ทำไมคนไม่ดูละครไทย
Вставка
- Опубліковано 28 лют 2022
- ซื้ออุปกรณ์ไอทีที่ www.advice.co.th อย่าลืมใช้โค้ด 9ARM รับส่วนลดพิเศษ คุณได้ของถูก ผมได้สปอนเซอร์
คิดถึงโตโยต้า คิดถึงโตโยต้าบัสส์ www.toyotabuzz.com/
สนับสนุนนายอาร์มง่ายๆ
- Subscribe / Like / Comment
- ซื้อของผ่าน Shopee: shp.ee/qbhc4ez
สามารถเข้ากลุ่ม "หลังบ้านนายอาร์ม" Community ของชาว Geek สุดปั่นสมาชิกเกือบแสน! / 9arm.community
Twitch: / armzi
Facebook : / castby9arm
Twitter : / castby9arm
IG : / castby9arm
ละครไทยส่วนมากเขียนบทเพื่อนักแสดง ไม่ใช่หานักแสดงที่เหมาะกับบท ถ้าเป็นละครที่มาจากนิยายและอิงนิยายจะทำได้ค่อนข้างดี แต่ถ้าเป็นละครทั่วไปที่เน้นขายดาราหรือคู่จิ้นบทจะหวยสัสๆ
อันนี้ขอแนะนำละครไทยที่ผมคิดว่าบทดีและมีสาระเรื่องนึงนะครับ "วัยแสบสาแหลกขาด" เป็นเรื่องราวที่ตัวเอกเป็นนักจิตวิทยาครับ ผมว่าตั้งแต่มีละครไทยมา เรื่องนี้เข้าท่าสุด เพราะมีสาระความรู้ด้านจิตวิทยาเด็ก และพยายามเปิดมุมมองของผู้ต้องการความช่วยเหลือว่าเค้าเหล่านั้นควรได้รับความช่วยเหลืออย่างไรตามกระบงนการทางจิตวิทยา ละครเก่าแล้วแต่ผมอยากชวนให้ทุกคนไปดูครับ ส่วนตัวเรียนจิตวิทยามาพอได้เห็นละครเรื่องนี้เลยบอกตรงๆคือสนับสนุนให้ละครไทยควรมีแนวทางการทำบทให้มันส่งเสริมสภาพสังคมแบบนี้ครับ ไอน้ำเน่าตบตีผัวเมียอะไรต่างๆผู้จัดอาจมองเลทติ้ง แต่ส่วนตัวผมว่ามันคือภาพรุนแรงครับ
นักแสดงผมว่าบางคนก็มีความสามารถพอนะ แต่หลักๆ บท, screenplay, production, post-production ผมว่าไม่มีอะไรสู้ได้เลยนะ ผมว่า production นี่ถ้าจะปิดนู่นปิดนี่ถ่ายนี่ผมว่ายากละบ้านเรา ต้องมีการร่วมมือจากหลายฝ่ายอ่ะ ซึ่งบ้านเราก็รู้ๆกันอยู่
จริงนะ โทษคนดูแมร่งไม่ถูกต้องเลย ยกตัวอย่างอาหาร ร้านหรูวัตถุดิบดีแต่ฝีมือเชฟไม่ถึง ก็สู้ร้านกะเพราข้างทางไม่ได้นะ
วงการละครไทยมันพัฒนายาก เพราะมันอยู่ในกำมือคนแค่กลุ่มเดียว เนื้อเรื่องก็เดิมๆ อย่างเรื่องทัดดาวบุษยา re-master กี่รอบแล้วก็ไม่รู้ เอาจริงๆก็ไปได้แรงบันดาลใจมาจากนิยายเรื่อง Pride and Prejudice ของ Jane Austen ที่ประพันธ์ไว้ร้อยกว่าปีที่แล้ว
