ที่อ.ทวดเขียนไว้เหมือนเป็นการเล่นคำภาษาอังกฤษครับ วิชคิงบอกไว้ว่า "No man can kill me" แปลว่า ไม่มีมนุษย์ผู้ใดฆ่าข้าได้ เอโอวีนก็เลยบอกไปว่า "I am no man" หรือที่แปลตรงๆก็คือ ข้านี่แหละคือ'ไม่มีมนุษย์'ผู้นั้น ซึ่งเล่นคำเป็น ข้ามิใช่บุรุษ ด้วยครับผม
สำหรับผมที่ประทับใจสุดๆก็ Many that live deserve death. And some that die deserve life. Can you give it to them? Then do not be too eager to deal out death in judgement. For even the very wise cannot see all ends Aragorn พูดเบาๆว่า For frodoแบบเบาๆแล้ววิ่งเข้าใส่ประตูดำเข้าไปเปิดคนแรกเลย The ride of rohirrim. ฉากนี้ไม่มีไม่ได้จริงๆ
ผมสงสัย ทำไมในภาคสองต้องฝนตก แหม่กระทั้ง ใน ring of power ทำสงครามก็มีฝน มันส่งผลต่ออารมย์ หนัง ยังไงครับ หรือ เรื่องอื่น ฉากสงครามบางทีก็ชอบมีฝน ตกลงมา
พอกลับมาดู the hobbit อีกครั้ง ทำให้เข้าใจข้อที่ 2 ที่ แกรนด์ดาฟยิ้มทันทีที่โฟร์โด้อาสาไปทำลายแหวน เพราะว่าแกรนด์ดาฟอยู่มาตั้งแต่สงครามที่ปู่โฟร์โด้ไปช่วยกอบกู้อาณาจักรคนแคระใน the hobbit แกรด์ดาฟจึงรู้จักตระกูลโฟร์โด้ดีว่าเป็นตระกูลฮอบบิทที่กล้าหาญ แถมจุดเริ่มต้นคนที่เก็บแหวนอำนาจอันนี้ได้คือปู่ของโฟร์โด้ แสดงว่าแหวนมันเลือกโฟร์โด้แต่แรกอยู่แล้ว มัน amazing ตรง หนัง the hobbit ถ่ายทำทีหลัง lord of the ring อ่ะ แต่เรื่องราวของหนังมันเกิดก่อน แต่นักแสดงและผู้กำกับสามารถถ่ายทอดออกมาให้มันเหมือนกับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนได้ แล้วเป็นเหตุและผลสืบเนื่องมาถึง lord of the ring อ่ะโครตสุดยอด
ขออภัยในข้อมูลที่ผิดพลาดนะครับ ในช่วงนาที 3:52 จริงๆจามฉบับนิยายจะเป็นเอลฟ์ที่ชื่อกลอฟินเดลขี่ม้ามาช่วย ส่วนเอลรอนด์มีหน้าที่รักษาภายหลัง ขอบคุณทุกท่านที่คอมเม้นถึงข้อมูลที่ถูกต้องนะครับ
แหวนโดนทำลายด้วยความตั่งใจไม่ได้ครับ ไม่งั้น อิซิลดรูส์คงทิ้งแหวนไปแล้ว ให้เอลฟ์แอลรอนทิ้ง ก็อาจจะทำไม่ได้ ตามหนังสือนะครับ
เฉพาะฉะนั้นกอลลั่มmvp
โพรโด้จะตั่งใจทิ้งแหวนก็ไม่ได้เช่นกัน
หนังนี้เป็นเรื่องที่ผมยกให้เป็นอันดับ1ในใจผมตลอดกาลครับ
มันสุดจริงครับเรื่องนี้
ผมชอบฉากหนึ่งที่ อาราก้อนปลุกใจ ชาวบ้านวัยรุ่นที่ต้องสู้ศึกที่เฮมดีฟ ว่า อาราก้อน:ขอดูดาบเจ้าหน่อย เจ้าชืออะไร เด็กน้อยตอบว่า: ข้า Haleth บุตรแห่ง Hama ครับไต้ท้าว เขาว่ากันว่าเราทุกคนคงไม่พ้นคืนนี้ไปได้ เขาบอกว่าพวกเราหมดหวังแล้ว อาราก้อน: แล้วพูดว่า นี่เป็นดาบที่ดีนี่ Haleth บุตรแห่ง Hama " ความหวังยังมีเสมอ" และคำนี้ก็เป็นคติประจำใจผมมาตลอดว่าหากเราไม่สิ้นหวังอะไรก็ตามความหวังก็ย่อมมีเสมอ
ชอบฉากเดียวกันเลยค่ะ ฉากนี้ดีเเละประทับใจมากจริงๆ
ฟังแล้วน้ำตาไหล อินแบบไม่ต้องดูเพราะจำความรู้สึกได้5555 เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีอันดับ1ตลอดกาลในใจเลย
ฉากกษัตริย์เธโอเดนพูดปลุกใจเหล่านักรบโรฮันนี่ดูกี่ทีก็น้ำตาไหลเลย
+1 😄😄😄
ดูตอนนี้ นั่งน้ำตาซึม น้ำมูกไหล บนรถ ยังคงความรู้สึกไม่เปลี่ยนเลย
ชอบฉาก กองทัพบนหลังม้าแห่งโรฮาน
"สัญญาณไฟแห่งมินาซทีริส กระโจมไฟถูกจุด กอนดอขอความช่วยเหลือ"
"และโรฮานจะขานรับ"
ชอบมากกก ประโชคนี้
ที่อ.ทวดเขียนไว้เหมือนเป็นการเล่นคำภาษาอังกฤษครับ วิชคิงบอกไว้ว่า "No man can kill me" แปลว่า ไม่มีมนุษย์ผู้ใดฆ่าข้าได้ เอโอวีนก็เลยบอกไปว่า "I am no man" หรือที่แปลตรงๆก็คือ ข้านี่แหละคือ'ไม่มีมนุษย์'ผู้นั้น ซึ่งเล่นคำเป็น ข้ามิใช่บุรุษ ด้วยครับผม
