จุดจบเอกภพ ตอนที่ 3 อวสานเชิงความร้อน (Heat Death)
Вставка
- Опубліковано 29 чер 2024
- ติดตามเราที่ facebook : / curiositychannelth
Blockdit : www.blockdit.com/curiositycha...
Tiktok : / curiositychannelth
instagram ชีวิตส่วนตัว : / ekarajpkk
ติดต่องาน : curiositychannel.th@gmail.com
สั่งซื้อแว่น Ophtus ได้ที่ / ophtus
ใช้โค้ด SONGSAI เพื่อรับส่วนลด 100 บาท
ช่องคนช่างสงสัยได้จัดแคมเปญร่วมกับ futureskill.co/ Platform การเรียนรู้ทักษะในยุคอนาคต เช่น การเขียนโปรแกรม , เขียนเว็บไซต์ , การตัดต่อวีดีโอ , Content Creative , Data analytic ฯลฯ
1. แพ็คเกจบุฟเฟ่ต์ 1 ปี - ส่วนลด 50% จาก 9948 เหลือ 4974 บาท
โค้ดส่วนลด : AFFXCC
หรือคลิกที่ลิ้ง fskill.co/Aoag
2. แพ็คเกจรายคอร์ส - ส่วนลด 100 บาท คอร์สเรียนเดี่ยว คอร์สใดก็ได้ ลดเพิ่มจากราคาลดแล้วจากราคาขายบนหน้าเว็บไซต์
โค้ดส่วนลด : AFFXCC100
หรือคลิกที่ลิ้ง fskill.co/Aoal
3. แพ็คเกจ Superclass - ส่วนลด 100 บาท ลดเพิ่มจากราคาลดแล้วจากราคาขายบนหน้าเว็บไซต์
โค้ดส่วนลด : AFFXCC100
หรือคลิกที่ลิ้ง fskill.co/Aoam
คลาส Wining your brand with grit เอาชนะอุปสรรคในการสร้างแบรนด์แบบ "กัดไม่ปล่อย" โดย คุณ รวิศ หาญอุตสาหะ
page.futureskill.co/winning-y...
โค้ดส่วนลด : AFFXCC100
Friendly Gym ฟิตเนส บางพลี
/ friendlygymsmt9
----------------------------------------
เอกภพ มีจุดกำเนิด และก็มีจุดจบ โดยคลิปนี้เราจะมาพูดถึงจุดจบของเอกภพที่ชื่อว่า Heat Death หรือ Big Freeze ซึ่งเป็นจุดจบของเอกภพที่ถูกยอมรับมากที่สุดในปัจจุบัน และคิดว่าเอกภพของเราน่าจะเป็นไปแนวทางนี้
จริงๆ แล้วคลิปก่อนหน้านี้ ที่เกี่ยวกับขอบเขตเอกภพ ก็ตั้งใจทำเกี่ยวกับจุดจบของเอกภพ heat death นี่แหละ แต่พอพูดถึงหัวข้อการขยายตัวของเอกภพแล้ว มันยาวเกินไป เลยแยกออกเป็นคลิปของมันเองโดยเฉพาะดีกว่า ใครยังไม่ได้ดูย้อนกลับไปดูได้ โดบคลิปนี้จะพูดถึงการขยายตัวของเอกภพแบบย่อๆ เท่านั้นนะครับ
เมื่อช่วงปี 1920 หรือ ราวๆ 100 ปีที่แล้ว เอ็ดวิน ฮับเบิล ก็ได้พบว่า กาแล็คซี่ต่างๆ กำลังถอยห่างจากเราไปเรื่อยๆ ยิ่งกาแล็คซี่อยู่ไกลเราเท่าไหร่ มันยิ่งเคลื่อนที่ออกห่างจากเราเร็วเท่านั้น ซึ่งนั้นก็นำมาสู่การค้นพบว่า เอกภพกำลังขยายตัวอยู่
เรื่องนี้ ปฏิวัติองค์ความรู้เกี่ยวกับจักรวาลของพวกเราเลยทีเดียว ก่อนหน้านี้ คนส่วนใหญ่ รวมถึงไอนไสตน์ ก็เชื่อว่า เอกภพเป็นแบบสถิต ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มันเป็นแบบไหน ก็เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่อดีต และจะเป็นเหมือนเดิมตลอดไปในอนาคต
แต่ตอนนี้ เรารู้แล้วว่ามันไม่ใช่แบบนั้น เอกภพกำลังขยายตัว แล้วมันก็ได้ถ่างให้กาแล็คซี่ต่างๆ ออกห่างจากกันมากขึ้นเรื่อยๆ
นักวิทยาศาสตร์ก็พยายามศึกษาค้นคว้าหาว่า ปรากฏการณ์ หรือกลไกทางธรรมชาติอะไร ที่ทำให้เอกภพขยายตัวได้ เอาจริงๆ จนถึงวันนี้ เราก็ยังไม่เข้าใจกลไกนั้นดีนัก สมมุติฐานที่ยอมรับมากที่สุดในปัจจุบันนี้ก็คือ ทั่วทั้งกาลอวกาศมีพลังงานบางอย่างที่เรามองไม่เห็น แล้วพลังงานนี้ก็เป็นตัวขับเคลื่อนให้เอกภพเกิดการขยายตัว
ซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นหรือตรวจจับพลังงานนี้โดยตรงได้ เราทำได้ตรวจจับทางอ้อม จากการตรวจวัดผลกระทบของมันแทน แล้วเราก็เรียกมันว่า พลังงานมืด หรือ Dark Energy
ทุกพื้นที่ว่างในเอกภพ ล้วนมีพลังงานมืดอยู่ และตอนนี้ เราพบว่า พลังงานมืดมีสัดส่วนประมาณ 70% ของสสารและพลังงานทั้งหมดในเอกภพเลยทีเดียว
ปริมาณพลังงานมืดต่อพื้นที่ หรือความหนาแน่นของพลังงานมืด ความสำคัญในเรื่องจุดจบของเอกภพ เอกภพเราจะมีจุดจบรูปแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับพลังงานมืเนี่แหละครับ
ถ้าในอนาคต ความหนาแน่นของพลังงานมืดลดลง เอกภพจะขยายตัวช้าลง จนในที่สุด ความโน้มถ่วงจากสสารและพลังงานในเอกภพ จะเอาชนะพลังงานมืดได้ และเอกภพจะหดตัวลง เอกภพจะยุบตัวลงมาอีกครั้ง และอาจกลายเป็น Singularity เป็นจุดจบเอกภพตามสมมุติฐาน Big Crunch
