ส่วนตัวคือ หาตัวเองให้เจอ หางานที่รักและอยู่กะมันได้ตลอดเวลา จะได้ไม่บ้าคลั่ง หลงแต่เงิน จะสร้างความลำบากผู้คนที่อยู่ด้วยในสังคมเดียวกัน “Love what you do and you will never work a day in your life“ -Confucius
ผมเคย FIRE มาแล้วครับ แต่เมื่อคนสำคัญในชีวิตเจ็บไข้ได้ป่วย มันจำเป็นต้องเอาเงินส่วนนั้นมาดูแลรักษา วัยรุ่นยุคนี้ FIRE ได้ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ระหว่างทางอย่าละเลยคนที่เลี้ยงดูเรามา
It's a great idea/concept but as you said, spending 4% of the amount saved each year is probably not how you want to retire. You have to be extremely frugal and that's not fun at all when you are older. I would say retiring at 30 is too extreme, I like how you said "a little fire" like retire at 40 instead of 30. That way you have more time to accumulate wealth and don't necessarily have to live so cheap that'll just be miserable. Anyways Great Show, always watch morning wealth and secret sauce. From USA.
03:28 นิยามของ F.I.R.E
05:50 F.I.R.E ใช้เงินอย่างไร?
08:51 ประเภทของ F.I.R.E
10:53 สาเหตุที่ทำให้เกิด F.I.R.E
16:36 จะประยุกต์ใช้ F.I.R.E ได้อย่างไร
24:57 ความเสี่ยงของ F.I.R.E
ที่กำหนดเวลาของแต่ละหัวข้อทำยังไงครับ ช่วยแนะนำหน่อย?
เกษียณ อะไรตอน 30 วะ บ้าไปแล้ว คลิปสำหรับพวกเงินเดือน 150k หรือเจ้าของธุรกิจ แต่ถ้าคนทำธุรกิจเขาไม่ได้เกษียณหรอกต้องบริหารจนตาย คนสมัยใหม่เดี่ยวนี้ดูภาพรวม เฉลี่ยแล้วหาเงินได้เท่าไหร่กัน
ผมเกษียณตอน 32 ปี
ระหว่าง 22-29 ผมเก็บ 80%
กินอยู่กับพ่อแม่
และลงทุนหุ้นกำไร 10 เท่า
ตอนนี้ทำงานอายุ 44 ปี
แต่ผมยังทำงาน วันละ 1-2 ชม.
แต่งานอะไรที่อึดอัดผมไม่ต้องทำครับ 🥰
สุขภาพจิตดีนะครับ
ถ้าได้อยู่บ้านนี่ประหยัด คชจ เยอะเลยค่ะ
ขอคำแนะนำ ได้ไหมคะ
โชคดีมีพ่อแม่คุ้มครอง แต่คงไม่สามารถทำได้ทุกคน
ชีวิตที่ฝัน
โดยส่วนตัวคือ การเกษียณ หมายถึง การที่เรามีอิสระจากภาระความรับผิดชอบต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องเงิน และมีทางเลือกที่สามารถทำอะไรก็ได้ (จะทำงานต่อก็ได้) โดยไม่มีมีเงินมาผูกมัด
ถูกประเด็นครับ
ใช่เลยครับ และสามรถทำสิ่งต่างๆ ใหม่ๆที่รัก
ชอบคำพูดนี้มากค่ะ 👍
ถูกใจมากครับ
ใช่ครับ ตอนนี้ผม ผมอายุ 40 สะสมทรัพย์มาได้มากพอ ที่จะไม่ต้องทำงานเพื่อเงิน แต่ก็ไม่ได้ว่าจะอยากอยู่เฉยๆ นะ เรายังอยากทำงาน แต่เป็นงานที่เราชอบ เราทำแล้วสนุก สบายใจ มีความสุข เหนื่อยไม่เป็นไร ไม่โดนบังคบ กดดัน เคี่ยวเข็ญ โดยใช่้เหตุ คนเราแต่ละคน บุคลิกภ่พไม่เหมือนกัน ศักยภาพและความกระตือรือร้น ไม่เหมือนกัน ความต้องการทำงาน และการใช้ชีวิต ก็ไม่เหมือนกัน
ใช่ครับ ในขณะที่เพื่อนๆ แต่งงาน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เป็นของตัวเองแล้ว ผมซึ่งอายุ 27 ที่ยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง ทำงานๆๆๆๆ ไม่ซื้อไม่ผ่อนอะไรทั้งนั้น ออมหุ้นอย่างเดียว 50% เงินสำรองฉุกเฉิน 20% คริปโตนิดหน่อย 10% อีก 20% คือค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน บวกกับทำงานเสริมทุกอย่างด้วยสกิลที่ตัวเองถนัด เพื่อหวังอยากเกษียณตัวเองให้เร็วที่สุด อยากหลุดพ้นจากวงจรการทำงานกับดักรายได้ปานกลาง แล้วออกไปใช้ชีวิตของตัวเองจริงๆ เสียที จะอายุอะไรก็ช่าง แต่ขอก่อน 40 ปี
ปล. เกษียณในนิยามส่วนตัวของผมคือ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน มีอิสระภาพทางการเงิน และจะตื่นขึ้นมาทำงานกี่โมงก็ได้ โดยไม่ต้องพะวงว่าจะเข้างานทันมั้ย สแกนนิ้วทันรึเปล่า วันนี้อยากทำงาน ทำ! วันนี้ขี้เกียจก็ไม่ทำ ! วันนี้อยากไปเที่ยว ไป!
ทุกวันนี้สู้เพื่อชีวิตแบบนั้นอยู่ครับ
คนรอบข้างที่บ้าน แม้แต่แฟนยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่า เกษียณ
แผนดีคับขอให้สำเร็จไวๆครับ
รีบเกษียนไปไหน ...
@@Mr.Jipdfgh คำว่าเกษียณ ไม่ใช่ไม่ทำงาน แต่มีอิสรภาพทางการเงิน และ เลือกใช้ชีวิตได้
ใช่เลย
ส่วนตัวคือ หาตัวเองให้เจอ หางานที่รักและอยู่กะมันได้ตลอดเวลา จะได้ไม่บ้าคลั่ง หลงแต่เงิน จะสร้างความลำบากผู้คนที่อยู่ด้วยในสังคมเดียวกัน “Love what you do and you will never work a day in your life“ -Confucius
ชอบมากความเห็นนี้
จริงๆ การรักสิ่งที่ทำเป็นเรื่องที่ดีมากเลยครับ และผมคิดว่าคนที่ได้ทำสิ่งที่รักและได้เงินนั้นโชคดีมาก
แต่อย่างไรก็ดีเราก็ควรจะต้องเก็บเงินและลงทุน เพราะสุดท้ายวันใด วันนึงเราก็ต้องเลิกทำงานนั้นไป อาจจะด้วยเหตุผลที่เราคาดถึงและไม่ถึง เช่น วันใดวันนึงเราต้องเกษียณจากงานเพราะถึงวัย หรืองานที่เราทำอาจจะไม่เป็นที่ต้องการอีกแล้วและโดนแทนที่ด้วยสิ่งอื่น หรืออาจจะเป็นตัวเราเองที่อาจจะหมด passion กับงานที่เราทำเมื่อเวลาผ่านไป
เงินเก็บและเงินลงทุนจะเป็นตัวสร้างความมั่นคงให้เรา ณ เวลานั้น ในช่วงเปลื่ยนแปลงของชีวิตซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนต้องเจอ และถ้าวันนั้นเมื่อการเปลื่ยนแปลงเกิดขึ้นและเราไม่มีความมั่นคงด้านการเงิน แล้วสุดท้ายต้องกลับมาทำในสิ่งที่ไม่รัก เพราะต้องการเงินเพื่ออยู่รอด
