กล้อง Sony alpha ถ้าจะใช้ memory card ความเร็สสูงที่เรียกว่า cf express เจ้าอื่นเขาใช้ type b ส่วน sony ใช้ type a แต่กล้อง Sony มันก็ทำมาเข้าถึงคนหมู่มากได้มากกว่าด้วยแหละ
เรื่องถ้ามีโปรดัคเจ้าเดียวกันเกิน2ชิ้นจะลำบากนี่จริงมากเลยค่ะ ทางนี้ใช้ PC ทำงาน ส่วนมือถือใช้ iphone ตอนเพิ่ม airpods เข้ามาก็ยังไม่อะไร แต่พอเพิ่ม ipad เพิ่ม apple watch ปุ๊บ PC กลายเป็นยิ่งยากซะอย่างนั้นทั้งที่สมัยก่อนก็ส่งไฟล์ขึ้น google drive เป็นปกติ ecosystem ของ apple มันน่ากลัวตรงที่ใช้ครั้งเดียวติดใจเลย เค้าเก่งเรื่องตีฟูให้ฟังก์ชั่นของตัวเองดูเว่อกว่าชาวบ้านจริงๆ😂
เราก็อยู่ใน eco system apple แต่เราก็ใช้ garmin watch และ windows เพราะไม่ชอบ apple watch, mac ซึ่งลองใช้แล้วนะ แต่ไม่ชอบ สุดท้ายจะโดนต้มไหม เราว่าขึ้นกะความพอใจของผู้บริโภค
กล้องไม่ personal data lock-in ครับ ถ้าถ่ายรูปแล้วล๊อคว่ารูปขึ้น cloud ของผู้ผลิตอย่างเดียวเท่านั้น เราก็น่าจะไม่โอเคครับ ปัญหาของการผูกขาดมันไม่ใช้เรื่อง user experience ครับ มันเป็นเรื่องการทำให้ไม่เกิดการแข่งขัน สุดท้ายก็ไม่มีอะไรจูงใจให้คิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เราก็จะได้ user experience ที่ดีอยู่แค่นั้นไม่มีที่ดีกว่านี้อีกแล้ว(และอาจจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นด้วย)
รถเราก็ lock ด้วยการ ซ่อมบำรุง การขายคืน มือ 2 เป็นเหตุผลว่าทำไม T เขายึดตลาดมือสองได้ จะขายคืนได้ราคา รถเสียมีศุนย์ รถพังซ๋อมได้ไว มอไซ ก็ H รถยน T M H
อย่าว่าแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกซ์เลยครับ เครื่องมือช่างยังมี ecosystem เลย ซื้อสว่านไร้สายมา แบตก็ใช้ได้แค่ยี่ห้อตัวเอง พอจะซื้อ powertools อื่นๆ ก็จะอยากซื้อยี่ห้อเดิมเพราะจะได้ใช้แบตด้วยกันได้ ecosystem มันอยู่คู่กับผู้บริโภคมานานแล้วเราแค่ไม่รู้ตัว
มีตัวเเปลงครับลองไปหาดูโยกย้านได้หมดเเบรนหลักๆตัวเเปลง2-3ร้อย
แดง เหลือง เขียว
ค่ายแดงนี่ตัวดีเลย
@@หมูไม่ขาดละหมาดไม่เคย-ฌ2ฒนั่นแหละครับมันคือปัญหายิบย่อยที่ผู้บริโภคอย่างเราอย่างคุณโดน โดยไม่รู้ตัวหรือก็รู้ตัวแหละแต่แค่ปัญหายิบย่อยที่คนส่วนมากไม่ใส่ใจ(รึป่าวไม่รู้~)
กล้อง Sony alpha ถ้าจะใช้ memory card ความเร็สสูงที่เรียกว่า cf express เจ้าอื่นเขาใช้ type b ส่วน sony ใช้ type a แต่กล้อง Sony มันก็ทำมาเข้าถึงคนหมู่มากได้มากกว่าด้วยแหละ
เป็นเรื่องดีมากครับ ที่ทั้งสองคนนี้มาคุยกันได้ เคมีมันเสริมกันดี และอาจมองไปว่า คุณอู๋ จะมีคนฟังในกลุ่มอายุที่เยอะหน่อย (วัยรุ่น วัยทำงาน ผู้ใหญ่ คนแก่) ขณะที่นายอาร์มผมเดาว่าเด็กกว่าจะติดตามเยอะ (เด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน ผู้ใหญ่) สังเกตุได้ว่า นะจะคนละเจน แต่ ทั้งคู่คุยแบบให้เกียรติกัน เพราะ รู้ว่า ต่างฝ่ายต่างยอดเยี่ยม ประเด็นที่หยิบยกมาก็น่าสนใจ ประโยชน์จึงเกิดกับผู้ฟังครับ (น่าจะหาประเด็นที่ "ชวนทะเลาะ" กันให้ได้)
5555อยากเห็นเขาแตกแยก หรอ อื้มมม แต่ก็น่าสนใจน่าดูเลย
คนติดตามนายอาร์ม ส่วนมากก็อายุเท่านายอาร์มเลยค่า55555 เเกเคยเปิดดาต้าหลังบ้านอยู่
Netflix ผมจ่ายเพื่อไถดูลิสต์รายการหนัง ไถๆไป ง่วง หลับสบาย
ยังไม่ได้ดูซะที
ชื่นชม EP นี้้ครับ คนที่ฟังอย่างเดียว สามารถเข้าใจได้โดยไม่ต้องกลับมาดูรูป ดูเป็น Podcast มากขึ้น แต่เสียงพี่อู๋ต่ำ ทำให้ถ้าฟังแบบตอนขับรถ ที่ฟังผ่านๆไปเรื่อยๆ จับใจความลำบากจริงๆครับ แต่เสียงนุ่มขึ้นครับ
เสียงพี่อู๋ต่ำจริงครับเหมือนพูดในลำคอ ตอนขับรถฟังยากมาก
พี่อู๋ เสียงดี แสงเริ่มได้ สมฐาค่ะ ต้องทำรายการให้คุ้มนะ 55555555555
ไม่อ่ะ เสียงอู๋ ต่ำเกิน ฟังลำบากมาก
@@หน้าม้า4 เขาน่าจะหมายถึงเสียงจากอุปกรณ์ดีขึ้นครับ ไม่ใช่โทนเสียง (เนื่องจาก ep ก่อน เสียงจากทางพี่อู๋ไม่ได้ดีเท่า ep นี้)