คิดว่าเกิดจากอุตสาหกรรมละครไทยที่ผูกขาด ไม่ได้มีการแข่งขันสูงเหมือนเกาหลี ถ้าดูรายชื่อผู้กำกับผู้เขียนบทจะวนอยู่ไม่กี่ชื่อ แต่พักหลังมานี้ดูมีแนวโน้มดีขึ้น เริ่มมีค่ายใหม่ ๆ ที่คิดนอกกรอบมาแข่งขันและแย่งชิงส่วนแบ่งผู้ชมโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ ทีนี้ติดที่ปัญหาอีกอย่างของอุตสาหกรรมละครไทยคืองบในการผลิตละครเรื่องหนึ่ง ๆ คือค่อนข้างจำกัดถ้าเทียบกับต่างประเทศ ทำให้การเขียนพล็อตแปลกแหวกแนวจากกระแสหลักที่คนดูคุ้นชินจึงเป็นไปได้ยาก ทางแก้คือกล้าลงทุนกับละครที่วาดหวังว่าจะเป็น champion และผลักดันไปให้ไกลกว่าไทย ถ้าไปแมสต่างประเทศได้คนไทยจะกลับมาดูเอง
สวัสดีครับ พอไล่ลิสต์ละครไทยที่พอดูได้ เป็นกระแสช่วงนึงนี่น้อยจัดเลย หลักๆในมุมผม ผมว่าประเทศเราแม่มแตะต้องห่าอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าจะแง่มุมอาชีพอะไร วัฒนธรรมต่างๆ ผู้หลักผู้ใหญ่เดือดเนื้อร้อนใจ สุดท้ายก็วนมาเรื่องเดิม ๆ ปัญหาเดิม ๆ และปัจจุบันคอนเทนต์เค้าแข่งขันกันเดือด ๆ เข้าถึงอย่างง่าย
เข้าใจว่าละครไทย อิงมาจากละครวิทยุ และมีเป้าหมายให้คนทำงานไปฟังไป มันเลยต้องบรรยายทุกอย่างเป็นคำพูด และต้องพูดออกเสียงให้ชักเจนทุกคำ
แต่นี้อินกับฮอร์โมน เพราะช่วงนั้นก็คือช่วงมัธยมเหมือนกัน และมันสะท้อนอะไรให้ได้มากอยู่นะ เรื่องชีวิตส่วนตัว ชีวิตมัธยม ครอบครัว เพื่อน โดยเฉพาะเรื่อง คนมีเชื้อhiv ไม่ใช่เป็นเอดส์ไรงี้
เวลาดูละครไทย ตอนตัวละครคุยกัน มันดูไม่จริงเท่าไหร่อะออกแนวเฟคๆเยอะกว่า แต่ซีรีย์เกาหลี มันคุยเหมือนคนคุยกันจริงๆ เพื่อนคุยกันเหมือน ก็คือเพื่อนคุยจริงๆอะ
ส่วนตัวผมว่าละครไทยหรือหนังไทยจะมีปัญหา 3 อย่างคือ
บ้านเรามีเหล่าผู้ใหญ่หน้าบางในสาขาอาชีพต่างๆเยอะมากครับ
อันนี้ส่วนตัวผมนะ ผมว่านักแสดงไทยอ่ะ เล่นได้นะ ฝีมือไว้วางใจได้ ฝ่ายโปรดักชั่นก็น่าจะยังพอไหว แต่ปัญหาหลักคือ บท กับ ผู้กำกับ นี่แหละ ที่มันวนๆ อยู่ที่เดิม ผ่านมากี่ปีก็เหมือนเดิม แต่ละครดีๆ ก็ยังมีนะ อย่าง บุพเพฯ อันนี้ดี ดังไกลไปหลายประเทศ แต่พอเทียบสัดส่วน ละครดีๆ มันมีน้อยไง เทียบกับต่างประเทศเค้าแข่งกันเดือดมาก คุณภาพมันเลยยิ่งเพิ่มขึ้นๆ แต่หลังๆ ประเทศไทยทำซีรีส์ Y ขึ้นมือนะ สาย Y อันนี้ดังจริงๆ คนจีน / ญี่ปุ่น บ้าคลั่งมาก
Start up ก็ยังดีกว่าละครไทย แทงใจสุดๆ 😂🤣🤣
