ไม้เด็ดใหม่ค่ายญี่ปุ่น TOYOTA จัดทีม เตรียมเปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ แข่งขันตลาด EV | Carraver
Вставка
- Опубліковано 12 чер 2024
- เมื่อช่วงวันที่ 3 มิ.ย 2024 ที่ผ่านมา Toyota ได้แถลงข่าวในงานประชุม Multi-Pathway Workshop ซึ่งเป็นการจับมือกันระหว่าง Toyota MAZDA และ SUBARU สำหรับพัฒนาเครื่องยนตใหม่ ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งทาง toyota กล่าวว่า ชุดเครื่องยนต์ดังกล่าว จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมในอุตสาหกรรมรถยนต์ และจะเป็นเครื่องยนต์ที่แตกต่างจากเครื่องยนต์สันดาปที่ใช้อยู่ในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง โดยมีแผนนำมาใช้งานในปี 2027
โดยเครื่องยนต์ที่กำลังพัฒนานั้น Toyota อ้างว่า ไม่ใช่แค่เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเท่านั้น แต่ยังมีเครื่องนรต์ที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน เชื้อเพลิงชีวภาพ รวมไปถึงเชื้อเพลิงแบบสังเคราะห์ด้วย
►ช่องทางติดต่องาน
📩 carraver.info@gmail.com
📞 Tel. 0832219118
► ติดตามข่าวสารและพูดคุยกับเราได้ที่
เฟสบุ๊ค : / carraver
เว็บไซต์ : www.carraver.com
#รถยนต์ไฟฟ้า
#toyota
#ข่าวรถยนต์
Source : - Авто та транспорт
ทำได้ 50 กิโล/ลิตรขึ้นไป คนไม่สนรถไฟฟ้าแน่นอน...
จีนทำได้แล้วครับ แต่เป็นของค่าย geely ของจีนนะ ค่าเชื้อเพลิงสู้รถไฟฟ้าได้เลย
กว่าจะถึงเวลานั้น น้ำมันคงลิตรละ 70-80 แล้วระหว่างนั้นพวกที่รอก็เติมน้ำมันสบายไป เจ้าสัวน้ำมันรวย
รถปรัหยัดน้ำมันก็ขึ้นตาม
@@user-tz6yc1hm4u จะหนีซ้ายหนีขวาก็โดนหมดแหละ ไฟฟ้าก็เข้าทางไอ้เศรษฐีหน้าแขก ซึ้งก็จับมือกับรัฐบาลจ้องจะขึ้นค่าไฟอย่างเดียว ไม่นานอัตราค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรก็จะไม่ต่างกัน
วางลิงค์ต้นทางให้ดูหน่อยมันน่าสนใจมากๆครับ
ไม่มีค่ายจีน ก็ไม่พัฒนา ขึ้นแต่ราคา ตอนนี้ดิ้นใหญ่ สู้ไม่ได้ เพราะไม่เคยพัฒนา เห็นผู้บริโภคไม่มีทางเลือก ตอนนี้มีทางเลือกแล้ว ดีแล้วล่ะ แต่น่าจะสายไปแล้วล่ะ พัฒนาไฮโรเจน ได้ยินมาเกือบ 10 ปี ก็ไม่เป็นรูปร่างอะไรเลย
ไฮโดรเจนตายไปเรียบร้อยแล้ว ขนาดในญี่ปุ่นเองคนยังไม่ใช้เลย
คนจีนในประเทศจีนเรียก อีซี ว่า"ขยะ" มีแต่คนไทยเห่อรถอีวี
+1
ไม่เป็นรูปร่างเพราะไม่มีคนทดลองซื้อแบบรถไฟฟ้าหน่ะ ถ้าคนแห่กันซื้อก็คงไปไกลแล้ว ไม่ว่าสินค้าอะไรก็ตามถ้าคนแห่กันเป็นหนูทดลอง แปปเดียวก็พัฒนาได้เยอะแล้ว
ไม่ใช่ไม่มีคนซื้ออเมริกาเขาซื้อใช้กันพอควรค่าเขื่อเพลิงแพงและปั้มน้อยตอนนี้ปิดไปเยอะแล้ว ไม่น่าเกิดไฮโดรเจน@@gaptactics5231
สำหรับผมๆยังคิดว่า รถใช้เชื้อเพลิงสันดาบรุ่นใหม่ๆ ยังอยู่ในใจผมครับ ความเสถียรของ อุปกรณ์ต่างๆในตัวรถผมคิดว่ามันให้ความปลอดภัยกว่ารถไฟฟ้าครับ อุปกรณ์และชิ้นส่วนรถไฟฟ้าไม่ต่างจากอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ต้องอยู่กับความร้อนตากแดดและการทำงานของเครื่องยนต์ระบบไฟฟ้ามันเสื่อมลงด้วยความร้อน ไม่ทราบวันไหนมันเกิดชำรุดไม่ทำงานตอนรถกำลังใช้ความเร็วอยู่บนท้องถนน เราไม่อยากนึกถึงภาพว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นครับ และอีกอย่างอะไหล่ของรถแพงเกินไป ซ่อมก็แพง แบตเตอรรี่ก็แพง รถมือสองราคาจะเหลือกี่พันบาท สิ่งเหล่านี้เมื่อมาเทียบกับรถน้ำมันเราเห็นกันชัดเจนครับ
