มาเวลนะผมแทบจะโตมากับมันเลย พอถึง end game มันอิ่มไปแล้ว อารมณ์เดียวกับนารุโตะ พอมีเรื่องลูกนารุโตะผมกลับไม่สนใจ อีกอย่างหนังฮีโร่สุดท้ายพระเอกก็ชนะ มันเลยเดาทางได้ง่าย แต่ดีที่มีมุกตลอดช่วยให้พอดูได้
หลังจากผมดู Man of Steel ไป ส่วนตัวผมรู้สึกว่า แทบไม่มีหนังฮีโร่เรื่องไหนทำ action scenes ได้ดีเท่า mos อีกเลย, เหมือนมันสร้างมาตรฐานไปแล้ว (อันนี้สำหรับตัวละคร พลังเหนือมนุษย์นะ)
ไอข้อสุดท้ายนี้เห็นด้วยสุดๆและเหมือนผู้สร้างจะเริ่มรู้ตัวแล้วนะว่ามันน่าเบื่อช่วงหลังมานี้หนังเข้สเลยเริ่มไม่เล่าต้นกำเนิดของฮีโร่ตัวนั้นๆแล้วอย่าง spider-man home coming the batman นี้ก็ข้ามไปเล่าตอนที่ไอพวกนี้มันเป็นฮีโร่แล้วเลยและล่าสุด superman legacy กับ the fantastic four ก็ลือกันว่าจะสองเรื่องนี้จะไปเล่าในช่วงที่เป็นฮีโร่มาได้สักพักแล้วด้วย
ส่วนตัวรู้สึกว่า Multiverse หลัง end game มันทำให้เนื้อเรื่องดูฟุ้ง คือ อยากจะให้เกิดอะไรขึ้นกับตัวละครหรือจะปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องยังไงก็ได้ มันเลยทำให้ความขลังของจักรวาล marvel มันลดลง ยิ่งสเกลขยายออกไปนอกโลก ยิ่งไม่ wow เพราะหนังไม่ดู real แล้ว เวลาดูผมสลัดภาพ star trek กับ star war ออกจากหัวผมไม่ได้จริงๆ
เจาะลึก ' มาดามเว็บ ' กับ Sony's Spider-Man Universe ua-cam.com/video/mNLfZmHtTqg/v-deo.htmlsi=J78Wljgf44wHzzUR
ไครจะด่าพี่จีนได้ลงคอ 😅
@@nobody9133 เพราะดูความแฟนตาซีจนเบื่อแล้ว คนสมัยนี้ดูจนเบื่อ 15 ปี สมัยเราอยู่ ม.2 เราอายุ 29 ปี
ที่ผมเบื่อคือ จะต้องคอยมานั่งดูซีรี่ย์เพื่อทำการบ้านก่อนที่จะดูหนังฮีโร่เรื่องใหม่สักเรื่อง จะได้รู้ความเป็นมาเป็นไปของตัวละครบางตัวที่มาใหม่ในหนัง หรือแม้แต่ตัวละครเก่าที่เปลี่ยนไปจากเดิมว่าเกิดจากอะไร ทำให้ตอนนี้หันไปดูหนังที่มันจบในตัว หรือเป็นหนังภาคต่อของเรื่องนั้นๆไปเลย โดยไม่ต้องมีจักรวาลที่แยกออกไปให้วุ่นวาย ผมไม่ได้มีเวลามานั่งดูซีรี่ย์เพื่อทำการบ้านมากขนาดนั้น
เป็นเหมือนกันครับ ค่ายคงคิดเรื่องการตลาดเป็นหลักแต่ลืมคิดไปว่าคนที่ดูหนังอย่างเดียวชอบอะไรที่จบในตัวมีไม่น้อย
ใครมันจะมาทำการบ้านทนดูซีรีส์ยาวๆ หลาย 10 ชั่วโมงเพื่อไปดูหนังโรงที่จบใน 2 ชม สายหนังเซ็งอ่ะ😂😂
อันนี้จริงครับ มาเวลหลังจาก End game ผมก็ไม่ค่อยดูแล้ว ขี้เกียจทำการบ้านเพราะก่อนหน้านั้นยังอยู่วัยเรียน แต่ตอนนี้วัยทำงานแล้ว
ช่วงแรกๆ ซีรีย์มาร์เวล คือดีนะ ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้
แต่หลังๆ ไม่ไหวจริง บังคับดู ไม่ดู ไปดูหนังโรงต่อไม่รู้เรื่อง
สุดท้าย ตามไม่ไหวเหมือนกัน
+++++
จริงแท้ 100 เอนจอยกับมาเวลมาตลอดไม่ว่าจะเฟสไหนใครจะด่าอะไรก้ช่างเพราะชอบแต่บางเรื่องก้ไม่ชอบแต่ก็ดูได้มาตลอดจนกระทั่ง มีซีรีย์บังคับดูเพื่อไปเข้าใจหนัง พอเลยจบ
หนังฮีโร่เป็นแค่สวนสนุกดังคำกล่าวที่ผู้กำกับท่านนึงได้พูดไว้
สวนสนุกเล่นซ้ำๆก็เบื่อเป็นธรรมดา
มาเวลทำหนังฮีโร่แบบavengerไว้แบบมาตรฐานสูงลิ่ว พอคนอื่นมาทำ หรือแม้กระทั่งตัวมาเวลเองก็เหอะ มันไปไม่ถึงมาตรฐานที่เคยทำเอาไว้
หนังขี้ตีน
ไม่เกี่ยว น่าเบื่อเพราะพล็อตเรืองเดิมๆซ้ำๆ
เดดพูล คือความหวังหรือเปล่ารอดูครับ😂
ไม่ได้สูงลิ่วขนาดนั้นหรอกครับ ม้นเป็นสูตรสำเร็จของหนังแนวนี้อยู่แล้ว ที่มันสูงก็แค่ยอดรายได้ แต้มาตรฐาน มันเป็นแค่สูตรที่มันสำเร็จรูปมาตั้งแต่แรกแล้ว
อีกอย่างคือ เหมือนปูเรื่องไว้สำหรับอีเวนท์ใหญ่อย่างเดียว
ที่เบื่อเพราะอายุมากชึ้น และมีอะไรที่ต้องคิดอีกหลายอย่าง
ลองเทียบกับตอนเด็กๆ ดูพวกยอดมนุษย์หลากสีทั้งหลาย รูปแบบก็เหมือนเดิม แต่ดูแล้วรู้สึกสนุก
แต่ก่อนหนังฮีโร่เป็นมากกว่าหนังฮีโร่
ตอนนี้หนังฮีโร่เป็นแค่หนังฮีโร่
Scoop เดียวสั้นๆเคลียร์ชัดเข้าใจง่ายในทุกประเด็นจริงๆครับ
ต้องขอขอบคุณพี่จีน พี่ตุล มากๆเลยครับ ที่สรรค์สร้าง Content ที่มีเนื้อหาสาระและเกร็ดความรู้เข้มข้นแบบนี้ออกมาให้เราได้เสพกันอย่างสร้างสรรค์
รักษาสุขภาพด้วยนะครับ พี่จีน พี่ตุล ด้วยความห่วงใยและนับถือ
