งทุกข์มีได้ เพราะความดับไม่เหลือแห่งความเพลิน” ดังนี้ แล. อุปริ. ม. ๑๔/๔๘๑/๗๕๖.
เคยเข้าตำหนักนะ แต่เขาดูอดีตของเราไม่ได้ ถามหมอดูก็ดูลายมือเราไม่ออก แปลกมาก แต่หลายคนที่ไปตำหนักนี่มั่นใจมากว่า พวกเขาเป็นร่างทรง แต่เรากลับไม่ค่อยเชื่อ แม้จะเคยนั่งสั่นตอนพิธีไหว้ครู (แค่ครั้งเดียว) แต่ก็ไม่ค่อยเชื่ออยู่ดี เรายึดหลักของพระธรรมอย่างเดียว ปฏิบัติที่ใจอย่างเดียว แต่แฟนเก่าเราเชื่อมากๆ จนรับขันธ์แล้วเราก็อยกทางกัน
หลวงพ่อเขียน วัดเขียนเขต แถวประทุมธานีค่ะ
สาธุๆค่ะ
น้อมกราบสาธุค่ะ
ให้พึ่งตน พึ่งธรรม อานนท์ ! เราได้กล่าวเตือนไว้ก่อนแล้วมิใช่หรือ ว่า “ความเป็นต่างๆ ความพลัดพราก ความเป็นอย่างอื่น จากของรักของชอบใจทั้งสิ้น ย่อมมี; อานนท์ ! ข้อนั้น จักได้มาแต่ไหนเล่า : สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว เป็นแล้ว อันปัจจัย ปรุงแล้ว มีความชำรุดไปเป็นธรรมดา, สิ่งนั้นอย่าชำรุดไปเลย ดังนี้; ข้อนั้น ย่อมเป็นฐานะที่มีไม่ได้”. อานนท์ ! เปรียบเหมือนเมื่อต้นไม้ใหญ่ มี แก่นเหลืออยู่ ส่วนใดเก่าคร่ำกว่าส่วนอื่น ส่วนนั้นพึง ย่อยยับไปก่อน, ข้อนี้ ฉันใด; อานนท์ ! เมื่อภิกษุสงฆ์ หมู่ใหญ่มีธรรมเป็นแก่นสารเหลืออยู่, สารีบุตร ปรินิพพานไปแล้ว ฉันนั้นเหมือนกัน. อานนท์ ! ข้อนั้น จักได้มาแต่ไหนเล่า : สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว เป็นแล้ว อันปัจจัย ปรุงแล้ว มีความชำรุดไปเป็นธรรมดา สิ่งนั้นอย่าชำรุดไปเลย ดังนี้; ข้อนั้น ย่อมเป็นฐานะที่มีไม่ได้.อานนท์ ! เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลาย จงมีตนเป็นประทีป มีตนเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ; จงมีธรรมเป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ. อานนท์ ! ภิกษุ มีตนเป็นประทีป มีตนเป็น สรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ, มีธรรมเป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? อานนท์ ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นกายในกายเนืองๆ อยู่, พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายเนืองๆ อยู่, พิจารณาเห็นจิตในจิตเนืองๆ อยู่, พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายเนืองๆ อยู่; มีความเพียรเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้. อานนท์ ! ภิกษุอย่างนี้แล ชื่อว่ามีตนเป็น ประทีป มีตนเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ; มีธรรม เป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ เป็นอยู่. อานนท์ ! ในกาลบัดนี้ก็ดี ในกาลล่วงไปแห่งเราก็ดี ใครก็ตามจักต้องมีตนเป็นประทีป มีตนเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ; มีธรรมเป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ เป็นอยู่. อานนท์ ! ภิกษุพวกใด เป็นผู้ใคร่ในสิกขา, ภิกษุพวกนั้น จักเป็นผู้อยู่ในสถานะอันเลิศที่สุด. มหาวาร .สํ. ๑๙/๒๑๖-๒๑๗/๗๓๗-๗๔๐. ตรัสแก่ท่านพระอานนท์ ผู้เศร้าสลดในข่าวการปรินิพพานของท่านพระสารีบุตร ซึ่งจุนทสามเณรนำามาบอกเล่า ที่พระอารามเชตวันใกล้นครสาวัตถี.
