พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร(หลวงตาม้า)[พระ] พระอริยสงฆ์แนวโพธิสัตว์ พระเถระ พระสงฆ์ พระศิษย์หลวงปู่ดู่
Вставка
- Опубліковано 30 лис 2022
- #พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร(หลวงตาม้า)#พระอริยสงฆ์ผู้บำเพ็ญแนวโพธิสัตว์ในยุคปัจจุบัน#พระเถระวิปัสสนา สายพระป่า#พระผู้มีเมตตาอันนับประมาณมิได้#พระสงฆ์ที่มีญาณบารมีแก่กล้า#พระศิษย์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ#พระอริยสงฆ์ที่กราบไหว้บูชาได้อย่างสนิทใจ#วัดพุทธพรหมปัญโญ(วัดถ้ำเมืองนะ) อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่#ปัจจุบันสิริอายุ 78 ปี(ในวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2565)
====================
ติดตามช่อง ทศพล ดำเนินผล Channel คลิปดีฯเพื่อคุณ
: / ทศพลดําเนินผล
====================
พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร(หลวงตาม้า) วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่อริยสงฆ์ในยุคปัจจุบัน ที่มีศรัทธาอยู่มากมายทั่วประเทศ
ในสมัยที่หลวงตาม้าเป็นฆราวาสนั้น ท่านเทียวไปเทียวมากรุงเทพฯ-อยุธยา เพื่อศึกษาแนวทางการปฏิบัติต่างๆกับหลวงปู่ดู่ เป็นเวลากว่า 10 ปี และมีความรู้สึกอยากบวชมาตลอด
หลวงตาม้า จึงได้ไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2531 ณ.วัดพุทไธศวรรย์ จ.อยุธยา โดยมีพระครูภัทรกิจโสภณ(หลวงพ่อหวล) เจ้าอาวาสวัดพุทไธสวรรย์ (สมณศักดิ์ปัจจุบันคือพระพุทไธสวรรค์วรคุณ)เป็นพระอุปัชฌาย์ ,พระครูสุนทรธรรมนิเทศ(บุญส่ง) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ,พระครูพิจิตรกิจจาทร(เสน่ห์)เป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยได้รับฉายาว่า"วิริยธโร"
พอออกพรรษาแรก ท่านได้ไปกราบหลวงพ่อหวล เพื่อขออนุญาตออกธุดงค์ เมื่อหลวงพ่อหวล อนุญาตแล้ว ท่านก็ไปกราบหลวงปู่ดู่ ที่วัดสะแก คืนนั้นไม่มีใครอยู่เลยที่กุฏิหลวงปู่ดู่ มีเพียงหลวงปู่ดู่และหลวงตาม้าเท่านั้นท่านเลยกราบลาหลวงปู่ดู่คืนนั้นหลวงปู่ดู่ ท่านได้เทศสอนหลวงตาม้า และบอกกับหลวงตาม้าในครั้งนั้นด้วยว่า"จำไว้ไม่ว่าแกไปไหน หรืออยู่ที่ไหน ข้าก็อยู่ด้วย" แกเอาพระองค์นี้ไป(พระรูปหล่อเหมือนหลวงปู่ดู่) หากเองสงสัยอะไรในการปฏิบัติ ให้แกถามเอากับพระองค์นี้
หลวงปู่ดู่ท่านให้พระปูนรูปเหมือนหลวงปู่ดู่ 1 องค์ หลวงปู่ดู่ท่านยังเมตตาให้เงินติดตัวท่านมาอีก 500 บาท พร้อมทั้งของใช้สำหรับพระสงฆ์ พร้อมกับสั่งให้ท่านขึ้นไปอยู่ภาคเหนือ เพราะเหตุผลบางอย่าง
พอตอนเช้าหลวงปู่ดู่ ท่านให้พระในวัดสะแก น้ำปิ่นโตข้าวมาให้หลวงตาม้า เพราะทราบว่าท่านไม่ได้ออกบิณฑบาตร เพราะเตรียมธุดงค์ขึ้นเหนือ
หลังจากกราบลาหลวงปู่ดู่ แล้วหลวงตาม้า ได้เดินทางโดยรถไฟไปยังเชียงใหม่ แล้วเริ่มออกธุดงค์กำหนดจิตตามหาสถานที่ที่มีกระแสพลังงานเกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ดู่ไปเรื่อยๆ จนไปถึงพระบาทสี่รอย
ท่านได้พบกับผู้เฒ่าคนหนึ่งที่ได้บอกเล่าถึง ต.เมืองนะ ว่ามีถ้ำที่มีบรรยากาศสงบสัปปายะเหมาะกับการปฏิบัติธรรม ซึ่งท่านได้ฟังแล้วรู้สึกว่ามีลักษณะคล้ายกับที่ตามหาอยู่ ท่านจึงได้ออกธุดงค์ต่อไปยังเมืองนะ เมื่อธุดงค์ถึงเมืองนะในช่วงแรกท่านได้ไปพักอยู่ที่ถ้ำฮก
ซึ่งท่านเล่าให้ฟังว่า ที่ถ้ำฮกจะมีงูอยู่ตัวหนึ่ง ตัวสีเขียวเหลือบแดง แล้วมีหงอนด้วย ก็คือพญานาคนั่นแหละ เขาจะมาขดตัวอยู่ใกล้ๆกับกลดที่เราปฏิบัติธรรมทุกวัน แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไรต่างคนต่างอยู่