ผิดแล้วครับ ที่รถสันดาปยังคงอยู่ไปสักระยะหนึ่งเป็นเพราะเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่เสถียรและเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านอยู่ แต่สิ่งที่จะฆ่ารถสันดาปจริงๆคือกระแสรักษ์โลกและกรีนเอเนอจี้ ต่อไปในบ้านเมืองที่พัฒนาแล้วผู้คนจะมองรถสันดาปไม่ต่างอะไรจากไอ้พวกกะบะซิ่งพ่นควันดำเลย
ผมยังสนุกกับรถสันดาบสนุก ตินิดเดียวน้ำมันมันแพงแต่ก็มีlpg. ยังรับได้ ส่วน ev. ยังอีกนานเกิน10ปี อะไหล่ ศูนย์ ตจว ไม่มีไม่นิ่งแพงเวอร์ หาช่างยาก ...ชาร์จนาน ไม่ตอบโจทย์ และอีกอย่าง ชีวิตจริงไม่ได้ต้องการหรูเงียบนี๊ยบขนาดนั้น ต้องการลุยเซอร์วิสง่ายสะดวกมากกว่า
ดูเทรนด์ของโลกบ้าง ว่าตอนนี้เขาจะพากันไปทางไหน ในอนาคตใกล้ๆนี้ ประเทศต่างๆทั่วโลกคงจะหันมาใช้รถไฟฟ้ากันหมด
ผมก็ยังติดอยู่ตรงแบตเจอกับความร้อนบ้านเราจะเป็นยังไงในระยะยาว ขนาดมือถือ พาวเวอร์แบงค์ยังไม่ควรตากแดดนานๆเลย ตอนนี้ขับน้ำมันไปก่อนชัวร์สุด
รถสันดาบสมัยนี้ก็ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งคันนะ มันแทบไม่ต่างกันหรอก ต่างแค่
เปลี่ยนจากน้ำมันเป็นแบต
และ
เปลี่ยนจากเครื่อง+เกียร์ เป็นมอเตอร์ตัวเดียว
ถ้าาคิดว่าจะเกิดอันตรายจากการพังระหว่างวิ่งด้วยความเร็ว รถน้ำมันนั่นแหละครับอันตรายกว่าเยอะ เพราะอุปกรณ์ทั้งเครื่องและเกียร์จุกจิกมาก แต่ถ้าถามว่ารถน้ำมันสะดวกกว่าตรงไหน ก็ลองคิดว่าบังเอิญขับรถเข้าไปหลงในป่าลึกแล้วน้ำมันหรือปบตหมด ถ้าเป็นรถน่ำมัน ขนน้ำมันเปนแหลลอนเข้าไปเติมได้เลย แต่รถไฟฟ้าต้องเอารถสไลด์ไปลากออกมา
แค่วิธีการเหนี่ยวรั้งไม่ให้ลค.เปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าจนหมดที่เร็วเกินไปเท่านั้นเอง ขายแผนงาน ขายทฤษฎีล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เปลี่ยนไปใช้รถไฟฟาที่เร็วเกินไปเพราะกลัวเสียตลาดไปเสียทั้งหมด รายได้จากการขาย sparepart มันก้อนใหญ่มาก บริษัทจะยอมสูญเสียผลประโยชน์ตรงส่วนนี้ไม่ได้เพราะของผลิตมาแล้ว โครงสร้างลอจิสติกส์นี้มันผ่านการลงทุนลงแรงมากเกินกว่าจะยกเลิกแบบฉับพลันหรือในช่วงเวลาอันสั้นได้
ยังไงบ้านเราก็ยังเหมาะกับไฮบริดมากกว่า รถไฟฟ้า 100% แบตเตอรี่ใช้ไปนานๆเสื่อมสภาพเดี๋ยวก็กักเก็บไม่อยู่ ดูที่ประเทศจีนสิ รถไฟฟ้าที่ใช้มา 7-8 ปีตอนนี้เป็นสุสานรถหลายล้านคัน อีกอย่างระบบไฟฟ้าเสียง่ายกว่าสันดาบ ฝนตกน้ำท่วมลุยน้ำก็สบายใจกว่า
เมื่อต้นปีไปเที่ยวญี่ปุ่นมา คนในประเทศญี่ปุ่นใช้รถเติมน้ำมันซะส่วนใหญ่ ถามพี่สาวที่อยู่ญี่ปุ่นมานานร่วม 40 ปี เรื่ิองรถไฟฟ้า ทำไมบริษัทญี่ปุ่นไม่ผลิตออกมา แกบอกว่าญี่ปุ่นก็ทำการวิจัยรถไฟฟ้ามานาน แต่ผลวิจัยความปลอดภัยยังไม่เสถียร และแบตเตอรี่รถไฟฟ้าก็ยังไม่มีบริษัทไหนที่ทำออกมาเป็นที่น่าพอใจ ราคาแพง แล้วก็ยังสถานีชาร์จไฟฟ้า ต้องใช้ไฟฟ้าแรงสูง ต้องมีโอกาสเกิดอันตรายถ้ามันรั่ว หรือระเบิด ทั้งอายุการใช้งาน ญี่ปุ่นถือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเปสิ่งสำคัญ เราว่าต้องรออีกสักระยะ ที่จีนเองก็มีข่าวรถอีวีจีน จอดรถไว้เฉยๆ รถไฟไหม้ ทั้งคันมีให้เห็นบ่อยๆ ตามสื่อนะคะ