ย้อนดูตลอดเลยค่ะ ฉากประทับใจเรายังมีอีกมากมายเลย เพราะมันเป็นหนังไตรภาคแฟนตาซี ที่ดีที่สุดสำหรับเรา แม้ในฐานะคนที่อ่านหนังสือมาก่อนด้วย การดัดแปลงนิยายมาเป็นบทหนังไตรภาคยังมีความเคารพได้ขนาดนี้ เราพอใจมากแล้ว เรื่องการชูผู้หญิง และให้บทบาทกับคนตัวเล็กๆ รึ เพื่อนที่เหมือนเป็นผู้รับใช้มากกว่าตัวเอก เหมือนเป็นวิสัยทัศน์อันก้าวหน้าของผู้แต่ง เจ อาร์ อาร์ ที่แม้จะใช้ชีวิต ในข่วงสงครามโลก แก่กลับแต่งนิยาย ที่ให้บทบาทผู้หญิงได้โดดเด่น กล้าหาญและงดงาม
บทเด่นของ เอโอวีน ไม่ใช่การดัดแปลงแบบของอาร์เวนนะคะ นิยายจริงๆก็เล่นกับคำนั้น ‘I am no man ’ ซึ่ง ถ้าบริบทตามนิยาย คือ ว่า ไม่มีมนุษย์คนไหนฆ่านาสกุล ได้ แต่ เล่นกับคำว่า ฉันไม่ใช่ผู้ชาย ผู้แต่ง แต่งเอง เราปลื้มมาก มันมีความ woke feminist แบบ เท่ห์มาก และไม่ได้ดูยัดเยียด นางทุกข์ระบม กับการเป็นผู้หญิงและถูกทิ้งเวลาผู้ชายไปสนามรบ แค่อยากปกป้องลุงผู้เปรียบเสมือนบิดา
นิยายเรื่องนี้ มันดีจริงๆ ละเอียดมาก ลึกซึ้ง สละสลวยงดงาม และ ปีเตอร์ก็ดัดแปลงบทหนังด้วยความเคารพ แถมงบสร้างถึง ไม่หั่นหนังจนเกินไป ได้ ถึง ไตรภาค เลย ได้ หนังไตรภาคอันลงตัว ที่เป็นอีกหนึ่งคำนานมหากาพ มาประดับวงการภาพยนตร์
เป็นคอมเมนท์ที่เยี่ยมมากครับ😊
จริงๆฉากที่ 1 ที่พูดถึงว่า Elven ถูกปรับบทขี้ม้าให้มาช่วยแทน Elron ที่มาช่วย Frodo จากพวก Nazgul จริงๆบทนี้เป็นของ Glorfindel ครับ เป็นเอลฟ์ชาวโนลดอร์ที่เกิดตั้งยุคบรรพกาล และตายในยุคที่ 1 จากการดวลตัวต่อตัวกับ Barlock และถูกส่งกลับมาช่วย Middle Earth อีกครั้งในยุคที่ 3 โดยเทพวาลาร์ นอกจากนั้นการมีคำพูดที่ว่า Witch King จะไม่ตายโดยน้ำมือของบุรุษใด ที่หลายๆตัวละครพูดกัน ร่วมถึงออกมาจากปากของ Witch King เองในฉากที่ 11 ก็เป็นคำพูดของ Glorfindel เอง ที่ทำนายดวงชะตาของ Witch King ไว้ เค้าเป็นเอลฟ์ 1 ใน 2 คน ที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่เคยอยู่ที่ดินแดนอัมตะวาลินอร์ อีกคนก็คือ Lady Galadriel
นั่นสิค่ะ ทำไม่ถึงว่าเอลรอน จริงๆในหนังสือคือ กลอฟินเดล กลอฟินเดลเป็นเอลฟ์แค่ไม่กึ่ตนในยุคที่สามที่นาซกูลเกรง
เป็นสิ่งที่แอดมินเข้าใจผิดเองครับ มีท่านอื่นมาอธิบายเพิ่มเติมไว้แล้ว ต้องขอบคุณนะครับ
@@Nungtidmuns ครับผม 😊
คาดว่าแอดมินวิเคราะห์แค่จากที่ได้รับชมจากภาพยนตร์เท่านั้นครับ ยังไม่ได้คิดถึงนิยาย ...ขาดมองข้ามเลยรายละเอียดเล็กน้อยเหล่าผู้ติดตาม/สาวก/แฟนนิยามและผู้เดนตาย เขามิยอมนะ ผมเองก็เช่นกัน เคยจับนิยายแค่สองสามหน้าแรกของเล่ม ก็ลงลึกซึมซาบไปทั้งจิตวิญญาณแล้ว เรื่องนี้คือส่วนหนึ่งของชีวิตผม อีกหนึ่งในความปฏิภาณปรารถนา คือการได้ครอบครองครบทุกเล่ม ทุกเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง และเป็นไปได้แหวนกับเข็มกลัด
@@Truthy-Women_always-hatred-men ไม่หรอกครับ พี่เค้าพูดผิดจริงๆ เค้าตอบกลับมาแล้วครับ
ชอบซีนในภาค2 จังหวะกำลังจะระเบิดกำแพง เธโอเดนกำลังได้ใจว่าพวกที่บุกทำได้แค่นี้เองเหรอ แต่อาราก้อนเหมือนกำลังเห็นว่าไอตัววิ่งไฟโอลิมปิก อันตรายแน่นอน ฉากนั้นประทับใจซีนวิ่งไฟและกลยุทธรบที่ศัตรูใช้สมองด้วยไม่ใช่ใช้แต่กำลัง มันเลยเป็นหนังที่ศัตรูไม่ได้มีแต่กำลังรบแต่มีสมองคิดวิธีเอาชนะเหมือนกัน ส่วนตัวยกให้เป็นไตรภาคอันดับต้นๆในใจเลยครับ
ชอบฉากที่ทหารถูกมังกรไล่ล่า.แล้วแกรนด์ดาฟขี่ม้าขาวไปช่วยส่องแสงไล่มังกร.ดูคลาสสิคเหมือนในเกมส์
