เรื่องนี้ผมขอค้านครับ รถรุ่นใหม่ๆพอสตาร์ทเครื่อง ระบบจะตรวจจับถ้าไฟในแบตไม่เต็มไดชาร์ทจะจ่ายไฟ14.2-14.3 V เพื่อชาร์ทแบตเลยพอแบตไฟเต็มระบบจะลดการไฟลงมาประมาณ13 V เพื่อเลี้ยงระบบ
ชาร์จเข้าครับแต่จะเสียเวลามาเหยียบคันเร่งเปล่าๆ เรื่องนี้มีเงื่อนไขที่แบตเตอรี่ครับ แบตเตอรี่กรดชนิดเก่ามันเต็มยากและมีปัญหาเรื่องซัลเฟตเกาะที่แผ่นธาตุ แบตฯรุ่นใหม่เขาแก้ปัญหาตรงนี้ บางรุ่นเขาใส่ super cap เอาไว้ทำให้ชาร์จไวและสตาร์ทง่ายด้วย ดังนั้นถ้าคุณห่วงเรื่องนี้ คราวหน้าเปลี่ยนแบตก็พิจารณาเรื่องนี้ก็ดีครับ
ผมทดสอบแล้วครับ รถ Nissan Almera 2021-ตัวใหม่ ตัวไดชาร์จจะชาร์จไฟ 14v+ ในขณะช่วงเริ่มสตาร์ทและแรงดันจะตกลงเมื่อเราเข้าเกียร์ เดินหน้า และระบบจะชาร์จไฟเป็นระยะๆ ต่อไปเรื่อยๆ
การสตาร์ทรถ 10 นาที ก็ดีกว่าไม่สตาร์ทครับ อย่างน้อยให้น้ำมันเครื่องมันเคลื่อนตัวไปหล่อเลี้ยง เครื่องยนต์ครับ
กรณีนี้หมายถึงแบตครับ
555 เขาจั่วหัวเรื้องไรไอ้ทิดเอ๊ยย
ผมว่าคนคอมเม้นท์กับคนทำคอนเทนต์มองคนละมุมนะครับ เอาเป็นว่าผมอธิบายให้เข้าใจทั้งหมดดีกว่าครับ การชาร์จแบตเตอร์รี่มันก็จะมีส่วนประกอบหลักๆอยู่ 2 ส่วน คือ ไดชาร์จ และแบตเตอรี่ ไดชาร์จทำหน้าที่จ่ายไฟ ส่วนแบตเตอรี่ทำหน้าที่เก็บรักษาไฟ
ส่วนของไดชาร์จ
ถ้าไดชาร์จเป็นรุ่นใหม่ๆ จะส่งกระแสไฟฟ้าออกมาตามปริมาณแบตที่มี รอบเครื่องมีผลต่อไฟที่ชาร์จไม่เยอะ เพราะเค้าออกแบบให้สามารถชาร์จได้แม้จะอยู่ที่รอบเดินเบา เพื่อแก้ปัญหาของรถรุ่นเก่า ส่วนรถรุ่นเก่า พวกที่คัทเอ้าท์(อุปกรณ์จำกัดการชาร์จ)อยู่นอกไดชาร์จ อันนั้นเค้าออกแบบมายังไม่ดีนักตอนรอบเดินเบาตัวไดชาร์จจะผลิตกระแสไฟได้น้อยมากๆ เพื่อป้องกันไม่ใช้เกิดการชาร์จเกินจนแบตเตอรี่ระเบิดได้ เนื่องจากเทคโนโลยียังไม่เยอะเท่ารถรุ่นใหม่ๆ เค้ายังไม่สามารถควบคุมกระแสไฟได้มากนัก เลยออกแบบไดชาร์จให้ชาร์จทำงานได้ดีตอนรถวิ่งที่ความเร็วพอสมควร เพื่อป้องกันแบตเตอรี่ ต่างกับรถรุ่นใหม่ที่วงจรความคุมมีความสามารถมากกว่าเดิมเยอะ ทำให้สามารถออกแบบไดชาร์จให้ทำงานได้ตั้งแต่รอบเดินเบาเพราะตัววงจรมีความสามารถในการควบคุมแรงดันและกระแสชาร์จได้ดีกว่า
ส่วนของแบตเตอรี่
ถ้าแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพดี สามารถเก็บไฟที่ชาร์จมาได้เต็มที่ แค่ชาร์จเบาๆ ไม่นานมันก็เพียงพอต่อการสตาร์ทรถแล้ว แต่ถ้าแบตที่ใช้อยู่ประสิทธิภาพไม่ได้ดีนัก หรือ เริ่มเสื่อมประสิทธิภาพแล้ว การชาร์จแค่เบาๆในเวลาไม่นาน ก็อาจจะไม่เพียงพอต่อการสตาร์ทรถ ทำให้ปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ในการสตาร์ทรถนั้นมากกว่าปริมาณไฟฟ้าที่ชาร์จได้
สรุป
ถ้าเอาแบตที่่ประสิทธิภาพดี กับไดชาร์จรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพดี มาใช้คู่กัน การสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ 10 นาที เป็นการชาร์จแบตเตอรี่ได้ จริง
ถ้าเอาแบตเตอรี่ที่ประสิทธิภาพไม่ดี หรือเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว กับไดชาร์จรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพดี มาใช้คู่กัน การสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ 10 นาที เป็นการชาร์จแบตเตอรี่ได้ อาจจะไม่จริง เพราะไฟที่แบตเตอรี่เก็บไว้ได้อาจจะไม่เพียงพอต่อการสตาร์ทรถได้
ถ้าเอาแบตเตอรี่ที่ประสิทธิภาพดี กับไดชาร์จรุ่นเก่าที่มีประสิทธิภาพไม่ค่อยดี มาใช้คู่กัน การสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ 10 นาที เป็นการชาร์จแบตเตอรี่ได้ อาจจะไม่จริง เพราะไฟที่ชาร์จอาจจะมีไม่มากพอให้แบตเตอรี่อาจจะไม่เพียงพอต่อการสตาร์ทรถได้
ถ้าเอาแบตเตอรี่ที่ประสิทธิภาพไม่ดี หรือเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว กับไดชาร์จรุ่นเก่าที่มีประสิทธิภาพไม่ค่อยดี มาใช้คู่กัน การสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ 10 นาที เป็นการชาร์จแบตเตอรี่ได้ ไม่จริง เพราะตัวไดชาร์จส่งไฟออกมาน้อย แล้วแบตเตอรี่ก็ยังเก็บไฟไม่ค่อยอยู่อีก ทำให้มีโอกาสสูงที่แบตเตอรี่อาจจะไม่เพียงพอต่อการสตาร์ทรถได้
คนทำคลิปเค้าตอบมาเพื่อให้ครอบคลุมรถที่เก่าและแบตเตอรี่ที่เก่าด้วย เพราะเค้าไม่รู้หรอกว่าคนดูใช้รถรุ่นไหน หรือแบตเก่าหรือใหม่แค่ไหน เค้าพลาดตรงที่ไม่ได้บอกว่าถ้ารถก็ใหม่แบตก็ใหม่ มันช่วยได้ แต่สุดท้ายแล้วถ้าไม่อยากขับรถออกนอกบ้าน ยังไงก็ต้องพึ่งที่ชาร์จอยู่ดี แต่ถ้าให้ดีกับตัวรถจริงๆ ควรที่จะสตาร์ทแล้วเอาออกไปขับใช้งานบ้าง การสตาร์ทแล้วขับใช้งานมันไม่ได้ช่วยแค่เรื่องแบตแต่มันมีส่วนอื่นที่อยู่ในรถด้วย ไม่ว่าจะเครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง เบรค แอร์ ถ้ามีเวลาเอาออกมาขับดีที่สุด แต่ถ้าไม่มีเวลาควรใช้ที่ชาร์จอยู่ที่บ้าน และก็ควรที่จะสตาร์ทรถและเดินหน้าถอยหลังบ้าง แม้จะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ ในบ้านก็ยังดี ส่วนแบตเตอรี่ให้เป็นหน้าที่เครื่องชาร์จเถอะ
ข้อมูลชัดเจนและครบถ้วนเลยครับ..เยี่ยม! 👍☺️
จริง ขึ้นอยู่กับ องค์ประกอบ
ผมเปรียบ คล้ายกับ การ ปั้มนำ้ ใส่ตุ่ม
ตุ่มน้ำ เก่า รั่วซึม ปั้มน้ำ แรงปั้ม น้อย ใบพัดปั้ม ก็กร่อน
ต่างกับ ของใหม่ๆ
นี่ชัดเจนมาก ๆ เลยครับ
เห็นด้วยครับ
มั่วฉิบหาย
ข้อมูลผิดพลาดเยอะเลยนะ การสตาร์ท 10 นาที ไม่ช่วยชาร์จไฟนี่มั่วและครับ ไดชาร์จมีระบบควบคุมกระแสคงที่อยู่ตลอดย่านความเร็วเครื่องยนต์ 700-7000 รอบ จนกว่าแรงดันจะถึงโวลท์ลอยประมาณ 14 v กระแสจะลดลงและควบคุมแรงดันไม่ให้เกินแทน สมมุติ รถ dmax สตาร์ท 2 วินาที กินกระแสไป = 500x2= 1000a-วินาที(0.28ah) แต่ไดชาร์ทกระแส 90a ชาร์ทกลับ 10 นาที = 90x60x10 = 54000 a-วินาที(15ah)
90 ah คือ 90 แอมแปร์ต่อชั่วโมง
วิธีคิดที่ง่ายกว่า คือ 90a หาร 60 นาที
เท่ากับ นาทีละ 1.5a
1.5*10 =15 a
แต่อย่าลืม ว่า 15a นั่น มันต้องเอาไปเลี้ยงระบบด้วย ไม่ใช่ชาร์จลงแบตอย่างเดียว
แบตมีหน้าที่แค่ สตาร์ท อย่างเดียวจริงๆ
อย่างอื่นคือไดร์ชาร์จ ทั้งหมด 😅😅😅
เว้นแต่ไดร์ชาร์จเสียถึงจะดึงไฟจากแบตมาใช้ 😅😅😂😂😂😂😂
สตาร์ทแลัวถอดแบตดูสิ 😂😂😂
มีเหตุผลที่นำเสนอ ทั้ง 2 คนครับ
ดับ @@user-mk9cy3de6j
เพียงพอในการเลี้ยงไฟในระบบ ขยายความรวมถึงแอร์ด้วยนะครับ
จอดรถนอนในปั้ม สตาร์ททิ้งไว้ (ไม่ได้เหยียบเร่งเครื่อง) เผลอนอนนานหลายชม.