รู้หรือไม่ รถสันดาป มีถังน้ำมันเบนซินตั้งแต่ 40-50 ลิตร มันคือระเบิดเพลิง ที่สามารถระเบิดได้ทุกเมื่อ
ไม่ทำเพราะ
-ไฟฟ้าไม่พอใชั
-แบตแพงผลิตออกมาก้ไม่ได้ดี ระยะทางก้น้อย
-พื้นที่แคบจะชารจลำบาก
-ผลประโยชน์เพราะซัพพลายสันดาปคือรายได้หลัก ถ้าไม่ทำรถสันดาปก้ไม่ส่งเสริมอุตสาหกรรมตัวเองให้ยุได้
ในญปนิยมขับรถคันเล็กๆประหยัดพลังงานอยู่แล้ว เพราะข้อจำกัดพื้นที่ อีกทั้งระบบขนส่งสาธารณะก็มีประสิทธิภาพ จะใช้เงินมหาศาลมาลงทุนเพิ่มเพื่อผลิตรถไฟฟ้าไปทำไมในเมื่อรถน้ำมันยังขายได้ และยังคงตอบโจทย์การใช้งานของคนภายในประเทศ ถ้าจะแข่งกับตลาดนอกว่าไปอย่าง
เทสล่าขายมาสิบปีแล้ว เหตุผลฟังไม่ขึ้นเลย
อนาคตเขาห้ามรถน้ำมันวิถ้าพัฒนาก็รอวันเจ๊ง
แต่อีก2ปีev คงไปไกลและถูกลงอย่างมาก ค่ายญี่ปุ่นจะสู้เรื่องราคาไหวหรือเปล่า
มันสู้เรื่องราคาไม่ได้เพราะรัฐอุ้มจีนเรื่องภาษี
อย่าไปบ้าเลยรถอีวี มันไม่ได้ถูกจริงหรอก เอาที่มันยาวๆดีกว่า รถนะไม่ใชแพมเพิส ใช้แล้วทิ้ง
@@oilsound7641เขาก็อุ้มเหมือนกันนั่นแหละครับ
@@oilsound7641 ไปอุ้มมันทำไม ปล่อยได้แล้ว
@@oilsound7641งงกับเรื่อง 0 ภาษีของจีนมาก อุ้มจนคนไทยหงายท้องทั้งที่เป็นการแข่งขัน ซึ่งมันไม่ยุติธรรมกับธุรกิจภายในประเทศเลย
เกมส์เปลี่ยนเข้าทาง EVจากจีน ญี่ปุ่นต้องคิดเกมส์ใหม่มาแทนหรือถ้าจะสู้ในหมากนี้ ต้องสู้แบบสร้างสรรค์ คือ ผลิตรถจากพลังงานที่ไม่มีวันหมดนั่นคือแสงอาทิตย์ ใช้แบตเก็บพลังงาน+ไฟฟ้า 2 ระบบไปเลย หลังคาทำแบบเก็บพลังงานจอดตากแดดได้บ้านเราพลังงานล้นๆ😊🎉🎉
เด่วเจอ ไฮบริด จาก บีวายดี 1 ถังวิ่ง 2100 กม เด่ว จะช๊อค อีกรอบ รถญี่ปุ่น
คนไทยบางคนจะเป็นหนูทดลอง อีวีให้จีน หรือไง มันฉาบฉวย คนแบบนนี้จีนชอบ ขายไป คนซื้อก็เทสท์ไป แล้วก็เอาไปแก้ไข
ตราบใดที่เทสล่าไม่ประกาศล้มละลาย รถไฟฟ้าจีนก็ต้องแข่งเพื่อเป็นเจ้าตลาด ยังไงรถไฟฟ้าก็จะก้าวล้ำเรื่องแบตไปเรื่อยๆ ราคาแบตก็จะถูกลง เครื่องยนต์นี้ไม่น่าเอาชนะรถไฟฟ้าได้
ใช่ครับ ยิ่งมีผู้ใช้แบตเตอรี่จะถูกพัฒนา
ดูกันยาวๆใครจะอยู่ใครจะไป
@@jirarakhunee4235แค่นี้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยก็เปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างแล้ว
@@jirarakhunee4235โนเกียเป็นอมตะมั้ยล่ะ
คนไทยไม่ใช่ซื้อรถมา เบื่อก็ทิ้งขายซากอะไรแบบนั้น ดูกันยาวๆ
เชียร์พี่ยุ่นเต็มสตรีมครับ
ไม่รู้ว่าทางญี่ปุ่นไม่เข้าใจหรือแกล้งไม่เข้าใจ มันไม่ได้อยู่แค่ประหยัดพลังงานแต่มันไปถึงการ maintenanceค่าบำรุงรักษาในการเช็คแต่ละครั้ง ภาระก็ตกอยู่ที่เจ้าของรถ ยิ่งยุ่งยากซับซ้อนก็ยิ่งต้องจ่ายหนัก . และชิ้นส่วนของเครื่อง.ที่จะยาวไปถึงค่าแรงและค่าอะไหล่แต่ละชิ้น ...คือกะจะกินยาวอย่างเดียว
..แล้วปัจจุบันนี้ ด้านรถไฟฟ้า..ราคาแบตเตอรี่ก็ลดลงเรื่อยๆ และถ้าsolid stage สำเร็จ.ยังไงก็ถูกกว่ารถน้ำมันแน่
รถไฟฟ้าคือความไม่ยั่งยืนครับ ฉาบฉวยมาไวไปไว ต้องใช้ไฮบริดช่วยไปก่อนน่ะ คิดดูกว่าจะเปลี่ยนจากพลังไอน้ำมาเป็นเชื้อเพลิงสันดาปได้นั้นต้องใช้เวลานานขนาดไหนน่ะ ญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่สุขุมนุ่มลึกครับ ไม่ทุ่มหน้าตักหมดไปกับรถไฟฟ้าแบบจีน ซุ่มพัฒนาไปกับไฮโดรเจนอย่างเต็มที่เพราะH2 นั้นมีทั่วไปในอากาศ ไม่เหมือนEV ที่จะต้องอาศัยแรเอิรท์ แบตเตอร์รี่ น่ะ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะราคาสูงกว่ามาก แต่คุณสมบัติต่างๆ นั้นดีกว่ามาก