นั่นคือ เฟลบีส ครับ ไม่ใช่มังกรครับ เฟลบีส พาหนะของเหล่านาซกูล
แกนดัล์ฟ หลายทีเหมือนรู้เรื่องอยู่แล้วเพราะตัวตนจริงๆ เป็นเทพไมอานามโอโลรินขององค์มหาเทพมานเว เห็นแก่ๆ งี้ สเกลพลังของลุงคือระดับเดียวกับเซารอนค่ะ ซารูมานก็เป็นไมอาเหมือนกันด้วยนะ ส่วนเรื่องการให้ซีนบทแซมและเอโอวีน ต้องยกความดีให้โทลคีนเลยค่ะ เพราะนิยายต้นฉบับปูบทสองตัวละครนี้มาแน่นมาก ศ.โทลคีน ตีพิมพ์ปี 1954 ก็คือล้ำในทางความคิดไปเยอะมากๆ
ประเด็นที่ว่าเหมือรูเรื่องอยู่แล้วนี่ ขออนุญาติยกเดอะเบส ให้เลดีการาเดรียลเลยค่ะ ของทุกอย่างที่นางมอบให้คณะพันธมิตรแหวน ได้ใช้เหมาะสมกับสถานะการณ์หมดเลย เตือนกิมลีเรื่องขวาน บรรดาลเมฆหมอกปกคลุมกองทัพ อีกสารพัด เลยเนาะ เยอะเลยค่ะ
พลังไม่เท่าเซารอนครับห่างกันค่อนข้างเยอะเลยเซารอนเป็นไมอาระดับสูง
รู้สึก มันติดขัดอยู่ที่ เทพ ๆมอาได้รับคำสั่งมา ไม่ให้ทำอะไรได้มากด้วยใช่ไหมครับ เป็นเพียงฝ่ายเสนาธิการ ถ้าจะเปรียบ
@@MY_PLAYGROUND212 โดนลดสเกลพลังลงครับ ไม่ให้มีอำนาจมากเกินไป เพราะถ้าพลังเยอะเกินไป อาจทำอะไรเลยเถิด หรือเข้าด้านมืดจะเกินรับมือ ดูแค่ซารูมานร่างพ่อมดยังสร้างปัญหาขนาดนี้
อย่าลืมตอนเทพลงมาสู้กับมอร์กอธครับ แผ่นดินพินาศไปหมด ถึงจะไม่รุนแรงเท่าแต่ก็เสียหายไม่น้อยแน่ถ้าแกนดัลฟ์มาเป็นร่างเทพจริงๆ
แกเป็นไมอาร์ที่ฉลาดที่สุดครับ เซารอนมันโหดที่สุดในเหล่าไมอาร์ ต่อให้แกอยู่ในร่างไมอาร์ก็สู้ไม่ได้
ชอบชื่อตอนแรก อาเวนน์ฝ่าทัพรับโฟรโด แล้วขำกลิ้งเลย คิดได้ไง จูล่งมาเต็มๆเลย ชอบมากๆครับ
ชอบฉากคบเพลิงโอลิมปิก ผกก.ใส่มาแบบขำๆ ฮาดี ค่ะ
ลิฟ เทเลอร์ สวยมากๆ ❤
ในหนังสือปิ๊ปปิ๊น กล่าวถึงการตายของโบโรเมียร์ ว่า "วีรบุรุษ อาจตายได้ ด้วย ธนู เพียงดอกเดียว แต่โบโรเมียร์ โดนยิงปรุไปทั้งร่าง ลูกชายท่าน สละชีพเพื่อช่วยชีวิต ข้าพระองค์ และ สหาย"
เขาทูลต่อ เดเนธอร์ มหาเสนาบดี
กอนดอร์ บิดา โบโรเมียร์
ฉากนี้ ในหนังมีนะครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าเวอร์ชันปกติมีมั้ย แต่ใน Extended มีครับ
@@memothebeginning4374 ใช่ครับในฉบับ อันคัต มีอยู่ แต่จะแบบรวบรัด นิดหน่อยครับ ในหนังสือ เหตุการณ์นี้จะอึดอัดและคุกรุ่นมากๆ ด้วย เดเนธอร์ เป็นคนที่ สุขุม และ ฉลาดล้ำ และ
ดู ทรงภูมิ น่าเกรงขามมากๆ ใกล้เคียงแกนดัล์ฟเลยในยามแสดงอำนาจ แต่ช่วงนั้นเขาเต็มไปด้วยความสูญเสีย และความสงสัย ความเสียใจจากลูกตาย มันทำให้เขาดูเคร่งขรึมน่ากลัวและน่าเห็นใจไปพร้อกัน เหตุนี้ทำให้ ปิ๊ปปิ๊น ถวายตัวรับใช้ ราชสำนัก กอนดอร์ เพื่อเป็นการ อุทิศแก่ แม่ทัพโบโรเมียร์ ผู้ล่วงลับด้วยครับ เดเนธอร์ ในหนังสือ ต่างจากในหนัง นิดหน่อย ตรงลักษณะส่วนตัว นี่ล่ะครับ
ในหนังดู แก่กะโหลกกะลา ไปนิดนึง ในหนังสือ เกือบทุกการกระทำของเขา มีเหตุผล แต่ก็เต็มไปด้วย ความทะนงพา
หลงผิด ยังดีที่ สกุลของเขาไม่ได้สิ้นสุดลง แต่ขจรขจาย ยิ่งใหญ่ขึ้นอีก จากลูกชายคนรอง ของเขา ฟาราเมียร์ บุตรเดเนธอร์ เจ้าผู้ครอง อิธิลิเอน ในยุคสมัย ของ เอเลสซาร์ ศิลาพราย
ฉากไหนดีหรือชอบที่สุดผมเลือกไม่ได้ แต่ถ้าเป็น speech คำพูดของแซมยังคงจำได้ดีถึงทุกวันนี้
"บนโลกนี้มีสิ่งที่ดีงามอยู่ท่านโฟรโด้ และมันคุ้มที่จะสู้เพื่อมัน"
5:56 ตอนโฟรโดเอ่ยปากอาสานำแหวนไปทำลาย แล้วภาพตัดมาที่ใบหน้าแกรนดัฟ ใบหน้านั้นบ่งบอกความรู้สึกได้จับใจสุดๆ
เป็นหนังที่ ตราตรึงใจมาก คือthe best สำหรับเราเลย ทั้งนักแสดง การเดินเรื่อง เพลงประกอบ คือที่สุด
