Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
ผมศึกษาพุทธวจนครับ ปฐิจสมุปบาท อิทัปปัตยตาครับ และอริยมรรคมีองค์แปด
ผมศึกษา--รับฟัง พุทธวจน ครับ พระอาจารย์คึกฤทธิ ท่านนำมาเผยแผ่ ทำให้ผมเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า และจะยึดถือ คำสอนที่นำมาจากพุทธวจนเท่านั้น ยึดมั่นในพระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์
ไปฟังพระสูตรเรื่องกลองสึก คำแต่ใหม่จะมีผู้นำมาสอน และทำให้คำสอนเดิมแท้ถูกคำแต่งใหม่กลบลบเลือนไป ดั่งลิ่มไม้ที่ตอกลงไปใหม่ในกลองศึก เราฟังท่านพุธทาส และ คนที่เอาพุธวจนจากพระไตรปิฎกมาสอนเท่านั้น พระรูปที่สอนเองแต่งเองถือว่าเป็นคำแต่งใหม่ สาธุพระที่ปฏิบัติดีทุกรูป
พระพุทธเจ้าท่านเผยแผ่พระธรรมด้วยภาษาบาลี พระไตรปิฏกต้นฉบับก็เป็นภาษาบาลี พระอานนท์และอรหันตสาวกท่านเมตตานำคำสอนของพระพุทธเจ้ามารวบรวมไว้ให้เป็นหมวดหมู่และเป็นประโยชน์ต่อพุทธศาสนิกชนที่ต้องการศึกษาโดยในตอนแรกใช้การท่องจำสืบต่อกันมา จนกระทั่งมีการจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร แล้วก็เป็นพระอรหันตสาวกที่แตกฉานในพระธรรมในแต่ละข้อ ท่านได้แปลความหมาย ถอดความหมายคำสอนที่เป็นบาลีออกมาเป็นภาษาไทยอีกที ย้ำว่าเป็นพระอรหันตสาวกที่ท่านเข้าถึงสภาวะธรรมนั้นแล้ว ท่านได้เมตตาแปลความให้ ล่วงเลย2566ปีผ่านมาแล้ว พระไตรปิฏกก็ได้สังคายนามาหลายรอบแล้ว คนที่บอกว่าจะฟังแต่พุทธวจนะจากพระโอษฐ์ คือต้องย้อนเวลากลับไปสมัยที่บรมศาสดายังดำรงธาตุขันธ์และเผยแผ่พระธรรมอยู่เท่านั้น และต้องแตกฉานในภาษาบาลีรวมทั้งเข้าถึงสภาวะธรรมนั้นจริงๆจึงจะเข้าใจอย่างถ่องแท้และอธิบายให้ผู้อื่นฟังได้อย่างแจ่มแจ้ง มันไม่มีหรอกคำว่า ข้าพเจ้ามีมุมมองว่าอย่างนั้นว่าอย่างนี้ เพราะธรรมเป็นความจริงตลอดกาล ไม่ปนด้วยความเห็นหรือมุมมองปรุงแต่งของใครทั้งนั้น ทุกวันนี้พระธรรมที่เผยแผ่อยู่เริ่มต้นมาจากพระพุทธเจ้าและพระอริยเจ้าทั้งหลายได้รวบรวมและถอดความหมายออกมาให้พวกเราได้ศึกษา จะไปแยกพระรัตนตรัยออกจากกัน มันก็เหมือนแยกแผ่นดินแยกแผ่นฟ้า แยกมหาสมุทรออกจากกัน มันทำบ่ได้หรอก ศาสนานี้จะเกิดขึ้นได้ พระรัตนตรัยต้องมีองค์ 3 ประการ และแก้ว 3 ประการนี้แลคือเนื้อนาบุญของโลกอย่างแท้จริง หาใช่ผู้ที่นำคำในพระไตรปิฏกมาอธิบายขยายความผิดๆถูกๆไปเรื่อยเปื่อยเพราะตนเองยังมิได้เข้าถึงสภาวะธรรมใดๆ จำมาเล่าใส่ความเห็นของตัวเองเข้าไปแล้วบอกว่า เป็นพุทธวจนะ ถ้อยคำจากพระโอษฐ์
พระธรรมย่อมไม่เปลี่ยนแปลงได้ สุดยอดที่สุดแล้ว
ตอนนี้ตรวจสอบว่าเป็นคำสอนของพระพุทธได้แบบง่ายๆเลยคะ ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ สาวกภาษิต ไม่มีกฏอิทัปปัจจยตา ไม่มีปฏิจจสมุปบาท ไม่มีสังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อมีศรัทธาใน สาวกภาษิต จึงไม่มีการเจริญอริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า มีอยู่นะ สังขตธรรม คุณสมบัติ เกิดปรากฏ เสื่อมปรากฏ เมื่อตั้งอยู่มีภาวะอย่างอื่นปรากฏ สังขตธรรม เป็น ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ อย่างนี้อย่างนี้คะ เมื่อมีเกิดเป็นปัจจัยจึงมีเสื่อม เมื่อมีเสื่อมเป็นปัจจัยจึงมีดับ เมื่อมีดับเป็นปัจจัยจึงมีอนัตตา เมื่อมีอนัตตาเป็นปัจจัยจึงมี เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ ไม่ขัดแย้งกันนั่นเองคะ
@@phawatchaiwong6531 คำตอบอยู่ที่ ตถาคตภาษิต ซึ่งมีอยู่ใน พุทธวจน นั่นเองคะ ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ คือ อริยมรรคมีองค์แปด ในข้อที่ 1 สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ไม่ขัดแย้งกันนั่นเองคะ จะฟัง พุทธวจน ตถาคตภาษิต ตอนนี้ หรือ ได้ฟังจากปาก พระพุทธเจ้าเลย ตถาคตภาษิต ก็จะยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงนั่นเองคะ เพราะ ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ สาวกภาษิตที่คุณกล่าวหาท่านว่าไม่มีสัมมาทิฏฐิคือสมมติสงฆ์เหล่าใดครับ การแสดงธรรมของพระพุทธองค์และพระอรหันตสาวกนั้นมีทั้งแบบพิศดารและแบบธรรมดาที่สอนคนทั่วไป พระอรหันต์ในยุคสมัยใกล้ๆนี้ก็คือสายหลวงปู่มั่นที่บรรลุอรหันต์มีตั้งกี่องค์ครับ หลวงปู่แหวน หลวงปู่ตื้อ หลวงปู่ชา หลวงตามหาบัว หลวงปู่บุญมี ฯลฯ ถ้าไม่เจริญอริยมรรคมีองค์ 8 แล้วครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านจะบรรลุธรรมเป็นอรหันต์ได้ยังงัย ปัญญาของครูบาอาจารย์ทั้งหลายเหล่านั้นรู้แจ้งแทงตลอดในธรรมของพระพุทธองค์แล้ว ไม่ใช่แค่ท่องจำมาแล้วตีความผิดๆถูกๆมีใส่ความเห็นของตัวเองเข้าไปด้วย แล้วบอกว่าเป็นพุทธวจนะ พระอรหันต์ในสายหลวงปู่มั่นท่านก็ได้รับคำสอนมาจากหลวงปู่มั่น ซึ่งเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ซึ่งหลวงปู่มั่นท่านได้ลาพุทธภูมิมาเป็นสาวกภูมิเพื่อบรรลุมรรคผลนิพพานในชาติสุดท้ายนี้ นึกออกมั้ยกำลังในการบำเพ็ญมรรค8ของท่านคือกำลังพุทธภูมิ ลูกศิษย์สายหลวงปู่มั่นจึงพากันบรรลุอรหันต์ในชาติสุดท้ายของท่านตามพระพุทธเจ้าและหลวงปู่มั่นตั้งหลายองค์ ซึ่งแต่ละองค์ท่านก็ไม่ได้ฟังธรรมจากพระโอษฐ์โดยตรงเพราะเกิดไม่ทัน แต่ก็บรรลุได้เพราะฟังธรรมจากครูบาอาจารย์ที่เป็นพระอรหันตสาวกที่เข้าถึงสภาวะธรรมนั้นแล้วเมตตาชี้ทางให้ ในสมัยพุทธกาลก็มีพระอรหันตสาวกบางท่านสามารถแสดงธรรมได้อย่างพิศดารจนพระบรมศาสดายกย่องให้เป็นเอตทัคคะในด้านการแสดงธรรมก็มีบันทึกไว้ บางอย่างที่ไม่ใช่กิจของท่าน ท่านก็ไม่พูดไม่สอน ท่านมุ่งปฏิบัติเพื่อหาทางหลุดพ้น ตัวเองยังไม่พ้นจะเอาอะไรไปแนะนำคนอื่นได้เล่า คำสอนในพระไตรปิฏกพระอริยสาวกท่านท่องจำสืบกันมาทั้งนั้น จนล่วงเลยมาหลายร้อยปีถึงได้บันทึกเป็นตัวหนังสือภาษาบาลี และแปลเป็นภาษาไทย ที่เขาสอนคุณว่าพุทธวจนะ คือจริงๆแล้วได้รับการแปลมาอีกทอดหนึ่ง ขนาดแปลแล้วยังต้องมาตีความไทยเป็นไทยอีก แล้วจะบอกว่าเป็นพุทธวจนะจากพระโอษฐ์ได้ยังงัย ถ้าจะฟังจากพระโอษฐ์บอกแล้วต้องนั่งไทม์แมชชีนกลับไปในช่วงที่พระบรมศาสดายังมีพระชนม์ชีพอยู่ และคุณต้องเข้าใจภาษาบาลีแบบว่าเป็นภาษาแม่เลยนะครับ ต้องไม่มีคนมาแปลเป็นไทยให้คุณฟัง แล้วที่บอกจะไปตรวจสอบอ่ะ คนตรวจสอบบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว เกิดปัญญารู้แจ้งแทงตลอดในธรรมของพระบรมศาสดาแล้วหรือ คนที่ควรจะตรวจสอบคือตรวจสอบตัวเองดีกว่ามั้ย มีอะไรที่ต้องแก้ไข ธรรมอันใดที่ต้องลดละเลิก ธรรมอันใดที่ต้องทำให้เกิดเพิ่มพูนให้เกิดขึ้นเพื่อเป็นเหตุให้บรรลุธรรมในระดับที่สูงขึ้นไปได้ ไม่ต้องไปเสียเวลาตรวจสอบคำสอนของพระอรหันตสาวกหรอกเพราะท่านบรรลุนิพพานไปหมดแล้ว “คนธรรมดาที่ยังไม่ได้บรรลุธรรมใดๆ อาศัยการอ่านท่องจำและพยายามจะตีความหมายธรรมหรือภาษิตของพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันตสาวก แล้วจะเอาความรู้ที่ท่องจำมานั้นไปตรวจสอบโวหารหรือภาษาภาษิตของพระพุทธองค์และพระอรหันตสาวก มันไม่อยู่ในวิสัยที่จะทำได้”
ผมเชื่อมาแบบนี้ตลอดครับ เถียงธรรม เถียงวินัย เถียงความรู้ ไม่มีวันจบครับ แต่ถ้าปฎิบัติรู้แก่ตน จบที่ตนครับ รู้อะไรไม่เท่ารู้ตน 😊
จริงที่สุดครับ ผมพิสูจน์มากับตัวในตอนบวช เถียงธรรม เถียงวินัย ไม่มีวันจบจริงๆ
รู้แล้วเอามาปฏิบัต จะปัจจัตตังด้วยตัวเอง สาธุค่ะ ผู้มีธรรม
❤❤
ศาสดา เรามีแค่ คนเดียว คือพระพุทธเจ้า ธรรมะของพระพุทธเจ้า เพียงผู้เดียว คือสิ่งที่ทุกคนควรศึกษาเล่าเรียน และ เราก็ฟังคำของพระสงฆ์ที่นำคำของพระพุทธเจ้ามาสอน ผมเข้าใจที่พระอาจารย์พูดครับ ผมคนนึงที่ศึกษาพุทธวจน เรื่องพุทธวจนที่พระอาจารย์พูดนั้นถูกต้องมากครับ 😊 และผมยังยืนยันว่าพุทธวจนที่ถูกต้อง ดีที่สุด เพราะเป็น ธรรมจากพระโอษฐ์ของพระศาสดา และเราก็สมควรปฏิบัติธรรม สมควรแก่ธรรม
ผมซึ่ง ฟังพุทธวจน เนื้อหาธรรมมีความละเอียดลึกซึ้งและแยบคาย ลองศึกษาอ่านและฟัง แทงตลอดเป็นอย่างดี **ครูบาท่านเตือนสติผมเข้าใจในข้อนี้ สาธุครับ** ผมน้อมรับคำเตือนและตั่งใจศึกษาพุทธวจนต่อไปครับ ^ ^
ไม่ใช่พุทธวจนะไม่ดี พุทธวจนะก็ดี พระไตรปิฏกก็ดี สิ่งไหนตรงจริตก็ปฏิบัติกันไป ไม่ใช่เอาพุทธจวนะไปข่มคนอื่นว่าคำจากปากพระพุทธเจ้านอกนั้นสาวกแต่ง อยากถามจริงๆว่า มึงเกิดทันพระพุทธเจ้าเหรอ พระพุทธเจ้าจดพุทธวจนะให้พวกมึงเหรอ มีตอนไหนที่บอกเราคถาคตจดพุทธวจนะให้พวกเธอ ล้วนแต่พระสาวกจดบันทึกไว้ที้งนั้น สายไหนก็ได้แล้วแต่จริตกัน แต่เท่าที่เห็นพวกสายอ้างพุทธวจนะไม่มีอรหันต์สักคน พวกปริยัต😂
ผมเห็นด้วย ครับ เพราะถ้าไม่ฟังแล้วจะอยู่ศาสนาพุทธ ได้ยังไงครับ แล้วพระธรรมคำสั่งสอนนี้ของไคร ไม่ใช่ของพระพุทธเหรอครับ
สาธุธรรมกับพุทธศาสนิกชนทุกท่านที่ศึกษาพุทธวัจนะจากพระโอษฐ์ของพระพุทธองค์ นี่คือธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสรู้โดยแท้ แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด สำหรับผู้ที่ศึกษานั้น ต้องระวังการนำความรู้นี้ไปใช้ปรามาสผู้อื่น หรือครูบาอาจารย์ที่มีพระคุณทั้งหลายว่าไม่ได้ถ่ายทอดพุทธวัจนะโดยตรง หรือทำให้เกิดรู้สึกว่าพุทธวัจนะเท่านั้นถึงจะดีที่สุด ผมเชื่อตามที่ครูบากล่าวว่าผู้ฉลาดผู้มีปัญญาจะเห็นประโยชน์ในทุกสิ่ง เห็นความดีในคนทุกๆคน เพราะว่าโทษของการเห็นผิดเพียงนิดเดียว (เนื่องจากมีอัตตาในตน) แล้วปรามาสว่าอันนี้ดีที่สุด อันนั้นไม่ดีอย่าไปฟัง ทำให้เกิดการแบ่งแยกแตกสายในพุทธศาสนาผลคือนรกอเวจี
@@pongsawadkumthampinij7472 ใช่ครับ คนที่มีสติปัญญาจริงๆ ตามที่พระพุทธเจ้าสอน เขาจะรับฟังหมด แล้วแยกแยะกลั่นกรองอีกที เราจะไม่กล้าปรามาสใครเลย เพราะต่างฝ่ายต่างก็ทำหน้าที่ของตนเอง เท่าที่จะทำได้ ย้ำ "เท่าที่จะทำได้" เราจะไม่ไปพูดหรอกว่า พระป่าไม่ดี พระบ้านไม่ดี พระเรียนปริยัติเยอะไม่ดี แต่เขาจะพูดในลักษณะ มองเห็นประโยชน์ร่วมกันของหน้าที่
@@pongsawadkumthampinij7472 แสดงว่าคุณไม่ได้เรียนนักธรรมบาลีมาแน่เลยครับ พุทธองค์ทรงห้ามเลยน่ะครับ ....พุทธวจน คือ คัดเอาเฉพาะคำพูดคำสอนที่ออกจากปากของพุทธเจ้าโดยตรง เท่านั้น ไม่ใช่คำสอนของสาวกและไม่ใช่คำแต่งใหม่ ถ้าฟังและศึกษาแล้ว จะได้บุญและได้อานิสงค์มากมายมหาสารนัก ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ชึ้งตรงกันข้ามกับฟังคำสอนสาวกและคำแต่งใหม่ อาจจะได้รับบุพกรรมร้ายแรงมาก เพราะคำของสาวกและคำแต่งใหม่นั้นอาจจะไปบิดเบียน ต่อเติม ตัดแต่ง และกล่าวตู่คำสอนของพุทธองค์โดยไม่รู้ตัว ชึ่งจะได้รับกรรมอย่างใหญ่หลวง ตอนที่ตายไปแล้ว พระองค์ทรงตรัสไว้แบบนั้นครับ ฉะนั้นจึงขอเชิญเพื่อนๆหันมาฟังและศึกษา พุทธวจน กันจะได้ช่วยกันเผยแผ่ศาสนา และคำสอนของพระพุทธเจ้าของเรา ท่านจะได้บุญกุศลใหญ่หลวงมากมายมหาสารทั้งชาตินี้และชาติหน้าครับเพื่อนๆ..หรือ แค่ช้วยกันแชร์และแนะนำให้คนอื่นๆฟังก็ได้บุญกุศลแล้วครับ.
วัดท่าซุง และคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ทำให้ผมเป็นคนมีธรรมะในใจ 🙏😇
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุงตั้งใจรับฟังแล้วทำไปปฏิบัติ ทุกสิ่งที่อย่างที่หลวงพ่อสอน เรามีแต่ได้ดี แล้วนำไปปฏิบัติจะเกิดมรรคผลกับผู้ที่รับฟัง แล้วนำไปปฏิบัติ ครับผม
สาธุครับผม ตามนั้นเลยผมศ๊กษาหลวงพ่อฤาษีมาจะสามสิปปี
@@saartsupat502สาธุ อนุโมทนาด้วยครับ
ผมก็ตั้งใจฟังคลิปนี้ครับ แต่ผมรู้สึกอึดอัดแปลกๆ ผมขออนุญาตศึกษาพุทธวจนต่อไปครับ เพื่อความหลุดพ้น และปล่อยวาง
ถ้าครูบาได้ศึกษา พุทธวจน จะได้รู้ว่าที่ท่านพูดท่านสอนญาติโยมถูกหรือผิด เปิดใจสิครับ ลองฟังดู คนที่ไปศึกษาพัทธวจน เขาก็ผานการศึกษาของครูบาอาจารย์มาเหมือนพระจารย์ทั้งนั้นแหละครับ แต่คนที่เขาวิ่งไปวัดนาป่าพงนั้น เพราะเขารู้ว่า สิงที่เขาฟังและศึกษามาจากครูบาอาจารย์นั้น มันไม่ถูกต้องตามคำสอนของพุทธองค์ เป็นคำแต่งใหม่เป็นคำสอนของครูบาอาจารย์ เมื่อเจอของจริงเราก็ต้องทิ้งของปลอม เพื่อไปรับเอาแต่ของจริงครับ เรากล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ถูกต้องครับอาจารย์ฉาย..ฝากถึงอาจารย์ครับ ถ้าอาจารย์จะสอนคนอื่นและลูกศิษย์ ให้มาศึกษา พุทธวจน ให้เข้าก่อนค่อยไปสอนญาติโยม จะได้ช้วยกันสืบทอดคำสอนพุทธองค์อย่างถูกต้องครับ ถ้าท่านยังไม่ศึกษาก็อย่าไปคัดง้างพาดพิงถึง นั้นเท่ากับท่านกะลังคัดง้างกับพุทธองค์อยู่น่ะครับอันตรายมากๆเลยครับ เพราะ พุทธวจน ไม่ใช่คำสอนของพระอาจารย์คึกฤทธิ์น่ะครับ แต่เป็นคำพูดที่ออกจากปากของพระพุทธองค์เลยน่ะครับ เพียงแต่พระอาจารย์ท่านศึกษาให้ครองปากและขึ้นใจแล้วนำมาสอนญาติโยมครับลองเปิดใจดูครับ ยกเว้นท่านมีทิตฐิ..ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง..ช่ะเอง...
และยิ่งไปกว่านั้น..ผู้บวชในศาสนานี้..อาจต้องถามย้ำกับตัวเองทุกวัน..ว่าศาสดาฉันคือใคร..อาจารย์ฉันจริงๆคือใคร..จริงอยู่..พระพุทธเจ้าท่านไม่สามารถอยู่รับรองสิ่งที่เป็นพระธรรมคำสอนไปได้ตลอด..มันจึงไม่มีสายตรงจริงๆชัดๆ..พระบวชใหม่จึงต้องฟังคำอาจารย์ตนไว้ก่อน..แต่สิ่งที่ต้องรู้คืออาจารย์ตนนั้นไม่ใช่ศาสดา.."และถ้าไม่เผื่อใจไว้บ้างว่า..อาจารย์ตน..มีโอกาสพลาด..เพราะยังไม่ใช่ศาสดา..ยังไม่บรรลุมรรคผลสุดท้ายได้จริง..มันมักพลาด..ไปไกล..แบบ..กู่ไม่กลับ..!!
รูปนี้ที่บอกว่ามีพระธาตุออกจากผมตัวเอง แต่พิสูจน์แล้วมันคือสิริกาหรืออะไรสักอย่าง ถ้าไม่เชื่อธรรมะของพระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาแล้วหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านได้ธรรมะมาจากไหนค่ะ ท่านก็เป็นผู้เดินตามตถาคต
แล้วถ้าถามย้อนกลับจะแน่ใจได้อย่างไรสิ่งที่ตำราหนังสือว่าเป็นพุทธวจนที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงๆไม่ใช่คนแต่งขึ้นไม่ใช่นักปราชญ์แต่งขึ้นมีอะไรรับรองได้ถ้าเชื่อตามตำราเชื่อตามตัวหนังสือเพราะอย่าลืมว่าพระไตรปิฎกนั้นไม่สมบูรณ์นะ
@@tinyblack1251 ยิ่งพูดยิ่งบาปยิ่งพูดยิ่งปรามาสพระรัตนตรัยนะคุณอ่ะ..ศีลไม่มีสักข้อแต่เสือกรู้ดีทุกเรื่อง..เอาตัวเองให้พ้นจากกิเลสตัณหาก่อน
@@tonnum4143 ไม่สมบูรณ์ตรงไหนครับช่วยชี้จุดหน่อยครับ..
ขอบคุณพุทธวจนที่ทำให้ผมเจอคำตอบของชีวิต และทำให้รู้ว่าพระพุทธเจ้าเจ๋งจริง
ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ไม่ขัดแย้งกัน สาวกภาษิต ไม่มีกฏอิทัปปัจจยตา ไม่มีปฏิจจสมุปบาท ไม่มีสังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อมีศรัทธาใน สาวกภาษิต จึงไม่มีการเจริญ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ เป็น ลิขสิทธิ์ทาง ปัญญา สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ ของพระพุทธเจ้า นั่นเองคะ ตถาคตภาษิต
สาธุ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ@user-tl5ws1fe7e จริงดิมันต้องเป็นแบบนั้น เป็นอื่นไม่ได้เลยจริงเหรอ...แล้วทำไมพุทธะรับรองพระสาวกบางคนให้เทียบกับท่านได้เลยเช่น พระมหากัสสปะที่ทำสังคายนาครั้งแรก ไม่งั้นพวกคุณก็ไม่มีพุทธวจนมาขิงมาข่มสำนักอื่น...ตำราก็มาจากพระสาวกเรียบเรียงแต่ไม่เอาคำของสาวกเลย มันก็เกินไป😊
ครูบา ฉ่าย อธิบายได้ชัดเจน ตรงต่อหลักธรรม แล้ว สาธุค่ะ
ไปหลงเชื่อไอ้คึกวจนะปาราชิกตั้งนานแล้ว
การศึกษาพุทธวจน ได้ประโยชน์มากจริงๆ เพราะเป็นสิ่งที่ออกจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า แต่ไม่ใช่เอาไปโอ้อวดหรือเป็นสาเหคุแห่งการทะเลาะ ส่วนใครจะนำเอามาเป็นสาเหตุแห่งการโอ้อวดหรือทะเลาะกันนั้น ก็เป็นเฉพาะบุคคลไป
คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ถ้าจะเปรียบก็เหมือนท่านฉุดผมขึ้นจากอเวจีมหานรก ดังนั้นพระคุณนี้ผมจะไม่ลืมครับ และเมื่อศึกษาถึงระดับนึง ลูกศิษย์ต่างบอกกันว่า ผลสุดท้ายจะมาจบลงที่ "ดูที่จิตครับ" ผมเข้าใจที่ครูบาฉ่ายพูดถึงครับ😊😊😊
ผมก็เคยโพสต์ไปทีนึงเรื่องครูบาอาจารย์ท่านสอนไม่ต่างกัน สรุปลงที่ใจเหมือนกัน แต่โยมต่างหากที่ไปตีความผิด เลยคิดว่าครูบาอาจารย์สอนขัดแย้งกัน อย่างคาถาเงินล้านก็ไปตีความว่าสวดแล้วจะรวย พอหลวงตาบอกว่าสตี๊ฟ จ๊อบไม่สวดยังรวยเลย โยมที่ศรัทธาหลวงพ่อฤาษีลิงดำก็เข้ามาด่าหลวงตา ทั้งที่ไม่รู้เลยว่าจริงๆบทสวดนั้นคืออะไร สวดกันไปแบบนกแก้วนกขุนทอง ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วทำไมหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านให้สวด (เป็นพุทธานุสติซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมฐานที่ทำให้เกิดสติ เมื่อมีสติก็มีปัญญา ไม่ใช่เพราะบทสวดขลัง)
@@wmk8162 มันก็แคส่วนหนึ่งในยะมีอยู่คาถาหลวงพ่อปานได้จากนิมิตมีกำลังเทพเทวดารักษาอยู่เรื่องโชคลาภมีพุทธคุณในตัวที่พระ ท่านอธิบายอธิบายรู้ใหม่เพราะอะไรเพราะท่านมาเดินสายพระป่ามุงพระนิพพานแต่คาถาช่วยสำหรับคนที่ ยังเวียนตาย เกิดอยู่ก็จะมี พระอรหันต์ กับสายพระโพธิ์สัตว์
ชีวิตเจ้ายังประมาทนักว่าพระอริยะเจ้านรกเป็นที่เหมาะสมกับผู้ที่ประมาทไปอบรมดัดนิสัยที่นรกถึงจะเหมาะสมกับผู้ที่ประมาท
@@สัจธรรม-ผ9ฑ อยากให้ดูคลิปครูเงาะที่สัมภาษณ์นักธุรกิจหญิงท่านนึง เธอเคยเป็นสายมูตัวแม่ เพราะคิดว่าพระรัตนตรัยช่วยทางโลกไม่ได้ ช่วยเรื่องเงินทองไม่ได้ แต่สุดท้ายพอศึกษาธรรมมะอย่างแท้จริง คนที่มีศีล สมาธิ ปัญญา สามารถเจริญทั้งทางโลกทางธรรมได้ ตรงกันข้าม พวกสายมู ช่วงแรกได้เงินจริง แต่ถึงจุดนึงจะติดขัด และมีโรคอาการแปลกๆด้วย ลองไปดูคลิปนั้นผมว่าจะเข้าใจเพราะเป็นประสบการณ์จริง ปล. พุทธคุณนั้นจะเกิดผลก็เกิดจากใจนี่แหละครับ ลองให้นกแก้วมันท่องตามมันก็ไม่ได้เป็นผลหรอก มันอยู่ที่ใจผู้สวด ผมยกตัวอย่างอีกเรื่องคือ พระคำข้าว หลวงพ่อท่านบอกกันรังสีนิวเคลียร์ช่วงสงครามโลกได้ แต่ถ้าไปฟังเทศน์จริงๆท่านขยายความว่าที่กันได้เพราะคนนั้นต้องมีฌาณ แต่คนก็ไปสรุปว่าห้อยพระแล้วกันได้แค่นั้น กลายเป็นเครื่องรางของขลังขายกันแพงๆ ถ้าเราห้อยพระ(มีพลังจิตของครูบาอาจารย์) เวลาภาวนาพลังเหล่านั้นจะช่วยให้เราสงบได้ง่ายต่างหาก เมื่อใจเราสงบเกิดฌาณจะกันรังสี ไวรัส .. ได้ (หลวงตาเองก็เทศน์บ่อยๆว่าท่านไม่เคยฉีดวัคซีนแต่ไม่เป็นโควิด พวกมาลาเรียท่านก็ไม่กลัว และท่านก็เทศน์เรื่องพระอรหันต์ไปที่ไหนจะมีพลังงานหลงเหลืออยู่ ดังนั้นก็ตรงกันกับเรื่องพระคำข้าวก็ย่อมมีพลังครูบาอาจารย์ แต่อย่างที่บอกพลังนั้นจะไม่มีประโยชน์ หากผู้ที่ห้อยพระนั้นไม่มีศีล ไม่รู้จักภาวนา)
สาธุครัย
ผมก็ศึกษาพุทธวจน ใหม่ๆจะร้อนวิชา แต่เมื่อกระทำไว้ในใจอย่างแยบคายได้แล้ว ราคะโทสะ โมหะเบาบาง ฟั้งได้ทุกอาจารย์สิ่งไกนดีก๋นเอมเข้าสิ่งใดผิดก็แค่วางลงเสียไม่ต้องทะเลาะกับใครศิษร์พระตถาคตเหมือนกัน
พระพุทธเจ้าท่านบอกว่ามีบุคคล 4 พวก 1 สั่งสมสุตตะ 2 ปฏิบัติตามธรรมวินัย 3 ฟังสาวกภาษิต 4 สั่งสมสุตตะ และ ปฏิบัติตามธรรมวินัย พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ สาวกภาษิต ไม่มีกฏอิทัปปัจจยตา ไม่มีปฏิจจสมุปบาท ไม่มีสังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อมีศรัทธา ใน สาวกภาษิต จึงไม่มีการเจริญ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ พุทธวจนมาจากใหนครับ
@@kentim8803 ในพระไตรปิฎก
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ แล้วพระไตรปิฏกมาจากไหน
@@kentim8803 ตถาคตภาษิต คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านพูดแค่ครั้งเดียวเป็น อกาลิโก ตรงจริงไม่จำกัดกาลเวลา จะนำ ตถาคตภาษิต มาพูดซ้ำๆๆๆๆๆๆๆอีกกี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิมนั่นเองคะ ผ่านมาสองพันกว่าปียังมี ตถาคตภาษิตอยู่ หาคำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต ไม่ยากแล้วตอนนี้ เพราะ ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ตถาคตภาษิต จะเป็นแบบนี้เหมือนกันหมดเลย พระพุทธเจ้าท่านเก่งจริงๆๆๆๆๆ จึงทำให้ ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ไม่มีขัดแย้งกันนั่นเองคะ เมื่อเข้ามาฟัง พุทธวจน ตถาคตภาษิต เป็นผู้ที่ฟังด้วยดี เป็นเหตุปัจจัยทำให้มี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต มีศรัทธาในตถาคตภาษิตคือการเจริญ สัมมาสมาธิ จึงเป็น สัมมาสังกัปปะ มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดขึ้นของ สัทธานุสารี สัทธานุสารีจะต้องเกิดก่อน บุคคล 4 คู่ 8 พวก ถึงจะเกิดตามมา เพราะ บุคคล 4 คู่ 8 พวก เป็น ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ
อย่าง ไร หลวงพ่อ วัดท่าซุง ผมฟังมาตลอด สุดยอด มีอะไรดีๆ ในใจ เคารพท่านมากๆ ดีหรือไม่ดี ขึ้นอยุ่กับบุคคล จะเอาไปปฎิบัต พวกศึกษา ธรรมะ จอมปลอม ไม่แก้ไขชีวิต ไปในทางที่ดี นั้นคือคนไม่จริงๆ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านสุดยอด คนจริงๆ ทำจริงๆ มีบารมี ในอดีต จนปัจจุบัน เข้าพราะนิพพาน ไปแล้ว พระทุกวันนี้ อย่าไปเทียบท่านเลบ บาปกรรม แน่นอน ไกลกัน ฟ้ากับเหว ครับ
ผมเพิ่งรู้..คำสอนของหลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ ฟังแล้วหายเครียดเรื่อง บาป. กรรม ผมสบายใจ เดินสายกลางๆไม่บีปหัว ใจตัวเอง
ธรรมมะของพระผู้มีพระภาค เป็นธรรมมีข้อความลึก มีความหมายซึ้ง มีความลึกและกว้างขวาง พอคนศึกษาไม่ครบ ไม่ทั่วถึงเพียงพอ เลยเกิดการทิ่มแทงกันด้วยคำพูดมีประการต่างๆครับ
เธอทั้งหลายยังไม่พึงชื่นชม ยังไม่พึงคัดค้านคำกล่าวของผู้นั้น พึงเรียนบทและพยัญชนะเหล่านั้นให้ดี แล้วพึงสอบสวนลงในพระสูตร เทียบเคียงดูในวินัยถ้าบทและพยัญชนะเหล่านั้น สอบลงในสูตรก็ไม่ได้ เทียบเข้าในวินัยก็ไม่ได้ พึงลงสันนิษฐานว่า “นี้มิใช่พระดำรัสของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแน่นอน และภิกษุนี้รับมาผิด” เธอทั้งหลายพึงทิ้งคำนั้นเสีย ถ้าบทและพยัญชนะเหล่านั้น สอบลงในสูตรก็ได้ เทียบเข้าในวินัยก็ได้ พึงลงสันนิษฐานว่า “นี้เป็นพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแน่นอน และภิกษุนั้นรับมาด้วยดี”เธอทั้งหลายพึงจำมหาปเทส.. นี้ไว้อุปริ. ม. ๑๔ / ๕๓ / ๔๑อริยวินัย น. ๓๙๙พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๐พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรคหน้าที่ ๑๐๑/๒๖๑ ข้อที่ ๑๑๐-๑๑๒
@@มามามานะนะนะ-ย5ฑ บอกตรงๆนะจะได้หายโง่บ้างครับ..ในพระไตรปิฎกนั้นไม่มีคำพูดของพระพุทธเจ้าอยู่จริงๆสักคำเลย..มีแต่คำพูดของเหล่าพระอรหันต์ในอดีตทั้งนั้นที่ท่านได้เขียนไว้พูดไว้ทั้งหมด..คุณเอามาจากไหนครับคำพูดของพระพุทธเจ้าจริงๆอ่ะ..ถ้าคุณไม่เชื่อคำสอนของพระอรหันต์ในพระไตรปิฎกนั้น..คุณก็เรียนพระไตรปิฎกไม่ได้เลย..