ตื่นมา ดับเครื่อง ลงไปฉี่ 3 นาที กลับขึ้นรถสตาร์ทไม่ติดละคับ Mercedes benz c300 hybrid
ดังนั้นข้อมูลในคลิป ถูกต้องแสตนดาส คนทั่วไปทำตามไม่เกิดความเสียหาย แบตไม่หมดแน่นอนคับ
แต่ข้อมูลของคุณเป็นข้อมูลเชิงลึกครับ แต่มันไม่ใช่กับทุกสถานการณ์ทึ่จะใช้ได้ ป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้รถทุกรูปแบบคับ
ปล.ผู้เช่าอาคารผมเปิดร้านแบต 24 ชม. ร้านใหญ่สุดของจังหวัด รายได้หลักๆช่วง กลางคืน-รุ่งเช้ามาจาก การวิ่งเอาแบตลูกใหญ่ไปต่อพ่วงให้ ลูกค้าจอดหลับในปั้มสตาร์ทรถ
(ปล.ลดกระจกกันตายด้วย) ตื่นมาขับต่อสั้นๆ /ดับเครื่องลงรถ กลับมาสตาร์ทไม่ติดอีกเลย
ไม่มั่วหรอก ถ้าเปิดเพลงฟังในรถตอนดับเครื่อง ถ้าเปิดจนแบตหมด คุณจะสตาร์ทรถติดได้ยังไง ผมก็ต้องคอยสตาร์ทรถ ทุกๆ 1 ชม ครั้งละ 10 นาที ทำแบบนี้เปิดเพลงฟังทั้งวันแบตก็ไม่หมด ผมไม่ได้มั่วเพราะผมทำแบบนี้ตลอดทุกๆวัน ้พราะผมมีอาชีพขับรถ
ผมมีรถอยู่คันนึง แทบไม่ได้ใช้ ก็ใช้วิธีสตาท ทิ้งรอบเดินเบาไว้10-15นาที ทุกสัปดาห์ 1-2เดือนถึงเอามาวนแถวบ้าน ใช้ครั้งละไม่ถึง10กิโล แบตทุกลูก อยู่ได้5ปี ขึ้นครับ
แค่ดูแลน้ำกลั่นอย่าให้ขาดแค่นั้นครับ
ผมก็แอบงงเหมือนกันครับ รถพ่อ 3 คันแบตทุกลูกใช้ได้สี่ปีขึ้นหมดทุกคัน เพราะใช้น้อย เน้นจอด แต่รถใช้งานทุกวันแบต 2 ปีกว่านิก็ถือว่าเก่งแล้ว น่าจะเป็นในเรื่องความร้อนในห้องเครื่องด้วยที่ทำให้อายุแบตสั้นลง
ข้อมูลยังไม่ครบถ้วนครับ เงื่อนไขหลักๆอยู่ที่ชนิดของแบตเตอรี่ แบตรุ่นเก่าที่เป็นกรดตะกั่วกับแบตเตอรี่รุ่นใหม่ low mantainace A(ไม่เติมน้ำกลั่น)มีประสิทธิภาพการประจุไฟไม่เหมือนกัน บางรุ่นมีการใช้ super cap ต่อร่วมด้วยการเดินรอบต่ำยังไงก็ชาร์จได้
ผมว่าเรื่องนี้ควรถามวิศวกรแบตเตอรี่ หรือวิศวกรรถยนต์โดยตรงดีกว่าคับ
ส่วนเรื่องการสตาร์ทเพื่อให้ระบบน้ำมันเครื่องยนต์นั้นได้เคลื่อนไหวบ้างยังพอเข้าใจ ส่วนเรื่องน้ำมันในระบบแอร์เปิดไม่เปิดก็ไม่มีปัญหาหรอกครับยกเว้นเรื่องสกปรก
ท่านใดเห็นต่างมาถกเถียงกันได้ครับยินดีแลกเปลี่ยนความรู้กัน
ฝากถึงชัวร์ก่อนแชร์ด้วยครับ ควรคัดกรองข้อมูลให้สมบูรณ์และทันสมัยกว่านี้จะได้เป็นประโยชน์แก่ผู้รับข่าวสารสูงสุด ขอบคุณครับ🙏😇
ผมว่าน่าจะไม่มีใครกล้าเถียงละครับ หยอกๆ
เห็นด้วยครับ
มันทำให้เหมือนรายการที่ผ่านมาทั้งหมด
กลายเป็นเรื่องเล่าขำๆไปเลย
ขอแลกเปลี่ยนครับ
การชาร์จได้ ไม่ได้ไม่อยู่ที่ชนิดแบตฯ แต่อยู่ที่แรงดันไฟที่เจนเนอเรเตอร์ปั่นออกมา แบต 12 โวลท์ ถ้าจะชาร์จเข้า แรงดันไฟต่องสูงกว่า แรงดันไฟจะต่ำ สูง ขึ้นอยู่กับรอบการหมุนของเจนเนอเรเตอร์ รอบเดินเบาอาจจะได้ 12.0 โวลท์ ไม่สามารถชาร์จไฟเข้าแบตได้ ถ้ารอบสูงขึ้น แรงดันก็จะสูงขึ้นตาม ปรกติจะมีตัวควบคุม Regurator คุมแรงดันสูงสุด 13.8 โวลท์ ไม่มีระบบอะไรช่วยให้ไป 11.9 โวลท์ ชาร์จเข้าแบตที่มีแรงดัน 12 โวลท์ได้ input>output เสมอ
@@ananpengmee3853
นี่คือคำถามในคำตอบ
ทำไมไม่มีการวัดแรงดันให้เห็น
ว่าที่รอบเดินเบารถคันไหนสามารถสร้างแรงดันได้เท่าไหร่
ผู้มาให้ความรู้กับรายการกล่าวอ้างเพียงลอยๆได้หรือครับ
ผมเชื่อว่าแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ
ก่อนผลิตขายคงจะมีค่ามาตรฐานอยู่แล้วนะครับ
.....