คนที่ขี่ม้าไปรับ โฟรโด้ คือต้อง กลอฟินเดล อดีตผู้นำแห่ง house of golden flower ครับ ไม่ใช่ เอลรอน หรือในภาพยนตร์ ปรับเป็น อาร์เวน
ขอบคุณครับ ขออภัยที่ข้อมูลผิดครับ
คนที่มาช่วย โฟรโด ตอนโดนดาบมอร์กูลในหนังสือ คือ เอล์ฟยุคที่1 ที่กลับมาเกิดใหม่ครับ เขาชื่อ กลอฟินเดล ครับ แล้วพาไปหา เอลรอนด์ เอลรอนด์ เป็นเจ้าของ ริเวนเดลครับ เป็นเอลฟ์ชั้นสูงแต่ไม่ใช่ ราชา ครับ
เสียดายที่ไม่เห็นกรอฟินเดล แต่เหมือนทีมงานให้เหตุผลว่าเก่งเกินไป เดี๊ยวหนังจบเร็ว 555
@@pakawatfalan5688 ช่ายครับ ถ้ามี กลอฟินเดลนี่ สุดยอดมากๆเลย ผมชอบตั้งแต่เขา พลีชีพ ที่ กอนโดลิน แล้ว เขาเป็นคนทำนายด้วย ว่า ราชาขมังเวทย์ อังมาร์ จะไม่ตายด้วยน้ำมือ บุรุษใด แต่ถ้ามา แบบ อยู่กับ เอลรอนด์ ไม่ต้องไปก็ได้เนอะ แบบ มีบท ให้อยู่ในสภาเอลรอนด์ ก็ยังดี เพราะ คนที่ไปกับคณะ ก็เป็น เลโกลัส อยู่ แล้ว อันนี้ ด้วยความอยากเห็นเขาครับ 555 เอาแต่ใจนิดนึง
กลอฟินเดลเก่งเกินคับ เลยเปลี่ยน
เป็นจุดที่แอดมินยอมรับว่าเข้าใจผิดมาตลอดต้องขอบคุณด้วยครับ แต่พอได้ยินแบบนี้รู้สึกเลยว่าปีเตอร์ แจคสันนี่เก่งจริงๆ ที่เลือกให้เป็นอาร์เวน ทำให้เส้นรักของอารากอร์นชัดเจน และสร้างสีสันอีกแบบให้หนังผจญภัยได้
@@Nungtidmuns ใช่ครับ ผมดูหนัง ภาคนี้ ก่อนจะไปอ่านหนังสือ และ ชอบ อาร์เวน มากๆ รวมถึง ลิฟท์ เทย์เลอร์ ด้วย
ในหนัง ของ pj ทำออกมาตรงใจ แฟนๆ อันนี้ไม่นับ ฮอบบิท นะครับ 5555 แต่สนุกเลย และ ไม่บิดจนออกทะเล เกินไป
ใครอยู่กับแหวนนานสุดก็โดนครอบงำหนักหน่อย แซมได้ครองแปปเดียวก็เลยพอมีสติ ส่วนที่เหลือทั้งโฟรโด้ ทั้งกอลลัมและคนอื่น ๆเละครับ สุดท้ายทุกคนที่เคยใช้แหวนต้องเดินทางไปอยูดินแดนเทพ เพราะได้รับผลกระทบจากมัน
เพิ่มอีกฉากยอดเยี่ยม ที่แกนดัล์ฟตกไปในเหวกับเซารอนแล้วสู้กัน คือทั้งว้าวและไม่คิดว่าพ่อมดเราจะยอดรอด และสู้กันอย่างมันส์สุดๆ
อันนั้นไม่ใช่เซารอนครับ เป็นบัลร็อกที่มีอาวุธเป็นเเส้ไฟ
เล่าได้สนุกและเร้าอารมณ์มากครับ 👍👍
หนังมันช่วยส่งครับ ขอบคุณมากครับ
ชอบหนังเรื่องนี้ที่สุดในชีวิตจริงๆ มันสุดยอดมากก แบบที่เรื่องอื่นโค่นไม่ได้เลย
ชอบฉากเลโกลัส แข่งกันนับฆ่าศรัตรู กับกิมลี ที่ป้อมปราการเฮมส์ดีฟ
หนังอันดับ 1 ในใจ ถึงขั้นต้องไปตามอ่านหนังสือเลย
23:30 งั้นอิซิดูล ก็ไม่ได้ชั่วไปอย่างที่คนที่ดูหนังเรื่องนี้เผินๆเข้าใจ
(เพราะผมเป็นคนนึงที่รักกษัตริย์มนุษย์มาก) ตั้งแต่ กษัตริย์นูเมนอร์ ผมยังนึกเสียดายเลย
มีกองทัพที่เกรียงไกร จนรขชนะเซารอน
แต่กลับลืมทวยเทพ ไปนับถือ มอร์กอท
เสียดายมากครับ
และนับถือ อารากอน ที่กอบกู้ให้เชื่อกษัตริย์ตัวเองกลับมายิ่งใหญ่
(ทั้งการที่ปลดปล่อย กองทัพผี)
มาแก้คำสาป ร่วมกันสู้ในศึกที่หน้ามินาสธิริท 🤍
หนังเรื่องนี้มันจะเปนหนังสู้กันธรรมดาๆๆ ถ้าไม่มี สมีโก้ ตัวละครนี้ คือ ตัวสำคัญสุดๆ
เป็นตำนานไปแล้วคับเดอะlord of the ring ทำAvatarหน่อยคับพี่ เรื่องนี้ตำนานเหมือนกันคับภาค2กำลังจะมา
ตอนนั้นเปิดแผ่นนั่งดูแต่ละภาคสามสี่รอบ ชอบตอนไหนก็นั่งกอกลับไปกลับมา ชอบสุดคือภาค2 ตอนนี้แผ่นเปิดไม่ได้แล้วเสียดายมาก😭
พึ่งเคยเห็นช่องนี้ ประทับใจการวิเคราะห์มากกก กดsub เรียบร้อย
นี่ว่าการตัดฉากดี (แสงสีสโลว์โมชั่น) +กับการใส่ซาวด์เพลง ทำให้บิ้วอารมณ์ถึงที่สุดเลยอ่ะ
ฉากคิงเธโอเดน ยกทัพโรฮันมาช่วยกอนดอร์นี่ ผมยกให้เป็นที่ 1 ของผมเลยครับ