@@มามามานะนะนะ-ย5ฑ ที่คุณอ้างอยู่เนี่ยล้วนแต่เป็นคำพูดของพระอรหันต์ในอดีตทั้งนั้นเลย..เพียงแต่ท่านอ้างว่านี่คือคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้นเอง..แต่ผู้พูดคือพระอรหันต์ทั้งนั้น
@@ตะวันพลายแสงยามแรงกินเหล้า สงฆ์สาวกครั้งพุทธกาลท่านใช้การท่องจำสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน (หรือเรียกว่า พุทธวจน) ในแต่ละวาระโอกาส โดยท่องจำสืบทอดต่อๆกันมา จากรุ่นสู่รุ่น จนตอนหลังมีการจดบันทึกรวมไว้ที่เดียวเรียกว่าพระไตรปิฎก แล้วคุณถามว่าที่สงฆ์สวดๆท่องๆตามพระไตรปิฎกอยู่นั่นคำใคร?? ก็ต้องคำของพระพุทธเจ้าซิครับ เพราะพระพุทธเจ้าเป็นคนตรัสไม่ใช่เหรอ ถึงจะท่องโดยสงฆ์หรือโดยฆราวาสอย่างเราๆ ก็ต้องถือว่าเรากำลังท่องสวดพระพุทธวจนอยู่ หาใช่คำของสาวกอย่างเราๆไม่ แต่ถ้าเป็นสาวกประดิษฐ์เนื้อธรรมขึ้นเอง พยายามอธิบายเองตามความเห็นส่วนตัว ยกอุปมาเอง และผูกสำนวนเอง อย่างนี้ถึงจะไม่เรียกว่าพุทธวจน แต่จะเรียกว่าคำสอนของสาวกรูปนั้นๆ หรือเรียกว่าเป็นอรรกถาโดยสาวกรูปนั้นๆ
@@ti-wa-ra4560สาวกที่ยังไม่บรรลุไม่แตกฉานท่านจำคำศาสดามาเป็นหลักในการบอกสอน ส่วนอรหันต์ที่บรรลุท่านก็ย่อขยายธรรมภายในตน ธรรมที่พระพุทธเจ้าบรรญัติได้ คุณต้องเข้าใจว่าพระไม่ใช่ตู้พุทธวจนเคลื่อนที่ ไปไหนมาไหนต้องใช้แต่คำศาสดา มันไม่ใช่
26:38 🙏🙏🙏 สาธุ สาธุ สาธุ เส้นทางที่เคยเดินผ่าน เหมือนกัน ขอรับ(เห็นคนอื่น แต่ไม่เห็นตัวเอง ... พ่อแม่ครูอาจารย์ สอนว่า "กรรมฐาน สอนให้เห็นตัวเอง" แต่นั้นมา กระผมจึงเริ่มเข้าใจว่า ทำไม การเถียงธรรมะ ถึง ทำให้ตกต่ำลง)
ผู้ใดหลงใหลในตำราและอาจารย์ ผู้นั้นมิอาจพ้นทุกข์ได้ แต่ผู้จะพ้นทุกข์ได้ก็ต้องอาศัยตำราและอาจารย์เช่นกัน...หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
หลง กับ อาศัย มันต่างกันลิบลับ.ความหมายหลวงปู่ดูลย์ อตุโล.น้อมกราบสาธุครับ
พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มี กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม เมื่อมีเกิดเป็นปัจจัยจึงมีเสื่อม เมื่อมีเสื่อมเป็นปัจจัยจึงมีดับ เมื่อมีดับเป็นปัจจัยจึงมีอนัตตา เมื่อมีอนัตตาเป็นปัจจัยจึงมี เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ด้วยการมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต สุตตมยปัญญา เป็นปัญญา ฌาน 4 สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ คุณเชื่อไหมว่าผมเคยพูดแบบคุณนั้นแหละครับ..ว่าให้ฟังคำของพระพุทธเจ้าอย่างเดียวเท่านั้นห้ามฟังคำของสาวกเด็ดขาด..ผมเจอนักปราชญ์ท่านหนึ่งสอนมวยผมแบบหมดรูปเลยครับ..ท่านว่าพระไตรปิฎกทั้งหมดนั้นมาจากคำพูดของพระอรหันต์ทั้งหมดเลย..เพราะพระอรหันต์ในอดีตท่านสร้างพระไตรปิฎกขึ้นมาจากคำพูดของท่านทั้งหลาย..ทั้งพูดทั้งจดทั้งเขียนมีแต่พระอรหันต์ทั้งหมดเลยครับเพียงแต่ท่านบอกว่า..พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้แบบนี้นะแบบนั้นนะ..แต่สุดท้ายก็เป็นคำพูดของพระอรหันต์ทั้งหมดนั้นเองครับ..ถ้าคำของพระอรหันต์เชื่อถือไม่ได้..ก็แสดงว่าทั้งพระไตรปิฎกใช้ไม่ได้เหมือนกันครับ..สรุปแล้วพระไตรปิฎกทั้งเล่มล้วนแต่มาจากคำพูดของพระอรหันต์ทั้งหมดเลย..
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ ใช่ครับ แต่ไม่ไช่แบบที่คึกฤทธิ์สอนครับ ต้องไปทำความที่มาที่ไปของพุทธวจนเดิมเสียก่อน เรื่องนี้ท่าน ปอ.ประยุทธท่านอธิบายใว้ ว่าที่ท่านคึกฤทธิ์อ้างฉบับแปลอย่างเดียวไม่ได้ เพราะคนแปลยังต้องใช้อรรถคาถาจารย์ช่วยแปลแต่คึกฤทธิ์กลับบอกใช้แค่ฉบับแปลไทยแล้วไปตีความหมายอื่นๆคลาดเคลื่อนไปหมด เช่น ศีลเหลือ 150 อย่างนี้ถือว่าผิดไปเยอะ
เร่งปฏิบัติกันเถอะ จะได้พ้นทุกข์กันเสียที
ฟังธรรมที่ ครูบาสอนแล้ว เหนื่อยและ สับสนเรา ฟังธรรมง่ายๆเข้าใจถึงใจตน พระสัทธรรมนั้น คือ เสียงจากหลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่มั่น ท่านพ่อลี หลวงปู่ชา ทุกคำสอนนั้นไม่เคยตำหนิใคร และไม่เคยว่า ธรรมของท่านเลิศกว่าผู้ใด ไม่ให้ยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งใด แม้แต่ตัวท่านเอง เราหันมาฟังธรรมจากท่าน แม้เราจะเจอปัญหาหนักหนาเพียงใด เราก้ผ่านไปได้ หลวงปู่เทพโลกอุดร ไม่มีตัวตนแต่ถ้าอยากพบท่าน ให้หมั่นสวดมนต์ ปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะได้พบท่านแน่นอน
ใกล้แล้วนะฉ่ายเอ้ย...เว้าทั้งวันทุกวัน555...อย่าดอกเวลาลงกะไปต่อคิวกะผู้ตามเอ้ย
คุณก้อยังหลงอยู่เลย ปู่เทพอุดร อะไรนั่นไม่เคยเห็นได้ยินแต่เขาพูด กับเชื่อแบบตามๆกันไป นั่นแหละ หลงๆเต็มๆ
ขนาดมีตัวตนจริงของจริงเผยแพร่ธรรมมานานยังไม่มีใครเชื่อเลยเขาหาว่าสำนักเพี้ยนซะอีกด้วยซ้ำแต่ดันไปเอาพระใบฎีกาพหรมตัวปลอมที่เขาแต่งหนังสือขายมาหลอกก็เชื่อกันหมดสมเพชจริงๆแถมไปศรัทธาสายเทวทัตอีกยังไม่รู้ตัว😂😂
มันยังไม่ใช่ภิกษุตามธรรมวินัย ขี้โม้ขี่อวด จำเป็นสมมุติบรรญัติ ยังอีกไกลจากคำว่าโสดาบัน
หลงมานานเข้าใจผิดมานานมาเข้าใจคำสอนพระพุทธเจ้าก็ในยุคสิ้นคิดนี้ไม่มอมเมาในคำสอนให้หลงแต่ให้ศึกษาในข้อเท็จจริงของพทธเจ้าไม่ให้เชื่อแต่ให้ลองปฎิบัติแล้วจะเข้าใจ แรกๆก็ไม่เคยเชื่อคิดว่าคงงั้นๆ ตอนนี้ปฎิบัติแล้วเข้าใจแล้วครับ สาธุ
ให้ไปพิมพ์ชื่อหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ค้นหาใน you tube แล้วฟังๆ ๆ ให้ครบทุกคลิป ควบคู่ไปกับหลวงตา ครูบาฉ่าย ด้วย จะได้รู้ว่าพระอรหันต์ยังมีอยู่เต็ม you tube
ผมก็เถียงกับคนที่บ้านเหมือนกัน สุดท้ายผมบอกทางคนต่างต่างปฏิบัติ แล้วกัน เชื่อในสิ่งที่ทำทำในสิ่งที่เชื่อ เท่านั้นเหละจบ.
น้อมกราบองค์สมเด็จพระปฐมน้อมกราบหลวงพ่อฤาษีลิงดำค่ะ น้อมกราบหลวงพ่อจรัญค่ะ น้อมกราบครูบาฉ่ายค่ะ สาธุ🙏 สาธุ🙏 สาธุ🙏 ค่ะ บันทึกบุญ
ต่อจากนี้ไปอีก30ปีถ้าท่านยังปฏิบัตดีปฏิบัติชอบยังไม่สึกหรือดีแตกซะก่อนผมจะขอชมเชย .ตอนนี้ขอให้ปฏิบัติดีต่อไป..หนทางอีกยาวไกล..กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
แก่กรรม.ก่อนจะสุก...เลยหอมฟุ้งบาดเน่าในไผสิพ้อกะตัวสูเด้อ...ถือว่ากรรมหลงเองเจอทองปลอม
มีพระธาตุเลยนะครับ
น้อมกราบครูบาค่ะ โยมเคยเป็นค่ะ เพราะคิดว่าเข้าใจพระพุทธวจน แต่ไม่เคยเข้าถึง
รู้จัก ดิน แต่ไม่เป็น ดินรู้จัก น้ำ แต่ไม่เป็น น้ำรู้จัก ลม แต่ไม่เป็น ลมรู้จัก ไฟ แต่ไม่เป็น ไฟคือ ยังไม่รู้จริง นี่เรียกว่า รู้ตามที่ฟัง คิด เห็น อ่านเท่านั้น😊
พุทธวจนะเตือนใจ“หากว่า นรชนกล่าวพระพุทธวจนะอันมีประโยชน์เกื้อกูลแม้มาก แต่เป็นผู้ประมาท ไม่ประพฤติตามพระพุทธวจนะนั้น เขาย่อมไม่เป็นผู้มีส่วนแห่งสามัญผล เหมือนคนเลี้ยงโค นับโคทั้งหลายของชนเหล่าอื่น ย่อมเป็นผู้ไม่มีส่วนแห่งปัญจโครส ฉะนั้น หากว่านรชนกล่าวพระพุทธวจนะอันมีประโยชน์เกื้อกูลแม้น้อย แต่เป็นผู้มีปกติประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรมไซร้ เขาละราคะ โทสะและโมหะแล้ว รู้ชอบ มีจิตหลุดพ้นดีแล้ว หมดความยึดถือในโลกนี้ หรือในโลกหน้า เขาย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งสามัญผล” ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท
ระวังพวกยกหนังสือมาสอนนะ
@@ต้นจาตุรันดร์พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม เมื่อมีเกิดเป็นปัจจัยจึงมีเสื่อม เมื่อมีเสื่อมเป็นปัจจัยจึงมีดับ เมื่อมีดับเป็นปัจจัยจึงมีอนัตตา เมื่อมีอนัตตาเป็นปัจจัยจึงมี เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ด้วยการมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม สุตตมยปัญญา เป็นเส้นทางการเจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ของพวก ปฏิผล ที่พระพุทธเจ้าท่านบอกเส้นทางไว้ให้รู้ตาม ใน พุทธวจน นั่นเองคะ ต้นทางเป็น สุตตะ ตถาคตภาษิต กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม มีศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต เมื่อต้นทางถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าท่านบอกสอนไว้ให้รู้ตาม ปลายทางเป็น ปัญญา สุตตมยปัญญา เป็นปัญญา ฌาน 4 สัมมาทิฏฐิ เป็น อนุสาสนีปาฏิหาริย์ เพราะเป็น สมาธิรูปสัญญา ฌาน 4 เป็น สัมมาสมาธิ ใน อริยมรรคมีองค์แปด อริยมรรคมีองค์แปด สองข้อแรก เป็น ปัญญา สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ นั่นเองคะ พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม นั่นเองคะ
@@เปรียบดั่งจันทรา คุณรู้ตัวไหมว่า..พระไตรปิฎกทั้งหมดไม่มีคำพูดของพระพุทธเจ้าอยู่เลยแม้แต่คำเดียว..มีแต่คำพูดของเหล่าพระอรหันต์เท่านั้นที่อยู่ในพระไตรปิฎก..ลองใช้ปัญญาพิจารณาดีๆครับ..พระอรหันต์ในอดีตท่านทั้งพูดทั้งเขียนทั้งบันทึกทั้งวิเคราะห์วิจารณ์จนสร้างพระไตรปิฎกสำเร็จ..พระไตรปิฎกทุกหน้ากระดาษล้วนแต่เป็นคำพูดของพระอรหันต์เท่านั้นเพียงแต่ท่านอ้างว่าพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้แบบนี้แบบนั้นก็เท่านั้นเองครับ..ในเมืองพวกคุณบอกว่า..ไม่เชื่อคำสอนของสาวกในพระไตรปิฎก..ก็เท่ากับว่าพระไตรปิฎกทั้งเล่มเชื่อถือไม่ได้เลยนะสิครับ..ใครพูดใครสร้างใครจดบันทึกพระอรหันต์ทั้งนั้นครับ..ฉะนั้นอย่ามาอ้างว่านี่คือคำสอนของพระพุทธเจ้าอีกต่อไปและปรามาสพระอรหันต์ทั้งหลาย..
ศึกษามาก็ไม่น้อย พุทธวจนะนี่แหละ เข้าใจง่ายสุดแล้ว
#พึ่งได้ ฟังครูบาร์ครั้งแรกคลิปนี้ ทำให้ผมมั่นใจได้เลยว่าผมมาถูกทางแล้วที่เลือกทางพุทธวจน /พระนักเลง มีมิจฉาทิฏฐิ ปลายทางไปอบายทุคติวินิบาก น่าเศร้าที่ครูบาร์มีโอการได้ห่มเหลืองแล้วแต่จิตท่านยังมีอวิชชา สำหรับผมพุทธวจนเปิดโลกใหม่แกผมมาก พระที่สอนก็มีคำพูดสุขุม สงบนิ่ง ส่วนนอกนั้นเห็นแต่พระอวดอุตริ ใช้อารมณ์ในการพูดมากกว่าความเข้าใจ เช่นครูบารู้สึกว่าท่านจะมีอารมณ์ในการพูดมาก🙏
ผมคนหนึ่งครับ เรียนรู้มาผิดๆ จนมาเจอพระพุทธวจน แล้วปฏิบัติตาม คิดตาม เข้าใจตามทุกข้อธรรม ไม่ขัดแย้งกันเอง ไม่งงด้วย พระพุทธเจ้าต้องการให้คนทั่วไปกลับไปสู่อมตะนิรันดร์ที่จิตทุกคนเคยอยู่ คือ การหลุดพ้นจากขัน 5
+1
@@Palada.river.chanalเชื่อไอ้คึกวจนขายพระไตรปิฏกกินนี่นะ
ถ้าศึกษาพุธทวจนแล้วน่อมธรรมเข้ามาใส่ตน รู้จักเป้าหมายที่ชั้ดเจนของตนว่าเราศึกษาธรรมเพื่อมอะไรอย่างไร ผู้นั้นจะไม่โทษอะไรผิดหรึถูก เขาจะเข้าใจว่า เรารู้แปปเราเขารู้แปปเขา จะเข้าใจตามความเป็นจริงด้วยจิตที่เบิกบานมีเมตตาเปิดกว่างเป็นสากลไม่อยู่ในความขัดแย่งและปล่อยวางในที่สุด กราบสาธุท่านครูบาครับ
ชาวพุทธทั้งหลายอย่าขัดแย้งกัน อย่าทะเลาะกัน พึงศึกษาเพื่อนำไปสู่ความหลุดพ้น มิใช่ขอใครดี ไม่ดี ถูกผิด อย่าขัดแย้งกันครับ พระพุทธองค์ไม่สอนให้พุทธมามกะทะเลาะขัดแย้งกัน
พระพุทธเจ้าสอนว่า ให้ฟังแต่คำพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ใช่คำพระองค์1.อย่าฟังด้วยดี2.อย่าเงี่ยหูฟัง3.อย่าตั้งจิคเพื่อจะรู้ทั่วถึง4.อย่าสำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรไปศึกษาเล่าเรียนเหตุการณ์ก็เป็นเช่นนี้เเล้ เราควรจะเชื่อพระพุทธเจ้าอยู่ไหม๊ หรือเชื่อคำสาวก ดี🤫🤫🤫🤫🤫🤫
ไปสอนแก็งค์พุธวจนะก่อนไหม??
@@Venrune56 พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มี อยู่ใน พุทธวจน ยกตัวอย่าง ตถาคตภาษิต สุตตมยปัญญา - ภาวนามยปัญญา - พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็น ตถาคตภาษิต เพราะมี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม เป็น สัมมาทิฏฐิ จึงเป็น ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ สาวกภาษิต ไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ เพราะพระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง ท่านบัญญัติ พระธรรม พระธรรมวินัย บอกสอนไว้ให้รู้ตามนั่นเองคะ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็น ตถาคตภาษิต เพราะมี กฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม เมื่อมีพระพุทธเป็นปัจจัยจึงมีพระธรรม พุทธวจน เมื่อมีพระธรรมเป็นปัจจัยจึงมีพระสงฆ์ มี โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ นั่นเองคะ
คำสอนของพระพุทธองค์เป็นหนึ่งไม่มีสองไม่มีคำสอนใดจะมาลบล้างคำสอนของพระพุทธองค์ได้ ถ้าสาวกรูปใดไม่ฟังคำสอนและไม่ประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ พ่ออย่าหวังเลยในมรรคผลนิพพาน พระพุทธองค์ก็ทรงตรัสไว้แล้วว่าถ้าไม่ได้ฟังคำสอนของพระพุทธองค์แล้วจะไม่มีใครได้สำเร็จผลประโยชน์ในมรรค ผู้ที่จะสำเร็จในมรรคผลนิพพานนี้มีเพียงในพุทธศาสนาเท่านั้น
ข้าพเจ้าก็ปฏิบัติของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำเข้าใจในสิ่งที่พระอาจารย์พูดถึงการที่ใครจะเห็นอะไรอาจจะไม่เหมือนกัน ชัดเจนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติเพียรจิตของระดับญาณไม่เท่ากัน..สาธุอนุโมทณาบุญกับการสร้างบารมีของท่านพระอาจารย์สาธุ..สาธุ..สาธุ..
ผมนี้จากคนไม่มีศาสนา ไม่รุ้สึกผิดชอบชั่วดี ไม่กลัวบาปหลวงพ่อฤาษีลิงดำ สอนไห้ผมเห็น นรก สวรรค์ สอนไห้ผมมีฌาน4 ไห้ผมมีอินทรีย์5 ที่ดี ดูจิตตัวเองถ้าไม่มีพ่อฤาษีลิงดำท้าไห้ลองกรรมฐานของพระพุทธเจ้าผมก็คงได้ไปนอนในนรกยาวๆแน่นอน🙏🙏🙏
สาธุ ครับ
จริงคับ.พวกศึกษาพุทธวจนส่วนมากหลงความรู้ที่ตนเองรุ้มาจนยึดติดความรู้นั้นไม่ฟังใครอีก.ผลก็ศึกษานะคับแต่ผมเรียนรู้เพื่อปล่อยวาง.ตัวตน.สาธุ
เพิ่งเคยฟังครูบาฉ่าย รู้สึกท่านมีภูมิธรรมแน่น เกิดจากการปฏิบัติไม่ได้เทศน์จากอ่านตำรามา เสียงดังฟังชัด ตอบคำถามได้หมดสงสัย ยกตัวอย่างได้เห็นภาพชัด เป็นธรรมที่เข้าใจง่าย โมทนาสาธุ
พระธาตุเกิดขึ้นได้อย่างไร..ในตำราทั้งหมด..แม้แต่พระพุทธเจ้า.เกิดขึ้นหลังปรินิพพาน..แต่ครูบาฉ่ายเกิดตัวเป็นๆ..ใครไม่เคยศึกษาก็เชื่อไป...
โง่งม
ครูบาฉายยังห่างไกล กับคำสอนของสัพรรณญูที่อาจารย์คึกฤทธิ์ นำมาบอกสอนคำของครูบาฉายเปรียบเหมือนแสงของหิ่งห้อย ส่วนคำของตถาคตเปรียบเหมือนแสงของดวงอาทิตย์ แล้วแต่จะเลือกเอาเองครับ
คนที่ไม่มีคำสอนของตัวเอง แต่นำคำสอนของตถาคตมาเปิดเผยบอกสอน กลับถูกพระสงฆ์บางองค์ต่อต้านในคำสอนขององค์พระศาสดาของตนเอง...
ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า จิตหลุดพ้นง่ายๆ.
ผมเองก็ศึกษาพุทธวจนครับ ครูบาท่านพูดจริงธรรมมะขององค์พระศาสดาคือความรู้ที่นำให้เราก้าวพ้นจากความทุกข์ เมื่อใดที่นำธรรมมะมาถกเถียงกันด้วยความขัดแย้งอยากเอาชนะความรู้นั้นก็ไร้ความหมายครับเพราะเมื่อเกิดการทะเลาะขึ้นมันกลายเป็นเจตนาที่มีอย่างอื่นเคลือบผิวไปแล้ว กลายเป็นว่าของเราดีของเขาไม่ดีไม่ใช่ อันที่ผิดอันที่ใช่นี้ก็มีอยู่ครับ สำคัญคือถ้าเรารู้อันที่ถูกแล้วศึกษาแล้วทำได้จริงรึเปล่าสำหรับผู้ศึกษาใหม่แยกออกรึเปล่าครับว่าเพียงรู้ในคำของพระศาสดาหรือรู้แล้วนำมาใช้ได้ในชีวิตของตัวเองได้จริงๆ ตรงนี้จำเป็นจริงๆที่ต้องแยกแยะให้ออก เรื่องของการฝึกจิตพระอาจารย์คึกฤทธิ์ท่านยังบอกว่ายากเลยครับต้องใช้เวลา
สาธุๆๆ น้อมกราบในธรรมของครูบาฉ่าย ฟังกี่ที ก็ให้ความกระจ่างชัดเจนในสิ่งที่ค้างคามาตลอดชาตินี้ ครูบาคือผู้ที่จูงเรานำทางเราออกจากความโง่ในหลายๆเรื่องให้เกิดการขัดเกลาปัญญาที่ละเอียดอ่อนจริงๆ สำนึกในบุญคุณคับ
ท่านครูบามีปัญญามากล้ำเหลือ สามารถหยิบคำมาอธิบายได้อย่างละเอียด สาธุ กราบอนุโมทนา
ครูบาท่านมีเมตตามาก ท่านพยายามสอนธรรม ให้คนถามเข้าใจ.คนยีฝังสงสัยอยู่มาก ถ้าถามเพื่อไปปฏิบัติ ถามเลยครับท่านให้ทางสว่าง แต่อย่าถามเพื่อที่จะชนะครูบา มีนจะได้กิเลสท่วมหัว
เชื่อหลวงพ่อครับ ท่าน มีองค์ประฐม คอยแนะนำการสอนธรรม
ธรรมมะครูบาฉายโคตรขัดจิตขัดใจโยมยอมรับว่าอารมณ์ความรู้สึกคือตีกันอยู่ข้างในรับไม่ได้จริงๆค่ะ สารภาพ แต่ทุกครั้งครูบาก็บอกทุกคลิป พิจารณาเอาปฏิบัติเอาจริงมั้ย คำนี้แหละทำให้เราเห็นว่า เราไม่ได้ฉลาด โง่มากกว่าฉลาด น้อมรับค่ะ ว่าตัวเองโง่ กับเรื่องโง่ๆมาตลอด ครูบาชี้ให้เห็นว่าเราไม่ได้รูจริง แสร้งทำเป็นรู้เพราะกลัวสังคมไม่ยอมรับ ขำตัวเอง แต่ก็ไม่พอใจหลายๆคลิปแต่ก็จะฟัง เพราะครูบาเหมือนท้าใจเรา ตลอดเวลา เออ ถ้าเราฉลาดไม่ต้องมาปฏิบัติไม่ต้องฟัง แต่เพราะรู้ว่าตัวเองโง่ เลยยังฟัง สาธุค่ะ
ท่านครูบาสอนอะไรทำไมฉันเข้าใจยากจริงๆ ฉันฟังธรรมะพุทธวจน ฉันเข้าใจง่ายแล้วลึกซึ้ง ถึงคำสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์สอน
ไม่นิ่งสับสนไร้จุดหมาย ยังห่างจากอาจารย์คึกฤิทธิ์มากๆ ฝ่ายนึ่งพูดตามความคิดเห็นเหมือนปุถุชน ส่วนอาจารย์คึกฤิทธิ์พูดจากคำของสัพพรรญู ผู้มีปัญญาย่อมมองเห็นได้อย่างชัดเจน สาธุ...
@@สิทธิพันธ์แก้วเมืองหลงทางเป็นแถว
น้อมกราบพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ทุกๆท่านเจ้าค่ะ..ทุกองค์ สอนดีหมดเลย เนื้อธรรมอันเดียวกัน แต่ เดินกันคนละแบบ..สุดท้าย..นำมาลงที่ จิตตัวเดียว..🙏🙏🙏
ถูกต้องครับผม
เท่าที่เห็นครูบาก็ทุกข์เพราะไปสำคัญว่าคนอื่นขาดปัญญา.จึงทะเลาะกัน สำคัญว่าคนอื่นหลงความรู้ ซึ่งความจริงท่านเองก็พอๆกัน. ใครเขาทะเลาะกันท่านไม่รู้ว่าครอบครัวเขาถกเถียงแบบใดใครหนักใครเบาใครหลงไม่หลงหรืออาจหลงพอๆกันทั้งคู่ ท่านครูอยู่ตรงกลางก็อย่าคิดแทนใครๆให้ตนเองดูเหมือนผู้สรุปชี้ขาดความขัดแย้งเลย.
ตถาคตภาษิต มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เมื่อมีพระพุทธเป็นปัจจัยจึงมีพระธรรม พุทธวจน ตถาคตภาษิต เมื่อมีพระธรรมเป็นปัจจัยจึงมีพระสงฆ์ มี โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์
เท่าที่ฟังครูบากะลังหลงทาง ศึกษา พุทธวจน แค่เสี่ยวเดียว ถึงได้หลงทาง..และจะพาชาวบ้านลงทางไปด้วย....
จริงงงงงงงงงงง ฮะ
ธรรมชาติธรรมะจากหลวงพี่ครูบาฉ่าย สาธุๆเจ้าค่ะ🙏🌍
คำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง นับเป็นคำสอนที่ต้องฟังแล้วปฏิบัติตามทำเองรู้เองแต่ละคลิปเมื่อฟังรอบใหม่ก็จะได้อะไรเพิ่มขึ้นในครั้งแรกที่ฟังจากเก็บไม่ครบสั่งครั้งที่สองละเอียดเพิ่มขึ้นฟังครั้งที่สามยิ่งลึกซึ้งยิ่งฟังหลายคลิปหลายม้วนจะรับรู้ได้ถึงคุณค่าและความโชคดีของเราที่ได้พบท่าน เป็นทางตรงที่สุด
สาวกแค่ผู้เดินตามมรรคคำสอนของตัวเองมีไม่ได้ถ้าสาวกมีคำสอนของตัวเองจงรู้ไว้เลยผู้นั้นไม่ใช่อริยะเป็นเพียงโมฆะบุรุษที่แอบอ้างศาวนาเป็นไปในทางเสื่อมยิ่งกว่าปุถุชนที่ไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำไปจงศึกษาคำของตถาคตอย่าเข้าใจหรือคิดเอาเอง
จริงที่สุด
อือ...เราฟังคลิปของท่านใน you tube จนเกือบจะหมดทุกคลิปแล้ว รวมทั้งคลิปการออกธุดงค์ในป่าลึก ที่ท่านเล่าเรื่องมหัศจรรย์ไว้มากมาย รวมทั้งเรื่องเทวดานางฟ้าลงมาใส่บาตรคณะของท่านจนไม่ต้องออกบิณฑบาตกับมนุษย์ธรรมดาเลย...สาธุ
@@คูโฟน-บ7ง อะไรของแกรึแก? พระบรมศาสดาทรงมีพระสงฆ์สาวกไว้เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ไม่ใช่มีไว้เพื่อให้ทำแบบพระคึก...กับพวกแก นะ #สาวกคึก.....
เพิ่งเคยเข้ามาฟัง.ท่านพูดถูก และตรงตามหลักธรรม
สาธุ สาธุ สาธุ
กราบสาธุเจ้าค่ะ ชอบมากค่ะเจ้าค่ะคำว่า”ใจคนถ้าเป็นธรรม จะมองไม่เห็นคนชั่ว” “ผู้ฉลาดย่อมหาประโยชน์ได้จากทุกสิ่ง”ฟังธรรมจากที่ไหนก็ตามให้เราใช้สติกับปัญญาควบคู่กันไป “ธรรมะเป็นเครื่องสอนตนเป็นเครื่องขัดเกลาจิตใจแล้วเมื่อมองหรือเห็นสิ่งใดให้เรากลับมามองที่ตัวเราใจเรากลับมาที่วิหารธรรมของเราไม่ส่งจิตออกนอก ทุกสิ่งที่เกิดเป็นปัจจัตตัง เราอย่าเอามาตรฐานเราเป็นหลักในการตัดสิน กราบสาธุครูบาฉ่ายเจ้าค่ะสำหรับองค์ความรู้ในวันนี้เจ้าค่ะ🙏
กราบสาธุค่ะ ชัดเจนมากค่ะ โดยเฉพาะ เรื่องหลวงพ่อฤาษี ครูบาอาจารย์ของโยมด้วยค่ะ กราบ กราบ กราบ ครูบาฉ่ายเจ้าค่ะ
ครูบาพูดถูกทุกอย่างสุดยอดครับ สาธุ สาธุ ผมก็ชอบ หลวงพ่อ วัดท่าซุง ❤
กราบนมัสการครูบาฉ่ายค่ะ เตือนสติได้ดีมากค่ะ ตอนนี้กำลังเมาอยู่ หายเมาเลยค่ะ
กราบสาธุธรรมครูบาฉ่ายค่ะ ปัญญาล้ำเลิศ ละเอียดมากๆ ค่ะ อนุโมทนาทุกบุญบารมีที่ครูบาได้สร้างมาทุกภพอสงไขย มหากัป น้อมกราบ กราบ กราบ สาธุ
ธรรมะของพระพุทธองค์นั้นเรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง
ลึกซึ้งแบบไหนมั่ง รึแก?
