ภาค 9 นี่ The Best ทั้งเนื้อเรื่อง ความ Fantasy และเกมส์เพลย์ เลยนะ แต่ด้วยความที่พระเอกมันไม่หล่อมั้งงงงงงง แต่ การ์เน็ตนี่คือ The Best ในวัยเด็กเลยนะ กำลังสาว
Ocarina of time ไม่ได้เอาตาม Final Fantasy VII ครับ ถึงออก 1998 แต่เกมก็ถูกพัฒนามาก่อนที่จะ FFVII วางจำหน่ายครับ อีกอย่าง OOT เป็นเกม Action/ Adventure ที่มีวิธีการนำเสนอแบบเกม RPG (คือการเดินคุยกับ NPC เพื่อแก้ปัญหา/ รับเควสต์, ไม่มีระบบเลเวลจ๋า)
Final Fantasy ภาคที่ดังสุดๆก็มี 1.Final Fantasy 1 (ยอดขายดีมากจนต้องแปล Eng ไปขายนอกประเทศ) 2.Final Fantasy 4 หรือใน เวอร์ชั่น USA คือ Final Fantasy 2 (ภาคที่ 2 ของ Final Fantasy ที่ได้มีการแปล Eng ไปขายนอกประเทศ) 3.Final Fantasy 6 หรือในเวอร์ชั่น USA คือ Final Fantasy 3 (ภาคที่ 3 ของ Final Fantasy ที่ได้มีการแปล Eng ไปขายนอกประเทศ และยังเป็นภาคที่มีลาสต์บอสที่ดีที่สุดในซีรี่ย์) 4.Final Fantasy 7 ภาคที่โด่งดังที่สุดใน PS1 5.Final Fantasy 9 ภาคสุดท้ายของ PS1 ที่ได้นำผู้เล่นกลับไปยังสิ่งที่ Final Fantasy เคยเป็น บวกกับระบบใหม่ที่ลงตัวสุดๆ 6.Final Fantasy X ภาคแรกของ Final Fantasy ที่มีเสียงพากย์ และยังใช้ กราฟิค Full 3D Polygon ที่สวยงาม อลังการ เป็นภาคเดียวของ Final Fantasy ในยุคใหม่ที่โด่งดังสุดๆครับ หลังจากนั้น Final Fantasy ก็ตกลงเหว ไม่โด่งดังเหมือนในอดีตครับ.............. เสริมนิดนึงนะครับ Dragon Quest แปล Eng ทุกภาค ครับ แต่ในยุคนั้นใช้ชื่อว่าเวอร์ชั่น USA ว่า Dragon Warrior ครับ กว่าจะเวอร์ชั่น USA จะใช้ชื่อ Dragon Quest ได้นั้น ก็ ภาค 8 ครับ (Dragon Quest 8 เป็นเกม RPG เกมแรกๆบน PS2 ที่เป็น 3D มุมมอง TPS Open World ขนาด Final Fantasy ยังทำไม่ได้เลยนะครับในยุคนั้น)
ภาค7เป็นภาคที่มีเนื้อเรื่อง deep dark fantasy และยังใช้ฉากแนว sci fi-fantasy ไม่เหมือนภาคก่อนๆ แถมกราฟฟิกสวยเป็นก้อนๆ ระบบเกม มินิเกม ฯลฯ โดยส่วนตัวผมชอบภาค12ที่สุด
เป็นภาคที่ชอบที่สุดเล่นจบบ่อยสุดทุกวันนี้ยังย้อนกลับไปเล่นเลย ภาค7เนี่ย
สาเหตุที่ชอบมาก -เนื้อเรื่องสนุกไม่ซับซ้อน มีซ่อนปมตัวเอกและเฉลยตอนหลัง
-โลกภายในเกมไม่เก่าเกินไปและไม่ได้ใหม่อวกาศเกินไป โดยรวมมันลงตัว(เก่า+ใหม่)
-ตัวละครออกแบบมาดูดีทั้งตัวเอกและตัวร้าย
-ระบบการเล่นง่ายๆไม่ซับซ้อนและค่อนข้างสนุก
-เป็นภารที่มีเนื้อเรื่องแยกย่อยเยอะมากก่อนจะมาเป็นFinal7 ขนาดเนื้อเรื่องหลังเกมยังมีเป็นหนัง
-สถานที่ในเกมออกแบบมาค่อนข้างสวยและลงตัว
-มีคัทซีนสวยๆเท่ๆให้ดูเรื่อยๆ
-เพลงประกอบเพาะ
โดยรวมมันลงตัวที่สุดในแบบของมันแล้วในยุคps1 ที่สุดมากสำหรับผม
3 อย่างใหญ่ๆเลยที่ทำให้โด่งดังและกลายเป็นตำนาน คือ 1.การก้าวกระโดดของภาพ ทำให้คนอินมากขึ้น มนต์อสูรโคตรอลังการ(เทียบกับก่อนหน้า)ฯลฯ 2.เนื้อเรื่องสุดๆ อินกันจนฆ่าตัวตายเลยก็มี แถมเสน่ห์ของตัวละครแต่ละตัวอีก พระเอกนางเอกยันตัวร้าย 3.ระบบเกมส์ง่ายและสนุก ส่งผลให้เป็นครั้งแรกเลยที่ตระกูลไฟนอลชนะดราก้อนเควสได้และมีแฟนไปทั่วโลก
555+
@AMl:ANIME ติดตามอยู่นะครับ 555
หลักๆ ผมว่าเนื้อเรื่อง ตัวละคร แล้วก็การพัฒนาแบบก้าวกระโดด เหมือนกับ re4 ผมว่า 3 อย่างเนี้ยคือหลักๆ เลยอะ ผมว่านะ
4 แผ่นผีแถวบ้านเยอะมาก แผ่นแท้ผมยังไม่เห็นจริงๆ เลย
5 ไม่ว่าไปเกมส์ไหน ถ้ามีชุด อาวุธ คาโมพลางอาวุธเหมือนดาบคาตานะของเซฟิรอธ หรือ คลาวด์ ก็มักจะมีคนแต่งตามเยอะ อย่างผมเล่น pso2 ของญี่ปุ่นมีบางกิลด์แต่งตัวเป็นตัวละคร FF 7 กันยกกิลด์แถมมีเสียงพากย์ของ actor, actress อย่างเหมือนด้วย บางคนแต่งยันภาคปัจจุบัน
ดูคลิปนี้แล้วอยากจะร้องไห้เลย ทั้งที่ ตอนนั้นผมยังไม่เกิดด้วยซ้ำ สงสัยเรื่องราวของเกมนี้ จะดีโคตร ทำให้ผม รู้สึก มีอารมณ์ร่วมตาม ประมาณนี้หรือเปล่า มีโอกาส ลองหาดู ดีกว่า ของต้นฉบับ
ต้องทำใจเรื่องภาพกราฟฟิคไว้นะครับ เพราะสมัยนั้นคือกระโดดข้าม 2D อลังการและอินทั่วโลกแต่สมัยนี้คือเชย นั้นหมายถึงอาจทำให้หลายคนงงว่า มันดียังไง แต่เนื้องเรื่องและรบบเกมส์ผมถือว่ายังระดับสูงอยู่แม้จะผ่านมาจะ 30 ปีแล้ว
เล่นในมือถือ switch ยังอิน เล่นจนจบได้เลยครับ
สนุกมากแต่ต้องไปเล่น play 1 นะ มีหนังสือ บัคไอเท็ม คริ999เลย
ดีจริงครับ
@@OKOK_BULLSHITT หนังสือคู่มือเกม ผมมี FF1,2,tactics,6,7,8,9 ถ้าหา play1 ไม่ได้ก็เล่นบน emu แทนละกันครับ แต่อยากได้ฟีลจริงๆมันต้องเล่นบน play1 นั่นละครับ จะได้อารมณ์มากเวลาที่เล่นจบแผ่นแล้วต้องเปลี่ยนแผ่น แล้วก็มองหน้าจอทีวีรุ่นเก่าแบบจอแก้วที่ไม่ใช่ led หรือ lcd ในแบบปัจจุบันเวลาเล่นโคตรฟินเลย 555
สมัยก่อนตามร้านเกม ใครนั่งเล่นfinal7
นี่คืออย่างเท่เลย เกมแนวrpg รึสมัยก่อนเขาเรียก "เกมภาษา" เป็นเกมที่มีแต่พวกผู้ใหญ่เล่น แล้วfinal7ก็เป็นเกมภาษาที่ดูว้าวมากทั้งมอนเตอร์ทั้งความอลังการของสกิล พวกเด็กๆที่ไม่มีปัญญาเล่นก็จะชอบไปมุงดูคนเล่นเกมนี้😂
นั่นจะนับเป็นการแคสเกมยุคแรกๆไหมนะ
ฉากปืนซิสเตอร์ เรย์ยิงไดมอน เวพ่อนนี่ขอบอกว่าเป็นพระเอกในร้านเกมตอนนั้นมาก ผมเล่น rpg อยู่คนเดียวจนถึงฉากนี้ คนในร้านหยุดเกมมามุงดูฉากนี้เลย ยืดอกเลยผมอย่างเท่ห์ 55+
ผมเล่นสมัย ชมละ 40 บาทเลย
ภาคนี้ ที่ทำให้กลายเป็นตำนาน มันมีหลายๆปัจจัย เข้ามา เอาจริงๆ เนื้อเรื่อง ไม่ได้ดีเลิศไปจนภาคอื่นจะเทียบไม่ได้ขนาดนั้น ที่ทำให้คนจำได้ดีวพลุแตก ต้องยกให้ความใหม่ของระบบ มากกว่า
ปัจจัย แรก คือการเปลี่ยนแพลตฟอร์ม มาเป็น ps1 เทคโนโลยี่ ด้านภาพดีขึ้น ทั้งฉากเดินในmapธรรมดา และฉากต่อสู้ เนื้อหามีเพิ่มฉากมูฟวี่ให้ดู ระบบต่อสู้แบบใหม่ ไอ้หลอดนั้นอ่ะจำชื่อเรียกไม่ได้ ระบบ มาเทเลีย ระบบมนอสูรที่มีฉากให้ดู ระบบอาวุธที่มีความแปลกใหม่ และ มีความล้ำยุคมากขึ้น อ้อ มีมิเกมให้เล่น ในตัวเนื้อเรื่อง และนอกเนื้อเรื่อง เสน่ของตัวละคร สตอรี่ของตัวละคร ที่มีมิติมีความลึกมากขึ้น ความเท่ของเซฟิรอธ สำคัญสุดๆ
โดจิน และงานแฟนอาต ของตัวละครหญิง