กลับกลายเป็นว่า คนทำธรรมดาสามารถควบคุมแหวนได้ แต่ไม่เสมอไปดูอย่างโฟรโด๊แบกแหวนมาทั้งเรื่องเกือบม๊องเท๊ง แต่มันทำให้คิดนะอำนาจเนี้ย เวลามันอยู่ในมือคนที่มีอำนาจมันยิ่งน่ากลัว
ในฉากเจ้าหญิงการาเดียลถือแหวนอะ สยองเลย
อำนาจมันน่ากลัวเสมอ
ชอบฉาก LOTR The Return of the King - The Ride of the Rohirrim ครับ ปลุกใจทหารให้สู้ กษัตริย์นำหน้า
ดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ
ดูซ้ำทั้ง 3ภาค ทุกๆปี ประทับใจมาก
ยุคก่อนยูทูบ เปนอะไรที่ ทุกอย่าง ต้องอ่าน จาก นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ☺
ฉากที่ 11ไม่ได้ทำเพราะยกย่องเฟมินิสปต่มันมีในบทประพันธ์อยู่แล้วครับ เพราะกลอฟินเดลเคยทำนายไว้ว่าพญาโหงแห่งอังมาร์จะไม่ตายด้วยน้ำมือของบุรุษใด
ขอบคุณครับ แต่เราอธิบายไว้ว่าในยุคสมัยที่โทลคีนแต่งก็ถือว่าเป็นแนวคิดที่ใหม่มาก
ยอดเยี่ยมเหมือนเดิมนะครับ เป็นกำลังใจให้สู้ต่อในเส้นทางที่เลือกนะครับ
เรื่องนี้ผมซื้อยกชุดเลยครับชอบมาก
Content ดีมากครับ ดูคลิปจบ เดี๋ยวต้องกลับไปไล่ดูตั้งแต่ hobbit 1-3 tlor 1-3 ใหม่เลยครับ -- แต่นิดนึงครับ เสียงพูดมันเดี๋ยวเบา เดี๋ยวดังครับ พี่คนขวาเสียงเบาไปหน่อยด้วย ถ้าปรับได้จะดีขึ้นเลยฮะ
ขอบคุณครับ จะปรับปรุงในคลิปต่อๆไป
เรียกว่าเป็นหนังคลาสสิคของยุคใหม่เลยก็ว่าได้ มันทั้งดีทั้งสามภาค ทำกำไรมหาศาล แล้วก็ยังได้ออสก้าเยอะอีก
สำหรับผมที่ประทับใจสุดๆก็
Many that live deserve death. And some that die deserve life. Can you give it to them? Then do not be too eager to deal out death in judgement. For even the very wise cannot see all ends
Aragorn พูดเบาๆว่า For frodoแบบเบาๆแล้ววิ่งเข้าใส่ประตูดำเข้าไปเปิดคนแรกเลย
The ride of rohirrim. ฉากนี้ไม่มีไม่ได้จริงๆ
เอาจริงๆตอนเห็นชื่อคลิปรีบกดเข้ามาดูเลย แต่พอเข้ามากลายเป็นคนดำเนินรายการสองคนมานั่งคุยกัน คืออยากดูฉากในหนังๆเต็ม ไม่ใช่หน้าคนทำคลิป ซึ่งมันทำให้คลิปหมดสนุก ซึ่งจริงๆแค่ใช้เสียงพากษ์ก็พอ
ขอโทษด้วยครับ ก็เป็นวิธีนำเสนอของช่องเรา ถ้าไม่สนุกก็ต้องขอโทษครับ
เล่าและวิเคราะห์ได้สนุกมากครับ แต่ละฉากคือฉากในตำนาน
ขอบคุณครับ ยังมีข้อมูลไหนที่ยังผิดอยู่ขอภัยนะครับ
ผมดู ไป เกิน 10 รอบแล้วครับ 11 ชม. ยาวๆไปเลย
ครั้งแรกที่ดู the lord คือหลับครับ แต่พึ่งมานึกได้ว่า นี่มันหนังมาสเตอร์พีซที่มาก่อนกาลชัดๆ
สนุกมากครับ
แต่ถ้าพูดถึง Hobbit ชอบเส้นเรื่องความรักของ Kili ❤️ Tauriel ฉากการตายของ Kili สะเทือนใจพออยู่
ฉากช้างมูคิคู คือที่สุด
ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านมานานเท่าไร มาเวลจะทำหนังอะไรมา หนังที่ดีที่สุดของผมคือ จักรวาลมิดเดิ้ลเอร์ท
เดี๋ยวจะกลับมาฉาย ในระบบ4K ชัดแจ๋ว
ฉากอารากอร์นบุกมอร์ดอร์ไม่ใช่ว่าไม่รู้อะไรเลยซะทีเดียว เพราะก่อนหน้านั้นที่ปิ๊ปปิ๊นขโมยศิลาพาลันเทียร์มาส่องแล้วอารากอร์นเอาไปส่องต่อเพื่อคุยกับเซารอน ทำให้เขารู้ว่าเซารอนคิดว่าปิ๊ปปิ๊นคือผู้ถือแหวน ทำให้ยังมีหวังเพราะโฟรโด้ยังไม่ถูกเจอตัว
จริงด้วย แต่ก็ต้องถือว่าอารากอร์นเด็ดเดี่ยวมากๆ
ฉากที่เอาแหวนวางกลางที่ประชุมเมืองเอลฟ์ในภาคแรก ยังมีมีมอยู่ทุกวันนี้เลย
ไปหา box set มาดูเลย เอาที่เป็นฉบับยาวนะ มีทั้งฉากที่ถูกตัดออกและเบื้องหลังการถ่ายทำแบบละเอียดยิบ ทรงคุณค่ามากๆ ควรเก็บสะสมใว้
มีเก็บสะสมทุกเวอร์ชั่นแหละครับ
ทำทรงหลักการที่แท้หลักหลวม
@เจริญสุข อธิบายเพิ่มเตืมหน่อยครับ
ปีเตอร์แจ็คสัน มีกลับมาทำหนังแบบนี้อีกไหมครับ