ขอถามอีกนิดนะครับ
ถ้ารอบเดินเบาไม่สามารถสร้าง
กระแสและแรงดันที่เพียงพอสำหรับชาร์จ
อีพวกติดเครื่องเสียงรถยนต์ดังๆ
พวกแกจะสตาร์ทรถเปิดเพลงหาพระแสงอะไรครับ
😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊
@@ananpengmee3853 คุณยังไม่เจอแบตเตอรี่ชนิดใหม่ๆสินะครับ เจอชนิดที่มี Super capacitor แล้วจะทึ่งกับการทำงานของมัน ลองหาข้อมูลเองครับไม่น่าจะยาก แถมมีคนทำคลิปไว้เพียบเลย สงสัยตรงอื่นถามได้ครับด้วยความยินดีเลย
10 นาที เป็นการอุ่นเครื่องให้พร้อมใช้งาน ลองเทียบกันดูระหว่างสตาร์ทรถแล้วออกตัวเลย กับอุ่นเครื่องไว้สัก 10 นาที ประมาณว่าอาบน้ำเสร็จ อันไหนขับขี่ได้ดีกว่า
คนตอบมั่ว บรรลัย ช่วยกรุณาหาคนที่มีความรู้มาตอบหน่อยนะครับรายการ ผมเป็นวิศวกร คนที่เขาตอบน่ะถูกแค่ครึ่งเดียว อย่าทำรายการแบบนี้ออกมาให้คนเข้าใจผิด
นั่นสิ
จริงครับ อันดับแรก คนแนะนำควรรู้ว่าไฟจะชาร์จแบตได้ต้องมีกี่V
พี่ก็แนะนำมาเลยครับ จะได้จบๆ
ผู้มีความรู้ไหนลองว่ามาสิค่ะ
ผมไม่กดให้ครับทำรายการเเบบนี้
👍🏼ขอบคุณ ครับ
ความรู้ใหม่ ระดับ Dr.มาตอบ ขอเปลี่ยนความเข้าใจผิดของผม มาตลอด 😅😅
อายุปูนนี้ พึ่งเข้าใจ ❤
จากที่ผมพิสูจน์เองนะครับ Lancer Ex 1.8 รถอายุ10ปี เปลี่ยนแบตมาลูกที่3 การใช้งานจอดติดเครื่อง10นาที6วัน วิ่งไกล40กิโล1วัน จากที่สังเกตเดินเบาชาร์จช้า ถ้าออกไปวิ่งรอบจะสูงจะเป็นการชาร์จเร็วใช้มิเตอร์วัดมีไฟมากขึ้นต่างกับตอนแรก และสังเกตุได้ชัดตอนแบตเสื่อมติดเครื่องเดินเบา10นาทีดับเครื่องติดใหม่เสียงสตาร์ทอ่อนแรงมาก ต้องเพิ่มนาทีชาร์จอีก หรือออกไปวิ่ง จะเห็นได้ชัดว่ากำลังไดร์สตาร์ทแรงดี สรุปเดินเบาคือชาร์จแต่ช้าแบตเข้าปีที่3อาจไม่ดีนักยิ่งอากาศหนาวๆก็ควรออกไปวิ่งบ้าง อยากรู้จริงต้องพิสูจน์เอง รถรุ่นอื่นอาจแตกต่างกันไป
หนูเรียนช่างจบพร้อมกับแฟนค่ะแต่แฟน
จบอิเล็กแฟนบอกว่าไดชาร์จสมัยก่อนอา
จจะไม่ชาร์จถ้ารอบเดินเบาคือถ้าขับกลา
งคืนเปิดไฟหน้าเปิดแอร์เวลาจอดติดไฟแ
ดงจะไม่ชาร์จแถมดึงไฟออกจากแบตอีก
ต่างหากแต่ไดชาร์จรุ่นใหม่พัฒนาแล้วค่ะ
ต่อให้เป็นรอบเดินเบาเปิดไฟหน้าเปิดแอ
ร์ก็จะชาร์จคงที่5-10แอมป์ แม้ขณะรอบ
สูงวิ่งกลางวันค่ะเพราะถ้าชาร์จมากๆแบ
ตจะร้อนและเสื่อมไว หนูก็ไม่เห็นว่าจะแ
ปลกนะคะเหมือนรถจอดทิ้งไว้เป็นอาทิ
ตย์ก็สตาร์ทรถซักที1เปิดแอร์ด้วยเพื่อใ
ห้ระบบน้ำยาแอร์และคอมเพรสเซอร์อีก
ทั้งระบบหล่อเย็นปั้มน้ำหม้อน้ำทำงานค่
ะไม่ใช่กะว่าจะชาร์จให้เต็มหรอกค่ะแค่
กระตุ้นแบตแค่นั้นเองแต่ที่คุณผู้เชี่ยวช
าญตอบว่ารอบเดินเบาไฟไม่ชาร์จเนี่ย
คงจะไม่ใช่นะคะสงสัยใช้รถรุ่นเก่าคริๆ
จริง รถเราสตาร์ทเครื่องจอดอยู่เฉยๆ ก็ขึ้นว่ากำลังชาร์จอยู่
จอดสตาร์ททิ้งไว้ ซาร์จแค่ 1 V เอง ยิ่งกรุงเทพถ้ารถติดมากยิ่งอากาศร้อนอบอ้าว เปิดแอร์และพัดลมสูงสุด ไหนจะพัดลมที่เป่าเครื่องยนต์และหม้อนำ้อีก เครื่องเสียงอีก และไฟหน้ารถยนต์อีก ยิ่งทำกำลังแบตอ่อน เจอมากับตัวเองมาแล้ว ตอนเช้าสตาร์ทไม่ติด ถ้ารถยนต์วิ่งในระยะที่มีความเร็วก็จะซาร์จได้เยอะ
@@saithongruenghui685 ไดชาร์จคุณเสีย
มั้ยคะของแฟนหนูรถเก๋งโตโยใช้เครื่องเสี
ยงเปิดแอร์เปิดไฟหน้าช่วงรอบเดินเบาแฟ
นลองเอาแอมป์มิเตอร์วัดยังชาร์จคงที่5A.
เลยค่ะของโตโยไดชาร์จตัวไม่ใหญ่แต่ให้
กระแสสูงมากเพราะบริษัทลูกผู้เชี่ยวชาญ
เรื่องแอร์ไดชาร์จนี่ของนิปปอนเดนโซ่ค่ะ
แถมกล่องอีซียูด้วยว่าทำไมของเค้าทนค่ะ
เมื่อก่อนผมค่อนข้างเชื่อ
เนื้อหาของรายการนี้นะครับ
แต่คลิปนี้ผมขอค้านในเนื้อหาครับ
เนื่องจากให้ข้อมูลด้านเดียว
แค่เรื่องของการชาร์จให้เต็ม
แต่มันมีเรื่องของการถนอมอายุแบตเตอรี่เข้ามาเกี่ยวด้วยนะ
ผู้ที่เชิญมาให้ความรู้เอาความรู้มาจากไหน
ไม่มีการวัดด้วยเครื่องมือให้เห็น
จึงไม่สามารถเขื่อถือได้
ไม่มีที่วัดให้เห็น แต่เราก็ลองด้วยตัวเองได้นี่ครับ ผมเชื่อครับ ลองทำมาแล้ว คลิปนี้ เชื่อได้ ควรทำตามครับ
@@Goliath2012Thai
คลิปนี้จริง แต่ไม่ทั้งหมด
รถเดินเบาไดร์เดินตัวป่าว16-20โวล์ ชาร์จแบต12ยังไงก็เขาแต่ได้กระแสน้อย ถ้าจะให้ชาร์จเต็มต้องใช้เวลานาน ไม่คุ้มค่าน้ำมัน
แต่ที่เราได้ใน10-20นาที คือ แบตมีการคลายประจุและอัดกลับไปใหม่ ป้องกันแบตขี้เกียด
และเป็นการอุ่นเครื่องที่ไม่ได้ใช้นานให้ระบบของเหลวเวียนภายในอย่างที่ควรจะเป็น
ดูมาตรวัดกระแสไฟที่หน้าจอได้ว่าถ้าเดินเบากระแสไฟมันขึ้ใหม(ปรกติถ้าไม่เร่งเครื่องเพิ่มรอบกระแสไฟจะไม่ขึ้น )
ผมใช้แอมป์มิเตอร์ DC คล้องวัดกระแสชาร์ทไว้ เริ่มเครื่องเดินกระแสไหลเข้าสูง 5 - 6 แอมป์เนื่องจากมีการใช้กระแสไปมากตอนสตาร์ทสักพักปริมาณแอมป์ก็จะลดลงแสดงว่ามีการชารท์คืน ด้านแรงดันวัดช่วงเครื่องติดจะต่ำกว่า 14 โวลท์นิดนึงพอกระแสชาร์ทเริ่มลดแรงดันก็ขึ้นมาสู่ปกติ 14 โวลท์กระแสชาร์ทลงมาเหลือ 1 - 2 แอมป์ถือว่าเต็มแล้วภายใน 10 นาทีทั้งหมดนี้ไม่ได้เร่งรอบเครื่องเลย ไม่ว่าเครื่องจะหมุนกี่รอบแรงดันไฟฟ้าจะคงที่เสมอถ้าโหลดหรือภาระเป็นปกติ อ้อมอเตอร์สตาร์ทดึงกระแส 30 แอมป์ใน 10 วินาทีพอครื่องติดก็หยุดดึง แต่เราชาร์ทที่ 5 - 6 แอมป์ 10 นาทีนี่แป๊บเดียวก็เต็มแล้ว เข้าใจเรื่องแบตเตอร์หน่อยเรื่องอัตรานะ Ah
เยี่ยมครับนี่คือคำตอบที่อยากรู้.. มีเครื่องวัดก็พิสูจน์เองแบบนี้ดีกว่าไปเชื่อพวกใส่สูทออกมาพูด
เหมือนเอาคนไม่รู้เรื่องไฟฟ้ามาตอบในรายการ
ต่อให้กินเป็น 100แอม แต่มันก็แค่ชั่วขณะ มันยังไม่รู้ว่าใช้พลังงานไปเท่าไร แล้วรอบเครื่องเดินเบาไดร์ชาร์จมีกำลังการผลิตเท่าไร
แต่มาบอกว่าชาร์จกลับแค่ 1โวลท์ ยิ่ง งง ใหญ่เลย
มันไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคันนะครับ มันขึ้นอยู่กับไดชาร์ทและแบตเตอรี่ด้วย