@@aexxa ควรปรับให้ดีหว่านี้นะคะ ของพี่อาร์มดีแล้ว
เหลือกล้องครับ
หาเรื่องให้พี่อู๋เสียเงินอีกแล้วววว
ทางนี้ก็เจอปัญหากับ Ebook อยู่ คือใช้เจ้าตลาดจนหนังสือในนั้นมีเป็นพันเล่มแล้ว มีเจ้าใหม่เข้ามาทำตลาดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม แต่ก็ยังลำบากใจที่จะย้าย เพราะถ้าย้ายไป หนังสือเล่มต่อมันไม่ย้ายมาด้วย เล่มใหม่เล่มเก่ามันอยู่คนละแอพไง! แค่อยากให้เรื่องเดียวกันอยู่แอพเดียวกันเองนะ
เข้าใจเลย แล้วของเจ้าตลาดน่าเกลียดมาก เล่นใส่ app sealing ฝั่ง Android พอมีแอปที่ใช้สิทธิ์สูงๆ ของระบบ อย่าง shizuku กับ mt manager มันไม่ยอมให้เข้าแอปแล้วเด้งออกมาเลย คือจะแกะไฟล์หนังสือออกมา คนที่จะทำ มันก็ต้องทำจนได้ มันมีวิธีซ่อนแอป ไม่ให้แอปนั้นๆ มองเห็นโดยการรูทแถมตัวไฟล์หนังสือก็มีการเข้ารหัสอยู่แล้ว เลยไม่อยากไปต่อกับเจ้านี้แล้วเพราะเรื่องแค่นี้ ไม่รู้ทำไมต้องทำให้ยุ่งยาก
me too ครับ kindle หนังสือเยอะมากอยากย้ายไปพวกจอใหญ่ เจ้าอื่นแต่เอาหนังสือที่เคยซื้อไปด้วยไม่ได้
@@mAnEkI7 kindle มีแอพอ่านในพวกแท็บเลตนะ โหลดแอพ kindle มาใช้
เหมือนกันเลยค่ะ เห็นปิ่นโตทำโปรลดทีไรได้แต่มองตาปริบๆ ส่วนตัวใช้mebจนชินแล้ว
ติด ecosystem มากจริงค่ะ ทุกวันนี้ใช้ iphone ipad mac apple watch airpod apple tv ตอนพึ่งมาทำงานใหม่ๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังหงุดหงิดคอมมาก ที่ไม่สามารถ copy paste จากโทรศัพท์ หรือไม่สามารถ airdrop ได้😂 โทรศัพท์ด้วย จริงๆอยากได้ flip มานานแล้ว แต่ติดใช้ icloud อยุ่2tb😅 ถ้าไม่ติด ecosystem คงเปลี่ยนไปนานแล้ว555555
คิดถึงตอนอ่านเรื่องเก่าๆ เกี่ยวกับ สิทธิบัตร ฟรีแบบเข็มขัดรถยนต์ กลายเป็นมาตรฐาน เดี๋ยวนี้ไม่มีให้เห็นแล้วบริษัทมุ่งผลกำไร แบบยิ่งยวดกันหมด
ผมมี iphone, ipad, macbook, apple tv, apple watch, airpods.
พยายามออกจากหม้อต้มเมื่อต้นปี ซื้อทั้ง s24 ultra, tab s9 ultra กลายเป็นกบที่แค่กระโดดเปลี่ยนหม้อต้มเฉยๆ แล้วหม้อใหม่ก็ไม่ happy เท่าเก่าด้วย
นี่เดี๋ยวขายทิ้งทั้งคู่กลับไป iphone ครับ
Likewise ใช้ Apple Products มา 20 ปีแล้ว กำลังคิดจะทำอยู่เหมือนกันเลยครับ
@@มิติรุ่งไวมณี ลองดูซักครั้งก็ดีนะครับพี่ แต่ถ้าจริตชอบฝั่ง Apple ก็อาจจะต้องย้อนกลับไป Apple อยู่ดี
เรานี่เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วกระโดดออกไปจากหม้อต้ม ทั้งมือถือ แทปเลต ตอนนี้กระโดดกลับมาละ รู้สึกหม้อใหม่มันไม่ตอบโจทย์เรา
ส่วนผมตอนนี้ผมอยู่กึ่งๆมา 2 ปีละครับ มือถือ Pixel 6 และที่เหลือ iPad, MacBook Pro, Apple Watch (ใช้แบบไม่ได้ล้างเครื่องตอนขาย iPhone เลยยังใช้ได้เกือบปกติ) , AirPods Pro, AppleTV แต่ผม รส ชอบการใช้งานแบบแปลกๆนี้ดี เดียวกะจะซื้อ Pixel 9 มาต่อ ecosystem ประหลาดของผมต่อด้วยครับ
@@yimmuy มีความรู้สึกอยากเปลี่ยนมือถือบ่อยกว่าตอน Iphone ไหมครับ ยิ่งตลาดฝั่งแอนดรอยด์ตัวเลือกเยอะ แล้วขยันออกถี่ๆด้วย
แบรนด์แรกที่คิดถึงคำนี้ คือ SONY ชาว อารยธรรม 5555
SD card M2 512 mb
ราคา 2400 บาท เราก็ผ่านมาแล้ว
เครื่องเล่นmp3 หัวชาร์จอะไรของมันว้าาา 555
Memory Stick แผ่นม่วง 😅 จับแล้วอยากเคี้ยวหมากฝรั่ง
@@KOHLHBBCU ค่ายอื่น micro sd ฉ่ำ sony ericsson คือ m2 duo ไม่หยุด cyber shot พอกัน ไม่ใช่ lithiuminfo ไม่เปิดกล้องให้อีก เอากะเค้าสิ นี่คือปี 2006-2008 นะ
จริง ถถถถถถ
เสียงดีมากครับ 555 สมฐานะ , หัวข้อก็ดีครึบสนุก
ถ้าพวกเริ่มๆแรกๆ Sony ครับ ecosystem สำหรับผมมันเริ่มตั้งแต่สมัย CD - Minidisc - Memory Card กับคอมตระกูล Vaio แล้ว
ใช่ครับผมก็เห็นด้วยน่าจะเป็นเจ้าแรกๆเลย
สองคนนี้เขาอาจจะยัง gen เด็กหน่อย ยังเล่น tech ไม่ทันยุค sony