เกษียณของเราคือ การได้ใช้ชีวิตได้เต็มที่ ได้มีครอบครัว ได้มีเวลาพักผ่อน สามารถจัดสรรเวลาส่วนตัวได้อย่างลงตัว มันคงจะดีมากถ้าเราวามารถตื่นมาออกกำลังกาย กินข้าวเช้า ไปส่งลูก ไปทำงาน กลับบ้านมากินข้าว มีเวลากับครอบครัว นอน วันหยุดได้ไปพักผ่อนได้ทำกิจกรรมกับครอบครัว ไม่ต้องกังวลกับอนาคตไม่ต้องเร่งรีบกับเวลา นี่แหละคือชีวิตเกษียณที่ต้องการ
ผมทำได้ตอนอายุ 35 โดยไม่ได้เก็บเงินอะไรมากนัก
เริ่มต้นอายุ 27 กู้เงิน 100% เพื่อทำหอพัก กู้ทั้งที่ดินและสร้างตึก แล้วเก็บเงินจากหอใช้หนี้ไปเรื่อยๆ ครบ 7 ปี ก็ขายหอได้กำไรมา 7 ล้านนิดๆ แล้วเอาเงิน 7 ล้าน ไปใส่ตลาดหุ้น รับเงินปันผล ได้ประมาณ 4-7% ต่อปี ถ้าหุ้นมีราคาก็ขายไปบ้าง เพื่อซื้อตัวถูกกว่า แค่นี้ก็เหมือนเกษียณได้แล้วครับ
สิ่งที่ผมต้องรู้คือ กู้เงินยังไง การก่อสร้างทำยังไง สิ่งที่โชคดีคือได้ผู้รับเหมาดีไม่โกง ซ่อมแซม สี ระบบไฟ น้ำ ปั้ม ประปา แอร์ อบรมนายหน้า การขาย เพราะอยากรู้ว่าเค้าขายตึกยังไง ทำไมคนถึงซื้อ และความรู้เรื่องหุ้น
แค่นี้ก็เกษียณได้ตอนอายุ 35 แล้วครับ ใช้เงินได้เกิน4%โดยไม่กินเงินต้นด้วยนะ ผมว่าวิธีผมง่ายกว่าในคลิปเยอะเลย
อยากจะขอความรู้ คำแนะนำบ้างได้ไหม คะ
@@อะจอง ยินดีครับ
32 ... เกษียณ ได้ 8 ปีแล้ว
ตอนนี้ ทำสนามฟุตบอล และไม่คิดทำอย่างอื่นฯ
วันนี้เป็นวันแรกที่เกษียณตัวเองจากงานด้วยวัย46 ปี โดยใช้passive income จากค่าเช่าและเงินปันผลหุ้น แต่ทัเงหมดนร้ผ่านการวางแผนมาแล้ว 15 ปีเต็มๆ และเป็น15 ปีที่ทำงานหนักและเหนื่อยมากๆ
ผมทำตามแนวคิด F.IR.E. มา 10 กว่าปีครับ 1.ทำรายรับรายจ่าย
2.เก็บเงินออม 50%
3.หารายได้เสริม
แล้วทุกวันนี้เป็นไงบ้างครับ
ของผมกว่าชีวิตจะเข้าที่เข้าทาง ยังไม่ลงตัว 100% อายุก็ปาไป 38 ละคับหักค่าใช้จ่ายทุกอย่าง กิน เที่ยว เต็มที่ เหลือเงินเก็บต่อเดือน 4-6 หมื่นบาทคับ เนื้อหาในคลิปคือโคตรจริง
เทรนด์นี้ผมทำมาตั้งแต่เรียนจบเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
เป้าหมายตอนนี้ ผมใช้คำว่า “เลิกทำงานประจำก่อนอายุ 45 ปี” หลังจากนั้น ก็หาอะไรทำงานที่เรามีความสุขไปด้วย ที่ไม่มีกรอบ มีเวลาให้ครอบครัว คล้ายๆแนวคิด FIRE
ใช่ครับ ผมก็ทำตั้งแต่เริ่มทำงานตอนนี้ 43 ผมก็ฟรีละ แต่ยังทำงานเพราะเรายังมีเพื่อนๆในที่ทำงานที่อยากพบปะกันอยู่ แค่ชีวิตทีความมั่นคงและไม่ต้องกังวล
ขับวินมอเตอร์ไซเหรอครับ
เงินที่ยืมผมไป อย่าลืมคืนนะครับ คิดว่าผมตามหาตัวไม่เจอหรอ
@@ModelTrader กำลังตามไปคะ
Ok ผมก็เกษียนตัวเองอายุ 42 ปี เพราะตลอด 20 ปีทำงานเก็บเงินอย่างเดียว ปัจจุบันอยู่กับลูกเมียมีความสุขดีครับ
ลาออกงานประจำตั้งแต่ อายุ 26 แต่ไม่ได้หยุดทำอะไร แต่ยังทำธุรกิจของตัวเอง พยายามสร้างสิ่งใหม่ๆ ว่างๆก็ไปทำงาน พาททาม ที่ตัวเองอยากทำและช่วยพัฒนาทักษะบางอย่างให้ตัวเองได้ด้วย❤️
เราเคยลาออกจากงานเพื่อเรียน ป.เอก ตอนอายุประมาณ 30 อยู่พักนึง ค้นพบว่าอยู่บ้านแบบนอยส์มาก…เพราะพอเราอยู่บ้านแต่เห็นคนอื่นเค้าออกไปทำงานรู้สึกถึงความไร้ค่าขึ้นมาทันที Fire คงไม่ใช่ทางเลือก 😂😂😂
เราก็เคย เป็นการเรียนต่างประเทศครั้งแรกในชีวิต ตอนนั้นรู้สึก สนุก สับสนปนเป
แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็คงทำเหมือนเดิม การทำกิจกรรมที่ไม่ได้หาเงิน
…ไม่ได้หมายความว่าคุณค่าเราจะลดลง
แนวคิด F.I.R.E. คือ การเลิกทำงานประจำซึ่งไม่ชอบ ไปเป็นงานที่เราชอบ เลือกทำได้ตามใจเรา
ใช่เลนครับ ผมเกษียนแล้วตามเกณฑ์ปกติ ยังต้องหาอะไรทำเลยครับ
เรากับเพื่อนๆในกลุ่มตั้งเป้าการเกษียณที่อายุ 40 ตอนนี้เรา อายุ 39 เพิ่งลาออกจากงานประจำเมื่อ 3 อาทิตย์ที่แล้วเองค่ะ สามีเราอายุ 46 วางแผนลาออกสิ้นปีหน้า เราว่าการมีอิสรภาพทางการเงินในวัยที่ร่างกาย จิตใจ และสมองเรายังแข็งแรง สามารถทำกิจกรรมอะไรๆที่เรารักแล้วมีประโยชน์กับตัวเราและส่วนรวม ยังไงแล้วคงไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าน่ะค่ะ พ่อแม่เราเกษียณตอนท่านอายุ 50 ต้นๆ ปีแรกๆท่านเที่ยวกระจายเลยค่ะ เพราะสุขภาพเอื้ออำนวย 😁 ท่านมีเวลาออกกำลังกายมากขึ้น ทั้งเช้าและเย็น ท่านมีเวลาพาคุณตาไปเที่ยวและได้ใช้เวลากับคนที่ท่านรักได้โดยไม่มีข้ออ้างกับคำว่า "มีเวลาจำกัด" ตอนนี้คุณแม่เราในวัย 64 ได้ร่วมเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง เราเห็นชีวิตหลังเกษียณของพ่อแม่เราเลยเกิดแรงบันดาลใจค่ะ 😊
@@nanasong959 ขอบคุณค่ะ
เคยอ่านบทความที่ไปสัมภาษณ์ฝรั่งที่เก็บเงินแบบfire คือเค้าไม่มีลูก ไม่มีบ้าน ไม่สร้างภาระทางการเงินใดๆทั้งสิ้น ไม่ไปปาร์ตี้สังสรรค์ไม่ทำกิจกรรมที่เสียเงิน ฟังเเล้วสุดโต่งไป แต่ก็เวิร์คสำหรับเค้า
