สมบัติจักรพรรดิ ดั่งใจปรารถนา

คำถามที่หลายๆ คน อยากจะถามหลวงตา (มากๆ)
เมื่อไม่นานนี้มีนักบวชมานั่งรอหลวงตาด้วยความตั้งใจ พร้อมกับคำถามที่ว่า....ทำไมเขาปฏิบัติมานานแต่ยังไม่ก้าวหน้าสัมผัสอะไรไม่ได้ ทั้งๆ ที่มีความตั้งใจและสวดมนต์ตามช่วงเวลาครับ?
หลวงตา หันมามอง และถามว่า ให้ตอบจริงๆ ไหม เอาจริงๆ เลยนะ
"ถ้ายังมีความอิจฉาและนินทายังไงก็ไม่พัฒนา!"
การตั้งใจสวดมนต์เป็นเรื่องที่ดีและถูกต้องในการภาวนา แต่พอเราสวดไปครบตามช่วงเวลาเราก็ไปเล่นโทรศัพท์โพสต์อันนั้นอันนี้ถึงเวลา เห็นอะไรไม่พอใจ ก็อิจฉาและนำไปนินทาให้ร้ายต่อไปเรื่อยๆ ทำเช่นนี้การปฏิบัติพัฒนาไม่ได้เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องกั้น
อารมณ์ทางโลกที่เราเสพมันเป็นเครื่องกั้นเกิดความขุ่นมัว ความต่อเนื่องของการสวดมนต์คือหัวใจสำคัญ
ถาม: แล้วทำอย่างไรให้สวดอย่างต่อเนื่องโดยไม่ให้อารมณ์ทางโลกมาเป็นเครื่องกั้น?
ตอบ: เราสวดภาวนาเพื่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตน ให้ดีกว่าเดิม เป็นการเปลี่ยนแปลงความเคยชินที่ไม่ดีเพื่อการพัฒนาพฤติกรรมที่ดี การสวดมนต์นั้นถ้าสวดอย่างต่อเนื่องจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมเพราะพลังงานที่ดีจากพุทธมนต์จะไปเปลี่ยนกระแสความเคยชินที่ไม่ดี
หัวใจหลักของการสวดมนต์และเห็นได้ชัด ว่าสวดแล้วเกิดผล คือจะต้องเกิด "ความเมตตา" เรายิ่งสวดมนต์จิตต้องมีเมตตา มีความเมตตาเข้าใจต่อตัวเองและผู้อื่น
เมื่อมีความเข้าใจเราจะเกิดความละอายและเกรงกลัวต่อบาปจะไม่อยากกระทำอะไรที่ไม่ดี กรรมที่ไม่ดีทั้งปวงเราจะไม่ทำเพราะเหตุถึงโทษแห่งการกระทำเหล่านั้น
หลังจากนั้นเราจะเร่งทำแต่ความดีเพราะเห็นประโยชน์ของการทำความดีและเห็นโทษของการทำสิ่งที่ไม่ดี ทำเช่นนี้พฤติกรรมของเราก็จะดีขึ้นตามลำดับ แต่หากเราสวดมนต์แป๊บเดียวและเราก็ไปเสพอารมณ์ทางโลกเล่นโทรศัพท์คุยกับหมู่คณะมีแต่สาระของเรื่องราวทางโลกเกิดพฤติกรรมการอิจฉาและนินทาสืบต่อไป ทำเช่นนี้เป็นทั้งมโนกรรมและวจีกรรมที่ฝังอยู่ในตัว ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเดิมที่ไม่ดีให้หลุดออกไปได้แต่ไปเพิ่มพูนพฤติกรรมที่ไม่ดีให้มากขึ้นกว่าเดิม
การที่เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้นั้นต้องตัดอารมณ์ทางโลกและหันมาสวดมนต์อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่สำคัญที่จะเกิดให้สังเกตจะต้องมีเมตตามีความละอายและเกรงกลัวต่อการทำบาปทั้งปวง หากเราพิจารณาและเห็นตัวเราเป็นเช่นนี้แสดงว่าเรามีการพัฒนา แต่หากเรายังมีความอิจฉาและนินทาผู้อื่นอยู่นั่นหมายความว่าการที่เราบวชเรียนมาภาวนามานั้นไม่เกิดประโยชน์ใดๆ เป็นแค่การหลอกตัวเอง
เพราะการปฏิบัติภาวนาเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้นเราอยู่บนเส้นทางนี้เส้นทางแห่งการปฏิบัติภาวนาก็เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้น หากเรายิ่งปฏิบัติภาวนาแล้วยิ่งถอยแสดงว่ามาผิดทางต้องทบทวนและแก้ไขไม่งั้นสิ่งที่ทำมาก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร
หากสิ่งที่หลวงตาพูดไปนำไปพิจารณาจะเห็นถึงประโยชน์ในการปรับปรุงและแก้ไขตัวเอง การปฏิบัติภาวนาสวดมนต์นั้นไม่มีอะไรเลยอยู่ที่ตัวเราเองทั้งนั้นอยู่ที่การพัฒนาจิตของเราพัฒนาพฤติกรรมของเรา หากเราจะทบทวนตัวเองก็ให้ทบทวนที่พฤติกรรมของตัวเราเองว่าเป็นเช่นไร ก็จะเห็นถึงผลของการปฏิบัติของเราเป็นเช่นนั้น
(พระเดชพระคุณหลวงตาม้า)
พบกับธรรมะสอนใจ ผ่อนคลายความกังวล เป็นประจำ... ขอขอบคุณสำหรับการรับชม กดติดตามกัน มา ณ โอกาสนี้ครับ...

[@พูลทรัพย์กลั่นครูวัฒน์]

กราบ สาธุ สาธุ สาธุค่ะ