@@ThongekT อาร์มอายุเยอะกว่าผมอีก 55555 ผมก็ไม่ทันครับ MD ไม่ทัน แต่ผมทัน Vaio , SD Card กับ Memory Stick กับ M2 ในช่วงนั้น
จุดที่รู้สึกว่าเป็นกบโดนต้ม คือจุดที่เรารู้สึกว่าไม่สามารถใช้ hardware นั้นๆไปจนสุดได้ เพราะถึงจุดๆ นึงจะ update อะไรไม่ได้ ทำให้ functionality มันไม่ครบอ่ะ ต้องซื้อhardware ใหม่ ที่ยังกลับมาใช้ในระบบ ecosystem เดิมได้ เช่น ไอโฟน8+ ใช้กับ watch OS10 ไม่ได้ ถ้าอยากอัพนาฬิกา ต้องซื้อไอโฟนใหม่ .. วนลูป ออกไม่ได้ละ จนสุก
Apple Eco เยอะมาก มีทุกชิ้น ซื้อทุกตัว ต่อต้านไม่ได้ก็เข้าร่วมไปเลย แล้วใช้ให้มันผาสุกแทนครับ 555
เมื่อรู้สึกว่าถลำลึกไปแล้วก็น่าจะหยุด invest ลงไปต่อ แล้วก็มองหา option อื่นๆเพิ่มเติมดู
ถ้ามองแค่เรื่องนี้เลยในระยะยาวๆก็ แบรนด์ไหนไม่พยายาม include / lock คุณใน eco ก็สนับสนุนแบรนด์นั้นมากขึ้น แต่ user exp มันก็สู้พวก eco ดีๆไม่ได้อีก คิดแล้วปวดหัวดีว่าเอาไงดี
อย่าเป็นทาสให้เขาผูกขาดชีวิตเราค่ะ วันหนึ่งมันจะถึงยุคที่แอนดรอยด์ดีกว่า ซึ่งตอนนี้ก็ดีกว่าหลายอย่างแล้ว
พกสองค่ายครับผมมี iphone 1 android 1 apple watch 1 air pod pro 1 huawei free clip 1 ใช้มันทุดค่าย
@@kong_kwan แอนดรอยจะเอาอะไรไปดีกว่า ตลาดTabletก็โดนiPadOSกินเรียบ ตลาดPCก็มี Windows กับ Mac ครองตลาด
@@iNerdyVision คนส่วนใหญ่ใช้Androidรุ่นถูกกับกลางไว้เล่นเกม,social, หรือใช้ทำงานเอกสารทั่วไป คนที่ใช้Androidระดับ hi-end ที่แรงพอใช้งานAppเฉพาะทางราคาหลักพันบาทมีน้อยมาก ต่างจากiPadที่ไม่ว่าจะรุ่นถูกหรือแพง แต่ชิพที่ใส่มาแรงทุกเครื่อง ถ้านักพัฒนาเงินไม่หนาจริงแบบMicrosoft, Adobeคงไม่มีใครกล้าเสี่ยงไปทำAppทำงานราคาแพงลงAndroid เหมือนกับMacที่ชิพMแรงมาก แบตทน เครื่องไม่ร้อน แต่ก็ไม่มีใครPortเกมมาลงเพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้Macเล่นเกม
@@iNerdyVision รอลงซัมซุงอยู่ อย่างน้อยปากกา ก็ไม่ผูกขาด ใช้ของค่ายอื่นได้ หรือปากการุ่นเก่ามาก ๆ ก็ใช้ได้
เรื่องถ้ามีโปรดัคเจ้าเดียวกันเกิน2ชิ้นจะลำบากนี่จริงมากเลยค่ะ ทางนี้ใช้ PC ทำงาน ส่วนมือถือใช้ iphone ตอนเพิ่ม airpods เข้ามาก็ยังไม่อะไร
แต่พอเพิ่ม ipad เพิ่ม apple watch ปุ๊บ PC กลายเป็นยิ่งยากซะอย่างนั้นทั้งที่สมัยก่อนก็ส่งไฟล์ขึ้น google drive เป็นปกติ
ecosystem ของ apple มันน่ากลัวตรงที่ใช้ครั้งเดียวติดใจเลย เค้าเก่งเรื่องตีฟูให้ฟังก์ชั่นของตัวเองดูเว่อกว่าชาวบ้านจริงๆ😂
ได้เนื้อหาสาระความรู้มากๆ ครับ จริงนะ ตอนผมย้ายServiceต่างๆ ของ Google มา Microsoft นิยุ่งยากเหมือนกัน เพราะล็อคไว้หลายชั้น แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วก็จัดการใช้เวลาสักพัก 2-3 วัน กว่าจะย้าย + ลงตัวครับ ตอนนี้ ค่าสมาชิกรายเดือนลดลงไปเยอะมาก ใช้เฉพาะที่ใช้ก็พอครับ
Quick Share ของ Samsung ตอนนี้รวมกับ Nearby Share แล้วครับ กลายเป็น Quick Share ที่ตอนนี้ Android ทุกค่ายใช้ได้ครับ
แต่สมัยก่อน Samsung เขาก็มี near by share ไว้ส่งไฟล์กับยี่ห้ออื่น มีคู่กับ quick share
เราใช้มือถือ samsung กับ ipad ประสบการณ์ใช้แอพมันต่างกันอ่ะ ไม่ได้บอกอันไหนดีกว่าด้อยกว่า (เจอแอพเด้งทั้งคู่ ไม่ต่าง) แต่พวก gesture ของ ios มัน "เข้ามือ" มากกว่าจริงๆ จะบอกว่า ios มันออกแบบ ทั้งhardware และ software เลยมีแต้มต่อมากกว่าก็ใช้ แต่ blueprint ในการสร้างแอพของเค้ามันทำให้เป้นต้นแบบให้เจ้าอื่นทำ แอพใน ios ล้อตามประสบการณ์ของ ios ได้ดีจริงๆ แต่ถ้าให้เลือกใช้ คงใช้ android ต่อไป เพราะชอบความอิสระ ที่มอบให้มากกว่า (ส่วนตัวถ้าใช้ iphone คงอกแตกตายแน่ๆ จากข้อจำกัดหลายๆอย่าง)
31:50 Android เปลี่ยนชื่อ nearby share เป็น Quick share ตามซัมซุงแล้วจ้า
ชอบรายการนี้มาก ดร. กับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนยีมาคุยกัน สนุกสุด