เราอายุ 39 อยู่ต่างประเทศมา 10 กว่าปี ทำงานประจำกับบริษัทโฆษณาแถวบ้านมา 8 ปี เรากับสามีใช้กฎ F.I.R.E มา 10 ปีแล้วค่ะ เราเพิ่งเกษียณมาได้ 3 อาทิตย์แล้วค่ะ ส่วนสามีเตรียมตัวที่จะเกษียณสื้นปีหน้า สำหรับตัวเรากฎของ F.I.R.E ไม่ได้สุดโต่งน่ะค่ะ เรามีบ้าน มีรถ ที่ผ่อนหมดเร็วกว่ากำหนดก็เพราะเราใช้กฎของ F.I.R.E เลยค่ะ เรายังไปเที่ยว กินอาหารนอกบ้าน และได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆได้เหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือการที่เราได้รู้จักการใช้เงินกับสิ่งที่เราจำเป็นจริงๆ และได้ประโยชน์สูงสุดจากเงินที่เราได้ใช้ไปค่ะ สิ่งที่สำคัญของกฎ F.I.R.E คือเราได้รู้วิธีการลงทุนที่ถูกวิธีด้วยค่ะ. ลองศึกษาข้อมูลจากช่อง Our Rich Journey ดูน่ะค่ะ เราได้ข้อมูลดีๆจากช่องนี้เลยค่ะ 😊
เกษียณตอนอายุ28ผ่านมา4ปีแล้ว ปีแรกๆก็โอเคทำสิ่งที่อยากทำได้ทั้งวัน ตอนหลังรู้สึกชิน ความสุขมันหายไป ตอนนี้มีแต่ข่าวเงินเฟ้ออีก
ลองทำเพื่อคนอื่นดู ตัวเอง ไม่งั้นอาจจะ ซึ้มเศร่าได้ ❤🙏🏻
@@gibby3334 🙏🏻ขอบคุณครับ ทางออกที่คิดไว้น่าจะประมาณนั้นเลยครับ
เก่งอะพี่ ตอนอายุ 28 ผมยังไม่เป็นโล้เป็นพายเลย 🥇🥇🥇
อายุ 28 ยังกอดคอกินเหล้ากับเพื่อน ทิปเด็กเชียร์เบียร์อยู่เลย เงินเลยไม่เหลือ ตอนนี้เข้าสู่เลข 4 เพิ่งคิดได้ ป.ล.คุณเก่งมากๆครับ
@@tuchefloodboyslum495 ขอบคุณครับ เป็นความพยายามกับมีโอกาสได้ทำมากกว่า ถ้าตอนคุณอายุ 28ชีวิต ยังมีความสุขอยู่ก็ถือว่าคุ้มค่า อย่าเรียกว่าไม่เป็นโล้เป็นพายเลยครับ คนเราเปลี่ยนมุมมองตามความสุข วันนี้มุมมองคุณอาจเปลี่ยนไปจากตอนนั้นแล้ว เหมือนผมที่มุมมองก็กำลังเปลี่ยนไป
เราทุกคนควรว่างงาน ทำงานให้น้อย บริโภคให้น้อย มีความสุขที่ไม่ได้มาจากสินค้า นี่แหละชีวิตของคนยุคใหม่
คนยุคใหม่ขอบ กิน เที่ยว เดินทาง สร้าง super moment ให้ตัวเอง ถ่ายรูปโชว์สังคม คงต้องทำงานหนักอีกนานเพราะเงินหมดไปกับสิ่งพวกนี้
บวช
ไม่ใช่เลยจ้า
อันนี่อาจจะแล้วแต่บุคคล แต่สำหรับผมแล้ว บางทีการที่เราทำงานก๋ไม่ได้ทำเพื่อเงินอย่างเดียว แต่ทำเพื่อเป็นสิ่งที่บอกว่าเรายังมีคุณค่าอยู่
เป็นความคิดที่ดี ที่วางแผนไปสู่อิสรภาพทางการเงิน ทำงานอะไร ที่เราอยากทำ ยังไงก็ดีกว่าการไม่วางแผนอะไรเลยแน่ๆ ครับ👍
เกษียณหรือเปล่าไม่รู้
แต่...ตอนนี้ไม่ได้ทำงานที่จำกัดเรา
ปลูกผัก ทำของใช้กินเอง นอนตื่นสายได้ ไปไหนได้แบบไม่ต้องลางาน
เริ่มจากเคลียร์หนี้ให้หมดทุกอย่าง สร้างฐานะให้เราอยู่ได้ มีบ้านแบบไม่ต้องผ่อน มีรถเก่าๆ แบบไม่ต้องผ่อน มีเงินเก็บเอาไปลงทุน
Life style เหมือนกันเลยค่ะ
เพิ่มเติม...พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ทำงาน เก็บเงิน ลงทุนต่อยอด มีบ้าน มีรถเก่าๆ โดยมีชื่อของตัวเองเป็นเจ้าของ
กล้าพูดใครต่อใครอย่างภูมิใจว่าฉันเคลียร์หนี้หมดแล้ว รถ บ้าน เป็นชื่อตัวเองได้อย่างเต็มปาก
มีเงินเหลือก็เอาไปเก็บ เอาไปลงทุนเพิ่ม ใช้ชีวิตสบายๆ วันหยุดคิดแต่เรื่องไปเที่ยวมากกว่าหาเงินใช้หนี้
ถึงวันเกษียณก็ไม่ต้องคิดมาก ว่าหลังเกษียณจะหาเงินยังไง เปลี่ยนเป็นหาไรทำแก้เบื่อดีในยามเกษียณดี
ผมก็คิดแบบนั้นครับ
ถึงผมจะทำงานยุบ้าน แต่ก็สัมผัสได้ว่าสุขภาพจิตเริ่มถดถอย เพราะไม่ได้เข้าสังคมมานาน ในอนาคตจะออกไปทำงานนอกบ้าน การอยู่ในcomfort zoneนานเกินไปไม่ใช่เรื่องดีเลยสำหรับผม
เห็นด้วยครับ มนุษย์คือสัตว์สังคม การปลีกตัวออกมาใช่ว่าจะเป็นผลดีต่อคนบางคน
คนเราจะมีความสุข ความทุกข์ ความเศร้า ความสนุก อารมณ์ต่างๆ ส่วนหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดจากการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
แรกๆก็ดีนะ อิสระมาก อยากไปไหนก็ไป อยากทำอะไรก็ทำ ไม่มีใครมาบงการชีวิต ไม่ต้องตอกบัตรเข้างานก่อน 8 โมง ไม่เสียสุขภาพจิตจากคนทำงาน
แต่พอแยกตัวออกมา หลังๆ มันชักรู้สึกไม่โอเค เริ่มรู้สึกโดดเดียว อ้างว้างแปลกๆ มือถือเงียบมาก ไม่มีใครโทรเข้ามา แต่จะรู้สึกดีเสมอเมื่อมีคนโทรเข้ามา
รู้สึกเหมือนคอมที่ไม่ได้ต่อเน็ต ไม่ได้คอนเนคชั่นกับสิ่งที่เคยเป็นและควรจะเป็น รอวันผุพังไปตามกาลเวลา ไม่รู้สิ อาจคิดไปเองก็ได้ 5555
เหมือนกันเลยค่ะ เราเป็นพนักงานประจำ ลาออกมาทำงานที่บ้านรู้สึกเป็นคนtoxicขึ้นทุกวันเลย ใจนึงอยากกลับไป ใจนึงก็ไม่เอาอีกแล้ว5555
แต่เราสุขภาพจิตดีขึ้นนะ อาจจะเพราะไม่มีโชคกับการทำงานประจำด้วยล่ะเจอแต่สังคม toxic จนป่วย
แล้วแต่คนครับ ผมก็เป็นแบบนั้นแหละ
ออกมาทำงานอยู่บ้าน ความสามารถในการแข่งขันมันเหมือนจะหายไปด้วย สังคมมันแคบลงน่ะ
ใช้เงินน้อยขนาดนี้ ถ้าเป็นคนที่มีครอบครัว ต้องเลี้ยงลูกด้วย สามารถทำแนวคิดนี้ได้นี่เก่งมากๆเลยนะคะ แต่นี่ก็ออกจากงานประจำ 10 ปีแล้ว เพราะรู้สึกขาดทุนเวลาค่ะ (ตอนนี้ อายุ 39 ปี)
ผมว่าคนส่วนน้อยที่จะทำแบบนั้นได้ ขนาดผมจบ ป.ตรีทำงาน ร.พ.รัฐ เงินเดือน 15,900 ทำ 4 ปีลาออกเงินเดือนสุดท้าย 17,800 อายุปาเข้าไป 28 ตอนทำงานแค่เก็บได้ปีละแสนได้ก็บุญแล้ว ยังมีอีกเยอะหนุ่มสาวโรงงานเงินเดือนไม่ถึงหมื่น
คิดว่านิยามคำว่าเกษียรของเด็ก ๆ มักจะเป็นแค่ "หยุดทำงานตลอดชีวิต"
แต่ผมว่าการเกษียรจริง ๆ คือ "มีเงินพอใช้โดยไม่ต้องทำงานอีกต่อไป"
เกษียณ สะกดแบบนี้นะ แสดงว่ายังไม่ได้เกษียณ 55
เพื่อนผมมีค่าเช่าจากอสังหาฯที่ซื้อเอาไว้และปลอดจำนองหมดแล้ว เดือนละ 100,000 ตอนที่อายุ 40 ปี ปัจจุบันเกษียณแล้ว แต่มันเป็นสิ่งที่คนรุ่นก่อนของเขาส่งให้ด้วยส่วนหนึ่ง
แต่คนแบบนี้คือคนจำนวนไม่ถึง 5% ของประเทศไทย ที่ทำได้