ถ้าเทียบเฉพาะเนื้อเรื่องอย่างเดียว ผมว่า ภาค 6 หรือภาคเทคติก ไม่แพ้ อ่ะ
ขอเพิ่มนอกเหนือจากที่แชนแนลพูดมาคือ มนต์อสูร กับ ท่าไม้ตายครับ
สองอย่างนี้ทำให้รู้สึกว่า ฉากบู๊ของเกมRPGมันทำได้อลังการขนาดนี้เลยเหรอ ดูไปขนลุกไป
หลังๆ final พัฒนาไปไกลจนผู้เล่นดั้งเดิม คิดว่าอยากได้แบบเดิม ไม่ต้องอลังการ กราฟิควิธีเล่นไม่ต้องหวือหวา กลับไปสู่การผจญภัยในโลกองคริสตัน สุดท้าย square-enix เลยออกเกม bravery default ซึ่งก็ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ได้ดี
จริง
จริง เพราะผมโครตอยากให้มีเกมเหมือน FF6 มากกว่านี้อีกจัง
ผมนี่เล่นมาตั้งแต่ภาค 1-15 (ยกเว้น 12,14) แล้วก็ ภาคเสริมต่างๆ (บอกอายุ)
ภาค7 นี่ คือประวัติศาสตร์ของวงการเกมส์จริงๆครับ เป็นเกม RPG ที่ ผมต้องลุ้นว่าจะลงเครื่องไหน ในตอนนั้นใจผมอยากได้ PS1 แต่ข่าวช่วงแรกๆของ FF7 ที่ออกมาคือยังไม่รู้ว่าจะลงเครื่องไหนจะเป็นเจ้าเดิม นินเทนโด (นินเทนโด64)หรือ Sony (playstaion)
สมัยนั้นเวลาเล่นเกม rpg ช่วงดำเนินเรื่องหรือคัดซีน เราจะเห็นภาพไม่ชัด คือต้องใช้จินตนาการของผู้เล่นช่วย แต่พอมีระบบ 3D เข้ามา มันทำให้เราเห็นภาพและเหตการณ์ได้ชัดเจนขึ้น ตอนผมเล่นครั้งแรก แล้วได้ “เวทอสูร” ที่เป็นจุดเด่นของเกมFF มานี่ ผมต้องร้อง โอ้วว กันที่เดียว แล้วฉากคัดซีนต่างๆก็โอ้ววววว โดยเฉพาะตอนที่ ทีฟาไต่ขึ้นขอบผา >’’< ก็โอ้วววววววววววว
ผมชอบff9มากพระเอกมีหาง พาเจ้าหญิงไปชมพูทวีป โคตรมันส์ ครบรสมาก เมื่อไหร่จะรีเมคสักที
ถ้าให้นิยาม FF ในแบบของผมที่เคยเล่นมา
ภาค 1-3 ได้ฟิลแบบเกมนักรบผู้กล้า สมัยนั้นยังเฉยๆ แต่ก็รู้สึกชอบ DQ มากกว่า
ภาค 4 โครตดราม่า เน้นเนื้อเรื่องสุดๆ มีความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน พระเอกที่มีความสับสนในตัวเองว่ารับใช้ถูกคนมั้ย นางเอกที่มีนิสัยเจ้าหญิงน่ารัก
ภาค 5 อันนี้ผมไม่อินเนื้อเรื่องเท่าไร แต่สนใจแต่ระบบอาชีพ ฟิลเหมือนเล่นเกม MMORPG
ภาค 6 เนื้อเรื่องเยี่ยม ตัวเอกที่เป็นผู้หญิงทำให้รู้สึกแปลกและมีมิติใหม่ๆ ตัวละครเยอะมากกก และมีเรื่องราวของตัวเอง ความลับต่างๆเยอะ เกมยาวแต่ไม่น่าเบื่อ ทุกวันนี้ก็ยังเล่นใน แอนดรอย
ภาค 7 มันคือการผสมผสานระหว่างความฝหม่และความเก่า จริงๆมันก็มีตั้งแต่ภาค 6 แล้ว แต่ภาคนี้ด้วยภาพและเทคโนโลยีมันทำให้เราเห็นชัดเจน เวลาเราเล่นภาคนี้จะได้ความรู้สึกว่าพวกเราจะกู้โลกเป็นทีมอเวนเจอร์อะไรแบบนั้น เรื่องราวของแต่ละตัวละครซับซ้อนมาก และได้อารมณ์มากด้วย ระบบเกมที่สนุกและอลังการมาก มีสถานที่ลึกลับน่าค้นหา มินิเกมที่ไม่ใช่แค่มินิเกมแต่มันจะช่วยเราในการหาของเทพๆ
เป็นภาคที่แยกแยะไม่ออกว่าใครคือนางเอก เพราะบททั้งสองคนเข้มทั้งคู่ ความรู้สึกผมตอนเล่นและเสียแอริสไปเกมหลังจากนั้นแม่งดูเหงาไปเลย หมดกำลังใจเล่นต่อ แต่พอเล่นไปมันก็มีเรื่องอื่นให้เรารักทีฟามากขึ้น
ภาค 8 เป็นภาคที่สดใสวัยรุ่นมาก เพราะช่วงภาคนี้ออกผมอยุ่ ม.ปลาย เลยอินกับความรักวัยรุ่นของตัวละคร ภาคนี้ไม่มีไรมาก การเดินทางของภาคนี้คือ ให้"รักนำทาง"เหมือนเราดูซีรี่เลย ก่อนจบแผ่น จะมีเหตุการณ์ให้เราต้องติดตามในแผ่นใหม่ตลอด ส่วนตัวชอบช่วงเนื้อเรื่องของ ลากูน่า และฉากจบที่ประทับใจ และที่ขาดไม่ได้เลยคือเพลง Eyes on me ที่ผมคิดว่ามันคือเพลง ost ที่ดีที่สุดของ FF ทุกภาค
ภาค 9 มันคือภาคที่โครตแฟนตาซี นี่สิถึงสมหับชื่อเกม มันให้ความรู้สึกเหมือนเราดูหนังยุคกลาง มีพ่อมดแม่มด นักรบ อัศวิน กษัติย์ เจ้าหญิง แม่งโครตแฟฟนตาซี ส่วนตัวชอบเล่นภาคนี้มาก ถ้านับแค่การเล่นนะ ส่วนเนื้อเรื่องไม่ได้ชอบสุด แต่ประทับใจนางเอกมาก นางแกร่งมากเข้มแข็งสุดๆสมแล้วที่เป็นองค์หญิง ฉากจบมีเซอร์ไพรดูแล้วแอบมีน้ำตา
ภาค 10 นี่คือภาคที่มีฉากจบยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยเล่นเกมมา มันคือที่สุดแห่งความทรงจำ ด้วยดนตรีประกอบที่โครตบิ้ว สีหน้าท่าทาง ที่ตอนนั้นพลังของ ps2 ทำออกมาได้สวยงามมากกว่า ps1 เยอะ จึงทำให้ภาคนี้พูดถึงส่วนอื่นไม่ได้เลยนอกจากส่วนนี้เพราะมันโครตดี
ภาค 12 คือภาคสุดท้ายที่ผมเล่นจบ ภาคนี้ออกแนวสงคราวระหว่างประเทศ การเมืองสุดๆ แต่ก็แฝงไปด้วยเรื่องราวน่าาประทับใจ ส่วนตัวชอบ อาเช่ มากระบบการเล่นที่เอามาจากภาค 11 ออนไลน์ จึงดูมีการใช้สมองมากขึ้นและดูเรียลไทม์มากขึ้น มันดูเหมือนเกมออนไลน์ที่เล่นแบบออฟไลน์ และภาคนี้ก็มีเพลง kiss me good bye ที่ผมรัก โดยรวมสมแล้วที่ได้คะแนน ฟามิซึเต็ม 40
ภาค 13 / 15 มีโอกาสได้เล่นนิดเดียว ส่วนหนึ่งเพราะเข้าสู่วัยทำงาน และความรู้สึกการเล่นมันไม่เหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่ก็จะกลับไปเล่นให้จบแต่ไม่รู้เมื่อไร
ส่วนภาค 7 รีเมค ผมรอ mod thai เสร็จก่อนจะกลับไปเล่นอีกครั้งครับ นี่คือความรู้สึกของเด็กก 90' กับการเล่นซีรี่นี้ของผมครับ ^ ^
❤❤❤🎉
ผมชอบภาค 7 9 10 12 15 มากๆ แต่ตัวละครพระเอกผมชอบ ภาค8และ15
7 กับ 9 ผมชอบสุดละ ยุค PS1 เป็นช่วงที่เกมส์แผ่นบูมมากบ้านเราก่อนจะเข้าสู่ยุคเกมส์ PC Lan และอินเตอร์เน็ตในเวลาต่อมา ตอนนั้นเรียน ม.ต้น มีเวลาเล่นหลังเลิกเรียน ละช่วงหยุดเสาร์-อาทิตย์
เป็รภาคแรกในชีวิตเลยที่เคยเล่น ไปไหนก็มีแต่คนพูดถึง
ได้มาเล่นภาคนี้ครั้้งแรกก็ปีนี้เหมือนกัน สิ่งที่ชวนให้ติดเลย คือมันเป็นเกมที่ดึงเข้าเรื่องไวมากต่างจากหลายๆJRPGที่เคยเล่น ที่จะค่อยๆปูเข้าเนื้อเรื่องกว่าจะเข้าเกมเพลย์หลักก็อาจจะมีหลับใส่จอยกันไปบ้าง
ส่วนตัวได้ลองเล่นเกมกราฟิกมาแทบจะทุกระดับจนชินแล้วตั้งแต่เกมบอยไปจนPS4 ความละเอียดของกราฟิกสำหรับเราเลยไม่ใช่เรื่องใหญ่มาก แต่เป็นเรื่องของart direction