ที่บอกว่ามันโอเคที่เราอยากจะชอบค่ายไหนแล้วก็รันตัวเองอยู่ในอีโคซิสเต็มเขาไปเลย เราไม่เห็นด้วย มันก็คือความน่ากลัวของการผูกขาดไง
เมื่อเจ้านึงทำดี คนอื่นก็จะพากันมาใช้ แล้วเจ้าอื่นก็ตายไป
และยุคนี้มันน่าจะมาถึงจุดที่เราเริ่มหืดกันแล้วไหมว่าทำไมมันใช้ชีวิตกันไม่สบายตัว อะคนเงินเดือน เดือนละหลายหมื่นคงไม่รู้สึก แต่พวกหลักหมื่นมันรู้สึกกันละ
ก็ถ้ามองรวมเลย มันคือความน่ากลัวของระบบทุนที่ยม ที่สุดท้าย มันก็จะพากันรวมศูนย์อำนาจคนรวยในที่สุดแล้วทำให้คนกลุ่มน้อยหยุมหัวคนได้อีกทั้งโลกที่จน
ไม่ได้กล่วาถึงอีโคซิสเตมไม่ดี หรือมีไม่ได้ มันจะมีได้ แต่ในทางธรรมชาติการมีชีวิตรอดร่วมกัน มันต้องมีน้อยมากไง
แล้วยังต้องห้ามมีมากด้วย ไม่งั้นท้ายที่สุด มันก็คือการทำให้ผู้บริโภคกลายเป็นทาสที่โดนจูงจนชีวิตฉิบหายกันได้ ทั้งที่เราสามารถทำชีวิตตัวเองกันได้ดีกว่านั้น
เป็นเรื่องน่ากลัวมากนะ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆหรือเรื่องเล่นๆ คุยสบายๆได้เลย
มันคือปัญหาของทุกวันนี้โดยรวมในทุกภาคส่วนที่เราคิดถูกกันรึเปล่า? เราให้อำนาจกับใครได้ถูกต้อง หรือมากเกินไปกันรึเปล่า? มันเริ่มดูไม่บาลานซ์สุดๆละนะ
อเมริกามีกฏหมายกันการผูกขาดแรงมาก สมัยก่อนMicrosoftต้องไปช่วยAppleไม่ให้เจ๊งเพราะโดนคดีผูกขาด จีนถ้าบริษัทไหนโตเกินจะโดนทุบตลอด แล้วไปดันรายย่อยออกมาสู้
เป็นการพูดคุยที่ดีมากครับ ได้ข้อมูลดีๆเยอะเลย ขอบคุณครับ
จริงค่ะ ครอบครัวเราติดคุยกันimessageมากตามคุณอาร์มบอกคุยกันในนั้นตลอด เพราะปกติไม่ค่อยเปิดไลน์อยู่แล้ว งานก็ทางเมลทั้งนั้น ส่วนตัวย้ายไปไม่ได้อีกข้อก็ตามที่คุณอู๋บอกคือซื้อแอปแบบซื้อขาดlifetimeไปเยอะอะมันเลยย้ายไม่ได้ ใช้ไปด่าไปเรื่องกั๊กสเปคฉหแต่แพงเว่อ
มีทั้ง One Drive เพราะซัพ 365 ถ่ายรูปในไอโฟนเยอะมาก ซื้อ icloud มีแอนดรอย ซื้อ Google Drive จบ แต่ละปี
เสริมครับ office365 มี cloud ให้ 1tb ใช้ android / ios ก็เก็บบนนี้ได้ แต่ตัว วิเคราะห์รูปไม่ค่อยฉลาดต้องฟีดๆ หารูปเอา
มองว่าส่วนหนึ่งที่แบรนด์กล้องหรือแบรนด์อื่นๆที่ทำแล้วคนไม่บ่นกันเท่าไรเพราะ
1.เช่นตลาดกล้องDLSRขนาดเล็กกว่าตลาดมือถือยักษ์ใหญ่ทุกวันนี้ คนก็ได้รับผลกระทบน้อยกว่า กระทบชีวิตเค้าน้อยกว่า
2. Apple คือผู้นำด้านเทคโนโลยี และUser Friendly แต่เลือกใช้Lightning ที่ดูจะล้าหลังกว่าชาวบ้านไปหลายปี เลยทำให้ไม่Friendly กับผู้ใช้ ทั้งที่ตัวเองเป็นผู้คิดค้นUSB C เองแท้ๆ
3. ประเด็นรักโลกเริ่มมีมากขึ้นและAppleก็เป็นหนึ่งในผู้ปลุกกระแสนี้ขึ้นมาด้วย การที่Appleยังจะให้คนต้องไปซื้อสายLightning ก็เท่ากับว่าเพิ่มขยะให้โลก
น่าจะประมาณนี้ครับ เป็นEPที่สนุกดีครับ😊
สนุกและเพลินทุก อีพี ครับ
ขอบคุณมาก
ใช่เลยที่บ้านเปลี่ยน X1 เป็นรุ่นใหม่ขึ้น แต่เป็นรุ่นที่ AppleCarplay only
แต่ทางนี้คืออัปเกรดมาจาก Bluetooth only เลยชิวๆ
สำหรับหูฟังนะครับ ตัวครอบหู ผมเลือก Sony WH1000X M5 เพื่อประสิทธิภาพการตัดเสียงและเสียงดนตรีสูงสุดเพื่อความคุ้มค่าครับ แต่ผมก็มี AirPod Pro ไว้ใช้ลำลองเหมือนกัน ล่าสุดพบว่า Sony ทำระบบการเปลี่ยนเครื่องแบบ seamless ได้ดีขึ้นในระดับหนึ่งแล้วครับ คือถ้าใช้แค่ 2 เครื่อง (iPad / iPhone) มันก็สามารถเปลี่ยนเครื่องได้เกือบ ๆ เหมือน AirPod แล้ว แต่ถ้ามีมากกว่า 2 เครื่อง ก็ต้องไปกดคอนเนค แต่ก็ไม่ยากครับ
แต่บอกตรง ๆ ว่า ถ้าอะไรใช้ของ Apple ได้ผมก็มักจะเลือกก่อนครับ ตอนนี้ Gadget ที่ไม่ใช่ของ Apple มีแค่หูฟังที่เล่า กับ eReader แล้วก็พวกเครื่องเกมครับ
ยอมรับว่า Eco System ของ Apple ที่เมื่อครบวงจรแล้วมันสะดวกชีวิตมาก ๆ