เพื่อนส่วนมากยังต้องทำงานหาเงินส่งบ้านส่งรถเดือนชนเดือน
ข้อเสียของเด็กยุคใหม่คืออยากรวยแบบไม่ต้องทำงานโดยเร็วที่สุด สุดท้ายก็โดนกลลวงในโลกยุคดิจิตัลมากมายดึงเข้าไป ทุกวันนี้หลายคนเจ๊งไปกับเหรียญคริปโต อีกหน่อยประเทศไทยคงจะไม่มีใครทำงาน ต้องจ้างต่างด้าวมาทำงานประจำ เพราะทุกคนอยากเกษียณตอนวัยทำงานทั้งนั้น
ใช้จ่ายเงินมากตั้งเเต่เด็ก พ่อเเม่ซับพรอต ที่โอเคหาเงินเองมีนะเเต่ก็เเค่ส่วนน้อย บางคนเรียนจบทำงานมีเงินเดือน เเต่ยังขอเงินพ่อเเม่อยู่ เพราะไม่พอใช้
เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่ดีมากครับ
ควรเก็บไว้ส่วนตัวนะครับ ไม่ควรเอาออกมาพลามในที่สาธารณะ
@@puddingman2331 น่าสงสาร ผลผลิตของการที่เกิดและเติบโตมาในประเทศที่ไม่ได้เคารพในการแสดงออกอย่างเสรี เลยรับฟังอะไรที่ขัดแย้งกับความคิดของตัวเองไม่ได้ 555
@@puddingman2331 ช่องคอมเม้นมันมีไว้ให้แสดงความคิดเห็น ใครกันแน่ครับที่พล่าม 🤔
@@puddingman2331 🙄🙄🙄
เป็นหลักการที่ทำคนชนชั้นแรงงานอย่างผมที่เป็นคนจนเมืองไม่ได้แหะ เพราะไม่มีทรัพสินอะไรเลย แม้แต่บ้านก็ด้วย ถ้าทำได้คงต้องมีต้นทุนพื้นฐานอย่างที่อยู่อาศัยที่เป็นทรัพสินของตัวเองก่อนละนะ ยิ่งเปรียบเทียบค่าแรงกับค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้นทุกวัน นี้อยากจะร้องไห้
เก็บมา10ปีค่ะ 50-70% ของรายได้
เชฟเงินไว้ก่อน เพราะไม่มีอะไรเเน่นอน
ค่ะปังมาก👍😍
ผมใช้แนวคิดนี้มาตั้งแต่อายุ 30 เพราะวางแผนเกษียณตอน 45 ตอนนี้ 47 แล้ว เกษียณแล้ว ทำได้ตามเป้าหมาย หยุดการทำงานไว้ ตอนนี้ยังไม่มี passion ในการทำงาน ตอนทำงานไม่มีความผูกพันในงานทำแบบมือปืนรับจ้าง ใครให้เงินมากกว่าก็ข้ามบริษัทไปทำ เพราะเป้าหมายคือเก็บเงิน 60 - 70% และไม่มีภาระหนี้สิน
เราเกษียณ อายุ 45 คือลาออกจากชีวิตลูกจ้าง มีรายได้จากค่าเช่า และธุรกิจที่ทำด้วยตัวตนคนเดียว ทำงานอาทิตย์ละ 2-3 วัน สองสามปีแรกที่ลาออกจากงานลูกจ้าง มีความสุขมาก แต่หลังจากนั้นเริ่มเบื่อ ไม่มีปัญหาการเงินก็จริง แต่ชีวิตมันว่างเกินไป ตื่นมาไม่มีเป้าหมาย เริ่มรู้สึกว่า มันดีจริงหรือ การอยู่ไปวันๆโดยไม่ทำงาน ชีวิตมันจืดชืดไปไหม ชีวิตมีสองด้านเสมอ
หาคอมมูนิตี้ของคนที่ชอบสิ่งเดียวกันครับ แล้วเข้าไปสิงเลย เช่นพี่เป็นคนชอบรถมาก ถ้าพี่ไปทำกิจกรรมกับคนชอบรถด้วยกันสนุกแน่นอน มีอะไรให้ทำเยอะ
เป็นแนวทางที่ดีมากครับ อายุ 40 จะได้นอนอยู่บ้านใช้เงินสบายๆ มีอิสรภาพทางการเงิน
30 เท่าของ รายจ่ายต่อปี == มีเงินเกษียณ ด้วยอายุที่น้อย มีความรู้ อาจจะไม่ถึงกับเลิกทำงาน แต่ไม่ต้องอดทนทำงานหาเงินแบบสุดๆจนถึงตอน 50++
ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้รีบหาให้มากด้วยกำลังที่มี
ผมเคย FIRE มาแล้วครับ แต่เมื่อคนสำคัญในชีวิตเจ็บไข้ได้ป่วย มันจำเป็นต้องเอาเงินส่วนนั้นมาดูแลรักษา วัยรุ่นยุคนี้ FIRE ได้ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ระหว่างทางอย่าละเลยคนที่เลี้ยงดูเรามา
+1
เข้าใจเลยครับ
ขออนุญาตถามเพิ่มเติมครับ ในกรณีตอนนั้นได้ทำประกันอะไรไว้ปิดช่องโหว่ทางการเงินไหมครับ เพราะเท่าที่เคยได้ยินมา หลายคนแนะนำให้ทำประกันต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดกรณีแบบนี้นี่แหละครับ
หรือว่าทำประกันแล้ว แต่ก็ยังเอาไม่อยู่?
+1
@@walden8042 ไม่เลยครับ
อายุ30ปีมันจะไวไปหน่อย มันทำให้ตึงมากเกินไป สัก40ปี ยังพอเหมาะไม่ตึงมาก 30ปียังออกจากรั้วมหาวิทยาลัยไม่เท่าไร อย่าลืมตอบแทนหยิบยื่นให้สังคมด้วย
ผมอายุ 24 ค่อนข้างชอบแนวคิดนี้ และมองไม่เห็นว่าในอนาคตถ้าหากไม่ลงทุนจะมีรายได้จากไหนมาเลี้ยงชีพได้เพียงพอด้วยกลไลของระบบทุนนิยม ของแพงขึ้นรายได้ตามไม่ทัน
Barista F.I.R.E🎯
ใช้แบบมีเหตุผล หาเพิ่มไม่ใด้ก็หาทางประหยัดในสิ่งที่สงผลกระทบด้านลบของชีวิตให้มากเท่าที่จะทำใด้ แต่ที่สำคัญที่สุด คือความรู้ครับ หาความรู้ในทุกๆด้าน ของการใช้ชีวิต ของตัวเราเอง รู้เรื่องรถ บ้าน และอื่นๆที่จำเป็นใชีวิต ความรู้อาจจะทำเงินให้เราไม่ใด้ แต่จ่ายน้อยลงใด้ชัดเจนครับ
ปัจจุบันผมอายุ 32 ทำงานประจำบริษัทใหญ่ในไทยที่เพื่อนๆ มองว่ามั่นคง ทำอาชีพเสริมควบไปด้วยแต่ก็ไม่ค่อยมำรายได้เท่าไร เก็บเงินอย่างเดียวเลยครับ ไม่ซื้ออะไรที่เป็นภาระเลย เพราะอายุ 35 ไม่อยากทำงานประจำ ไม่ใช่เพราะอยากรวย หรือไม่อยากทำงานนะครับ แต่ตอนนี้ต้องยอมรับเลยปัญหาเรื่อง Hierarchies และเรื่องของการที่จะต้องเสี่ยงดวงเรื่องถูก bully ในที่ทำงาน วัฒนธรรมการตัดแข้งตัดขา ที่ทำให้อยากหยุดเป็นลูกจ้างประจำ Hierarchies ถูกใช้อย่างไม่ถูกต้อง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ตัวงานมันไม่เคยมีปัญหาครับ ปัญหามาจากคนล้วนๆ ที่ทำให้อยากหยุดทำงาน เก็บเงินเยอะๆ ลงทุน ทำงานที่เราได้ทำงานจริงๆ และไม่มีลูก เพราะจะต้องเตรียมพร้อมกระโดดออกจาก toxic working environment เสมอ
เห็นด้วยมากค่ะงานไม่ได้มีปัญหาเลยเพื่อนร่วมงานต่างหากที่ทำให้เราไม่ไปต่อ
ไม่เชิงไม่ทำงานหรอกครับ ถ้ามีอิสระทางการเงินตอน30มันจะทำให้เรามีเวลาหางานที่ชอบได้ แล้วถ้าได้งานที่ชอบจริง บางคน70ยังไม่เลิกทำเลย