ถ้าทำได้จริงก็น่าสนใจครับ โดยส่วนตัวแล้วก็เห็นด้วยกับความคิดที่บอกว่าในอนาคตรถไฟฟ้าไม่ใช่คำตอบเดียว แต่ในอนาคตจะเป็นยุคที่คนใช้รถพลังงานหลากหลาย จะมีทั้งคนใช้รถยนต์พลังงานน้ำมันแบบเดิม ไฮบริด ไฟฟ้า และพลังงานในรูปแบบอื่น วิ่งทั่วไปบนท้องถนน ตามแต่ความนิยมและความสะดวกของแต่ละคนและแต่ละภูมิภาคของโลก
แบบนี้ก็ดีต่อผู้บริโภคแบบเราๆเลย มีทางเลือกเพิ่มขึ้น ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกใช้งานตามความสะดวกของตัวเอง
รอเลย
5 ปีที่แล้ว ผมที่รอ โคโรล่า โฉมเมกา เครื่อง dynamic force ... โตต้าไทย .. โอเค ขายโฉมไต้หวัน เครื่องเดิม 1.8 ไฮบริตแล้วกัน .. โอ้ พระสงฆ์ นี่หรือ ดีทรอยแห่งเอเชีย
น้ำมันราคาน่าเกียจมาก พอราคาพอจะเริ่มลงหน่อย โอเปครีบลดกำลังผลิตเฉย (ปล่นกันดีๆนี่เอง)
ต้องรอทดสอบจริงครับ
ผมใช้ corolla cross hev 2024 อยู่ครับ ใช้น้ำมัน 22-25 กม./ลิตร ถือว่าประหยัดใช้ได้ แต่อัตราเร่งยังดูหนืดๆหน่วงๆอยู่ ส่วนเครื่องใหม่ขอแบบปลั้กอินไฮบริด ทำได้สัก 30-35กม./ลิตร + อัตราเร่งดีขึ้นสัก 15-20% ก็โอเคแล้วครับ
รอใช้ hybrid ใหม่ มั่นใจญี่ปุ่น วิจัยจนมั่นใจก่อนออกขาย
โหๆๆ ปี2027 เลยเชียว
ถ้าใด้สุดยอด
หลังจากหากินแบบสบายๆกับคนไทยด้วยรถราคาแพงแต่ด้อยคุณภาพกว่าที่ขายฝรั่ง ก็ต้องพัฒนาเพื่อผู้บริโภคเสียที ดีใจแทน FC's Japan car
ถ้าได้สัก30กม.ต่อลิตรขึ้นไป ถือว่าน่าสนใจมาก เพราะรถไฟฟ้ายังไม่ตอบโจรท์บางเรื่อง ค่าซ่อมโดยเฉพาะแบตฯก็ยังแพงมาก แม้จะลดราคามา ทำให้ราคารถมือสองตกมากหรืออาจขายได้แค่ราคาซากถ้ารถเก่ามากๆ เรื่องไฟไหม้ก็เป็นอีกเรื่องที่คนยังกังวลกันอยู่ ทั้งตอนชารท์และกรณีเกิดอุบัติเหตุในส่วนที่เก็บแบตฯ
เบื่อแล้วกับการขายฝันของฝั่งญี่ปุ่น
จริงครับ แค่ชะลอฐานลูกค้าไปเรื่อยๆ กลัวย้ายไปจีน
จะคอยสนับสนุนจีนว่างั้นเถอะ คนไทยไม่คิดที่แสวงหาเทคโนโลยี คอยแต่ใช้รถถูกออปชั่นเยอะ แล้วเมื่อไหร่จะเข้าสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วสักที
@@ultrasnook ผมเป็นผู้บริโภคจะฝั่งจีนหรือญี่ปุ่น ผมก็สนับสนุนหมดถ้าราคาที่จ่ายมันคุ้มกับเงินที่เสียไป
@@sakonyumak7845 หวังว่าไม่เป็นหนูทดลองก่อนนะครับ เพราะแจ๊กพอต มันเกิดขึ้นได้เสมอ บางทีกว่าจะรู้ว่าคุ้มค่าหรือไม่ มันต้องใช้งานจริงก่อนโดยเฉพาะฝั่งจีน
คนไทยออกจะเก่งสึกไม่่มียี่ห้อของตนเอง ดีแต่แขวะเขา
EV ผลักตันให้ค่ายรถต้องรีบพัฒนาเครื่องยนต์สันดาบให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น ผู้บริโภคได้ประโยชน์ก็ยินดีด้วยนะ
สุดยอดครับญี่ปุ่น
Prius ไฮบริด ผลิตมาตั้งแต่ 20 กว่าปี แต่เทคโนโลยีมันแพงมากๆๆๆๆๆ กว่าจะจับต้องไฮบริดได้รอจน EV จีนมากระแทก พี่ยุ่น ท่านพี่ช่างจริงใจมาก
ว้าวโตโยต้าทั้งใจค่ะ❤️
รอเลยครับ ยังไงผมก็ชอบน้ำมัน เวลามีอาการอะไรมันจะส่อแววก่อน ดูแลเยอะหน่อย แต่มันง่ายและสบายใจ อิอิ ปล. มีแค่เครื่องมือติดรถ ก็อาจแก้ไขวิ่งได้ต่อ ..