ชอบรายการนี้มากค่ะ อยากไปกราบองค์ท่าน แต่อยู่ไกลเหลือเกิน ก็ขอกราบนมัสการ ในพระมหา กรุณาธิคุณ อยากหาที่สุดมิได้ ดูสุโขทัยค่ะ สาธุเจ้าค่ะ ฟังทุกวันเจ้าค่ะ
อนุโมทนาสาธุ….คนรู้ธรรมะชอบเอาชนะผู้อื่น คนมีธรรมะชอบเอาชนะตัวเอง
กราบนมัสการท่านครูบาฉ่าย ผมฟังท่านสนธนาธรรมแล้วรู้สึกกระจ่าง ไม่มีคำโต้แย้งเลยครับ สำหรับผมแล้ว ผู้ที่จะเกิดปัญญาเมื่อได้ฟังแล้ว สิ่งใดยังแคลงใจก็ พิจารณาหาเหตุและผลครับผม🙏🙏🙏
คนฉลาดต้องได้ประโยชน์จากทุกสิ่ง จิตตนนั้นสำคัญกว่าคนอื่น ตามนั้นครับ สาธุ
ศึกษาให้มากปฏิบัติให้มากฝึกวางให้มากละความมีตัวตนให้น้อยลงสติและปัญญาขัดเกลาจิตให้เข้ากับธรรมชาติ. ดูตัวเองสอนตัวเองให้ได้ค่อยสอนคนอื่น ยอมรับฟังผู้อื่นให้ธรรมอย่างมีปัญญาไม่ใช่ให้อารมณ์ครอบงำธรรม
ดวงตาเห็นธรรมขึ้นอีกระดับหนึ่งครับ ขอบคุณ สาธุ คลิปนี้มาได้ถูกกับจังหวะชีวิตของผมตอนนี้จริงๆ นับว่าเป็นบุญกุศลของผมครับ🙏🙏🙏
พระนักปฏิบัติจะไม่พูดพาดพิงคนอื่นให้เสียหาย ถ้าปฏิบัติถึงขั้นบรรลุจะปล่อยวางไม่อยากมีชื่อเสียง
เห็นด้วยอย่างยิ่ง
จริงค่ะ
ส่วนมากยังไม่ถึง ก็อยากอวดสอนคนก็มีครับ คนก็เชื่อง่าย มีคนถาม วิธีดีบตัวตน สรุป ลากไปลาก ตอบได้ไม๊ อาการอย่างไรดีบตัวตน ไม่มีคำตอบ นั่นแหละ ตัวเขาย่อมรู้จักตัวเขาดี
พระมั่นใจตัวเองสูง แต่ความรู้และปฏิบัติน้อย แล้วอยากดัง ชื่อว่า ปุถุสงฆ์
ศรัทธาที่ใด ไปที่นั่น....ไม่มีผู้ใดเลิศเท่าพระพุทธเจ้า...อย่าเงี่ยหูฟัง อย่าไปตั้งใจฟัง อย่าตั้งจิตเพื่อให้รู้ถั่วถึงแม้ผู้นั้น จะเป็นอรหันต์ผู้เลิศด้วยปัญญาก็ตามเพระเขาเหล่านั้นเป็นเพียงผู้เดินตามมรรคของเราเท่านั้น..❤❤แต่เมื่อได้ฟัง อย่าพึงคัดค้าน อน่าพึงเขื่อ แต่จงจำไว้ให้มั่น แล้วเอามาสอบในธรรมวินัย ถ้าเข้ากันได้ด้วยดีไม่ขัดแย้งกัน ให้ถือว่า ธรรมทั่จำมานั้นเป็นของที่แสดงไว้จริง หากเข้าไม่ได้ให้ทิ้งมันเสีย❤❤.....พุทธวจน คือ สิ่งที่ผมรอมาค่อนชีวิต ทำให้ผม บรรลุสมาธิและบรรลุธรรม ..ทำให้รู้ว่าพระรูปไหนสอนอะไรถูก และพระรูปไหนสอนอะไรผิดพระรูปไหนขี้โม้แต่ สิ่งที่ผมรู้นั่นแค่ 1 ใน 62 แบบของคน นิพพานเป็นสิ่งปฏิบัติเข้ามาได้โดยรอบพระพุทธเจ้าตรัสไว้อย่างนั้น หากคุณไปถึงที่ที่ครูบาอาจารย์สั่งสอนอยู่ ท่านจะหมดความสงสัยทันทีทันใด เช่น ตถา คเต เอ กัน ตคโต อภิปปสันโน สงัดจากกามราคะ สงัดจากอกุศลกรรมสุขที่ไม่อิงอามิสสภาวะคนตรง(ก่อนบรรลุสมาธิ)ที่คุณผูหญิงถาม ความไม่มีอะไรคือ ผัสสะดับ ปฏิจจสมุปบาทสายเกิดล่มสลายลงไป แต่ยังเหลือสิ่งที่อยู่ในกายเราจะเห็นแค่ มโน ที่ไม่ใช่วิญญาณ ใช้เพื่อ วิปัสสนา เพื่อดับทุกข์ (นิโรธ) หลวงปู่ดุลย์เรียกว่า นามกาย สิ่งที่ครูบาพูด ผมยอมรับเรื่องเดียว คือ การหยุดความคิด ... เราทำได้จริง ในสมาธิ และนอกสมาธิ แค่เรารู้และสละทิ้ง (ละนันทิ) ❤❤ มีอีกมากสภาวะที่ผมไปถึง ตามคำสอนเป๊ะๆ ขององค์พระศาสดาไม่มีผิดเลยในอักขระและพยัญชนะ ❤❤รู้ธรรมเพียงบทเดียว ก็เพียงพอสำหรับการบรรธรรม ❤.......เราจะสอนคนอื่นต้องสอนด้วยคำสอนขององค์พระศาสดาเท่านั้น ....ส่วนสภาวะธรรมนั้นเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้น แค่ปัจเจกบุคคล นี่คือความต่าง ที่เรียกว่า ทิฐิ 62....แค่หากใช้คำสอนพระพุทธองค์ สัตตานัง จะได้ทั้ง 62 แบบ เป็นผู้ได้สดับ สัตตานังจะบังเกิดความเลื่อมใสและศรัทธา และแสวงหาความศรัทธาตามสัตตนิยามความถูกต้องใน สัมมาทิฐิในมรรค และธรรมจะไหลไปตามธรรมนี่คือความต่าง ระหว่าง ผู้เดินตามมรรค และผู้ที่ทำมรรคให้เกิด .....ผมตั้งใจว่า หากไม่ถึง อนาคามี (กามและสัญญาในกามดับ) จะไม่บวช เหตุเพราะ ผู้หญิง คือสิ่งที่เป็นภัยขั้นสูงสุดสำหรับผม .. และขอใช้หนี้ให้หมดก่อน😂😂 ห้ามหนีหนี้ไปบวช...😂😂 คงอาจไร้วาสนาในชาตินี้
เมื่อก่อนผมก็เคยเป็นครับไปว่าคนนั้นคนนี่ ถึงตอนนี่ผมก็ยังคงศึกษาอยู่พุธทวจน จนตอนนี่ผมไม่มีความขัดแย่งกับใคร ผมฟังได้ทุกครูบาอาจารย์ ผมเปิดกว่าง และปล่อยวาง (สาเหตุที่ผู้ศึกษาธรรมทั้งหลายที่ทะเราะกันก็ เขาไม่น่อมธรรมเข้ามาใส่ตน ไม่เคยมองตนเอง มองแต่ภายนอกอย่างอื่น) ก็เลยทะเราะกัน ประเด็นแปปนี่มีเยอะเลยครับลูกศิทธิ์พาครูบาอาจารย์ทะเราะกันไปในตัว (แต่ครูบาฉ่ายไม่เป็นอย่างนั้น ท่านมีความเป็นสากล ด้วยจิดเมตตา เปิดกว่าง) ขอกราบอานุโมทนาสาธุด้วยครับ (หลวงตากับครูบาฉ่ายผมก็ฟังตลอด พระอาจารย์คึกฤทริ์ ก็ผมฟังอยู่ตลอด ทำให้ผมเข้าใจธรรมหลากหลายแง่มุมมาก) ถ้าผู้ปฏิบัติธรรมยังมีความขั่ดแย่งสิ่งภานนอกอยู่แปลว่าผู้นั้นกำลังหลวงอย่างมหันครับ. เพราะเขาไม่น่อมธรรมเข้ามาใส่ตนอย่างจริงๆ ครับสาธุ
ผมเป็นเช่นนั้นเหมือนกันครับ ผมฟัง อ่าน พุทธวจน แต่ก็ยังฟังพระสายวัดป่าได้ เช่นหลวงพ่อปราโมชย์ หลวงปู่ชา ก็เปิดฟัง อะไรที่ไม่ตรงตามคำตรัสของพระพุทธเจ้าก็ทิ้ง ยึดแต่แก่นของธรรมเอาไว้ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา รู้กาย รู้ลมหายใจ ละอารมณ์ความคิด ตั้งจิตอยู่กับกาย ดังนั้นถ้าเรามีคำของพระพุทธเจ้าที่ถูกต้อง เราจะพิจารณาได้เองหมดครับ ที่สำคัญใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น อะไรที่เป็นสิ่งนอกแนว ไม่ใช่พระศาสดาสอน เช่น รดน้ำมนต์ พิธีกรรม สวดเพื่อให้ได้ให้มี บนบานสานกล่าว บูชาวัตถุก้อนดิน เราจะทิ้งไปหมดเลย เบาสบาย รู้กาย รู้จิต รู้ลมหายใจ มีศีล สมาธิ ปัญญา จบเลย ง่ายกว่าเดิม และเบาสบายกว่าเดิม ธรรมะของพระพุทธเจ้าท่านสอนให้มนุษย์ปฏิบัติเพื่อบรรลุธรรมตามได้ ไม่ใช่ต้องยิ่งใหญ่ล้นฟ้าจากไหนถึงจะทำได้
@@physioarmchiangrai6783 อานุโมทนาสาธุด้วยครับ ถือว่าเป็นผู้มีเครื่องกันกรองแล้วครับ
อยู่อุเบกขา ขอโมทนาครับ
สาธุๆๆ เป็นเช่นเดียวกับเจ้าของคอมเม้นท์ นี้เลยค่ะ
กราบนมัสการครูบา ด้วยความเคารพเจ้าค่ะ โยมก็ศึกพุทธวจนยิ่งฟังยิ่งศรัทธาในคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมคุณพระอริสงฆ์ สาธุเจ้าค่ะ
อ้าว !!! พระคึกฤทธิ์สอนว่าห้ามไปฟังพระทั้งประเทศไทยเพราะไม่สอนตามพุทธวันจนะ ไม่ใช่หรือครับคุณผู้หญิง
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็น ตถาคตภาษิต ตถาคตภาษิต มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม เห็น กฏอิทัปปัจจยตา ใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไหม เห็น ปฏิจจสมุปบาท ใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไหม เห็น สังขตธรรม ใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไหม ตถาคตภาษิต มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม เมื่อมีพระพุทธเป็นปัจจัยจึงมีพระธรรม พุทธวจน เมื่อมีพระธรรมเป็นปัจจัยจึงมีพระสงฆ์ มี โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ นั่นเองคะ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ บอกอีกครั้งแล้วว่าในพระไตรปิฎกนั้นไม่มีคำพูดของพระพุทธเจ้าครับ..มีแต่คำพูดของพระอรหันต์เท่านั้น..
ความจำกับความจริงต่างกันมาก เมื่อจำได้แล้วก็วางความจำลงเน้อ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ ความจำหรือสัญญานั้นเป็นหนึ่งในขันธ์ห้าที่ต้องละทิ้งไป..ความจำนั้นไม่สามารถเอามาเป็นกำลังตัดกิเลสตัณหาได้..ต้องเดินมรรคปฏิบัติด้วย..ศีลสมาธิปัญญาเท่านั้น..พิจารณาดีๆแล้วคุณจะปล่อยวางได้
พึ่งเคยฟังครูบาครั้งแรก ผมว่าท่านแฟร์ๆมาก ประทับใจครับ
อืม....ใช่เลย ถ้าท่านเป็นชาวบ้านธรรมดาพระพุทธองค์ตรัสเรียกว่า #สัตบุรุษ
ข้าพเจ้าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เคารพศรัทธาท่านไม่ใช่หลงในธรรมแต่รู้แจ้งในคำสอน ท่านไปนิพพานแล้วเพราะท่านเป็นพระอรหันต์ แปลว่าไม่หันแลัว ท่านพ้นเหตุการเวียนว่ายตายเกิด เพราะสร้างบารมีมาหลายชาติ ผู้ใดปรามาสพระอรหันต์ มีที่ไปคือนรกภูมิ🙏🏻
ผมเคยเป็นแบบนี้เลยครับ เหมือนครูบาเลย เอาอัตตาตัวเองมาข่มคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองไม่มีดีอะไรเลย จนมาเจอพระสายปฏิบัติจึงเข้าใจวางอัตตาลงใด้
เพิ่งได้รู้จักครูบา ได้ฟังครูบาสอน ในคลิปนี้ ทำให้เกิดเป็นศรัทธาและยอมรับแฝนับถือท่านว่าท่านเป็นพระสุปฏิปันโน สาธุ
แมวตัวใดพันธ์ใดก็ตาม ถ้าจับหนูได้ก็เป็นอันใช้ได้ ธรรมะใดก็ตามถ้าสามารถกำจัดกิเลสให้สิ้นไปได้ ก็ใช้ได้
ฟังทุกคน ทุกพระอาจารย์ แล้วใช้สติปัญญาไตร่ตรอง
@@naturalbalance4590 ตัวคุณนั้นมีศีลธรรมสักข้อยังครับ..
อานาปานสติประเสริฐ์สุดแล้ว สาธุ
เคยศึกษาเหมือนกัน แต่พอได้มีโอกาสฟัง เจ้าของต้นกำเนิด พุทธวจน ครั้งแรกก็เริ่มตะหงิดๆ ในเรื่องอัตตาของพระคุณเจ้า ฟังหลายๆ ครั้ง เสมือนท่านมีความเป็นอัตตาสูงมรกไม่ฟังใครเลยคิดว่า ตนดีเลิศ เลยขอยุติ พระสัมมาสัมพุทธจ้าไม่ให้ยึดตัวตน แม้แต่พระองค์ก็บอกไม่ให้ยึด พระพุทธเจ้ามีอยู่ในตัวตนทุกคนอยู่แล้ว หากันไม่เจอกันเอง
คือท่านต้องดูแลคนหมู่มากคนละแนวอยากรู้ต้องตายก่อนจะเห็นเองหยุดวิจารพระดีหมดถ้าเอาคำสอนพระพุทธเจ้า
พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เมื่อมีพระพุทธเป็นปัจจัยจึงมีพระธรรม พุทธวจน เมื่อมีพระธรรมเป็นปัจจัยจึงมีพระสงฆ์ มี โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ นั่นเองคะ
ผมฟังพุทธวจน แล้วเกิดศรัทธาในพระพุทธเจ้า พิจารณาแล้วเห้นว่าเป้นจริงตามคำสอน จึงนำไปปฏิบัติ ส่วนพระอาจารย์ ผมดูมาท่านแทบจะมีอารมณ์เดียวตลอดน่ะ ใช้ปัญญาพิจารณาน่ะ
@@copter7647 แต่ก่อนผมก็คิดแบบคุณนั้นแหละครับ..ชอบบอกคนอื่นว่าให้ฟังคำของพระพุทธเจ้าเท่านั้นห้ามฟังคำของสาวกเด็ดขาด..สุดท้ายไปเจอนักปราชญ์สอนมวยเอาจนได้ครับ..ท่านว่าถ้าคุณพูดแบบนี้ล่ะก็ลงอเวจีแน่นอนเพราะปรามาสพระอรหันต์ทั้งหมดเท่ากับปรามาสพระรัตนตรัยแบบไม่รู้ตัวเลย..ท่านบอกว่าจริงๆแล้วพระไตรปิฎกทั้งหมดนั้นไม่มีคำพูดของพระพุทธเจ้าเลยนี่เอาตามความจริงนะท่านบอก..เพราะบุคคลที่พูดที่เขียนที่จดบันทึกที่ช่วยกันจำช่วยกันวิเคราะห์จนสร้างพระไตรปิฎกขึ้นมานั้นล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ในอดีตทั้งหมด..ทุกคำพูดทุกการจดบันทึกล้วนแต่ออกมาจากพระอรหันต์ทั้งนั้นแต่ท่านอ้างว่านี่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าแบบนั้นแบบนี้..เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติธรรมของคนยุคหลังๆมาเท่านั้นเอง..จริงๆไม่มีใครรู้เลยว่าพระพุทธเจ้าทรงตรัสจริงๆไว้แบบไหนกันแน่..แต่เพราะพระอรหันต์พูดไว้จดบันทึกไว้แบบนี้เท่านั้นเอง..ถ้าคุณไม่เชื่อคำสอนของพระอรหันต์ที่หมดกิเลสแล้วนั้น..คุณก็เรียนพระไตรปิฎกไม่ได้เลย..เพราะพระไตรปิฎกล้วนแต่เกิดจากคำพูดของพระอรหันต์ทั้งนั้น..แม้จะอ้างแบบไหนก็ตาม..พอได้ยินแบบนี้ตาผมสว่างเลย..
ขอกราบนมัสการพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ด้วยเศียรเกล้ากราบพระธรรมกราบพระอริยสงฆ์ทุกๆพระอง์คฟังธรรมเทศนาครุบาฉ่ายทราบชึ้งมากได้ความรุ้ขอกราบนมัสการ.... คือว่าผมอยากจะแสดงธรรมมะให้คนอื่นฟังบ้างชักข้อสั้นๆได้ไหมครับ.... ฝนที่ตกลงมาจากฟ้านับเม็ดไม่ถ้วนถึงมันจะมีหลายเม็ดทุกๆเม็ดมันก็เหมือนกันหมดถึงมีแค่เม็ดเดียว... หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อคนอ่านนะครับไม่มากก็น้อย.. ขอบคุนครับ
เป็นผู้หนึ่งที่เคารพศรัทธาในหลวงพ่อฤาษีลิงดำและเข้าใจคำสอนท่านและเคยถูกผู้ที่ศึกษาพุทธวจน มาตั้งคำถามและพูดปรามาสหลวงพ่อฤาษีลิงดำต่อหน้าเรา.. ในตอนนั้นเรารู้สึกแค่ว่า.. กรรมของเค้าไม่ใข่ของเราเพราะเราก็ทำตามคำสอนหลวงพ่ออยู่ว่าไม่ให้ปรามาสหรือว่าผู้ที่นับถือต่างไปจากเราไม่ว่าจะเป็นอะไร.. ให้วางใจเฉย.. เราก็ปฏิบัติวางใจวางจิตตามนั้นต่อไป.. กรรมคนไหนก็ของคนนั้น..นรกสวรรค์.. ภพภูมิการเห็นอีกภพไม่ใช่เรื่องอัศจรรย์แต่มันคือเรื่องที่มนุษย์ทำได้อยู่แล้วแค่ไม่ได้ฝึกกันเองก็เหมือนว่ายน้ำนั่นแหละไม่ฝึกก็ทำไม่ได้.. และที่เห็นโน้นนี่กันก็ไม่ใช่ให้ยึดติด..ก็คนมันเห็นจะทุกข์ที่เห็นอีกภพได้ก็ใช่เรื่อง.. แค่รู้จักประโยชน์ของการเห็นซะ..มันเป็นเครื่องยืนยันเราได้ดีว่า..เราปฏิบัติธรรมไปเพื่ออะไร... รู้แจ้งได้ด้วยตนเองก็เท่านั้นเอง..หลวงพ่อสอนให้ยึดปฏิบัติตามพระพุทธเจ้า..ทุกคำเช่นกัน
กราบสาธุค่ะ มีโฆษณาเยอะมากเลยค่ะ อยากฟังท่านพูดแต่พอดูมีโฆษณาแล้ว รำคาญโฆษณาค่ะ กราบสาธุ
กราบนมัสการเจ้าค่ะ เทศน์กัณนี้ประทับใจมากค่ะ จะเปิดฟังอีกหลายเที่ยวค่ะ
ผมก็อีกคนที่ ปฏิบัติตามพุทธวจน
ฟังแค่ตอนเราคือใคร เลยจะตอบถ้าทางโลกเราคือกายหยาบที่เห็นนั่นแหละ ทางธรรมอธิบายค่อนข้างยากให้คนอื่นเข้าใจว่าเราคือใคร เพราะแม้แต่กายทิพย์ยังไม่ใช่เรา ตัวตนจริงของเรามันไม่มีและมองด้วยตาไม่เห็น ก็ไม่รู้ว่าจะต้องให้คำจำกัดความว่าอะไรดี สำหรับเราให้คำจำกัดความของคำว่าเราเป็นอากาศธาตุชนิดหนึ่งที่ไร้ตัวตนแต่รู้ว่ามีอยู่ มันเป็นสิ่งที่ไม่มีความรู้สึกอะไร มันแค่ทำหน้าที่รู้อยู่อย่างนั้น ต้องนั่งสมาธิบ่อยๆจึงจะเห็นตัวจริงของเราเอง อธิบายยากที่สุด ต้องรู้เองเห็นเองถึงจะเข้าใจ
การทำลายตัวตน ทำไม่ได้ เพราะตัวตนไม่มีมาแต่แรก แต่ไหนแต่ไรแล้ว การปฏิบัติธรรม เพื่อให้เห็นความจริงของกายใจ ขันธ์5นี้ ว่ามันไม่ใช่เรา ไม่มีเรา คือล้างความเห็นผิดต่างหากครับ เรามีความเห็นผิดมาตลอดว่า กายใจ ขันธฺ์5 นี้คือเรา การปฏิบัติธรรมเพื่อให้เห็นความจริงของ รูปนามกายใจ ขันธ์5 นี้ ด้วยการฟังธรรมให้มาก ทุกวันนี้มีผู้เข้าถึงธรรมมากมาย และหาดูได้ง่าย ด้วย 4G 5G นี้ จากนั้นมาเจริญสติให้มาก ทำบ่อยๆ วิธีเจริญสติก็มีผู้ที่บอกสอนไว้มากมายหลายท่านสติ(คือความระลึกรู้สึกได้) สติเกิด ศีลก็เกิดอัตโนมัติ สมาธิ(จิตที่ตั้งมั่น)ก็เกิดอัตโนมัติจิตตั้งมั่น(สมาธิ)นี้แหละไปพิจารณาขันธ์5 ขันธ์แปลว่าส่วน แยกขันธ์เป็นส่วนๆออกมา ทำให้บ่อยๆ ปฏิบัติซ้ำแล้วซ้ำเล่า พิจารณาซ้ำแล้วซ้ำอีก จนรู้แจ้งในความเป็นจริงของขันธ์5 จะอธิบายให้ละเอียดให้มากด้วยการพิมพ์ มันยาก และ ผู้ที่เข้ามาอ่าน มาคอมเม้น อินทรีย์ธาตุก็ต่างกันไม่เท่ากัน เพราะต่างก็เป็นปุถุชน(ผู้มีกิเลสหนา)ด้วยกันทั้งนั้น เดี๋ยวเถียงกันทะเลาะกันการที่ฟังธรรม อ่านธรรม ไม่เข้าใจเพราะอินทรีย์แต่ละท่านไม่เท่ากัน ทุกท่านเคยเป็นกันมาทั้งนั้น กว่าจะเข้าใจเข้าถึง ต้องใช้เวลา มีความเพียรเรียนรู้ปฏิบัติด้วยคนที่อินทรีย์แก่กล้าแล้วก็จะเข้าใจในขันธ์5
อนุโมทนาสาธุจ้า@@THE_RAIN.3260
ถูกค่ะ จะไปรู้เรื่องคนอื่นทำไม นี่คือผู้บำเพ็ญ ปฎิบัติ ทุกคนควรรู้ค่ะ สาธุค่ะ
ชาวพุทธส่วนใหญ่เข้าใจว่า ข้อความทั้งหมดในพระไตรปิฎกคือคำของพระพุทธเจ้าทั้งหมด แต่ความจริงแล้วชาวพุทธน้อยคนที่จะรู้ว่า ในพระไตรปิฎกนั้นประกอบด้วยเนื้อความสองประเภท ประเภทแรก คือ พุทธวจน ซึ่งเป็นคำที่พระพุทธเจ้าตรัสด้วยพระองค์เอง(โดยประมาณ 30%) ประเภทที่สองคือ คำขยายความหรือคำที่แต่งใหม่โดยบุคคลอื่น(โดยประมาณ 70%) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่เพิ่มเติมเข้ามาภายหลัง#วิธีสังเกตคำสอนที่เป็นพุทธวจน คำที่พระพุทธเจ้าตรัสด้วยพระองค์เองในพระไตรปิฎก ส่วนใหญ่แล้วข้อความที่เป็นคำที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ด้วยพระองค์เอง จะขึ้นต้นด้วยข้อความว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย หรือ ดูกรอานนท์ หรือ ดูกรสารีบุตร เป็นต้นส่วนคำที่แต่งขึ้นใหม่คัมภีร์ชั้นหลังมักจะขึ้นต้นด้วยคำว่า บทว่า, ความว่า, อธิบายว่า, ที่ว่า ตัวอย่างเช่น เมื่อจะอธิบายคำของพระพุทธเจ้า ก็จะขึ้นต้นคำว่า.... “ คำนี้ ขออธิบายว่า...” หรือ “ บทว่าอย่างนี้ ขออธิบายว่า....” เป็นต้นลักษณะอีกอย่างที่ใช้เป็นข้อสังเกตได้คือ คำของพระพุทธเจ้ามักใช้การซ้ำความ คือพูดซ้ำความเดิม แต่เปลี่ยนเฉพาะบางคำหรือบางข้อความ การพูดซ้ำความนี้มีข้อดีคือ ประการแรก หากเกิดการกร่อนหรือสูญหายของคำพูด หรือถูกหลงลืมไป ก็ยังมีพระสูตรอื่นที่มีคำพูดซ้ำความนั้นที่นำมาใช้ตรวจสอบเทียบเคียงได้ ประการที่สองคือ การพูดแบบซ้ำความนี้ช่วยให้เราเห็นการเชื่อมโยงข้อธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ในที่ต่างกันว่าข้อธรรมใดเชื่อมกันอย่างไร สอดรับกันอย่างไร เราจะพบคำสำคัญ ๆ ในหัวข้อธรรมต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกัน ทำให้เห็นภาพรวมและเข้าใจตามได้ไม่ยาก.เนื้อหา คำที่แต่งขึ้นใหม่คัมภีร์ชั้นหลัง ในอรรถกถา ไม่ผิดทั้งหมด แต่ก็ไม่ถูกหลายเรื่องหลายเรื่องในอรรถกถา ในคำสาวก ในคำแต่งใหม่ เนื้อหา ถูกแต่งเพิ่ม เกินกว่า และ ขัดแย้งกับ คําสอนของ พระพุทธเจ้า เช่น ในเรื่อง รัตนสูตร(การทํานํ้ามนต์ ) เป็นต้น.คำถามคือ จะเชื่อใคร ระหว่างสาวกผู้มาทีหลัง กับ พระพุทธเจ้า?เราสาวกผู้เดินตามควรยึดเอาคำตถาคตเป็นหลัก ไม่ควรเอาคําสาวก มาคัดง้างคําตถาคด. ผู้ที่พยายามคัดง้างคำตถาคต พระองค์อุปมาเหมือนบุคคลเอาฟันเคี้ยวหิน เอาเล็บขุดแผ่นดิน เอาสายบัวฟาดภูเขา บุคคลนั้นย่อมมีแต่พินาศย่อยยับ.--------------การที่บุคคลประกาศ คำตถาคต ตรงไปตรงมา ถือเป็นสิ่งที่ จําเป็น ถูกต้อง และสมควร ตถาคตว่าอย่างใร เราสาวกผู้เดินตาม ก็ว่าตาม เล่าเรียนตาม สืบทอด บอกต่อ อย่างน้อยต้องตรงทั้งเนื้อหา ถ้าทําได้ ต้องตรงทั้งพยัญชนะ ยิ่งดี. ตามพุทธบัญญัติ ที่ว่า "จงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ(เนื้อความ) พร้อมทั้งพยัญชนะ(ภาษา ตัวอักษรสัญลักษณ์ต่างๆ)". อย่างนี้ถึงจะชื่อว่า กล่าวตรงตามที่ตถาคตกล่าว ไม่เป็นการกล่าวตู่ตถาคตด้วยคำไม่จริง แต่เป็นการกล่าวโดยถูกต้อง และสหธรรมิกบางคนที่กล่าวตาม ก็จะไม่พลอยกลายเป็นผู้ควรถูกติไปด้วย.ตรงกันข้าม ถ้าผู้ที่กล่าว ไม่ตรงตามที่พระพุทธเจ้าบัญญัติ นั้นถือเป็นการกล่าวตู่ พระศาสดาด้วยคำไม่จริง, เป็นการกล่าวโดยไม่ถูกต้อง และสหธรรมิกบางคนที่กล่าวตาม ก็จะพลอยกลายเป็นผู้ควรถูกติไปด้วย.84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_item.php?book=20&item=273
คำว่าไม่ให้ ยึดคำสาวก ไม่ให้ ยึดคำแต่งใหม่ ไม่เอา อรรถกถา นั้น ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า ใครมาเทศน์อะใรๆให้ฟังก็ไม่เอา แต่หมายความว่า ต้องละใน(เนื้อหา ส่วนที่บอกว่าพระพุทธเจ้าบัญญัติ ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติ) แค่นั้นเอง. มิฉะนั้นจะกลายเป็นการกล่าวตู่พระศาสดาด้วยถ้อยคําที่ไม่จริง. เช่นเรื่อง นํ้ามนต์ ที่อ้างว่าพระพุทธให้พระอานน ทํานํ้ามนต์ ทั้งๆที่ไม่ใช่, ตรงกันข้าม พระพุทธเจ้าห้าม สาวกทํานํ้นมนต์. ทํานํ้ามนต์ รดนํ้ามนต์ เสกเป่า… จัดอยู่ ใน เดรฉานวิชา. เดรฉานวิชา เป็น มิจฉาทิฐิ เป็นเครื่องกั้น ความเป็น อริยบุคคล และ ปิดกั้น ขวางกั้น มรรคผลนิพพาน.---------------------[๒๗๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย คติ ๒ อย่าง คือ นรก หรือ กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน อย่างใดอย่างหนึ่ง อันคนมิจฉาทิฐิพึงหวังได้. ดูกรภิกษุทั้งหลาย คติ ๒ อย่าง คือ เทวดา หรือมนุษย์ อย่างใดอย่างหนึ่ง อันคนสัมมาทิฐิพึงหวังได้ ฯ----------เราชาวพุทธด้วยกัน มีศาสดาเดียวกันคือพระพุทธเจ้า เนื้อหาคําสอนทุกอาจารย์ต้องเป็นอันเดียวกัน. คําของพระพุทธเจ้าไม่ขัดแย้งกัน และเป็นจริงไม่จำกัดกาลเวลา .พระพุทธเจ้าทรงสั่งเสียไว้ ให้เอา ธรรม และวินัยของพระองค์เป็นตัวแทนในกานล่วงใป. #ทรงไม่ให้ฟังคำแต่งใหม่และเรื่องนอกแนว #ทรงห้ามเพิ่มหรือตัดทอนสิ่งที่บัญญัติไว้ #สำนึกเสมอว่าตนเองเป็นเพียงผู้เดินตามพระองค์เท่านั้น #ถึงแม้จะเป็นอรหันต์ผู้เลิศทางปัญญาก็ตาม #ทรงบอกวิธีแก้ไขความผิดเพี้ยนในคำสอนด้วยหลัก(#มหาปเทส4)พระพุทธเจ้าฝากสัจธรรมคําสอนของพระองค์ ไว้กับบริษัท4. พระองค์ทรงเรียกร้อง อย่าเป็นบุรุษคนสุดท้ายของคําสอนของพระองค์.เหตุปัจจัยใหญ่สำคัญที่ทำให้ศาสนา/พระสัทธรรมคําสอนของพระศาสดา(พุทธวจน)เสื่อม ๑) เล่าเรียนบอกสอนกันมาผิดๆ๒) ภิกษุเป็นคนว่ายาก ไม่อดทน ไม่ยอมรับคำตักเตือน๓) ภิกษุที่คล่องพระสูตรไม่เอาใจใส่บอกสอนภิกษรูปุอื่น๔) ภิกษุเถระ ย่อหย่อนในสิกขา เป็นผู้นำในทางทราม พระรูปอื่นถือเอาอย่างชาวพุทธควรหลีกเลี่ยงเสี่ยงกลายเป็น มหาโจร ประเภท ขโมยธรรม…เล่าเรียนธรรมวินัยอันตถาคตประกาศแล้ว ย่อมยกตนขึ้น (ทำทีเป็นเจ้าของธรรม ไม่อ้างอิงพระพุทธเจ้า).#อย่าเป็นผู้เรียกร้องหาศาสดาเพื่อความเป็นศัตรู แต่ #จ่งเป็นผู้เรียกร้องหาศาสดาเพื่อความเป็นมิตร#อย่ากล่าวตู่พระศาสดาด้วยถ้อยคําที่ไม่จริง
พระไตรปิฎก ของ เถรวาทไทยจากสํานักใหญ่ที่สำคัญ มีทั้งหมด 5 ฉบับ พระไตรปิฎก (#ฉบับสยามรัฐ) บาลี ต้นฉบับพระไตรปิฎก (#ฉบับหลวง) แปลไทย จากต้นฉบับพระไตรปิฎก (#ฉบับเถรสมาคม) แปลไทย จากต้นฉบับพระไตรปิฎก (#ฉบับมหามกุฏฯ 91เล่ม) แปลไทย จากต้นฉบับพระไตรปิฎก (#ฉบับมหาจุฬาฯ 45เล่ม) แปลไทย จากต้นฉบับ#คัมภีร์วิสุทธิมรรค #อภิธรรมปิฎก #อรรถกถา เป็นคัมภีร์รุ่นหลัง เป็นคัมภีร์ที่อธิบายพระไตรปิฎก และอธิบายอรรถกถา และอธิบายกันเองไม่ใช่ คำสอนของพระพุทธเจ้าโดยตรง เป็นคัมภีร์ที่อธิบายขยายความ หรือคำที่ยากในพระไตรปิฎกให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยยกศัพท์ออกมาอธิบายเป็นศัพท์ๆ บ้าง ยกข้อความหรือประโยคยาวๆ มาขยายความให้ชัดเจนขึ้นบ้าง แสดงทัศนะและวินิจฉัยของผู้แต่งสอดแทรกเข้าไว้บ้าง, หลายเรื่องจาก อรรถกถา เมื่อตรวจสอบแล้ว พบเห็นว่า ถูกเเต่งใหม่ แต่งเพิ่มเกิน เช่น เช่นเรื่อง นํ้ามนต์ ที่อ้างว่าพระพุทธให้พระอานน ทํานํ้ามนต์ ทั้งๆที่ไม่ใช่, ตรงกันข้าม พระพุทธเจ้าห้าม สาวกทํานํ้นมนต์. ทํานํ้ามนต์ รดนํ้ามนต์ เสกเป่า…. จัดอยู่ ใน เดรฉานวิชา. เดรฉานวิชา เป็น มิจฉาทิฐิ เป็นเครื่องกั้น ความเป็น อริยบุคคล และ ปิดกั้น ขวางกั้น มรรคผลนิพพาน. เดรัจฉานวิชา ขัดแย้งกับกรรมนิยาม คําสอน ของพระพุทธเจ้า. พระพุทธเจ้าให้เชื่อพระองค์ ตรัสไว้ใน สัทธาสัมปทาคําของพระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้ถูกต้องเสมอ#คำพูดของพระพุทธเจ้าที่พูดมาทั้งหมดนับแต่วันตรัสรู้นั้น#สอดรับไม่ขัดแย้งกัน และ แต่ละคำพูดเป็น #อกาลิโก คือ ถูกต้องตรงจริงไม่จำกัดกาลเวลา. พระองค์ทรงสามารถกำหนดสมาธิเมื่อจะพูดทุกถ้อยคำ จึงไม่ผิดพลาด--------------------พระไตรปิฎก บรรจุคำสอนของพระพุทธเจ้าเอาไว้จริงแต่ทว่า ได้มีผู้กระทำการสังคายนา หรือจัดทำเรียบเรียงใหม่ได้เพิ่มคำสอนที่ไม่ใช่คำสอนของพระศาสดาล้วนๆเข้าไป เป็นเหตุให้พระสัทธรรมเสื่อมสิ้นไปได้....ในส่วนพุทธวจนปิฎก 33 เล่ม (ทำเสร็จแล้ว1) และ พุทธวจน เล่มเล็กปลีกย่อยมี 20เล่ม รวบรวมหมวดหมู่เอาไว้เพื่อง่ายแก่การศึกษาค้นคว้า แต่ยังคงคำสอนของพระพุทธเจ้า(ล้วนๆเอาไว้)#พุทธวจนปิฎก และ #พุทธวจน หมวดหมู่ เป็นการ คลักลอก คัดเลือกแต่คำสอนของพระศาสดา(ล้วนๆ) และ รวบรวมข้อมูลคําสอน จากพระไตรปิฎกฉบับหลวง เทียบเคียงข้อมูลกับ พระไตรปิฎก (บาลี สยามรัฐ) ต้นฉบับ, เอาเฉพาะส่วนเป็นคําสอนที่พระพุทธเจ้าโดยตรง ตรัสเอง และ รับรองใว้เอง เท่านั้น (ใมมีอรรถกถา).