เป็นเรื่องดีมากเลยครับ ตื่นรู้ตั้งแต่วัยต้นๆของช่วงชีวิต มันดีมากๆ หาเงินเก็บเงินตั้งแต่ตอนเรียนกันไปเลยครับ 💓😊
ผมก็วางแผนไว้แบบนั้นนะ ตอนนี้อายุ 20 คิดจะทำมาตั้งแต่ 2 ปีก่อน
ผมมาถูกทางล่ะครับผมออม 80-85%ต่อเดือนทุกๆเดือน
วิธีนี้มันมาจากอเมริกา ประเทศที่ตลาดหุ้นเป็นตลาดกระทิงสุดๆมาตั้งแต่2008 และมีหุ้นมากมายที่จ่ายปันผลเป็นรายไตรมาส fire ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดการลงทุน หรือสอนว่าต้องลงทุนแบบไหน เพียงแต่บอกว่าให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่จ่ายปันผลปีล่ะ4%และหวังส่วนต่างราคา แต่ในความเป็นจริง คนจากประเทศด้อยพัฒนาหรือกำลังพัฒนาจะทำได้ยากเพราะตลาดหุ้นอาจไม่มีประสิทธิภาพมากเท่า
ตลาดหุ้นไทยมีหุ้นที่เป็นเจ้าตลาดแข็งเเกร่ง จ่ายปันผลดี แต่จ่ายสิ้นปี หรือปีล่ะ2ครั้ง ตัวที่จ่ายทุกไตรมาสมีน้อยมาก และที่สำคัญคือ ตลาดหุ้นไทย sideway ออกข้างกรอบใหญ่ๆมาตั้งแต่2013แล้ว
magin call
4% เพียบครับไม่ได้ยาก
ขยายความได้ละเอียดดี
บางคนถ้าสมัยวัยรุ่น เขาสามารถหาเงินได้มาก เช่น ถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง รวยจากคริปโต หุ้น ฯลฯ หาช่องทางที่จะมีรายได้เยอะๆ ได้สมบัติมาจากพ่อแม่
หรือเป็นยูทูปเบอร์ดังๆ อ๊ปป้าดาราเกาหลี มีเงินหลักสิบล้าน
อายุ 30 เขาก็เลิกทำงานได้
แต่ไม่ใช่ทุกคน อนาคตไม่แน่ไม่นอน ถ้าบังเอิญเงินหมดตอนแก่จะเอาแรงที่ไหนมาทำงาน
แต่คนส่วนใหญ่ 80% อายุ 45-50 ยังไม่มีเงินเหลือเก็บพอที่จะเลิกทำงานได้
ผมเกษียณตัวเองมาตั้งแต่ 2014 ตอนนี้ผมอายุ 40 คับ 😃
เห็นด้วยกับคุณเคนครับ F.I.R.E อาจไม่ใช่เหมือน concept ที่พูดถึง แต่เหมือนเราสามารถ balance ชีวิตส่วนตัวกับงาน ในสัดส่วนเท่าไร ยิ่งพออายุมากเราอาจจะให้เวลาส่วนตัวมากขึ้น ดูแลครอบครัว สุขภาพกายใจ ทำในสิ่งที่รักมากขึ้น ผมยังนึกไม่ออกว่าจะอยู่เฉยๆ ไม่ทำงานได้ทำได้อย่างไร คงเครียด เพราะไม่ได้คิดฝึกฝนสมองตัวเองให้คิด แก้ไขปัญหา หรือเผชิญสถานการณ์ที่หลากหลาย เที่ยวสนุกแต่ก็เหมือนไม่มีความสุข เคยมีวันหยุดยาวหลายๆวัน ยังเบื่อ อยากรีบกลับไปทำงานเลย
เรารู้สึกว่าคนที่ชอบอยู่โดยไม่ทำงานมากกว่าที่แปลก เพราะปกติของการเกิดมาเป็นคนมันคือการทำงานส่วนนึงไปพร้อมกับให้เวลาในการสร้างความสุขอื่นส่วนนึง ชีวิตคนทั้งหมดมันมีเท่านี้
คนที่ไม่ทำงาน จะเป็นปกติที่จะรู้สึกว่าตัวเองไม่สมควรอยู่ต่อไปอีกด้วย
ท้ายที่สุดถ้าสบายเกินไป ไม่ต้องทำสิ่งที่เรียกว่างานเลย คนปกติมันอยู่ไม่ได้แหละฮะ
เราเคยคิดตั้งแต่เด็กๆ เลยว่า อยากทำงานเรื่อยเปื่อย เดินทางไปเรื่อยๆ 🥳🤩
ถ้าทำงานแล้วมีความสุข ใครจะไม่อยากทำ แต่ที่ไม่อยากทำ เพราะต้องทำเพราะเงิน ต้องทำเพราะไม่มีทางเลือก ต้องทำเพราะโดนสภาวะบังคับ เราไม่ได้อยากเลิกทำงาน ตั้งแต่ยังอายุน้อย แต่เราอยากเลือกงานได้ เลือกว่าจะทำอะไร ไม่ทำอะไรได้
อยากเปิดร้านอาหาร ชอบทำอาหาร แต่ตอนนี้ก็ต้องทำงานประจำไปก่อนสร้าง passive income เพียงพอดูแลครอบครัวได้ เมื่อไหร่ก็จะออกไปทำงานที่อยากทำจริงๆ ทำแบบไม่กดดันตัวเอง ทำงานแบบมีความสุข
คำว่าเกษียนคือพอแล้วเรื่องเงิน แต่ก็มีเงินได้แบบpassive มีเงินงอกเงยเรื่อยๆ แต่ห้ามอยู่เฉยๆเป็นอันขาด จิตใจจะห่อเหี่ยว ให้ทำกิจกรรมใหม่ๆ หรือกิจกรรมเดิม ที่มีอิสระ ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินอีกต่อไป
มัน จะโยงไปปัญหาเด็กไม่เกิดด้วยพเพราะ fire ส่วนมากแล้ว จะไม่มีลูก เพราะจะต้องหาเงินต้นมาทำ4เปอเซนมากเกินไป และเสี่ยงต่อค่าใช้จ่ายที่คุมไม่ได้
อืม ใช่เลย
ขอแสดงความคิดเห็นด้านลบ 1 อันนะ มันจะมีคนหรือกลุ่มคน กลุ่มทุน ที่ไม่อยากเห็นคน มีอิรภาพทางการเงิน การทำงานการใช้ชีวิต อย่างที่ต้องการ เพราะกลัวขาดแรงงาน ขาดคนมาทำงาน เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งของเค้า หรือมาทำงานรับใช้เค้า ให้ใช้ชีวิตสวยหรูอยู่สะดวกสะบาย
วัย 30 เป็นวัยที่มีครอบครัว เลี้ยงพ่อแม่ ค่าใช้่จ่ายเยอะมาก ทั้งค่าบ้านรถ บัตรเครดิต เก็บเงินสัก 10-20 % ก็เก่งแล้ววววววว
สำหรับตัวเองวางแผนเกษียณไว้อายุ52 ปี เพื่อจะได้มีอิสรภาพทางการเงินต้องการทำงานโดยไม่เน้นรายได้ ใกล้ความจริงแล้ว✌️✌️✌️
ชอบคุณเคนมากๆๆ มีสมอง มีเสน่ห์ แม้ดูโหดเล็กๆ ชื่นชมมากครับ การนำเสนอเนื้อหา
อิสระทางการเงินให้ไว ทำงานที่ชอบที่รักก็จะไม่รู้สึกว่าเราเอาเวลาไปแลกเงิน ดีค่ะตื่นรู้ไว 40ค่อเที่ยวยังมีแรงอยู่
ชอบแนวคิดนี้
เห็นในโซเชียลหลายๆความเห็น พอได้ยินคำว่าประหยัดอดออม จะเกิดแรงต่อต้าน รู้สึกเหมือนเป็นคำต้องห้ามยังไงก็ไม่รู้
การนำหลักการประหยัดมาแต่งตัวให้ใหม่ ให้มันเป็นเทรนที่ดูใหม่ขี้น ผมถือว่าดีมากเลย
แนวคิดนี้ เอาจริง มันไม่ค่อยจะใหม่ มันเป็นภาคต่อจากการที่วัยรุ่นยุคก่อนนี้จนยุคนี้ฮิตรีบทำงานเก็บเงินกันตั้งแต่อายุน้อยอยู่แล้ว คนพากันคุยเรื่องนี้กันอยู่แล้วฮะ อาจจะต้องหาโซเชียลกลุ่มใหม่ 😂
สำหรับผมไม่มีคำว่าเกษียณอยู่ในหัวเลย ตอนนี้ 32 แล้ว ผ่านมาหมดแล้วทั้งช่วงพีคและช่วงหมดไฟ แต่พยามปรับตัว จนมีความสุขกับการทำงาน เลิกงานก็หารายได้เสริมอีก