และที่ทำให้หยุดเล่นไม่ได้เลยคือเนื้อเรื่องที่ทำให้อยากติดตามต่อเรื่อยๆ ตัวละครกับธีมเรื่องน่าสนใจที่ถึงเอามาทำใหม่ในยุคนี้ก็ยังดูทันสมัยอยู่ ด้วยความที่อยู่ดีๆเกมมันก็โยนเราลงมาท่ามกลางโลกและตัวละครแบบนั้น การที่ค่อยได้สำรวจโลกตามสไตล์final fantasyและได้รับรู้ไปถึงเรื่องในอดีตของพวกตัวเอก เป็นอะไรที่ทำให้วางจอยไม่ลง ถึงแม้เกมมันจะนานแล้วทำให้ทั้งตัวบทพูดหรือการกระทำของตัวละครและอนิเมชันทีออกมาบางทีก็ให้ความรู้สึกแปลกๆหรือดูตลกบ้าง(แต่ถ้ามองกลับไปในยุคนั้นกราฟิกหรือการขยับได้แบบนี้คงเป็นอะไรที่ล้ำยุคมาก) แต่ภาพรวมก็ยังออกมากลมกล่อมอยู่ เกมเพลย์ในหลายๆด้านแน่นอนว่าถ้าเทียบกับยุคนี้ก็คงไม่ใช่อะไรแปลกใหม่ แต่ส่วนตัวไม่ได้ติดขัดอะไรและก็ยังสนุกกับมันอยู่เหมือนทุกครั้งที่เล่นJRPG เทิร์นเบส
เสร็จภาคนี้คงได้ไปซื้อรีเมคกับภาคอื่นๆมาเล่นต่อด้วยยาวๆ
ถ้าคุณเล่นภาคต้นฉบับคุณจะเข้าใจคือ เกมมันสนุก มี อะไรให้ทำให้แก้ตลอด เกม แต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์ มากๆ ดนตรี เรื่องราว มัน แทบจะไม่ซ้ำ ไหนจะ เรื่องของแต่ตัวละคร มันเด่น มาก มีเอกลักษณ์ มันเลยสนุกไม่เบื่อ ไม่ใช่ชูพระเอกอยู่คนเดียว ตัวโกง ก็มีเอกลักษณ์ เป็นของตัวมันเลย เป็นที่จดจำ มากกว่าผ่านอื่นๆ ผมเชื่อ ว่าคนเล่นภาคต้าฉบับ เขาจะจำตัวละคร ได้เกียบหมด อยากให้เล่นภาคเก่าสักครั่งครับแล้วจะเข้าใจ ถ้าอยากอ่ายเนื้อเรื่องแบบละเอียดก็น่าจะมีอยุ่ ในเวปสรุป ทุก บทสนทนา สำคัญๆ แค่คุณลองอ่าน คุณจะรุ้เลยมันคือนิยายชั้นดี นี้เอง
อยากให้ทำ Final Fantasy 9 บ้างจัง เหมาะกับแนวช่องนี้เลย ^^
ดีทุกอย่างเลย ฟังยังน้ำตาไหล
น่าจะมาพอดี ยุคปฏิวัติกราฟฟิคมั้ง แต่ผมชอบภาค 6 อยากให้ remake
ผมขอเรื่องเกมแนว survival horror มันกำลังจะตายหรือมันไม่บูมหน่อยครับ สังเกตุไหมว่าเวลาปีไหนก็ตามที่ไม่มี resident evil เกมแนวนี้มันจะกร่อยลงมีไม่กี่เกมที่ไม่ใช่ resident evil จะสามารถทำให้มันกลับมาบูมได้อีกครั้งมีแค่เกมเดียวคือ the evil within
Game survival horror มันแมสยากอยู่เป็นทุนเดิมอยู่ครับยิ่งในยุคนี้ยิ่งยาก
ส่วนใหญ่เกมพวกนี้มันจะยากเป็นปกติด้วย
ถ้าจะดัง ถ้าทำมาไม่ดีจริง หรือมีเอกลักษณ์มากพอ ก็มีแต่ต้องอาศัยบุญเก่าเอาไม่ก็ต้องเป็นเกมฟอร์มยักนั้นละครับ
เกมผีมันเครียด คนส่วนใหญ่ดูมากกว่าเล่นเอง 2อย่างนี้น่าจะอธิบายได้ดีสุดละ
ผมว่า ที่สมดุลย์ในระบบที่สุด น่าจะเป็นภาค 9 นะครับ แต่ 7 ดังกว่าเพราะเน้นความเท่หลายบท แต่ภาค 9 คือเอาไฟนอล 1-9 มาปรับสมดุล มีระบบเลเวลแบบดั้งเดิม ระบบอาชีพตายตัวแบบ 6 ระบบรีมิตแบบ7แต่เอามา ทรานแบบ6(Terra) ระบบสกิลตามอาชีพแบบ 2สกิลแบบ 4/5 ระบบมนต์อสูรแบบดั้งเดิมแต่เป็นเครื่องประดับ การฝึกสกิลจากอาวุธ(ภาค 6 มีแค่บางชิ้น แต่ภาค9 ฝึกเป็นหลัก)เปลี่ยนมากฝึกสกิล/เวทย์จาก มาเทเรียเป็นฝึกจากอาวุธ/เครื่องประดับ เพิ่มการใช้งานโจโคโบะมากขึ้น พัฒนาต่อจากภาค 7 มีจั้งค์ชั่นสกิลแบบติดตัว พัฒนามาจากภาค 8 แต่ เข้าใจง่ายกว่า ย้อนยุคเหมือนภาค 1-5 แต่ภาค 9 มินิเกมส์น้อยไปนิด ที่สำคัญ ภาค7 ถูกเอามาขยี้บ่อยกว่า เพราะตัวละครมีสเน่ห์สุก ภาค 9 มันออกเด็กๆไป ภาค8 ก็วัยรุ่นไป ออกแนวซีรีย์เกาหลีจนเอียน ภาคแรกๆก็แนวลิเกไปหน่อย ภาค7มันกระชากอารมดี เวทย์+เทคโนโลยีไปเลย ตัวละครที่ สวย+หล่อที่หน้า แต่ ร่างกาย ชุด ออกแนวบู๊ล้างผลาญ ดราม่า+ฮา สลับไปมาทั้งเรื่อง บทพูดจัดเต็มแบบปัจจุบันเขาพูดกัน มีแวะ มีประชด หยาบคายพอหอมปากหอมคอ ภาค7 เลยดึงดูดสุดตั้งแต่เห็นครั้งแรก
ภาค 9 นี่ The Best ทั้งเนื้อเรื่อง ความ Fantasy และเกมส์เพลย์ เลยนะ
แต่ด้วยความที่พระเอกมันไม่หล่อมั้งงงงงงง
แต่ การ์เน็ตนี่คือ The Best ในวัยเด็กเลยนะ กำลังสาว
แถมภาค 9 ยังมีโมเมนต์ให้ขำเยอะมากๆ
สำหรับผมภาค 7นี่ผมยี้เลย
Rpg มันสนุกกับการหาไอเทม หาอาวุธ หาเกราะ เเละการ build up ตัวละคร
ซึ่ง 7เเทบไม่มีเลย
ชอบ 2,3,4,5,6,9เเต่ชอบสุดคือ ff tactic
ภาค 9 เรื่องระบบเพียวๆเนี่ย แน่นสุดๆละ
ดราก้อนเควสที่มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษคือภาคแรกเลยนะครับ ตั้งแต่ปี 1989 ในชื่อ Dragon Warrior เหตุที่ต้องเปลี่ยนชื่อเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดลิขสิทธิ์เพราะมีการจดทะเบียนชื่อ DragonQuest ในอเมริกาไว้ก่อนแล้ว และเคยมีชื่อเข้าชิงรางวัลในนิตยสาร Nintendo Power ของอเมริกาสองรางวัลในปีนั้นด้วยครับ
FF7 ตัวละครฝ่ายชายผมโคตรชอบ วินเซนต์ วาเลนไทน์ ฝ่ายหญิผมชอบ ยุฟฟี่ ยิ่งมาเห็นใน advent children นี่สุดๆเลยครับ
ผมชอบ ยัฟฟี่ น่ารักดี และดาบของคลาวก็เจ๋งมาก
เราอะไรหลายๆอย่างในภาคนี้ final fantasy นี่ เล่นจบแค่ สองภาค 6-7 แต่วาดคาร์แรคเตอร์ในภาค 7 ได้แม่นกว่าภาค 6 รักมากกกกก
Ocarina of time ไม่ได้เอาตาม Final Fantasy VII ครับ ถึงออก 1998 แต่เกมก็ถูกพัฒนามาก่อนที่จะ FFVII วางจำหน่ายครับ อีกอย่าง OOT เป็นเกม Action/ Adventure ที่มีวิธีการนำเสนอแบบเกม RPG (คือการเดินคุยกับ NPC เพื่อแก้ปัญหา/ รับเควสต์, ไม่มีระบบเลเวลจ๋า)
จริงๆ เนื้อเรื่องFF ภาคเก่าๆคือดีงามหมดและ แต่ภาคนี้เหมือนมันเน้นซีเรียสแบบมากๆๆๆ ละมีฉากสะเทือนอารมณ์ ที่ขนาดกราฟฟิกยุคนั้น ยังสร้างอิมแพคกับผู้เล้นได้เลย
ละคือเกมแม่ม ยาวมากกก เล่นได้โครตนาน
สำหรับค่ายนี้ผมชอบ bahamut lagoon มากสุดชอบบิวว์และสงสารน้อง อีองค์หญิงดันเป็นสต้อกโฮมซินโดรมสะงั้น
จักรวาล Final Fantasy ภาค 7 เรียกกันว่า Jenova Crisis ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 มีเกมและหนังภาคหลักและแยก 5 ภาค คือ Crisis Core , Before Crisis , ภาคหลัก , Dirge Of Cerberus และ Advent Children โดยอันดับ 1 เป็น Ivalice Alliance จากภาค 12 มีเกมภาคที่เกี่ยวข้องถึง 6 ภาค คือ ภาคหลัก , Revenant Wings , Tactics The War Of The Lions , Vagrant Story , Tactics Advance และ Tactics Advance 2
และอันดับ 2 ควบด้วยเป็นจักรวาล Fabula Nova Crystallis ที่มีเกมและหนังรวมกัน 5 เรื่องเท่ากับภาค 7 คือ ภาค 13 ทั้งสามภาค , Kingsglaive Final Fantasy XV และภาคหลัก
ปล. ภาค 14 ก็แง้มไปยังจักรวาล Ivalice Alliance ด้วย จากการที่มีเผ่า Viera สาวหูกระต่ายให้สร้างด้วย มีแค่เพศเดียวที่สร้างได้