ผมว่ากล้องเรารู้เรื่องนี้ก่อนที่จะซื้ออยู่แล้ว ว่าเลนส์มันมีจำกัดแค่นี้นะ อีกข้อคือ เพราะกล้องมันดูไม่ใช่อุปกรณ์ที่มีความสามารถหลากหลาย มันมีหน้าที่ถ่ายภาพ os ของแต่ละค่ายก็แตกต่าง เม้าเลนส์ก็ไม่เหมือน เรารู้ว่าแค่ fw ให้ใช้กับเลนส์ในค่ายให้เสถียรก็ยังทำให้ดีบ้างไม่ดีบ้างอยู่เลย จะให้ข้ามค่ายเราเลยยังไม่ได้คาดหวังแต่ต้น มางกลับกันมามองที่มือถือ ที่เรารู้สึกโมโห เพราะเรารู้ว่าพวกบริษัทพวกนี้มันทำให้ทุกอย่างมันเชื่อมกันได้ แต่กั๊กไว้ มันก็เลยทำให้เราโมโห
ที่พี่พูดเรื่องเลนส์กล้อง แอบมองว่าต่างกันนิดนึงค่ะ เพราะถ้าในมุมของคำว่า ecosystem มันคือระหว่างอุปกรณ์ แต่อย่างกล้องเนี่ย context มันคือเลนส์เปล่าๆทำอะไรไม่ได้ต้องมีกล้อง เทียบกับโทรศัพท์ ipad ที่พวกนี้มันทำงานได้ด้วยตัวเอง เลยจะต่างกันระดับนึง
ถ้ามีประเด็นเยอะเกินจนกลัวประเด็นหลังๆมันoutก็ทำพิเศษได้ครับ ติดตามตลอด
เรื่องกล้องนี่ถ้าจะให้นับผู้ที่ได้รับผลกระทบหนัก ๆ เลยคือ กลุ่มช่างภาพครับ ซึ่งเทียบกับภาพรวม มือถือเลยดูมีผลกระทบใหญ่กว่าครับ
ห้าม direct payment แค่ส่วนของ digital content ค่ะ แต่ว่าถ้าเป็น product อื่น จะใช้ payment วิธีอื่นได้ค่ะไม่ต้องผ่าน in-app purchase
ตอนนี้ Apple Product 6 ชิ้น มือถือ คอม หูฟัง ไอแพด ลำโพง นาฬิกา ย้ายทีคิดหนักจริง ไม่รวมถึงภาพและข้อมูลมหาศาลใน iCloud ที่แบบ พอคิดจะย้ายก็ ขี้เกียจ😂
sony มาก่อนกาล apple อีกครับ memory stick แม่มใช้กับชาวบ้านไม่ได้เลย ถ่าน walkman ก้อนสี่เหลี่ยมโคตแพง minidisc ก็อีก
คิดว่าเรื่องกล้องเป็นเพราะว่าแต่ละค่าย perform ได้ไม่ต่างกันมาก และประสบการณ์ของ user ไม่ได้ต่างกันขนาดนั้น โดยความหมายคือระดับของความต่างของแบรนด์มันเกินคนใช้ทั่วไป มีแค่มืออาชีพมาก ๆ ถึงจะรู้สึกว่ามันต่าง เลยไม่ค่อยมีผล
Quick กับ nearby รวมกันแล้วครับ
เรียกว่า nearby เปลี่ยนชื่อดีกว่า 55 เพราะซัมซุงก่อนหน้านั้นึก็มี nearby เหมือนกัน
เราก็อยู่ใน eco system apple แต่เราก็ใช้ garmin watch และ windows เพราะไม่ชอบ apple watch, mac ซึ่งลองใช้แล้วนะ แต่ไม่ชอบ สุดท้ายจะโดนต้มไหม เราว่าขึ้นกะความพอใจของผู้บริโภค
กล้องไม่ personal data lock-in ครับ ถ้าถ่ายรูปแล้วล๊อคว่ารูปขึ้น cloud ของผู้ผลิตอย่างเดียวเท่านั้น เราก็น่าจะไม่โอเคครับ
ปัญหาของการผูกขาดมันไม่ใช้เรื่อง user experience ครับ มันเป็นเรื่องการทำให้ไม่เกิดการแข่งขัน สุดท้ายก็ไม่มีอะไรจูงใจให้คิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เราก็จะได้ user experience ที่ดีอยู่แค่นั้นไม่มีที่ดีกว่านี้อีกแล้ว(และอาจจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นด้วย)
คนติดกับดักอยากสบาย พอใจเท่าที่สบายใจ ไม่มีปัญหาเรื่องงบ
คนเปิดโลก หาความรู้ ทำความเข้าใจปรับตัวกับสิ่งหลากหลาย ไม่ยึดติด รู้จักใช้ให้เหมาะสมกับงบ ก็ดี ทักษะก็พัฒนาไปด้วย
ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็เสนอเนื้อหาให้ครบทุกด้าน ทุกมิติ มีมุมดาร์คๆ ของผู้ผลิต ผู้ถือหุ้น การผูกขาด การเมือง ฯลฯ
ถ้าเรื่อง ลิมิตที่มันเกินไปหรือเปล่าเริ่มจะโดนต้ม น่าจะค่าใช้จ่ายระยะยาวมากๆ บางท่านมีข้อมูลเก็บเยอะเริ่มจะจ่าย Gdrive ต่อเดือนเยอะเกินไปจนต้องช่างใจว่า ซื้อ NAS แล้วเพิ่มความจุเองได้เยอะกว่าเหมือนจะคุ้มกว่า
ผมกลัวเรื่องนี้แหละ เลยพยามใช้บริการให้หลากหลายยี่ห้อ ใช้ app ที่เป็น 3rd party หลีกเลี่ยงใช้บริการใดๆที่ lock ไว้กับยี่ห้อใดยี่ห้อนึง
ผมใช้ macbook iphone แต่ไม่ใช้ safari , icloud ไม่ซื้อ airpod , apple watch จะได้พร้อมเปลี่ยนยี่ห้อได้ตลอดเวลา
หูฟังใช้ sony ที่ต่อ 2 devices ได้ ใช้ garmin เพื่อให้ต่อได้ทั้ง ios , android
ตอนนี้ ipad ก็เก่าแบตเสื่อมแล้ว เคยคิดว่าจะเปลี่ยน เป็น ipad เหมือนเดิม พอรุ่นใหม่ใช้ปากกา gen2 เดิมไม่ได้ ทำให้ถ้าซื้อต้องซื้อปากกาใหม่ก็เลิกคิดซื้อเลย คงย้ายค่าย tablet เร็วๆนี้