ใช้วีวิตแบบเสี่ยงมากถ้าทำแบบนั้น อย่างเช่นตอนนี้เลยเรื่องเงินเฟ้อ มีเงินเยอะแต่มูลค่าน้อยลงเพราะเราต้องพึ่งพาพลังงานต่างชาติมากเกินไป เรากำลังจะล้มไหม พอมานั่งคิดดูว่าเรามีทุนสำรองเยอะมากน่าจะผ่านไปได้ แต่คิดว่าเศรฐกิจโลกจะรอดไหมอยู่ในกำมือปูตินแล้ว
เราคนหนึ่งที่เป็นคนเก็บเงิ้นเข้มข้นมากๆ
อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเสีย
มีการบันทึกรายระเอียดการใช้จ่าย
สรุปยอดสิ้นเดือน
แล้วมาพิจารนาว่าตัวเองเสียเงินไปเพราะอะไร
ก็มาปรับนิสศัยตัวเองไม่ให้ฟุ่มเฟือยมากจนเปีนไป
สมัยเรียนมหาลัยต้องให้ตัวเองมีเงินเก็บ5_6หมื่นบาทต่อปี จนเพื่อนๆบอกว่าจะเก็บไปทำอไรมากมายหัดใช้ชีวิตบ้าง😅
สำหรับเราวัยอายุสามสิบต้นๆ คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีเพราะเราไม่รุ้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไร อย่างน้อยก็ต้องมีเงินเก็บไว้สำรองฉุกเฉีนบ้างแหละ เช่นพ่อแม่ พี่น้องญาติ มีความจำเป็นขื้นมาเราก็ต้องช่วยยิบยื่นแน่นอน ซึงมันเป็นไปไม่ได้หรอกคะที่ไม่ช่วยพวกเขา
แต่เราเองก็ไม่ควรจะสุดโต่งมากๆจนเกีนไป ก็หาเวลาออกไปconnectกับเพื่อนกับสังคมบ้าง
เปิดหูเปิดตา ไปเที่ยวห้างหาหนังสือดีๆมาอ่านอะไรงี้ก็ดีนะคะ
ขอบคุณสำหรับช่องนี้นะค่ะ
มุมของเราที่เป็น พนงบริษัทและทำอย่างอื่นไม่เป็น เราอยากเกษียณให้ได้ไวที่สุด คาดว่า40 or 40+ คิดเสมอว่าพนงบริษัทrelyกับบริษัทมากเกินไป ในเมื่อเราเป็น owner, entrepreneur ไม่ได้ ก็มีแววโดนเด้งได้ทุกเมื่อ ในหลายๆองค์กรที่เราทำมา คนรุ่นใหม่ อายุน้อยมีสัดส่วนมากกว่ามาก (จ้างเด็กดีกว่าจ้างแก่และแพง) ดังนั้นการเร่งเก็บเงินให้ได้ไวน่าจะเป็นการ secure ตัวเองได้มากที่สุด เราไม่ได้มายด์เรื่องการไม่อยากทำงานนะ แต่บางทีงานอาจไม่มีให้ทำจนถึงวันนั้น
อยากทำงานไปเรื่อยๆมากกว่าครับ อยู่เฉยๆแล้วน่าเบื่อ
ผมพอเข้าใจค.รู้สึกคนที่เป็นพวกfireนะ แต่ในกรณีเศรษฐกิจแบบนี้ แต่ถ้าปกติผมไม่ค่อยเห็นด้วยสำหรับผม ผมรู้สึกว่ามันทำให้ขาดproductivity มากๆๆ คิดดูชนชั้นกลางหรือวัยแรงงาน เข้าตลาดเพื่อหวังเกษียรตัวเองเร็วๆ ประเทศที่มีชนชั้นกลางกับวัยทำงานที่เข้ามาในตลาดจำนวนมากเพื่อหวังรีไทล์ได้อย่างรวดเร็วประเทศนั้นไม่มีอนาคตคับ productivity ของประเทศหายหมด
ก่อนหน้านี้วางแผนเกษียณไว้ที่ 55 แต่ตั้งแต่เจอโควิต เจอสงครามรัฐเซียเข้าไป คาดว่าทำงานถึง 65 ดีกว่า กันเงินเฟ้อ กันพลาด หาเงินให้เยอะอีกนิด ตายก่อนเงินหมดยังดีกว่าเงินหมดแล้วแต่ยังไม่ตาย😀😀
ใช้4%เป็นไปได้ ถ้าเงินต้นมากพอและเงินต้นนั้นลงทุนได้ผลตอบแทนมากกว่า4%ต่อปี
จริงๆก็ไม่ใหม่หรอก ผมก็เก็บปีละประมาณล้านจากอาชีพเซลแมน อยู่หอพักถูกๆ ใช้ชีวิตโลว์โปรไฟล์ ใช้รถเก่าๆ ตั้งแต่ตอนอายุ 30 มาลงหุ้นและลงทุนอื่นๆ นี่ก็ผ่านมาสิบปีแล้ว จริงๆจะเกษียณก็ได้ แต่สุดท้ายก็เสียดายเงินเดือน ยิ่งช่วงโควิดเห็นอะไรที่น่ากลัวขึ้นเยอะ เลยขยับเป้าไป 45 มันเป็นแนวคิดจากตั้งแต่สิบกว่าปีก่อนจากหนังสือเล่มนั้นแหละครับ และอีกเล่มคือพ่อรวยสอนลูก
แค่ ltf rmf ก็ ปีละล้านแล้ว แต่ตอนนี้ให้แค่ 5 แสนเอง
@@kittymaomao1708 เลิกลงไปนานละครับสองตัวนั้น เอาไว้แค่หักภาษีที่ต้องจ่ายปีละเกือบสามแสนอย่างเดียว อย่าไปหวังได้อะไรจากมันมาก
@@zyntax77 ตอนนี้ ยังไม่ฟื้นเลย LTF เดิม, ตอนนี้เราเลือกลงแค่ RMF ที่ switch ได้ ขาลงเห็นสัจธรรม กองทุนรวม มันเป็นไฟลท์บังคับ ที่เหลือจากวงเงินที่หักภาษีก็ลงทุนเอง allocate ไปตามสถานการณ์
@@kittymaomao1708 ใช่ครับต้องจัดสรรปันส่วนกันไป ที่ลงไว้อีกอย่างคือที่ดินครับ ช่วงพอมีก็ไปจับไว้ราคาหลักแสน ตาม ตจว ที่พอมีทำเลศักยภาพ โชคดีที่ทำงานเซลเลยต้องเดินทางทั่วประเทศ เลยพอรู้เรื่องในพื้นที่ บางแปลงถือมา 10-12 ปี ผลตอบแทนเยอะกว่าลงทุนหลายๆอย่างเลยครับ
แล้วส่วนใหญ่ก็จะเข้ามาลงทุนด้วยเงินที่เยอะขึ้น ในขณะที่ประสบการณ์น้อย คิดว่าตัวเองรู้แล้ว ลงทุนเป็นเรื่องง่าย เชื่อกูรู้ที่ไม่มี trading record ทินี้ก็เข้ามาให้พวกระดับฉลามในโลกเขาดูด productivity ที่รีบสะสมมา ส่วนน้อยแหละที่อยู่ได้ ความโลภมันคุมยากและเม็ดเงินมีจำกัด
ใช้เลยครับยากมากที่เราจะสามารถเติบโตจากหุ้น
เรียบง่าย,ดูดี,ถูกต้องเลยค่ะ.เสียเงินซืัอความรู้....ความรู้ต่อยอดได้คร่ะ.น่ารักมาก..😊ตอนนี้เราทำสามงานน่ะ.อิๆ
ค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ค่าน้ำมัน ค่ากิน ให้พ่อให้แม่ ค่านมลูก ค่าแพมเพิส ค่าน้ำปลาซอส ซีอิ้ว ไข่ไก่
จะเอาจากไหนไปเก็บ 70%
จะออมแบบนั้นคุณต้องประหยัดสุดๆและอดทนแบบมีวินัยอย่างสูงมากๆ ความเพียรของมะนุดมันไม่เท่ากันครับ แต่สามารถทำได้ครับ ใครทำได้นี่เก่งมากๆ
ทำไปเพื่ออะไร พอทำไปแล้วต้องมานั่งสร้างชุดความคิด หลอกตัวเอง
ผมก็วางแผนว่าจะเกษียณตัวเองตอน 40-50ปีก็คือทุกวันนี้พยายามลดรายจ่ายและรักษาสุขภาพเพื่อไม่ให้ตัวเองจะต้องป่วยเข้าโรงพยาบาลในอนาคตปัญหาตอนนี้คือหารายได้ยากมาก
ยังไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้เลยครับ แต่ ใช้แนวคิดนี้มาตั้งแต่เริ่มทำงานเลย อยากจะเกษียณสัก 40 ตอนนี้เงินเดือนออกปุบ ใช้แค่ 10-20% ที่เหลือ แบ่งเก็บหมดเลย ลงทุน หุ้น กองทุน คริปโต เก็บสำรองฉุกเฉิน เดินทาง พยายามเดินเอา ถ้าระยะ 1-2โล ไม่ใช่รถ อาหารทำทานเองหมด ช่วยเรื่อง ค่าใช้จ่ายได้ไม่พอ คุมอาหาร + สุขภาพได้ดีด้วย แต่ส่วนตัวผม ไม่ได้คิดว่าอยากจะ ถึงขั้น ลาออกมาอยู่เฉยๆ แต่อยากสามารถมองว่าการทำงานเป็นแค่ การเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เฉยๆ อยากทำก็ทำไม่อยากทำ ไม่สนุกก็ลาออกได้เลยทันที ยิ่งทำงานสายโปรแกรมมิ่ง หากมองว่าทำเป็นงานจริงจัง มันมีความเครียดค่อนข้างเยอะ แต่พอปรับmind set ให้มองว่าเป็นการเรียนรู้ไปเรื่อยๆ มีความสุขมากกว่ามาก ครับ
กฏ 4% มันเหมือนแปลกๆ นะ
ที่เคยอ่านมาคือ กฏ 4% คือการตั้งสมมติฐานว่าจะเอาเงินเก็บทั้งหมดไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4% เพื่อเอามาใช้เป็นค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ เพื่อไม่กินเงินต้น แล้วก็สามารถมีเงินใช้ได้ตลอดไป
วิธีคำนวนคือ เอาเงินต่อเดือนที่อยากใช้ตอนเกษียณแล้วหารด้วย 4% (หรือคูณ250) เพื่อเป็น total เงินเก็บที่ต้องทำให้ได้ก่อนเกศียณ
เช่น อยากใช้เงินเดือนละ 3 หมื่น ก็ต้องมีพอร์ตลงทุนขนาด 30000*250 = 9 ล้าน ก็จะมีรายได้จากเงินลงทุนเพียงพอสำหรับให้ใช้ได้เดือนละ 3 หมื่นบาท
กฏ 4% คือต้องหาผลตอบแทน 7% ต่อปีครับ แล้วเอาออกมาใช้ 4%
ใช่เลยครับ ผมคิดแบบนี้ เลย ผมเก็บ 90%บางครั้งยอมกินน้อย อาหารราคาถูก ใช้ของใช้ลด50%ตอนลดสต๊อกสินค้า
@@paweemanee-in7890 อันนี้น่าจะแล้วแต่สายน่ะครับ ถ้าหาเผื่อเงินเฟ้อด้วยก็ใช่ ถ้าเอาแค่ใช้เฉยๆ ก็แค่ 4%
เอาจริงๆ เลข% เอาเท่าไหร่ก็ได้ แต่ essence ของมันคือ เก็บเยอะๆๆ แล้วลงทุนให้มี กำไรเพียงพอเลี้ยงชีวิต
ถ้ายังมีแรงก็อยากทำงานนะคะ ถ้าเจองานที่ชอบอยากจะทำไปเรื่อยๆนะ
เกษียณ 30+ นี่ต้องเก่ง อดทนสุดๆ แต่คงไม่ใช่ไม่ทำงานแต่ไปทำงานที่ตัวเองชอบ หรือ อยากลอง
ส่วนตัวมองไว้ 45 แต่ก็ทำงานไปเรื่อยๆละ แต่ไม่หักโหม อยากเที่ยวก็เที่ยว อยากทำงานก็ทำ มี choice
ม่ะทันละรอ 60 เลยละกัน😅..ส่วนตัวก็พอจะมีอิสระละล่ะ แต่เราชอบทำงานนะ ชอบหาคุณค่าให้ตนเอง และอยากให้อะไรกับสังคม ทุกวันนี้ทำงานแบบไม่ได้สนผลตอบแทน แต่สนอง passion
อัตราการเกิดคงลดน้อยลงมาก เพราะนี้ก็เป็นอยากกระเษียรไว
ผมว่าถ้าเกษียณไม่ทำงานก็เกินไป เสียดายควรมท่าทาย ชีวิต ผมคงเลือกทางงานบริษัทอะไร ชิวๆให้ได้เจอผู้คนมั้ง แต่มีเงินไม่เดือดร้อนดีกว่า
เรื่องของเขา เราไม่เกี่ยว
ชาติหน้ามีจริงเหรอ ทำงานไปจนตายก็ป่วยนะแบบนี้
@@lalisa2486 แล้วแต่คนนะ เคยนอนป่วย1 เดือน โคตรเบื่อ ถ้าทั้งชีวิตแบบ ชิลๆทุกวันอาจเบื่อได้ อันนี้หมายถึงเกษียณตอน 30นะ บางคนทำงานทุกวันๆก็เบื่อ พักทุกวันๆก็เบื่อได้แหละ 55555 ดูอย่างตัวอิจฉาละครไทยซิ เดินห้างแต่งตัวทุกวันคิดว่าจะเบื่อไหม มี balanced ดีสุด
รายการดีมากๆพูดจังหวะจะโคลนดี น่าฟังลื่นหู ให้แนวคิดกับเยาวชนคนรุ่นใหม่หรือคนที่เพิ่งมาฟังได้ดี
ชอบแนวคิดนี้ครับ การวางแผนแบบนี้ มันบ้าบิ่นดีครับ
ผม All-in bitcoin ปี 2019 ตอนนี้เกษียณแล้วครับ
ขออำนาจอธิปไตยทางการเงินจงสถิตแด่ท่าน🕊
จุ๊ๆ ไว้พี่ มีคนไม่รู้อีกเยอะ
อยากมีโมเม้นแบบเสี่ยมีนจัง พยายามต่อไปฮับ อึ๊บๆ อิอิ
@@zepheno7704 ปี2019 อออิน แล้วถอนออกมาปีไหนอะ
รายได้และสวัสดิการบ้านเราอาจจะไม่ตอบโจทย์การทำแบบนี้คับ แต่เป็นแนวคิดที่ดีคับ
เคยใช้วิธีในการเก็บเงินปิดหนี้ให้ที่บ้านค่ะ พอได้เงินจำนวนหนึ่งมา ก็จะแบ่งเงินออกไว้ใช้แต่ละสัปดาห์ที่เหลือเก็บเงินหมดเลย ปิดหนี้ได้ไวมากๆ
รุ่นพี่ผมอายุ32. กำลังจะหยุดทำงาน ซื้อที่บ้านนอก. ในปลายปีนี้ ผมก็จะตามไปใน10ปีข้างหน้าเช่นกัน
วินัยเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่จะพาเราก้าวไปถึงเส้นชัยได้ วัย50 ทำได้และมีอิสระภาพพอที่จะไม่ทำงานก็ได้ เลือกที่จะทำงานในแบบของเราและเป็นงานที่เรารัก เราคือคนที่ถึงเส้นชัยแล้ว
ฟังแล้วผมคิดถึงวิธีการ ลดน้ำหนัก😅
เปนไปได้ยาก เกิดมาทำงานแค่กี่ปีเอง เเล้วต้องรายได้มากๆ ถึงทำได้ … เกษียณ 40 ยังพอเป็นไปได้
ทำงานเอกชน แข่งขันสูงๆ รายรับสูงๆ มาตั้งแต่จบใหม่ พอ 30 ปุ้บ เราตัดสินใจ FIRE แต่ทำโดยการ เปลี่ยนมารับราชการ (คือ รายได้ลดมาก แต่สโลไลฟ์มาก) ก็แฮปปี้นะ มีจ๊อบเสริมมีรายได้พอ เงินและสวัสดิการก็ดี (สวัสดิการดีมาก แต่เงินสู้แบบเดิมไม่ได้นะ) แต่มีเวลาไปให้ครอบครัวและใช้ชีวิตตัวเองมากๆ
เหมือนกันครับ
ไม่ใช่ fire อ่ะถ้ายังทำงานรับเงินเดือน😹
@@Hibabybehappy อ่าวหรอคะ งั้นคงยัง เพราะเราเข้าใจว่า แค่ไม่ต้องทำงานที่ต้องฟาดฟัน คิดแต่เรื่องตัวเงินเยอะๆให้ปวดหัวก็คือใช่แล้ว (บางคนเลือกทำแบบนี้โดยการลงทุน แต่เราไม่เลือก เพราะไม่ถนัด) งั้นถ้านั่งกินเงินเก็บอย่างเดียวเรียก fire เราคงไม่ fire ไปตลอดชีวิตอ่า ทำไม่ได้จริงๆ ชอบแบบไม่เครียดมาก แต่ยังได้มีอะไรให้คิดเล็กๆไปตลอดชีวิตมากกว่า 🤣
ส่วนตัวคิดว่า คนที่หาเงินแล้วเก็บเงินได้เป็นล้าน คิดว่า 100% คงคิดหาเงินต่อยอดชัวร์ เพราะรู้วิธีการหาแล้ว หากเก็บเงินไว้แล้วนอนเฉยๆแล้วใช้แบบประหยัดสุดชีวิต ประเด็นคืออยู่เฉยๆเพื่ออะไร?? คนทีชอบการนอนและรักสบายไม่มีทางถึงเป้าหมายที่สูงๆได้แน่นอน !!