ผมยังไม่ได้ดูแต่มั่วชัวร์ ไดชาร์จ (Alternator) มันก็มี specของมัน ในรอบที่เท่ากันแต่ละรุ่นก็ผลิตไฟได้ไม่เท่ากันคนออกแบบเค้าคิดเผื่อไว้แล้วครับ รถที่ใช้ในเมืองจอดติดมากกว่าวิ่ง เมืองไทยอากาศร้อนงี้รถก็ไฟหมดกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วครับ บางรุ่นมี i-stopอีกเครื่องหยุดแต่จ่ายไฟ ไม่แค่นั้นแบตรุ่นใหม่ๆก็มีความสามารถประจุไฟได้เร็ว ข้อแตกต่างมากมายจะสรุปแค่ในเวลา5นาทีไม่พอหรอกครับ
ผมว่า สอบถามทางผู้ผลิตรถรุ่นนั้นๆ ดีกว่าครับ
ว่า รถรุ่นที่เราใช้งาน สตาร์ทรถทิ้งไว้ ไฟจะชาร์จเข้าแบตหรือเปล่าครับ
แต่เท่าที่สังกตสตาร์ทเวลาติดเครื่อง แรงดันไฟฟ้าอย่างต่ำก็ 13.8 โวลท บางคันก็ 14.3-14.4 ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพไดร์ชาร์จ ก็เพียงพอที่จะชาร์จเข้าไปในแบ็ตเตอรี่ ถึงแม้จะไม่เต็มแต่ก็มีการชาร์จกลับไป ผมก็สตาร์ททิ้งไว้ถึงแม้จะไม่ได้ขับไปไหน ตอนนี้แบ็ตฯบางคันก็อายุได้ 4 ปีแล้ว มองในตาแมวก็ยังสีฟ้าอยู่ โวลทก่อนสตาร์ทอยู่ที่ 12.3-12.4
การสตาร์ทรถแต่ละครั้งระบบไฟฟ้าก็จะได้ทำงาน ผมก็สตาร์ทรถทิ้งไว้ก่อนขับออกไปทุกครั้ง เพื่อเปนการอุ่นน้ำมันเกียร์ให้อยู่ในสภาวะมี่เหมาะสมกับการหล่อลื่น
ผมว่าข่าวนี้ผู้ผูไม่รู้จริงถึงรู้ก็รูไม่หมดบอกให้ขับรถออกไปวิ่งมันกะไรอยู่นะ
ใช่ครับแต่ถ้าไม่มีการสตาร์ทเครื่องนานเกินไปแบตจะเสื่อมได้เลยจริงมั้ยครับ
เราควรอุ่นเครื่องก่อนออกตัวตอนเช้านานแค่ไหนคะ
สิ่งที่เขากระทำเมื่อจอดรถไว้นานๆ สตาร์ททิ้งไว้สัก 10 นาทีไม่ได้หมายความว่าจะชาร์จให้แบตมันเต็ม
เขาต้องการเพื่อให้เครื่องยนต์มันได้มีการขยับได้มีการสูบน้ำมันเครื่องไปตามส่วนต่างๆ ให้แบตเตอรี่ถูกกระตุ้นบ้างเท่านั้น
ใช่ครับ
มันเป็นความคิดเดิมๆในขู้มูลนี้นะคับ
ข้อมูลนี้เหมาะสำหรับรถรุ่นเก่านะคับควรจะแนะนำคนที่ใช้รถรุ่นเก่านะคับมันจะมีประโยชน์สำหลับเขาเพราะรถรุ่นเก่ามันชาต์จช้า
ไม่น่าเกี่ยวกับรถรุ่นเก่านะ รถผมปี 07 สายจอด ขับเดือนละครั้งสองครั้ง แบต 4-5 ปีถึงเปลี่ยน ส่วนมากสตาร์จชาร์จ20-30 นาที ไม่เร่งเครื่องด้วย เพราะสตาร์ทไฟชาร์จกระแส 14.4V ครับ 🤧🤧
ดีจังหลากหลายสาระ มีประโยชน์ดีมากๆค่ะ
ขอบคุณมากค่า สุดยอดความรู้เลยทีเดียว❤
รถรุ่นใหม่ๆบางรุ่นบางยี่ห้อมีกล่องควบคุม เมื่อสตาร์ทรถรอบเครื่องจะเร่งขึ้นเองไปเกือบ 1.5 พันรอบต่อนาที และเบาลงเองเมื่อได้กระแสไฟเข้าแบตตามที่ต้องการ ส่วนมากจะมีในรถรุ่นใหม่ที่มีระบบ i-Stop
ถุกเลย ใช้อัลเมร่า 2อาทิตยครั้งมาสตารทเปิดแอร์ไว้ไม่ขับ ทำแบบนี้ตลอดไม่หมด
แต่รถรุ่นเก่ามีอีกคัน สตารทเปิดแอร์ พอครั้งต่อไปมาทำอีกสตารทไม่ได้
มันเป็นเพราะว่ารถรุ่นใหม่น่าจะออกแบบไดชารจให้ปั่นกระแสสูงขึ้นเล็กน้อยตอนสตารท์ติดรแบจะสุงขึ้น ทำให้กระแสมากขึ้น ไม่เหมือนรถรุ่นก่อนๆ
ตอนสตาร์ทถึงแม้มันใช้กระแสสูงจากแบต แต่ใช้เวลาสั้นมากแค่1-3 วินาที ประมาณ 160 Amp.วินาที ชาจน์กลับคืนใช้เวลาแค่ 35 วินาทีก็เสร็จแล้ว ปกติกระแสชาจน์ของอัลเทอร์เนเตอร์จะอยู่ที่ 5-7 แอมป์
อันนี้สิถูกต้อง ฟังนักวิชาเกินแล้วผมปวดหัว ผมว่ามันก็ไม่เคยทดลองทำด้วยซ้ำ เจ้าทฤษฎี
อันนี้น่าจะเป็นไปได้ที่สุดละ
สมมุติเครื่อง 1900กินกระแสสตาร์ท 250 A ที่3 วิ
ไดชาร์จ 80 แอมป์
หากไม่ได้เปิดแอร์เปิดพัดลม ก็อาจจะชาร์จกลับที่ 80-90%
ก็ประมาณ 60-70A
ใช้เวลาไม่น่าจะเกิน 20 วิ
ในการขดเชยกำลังสตาร์ทที่ใช้ไป
ดังนั้น ถ้าแบตเตอรี่ไม่เสื่อม ติดเครื่องไว้แค่ 1-2 นาทีก็เหลือเฟือแล้ว😂
จริง
รถยนต์ไม่รู้ แต่มอไซผมทำประจำ เคยลองวิ่งไกลๆนานๆแล้ว มีอาการไฟอ่อน พักหลังลองเดินเครื่องทิ้งไว้ตอนรอแฟนทำธุระบ้าง เห็นผลทันที
รายดารอบบนี้ดีมาดครับ ทพใป้คน้ข้าใจอะไรได้มากขึ้น
เคยทิ้งรถไฟนานๆ เพราะไม่ไเ่ค่อยใช้ แล้วนาน ๆ ที่ สตาร์ตอุ่นเครื่อง เดินเบา รอบ ไม่ถึง1000 วัดด้วยโวลต์มิเตอร์ แรก เลย วัดได้ถึง 14 กว่า ๆ โวลต์ แล้วค่อนๆ ลดลง แสดงว่ามีการชาร์ตไฟเข้าแบตเตอรี่ จากประสบการณ์จริง ๆ กับตัวเอง ดังนั้นผมไม่เห็นด้วยกับคลิปนี้ครับ
ไม่มีเครื่องชาร์จ ไม่มีโอกาสเอารถไปขับ
การสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ มันถูกต้องแล้ว
ที่บอกว่าจะไม่จะให้ชาร์จแบตได้เต็ม มันก็ถูก ใครก็รู้ ว่ามันไม่ทำให้เต็ม แต่มันทำให้แบตเราไม่หมดจากการจอดทิ้ง สามารถสตาร์ทได้เมื่อต้องการ และเมื่อเอาไปใช้จริงๆ เดี๋ยวมันก็ชาร์จได้เต็มที่เอง
จอดนานๆไม่ค่อยได้ใช้รถ 1อาทิตย์สตาร์ทที ติดเครื่องไว้สัก10-20นาที ดีสุด ถ้าไม่สตาร์ทเลยยิ่งแย่ต้องไปวิ่งหาที่พ่วงแบตวุ่นวาย ประสบการณ์ตรงรถใช้น้อยสตาร์ทสัก20นาทีแบตไม่เสื่อมใช้ได้นาน3-4ปีต่อลูก
ตามความรู้สึกที่ทำ มันก็ช่วยปะคองแบตที่เสื่อมสภาพไม่ให้ไฟต่ำจนสตาทครั้งต่อไปไม่ได้ เหมือนคอยเติมน้ำใสในโอ่งที่รั่วเพื่อประคองไม่ให้แห้งเกินไป
แบ่งปันความรู้อาจารย์😘😘
ใช้ได้จริงครับรถรอบเดินเบาปรกติไฟชาร์จอยู่ที่13.8-14.2vนอกจากอีโค่คาร์บางรุ่นชาร์จแค่12.5vเอาข้อมูลผิดๆลงโซเซียวอีกแล้ว รถผมแบตฯอ่อนแล้วพ่วงติดทิ้งไว้3นาทีแล้วดับก็สตาร์ทติดปรกติผมจึงเชื่อว่าติดเครื่องไว้ก็ชาร์จไฟได้
ขอบคุณครับ ความรู้ทั้งนั้น แล้วผมจะทำไง เพราะไม่ได้ออกไปซื้อกับข้าวเลย
การชาร์จไฟไม่ได้ช้าเกินจริงครับ ต้องคำนวณให้เป็นอย่าไปคิดโมเมเอาเอง ต้องคุยกันด้วยหลักการไฟฟ้าอ้างอิงด้วยตัวเลขจริง การสตาร์ทกินกระแส 80 A จริงแต่ใช้เวลาแค่ 5 วินาทีหรือน้อยกว่านั้น ก็เอา 80A*5 Second
= 400 A.Second เวลาที่ชาร์จกลับมันอาจจะชาร์จด้วยกระแส 4 A ซึ่งสามารถทำได้อยู่แล้วด้วยรอบเครื่องยนต์ต่ำๆ ซึ่งจะใช้เวลาในการชาร์จคิดได้จาก 400A.Second /4A = 100 Second ก็น่าจะไม่เกิน 2 นาที ก็ชดเชยกับที่ใช้ในการสตาร์ทได้แล้ว กระแสจ่ายออกมามากก็จริงแต่มันไม่กี่วินาทีเอง มันก็ชดเชยด้วยเวลาที่มากกว่าตอนดึงออกมาเท่านั้นเอง
คิดตามหลักการของกระแสไฟฟ้าครับ อาจจะมีการสูญเสียในสายไปบ้างก็ไม่ได้มากมายนัก
ผมควรเชื่อสิ่งที่คลิปนี้พูดได้ไหม ??