เนื่องจาก ข้อมูล และ แหล่งที่มา ทังจริงและปลอม เยอะเกิน, เราชาวพุทธ (พุทธที่แท้จริง) จึ่งควร (ต้อง)ตรวจ ข้อมูล และ แหล่งที่มาก่อนด่วนสรุป ! ไม่ไช่แค่ ฟังตามๆ กันมา…หลักการตรวจสอบ ว่าเป็นคําสอน ของ พระพุทธเจ้า หรือใม่.นอกจาก หลัก กาลามสูตร 10 ประการ แล้ว ยังต้องไช้อีก หลักที่ที่สําคัญที่สุด อีก นั่นคือ:หลักมหาปเทส4=หลักเทียบเคียงตรวจสอบว่าเป็น ธรรมวินัย ของพระพุทธเจ้าหรือไม่.หลัก กาลามสูตร คือหลักแห่งความเชื่อ, ไม่ให้เชื่อสิ่งใดๆ อย่างงมงาย โดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษ หรือดีไม่ดีก่อนเชื่อเมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศล หรือมีโทษเมื่อนั้นพึงละเสีย.อย่าได้ยึดถือถ้อยคำที่ได้ยินมาอย่ายึดถ้อยคำที่สืบๆกันมาอย่าตื่นข่าวที่ได้ยินอย่ายึดถือโดยอ้างตำราอย่าเพิ่งเชื่อเพราะตรรกะอย่าเพิ่งเชื่อเพราะอนุมานอย่าเพิ่งเชื่อเพราะลักษณะอาการที่ปรากฎอย่าเพิ่งเชื่อเพราะตรงกับความคิดของตนอย่าเพิ่งเชื่อเพราะดูน่าเชื่อถืออย่าเพิ่งเชื่อเพราะเป็นครูของตน ( ! ระวัง ! ไม่ได้หมายความว่า ไม่ให้เชื่อแม้แต่พระพุทธเจ้า )เมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศล หรือมีโทษเมื่อนั้นพึงละเสีย ฯลฯ( ! )พระพุทธเจ้าให้เชื่อพระองค์ ตรัสไว้ใน สัทธาสัมปทาคําของพระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้ถูกต้องเสมอ1. พระองค์ทรงสามารถกำหนดสมาธิเมื่อจะพูดทุกถ้อยคำ จึงไม่ผิดพลาด(คำพูดแรก จนถึงคำสุดท้าย ย่อมตั้งจิตในสมาธิ)2. แต่ละคำพูดเป็น อกาลิโก คือ ถูกต้องตรงจริงไม่จำกัดกาลเวลา3.คำพูดที่พูดมาทั้งหมดนับแต่วันตรัสรู้นั้น สอดรับไม่ขัดแย้งกันที่รองจากพระองค์ลงมา (แม้แต่จะเป็นครูอาจารย์ของตนที่น่าเชื่อถือ) อย่าพึงรับรอง อย่าพึงคัดค้าน อย่าพึ่งปกลงปงใจเชื่อทันทีทั้งหมดจําคํานั้น กำหนดเนื้อความนั้นให้ดี แล้วนำไปสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัยถ้าลงกันได้ เทียบเคียงกันได้ พึงแน่ใจว่า นั่นเป็นคำของพระผู้มีพระภาคเจ้าแน่แล้ว ภิกษุรูปนั้นจำมาอย่างดีแล้ว พวกเธอพึงรับเอาไว้ถ้าลงกันไม่ได้ เทียบเคียงกันไม่ได้ พึงแน่ใจว่า นั้นไม่ใช่คำของพระผู้มีพระภาคเจ้าแน่นอนภิกษุรูปนั้นจำมาผิด พวกเธอพึงทิ้งคำเหล่านั้นเสียนี้คือ มหาประเทศสี่ วิธีตรวจสอบ เทียบเคียง คําของพระศาสดา
พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล_แสดงธรรม_สนทนาธรรม_เสียงอ่านหนังสือพุทธวจน_รวมทั้งหมดdrive.google.com/drive/folders/1oFXAvU2vvzgaY8xPROoRG-f_O2n4JmH6?usp=sharing-------------------------พระไตรปิฎก ภาษาไทย ฉบับ มหาจุฬาลงกรณ์ 45 เล่ม mp3(เล่ม 1-8 พระวินัยปิฎก / เล่ม 9-33พระสุตตันตปิฎก เล่ม34-45 พระอภิธรรมปิฎก)drive.google.com/drive/folders/1MNixKXrN5-ct4ogZrUvtYX50l-HM_BfC?usp=sharing--------------------------เว็บพระไตรปิฎกเพื่อตรวจสอบข้อมูลด้วยตนเอง1. etipitaka.com/search/?code=thai2. 84000.org/tipitaka/pitaka_item/3. www.anakame.com4.cse.google.de/cse?cx=013090571733833538155:qokmac-uqz0 5. auf deuscht www.palikanon.com/ 6. in english www.palikanon.com/english/english_web.htm 7. in english suttacentral.net/?lang=en 8. www.dhammatalks.org/ 9. www.buddha-vacana.org/suttapitaka.html
ผู้ที่เผยแผ่คําสอนของพระพุทธเจ้าต้องมีความรับผิดชอบเอง เพราะ สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน มีกรรมเป็นทายาท มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ทั้งหลายให้เลวและดีต่างกัน.เราทำกรรมอันใดไว้ เราจักต้องได้รับ(ผล!)ของกรรมนั้น.ควรแยกแยะ ระหว่าง ความต้อง และความถูกใจ. ไม่ควรเอา ความเห็นของตน หรือความเห็นที่สาวกแต่งขึ้นใหม่ หรือ อรรถกถา มาล่มล้าง พระสูตร พระวินัย ที่เป็นคำตรัสแท้ๆของพระพุทธเจ้า เพราะใม่งั้นจะเป็นการกล่าวตู่ตถาคตด้วยคำไม่จริงโดยปริยาย.-------------------------4เหตุปัจจัยใหญ่สำคัญที่ทำให้พุทธศาสนา/พระสัทธรรมคําสอนของพระศาสดา(พุทธวจน)เสื่อม (สรุป จาก4พระสูตรที่สำคัญ)เหตุปัจจัยที่ 1 (เนื้อแท้อันตรธาน)etipitaka.com/read/thai/16/269/ เปรียบเหมือน กลองศึก “อานกะ“ ของกษัตริย์พวก ทสารหะ เมื่อกลองแตก ก็จะหาไม้อื่น ทำเป็นลิ่ม เสริมทุกคราว เมื่อปะเข้าหลายครั้ง นานเข้า เนื้อไม้เดิมก็หมดสิ้นไป เหลืออยู่แต่เนื้อไม้ไหม่ที่ทำเสริม ฉันใดก็ฉันนั้น ในกาลแห่งอนาคต จะมีภิกษุไม่สนใจคำสอนของตถาคต แต่จะสนใจคำแต่งใหม่ที่ สละสลวย คำแต่งใหม่เหล่านี้เธอไม่ควรฟัง ไม่ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และไม่ควรศึกษาเล่าเรียนเหตุปัจจัยที่ 2etipitaka.com/reference/thaipb/9/85/?code=thai&volume=21&item=160 ๑) เล่าเรียนบอกสอนกันมาผิดๆ๒) ภิกษุเป็นคนว่ายาก ไม่อดทน ไม่ยอมรับคำตักเตือน๓) ภิกษุที่คล่องพระสูตรไม่เอาใจใส่บอกสอนภิกษรูปุอื่น๔) ภิกษุเถระ ย่อหย่อนในสิกขา เป็นผู้นำในทางทราม พระรูปอื่นถือเอาอย่างเหตุปัจจัยที่ 3 (พุทธบริษัท ๔ ไม่มีความเคารพยำเกรงต่อศาสนา)etipitaka.com/read/thai/16/217/ เหตุฝ่ายต่ำ ๕ ประการเหล่านี้ ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อความ ฟั่นเฟือน เพื่อความเลือนหายแห่ง พระสัทธรรม เหตุฝ่ายต่ำ ๕ ประการเป็นไฉน คือภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้๑) ไม่เคารพยำเกรง ในพระศาสดา๒) ไม่เคารพยำเกรง ในพระธรรม๓) ไม่เคารพยำเกรง ในพระสงฆ์๔) ไม่เคารพยำเกรง ในสิกขา๕ ไม่เคารพยำเกรง ในสมาธิเหตุปัจจัยที่ 4 (พุทธบริษัท ๔ ไม่มีความเคารพยำเกรงต่อศาสนา)etipitaka.com/read/thai/22/220/ ดูก่อนกิมพิละ เมื่อตถาคต ปรินิพพานแล้ว พวก ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาในธรรมวินัยนี้๑) เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรง ในศาสดา๒) เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรง ในธรรม๓) เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรง ในสงฆ์๔) เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรง ในสิกขา๕) เป็นผู้ไม่มี ความเคารพ ไม่มีความยำเกรง กันและกัน
อานาปานสติ คือทาง ที่ทั้งท่านครูบา และอาจารย์ทั้งหลายทุกท่านยอมรับและชี้ให้เดินไปทางนี้ ผมขอมุ่งไปทางนี้น่าจะเป็นสายกลางไม่ขัดแย้ง กราบสาธุครับท่าน 🙏🙏🙏
ทำไมถึงชอบติเตียนความพอใจของคนอื่นครับ คนชอบฟังเปนความพอใจของเขานะครับ
กระผมขอออกความเห็นในส่วนของหลวงพ่อฤาษีฯ เท่าที่ศึกษาและปฏิบัติมาจากเทปคำสอนของท่าน มิใช่แค่เรื่องฌานสมาธิหรืออภิญญาเท่านั้นที่ท่านสอนสั่ง แต่ผู้ที่ศึกษาและฟังคำอบรมคำสอนของท่านและนำมาปฏิบัติได้จริง ท่านเน้นและให้ความสำคัญในส่วนของวิปัสสนาญานมากที่สุดนะขอรับแทบจะทุกคำสอนในแต่ละหมวดไม่ว่าจะเป็นหมวดอานาปาฯ มหาสติปัฏฐานฯ อสุภฯ รูปฌานหรืออรูปฌาน อาหารเรฯ กสิน จตุธาฯ หรืออนุสสติฯ ท่านต้อนลูกศิษย์ของท่านให้จับเอาอารมณ์แห่งวิปัสสนาญาน คือการพิจารณายกเอาขันธ์ห้าหรืออริยสัจจ์ มาเป็นไตรลักษณ์ ให้รู้เห็นโทษและเบื่อหน่ายในขันธ์ห้าแทบทุกๆคำสอนของท่านล้วนเน้นเอาอารมณ์แห่งวิปัสสนาญานเป็นตัวเป้าหมายในกัมมัฏฐานนั้นๆส่วนอารมณ์ฌานสมาธิท่านเน้นอยู่เสมอว่ามันเป็นเพียงกีฬาสมาธิที่เอาไว้เป็นบาทฐานให้จิตสงบมีกำลังและอาจปลดเปลื้องความสงสัยในเรื่องชาติภพและผลของกรรมได้ สำหรับผู้ที่มีอุปนิสัยในกรรมฐานกองนั้นๆแม้แต่ให้ทิ้งอารมณ์สมถะแล้วตั้งเอาแต่อารมณ์พิจารณาขันธ์ห้าหรืออริยสัจจ์เป็นสำคัญ สำหรับผู้ปฏิบัติที่ไม่สะดวกในการเจริญสมถะ ท่านก็ยังบอกว่าท่านชอบใจมากๆให้ทำเยอะๆจนชินดังนั้นหากใครๆจะพูดว่าได้รับเอาประโยชน์แต่ด้านสมถะในคำสอนของท่านเท่านั้นน่าจะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นะขอรับ กระผม..
ถูกต้องตามท่านว่าครับลูกหลวงพ่อพระราชพรหมยาน จริงๆจะรู้ว่าหลวงพ่อจะควบวิปัสสนาลงในทุกๆคำสอนของท่าน ไม่มีเทปไหนเลยที่ท่านไม่พูดถึงการละสังโยชน์ ตัดขันธ์5 ตาย และนิพพาน คนที่ว่าหลวงพ่อสอนแค่ฤทธิ์เดช สอนแค่สมถะ นั้นรู้จักหลวงพ่อแค่สะเก็ดเท่านั้นแหละครับ
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
ใช่ แต่ผู้ที่มีปัญญาจะรู้ได้ว่าไม่ใช่ประเด็นที่จะเอามาวิพากษ์วิจารณ์ หรือถกเถียงกัน
คุณพูดถูกต้องแล้วครับ..
เราชาวพุทธผู้แสวงหาทางหลุดพ้นไม่ว่าทั้งบรรพขิตหรือคฤหัสถ์ล้วนกำลังติดกับดักแห่งอุปาทานคือความถือมั่นในกาม,ทิฏฐิ, ศีลพรตและวาทะว่าตน ว่าเรา ว่าสำนักเรา แนวคิดของเรา เราถูกใจสิ่งใด ก็พอใจและยึดมั่นในแนวทางของเราพร้อมกับตำหนิแนวทางที่แตกต่างกันไปจากความคิดของเราหากเราผู้ใคร่หลุดพ้น ร่วมกันรักษาแนวทางของพระพุทธองค์คือเน้นให้เห็นแต่ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตาในทุกสรรพสิ่งแม้แต่ความนึกคิดของเราก็ยังหาแก่นสารใดๆมิได้แท้จริงเลยเราจะไม่มาถกเถียงกันว่าแกผิดข้าถูก เพราะแก่นแท้ก็คือการเบื่อหน่ายและถอดถอนตนออกจากขันธ์ทั้งห้า ส่วนการสัมผัสกับฌาน สมาธิ อภิญญา หรือสภาวะนิพพานก็ล้วนต้องมีความแตกต่างกัน ตามแต่ปัจเจกบุคคลและพื้นฐานแห่งจิตของตน หากยึดมั่นในแนวทางแห่งการไม่หลงยึดถือในขันธ์ห้าและพยายามใคร่ครวญลดละความพอใจในการเกิดแก่เจ็บตายและหลงยึดมั่นว่าเราของเราแล้วไม่ว่าจะครูบาอาจารย์สายไหนๆแนวปฏิบัติแตกต่างกันอย่างไรการสัมผัสกับอารมณ์แห่งกัมมัฏฐานจะพิศดารแตกต่างกันอย่างไร หรือแม้กระทั่งพระนิพพานจะมีสภาวะอย่างไร ก็จะไม่ถูกนำมาเป็นที่ถกเถียงโต้แย้งกันให้เกิดปฏิฆานุสัยกำเริบขึ้นในจิตใจของผู้ปฏิบัติให้ว้าวุ่นเลยเพราะหลักแก่นแท้จริงๆก็คือการละความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนของเรานี่เอง หากเรารักษาแนวคิดอย่างนี้ได้ เราก็จะรู้สึกอ่อนน้อมถ่อมตนและไม่หลงถือตัวว่ามีความรู้หรือคุณธรรมสูงกว่าผู้อื่นนั่นก็แสดงให้เห็นว่าการสลายความหลงยึดในอัตตาของเรานั้นไม่ได้เสียเปล่า อีกทั้งยังได้แสดงออกซึ่งความเคารพต่อผู้เห็นต่าง ปฏิบัติต่างกัน ด้วยมิตรภาพและมีเมตตาจิตต่อกัน เหมือนดังที่พระอาจารย์ท่านต้องการสื่อให้ผู้ฟังในคลิปนี้ได้เข้าใจและนำมาพิจารณาพัฒนาแนวคิดและแนวปฏิบัติของตน ...ครับ
ละเอียด แจ่มแจ้ง และเข้าใจง่าย น้อมกราบครูบาฉ่ายครับ
สิ่งที่ทำได้คือปล่อยวาง สาธุครับ การรับฟังคำสอนของครูบาอาจารย์ เเล้วนำไปปฏิบัติ เรามีหลายคือครูบาอาจารย์ แต่เราก็มีพระศาสดาองค์เดียวกัน สาธุครับ ศาสนาพุทธเรา ยังเเยกออกอีกหลาย แขนงที่แบ่งออก สิ่งที่ครูบาท่านสื่อถึง ผมเข้าใจเเล้วครับ ทุกอย่างไม่มีถูกและผิด เพราะศาสดาองค์เดียวกัน พระองค์ท่านก็ไม่อยากให้เราทะเลาะกันเหมือนในยุคของพระองค์ สิ่งที่ทำได้คือการปล่อยวาง เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะทุกอย่างคือ การเรียนรู้ เมื่อรู้แล้วบอกต่อ แต่ไม่ใช่ทะเลาะตามที่ครูบาท่านสื่อถึง เรามีพระพุทธองค์ ทรงเป็นที่พึ่ง เรามีพระธรรมของพระองค์ เป็นที่พึ่ง เรามีพระสงฆ์สาวกของพระองค์เป็นที่พึ่ง พระพุทธองค์ดับขันธปรินิพพานแล้ว ก็ยังเหลือ พระธรรม และพระสงฆ์ของพระองค์ เป็นสิ่งสุดท้าย ที่เราต้องรักษาไว้สาธุ สาธุ สาธุ
ถูกค่ะท่านพูดถูกทุกคำค่ะเป็นการกลั่นกรอง จนดีแล้ว คำพูดอย่างง่ายๆ แต่ลึกล้ำ ชัดเจนมากค่ะ
ผมไม่ค่อยนับถือพระสงฆ์เลยตั้งแต่ผมได้ศึกษาพุทธวจน ผมเลือกนับถือแต่สาวกพระสงฆ์ที่พูดแต่คำพระพุทธเจ้าไม่แต่งเติม เพราะบิดเบือนกันๆไปหมดพิธีกรรมอะไรกันแยอะไปหมดเสกน้ำมนต์เป่าคาถาเพื่อออ...พระสงฆ์ทุกวันนี้ส่วนมากก็มีเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทั้งนั้น ผมขอนับถือคำสอนครับ
ไม่มีใครสามารถพูดแต่คำพระพุทธเจ้าไม่แต่งเติมได้เลยสักรูปคนใครอ้างว่าตนสอนแต่คำพุทธองค์แท้จริง คือผู้โกหกเพราะพุทธองค์ไม่เคยตรัสภาษาไทยอย่างทุกวันนี้พุทธองค์ไม่เคยตรัสภาษาบาลีเพราะพุทธองค์เทศน์ด้วยภาษามคธ และ ภาษาท้องถิ่นที่เสด็จไปโปรดพระมหากัจจายน์เป็นผู้สร้างไวยากรณ์บาลีเพื่อเรียบเรียงคำพุทธองค์จากหลายๆภาษาให้เป็นภาษาเดียวพระสงฆ์ส่วนใหญ๋ศึกษาแต่ภาษาของตนเอง ( ไทย ศรีลังกา จีน ทิเบต ฯลฯ) อาจมีบางท่านที่ได้ศึกษาภาษาบาลี และแปลเป็นภาษาของตนเองแต่ไม่มีใครสักคนที่เคยรู้ว่าคำแท้จริงที่พุทธองค์ตรัส(มคธ และ ภาษาท้องถิ่น)เป็นอย่างไร
พระสาวกเขียนพระไตรปิฎกขึ้นมานะรู้ยัง พระมหากัสสปะเป็นผู้นำในการเขียน ผมขออวดฉลาดให้คนฉลาดอ่านนะครับ
ไม่เคยได้ฟังธรรมกับท่าน แต่ได้ฟังแล้วทำให้ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เข้าใจ ฟังธรรมมะอย่างเข้าใจ สาธุครับอาจารย์
คนถามคนแรกได้รับคำตอบอย่างละเอียด..กราบครูบาครับ
ฟังครูบาฉ่ายทีไร ชัดเจนแจ่มแจ้งสุุดๆเลยครับสำหรับผม
ครูบาฯฉ่ายพูดถึงหลวงพ่อฤาษี ลิงดำ นาทีที่เท่าไหร่ใครทราบบ้างคับบอกที...หลวงฤษีลิงดำ นี้เป็นครูบาอาจารย์ของผมองค์สำคัญเลยตัวผมได้มีดวงตาเห็นธรรมมากขึ้น..หรือว่าได้รู้จักกับธรรมมะที่เป็นสัจธรรมอย่างแท้จริงก็เพราะเริ่มรู้จักท่านได้ฟังคำสอนท่านนี้หล่ะ.....ส่วนตัวถูกจริตกับคำสอนของหลวงพ่อฤษีลิงดำมาก...ฟังและพอจะรู้เลยว่าเทศน์โดยใช้ปัญญาที่เกิดขึ้นจริงๆไม่ใช่เทศน์แต่ในตามตำราเขาว่าไงว่างั้นไม่ได้เกิดจากที่ตนเองลงมือปฎิบัติจริงจังๆจนได้เกิดความรู้ภายในตนขึ้นมาจริงๆไม่ใช่วันๆมีแต่ร่ำเรียนทางทฤษฎีความรู้ในตำราท่องจำจนเต็มหัว..แค่สอบเพื่อตนหวังว่าจะมีตำแหน่งลาภยสชื่อเสียงสักการะและสุดท้ายก็หนีไม่พ้นเงินทองสุ่มกิเลศหนาขึ้นให้จิตใจหลงทางห่างไกลจากคำว่าเป็นพระที่พระสงฆ์จริงๆควรจะเป็นและต้องมีในจิตใจตลอดเวลาที่เขาจะกำกับด้วยสติที่ตั้งไว้อยู่ตลอดเพื่อสามารถพิจารณาได้อยู่ทุกๆเวลาอยู่ตลอดๆไปเพื่อไม่ให้ตนเองห่างไกลจากคำว่าเป็นพระที่ทั้งภายในและภายนอก..และยังมีคำสอนจากพระดีอยู่อีกมากเช่นหลวงพ่อพุธ-หลวงพ่อชา-หลวงปู่เหรียญ-หลวงปู่ดูล์-หลวงปู่มั่นเป็นต้นและยังมีๆอีกมากฯ..แต่ละองค์ท่านเทศน์ไว้ดีแล้วมีประโยชน์มาก
ครูบาฯฉ่ายพูดถึงหลวงพ่อฤาษี ลิงดำ นาทีที่ 52
เขาพาดหัวมั่วเรื้อยเลยคับ ผมดูหลายตอนแล้ว ทั้งเรื้องไม่มีที่ตรงกับพาดหัวเลย
หลวงปู่ทุกๆองค์ มีแก่นเดียวคือ ต้องการให้เราปฏิบัติจริงๆ แต่ละองค์มีกุศโลบายต่างกัน เป็นการสืบสานงานพระพุทธศาสนา กันมาจนถึงปัจจุบันนี้ น้อมกราบหลวงปู่หลวงตาทุกๆองค์ เจ้าค่ะ ซาบซึ้งในคำสอนต่อๆกันมาจากผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคือองค์สมเด็จผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งพระองค์เองก็สอนคน ไม่เหมือนกัน ท่านทรงสุดยอดนักสอนจริงๆ ภูมิใจที่เกิดมาเจอพุทธศาสนา หากไม่มีพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มาถึงปัจจุบันนี้ ป่านนี้พระพุทธศาสนาคงไม่มีแล้ว ลูกสำนึกในบุญคุญของทุกๆองค์ จริงๆเจ้าค่ะ คำสอนของพระอาจารย์ ก็ชัดเจนมาก เป็นบุญของคนในยุคนี้ ที่เห็นคลิปนี้เจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
สาธุๆๆ.. น้อมกราบนมัสการครูอาจารย์ฉ่ายด้วยเศียรเกล้า.. สาธุๆครับ
ครูบา เป็น ธรรมแท้ ...ครับสาธุ
ครูบาเจ้า เทศน์ไปตามธรรมของท่าน กรุณาอย่าข้องแวะผู้อื่น จะเป็นผู้เจริญอย่างยิ่ง..สาธุ.ๆ.
