Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
กราบอนุโมทนาบุญสาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุครับ
สาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆในธรรมคำสอนเจ้าค่ะ
สาธุๆๆ อนุโมทามิค่ะ🙏🙏🙏
🙏🙏🙏
Luang Ta Siri❤
น้อมกราบ มะของหลวงตาสาธุครับ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
กราบ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
สาธุครับๆ
🙇🙇🙇น้อมกราบสาธุค่ะ🙇🙇🙇😇
กราบอนุโมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
สาธุๆเด้อ
รักและศรัทธาท่านมาก กราบสาธุครับ
สาธุสาธุสาธุอนุโมทนาบุญด้วยนะครับวันนี้
สาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุสาธุสาธุขออนุโมทนาบุญในธรรมะของหลวงปู่เจ้าค่ะ
สาธุครับ
ขอกราบนอบน้อม...พระอริยสงฆ์เจ้า
สาธุ
สาธุ สาธุ สาธุ
พระธรรมเทศนาตรงต่อ มรรค ผล นิพพาน สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
อนุโมทนาสาธุครับผม
กายที่ ๓พิจารณาสัมปชัญญะ...กายที่ ๔พิจารณาปฏิกูล...กายที่ ๕พิจารณาธาตุ...กายที่ ๖(พิจารณานวสีวถิกา)พิจารณาเห็นสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า ตายมาแล้ว ๑ วัน ๒ วัน ๓วัน ...กายที่ ๗พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า ที่ฝูงสัตว์ต่างๆกัดกินอยู่บ้าง ...กายที่ ๘พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก ยังมีเลือดและเนื้อยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่ ...กายที่ ๙พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูกยังเปื้อนเลือดแลต่ปราศจากเนื้อแล้ว ยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่...กายที่ ๑๐พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก แต่ปราศจากเลือดและเนื้อแล้วยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่...กายที่ ๑๑พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก ปราศจากเส้นเอ็นผูกรัดแล้วกระเรี่ยรายไปในทิศน้อยทิศใหญ่...กายที่ ๑๒ พิจารณาสรีระที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นกระดูกสีขาว เปรียบด้วยสีสังข์...กายที่ ๑๓พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นกระดูก กองเรี่ยราย เก่าเกินปีหนึ่งไปแล้ว...กายที่ ๑๔พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้าเป็นกระดูกผุละเอียดแล้ว...เธอย่อมน้อมเข้ามาสู่กายนี้แหละว่า ถึงกายอันนี้เล่าก็มีอยู่อย่างนี้เป็นธรรมดาคงเป็นอย่างนี้ไม่ล่วงความเป็นอย่างนี้ไปได้ดังพรรณนามาฉะนี้ หายใจออก ภิกษุย่อมพิจารณา หายใจเข้า เห็นกายในกายภายในบ้าง หายใจออก เห็นกายในกายภายนอกบ้าง หายใจเข้า เห็นกายในกายทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง หายใจออก เห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในกายบ้าง หายใจเข้า เห็นธรรมคือความเสื่อมในกายบ้าง หายใจออก เห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในกายบ้าง หายใจเข้า ย่อมอยู่ หายใจออก อนึ่ง หายใจเข้า สติของเธอตั้งมั่นอยู่ว่ากายมีอยู่ หายใจออก ก็เพียงสักว่าความรู้ในกายนี้ หายใจเข้า เพียงสักว่าอาศัยกายนี้ระลึกเท่านั้น หายใจออก เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว หายใจเข้า ไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรๆในโลกแล้ว หายใจออก ดูกรภิกษุทั้งหลายแม้อย่างนี้ หายใจเข้า ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ หายใจออกพิจารณากายที่เป็นบัญญัติ......กายพิจารณากายเป็นปรมัต...........ในกายจนเห็นกายนี้ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน (อนิจจัว ทุกขัง อนัตตา)สาธุ สาธุ สาธุขอความเจริญในธรรมจงมีแก่ทุกๆท่านพระสูตรนี้มีท่านพระอาจารย์สุรศักดิ์ สอนได้ดีที่สุด ครับ23/04/63 ...21.09-23.03 ...ROCK CITYHUNTER...