แม่ชีสายฮา
รายละเอียดที่บุคคลควรทราบ เกี่ยวกับเรื่องกรรม ภิกษุทั้งหลาย ! กรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ นิทานสัมภวะแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบเวมัตตตาแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบวิบากแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ,กัมมนิโรธ เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ, กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ .... คำที่เรากล่าวแล้วดังนี้นั้น เราอาศัยอะไรกล่าวเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม เพราะว่าบุคคล เจตนาแล้ว ย่อมกระทำซึ่งกรรมด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ.ภิกษุทั้งหลาย ! นิทานสัมภวะ (เหตุเป็นแดนเกิด พร้อม) แห่งกรรมทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย ! นิทานสัมภวะแห่งกรรมทั้งหลายคือ ผัสสะ. ภิกษุทั้งหลาย ! เวมัตตตา (ความมีประมาณต่างๆ) แห่งกรรมทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย ! กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนาในนรก มีอยู่, กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนาในกำเนิด เดรัจฉาน มีอยู่, กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนาในเปรตวิสัย มีอยู่, กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนาในมนุษย์โลก มีอยู่, กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนาในเทวโลก มีอยู่. ภิกษุทั้งหลาย ! นี้เรากล่าวว่า เวมัตตตาแห่งกรรมทั้งหลาย. ภิกษุทั้งหลาย ! วิบาก (ผลแห่งการกระทำ) แห่ง กรรมทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าววิบากแห่งกรรมทั้งหลาย ว่ามีอยู่ ๓ อย่าง คือ วิบากในทิฏฐธรรม (คือทันควัน) หรือว่า วิบากในอุปปัชชะ (คือในเวลาต่อมา) หรือว่า วิบาก ในอปรปริยายะ (คือในเวลาต่อมาอีก). ภิกษุทั้งหลาย ! นี้เรากล่าวว่า วิบากแห่งกรรมทั้งหลาย.ภิกษุทั้งหลาย ! กัมมนิโรธ (ความดับไม่เหลือ แห่งกรรม) เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย ! ความดับแห่งกรรมทั้งหลาย ย่อมมีเพราะความดับแห่งผัสสะ. ภิกษุทั้งหลาย ! กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา (ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งกรรม) เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย ! อริยอัฏฐังคิกมรรค (อริยมรรค มีองค์แปด) นี้นั่นเอง คือ กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา; ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ :สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) สัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ) สัมมาวาจา (การพูดจาชอบ) สัมมากัมมันตะ (การทำการงานชอบ) สัมมาอาชีวะ (การเลี้ยงชีวิตชอบ) สัมมาวายามะ (ความพากเพียรชอบ) สัมมาสติ (ความระลึกชอบ) สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นชอบ). ภิกษุทั้งหลาย ! เมื่อใดอริยสาวก ย่อมรู้ชัดซึ่ง กรรม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง นิทานสัมภวะแห่งกรรม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง เวมัตตตาแห่งกรรม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง วิบากแห่งกรรม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง กัมมนิโรธ อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา อย่างนี้; อริยสาวกนั้น ย่อมรู้ชัดซึ่งพรหมจรรย์นี้ว่า เป็นเครื่องเจาะแทงกิเลส เป็นที่ดับไม่เหลือแห่งกรรม. ภิกษุทั้งหลาย ! ข้อที่เรากล่าวแล้วว่า “กรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ, นิทานสัมภวะแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ, เวมัตตตาแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ, วิบากแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ, กัมมนิโรธ เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ, กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ” ดังนี้นั้น เราอาศัยความข้อนี้กล่าวแล้ว. 5 ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๕๘,๔๖๓-๔๖๔/๓๓๔.