เมื่อก่อนไม่คิดว่าจะเบื่อหนังฮีโร่นะ เพราะชอบมาก แต่พอช่วงโควิดไม่ได้ดูในโรง+เรื่องใหม่ๆทำออกมาจำเจน่าเบื่อ เล่าเรื่องน่าเบื่อ ยิ่งทำให้เบื่อหนังแนวนี้ไวขึ้นเลย 5555 คือยังชอบแนวนี้นะ แค่มันไม่ใช่หนังที่ต้องดูขนาดนั้นแล้ว ไว้ดูตอนว่างมากๆ/รอลงสตรีมดีกว่า เพราะเสียเงินกับหนังน่าเบื่อมันไม่คุ้ม
ส่วนตัวผม ช่วงโควิดที่ผ่านมา หนังที่ถูกใจทั้งเนื้อเรื่องตัวละครรายได้คำวิจารณ์ คือเรื่อง ชางชี มันใหม่ตัวละครใหม่ แต่คือดีย์
ไม่ได้เบื่อ แต่แค่รู้สึกว่าคุณภาพมันลดลงในแง่ของบท แถมซ้ำซาก มันควรอะไรใหม่ๆบ้าง หรือไม่ก็ต้องทำมาดีจริงๆอ่ะ เหมือน gotg อ่ะ แต่อันนั้น james gunn เก่งจริง เหมือนหลังๆหาผู้กำกับที่เก่งหรืออยากทำจริงๆยากอ่ะ ยิ่งหลังๆยิ่งทำยาก มี james gunn คนเดียวที่ไว้ใจได้ เห็นชื่อแกยังไงก็ไว้ใจได้ว่าหนังมันดีแถมสนุกด้วย
ใช่ครับหนังแนวฮีโร่มันไม่น่าเบื่อหรอก แต่หนังฮีโร่ส่วนมากดูน่าเบื่อต่างหาก
@RedRose-ot7lkดูยังใงก็เบื่อ ใส่ชุดกิ้งก้องหลากสี กู้โลกกับกวีฮาๆใว้พูดปิดเกม หรือปลุกใจดูแล้วจำเจจนเอียน ถ้าเด็กดูอะพอได้ แต่ถ้าโตๆแบบเราต้องถอดสมองดู
เบื่อแล้วก้บบทพระเอก นางเอก ตัวร้าย ดูอย่าง The Boy กับ Deadpool ฉีดทุกกฏหนังฮีโร่ครับ
เห็นด้วยคับ กับ2เรื่องนี้ ผมแฟนมาร์เวลก็จริง แต่ชอบ the boy มาก เป็นหนังที่เล่นกับก้นบึ้งขอฃจิตใจ ที่ดีได้สุด โหดได้สุด และมีความดาร์คในตัว มีความเป็นไปได้ ที่แผนตัวร้ายทำสำเร็จ เหมือนคนละขั้วกับหนังฮีโร่ทั่วไป
ก็มันเป็นเอกลักษณ์ของหนังฮีโร่ ถ้าพูดงี้ก็เหมือนบอกว่าหนังโรเมนซ์หน้าเบื่อเพราะเซ็ตบทพระเอกนางเอก
ถ้าหนังฮีโร่จะกลับมารุ่งได้อีก นอกจากจะแก้เรื่องดีไซน์ บท คัดนักแสดงหรือการเล่าเรื่องแล้ว เรื่องที่อาจต้องละเลิกไปก็จำพวกเผยข้อมูลก่อนหนังฉาย สมัยนี้ทั้งตัวอย่างทั้งข่าวโซเชียลก็ล่อซะคนดูรู้เรื่องหมดก่อนหนังจะสร้างด้วยซ้ำ กับลองโลภให้น้อยลงงานไม่ต้องปล่อยมาถี่ๆปีละสี่ห้าเรื่องไม่พอยังจะลงมันหลายช่องทางเรียกว่าตอนนี้มีตาแค่สองลูกตามดูไม่ทันแล้ว มันเกลื่อนซะเป็นของตลาดนัดไม่ใช่ของพรีเมี่ยมแบบช่วงก่อนหน้า
สำหรับผม เพราะหนังฮีโร่มันมีแพทเทิร์นไง มีปม ได้รับพลัง ต่อสู้ เกือบจะแพ้ ฮึดมาอีกที ตูม ตัวร้ายก็แล้วแต่ชะตากรรมของแต่ละเรื่อง
เรื่องแรก(ของมาร์เวล) ที่ไม่มีแพทเทิร์นแบบนี้ ผมให้โลกิ เพราะตอนจบ ไม่ได้ต่อสู้กับตัวร้ายอะไรเลย ต่อสู้กับจักรวาล กับเวลา
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
เริ่มคิดถึงคำพูดของปู่มาติน
ปู่มาตินคือผู้ก่อนกาลแล้วก็เป็นแบบที่ปู่พูดไว้จริงๆ
ถูกเลยครับพี่จีน สำหรับส่วนตัวผมเสริมอีก 3หัวข้อ
- คนสำคัญถูกจับตัวไป
- ตัวเอกชนะเสมอตอนจบ
- ปัญหาจากดาวไหนๆก็มาจบที่ โลก
😂😂😂 เบื่ออออออ
ขอพูดในมุม ที่ไม่ใช่ตัวหนังนะครับ
1. 15 ปีเลยนะครับ กับหนังแนวเดิมๆ ไม่เบื่อเลจก็แปลก
2. 15 ปี คนในยุคที่ติดหนังฮีโร่เริ่มแก่ ความชอบ ความสนใจก็เปลี่ยา
3. เริ่มกลับมามีหนังแนวอื่นที่ดีๆ เข้าฉาย คนก็มีทางเลือกมากขึ้น
4. ช่วงโควิด เอาแต่นั่งดูหนังจนเบื่อแล้ว พอออกมาได้ ก็คงหากิจกรรมอื่นทำ
5. End Game เป็นจุดตีดจบหนังฮีโร่ คนก้ขี้เกียจจะมาตามใหม่ตั้งแต่ต้น
สตีเว่น สปีลเบิร์ก คาดการณ์ไว้เมื่อปี 2015 ว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ความนิยมจะลดลง เหมือนอย่างช่วงหมดยุคหนังคาวบอยในสมัยก่อน
เริ่มเบื่อตอนมีจักร์วาลคู่ขนานเนี่ยล่ะ หยิบมาเล่นกันจัง😮 อ้ออีกอย่างคือเปลี่ยนเพศเปลี่ยนสีผิวตัวละครเนี่ยเบื่อจัดๆเลย
ฮีโร่คนเก่ง สุดท้ายตัวร้ายก็เรียบร้อยอยู่ดี เป็นมวยก็ขึ้นไปต่อยเถียง สู้กันๆ สักพัก พอถึงยกสุดท้ายก็หามุมหลับได้เลย
ปัญหาผมว่าอยู่ที่เนื้อเรื่องหลังปูตัวละครใหม่มาเยอะเกินไปบทก็ไม่ดีเหมือนแต่ก่อนทำให้คนดูไม่อินไม่รู้สึกผูกพันกับตัวละครเลยยิ่งของค่ายโซนีเหมือนทำไปงั้นๆหยั่งกับฟอกเงิน 5555
นึกถึงคำพูดของป๋ามาติน ที่เปรียบว่าคือสวนสนุก ป๋าเเกอ่านขาดจริงๆ เเต่ไม่นึกว่าจะเห็นผลไวขนาดนี้
เบื่อที่หนังแต่ละเรื่องไม่ได้มีหน้าที่เล่าเรื่องราวของฮีโร่หรือเหตุการณ์ของตัวเองอีกต่อไป สร้างมาเพื่อปู เพื่อสานต่อ เพื่อทิ้งเชื้อ
หลังๆ หนังเดี่ยว MCU ตัวละครเอกแทบจะไม่สูญเสีย ไม่เจริญเติบโต อะไรเลย พื้นหลัง เรื่องราวแวดล้อมไม่มีอะไรสำคัญเลย เจอปัญหา รีบต่อยตัวร้ายแล้วปูทางจักรวาลหนังซะ