กราบสาธุธรรมหลวงตาเจ้าคะ
กราบสาธุครับ
สาธุๆๆ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุธรรมหลวงตาค่ะ
สาธุคะ
กราบอนุโมทนาบุญสาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุครับ
สาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆในธรรมคำสอนเจ้าค่ะ
สาธุๆๆ อนุโมทามิค่ะ🙏🙏🙏
🙏🙏🙏
Luang Ta Siri❤
น้อมกราบ มะของหลวงตาสาธุครับ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
กราบ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
สาธุครับๆ
🙇🙇🙇น้อมกราบสาธุค่ะ🙇🙇🙇😇
กราบอนุโมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
สาธุๆเด้อ
รักและศรัทธาท่านมาก กราบสาธุครับ
สาธุสาธุสาธุอนุโมทนาบุญด้วยนะครับวันนี้
สาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุสาธุสาธุขออนุโมทนาบุญในธรรมะของหลวงปู่เจ้าค่ะ
สาธุครับ
ขอกราบนอบน้อม...พระอริยสงฆ์เจ้า
สาธุ
สาธุ สาธุ สาธุ
พระธรรมเทศนาตรงต่อ มรรค ผล นิพพาน สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
อนุโมทนาสาธุครับผม
กายที่ ๓
พิจารณาสัมปชัญญะ...
กายที่ ๔
พิจารณาปฏิกูล...
กายที่ ๕
พิจารณาธาตุ...
กายที่ ๖
(พิจารณานวสีวถิกา)พิจารณาเห็นสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า ตายมาแล้ว ๑ วัน ๒ วัน ๓
วัน ...
กายที่ ๗
พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า ที่ฝูงสัตว์ต่างๆกัดกินอยู่บ้าง ...
กายที่ ๘
พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก ยังมีเลือดและเนื้อ
ยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่ ...
กายที่ ๙
พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก
ยังเปื้อนเลือดแลต่ปราศจากเนื้อแล้ว ยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่...
กายที่ ๑๐
พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก แต่ปราศจากเลือดและเนื้อแล้ว
ยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่...
กายที่ ๑๑
พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก ปราศจากเส้นเอ็นผูกรัดแล้ว
กระเรี่ยรายไปในทิศน้อยทิศใหญ่...
กายที่ ๑๒ พิจารณาสรีระ
ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นกระดูกสีขาว เปรียบด้วยสีสังข์...
กายที่ ๑๓
พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นกระดูก กองเรี่ยราย เก่าเกินปีหนึ่งไปแล้ว...
กายที่ ๑๔
พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า
เป็นกระดูกผุละเอียดแล้ว...เธอย่อมน้อมเข้ามาสู่กายนี้แหละว่า ถึงกายอันนี้เล่า
ก็มีอยู่อย่างนี้เป็นธรรมดา
คงเป็นอย่างนี้
ไม่ล่วงความเป็นอย่างนี้ไปได้
ดังพรรณนามาฉะนี้ หายใจออก
ภิกษุย่อมพิจารณา หายใจเข้า
เห็นกายในกายภายในบ้าง หายใจออก
เห็นกายในกายภายนอกบ้าง หายใจเข้า
เห็นกายในกายทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง หายใจออก
เห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในกายบ้าง หายใจเข้า
เห็นธรรมคือความเสื่อมในกายบ้าง หายใจออก
เห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในกายบ้าง หายใจเข้า
ย่อมอยู่ หายใจออก
อนึ่ง หายใจเข้า
สติของเธอตั้งมั่นอยู่ว่ากายมีอยู่ หายใจออก
ก็เพียงสักว่าความรู้ในกายนี้ หายใจเข้า
เพียงสักว่าอาศัยกายนี้ระลึกเท่านั้น หายใจออก
เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว หายใจเข้า
ไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรๆในโลกแล้ว หายใจออก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
แม้อย่างนี้ หายใจเข้า
ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ หายใจออก
พิจารณากายที่เป็นบัญญัติ......กาย
พิจารณากายเป็นปรมัต...........ในกาย
จนเห็นกายนี้ไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน (อนิจจัว ทุกขัง อนัตตา)
สาธุ สาธุ สาธุ
ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่ทุกๆท่าน
พระสูตรนี้
มีท่านพระอาจารย์สุรศักดิ์ สอนได้ดีที่สุด ครับ
23/04/63 ...21.09-23.03 ...ROCK CITYHUNTER...
กราบสาธุธรรมหลวงตาเจ้าคะ
กราบสาธุครับ
สาธุๆๆ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุธรรมหลวงตาค่ะ
สาธุคะ
กราบสาธุครับ
กราบสาธุครับ