แต่ถ้าในอนาคตความหนาแน่นของพลังงานมืดเพิ่มมากขึ้น เอกภพจะขยายตัวเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด การขยายตัวของเอกภพ สามารถฉีกสสารทุกอย่างเป็นชิ้นๆ ทุกอย่างจะถูกแยกออกกลายเป็นอะตอมที่ไม่สามารถจับตัวกันได้อีกต่อไป
เมื่อความหนาแน่นของพลังงานมืดเพิ่มขึ้นจนสูงมากๆ อะตอมก็จะถูกแยกออก เป็น ควาก กับอิเล็คตรอน ทุกอย่างในเอกภพจะถูกแยกออกจากกันจนถึงระดับอนุภาคมูลฐาน ไม่มีโครงสร้างใดๆ หลงเหลืออีกต่อไปในจักรวาล ซึ่งนี่ก็เป็นจุดจบของเอกภพ ตามสมมุติฐาน Big Rip
แต่ ณ เวลาปัจจุบันนี้ จากการตรวจวัดพลังงานมืด นักนักวิทยาศาสตร์พบว่าความหนาแน่นของพลังงานมืดน่าจะมีค่าคงที่ แม้ปริมาตรเอกภพจะเพิ่ม แต่ปริมาณพลังงานมืดต่อพื้นที่มีค่าเท่าเดิม และคาดว่าน่าจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่เปลี่ยนแปลง
มันอาจเป็นค่าคงที่ของจักรวาล หรือ cosmological constant ได้ ที่เป็นค่าความหนาแน่นของพลังงานที่ "คงที่" ที่แผ่อยู่ในอวกาศอย่างสม่ำเสมอ ในสมการของไอนไสตน์ก็ได้
ซึ่งนี้ หมายความว่า เอกภพ ไม่น่ามีจุดจบแบบ Big Crunch หรือ Big Rip มันน่าจะเป็นแบบอื่นมากกว่า ซึ่งก็คือรูปแบบ Heat Death หรือ Big Freeze - Наука та технологія
![Lp. Последняя Реальность #107 РОДНОЙ ДОМ [Финал] • Майнкрафт](http://i.ytimg.com/vi/IK3QKzKUlHM/mqdefault.jpg)
19:24 เป็น 100 ล้านล้าน ปีนะครับ ลืม"ล้าน"ไปตัวนึง
----------------- ครบแล้วครับ ----------------------
สวัสดีครับ สำหรับใครที่อยู่กรุงเทพฯ แล้วอยากดูหนังเรื่อง "URANUS 2324" จากล้ำหน้าโชว์ ที่ได้เหมาโรงไว้
งานนี้สนับสนุนโดย เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์
รอบหนัง : วันศุกร์ที่ 5 กรกฏาคม 2567 รอบ 20.00 น.
สถานที่ : เมเจอร์รัชโยธิน
พบกันเวลา 19.00 เป็นต้นไป
รายละเอียดตามคลิปนี้ fb.watch/s_DfkLLiJf/
ผมได้โควต้ามาประมาณ 15 ที่นั่ง ใครลงทะเบียนก่อนได้ก่อน แล้วเดี๋ยวประกาศคนที่ได้ใต้โพสนี้ครับ
ใครสนใจ ลงชื่อได้ที่ form นี้เลยครับ forms.gle/Nkpom8fKCWAfGcsG6
201,xxx แล้วครับ
ขอบคุณช่องนี้มาก อธิบายได้ดี ใครๆก็เข้าใจ
ฟังจนครบ ผมเองเชื่อ ทฤษฎีบิ๊กครันช์
ทุกอย่างต้องกลับมารวมกัน เป็นจุดๆเดียว
BigCrunch ก็จะเกิดบิ๊กแบงอีก วนลู้ปไปเรื่อยๆ
ส่วนทฤษฎีที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นแน่นอนคือบิ๊กrip
ประกาศราชื่อ คนได้ตั๋วหนังดูภาพยนต์ "URANUS 2324"
รอบหนัง : วันศุกร์ที่ 5 กรกฏาคม 2567 รอบ 20.00 น. (เจอกัน 19.00 น.)
สถานที่ : เมเจอร์รัชโยธิน
1. อารยพงศ์ ไตรโสภณ
2. Samrit Taechwongtham
3. เตชินท์
4. กฤษตนนท์ ชาวเวียง
5. กฤษ บุญพิทักษ์
6. นายทนงศักดิ์ อัญชลิสังกาศ
7. ร้อยพร โชติกาญจนวัฒน์
8. จักรกฤษ
9. คัมภีร์ เสริมกวินรักษ์
10. ณพวุฒิ เอี่ยววัฒน์
11. ยุคนธร อักษรพันธุ์
12. กฤตเมธ ดำทองคำ
13. กลศ
14. ชัยยงค์ อรรถชิตวาทิน
15. Ramet Niamwadee
16. รังสิมันตุ์ ยศทรงพล
17. อันดา พัฒนชู
18. ธีภพ สุตันตั้งใจ
19. หนึ่ง
20. เมธัส ปิติวรวงศ์
21. สรกฤช แย้มศิริ
22. กำพล พวงแก้ว
23. สหัสวรรษ รัตนาวิวัฒน์
ใครลงทะเบียนแล้วมีรายชื่อตามนี้ เจอกัน 19.00 น. วันศุกร์ที่ 5 กรกฏาคม 2567 ที่ เมเจอร์รัชโยธิน นะครับ มาแต่ตัวและชื่อ เพื่อยืนยันตัวตนครับ
ประหนึ่งว่า พอเราพิมพ์ ทวงถาม เขาก็ลงให้ น่าจะบังเอิญเเหละ เขาจะลงอยู่เเล้ว ช่องมีคุณภาพ คนเล่าเรื่อง เสียงดี ฟังเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจ คือจุดนั้นยากเกินสมองดิฉัน ชอบช่องนี้ รักวิทย์ รักเรื่องราวของ เอกภพ ของเรา
ถ้าหากเราเป็นปลาในตู้ เราก็จะคิดได้ว่า บ้านของเราเป็นเเบบนี้ เเละไม่รู้เลย ว่า คนที่เลี้ยงจะใส่อะไรมาเพิ่ม มันเเปลกดีที่ ดันมาอยู่ จุดเริ่มต้น ทั้ง ที่ หากเราไม่มีตัวตน เราคิดไม่ออกเลยว่าความเร็วของเหตุการทั้งหมดมันเร็วเเค่ไหน จักวาล ถึงจุดจบไปแล้ว ครับ เเค่เพียงเรา ดันมีความสามารถในการ อ่านข้อมูลในห้วงเวลาหนึ่งได้