ส่วนตัวสุดๆ เซ็งที่ทุกตัวเลยไม่มีซีนแปลงร่างไม่ suit up กันแล้ว ถ้าไม่ nanotech ก็เสกชุดกันหมด
กับอีกเรื่องคือ ฮีโร่แต่ละตัว ไม่มีจุดอ่อน จุดแข็งเลย ทุกคนก็ดูจะโจมตีรุนแรง ทุกตัวดูทนทานเท่าๆ กัน ตัวบินได้กับตัวบินไม่ได้ ไม่เห็นต่างกันตรงไหน บางทีปล่อยพลังใส่กัน ไม่รู้จะต้องเชียร์ตัวเอกมั้ย ดูไม่ออกว่าเก่งกว่ารึเปล่า แก้ปัญหาด้วยการต่อยแรงกว่า พลังใหญ่กว่า เลยไม่มีฉากต่อสู้น่าจดจำเท่าไหร่
ผมเบื่อ ขนบ เเบบความดีชนะความชั่วมากกว่า เเบบสู้กันจนดาวระเบิด เเต่ฝั่งตัวเอก ไม่ตายเลยสักคน เเต่ฝั่งตัวร้ายตายเกลี้ยงๆ หรือ ตัวร้ายกลับใจเพราะโดนตัวเอกพ่นคำคม ธรรมมะกระตุกกระชากใจ ใส่นี้เเหละ เบื่อมาก
สิ่งที่ทำให้หนังฮีโร่น่าเบื่อที่ไม่ได้พูดในคลิปคือ การที่ตัวร้ายมันกากครับ เปิดตัวอย่างอลังการแต่สุดท้ายตายง่อยๆง่ายๆ มันทำให้เรื่องที่เล่ามาทั้งหมดมันไม่สมเหตุสมผล คนดูต้องการความจริงจังความฉลาดของตัวละคร แต่หลายเรื่องขนาดเอาดาราเบอร์ใหญ่มาเล่น แต่คาแร็คเตอร์แบนราบ มีการกระทำที่ไร้เหตุผล ทุกอย่างมันก็พังซิครับ
ถูกครับ ถึงเรื่องจะซ้ำๆแต่ถ้าตลค.มีเสน่ห์ ตัวร้ายน่าจดจำมันก็ยังดูสนุก ใน endgame คนบอกพีคๆละเรื่องมันไม่ซ้ำตรงไหน พล็อตย้อนเวลามีมากี่10ๆปีแล้ว แต่มันก็ยังสนุก
เหมือนตัวร้ายใน ท้อ 4 ป่ะ 😆
เห็นด้วยครับ คัวร้่ายกากจริงๆ(ยกเว้นทานอส)
ถ้าใน จักรวาล mavel ตัวร้ายที่ดูน่ากลัว จนถึงขั้นเป็นภัยพิบัติต่อตักรวาล และคนดูเลย ผมยกให้ ทานอส ตัวเดียว เลยครับ กว่าจะไปถึงภาค endgame ผมแทบนอนไม่หลับ คิดมาตลอดว่า ฮีโร่แมร่งจะตายจริงๆจนหลือกี่ตัวว่ะเนี่ย
จำที่เด่น ๆ ที่สุดคือ ทานอส เพราะมันไล่ตบซุปเปอร์ฮีโร่ทุกตัวได้ นอกนั้นไม่ค่อยจำกากเกินจริง ๆ
การันตี ว่า หนังซุปเปอฮีโร่ไม่ได้ขาลง ไม่ได้บทซ้ำซาก ไม่ได้น่าเบื่อ แต่เป็นแค่การ "ชุ่ย" แค่นั้น แล้วมันก็จะกลับมาเรื่อยไม่มีวันจบง่ายๆ ดังนั้นใครไปพูดไปบอกว่าหนังฮีโร่จบแล้ว ขาลงแล้ว เดี๋ยวพอมีดีๆมาเรื่องนึงก็เงียบทีนึง ดังนั้นตัดสินไม่ได้ หากไม่มองภาพกว้าง แต่เป็นการเอาหนังบางเรื่องมาตัดสินรวมทั้งหมด
เลิกหลอกตัวเองก่อน
@@ElioPerlman17 ไอ่พวกบอกกขาลงสิหลอกตัวเอง 5555 เดี่ยวเดดพูลเข้าก็ต้องมาพับลิ้นเก็บ
เรื่องที่สำเร็จมีแทรกอยู่ตลอด แต่มองแค่เรื่องที่ตัวเองไม่ชอบ แล้วจับมาขยายเหมาทั้ง category มันบ๊อง
@@nore2022 ก็เห็นติ่งมาร์เวลต้องพับลิ้นเก็บตลอด น่าสมเพชจริงๆเลย มีความหวังริบหรี่ก็อวยกันซะไส้แตก ฮามาก
ผมเป็นฝั่งที่ไม่เบื่อหนังฮีโร่นะครับ แต่ยอมรับว่าช่วงหลังๆ เลือกดูมากขึ้น ถ้าไม่น่าสนใจก็จะข้าม
พูดถึงหนังฮีโร่ที่มีพอตตายแล้วฟื้น แว๊บแรกผมนึกถึง หนังซูปเปอร์ฮีโร่อย่าง fast เลยครับ โคตรซูปเปอร์ฮีโร่
ถ้าเปรียบเทียบอารมณ์หนังฮีโร่คือประเภทหนังชนิดหนึ่ง มันจะมีอีกหนังประเภทที่เจอสถานการณ์คล้ายๆกันคือ หนังสายลับ หนังสายลับช่วงหลังๆก็กระแสตก หรือเทียบกับหนังแอ็คชั่นที่มีเกลื่อนตลาด พอตเรื่องใดๆผมว่ามันไม่ปัญหาของความน่าเบื่อ ถึงจะซ้ำกัน แต่ดูแล้วสนุก ผมเชื่อว่าคนดูเขาก็ดู จากรายได้คือคำตอบที่ชัดเจนจากคนดู แต่สิ่งที่ผมคิดมาตลอดว่ามันกระทบต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ฉายโรงคือ สตรีมมิ่ง พฤติกรรมคนดูเบื่อดูหนังในโรงแต่ยังคงดูหนังในสตรีมมิ่งแทน บางเรื่องไม่ดูในโรงแต่ดูที่บ้าน มันมีผลทั้งในแง่สภาวะเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ สมัยก่อนค่าใช้จ่ายรายหัวแต่ละคนมันไม่เยอะอย่างทุกวันนี้ ทางเลือกในความบันเทิงต่างๆก็ยังมีตัวเลือกให้เลือกน้อย ไม่ว่าจะมีหนังอะไรเข้ามาคนก็ย่อมสนใจดูเพราะมันคือหนึ่งในสื่อบันเทิงไม่กี่อย่างที่มีให้ เทียบในปัจจุบันหลายๆอุตสาหกรรมเติบโตไวทั้งการแข่งขันภายในอุตสาหกรรมเดียวกัน ไหนจะต้องแข่งขันกับอุตสาหกรรมอื่นๆอีก