Sayo LUANGPRASEUTH ง
Sayo LUANGPRASEUTH น
อาก๋งบอกว่า ท่านมาแฝง ไม่ใช่เหรอคุณแม่ชี เพราะตามที่สังเกต คนหนึ่งอธิบายแบบหนึ่ง อีกคนอธิบาย อีกแบบหนึ่ง เอาอะไรมาวัต มาเปรียบเทียบว่าใคร ส่องเห็นจริงไม่จริง อย่างอาจารย์เรนนี่ ช่องส่องผี เซนส์สูงๆเขาบอกว่า บางวัดมีแต่ พระต่ยไปเป็นเปรด ก็มีส่วนนะ เพราะ พระทุวันนี้ก็เกือบจะเรียกได้ว่าส่วนมาก บวชเพื่อหารายได้ หามาได้ในลัษณะไหนถ้าได้มาดีก็คงไม่เป็นเปรต แต่ที่แน่ๆองค์อรหันต์ ที่หวังบวชเพื่อพิพานจริงๆคือ หลวงปู่มั่น เพราะอ่านประวัติท่าปลีกวิเวกตลอด เงินทองส่วนมากจะไม่รับ และใครแอบอ้างท่าน เพื่อนำท่านไปหากระเป๋าท่านไม่ชอบ ไปอ่านดูประวัติท่านได้ แต่ที่บวชเพื่อหวังทรัพย์สอนเงินทอง เกียรติยศชื่อเสียงมีเยอะมากทุกวะนนี้ และที่คิดว่า พวกพระพวกชี ที่จะส่องเห็นภพเห็นชาติจริงๆไท่รู้ว่ามีแค่ไหน นอกจากมโนไปเอง และที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจริงๆ ท่านก็ไม่มานั่งดูดวง ให้ใคร มุมานะ ปฏิบัตเคร่งครัดอยู่กลางดงพงไพรโน่น ที่ส่องเห็นจริงๆและที่น่าเชื่อถือได้คือ พวกที่ตายแล้วฟื้นหรือได้ญาณพิเศษมาหลังผ่านการตายมาก็พอจะน่าเชื่อถือได้ หรือคนคนนั้นปฏิบัติเคร่งครัดกว่าพระในวัด ร้อนเท่าพันเท่า คือทานอาหาร ก็ป็นพวกอาหารเจอย่างเคร่งครัด คนเหล่านี้มีส่วนที่จะไปตรงกับที่เขาว่า ชาติที่ผ่านมาเขาเคยปฏิบัตธรรมอย่างเคร่งครัด มาชาตินี้ จึงมามีอะไรพิเศษในตัวเขา อย่างที่หลายคลิป แสดงความคิดเห็นมาแต่ก็ไท่เป็นที่เชื่อถือได้จริงๆว่าใครพูดจริวพูดเท็จ เพราะบางคนก็ กลัวเขาจะเด่นเกิน ประเภทอย่าทำตัวให้เด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากจะเห็นเราเด่นเกิน หรือ เอ่ดีมส่ตัวเอา ชั่วใส่คนอื่นที่แน่ๆคือ พิจารณาเอาเองส่าตัวเรามีแาการอย่างไร ปฏิบัตธรรมอะไรมาบ้าง ทำได้ดีแค่ไหน ข้อนี้ม่กกว่าที่จะตัดสินว่า เกิดอะไรขึ้นกับเรา
กราบสาธุในธรรมคำสอนของแม่ชีค่ะ อยู่เยอรมันค่ะ
#ผู้ที่ได้ฟังผมถือว่าคุณเป็นผู้ที่มีบุญมากจริงๆครับ 🙏🏻
#ผมขออนุโมทนาบุญร่วมกับท่านเจ้าของห้องและทีมงานทุกท่านในการเผยแผ่ธรรมทานนี้ด้วยใจที่บริสุทธิ์จริงครับ 🙏🏻
#สาธุอนุโมทามิครับผม 🙏🏻
น้อมกราบแม่ ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
กราบอนุโมทนาบุญ
กับทุกๆท่านด้วย ครับ
ขอให้แม่มีสุขภาพ
แข็งแรงนะ......ครับ
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
สาธุสาธุสาธุธรรมค่ะแม่
ขอบคุณค่ะสาธุค่ะิแม่
สาธุค่ะแม่ชี ลูกก็เป็นอิกคนที่ไปเข้าพิธีไหว้ครูที่สำนักแห่งหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว ด้วยความเชื่อที่ผิดๆ ลูกขอตั้งจิตอธิฐานต่อคลิปของแม่ชีในวันนี้ที่ลูกได้มีบุญเข้ามาฟัง ขอให้การคืนขันธ์ต่อร่างทรงองค์เทพทุกท่านที่ลูกได้รับมาใส่ตัวขอให้ท่านทั้งหลายจงอย่าได้ถือโทษโกรธแค้นในตัวข้าพเจ้าอิกต่อไปเลยนะคะ ขอให้อโหสิกรรมต่อข้าพเจ้าและข้าพเจ้าก็ขออโหสิกรรมต่อท่านทั้งหลาย ขอยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อไป สาธุๆๆ
กราบสาธุสาธุแม่ชีทศพรคะ
สาธุๆค่ะแม่
กราบสาธุค่ะ
สาธุค่ะ
พระโพธิสัตว์ไม่มาทำให้มนุษย์เดือดร้อน ใช่ค่ะ ได้อ่านการบำเพ็ญบุญของ พระโพธิสัตย์ รักษาศีล สละให้ทาน ละได้ เพื่อประโยชน์ ของทุกชีวิต ไม่เบียดเบียนใคร
U7u76
สาธุครับแม่ชี.....