ตอนนี้ภาค14 viera สร้างได้2เพศแล้วค่า
ข้อมูลมาเต็ม เยี่ยมครับ 👍
Ivalice นี่เนื้อเรื่อง และเซ็ตติ้งมันเอกลักษณ์มากครับ ทั้ง ocuria สถาปัตยกรรม แถมใน ff14 พวกสภาทั้ง 14 ของพวก แอนเชี่ยน นี่เอาชื่อของพวก occuria มาใช้เลยนะ
สำหรับผมคือความสำเร็จแรกของวงการRPG เพราะเกมส์ภาษาไม่เป็นที่นิยมมากนักในหมู่นักเล่นเกมส์ แม้กระทั่งในญี่ปุ่นเอง ก็ไม่นิยมเล่นกันมากนัก จะเล่นอยู่ในกลุ่มเล็กๆ การเปิดตัวที่น่าจับตาครั้งแรกเลยคือไฟนอล4 5และ6บนเครื่องนิเทนโด ณ.เวลานั่นถือว่าเป็นที่นิยมในตลาดเอเซีย แต่ในญี่ปุ่นกระแสตอบรับก็ยังไม่เป็นที่สนใจมากนัก จนกระทั่งเข้ายุคที่เปลี่ยนแปลงยุค32บิทของชิปcpuมาเป็น64บิทที่เคยแสดงภาพแค่2มิติไปเป็น3มิติอย่างเต็มตัว การใส่cgลงไป แสง สี เสียง อย่างสมจริงขึ้น เนื้อหาที่อัดแน่นเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ จากทีมงานชุดเดิมที่พัฒนาคุณภาพขึ้นเรื่อยๆ จนเนื้อหาแทบจะครบรส สร้างความผูกพันธ์ของตัวละครไว้น่าแปลกใจทั้งตัวเอก ตัวร้าย ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครแต่ละตัว ที่มาและเป้าหมายที่ต่างกัน จนนำไปสู่การค้นหาความจริง ของตัวละครเอก และตัวเด่นของเรื่องแอธิท ที่เป็นที่มาของพลังงานลี้ลับ การปกป้องเพื่อนฟ้อง ร่วมต่อกรกับตัวร้ายเพียงหนึ่งเดียว พร้อมกับการเผชิญหน้ากับตัวการทั้งหมดของเรื่องอย่างชินระ ที่มักจะออกมาขัดขวางทางพระเอกอยู่เรื่อยๆ ที่ต้องตามหาความจริงว่า เซฟิรอธ ตัวร้ายในเรื่องต้องการอะไรกันแน่ จึงทำให้รู้อดีตของพระเอกและตัวร้ายว่ามีที่มาอย่างไร และเมื่อคุณเล่นจนจบคุณจะไม่เป็นเครื่องเพราะคุณจะนั่งฟังเพลงที่ร้องปิดเกมส์นี้จนจบ เพราะมันถือได้ว่าเป็นเพลงที่มีเนื้อร้องยาวนานเพลงหนึ่งเลยและอาจจะยาวที่สุดในเกมส์ที่มีการแต่งเพลงมาเลย 🤣🤣🤣
Final Fantasy ภาคที่ดังสุดๆก็มี
1.Final Fantasy 1 (ยอดขายดีมากจนต้องแปล Eng ไปขายนอกประเทศ)
2.Final Fantasy 4 หรือใน เวอร์ชั่น USA คือ Final Fantasy 2 (ภาคที่ 2 ของ Final Fantasy ที่ได้มีการแปล Eng ไปขายนอกประเทศ)
3.Final Fantasy 6 หรือในเวอร์ชั่น USA คือ Final Fantasy 3 (ภาคที่ 3 ของ Final Fantasy ที่ได้มีการแปล Eng ไปขายนอกประเทศ และยังเป็นภาคที่มีลาสต์บอสที่ดีที่สุดในซีรี่ย์)
4.Final Fantasy 7 ภาคที่โด่งดังที่สุดใน PS1
5.Final Fantasy 9 ภาคสุดท้ายของ PS1 ที่ได้นำผู้เล่นกลับไปยังสิ่งที่ Final Fantasy เคยเป็น บวกกับระบบใหม่ที่ลงตัวสุดๆ
6.Final Fantasy X ภาคแรกของ Final Fantasy ที่มีเสียงพากย์ และยังใช้ กราฟิค Full 3D Polygon ที่สวยงาม อลังการ เป็นภาคเดียวของ Final Fantasy ในยุคใหม่ที่โด่งดังสุดๆครับ หลังจากนั้น Final Fantasy ก็ตกลงเหว ไม่โด่งดังเหมือนในอดีตครับ..............
เสริมนิดนึงนะครับ Dragon Quest แปล Eng ทุกภาค ครับ แต่ในยุคนั้นใช้ชื่อว่าเวอร์ชั่น USA ว่า Dragon Warrior ครับ กว่าจะเวอร์ชั่น USA จะใช้ชื่อ Dragon Quest ได้นั้น ก็ ภาค 8 ครับ (Dragon Quest 8 เป็นเกม RPG เกมแรกๆบน PS2 ที่เป็น 3D มุมมอง TPS Open World ขนาด Final Fantasy ยังทำไม่ได้เลยนะครับในยุคนั้น)
ภาค14แพทช์โลกใหม่ไม่ติดหรือครับ ปีก่อนครองแชมป์mmoเลยน้าาา ถีบwowลงจากบัลลังก์ได้นี่ก็โหดเทพอยู่นะครับ คนเล่นก็เยอะเสียด้วย ขาดแค่เรื่องการโปรโมทกับเซิร์เวอร์น้อย ขนาดนี่ช่วงโควิดนะเนี่ย
@@mynameistoohardtospell7195 ตอนนี้คือ 14 แบกทั้งบริษัทเลยครับ 555555+
ภาค 10 นี่ผมไม่ได้เล่นละ จำได้ว่าไปเดินห้างแล้วร้านขายเกมเอา gameplay จากภาค 10 นี่แหละมาเปิดโชว์ ผมก็ได้แต่ทึ่งว่ากราฟฟิกมันอลังการได้ขนาดนี้แล้วเหรอ
ง่ายๆครับ *”พระเอกเก่งและเท่ห์ หญิงสวย ตัวหลักมีเอกลักษณ์แม้ว่าหน้าตาจะไม่ได้ดีขนาดนั้น”*
ภาคนี้ผมชอบทุกเพลงเลย ฟังแล้วสื่ออารมณ์นึกถึงคู่คลาว ทีฟา หรือคู่คลาว อารีส หรือ เซฟีรอส หรือ เรดเอตร์ทีน ฯลฯ มันตรึงใจมากๆ ไม่รู้จะจำไปจนแก่ไหม
ทําเรื่องเกี่ยวกับ โยไควอช หน่อยครับ
Dragon Quest มีการแปลอังกฤษตั้งแต่ภาคแรกแล้วครับ แต่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Dragon Warrior แล้วหน้าปกเกมจากลายเส้นอกิระ โทริยาม่า เจ้าของลายเส้นดราก้อนบอลกับอาราเล่เจ้าเก่า เป็นลายเส้นแบบการ์ตูนฝรั่งโหดๆ ในเกมก็ยังมีการเปลี่ยนชื่อตัวละคร และการเปลี่ยนชื่อสกิลอย่างสกิลฮีลชื่อเบโฮมี่ในต้นฉบับ กลายเป็นชื่อ aid1 aid 2 aid3 ง่ายๆเลย เนื้อเรื่องก็แบบไม่ซับซ้อนเกินแถมอ้างถึงชื่อเฉพาะเยอะ แล้วเกมเพลย์ยังเป็นแนวเดิมๆ จักรวาลเดิมๆ ตลอด เลยทำให้พาลเบื่อเอาได้จริงๆ แล้วการแปลอังกฤษก็วิบัติที่สุดคือตอนภาค 4 ที่ทำเวอร์ชั่นฝั่งตะวันตกทำให้ตัวละครที่เล่นได้แทบไม่มีบทพูด และภาค 5 ที่ตัดระบบความสัมพันธ์กับสาวๆแล้วมีบุตรที่จะมีความสามารถเหมือนพ่อและแม่ ข้ามยาวไปกลายเป็นฮีโร่จากไหนไม่รู้มาสานต่อตัวเอกเก่าแทน ภาค 5 เลยเป็นภาคสุดท้ายที่แปลอังกฤษ ก่อนจะกลับมาในภาค 7 แล้วไม่เปลี่ยนชื่อเกมกับหน้าปกในฝั่งตะวันตกแล้ว ใช้หน้าปกกับชื่อตามต้นฉบับเลย
ใช่ครับ ตอนนั้นเล่นภาคญี่ปุ่นจนถึง 3 แล้วมีญาติจากอเมริกามา พร้อมเครื่อง nes และเกมส์นี้ warrior 2
ผมนี่เล่นแบบไม่นอนเลย แลกให้เค้าเล่นเกมส์เครื่องเรา
ซีรีส์นี้ เป็น rpg ที่แป้กในอเมริกา เนื้อเรื่อง โครงสร้างไม่โดนใจฝรั่ง ในตอนนั้น DBZ เองก็ยังไม่ดังในอเมริกาด้วย
@@whitesnaresiamyth เนื้อเรื่อง Dragon Quest ภาคแรกๆคือแบบอนิเมะโชเน็นผจญภัยในโลกแฟนตาซียุค 80's ดีๆเลย ชื่อเฉพาะเยอะด้วย ทั้งตราสัยลักษณ์โรโตะ อะไรทำนองนี้ ในขณะที่ไฟนอลภาคแรกออกแนว He - Man การ์ตูนที่โด่งดังในช่วงปี 86 นี่แหละ เลยเข้าถึงฝั่งตะวันตกมากกว่า ถึงกระนั้นกว่าจะมาอเมริกาอีกทีก็นู่น ภาค 4 กับ 6 เลย ภาค 4 ต่างชาติบอก Golbez นึกถึง Darth Vader จาก Star Wars ถึงขนาดมีมุขล้อเกมอย่าง I am your BROTHER! (เพราะตัวเอกกับ Golbez เป็นพี่น้องกัน) ส่วนภาค 6 ต่างชาติบอก Kefka เหมือนโจ๊กเกอร์จาก Batman
