เชื่อในความจริงของพระเจ้า 1เปโตร2:9-16

Поділитися
Вставка
  • Опубліковано 20 вер 2024
  • 1 เปโตร 2:9-16
    9.แต่ท่านทั้งหลายเป็นชาติที่พระองค์ทรงเลือกไว้แล้ว เป็นพวกปุโรหิตหลวง เป็นประชาชาติบริสุทธิ์ เป็นชนชาติของพระองค์โดยเฉพาะ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้สำแดงพระบารมีของพระองค์ ผู้ได้ทรงเรียกท่านทั้งหลายให้ออกมาจากความมืด เข้าไปสู่ความสว่างอันมหัศจรรย์ของพระองค์
    10. เมื่อก่อนท่านทั้งหลายหาเป็นชนชาติไม่ แต่บัดนี้ท่านเป็นชนชาติของพระเจ้าแล้ว เมื่อก่อนท่านทั้งหลายหาได้รับพระกรุณาไม่ แต่บัดนี้ท่านได้รับพระกรุณาแล้ว
    *** สำหรับพระเจ้า มนุษย์ทั่วโลกไม่มีชาติ ส่วนผู้เชื่อคือชนชาติของพระเจ้าที่เป็นประชากรแห่งอาณาจักรของพระองค์ ผู้เชื่อทุกคนจึงเป็นปุโลหิตหลวงของพระเจ้าซึ่งก็คือมีหน้าที่ร่วมกันปรนิบัติพระเจ้าในพระวิหารเพื่อการนมัสการ การถวายเครื่องบูชาต่าง ๆ พวกเราเป็นประชาชาติบริสุทธิ์โดยการชำระของพระวิญญาณบริสุทธิ์โดยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ เราทั้งหลายจึงเป็นผู้บริสุทธิ์ต่อพระพักตร์พระเจ้า ถึงแม้ว่าเรายังทำบาปในแต่ละวันก็ตาม แต่เมื่อเราได้รับการชำระและเข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลงเราจึงดำเนินชีวิตเพื่อสำแดง ἀρετὰς (ar-et'-ay) excellencies ความดี goodness ความซื่อสัตย์ uprightness มีคุณธรรม virtue ซึ่งเป็นชีวิตและนิสัยของพระเจ้า เนื่องจากว่าพระเจ้าทรงมีพระเมตตาคุณอย่างเหลือล้นสำหรับเรา
    *** พระเจ้าทรงเรียกผู้เชื่อทุกคนออกมาจากความมืดเพื่อให้เข้าสู่ความสว่างและพระองค์กระทำแล้วโดยให้เราเข้าไปอยู่ในพระคริสต์เนื่องจากว่าชีวิตในพระคริสต์คือชีวิตที่อยู่ในความสว่าง และความสว่างก็คือความจริงหรือความเป็นจริงของพระเจ้าที่พระองค์ได้กระทำแล้วในพระคริสต์ ส่วนความมืดก็คือการดำเนินชีวิตด้วยตัวเก่าที่ไม่ได้ผ่านกางเขนและอุโมงค์และการเป็นขึ้นมาจากตายร่วมกับพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อน
    11.พวกที่รัก ข้าพเจ้าวิงวอนท่านทั้งหลายเหมือนท่านเป็นคนต่างด้าวและเป็นผู้สัญจร ให้ท่านละเว้นจากตัณหาของเนื้อหนัง ซึ่งทำศึกกับจิตวิญญาณ
    *** มนุษย์มีปัญหาเรื่องตัวบาปที่อยู่ในเขาที่แสดงคุณสมบัติสี่ประการเมื่อถึงเวลาของมัน ซึ่งก็คือ ความหยิ่งผยองพองตัว pride ความโกรธ anger ตัณหาของเนื้อหนัง คือความต้องการของเนื้อหนัง ความอยาก คืออยากได้ อยากดี อยากมี อยากมีมากกว่าเดิม และสิ่งสุดท้ายก็คือตัณหาของร่างกายซึ่งก็คือความใคร่หรือความต้องการทางเพศที่ผิดต่อน้ำพระทัยของพระบิดานั่นเอง และข้อนี้พระวิญญาณตรัสผ่านเปโตรให้เตือนผู้เชื่อเกี่ยวกับความต้องการความอยาก อยากได้ อยากมี อยากได้อยากมีมากกว่า เพื่อนำมาบำเรอชีวิตให้สุขสบายฝ่ายร่างกายจนลืมพระเจ้า ลืมการเดินในวิญญาณและงานการรับใช้พระองค์ เนื่องจากว่าคนที่อยู่รอบข้างผู้เชื่อตอนนั้นดำเนินชีวิตที่เต็มด้วยตัณหาของเนื้อหนัง
    12.จงให้การประพฤติของท่านทั้งหลายเป็นที่น่านับถือท่ามกลางคนต่างชาตินั้น เพื่อว่าในข้อที่เขาติเตียนท่านว่าเป็นคนทำชั่วนั้น เมื่อเขาเห็นการดีของท่านแล้ว เขาจะได้สรรเสริญพระเจ้าในวันซึ่งพระองค์จะทรงเยี่ยมเยียนเขา
    *** หน้าที่ของผู้เชื่อต่อคนที่ไม่เชือก็คือรักและทำดีต่อพวกเขา ด้วยอาการต่ำถ่อมและยอมเสียเปรียบเพื่อเขาจะเห็นพระเจ้าในเราและยกย่องพระเจ้าของเราและจะทำให้พระเจ้ามีโอกาสมาหาเขาและช่วยเขาให้มาถึงความรอดได้
    13.ท่านทั้งหลายจงยอมฟังการบังคับบัญชาที่มนุษย์ตั้งไว้ทุกอย่าง เพราะเห็นแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าผู้นั้นเป็นกษัตริย์ผู้มีอำนาจยิ่ง
    14.หรือจะเป็นเจ้าเมืองผู้ที่ได้รับคำสั่งจากกษัตริย์นั้น ให้ลงโทษผู้กระทำชั่ว และยกย่องคนที่ประพฤติดี
    15.เพราะเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ที่จะให้ท่านทั้งหลายระงับความโง่ของคนโฉดเขลาให้สงบด้วยการประพฤติดี
    *** ผู้เชื่อไม่มีหน้าที่ต่อสู้ ต่อต้าน ผู้มีอำนาจและกฏหมายบ้านเมืองที่เราอาศัยอยู่ เราเอเมนกับทุกสิ่งและดำเนินชีวิตตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในแต่ละวันเพื่อสำแดงพระคริสต์ผ่านเรา
    16.จงเป็นเหมือนคนที่มีเสรีภาพ แต่ท่านอย่าใช้เสรีภาพนั้นให้เป็นที่ปกปิดความชั่วไว้ แต่จงใช้เหมือนเป็นทาสของพระเจ้า
    *** ผู้เชื่อมีสิทธิเสรีภาพในการเลือกที่จะทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าหากเรายอมที่จะขายสิทธิ์และยอมเชื่อฟังพระเจ้าอย่างทาสที่จะอยู่ภายใต้การดูแลตัดสินของบ้านเมือง แน่นอนความยุติธรรมและเที่ยงธรรมก็จะเกิดกับเราเป็นส่วนมาก สรุปก็คือเราอยู่เพื่อสำแดงชีวิตและนิสัยของพระคริสต์โดยที่ไม่ต่อต้านต่อสู้และไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องการเมืองซึ่งเรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์นำพาเราในแต่ละวัน

КОМЕНТАРІ • 21