เครื่องยนต์สันดาป ทน,ใช้ง่าย,ทันใจ
ไฟฟ้าน่าสนใจกว่า ติดโซล่าเซลล์ได้
ซะใจ แข่งกันเยอะๆ เราคนซื้อเราได้ประโยชน์
ทำรถออกมาขายคนไทยราคาเกือบสองล้าน กั๊กออฟชั่นเพียบ รถที่ส่งออกนอกฟังก์ชันครบท่วมๆ ลูกค้าเขาก็ต้องหันไปใช้แบรนด์อื่นกันอยู่แล้ว ไม่เชื่อรอดูได้เลย ล้านห้าอัพ
บางคนก็ชอบรถใช้น้ำมันเหมือนเดิม
สำหรับผมคิดแบบบ้านๆ เครื่องยนต์สันดาป มีความซับซ้อนสูง ตัวเซ็นเซอร์และ CPU ก็มีหลายตัว ท่าเทียบกับรถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ พี่ไม่ค่อยมีความซับซ้อนมาก เพราะไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ ใช้แต่ระบบเกียร์
ถูกต้องครับ ผมนี่เบื่อรถสันดาบเต็มทน เจอแต่พวกช่างเขาเถอะซ่อมไอ้นี่ไอ้นั่นพัง เปลี่ยนช่างจนตอนนี้เลิกซ่อมแล้วขับทั้งพังๆงั้นแหละ
เยี่ยมเลยถูกต้องเลยครับ
หลงทางไหมโตโยต้า มาสด้า ซูบารุ ที่ต้องมีEAเพราะราคาน้ำมันราคาแพง ไปพัฒนาแบตเตอรี่ดีกว่าไหม
เครื่องยนต์จุกจิก เด่วเป็นโน้นเป็นนี่ น้ำมันแพงอีก เครื่องใหม่พังข้างนอกซ่อมไม่ได้อีก ต้องยกเข้าศูนย์ สรุปไปรถไฟฟ้าดีสุด พลังงานสะอาด ราคาถูก ตัวจบ
เครื่องขับ fcev ใช้ไฮโดรเจน ให้ประสิทธิภาพดีสุดกว่าเครื่องยนต์ในเรื่องนี้ทั้งหมด แต่ H2 โดนปฏิเสธเรื่อยๆ เป็นไฟฟ้าสมบูรณ์ก็จริง
จะว่าไป ผมดูสมรรถนะ ราคา ความคุ้มค่าในการใช้รวมทั้งออฟชั่นต่างๆที่ให้มา รถสันดาป กับรถ ev มันคือรถคนละเจน รถสันดาป วันนี้อาจคุ้มค่าในการใช้ ส่วน สมรรถนะและราคารถสันดาปสู้ไม่ได้เลย
เหมือนแต่ก่อน รถญี่ปุ่น ที่ไปเปิดตลาด ยุโรป เมกา ถูกด้อยค่าเอามาก ผ่านไป 30 ปี คนละเรื่อง รถ ev จากจีนไม่ต่างกันแต่จะดีกว่า ที่เริ่มต้น เป็นเจนใหม่ของยานยนต์ ไม่ใช่รถสันดาปที่ต้องตามเขา
หัวข้อนี้ คือการ เปลี่ยนมาเป็น เทอโบ ชาร์จ มันจะใหม่ตรงใหนครับแค่พ่วงเอาระบบ plug in เพิ่มเข้าไป ค่ายยุโรป กับฮอนด้า ใช้อยู่ทุกวันนี้อยู่แล้ว
โตโยต้า พัฒนา ไฮบริด จนเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก
มาสด้ากับซูบารุ สันดาปล้วนๆ
ถ้าจะตีกับevถูกต้องแล้วครับ ที่ต้องหาแนวร่วม
เอาที่สุดของความทนและประหยัดแถมแรง ในเครื่องบ้อคเซ่อร์
ความประหยัด ในเครื่องสันดาปขนาดเล็กลง จาก skyactive
เอาระบบไฮบริดสุดยอด จากโตโยต้า
รวมกัน ติดเทอโบชาร์ดเข้าไป
ท้าชน ev
โอกาศแพ้ มี เพราะ ev คงพัฒนาต่อไปอีก ดีไม่ดี รถบินได้ยุคต่อไป ก้อจะใช้ ev นี่แหละ
แต่ ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ดีกว่ารถไฟฟ้าเยอะเลยครับ 70% ดี
-เครื่องปั่นไฟแรงๆประหยัดน้ำมัน
-แบตวิ่งจริง 100-150 km ชาร์ตได้
พอแล้วครับ
ตอนนี้ไฮบริค ก็ 20km /L แพงกว่า ไฟฟ้า 1 เท่าตัว (ชาร์ตตามสถานี)
ไม่ได้ต่างมีนัยยะอะไร แต่ไฟฟ้าเสียเวลากว่าเติมน้ำมัน ถ้า ไฟฟ้ายืน 800-1000 km (รถทุกขนาด)ได้ผมว่าไฮบริคเหนื่อย
ไม่รู้เป็นไง
เห็นโฆษณาจากค่ายนี้ที่ไร ต้องกดขำทุกที
55ขับเวฟรึเปล่าคุณ555555
@@user-uv9ho1yo7f ผมก็พอมีกินมีใช้นะ
ผมมีรถยนต์ 2 คัน
ฟอร์จูน
และกระบะ 4x4 เอาไว้เที่ยวสายออฟโรด 1 คัน
โตโยต้าทั้ง 2 คัน
มี wave 110i 1 คัน
ฟีโน่ 1 คัน
จักรยานเสือหมอบ 2 คัน
จักรยานเสือภูเขา 2 คัน
จักรยาน 4 คัน ราคารวมกันซื้อรถเก๋งอีโคคาร์ ได้ 1 คัน
สู้กันมากๆ ผู้บริโภคได้ประโยชน์ เราจะได้เห็นสิ่งนี้ออกมาเร็วขึ้น เพราะการมาของ EV