@@มีให้ขับก็บุญแล้ว ถ้าตามหลักการของวิชาไฟฟ้าเป็นไปตามที่ผมคิดคำนวณครับ
การชาร์จเป็นไปตามที่ผมบอก แต่คนที่พูดไม่มีหลักการอ้างอิงใดๆเป็นการพูดตามประสบการณ์ของคนที่ไม่เคยคำนวณทางไฟฟ้าจริงๆ
เปรียบเทียบกับการไหลของน้ำเลยครับ เราเปิดน้ำจากก๊อกใส่ถังขนาด 200 ลิตรด้วยความเร็วน้ำ 20ลิตรต่อนาทีก็จะใช้เวลา10นาทีเติมเต็มถัง แต่เราสามารถใช้ปั๊มน้ำดูดออกจากถังได้ด้วยความเร็ว80 ลิตรต่อนาทีได้ ก็จะใช้เวลาเพียง2.5 นาที ดูดน้ำออกจนหมดถังได้ หรือเราจะใช้เวลาเพียง3วินาทีคว่ำมันทั้งถังก็ยังได้ใช่ไหมครับ
คลิปนี้เชื่อได้บางส่วนครับเพื่อความสบายใจ แต่ผมยืนยันว่าการชาร์จไม่ได้ช้าขนาดนั้น หลักการชาร์จไฟเมื่อสมัยก่อนเขาให้ชาร์จด้วยอัตรา 0.1C คือ แบตขนาด 100 AH ชาร์จด้วยกระแส 10A ถ้าชาร์จเร็วเกินไปมันจะอายุสั้นลง แต่ระบบชาร์จรถยนต์สมัยใหม่กระแสชาร์จทำได้เร็วขึ้นแม้ว่ารอบเดินเบาก็มีกระแสชาร์จสูงๆได้ ซึ่งกระแสแค่4A ไม่ได้สูงมากมายก็สามารถชาร์จชดเชยกำลังที่ดึงออกมาใช้ตอนสตาร์ทได้ในเวลาไม่น่าเกิน 2 นาทีครับ แค่หลอดไฟคู่หน้าก็กินกระแสมากกว่า 4 Aแล้วครับ ถ้าเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามันชาร์จได้ช้าจริงๆ แค่เราเปิดไฟหน้าแล้วเดินรอบเครื่องเบาไม่นานไฟคู่หน้าก็ดึงไฟออกจากแบตหมดแล้วสิครับ
เพราะการกินไฟของหลอดไฟมันมากกว่าการชาร์จเข้า
คิดตามทีละขั้นตอนแล้วจะเข้าใจครับ
@@ApichartManeein = ขอบคุณที่ช่วยอธิบายครับ
สอบถามเพิ่มว่า รถสายจอด ควรทำอย่างไร จึงจะถนอมแบต & ประหยัด คชจ. กว่ากัน
1. ซื้อเครื่องชาร์จ มาชาร์จแบต
2. สตาร์ทรถเดินเบาอาทิตย์ละครั้ง ประมาณ 15 - 20 นาที
@@มีให้ขับก็บุญแล้ว ถ้าจอดนานที่ผมเคยพบปัญหาคือยางตายครับ ถ้าจะให้ดีควรขับออกไปวิ่งบ้างเพื่อไม่ให้ยางถูกกดอยู่ที่เดียวนานๆ จนเกิดอาการวิ่งแล้วสะดุดตามรอบวงล้อหมุน และให้ชิ้นส่วนอื่นๆได้เคลื่อนไหวบ้าง การสตาร์ทเดินเบาอย่างเดียวเกียร์กับล้อมันไม่ได้ทำงานครับ บางทีเบรกติดก็มี อย่างน้อยออกไปวิ่งสักกิโลเมตรก็ยังดี ค่าใช้จ่ายในการวิ่งหนึ่งกิโลเมตรไม่น่าจะมากเท่าไรครับ ไม่ต้องซื้อเครื่องชาร์จ
@@ApichartManeein ตามนั้นครับ แล้วอีกขึ้นอยู่กับสภาพแบตด้วยส่วนนึง รถสมัยใหม่เอาอย่างรถผมก็กระแสปาไป 3-5แอมป์แล้วแน่นอนมันไม่ถือว่าเต็มแต่คือมันชาร์จนะเว้ยแล้วกระแสมันไม่ได้ต่ำอย่างนั้น
ถ้าจะชาร์จจริงๆ ใช้เครื่องชาร์จดีกว่าครับ ตอนสตราท์ ดึงค่า CCA เยอะมากครับ และค่ามันจะลดลงไปเรื่อยจนต่ำสตราท์ ไม่ได้ แล้วการชาร์ทด้วยแรงดันหรือ กระแสสูงจะทำให้แบต เสื่อมเร็วนะครับ ควรค่อยๆชาร์จด้วยกระแสต่ำ จะดีกว่า เต็มช้ากว่าแต่เต็มแบบอิ่มตัว ครับ
ขอขอบคุณ ดร.นภดล และ "ชัวร์ ก่อน แชร์" ที่ เผยแพร่ ความรู้จริง สู่สังคม ครับ... 👍👍👍. 🙏
สวัสดีค่ะ จริงหรือไม่คะ
รอบเดินเบาไฟไดร์ชาจอยู่ที่13 กว่า รอบใช้งานอยู่ที่14 กว่าๆ ต่อให้เร่งรอบเครื่องสูงสุดไฟก็จะอยูประมาณ14 กว่าๆ เพราะมีตัวคุมไฟไม่ให้ชาจเกิน การติดเครื่องตั้งไว้10นาที มีผลต่อการชาจ เเละได้กระตุ้นการทำงานของเเบ็ตเตอร์รี่
ไม่ถูกเสมอไปนะครับความหมายคือป้องกันแบตเตอรี่ต่ำกว่า 12 โวลท์จึงจะต้องกระตุ้นเพื่อให้แบตมีแรงดันสูงกว่า 12ครับบท่านเพื่อป้องกันไม่ให้ sulfateไปเคลือบแผ่นธาตุนานวัน batteryก็จะเสื่อมได้ครับ
ขอบคุนมากครับ ได้ประโยชมากๆครับ
ข้อมูลไม่ถูกต้องทั้งหมด แนะนำว่าสอบถามผู้รู้หลายๆด้านก่อนลงคลิปนะครับ ประชาชนจะได้เข้าใจที่ถูกต้องทั้งหมด เนื่องจากช่องมีความน่าเชื่อถือ คนไม่รู้จะเข้าใจแบบผิดๆไปครับ
ข้อนี้ผมขอค้านครับ honda city และ cbr500 ผมเคยจอดจนแบตหมด ผมเลยจั้มสตาท แล้วจอดทิ้งไว้10นาที (ในระหว่างนั้นถอดสายจั้มออกแล้ว)สรุปแบตรถมีไฟ ถ้าแบตไม่ชาต แล้วไฟมาจากไหน
โซล่าเซล
Context Thinking คือการปรับการสือสารให้เหมาะกับคนทั่วไปที่ไม่รู้เรื่อง ต้องพยามเลี่ยงศัพท์เทคนิค หรือมีให้น้อยที่สุด สรุป ให้สั้นๆ พอ
ขอบคุณที่ให้ความรู้ดีๆครับ
ไปซื้อเครื่องชาร์ทมาใช้ดีกว่า ชาร์ทสัก 2-5 ชั่วโมง อาทิตย์ก็ทำสักครั้ง แบตจะทนได้ถึง 3-5.ปีเลยครับ ถ้าใครไม่เชื่อก็ลองทำดู นะจ๊ะ
เครื่องชารต ยี่ห้อไหนดีครับ
จริงๆครับ...
สายจอดใช้อุปกรณ์ชาร์จตอนจอดดีกว่าครับ ประหยัดน้ำมัน ค่าไฟถูกกว่า
อันนี้เห็นด้วย อุปกรณ์ชาร์จเดี๋ยวนี้ราคาไม่กี่ร้อยเอง
.ขอบคุณมากๆครับผม.เยี่ยม
ผมขี่มอไซด์ บิดรอบต่ำมาก แต่แบ็ตๆค่อยหมดเฉยเลย เหมือนชาร์จไฟไม่เต็มเพราะบิดรอบต่ำตลอดมันเกี่ยวเปล่านะ แถมเปิดไฟหน้าตลอดการวิ่งรถมันก็แย่งไฟไปด้วยอีก ตอนนี้เลย จะเปิดไฟหน้าเฉพาะ เย็นๆค่ำ ๆ ดูเหมือนแบ็ตจะใช้ได้ยาวขึ้นกว่าหน่อย
ขนาดบิดแบตยังหมดควรเช้คแบตแล้วล่ะครับ มอไซเดินเบาไม่ต้องบิด ก็ 14v กว่าตลอด ยิ่งรถสมัยนี้ มีวัดโวลทีจอเรือนไมล์ สะดวก
จริงครับ เพราะเจอแล้ว ไฟไม่พอชาร์จ จริง ครับ ใช้เครื่องชาร์จดีกว่า ครับ เปลื้องน้ำมันด้วย ถ้าขับออกมันจะดีกว่า ถ้าแบตเตอรี่ใหม่ๆก็พออยู่ได้
6ปีครับไฟยังดีอยู่..วันใหนรถจอดสักอาทิตย์ตอนเช้าจะสตาสทุกเช้า10นาที.