ถ้าตัดปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ออกไป ปัจจัยภายในที่ควบคุมได้อย่างเนื้อเรื่อง การนำเสนอและการดำเนินเรื่อง คือจุดที่จะทำให้คนดูรู้สึกเบื่อหรือไม่เบื่อ ถึงจะพอดเดิมๆคนดูรู้อยู่แล้ว ดูแค่ตัวอย่างก็รู้ถึงตอนจบ แต่วิธีการนำเสนอและดำเนินเรื่อง ฝีไม้ลายมือของผู้กำกับและคนเขียนบทแต่ละคนนี่แหละที่สำคัญ นักแสดงมีผลแต่ไม่มาก นักแสดงมีแค่ชื่อกับหน้าตาดึงดูดคนให้มาดูเพราะชื่อหรือหน้าตา แต่สุดท้ายทั้งหมดจะแสดงออกมายังไงแบบไหนผู้กำกับก็จะเป็นคนสั่งคนควบคุม หลายๆเรื่องผู้กำกับใช้ฝีมือนักแสดงไม่คุ้มค่าเลยด้วยซ้ำเหมือนเอามาฆ่า นักแสดงแสดงเรื่องอื่นดีแต่มาตายกับหนังฮีโร่ก็เยอะเกิดจากคนเขียนบทและผู้กำกับที่ตีกรอบหรือเขียนบทให้นักแสดงเหล่านั้นต้องแสดงเพียงแค่นั้น เช่น นักแสดงบางคนเล่นซีนดราม่าเก่งมากแต่พอมาอยู่ในหนังฮีโร่ไม่มีฉากให้เล่นซีนดราม่าเลยมีแต่ให้แอ็คชั่นกับเล่นมุกตลก เหมือนใช้คนไม่ถูกกับงาน มันก็เลยออกมาไม่สุด
ความคิดเห็นส่วนตัวของผมที่จะทำให้คนดูสนใจดูหนังในโรงมากขึ้น คือหนังที่ฉายในโรงต้องมีอะไรพิเศษกว่าฉายในสตรีมมิ่ง หรืออย่างน้อยปรับระยะเวลาหนังหลุดโรงเข้าสตรีมมิ่งให้นานขึ้นจาก 3-6 เดือน เพิ่มเป็น 1 ปี เชื่อผมหนังหลายคนที่คนสนใจดูจะอดใจรอให้เข้าสตรีมมิ่งไม่ได้ จะกลับมาดูในโรง เพราะระยะเวลาหนังหลุดจากโรงแล้วเข้าฉายในสตรีมมิ่งมันไม่ได้นานนักทำให้หลายคนรอได้ ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งมีขึ้นเพื่อแข่งขันกับเว็บหนังเถื่อนที่เติบโตต่อเนื่อง ไอเดียนี้ผมยกของอุตสาหกรรมเกมมาเปรียบเทียบ เพราะมันมีเกมเถื่อนและเกมแท้ โดยปกติแล้วพวกเกมเถื่อนแทบจะปล่อยพร้อมเกมแท้หรือปล่อยหลังเกมแท้ไม่กี่วันแล้วแต่พวกนักแคร็กจะทำแจกเมื่อไหร่ แต่อันนี้ผมเคยเห็นข้อมูลผ่านๆไม่รู้จริงไหม ปัจจุบันค่ายเกมบางค่ายเขาก็เรียกว่าเหมือนยอมนักแคร็ก ทำสัญญาบ้างว่าเกมแท้เกมนี้ปล่อยออกมาห้ามแคร็กแจกเป็นระยะเวลา 1ปี เพื่อให้คนซื้อเกมแท้เล่นไม่รอโหลดเถื่อน หรือบางเกมก็ใส่บัคหรือตัวดักต่างๆสำหรับพวกโหลดเถื่อนมาเล่นให้เล่นลำบาก แต่อุตสาหกรรมหนังดันไม่ทำแบบนั้น ดันทำสตรีมมิ่งมาแข่งกับเว็บหนังเถื่อนแทน ถ้าชอบดูหนังเถื่อนที่บ้านนักก็เปลี่ยนให้คนมาดูหนังแท้ที่บ้านแทนไปเลย การเป็นยิ่งดึงคนดูให้ออกจากโรงหนังมากขึ้นไปอีก ผมเชื่อว่าคนดูหนังไม่ได้เบื่อกับหนังหรอก ถ้าเทียบเอายอดคนดูจากที่ในโรงหนังและในสตรีมมิ่งมารวมกันมันก็ไม่ได้น้อยลงที่ถึงขนาดแสดงให้เห็นชัดว่าคนเบื่อการดูหนังหรือเบื่อหนังฮีโร่ แต่รายได้จากการฉายโรงที่ลดลงมันไม่ได้บ่งบอกว่าคนเบื่อมากขึ้น คนดูบางส่วนอาจเก็บเงินและเวลาไปดูในสตรีมมิ่งแทน
มันคือข้อเสียของค่ายหนังและผู้ให้บริการสตรีมมิ่งอาจจะมองข้ามหรือลืมไปในช่วงที่กระแสสตรีมมิ่งมาแรงคือการสร้างพฤติกรรมคนดูที่เปลี่ยนไป คนดูติดการดูในสตรีมมิ่ง แต่จะทำยังไงที่จะดึงคนดูจากสตรีมมิ่งให้กลับไปดูในโรงหนังได้ หนังแต่ละเรื่องจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเอาตรงๆยากกว่าตอนจะดึงคนดูจากโรงหนังไปดูในสตรีมมิ่งอีก เพราะข้อดีในการดูผ่านสตรีมมิ่งมันเยอะกว่าในโรงค่อนข้างชัดเจน
สำหรับผมถ้าเทียบหนังฮีโร่ตอนนี้ก็เหมือน อาหารที่เรากินเป็น ข้าวกะเพรา ตอนนี้เรากินแบบซ้ำซากจำเจมาก เหมือนเรากินกะเพราะที่เปลี่ยนแค่เนื้อสัตว์ เรื่องนี้นี้เป็นกระเพรากุ้ง อีกเรื่องเป็นกะเพราไก่ อีกเรื่องนึงเป็นกะเพราหมู่สับ แต่รสชาติมันเป็นรสชาติเดิมๆ ไปเปลี่ยนมันเลยมำให้เลี่ยน แต่พอเรามีอาหารรสชาติใหม่แปลกใหม่เช่น ต้มยำ ซึ่งเปรียบเทียบเป็นหนังที่แตกต่างออกไปจากโทนเดิมอย่างเดทพูล คนก็เลยยังให้ความสนใจอยู่ เพราะมันมีความแตกต่างรสชาติใหม่ ที่หาไม่ได้จะเมนูอื่นหรือเรื่องไหน
เริ่มเบื่อจริงครับ โดยเฉพาะค่าย M ออกซีรีย์ ออกมุก end credits ในหนังเยอะไปจนตามไม่ทัน สุดท้ายไม่ดูดีกว่า พอแล้ว
นานๆสร้างครึ้งนึงก็ดูสนุกอยุ่หรอก แต่นี่มีทุกปี ดูจนเบื่อพรอตเรื่องก็เดิมๆ บอกตรงๆตอนนี่เบื่อหนังขบวนการเซนไตฝรั่งยุโรปมาก
ใช้คำว่าหนักสุด เปลี่ยนเสียง มีหัวเราะ เอิ่มมมมม
ต้นกำเนิด ถ้าตัวใหม่ๆก็ไม่น่าเบื่อหรอกครับ อย่าง GOTG เล่าต้นกำเนิด rocket นี่โคตรใหม่ และได้ใจเลย
แต่อย่าง spider TomHolland ไม่มีเล่าต้นกำเนิดเลย ก็ไปได้ดีตอนเปิดตัว
ก็อย่างที่ในคลิปบอกแหละครับ ผู้สร้างก็พยายามเล่าเรื่องให้แตกต่าง คนดูอย่างเราๆจะได้ไม่เบื่อ ก็อย่างที่หลังๆที่มาร์เวลลองทำอะไรใหม่ๆ บางเรื่องก็ดี บางเรื่องก็แย่ไปเลย อยู่ในช่วงกำลังหาแนวทางใหม่หลังจบอีเว้นท์ใหญ่ ต้องให้เวลาหน่อย
ตัวร้ายมาจากคนดีที่คนรักตาย แล้วมาโทษฮีโร่ แล้วมาฆ่าฮีโร่ สุดท้ายฮีโร่ชนะ