นั่นคืออุบาย ของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่าน มีทั้งจริงและนิวรจิต ท่านก็แยบคลายได้ท่านก็รู้เช่นกัน แต่จริตคนส่วนมากยังต้องใช้สิ่งเล่านี้เข้าล่อ อะไรที่ทำให้คนดีได้มันก็ดีหมดแหละ ให้เค้าตั่งอยู่ในความดี ทำแล้วดี แต่ที่กล่าวมานี้ครูบาก็พูดถูก เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไปคนก็รู้มากขึ้น รู้มากนี้ฉาบทาไปด้วยอัตรา ร้อนวิชาแต่่( ไม่เคยรู้ความจริง) ในใจที่เรานั่งนอนทับอยู่ ธรรมไดก็ดีถ้ามองเข้าไปถึงข้างในไม่มีผิดถูกให้มีเมตรตาต่อกัน
@@thanakh8457 คุณเม้นอะไรของคุณเนี้ย คุณนิคมกำลังบอกว่า ครูบาไม่ควรไปแขวะใคร ประเด็นมีแค่นี้
การสอนธรรมที่ดี มิควรไปเอ่ยถึงบุคคลอื่นไดในทางเสียหาย แต่ละรูปมี เหตุปัจจัย ต่างๆ เพื่อ นำญาติธรรม เข้าสู่ สภาวะธรรม ตามจริตของตน ธรรมที่บริสุทธิ์ คือ ธรรม ที่ไม่เกี่ยวข้องแวะ แขวะอันได เลยแม้แต่ ความคิดส่วน การที่ ลพ ฤาษี ท่านจะพา จิตญาณ ญาติธรรมไป แดนนิพพานได้ จริงหรือ ไม่ ต้องตามพิสูจน์ ด้วยตน เอง ดั่ง ลป ปานท่านสอนว่าใจเข้าถึงๆเข้าใจ นั่นแหละค่ะ ธรรมะที่เหยียบ คนนั้นคือ สิ่งไม่มีค่าคู่ควร พระธรรมขององค์สมเด็จไม่
ท่านแค่เตือนรึเปล่า ส่วนตัวคิดว่าพระไตรปิฎกดีอยู่แล้ว แต่คนที่มาเรียนก็ไปตีความผิด เอาแค่คำว่าพุทธวจนะ พระพุทธเจ้าท่านยังยกย่องสาวก ว่าเก่งด้านต่างๆเลย
แล้วสอนให้คนรักษาศีลละชั่วกลัวบาปนั่นดีอยู่เเล้วค่ะอย่างที่บอกข้างต้นว่าธรรมะบริสุทธิ์มากการสอนธรรมใครๆไม่ต้องเอ่ยอ้างให้ใครเสียหาย มองความเลวของตนเท่านั้นพอแล้วจะมองความเลวอื่นๆไปใยสุดท้ายก็มาจบที่ทานศีลภาวนาละทิ้งตัวกูของกูทั้งสิ้นค่ะตายก็เอาอะไรไปมิได้ อยู่ก็สร้างสมความดีที่ใจ วาจา กาย พอแล้วค่ะแต่ถ้า ใครสะดวกสะสมกรรมก็ตามทางของท่านตามวาระจิตเลยนะเจ้าคะ ท่านผู้รู้ ทั้งหลาย
กราบนมัสการพระครูบาฉ่าย ด้วยความเคารพครับผม
สาธุครับ ผมขอก้าวตามพระพุทธเจ้าทุก กรณี
รู้ธรรมะเพียงน้อยนิด ก็พอเพียง ให้เน้นการปฎิบัติธรรม ศีล(มาก่อน เอาให้แม่น กระจ่าง)ตามมาด้วย สมาธิสว่างที่จิตตื่นรู้ตัวสดใส ถ้าได้ไปถึงปัญญาได้นั่นคือที่สุด แต่ไม่ง่าย ผู้เข้าถึงขั้นนั้นมีไม่มากคน คนฉลาดเมื่อมีเวลาจะศึกษาเพิ่มเติมก็จะเป็นการดีมาก ฟังได้ทุกครูบาอาจารย์แล้วให้นำส่วนที่ดีมาของแต่ละครูอาจารย์มาปฎิบัติตาม หรือเป็นการทำความเข้าใจธรรมมะให้กระจ่างขึ้น จะมีเวลามากหรือมีเวลาน้อย ให้เน้นการปฎิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง ไม่จำเป็นต้องยาวหลายชั่วโมง เน้นที่คุณภาพ จิตหลุดจากนิวรณ์ทั้งปวง ที่เหลือในเวลาช่วงทีรใช้ชีวิตปกติ ให้ตามดูจิตตน รัก ใคร่ โกรธ หลง ปลุงแต่ง ๆลๆ ให้เฟ้าดูจิตเฉยๆ ไม่ต้องพยายามระงับอะไรทั้งนั้น เพียงแต่รู้จิตที่ทำงานกับอารมณ์ ณ.เวลานั้นเป็นพอใครเถียงใครทะเลาะ ใครตำหนิใคร ไม่ต้องไปสนใจ สนใจแต่ตนเองกับการทำงานของจิตตนในเวลาที่ตื่นตลอดวัน
สาธุค่ะ ผู้เข้าถึงและเข้าใจธรร ม
น้อมกราบ สาธุๆๆ โยมเข้าใจธรรมเพราะครูบาฉ่ายและชอบฟังมากคะ
ศึกษาพุทธวจน ต่อให้สภาวะใดเกิดขึ้นแก่ตนถ้าศึกษาต่อปฏิบัติต่ออย่างไรก็จะรู้ได้ด้วยตนเองได้ หลงไปก็รู้ได้ในที่สุด แค่ไม่เลิกล้มความเพียรเสียในระหว่าง ทางผ่านหลงบ้าง เข้าใจอะไรผิดไปบ้าง ถ้าไม่เลิกศึกษาและปฏิบัติที่สุดก็จะรู้ได้ด้วยตนเอง
คำสอนหลวงพ่อฤาษีหน้าสำหรับลูกศิษย์ที่มากมายหลายกลุ่ม จริตนั้นต่างกัน หลวงพ่อฤาษีสอนคลุมได้ทั้งหมด ส่วนหนึ่งนั้นรวมกระทั่งถึงตัวผมเองด้วย แล้วก็ชาตินี้จะจบยังไงก็คิดว่าคงจะไปพระนิพพาน ตามหลวงพ่อ
บุญสัมพันธ์ฟังศึกษาทุกอาจารย์ สาธุ
ผมศึกษาพุทธวจนครับ ปฐิจสมุปบาท อิทัปปัตยตาครับ และอริยมรรคมีองค์แปด
ผมศึกษา--รับฟัง พุทธวจน ครับ พระอาจารย์คึกฤทธิ ท่านนำมาเผยแผ่ ทำให้ผมเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า และจะยึดถือ คำสอนที่นำมาจากพุทธวจนเท่านั้น ยึดมั่นในพระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์
ไปฟังพระสูตรเรื่องกลองสึก คำแต่ใหม่จะมีผู้นำมาสอน และทำให้คำสอนเดิมแท้ถูกคำแต่งใหม่กลบลบเลือนไป ดั่งลิ่มไม้
ที่ตอกลงไปใหม่ในกลองศึก เราฟังท่านพุธทาส และ คนที่เอาพุธวจนจากพระไตรปิฎกมาสอนเท่านั้น พระรูปที่สอนเองแต่งเองถือว่าเป็น
คำแต่งใหม่ สาธุพระที่ปฏิบัติดีทุกรูป
พระพุทธเจ้าท่านเผยแผ่พระธรรมด้วยภาษาบาลี พระไตรปิฏกต้นฉบับก็เป็นภาษาบาลี พระอานนท์และอรหันตสาวกท่านเมตตานำคำสอนของพระพุทธเจ้ามารวบรวมไว้ให้เป็นหมวดหมู่และเป็นประโยชน์ต่อพุทธศาสนิกชนที่ต้องการศึกษาโดยในตอนแรกใช้การท่องจำสืบต่อกันมา จนกระทั่งมีการจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร แล้วก็เป็นพระอรหันตสาวกที่แตกฉานในพระธรรมในแต่ละข้อ ท่านได้แปลความหมาย ถอดความหมายคำสอนที่เป็นบาลีออกมาเป็นภาษาไทยอีกที ย้ำว่าเป็นพระอรหันตสาวกที่ท่านเข้าถึงสภาวะธรรมนั้นแล้ว ท่านได้เมตตาแปลความให้ ล่วงเลย2566ปีผ่านมาแล้ว พระไตรปิฏกก็ได้สังคายนามาหลายรอบแล้ว คนที่บอกว่าจะฟังแต่พุทธวจนะจากพระโอษฐ์ คือต้องย้อนเวลากลับไปสมัยที่บรมศาสดายังดำรงธาตุขันธ์และเผยแผ่พระธรรมอยู่เท่านั้น และต้องแตกฉานในภาษาบาลีรวมทั้งเข้าถึงสภาวะธรรมนั้นจริงๆจึงจะเข้าใจอย่างถ่องแท้และอธิบายให้ผู้อื่นฟังได้อย่างแจ่มแจ้ง มันไม่มีหรอกคำว่า ข้าพเจ้ามีมุมมองว่าอย่างนั้นว่าอย่างนี้ เพราะธรรมเป็นความจริงตลอดกาล ไม่ปนด้วยความเห็นหรือมุมมองปรุงแต่งของใครทั้งนั้น ทุกวันนี้พระธรรมที่เผยแผ่อยู่เริ่มต้นมาจากพระพุทธเจ้าและพระอริยเจ้าทั้งหลายได้รวบรวมและถอดความหมายออกมาให้พวกเราได้ศึกษา จะไปแยกพระรัตนตรัยออกจากกัน มันก็เหมือนแยกแผ่นดินแยกแผ่นฟ้า แยกมหาสมุทรออกจากกัน มันทำบ่ได้หรอก ศาสนานี้จะเกิดขึ้นได้ พระรัตนตรัยต้องมีองค์ 3 ประการ และแก้ว 3 ประการนี้แลคือเนื้อนาบุญของโลกอย่างแท้จริง หาใช่ผู้ที่นำคำในพระไตรปิฏกมาอธิบายขยายความผิดๆถูกๆไปเรื่อยเปื่อยเพราะตนเองยังมิได้เข้าถึงสภาวะธรรมใดๆ จำมาเล่าใส่ความเห็นของตัวเองเข้าไปแล้วบอกว่า เป็นพุทธวจนะ ถ้อยคำจากพระโอษฐ์
พระธรรมย่อมไม่เปลี่ยนแปลงได้ สุดยอดที่สุดแล้ว
ตอนนี้ตรวจสอบว่าเป็นคำสอนของพระพุทธได้แบบง่ายๆเลยคะ ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ สาวกภาษิต ไม่มีกฏอิทัปปัจจยตา ไม่มีปฏิจจสมุปบาท ไม่มีสังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อมีศรัทธาใน สาวกภาษิต จึงไม่มีการเจริญอริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า มีอยู่นะ สังขตธรรม คุณสมบัติ เกิดปรากฏ เสื่อมปรากฏ เมื่อตั้งอยู่มีภาวะอย่างอื่นปรากฏ สังขตธรรม เป็น ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ อย่างนี้อย่างนี้คะ เมื่อมีเกิดเป็นปัจจัยจึงมีเสื่อม เมื่อมีเสื่อมเป็นปัจจัยจึงมีดับ เมื่อมีดับเป็นปัจจัยจึงมีอนัตตา เมื่อมีอนัตตาเป็นปัจจัยจึงมี เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ ไม่ขัดแย้งกันนั่นเองคะ
@@phawatchaiwong6531 คำตอบอยู่ที่ ตถาคตภาษิต ซึ่งมีอยู่ใน พุทธวจน นั่นเองคะ ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ คือ อริยมรรคมีองค์แปด ในข้อที่ 1 สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ไม่ขัดแย้งกันนั่นเองคะ จะฟัง พุทธวจน ตถาคตภาษิต ตอนนี้ หรือ ได้ฟังจากปาก พระพุทธเจ้าเลย ตถาคตภาษิต ก็จะยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงนั่นเองคะ เพราะ ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ สาวกภาษิตที่คุณกล่าวหาท่านว่าไม่มีสัมมาทิฏฐิคือสมมติสงฆ์เหล่าใดครับ การแสดงธรรมของพระพุทธองค์และพระอรหันตสาวกนั้นมีทั้งแบบพิศดารและแบบธรรมดาที่สอนคนทั่วไป พระอรหันต์ในยุคสมัยใกล้ๆนี้ก็คือสายหลวงปู่มั่นที่บรรลุอรหันต์มีตั้งกี่องค์ครับ หลวงปู่แหวน หลวงปู่ตื้อ หลวงปู่ชา หลวงตามหาบัว หลวงปู่บุญมี ฯลฯ ถ้าไม่เจริญอริยมรรคมีองค์ 8 แล้วครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านจะบรรลุธรรมเป็นอรหันต์ได้ยังงัย ปัญญาของครูบาอาจารย์ทั้งหลายเหล่านั้นรู้แจ้งแทงตลอดในธรรมของพระพุทธองค์แล้ว ไม่ใช่แค่ท่องจำมาแล้วตีความผิดๆถูกๆมีใส่ความเห็นของตัวเองเข้าไปด้วย แล้วบอกว่าเป็นพุทธวจนะ พระอรหันต์ในสายหลวงปู่มั่นท่านก็ได้รับคำสอนมาจากหลวงปู่มั่น ซึ่งเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ซึ่งหลวงปู่มั่นท่านได้ลาพุทธภูมิมาเป็นสาวกภูมิเพื่อบรรลุมรรคผลนิพพานในชาติสุดท้ายนี้ นึกออกมั้ยกำลังในการบำเพ็ญมรรค8ของท่านคือกำลังพุทธภูมิ ลูกศิษย์สายหลวงปู่มั่นจึงพากันบรรลุอรหันต์ในชาติสุดท้ายของท่านตามพระพุทธเจ้าและหลวงปู่มั่นตั้งหลายองค์ ซึ่งแต่ละองค์ท่านก็ไม่ได้ฟังธรรมจากพระโอษฐ์โดยตรงเพราะเกิดไม่ทัน แต่ก็บรรลุได้เพราะฟังธรรมจากครูบาอาจารย์ที่เป็นพระอรหันตสาวกที่เข้าถึงสภาวะธรรมนั้นแล้วเมตตาชี้ทางให้ ในสมัยพุทธกาลก็มีพระอรหันตสาวกบางท่านสามารถแสดงธรรมได้อย่างพิศดารจนพระบรมศาสดายกย่องให้เป็นเอตทัคคะในด้านการแสดงธรรมก็มีบันทึกไว้ บางอย่างที่ไม่ใช่กิจของท่าน ท่านก็ไม่พูดไม่สอน ท่านมุ่งปฏิบัติเพื่อหาทางหลุดพ้น ตัวเองยังไม่พ้นจะเอาอะไรไปแนะนำคนอื่นได้เล่า คำสอนในพระไตรปิฏกพระอริยสาวกท่านท่องจำสืบกันมาทั้งนั้น จนล่วงเลยมาหลายร้อยปีถึงได้บันทึกเป็นตัวหนังสือภาษาบาลี และแปลเป็นภาษาไทย ที่เขาสอนคุณว่าพุทธวจนะ คือจริงๆแล้วได้รับการแปลมาอีกทอดหนึ่ง ขนาดแปลแล้วยังต้องมาตีความไทยเป็นไทยอีก แล้วจะบอกว่าเป็นพุทธวจนะจากพระโอษฐ์ได้ยังงัย ถ้าจะฟังจากพระโอษฐ์บอกแล้วต้องนั่งไทม์แมชชีนกลับไปในช่วงที่พระบรมศาสดายังมีพระชนม์ชีพอยู่ และคุณต้องเข้าใจภาษาบาลีแบบว่าเป็นภาษาแม่เลยนะครับ ต้องไม่มีคนมาแปลเป็นไทยให้คุณฟัง แล้วที่บอกจะไปตรวจสอบอ่ะ คนตรวจสอบบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว เกิดปัญญารู้แจ้งแทงตลอดในธรรมของพระบรมศาสดาแล้วหรือ คนที่ควรจะตรวจสอบคือตรวจสอบตัวเองดีกว่ามั้ย มีอะไรที่ต้องแก้ไข ธรรมอันใดที่ต้องลดละเลิก ธรรมอันใดที่ต้องทำให้เกิดเพิ่มพูนให้เกิดขึ้นเพื่อเป็นเหตุให้บรรลุธรรมในระดับที่สูงขึ้นไปได้ ไม่ต้องไปเสียเวลาตรวจสอบคำสอนของพระอรหันตสาวกหรอกเพราะท่านบรรลุนิพพานไปหมดแล้ว “คนธรรมดาที่ยังไม่ได้บรรลุธรรมใดๆ อาศัยการอ่านท่องจำและพยายามจะตีความหมายธรรมหรือภาษิตของพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันตสาวก แล้วจะเอาความรู้ที่ท่องจำมานั้นไปตรวจสอบโวหารหรือภาษาภาษิตของพระพุทธองค์และพระอรหันตสาวก มันไม่อยู่ในวิสัยที่จะทำได้”
ผมเชื่อมาแบบนี้ตลอดครับ เถียงธรรม เถียงวินัย เถียงความรู้ ไม่มีวันจบครับ แต่ถ้าปฎิบัติรู้แก่ตน จบที่ตนครับ รู้อะไรไม่เท่ารู้ตน 😊
จริงที่สุดครับ ผมพิสูจน์มากับตัวในตอนบวช เถียงธรรม เถียงวินัย ไม่มีวันจบจริงๆ
รู้แล้วเอามาปฏิบัต จะปัจจัตตังด้วยตัวเอง สาธุค่ะ ผู้มีธรรม
❤❤
ศาสดา เรามีแค่ คนเดียว คือพระพุทธเจ้า ธรรมะของพระพุทธเจ้า เพียงผู้เดียว คือสิ่งที่ทุกคนควรศึกษาเล่าเรียน และ เราก็ฟังคำของพระสงฆ์ที่นำคำของพระพุทธเจ้ามาสอน ผมเข้าใจที่พระอาจารย์พูดครับ ผมคนนึงที่ศึกษาพุทธวจน เรื่องพุทธวจนที่พระอาจารย์พูดนั้นถูกต้องมากครับ 😊 และผมยังยืนยันว่าพุทธวจนที่ถูกต้อง ดีที่สุด เพราะเป็น ธรรมจากพระโอษฐ์ของพระศาสดา และเราก็สมควรปฏิบัติธรรม สมควรแก่ธรรม
ผมซึ่ง ฟังพุทธวจน เนื้อหาธรรมมีความละเอียดลึกซึ้งและแยบคาย ลองศึกษาอ่านและฟัง แทงตลอดเป็นอย่างดี **ครูบาท่านเตือนสติผมเข้าใจในข้อนี้ สาธุครับ** ผมน้อมรับคำเตือนและตั่งใจศึกษาพุทธวจนต่อไปครับ ^ ^
ไม่ใช่พุทธวจนะไม่ดี พุทธวจนะก็ดี พระไตรปิฏกก็ดี สิ่งไหนตรงจริตก็ปฏิบัติกันไป ไม่ใช่เอาพุทธจวนะไปข่มคนอื่นว่าคำจากปากพระพุทธเจ้านอกนั้นสาวกแต่ง อยากถามจริงๆว่า มึงเกิดทันพระพุทธเจ้าเหรอ พระพุทธเจ้าจดพุทธวจนะให้พวกมึงเหรอ มีตอนไหนที่บอกเราคถาคตจดพุทธวจนะให้พวกเธอ ล้วนแต่พระสาวกจดบันทึกไว้ที้งนั้น สายไหนก็ได้แล้วแต่จริตกัน แต่เท่าที่เห็นพวกสายอ้างพุทธวจนะไม่มีอรหันต์สักคน พวกปริยัต😂
ผมเห็นด้วย ครับ เพราะถ้าไม่ฟังแล้วจะอยู่ศาสนาพุทธ ได้ยังไงครับ แล้วพระธรรมคำสั่งสอนนี้ของไคร ไม่ใช่ของพระพุทธเหรอครับ
สาธุธรรมกับพุทธศาสนิกชนทุกท่านที่ศึกษาพุทธวัจนะจากพระโอษฐ์ของพระพุทธองค์ นี่คือธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสรู้โดยแท้ แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด สำหรับผู้ที่ศึกษานั้น ต้องระวังการนำความรู้นี้ไปใช้ปรามาสผู้อื่น หรือครูบาอาจารย์ที่มีพระคุณทั้งหลายว่าไม่ได้ถ่ายทอดพุทธวัจนะโดยตรง หรือทำให้เกิดรู้สึกว่าพุทธวัจนะเท่านั้นถึงจะดีที่สุด
ผมเชื่อตามที่ครูบากล่าวว่าผู้ฉลาดผู้มีปัญญาจะเห็นประโยชน์ในทุกสิ่ง เห็นความดีในคนทุกๆคน
เพราะว่าโทษของการเห็นผิดเพียงนิดเดียว (เนื่องจากมีอัตตาในตน) แล้วปรามาสว่าอันนี้ดีที่สุด อันนั้นไม่ดีอย่าไปฟัง ทำให้เกิดการแบ่งแยกแตกสายในพุทธศาสนาผลคือนรกอเวจี
@@pongsawadkumthampinij7472 ใช่ครับ คนที่มีสติปัญญาจริงๆ ตามที่พระพุทธเจ้าสอน เขาจะรับฟังหมด แล้วแยกแยะกลั่นกรองอีกที เราจะไม่กล้าปรามาสใครเลย เพราะต่างฝ่ายต่างก็ทำหน้าที่ของตนเอง เท่าที่จะทำได้ ย้ำ "เท่าที่จะทำได้" เราจะไม่ไปพูดหรอกว่า พระป่าไม่ดี พระบ้านไม่ดี พระเรียนปริยัติเยอะไม่ดี แต่เขาจะพูดในลักษณะ มองเห็นประโยชน์ร่วมกันของหน้าที่
@@pongsawadkumthampinij7472 แสดงว่าคุณไม่ได้เรียนนักธรรมบาลีมาแน่เลยครับ พุทธองค์ทรงห้ามเลยน่ะครับ ....พุทธวจน คือ คัดเอาเฉพาะคำพูดคำสอนที่ออกจากปากของพุทธเจ้าโดยตรง เท่านั้น ไม่ใช่คำสอนของสาวกและไม่ใช่คำแต่งใหม่ ถ้าฟังและศึกษาแล้ว จะได้บุญและได้อานิสงค์มากมายมหาสารนัก ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ชึ้งตรงกันข้ามกับฟังคำสอนสาวกและคำแต่งใหม่ อาจจะได้รับบุพกรรมร้ายแรงมาก เพราะคำของสาวกและคำแต่งใหม่นั้นอาจจะไปบิดเบียน ต่อเติม ตัดแต่ง และกล่าวตู่คำสอนของพุทธองค์โดยไม่รู้ตัว ชึ่งจะได้รับกรรมอย่างใหญ่หลวง ตอนที่ตายไปแล้ว พระองค์ทรงตรัสไว้แบบนั้นครับ ฉะนั้นจึง
ขอเชิญเพื่อนๆหันมาฟังและศึกษา พุทธวจน กันจะได้ช่วยกันเผยแผ่ศาสนา และคำสอนของพระพุทธเจ้าของเรา ท่านจะได้บุญกุศลใหญ่หลวงมากมายมหาสารทั้งชาตินี้และชาติหน้าครับเพื่อนๆ..หรือ แค่ช้วยกันแชร์และแนะนำให้คนอื่นๆฟังก็ได้บุญกุศลแล้วครับ.
วัดท่าซุง และคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ทำให้ผมเป็นคนมีธรรมะในใจ 🙏😇
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง
ตั้งใจรับฟังแล้วทำไปปฏิบัติ ทุกสิ่งที่อย่างที่หลวงพ่อสอน เรามีแต่ได้ดี แล้วนำไปปฏิบัติจะเกิดมรรคผลกับผู้ที่รับฟัง แล้วนำไปปฏิบัติ ครับผม
สาธุครับผม ตามนั้นเลยผมศ๊กษาหลวงพ่อฤาษีมาจะสามสิปปี
@@saartsupat502สาธุ อนุโมทนาด้วยครับ
ผมก็ตั้งใจฟังคลิปนี้ครับ แต่ผมรู้สึกอึดอัดแปลกๆ ผมขออนุญาตศึกษาพุทธวจนต่อไปครับ เพื่อความหลุดพ้น และปล่อยวาง
ถ้าครูบาได้ศึกษา พุทธวจน จะได้รู้ว่าที่ท่านพูดท่านสอนญาติโยมถูกหรือผิด เปิดใจสิครับ ลองฟังดู
คนที่ไปศึกษาพัทธวจน เขาก็ผานการศึกษาของครูบาอาจารย์มาเหมือนพระจารย์ทั้งนั้นแหละครับ แต่คนที่เขาวิ่งไปวัดนาป่าพงนั้น เพราะเขารู้ว่า สิงที่เขาฟังและศึกษามาจากครูบาอาจารย์นั้น มันไม่ถูกต้องตามคำสอนของพุทธองค์ เป็นคำแต่งใหม่เป็นคำสอนของครูบาอาจารย์ เมื่อเจอของจริงเราก็ต้องทิ้งของปลอม เพื่อไปรับเอาแต่ของจริงครับ เรากล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ถูกต้องครับอาจารย์ฉาย..ฝากถึงอาจารย์ครับ ถ้าอาจารย์จะสอนคนอื่นและลูกศิษย์ ให้มาศึกษา พุทธวจน ให้เข้าก่อนค่อยไปสอนญาติโยม จะได้ช้วยกันสืบทอดคำสอนพุทธองค์อย่างถูกต้องครับ ถ้าท่านยังไม่ศึกษาก็อย่าไปคัดง้างพาดพิงถึง นั้นเท่ากับท่านกะลังคัดง้างกับพุทธองค์อยู่น่ะครับอันตรายมากๆเลยครับ เพราะ พุทธวจน ไม่ใช่คำสอนของพระอาจารย์คึกฤทธิ์น่ะครับ แต่เป็นคำพูดที่ออกจากปากของพระพุทธองค์เลยน่ะครับ เพียงแต่พระอาจารย์ท่านศึกษาให้ครองปากและขึ้นใจแล้วนำมาสอนญาติโยมครับลองเปิดใจดูครับ ยกเว้นท่านมีทิตฐิ..ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง..ช่ะเอง...
และยิ่งไปกว่านั้น..ผู้บวชในศาสนานี้..อาจต้องถามย้ำกับตัวเองทุกวัน..ว่าศาสดาฉันคือใคร..อาจารย์ฉันจริงๆคือใคร..จริงอยู่..พระพุทธเจ้าท่านไม่สามารถอยู่รับรองสิ่งที่เป็นพระธรรมคำสอนไปได้ตลอด..มันจึงไม่มีสายตรงจริงๆชัดๆ..พระบวชใหม่จึงต้องฟังคำอาจารย์ตนไว้ก่อน..แต่สิ่งที่ต้องรู้คืออาจารย์ตนนั้นไม่ใช่ศาสดา..
"และถ้าไม่เผื่อใจไว้บ้างว่า..อาจารย์ตน..มีโอกาสพลาด..เพราะยังไม่ใช่ศาสดา..ยังไม่บรรลุมรรคผลสุดท้ายได้จริง..มันมักพลาด..ไปไกล..แบบ..กู่ไม่กลับ..!!
รูปนี้ที่บอกว่ามีพระธาตุออกจากผมตัวเอง แต่พิสูจน์แล้วมันคือสิริกาหรืออะไรสักอย่าง ถ้าไม่เชื่อธรรมะของพระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาแล้วหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านได้ธรรมะมาจากไหนค่ะ ท่านก็เป็นผู้เดินตามตถาคต
แล้วถ้าถามย้อนกลับจะแน่ใจได้อย่างไรสิ่งที่ตำราหนังสือว่าเป็นพุทธวจนที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงๆไม่ใช่คนแต่งขึ้นไม่ใช่นักปราชญ์แต่งขึ้นมีอะไรรับรองได้ถ้าเชื่อตามตำราเชื่อตามตัวหนังสือเพราะอย่าลืมว่าพระไตรปิฎกนั้นไม่สมบูรณ์นะ
@@tinyblack1251 ยิ่งพูดยิ่งบาปยิ่งพูดยิ่งปรามาสพระรัตนตรัยนะคุณอ่ะ..ศีลไม่มีสักข้อแต่เสือกรู้ดีทุกเรื่อง..เอาตัวเองให้พ้นจากกิเลสตัณหาก่อน
@@tonnum4143 ไม่สมบูรณ์ตรงไหนครับช่วยชี้จุดหน่อยครับ..
ขอบคุณพุทธวจนที่ทำให้ผมเจอคำตอบของชีวิต และทำให้รู้ว่าพระพุทธเจ้าเจ๋งจริง
ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ไม่ขัดแย้งกัน สาวกภาษิต ไม่มีกฏอิทัปปัจจยตา ไม่มีปฏิจจสมุปบาท ไม่มีสังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อมีศรัทธาใน สาวกภาษิต จึงไม่มีการเจริญ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ เป็น ลิขสิทธิ์ทาง ปัญญา สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ ของพระพุทธเจ้า นั่นเองคะ ตถาคตภาษิต
สาธุ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ@user-tl5ws1fe7e จริงดิมันต้องเป็นแบบนั้น เป็นอื่นไม่ได้เลยจริงเหรอ...แล้วทำไมพุทธะรับรองพระสาวกบางคนให้เทียบกับท่านได้เลยเช่น พระมหากัสสปะที่ทำสังคายนาครั้งแรก ไม่งั้นพวกคุณก็ไม่มีพุทธวจนมาขิงมาข่มสำนักอื่น...ตำราก็มาจากพระสาวกเรียบเรียงแต่ไม่เอาคำของสาวกเลย มันก็เกินไป😊
ครูบา ฉ่าย อธิบายได้ชัดเจน ตรงต่อหลักธรรม แล้ว สาธุค่ะ
ไปหลงเชื่อไอ้คึกวจนะปาราชิกตั้งนานแล้ว
การศึกษาพุทธวจน ได้ประโยชน์มากจริงๆ เพราะเป็นสิ่งที่ออกจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า แต่ไม่ใช่เอาไปโอ้อวดหรือเป็นสาเหคุแห่งการทะเลาะ ส่วนใครจะนำเอามาเป็นสาเหตุแห่งการโอ้อวดหรือทะเลาะกันนั้น ก็เป็นเฉพาะบุคคลไป
คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ถ้าจะเปรียบก็เหมือนท่านฉุดผมขึ้นจากอเวจีมหานรก ดังนั้นพระคุณนี้ผมจะไม่ลืมครับ และเมื่อศึกษาถึงระดับนึง ลูกศิษย์ต่างบอกกันว่า ผลสุดท้ายจะมาจบลงที่ "ดูที่จิตครับ" ผมเข้าใจที่ครูบาฉ่ายพูดถึงครับ😊😊😊
ผมก็เคยโพสต์ไปทีนึงเรื่องครูบาอาจารย์ท่านสอนไม่ต่างกัน สรุปลงที่ใจเหมือนกัน แต่โยมต่างหากที่ไปตีความผิด เลยคิดว่าครูบาอาจารย์สอนขัดแย้งกัน อย่างคาถาเงินล้านก็ไปตีความว่าสวดแล้วจะรวย พอหลวงตาบอกว่าสตี๊ฟ จ๊อบไม่สวดยังรวยเลย โยมที่ศรัทธาหลวงพ่อฤาษีลิงดำก็เข้ามาด่าหลวงตา ทั้งที่ไม่รู้เลยว่าจริงๆบทสวดนั้นคืออะไร สวดกันไปแบบนกแก้วนกขุนทอง ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วทำไมหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านให้สวด (เป็นพุทธานุสติซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมฐานที่ทำให้เกิดสติ เมื่อมีสติก็มีปัญญา ไม่ใช่เพราะบทสวดขลัง)
@@wmk8162 มันก็แคส่วนหนึ่ง
ในยะมีอยู่คาถาหลวงพ่อปานได้จากนิมิตมีกำลังเทพเทวดา
รักษาอยู่เรื่องโชคลาภมีพุทธคุณในตัว
ที่พระ ท่านอธิบายอธิบายรู้
ใหม่เพราะอะไรเพราะท่าน
มาเดินสายพระป่ามุงพระนิพพาน
แต่คาถาช่วยสำหรับคนที่ ยังเวียน
ตาย เกิดอยู่
ก็จะมี พระอรหันต์ กับสายพระโพธิ์สัตว์
ชีวิตเจ้ายังประมาทนัก
ว่าพระอริยะเจ้า
นรกเป็นที่เหมาะสม
กับผู้ที่ประมาท
ไปอบรมดัดนิสัยที่นรก
ถึงจะเหมาะสมกับผู้ที่ประมาท
@@สัจธรรม-ผ9ฑ อยากให้ดูคลิปครูเงาะที่สัมภาษณ์นักธุรกิจหญิงท่านนึง เธอเคยเป็นสายมูตัวแม่ เพราะคิดว่าพระรัตนตรัยช่วยทางโลกไม่ได้ ช่วยเรื่องเงินทองไม่ได้ แต่สุดท้ายพอศึกษาธรรมมะอย่างแท้จริง คนที่มีศีล สมาธิ ปัญญา สามารถเจริญทั้งทางโลกทางธรรมได้ ตรงกันข้าม พวกสายมู ช่วงแรกได้เงินจริง แต่ถึงจุดนึงจะติดขัด และมีโรคอาการแปลกๆด้วย ลองไปดูคลิปนั้นผมว่าจะเข้าใจเพราะเป็นประสบการณ์จริง ปล. พุทธคุณนั้นจะเกิดผลก็เกิดจากใจนี่แหละครับ ลองให้นกแก้วมันท่องตามมันก็ไม่ได้เป็นผลหรอก มันอยู่ที่ใจผู้สวด ผมยกตัวอย่างอีกเรื่องคือ พระคำข้าว หลวงพ่อท่านบอกกันรังสีนิวเคลียร์ช่วงสงครามโลกได้ แต่ถ้าไปฟังเทศน์จริงๆท่านขยายความว่าที่กันได้เพราะคนนั้นต้องมีฌาณ แต่คนก็ไปสรุปว่าห้อยพระแล้วกันได้แค่นั้น กลายเป็นเครื่องรางของขลังขายกันแพงๆ ถ้าเราห้อยพระ(มีพลังจิตของครูบาอาจารย์) เวลาภาวนาพลังเหล่านั้นจะช่วยให้เราสงบได้ง่ายต่างหาก เมื่อใจเราสงบเกิดฌาณจะกันรังสี ไวรัส .. ได้ (หลวงตาเองก็เทศน์บ่อยๆว่าท่านไม่เคยฉีดวัคซีนแต่ไม่เป็นโควิด พวกมาลาเรียท่านก็ไม่กลัว และท่านก็เทศน์เรื่องพระอรหันต์ไปที่ไหนจะมีพลังงานหลงเหลืออยู่ ดังนั้นก็ตรงกันกับเรื่องพระคำข้าวก็ย่อมมีพลังครูบาอาจารย์ แต่อย่างที่บอกพลังนั้นจะไม่มีประโยชน์ หากผู้ที่ห้อยพระนั้นไม่มีศีล ไม่รู้จักภาวนา)
สาธุครัย
ผมก็ศึกษาพุทธวจน ใหม่ๆจะร้อนวิชา แต่เมื่อกระทำไว้ในใจอย่างแยบคายได้แล้ว ราคะโทสะ โมหะเบาบาง ฟั้งได้ทุกอาจารย์สิ่งไกนดีก๋นเอมเข้าสิ่งใดผิดก็แค่วางลงเสียไม่ต้องทะเลาะกับใครศิษร์พระตถาคตเหมือนกัน
พระพุทธเจ้าท่านบอกว่ามีบุคคล 4 พวก 1 สั่งสมสุตตะ 2 ปฏิบัติตามธรรมวินัย 3 ฟังสาวกภาษิต 4 สั่งสมสุตตะ และ ปฏิบัติตามธรรมวินัย พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ สาวกภาษิต ไม่มีกฏอิทัปปัจจยตา ไม่มีปฏิจจสมุปบาท ไม่มีสังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อมีศรัทธา ใน สาวกภาษิต จึงไม่มีการเจริญ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ พุทธวจนมาจากใหนครับ
@@kentim8803 ในพระไตรปิฎก
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ แล้วพระไตรปิฏกมาจากไหน
@@kentim8803 ตถาคตภาษิต คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านพูดแค่ครั้งเดียวเป็น อกาลิโก ตรงจริงไม่จำกัดกาลเวลา จะนำ ตถาคตภาษิต มาพูดซ้ำๆๆๆๆๆๆๆอีกกี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิมนั่นเองคะ ผ่านมาสองพันกว่าปียังมี ตถาคตภาษิตอยู่ หาคำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต ไม่ยากแล้วตอนนี้ เพราะ ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ตถาคตภาษิต จะเป็นแบบนี้เหมือนกันหมดเลย พระพุทธเจ้าท่านเก่งจริงๆๆๆๆๆ จึงทำให้ ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ไม่มีขัดแย้งกันนั่นเองคะ เมื่อเข้ามาฟัง พุทธวจน ตถาคตภาษิต เป็นผู้ที่ฟังด้วยดี เป็นเหตุปัจจัยทำให้มี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต มีศรัทธาในตถาคตภาษิตคือการเจริญ สัมมาสมาธิ จึงเป็น สัมมาสังกัปปะ มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดขึ้นของ สัทธานุสารี สัทธานุสารีจะต้องเกิดก่อน บุคคล 4 คู่ 8 พวก ถึงจะเกิดตามมา เพราะ บุคคล 4 คู่ 8 พวก เป็น ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ
อย่าง ไร หลวงพ่อ วัดท่าซุง ผมฟังมาตลอด สุดยอด มีอะไรดีๆ ในใจ เคารพท่านมากๆ ดีหรือไม่ดี ขึ้นอยุ่กับบุคคล จะเอาไปปฎิบัต พวกศึกษา ธรรมะ จอมปลอม ไม่แก้ไขชีวิต ไปในทางที่ดี นั้นคือคนไม่จริงๆ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านสุดยอด คนจริงๆ ทำจริงๆ มีบารมี ในอดีต จนปัจจุบัน เข้าพราะนิพพาน ไปแล้ว พระทุกวันนี้ อย่าไปเทียบท่านเลบ บาปกรรม แน่นอน ไกลกัน ฟ้ากับเหว ครับ
ผมเพิ่งรู้..
คำสอนของหลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ ฟังแล้วหายเครียดเรื่อง บาป. กรรม ผมสบายใจ เดินสายกลางๆไม่บีปหัว ใจตัวเอง
ธรรมมะของพระผู้มีพระภาค เป็นธรรมมีข้อความลึก มีความหมายซึ้ง มีความลึกและกว้างขวาง พอคนศึกษาไม่ครบ ไม่ทั่วถึงเพียงพอ เลยเกิดการทิ่มแทงกันด้วยคำพูดมีประการต่างๆครับ
เธอทั้งหลายยังไม่พึงชื่นชม ยังไม่พึงคัดค้านคำกล่าวของผู้นั้น พึงเรียนบท
และพยัญชนะเหล่านั้นให้ดี แล้วพึงสอบสวนลงในพระสูตร เทียบเคียงดูในวินัย
ถ้าบทและพยัญชนะเหล่านั้น สอบลงในสูตรก็ไม่ได้ เทียบเข้าในวินัยก็ไม่ได้ พึงลง
สันนิษฐานว่า “นี้มิใช่พระดำรัสของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแน่นอน และภิกษุ
นี้รับมาผิด” เธอทั้งหลายพึงทิ้งคำนั้นเสีย ถ้าบทและพยัญชนะเหล่านั้น สอบลง
ในสูตรก็ได้ เทียบเข้าในวินัยก็ได้ พึงลงสันนิษฐานว่า “นี้เป็นพระดำรัสของพระ
ผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแน่นอน และภิกษุนั้นรับมาด้วยดี”เธอทั้งหลายพึงจำ
มหาปเทส.. นี้ไว้
อุปริ. ม. ๑๔ / ๕๓ / ๔๑
อริยวินัย น. ๓๙๙
พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๐
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค
หน้าที่ ๑๐๑/๒๖๑ ข้อที่ ๑๑๐-๑๑๒
@@มามามานะนะนะ-ย5ฑ บอกตรงๆนะจะได้หายโง่บ้างครับ..ในพระไตรปิฎกนั้นไม่มีคำพูดของพระพุทธเจ้าอยู่จริงๆสักคำเลย..มีแต่คำพูดของเหล่าพระอรหันต์ในอดีตทั้งนั้นที่ท่านได้เขียนไว้พูดไว้ทั้งหมด..คุณเอามาจากไหนครับคำพูดของพระพุทธเจ้าจริงๆอ่ะ..ถ้าคุณไม่เชื่อคำสอนของพระอรหันต์ในพระไตรปิฎกนั้น..คุณก็เรียนพระไตรปิฎกไม่ได้เลย..