คนไทยติดกับดักประเทศกำลังพัฒนานานไปแล้ว เพราะเอาแต่บริโภค ทีประเทศเราต้องการคือเทคโนโลยี เพื่อยกระดับเข้าสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ไม่ใช่ให้จีนใช้ไทยฐานผลิต แบบนี้ไม่ได้ประโยชน์ เพราะจีนไม่ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้
@@ultrasnook โดยรวมเราพูดถึง EV ไม่ได้หมายถึงแค่รถจีน การค้าขายในประเทศควรมีกฏเกณที่เสมอภาคกัน ทั้งจีนและญี่ปุ่น ประเทศเรามีศักยภาพมากพอที่จะผลิตรถเอง แต่ติดที่ ไม่ส่งเสริม เพราะกลัวว่าขาดความเชื่อมั่นกับทางผู้ผลิตรายใหญ่
@@moonpc1051 ก็มันแย่ตรงที่ไม่ส่งเสริมนี่แหล่ะ คือข้อแก้ตัวที่เหมือนจะดูดี รู้รึเปล่าว่าเกาหลีก่อนที่จะขยับเข้าสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว เค้าไม่ใช้รถนอกเลยนะ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ใช้แต่รถในประเทศ แล้วก็พัฒนามาเรื่อย จนตอนนี้รถฮุนได รถเกีย ส่งขายในอเมริกาได้แล้ว หลายๆอย่างคนไทยทำได้แต่ไม่ส่งเสริม ดูถูกกันเอง คอยซื้อแล้วหวังเงินทอน นี่คือข้อเสียอย่างแรง
@@moonpc1051 ญี่ปุ่นช่วยเหลือซัพพลายเออร์รถน้ำมันในไทยมานานแค่ไหน ช่วยให้คนไทยมีงานทำ มาเท่าไหร่ รู้ไหม เวียดนามใช้รถญี่ปุ่นแพงกว่าบ้านเราอีก จีนช่วยอะไร ประเทศไทยได้อะไร ไม่พ้น โรงงาน zero dollar จีนไปที่ไหนมีแต่กับดักทั้งนั้น จีนเคยถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ใครบ้าง
คนไทยต้องเริ่มเรียนรู้ ไม่งั้นประเทศจะขาดดุลจีน หลายล้านๆบาท ไม่ต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ถูกล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจ แต่ในทางกลับกันประเทศไทยได้ดุลอเมริกา
ไฮ บิดน่าใช้กว่าเยอะเลยครับ
ทำมาปั่นไฟก็ดีนะ จ่ายตรงมอเตอร์ที่ล้อเลย
อาตี๋ byd สวนกลับ ลดราคาแบต 40%
และมีแนวโน้มลงอีก 😂😂😂
แล้วไปขึ้นราคามอเตอร์ กับระบบแอร์ใหเแพงระยับแทน 😂😂😂
พังกันเรื่อยๆเรียงๆ ขึ้นราคาสบายไม่มีใครพูดถึง ยังไม่นับคุณภาพวัสดุอีก ขยันกรอบยันสายไฟ
ทำให้ได้นะสู้ส
พลังไฮบริด น่าใช้กว่าEV สร้างพัฒนามาเถอะ ก็มีตลาดลูกค้าอยู่ คงไม่มีใครจะใช้รถไฟฟ้าในตลาดรถใหม่ทุกคนหลอก
เครื่องยนต์ไฮบริดแบบใหม่นี้สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 20 30 ปีไหม รถยนต์สันดาปนั้นใช้งานได้ 20 ถึง 30 ปีจะมีความคุ้มค่ามาก
ยังมีขุมพลังใหม่ เป็นพลังงานที่ แทบจะไม่มีวันหมดเลย กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
พลังอะไรครับ
มันก็ดีครับ การแข่งขันจะได้สนุกขึ้น ยังไงญี่ปุ่นก็ทำได้อยู่แล้ว แถมต่อไปจีนก็จะได้แข่งกันทำตามอีกด้วย
รอเครื่องรุ่นใหม่
อนาคตอันไกลโพนนนนน.....................
จัดไปครับ
volk fiat ford สมัยเด็กพ่อพูดชมบ่อยๆ ดีตอนนี้ ผมยังเห็น ford
รอครับ เพราะตอนนี้มีการเปรียบเทียบกันระหว่างรถไฟฟ้ากับรถน้ำมันแต่ก็ยังไม่ชัดเจน
กว่าจะถึงเวลานั้น น้ำมันคงลิตรละ 70-80 แล้วระหว่างนั้นพวกที่รอก็เติมน้ำมันไปบ่นไป มีแต่เจ้าสัวน้ำมันที่รวย
ขับในเมืองสิเนเปลืองสัก 25 กิโลลิตร รถไฟฟ้าคนก็สนใจนัอยลงแล้วครับ
บอกภาครัฐขายน้ำมันให้เท่าทุนจบเลยEV
1ลิตร วิ่งใด้ซัด 50-60กม...นี้ก็ขายดีแล้ว
ใครที่ต้องรีบซื้อช่วงนี้ คิดหนักเลย ถ้าจำเป็น erev กำลังมาน่าสนใจ ส่วนไฮบริดจ์ ตอนนี้ น่าจะสิ้นเปลืองค่าพลังงานเยอะกว่า คงต้องรอรุ่นใหม่ๆ หลังปี 2027 น่าจะใช้เครื่องยนต์ใหม่ แบตใหญ่กว่าเดิม