เรื่องนี้ผมขอค้านครับ รถรุ่นใหม่ๆพอสตาร์ทเครื่อง ระบบจะตรวจจับถ้าไฟในแบตไม่เต็มไดชาร์ทจะจ่ายไฟ14.2-14.3 V เพื่อชาร์ทแบตเลยพอแบตไฟเต็มระบบจะลดการไฟลงมาประมาณ13 V เพื่อเลี้ยงระบบ
ตอบให้น่าเชื่อถือหน่อยสิ เครื่องมือวัดมันไม่หลอกเราเเน่ รถผมติดเครื่องเสียงมาเต็มลำตอนเปิดเครื่องเสียงผมก็สตาร์ทนะเห็นมันก็ชาร์จเข้าดีมีบอกทั้งโวลต์และบอกแอมป์แต่ถ้าไม่สตาร์ทเอาไว้ไฟจะลดลงเรื่อยๆ ... แล้วมันคืออะไรครับ ถ้ามันไม่มีผลต่อการชาร์จจริงๆไฟมันต้องลดสิครับ ผมว่าลองคิดหาคำตอบใหม่ตอบแบบช่างนะครับไม่ใช่ตอบแบบนักวิชาเกิน
วิชาการก็อธิบายผิดครับ เขาเป็นอาจารย์เครื่องกลไม่รู้เรื่องไฟฟ้าเท่าไร ที่คุณทำนั้นพิสูจน์แล้วว่ามันชาร์จจริง ถึงแม้ว่ารอบเครื่องยนต์จะต่ำแต่มันก็สามารถชาร์จได้เพราะสมัยนี้ไม่ใช่สมัยโบราณแล้ว มันสามารถที่จะชาร์จแบตเตอรี่ได้ในรอบเครื่องต่ำๆแต่อาจจะชาร์จด้วยกระแสไม่สูงมากเท่าความเร็วรอบเครื่องสูงๆ ถ้าเราวัดแรงดันแล้วมันลดลงมาแสดงว่ามันไม่ชาร์จเข้าไป ถ้ามันเพิ่มขึ้นแสดงว่ามันกำลังชาร์จแน่ๆ
ขอถามผู้รู้หน่อยนะครับ
ในกรณีที่สตาท์รถในขณะที่จอด
อยู่แล้วเหยียบคันเร่งไฟจะชาร์จเข้ามั้ยครับ
ชาร์จเข้าครับแต่จะเสียเวลามาเหยียบคันเร่งเปล่าๆ เรื่องนี้มีเงื่อนไขที่แบตเตอรี่ครับ แบตเตอรี่กรดชนิดเก่ามันเต็มยากและมีปัญหาเรื่องซัลเฟตเกาะที่แผ่นธาตุ แบตฯรุ่นใหม่เขาแก้ปัญหาตรงนี้ บางรุ่นเขาใส่ super cap เอาไว้ทำให้ชาร์จไวและสตาร์ทง่ายด้วย ดังนั้นถ้าคุณห่วงเรื่องนี้ คราวหน้าเปลี่ยนแบตก็พิจารณาเรื่องนี้ก็ดีครับ
ถ้ารถรุ่นใหม่ไม่ต้องเร่งช่วยครับ แค่รอบเดินเบาก็ 14.4v และคงที่อยู่แบบนั้น แต่ถ้ารุ่นเก่าๆ ต่ำกว่าปี 2005 ลงต้องเร่งเครื่องครับถึงจะชาร์จเร็ว แน่ว่าซื้อเครื่องชาร์จแบตดีกว่าครับประหยัดกว่าสตาร์ทรถเยอะ
@@mahajoan
ขอบคุณมากครับ
@@EiZanG ขอบคุณมากครับ
นักกีฬายังต้องอุ่นเครื่องก่อนวิ่ง กับยืนนิ่งๆไครจะชนะ. น่าคิดนะครับข้อนี้
ลองปล่อยรถทิ้งไว้นานๆ รถสตาร์ทไม่ติดเดือดร้อนคนอื่นต้องมาพ่วงแบตให้อีก ผมสตาร์ทรถไว้ห้านาทีสิบนาทีเพื่อไม่ให้แบตไฟหมดจะได้สตาร์ทรถได้เวลาจอดทิ้งไว้นานๆ ด้วยเหตุผลนี้เหตุเดียวเลย
รถผมใช้เดือนละครั้งจะให้แม่บ้านสตาร์ททิ้งไว้ทุกวันวันละ15นาที แบตก็ใช้ได้ ปกติไม่ต้องให้ใครมาพ่วงแบต
ถูกต้องแล้วครับ
@@hub1919ful ่๋็็็็็
ไม่เร่งเครื่องหน่อยรึ กันน้ำมันแห้ง
ผมเป็นช่างไดนาโมและระบบไฟฟ้ารถยนต์..ยืนยันว่าจริงตามที่คลิปแจ้งครับ..
หากติดเครื่องยนต์เพื่อชร์าชไฟนั้น..ต้องเร่งรอบเครื่องยนต์ราวสองพันรอบ/นาที..และสมควรต้องใช้เวลานานราว 10-15นาที..
..มันก็จะเปลืองน้ำมันและเหม็นควันท่อไอเสีย..ที่ถูกแล้วควรมีเครื่องชร์าชแบตเตอรี่มาชร์าชเบาๆ..ราวแค่ 1 แอมป์..แต่ชร์าชยาว 12 ชั่วโมงเลย..แบตจะได้ไม่ร้อนแล้วเสื่อมเร็ว..
..และขอเพิ่มเติมว่าแบตเตอรี่แบบกรดกำมะถันนั้นมีอายุการใช้งานราวๆสองปี..เมื่อแผ่นสังกะสี+ตะกั่วเริ่มหมดสภาพ..มันก็จะเริ่มเก็บไฟไม่อยู่แม้ว่าจะชร์าชหรือติดเครื่องวิ่งรถนานๆก็ตาม..
..ก็ต้องเสียเงินซื้อแบตลูกใหม่นั่นแหละ..
ขอถามครับ ทำไมต้องเร่งเครื่อง ในเมื่อรอบเดินเบา 800 ชาร์จไฟกระแสที่ 14.4V ส่วนเร่งเครื่องได้กระแส 14.5V ต่างกันแค่ 0.1V มีผลหรอครับ 🤧🤧
หาตัววัดไฟ USB มาตัวนึง ลองปล่อยรถเปิดไฟทิ้งให้แบตอ่อนแต่ยังพอสตาร์ทได้สัก 11.5 voltage แล้วลองสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ดูสัก ครึ่งชม.ถึง1ชม. (10นาทีนี่น้อยไปเห็นด้วยกับในคลิปทั้งเรื่องรอบเครื่องด้วย รอบสูงไฟจะเข้าเยอะกว่าตอนจอด แต่ก็ไม่ได้เข้า maximum รถแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน) ขณะจอด รถบางรุ่นจะมีไฟเข้าระบบ 14.XXvoltage หรือไม่ก็ 13.XXvoltage มันไม่เท่ากันแล้วแต่รุ่น ผลลัพท์ที่ได้หลังจากรอมาราวๆ 1 ชม. ก็ดับเครื่อง บิดกุญแจไป 1 สเตปให้ไปเข้าระบบแต่ยังไม่ต้องสตาร์ท ผลปรากฏว่า ไฟชาร์จเข้าแบตเตอรี่จาก 11.5 ขยับมาที่ประมาณ 12vหน่อยๆ เพราะฉะนั้นการสตาร์ทจอดทิ้งไว้เพื่อชาร์จไฟ ให้แบตเสื่อมช้า มันใช้ได้ครับ
ปล. ส่วนเรื่อง เวลาชาร์จจะเต็ม แอมป์จะค่อยๆปรับลดเหลือ 0 อันนี้มันใช้กับรถไม่ได้ครับนั่นมันหลักการของเครื่องชาร์จแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติทั่วไป แต่ของรถมันจะชาร์จเข้าแอมป์เท่าเดิมตามสเปกไดชาร์จตลอดเวลา แบตมันถึงเดือดเพื่อให้กรดไม่ตกผลึก หรือให้ที่เป็นผลึกกลับมาละลาย ส่วน voltage มันจะมีตัวคอนโทรงเลอร์ วิ่งอยู่ราวๆ 12 ปลาย ถึง 14.4v ปรับไปตาม voltage ของแบตขณะนั้น ถ้าแบตเต็ม voltage ไฟจะเข้าระบบน้อย 12.8-13นิดๆ แล้วแต่รุ่น ถ้าแบตไฟอ่อนไฟมันจะเข้าเยอะ 13นิดๆไปถึง 13 กลางๆ และยิ่งถ้าเอาไปวิ้งรอบสูง voltage ก็จะขยับขึ้นมาได้อีกหน่อย จากจอดนิ่งๆ 13.3 พอเอาออกไปวิ่ง ขึ้นมาที่ 13.7
อย่าลองกับแบตเตอรี่ที่ใช้มาเกิน1ปี CCAต่ำจะสตาร์ทรถไม่ติดเหลือไฟ11.5โวลท์
เห็นด้วยกับเม้นต์นี้ มากกว่าเนื้อหาในคลิปอีกหนึ่งเสียงครับ จากช่างในอู่ไดนาโม
พิธีกรดูไม่ค่อยสดชื่น เหมือนก่อนเลยครับ ดูซึมๆไป
ตกลง คุณ แชร์มาแล้ว ชัวร์รึเปล่าครับ พอดีผมอยากทราบจริงๆ เพราะมีรถจอดไว้อยู่ และปกติสตาร์ทอาทิตย์ละครั้ง แต่เห็น ค.คนรักรถ หลายๆท่าน ในคอมเม้นท์นี้ บอกว่า ที่ท่านพูด ไม่จริงและมั่วน่ะครับ. ขอบคุณครับ.