เห็นเลยว่า ไฟนอลที่ว่ามามักไปล้อกับการ์ตูนและหนังที่โด่งดังฝั่งบ้านเขาอยู่แล้วด้วย
เข้าใจว่าเรื่องลิขสิทธิ์เกมส์ที่ยุคนั้น หารขายในอเมริกาใช้วิธีซื้อสิทธิ์มาทำขายแต่ไม่ใช่การมาทำตลาดเอง ดังนั้น น่าจะติดเรื่องเนื้อเรื่องและการออกแบบของ อ.โทริฯ ด้วยนะครับ
รวมถึงเกมส์ RPG ของงรั่งเองยุคนั้นก็แตกต่างไปมากจนจัดให้เกมส์แนว DQ เป็น J-RPG ซะ
ผมเคยเล่นเกมส์ Rhe Hobbits ที่จัดเป็น RPG เล่นแล้วไม่อินเอาซะเลบ
แต่สิ่งนึงที่ซีรีส์ DQ ทำได้เหนือ FF คือ มูลค่าลิขสิทธิ์ในญี่ปุ่น ที่นอกจากเกมส์ ยังออกมังงะ ของเล่น สินค้าต่างๆมากมาย เป็นซีรี่ย์เกมส์ยุคแรกๆที่สร้างรายได้ทางอ้อมจน enix ขึ้นมาเป็นบริษัทเกมส์ใหญ่ได้
นอกจาก Adventure Of Dai ที่ดังมาก ยังมีมังงะของแทบทุกภาคและ side story ล้นหลาม
น่าเสียดายที่ในตอนนั้น กระแสการ์ตูนญี่ปุ่นยังใหม่มากๆในอเมริกาเหนือ ฉายกี่เรื่องๆก็เจ๊งเพราะฝรั่งไม่อิน
พอ FF บุกตลาดจริงจังตามคลิปนี้ ในตอนนั้นช่วง 1997-98 นอกจากเนื้อเรื่องขายง่ายกว่า DQ โลกแฟนตาซีเค้าดูเข้าถึงง่ายกว่ามาก เริ่มมีการ์ตูนจากญี่ปุ่นไปโกยเงินจากฝรั่งได้ ถ้าจำไม่ผิด Power Ranger กับ Pokemon ก็ตามๆไปในไม่ช้า ฝรั่งถึงเริ่มชินกับสไตล์ญี่ปุ่นมากๆได้
เอาจริงๆ Zelda และ Megaman ก็มีลักษณะเรื่องราวที่ไม่ J มากแบบ DQ จึงทำตลาดได้ดีกว่ามาก
รวมถึง เนื้อเรื่องของ DQ กว่าจะเริ่มซับซ้อนจนมีมิติ ผมว่าต้องภาค 5 โน่นเลย
ภาค 1 นี่คลาสสิคแต่แบนมาก ภาค 2 เริ่มหลากหลายแต่ยังมีความตรงไปตรงมา
ภาค 3 ที่ส่วนตัวชอบสุด ก็ยังสร้างมิติตัวละครได้ไม่เด่นทุกตัว ในขณะที่ภาค 4 ผูกเรื่องมาสนุก(ส่วนตัว) แต่ทำเป็นเกมส์ไม่สนุก
ภาค 5 จึงกลมกล่อม
ในทางกลับกัน FF พัฒนาระบบการเล่นมาชดเชยเรื่องที่ภาค 1-4 ค่อยๆพัฒนา และเริ่มส่งต่อให้มีตัวละครในดวงใจเช่นซิด หรือนินจา มีสตอรี่และไอเท็มแต่ละตัวชัดเขน มีบทบาทให้เหมาะกันคนชอบ
ต่อให้ DQ ภาคใหม่ๆ ก็ยังชัดเจนว่า พระเอกคือแกนเรื่อง
มาเจอ FF7 แม้ว่าคลาวด์จะเป็นพระเอก แต่เราสามารถเอาตัวรองมาเล่นให้สนุกๆด้เช่น Red XIII, Vincent, Cid
DQ ที่น่าจะทำออกมาแล้วใช่ที่สุดคือการเอาภาค Dai มาเคาะเป็นเกมส์อย่างเต็มตัว เพราะภาคนี้เขียนเรื่องมาแน่นๆเลย
ตอนโน้นนนน มีข่าวลือตั้งแต่ยุค PS ว่าจะมีออกมา แฟนๆต่างก็รอแล้วเก้อไป
ทุกคนอยากรู้ว่าถ้ามาเป็นเกมส์ มาม ป็อป ฮิวเคล จะเป็นยังไง อวาน จะเทพขนาดไหน บารัน จะมาในสตอรี่อย่างไร ศัตรูเทพๆพวกบอสช่วงหลังๆจะพีคขนาดไหน
เป็นความหวังของคอ DQ ว่าจะเชิดหน้าชูตาได้
ผมจำได้ว่ามโนกันเลยว่า Dai ในจักรวาล DQ กับภาพของ PS จะไม่แพ้ FF7 แน่นอน
ต่ออีกนิดครับ
FF7 ทำให้ภาพฝันของเราออกมาเป็นจริงทั้ง ไททัน บาฮามุทซี่โร่ โอดีน
แต่ เราเพิ่งมารู้ว่า คิงสไลม์มันตัวเท่าไหนก็ยุคหลังๆของ DQ แล้ว เพราะ DQ ไม่เคยคิดสร้างประสบการณ์ภาพออกมาเท่าที่ควร ปล่อยพื้นที่ให้จินตนาการเอาเอง
คิลเลอร์แมชชีนนี่ก็ตัวใหญ่กว่าที่คิดไว้มาก
แต่มังกรดันตัวเล็กกว่าที่คิด จริงๆมันควรจะฟิลตีมอนใน Monster Hunter เลย
ตอน ป 4 ชอบไปดูพี่คนนึงนั่งเล่นที่ร้านเกมส์หน้าบ้านครับ เค้าจะเดินมาพร้อมหนังสือ gamemag ff7 ทุกวัน ตอน 6 โมงเย็น นั่งดูเค้าเล่นจนแม่มาตามกลับบ้าน สุดท้ายขอพ่อซื้อทั้งเครื่องและเกมส์นี้ พ่อให้ครับ ดีใจที่สุดในชีวิต แบบคิดว่า ชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว พอได้เล่นเองจริงๆ ชอบ ทีฟามากครับ ผมเล่นเกมส์ ซ้ำๆจนเข้า มหาลัยเลย ตอนมหาลัย ก็หาหนังดู และหาวิธีเล่น ff7c ผ่านคอมจนเล่นจบได้ จนตอนนี้ ซื้อ ps4 มาและซื้อ ff7 re มาเล่น เกมส์เดียว
ทุกตัวละครมีมิติ สามารถเอามาต่อยอดได้แทบทุกตัวละคร...ความสุขความสนุกของวันวาน
1. กราฟฟิกสวยแบบก้าวกระโดดจาก ps1
2. ตัวละคร และ เส้นเรื่องมีความไดนามิกสูง ไม่ทื่อ หรือ เน้นตัวละครหลักจนเกินไป
3. ธีมแบบ FF7 คือ แปลกใหม่จากตลาดมาก
4. การเข้าถึงในระดับที่ worldwide mass เด็กๆ, วัยรุ่น ยุคนั้นเข้าถึงได้มากขึ้น อันนี้ต้องยกให้เรื่องของ timing
ขอบคุณค่ะแอดด ชอบเรื่องนี้มากๆผูกพันตัวละคร
เพราะภาคนี้มีไวฟุตัวตึงอยู่ ซึ่งเทียบกับภาคอื่นๆผมแทบจำตัวละครสาวๆในเกมไม่ได้เลย แต่กับทีฟานี่ความนิยมล้นหลามจริงๆ
ที่ดังๆก็มี
7 =ps1
10 =ps2
13 =ps3
สังเกตุได้ว่าภาคที่ดังๆ
จะมาพร้อมกับการเปิดตัวของ psรุ่นใหม่
ของ ps3 มีโดนบ่นว่าเนื้อเรื่องเส้นตรงไป กระนั้นตัวเอกภาคนี้ดังยันนอกเกม ไปฝั่งแฟชั่นเลยทีเดียว
เหมือนจะเคยเล่น FF7 ใน เครื่อง Super ...
@@รังสรรค์พันธ์ศรี-ค8ง ถ้างั้นก็เลอะเทอะละ FF7 พึ่งมาตอน ps1
@@ziigmundillari1711 ผมชอบภาค 12 สุด ระบบดีมาก ความลับในเกมเยอะ
สำหรับผม ไฟนอลที่ดีที่สุดคือภาค 10/2 นอกนั้นก็เล่นเพราะเป็นแฟนซีรีย์ภาคนี้
อีกภาคที่ค่อนข้างชอบคือ 12 แต่ก็ยังไม่อินเท่า x-2 อยู่ดี
คลาวด์หล่อเท่ห์สุดในเกมไฟนอลฯละ ถ้าเกิดมีโครงการพากย์แปล ผมว่าเสียงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพระเอกต้องพี่หนึ่งภัฑราวุฒิเลยครับเพราะส่วนมากพี่แกชอบพากย์พระเอกเป็นบางเรื่อง พี่บากอย่างสควอล์ก็เหมาะกับพี่แกด้วยละครับ
พี่คลาวด์ ขอบทสรุป หรือ อธิบายเกี่ยวกับเนื่อเรื่องและเนื้อหา ของ Attack On Titan ด้วยฮะ
เป็นเกมส์ภาคแรกที่เรียกว่าเป็นเกมส์ภาษาที่แตะ ในวัยที่เริ่มเล่นเกมส์พอดี น่าจะช่วงอายุ12-13 แต่ด้วยวัยที่อ่านภาษาไม่ออก เล่นอย่างเดียว จำได้ว่า เล่นไปถึงบอสตัวแรกอย่าง Scorpion sentinel กดใช้ potion ไม่เป็นซึ่งไม่รู้ว่ามันเพิ่มเลือดก็เลยตาย และไม่เล่นต่อเลย555 พอเริ่มรู้ภาษากลับมาเล่นใหม่ถึงเล่นจบ
ที่ชอบไฟน่อลภาค7คือ มีซีรี่ย์แอดเวนชิลเด้น ผมก็ติดตามมาตั้งแต่นั้นแหละ มันส์สุดๆ
บอกตรงๆเลย FF7remake มันวนหลูบอยู่ในหัวผมตั้งแต่ม.5ละ นี่จบม.6 ก็ยังไม่หายยิ่ง one winged angel ยิ่งแล้วใหญ่เพลงประกอบวนในหัวทุกวัน ลืมไม่ลงเลย เกมนี้รักมากกกกก
สมัยนั้นอ่านไม่ออก ซื้อบทสรุปมาเล่นทำให้เข้าใจเนื้อเรื่อง ชอบระบบมาทีเลียและมนอสูรสุดอลังการ ปั้นโชโคโบะลงโกลซอเซอร์ หาของแรร์กว่าจะครบ ตอนแอรีสตายนี่อินมาก55
ชอบเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่อง มันซึ้งดี ผมยังรัองเพลง eye on me ได้เลย ^_^
ส่วนตัวกว่าจะได้สัมผัสกับเครื่องเพลก็โตพอประมาณแล้วกว่าจะได้เล่น ก่อนนั้นเคยได้เห็นไฟนอลแฟนตาซีครั้งแรก จากMV ที่มันติดเครื่องคอมมา เป็นเพลง อายออนมี ของภาค8 คือชอบล่ะ ไม่รุ้ว่ามันเป็นหนังรึการ์ตูนอะไร ช่วง16-17 คือไปได้เพลวันมา(มันตกรุ่นไปแล้วอะนะ เหมือนตอนนั้นเพล2เพล3มันก็มีออกมาล่ะมั้ง ไม่ใช่สายเกมส์) ก็เอามาเล่นแก้เซงตอนอยู่หอเพื่อนก็ให้ยืมแผ่นไฟนอล9 มาเล่น ก็คิดว่าเออ น่ารักดี ก็ติดแหล่ะ จากจุดนั้นก็เริ่มสนใจไฟนอลภาคอื่นๆ แต่ก็ไม่เคยเล่น (เริ่มไปเล่นเกมส์ออนไลน์) ตอนภาค7รีแมค ก็ดูจากสตีมเมอร์ เนื้อเรื่องคือดี ชอบทุกภาค แต่ตัวละครให้ใจไปกับพระนางภาค8 ที่เห็นครั้งแรกไปแล้ว ทั้งๆที่ยังได้เสพเนื้อเรื่องน้อยกว่าภาคอื่นๆ
ตอนปี 2015 ยังจำได้เลย คือนั่งดูเทลเลอร์ FF7Re นํ้าตาไหลในที่ทำงานเลยตอนนั้น(พวกพี่ๆ ก็ตกใจ แบบร้องไห้ทำไม-เปล่า ไม่ได้ร้อง แค่ดีใจน่ะพี่55555)
เพราะยุคนั้นมันมีคนในร้านเกมส์พูดกันว่ากูจะทำให้เอรีสไม่ตาย มันต้องมีวิธี .... นี่ก็โหมเล่นกันทั้งร้านหาวิธีจนได้ของครบทุกชิ้นเอรีสก็ตายอยู่ดี แต่ มันมีคนใช้แอคชั่นรีเพลย์ เอามาโชว์ว่านี่กูทำให้เอรียอยู่จนจบเกมส์ได้ 55555 แล้วมันก็ลือกันไปต่างๆนาๆตามปากเด็กร้านเกมส์ว่าคนนั้นทำได้คนนี้ทำได้ สนุกครับยุคนั้น ข่าวที่เราจะได้รับก็คือหนังสือเกมส์อย่างเดียวเลย แต่จำได้ เมื่อก่อน ใช้ชื่อบริษัทเป็น square soft
ผมเป็นคนเดียวหรือเปล่าที่ชอบภาค 8 มากสุด ถึงจะพูดแล้วมีแต่ข้อเสียออกมาอย่างงั้นก็เถอะนะ
คือถ้าเริ่มเล่นแล้วก็เล่นไปเลย 1 เดือนเต็มถึงจะจบ เหมือนรู้สึกหลุดเข้าไปอยู่ในโลกนั้นจริงๆ เพราะขนาดเกมมันใหญ่มากๆจริงๆ.. ในสมัยนั้นน่ะนะ
ผมก็ชอบ คงเป็นเพราะเล่น 8 ก่อนกลับมาเล่น7 เทียบเรื่องกราฟฟิกกินขาด (ก็แหงล่ะสิ สร้างที่หลังนิ) บวกผ่านหูผ่าน สปอย อลิซ มาแล้วสมัยนั้นเลยไม่ได้ ตื่นเต้นกับ ภาค 7 ไหนเพลง อาย ออน มี อีก เนื้อเรื่องรักๆใคร่ๆ แนว พ่อแง่ แม่ง้อ โอ้ย โดนใจสุดๆ
ภาคแปด ค่อนข้างเล่นยากมาก ตอนนั้นเล่นแบบ "ไม่เล่นเกมการ์ด" ซึ่งเป็นความชิบหายระดับ S
เกมนี้ไม่เล่นเกมการ์ดไม่ได้ มันจะยากมากๆ
แถมเนื้อเรื่องต้องอ่านเยอะ และสำนวนยากมากๆ มีความ Subtle เพียบ ตอนนั้นเล่นอายุ 19 วันก่อนเพิ่งจบอายุตอนนี้ 42 ทำงานบอสัดฝรั่ง จะบอกว่า ผมยังหลุดเลยว่า จริงๆ แล้ว
สปอยด้านล่าง
**สปอย**
******พระเอกเปนลุกลากุนากับเรนอยุ่บ้านเดวกันกับเอเลออนเน**จนเรนตายถึงไปบ้านเดกกำพราด้วยกัน**********
***สปอย*****
@@artapichendusae9498 ถ้าพี่เล่นตอนอายุ 19 ตอนนั้นผมเพิ่ง 10 ขวบเองมั้งครับ 555 แต่เอาเข้าจริงผมเล่นเกมนี้ในช่วงอายุไล่เลี่ยกันกับพี่คือประมาณ 19 ช่วงนั้นหาเกมเก่าๆมาเล่น เรื่องภาษาเลยไม่ค่อยมีปัญหาเพราะยุคนั้นเซิร์ชหาคำที่ไม่รู้ในเน็ตได้ประกอบกับผมเป็นเด็กสายศิลป์เลยไม่มีปัญหาด้านภาษาแถม ถ้าเรื่องไหนไม่รู้ผมถามเพื่อนเอาได้แค่ MSN ไป เลยค่อยข้างง่ายสำหรับผมไปเลยล่ะมั้งครับ เพื่อนมันเล่นจบหมดแล้วเลยมีมันเหมือนเป็น walkthrough ด้วย ส่วนเรื่องที่พี่สปอยล์ผมบอกตามตรงผมนึกไม่ออกจริงๆครับ 55555+ เพราะลืมไปหมดแล้ว หรือว่าสงสัยต้องกลับไปเล่นอีกรอบ 55555
@@captainstadium สมัยนั้น ถ้าจะแปลต้องเปิดดิกเล่ม ทุกคำ เนตยังไม่มี มือถือเสียงเรียกเข้ายังไม่มี MIDI
ที่บอกในสปอย มันจะสื่อแบบอ้อมๆ ซึ่งจริงที่เพิ่งเล่นจบวันก่อน ก็เจอ ตรงที่มันแซว ดีแล้วหน้าเหมือนแม่ อย่าไปหน้าเหมือนพ่อเลย อะไรแบบนั้น ในมจก็ตะหงิดๆ แต่มันดันไม่อ๋อออกมา
สมัยก่อนเล่นเกมอย่าว่าแต่ facts ที่ซ่อนๆแบบนี้เลย เอาว่า GF ผมเก็บได้ครึ่งเดว พวกด่านลับไซด์เควส ต้องออกเรือไปค้นเอาเองแทบไม่มีคำใบ้
เกม FF8 เป็นเกมที่ต้องเล่นเกมการ์ดและเก็บไซด์เควสมาก และเอาจริงๆต้องเปิด วอคทรู เฉลยด้วย ไม่งั้นจะพลาดอะไรไปได้ง่ายมากๆ ตามสไตล์เกม JRPG ดั้งเดิม ซึ่งพาหัวร้อนใช่เล่น รอบที่เล่นมานี่ก้อพลาดไปสองสามอย่าง
FF8 ถ้าเล่นแบบไม่รู้เรื่อง ไปเรื่อยๆเก็บเวลธรรมดา ไม่เล่นการ์ด มอนจะเก่งแต่เราจะง่อย ตอนสู้ก็ต้องงัด ลิมิต หรือ GF มารัวๆ ที่เล่นไปรอบนี้ ง่ายหมูมาก เวทล้ำ จังชันเทพ GF เพียบ คำสั่ง refine ครบครัน เกบเวล 100 ก่อนเข้าด่านสุดท้ายแค่นั้น ก่อนนั้น ไม่ให้เวลขึ้นได้ก็เลี่ยง เฉลี่ย 20 - 30 แค่นั้น
เอาตรงๆเป็นเกม ที่ต้องรู้ก่อนเล่น ต้องรู้ไม่งั้นเล่นยากมาก หรือน้อยที่สุด ต้องเล่นเล่นการ์ดเกมให้เยอะๆ เอาว่า สี่ ชม แรกไม่ต้องทำไรเล่นการ์ดเกม ซึ่งปกติมันไม่ควรจะขนาดนั้น ควรจะเล่นธรรมดาได้ เล่นไปไวๆได้ แค่ของไม่ครบ แต่อันนี้ ค่อนข้างเหมือนขาดทุนหนัก และแก้ไขยากด้วยถ้าเลยไปแล้ว
เออ อีการ์ดเกมก็ต้องรู้วิธี ลบ กฏที่ทำให้เล่นยาก ไม่ใช้ผสมกฏมันไปตลอดเวลา ดนี่ย ไม่รู้ก็ชิบหายอีก ยากโคตรๆ เห้อ
จุดที่แย่คือระบบฟังกชั่น และไปอัดความเทพของลิมิตเบรคของตัวละครชายมากไป เรื่องระบบเกมถือว่ารั่วเละเทะ สู้ ff9 ไม่ได้เลย
ผมเป็นเด็กคนนึงในสมัยนั้นที่เฝ้ารอวันออกจำหน่ายของเกมส์นี้อย่างใจจดใจจ่อ(ติดตามข่าวจากเกมส์แม็ก) บอกได้เลยที่เกมส์นี้ดังมากๆและได้รับความนิยมสูงสุดเพราะตัวเกมส์มีความลึกในเนื้อเรื่อง ระบบที่แปลกใหม่,ภาพที่สวยงามอลังการ มนต์อสูรหลายๆตัวในภาคนั้น ไม่มีปรากฏในภาพอื่นอีกเลย อย่าง13อัศวินโต๊ะกลม"ไนท์ออฟราวด์"มนต์อสูรสุดยอดที่โจมตีถึง13ครั้ง รวมถึงระบบปลีกย่อยที่หลากหลายอย่างการเลี้ยงโจโกโบะเพื่อนำไปลงแข่ง,แม้กระทั่งภาครีเมคผมว่าก็ยังเทียบกับภาคเก่าไม่ได้ครับ🙂
มันก็เป็นไปตามยุคแหละครับ ผมเองก็เล่นจนปรุ ในยุคนั้น (ยากสุดน่าจะเป็นตอนสู้กะเจ้ารูบี้ เวพ่อน) แต่รีเมคนี่แค่พาร์ทแรก ที่วนแค่ในเมืองมิดการ์ ของจริงคือพาร์ทสอง ที่น่าตื่นเต้นว่าจะทำโอเพ่นเวิร์ลได้มากขนาดไหน และจะทำเนื้อเรื่องให้มีลูกเล่นได้แค่ไหน มินิเกมหลากหลายได่แค่ไหน น่าตื่นเต้นดี