@@มามามานะนะนะ-ย5ฑ ที่คุณอ้างอยู่เนี่ยล้วนแต่เป็นคำพูดของพระอรหันต์ในอดีตทั้งนั้นเลย..เพียงแต่ท่านอ้างว่านี่คือคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้นเอง..แต่ผู้พูดคือพระอรหันต์ทั้งนั้น
@@ตะวันพลายแสงยามแรงกินเหล้า สงฆ์สาวกครั้งพุทธกาลท่านใช้การท่องจำสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน (หรือเรียกว่า พุทธวจน) ในแต่ละวาระโอกาส โดยท่องจำสืบทอดต่อๆกันมา จากรุ่นสู่รุ่น จนตอนหลังมีการจดบันทึกรวมไว้ที่เดียวเรียกว่าพระไตรปิฎก แล้วคุณถามว่าที่สงฆ์สวดๆท่องๆตามพระไตรปิฎกอยู่นั่นคำใคร?? ก็ต้องคำของพระพุทธเจ้าซิครับ เพราะพระพุทธเจ้าเป็นคนตรัสไม่ใช่เหรอ ถึงจะท่องโดยสงฆ์หรือโดยฆราวาสอย่างเราๆ ก็ต้องถือว่าเรากำลังท่องสวดพระพุทธวจนอยู่ หาใช่คำของสาวกอย่างเราๆไม่ แต่ถ้าเป็นสาวกประดิษฐ์เนื้อธรรมขึ้นเอง พยายามอธิบายเองตามความเห็นส่วนตัว ยกอุปมาเอง และผูกสำนวนเอง อย่างนี้ถึงจะไม่เรียกว่าพุทธวจน แต่จะเรียกว่าคำสอนของสาวกรูปนั้นๆ หรือเรียกว่าเป็นอรรกถาโดยสาวกรูปนั้นๆ
@@ti-wa-ra4560สาวกที่ยังไม่บรรลุไม่แตกฉานท่านจำคำศาสดามาเป็นหลักในการบอกสอน ส่วนอรหันต์ที่บรรลุท่านก็ย่อขยายธรรมภายในตน ธรรมที่พระพุทธเจ้าบรรญัติได้ คุณต้องเข้าใจว่าพระไม่ใช่ตู้พุทธวจนเคลื่อนที่ ไปไหนมาไหนต้องใช้แต่คำศาสดา มันไม่ใช่
26:38 🙏🙏🙏
สาธุ สาธุ สาธุ เส้นทางที่เคยเดินผ่าน เหมือนกัน ขอรับ
(เห็นคนอื่น แต่ไม่เห็นตัวเอง ... พ่อแม่ครูอาจารย์ สอนว่า "กรรมฐาน สอนให้เห็นตัวเอง" แต่นั้นมา กระผมจึงเริ่มเข้าใจว่า ทำไม การเถียงธรรมะ ถึง ทำให้ตกต่ำลง)
ผู้ใดหลงใหลในตำราและอาจารย์ ผู้นั้นมิอาจพ้นทุกข์ได้ แต่ผู้จะพ้นทุกข์ได้ก็ต้องอาศัยตำราและอาจารย์เช่นกัน...หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
หลง กับ อาศัย มันต่างกันลิบลับ.
ความหมายหลวงปู่ดูลย์ อตุโล.น้อมกราบสาธุครับ
พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มี กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม เมื่อมีเกิดเป็นปัจจัยจึงมีเสื่อม เมื่อมีเสื่อมเป็นปัจจัยจึงมีดับ เมื่อมีดับเป็นปัจจัยจึงมีอนัตตา เมื่อมีอนัตตาเป็นปัจจัยจึงมี เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ด้วยการมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต สุตตมยปัญญา เป็นปัญญา ฌาน 4 สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ คุณเชื่อไหมว่าผมเคยพูดแบบคุณนั้นแหละครับ..ว่าให้ฟังคำของพระพุทธเจ้าอย่างเดียวเท่านั้นห้ามฟังคำของสาวกเด็ดขาด..ผมเจอนักปราชญ์ท่านหนึ่งสอนมวยผมแบบหมดรูปเลยครับ..ท่านว่าพระไตรปิฎกทั้งหมดนั้นมาจากคำพูดของพระอรหันต์ทั้งหมดเลย..เพราะพระอรหันต์ในอดีตท่านสร้างพระไตรปิฎกขึ้นมาจากคำพูดของท่านทั้งหลาย..ทั้งพูดทั้งจดทั้งเขียนมีแต่พระอรหันต์ทั้งหมดเลยครับเพียงแต่ท่านบอกว่า..พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้แบบนี้นะแบบนั้นนะ..แต่สุดท้ายก็เป็นคำพูดของพระอรหันต์ทั้งหมดนั้นเองครับ..ถ้าคำของพระอรหันต์เชื่อถือไม่ได้..ก็แสดงว่าทั้งพระไตรปิฎกใช้ไม่ได้เหมือนกันครับ..สรุปแล้วพระไตรปิฎกทั้งเล่มล้วนแต่มาจากคำพูดของพระอรหันต์ทั้งหมดเลย..
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ ใช่ครับ แต่ไม่ไช่แบบที่คึกฤทธิ์สอนครับ ต้องไปทำความที่มาที่ไปของพุทธวจนเดิมเสียก่อน เรื่องนี้ท่าน ปอ.ประยุทธท่านอธิบายใว้ ว่าที่ท่านคึกฤทธิ์อ้างฉบับแปลอย่างเดียวไม่ได้ เพราะคนแปลยังต้องใช้อรรถคาถาจารย์ช่วยแปลแต่คึกฤทธิ์กลับบอกใช้แค่ฉบับแปลไทยแล้วไปตีความหมายอื่นๆคลาดเคลื่อนไปหมด เช่น ศีลเหลือ 150 อย่างนี้ถือว่าผิดไปเยอะ
เร่งปฏิบัติกันเถอะ จะได้พ้นทุกข์กันเสียที
ฟังธรรมที่ ครูบาสอนแล้ว เหนื่อยและ สับสน
เรา ฟังธรรมง่ายๆเข้าใจถึงใจตน พระสัทธรรมนั้น คือ เสียงจากหลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่มั่น ท่านพ่อลี หลวงปู่ชา ทุกคำสอนนั้นไม่เคยตำหนิใคร และไม่เคยว่า ธรรมของท่านเลิศกว่าผู้ใด ไม่ให้ยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งใด แม้แต่ตัวท่านเอง เราหันมาฟังธรรมจากท่าน แม้เราจะเจอปัญหาหนักหนาเพียงใด เราก้ผ่านไปได้
หลวงปู่เทพโลกอุดร ไม่มีตัวตน
แต่ถ้าอยากพบท่าน ให้หมั่นสวดมนต์
ปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะได้พบท่านแน่นอน
เธอทั้งหลายยังไม่พึงชื่นชม ยังไม่พึงคัดค้านคำกล่าวของผู้นั้น พึงเรียนบท
และพยัญชนะเหล่านั้นให้ดี แล้วพึงสอบสวนลงในพระสูตร เทียบเคียงดูในวินัย
ถ้าบทและพยัญชนะเหล่านั้น สอบลงในสูตรก็ไม่ได้ เทียบเข้าในวินัยก็ไม่ได้ พึงลง
สันนิษฐานว่า “นี้มิใช่พระดำรัสของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแน่นอน และภิกษุ
นี้รับมาผิด” เธอทั้งหลายพึงทิ้งคำนั้นเสีย ถ้าบทและพยัญชนะเหล่านั้น สอบลง
ในสูตรก็ได้ เทียบเข้าในวินัยก็ได้ พึงลงสันนิษฐานว่า “นี้เป็นพระดำรัสของพระ
ผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแน่นอน และภิกษุนั้นรับมาด้วยดี”เธอทั้งหลายพึงจำ
มหาปเทส.. นี้ไว้
อุปริ. ม. ๑๔ / ๕๓ / ๔๑
อริยวินัย น. ๓๙๙
พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๐
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค
หน้าที่ ๑๐๑/๒๖๑ ข้อที่ ๑๑๐-๑๑๒
ใกล้แล้วนะฉ่ายเอ้ย...เว้าทั้งวันทุกวัน555...อย่าดอกเวลาลงกะไปต่อคิวกะผู้ตามเอ้ย
คุณก้อยังหลงอยู่เลย ปู่เทพอุดร อะไรนั่นไม่เคยเห็นได้ยินแต่เขาพูด กับเชื่อแบบตามๆกันไป นั่นแหละ หลงๆเต็มๆ
ขนาดมีตัวตนจริงของจริงเผยแพร่ธรรมมานานยังไม่มีใครเชื่อเลยเขาหาว่าสำนักเพี้ยนซะอีกด้วยซ้ำแต่ดันไปเอาพระใบฎีกาพหรมตัวปลอมที่เขาแต่งหนังสือขายมาหลอกก็เชื่อกันหมดสมเพชจริงๆแถมไปศรัทธาสายเทวทัตอีกยังไม่รู้ตัว😂😂
มันยังไม่ใช่ภิกษุตามธรรมวินัย ขี้โม้ขี่อวด จำเป็นสมมุติบรรญัติ ยังอีกไกลจากคำว่าโสดาบัน
หลงมานานเข้าใจผิดมานานมาเข้าใจคำสอนพระพุทธเจ้าก็ในยุคสิ้นคิดนี้ไม่มอมเมาในคำสอนให้หลงแต่ให้ศึกษาในข้อเท็จจริงของพทธเจ้าไม่ให้เชื่อแต่ให้ลองปฎิบัติแล้วจะเข้าใจ แรกๆก็ไม่เคยเชื่อคิดว่าคงงั้นๆ ตอนนี้ปฎิบัติแล้วเข้าใจแล้วครับ สาธุ
ให้ไปพิมพ์ชื่อหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ค้นหาใน you tube แล้วฟังๆ ๆ ให้ครบทุกคลิป ควบคู่ไปกับหลวงตา ครูบาฉ่าย ด้วย จะได้รู้ว่าพระอรหันต์ยังมีอยู่เต็ม you tube
ผมก็เถียงกับคนที่บ้านเหมือนกัน สุดท้ายผมบอกทางคนต่างต่างปฏิบัติ แล้วกัน เชื่อในสิ่งที่ทำทำในสิ่งที่เชื่อ เท่านั้นเหละจบ.
น้อมกราบองค์สมเด็จพระปฐม
น้อมกราบหลวงพ่อฤาษีลิงดำค่ะ
น้อมกราบหลวงพ่อจรัญค่ะ
น้อมกราบครูบาฉ่ายค่ะ
สาธุ🙏 สาธุ🙏 สาธุ🙏 ค่ะ บันทึกบุญ
ต่อจากนี้ไปอีก30ปีถ้าท่านยังปฏิบัตดีปฏิบัติชอบยังไม่สึกหรือดีแตกซะก่อนผมจะขอชมเชย .ตอนนี้ขอให้ปฏิบัติดีต่อไป..หนทางอีกยาวไกล..กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
แก่กรรม.ก่อนจะสุก...เลยหอมฟุ้งบาดเน่าในไผสิพ้อกะตัวสูเด้อ...ถือว่ากรรมหลงเองเจอทองปลอม
มีพระธาตุเลยนะครับ
น้อมกราบครูบาค่ะ โยมเคยเป็นค่ะ เพราะคิดว่าเข้าใจพระพุทธวจน แต่ไม่เคยเข้าถึง
รู้จัก ดิน แต่ไม่เป็น ดิน
รู้จัก น้ำ แต่ไม่เป็น น้ำ
รู้จัก ลม แต่ไม่เป็น ลม
รู้จัก ไฟ แต่ไม่เป็น ไฟ
คือ ยังไม่รู้จริง นี่เรียกว่า รู้ตามที่ฟัง คิด เห็น อ่านเท่านั้น😊
พุทธวจนะเตือนใจ
“หากว่า นรชนกล่าวพระพุทธวจนะอันมีประโยชน์เกื้อกูลแม้มาก แต่เป็นผู้ประมาท ไม่ประพฤติตามพระพุทธวจนะนั้น เขาย่อมไม่เป็นผู้มีส่วนแห่งสามัญผล เหมือนคนเลี้ยงโค นับโคทั้งหลายของชนเหล่าอื่น ย่อมเป็นผู้ไม่มีส่วนแห่งปัญจโครส ฉะนั้น หากว่านรชนกล่าวพระพุทธวจนะอันมีประโยชน์เกื้อกูลแม้น้อย แต่เป็นผู้มีปกติประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรมไซร้ เขาละราคะ โทสะและโมหะแล้ว รู้ชอบ มีจิตหลุดพ้นดีแล้ว หมดความยึดถือในโลกนี้ หรือในโลกหน้า เขาย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งสามัญผล”
ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท
ระวังพวกยกหนังสือมาสอนนะ
@@ต้นจาตุรันดร์พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม เมื่อมีเกิดเป็นปัจจัยจึงมีเสื่อม เมื่อมีเสื่อมเป็นปัจจัยจึงมีดับ เมื่อมีดับเป็นปัจจัยจึงมีอนัตตา เมื่อมีอนัตตาเป็นปัจจัยจึงมี เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ด้วยการมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม สุตตมยปัญญา เป็นเส้นทางการเจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ของพวก ปฏิผล ที่พระพุทธเจ้าท่านบอกเส้นทางไว้ให้รู้ตาม ใน พุทธวจน นั่นเองคะ ต้นทางเป็น สุตตะ ตถาคตภาษิต กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม มีศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต เมื่อต้นทางถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าท่านบอกสอนไว้ให้รู้ตาม ปลายทางเป็น ปัญญา สุตตมยปัญญา เป็นปัญญา ฌาน 4 สัมมาทิฏฐิ เป็น อนุสาสนีปาฏิหาริย์ เพราะเป็น สมาธิรูปสัญญา ฌาน 4 เป็น สัมมาสมาธิ ใน อริยมรรคมีองค์แปด อริยมรรคมีองค์แปด สองข้อแรก เป็น ปัญญา สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ นั่นเองคะ พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม นั่นเองคะ
@@เปรียบดั่งจันทรา คุณรู้ตัวไหมว่า..พระไตรปิฎกทั้งหมดไม่มีคำพูดของพระพุทธเจ้าอยู่เลยแม้แต่คำเดียว..มีแต่คำพูดของเหล่าพระอรหันต์เท่านั้นที่อยู่ในพระไตรปิฎก..ลองใช้ปัญญาพิจารณาดีๆครับ..พระอรหันต์ในอดีตท่านทั้งพูดทั้งเขียนทั้งบันทึกทั้งวิเคราะห์วิจารณ์จนสร้างพระไตรปิฎกสำเร็จ..พระไตรปิฎกทุกหน้ากระดาษล้วนแต่เป็นคำพูดของพระอรหันต์เท่านั้นเพียงแต่ท่านอ้างว่าพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้แบบนี้แบบนั้นก็เท่านั้นเองครับ..ในเมืองพวกคุณบอกว่า..ไม่เชื่อคำสอนของสาวกในพระไตรปิฎก..ก็เท่ากับว่าพระไตรปิฎกทั้งเล่มเชื่อถือไม่ได้เลยนะสิครับ..ใครพูดใครสร้างใครจดบันทึกพระอรหันต์ทั้งนั้นครับ..ฉะนั้นอย่ามาอ้างว่านี่คือคำสอนของพระพุทธเจ้าอีกต่อไปและปรามาสพระอรหันต์ทั้งหลาย..
ศึกษามาก็ไม่น้อย พุทธวจนะนี่แหละ เข้าใจง่ายสุดแล้ว
#พึ่งได้ ฟังครูบาร์ครั้งแรกคลิปนี้ ทำให้ผมมั่นใจได้เลยว่าผมมาถูกทางแล้วที่เลือกทางพุทธวจน /พระนักเลง มีมิจฉาทิฏฐิ ปลายทางไปอบายทุคติวินิบาก น่าเศร้าที่ครูบาร์มีโอการได้ห่มเหลืองแล้วแต่จิตท่านยังมีอวิชชา สำหรับผมพุทธวจนเปิดโลกใหม่แกผมมาก พระที่สอนก็มีคำพูดสุขุม สงบนิ่ง ส่วนนอกนั้นเห็นแต่พระอวดอุตริ ใช้อารมณ์ในการพูดมากกว่าความเข้าใจ เช่นครูบารู้สึกว่าท่านจะมีอารมณ์ในการพูดมาก🙏
ผมคนหนึ่งครับ เรียนรู้มาผิดๆ จนมาเจอพระพุทธวจน แล้วปฏิบัติตาม คิดตาม เข้าใจตามทุกข้อธรรม ไม่ขัดแย้งกันเอง ไม่งงด้วย พระพุทธเจ้าต้องการให้คนทั่วไปกลับไปสู่อมตะนิรันดร์ที่จิตทุกคนเคยอยู่ คือ การหลุดพ้นจากขัน 5
+1
@@Palada.river.chanalเชื่อไอ้คึกวจนขายพระไตรปิฏกกินนี่นะ
ถ้าศึกษาพุธทวจนแล้วน่อมธรรมเข้ามาใส่ตน รู้จักเป้าหมายที่ชั้ดเจนของตนว่าเราศึกษาธรรมเพื่อมอะไรอย่างไร ผู้นั้นจะไม่โทษอะไรผิดหรึถูก เขาจะเข้าใจว่า เรารู้แปปเราเขารู้แปปเขา จะเข้าใจตามความเป็นจริงด้วยจิตที่เบิกบานมีเมตตาเปิดกว่างเป็นสากลไม่อยู่ในความขัดแย่งและปล่อยวางในที่สุด กราบสาธุท่านครูบาครับ
ชาวพุทธทั้งหลายอย่าขัดแย้งกัน อย่าทะเลาะกัน พึงศึกษาเพื่อนำไปสู่ความหลุดพ้น มิใช่ขอใครดี ไม่ดี ถูกผิด อย่าขัดแย้งกันครับ พระพุทธองค์ไม่สอนให้พุทธมามกะทะเลาะขัดแย้งกัน
พระพุทธเจ้าสอนว่า ให้ฟังแต่คำพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ใช่คำพระองค์
1.อย่าฟังด้วยดี
2.อย่าเงี่ยหูฟัง
3.อย่าตั้งจิคเพื่อจะรู้ทั่วถึง
4.อย่าสำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรไปศึกษาเล่าเรียน
เหตุการณ์ก็เป็นเช่นนี้เเล้ เราควรจะเชื่อพระพุทธเจ้าอยู่ไหม๊ หรือเชื่อคำสาวก ดี🤫🤫🤫🤫🤫🤫
ไปสอนแก็งค์พุธวจนะก่อนไหม??
@@Venrune56 พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มี อยู่ใน พุทธวจน ยกตัวอย่าง ตถาคตภาษิต สุตตมยปัญญา - ภาวนามยปัญญา - พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็น ตถาคตภาษิต เพราะมี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม เป็น สัมมาทิฏฐิ จึงเป็น ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ สาวกภาษิต ไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ เพราะพระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง ท่านบัญญัติ พระธรรม พระธรรมวินัย บอกสอนไว้ให้รู้ตามนั่นเองคะ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็น ตถาคตภาษิต เพราะมี กฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม เมื่อมีพระพุทธเป็นปัจจัยจึงมีพระธรรม พุทธวจน เมื่อมีพระธรรมเป็นปัจจัยจึงมีพระสงฆ์ มี โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ นั่นเองคะ
คำสอนของพระพุทธองค์เป็นหนึ่งไม่มีสองไม่มีคำสอนใดจะมาลบล้างคำสอนของพระพุทธองค์ได้ ถ้าสาวกรูปใดไม่ฟังคำสอนและไม่ประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ พ่ออย่าหวังเลยในมรรคผลนิพพาน พระพุทธองค์ก็ทรงตรัสไว้แล้วว่าถ้าไม่ได้ฟังคำสอนของพระพุทธองค์แล้วจะไม่มีใครได้สำเร็จผลประโยชน์ในมรรค ผู้ที่จะสำเร็จในมรรคผลนิพพานนี้มีเพียงในพุทธศาสนาเท่านั้น
ข้าพเจ้าก็ปฏิบัติของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำเข้าใจในสิ่งที่พระอาจารย์พูดถึงการที่ใครจะเห็นอะไรอาจจะไม่เหมือนกัน ชัดเจนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติเพียรจิตของระดับญาณไม่เท่ากัน..สาธุอนุโมทณาบุญกับการสร้างบารมีของท่านพระอาจารย์สาธุ..สาธุ..สาธุ..
ผมนี้จากคนไม่มีศาสนา ไม่รุ้สึกผิดชอบชั่วดี ไม่กลัวบาปหลวงพ่อฤาษีลิงดำ สอนไห้ผมเห็น นรก สวรรค์ สอนไห้ผมมีฌาน4 ไห้ผมมีอินทรีย์5 ที่ดี ดูจิตตัวเองถ้าไม่มีพ่อฤาษีลิงดำท้าไห้ลองกรรมฐานของพระพุทธเจ้าผมก็คงได้ไปนอนในนรกยาวๆแน่นอน🙏🙏🙏
สาธุ ครับ
จริงคับ.พวกศึกษาพุทธวจนส่วนมากหลงความรู้ที่ตนเองรุ้มาจนยึดติดความรู้นั้นไม่ฟังใครอีก.ผลก็ศึกษานะคับแต่ผมเรียนรู้เพื่อปล่อยวาง.ตัวตน.สาธุ
เพิ่งเคยฟังครูบาฉ่าย รู้สึกท่านมีภูมิธรรมแน่น เกิดจากการปฏิบัติไม่ได้เทศน์จากอ่านตำรามา เสียงดังฟังชัด ตอบคำถามได้หมดสงสัย ยกตัวอย่างได้เห็นภาพชัด เป็นธรรมที่เข้าใจง่าย โมทนาสาธุ
พระธาตุเกิดขึ้นได้อย่างไร..ในตำราทั้งหมด..แม้แต่พระพุทธเจ้า.เกิดขึ้นหลังปรินิพพาน..แต่ครูบาฉ่ายเกิดตัวเป็นๆ..ใครไม่เคยศึกษาก็เชื่อไป...
โง่งม
ครูบาฉายยังห่างไกล กับคำสอนของสัพรรณญูที่อาจารย์คึกฤทธิ์ นำมาบอกสอนคำของครูบาฉายเปรียบเหมือนแสงของหิ่งห้อย ส่วนคำของตถาคตเปรียบเหมือนแสงของดวงอาทิตย์ แล้วแต่จะเลือกเอาเองครับ
คนที่ไม่มีคำสอนของตัวเอง แต่นำคำสอนของตถาคตมาเปิดเผยบอกสอน กลับถูกพระสงฆ์บางองค์ต่อต้านในคำสอนขององค์พระศาสดาของตนเอง...
ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า จิตหลุดพ้นง่ายๆ.
ผมเองก็ศึกษาพุทธวจนครับ ครูบาท่านพูดจริงธรรมมะขององค์พระศาสดาคือความรู้ที่นำให้เราก้าวพ้นจากความทุกข์ เมื่อใดที่นำธรรมมะมาถกเถียงกันด้วยความขัดแย้งอยากเอาชนะความรู้นั้นก็ไร้ความหมายครับเพราะเมื่อเกิดการทะเลาะขึ้นมันกลายเป็นเจตนาที่มีอย่างอื่นเคลือบผิวไปแล้ว กลายเป็นว่าของเราดีของเขาไม่ดีไม่ใช่ อันที่ผิดอันที่ใช่นี้ก็มีอยู่ครับ สำคัญคือถ้าเรารู้อันที่ถูกแล้วศึกษาแล้วทำได้จริงรึเปล่าสำหรับผู้ศึกษาใหม่แยกออกรึเปล่าครับว่าเพียงรู้ในคำของพระศาสดาหรือรู้แล้วนำมาใช้ได้ในชีวิตของตัวเองได้จริงๆ ตรงนี้จำเป็นจริงๆที่ต้องแยกแยะให้ออก เรื่องของการฝึกจิตพระอาจารย์คึกฤทธิ์ท่านยังบอกว่ายากเลยครับต้องใช้เวลา
สาธุๆๆ น้อมกราบในธรรมของครูบาฉ่าย ฟังกี่ที ก็ให้ความกระจ่างชัดเจนในสิ่งที่ค้างคามาตลอดชาตินี้ ครูบาคือผู้ที่จูงเรานำทางเราออกจากความโง่ในหลายๆเรื่องให้เกิดการขัดเกลาปัญญาที่ละเอียดอ่อนจริงๆ สำนึกในบุญคุณคับ
ท่านครูบามีปัญญามากล้ำเหลือ สามารถหยิบคำมาอธิบายได้อย่างละเอียด สาธุ กราบอนุโมทนา
ครูบาท่านมีเมตตามาก ท่านพยายามสอนธรรม ให้คนถามเข้าใจ.คนยีฝังสงสัยอยู่มาก ถ้าถามเพื่อไปปฏิบัติ ถามเลยครับท่านให้ทางสว่าง แต่อย่าถามเพื่อที่จะชนะครูบา มีนจะได้กิเลสท่วมหัว
เชื่อหลวงพ่อครับ ท่าน มีองค์ประฐม คอยแนะนำการสอนธรรม
ธรรมมะครูบาฉายโคตรขัดจิตขัดใจโยมยอมรับว่าอารมณ์ความรู้สึกคือตีกันอยู่ข้างในรับไม่ได้จริงๆค่ะ สารภาพ แต่ทุกครั้งครูบาก็บอกทุกคลิป พิจารณาเอาปฏิบัติเอาจริงมั้ย คำนี้แหละทำให้เราเห็นว่า เราไม่ได้ฉลาด โง่มากกว่าฉลาด น้อมรับค่ะ ว่าตัวเองโง่ กับเรื่องโง่ๆมาตลอด ครูบาชี้ให้เห็นว่าเราไม่ได้รูจริง แสร้งทำเป็นรู้เพราะกลัวสังคมไม่ยอมรับ ขำตัวเอง แต่ก็ไม่พอใจหลายๆคลิปแต่ก็จะฟัง เพราะครูบาเหมือนท้าใจเรา ตลอดเวลา เออ ถ้าเราฉลาดไม่ต้องมาปฏิบัติไม่ต้องฟัง แต่เพราะรู้ว่าตัวเองโง่ เลยยังฟัง สาธุค่ะ
ท่านครูบาสอนอะไรทำไมฉันเข้าใจยากจริงๆ ฉันฟังธรรมะพุทธวจน ฉันเข้าใจง่ายแล้วลึกซึ้ง ถึงคำสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์สอน
ไม่นิ่งสับสนไร้จุดหมาย ยังห่างจากอาจารย์คึกฤิทธิ์มากๆ ฝ่ายนึ่งพูดตามความคิดเห็นเหมือนปุถุชน ส่วนอาจารย์คึกฤิทธิ์พูดจากคำของสัพพรรญู ผู้มีปัญญาย่อมมองเห็นได้อย่างชัดเจน สาธุ...
@@สิทธิพันธ์แก้วเมืองหลงทางเป็นแถว
น้อมกราบพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ทุกๆท่านเจ้าค่ะ..ทุกองค์ สอนดีหมดเลย เนื้อธรรมอันเดียวกัน แต่ เดินกันคนละแบบ..สุดท้าย..นำมาลงที่ จิต
ตัวเดียว..🙏🙏🙏
ถูกต้องครับผม
เท่าที่เห็นครูบาก็ทุกข์เพราะไปสำคัญว่าคนอื่นขาดปัญญา.จึงทะเลาะกัน สำคัญว่าคนอื่นหลงความรู้ ซึ่งความจริงท่านเองก็พอๆกัน. ใครเขาทะเลาะกันท่านไม่รู้ว่าครอบครัวเขาถกเถียงแบบใดใครหนักใครเบาใครหลงไม่หลงหรืออาจหลงพอๆกันทั้งคู่ ท่านครูอยู่ตรงกลางก็อย่าคิดแทนใครๆให้ตนเองดูเหมือนผู้สรุปชี้ขาดความขัดแย้งเลย.
ตถาคตภาษิต มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เมื่อมีพระพุทธเป็นปัจจัยจึงมีพระธรรม พุทธวจน ตถาคตภาษิต เมื่อมีพระธรรมเป็นปัจจัยจึงมีพระสงฆ์ มี โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์
เท่าที่ฟังครูบากะลังหลงทาง ศึกษา พุทธวจน แค่เสี่ยวเดียว ถึงได้หลงทาง..และจะพาชาวบ้านลงทางไปด้วย....
จริงงงงงงงงงงง ฮะ
ธรรมชาติธรรมะจากหลวงพี่ครูบาฉ่าย สาธุๆเจ้าค่ะ🙏🌍
คำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง นับเป็นคำสอนที่ต้องฟังแล้วปฏิบัติตามทำเองรู้เองแต่ละคลิปเมื่อฟังรอบใหม่ก็จะได้อะไรเพิ่มขึ้นในครั้งแรกที่ฟังจากเก็บไม่ครบสั่งครั้งที่สองละเอียดเพิ่มขึ้นฟังครั้งที่สามยิ่งลึกซึ้งยิ่งฟังหลายคลิปหลายม้วนจะรับรู้ได้ถึงคุณค่าและความโชคดีของเราที่ได้พบท่าน เป็นทางตรงที่สุด
สาวกแค่ผู้เดินตามมรรคคำสอนของตัวเองมีไม่ได้ถ้าสาวกมีคำสอนของตัวเองจงรู้ไว้เลยผู้นั้นไม่ใช่อริยะเป็นเพียงโมฆะบุรุษที่แอบอ้างศาวนาเป็นไปในทางเสื่อมยิ่งกว่าปุถุชนที่ไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำไปจงศึกษาคำของตถาคตอย่าเข้าใจหรือคิดเอาเอง
จริงที่สุด
อือ...เราฟังคลิปของท่านใน you tube จนเกือบจะหมดทุกคลิปแล้ว รวมทั้งคลิปการออกธุดงค์ในป่าลึก ที่ท่านเล่าเรื่องมหัศจรรย์ไว้มากมาย รวมทั้งเรื่องเทวดานางฟ้าลงมาใส่บาตรคณะของท่านจนไม่ต้องออกบิณฑบาตกับมนุษย์ธรรมดาเลย...สาธุ
@@คูโฟน-บ7ง อะไรของแกรึแก? พระบรมศาสดาทรงมีพระสงฆ์สาวกไว้เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ไม่ใช่มีไว้เพื่อให้ทำแบบพระคึก...กับพวกแก นะ #สาวกคึก.....
เพิ่งเคยเข้ามาฟัง.ท่านพูดถูก และตรงตามหลักธรรม
สาธุ สาธุ สาธุ
กราบสาธุเจ้าค่ะ ชอบมากค่ะเจ้าค่ะคำว่า”ใจคนถ้าเป็นธรรม จะมองไม่เห็นคนชั่ว” “ผู้ฉลาดย่อมหาประโยชน์ได้จากทุกสิ่ง”ฟังธรรมจากที่ไหนก็ตามให้เราใช้สติกับปัญญาควบคู่กันไป “ธรรมะเป็นเครื่องสอนตนเป็นเครื่องขัดเกลาจิตใจแล้วเมื่อมองหรือเห็นสิ่งใดให้เรากลับมามองที่ตัวเราใจเรากลับมาที่วิหารธรรมของเราไม่ส่งจิตออกนอก ทุกสิ่งที่เกิดเป็นปัจจัตตัง เราอย่าเอามาตรฐานเราเป็นหลักในการตัดสิน กราบสาธุครูบาฉ่ายเจ้าค่ะสำหรับองค์ความรู้ในวันนี้เจ้าค่ะ🙏
กราบสาธุค่ะ ชัดเจนมากค่ะ โดยเฉพาะ เรื่องหลวงพ่อฤาษี ครูบาอาจารย์ของโยมด้วยค่ะ กราบ กราบ กราบ ครูบาฉ่ายเจ้าค่ะ
ครูบาพูดถูกทุกอย่างสุดยอดครับ สาธุ สาธุ ผมก็ชอบ หลวงพ่อ วัดท่าซุง ❤
กราบนมัสการครูบาฉ่ายค่ะ เตือนสติได้ดีมากค่ะ ตอนนี้กำลังเมาอยู่ หายเมาเลยค่ะ
กราบสาธุธรรมครูบาฉ่ายค่ะ ปัญญาล้ำเลิศ ละเอียดมากๆ ค่ะ อนุโมทนาทุกบุญบารมีที่ครูบาได้สร้างมาทุกภพอสงไขย มหากัป น้อมกราบ กราบ กราบ สาธุ
ธรรมะของพระพุทธองค์นั้นเรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง
ลึกซึ้งแบบไหนมั่ง รึแก?