4:00 เส้นเรื่องตอนสุดท้าย แข็งแรงขึ้น
จะทำให้ตัวละคร Arwen เด่นขึ้น คนดูจะรักมากขึ้น ไม่ใช่แค่สวย เก่งด้วย มีค่า บทบาทมากขึ้น ในตำแหน่ง
ใช่เลยครับ กลายเป็นตัวละครที่คนรักข้ามกาลเวลา
ผมสงสัย ทำไมในภาคสองต้องฝนตก
แหม่กระทั้ง ใน ring of power ทำสงครามก็มีฝน มันส่งผลต่ออารมย์ หนัง ยังไงครับ
หรือ เรื่องอื่น ฉากสงครามบางทีก็ชอบมีฝน ตกลงมา
ในทางภาพนะครับ ฝนเป็นตัวบีบให้ซีนมีการเคลื่อนไหว บีบให้ซีนมีความอึดอัด ไม่สบายเหนื่อยสบายตัว เหมืนเวลาเราตากฝน อุปสรรคทางธรรมชาติ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนดูรู้สึกถึงความกดดันได้ อันนี้โรเจอ ดีกินส์ เคยพูดไว้ตอนทำ Prisoner เขาดีไซน์ให้มีฝนตกในซีนเพื่อสิ่งนี้ครับ
@@Nungtidmuns ขอบคุณมากครับ รักช่องนี้ที่สุด
พอกลับมาดู the hobbit อีกครั้ง ทำให้เข้าใจข้อที่ 2 ที่ แกรนด์ดาฟยิ้มทันทีที่โฟร์โด้อาสาไปทำลายแหวน เพราะว่าแกรนด์ดาฟอยู่มาตั้งแต่สงครามที่ปู่โฟร์โด้ไปช่วยกอบกู้อาณาจักรคนแคระใน the hobbit แกรด์ดาฟจึงรู้จักตระกูลโฟร์โด้ดีว่าเป็นตระกูลฮอบบิทที่กล้าหาญ แถมจุดเริ่มต้นคนที่เก็บแหวนอำนาจอันนี้ได้คือปู่ของโฟร์โด้ แสดงว่าแหวนมันเลือกโฟร์โด้แต่แรกอยู่แล้ว มัน amazing ตรง หนัง the hobbit ถ่ายทำทีหลัง lord of the ring อ่ะ แต่เรื่องราวของหนังมันเกิดก่อน แต่นักแสดงและผู้กำกับสามารถถ่ายทอดออกมาให้มันเหมือนกับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนได้ แล้วเป็นเหตุและผลสืบเนื่องมาถึง lord of the ring อ่ะโครตสุดยอด
จริงๆแหวนทำอะไรแซมได้ แต่แซมครองไว้ไม่นาน โฟรโด้ถือตั้งแต่ภาค1 ยันภาคสาม เลยต้านไม่ไหวแล้ว
ข้าแบกภาระ ให้ท่านใม่ใด้
แต่ก้าแบกตั่นใด้!!!!มา!! ฮ่ากกก
ลำดับ 10 คนช่วยคือกลอฟินเดลค่ะ
ขอบคุณครับมีคนทักเข้ามาหลายคนเลย ขอบคุณข้อมูลที่ถูกต้องครับ
ยืนยันอีกเสียง
ตกหลุมรักแซม กับ กอลลัม
รักสุดทุกช่วงเวลา
จริงๆเอาเล่าทุกซีนก็ไม่ติด แต่คลิปน่าจะยาวสัก 24 ชม.
ถึงข้าไม่สามารถรับอำนาจของแหวนได้ แต่ข้าสามารถแบกท่านได้ "แซม"
ได้ไปดูเรื่องนี้ครั้งแรกแบบไม่รู้เรื่องอะไร มีคนพาไปดูสรุปว่านั่งตาค้างทั้งเรื่องคือมันสนุกมากๆ มากจนบรรยายไม่ถูก จากนั้นก็ตามเก็บหนังสือต่างๆ เก็บหนัง เป็นที่ 1 ในหนังโปรดตลอดกาล ดูเกินกว่า 5 รอบแล้ว
หนังขึ้นหิ้งเลย
ฉากหนึ่งที่ชอบมากคือตอนที่ปิ๊ปปิ้นไปจุดกระโจมไฟที่มินัสทิริธเพื่อขอความช่วยเหลือจากโรฮันกระโจมไฟสัญญาณถูกจุดเป็นสัญลักษณ์ต่อกันไปเรื่อยจนถึงเขตแดนโรฮันจนอารากอนเห็นแล้ววิ่งขึ้นไปยังท้องพระโรงโรฮันแจ้งกับองค์เธโอเดน กระโจมไฟถูกจุดกอนดอร์ขอความช่วยเหลือ
เธโอเดน : แลโรฮานจะขานรับ รวบรวมพลโรเฮียริม
ฉากนี้ก็ยอดเยี่ยมครับ
สหายข้า เจ้าไม่ต้องก้มหัวให้ใคร
ผมนี่น้ำตาแตกเลย
ย้อนดูกี่ครั้งก็น้ำตาซึม
โฟรโดรอาสา
ฉากเลโกลัสไล่ล้มช้าง
ตอนผมเด็กๆ ก็ไม่รู้เหตุผลหรือแง่มุมในหนังอะไรเลย แต่ผมดูแต่ lord of the ring กับ star wars ไป 10 กว่ารอบ
ของดี ไม่ต้องพูดเยอะ 555
มีฉากเลโกลัสกระโดดขึ้นหลังม้ามั้ยครับ
แซมเป็นพระเอก
❤️❤️❤️❤️❤️❤️
กอลัมช่วยมิเดิดเอิธไว้
ชอบฉากผีลงจากเรือ
ฉากอาราก้อน ปลุกผี นี่ขนลุกจริงๆ
อยากให้มาปลุก แถวแมนยูบ้าง
ฉากประชุม แกนดัล์ฟ ตั้งใจให้เกิดการทะเลาะกันครับ เพื่อนให้โฟร์โด อาสา ไม่ได้เกิดจากอำนาจแหวนใด ๆ
ผมว่าไม่มีทาง ที่gandalf อยากให้ frodo อาสาแน่นอน
ลองไปดูReaction ของ gandalfตอนfrodoบอกว่า i will take it.