อันนี้เท่าที่ผมทราบ บทละครไทยในยุคก่อนที่รีเมคกันมาเรื่อยๆเนี่ย มันมาจากบทละครวิทยุ ละครวิทยุมันมีแต่เสียง ไม่มีภาพ การพูดของตัวละครมันจึงต้องพูดออกมาทุกอย่างที่มันคิดหรือที่จะทำ
มันน่าเศร้าตรงที่ก็เห็นข้อผิดพลาดหรือข้อควรปรับปรุง แต่ก็ยังไม่มีการแก้ไขเกิดขึ้น จนมันกลายเป็นปกติไป ก็เป็นแบบนี้ไปหมดไม่ว่าเรื่องไหน
ปัญหาอีกอย่างคือ ละครไทยชอบ overacting แบบ แสดงออกนอกหน้าอย่างชัดเจน มันเป็นอะไรที่ขัดใจมาก คนดีก็ดี๊ดี คนจะร้ายก็ร๊ายร้าย คือ ตัวร้ายก็แสดงออกชัดเจนนะ แต่ทำไมเหล่าคนดีถึงมองไม่ออก แบบ ตัวละครในละครไทย แทบจะไม่เก็บความรู้สึกเลย สิ่งที่ละครไทยขาดไปคือลูกเล่นและความสมจริงของมิติตัวละคร ตั้งแต่เกิด ผมดูละครไทย มีอยู่น้อยเรื่องมากที่ผมดูแล้วไม่รู้สึกหงุดหงิด เท่าที่นึกออกมีอยู่เรื่องเดียว คือคมแฝก ละครactionไทยระดับตำนาน ที่ทำให้เด็กทั่วบ้านทั่วเมืองถือไม้ไล่ฟาดกันยับยังกับเด็กช่าง ดูแล้วเพลิน สนุก และในยุคนั้นนะ เป็นละครไทยที่ดูมันส์และฟาดกันมันส์ที่สุดเท่าที่เคยดูในตอนนั้น ส่วนเรื่องอื่นๆผมค่อนข้างหงุดหงิด ตัวพลอตบทก็บทเดิมๆ ตัวละครก็ overacting เป็นอะไรที่ ดูแล้วค่อนข้างหงุดหงิดเลย
คนเขียนบทสำคัญที่สุดในโครงสร้างหนังนะเอาจริงๆ ถ้าอยากให้หนังปังดีๆ รองลงมาคือคนกำกับที่จะขยายบทให้เป็นภาพ รากฐานของหนังและซีรี่ส์ผมว่าคนเขียนบทเนี่ยแหละเป็นจุดชี้ตายให้หนังได้เลย การพูดคุย ลำดับฉากคือ ถ้าอยากให้ด้านนี้เราพัฒนา เราต้องมีหลักสูตร ด้านนี้อย่างเต็มที่สุดๆผลักดัน ด้านเขียนบทให้สุด ผมคิดว่านะ
เคยดูซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งแต่นานมากแล้ว เกี่ยวกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ที่สนิทกันตั้งแต่เรียนจนจบออกมาทำงาน แต่ทุกคนก็ยังติดต่อช่วยเหลือกัน หลายคนก็ประสบปัญหาชีวิต บางคนฆ่าตัวตาย เพื่อน ๆ ต้องช่วยกันอย่างมาก เป็นซีรีย์ที่ให้กำลังใจดีมาก และกล่าวถึงคนทำงานหลากหลายอาชีพ แต่ละคนก็มีปัญหาเป็นเรื่องปกติในสังคม
เมื่อก่อน เวลาดูละครละมีฉากอิหยังวะ จะชอบบ่นคนเขียนบท แต่พอมารู้ว่าเงินค่าจ้างเขียนบทแม่งน้อยจนไม่พอให้ทำเป็นอาชีพ รับจ้างเขียนบทมีแต่ทำเป็นงานเสริมทั้งนั้น แล้วบางทีก็ต้องเขียนออกมาตามใจผู้จัดจนเละเทะไปหมด