รถผมสตาร์ทแค่5นาทีก็ชาร์จแล้วครับ จอดมากกว่าขับ สัปดานึงขับ2วัน 5-10กิโล
17ปีแล้ว เพิ่งเปลี่ยนแบตไป3ลูก
รถอิซุสุปี2004 แบตที่ใช้ 3k,fb ,fb เฉลี่ยลูกและ5ปีครับ
สตาร์ทเครื่องวันละ10-15นาที
ไม่เคยยกออกไปชาร์จ
โห้ ผมวีโก้ปี2006 ลูกที่6แล้ว
นานสุดแบตมากับรถราว5ปี
นอกนั้นเฉลี่ย2ปี
จริงครับ มังกรของผมมันไม่มีระบบไฟอะไรเลย ไม่มีรีโมท ลูกหนึ่งใช้ 5-6 ปีจริงครับ
@@rovom6267 vigo 07 ผมก็เหมือนกันครับ 2 ลูกแรกไม่เกิน 2 ปีครึ่ง เปลี่ยนแบตใหญ่เพิ่มแอมป์ ก็แค่นั้น เคยใช้แบตแห้งรุ่นแรกๆ ได้ปีเดียวจะบ้าตาย😁😁😁
ของผมไม่สตาทไฟในแบ็ต12.1v พอสตาทไฟขึ้น14.2vทำไมมันชาจอ่ะไม่เหมือนที่เค้าบอกเลยว่าชาจเข้าแค่1Vในรอบเดินเบานี่เดือนขับครั้งนึงแต่สตาทอาทิตละครั้งครังละ10-15นาที แบ็ตก็ไม่เสื่อมด้วยนะใช้มา3ปีแล้ว😅😅
ผมไม่สนใจอะไรเลย สตาร์ทติดออกรถเลย 9 ปี ไดสตาร์ท ไดชาร์ทไม่เคยแงะ เปลี่ยนแบตไปสามลูก สตาร์ททุกวันวันละสองครั้งไปกลับทำงานอาจมีเว้นเสาร์อาทิตย์ วิ่งเฉลี่ยวันละ 50 โล ที่ทำงานไปกลับแค่สิบโลเอง ไปคิดอะไรมากปวดหัว เสียก็แค่เปลี่ยน หรือซ่อม นี่9 ปีกว่าแล้วนะ เฉย
เนาะ ไม่ต้องสนใจไรมากหรอก สนแต่ว่า จะหาตังยังงัย เพื่อเอามาจ่ายในส่วนที่ไม่ได้สนใจอะไรนี่ละ (รู้ไว้ซักหน่อยก็ดีคุณ เผื่อเอาไว้คุยกับผู้ชายด้วยกันได้บ้าง ไม่ใช่ เอะอะ เปลี่ยนๆ)
รถรุ่นใหม่ๆมันกลับกันแล้วครับ แบตจะถูกขาร์จที่รอบเดินเบา เจเนรุ่นใหม่ๆมันสร้างกระแสไฟได้เหลือเฟือ อัพแพทหน่อยครับ ระดับและเทคโนโลยีมันมาไกลมากแล้ว
ผมไม่รู้อะไรมาก รู้แต่ว่า หลังจากสตาร์ทรถถ้าไฟชาร์ทจากไดชาร์จมีไฟ 13.5ขึ้นไป คือสามารถชาร์จแบตได้ โดยไม่ต้องเร่งเครื่อง แต่ถ้ายอกว่าต้องเร่งเครื่อง1500รอบถึงชาร์จ แสดงว่าคุณควรไปดูแลเรื่องไดชาร์จได้แล้ว ไม่ใช่แบต เพราะถ้าไดชาร์ทไม่สามารถ จ่ายไฟได้ถึง 13.5 ต่อให้เร่งเครื่องไป5000รอบ มันก็ไม่ชาร์จ เข้าแบต น่ะครับ แบตเตอรี่มีไฟ 12.6(2.1*6) ไฟที่จะสามารถชาร์จแบตได้ต้องมีมากกว่าไฟของแบต ก็คือ 13.5V ขึ้นไป
ส่วนเรื่องรถรุ่นใหม่ๆที่เป็นไดร์ไฟฟ้า ถ้าแบตมันเต็ม สตาร์ทให้ตายไฟมันก็อยู่ที่12.4-12.6 แค่นั้นไม่ต้องสตาร์ทให้เปลืองน้ำมัน ไดร์รุ่นใหม่จะทำงานต่อเมื่อแบตเตอรี่อ่อน ไดร์มันถึงทำงาน ถ้าอยากรู้ว่าทำงานไม๊ ก็เปิดไฟหน้าทิ้งไว้ซักพัก แล้วค่อยสตาร์ทเครื่องดูว่าไดร์ทำงานไม๊ ถ้าไฟยังอยู่ที่12กว่าก็เข้าไปซ่อมไดร์ครับ
รถผมBT-50.รถ12ปี.แล้ว.ใช้แบต2ลูก.ถ้าจอดไม่ขับก็.ถอดขั้วแบตออก.ครับ
รบกวนสอบถามค่ะ ถอดแค่ขั้วลบ รึว่าถอดทั้งลบทั้งบวกคะ พอดีจะไปตปท6เดือน ช่างบางคนบอกถอดแค่ขั้วลบ บางคนบอกทั้งสองขั้ว โทรถามน้องที่จบช่างยนต์มาบอกให้สตาร์ททุกๆ2อาทิตย์จะดีสำหรับเครื่องยนต์และน้ำมันจะได้ไม่เหนียว กลุ้มใจมากเลยค่ะ รถใหม่ค่ะพึ่งออกมาได้แค่หกเดือน รบกวนแนะนำทีนะคะ
@@แม่นางเอ๋อเหลอ ถอดขั้วบวก.ขั้วเดียว...สตาร์ทรถอาทิตย์ละครั้ง.สักครึ่งชม.ไม่ต้องเปิดแอร์.ครับ
ให้วิ่ง10-20โล น้ำมันแพงครับ ผม ซื้ออุปกรณ์ ตัดไฟมาต่อกับแบต ครับ 64บาท ลาซาด้า มีขาย...จะไปไหนไกลๆก็ต่อไฟเข้าแบตแล้ววิ่ง ชาร์ตไฟครับ วันปกติ ก็คลายสวิทย์จอดไว้เฉยๆ
ผมจะสตาร์ทยังไงก็ได้ขอให้รถติด จะทิ้งไว้10-20นาทีหรือ1ชม.1วันรถมันไม่ดับก็โอเค..แบตหมดแบตเสื่อมก็ซื้อใหม่ แนะนั่นโน่นนี่ไม่เอาปวดหัวชั่งมัน..รถมีปัญหาก็ซื้อคันใหม่คนมีกะตังค์จบ.
ขอบคุณหมอบีมากๆครับ
รถผมวิ่งปีนึงประมาณ 2,000 กิโล ผมสตาร์ทอาทิตย์ละครึ่งชั่วโมงครับ ผ่านไปปีครึ่ง แบต health เหลือ 50 % cca ต่ำจนไม่มีแรงปั่นมอเตอร์สตาร์ท รถเดินเบาไม่มีโหลดที่รอบ 1100-1200 เพราะใส่ลิ้นแต่ง ถ้าสตาร์ทแค่ 10 นาทีบอกเลยแบตอยู่ไม่ถึงปีครับ เรื่องแบตไม่ใช่เรื่องใหญ่มากครับ มันเปลี่ยนง่าย เรื่องน้ำมันในถังนี่สำคัญกว่า สายจอดต้องหมั่นเติมน้ำมันใหม่ๆผสมเรื่อยๆครับ
ท่านคนที่นำมาให้ความรู้นิมั่วแล้วไหมครับ อาจจะติดภาพจำรถสมัยก่อน ที่กินแบต ไดร์ชาร์จต้องถึงรอบละครับ (จะไปชาร์จให้เต็มทำไมครับ แบตเตอรี่กระตุ้นบ่อยๆ ยืดอายุการใช้งานครับ)
เปลี่องน้ำมัน ซื้อเครื่องชาร์จจจีน 300กว่าบาทมาชารจ์ ยังดีกว่าครับเเนะนำ
น่าจะเอาออกมาขับรอบหมู่บ้าน10-15นาทีต่อสัปดาห์ดีกว่านะครับ วิ่งรอบเบาให้น้ำมันเกียร์น้ำมันเบรค มันได้หมุนเวียน
ใช้ครับถูกต้องครับ😊
ถ้าการชาร์จแบตเตอร์รี่ จำเป็นต้องถอดขั้วแบตออกรึใม่คับ
ถึงจะ 13.7 ที่รอบเดินเบาแต่กำลังไฟฟ้าไม่พอครับ และ 10นาทีก็ไม่นานพอที่จะทำให้ปฏิกิริยาเคมีในแบตเปลี่ยนสภาพที่จะให้แบตเต็มด้วยครับ ผมเลยซื้อที่ชาร์จ 5A มาหนีบไว้ที่บ้านทุกสัปดาห์เพื่อยืดอายุแบตไปด้วยครับ
ไม่เชื่อครับ ผมสตาร์ทเครื่องใว้10-15นาที ทุกๆ2วัน รถไม่ค่อยได้ใช้งาน แบตเตอรี่ก็อยู่เกิน3ปี รอบเดินเบารถผม 700รอบ ไฟชาร์จอยู่ที่ 14V เร่งไปที่ 1500รอบ ไฟชาร์จก็อยู่ที่14V คนที่อธิบายมั่วมาก ควรหาพวกมิเตอร์หรืออะไรมาทดสอบให้ดูด้วยครับไม่ใช่พูดลอยๆ
ถ้ารอบต่ำบอกว่าไฟชาตไม่พอแล้วติดเครื่องรถนอนก็ไม่เห็นแบตหมด หรือเปิดเครื่องเสียงที่กินไฟมากๆติดเครื่องไว้มันก็ช่วยได้ ไม่เข้าใจ น่าจะทำผังการทำงานของกาตให้ดูให้เข้าใจกว่านี้
แค่เครื่องติดไฟวิ่งเข้า13ถึง14v.แล้วคับไม่ต้องเร่งเลยอันนี้ผมทอลองเองคับไม่อ้างอิงใครและไม่ว่าใครผิดใครถูกนะคับ ความเชื่อส่วนบุคคล
ผมว่าเอาวิชาการมามากไปคับ
และที่บอกมาก้แนวรถรุ่นใหม่
รถผมเกือบ20ปีแล้วก้วรอมแบบนี้ละคับ.