ส่วน subscription มันเป็นเรื่องการซื้อบริการนั้นๆ พอใจก็ซื้อต่อไม่พอใจก็หยุดจ่าย
ที่ยอมรับว่าคุ้มค่าสุด ก็ youtube premium จริงๆนั้นแหละ
ดีนะที่ย้ายตอนที่มีแค่ iphone กับ apple watch ตอนนั้นแค่ตัดใจย้ายไปเลย ทิ้ง app ไปใช้ฝั่ง android จบ ชีวิตอิสระ
เคยพยายามย้าย google photo > icloud photo
หาวิธีย้ายที่ metadata พวกวันเวลายังอยู่ ยากมาก
แถมต้องจ่าย 2 ที่ตอนย้ายอีก สรุปเก็บไว้ที่เดิมครับ
ปล. ปัจจุบันน่าจะมี tool, feature ในการย้ายแล้ว
โซนี่โมเดล สมัยก่อนโซนี่ก็แนวนี้แหละ ซื้อกล้อง ต้องซื้อ Memory Stick
และได้ยินว่าแอปเปิ้ลมีโซนี่เป็นไอดอล จนจะให้ OSX ลงใน Vaio ได้
สต กำลังติด Samsung โดยเฉพาะ Samsung Notes ยังไม่มีแอปไหนที่ใช้ Notes ร่วมกับปากกาบนมือถือได้ดีเท่าพี่ซัม แต่เวลาอ่าน Notes ก็ต้องใช้มือถือซัมซุง Laptop Samsung อย่างเดียว
ผมใช้ device Samsung อยู่ คือ มือถือ หูฟัง นาฬิกา แท็บเล็ต แต่ตัดสินใจจะออกจาก ecosystem นี้แล้ว เพราะรู้สึกว่าถ้าไปซื้ออุปกรณ์ยี่ห้ออื่นก็จะใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ฟีเจอร์นั่นนี้ใช้ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ยี่ห้ออื่นบางอย่างแม่งโคตรดี
ความ Seamless ของ Samsung ก็ได้พอๆหรือเทียบเท่า Apple แล้วนะครับ
มันไปทุกเครื่องแค่ Login Account ครับผม Galaxy Buds Pro ผมก็ไปได้ทุกเครื่องเลยครับ ไม่ต้องกดอะไรเลยเปิดเครื่องไหนเล่นเครื่องนั้น
ยังไม่รวมถึงพวกข้อความเวลาพิม หรือ แม้แต่ OTP จากข้อความเข้าในมือถือ แต่มัน Auto copy ไป Tab ผมเลยครับ
โครตดี EP นี้ ไม่ต้องมีอวย มีกัดใดๆ ( ip / ss) เล่าที่มาที่ไป ได้ลงตัวมากๆ
อย่า ดักดาน ว่าง่ายๆ ไม่ว่าฝั่งไหน ถ้า กล้าที่จะเปิดโลกได้ คุณก็จะเจอสิ่งใหม่ๆ ถ้ายังอยู่กรอบ มันก็กะลาแลนด์
แต่ถ้า ไปแล้ว มันไม่ถูก จริต ก็กลับมาหม้อเดิมตามที่ว่า ก็ไม่ผิด ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่กลับมาใช้อะไรที่เราถนัดกว่า พอเพียง เพียงพอแล้ว
เยี่ยมครับ
พูดถึงตอนย้ายแล้วนึกถึงตอนย้ายจาก drive มหาลัยมา personal drive เลยนั่งโหลดจนท้อ 55555
56:37 แว็บแรกที่เข้ามาในหัวเลยคือค่าแกร็บ ที่มันปรับตามช่วงเวลา ถ้าช่วงเช้าเวลาคนไปงาน ช่วงเที่ยง หรือช่วงเย็น ค่าส่งอาหาร ค่าเดินทางจะแพงกว่าเดิม
เมื่อผูกขาดได้มากพอ ขนาดไม่ต้องสนใจคู่แข่ง ก็ตั้งราคาได้โดยไม่ต้องสนใจ เทคไม่ต้องอัพเดทมากออกอะไรมาคนก็ซื้อ บังคับซื้อรุ่นใหม่ทุก2ปี อะไรอย่างนี้ถึงจะรู้สึกว่ากระทบอะไรอย่างนั้น
ชอบมากครับ อยากให้ลงถี่ๆทุกสัปดาห์ ❤
App store นี่ไม่ใช้แค่ Apple นะครับ ตอนนี Google ก็มีเก็บ 30% เหมือนกัน เมื่อก่อนถ้ามีแอปที่เล่นได้ทั้ง 2 platform จ่ายผ่านแอปใช้ Android อาจจะถูกกว่าไรงี้ แต่ตอนนี้ไม่ละ อย่างแอป MEB ตอนนี้ถ้าจะซื้อ E-Book ต้องซื้อผ่านเวปถึงจะถูกสุด
รู้สึกเหมือนติดกับตอนอยากใช้มือถือที่ฟังชั่นเยอะๆแบบ foldable หรือกล้องที่ดีกว่า จอที่ดีกว่า แล้วมารู้สึกตัวว่าใช้ของเขาหมด มือถือ หูฟัง tablet นาฬิกา แลปทอป 😢
มาทุกวันหวยออกสินะครับ จำง่ายดี
ตอนนี้ nearbyshare กลายเป็น quickshare หมดแล้วครับ รองรับ android เกือบทุกเครื่องที่ global windows ก็ทำได้ แต่แอบมีเอ๋อๆต่อไม่ได้บ้างบางครั้ง
ส่วนตัวมีช่วงนึงย้ายลองโทรศัพท์ไปเรื่อยๆเกือบทุกอาทิตย์ ถ้าเป็น android ด้วยกันเสียเวลา set app สำหรับ org auth banking ที่เหลือย้ายง่ายมากเพราะส่วนใหญ่ sync backup ขึ้น onedrive / gdrive เกือบหมด น่าจะเพราะใช้อยู่ 20-30 แอพเท่านั้นเลยไม่ยุ่งยากตอน setup แต่ถ้าย้ายไป ios แทบบ้าเพราะมันผูก backup ทุกอย่างกับ icloud พวก auth 2fa ต่างๆไปไม่ได้เลย ขนาด backup chat line ยังไปไม่ได้ไม่หมด