โดยหลวงตาม้าได้อยู่ปฏิบัติธรรมที่ถ้ำนี้ประมาณ 1 เดือนแต่เนื่องจากถ้ำฮก เป็นถ้ำลึกที่มีทางน้ำใต้ดินไหลผ่านทำให้ถ้ำมีความชื้นมากไม่สะดวกต่อการอยู่ปฏิบัติธรรมนัก ท่านจึงได้ออกธุดงค์หาถ้ำอื่นต่อไป
หลังออกจากถ้ำฮก หลวงตาม้าได้ธุดงค์ตามกระแสพลังงานของหลวงปู่ดู่ไปเรื่อยๆ จนได้พบถ้ำเมืองนะ ซึ่งในสมัยนั้นมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมจนมองไม่เห็นปากถ้ำแต่เมื่อแหวกต้นไม้เข้าไปกลับพบว่าในถ้ำซึ่งเป็นถ้ำร้างนั้น กลับสะอาดสะอ้านมาก เหมือนมีใครมาปัดกวาดเช็ดถูอยู่ทุกวันท่านจึงได้กำหนดจิตดู ก็พบว่าใต้ถ้ำแห่งนี้ เป็นเมืองบาดาลและมีพญานาคอยู่เป็นจำนวนมากคอยเฝ้ารักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่ง ที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ทวดและหลวงปู่ดู่เอาไว้ ท่านจึงตัดสินใจอยู่ปฏิบัติธรรมที่ถ้ำเมืองนะแห่งนี้เรื่อยมา
ขณะที่ปฏิบัติธรรมอยู่ถ้ำเมืองนะหลวงตาม้าได้เจอกับภพภูมิต่างๆ ที่อาศัยกันอยู่ในบริเวณนี้บ่อยครั้ง
โดยท่านเล่าให้ฟังว่า"เคยเห็นเทวดาใส่ชฎามายืนอยู่หน้าถ้ำเราเห็นแต่ก็ไม่ได้สนใจ เขาเห็นเราไม่สนใจเลยบอกว่า ตุ๊นี่หยิ่งจริง วันหลังไม่มาดีกว่า หลังจากนั้นลองเรียกเขายังไงเขาก็ไม่ยอมปรากฏตัวมาหาอีกเลย...
หรือบางครั้งนั่งพักอยู่ในถ้ำก็เห็นเหมือนคนเดินผ่านหน้าไปแล้วก็เดินหายเข้าไปในผนังถ้ำต่อหน้าต่อตาเลยก็มี แต่เราก็เฉยๆไม่ได้สนใจอะไร
ต่อมาเมื่อหลวงปู่ดู่ มรณภาพลงเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2533 ท่านจึงได้ออกจากถ้ำเพื่อมาร่วมงานพระราชทานเพลิงศพในปีพ.ศ. 2534
โดยหลวงตาม้า ได้พิจารณาเห็นว่าเมื่อหลวงปู่ดู่ไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครคอยเป็นหลักในการเผยแผ่เมตตาช่วยเหลือภพภูมิทั้งหลายและสร้างพระเครื่อง เพื่อเป็นกุศโลบายให้คนหันมาปฏิบัติธรรม แทนหลวงปู่ดูเลย
ในขณะที่ตัวท่านเองเป็นลูกศิษย์ที่ได้ศึกษากระแสพลังเหนือพลังและความรู้ต่างๆจากหลวงปู่ดู่มาอย่างเต็มภูมิ รวมทั้งได้มาอยู่ถ้ำเมืองนะ ซึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รวมกระแสพลังงาน อันไม่มีประมาณของหลวงปู่ทวด ,หลวงปู่ดู่ เอาไว้อีกด้วย ท่านจึงควรจะช่วยทำหน้าที่วางรากฐาน และเผยแผ่แนวทางการปฏิบัติธรรม สร้างบารมีช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งหลาย และสร้างพระเครื่องเพื่อใช้ในการปฏิบัติธรรม ตามแนวทางของหลวงปู่ดู่ต่อไป
ปัจจุบันพระอาจารย์วรงค์คต วิริยธโร(หลวงตาม้า) จำพรรษาอยู่ที่วัดพุทธพรหมปัญโญ(วัดถ้ำเมืองนะ) อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จวบจนปัจจุบัน ด้วยสิริอายุครบ 78 ปี(ในวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 )ที่ผ่านมานี้
#เปิดบันทึกตำนานพระอาจารย์วรงคต วิริยธโร(หลวงตาม้า) วัดพุทธพรหมปัญโญ(วัดถ้ำเมืองนะ)
#ประวัติความเป็นมาพระอาจารย์วรงคต วิริยธโร(หลวงตาม้า)
#ประวัติปฏิปทาพระอาจารย์วรงคต วิริยธโร(หลวงตาม้า)
#ประสบการณ์ธุดงค์พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร(หลวงตาม้า)
#ทศพล ดำเนินผล
สาธุ สาธุ สาธุหลวงปู่ดู่✨🌟🌟🌟🙏🙏🙏และหลวงตาม้า✨🌟🌟🌟🙏🙏🙏
ขอหลวงปู่ณรงค์ วัดถ้ำผาปู่ จ. เลย ด้วยครับ
@Akarin Lava
"ขอบคุณมากครับคุณAkarin ที่แนะนำหลวงปู่ณรงค์ วัดถ้ำผาปู จ.เลย ให้"
How come your birthday cartoon photos