ยินดีกับ 201K subscribers ด้วยนะคะ Keep up the good work!!!!! Will always support you ka! ดูทุกคืนเลยค่ะ
2 แสนซัพแล้ว ยินดีกับช่องด้วยครับ อยู่มาตั้งแต่คลิปแรก เห็นช่องเติบโตมาตลอด ดีใจที่มีคลิปออกมาเรื่อยๆ จะติดตามตลอดไปครับ 🎉❤🎉❤🎉🎉🎉🎉🎉
ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆ ครับทีมงานสุดยอดเลยครับ ฟังมาตั้งแต่แรกๆเลยครับ
เล่าเรื่องได้สุดยอดมาก น่าฟังไม่เบื่อเลยครับ
มาแล้วๆ สิ้นสุดการรอคอยสักที ขอบคุณค้าบแอ้ดๆ
ขอบคุณสำหรับคลิปดีดี ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับผม เป็นกำลังใจให้ครับ
ขอบคุณมากครับ
ชอบฟังมากครับ ดูทุกตอนเลย
ขอบคุณนะครับะพี
ฟังก่อนนอนทุกวัน
โคตรจะ mind blowing เราก็แค่สิ่งเล็กๆที่ยืนบนก้อนหินยักษ์ ลอยไปลอยมาในอวกาศ มีก้อนหินยักษ์กว่าหลายร้อยพันเท่า อะไรกันเนี่ย
จริงครับ สุดจะจินตนาการแล้ว
ใช่เลยครับ แล้วสิ่งเล็กๆอย่างเรา ก็ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนของจักรวาลด้วย
@@nedstark9238 แถมยังมีสิ่งที่เล็กกว่าเราไปอีกกกกกกกกก
เป็นช่องเดียวที่ได้รู้เรื่องอวกาศใหม่ ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนได้เรื่อย ๆ เลยเนื้อดีมากครับ
มาแล้วบทสรุปสุดท้ายของจักรวาล รอฟังมานานแล้วครับ
กดติดตามแล้วนะครับ❤
มาแล้ว รอซีรีย์นี้นานมาก 😁😁😁
ขอบคุณมากเลยครับ
คิวมันยาว ทำไม่ทันครับ 555
200k ยินดีด้วยครับ🎉
รายการสนุกมากครับ
ชอบเรื่องจักรวาล เอกภพ มากชอบการอธิบายเเบบนี้
23:10 หากโปรตอนสลายโดยไม่อนรุกษ์ baryon number มีสมมติฐานว่าโปรตอนอาจจะสลายเป็น โพซิตรอน + Pi meson ซึ่ง Neutral Pi meson จะสายเป็น โฟตอน 2 ตัว ไม่มีส่วนไหนเลยสลายเป็น นิวทริโนนะครับ
อยากดูคลิปใหม่ต่อเลย เกริ่นหัวข้อคลิปใหม่ได้ชวนสงสัยมากๆ สมกับเป็นช่อง คนช่างสัยสัย จริงๆฮะ
อธิบาย entropy ได้ดีมากครับ
เหมือนเดิมครับ ทุกกรณีนำไปสู่ความจริงเพียง1เดียว
นั้นคือพลังงานไม่หายไปไหน แค่เปลี่ยนรูปแบบ(ไม่รู้รูปแบบพลังงานอะไร)
เมื่อทุกอย่างสลายไปได้จริง พลังงานทั้งหมดก็น่าจะมารวมกันแค่รูปแบบเดียว
แล้วก็เกิดบิ๊กแบง พลังงานสูงสุดระดับโคตรอนันต์ระเบิดตัวออก
วนไป
ผมคิดว่าตอนนี้ที่เราอยู่ในจักรวาล ในหลุมขาว หลุมที่จะขยายทุกอย่างออกไป พลังงานมืดคือเศษเสี้ยวของหลุมขาวขนาดใหญ่มากๆ ในหลุมขาวมีหลุมดำไว้ให้พลังงานมุด ลงไปกักขังพลังงานส่วนเกินและสะสารไม่ขยายจนเสียสมดุลของการขยายตัวหลุมขาวนี้ พอถึงจุดที่พลังงานหมด จะมีพลังงานจากหลุมดำที่กั๊กไว้ มารวมกันอีกครั้งกลายเป็น หลุมดำขนาดใหญ่มากๆ แล้วดูดทุกอย่างเข้าหลุมดำ แล้วก้วนไปเกิดบิ๊กแบงอีกครั้ง😂 จักรวาลก็มีแค่นี้แหละ ที่เหลือคือเศษซากของแสงที่ เล็ดรอดากการดูดของหลุมดำเล็กขยายเลยออกไป เป็นบรรทึกประวัติศาสตร์ของจักรวาล รอมนุษอย่างเราไปค้นหา
พี่ทำคุณให้กับประเทศมากๆ หวังว่าสายวิทย์ในไทยคงเพิ่มขึ้น
ถ้าเข้าใจว่า entropy ต่ำคือระบบที่มีพลังงานที่สามารถใช้งานและสรรสร้างสิ่งต่างๆได้มากมาย แต่เมื่อมันสูงก็คือพลังงานที่เอาไปสร้างสิ่งต่างๆ ทำอะไรต่างๆน้อยลงนี่พอได้ไหมคะ
ชอบฟังมาก
ทำเรื่องวัตถุจดจำรูปร่าง น่าสนใจนะครับ
รอมานานมากๆ😂😂😂❤❤
Thanks!
เวลาทำงาน แล้วเริ่มรู้สึกท้อ แล้วเปลี่ยนมานึกถึงจักรวาล แล้วรู้สึกความท้อที่เจอนั้น มันเป็นเรื่องที่เล็กจิ๋วมากๆ เมื่อเทียบกับจักรวาล แล้วความท้อนั้นหายไปหมดเลย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน บนหัวเรา ด้านข้างเรา ใต้เท้าเรา ล้วนเป็นจักรวาลอันไกลโพ้น ที่เกินจะคาดคิด นึกอีกมุม รู้สึกอ้างว้างแปลกๆ
ใช่ครับทำให้ปลง เป็นอิสระทางใจได้ประมาณหนึ่งแม้จะชั่วคราว.
และเชื่อสนิทใจว่าชีวิตของเราเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติตามเหตุปัจจัยครับ.
เอกภพมีแกนกลาง คล้ายๆกับ แกแล็คซี่ขนาดใหญ่ มันไม่ได้ขยายตัว แต่มันหมุน วน โคจร เราอยู่ วงโคจรด้านใน ที่เคลื่อนที่เร็วกว่า แกแลคซี่ด้านนอก จึงเล็งเห็นว่า แกแลคซี่ด้านนอก ว่าถอยห่างออกไป และ เล็งเห็นแกแลคซี่ ที่อยู่วงในกว่าเรา ที่โคจรเร็วกว่าว่า ถอยห่างจากเราเช่นกัน
ผมชอบทฤษฏีนี้ และผมก้อไม่เชื่อเรื่อง บิ๊กแบง
ได้ละบะเฮ้ยยยยยยย.....ยินดีเน้ออออออออ
ฟังแล้วเศร้าจังเลยอ่ะ รู้สึกไม่มีแรงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว
ดีครับ
ดาบเจไดซิฟลอร์ดใช้คำตอบจริงๆ=เตาแม่เหล็กไฟฟ้าร้อนจากตัวหม้อเองไม่มาขดลวดไม่มาน้ำ=ดาบควอนตัมเซเบอ เตาไมโครเวฟไม่ปล่อยความร้อนจากหัวปล่อยคลื่น=ร้อนในตัวน้ำเองไม่มาจากถ้วยเกิดในตัวน้ำเอง=ดาบควอนตัมเซเบอ
อยากฟังเรื่อง quantum immortality ค่ะ❤
Big crunch, Big bounce, CCC ยังมีความน่าเชื่อถืออยู่ไหมครับ
ติดตามตลอดครับ
.
ผมสงสัยครับ ถ้าพลังงานหมด อนุภาค ล่องลอยเคลื่อนที่ ได้ยังไงครับถ้าไม่มีพลังงาน ถ้าไม่มีแรงมากระทำ หรือ อนุภาคจะหยุดนิ่ง
ผมคิดว่าเอกภพถูกวางระบบเอาไว้อย่างสมบูรณ์ ทำให้สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในดวงดาวต่างๆไม่สามารถติดต่อหรือมาหากันได้ เพราะการที่จะสร้างยานพาหนะที่มีความเร็วเท่าแสง ผมคิดว่าทรัพยากรบนโลกไม่มีทางที่จะพอเเลยต่อให้มีพลังงานมหาศาลที่สามรถนำมาใช้ได้ แต่วัสดุที่ใช้สร้างยานพาหนะจะต้องมีความคงทนต่อความเร็วแสงได้ นอกจากจะสร้างยานพาหนะที่ใหญ่พอจะลองรับประชากรเพียงพอ แล้วลอยไปเรื่อยๆ
(นี้คือความคิดส่วนตัวของผมนะครับใครมีความคิดเห็นอะไรมาแสดงได้ครับ)
ผมกลับมองว่า เหมือนเราโดนลอยแพ เอาไว้ระหว่าง แขนของดาราจักร ที่เวิ้งว้างมากกว่านะครับ ไม่มีดาวเคราะห์ ในระบบดาวฤกษ์ ใดๆ ใกล้กับโลก ในระดับที่ 1 ช่วงอายุคนจะไปถึงได้เลย (เมื่อไปเทียบกับดาราจักรเช่น Triangulum / whirlpool galaxy / pinwheel galaxy ที่มีดาวหนาแน่นมากๆและมีความต่อเนื่องมากกว่า ไม่แบ่งไปกระจุกอยู่ที่แขนดาราจักรเลย ดาราจักรแบบนี้น่าจะเหมาะให้เราท่องอวกาศมากกว่า เมื่อเทียบกับระยะทางที่เราต้องใช้เดิน)
ผมตั้งทีมงานขึ้นมาหลายคน ทำวิชาธรรมกายโดยทำใจเข้ากลางจะเห็นดวงใสเล็กๆ ขยายดวงใสเล็กๆให้โตขึ้นแล้วเข้ากลางดวงใสๆต่อไปได้มากมายหลายดวงยิ่ง วิธีนี้จะสามารถเห็นสิ่งต่างๆที่เราไม่เคยเห็น เช่นวิญญาน นรก สวรรค ป่าหิมพานต์ / เมื่อมาดูโควิด 19 ก็เห็น มีรูปร่างคล้ายกล้องจุลทรรศน์อิเลกตรอนเขา ถ่ายไว้ ดูดวงจันทร์ก็เห็นขัดเจน เอาว่ามดไต่บนดวงจันทร์ก็สามารถนับขาได้ การเข้ากลางจะเห็นสิ่งเล็กๆขยายโตขึ้น อุปสรรคการไปของเราคือจะมีพลัังดำๆขวางไว้ ยิ่งไปไกลตัวขวางก็ยิ่งหนาแน่นใหญ่โตขึ้นกว้างไกลขึ้น และจะรู้สึกว่าเรามีความบริสุทธิมากขึ้น กายใจเบาขึ้น มองย้อนกลับมาโลกดำปี๋เลย ยิ่งไกลออกไปความบริสุทธิยิ่งเพิ่มขึ้น ตัวขวางก็ใหญ่โตขื้น จากความบริสุทธิก็เป็นความใส เลยความใสก็เป็นความว่าง เลยความว่างก็เป็นความสว่าง เลยความสว่างก็เป็นความลื่นไหล
แต่ละด่านที่ผ่านมาหลายๆล้านด่านมาก อันตรายก็มาก จากหยาบก็ย่อยลงมา เป็นโมเลกุล อะตอม ควันตั้ม เล็กลงไป ทีละเป็นล้านเท่า แต่ก็ยังมีเล็กลงไปอีก ทุกอย่างไม่มีชีวิต แต่จับสัญญานได้ ถ้าเป็นทางศาสนาก็คงจะเรียกว่าพุทธะหรือผู้รู้หรือภาษาใจเราถามเป็นภาษาไทย เขาก็ตอบเป็นไทยโบราณ เช่นท่อ เขาก็ว่าลัมม์ หน่วยที่มากกว่ากัปป์ เขาก็ว่าขรรไข อะไรทำนองนี้แหละ เขาต้องการให้เราข่วยดึงเอาผู้ที่หลุดออกไปจำนวนมหาศาลกลับคืนมา น่าเป็นบิกแบง พอเรานึกแค่นี้เขารู้หมด พากันพยักหน้าว่าใช่ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เช่นปฏิสสาร เขาก็จัดหาให้เลย สามารถสลายพวกดำๆให้ใสกลับมาได้ และเข้าไปรวมกับพรรคพวกที่ใสๆได้มากขึ้นๆแทบทุกวัน นักวิทยาศาสตร์ที่ตายไปแล้วก็มาร่วมด้วยข่วยกันพ่กันจ้อวต่เขม็ง เพราะตอนเป็นมนุษย์เขาอยากรู้อย่างยิ่งแต่ก็มาเสียวิตก่อน ผู้ปฏิบัติทางจิตระดับสูงๆ ที่ตายไปแล้วล้วนมาร่วมกันหมดเลย หลวงปู่ หลวงตาสายปฏิบัติมากันเพียบ 12 ปี ทีมงานผมทำมาก็ได้แค่นี้ แต่ยังไม่หยุดนะ