ได้ความรู้จริงๆครับ🙏🙏🙏
ความดับทุกข์มี เพราะความดับแห่งนันทิ ปุณณะ ! รูป ที่เห็นด้วยตาก็ดี, เสียง ที่ฟังด้วยหูก็ดี, กลิ่น ที่ดมด้วยจมูกก็ดี, รส ที่ลิ้มด้วยลิ้นก็ดี, โผฏฐัพพะ ที่สัมผัสด้วยกายก็ดี และธรรมารมณ์ ที่รู้แจ้งด้วยใจก็ดี, อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ เป็นที่ยวนตา ยวนใจให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้ง แห่งความกำหนัด ย้อมใจ มีอยู่. ภิกษุย่อมไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมก ซึ่งอารมณ์ มีรูปเป็นต้นนั้น. เมื่อภิกษุไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมก ซึ่ง อารมณ์มีรูป เป็นต้นนั้นอยู่, นันทิ (ความเพลิน) ย่อมดับไป. ปุณณะ ! เรากล่าวว่า “ความดับไม่มีเหลือแห่งทุกข์มีได้ เพราะความดับไม่เหลือแห่งความเพลิน” ดังนี้ แล. อุปริ. ม. ๑๔/๔๘๑/๗๕๖.
เคยเข้าตำหนักนะ แต่เขาดูอดีตของเราไม่ได้ ถามหมอดูก็ดูลายมือเราไม่ออก แปลกมาก แต่หลายคนที่ไปตำหนักนี่มั่นใจมากว่า พวกเขาเป็นร่างทรง แต่เรากลับไม่ค่อยเชื่อ แม้จะเคยนั่งสั่นตอนพิธีไหว้ครู (แค่ครั้งเดียว) แต่ก็ไม่ค่อยเชื่ออยู่ดี เรายึดหลักของพระธรรมอย่างเดียว ปฏิบัติที่ใจอย่างเดียว แต่แฟนเก่าเราเชื่อมากๆ จนรับขันธ์แล้วเราก็อยกทางกัน
หลวงพ่อเขียน วัดเขียนเขต แถวประทุมธานีค่ะ
สาธุๆค่ะ
น้อมกราบสาธุค่ะ
ให้พึ่งตน พึ่งธรรม
อานนท์ ! เราได้กล่าวเตือนไว้ก่อนแล้วมิใช่หรือ ว่า “ความเป็นต่างๆ ความพลัดพราก ความเป็นอย่างอื่น จากของรักของชอบใจทั้งสิ้น ย่อมมี; อานนท์ ! ข้อนั้น จักได้มาแต่ไหนเล่า : สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว เป็นแล้ว อันปัจจัย ปรุงแล้ว มีความชำรุดไปเป็นธรรมดา, สิ่งนั้นอย่าชำรุดไปเลย ดังนี้; ข้อนั้น ย่อมเป็นฐานะที่มีไม่ได้”.
อานนท์ ! เปรียบเหมือนเมื่อต้นไม้ใหญ่ มี แก่นเหลืออยู่ ส่วนใดเก่าคร่ำกว่าส่วนอื่น ส่วนนั้นพึง ย่อยยับไปก่อน, ข้อนี้ ฉันใด; อานนท์ ! เมื่อภิกษุสงฆ์ หมู่ใหญ่มีธรรมเป็นแก่นสารเหลืออยู่, สารีบุตร ปรินิพพานไปแล้ว ฉันนั้นเหมือนกัน.
อานนท์ ! ข้อนั้น จักได้มาแต่ไหนเล่า : สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว เป็นแล้ว อันปัจจัย ปรุงแล้ว มีความชำรุดไปเป็นธรรมดา สิ่งนั้นอย่าชำรุดไปเลย ดังนี้; ข้อนั้น ย่อมเป็นฐานะที่มีไม่ได้.