ผมไม่ได้เบื่อ แต่ออกมาเยอะและเร็วเกินไป เดี๋ยวตัวนั้น เดี๋ยวตัวนี้ ออกมาเป็นซีรีย์ อีก ไม่ได้มีเวลาดูทุกวัน พอมาดูหนังโรงงงเลยมันต้องค่อยๆปูให้เราซึมซับ กับตัวละคร
ผมหาเหตุผลไม่ได้ว่าเบื่ออะไร แต่พอฟังคลิปนี้ไปเรื่อยๆที่ละหัวข้อมันใช่เลย ตรงนี้นี่เองที่ทำให้เบื่อ ความตื่นเต้นที่ได้ดูมันหายไป ตอนนี้ผมกับดูหนังชีวประวัติ ที่ทำจากเรื่องจริงสนุก หนังฮีโร่เหมือนรู้ตอนจบอยู่แล้วว่ายังไงมันก็ต้องชนะ ไม่ต้องลุ้น เพราะมันก็ต้องไปฆ่าตัวร้ายในภาคอื่นต่อ
มาเวลนะผมแทบจะโตมากับมันเลย พอถึง end game มันอิ่มไปแล้ว อารมณ์เดียวกับนารุโตะ พอมีเรื่องลูกนารุโตะผมกลับไม่สนใจ อีกอย่างหนังฮีโร่สุดท้ายพระเอกก็ชนะ มันเลยเดาทางได้ง่าย แต่ดีที่มีมุกตลอดช่วยให้พอดูได้
ใช่ ผมเบื่อมาก ปวดหัวด้วย เวียนวนกันไปหมด เบื่ออๆๆ มันควรจบไปนานแล้ว ตอนนี้ดูแต่หนังสร้างจากเรื่องจริง
หลังจากผมดู Man of Steel ไป ส่วนตัวผมรู้สึกว่า แทบไม่มีหนังฮีโร่เรื่องไหนทำ action scenes ได้ดีเท่า mos อีกเลย, เหมือนมันสร้างมาตรฐานไปแล้ว (อันนี้สำหรับตัวละคร พลังเหนือมนุษย์นะ)
ผมเบื่อที่เอาผู้หญิงมาเป็นตัวเอกครับ ขอโทษคนชอบทุกคนด้วยนะครับ ความเห็นส่วนตัวครับ
โดยเฉพาะเรื่องที่มีเด็กอัจฉริยะ เด็กฉลาดแก้ได้ทุกอย่าง ผมเบื่อมาก
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับผม ถ้าของอร่อย มันก็อร่อยอยู่ดี ต่อให้กินกะเพราซ้ำ ๆ กินราดหน้าบ่อย ๆ ถ้าอร่อยมันก็คืออร่อย
ส่วนตัวจึงมองว่า หนังฮีโร่ ทุกวันนี้ มันไม่สนุก ไม่ใช่เพราะมันน่าเบื่อ แต่เพราะ เนื้อเรื่องมันไม่ได้เข้มข้ม
ตัวละครไม่ได้น่าสนใจ เท่าเมื่อก่อน นิด ๆ หน่อย ๆ ก็ได้พลังพิเศษ หรือ อยู่ ๆ ก็ได้ของวิเศษมา
ง่ายซะจน มันไม่น่าสนใจ
ความมัน อลังการ หรือ CG อันนี้ มันเฉย ๆ แล้ว ผมเลยมองว่า พล็อตเรื่องนี่แหละครับ
ที่มันทำให้เราไม่อิน
อ้อ พิสูจน์ ง่าย ๆ อย่างนึง คือ เอาหนังฮีโร่เก่า ๆ มาดู ทำไมยังสนุกกว่าหนังใหม่
คิดถึงหนังฮีโร่แบบ Watchmen
หนังฮีโร่ เอฟเฟคแอคชั่นจัดหนักจัดเต็มไม่เถียง
สิ่งที่ทำให้น่าเบื่อ ตรงที่เนื้อหา เนื้อเรื่องซ้ำซาก ไม่ได้เปิดประสบการณ์ว้าวใหม่ให้ผู้ชมเลย หนังใหม่ ชื่อใหม่ ค่ายใหม่ก็จริง แต่พล็อตเรื่องมันซ้ำกับหนังเก่าที่เคยดูมาแล้ว
#ผมชอบหนังอะไรก็ได้ ประเภทที่มีเลือดสาดเต็มจอ ฉีกเฉือนร่างกายออกเป็นชิ้นๆ
ก็หนังมันสร้างมาจากหนังสือการ์ตูนที่ทำออกมาซ้ำๆเป็นสิบๆปี มันก็ซ้ำบ้างอะไรบ้าง ไม่ต้องหนังฮีโร่หรอก หนังเฉยๆ หลังๆมาก็ไม่เห็นว้าวสักเรื่อง เพราะคนดูมันวิวัฒเกินมันสมองคนสร้าง สื่อเสพง่าย เบื่อง่าย สำหรับบางคนเขาอาจจะแค่ยากเห็นตัวละครในคอมมิคที่เขาชอบมาเป็นคนจริงๆ บนจอใหญ่ก็ได้
@@Kukzezจริงเพราะ พวกติ่งหนังฮีโร่เขาถอดสมองดูกันอยู่แล้ว
ไอ้เลือดสาดเต็มจอมันก็ต้องแล้วแต่แนวของแต่ละเรื่อง บางทีแค่ใส่ฉากแหวะให้ดูโหดๆ ดาร์คๆ มันก็ cringe เหมือนกัน
เบื่อตรงจบแบบธรรมะย่อมชนะอธรรม ชีวิตฮีโร่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ดูหนังแบบรู้อยู่แล้วว่าต้องจบแบบ Happy Ending
แต่ก็นะ ถ้าจบแบบผู้ร้ายชนะ ก็คงไม่ใช่หนังSuperhero
ก็ํไม่เคยเบื่อเลย และไม่ได้รู้สึกเบื่อเหมือนพวกอุปทานหมู่ทั้งหลายด้วย
😂Spider-Man กับแบตแมนนี่เฝือจริง ต้องมานั่งดูเรื่องเดิมซ้ำๆ
เนื้อเรื่องสำคัญที่สุด หลายเรื่องเดาทางง่ายมาก
จบสักทียุคนี้ หลังจากเริ่มขาลงของหนังฮีโร่ ก็เริ่มเห็นหนังดีๆแนวอื่นเยอะขึ้น
และอีกอย่างหนึงคือฮีโร่ปัจจุบันที่ออกมาส่วนใหญ่จะขาดอุดมการณ์ที่ชัดเจนอย่างShe hulkแค่ได้พลังมาแต่ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรกำมะลาที่อยากเป็นฮีโร่เพราะแค่เบียวกัปตันมาเวล blue beetle ที่เป็นฮีโร่เพราะเอาแมลงออกไม่ได้ กัปตันมาเวลผมก็มองว่าแค่ช่วยคนเพราะคงคิดว่าถ้าตัวช่วยคนได้ก็คงมีคนชม(หิวแสง)ถ้าอยากช่วยคนจริงๆคงไม่ทิ้งเรื่องทำดาวคนอื่นพังไว้ตั้ง30ปีจนจนกลายเป็นภาค2 หนังฮีโร่หลายเรื่องมันน่าเบื่อตรงที่คนเขียนมักจะเขียนตัวละครให้ช่วยคนเพราะมองว่าฮีโร่ต้องช่วยคนสิวะแต่พวกเขามักมองข้ามสิ่งที่เรียกว่อุดมการณ์หรือหลักการว่าทำไมคนที่มีพลังจะต้องช่วยคนอ่อนแอทำไมคนที่มีพลังไม่ยึดทุกอย่างทั้งๆที่ตัวเองทำได้สบายๆ