ภูมิอากาศโลกปั่นป่วนหนัก ยังคิดจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อีก โลกต้องเปลี่ยนขนานใหญ่ในอุตสาหกรรมทั้งหมด เพื่อลดมวลสภาวะครับ
ทุกแบรนด์ของโลก ยุติการผลิตเครื่องยนต์สันดาปได้แล้ว
ราคาครับ ทำให้มันถูกลง มันก็สู้ได้
รถน้ำมันก็คือต้องจ่ายค่าน้ำมันแพงๆ ยังไงก็ไม่ประหยัด ก่อมลพิษอยู่ดี ญี่ปุ่นพยายามพัฒนาแบตเตอรี่ให้ทันจีน แค่นั้นจบ
ถ้าจะไฮบริด ผมแนะให้พัฒนาโซล่าเซลบนหลังคารถน่าจะต้นทุนสู้กับจีนได้พลังงานก็ไม่ต้องห่วงถ้าพัฒนาจริงจังนะครับ สมัยนี้โซล่าเซลก็ถูกลงเรื่อยๆๆ
น้ำหนักแผงโซลาร์เซลส์นี่แหละ ที่ทำให้มันเป็นไปได้ยาก เพราะโซล่าเซลส์ประสิทธิภาพการแปลงพลังงานต่ำ แค่ ระดับ ไม่เกิน 20% แย่กว่าเครื่องยนต์มาก แต่ดีหน่อยที่แดดไม่ต้องซื้อ แผงทั่วไป 300 วัตต์ กว้าง 1.6 เมตร x 1 เมตร น้ำหนักเกือบ 20 กิโลกรัม ถ้าจะให้เท่าความจุรถไฮบริด ก็อาจต้องมีสัก 10 แผง 3kW แบกแผงไปอีก 200 กิโลกรัม แต่ถ้าจะแทนรถไฟฟ้า 100% ก็จะต้องมีเกือบ 170 แผง ให้ได้สัก 50 kW แต่ต้องแบกน้ำหนักอีก 3 ตัน น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหมายถึง การขับเคลื่อนกินพลังงานมากขึ้น ระยะทางวิ่งก็ลดลง ในระยะสิบปีนี้ โซลาเซลส์เหมาะแค่ใช้ระบบที่ติดตั้งประจำที่แค่นั้นแหละ
เปลี่ยนเกมส์จริงๆรอสูนย์พันธุ์
ในนี้มีวิศวกรยานยนต์บานตะไทเลย
รถยนต์ไฟฟ้าประหยัดกว่าหลายเท่า ถ้าในอนาคตรถไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ไกลขึ้น และมีจุดชาร์จมากกว่านี้ คนก็คงหันไปใช้รถไฟฟ้ากันหมด
แบตเตอรี่ ชาร์ทบ่อย ๆ จะเหมือนแบตทั่วๆไปใหมครับ
เช่น แบตรถยนต์ ปีสองปีเปลี่ยน
แบตมอเตอร์ไซค์ ปีสองปีเปลี่ยน
แบตมือถือ , แบต ฯลฯ
ถ้าเป็นเรื่องแบตเตอรี่ มีการเสื่อมจริงครับตามรอบบการชาร์จ แต่จะไม่เสื่อมจนต้องเปลี่ยนในระยะเวลา 2-3 ปี
โดยส่วนใหญ่บริษัทจะรับประกันให้อย่างน้อย 8 ปี หรือราว 1 - 2 แสนกิโลเมตร ถ้าแบตเสื่อมผิดปกติก่อนระยะเวลาประกัน ทางค่ายต้องเปลี่ยนแบตลูกใหม่ให้ครับ
ต้องทำให้อัตตราการกินพลังงานเท่ากับการกินไฟฟ้า คือให้การกินน้ำมันเทียยเท่ากับการจ่ายค่าไฟทถึงจะสู้ได้
ไดโนเสา,
ลมหายใจเฮือกสุดท้าย......
ไม่รู้ซิแต่ตรูใช้โตโยต้า
ไปว่าญี่ปุ่นทำไม เค้าให้คนไทยมีงานทำ มีซัพพลายเออร์มากมาย จีนให้อะไรบ้าง คนไทยจะเป็นแค่ผู้บริโภคอย่างเดียวหรืออย่างไร จะไม่คิดค้นเทคโนโลยีบ้างหรือไง
เมื่อก่อนจีนก็ล้าหลัง แต่มาทำ Copy & Develop จนแซง มันต้องดูว่าทำอย่างไร ไม่ใช่คอยแต่จะบริโภค ติดกับดักจีนอีก แล้วเมื่อไหร่ไทยจะเข้าสู่ประเทศพัฒนาซะที
คนไทยมีงานทำเพราะไดโนเสาร์นิล่
ดูท่าคนไทยบางคนนี่ไม่ต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน ยกย่องจีนมาก
ยังเชื่อมั่นในมาตรฐานของญี่ปุ่นแน่นอน ในจีนเองสุสานก็ยังไม่พอที่จะเก็บรถแล้ว ต้องระบายมาประเทศไทยบ้าง
ส่วนไทยสุสานรถน้ำมันเพียบ จอดตายตามเต้นส์ กับลานประมูล
เหมือนเดิม คิดแบบญ๊่ปุ่น ก็เหมือนเดิมคือ เน้นเทคโนโลยีสูง ราคาแพง เอื่อมถึงยาก ซ่อมแพง อะใหล่แพง คิดง่ายๆ แบบจีนนะ เดี๋ยวจีนจะเอาเทคโนโลยีสูงๆในเครือ่งญ๊่ปุ่น ไปทำเครื่องปั่นไฟ แทนที่จะไปปั่นล้อ ผลคือรถออกตัวดีแบบรถไฟฟ้า ขับสนุก เครือ่งยนต์เล็กๆ ปั่นไฟอย่างเดียวไม่เปลืองชิ้นส่วนไม่มีเกีย เผลอๆ ทำแบบยกเปลี่ยนเครืองปั่นไฟได้ง่ายๆ ซะเลย