ชอบรายการนี้มากค่ะ อยากไปกราบองค์ท่าน แต่อยู่ไกลเหลือเกิน ก็ขอกราบนมัสการ ในพระมหา กรุณาธิคุณ อยากหาที่สุดมิได้ ดูสุโขทัยค่ะ สาธุเจ้าค่ะ ฟังทุกวันเจ้าค่ะ
อนุโมทนาสาธุ….คนรู้ธรรมะชอบเอาชนะผู้อื่น คนมีธรรมะชอบเอาชนะตัวเอง
กราบนมัสการท่านครูบาฉ่าย ผมฟังท่านสนธนาธรรมแล้วรู้สึกกระจ่าง ไม่มีคำโต้แย้งเลยครับ สำหรับผมแล้ว ผู้ที่จะเกิดปัญญาเมื่อได้ฟังแล้ว สิ่งใดยังแคลงใจก็ พิจารณาหาเหตุและผลครับผม🙏🙏🙏
คนฉลาดต้องได้ประโยชน์จากทุกสิ่ง จิตตนนั้นสำคัญกว่าคนอื่น ตามนั้นครับ สาธุ
ศึกษาให้มากปฏิบัติให้มาก
ฝึกวางให้มากละความมีตัวตนให้น้อยลงสติและปัญญาขัดเกลาจิตให้เข้ากับธรรมชาติ. ดูตัวเองสอนตัวเองให้ได้ค่อยสอนคนอื่น ยอมรับฟังผู้อื่นให้ธรรมอย่างมีปัญญาไม่ใช่ให้อารมณ์ครอบงำธรรม
ดวงตาเห็นธรรมขึ้นอีกระดับหนึ่งครับ ขอบคุณ สาธุ คลิปนี้มาได้ถูกกับจังหวะชีวิตของผมตอนนี้จริงๆ นับว่าเป็นบุญกุศลของผมครับ🙏🙏🙏
พระนักปฏิบัติจะไม่พูดพาดพิงคนอื่นให้เสียหาย ถ้าปฏิบัติถึงขั้นบรรลุจะปล่อยวางไม่อยากมีชื่อเสียง
เห็นด้วยอย่างยิ่ง
จริงค่ะ
ส่วนมากยังไม่ถึง ก็อยากอวดสอนคนก็มีครับ คนก็เชื่อง่าย มีคนถาม วิธีดีบตัวตน สรุป ลากไปลาก ตอบได้ไม๊ อาการอย่างไรดีบตัวตน ไม่มีคำตอบ นั่นแหละ ตัวเขาย่อมรู้จักตัวเขาดี
พระมั่นใจตัวเองสูง แต่ความรู้และปฏิบัติน้อย แล้วอยากดัง ชื่อว่า ปุถุสงฆ์
ศรัทธาที่ใด ไปที่นั่น
....
ไม่มีผู้ใดเลิศเท่าพระพุทธเจ้า
...
อย่าเงี่ยหูฟัง
อย่าไปตั้งใจฟัง
อย่าตั้งจิตเพื่อให้รู้ถั่วถึง
แม้ผู้นั้น จะเป็นอรหันต์ผู้เลิศด้วยปัญญาก็ตาม
เพระเขาเหล่านั้นเป็นเพียงผู้เดินตามมรรคของเราเท่านั้น..❤❤
แต่เมื่อได้ฟัง อย่าพึงคัดค้าน อน่าพึงเขื่อ แต่จงจำไว้ให้มั่น
แล้วเอามาสอบในธรรมวินัย ถ้าเข้ากันได้ด้วยดีไม่ขัดแย้งกัน ให้ถือว่า
ธรรมทั่จำมานั้นเป็นของที่แสดงไว้จริง หากเข้าไม่ได้ให้ทิ้งมันเสีย❤❤
.....
พุทธวจน คือ สิ่งที่ผมรอมาค่อนชีวิต ทำให้ผม บรรลุสมาธิและบรรลุธรรม ..ทำให้รู้ว่าพระรูปไหนสอนอะไรถูก และพระรูปไหนสอนอะไรผิด
พระรูปไหนขี้โม้
แต่
สิ่งที่ผมรู้นั่นแค่ 1 ใน 62 แบบของคน
นิพพานเป็นสิ่งปฏิบัติเข้ามาได้โดยรอบ
พระพุทธเจ้าตรัสไว้อย่างนั้น
หากคุณไปถึงที่ที่ครูบาอาจารย์สั่งสอนอยู่ ท่านจะหมดความสงสัยทันทีทันใด
เช่น
ตถา คเต เอ กัน ตคโต อภิปปสันโน
สงัดจากกามราคะ
สงัดจากอกุศลกรรม
สุขที่ไม่อิงอามิส
สภาวะคนตรง(ก่อนบรรลุสมาธิ)
ที่คุณผูหญิงถาม ความไม่มีอะไรคือ ผัสสะดับ
ปฏิจจสมุปบาทสายเกิดล่มสลายลงไป แต่ยังเหลือสิ่งที่อยู่ในกาย
เราจะเห็นแค่ มโน ที่ไม่ใช่วิญญาณ ใช้เพื่อ วิปัสสนา เพื่อดับทุกข์ (นิโรธ) หลวงปู่ดุลย์เรียกว่า นามกาย
สิ่งที่ครูบาพูด ผมยอมรับเรื่องเดียว คือ การหยุดความคิด ... เราทำได้จริง ในสมาธิ และนอกสมาธิ แค่เรารู้และสละทิ้ง (ละนันทิ) ❤❤ มีอีกมากสภาวะที่ผมไปถึง ตามคำสอนเป๊ะๆ ขององค์พระศาสดาไม่มีผิดเลยในอักขระและพยัญชนะ ❤❤
รู้ธรรมเพียงบทเดียว ก็เพียงพอสำหรับการบรรธรรม ❤
.......
เราจะสอนคนอื่นต้องสอนด้วยคำสอนขององค์พระศาสดาเท่านั้น
....
ส่วนสภาวะธรรมนั้น
เป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้น แค่ปัจเจกบุคคล นี่คือความต่าง ที่เรียกว่า ทิฐิ 62
....
แค่หากใช้คำสอนพระพุทธองค์ สัตตานัง จะได้ทั้ง 62 แบบ เป็นผู้ได้สดับ สัตตานังจะบังเกิดความเลื่อมใสและศรัทธา และแสวงหาความศรัทธาตามสัตตนิยามความถูกต้องใน สัมมาทิฐิ
ในมรรค และธรรมจะไหลไปตามธรรม
นี่คือความต่าง ระหว่าง ผู้เดินตามมรรค และผู้ที่ทำมรรคให้เกิด
.....
ผมตั้งใจว่า หากไม่ถึง อนาคามี (กามและสัญญาในกามดับ) จะไม่บวช เหตุเพราะ ผู้หญิง คือสิ่งที่เป็นภัยขั้นสูงสุดสำหรับผม .. และขอใช้หนี้ให้หมดก่อน😂😂 ห้ามหนีหนี้ไปบวช...😂😂 คงอาจไร้วาสนาในชาตินี้
เมื่อก่อนผมก็เคยเป็นครับไปว่าคนนั้นคนนี่ ถึงตอนนี่ผมก็ยังคงศึกษาอยู่พุธทวจน จนตอนนี่ผมไม่มีความขัดแย่งกับใคร ผมฟังได้ทุกครูบาอาจารย์ ผมเปิดกว่าง และปล่อยวาง (สาเหตุที่ผู้ศึกษาธรรมทั้งหลายที่ทะเราะกันก็ เขาไม่น่อมธรรมเข้ามาใส่ตน ไม่เคยมองตนเอง มองแต่ภายนอกอย่างอื่น) ก็เลยทะเราะกัน ประเด็นแปปนี่มีเยอะเลยครับลูกศิทธิ์พาครูบาอาจารย์ทะเราะกันไปในตัว (แต่ครูบาฉ่ายไม่เป็นอย่างนั้น ท่านมีความเป็นสากล ด้วยจิดเมตตา เปิดกว่าง) ขอกราบอานุโมทนาสาธุด้วยครับ (หลวงตากับครูบาฉ่ายผมก็ฟังตลอด พระอาจารย์คึกฤทริ์ ก็ผมฟังอยู่ตลอด ทำให้ผมเข้าใจธรรมหลากหลายแง่มุมมาก) ถ้าผู้ปฏิบัติธรรมยังมีความขั่ดแย่งสิ่งภานนอกอยู่แปลว่าผู้นั้นกำลังหลวงอย่างมหันครับ. เพราะเขาไม่น่อมธรรมเข้ามาใส่ตนอย่างจริงๆ ครับสาธุ
ผมเป็นเช่นนั้นเหมือนกันครับ ผมฟัง อ่าน พุทธวจน แต่ก็ยังฟังพระสายวัดป่าได้ เช่นหลวงพ่อปราโมชย์ หลวงปู่ชา ก็เปิดฟัง อะไรที่ไม่ตรงตามคำตรัสของพระพุทธเจ้าก็ทิ้ง ยึดแต่แก่นของธรรมเอาไว้ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา รู้กาย รู้ลมหายใจ ละอารมณ์ความคิด ตั้งจิตอยู่กับกาย ดังนั้นถ้าเรามีคำของพระพุทธเจ้าที่ถูกต้อง เราจะพิจารณาได้เองหมดครับ ที่สำคัญใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น อะไรที่เป็นสิ่งนอกแนว ไม่ใช่พระศาสดาสอน เช่น รดน้ำมนต์ พิธีกรรม สวดเพื่อให้ได้ให้มี บนบานสานกล่าว บูชาวัตถุก้อนดิน เราจะทิ้งไปหมดเลย เบาสบาย รู้กาย รู้จิต รู้ลมหายใจ มีศีล สมาธิ ปัญญา จบเลย ง่ายกว่าเดิม และเบาสบายกว่าเดิม ธรรมะของพระพุทธเจ้าท่านสอนให้มนุษย์ปฏิบัติเพื่อบรรลุธรรมตามได้ ไม่ใช่ต้องยิ่งใหญ่ล้นฟ้าจากไหนถึงจะทำได้
@@physioarmchiangrai6783 อานุโมทนาสาธุด้วยครับ ถือว่าเป็นผู้มีเครื่องกันกรองแล้วครับ
อยู่อุเบกขา ขอโมทนาครับ
สาธุๆๆ เป็นเช่นเดียวกับเจ้าของคอมเม้นท์ นี้เลยค่ะ
กราบนมัสการครูบา ด้วยความเคารพเจ้าค่ะ โยมก็ศึกพุทธวจนยิ่งฟังยิ่งศรัทธาในคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมคุณพระอริสงฆ์ สาธุเจ้าค่ะ
อ้าว !!! พระคึกฤทธิ์สอนว่าห้ามไปฟังพระทั้งประเทศไทยเพราะไม่สอนตามพุทธวันจนะ ไม่ใช่หรือครับคุณผู้หญิง
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็น ตถาคตภาษิต ตถาคตภาษิต มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม เห็น กฏอิทัปปัจจยตา ใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไหม เห็น ปฏิจจสมุปบาท ใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไหม เห็น สังขตธรรม ใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไหม ตถาคตภาษิต มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม เมื่อมีพระพุทธเป็นปัจจัยจึงมีพระธรรม พุทธวจน เมื่อมีพระธรรมเป็นปัจจัยจึงมีพระสงฆ์ มี โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ นั่นเองคะ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ บอกอีกครั้งแล้วว่าในพระไตรปิฎกนั้นไม่มีคำพูดของพระพุทธเจ้าครับ..มีแต่คำพูดของพระอรหันต์เท่านั้น..
ความจำกับความจริงต่างกันมาก เมื่อจำได้แล้วก็วางความจำลงเน้อ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ ความจำหรือสัญญานั้นเป็นหนึ่งในขันธ์ห้าที่ต้องละทิ้งไป..ความจำนั้นไม่สามารถเอามาเป็นกำลังตัดกิเลสตัณหาได้..ต้องเดินมรรคปฏิบัติด้วย..ศีลสมาธิปัญญาเท่านั้น..พิจารณาดีๆแล้วคุณจะปล่อยวางได้
พึ่งเคยฟังครูบาครั้งแรก ผมว่าท่านแฟร์ๆมาก ประทับใจครับ
อืม....ใช่เลย ถ้าท่านเป็นชาวบ้านธรรมดาพระพุทธองค์ตรัสเรียกว่า #สัตบุรุษ
ข้าพเจ้าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เคารพศรัทธาท่านไม่ใช่หลงในธรรมแต่รู้แจ้งในคำสอน ท่านไปนิพพานแล้วเพราะท่านเป็นพระอรหันต์ แปลว่าไม่หันแลัว ท่านพ้นเหตุการเวียนว่ายตายเกิด เพราะสร้างบารมีมาหลายชาติ ผู้ใดปรามาสพระอรหันต์ มีที่ไปคือนรกภูมิ🙏🏻
ผมเคยเป็นแบบนี้เลยครับ เหมือนครูบาเลย เอาอัตตาตัวเองมาข่มคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองไม่มีดีอะไรเลย จนมาเจอพระสายปฏิบัติจึงเข้าใจวางอัตตาลงใด้
เพิ่งได้รู้จักครูบา ได้ฟังครูบาสอน ในคลิปนี้ ทำให้เกิดเป็นศรัทธาและยอมรับแฝนับถือท่านว่าท่านเป็นพระสุปฏิปันโน สาธุ
แมวตัวใดพันธ์ใดก็ตาม ถ้าจับหนูได้ก็เป็นอันใช้ได้ ธรรมะใดก็ตามถ้าสามารถกำจัดกิเลสให้สิ้นไปได้ ก็ใช้ได้
ฟังทุกคน ทุกพระอาจารย์ แล้วใช้สติปัญญาไตร่ตรอง
@@naturalbalance4590 ตัวคุณนั้นมีศีลธรรมสักข้อยังครับ..
อานาปานสติประเสริฐ์สุดแล้ว สาธุ
เคยศึกษาเหมือนกัน แต่พอได้มีโอกาสฟัง เจ้าของต้นกำเนิด พุทธวจน ครั้งแรกก็เริ่มตะหงิดๆ ในเรื่องอัตตาของพระคุณเจ้า ฟังหลายๆ ครั้ง เสมือนท่านมีความเป็นอัตตาสูงมรกไม่ฟังใครเลยคิดว่า ตนดีเลิศ เลยขอยุติ พระสัมมาสัมพุทธจ้าไม่ให้ยึดตัวตน แม้แต่พระองค์ก็บอกไม่ให้ยึด พระพุทธเจ้ามีอยู่ในตัวตนทุกคนอยู่แล้ว หากันไม่เจอกันเอง
คือท่านต้องดูแลคนหมู่มากคนละแนวอยากรู้ต้องตายก่อนจะเห็นเองหยุดวิจารพระดีหมด
ถ้าเอาคำสอนพระพุทธเจ้า
พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เมื่อมีพระพุทธเป็นปัจจัยจึงมีพระธรรม พุทธวจน เมื่อมีพระธรรมเป็นปัจจัยจึงมีพระสงฆ์ มี โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ นั่นเองคะ
ผมฟังพุทธวจน แล้วเกิดศรัทธาในพระพุทธเจ้า พิจารณาแล้วเห้นว่าเป้นจริงตามคำสอน จึงนำไปปฏิบัติ ส่วนพระอาจารย์ ผมดูมาท่านแทบจะมีอารมณ์เดียวตลอดน่ะ ใช้ปัญญาพิจารณาน่ะ
@@copter7647 แต่ก่อนผมก็คิดแบบคุณนั้นแหละครับ..ชอบบอกคนอื่นว่าให้ฟังคำของพระพุทธเจ้าเท่านั้นห้ามฟังคำของสาวกเด็ดขาด..สุดท้ายไปเจอนักปราชญ์สอนมวยเอาจนได้ครับ..ท่านว่าถ้าคุณพูดแบบนี้ล่ะก็ลงอเวจีแน่นอนเพราะปรามาสพระอรหันต์ทั้งหมดเท่ากับปรามาสพระรัตนตรัยแบบไม่รู้ตัวเลย..ท่านบอกว่าจริงๆแล้วพระไตรปิฎกทั้งหมดนั้นไม่มีคำพูดของพระพุทธเจ้าเลยนี่เอาตามความจริงนะท่านบอก..เพราะบุคคลที่พูดที่เขียนที่จดบันทึกที่ช่วยกันจำช่วยกันวิเคราะห์จนสร้างพระไตรปิฎกขึ้นมานั้นล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ในอดีตทั้งหมด..ทุกคำพูดทุกการจดบันทึกล้วนแต่ออกมาจากพระอรหันต์ทั้งนั้นแต่ท่านอ้างว่านี่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าแบบนั้นแบบนี้..เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติธรรมของคนยุคหลังๆมาเท่านั้นเอง..จริงๆไม่มีใครรู้เลยว่าพระพุทธเจ้าทรงตรัสจริงๆไว้แบบไหนกันแน่..แต่เพราะพระอรหันต์พูดไว้จดบันทึกไว้แบบนี้เท่านั้นเอง..ถ้าคุณไม่เชื่อคำสอนของพระอรหันต์ที่หมดกิเลสแล้วนั้น..คุณก็เรียนพระไตรปิฎกไม่ได้เลย..เพราะพระไตรปิฎกล้วนแต่เกิดจากคำพูดของพระอรหันต์ทั้งนั้น..แม้จะอ้างแบบไหนก็ตาม..พอได้ยินแบบนี้ตาผมสว่างเลย..
ขอกราบนมัสการพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ด้วยเศียรเกล้ากราบพระธรรมกราบพระอริยสงฆ์ทุกๆพระอง์คฟังธรรมเทศนาครุบาฉ่ายทราบชึ้งมากได้ความรุ้ขอกราบนมัสการ.... คือว่าผมอยากจะแสดงธรรมมะให้คนอื่นฟังบ้างชักข้อสั้นๆได้ไหมครับ.... ฝนที่ตกลงมาจากฟ้านับเม็ดไม่ถ้วนถึงมันจะมีหลายเม็ดทุกๆเม็ดมันก็เหมือนกันหมดถึงมีแค่เม็ดเดียว... หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อคนอ่านนะครับไม่มากก็น้อย.. ขอบคุนครับ
เป็นผู้หนึ่งที่เคารพศรัทธาในหลวงพ่อฤาษีลิงดำและเข้าใจคำสอนท่านและเคยถูกผู้ที่ศึกษาพุทธวจน มาตั้งคำถามและพูดปรามาสหลวงพ่อฤาษีลิงดำต่อหน้าเรา.. ในตอนนั้นเรารู้สึกแค่ว่า.. กรรมของเค้าไม่ใข่ของเราเพราะเราก็ทำตามคำสอนหลวงพ่ออยู่ว่าไม่ให้ปรามาสหรือว่าผู้ที่นับถือต่างไปจากเราไม่ว่าจะเป็นอะไร.. ให้วางใจเฉย.. เราก็ปฏิบัติวางใจวางจิตตามนั้นต่อไป.. กรรมคนไหนก็ของคนนั้น..นรกสวรรค์.. ภพภูมิการเห็นอีกภพไม่ใช่เรื่องอัศจรรย์แต่มันคือเรื่องที่มนุษย์ทำได้อยู่แล้วแค่ไม่ได้ฝึกกันเองก็เหมือนว่ายน้ำนั่นแหละไม่ฝึกก็ทำไม่ได้.. และที่เห็นโน้นนี่กันก็ไม่ใช่ให้ยึดติด..ก็คนมันเห็นจะทุกข์ที่เห็นอีกภพได้ก็ใช่เรื่อง.. แค่รู้จักประโยชน์ของการเห็นซะ..มันเป็นเครื่องยืนยันเราได้ดีว่า..เราปฏิบัติธรรมไปเพื่ออะไร... รู้แจ้งได้ด้วยตนเองก็เท่านั้นเอง..หลวงพ่อสอนให้ยึดปฏิบัติตามพระพุทธเจ้า..ทุกคำเช่นกัน
กราบสาธุค่ะ มีโฆษณาเยอะมากเลยค่ะ อยากฟังท่านพูดแต่พอดูมีโฆษณาแล้ว รำคาญโฆษณาค่ะ กราบสาธุ
กราบนมัสการเจ้าค่ะ เทศน์กัณนี้ประทับใจมากค่ะ จะเปิดฟังอีกหลายเที่ยวค่ะ
ผมก็อีกคนที่ ปฏิบัติตามพุทธวจน
ฟังแค่ตอนเราคือใคร เลยจะตอบถ้าทางโลกเราคือกายหยาบที่เห็นนั่นแหละ ทางธรรมอธิบายค่อนข้างยากให้คนอื่นเข้าใจว่าเราคือใคร เพราะแม้แต่กายทิพย์ยังไม่ใช่เรา ตัวตนจริงของเรามันไม่มีและมองด้วยตาไม่เห็น ก็ไม่รู้ว่าจะต้องให้คำจำกัดความว่าอะไรดี สำหรับเราให้คำจำกัดความของคำว่าเราเป็นอากาศธาตุชนิดหนึ่งที่ไร้ตัวตนแต่รู้ว่ามีอยู่ มันเป็นสิ่งที่ไม่มีความรู้สึกอะไร มันแค่ทำหน้าที่รู้อยู่อย่างนั้น ต้องนั่งสมาธิบ่อยๆจึงจะเห็นตัวจริงของเราเอง อธิบายยากที่สุด ต้องรู้เองเห็นเองถึงจะเข้าใจ
การทำลายตัวตน ทำไม่ได้ เพราะตัวตนไม่มีมาแต่แรก แต่ไหนแต่ไรแล้ว การปฏิบัติธรรม เพื่อให้เห็นความจริงของกายใจ ขันธ์5นี้ ว่ามันไม่ใช่เรา ไม่มีเรา คือล้างความเห็นผิดต่างหากครับ เรามีความเห็นผิดมาตลอดว่า กายใจ ขันธฺ์5 นี้คือเรา
การปฏิบัติธรรมเพื่อให้เห็นความจริงของ รูปนามกายใจ ขันธ์5 นี้ ด้วยการฟังธรรมให้มาก ทุกวันนี้มีผู้เข้าถึงธรรมมากมาย และหาดูได้ง่าย ด้วย 4G 5G นี้ จากนั้นมาเจริญสติให้มาก ทำบ่อยๆ วิธีเจริญสติก็มีผู้ที่บอกสอนไว้มากมายหลายท่าน
สติ(คือความระลึกรู้สึกได้) สติเกิด ศีลก็เกิดอัตโนมัติ สมาธิ(จิตที่ตั้งมั่น)ก็เกิดอัตโนมัติ
จิตตั้งมั่น(สมาธิ)นี้แหละไปพิจารณาขันธ์5 ขันธ์แปลว่าส่วน แยกขันธ์เป็นส่วนๆออกมา
ทำให้บ่อยๆ ปฏิบัติซ้ำแล้วซ้ำเล่า พิจารณาซ้ำแล้วซ้ำอีก จนรู้แจ้งในความเป็นจริงของขันธ์5
จะอธิบายให้ละเอียดให้มากด้วยการพิมพ์ มันยาก และ ผู้ที่เข้ามาอ่าน มาคอมเม้น อินทรีย์ธาตุก็ต่างกันไม่เท่ากัน เพราะต่างก็เป็นปุถุชน(ผู้มีกิเลสหนา)ด้วยกันทั้งนั้น เดี๋ยวเถียงกันทะเลาะกัน
การที่ฟังธรรม อ่านธรรม ไม่เข้าใจเพราะอินทรีย์แต่ละท่านไม่เท่ากัน
ทุกท่านเคยเป็นกันมาทั้งนั้น กว่าจะเข้าใจเข้าถึง ต้องใช้เวลา มีความเพียรเรียนรู้ปฏิบัติด้วย
คนที่อินทรีย์แก่กล้าแล้วก็จะเข้าใจในขันธ์5
อนุโมทนาสาธุจ้า@@THE_RAIN.3260
ถูกค่ะ จะไปรู้เรื่องคนอื่นทำไม นี่คือผู้บำเพ็ญ ปฎิบัติ ทุกคนควรรู้ค่ะ สาธุค่ะ
ชาวพุทธส่วนใหญ่เข้าใจว่า ข้อความทั้งหมดในพระไตรปิฎกคือคำของพระพุทธเจ้าทั้งหมด แต่ความจริงแล้วชาวพุทธน้อยคนที่จะรู้ว่า ในพระไตรปิฎกนั้นประกอบด้วยเนื้อความสองประเภท ประเภทแรก คือ พุทธวจน ซึ่งเป็นคำที่พระพุทธเจ้าตรัสด้วยพระองค์เอง(โดยประมาณ 30%) ประเภทที่สองคือ คำขยายความหรือคำที่แต่งใหม่โดยบุคคลอื่น(โดยประมาณ 70%) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่เพิ่มเติมเข้ามาภายหลัง
#วิธีสังเกตคำสอนที่เป็นพุทธวจน คำที่พระพุทธเจ้าตรัสด้วยพระองค์เอง
ในพระไตรปิฎก ส่วนใหญ่แล้วข้อความที่เป็นคำที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ด้วยพระองค์เอง จะขึ้นต้นด้วยข้อความว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย หรือ ดูกรอานนท์ หรือ ดูกรสารีบุตร เป็นต้น
ส่วนคำที่แต่งขึ้นใหม่คัมภีร์ชั้นหลังมักจะขึ้นต้นด้วยคำว่า บทว่า, ความว่า, อธิบายว่า, ที่ว่า ตัวอย่างเช่น เมื่อจะอธิบายคำของพระพุทธเจ้า ก็จะขึ้นต้นคำว่า.... “ คำนี้ ขออธิบายว่า...” หรือ “ บทว่าอย่างนี้ ขออธิบายว่า....” เป็นต้น
ลักษณะอีกอย่างที่ใช้เป็นข้อสังเกตได้คือ คำของพระพุทธเจ้ามักใช้การซ้ำความ คือพูดซ้ำความเดิม แต่เปลี่ยนเฉพาะบางคำหรือบางข้อความ การพูดซ้ำความนี้มีข้อดีคือ ประการแรก หากเกิดการกร่อนหรือสูญหายของคำพูด หรือถูกหลงลืมไป ก็ยังมีพระสูตรอื่นที่มีคำพูดซ้ำความนั้นที่นำมาใช้ตรวจสอบเทียบเคียงได้ ประการที่สองคือ การพูดแบบซ้ำความนี้ช่วยให้เราเห็นการเชื่อมโยงข้อธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ในที่ต่างกันว่าข้อธรรมใดเชื่อมกันอย่างไร สอดรับกันอย่างไร เราจะพบคำสำคัญ ๆ ในหัวข้อธรรมต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกัน ทำให้เห็นภาพรวมและเข้าใจตามได้ไม่ยาก.
เนื้อหา คำที่แต่งขึ้นใหม่คัมภีร์ชั้นหลัง ในอรรถกถา ไม่ผิดทั้งหมด แต่ก็ไม่ถูกหลายเรื่อง
หลายเรื่องในอรรถกถา ในคำสาวก ในคำแต่งใหม่ เนื้อหา ถูกแต่งเพิ่ม เกินกว่า และ ขัดแย้งกับ คําสอนของ พระพุทธเจ้า เช่น ในเรื่อง รัตนสูตร(การทํานํ้ามนต์ ) เป็นต้น.
คำถามคือ จะเชื่อใคร ระหว่างสาวกผู้มาทีหลัง กับ พระพุทธเจ้า?
เราสาวกผู้เดินตามควรยึดเอาคำตถาคตเป็นหลัก ไม่ควรเอาคําสาวก มาคัดง้างคําตถาคด. ผู้ที่พยายามคัดง้างคำตถาคต พระองค์อุปมาเหมือนบุคคลเอาฟันเคี้ยวหิน เอาเล็บขุดแผ่นดิน เอาสายบัวฟาดภูเขา บุคคลนั้นย่อมมีแต่พินาศย่อยยับ.
--------------
การที่บุคคลประกาศ คำตถาคต ตรงไปตรงมา ถือเป็นสิ่งที่ จําเป็น ถูกต้อง และสมควร
ตถาคตว่าอย่างใร เราสาวกผู้เดินตาม ก็ว่าตาม เล่าเรียนตาม สืบทอด บอกต่อ อย่างน้อยต้องตรงทั้งเนื้อหา ถ้าทําได้ ต้องตรงทั้งพยัญชนะ ยิ่งดี. ตามพุทธบัญญัติ ที่ว่า "จงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ(เนื้อความ) พร้อมทั้งพยัญชนะ(ภาษา ตัวอักษรสัญลักษณ์ต่างๆ)". อย่างนี้ถึงจะชื่อว่า กล่าวตรงตามที่ตถาคตกล่าว ไม่เป็นการกล่าวตู่ตถาคตด้วยคำไม่จริง แต่เป็นการกล่าวโดยถูกต้อง และสหธรรมิกบางคนที่กล่าวตาม ก็จะไม่พลอยกลายเป็นผู้ควรถูกติไปด้วย.
ตรงกันข้าม ถ้าผู้ที่กล่าว ไม่ตรงตามที่พระพุทธเจ้าบัญญัติ นั้นถือเป็นการกล่าวตู่ พระศาสดาด้วยคำไม่จริง, เป็นการกล่าวโดยไม่ถูกต้อง และสหธรรมิกบางคนที่กล่าวตาม ก็จะพลอยกลายเป็นผู้ควรถูกติไปด้วย.
84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_item.php?book=20&item=273
คำว่าไม่ให้ ยึดคำสาวก ไม่ให้ ยึดคำแต่งใหม่ ไม่เอา อรรถกถา นั้น ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า ใครมาเทศน์อะใรๆให้ฟังก็ไม่เอา แต่หมายความว่า ต้องละใน(เนื้อหา ส่วนที่บอกว่าพระพุทธเจ้าบัญญัติ ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติ) แค่นั้นเอง. มิฉะนั้นจะกลายเป็นการกล่าวตู่พระศาสดาด้วยถ้อยคําที่ไม่จริง. เช่นเรื่อง นํ้ามนต์ ที่อ้างว่าพระพุทธให้พระอานน ทํานํ้ามนต์ ทั้งๆที่ไม่ใช่, ตรงกันข้าม พระพุทธเจ้าห้าม สาวกทํานํ้นมนต์. ทํานํ้ามนต์ รดนํ้ามนต์ เสกเป่า… จัดอยู่ ใน เดรฉานวิชา. เดรฉานวิชา เป็น มิจฉาทิฐิ เป็นเครื่องกั้น ความเป็น อริยบุคคล และ ปิดกั้น ขวางกั้น มรรคผลนิพพาน.
---------------------
[๒๗๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย คติ ๒ อย่าง คือ นรก หรือ กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน อย่างใดอย่างหนึ่ง อันคนมิจฉาทิฐิพึงหวังได้.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คติ ๒ อย่าง คือ เทวดา หรือมนุษย์ อย่างใดอย่างหนึ่ง อันคนสัมมาทิฐิพึงหวังได้ ฯ
----------
เราชาวพุทธด้วยกัน มีศาสดาเดียวกันคือพระพุทธเจ้า เนื้อหาคําสอนทุกอาจารย์ต้องเป็นอันเดียวกัน. คําของพระพุทธเจ้าไม่ขัดแย้งกัน และเป็นจริงไม่จำกัดกาลเวลา .
พระพุทธเจ้าทรงสั่งเสียไว้ ให้เอา ธรรม และวินัยของพระองค์เป็นตัวแทนในกานล่วงใป.
#ทรงไม่ให้ฟังคำแต่งใหม่และเรื่องนอกแนว
#ทรงห้ามเพิ่มหรือตัดทอนสิ่งที่บัญญัติไว้
#สำนึกเสมอว่าตนเองเป็นเพียงผู้เดินตามพระองค์เท่านั้น #ถึงแม้จะเป็นอรหันต์ผู้เลิศทางปัญญาก็ตาม
#ทรงบอกวิธีแก้ไขความผิดเพี้ยนในคำสอนด้วยหลัก(#มหาปเทส4)
พระพุทธเจ้าฝากสัจธรรมคําสอนของพระองค์ ไว้กับบริษัท4. พระองค์ทรงเรียกร้อง อย่าเป็นบุรุษคนสุดท้ายของคําสอนของพระองค์.
เหตุปัจจัยใหญ่สำคัญที่ทำให้ศาสนา/พระสัทธรรมคําสอนของพระศาสดา(พุทธวจน)เสื่อม
๑) เล่าเรียนบอกสอนกันมาผิดๆ
๒) ภิกษุเป็นคนว่ายาก ไม่อดทน ไม่ยอมรับคำตักเตือน
๓) ภิกษุที่คล่องพระสูตรไม่เอาใจใส่บอกสอนภิกษรูปุอื่น
๔) ภิกษุเถระ ย่อหย่อนในสิกขา เป็นผู้นำในทางทราม พระรูปอื่นถือเอาอย่าง
ชาวพุทธควรหลีกเลี่ยงเสี่ยงกลายเป็น มหาโจร ประเภท ขโมยธรรม
…เล่าเรียนธรรมวินัยอันตถาคตประกาศแล้ว ย่อมยกตนขึ้น (ทำทีเป็นเจ้าของธรรม ไม่อ้างอิงพระพุทธเจ้า).