เพ้อเจ้อแล้วคุณ อยากนับถือศาสนาทำลัทธิอะไรก็ทำไป ไม่ต้องเอาวิทยาศาสตร์ไปรองรับมั่วๆ
ผิดงานหรือเปล่า
หากยังอยากเห็น ยังอยากสนใจ ยังอยากชอบ ก็จงอย่าอยากเสียเถิด
ขอบคุณมากๆครับเข้าใจมากขึ้นเยอะเลยครับ ตอนนี้อยากรู้เรื่อง ทฤษฎีเอกภพจะเกิดขึ้นใหม่อีกรอบได้ น่าสนใจมากๆครับ
รายละเอียดอธิบายฟังแล้วสนุกมีสาระมากครับสนุกดีครับ
สวัสดีค้าบบ ระวังทัวร์ลงเรื่องเอนโทรปีนร้าาา
เป็นเรื่องปรกติครับ จะใช้นิยามรัดกุมไม่ไหวจริงๆในคลิปนี้ มันจะ side track จากเนื้อหาหลักมากไป ไว้ค่อยทำคลิปอยกอีกทีดีกว่าครับ
แต่ผมว่าอธิบายและแจ้งถึงกรณียกเว้นได้ดีแล้วครับ คำว่า มีระเบียบ หรือไร้ระเบียบมันเป็น Subjective ที่มนุษย์นิยามและตีความตามที่เห็นเท่านั้น มันอาจไม่ครอบคลุมทุกกรณี บางคนบอกน้ำมันแยกชั้นกับน้ำดูไร้ระเบียบ บางคนบอกนมผสมกับกาแฟดูเป็นระเบียบ มันมีความหลากหลายในการตีความ
จักรวาลจะไม่จบลงด้วยเสียงระเบิด แต่เป็นความเงียบสงัด เวลาจะกลายเป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย และความไร้ระเบียบ(Entropy)ก็ได้สิ้นสุดลงเพราะจักรวาลไม่สามารถมีความไร้ระเบียบ(Entropy)ได้อีก
สำหรับผมคิดว่าเป็นจุดจบที่น่ากลัวกว่าการระเบิดอีก กับการที่สุดท้ายจักรวาลเรา เวลาจะไม่สำคัญอีกต่อไป ไม่มีแม้แต่แสงสว่างของดาวฤกษ์ ทุกอย่างมืดมนหมด แม้แต่หลุมดำก็สลายหายไป
จุดจบที่น่ากลัว คือ เงินหมด แต่ยังไม่ตาย😅
พระองค์ทรงสร้างแสงสว่างจากความมืด ความมืด จึงเป็นรากฐานของแสงสว่าง ความเงียบจึงเป็นพื้นฐานของเสียงที่ดังกังวาล
@@pho7218 ไม่ต้องกลัว เพราะยังไงก็ต้องตาย
มันคงเป็นเช่นนั้นที่จะขยายตัวไปเรื่อยๆ หากจีกรวาฬไร้ขอบเขต แต่ก่อนนั้นต้องหาให้ได้ก่อนว่าจักรวาบมีขอบเขตมั้ย อะไรที่ดึงจักรวาลเข้าด้วยกันก่อน
ส่วนแอนโทรปีี้นี่ไม่แน่ใจว่าทฤษฎีปัจจุบันมีอัพเดทกว่านี้มั้ย ส่วนตัวมองว่าการนิยามโดยคำที่ใช้อธิบายตอนนี้ดูไม่ค่อยเป็นฟิสิกส์เท่าไหร่เลย😅 เหมือนเมื่อก่อนที่คนเคยเชื่อว่าอาการป่วยมาจากการหายใจสิ่งนึงที่เชื่อว่าทำให้ป่วย ก่อนการคนพยเชื้อโรค และการปนเปื้อน เข้าใจว่าน่าจะมีจริงละ แต่คงเป็นอนุภาคอะไรสักอย่างที่เครื่องมือเรายังไม่สามารถหาคำอธิบายที่ชัดเจนได้ เช่นเดียวกับพลังงาน หรือสสารมืด ที่มองว่าคงไม่ได้เป็นสิ่งที่เป็นตามชื่อ แต่คงเป็นผลมาจากปัจจัยที่เรายังไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน
ผมดูย้อนหลังทุกคลิปและติดตามตลอดครับ เป็นกำลังใจให้💯💯💯💯❣️👍🏻
เเว่นเทพ อดาเมนเที่ยม 😂😂😂👍👍
เอกภพ เกิดจาก เอนโทรปี และเอนโทรปี สักวันหนึ่ง จะหมดลง เมื่อความยุ่งเหยิง ลดจนเหลือเท่ากับ 0 หมายถึง เอนโทรปี หมดลง ถ้าไม่ย้อนกลับ มันก็ตะสลายตัวเองไป เพราะไม่มีวิวัฒนาการ
เหมือน คลายม้วนทิซซู่จนหมดม้วน เอามาแปะไว้บนพื้นราบ แล้วมันก็ไม่สามารถกลับม้วนตัวเองขึ้นไปได้อีก
นักเดินทางต้องมีแผนที่และความรู้ จะถึงจุดหมายปลายทางได้ปลอดภัย
จอมยุทธมาก😂😂😂 เยอะกว่าปีสองปีที่แล้วอีก 😅😅😅
อยากฟังเรื่อง Eridanus supervoid ครับว่ามีจริงไหมที่ว่าเอกภพอื่นมาชนเอกภพที่เราอยู่แล้วดูดพลังงานเราไปบางส่วน
+1ของผมเป็น booties void น่าจะใกล้เคียงกัน
มันจะห่างกันไปเรื่อยๆจน ไม่สามารถมีแกเเลซี่ไหนมาร่วมกันอีก มันขยายตัวแนวนอนออกด้านข้างใช่ใหมครับ เหมือนปาหินลวน้ำเกิดเป็นวงๆกระจายออกไป แล้วแนวตั้งมีไหมครับ แนวดิ่งบน ล่าง มันเป็นยังไงมีอะไรอยู่ บนหรือใต้เราอีกไหมครับ
สสารมืด ผมว่ามันน่าจะออกมาจากหลุมดำนี่ล่ะ... ย่อยสลายไปเรื่อยๆ.. สุดท้ายก็เหลือแต่ความมืดมิด..