@@jamesw.t.9591 ผมไม่ใช่แฟนหนังสือนะครับ แต่ในหนังมันมีฉากอันคัตอยู่ พ่อมดสีเทากับท่านลอร์ดแห่งเอลฟ์ เขาคุยกันนอกรอบแล้ว
@@dgiigd7376 ครับ ผมก็เห็นละ ลองเสิชกูเกิ้ลว่า the fate of the ring. ที่elrond ถาม gandalf ว่าจะฝากความหวังไว้ที่ใครได้ เอลฟ์ไม่มีคนแล้ว คนแคระก็สนใจแต่ตัวเอง ไม่สนใจปัญหาของคนอื่น แล้วก็บอกว่าคนมันอ่อนแอ สายเลือดแห่ง Numenor มันจบสิ้นแล้ว แต่gandalfก็บอกว่ายังมีอีกคนที่สามารถรวบรวมคน ฝากความหวังได้ นั่นก็คือ Aragorn .
ชอบฉากเลโกลัสล้มช้าง3เศียร
เท่เกินไป 555
"ตัวใหญ่ก็นับแค่หนึ่ง"😂😂😂
ผมชอบฉากที่สหายอาราก้อน.ล้มช้างพราย..ตัวใหญ่ก้อนับแค่กนึ่ง..555
6:08 ฟังตรงนี้ทำให้นึกถึงตอนที่เจ้าหญิงการาเดียลถามแกนด๊าฟว่าทำไมต้องเป็นฮอบบิท
เหมือนทุกอย่าง ถูกกำหนดไว้แล้ว
ภาค2 น่าจะเอาฉากสงครามตอนท้ายมาด้วย
ฉากเลโลกาส ไสลด์ลงช้าง เป็นฉากที่เท่ห์ที่สุดในเรื่องแล้วสำหรับผม นึกว่าจะมีติดมา 55555
อย่างที่อธิบายครับ ฉากสงครามมันเยี่ยมอยู่แล้ว เลยอยากชวนดูฉากที่ประทับใจด้านอื่นๆบ้าง
เป็นหนังที่ดูซ้ำแล้วจริงๆเป็นหนังเครียดนะครับ สงครามโลกดีๆนี่เอง ตอนจบเขาให้เดา ผมไม่รู้ทฤษฎีอะไรในหนังสือ แต่เดาว่า"ตาย"แล้วไปสวรรค์ ภาระมันหนักเกิน
ที่แซมไม่โดนอำนาจแหวานครอบงำ เพราะแซมถือแหวนในระยะเวลาไม่นาน แต่โฟรโด้ถือแหวนเป็นเวลานานทำให้จิตใจของโฟรโด้โดนแหวนครอบงำในที่สุดค่ะ แต่แซมคือเดอะแบกของจริงค่ะ
จริงเนอะ ถ้าถือนานกว่านี้ก็ไม่แน่ ส่วนตะววิเคราะห์ว่า ความไร้เดียงสาของแซม บางทีก็เป็นอาวุธสำคัญสำหรับภารกิจนี้ครับ เหมือนตอนภาคสองที่แกนดาล์ฟยิ้มย่อง ตอนรู้ว่าแซมไปด้วย เล่นเหมือนรู้อีกละ
@@Nungtidmuns จริงค่ะ ถ้าไม่มีแซมโฟรโด้ก็คงไม่น่าจะทนแหวนไปจนถึงมอร์ดอร์ได้แน่นอน ที่หลายครั้งโฟรโด้จะสวมแหวนแล้วแซมคอยห้ามไว้ทันตลอดเลย
@@itslk91 extended edition ถ้าฉายในโรงจะโคตรอภิมหาหนังเลย ฉบับในโรงมีหลุดๆในบทบ้างแต่ความสนุกมันนำ เป็นหนังโรงที่ดูแล้ว"ตาค้าง"แบบสมัยผมดู ลอเรนส์ แห่งอารเบีย ยุคนี้โรงหนังคนดูน้อยสตรีมมิ่งมาแย่งครับ ส่วนแซมว่ายน้ำไม่เป็นยังยอมตาย แปลว่าจิตได้ ขอคารวะ
เสริมเนื้อเรื่องตามหนังสือ คือโฟรโด ถือแหวนเป็น 10 ปี ระหว่างรอแกนดาฟกลับมาจากค้นหาความลับของแหวน
หลอด สตาค
เอ๊ะ 555
6:37 ขำตาม55555555555555
นั่นสิ พอพูดยาวๆแล้วขำเอง 555
บัลร๊อคคือร่างอสูรของเหล่าเทพชั้นรอง เทียบเท่าเซารอน เป็นไมอาร์ที่สวามิภักดิ์ต่อเทพอสูรมอร์กอธ แกนดาล์ฟเป็นไมอาร์เช่นกัน แต่เขานั้นเป็นข้ารับใช้แห่งมานเว ราชันแห่งวาลาร์ มีชื่อเดิมว่าโอโลริน
ศึกบนสะพานแห่งดูริน จึงเป็นศึกระหว่างไมอาร์ที่รับใช้ความดี กับไมอาร์ที่สวามิภักดิ์ต่อความชั่ว
เป็นครั้งแรกเวลาหลายพันปี นับตั้งแต่ศึกแห่งเทพเมื่อประมาณ 8 พันปีก่อน
วรรณกรรมของโทลคีน คือที่สุดในดวงใจตลอดกาลครับ
ฉาก 3 มันก๊อปลิน ไม่ฝช่หรอครับ
เข้าใจว่าในจักรวาลโทลคีน อ๊อคกับก๊อบลินคือสิ่งเดียวกันนะครับ
อาร์เวน ขี่ม้าฝ่าทัพรับโฟรโด 😂
ไม่ได้ดูมาหลายปีละ ถ้ากลับไปดูอีกรอบสงสัยน้ำตาแตกแน่เลย