#อย่าเป็นผู้เรียกร้องหาศาสดาเพื่อความเป็นศัตรู
แต่ #จ่งเป็นผู้เรียกร้องหาศาสดาเพื่อความเป็นมิตร
#อย่ากล่าวตู่พระศาสดาด้วยถ้อยคําที่ไม่จริง
พระไตรปิฎก ของ เถรวาทไทยจากสํานักใหญ่ที่สำคัญ มีทั้งหมด 5 ฉบับ
พระไตรปิฎก (#ฉบับสยามรัฐ) บาลี ต้นฉบับ
พระไตรปิฎก (#ฉบับหลวง) แปลไทย จากต้นฉบับ
พระไตรปิฎก (#ฉบับเถรสมาคม) แปลไทย จากต้นฉบับ
พระไตรปิฎก (#ฉบับมหามกุฏฯ 91เล่ม) แปลไทย จากต้นฉบับ
พระไตรปิฎก (#ฉบับมหาจุฬาฯ 45เล่ม) แปลไทย จากต้นฉบับ
#คัมภีร์วิสุทธิมรรค
#อภิธรรมปิฎก
#อรรถกถา เป็นคัมภีร์รุ่นหลัง เป็นคัมภีร์ที่อธิบายพระไตรปิฎก และอธิบายอรรถกถา และอธิบายกันเอง
ไม่ใช่ คำสอนของพระพุทธเจ้าโดยตรง เป็นคัมภีร์ที่อธิบายขยายความ หรือคำที่ยากในพระไตรปิฎกให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยยกศัพท์ออกมาอธิบายเป็นศัพท์ๆ บ้าง ยกข้อความหรือประโยคยาวๆ มาขยายความให้ชัดเจนขึ้นบ้าง แสดงทัศนะและวินิจฉัยของผู้แต่งสอดแทรกเข้าไว้บ้าง,
หลายเรื่องจาก อรรถกถา เมื่อตรวจสอบแล้ว พบเห็นว่า ถูกเเต่งใหม่ แต่งเพิ่มเกิน เช่น เช่นเรื่อง นํ้ามนต์ ที่อ้างว่าพระพุทธให้พระอานน ทํานํ้ามนต์ ทั้งๆที่ไม่ใช่, ตรงกันข้าม พระพุทธเจ้าห้าม สาวกทํานํ้นมนต์. ทํานํ้ามนต์ รดนํ้ามนต์ เสกเป่า…. จัดอยู่ ใน เดรฉานวิชา. เดรฉานวิชา เป็น มิจฉาทิฐิ เป็นเครื่องกั้น ความเป็น อริยบุคคล และ ปิดกั้น ขวางกั้น มรรคผลนิพพาน. เดรัจฉานวิชา ขัดแย้งกับกรรมนิยาม คําสอน ของพระพุทธเจ้า.
พระพุทธเจ้าให้เชื่อพระองค์ ตรัสไว้ใน สัทธาสัมปทา
คําของพระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้ถูกต้องเสมอ
#คำพูดของพระพุทธเจ้าที่พูดมาทั้งหมดนับแต่วันตรัสรู้นั้น#สอดรับไม่ขัดแย้งกัน และ แต่ละคำพูดเป็น #อกาลิโก คือ ถูกต้องตรงจริงไม่จำกัดกาลเวลา. พระองค์ทรงสามารถกำหนดสมาธิเมื่อจะพูดทุกถ้อยคำ จึงไม่ผิดพลาด
--------------------
พระไตรปิฎก บรรจุคำสอนของพระพุทธเจ้าเอาไว้จริงแต่ทว่า ได้มีผู้กระทำการสังคายนา หรือจัดทำเรียบเรียงใหม่ได้เพิ่มคำสอนที่ไม่ใช่คำสอนของพระศาสดาล้วนๆเข้าไป เป็นเหตุให้พระสัทธรรมเสื่อมสิ้นไปได้....
ในส่วนพุทธวจนปิฎก 33 เล่ม (ทำเสร็จแล้ว1) และ พุทธวจน เล่มเล็กปลีกย่อยมี 20เล่ม รวบรวมหมวดหมู่เอาไว้เพื่อง่ายแก่การศึกษาค้นคว้า แต่ยังคงคำสอนของพระพุทธเจ้า(ล้วนๆเอาไว้)
#พุทธวจนปิฎก และ #พุทธวจน หมวดหมู่ เป็นการ คลักลอก คัดเลือกแต่คำสอนของพระศาสดา(ล้วนๆ) และ รวบรวมข้อมูลคําสอน จากพระไตรปิฎกฉบับหลวง เทียบเคียงข้อมูลกับ พระไตรปิฎก (บาลี สยามรัฐ) ต้นฉบับ, เอาเฉพาะส่วนเป็นคําสอนที่พระพุทธเจ้าโดยตรง ตรัสเอง และ รับรองใว้เอง เท่านั้น (ใมมีอรรถกถา).
เนื่องจาก ข้อมูล และ แหล่งที่มา ทังจริงและปลอม เยอะเกิน, เราชาวพุทธ (พุทธที่แท้จริง) จึ่งควร (ต้อง)ตรวจ ข้อมูล และ แหล่งที่มาก่อนด่วนสรุป ! ไม่ไช่แค่ ฟังตามๆ กันมา…
หลักการตรวจสอบ ว่าเป็นคําสอน ของ พระพุทธเจ้า หรือใม่.
นอกจาก หลัก กาลามสูตร 10 ประการ แล้ว ยังต้องไช้อีก หลักที่ที่สําคัญที่สุด อีก นั่นคือ:
หลักมหาปเทส4=หลักเทียบเคียงตรวจสอบว่าเป็น ธรรมวินัย ของพระพุทธเจ้าหรือไม่.
หลัก กาลามสูตร คือหลักแห่งความเชื่อ, ไม่ให้เชื่อสิ่งใดๆ อย่างงมงาย โดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษ หรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ
เมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศล หรือมีโทษเมื่อนั้นพึงละเสีย.
อย่าได้ยึดถือถ้อยคำที่ได้ยินมา
อย่ายึดถ้อยคำที่สืบๆกันมา
อย่าตื่นข่าวที่ได้ยิน
อย่ายึดถือโดยอ้างตำรา
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะตรรกะ
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะอนุมาน
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะลักษณะอาการที่ปรากฎ
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะตรงกับความคิดของตน
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะดูน่าเชื่อถือ
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเป็นครูของตน ( ! ระวัง ! ไม่ได้หมายความว่า ไม่ให้เชื่อแม้แต่พระพุทธเจ้า )
เมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศล หรือมีโทษเมื่อนั้นพึงละเสีย ฯลฯ
( ! )พระพุทธเจ้าให้เชื่อพระองค์ ตรัสไว้ใน สัทธาสัมปทา
คําของพระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้ถูกต้องเสมอ
1. พระองค์ทรงสามารถกำหนดสมาธิเมื่อจะพูดทุกถ้อยคำ จึงไม่ผิดพลาด
(คำพูดแรก จนถึงคำสุดท้าย ย่อมตั้งจิตในสมาธิ)
2. แต่ละคำพูดเป็น อกาลิโก คือ ถูกต้องตรงจริงไม่จำกัดกาลเวลา
3.คำพูดที่พูดมาทั้งหมดนับแต่วันตรัสรู้นั้น สอดรับไม่ขัดแย้งกัน
ที่รองจากพระองค์ลงมา (แม้แต่จะเป็นครูอาจารย์ของตนที่น่าเชื่อถือ) อย่าพึงรับรอง อย่าพึงคัดค้าน อย่าพึ่งปกลงปงใจเชื่อทันทีทั้งหมด
จําคํานั้น กำหนดเนื้อความนั้นให้ดี แล้วนำไปสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย
ถ้าลงกันได้ เทียบเคียงกันได้ พึงแน่ใจว่า นั่นเป็นคำของพระผู้มีพระภาคเจ้าแน่แล้ว ภิกษุรูปนั้นจำมาอย่างดีแล้ว พวกเธอพึงรับเอาไว้
ถ้าลงกันไม่ได้ เทียบเคียงกันไม่ได้ พึงแน่ใจว่า นั้นไม่ใช่คำของพระผู้มีพระภาคเจ้าแน่นอน
ภิกษุรูปนั้นจำมาผิด พวกเธอพึงทิ้งคำเหล่านั้นเสีย
นี้คือ มหาประเทศสี่ วิธีตรวจสอบ เทียบเคียง คําของพระศาสดา
พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล_แสดงธรรม_สนทนาธรรม_เสียงอ่านหนังสือพุทธวจน_รวมทั้งหมด
drive.google.com/drive/folders/1oFXAvU2vvzgaY8xPROoRG-f_O2n4JmH6?usp=sharing
-------------------------
พระไตรปิฎก ภาษาไทย ฉบับ มหาจุฬาลงกรณ์ 45 เล่ม mp3
(เล่ม 1-8 พระวินัยปิฎก / เล่ม 9-33พระสุตตันตปิฎก เล่ม34-45 พระอภิธรรมปิฎก)
drive.google.com/drive/folders/1MNixKXrN5-ct4ogZrUvtYX50l-HM_BfC?usp=sharing
--------------------------
เว็บพระไตรปิฎกเพื่อตรวจสอบข้อมูลด้วยตนเอง
1. etipitaka.com/search/?code=thai
2. 84000.org/tipitaka/pitaka_item/
3. www.anakame.com
4.cse.google.de/cse?cx=013090571733833538155:qokmac-uqz0
5. auf deuscht www.palikanon.com/
6. in english www.palikanon.com/english/english_web.htm
7. in english suttacentral.net/?lang=en
8. www.dhammatalks.org/
9. www.buddha-vacana.org/suttapitaka.html
ผู้ที่เผยแผ่คําสอนของพระพุทธเจ้าต้องมีความรับผิดชอบเอง เพราะ สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน มีกรรมเป็นทายาท มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ทั้งหลายให้เลวและดีต่างกัน.เราทำกรรมอันใดไว้ เราจักต้องได้รับ(ผล!)ของกรรมนั้น.
ควรแยกแยะ ระหว่าง ความต้อง และความถูกใจ.
ไม่ควรเอา ความเห็นของตน หรือความเห็นที่สาวกแต่งขึ้นใหม่ หรือ อรรถกถา มาล่มล้าง พระสูตร พระวินัย ที่เป็นคำตรัสแท้ๆของพระพุทธเจ้า เพราะใม่งั้นจะเป็นการกล่าวตู่ตถาคตด้วยคำไม่จริงโดยปริยาย.
-------------------------
4เหตุปัจจัยใหญ่สำคัญที่ทำให้พุทธศาสนา/พระสัทธรรมคําสอนของพระศาสดา(พุทธวจน)เสื่อม (สรุป จาก4พระสูตรที่สำคัญ)
เหตุปัจจัยที่ 1 (เนื้อแท้อันตรธาน)
etipitaka.com/read/thai/16/269/
เปรียบเหมือน กลองศึก “อานกะ“ ของกษัตริย์พวก ทสารหะ เมื่อกลองแตก ก็จะหาไม้อื่น ทำเป็นลิ่ม เสริมทุกคราว เมื่อปะเข้าหลายครั้ง นานเข้า เนื้อไม้เดิมก็หมดสิ้นไป เหลืออยู่แต่เนื้อไม้ไหม่ที่ทำเสริม ฉันใดก็ฉันนั้น ในกาลแห่งอนาคต จะมีภิกษุไม่สนใจคำสอนของตถาคต แต่จะสนใจคำแต่งใหม่ที่ สละสลวย คำแต่งใหม่เหล่านี้เธอไม่ควรฟัง ไม่ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และไม่ควรศึกษาเล่าเรียน
เหตุปัจจัยที่ 2
etipitaka.com/reference/thaipb/9/85/?code=thai&volume=21&item=160
๑) เล่าเรียนบอกสอนกันมาผิดๆ
๒) ภิกษุเป็นคนว่ายาก ไม่อดทน ไม่ยอมรับคำตักเตือน
๓) ภิกษุที่คล่องพระสูตรไม่เอาใจใส่บอกสอนภิกษรูปุอื่น
๔) ภิกษุเถระ ย่อหย่อนในสิกขา เป็นผู้นำในทางทราม พระรูปอื่นถือเอาอย่าง
เหตุปัจจัยที่ 3 (พุทธบริษัท ๔ ไม่มีความเคารพยำเกรงต่อศาสนา)
etipitaka.com/read/thai/16/217/
เหตุฝ่ายต่ำ ๕ ประการเหล่านี้ ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อความ ฟั่นเฟือน เพื่อความเลือนหายแห่ง พระสัทธรรม เหตุฝ่ายต่ำ ๕ ประการเป็นไฉน คือภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้
๑) ไม่เคารพยำเกรง ในพระศาสดา
๒) ไม่เคารพยำเกรง ในพระธรรม
๓) ไม่เคารพยำเกรง ในพระสงฆ์
๔) ไม่เคารพยำเกรง ในสิกขา
๕ ไม่เคารพยำเกรง ในสมาธิ
เหตุปัจจัยที่ 4 (พุทธบริษัท ๔ ไม่มีความเคารพยำเกรงต่อศาสนา)
etipitaka.com/read/thai/22/220/
ดูก่อนกิมพิละ เมื่อตถาคต ปรินิพพานแล้ว พวก ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาในธรรมวินัยนี้
๑) เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรง ในศาสดา
๒) เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรง ในธรรม
๓) เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรง ในสงฆ์
๔) เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรง ในสิกขา
๕) เป็นผู้ไม่มี ความเคารพ ไม่มีความยำเกรง กันและกัน
อานาปานสติ คือทาง ที่ทั้งท่านครูบา และอาจารย์ทั้งหลายทุกท่านยอมรับและชี้ให้เดินไปทางนี้ ผมขอมุ่งไปทางนี้น่าจะเป็นสายกลางไม่ขัดแย้ง กราบสาธุครับท่าน 🙏🙏🙏
ทำไมถึงชอบติเตียนความพอใจของคนอื่นครับ คนชอบฟังเปนความพอใจของเขานะครับ
กระผมขอออกความเห็นในส่วนของหลวงพ่อฤาษีฯ เท่าที่ศึกษาและปฏิบัติมาจากเทปคำสอนของท่าน มิใช่แค่เรื่องฌานสมาธิหรืออภิญญาเท่านั้นที่ท่านสอนสั่ง แต่ผู้ที่ศึกษาและฟังคำอบรมคำสอนของท่านและนำมาปฏิบัติได้จริง ท่านเน้นและให้ความสำคัญในส่วนของวิปัสสนาญานมากที่สุดนะขอรับ
แทบจะทุกคำสอนในแต่ละหมวดไม่ว่าจะเป็นหมวดอานาปาฯ มหาสติปัฏฐานฯ อสุภฯ รูปฌานหรืออรูปฌาน อาหารเรฯ กสิน จตุธาฯ หรืออนุสสติฯ ท่านต้อนลูกศิษย์ของท่านให้จับเอาอารมณ์แห่งวิปัสสนาญาน คือการพิจารณายกเอาขันธ์ห้าหรืออริยสัจจ์ มาเป็นไตรลักษณ์ ให้รู้เห็นโทษและเบื่อหน่ายในขันธ์ห้า
แทบทุกๆคำสอนของท่านล้วนเน้นเอาอารมณ์แห่งวิปัสสนาญานเป็นตัวเป้าหมายในกัมมัฏฐานนั้นๆ
ส่วนอารมณ์ฌานสมาธิท่านเน้นอยู่เสมอว่ามันเป็นเพียงกีฬาสมาธิที่เอาไว้เป็นบาทฐานให้จิตสงบมีกำลังและอาจปลดเปลื้องความสงสัยในเรื่องชาติภพและผลของกรรมได้ สำหรับผู้ที่มีอุปนิสัยในกรรมฐานกองนั้นๆ
แม้แต่ให้ทิ้งอารมณ์สมถะแล้วตั้งเอาแต่อารมณ์พิจารณาขันธ์ห้าหรืออริยสัจจ์เป็นสำคัญ สำหรับผู้ปฏิบัติที่ไม่สะดวกในการเจริญสมถะ ท่านก็ยังบอกว่าท่านชอบใจมากๆให้ทำเยอะๆจนชิน
ดังนั้นหากใครๆจะพูดว่าได้รับเอาประโยชน์แต่ด้านสมถะในคำสอนของท่านเท่านั้น
น่าจะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นะขอรับ กระผม..
ถูกต้องตามท่านว่าครับลูกหลวงพ่อพระราชพรหมยาน จริงๆจะรู้ว่าหลวงพ่อจะควบวิปัสสนาลงในทุกๆคำสอนของท่าน ไม่มีเทปไหนเลยที่ท่านไม่พูดถึงการละสังโยชน์ ตัดขันธ์5 ตาย และนิพพาน คนที่ว่าหลวงพ่อสอนแค่ฤทธิ์เดช สอนแค่สมถะ นั้นรู้จักหลวงพ่อแค่สะเก็ดเท่านั้นแหละครับ
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
ใช่ แต่ผู้ที่มีปัญญาจะรู้ได้ว่าไม่ใช่ประเด็นที่จะเอามาวิพากษ์วิจารณ์ หรือถกเถียงกัน
คุณพูดถูกต้องแล้วครับ..
เราชาวพุทธผู้แสวงหาทางหลุดพ้นไม่ว่าทั้งบรรพขิตหรือคฤหัสถ์ล้วนกำลังติดกับดักแห่งอุปาทานคือความถือมั่นในกาม,ทิฏฐิ, ศีลพรตและวาทะว่าตน ว่าเรา ว่าสำนักเรา แนวคิดของเรา เราถูกใจสิ่งใด ก็พอใจและยึดมั่นในแนวทางของเราพร้อมกับตำหนิแนวทางที่แตกต่างกันไปจากความคิดของเรา
หากเราผู้ใคร่หลุดพ้น ร่วมกันรักษาแนวทางของพระพุทธองค์คือเน้นให้เห็นแต่ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตาในทุกสรรพสิ่ง
แม้แต่ความนึกคิดของเราก็ยังหาแก่นสารใดๆมิได้แท้จริงเลย
เราจะไม่มาถกเถียงกันว่าแกผิด
ข้าถูก เพราะแก่นแท้ก็คือการเบื่อหน่ายและถอดถอนตนออกจากขันธ์ทั้งห้า ส่วนการสัมผัสกับฌาน สมาธิ อภิญญา หรือสภาวะนิพพานก็ล้วนต้องมีความแตกต่างกัน ตามแต่ปัจเจกบุคคลและพื้นฐานแห่งจิตของตน หากยึดมั่นในแนวทางแห่งการไม่หลงยึดถือในขันธ์ห้าและพยายามใคร่ครวญลดละความพอใจในการเกิดแก่เจ็บตายและหลงยึดมั่นว่าเราของเราแล้ว
ไม่ว่าจะครูบาอาจารย์สายไหนๆ
แนวปฏิบัติแตกต่างกันอย่างไร
การสัมผัสกับอารมณ์แห่งกัมมัฏฐานจะพิศดารแตกต่างกันอย่างไร หรือแม้กระทั่งพระนิพพานจะมีสภาวะอย่างไร ก็จะไม่ถูกนำมาเป็นที่ถกเถียงโต้แย้งกันให้เกิดปฏิฆานุสัยกำเริบขึ้นในจิตใจของผู้ปฏิบัติให้ว้าวุ่นเลย
เพราะหลักแก่นแท้จริงๆก็คือการละความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนของเรานี่เอง หากเรารักษาแนวคิดอย่างนี้ได้ เราก็จะรู้สึกอ่อนน้อมถ่อมตนและไม่หลงถือตัวว่ามีความรู้หรือคุณธรรมสูงกว่าผู้อื่น
นั่นก็แสดงให้เห็นว่าการสลายความหลงยึดในอัตตาของเรานั้นไม่ได้เสียเปล่า อีกทั้งยังได้แสดงออกซึ่งความเคารพต่อผู้เห็นต่าง ปฏิบัติต่างกัน ด้วยมิตรภาพและมีเมตตาจิตต่อกัน เหมือนดังที่พระอาจารย์ท่านต้องการสื่อให้ผู้ฟังในคลิปนี้ได้เข้าใจและนำมาพิจารณาพัฒนาแนวคิดและแนวปฏิบัติของตน ...ครับ
ละเอียด แจ่มแจ้ง และเข้าใจง่าย น้อมกราบครูบาฉ่ายครับ
สิ่งที่ทำได้คือปล่อยวาง สาธุครับ การรับฟังคำสอนของครูบาอาจารย์ เเล้วนำไปปฏิบัติ เรามีหลายคือครูบาอาจารย์ แต่เราก็มีพระศาสดาองค์เดียวกัน สาธุครับ ศาสนาพุทธเรา ยังเเยกออกอีกหลาย แขนงที่แบ่งออก สิ่งที่ครูบาท่านสื่อถึง ผมเข้าใจเเล้วครับ ทุกอย่างไม่มีถูกและผิด เพราะศาสดาองค์เดียวกัน พระองค์ท่านก็ไม่อยากให้เราทะเลาะกันเหมือนในยุคของพระองค์ สิ่งที่ทำได้คือการปล่อยวาง เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะทุกอย่างคือ การเรียนรู้ เมื่อรู้แล้วบอกต่อ แต่ไม่ใช่ทะเลาะตามที่ครูบาท่านสื่อถึง เรามีพระพุทธองค์ ทรงเป็นที่พึ่ง เรามีพระธรรมของพระองค์ เป็นที่พึ่ง เรามีพระสงฆ์สาวกของพระองค์เป็นที่พึ่ง พระพุทธองค์ดับขันธปรินิพพานแล้ว ก็ยังเหลือ พระธรรม และพระสงฆ์ของพระองค์ เป็นสิ่งสุดท้าย ที่เราต้องรักษาไว้สาธุ สาธุ สาธุ
ถูกค่ะท่านพูดถูกทุกคำค่ะเป็นการกลั่นกรอง จนดีแล้ว คำพูดอย่างง่ายๆ แต่ลึกล้ำ ชัดเจนมากค่ะ
ผมไม่ค่อยนับถือพระสงฆ์เลยตั้งแต่ผมได้ศึกษาพุทธวจน ผมเลือกนับถือแต่สาวกพระสงฆ์ที่พูดแต่คำพระพุทธเจ้าไม่แต่งเติม เพราะบิดเบือนกันๆไปหมดพิธีกรรมอะไรกันแยอะไปหมดเสกน้ำมนต์เป่าคาถาเพื่อออ...พระสงฆ์ทุกวันนี้ส่วนมากก็มีเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทั้งนั้น ผมขอนับถือคำสอนครับ
ไม่มีใครสามารถพูดแต่คำพระพุทธเจ้าไม่แต่งเติมได้เลยสักรูปคน
ใครอ้างว่าตนสอนแต่คำพุทธองค์แท้จริง คือผู้โกหก
เพราะพุทธองค์ไม่เคยตรัสภาษาไทยอย่างทุกวันนี้
พุทธองค์ไม่เคยตรัสภาษาบาลี
เพราะพุทธองค์เทศน์ด้วยภาษามคธ และ ภาษาท้องถิ่นที่เสด็จไปโปรด
พระมหากัจจายน์เป็นผู้สร้างไวยากรณ์บาลีเพื่อเรียบเรียงคำพุทธองค์จากหลายๆภาษาให้เป็นภาษาเดียว
พระสงฆ์ส่วนใหญ๋ศึกษาแต่ภาษาของตนเอง ( ไทย ศรีลังกา จีน ทิเบต ฯลฯ)
อาจมีบางท่านที่ได้ศึกษาภาษาบาลี และแปลเป็นภาษาของตนเอง
แต่ไม่มีใครสักคนที่เคยรู้ว่าคำแท้จริงที่พุทธองค์ตรัส(มคธ และ ภาษาท้องถิ่น)เป็นอย่างไร
พระสาวกเขียนพระไตรปิฎกขึ้นมานะรู้ยัง พระมหากัสสปะเป็นผู้นำในการเขียน ผมขออวดฉลาดให้คนฉลาดอ่านนะครับ
ไม่เคยได้ฟังธรรมกับท่าน แต่ได้ฟังแล้วทำให้ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เข้าใจ ฟังธรรมมะอย่างเข้าใจ สาธุครับอาจารย์
คนถามคนแรกได้รับคำตอบอย่างละเอียด..กราบครูบาครับ
ฟังครูบาฉ่ายทีไร ชัดเจนแจ่มแจ้งสุุดๆเลยครับสำหรับผม
ครูบาฯฉ่ายพูดถึงหลวงพ่อฤาษี ลิงดำ นาทีที่เท่าไหร่ใครทราบบ้างคับบอกที...
หลวงฤษีลิงดำ นี้เป็นครูบาอาจารย์ของผมองค์สำคัญเลยตัวผมได้มีดวงตาเห็นธรรมมากขึ้น..หรือว่าได้รู้จักกับธรรมมะที่เป็นสัจธรรมอย่างแท้จริงก็เพราะเริ่มรู้จักท่านได้ฟังคำสอนท่านนี้หล่ะ...
..ส่วนตัวถูกจริตกับคำสอนของหลวงพ่อฤษีลิงดำมาก...ฟังและพอจะรู้เลยว่าเทศน์โดยใช้ปัญญาที่เกิดขึ้นจริงๆไม่ใช่เทศน์แต่ในตามตำราเขาว่าไงว่างั้นไม่ได้เกิดจากที่ตนเองลงมือปฎิบัติจริงจังๆจนได้เกิดความรู้ภายในตนขึ้นมาจริงๆไม่ใช่วันๆมีแต่ร่ำเรียนทางทฤษฎีความรู้ในตำราท่องจำจนเต็มหัว..แค่สอบเพื่อตนหวังว่าจะมีตำแหน่งลาภยสชื่อเสียงสักการะและสุดท้ายก็หนีไม่พ้นเงินทองสุ่มกิเลศหนาขึ้นให้จิตใจหลงทางห่างไกลจากคำว่าเป็นพระที่พระสงฆ์จริงๆควรจะเป็นและต้องมีในจิตใจตลอดเวลาที่เขาจะกำกับด้วยสติที่ตั้งไว้อยู่ตลอดเพื่อสามารถพิจารณาได้อยู่ทุกๆเวลาอยู่ตลอดๆไปเพื่อไม่ให้ตนเองห่างไกลจากคำว่าเป็นพระที่ทั้งภายในและภายนอก..และยังมีคำสอนจากพระดีอยู่อีกมากเช่นหลวงพ่อพุธ-หลวงพ่อชา-หลวงปู่เหรียญ-หลวงปู่ดูล์-หลวงปู่มั่นเป็นต้นและยังมีๆอีกมากฯ..แต่ละองค์ท่านเทศน์ไว้ดีแล้วมีประโยชน์มาก
ครูบาฯฉ่ายพูดถึงหลวงพ่อฤาษี ลิงดำ นาทีที่ 52
เขาพาดหัวมั่วเรื้อยเลยคับ ผมดูหลายตอนแล้ว ทั้งเรื้องไม่มีที่ตรงกับพาดหัวเลย
หลวงปู่ทุกๆองค์ มีแก่นเดียวคือ ต้องการให้เราปฏิบัติจริงๆ แต่ละองค์มีกุศโลบายต่างกัน เป็นการสืบสานงานพระพุทธศาสนา กันมาจนถึงปัจจุบันนี้ น้อมกราบหลวงปู่หลวงตาทุกๆองค์ เจ้าค่ะ ซาบซึ้งในคำสอนต่อๆกันมาจากผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคือองค์สมเด็จผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งพระองค์เองก็สอนคน ไม่เหมือนกัน ท่านทรงสุดยอดนักสอนจริงๆ ภูมิใจที่เกิดมาเจอพุทธศาสนา หากไม่มีพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มาถึงปัจจุบันนี้ ป่านนี้พระพุทธศาสนาคงไม่มีแล้ว ลูกสำนึกในบุญคุญของทุกๆองค์ จริงๆเจ้าค่ะ คำสอนของพระอาจารย์ ก็ชัดเจนมาก เป็นบุญของคนในยุคนี้ ที่เห็นคลิปนี้เจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
สาธุๆๆ.. น้อมกราบนมัสการครูอาจารย์ฉ่ายด้วยเศียรเกล้า.. สาธุๆครับ
ครูบา เป็น ธรรมแท้ ...ครับสาธุ
ครูบาเจ้า เทศน์ไปตามธรรมของท่าน กรุณาอย่าข้องแวะผู้อื่น จะเป็นผู้เจริญอย่างยิ่ง..สาธุ.ๆ.
นั่นคืออุบาย ของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่าน มีทั้งจริงและนิวรจิต ท่านก็แยบคลายได้ท่านก็รู้เช่นกัน แต่จริตคนส่วนมากยังต้องใช้สิ่งเล่านี้เข้าล่อ อะไรที่ทำให้คนดีได้มันก็ดีหมดแหละ ให้เค้าตั่งอยู่ในความดี ทำแล้วดี แต่ที่กล่าวมานี้ครูบาก็พูดถูก เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไปคนก็รู้มากขึ้น รู้มากนี้ฉาบทาไปด้วยอัตรา ร้อนวิชาแต่่( ไม่เคยรู้ความจริง) ในใจที่เรานั่งนอนทับอยู่ ธรรมไดก็ดีถ้ามองเข้าไปถึงข้างในไม่มีผิดถูกให้มีเมตรตาต่อกัน
@@thanakh8457 คุณเม้นอะไรของคุณเนี้ย คุณนิคมกำลังบอกว่า ครูบาไม่ควรไปแขวะใคร ประเด็นมีแค่นี้
การสอนธรรมที่ดี มิควรไปเอ่ยถึงบุคคลอื่นไดในทางเสียหาย แต่ละรูปมี เหตุปัจจัย ต่างๆ เพื่อ นำญาติธรรม เข้าสู่ สภาวะธรรม ตามจริตของตน
ธรรมที่บริสุทธิ์ คือ ธรรม ที่ไม่เกี่ยวข้องแวะ แขวะอันได เลยแม้แต่ ความคิด
ส่วน การที่ ลพ ฤาษี ท่านจะพา จิตญาณ ญาติธรรมไป แดนนิพพานได้ จริงหรือ ไม่ ต้องตามพิสูจน์ ด้วยตน เอง ดั่ง
ลป ปานท่านสอนว่า
ใจเข้าถึงๆเข้าใจ นั่นแหละค่ะ ธรรมะที่เหยียบ คนนั้นคือ สิ่งไม่มีค่าคู่ควร พระธรรมขององค์สมเด็จไม่
ท่านแค่เตือนรึเปล่า ส่วนตัวคิดว่าพระไตรปิฎกดีอยู่แล้ว แต่คนที่มาเรียนก็ไปตีความผิด เอาแค่คำว่าพุทธวจนะ พระพุทธเจ้าท่านยังยกย่องสาวก ว่าเก่งด้านต่างๆเลย
แล้วสอนให้คนรักษาศีลละชั่วกลัวบาปนั่นดีอยู่เเล้วค่ะอย่างที่บอกข้างต้นว่าธรรมะบริสุทธิ์มาก
การสอนธรรมใครๆไม่ต้องเอ่ยอ้างให้ใครเสียหาย มองความเลวของตนเท่านั้นพอแล้วจะมองความเลวอื่นๆไปใยสุดท้ายก็มาจบที่ทานศีลภาวนาละทิ้งตัวกูของกูทั้งสิ้นค่ะตายก็เอาอะไรไปมิได้ อยู่ก็สร้างสมความดีที่ใจ วาจา กาย พอแล้วค่ะแต่ถ้า ใครสะดวกสะสมกรรมก็ตามทางของท่านตามวาระจิตเลยนะเจ้าคะ ท่านผู้รู้ ทั้งหลาย
กราบนมัสการพระครูบาฉ่าย ด้วยความเคารพครับผม
สาธุครับ ผมขอก้าวตามพระพุทธเจ้าทุก กรณี
รู้ธรรมะเพียงน้อยนิด ก็พอเพียง ให้เน้นการปฎิบัติธรรม ศีล(มาก่อน เอาให้แม่น กระจ่าง)ตามมาด้วย สมาธิสว่างที่จิตตื่นรู้ตัวสดใส ถ้าได้ไปถึงปัญญาได้นั่นคือที่สุด แต่ไม่ง่าย ผู้เข้าถึงขั้นนั้นมีไม่มากคน
คนฉลาดเมื่อมีเวลาจะศึกษาเพิ่มเติมก็จะเป็นการดีมาก ฟังได้ทุกครูบาอาจารย์แล้วให้นำส่วนที่ดีมาของแต่ละครูอาจารย์มาปฎิบัติตาม หรือเป็นการทำความเข้าใจธรรมมะให้กระจ่างขึ้น
จะมีเวลามากหรือมีเวลาน้อย ให้เน้นการปฎิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง ไม่จำเป็นต้องยาวหลายชั่วโมง เน้นที่คุณภาพ จิตหลุดจากนิวรณ์ทั้งปวง ที่เหลือในเวลาช่วงทีรใช้ชีวิตปกติ ให้ตามดูจิตตน รัก ใคร่ โกรธ หลง ปลุงแต่ง ๆลๆ ให้เฟ้าดูจิตเฉยๆ ไม่ต้องพยายามระงับอะไรทั้งนั้น เพียงแต่รู้จิตที่ทำงานกับอารมณ์ ณ.เวลานั้นเป็นพอ
ใครเถียงใครทะเลาะ ใครตำหนิใคร ไม่ต้องไปสนใจ สนใจแต่ตนเองกับการทำงานของจิตตนในเวลาที่ตื่นตลอดวัน
สาธุค่ะ ผู้เข้าถึงและเข้าใจธรร ม
น้อมกราบ สาธุๆๆ โยมเข้าใจธรรมเพราะครูบาฉ่ายและชอบฟังมากคะ
ศึกษาพุทธวจน ต่อให้สภาวะใดเกิดขึ้นแก่ตน
ถ้าศึกษาต่อปฏิบัติต่ออย่างไรก็จะรู้ได้ด้วยตนเองได้ หลงไปก็รู้ได้ในที่สุด แค่ไม่เลิกล้มความเพียรเสียในระหว่าง ทางผ่านหลงบ้าง เข้าใจอะไรผิดไปบ้าง ถ้าไม่เลิกศึกษาและปฏิบัติที่สุดก็จะรู้ได้ด้วยตนเอง
คำสอนหลวงพ่อฤาษีหน้าสำหรับลูกศิษย์ที่มากมายหลายกลุ่ม จริตนั้นต่างกัน หลวงพ่อฤาษีสอนคลุมได้ทั้งหมด ส่วนหนึ่งนั้นรวมกระทั่งถึงตัวผมเองด้วย แล้วก็ชาตินี้จะจบยังไงก็คิดว่าคงจะไปพระนิพพาน ตามหลวงพ่อ
บุญสัมพันธ์ฟังศึกษาทุกอาจารย์ สาธุ