เบื่อจริง แต่เดดพลู ทำให้ตื่นเต้นมากๆ ปีนี้ รอดูเลย
ถ้าเดด แป่ก น่าจะจบแล้ว ที่น่าดูเพราะป๋า ฮิว ล้วนๆ
ไม่เกี่ยวกับคนดูเบื่อหรอก มันอยู่ที่การนำเสนอ มันน่าเบื่อไป ถ้าคนเบื่อหนังฮีโรจริงๆ ทำไมคนถึงยังรอดูเดอะบอยส์อ่ะ เพราะเดอะบอยส์มันนำเสนออะไรที่มาเวลไม่ทำไง ผมนคนนีงที่เลิกติดตามมาเวลกับดีซีไปละ ค่อยไปดูตอนว่างๆ แต่ถ้าเดอะบอยส์ซีซันใหม่มา ผมต้องดูในวันแรกๆเลย
ซีรี่ย์เดอะบอยสนุกสุดละ คาดเดาอะไรไม่ได้เลยใครฮีโร่ใครตัวร้าย😎
นึกถึงตอนมีผู้กำกับคนนึง ออกมาบอกว่ามาเวลทำหนังสวนสนุก สรุปทัวร์ลง ตอนนี้เริ่มเห็นด้วยละ
เอะอะจักรวาลๆ ไม่จบในตัว
เบื่อแนว Hero จ๋าๆ แต่ Hero ฮาๆ หรือแนวดุเถื่อน จริงจัง ยังไปได้ กาเดี้ยน 3 หรือ อควาแมน ยังยอดรายได้เยอะอยู่นะ เดตพลู 3 อีกคนก็รอเยอะมากๆ แต่แนรวสูตรสำเร็จเลิกทำเหอะ
น่าเบื่อตรงที่เดาตอนจบง่ายว่า ฝ่ายตัวดีจะชนะ แม้จะล้มลุกคลุกคลานยังไง มันดูน่าเบื่อไม่มีหักมุม กับคำว่าพรรคพวก เพื่อพี่น้อง เพื่อมนุษยชาติ
หนังฮีโร่แบบคลาสสิก เรื่องแรก ๆ เรื่องเก่า ๆ ของฮีโร่เก่า ๆ ผมอินมากกว่า ทั้ง ๆ ที่หนังฮีโร่หลัง ๆ มางานภาพ แสง สี มันอลังการงานสร้างกว่ามาก ๆ เรื่องสุดท้ายที่ผมประทับใจก็เรื่อง ซาง - ซี ชอบมาก ๆ นอกนั้นเฉย ๆ ละครับ
ส่วนตัวผมอยากดูเดทพลูภาคใหม่อยู่นะครับ คือฮีโร่ที่มันแหวกแนวออกไปสนุกดี ไม่น่าเบื่อเหมือนอย่างที่เล่ามา เพราะมันเอาฮีโร่มายำ มาฮา มากวน นึกแล้วก็อยากไปดู ขอบคุณครับ
ความตื่นเต้นมันหายไป เพราะมีการเฉลย visual effect (with vs without) มาก จนเรารู้เกินไป(ให้สังเกต)ว่าแบบนี้มันหลอกจริงจัง (เดิมจะดูไป ว้าว ไปว่า เออ ทำเก่งจัง แล้วสนุกไปกับหนังได้ตรงๆ) … เหมือนเล่นกล magic มีเฉลยใน youtube มากมาย นั่นแหละ
น่าเบื่อจริงครับ
เลยเบื่อหนังฮีโร่ แต่บอกไม่ถูก พี่จีนเฉลยแบบกระจ่าง
ต้องไปฟังอีตา เควนติน พูดก่อนหน้า จ้างตาเควนตินกำกับเรื่องที่สิบของแกไปเลยจะดูว่ามันแปลกเถื่อนขนาดไหน
มันเบื่อเพราะมันเยอะเกินไป แทบจะ 3 เดือนมี 1 เรื่องบางที 3 เดือนมี 2 เรื่อง ไม่พอ ยังมีซีรีย์ให้ดูแทบทุกเดือน ต่อใหเมัรเล่าแปลกแหวกแยกแค่ไหนมันก็เบื่อ เพราะมันถี่กันจนแบบไม่รู้จะดูทำไม ที่เราตื่นเต้นสมัยก่อนอาจจะเพราะ ปีนึงมันมีน้อยเรื่อง ปีนึงมี 2-3 เรื่อง อย่างมาก ไม่มีซุปเปอร์ฮีโร่ ไม่มีซีรีย์ให้ดูรอขั้นกลางอีก มันเลยดูตื่นเต้นมากเวลาได้ดูแต่ละเรื้อง ที่จะฉาย
#ความเห็นส่วนตัวนะครับ
มันน่าเบื่อไปแล้วครับ 😂
เริ่มคิดถึงหนังยุค 90 -20
หนังซูเปอร์ฮีโร่แน่นอนว่ามันต้องเป็นหนังสูตรที่ต้องคงไว้ แต่ช่วงก่อนหน้านี้มันน่าสนใจก็ตรงที่องค์ประกอบต่างๆมันใส่มาได้ลงตัว ทั้งคาแรคเตอร์ดีไซน์ทั้งพระเอกตัวร้าย บทและการเล่าเรื่อง แอคติ้งนักแสดง ทั้งหลายมันทำออกมาอย่างใส่ใจเหมาะสมกับงบประมาณจนถึงเป็นหนังสูตรแต่คนก็ยอมจ่ายเงินไปดู แต่ตอนนี้มันขาลงด้วยหลายปัจจัย ทั้งโควิด ทั้งหนังเกลื่อนตลาด ทำเลียนแบบกันจนคนเบื่อ โลภจะขายเยอะๆจนงานด้อยคุณภาพ แถมมีพวกเว็บสตรีมมาตีตลาดอีกทำให้คนดูหนังในโรงน้อยลง คนถึงไม่ตื่นเต้นอะไรเท่าแต่ก่อน ตอนนี้เป็นหมดทุกแฟรนไชส์ ถ้าหวังเกาะความโด่งดังแต่เก่าก่อนอย่างเดียวแต่งานไม่ดีตาม ทำอะไรมาก็เจ๊ง
พล็อตมันก็เอามาจากคอมมิกนะ แต่สิ่งที่สำคัญ คือ หนังมันคุณภาพแย่ลง เพราะรีบทำรีบสร้าง คุณภาพเริ่มแย่ลง สำคัญที่สุด คือ เพราะเตรียมไว้สำหรับทำภาคต่อมากเกินไป ตัวละครบางตัวก็ตัวประกอบจ๋า ก็ยังมีหนังเดี่ยวเป็นของตัวเองอีก ยกตัวอย่างเดอะ มาร์เวล อย่างงี้ แต่ละตัวออกมาจากซีรีส์ ถามว่า ถ้าคนไม่ดูซีรีส์ มันจะรู้เรื่องเหรอ หรือซีรี่ส์บางเรื่องอย่าง เอคโค่ เนี่ย ทำมาทำไม มันน่าดูตรงไหน
แต่ก่อนดูมาเวลทุกเรื่อง หลังๆ ไม่ได้ดูเลย
ดารา กับบทมันน่าเบื่อครับ จับคนนี้ คนนั้นมาเป็นฮีโร่หมด 2-3 วันกลายร่างเป็นเก่งไปเลย มันไวไป
มันน่าเบื่อเพราะมันเดาเนื้อเรื่องได้ ถ้าเนื้อเรื่องเกินจินตนาการคนดูจะเดาได้ นั่นคือดีย์...😊
พวกตัวที่เคยสร้างมาแล้วถ้าคิดทำใหม่ก็ทำต่อเลยไม่ต้องเล่าต้นกำเนิดแล้ว เหมือนแมงมุมของทอม แบทของโรเบิร์ต แบบนี้สนุกกว่า
ถ้าผมเป็นผู้กำกับ จะทำฮีโร่สายดาร์กแบบที่มาตัวละครคลุ่มเคลือๆ คนนู้นเล่าอย่าง คนนี้เล่าอีกอย่าง