อานนท์ ! เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลาย จงมีตนเป็นประทีป มีตนเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ; จงมีธรรมเป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ. อานนท์ ! ภิกษุ มีตนเป็นประทีป มีตนเป็น สรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ, มีธรรมเป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? อานนท์ ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นกายในกายเนืองๆ อยู่, พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายเนืองๆ อยู่, พิจารณาเห็นจิตในจิตเนืองๆ อยู่, พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายเนืองๆ อยู่; มีความเพียรเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้.
อานนท์ ! ภิกษุอย่างนี้แล ชื่อว่ามีตนเป็น ประทีป มีตนเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ; มีธรรม เป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ เป็นอยู่.
อานนท์ ! ในกาลบัดนี้ก็ดี ในกาลล่วงไปแห่งเราก็ดี ใครก็ตามจักต้องมีตนเป็นประทีป มีตนเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ; มีธรรมเป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ เป็นอยู่. อานนท์ ! ภิกษุพวกใด เป็นผู้ใคร่ในสิกขา, ภิกษุพวกนั้น จักเป็นผู้อยู่ในสถานะอันเลิศที่สุด. มหาวาร .สํ. ๑๙/๒๑๖-๒๑๗/๗๓๗-๗๔๐. ตรัสแก่ท่านพระอานนท์ ผู้เศร้าสลดในข่าวการปรินิพพานของท่านพระสารีบุตร ซึ่งจุนทสามเณรนำามาบอกเล่า ที่พระอารามเชตวันใกล้นครสาวัตถี.
แม่ชีสายฮา
รายละเอียดที่บุคคลควรทราบ เกี่ยวกับเรื่องกรรม
ภิกษุทั้งหลาย ! กรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ
นิทานสัมภวะแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ
เวมัตตตาแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ
วิบากแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ,
กัมมนิโรธ เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ,
กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ ....
คำที่เรากล่าวแล้วดังนี้นั้น เราอาศัยอะไรกล่าวเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม เพราะว่าบุคคล เจตนาแล้ว ย่อมกระทำซึ่งกรรมด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ.
ภิกษุทั้งหลาย ! นิทานสัมภวะ (เหตุเป็นแดนเกิด พร้อม) แห่งกรรมทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย ! นิทานสัมภวะแห่งกรรมทั้งหลายคือ ผัสสะ.
ภิกษุทั้งหลาย ! เวมัตตตา (ความมีประมาณต่างๆ) แห่งกรรมทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย ! กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนาในนรก มีอยู่,
กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนาในกำเนิด เดรัจฉาน มีอยู่,
กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนาในเปรตวิสัย มีอยู่,
กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนาในมนุษย์โลก มีอยู่,
กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนาในเทวโลก มีอยู่.
ภิกษุทั้งหลาย ! นี้เรากล่าวว่า เวมัตตตาแห่งกรรมทั้งหลาย.
ภิกษุทั้งหลาย ! วิบาก (ผลแห่งการกระทำ) แห่ง กรรมทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าววิบากแห่งกรรมทั้งหลาย ว่ามีอยู่ ๓ อย่าง คือ วิบากในทิฏฐธรรม (คือทันควัน) หรือว่า วิบากในอุปปัชชะ (คือในเวลาต่อมา) หรือว่า วิบาก ในอปรปริยายะ (คือในเวลาต่อมาอีก).
ภิกษุทั้งหลาย ! นี้เรากล่าวว่า วิบากแห่งกรรมทั้งหลาย.
ภิกษุทั้งหลาย ! กัมมนิโรธ (ความดับไม่เหลือ แห่งกรรม) เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย ! ความดับแห่งกรรมทั้งหลาย ย่อมมีเพราะความดับแห่งผัสสะ.
ภิกษุทั้งหลาย ! กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา (ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งกรรม) เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย ! อริยอัฏฐังคิกมรรค (อริยมรรค มีองค์แปด) นี้นั่นเอง คือ กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา; ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ :สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)
สัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ)
สัมมาวาจา (การพูดจาชอบ)
สัมมากัมมันตะ (การทำการงานชอบ)
สัมมาอาชีวะ (การเลี้ยงชีวิตชอบ)
สัมมาวายามะ (ความพากเพียรชอบ)
สัมมาสติ (ความระลึกชอบ)
สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นชอบ).