ถ้ามีการเกิดใหม่ของจักรวาลหลังจาก Big Freeze มันก็เข้า Lock พอดีเลย
ฟังดูแล้วเศร้านะถ้ามีสักคนหนึ่งอยู่ถึงเวลานั้นเขาจะรู้สึกอย่างไงนะ😢
น่าจะเกิดทั้งสอง เหตุการณ์ ฉีกทุกสิ่งจนเหลือเพียงอะตอมเดี่ยว ๆ แล้วค่อยยุบตัว
ถ้าพูดเป็นแนวหนัง
ผมจินตนาการว่าเหตุการณ์บิ๊กแบงเป็นผีมือขอมนุษย์เองที่ยอมสละตัวเองเพื่อให้เอกภพเริ่มนับหนึ่งใหม่เพราะในอีกอนาคตพลังงานก็จะหมดไปเรื่อยๆจนถึงจุดจบ ก็เลยจบที่จุดเริ่มต้นใหม่ก็แล้วกัน แต่พลังงานที่จุดติดจนเกิดบิ๊กแบงได้นั่นในยุคเราเทคโนโลยี่ไม่ถึง
แต่ในอนาคตระเบิดที่เที่ยบเท่าบิ๊กแบงก็คงไม่ยากเท่าไหร่ อย่าลืมว่า…อันนี้ผมจินตนาการไปเองนะ…
ระบบใหญ่ๆ แบบนี้มันน่าจะมีวัฐจักร ขนาดระบบเล็กๆ ยังมีเลย ถ้าจุดจบแบบนี้ดูน่าเศร้ามาก เหมือนชีวิตไม่ค่อยมีความหมาย 555
งานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกลา
ทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นและจุดจบ
ตั้งอยู่และดับไป
นึกถึงคำนี้เฉย
ในที่สุด.. พลังงานมืด จะฉีกทุกอย่างเป็นชิ้นเล็ก.. ก็แค่สงสัยว่า หลังจากฉีกทุกอย่างแล้ว พลังงานมืดตี้ดตือจะทำอะไรต่อ
ถ้าตามทฤษฎีสตริงฮีทเดธคือจุดที่พลังงานที่ประจุเข้าไปในสตริงหมดลง สตริงหยุดสั่น อนุภาคมูลฐานทั้งหมดกลับสู่สภาพก้อนอะไรเล็กๆเหมือนๆกัน คุณสมบัติใดๆที่เกิดจากการสั่นนั่นจะหมดสิ้นไป ถ้ารูปแบบการสั่นนั่นก่อให้เกิดอะไรสิ่งนั้นก็จะหายไป ไม่ว่ามวล แรง มิติ ฯลฯ
แล้วพลังงานมืดจะยังทำงานด้วยการขยายตัวต่อไปหรือเปล่าครับ?
ความรู้ดีมากครับ
ส่วนตัวมีความเห็นต่างกับความเห็นที่ว่า จักรวาลมีจุดสิ้นสุด
ถ้า definition ว่า จักรวาล = ทุกสิ่งทุกอย่าง + ที่ว่างเปล่า + ความว่างเปล่า + abstract
การวัด % ปริมาณ สะสาร ในจักรวาล เป็น pi graph หาได้อย่างไร เกิดขึ้นได้อย่างไรถ้า จักรวาลนี้ไม่สามารถ หาจุดสิ้นสุดได้
การจะหา % ได้ต้องมี maximum value เพื่อเทียบอัตราส่วน ส่วนตัวเห็นว่า แค่ maximum value ก็ไม่สามารหาได้แล้วครับ
แต่ถ้าบอกว่า ค่า maximum value คือค่าที่ประมาณขึ้นมา นั่นก็หมายความว่า ผู้ที่กำลังคิดแบบนั้น ได้กำหนดขอบเขตของ จักรวาลไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวมองว่ามันไม่สมเหตุสมผลครับ
การคิดคำนวนของมนุษย์ อิงพื้นฐานของ "การมี" "การมีจุดอ้างอิง" ขอบเขต/จำนวน/ประมาตร/ปริมาณ/ระยะ/วิถี/ความเร็ว/ฯลฯ ถ้าการคำนวนใดๆก็ตาม "ถ้าปรศจาก หรือ เลย" จาก "การมี" หรือ "จุดที่อ้างอิง" ผลลัพท์ของการคำนวนนั้นย่อมไม่สามารถเชื่อถือ หรือ สะท้อนความเป็นจริงที่แน่นอนได้ ความกว้างใหญ่ไพศาลของจักรวาลอันหาขอบเขตไม่ได้นี้ จะเรียกว่า "อนันต์" ก็ได้ครับ
ส่วน definition ของผม มีความเห็นว่า
จักรวาล = ความมี + ความไม่มี(ความว่างเปล่า + abstract)
และลองคิดกตรรกะเชิงความคิดแบบเล่นๆ ถ้าหากมองว่า จักรวาลมีจุดสินสุด นั่นแปลว่า
ความมี กลายเป็น ความไม่มี
ความไม่มี กลายเป็น ?? (ส่วนตัวมองว่าไม่สามารถเป็นไปได้ แม้แต่ผู้สังเกตุก็ไม่มีอยู่ ดังนั้นส่วนตัวมองว่า จักรวาลไม่มีจุดสิ้นสุด)
แต่ ถ้า definition ว่า
จักรวาล = ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ "ยกเว้น" เวลา และ ความว่างเปล่ามีอยู่เป็นรูปธรรม ที่รับรู้และสังเกตุได้ ยังมีอยู่ และยังมีผู้สังเกตุเฝ้าสังเกตุอยู่
และลองคิดกตรรกะเชิงความคิดแบบเล่นๆ ถ้าหากมองว่า จักรวาลมีจุดสินสุด นั่นแปลว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างหายไป
ความไม่มี ความว่างเปล่า ยังคงเป็นไป ชั่วกาลเวลา ถ้า definition ลักษณะนี้ จุดจบของจักรวาลพอจะเป็นไปได้ เพราะยังมี ความว่างเปล่าและ กาลเวลาเป็น สิ่งอ้างอิง
สรุป สุดท้ายขึ้นอยู่กับ definition และความหมายที่แท้จริงของ คำว่าจักรวาล และ การสิ้นสุดของจักรวาลคืออะไร???
อธิปไตย ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว อีกไม่นาน ประเทศมหาอำนาจเทคโนโลยีก็ไม่รู้จะเจอคำตอบหรือไม่
สองแสนซับแล้ว เย้
ใครพอรู้บ้างอะไรที่ทำให้พลังงานมืดและสสารมืดขยายตัวและเพิ่มขึ้น
สรรพสิ่งกำลังแสดงปกติกิริยาในภาชนะเท่านั้น?