"เงินมีไว้ใช้ ความสุขมีไว้เก็บ ความทุกข์มีไว้ปล่อย"
ใช่ค่ะ เก็บเงินไว้เฉยๆไม่งอกเงยนะคะ
เเละยิ่งรู้ช่องทางหาเงินเเล้ว สบายมากเลยค่ะ
กำลังทำอยู่
เราก็คิดอย่างนั้น ใช้ชีวิตตอนที่ไม่อยากทำงานประจำแล้วบ้าง
ผมเก็บเกิน 85%ต่อปีอีก
It's a great idea/concept but as you said, spending 4% of the amount saved each year is probably not how you want to retire. You have to be extremely frugal and that's not fun at all when you are older. I would say retiring at 30 is too extreme, I like how you said "a little fire" like retire at 40 instead of 30. That way you have more time to accumulate wealth and don't necessarily have to live so cheap that'll just be miserable.
Anyways Great Show, always watch morning wealth and secret sauce. From USA.
ผมว่า 4% ของทุกคนไม่เท่ากัน สิ่งที่สำคัญที่สุด แม้ต่อให้เป็น 4% แบบต้องอยุ้ประหยัด แต่สิ่งที่ได้มาคือ อิสระทางความคิด
@@NuiRattapon Dude, the person typed in English, u better reply in English. It’s not that difficult…
It's 4% of your entire saving not amount saved each year.
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ
เพราะที่USอยู่กับพวกคนมีอันจะกินอยู่กับพวกคนยิว นี่ยิวจริงๆ greedyมากเลย ตัวเองใช้ของ ดีดี มีราคา แต่กระเป๋าแห้งมากก็มี ค้างจ่ายชาวบ้านก็มี กระเป๋าเหนียวหนาแน่นมาก ไม่ยอมจ่ายออกง่ายๆ มีเรื่องมีราวติฉินนินทาชาวบ้านไปตลอดการbullyของเด็กตึงเครียดและเกิดขึ้นได้ตลอด เมื่อผู้ใหญ่ไม่มีวัฒนธรรม เด็กก็พลอยขาดการดูแลที่ดีไปด้วย ทั้งที่มีโรงเรียนที่ให้การศึกษาที่ดี แค่อย่าว่า ครูบาอาจารย์ก็เป็นกันทั้งประเทศ ก็ต้องมีคนที่ประหลาดเข้ามาอยู่ด้วย เมื่อผู้ปกครอง ครูอาจารย์ นร มีความคิดที่ประหลาด การควบคุมดูแลก็ย่อมวุ่นวาย เฮ้อ คนหนอคน มิฉะนั้นประเทศมันจะจวนพีงได้ไหมล่ะ
@@u2hotty its not so difficult at all. Just afraid that until then you cannot understand at all !😓
ตั้งใจเกษียรไม่เกิน 37 max สุดๆ 40 ตอนนี้ บาทสองบาทเก็บหมดค่ะ เพราะส่วนตัวลำบามาแต่เด็กๆ การมีเงินเยอะ และไม่มีหนี้สิน คิดว่าเพียงพอเเล้ว และหันไปออมเงินด้าน กรมธรรม์ จึงจะมีเงินเก็บ
จริงค่ะ
ไม่มีว้นหยุดทำงานครับ เพื่อชีวิตที่มีค่า สมองจะฝ่อ เเละ กลายเป็นคนที่ไม่มีเเรงกระตือรือล้นเพื่อให้มีชีวิตถึงวันพรุ่งนี้
ผมเกษียณตอนอายุ 27 ตอนนี้ 32 นั่งดูคนอื่นตื่นแต่เช้าไปทำงาน😂🥲😌😌😊😊😊😌😌
อิจฉาจัง
FIRE ผมปีหน้า เพราะอายุ 60 พอดี แต่เป็น ไฟ วาบสุดท้าย
Batista FIRE คือเป้าหมายหลัง 30 เลยค่ะ part time เกลื่อนเลย ในสายอาชีพตัวเอง
มีงานที่ชอบทำ มีกิจกรรมที่ชอบทำ เเละไม่รู้สึกเบื่อ อยากหยุดหยุดได้ อยากพักพักได้ ภาระทางการเงิน รับผิดชอบได้เเบบสบายๆ = เกษียณ ครับ
อยากให้ทำแนวทางแบบเกษียณ 30,40,50,60 ปี ว่ามีช่องทางไหนบ้างและต้องทำตัวแบบไหน
หาอะไรมา คิดต้องสอดคล้องความเป็นจริงด้วบ นอกจากเกิดมาที่ครอบครัวรวยมากๆ หรือหาแฟนรวยเท่านั้น
ตอนนี้อายุ 31 มีบ้านเช่า 7 หลัง กำลังจะชื้อหอพัก อพาร์ทเม้นท์ให้เช่า ตั้งเป้าเกษียณ 35ปีครับ
พี่มีแฟนรึยังครับ
@@ifrangifrang 😆😆
เกษียณอายุ 20 ตั้งแต่ยังไม่ทำงานเลยครับ(หนีงานออกบวช) ไม่ทำงานประจำ ไม่ต้องเรียนจบ ป.ตรี ไปเรียนทางธรรมแทน ชีวิตไม่ต้องสู้อะไรมากทำงานในทางศาสนาแทน
ถ้าต้องการให้พระมีงาน ไม่อยู่ว่าง ต้องดึงโรงเรียนกลับเข้าวัด จะเป็นโรงเรียนศาสนาแท้จริง แบบอิสลาม สอนอบรมตั้งแต่อนุบาล การบริหารจัดการมี ฆราวาส เป็นผู้ดูแลในรูปแบบมูลนิธิ เรียนฟรีแบบ แท้จริง
เบื้องต้นรับเฉพาะ เด็กชายก่อน
ขออนุญาตขำแนวคิดนี้
บุญไม่มี บวชไม่รอดหรอก ไม่ง่ายขนาดนั้น บวชไปก็ลำบากได้
ควรสอนให้คนร่ำเรียนสร้างผลงานให้คุ้มกับชีวิตที่เกิดมาจะถูกกว่า แล้วสอนการออมไว้ตอนที่ทำงานไม่ไหวแล้วต่างหาก ถ้าสอนให้มุ่งเป้าหยุดทำงานตั้งแต่ 30 แล้วเที่ยวนั่งกินนอนกินไปวันๆจนถึงตาย เด็กเยาวชนจะไม่มีใครอยากศึกษาเล่าเรียนอะไรจริงจัง ประเทศจะขาดแรงงานระดับยากขั้นสูง ผู้เชี่ยวชาญ นักคณิตฯ นักวิทย์ นักวิจัย ทำงานศึกษาค้นคว้าสร้างผลงานอะไรต่างๆ แต่ไปนั่งเล่นหุ้นลงทุนหวังเกษียณตั้งแต่หนุ่มสาวแล้วเที่ยวกัน มีน้อยมากไม่ถึง 1% ที่ทำได้จริง ที่เหลือทำไม่ได้แล้วชีวิตจะแย่เพราะวิชาชีพปกติไม่ดีไม่เก่งเพราะไม่สนใจเรียน
เมื่อมีครอบครัวจบข่าวเลย