ภิกษุทั้งหลาย ! เมื่อใดอริยสาวก ย่อมรู้ชัดซึ่ง กรรม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง นิทานสัมภวะแห่งกรรม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง เวมัตตตาแห่งกรรม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง วิบากแห่งกรรม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง กัมมนิโรธ อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา อย่างนี้; อริยสาวกนั้น ย่อมรู้ชัดซึ่งพรหมจรรย์นี้ว่า เป็นเครื่องเจาะแทงกิเลส เป็นที่ดับไม่เหลือแห่งกรรม. ภิกษุทั้งหลาย ! ข้อที่เรากล่าวแล้วว่า “กรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ, นิทานสัมภวะแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ, เวมัตตตาแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ, วิบากแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ, กัมมนิโรธ เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ, กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ” ดังนี้นั้น เราอาศัยความข้อนี้กล่าวแล้ว. 5 ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๕๘,๔๖๓-๔๖๔/๓๓๔.
Sayo LUANGPRASEUTH ง
Sayo LUANGPRASEUTH น
อาก๋งบอกว่า ท่านมาแฝง ไม่ใช่เหรอ
คุณแม่ชี เพราะตามที่สังเกต คนหนึ่ง
อธิบายแบบหนึ่ง อีกคนอธิบาย อีกแบบ
หนึ่ง เอาอะไรมาวัต มาเปรียบเทียบ
ว่าใคร ส่องเห็นจริงไม่จริง อย่าง
อาจารย์เรนนี่ ช่องส่องผี เซนส์สูงๆ
เขาบอกว่า บางวัดมีแต่ พระต่ยไปเป็น
เปรด ก็มีส่วนนะ เพราะ พระทุวันนี้
ก็เกือบจะเรียกได้ว่าส่วนมาก บวช
เพื่อหารายได้ หามาได้ในลัษณะไหน
ถ้าได้มาดีก็คงไม่เป็นเปรต แต่ที่แน่ๆ
องค์อรหันต์ ที่หวังบวชเพื่อพิพานจริงๆ
คือ หลวงปู่มั่น เพราะอ่านประวัติท่าปลีกวิเวกตลอด เงินทองส่วนมากจะ
ไม่รับ และใครแอบอ้างท่าน เพื่อนำ
ท่านไปหากระเป๋าท่านไม่ชอบ ไปอ่าน
ดูประวัติท่านได้ แต่ที่บวชเพื่อหวัง
ทรัพย์สอนเงินทอง เกียรติยศชื่อเสียง
มีเยอะมากทุกวะนนี้ และที่คิดว่า พวก
พระพวกชี ที่จะส่องเห็นภพเห็นชาติจริงๆไท่รู้ว่ามีแค่ไหน นอกจากมโนไปเอง และที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
จริงๆ ท่านก็ไม่มานั่งดูดวง ให้ใคร
มุมานะ ปฏิบัตเคร่งครัดอยู่กลางดง
พงไพรโน่น ที่ส่องเห็นจริงๆและที่น่า
เชื่อถือได้คือ พวกที่ตายแล้วฟื้นหรือ
ได้ญาณพิเศษมาหลังผ่านการตาย
มาก็พอจะน่าเชื่อถือได้ หรือคนคนนั้น
ปฏิบัติเคร่งครัดกว่าพระในวัด ร้อนเท่า
พันเท่า คือทานอาหาร ก็ป็นพวกอาหาร
เจอย่างเคร่งครัด คนเหล่านี้มีส่วนที่
จะไปตรงกับที่เขาว่า ชาติที่ผ่านมาเขา
เคยปฏิบัตธรรมอย่างเคร่งครัด มาชาตินี้ จึงมามีอะไรพิเศษในตัวเขา อย่าง
ที่หลายคลิป แสดงความคิดเห็นมา
แต่ก็ไท่เป็นที่เชื่อถือได้จริงๆว่าใครพูด
จริวพูดเท็จ เพราะบางคนก็ กลัวเขา
จะเด่นเกิน ประเภทอย่าทำตัวให้เด่น
จะเป็นภัย ไม่มีใครอยากจะเห็นเราเด่น
เกิน หรือ เอ่ดีมส่ตัวเอา ชั่วใส่คนอื่น
ที่แน่ๆคือ พิจารณาเอาเองส่าตัวเรา
มีแาการอย่างไร ปฏิบัตธรรมอะไรมา
บ้าง ทำได้ดีแค่ไหน ข้อนี้ม่กกว่าที่
จะตัดสินว่า เกิดอะไรขึ้นกับเรา
กราบสาธุค่ะ