แล้วแต่คนชอบ ภาค7สมัยps1 มีแค่3แผ่นก็จริงแต่เนื้อเรื่องมันยืดเยื้อ สมัยนั้นผมว่าภาค8นะที่มีคนชอบมาก และก็9ผมชอบมาก ภาค7เล่นกันก็จริงแต่ไม่มีคนบอกว่าชอบเลยนะครับ
เพลง เนื้อเรื่อง ตัวละครทุกตัวมีความเป็นตัวเอง มุกหลายๆอย่างขำได้เหมือนได้อ่านมังง่ะ เราแทบไม่ได้เห็นเกมในยุคนี้ ที่ทำให้เห็นทุกแง่มุมของทุกตัวละคร คล้ายๆอนิแมะวันพีชที่ขยายเนื้อเรื่องไปถึงทุกตัวละครป่ะล่ะ และไปถึงตอนจบ มันเป็น (เกมเดอะซีรีย์) เมื่อได้ดูได้เล่นแล้ว ต้องตามไห้จบ ขอโทษที่พาดพิงไปถึงวันพีช
ส่วนที่ชอบสุด คือ ระบบ Materia
ช่วง 5 เดือนแรกที่ ff7r จบ ผมนี่หมกมุ่นไม่หยุดไปหาดูออริ บลาๆ แต่ก็หายบ้าละ55 แต่ในใจตอนนี้ก็ยังอยากให้คลอด part2 สักทีละนะ #เจสซี่รอด #แอริธรอด สาธุ สาทุ🙏🏻😆
ตอน ff7 ออก กำลังเรียนมหาลัยเล่นแล้วสนุกมาก จากยุค atari famicom super famicom megadrive พอมา ps1 เห็นกราฟฟิค ff7 แล้วอลังการมาก 3 มิติ ภาพสวยอลังการมนต์อสูรแบบสุดๆละ เล่นแล้วอินมากมันเป็นยุคก้าวกระโดดของกราฟฟิคเกมส์เลย เด็กสมัยนี้มองก็คงภาพไม่สวย แต่คนยุคนั้นมันว้าวมาก กราฟฟิคมันทำให้จินตนการเห็นเป็นภาพในเกมส์เลยยิ่งอินกับเนื้อเรื่อง
สำหรับผมชอบภาค7และ8ที่สุดเลยครับ อินกับตัวเกมและเนื้อเรื่องสุดๆ
อยากให้รีเม้คภาค8ด้วยจริงๆ
Arc the Lad คือไม่ได้ยินชื่อเกมนี้นานมาก 5555555 สนุกเด้อ
งานออกแบบภาคนี้เหมือนงานศิลปะร่วมสมัย ไม่ตกยุค ไม่ว่าจะอยู่ในยุคไหน เปรียบเหมือน หนัง คนเหล็กภาค2 และเมททริกซ์ภาค1 ต่อให้สร้างภาคต่อกี่ภาคยังไงก็สู้อันเดิมไม่ได้
ตอนนั้นมันสนุกมาก เหมือนเข้าไปอยู่ในนิทานเลยละ กราฟฟิกเป็นก้อนๆแต่มันน่ารัก FF8 ที่พยายามสร้างเหมือนคนจริง ก็ยังไม่มีเสน่ห์เท่าก้อนๆนั้นเลย
เรื่องสีต่างๆก็สวยลงตัว เพลงเพราะมาก บทหลากหลายและมิติเยอะดี
Remake อาจจะสู้ไม่ได้นะเอาจริงๆ
จริงๆแล้วถ้าคนที่ติดตามjrpgมาก่อนหน้านี้ยาวนาน จะทราบดีว่าff7ดังจริงแต่ ยังคงสู้ ff6กับchrono triggerไม่ได้ ซึ่งยุคนั้น 2เกมนี้ถือเป็นjrpgที่ดีที่สุดตลอดกาลครับ
และถ้ามองในมุมเกมที่อยู่ยุคgenเดียวกัน ff7ก็ยังแพ้zelda ocarina of time อีกด้วยครับ(แต่zeldaไม่ใช่rpgนะ)
ปล.ff มีengตั้งแต่ภาค1 แล้วตามมาด้วยภาค4และ6 โดยสามภาคนี้ฝั่งตะวันตกตั้งใหม่เป็นภาค1,2และ3ตามลำดับครับ
Zelda ดังมากในหมู่คนเล่นและติดตามปู่นินครับ
FF VI ทั้งเนื้อเรื่องและคอนเทนต์ดีและกว่า FF VII แต่ตอนนั้นกระแสตัวเอกกับตัวร้ายแบบ edgy และกำลังมาแรงจากอิทธิพลแฟชั่นญี่ปุ่นยุคท้าย 90's บวกกับเปิดตัวในเครื่องใหม่แบบ 3 มิติ.ที่เกม jrpg ยังไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ในขณะที่ภาค 6 ยังเป็นแบบ 2D sprite เลยยังโดนมองข้ามจากสายเสพภาพสวยในสมัยนั้น + ไม่มึเครื่องซูเปอร์แฟมิคอมที่ส่วนหนึ่งยังมองว่าเป็นเครื่องเกมเด็กเล่นอยู่เลยด้วย
ส่วน Chrono Trigger ก็มักโดนมองด้วยสาเหตุเดียวกับไฟนอล 6 แล้วบางคนที่ไม่รู้รายละเอียดบริิษัทที่ทำยังบอกว่า ภาคแยก Dragon Quest เหรอ ลายเส้นอาจารย์โทริยาม่ามาเอง
เราชอบ ไบโอ 1+2 ไฟนอล 7+8+แทคติก แอคชั่นอาร์พีจีที่ฝังใจไม่เคยลืมเล่นจบหลายรอบมากคือ แดร็กคูร่าX แกมวางแผนจะชอบแนวซุปเปอร์โรบอท อีกเกมส์คือ arc the lad 2
ทันได้เล่นตอนนั้นอายุน่าจะมาณ19ได้ สุดๆแล้วยุคนั้น มาสเตอรืพีสเลยแหละ ระบบการเล่น กราฟฟิก ดนตรี เนื้อเรื่อง สิ่งมากมายในเกมส์ที่ใส่มา ใครไม่เคยลองเล่นต้องลองครับ
DQ ในยุโรป ใช้ชื่อ Dragon warrior และมี eng ในเครื่อง famicom ที่เรียกว่า nes nintendo entertainment system ผมยังเคยเห็นตลับในยุคนั้น
ถ้าเอาความเป็นแฟนตาซี ผมว่าภาค 6 น่าจะมีมากกว่า ทั้งเพลงประกอบ ทั้งเนื้อเรื่อง เสียดายที่เขาไม่นำมาทำใหม่
เพลงที่เซริสร้องตอนเล่นละครเวที ขนาดเสียงแบบ16บิท ยังออกมาเพราะ
ทีฟาครับ นี่เป็นคำตอบสุดท้าย
ตอนสมัยวัยรุ่นผมจำได้แม่นเลยรีบวิ่งเอาเมโมรี่การ์ดจะไปเปิดเกมไฟนอล7ในร้านเกมส์ แล้วหกล้มจนมีแผลเป็นที่มือด้านซ้ายมาจนถึงทุกวันนี้
คลาวด์คือตัวละครที่มีมิติๆสุดในบรรดาตัวเอกแต่ละภาค ความคิดผมนะ เนื้อเรื่องและบทถือว่าสุดยอดมากสำหรับเกมในยุคนั้น
rpg ที่ชอบที่สุด ก็ff7 ตามมาติดๆ ก็ff9 เคยเล่น ff5 ff6 มาก่อน แต่ก็ไม่ได้ว้าว มาว้าวก็ตรงภาพที่ก้าวกระโดด+ระบบมะทีเรียนี่แหละ อยากใช้เวทย์อะไรก็ไปหามะทีเรียนั้นมาอัพ อยากใช้เวทย์หลายๆแบบก็ไปหาอาวุธที่ใส่มะทีเรียได้เยอะๆมาใส่ มนต์อสูรออกมาแต่ละตัวก็ว้าววว ตัวร้ายก็โคตรจะเท่ห์ นางเอกก็ให้คนเล่นเลือกได้เองอีกว่าคิดว่าใครเป็นนางเอก คนนึงก็แสนดี คนนึงแบดเกิลนิดๆ ชนิดที่ว่าถ้าจำไม่ผิดมีฉากนึงทิฟาโดนตบ นางตบกลับจ้า หมดยุคนางเอกไม่สู้คน มินิเกมก็สนุกตั้งแต่เกมแรกๆ แถมเนื้อเรื่องก็โคตรจะชวนติดตาม ว่าสรุปแล้วพ่อคล้าวเราจะปวดหัวอะไรนักหนาเด่วก็จำนู่นไม่ได้นี่ไม่ได้ มุกตลกก็เพียบ พระเอกแต่งหญิงก็มา แถมถ้าเล่นจริงจังมากๆมีเก็บตังซื้อบ้านพักตากอากาศไปอีก ที่พูดมาเนี่ย ยังไม่หมดเลยมั้ง แล้วเทียบกับ ff9 ดู สำหรับผมเทียบไม่ได้เลยดีกว่า ff9 จะดีกว่าก็คงแค่ภาพที่สวยและแฟนตาซีมากขึ้น นอกนั้นได้แค่เพียงเกือบดีเท่า แต่ก็ไม่ใช่ว่า อวยขนาดนี้ ตระกูล final fantasy เจ้าff7 จะดีที่สุด สำหรับผม ยังมี ff ที่ดีกว่า ff7มากอยู่1เกม นั่นคือ fft final fantasy tactic ภาคแรก และภาคเดียวนั่นแหละ ที่ไม่ยอมทำภาคต่อเสียทำ เอามาทำ war of the lion มันก็เหตุการณ์เดิม น่าจะเอามาทำต่อ เรื่องราวหลัง เดลิต้าขึ้นเป็นพระราชาแล้วมั่ง ภาคที่เอามาทำลงเกมบอย ก็เทียบต้นตำรับจาก ps1 ไม่ติดฝุ่นเลย ในแง่ของ ความซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ
ตอนนั้น เราเริ่มrpgด้วย เบรท ออฟ ไฟร์ ว่าดีแล้ว ตอนไฟนอลมา คือ ทึ่ง แล้วเป็นบรรทัดฐานเลย
สาเหตุที่ดังอ่ะหรอ
1:มันกระโดดจาก sfc =>n64 แต่สุดท้าย n64 ความจุตลับไม่พอ แล้วมีเรื่อง ประเด็นที่ nintendo มีปัญหากับ sony เรื่องพัฒนาหัวไดรฟ์ sony แนกมาทำ ps1 แทน แล้วไปโน้มน้าว square ให้เอา FF7 มาลง ความจริงมันมาจากการเพิ่มความจุ จากตลับเป็น cd