จัดมาเลยครับ ขออย่างน้อยได้ไม่ต่ำกว่า 30km / L.ขึ้นไป ยังไงก็มั่นใจกว่ารถไฟฟ้าจีน
เอ่อ จะทำอะไรก็เเล้วเเต่ เก่งไม่กลัว กลัวคิดช้าาาาาา
คิดช้าไม่กลัว กลัวไม่คิดทำอะไรเลย มัวแต่คอยซื้อและใช้ แล้วเมื่อไหร่ประเทศจะพัฒนา
@@ultrasnookแล้วคิดได้รึยัง ไม่ลองทำออกมาโชว์ล่ะ รึแค่มีมือถือใช้เป้นแค่นั้น
แค่สงครามข่าวสาร โตโยต้าถนัด
ทำไม ไม่พัฒนาเครืองรุ่นประหยัดร้อยกิโลเมตร/ลิตรบ้าง
ยอมรับคนญี่ปุ่นจริงๆ แต่ทำไงได้ล่ะจะหันไปหา BEV ก็ไม่ทันเค้าละ แต่จะพัฒนายังไงมันก็ยังเป็นเครื่องยนต์อยู่ดี เชื้อเพลิงต่างๆราคาก็ยิ่งแต่ขยับสูงขึ้นไปเรื่อยๆสำหรับ BEV มันพัฒนาไปได้ไวและเร็วกว่า รอดูการดิ้นของค่ายญี่ปุ่นกัน
เผอิญว่าบ้านผมติดโซลาร์เซลล์อ่ะ ชาร์จไฟรถไฟฟ้าฟรีๆจากแดด
ไฟเหลือจากแดดชาร์จรถไฟฟ้าเต็ม ยังเอามาเปิดแอร์ไฟฟรีเย็นฉ่ำๆ 24 องศาได้อีก
รอให้น้ำมันฟรีก่อนนะ🤣🤣🤣🤣
ทำเครื่องยนต์จิ๋ว เติมน้ำมัน แล้วส่งไฟฟ้าให้ มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน ดีปะ จะได้วิ่งไกลๆ
ทำไปเถอะ แต่ออกมาเป็นรูปธรรมเร็วๆ ไม่ใช่แค่ลมปาก แบบหลายปีที่ผ่านมา
แถมเครื่องยนต์ใหม่ของ โตโยต้า ต้องได้รับการพิสูจน์อีกสักพักเช่นเดียวกับ EV เพราะมันไม่ใช่เครื่องเดิมที่การันตีมานานแล้ว
ปล่อยมือสองแพงไปรอเทคโนโลยีไหม่
ผมรอ 1 ลิตรวิ่งได้ 200 โลครับ😊
แต่รถเราวิ้งได้จริงนับประสาสองร้อยโลรถเราได้เป็นตันๆสองตันเลยทีเดียว😂
Toyotaทั้งใจค่ะ😍❤️
เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคและโลกทั้งนั้น ทิศทางดี
พัฒนารุ่นใหม่ๆ รุ่นเก่าก็แบกรับภาระกันต่อไปกว่าจะผ่อนหมดก็เริ่มซ่อม น้ำมันก็แพงขึ้น
ถึงว่า ้ขาถึงเงียบรถEV. ที่แท้ซุ่มพัฒนา เครื่องใหม่
โชว์ของปีนี้ อีกยี่สิบปีได้ขับจริง
มีคนไทยคนหนึ่งที่คิดค้นรถเติมน้ำวิ่งได้ น่าสนใจทีเดียว แต่กลับไม่มีบริษัทไหนสนใจ
สร้าง super mass product สำหรับเครื่องยนต์ญี่ปุ๋นประสิทธิภาพสูง ก็อาจสู้จีนได้
ที่ผ่านมาหลายสิบปี บริษัทรถญี่ปุ่นเอาเปรียบเราไปเท่าไรแล้ว
ถ้าพัฒนาทำเครื่องยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 25-30 กม./ล ในการใช้งานในชีวิตประจำวันจริง ไม่มีใครเขาต้องการโหยหารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนหรอก เพราะที่แน่ๆอีก2-3ปีจะเจอค่าบำรุงรักษาค่อนข้างเยอะแน่ๆ
แบบนิสสัน Kick แบบMazda คิดทำ น่าสนใจมากๆ😂😂😂
ไทยเป็นตลาดสำคัญของญี่ปุ่น จึงต้องออกข่าวซ้ำๆผ่านสื่อเพื่อยื้อเวลาออกไปให้ได้มากที่สุด แต่ถึงยังไงคงฝืนกระแส go green net zero ไม่ได้หรอกครับ
ใช่ๆ ถูกต้องครับ
BYD ประกาศลดราคาแบตเตอรี่ลงอีก เหนื่อยหนักเข้าไปอีกครับ
ดูแล้วเครื่องยนต์ใหม่ก็ยังเสียเปรียบEVอยู่ดียิ่งรถEVได้แบตลิเทีอมฟอสเฟสแบบใหม่ที่ชารจ์ไวแถมอายุใช้งานแบตเป็น100ปีแถมกดราคาลงได้อีกเหลือแค่หลัก700,000-800,000บาทงานนี้ลำบากสาหัสยากจะต้านไหว
ญี่ปุ่นเป็นรองหมดถ้าคิดจะแข่งเรื่อง ev จีนกุมความได้เปรียบไว้หมดต้นน้ำวัตถุดิบแร่ ยันปลายน้ำ
ชอบรถซูซูกิที่ขายต่างประเทศมากๆแต่คนไทยไม่ค่อยได้ใช้รถดีๆเลย ดูอย่าสวิฟที่ขายอังกฤษได้เครื่องยนต์ใหญ่กว่าไทยแถมมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยโคตรอยากได้เลยแต่ไม่ขายไทยเซง
ผมคิดว่าช่วงนี้ รถยนต์พลังงาน Hybrid ยังน่าใช้มากกว่ารถ EV เพราะราคาอะไหล่ถูกว่าและหาง่ายกว่าครับผม