กาแล็คซี่ออกห่างกันเรื่อยๆในอัตตราเร่ง อัตตราคงที่ จากนั้นก็หยุดอยู่กับที่ พูดง่ายๆคือจักรวาลไม่มีกายขยายตัวอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็ค่อยๆหดตัวกลับมารวมกันในอัตตราเร่ง ความเร็วในการหดตัวที่มากขึ้นเรื่อยๆเป็นทวีคูณทำให้จักรวาลร้อนขึ้น และในเมื่อการหดตัวมารวมกันเป็นจุดเดียวกัน เหตุการณ์บิ๊กแบงก็จะเกิดขึ้นอีกครั้ง ก่อกำเนิดกาแล็คซี่ต่างๆ จัดรวาลขยายตัวด้วยอัตตราเร่ง คงที่ หยุด หดตัว รวมศูนย์ บิ๊กแบง วนไปแบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุด
สมมุติดาวโลกจะตายหรือไม่ตายเรากะคงหนีไปไหนไม่ได้หรอกต่อให้กี่หมื่นล้านปีก็เถอะเราจะไปท่องอาวกาศไม่ได้แน่นอนคงย้ายถิ่นฐานไม่ได้ธรรมชาติมันได้สร้างไว้หมดแล้วอย่างมนุษย์มีเกิดแก่เจ็บตายสัตว์ทุกชนิดแม้แต่สิ่งที่ไม่มีชีวิตยังเกิดแก่เจ็บตายหมดโลกและดวงดาวหรือกาแล็คซีวันนึงมันกะคงต้องดับสลายแล้วถูกสร้างกลับมาใหม่อีกครั้งวนแบบนี้ไปซ้ำๆเราไม่มีทางที่จะย้ายคนไปอีกดาวได้หรอกถ้ามนุษย์อย่างเราทำได้สิ่งมีชีวิตอื่นในดาวอื่นมันกะต้องทำได้ดิแล้วคิดดูมันจะวุ่นวายแค่ไหนซึ้งอย่างไงเรากะขัดระบบที่ธรรมชาติสร้างมาไม่ได้วัฎจักรมันกะคงหมุนเวียนไปเรื่อยๆสมมุติมีดาวต่างๆมีสิ่งมีชีวิตที่เจริญแล้วสามารถเดินทางไปไหนกะเดินแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นละเขากะคงย้ายถิ่นฐานหรือไปขยายพันธุ์มนุษย์อย่างเราเมื่อก่อนก่อนจะเกิดดวงดาวเรากะแค่เซลล์เล็กๆที่ลอยอยู่ในอาวกาศเหมือนพอมาในดาวที่สมบูรณ์มันกะวิวัฒนาการตัวเองมาดาวอื่นกะคงไม่ต่างจากเรามากไม่งั้นมันจะมีสัตว์มากมายหลายชนิดหรือ หมายความว่าในฝุ่นในอาวกาศพวกนี้มันกะต้องเคยมีสิ่งมีชีวิตมาก่อนป่าวแต่อาจจะเกิดวันที่เอกภพพังลงแล้วมันกะเริ่มวัฏจักรใหม่ขึ้นมาอีกครั้งจนมายุคของเรา มันก็เหมือนต้องเริ่มวัฏจักรใหม่เพื่อจะมีทรัพย์กรณ์ให้กับดาวที่กำลังเกิดมาใหม่วนๆไปถ้าให้ผมคิดอย่างกาแล็คซีเราตอนนี้มันกำลังขยายตัวใช่ปะเพราะแรงระเบิดก่อนจะกำเนินกาแล็คซี่ทำให้มีดาวมากมายมันกะส่งแรงนั้นไปเรื่อยๆเลยขยายตัวแต่พอถึงจุดๆนึงแรงระเบิดนั้นค่อยๆหมดไปมันจะถูกดูดกลับมาอีกครั้งด้วยพลังงานของหลุมดำพอทุกอย่างมารวมกันจุดเดียวกันก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่อีกครั้งแล้วก็สร้างดาวต่อไปวนเวียนอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆทุกอย่างมีวัฏจักรของมันหมดไม่ว่าจะดวงดาวไม่ว่าจะระบบสุริยะกาแล็คซี่กะคงไม่ต่างการแต่เอกภพกะคงไม่ต่างกันแล้วเซลล์อย่างมนุษย์เราๆนี้แหละทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตบนดาวที่สมบูรณ์อีกครั้งวนไปเรื่อยๆ
มนุษย์เรายังมีความรู้เชิงสมมติมากเกินจะสรุปเรื่องแบบนี้ มันยังมีตัวแปรอื่น ที่อาจยังไม่พบ คิดว่าสมการที่จะสรุปยังไม่สมบูรณ์ รวมถึงข้อมูลในปัจจุบันไม่มีความเป็นปัจจุบันเพราะสิ่งที่สังเกตได้มีแต่อดีต
Thanks
ขอบคุณครับ
เป้นไปได้ไหมครับว่าถ้ามีพหุจักรวาล จักรวาลที่แตกดับจะถ่ายพลังงานให้จักรวาลอื่นหมุนเวียน
Prof Roger Penrose รางวัลโนเบล 2020 ก็บอกแบบคุณนั่นแหละ
ทฤษฎีของเขาคือ Comformal Cyclic Cosmology😊
@@JackReacher110แบบนี้พี่ๆเขาต้องจับมาทำต่อจากคอนเท้นท์นี้แล้วละ
@@IzDreamSKLTH ท้ายคลิปนี้ก็บอกไว้ว่าจะทำต่อครับ ทฤษฎีแบบเป็นวัฏจักร
@@JackReacher110 รอติดตามเลยครับมันดูต่อเนื่องเหมือนหนังภาคต่อเลย
ถ้าเเสงเริ่มเอกภพยืดออกมากๆ จนตรวจไม่ได้บวกกับข้อมูลจากคนรุ่นเก่าหายไป 99.99% มนุษย์ยุคใหม่อาจต้องศึกษาใหม่ทั้งหมดเเละพอศึกษามาถึงจุดหนึ่งพวกเค้าก็จะคิดคล้ายๆไอน์สไตน์ว่าเอกภพคงอยู่ตลอดไปไม่มีการเปลี่ยนเเปลง เเละองค์ความรู้คงจะเเคบลงมากๆ
ยิ่งความสับสนมากเท่าไร โอกาสจะรอดชีวิตและเกิดชีวิตก็มากขึ้นด้วย
❤❤❤❤
ผมสงสัย ถ้า อวกาศอยู่ในรูปแบบสี่มิติ แล้ว วงกลมแบบไหนถึงได้เป็นสี่มิติได้
บางทีอาจจะไม่ใช่พลังงานมืดก็ได้ เหมือนกับแรงดึงดูดที่ไม่มีอยู่จริง อาจจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่าง สเปส กับ เอ็นโทรปีก็ได้ใครจะรู้