2.กราฟฟิค จาก gen 2d โดดมา 3d (sfc,mdโดดไป n64 ,ss,ps) ไม่ว่าจะซีรีสไหนก็พีคหมดครับ ช่วงนั้นแค่เอาภาพมูวี่ที่ทำ 3d มาลง เกมเมอร์ก็คิดไปเองเป็นตุเป็นตะว่าเป็น 3d realtime render จากเครื่องกันหมด บ้ามาก
3.เพราะ ff7มาก่อน ff8 ff9 ครับ ถ้า เกมไหนที่โผล่มาก่อนในยุคเปลี่ยนผ่าน เกมนั่นก็เป็นตำนานได้หมด สำหรับผม ff9 เหนือกว่า ff7 มาก
FF 7 Remake part2 เมื่อไรจะมาค่ะ
สมัยนั้น บอกตามตรงนะ ตระกูล ไฟนอล แฟนตาซี ครองเครื่องเกมส์ หมด ตั้งแต่ แฟมิคอม แล้ว ดราก้อน เควส น่าจะเป็นลูกไล่ มากกว่า เพราะ ยุคนั้น มันจะมีการเแลกเปลี่ยน ตลับเกมส์ กัน ที่ร้าน คือ ถ้าคุเอาเกมส์สูง ไปแลก เกมส์ ต่ำ กว่าคุณเสียตังไม่เยอะ แต่ถ้าคุรเอาเกมส์ กากๆไปแลก ตลับ พวกไฟนอลแฟนตาซี คุณ นิแทบจะเรียกว่า ซื้อ ตลับเกมส์ใหม่เลย แล้ว ตอนนั้น ไปดูเหอะ ตลับ ไฟนอลแฟนตาซี ไม่ค่อยมีหรอก แต่ ดราก้อนเควสนี่ เหลือเยอะ ไปแลกตลับเกมส์เมื่อไร เจอตลอด เวลา คับ
Dragon quest ฝั่งยุโรป อเมริกาใช้ชื่อ dragon warrior ภาษาอังกฤษตั้งแต่ภาคแรกครับ
สำหรับเราชอบ FF VI ชอบเนื้อเรื่องมากกกก FFVII เพิ่งจะได้เล่นตอนมันแจกฟรีใน PSPLUS ก็ดีนะ นึกถึงวัยเด็ก แต่ยังไง VI ก็ดีกว่า
เล่นตั้งแต่อยู่ม.3ตอนนี้40แล้ว อยากเล่นอีกครั้งเพราะเมื่อก่อนเล่นไม่รู้เนื้อเรื่องเลย อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก อาศัยแต่บทสรุป
ยังตรา ตรึงใจตลอดกาลสำหรับผม ดูจนภาคได้5555
ในขณะที่ชาวบ้านชาวช่องเขาเล่นไฟนอล เล่นดราก้อนเควสต์กัน ผมอยู่กับ Fire Emblem จนทุกวันนี้ ถามว่าแฟรนไซส์อื่นเล่นมั้ย ก็เล่นนะ แต่เป็นทาสปู่นินตั้งแต่เด็กเลย โดนโปเกม่อนและ FE ดูดเวลาชีวิตไปมากโขเลย
เนื้อเรื่องดีมากๆ ครับ
ผมรักช่อง พี่ก้อนเมฆจังเลย รัก 1 ในคลังยูทูปของผมด้วย
ที่ภาค 7 ว้าวในสมัยนั้น คือ ภาพ3มิตินี้แหละ ด้านเนื้อเรื่องนั้นอาจฉีกแนวไปจาก 6ภาคแรก แต่ก็ไม่ดีกว่ามาก ถือว่ารักษาคุณภาพด้านเนื้อเรื่อง จากที่เป็นภาพ 3มิติ เลยทำให้สามารถเล่นเกมส์ในมุมมองการเล่นที่แปลกใหม่ มันจึงเป็นที่นิยมมากในสมัยนั้น
ดีที่สุดผมให้ภาค6 รองลงมาก็ภาค7นี่แหละครับ แต่คนยุคใหม่ๆหน่อยน่าจะชอบภาค7มากกว่า
FF7คือภาคที่สุดยอดที่สุดแล้วสำหรับผม แต่ Xenogiar นี่เนื้อเรื่องกับระบบต่อสู้ดีมากเลยทั้งตอนสู้ปกติกับใช้หุ่นสู้สะใจมาก
สมัยเด็กๆ ตอนที่เล่นเกมนี้ยังไม่ค่อยอินกับเนื้อเรื่องเท่าไหร่เพราะภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง แต่สิ่งที่ทำให้ผมรักเกมนี้คือดนตรีกับมนต์อสูร ยิ่งเพลงธีมทีฟานี่ทุกวันนี้ผมยังฟังอยู่เลย 555
ตอนเด็กร้านเกมไม่ค่อยมีใครเล่นเกมภาษาเท่าไหร่หรอก จะมีแต่คนที่เป็นผู้ใหญ่หน่อยที่เล่น เพราะตอนเด็กๆเราก็จะเก็บเงินไว้เล่นเกมที่เราชอบกับเพื่อน เพราะเพล1 โดนทีก็ชม.ละ40+ละ แต่พอมีคนเล่นเมื่อไหร่ก็จะมีเด็กพวกเรานี่หล่ะไปรุมดูเขาเล่นคือแบบภาพสวยมากกก อะไรก็ดูดีไปหมด แต่ตอนเด็กๆเข้าไม่ถึงจริงๆ555
ภาค7เป็นภาคที่มีเนื้อเรื่อง deep dark fantasy และยังใช้ฉากแนว sci fi-fantasy ไม่เหมือนภาคก่อนๆ แถมกราฟฟิกสวยเป็นก้อนๆ ระบบเกม มินิเกม ฯลฯ โดยส่วนตัวผมชอบภาค12ที่สุด
มันดาร์กแบบเบอร์เซิกไหมไม่เคยเล่น
@@got3269 dark ไม่เท่า berserk แต่มีเนื้อเรื่องซับซ้อน หักมุม เศร้า การแก้แค้น และ ใ จ เ ก เ ร ลองไปหามาเล่นดูของ ver.ps1 ส่วนremake เนื้อเรื่องจะต่างกันครึ่งๆ
@@blackchoco6239 เกือบดีแล้ว มาลั่นตรง ใ จ เ ก เ ร 5555555
สิบล้านแผ่นนี่ ไม่นับแผ่นก้อปนะครับ ประเทศไทย 99% ff7 เป็นแผ่นก้อป
ส่วนใหญ่ซื้อกัน 2-3 ชุดด้วย กันเจ๊งเวลาเล่น
เนื้อเรื่องมันลึกซึ้ง ตัวละครทุกตัวมีเรื่องราวของตัวเอง. แถมยังมีภาคย่อย ภาคย้อนอดีต
เสพเนื้อเรื่องกันแบบเข้มข้น
เป็นภาคแรกที่ทำเป็น 3D
ฉากจดจำเพียบโดยเฉพาะฉากนั้น
แต่เอาจริงๆสำหรับผม ชอบภาค XV มากที่สุดในซีรีส์เกม Final Fantasy
จุดตลกของซีรีย์นี้ ก็คงเพราะคำว่าไฟนอลนั่นแหละ เลยทำให้ทุกภาคต้องเริ่มใหม่หมดไม่ต่อเนื่องกัน การเล่นเลยต้องงัดวิธีต่างๆให้แปลกกว่าของเดิมให้มากที่สุดจนมาปังสุดที่ 7 ขนาดที่ว่าเกือบล้มละละลายเพราะหนังไฟนอลของตัวเอง แต่ไอ้7 นี่แหละมาประคองรอดมาได้แบบหวุดหวิดเลย
บทที่ปูมา FF7 ทำให้คนคิดกันว่าต้องชุบแอริสได้ และต้องขอบคุณที่ Enix ยอมร่วมเป็น 1เดียวกับ squaresoft จนมาเป็น square enix ทุกวันนี้
ค่าย enix จะเป็นทีมงานเก่งในการทำ model 3D เกมส์ที่ขึ้นชื่อของ Enix 3d ยุคนั้น คือ เกมส์ tomb rider1และ2 นั่นเอง ยุคนั้น ถือว่า enix ทำภาพ 3d ออกมาดี จน square มาติดต่อขอลงทุนร่วมกัน ด้วยเกมส์ FFVII จนโด่งดังมากลายเป็นเกม master piece ของ PS1 นั่นน่ะเอง แต่เป็นเกมส์ RPG ต้นแบบ และบริษัทอื่นอย่างบันได หรือ แหนมโค ในยุคหลังตามมา คือ star ocean 3 ตามมา
ไม่แปลก คนยุคก่อนกับเเด็กใหม่ๆมาเล่น เท่ากับแฟนเก่ากับแฟนใหม่พิ่มขึ้น แต่ยอมรับเลย เวอร์์นี้ทำดีภาพสวย แต่ก็คิดถึงแบบกดเมื่อก่อนมันคลาสสิคดี
ใน 1 week วีคแรกที่ออก ต้องหามาเล่น หมกมุ่นมาก กับการฟักโจโปะทอง
มีภาคนึงที่ถ้าประกาศเป็น 3D รีเมคเอ็นจิ้นใหม่ๆน่าจะมีการแซ่ซ้องนองน้ำตากันทั้งโลกของไฟนอล เพราะรอมานาน
หรือไม่ก็แค่ทำ 2DแบบHD2D ก็จะจะฮือฮาแล้ว นั่นคือ ไม่บอกหรอก อิอิ
มันเป็นช่วงก้าวกระโดดจากภาพ 2D เป็น 3D สมัยนั้น มันดูอลังการมันดูว้าวมาก เนื้อเรื่องอีกมันเป็นกระแสไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้
9:05นานินี้เเก่เอาชท่อตัวนั้นมาหรอ
สำหรับผม ภาค9 คือที่สุด ถ้ารีเมคมา มันน่าจะแฟนตาซีจริงๆนะ
สาเหตุที่ภาค7ดังเพราะทิฟาน่ารัก
ภาค 6-7 ผมชอบสุดละ มันมีความเป็นสตีมพังค์ปนๆกับความแฟนตาซี
ผมว่าff8สนุกสุดนะ ถ้าอยากได้เวทดีๆก็ต้องเจอตัวโหดยิ่นยืนระยะได้นานเวทที่ได้ก็ยิ่งเยอะห้ามตายด้วยไม่งั่นเวทที่ดัดมาเสียเวลาฟรี เวทมีค่ากว่าที่เป็นมากๆ จากพกมานาเยอะต้องบริหารเวทดีๆ