ผมว๊าวตลอดการดู 3 ภาคเลยครับ แต่ที่ว้าวที่สุดของทุกฉากคือฉากที่ผมนั่งดูกับยาย เรานั่งดูทั้ง3ภาคในวันที่ยายป่วยและผมนั่งดูหนังอยู่ข้างๆ และยายขอให้ดูซ้ำๆหลายรอบทำให้เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน ก่อนที่ยายผมจะเสียไม่นานหลังจากนั้น❤
วันนี้ผมยังนั่งดูหนังไตรภาคเรื่องนี้กับลูกชายผม ❤
โคตรเท่เลยที่คุณมีเรื่องราวดีๆแบบนี้❤
ทั้งสุขและเศร้าเก็บความทรงจำนี้ไว้ มีโอกาสก็ทำบุญหรือสิ่งๆดีๆให้ระลึกถึงท่านด้วยครับ😊
ฉากที่ผมประทับใจนี่คือฉากที่กอลั่มกัดกระต่ายกินดิบๆ555555
ผมชอบฉากที่ พิ๊พพิ้นบอกให้ทรีเบียร์ดพาเดินลงไปทางใต้ผ่านไอเซนการ์ดจะได้ปลอดภัยจากอันตรายเพราะยิ่งใกล้อันตรายเท่าไหร่ ยิ่งปลอดภัยเท่านั้น ทำให้ทรีเบียร์ดเห็นว่าซารูแมนทำอะไรกับพื้นป่า และที่สำคัญต้นไม้เหล่านั้นเป็นเพื่อนๆของทรีเบียร์ด ฉากนี้ พิ๊พพิ้น พูดกับทรีเบียร์ดว่า “I’m sorry Treebeard.” ฉากนี้มันแทงใจสุดๆเลยครับ พิ้พพิ้นตั้งใจให้ทรีเบียร์ดพาเดินลงใต้และเจอกับสิ่งที่ซารูแมนทำไว้ และเหมือนเป็นการบังคับให้ทรีเบียร์ด ต้องเข้าร่วมสงครามกับสิ่งที่ซารูแมนทำ.
ขาดฉากดีที่สุดไปฉากครับ ตอนทหารโรฮันนำโดยองค์เธโอเดนมาช่วยกอนดอร์
ดูกี่ทีก็น้ำตาไหล
ตามมาจากคลิปที่แล้ว มาช่วยเสริมให้ครับ
- คนช่วยคนแรกคือกลอฟินเดลครับ เป็นไฮเอลฟ์คนหนึ่ง และเป็นคนที่ไม่กลัวนาซกูลด้วย แต่ที่เอาออกเพราะบทแกไม่เยอะ (อ.โทลคีนเคยจะให้กลอฟินเดลเป็นหนึ่งในคณะแหวนด้วย แต่กลัวว่าจะเด่นเกินอารากอร์น เลยเลือกเลโกลัสแทน)
- ตอนประชุมไม่ได้เชิงแย่งทำดี แต่คือแต่ละคนคือขัดแย้งกันเอง เอล์ฟเสนอแกนดัล์ฟก็ไม่เห็นด้วย พอคนแคระเสนอเอล์ฟก็ไม่เห็นด้วย สุดท้ายโฟรโดเลยต้องอาสาเอง
- ตอนนั้นอารากอร์นและคนอื่นๆพอจะทราบข่าวจากฟาราเมียร์ว่าโฟรโดและแซมไปถึงไหนแล้ว แกเลยเสี่ยงพากองทัพไปล่อ เพื่อให้แผ่นดินว่างเปล่า ทำให้โฟรโดเดินทางสะดวกได้
- ตอนแซมถือแหวน ใส่คล้องคอครั้งแรกนี้หัวทิ่มพื้นเลยเพราะแรงกดดันมันหนักมาก และแซมเองก็เคยสวมแหวนล่องหนจากพวกออร์คด้วย และแหวนก็พยายามล่อล่วงว่าถ้าเจ้าได้ครองแหวน มันจะบันดาลให้แซมมีสวนของตัวเองที่ยิ่งใหญ่และร่มรื่น (แซมเป้นคนสวนของแบ็คเอนด์) แซมเองก็เกือบเคลิ้มไปพักนึง จนมาตระหนักได้ว่า ตัวเค้าเองเป็นแค่ฮอบบิทตัวเล็กๆ มีสวนแค่ที่แบ็คเอนด์ก็พอแล้ว แซมจึงถอดแหวนออกสำเร็จ แต่ถ้าถือนานกว่านี้ก็อาจจะโดนได้เหมือนกัน และมันทำให้แซมตระหนักว่าที่โฟรโดถือแหวนที่ผ่านมานั้นเจออะไรบ้าง แซมเลยยิ่งมีแรงใจในการช่วยโฟรโดมากขึ้น
ปล.แอบเซอร์ไพรส์ที่ไม่มีฉากโรเฮียร์ริม
ขอบคุณที่มาเสริมข้อมูลให้ถูกต้องนะครับ
จริงๆฉากสงครามทุกศึกดีงามหมดเลยนะ ดีจนขึ้นหิ้ง ยกไว้อีก Tier นึง แต่เป็นแอดเองที่อยากมองจากมุมเล็กๆ ฉากเล็กๆ ที่ดูพิเศษ ดูมีนัยยะน่าสนใจ ขอบคุณที่มาให้ข้อมูลที่คนดูหนังอย่างเดียวอาจจะไม่รู้ตรงนี้ ดีมากเลยครับ
ฉากแรก อาร์เวน ตามหนังสือจริงๆจะเป็นยอดนักรบเอล์ฟ กลอฟินเดลครับ
ฉากฟาราเมียร์ไปรบจากคำสั่งของพ่อก็เศร้าและ touching มาก
My friend, you bow to no one. แล้ว อารากอน ก็คุกเข่าลงต่อหน้า ฮอบบิท ทั้ง 4 .. คนเล็กๆที่ยิ่งใหญ่มาก
ประทับใจหลายฉากมาก ส่วนตัวชอบตอนที่แกนดัฟยกทัพลงมาจากเนินเขามาช่วยอารากอน กับฉากแกนดัฟใช้ไม้เท้าไล่พวกนาสกูลช่วยทัพของฟาราเมีย คือฉากสวยดนตรีน่าขนลุก