เราคือผู้ส้างไม่พระเจ้าคือเริ่ม😂เรามีสามารถถ้ามีสติ😂
พี่ครับช่วยทำคลิปอธิบายเรื่องเกี่ยวกับพวกอาวุธปืนเลเซอร์ในหนังSci fi ให้ดูหน่อยครับผมสงสัยมากๆในอนาคตมีโอกาสสร้างได้มั้ย
จุดจบที่โดดเดียว💀🌌
ฉลองสองแสนซับครับ
ผมจะรอดูจุดจบของเอกภพ
คุณไม่ต้องพยายามลิ้นอ่อนก็ได้ได้นะ
ถ้าผมใส่แว่นออฟตัส ผมจะมองเห็นแกแล็กซี่อะไรบ้าง
Cmb นี่วัดได้หมดหรือวัดได้แค่ระยะแสงของคลิปก่อน
ยินดีด้วยนะครับตอนนี้นองแสนซับแล้วครับ
ถ้าจักรวาลเป็นระบบปิด ความโน้มถ่วงระหว่างอะตอมหรือควาร์กจะไม่ดึงให้มารวมกันจนเป็นดาวฤกษ์ได้อีกหรือครับ? หรือเพราะspaceมันขยายเรื่อยๆจนขนาดโดดเดี่ยวทุกวัตถุหรืออนุภาคแล้วคายพลังงานเรื่อยๆจนเอนโทรปีสูงขึ้นเรื่อยๆ
แสดงว่าการขยายตัวของจักรวาลกับการคายพลังงานของทุกอนุภาค มีความเกี่ยวโยงเหมือนเป็นตัวตนเดียวกันรึเปล่าครับ? อารมณ์แบบว่าเพราะทุกวัตถุทุกอนุภาคต้องคายพลังงานตลอด ตอนรวมกันที่จุดซิงกุราลิตี้ การคายพลังงานจึงมหาศาลกลายเป็นบิ๊กแบง... รึเปล่าครับ
ถ้าจุดนี้ใช่ ผมก็จะเดาว่าตอนที่เอนโทรปีถึงจุดสูงสุด หรือไม่มีอนุภาคใดระเหยหรือคายพลังงานอีกแล้ว จักรวาลก็จะหยุดขยายตัว (พลังงานมืดอาจกำเนิดมาจากการคายพลังงานหรือการเพิ่มเอนโทรปีของทุกๆวัตถุ) ถึงตอนนั้น จะหยุดเฉยๆหรือหดตัวกลับไปบิ้กครั๊น(ถ้าความโน้มถ่วงยังอยู่) ก็ไม่รู้แล้วรึเปล่าครับ
สุดท้ายก็กลายเป็น 0 สัมบูรณ์
เรื่อง release that witch ชื่อไทย ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ นักอ่านนิยายออนไลน์คงคุ้ยเคยหรือได้อ่านกันมาบ้างแล้ว นี่คือจุดจบจักรวาลที่เอามาตั้งต้นในเรื่อง
ในนิยายกล่าวว่าเอนโทรปีในจักรวาลมีมาก พลังงานลดลง ดาวฤกษ์ปกติหมดไปแล้ว เหลือแต่ซากของดาวฤกษ์ จักรวาลเต็มไปด้วยหลุมดำ มีดาวเคราะห์แดงบ้างดาวนิวตรอนบ้างเล็กน้อย อารยธรรมที่มีกำลังก็ต้องมาจับจองแหล่งพลังงานที่เหลือน้อยนิด จักรวาลเต็มไปด้วยความมืดมิดและหนาวเหน็บ กลับกันอายุจักรวาลมันผ่านไปแค่ครึ่งเดียวของมันเท่านั้น ไม่มีอนาคตให้อารยธรรมต่างๆ บรรดาอารยธรรมทรงภูมิปัญญาทั้งหลายหลายแสนอารยธรรมจึงร่วมมือกันทำโปรเจ็คขึ้นมาชื่อ the gate
Speac-time กาอวกาศก็เปรียบเสมือนผ้าที่ขึงไว้ เมื่อมีมวลก็ทำให้ผ้ายุบลงกาลอวกาศก็เกิดความโค้งตามที่ไอสไตล์บอก จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเอามวลจำนวนมาก มากองรวมกันที่เดียวบีบพื้นที่ให้เล็กลงไป ผ้ามันจะขาดจนทะลุหรือไม่
สำหรับคนที่ชอบวิทยาศาสตร์ แฟนตาซี release that witch เป็นเรื่องที่ไม่ควรพลาด
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
หลังจาก Big freeze แล้วก็จะเกิด Bigbang สินะ งั้นอะไรที่ทำให้จักรวาลว่างๆ เกิด bigbang ขึ้นมาได้นะ แล้ว cycle แรกเกิดขึ้นมาได้ยังไงนะ ถ้ามันขยายไปเรื่อยๆ แสดงว่ามีจักวาลข้างๆ ที่เราไม่สามารถรับรู้ได้อยู่สินะ
ปวดหัว 😊
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ จริงๆ มันยังมีอะไรที่เรายังไม่รู้ ยังเป็นช่องว่าให้ศึกษาอีกเยอะครับ โดยเฉพาะเรื่องการกำเนิด Bigbang นี่แหละ
เมื่อถึงช่วงเวลานั้นหวังว่าวิญญาณคฃสูญสิ้นไปด้วยนะ ไม่อยากเป็นวิญญาณล่องลอย 😂
10 ยกกำลัง 100 ปีนี่นานเกินกว่าจะจินตนาการได้จริงๆ มันต้องกี่ล้านๆๆๆๆ ปีกัน 😮
สงสัยนานละว่า พลังงานมืด กับเวลา มันคืออย่างเดียวกันไหม มองไม่เห้นไม่ว่าไช้อะไรก้ตาม รุ้ว่ามีแต่มองไม่เห็น จุดสิ้นสุดของจักรวาลคือภาวะหยุดนิ่งรึป่าว เวลาไม่เดินไปหน้า ถ้าทุกอย่างเกิดมาแล้วดับไป แล้วจุดดับของเวลาอยุ่ตรงไหน สงสัยนานละ
พลังงานมืดคือเวลานั่นแหละเปนพลังงานที่ทำให้ทุกอย่างมีอายุ จับต้องไม่ได้แต่รู้ว่ามีอยุ่ ส่วนไหยของจักรวาลมีพลังงานนี้เยอะจะทำให้วัตถุในนั้นมีอายุเร็วขึ้น ส่วนไหนมีน้อยก็จะทำให้อายุช้าลง ส่วนไหนไม่มีก็จะเปนอนันต์
Dark energy คือ พระเจ้า มุสลิมเขาเชื่อแบบนี้
อีก 1 ล้านปี ข้างหน้า โลกเราจะเป็นเเบบไหน
คิดถึงน่ะ เเต่คง ไม่ได้ดู😊
ที่เห็นว่าขยายตัวนี่คิดว่าใหญ่มากแต่เอาจริงไม่ได้ใหญ่มากมันแค่จุดจุดเดียว เหตุการณ์ ณ จุดจุดเดียว จากการสังเกตุจุดจุดเดียว จากข้อมูลเล็กน้อย