มันก็น่าเบื่อจริง ๆ นั้นแหละ ตอนดูมันก็สนุก แต่มันก็เบื่อที่จะแบกร่างไปดูหนังฮีโร่มานานก่อนที่จะจบ Infinity war ละ
ถามผิด "หนังสนุกตรงไหน"
ไม่น่าเบื่อนะ แค่ เรื่องราวมันเริ่มสะเปะสะปะ ขึ้นเรื่อยๆ ดูไม่ค่อยน่าติดตามเหมือนแต่ก่อน
อย่างDC พอกำลังจะเป็นรูปเป็นร่างที ก็ โดนรีบูตกลับไปเริ่มต้นใหม่ทุกที
พอ หนังเริ่มจะตามคอมมิก หรือเอาคอมมิกมาแปลงไปจากต้นฉบับเยอะเข้าก็เริ่ม หมดความสนใจล่ะมั้ง ยิ่งมีพวก แฟนคอมมิกมาสปอย์ตัวอย่างก่อน ยิ่งทำให้ ไม่อยากดู
คิดถึง ซุปเปอร์ฮีโร่ โทน แบบ พรี่แซ็คมาก 🥹🥹🥹
ถึงหนังจะน่าเบื่อแต่ชองนี้ไม่น่าเบื่อนะครับ. ขอบคุณคลิปดีๆ
เอาจริงๆก็เบื่อหนังฮีโร่มากพักหนึ่งเรยครับ
หลังจบ เอนเกมส์ ทำหนังกั๊กไปไม่สุดซักเรื่องตัวละครก็อะไรไม่รู้ จะเก่งให้สุดก็ไม่สุดไม่รู้จะกั๊กไรหนักหนา ดูแล้วงง
เลยไม่เข้าโรงรอดูสตรีมมิ่งดีกว่า
เนื้อเรื่องมันก็ซ้ำๆ ทั้งเรื่องสู้ไม่ได้ แต่มาชนะได้ท้ายเรื่อง
แล้วในระหว่างนั้นเนื้อเรื่องมันไม่ได้ มันไม่ทำให้คล้อยตาม มันเลยน่าเบื่อ
สำหรับผมนะ มันน่าเบื่อเพราะมันดูง่ายเกินไป บทง่ายเกินไป เหมือนนั่งรถไฟเหาะนั่นแหละ นั่งบ่อยๆมันก็เลิกลุ้นอ่ะ 😢
อยากดูหนังซุเปอร์ฮีโร่แนว the boys หรือ watchmen มากกว่า มันดูมีความเป็นจริงมากๆ ของมาเวลหรือดีซี บางทีมันดีจนไป เลยเริ่มน่าเบื่อ
เบื่อหนังฮีโร่ตรงที่มีตัวละครใหม่ๆโผล่มาแจมแล้วมีการแนะนำตัวละครน้อยแล้วได้พลังมีพลังมายังไง(สำหรับคนที่ไม่ได้ดูซี่รีย์ของตัวละครใหม่เหล่านั้น) เหมือนหนังฮีโร่รีบๆร่วมทีมมากเกินไป
จุดนึงคือ Action ที่เห็นแล้วสะใจ
อย่าง godzilla เนี่ย plot มนุษย์กากยังไงก็ดูสนุก เพราะไคจูต่อยกันระเบิดระเบ้อมาก ไปดูมันกัดกันก็สนุกแล้ว
Pacific Rim นี่ plot ตรงมาก แต่นั่นอะ หุ่นยักษ์นะ เบ้อเริ่มเลยนะ ลากเรือมาฟาดปาก อู้วหูว !!
อย่างน้อย ๆ แนวนี้ต้องให้ความรู้สึกมันเวลาดูครับ
ทีนี้ มาดูบางเรื่อง ทำหนังฮีโร่ แต่ไม่เน้นแอคชั่น ชั้นจะทำแนวเน้นเนื้อเรื่อง ! เอาให้เจ๋งแบบ Watch men หรือจริงจังแบบ Shin godzilla ไปเลย! แอคชั่นไม่เยอะคุยทั้งเรื่อง..!!
ผลที่ได้...ลองดู F4 สิครับ 55555 ยัดเนื้อหาเน้นๆ เน้นมาก เน้นเกิน เน้นจนเอ็งทำหนังเชี่ยไรมาให้ตูดูเนี่ย ตูอยากดูมันอัด ดร. ดูมเฟ้ย หรือหนังมาเวลช่วงหลังๆ ที่อัดเนื้อหาอิหยังวะลงไป กะให้ฮา? ไม่อะ...
อีกอันคือ กลัวคนเบื่อมั้ง เลยอัดแอคชั่น เตะเหตผลทิ้ง แบบ "ทิ้ง" จริงๆ จนไม่เคารพต้นฉบับ
เช่น Pacific Rim 2 ที่ทิ้งความดิบความหนักหมด ไปทำเยเกอร์พริ้วเป็นเอวานเกเลี่ยน
Transformer 4 -5 นี่หนักเลย เริ่มจากดีไซน์ที่มันไม่ใช่หุ่นแปลงร่างแล้วเฟ้ย สมส่วนเป็นคนใส่ชุดทหารมันแปลงร่างอีท่าไหนฟะ
เอาจริงๆตื่นเต้นกับต้นกำเนิดของฮีโร่ทุกตัวในเวอร์ชั่นภาพยนต์ทั้ง2ค่าย เพราะส่วนตัวเท่าที่จำความได้การ์ตูนทางฝั่งเมกาที่เป็นซีรีส์ เคยดูแค่พวกแคสเปอร์ สกู๊ปปี้ดู ทอม&เจอรี่ อะไรแนวๆนั้น(ปกติดูฝั่งญี่ปุ่น95%) เลยไม่เคยรู้ที่มาที่ไปของฮีโร่ตัวไหนๆเลย เวลาเห็นFCฝั่งนั้นด่าหนังฮีโร่ของตัวเอง ก็คงอารมณ์เดียวกันเวลาเห็นฝั่งญี่ปุ่นเอาเมะมาปู้ยี่ปู้ยำในเวอร์ชั่น LiveAct และมั้ง 555
ผมเบื่อEnd Credit มันให้อารมณ์แบบดูหนังไม่จบ ยิ่งบางเรื่องตัวร้ายตายง่อยนี่เหมือนไปดูแค่หนังตัวอย่างเพื่อปูทาง ไม่ได้มีอะไรน่าจดจำ
นำเสนอแต่ตัวละคนเดิม ๆ ด้วยครับ มีซุปเปอร์ฮีโร่เยอะแยะที่สามารถเอามานำเสนอได้
มี2เหตุผลเพิ่มเติมที่หนังฮีโร่น่าเบื่อขึ้น
1.เล่าความความสัมพันธ์ครอบครัวมากเกินไป
หนังซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งMARVELกับDCเล่าความความสัมพันธ์ครอบครัวเยอะมากทั้งภาพยนตร์กับซีรี่ย์เล่าความความสัมพันธ์ครอบครัวทั้งการยอมรับกับปัญหาที่เจอและการให้อภัยรวมถึงความความสัมพันธ์เพื่อนทำให้คนดูหนังหนังซุปเปอร์ฮีโร่น่าเบื่อขึ้นในส่วนซีรี่ย์The Boysเล่าความความสัมพันธ์ครอบครัวน้อยลงรวมถึงGen Vก็เล่าความความสัมพันธ์ครอบครัวน้อยลง
2.การกระทำของตัวละครขัดแย้งต่อคนดู
หนังซุปเปอร์ฮีโร่บางตัวละครทำอะไรที่ขัดแย้งคนดูเช่นทำไมไม่มีการแก้ปัญหากับทำไมไม่มีใครช่วยหรือสู้กันทำไมและอื่นๆอีกมากมายทำคนการดูหนังซุปเปอร์ฮีโร่ไม่สนุกและเบื่อขึ้น