จอดมากกว่าขับก้ได้ลุกละปีกว่าคับ
วิธีคิดโบราณครับ อธิบายฝั่งเดียวแล้วตัดสินเลย ผมว่าแยกแยะไม่ลึกพอ
ผมไม่ค่อยได้ใช้รถ เข้าไปสตาร์ทรถ 10นาที ขับเดินหน้าถอยหลัง อาทิตย์ละวัน ก็ยังใช้แบตฯ ได้เรื่อย ๆ นะ (จนกว่าแบตจะเสื่อมก็จะไม่สามารถเก็บไฟได้)
นักวิชาการ มั่วแต่นั่งเทียน ลองอธิบาย รถปั้นผม แบตลูกเดิม ไม่เคยสตาร์ทเวลา เปนเดือน แบตหมดสตาร์ท ไม่ติด พอเปลี่ยนแบต สตาร์ 2 วันเว้นที แบตอยู่ได้ตลอด ทำแบบนี้หลายเดือน แบตไม่เคยหมด (แบตใหม่ทั้ง 2 ลูก แต่รถเก่า ยุค 80) ดูหลักความจริงจะอธิบายทางวิทยศาตร์ ได้ดีกว่าการนั่งอ่านหนังสือแล้วพูด
รถผมขับเดือนละ 3 ครั้ง แบตยังปกติ ดี จะ 4 ปีแล้ว
ตอบไม่ตรงคำถามมั้ย คำถามคือเป็นการชาร์จแบตจริงหรือไม่ ไม่ได้ถามว่าชาร์จให้เต็มจริงหรือไม่
0:50 ลองตั้งใจฟังใหม่นะ อ่านซัพเอาก็ได้
เห็นด้วยครับ ข้อมูลเรื่องนี้ไม่ครบถ้วน อธิบายไม่เคลียร์เรื่องแบตเตอรี่แบบเก่ากับแบบใหม่
ตั่งใจฟังอีกรอบครับ ถ้ายังไม่เข้าใจ
คุณพิธีกรคุณถามไม่ตรงคำตอบตะหาก เราผู้ฟังก็ได้ความว่า”ชาร์จไฟเข้าได้จริง แต่ไม่ทำให้ปริมาณไฟเต็มหม้อแบตได้” ตึ่งโป๊ะ!!!
คือเนื้อหาอะมีประโยชน์ แต่ชื่อคลิบทำให้สับสน
ครั้งหนึ่งผมไม่ค่อยได้ใช่รถ จะมาใช้อีกที รถก็ส่งเสียทำท่าจะสตาร์ทไม่ติด พอสตาร์ทติดเครื่องได้ ผมจึงไม่ดับเครื่อง กลัวว่าเดี๋ยวจะสตาร์ทไม่ติด ผมจึงขับรถไปทำธุระระยะทางราว8-9กม. เมื่อไปถึงที่หมายแล้ว ผมก็ปล่อยเครื่องทำงานอยู่แบบนั้น นาน30นาที และจึงดับเครื่องฯคิดว่าคงชาร์จไฟเข้าแบ็ตแล้ว แต่พอจะกลับบ้าน งานเข้า ดันสตาร์ทไม่ติด แสดงว่าการสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้หวังว่ามันจะชาร์ท ไม่เป็นความจริง
ใช่เลยผมก็ทำอยู่ จอดนาน ใช้เครื่องชาท ชาทไฟได้ดีกว่า
คำถามคือ..รถจอดนานถ้าสตาร์ทเดินเบาไว้ซัก15นาทีจะดีกว่าไม่ทำอะไรเลยหรือเปล่าครับ
ผมขับรถของบริษัท ในรถจะมีระบบไฮโดรลิค ซึ่งจะต้องใช้แบ็ตเตอรี่ในการเปิดและปิด ประตู ในตัวรถ ซึ่งรถจะต้องจอดเป็นเวลา15-20วัน ผมเคยลองเปิดปิดไฮโดรลิค4-5วันโดยไม่สตาร์ทรถสุดท้ายเเบ็ตหมด จากนั้นลองสตาร์ทรถก่อนเปิด และเวลาจะปิด ก็สตาร์ททิ้งใว้20นาที แบ็ตก็ไม่เคยหมดเลยครับ
จริงครับ ยิ่งสตาร์ททิ้งไว้ยิ่งกิน ต้องเหยียบคันเร่งช่วย
แค่อุ่น หรือวอร์มเครื่อง ให้พร้อม ในการใช้งาน
รถที่ใช้งานทุกวัน ..ทั้งมอเตอร์ไซค์ หรือรถยนต์ ..ทุก3เดือน ก็ควร เอาแบตออกมา กระตุ้นแบต ด้วยเครื่องชาร์จ🔋แบตเตอรี่ ครับ แลวแบตจะมีคุณภาพยุกับเราไปนานมาก
ผมสายจอด ถ้าสตาร์ททิ้งไว้ครึ่ง ชม. พอช่วยได้ไหมครับ
ไม่เคยเชื่อถือชัวร์ก่อนแชร์ ไม่ว่าเรื่องอะไร เพราะให้คำตอบเพียงด้านเดียว แล้วเอาคนมาพูดสนับสนุน ส่วนคนที่มีความเห็นขัดแย้ง ไม่เคยเอามาพูด จะพูดอะไร ควรให้ความรู้รอบด้าน ไม่ใช่พูดเพียงด้านเดียวแล้วบอกว่าที่พูดมาถูกต้อง อย่างอื่นผิดหมด มันสร้างความเข้าใจผิดให้ชาวบ้าน
ไม่เชื่อ ไม่สตาร์ท 2 อาทิตย์แบตหมด สตาร์ททุกอาทิตย์แบตไม่หมด ขี่เดือนละครั้ง
ไข่ครับ ไม่สตาสเลยอาทิตย์นึงสตาสไม่ติดเลย ไอ้พวกหลักการแค่ขาด ประสบการณ์ ไช่สตาสกินไฟแต่มอเตอร์มุนไฟก็เข้า แบตเตอร์รี่แล้ว อยากให้ไอ้คนทีพูดว่า สตาสเครื่อง10นาทีว่าไม่มีไฟไปตับตรงขั่วบวกไปจี้ขั่วลบดูว่าร้อนมัย
นักวิชาเกินทันเยอะครับเดี๋ยวนี้ พอถามว่ามึงเคยลองทำรึยัง เงียบ😂🤣
ทำเสียงดูน่าเชื่อถือซะด้วย
ขอความรู้หน่อยครับพี่ๆ 1อาทิตยผมจะขับ เสาอาทิตย์ แล้วจอด คือ7วันผมจอด5วัน ใช้งาน2วัน รถจะเปนอะไรไหมครับ
ถ้ารถสายจอด ควรขับรถไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ(30-40)กิโลเมตร…แค่ระวังคุณหนูกัดสายไฟ หรือเข้าไปทำรังในตู้แอร์…ครับ”
ของผมไม่สตาทไฟในแบ็ต12.1v พอสตาทไฟขึ้น14.2vทำไมมันชาจอ่ะไม่เหมือนที่เค้าบอกเลยว่าชาจเข้าแค่1Vในรอบเดินเบานี่เดือนขับครั้งนึงแต่สตาทอาทิตละครั้งครังละ10-15นาที แบ็ตก็ไม่เสื่อมด้วยนะใช้มา3ปีแล้ว😅😅
จริง ใช้เครื่องวัด CCA ดูรู้ รถผมป้ายแดงออกปี22 วิ่งรถสั้นๆ สตาทบ่อบ วัดCCA แทบจะไม่ชาร์จเลย เหยียบรอบ1500-2000 วิ่งยาวๆ 50km วัดค่าCCA เพิ่มขึ้น สรุปมีเครื่องวัด CCA ติดบ้าน ก็รู้ครับ รถคนละยุค มาเถียงกัน ต้องมีเครื่องวัด CCA จบรู้เรื่องครับ ได้คำตอบเป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่คำตอบสายมโนกัน😅😅😅
สตาร์ทเครื่องแล้วเข้าเกียร์ไปเลย กับสตาร์ทเครื่องรอให้เครื่องวอร์มก่อนแล้วออกรถ อันไหนถูกต้องครับ
ไม่ควรออกรถตอนเพิ่งสตาร์ท(เครื่องยังไม่ร้อน) เพราะน้ำมันเครื่องยังไม่อุ่นพอที่จะหล่อลื่นลูกสูบ...ทำเป็นเสียดายน้ำมันและไม่วอร์มเครื่อง ออกวิ่งเลย เครื่องจะสึกหรอเร็ว
แล้วถ้าแค่เปิดกุญแจ แต่ยังไม่สตาทมันกินไฟไหมครับ
รถรุ่นเก่าที่ใช้ใดชาร์ทระบบ DC นะใช่ตอนเดินเบาระบบจะยกเลิกการชาร์ท รถที่ใช้ใดชาร์ท AC ติดเครื่องไฟเตือนดับ ก็ชาร์ทแล้ว จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่รถแต่ละรุ่น แต่ 10 นาทีมากไป แค่3 ก็พอแล้ว
ซื้อสายพ่วงแบตหรือเครื่องชาร์ทแบตเตอรี่ติดรถไว้ ส่วนวิธีพ่วงแบตต้องทำให้ถูกวิธีด้วยนะมีบอกในยูทูป
ขอบคุณมากครับ
มันอาจจะชาร์จแบตไม่เต็ม แต่ก็ไม่ต้องพ่วงแบตในการสตร์าจครั้งต่อไป จริงไหม ถ้าไดชาร์จไม่พัง แบตไม่เสื่อม