37:44 ส่วนตัวผมคิดว่าเพราะมันเป็น software ครับที่ทำให้เรารู้สึก(แม้ว่ามันอาจจะมี hardware เป็นเบื้องหลังด้วยก็ตาม) แต่พอเป็นเลนส์กล้องที่เป็น hardware ชัด ๆ มันทำให้เราเห็นว่า เออ ก็มันใส่ไม่ได้ไง มันต่อวงจรคนละแบบกันไง อะไรที่เห็นและเข้าใจได้ชีด ๆ แบบนี้มั้งครับ
ผมใช้มือถือ samsung กับ ipad + macbook มาสักพักละ ไม่ได้รู้สึกลำบากอะไรนะ ของอย่างอื่นก็ใช้แบรนด์ 3rd party ที่ใช้ได้ทั้ง android/ios,ipados เอา แต่ผมไม่ค่อยใช้มือถือทำอะไรด้วยแหละ ก็เลยรู้สึกว่าจะใช้ ios,android ก็ไม่มีผลอะไรเท่าไหร่
ที่ค่ายกล้องมันไม่ได้รู้สึกขนาดมือถือเพราะ มือถือมันมี interaction ระหว่างกันมากกว่า มือถือเรา work กับของคนอื่นมั้ยบลาๆๆ ทำให้เราเห็นข้อสังเกตุเรื่องนี้ได้มากกว่า
ผมว่าที่ Sony, Canon ต่างกับ Apple เพราะไอ้ Lighting เลย
อย่างอื่นมันไม่ได้สร้างอุปสรรคขนาดนั้น แต่สำหรับสายชาร์จคนละ Port ผมว่าลำบากนะ ต้องไปซื้อตัวแปลงอะไรอีก
...แล้วก็ยอมรับว่าทาง Apple เค้าเก่งเรื่อง UX จริง ที่สายงาน UX มันบูมขึ้นมาได้เพราะ Apple ส่วนหนึ่งเลย เดี๋ยวนี้บริษัทใหญ่ ๆ มีหมด
ผมถึงจุดที่ วอชเก่าแล้ว แอร์พอตเก่าแล้ว ไอแผด ยังได้อยู่ แต่จะเปลี่ยนมือถือรอบหน้าก็เริ่มคิดถึงซัมซุงแล้วครับ จริงมาก เรื่อง มี 3 ชิ้นขึ้นจะคิดหนัก
รายการสนุกมากครับ สาระดีมากด้วย
รายการดีๆอีก 1 รายการ ติดตามมาตั้งแต่ EP1 แล้วครับ
Sony เข้ามั้ยครับ😊
จริงๆ Samsung ก็เยอะมากนะครับ ทีวี แอร์ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น digital door lock เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ
ผมนี่รออะไรที่มันเป็น universal อย่างเดียวเลยครับ พวกที่ชาร์จ ต้องคุยด้วย protocol แบรนด์ตัวเองเท่านั้นถึงชาร์จเร็ว ผมเลยต้องมาตามหาซื้อที่ชาร์จที่รองรับทุกแบรนด์ได้เนี่ย มันหายาก และค่อนข้างแพง
จิงค่ะ นี่กะใช้ iphone เพราะซื้อ hipstamatic ไม่พัก เลยไม่คิดย้ายไปแอนดรอยด์ รู้ตัวอีกที ไอฟงแมคไอแพดมาไม่พักเลยค่ะ = ="
ที่คุยกันนี่เข้าใจได้เลย มันเหมือนถูกบีบให้เลือกฝั่งใดฝั่งนึงทั้งๆที่เราไม่ได้อยากจะใช้แบบนั้น แต่ถ้าเราเอามาผสมกันประสิทธิภาพมันดันไม่เต็มที่อีก เข้าใจดีเลย😅
เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าเปลี่ยนยากจริงๆ ครับใช้ IPhone เป็นทุนเดิมแล้วใช้ MacBook บริษัทเลย ซื้อ IPod เพราะ switch ไปมาง่ายเริ่มซื้อ IPad เพราะต้องเขียน flow ต่างๆ แล้วมันเชื่อมกับ MacBook จบด้วย AppleWatch ที่เชื่อมข้อมูลสุขภาพกับมือถือ และ อ่าน noti chat ต่างๆ ต่อให้ซัมซุงหรือ แอนดรอยทำดีมากแค่สำหรับผมได้แค่ว้าวละก็ก้มหน้าใช้ IPhone เหมือนเดิม 😂
ฟังเพลินมาก❤❤
ในวงการ AEC (Architecture Engineer Construction) โดน AutoDesk ทุบหัวอยู่ทุกวันๆแล้วครับ โคตรแพงเลย........หนีไมไ่ด้จริงๆ มีซอฟแวร์เทียบ แต่สุดท้ายก็ดีไม่เท่า......
Ecosystem นี่ถ้ามันแตกต่างกันระหว่างค่ายกันมาก สุดท้ายยังพอแหกได้
แต่ไอ้ระบบ subscriptions 46:00 นี่ผมว่าเลิกยากกว่าอ่ะครับ มันสร้างให้เราติดสบายไปแล้ว แต่มันก็รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบมากกว่า
ขออนุญาตแนะนำคอนเท้นนะครับไม่รู้ว่าจะดีหรือป่าว
อยากให้พี่สองคนอัพเดทข่าว tech ในรอบ 2-3อาทิตที่ไม่ได้เจอกันแล้วก็วิเคราะห์เบื้องลึกครับ
รถผมใช้ Apple Carplay ได้ แต่ใช้ Android Auto ไม่ได้แบบที่พี่อู๋บอกเลยครับ และไม่สามารถอัพเดทซอฟต์แวร์ให้ใช้ Android Auto ได้ด้วยครับ
ถ้าช่วงไหนใช้ iPhone จะแฮปปี้เวลาขับรถมากครับ แต่ถ้าช่วงไหนใช้ Android จะเซ็งมากครับ เหมือนมีความคิดว่าอยากกลับไปใช้ iPhone ตลอดเลยครับ ต้องฟังเพลงในรถผ่านบลูทูธเท่านั้น จะดูแผนที่จากจอกลางของรถก็ไม่ได้ ความสะดวกหายไปเยอะจริงๆครับ
ถ้า apple ใจกล้าๆ ถอนธุรกิจออกจาก EU ลองดู feedback user จะตีกลับไปถล่ม EU ไหม???