ส่วนผมว่าไมติดนะที่เป็นหนัง super hero เพราะแต่ละ hero ก็มีความเป็นเอกลักของตัวเองถ้าสื่อสารออกมาให้มันดี ถ้ามันทำออกมาได้ดี ยังไงมันก็ดี แต่ไม่มีดีนี่สิ ที่น่าเบื่อน่าจะไม่ได้เป็นเพราะว่าเป็นหนัง super hero หรือรูปแบบวิธีเดิมๆหรอก เป็นเพราะเรื่องอื่นมากกว่าที่ทำให้ไม่น่าสนใจ
ส่วนผมรู้สึกอิ่มตัวหลังจาก End game หลังจากนั้นดูเรื่องไหนก็ไม่รู้สึกอยากติดตามอีกเลย เรื่องสุดท้ายในจักรวาลก็โนเวน์โฮม
บรรยากาศจำเจ ซ้ำซาก อารมณ์หนังเดิม ๆ
ส่วนตัวดูสนุกเหมือนเดิม แล้วแต่หนังมากกว่า ไม่ได้น่าเบื่ออะไร
ผมว่าทำหนังของตัวละครสักตัวใหม่มันแข็งไม่ต้องพยายามโยงไปฮีโร่ตัวอื่นหรอกมันทำยาก แถมลดความเด่นฮีโร่ประจำเรื่องอีก ใส่ตัวละครมาเยอะๆเนื้อเรื่องอ่อนหนักเข้าไปอีก
ตรงๆนะสมัยที่มีฮีโร่น้อยๆไม่ข้ามซีรี่ย์กัน มันสนุกมาก
หนังฮีโร่ผมก็ดูได้เพลินๆนะ เเค่ต้องอย่าคาดหวัง ดูจบบ่นเสร็จเดียวก็ลืมละบันเทิง👍
สั้น ๆ เดาทางออกหมด ทำให้หมดความสนุก ไม่มีอะไรกระตุ้นต่อมความอยากเผือก
ผมว่าตั้งแต่มีซีรี่ย์นี่หล่ะครับ คนเริ่มตามดูไม่ทัน บวกกับตัวละครที่ไม่ดึงดูด เนื้อเรื่องที่เหมือนจะเล่า แต่ก็ไม่แตะๆ คงกลัวคนงง เลยกั๊กเยอะ จนหนังไม่น่าสนใจ ตอนนี้ก็มีแค่สไปเดอร์แมน กับ เดดพลู นี่หล่ะคนยังตั้งตารออยู่ ต่างจากspider-verseของโซนี่ย์ ที่แบบใส่สุดทั้งคาแรคเตอร์ เนื้อเรื่อง ที่เล่าคล้ายกัน แต่ทำไมเราดูแล้วมันเข้าใจง่ายกว่า😂
ไอข้อสุดท้ายนี้เห็นด้วยสุดๆและเหมือนผู้สร้างจะเริ่มรู้ตัวแล้วนะว่ามันน่าเบื่อช่วงหลังมานี้หนังเข้สเลยเริ่มไม่เล่าต้นกำเนิดของฮีโร่ตัวนั้นๆแล้วอย่าง spider-man home coming the batman นี้ก็ข้ามไปเล่าตอนที่ไอพวกนี้มันเป็นฮีโร่แล้วเลยและล่าสุด superman legacy กับ the fantastic four ก็ลือกันว่าจะสองเรื่องนี้จะไปเล่าในช่วงที่เป็นฮีโร่มาได้สักพักแล้วด้วย
ส่วนตัวรู้สึกว่า Multiverse หลัง end game มันทำให้เนื้อเรื่องดูฟุ้ง คือ อยากจะให้เกิดอะไรขึ้นกับตัวละครหรือจะปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องยังไงก็ได้ มันเลยทำให้ความขลังของจักรวาล marvel มันลดลง ยิ่งสเกลขยายออกไปนอกโลก ยิ่งไม่ wow เพราะหนังไม่ดู real แล้ว เวลาดูผมสลัดภาพ star trek กับ star war ออกจากหัวผมไม่ได้จริงๆ
จริงๆไม่เบื่อนะ มีก็ดู แต่รู้สึกเฉยๆแล้ว มันไม่ว้าวเหมือนแต่ก่อน คือที่บอกมามันก็ถูกหมดเลย เห็นจนชิน พอรู้พอเดาออกแล้วว่าพล็อตจะไปแบบไหน ระยะหลังออกมาเยอะจัดด้วยมั้งและเทคโนโลยีมันตามๆกันทันหมดแล้ว เลยรู้สึกว่ามันก็เหมือนๆกันหมด ดูได้แต่ไม่ว้าว ที่สำคัญเลย คือ บท และนักแสดง
ปล.มันคงจะเป็นตามอย่างที่ ผกก .หลายคนบอกว่า หนังฮีโร่น่าเบื่อแลัว....อ่านขาด
พูดซะยาว สุดท้ายมันก็เบื่อนั่นแหละแค่ยังไม่ถึงกับเกลียด
เหตุผลที่เบื่อหนังฮีโร่ของผมนี่เหตุผลเดียวเลยคือปล่อยออกมาเยอะเกินใน 1 ปี คือมันยัดเหยียดเกินไป อารมณ์เดียวกับ Girl Group กับ Boy Band ของเกาหลี
มันเยอะจนเอียน แรกๆก็ชอบนะหลังๆเริ่มเบื่อ ฮีโร่จะเยอะอะไรขนาดนั้นเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด
ความน่าเบื่อ สำหรับผม คิดว่า พักหลังๆ เขาพยายาม ผูกเนื้อเรื่องให้มันซับซ้อน เกินไป ดูแล้วปวดหัวแทนที่จะสนุก บางที่ลองทำพร็อตเรื่องอิงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ โลก ก็น่าสนใจ นะ
เรื่องเดียวในตอนนี้ที่ผมไม่เบื่อคือสไปเดอร์แมน ไมล์โมราเลส ที่เป็นอนิเมชั่นอ่ะแหละ แค่นั้นเลยจริงๆ ที่เหลือนี่กลับไปดูเต่านินจายังสนุกกว่า
ส่วนตัวผมรู้สึกเบื่อๆตั้งหนังมันกลายเป็นการบ้านน่ะครับ พอหนัง1เรื่องตั๋ว1ตั๋ว1ที่นั่งมันไม่ทำหน้าที่เป็นสื่อบันเทิงแต่มันกลายเป็นการบ้านที่คนดูต้องเป็นคนทำหน้าที่ให้ตั๋วอีก2-3ตั๋วในอนาคตกลายเป็นหนังที่สนุก อันนี้ไม่ใช่เพิ่งรู้สึกพักหลังๆ แต่มันรู้สึกมานานแล้วครับ ซึ่งแน่นอนว่าคนดูที่เป็นสายดูแบบสไตล์ซีรี่ส์ก็ไม่ผิดนะครับ แต่โดยตัวผมเองที่เงินค่าตั๋วเข้าโรงแต่ละทีคือค่ากินอยู่ได้วันสองวันผมเองก็อยากบันเทิงกับเงินจำนวนนั้น ไม่ใช่เสียตังค์เพื่อทำการบ้านน่ะครับ
หลังๆ ตัวละครผู้ ญ โหดกว่าผู้ ช แล้วเผือก ได้พลังมาแบบง่ายๆ 😂😂😂