ผมทำงานเป็นช่างภาพครับต้องส่งไฟล์ เลยเมื่อถ่ายเสร็จ ไฟล์จาก iPhone ส่ ส่ง airdrop ให้ลูกค้าเลย ส่วนใหญ่จะไม่ผ่านนะครับประมาณ 200 ถึง 400 รูป ยิ่งถ้ามีไฟล์วีดีโอด้วยแล้ว
ipad iphone macbookair airpod คงจะไปไหนลำบากมากๆเลยแหละตอนนี้
ฟังพี่อู๋พูดว่าเราทนใช้ subscription อะไรอยู่ ก็ย้อนดูตัวเองรู้สึก adobe นี่ผูกหนักสุด โปรแกรมหลักใช้ 3 - 4 โปรแกรม ae pr ps ai แต่โปรแกรมพ่วงเพียบ แล้วไม่มี plan pr + ae อะไรงี้ด้วยนะ ราคา/เดือนก็พุ่งปี๊ด สวนทางกะค่าแรงสายนี่มาก
ผมเคยเปลี่ยนจาก dropbox มา onedrive เพราะหวังจะใช้ office ด้วย แต่กลายเป็นว่าส่งลิงค์ให้ลูกค้าโหลดแล้วลูกค้าโหลดไม่ได้เยอะ เมื่อต้นปีนี้เลย
ผมว่า ecosystem อย่างแรกๆเลยคือ กล้องถ่ายรูป/วิดีโอ กับพวก Accessories ครับ จะเปลี่ยนระบบทีนี่แทบจะเป็นไปไม่ได้
เจ็บที่ใจสุดๆเรื่อง cloud eco ติดกับทั้ง cloud ทั้งgoogle 😂
เพื่อนเราคนนึงยอมเปลี่ยนจากไอโฟนมาใช้ซัมซุงเพราะฟลิบ ทั้งๆที่ปกติมันใช้แอร์พอทและแอปเปิ้ลวอชอยู่แล้วด้วยนะ ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีจอพับมันขายได้จริงๆ
15:54 แต่ epic ก็เพิ่มราคา 30% ให้ Apple แล้วนะ ผลเสียก็อยู่ที่ผู้บริโภคที่ต้องจ่ายแพงฝ่ายเดียว
17:53 youtube premium ผมก็จ่ายบนเว็บเหมือนกัน แต่ราคากำลังจะเพิ่มเร็ว ๆ นี้ 🥹🥹
รถที่มี Ecosystem นึกได้แค่ Xiaomi ที่เชื่อมกับระบบ Smart Home ต่างๆ ที่ใช้ google home ได้ด้วย
หูฟัง TWS ที่รองรับ Muliti point ดีๆก็ seamless PC กับ android นะครับ
ใช้ Apple อยู่ทุกอย่างครับ ทั้ง iPhone / iPad / Watch / AirPods อยากเปลี่ยน Ecosystem ไปใช้ Samsung เหมือนกัน แต่น่าจะต้องมีรวมๆ เกือบ 100K ถึงจะเปลี่ยนได้เท่าเดิมทุกอย่าง คิดหนักมาก 🥺💸
@@pchanutz ชอบตรงไหนของ Ecosystem ฝั่ง Samsung เป็นพิเศษไหมคะรับ
รถเราก็ lock ด้วยการ ซ่อมบำรุง
การขายคืน มือ 2
เป็นเหตุผลว่าทำไม T เขายึดตลาดมือสองได้
จะขายคืนได้ราคา รถเสียมีศุนย์
รถพังซ๋อมได้ไว
มอไซ ก็ H
รถยน T M H
26:44 carplay กับ android auto ช่วงแรกมันแยกกัน ตอนหลังก็แยกกันว่าอันไหนมีแบบwireless พึ่งมา1-2ปีที่รถรุ่นทั่วไปใช้แบบwirelessได้ทั้งคู่
ย้ายค่ายยาก ฟังแล้วนึกถึงวงการกล้องถ่ายรูปเลย 😅😅
ประเด็น blue bubble ในสายตาวัยรุ่นอเมริกัน ผมมองว่ามันเป็นประเด็นทางสังคมวัมนธรรมด้วย คือในประวัติศาสตร์บ้้านเค้าความแตกต่างทั้งในแง่ชาติพันธุ์และชนชั้นทางเศรษฐกิจมีการปะทะกันบ่อยและค่อนข้างรุนแรง ถ้าเลือกได้เค้าก็คงไม่อยากแตกต่างในแบบเป็นชนชั้นล่าง ต่อให้ไม่เหนือกว่าอย่างน้อยก็ให้เป็นคนหมู่มาก
คือบ้านเราก็มีการเหยียดกันต่าง ๆ แหละ แต่มันไม่ได้นำมาสู่รุนแรงบ่อยหรือในระดับเดียวกับอเมริกา
ตอนนี้สนุกมาครับ 👍🏼👍🏼👍🏼
eco systemนี่เข้าแล้วออกยากจริง มีทั้งมือถือทั้งแท็ปเลท ทั้งหูฟัง นาฬิกา ถ้ายะย้ายนี่เกือบแสน😢😢😢
พวกลำโพง Bose ที่เคยวางตามพวกโรงแรมนี่ เขามีวางขายเลหลังที่ไหน ใครพอทราบไหมคะ 😅
ผมพึ่งมาตามฟัง ผมว่าขยับเป็นเดือนละ 3 ครั้งก็ดีนะครับ ค่อยๆเพิ่ม
apple ใหญ่ไปจนเป็นเป้า ทั้งๆที่ทุกอย่างในชีวิตมันก็ผูกขาดบางอย่างอยู่แล้ว
ใดๆให้เปลี่ยนที่ตอนนี้มันยากแล้วววว ใช้ google drive ของที่ทำงาน มา 10 กว่าปี พอออก อยู่ดีดี ที่ทำงานลบ email ออก ของในนั้น ข้อมูลทุกอย่างในชีวิต ประมาณ 3 TB หายไปเลย ปีที่แล้วลองใช้ samsung ใช้ได้ 2 เดือน กลับมา iphone เพราะ บางอย่างมันเปลี่ยนไม่ได้จริงๆ
ดูจบแล้วครับ ปล่อยอีพีต่อไปได้เลยครับ
Solution ของปัญหาคือซื้ออุปกรณ์ชิ้นต่อๆ ไปที่ compatible ทั้ง 2 ทางแล้วยอมทิ้งความสะดวกสบายบางอย่างไป เพื่อให้เราย้ายค่ายมือถือไปมา อย่างสบายใจมากขึ้น 😂😂😂
android ดีๆคุ้มๆหลายตัวที่อยากลองไปเลยครับ แต่ติดแค่ตรงลำโพง iphone มันตรงจริตที่สุดครับ ไปไม่ได้เลย เพราะชอบเปิดฟังสดๆ หูฟังก็ไม่ค่อยใช้