Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
กราบอนุโมทนา สาธุ สาธุสาธุ เจ้าค่ะ 🌺🧖🌺😇
ฟังธรรม ฟังคำองค์พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ
กราบเท้าท่านอาจารย์ขอบพระคุณครับ
ไปไหว้สะ ยายเเกอายุมากเเล้วใกล้จะ บรรลุเปนอรหอยเเล้ว😁😁😁
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุ
กราบอนุโมทนาค่ะ
กราบบูชาและน้อมระลึกถึงพระคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
สาธุค่ะ
ขอบคุณอ.คำปั้นคะ
สิ่งมีจริงๆ: สิ่งใดเกิดได้ดับได้ เป็นธรรมดา นี่เอง!?
อาจารย์สอนในหลักการ หลักตรรก คนฟังเลยเซ็งต้องขยายความบ้างว่าจริงอย่างไร อะไรคือความจริง และยกบุคคลาธิฐานมาบ้าง คนศึกษามาดีฟังก็เข้าใจแต่บางคนก็เริ่มศึกษาอาจารย์ต้องพิจารณาถึงจริตของคนฟังอธิบายชัดไปเลย ความจริงที่ว่าอะไร เห็นตามความจริงคือเห็นอย่างไรให้ มองเห็นภาพไปเลย อธิบายค้างไว้แบบนี้ท่านเรียกอธิบายไม่สิ้นกระแสธรรมผมติดตามคลิปธรรมอาจารย์มาตลอด
หมูอ้วน คนกันเอง ที่
หมูอ้วน คนกันเอง : เราฟังธรรมะบรรยายจากพระอริยะสงฆ์มาเยอะ ทั้งสายหลวงปู่มั่น นักปราชญ์ทางธรรม แต่ที่ยายพูด ใช้คำเยอะเกิน น้ำท่วมทุ่ง แล้วก็เพี้ยนจากคำสอนในพระไตรปิฏก ความรู้ตื้นเขินมาก อธิบายหยาบไม่เคยตรงประเด็น คงเพราะรู้น้อย เลยไปต่อไม่ได้ พาคนฟังลงเหวไปด้วย คนตาบอดจูงคนตาบอดยังไงยังงั้น ยายและสมุนชอบพูดซ้ำซากว่าต้องฟังให้เข้าแค่นั้น. ซึ่งเป็นความคิดที่เป็นมิจฉาทิฐิ เริ่มต้นด้วยมิจฉาทิฐิ สิ่งที่ตามมาก็ดำมืดแน่นอน
ครับคลิปไหนก็สอนแต่ว่าให้รู้เท่าทันความเป็นจริง พูดแค่นี้ไม่ขยายความต่อว่าอะไรคือความเป็นจริง อะไรความเป็นเท็จ รู้เท่าทันความเป็นจริงจะรู้ได้จริงอย่างไร จริงอย่างอริยสัจจหรืออย่างไร แต่ละเรื่องก็มีความเป็นจริงแตกต่างกันไป สังเกตุสีหน้าคนฟังซิยิ้มปุ๊ยิ้มปุ้ยเหมือนเบื่อโลก
ผมไม่เซ็งเลยครับ ก็ดีออก
@@Jin-se2zw แรกๆ..เรื่องพระวินัยบัญญัติอาจารย์ท่านชัดเป๊ะมาก..พอไปเรืองรูป จิต เจตสิก..ผมเริ่มไปไม่เป็นเอาแค่เรื่อง..คำว่าเรา..ตัดได้ยากมาก..ข้อดีคือฟังท่านอาจารย์สุจินต์..แล้วไปฟังของท่านอื่นจะเข้าใจได้ง่ายว่าเขาตรงต่อพระธรรมวินัยหรือไม่?
ถ้าฟังคำสอนจากพุทธวจน จะเข้าใจชัดเจน เพราะคำพระศาสดา ล้วนๆ
เคสนี้..คำพูดคุณ..พระในพระวินัย..ท่านก็สอนแบบนี้ เพราะเป็นพื้นฐานง่าย..บางครั้งก็เหมือนจะเข้าใจ..แต่พอฟังลึกๆ เข้าไปอีก..กลายเป็นแกว่ง..ตอบไม่ตรง..คนฟังไม่เข้าใจ..เพราะใช้คำพูดลึกลับ สับสน..ขึ้นลง..วก.วน.
สิ่งที่สำคัญและจำเป็นที่สุดคือการฝึกสติแต่ผมไม่ได้ยินยายเน้นนะครับ สติหนึ่งในมรรคมีองค์แปด เมื่อเจริญสติมากๆเราจะเริ่มเห็นสภาวะความเป็นจริงเพิ่มขึ้น การเรียนรู้อย่างเดียวแต่ไม่นำไปปฏิบัติมันจะช้าครับเท่าที่ผมสังเกตุดูนะครับและบางทีไปเพิ่มกิเลสในตัวเองอีกโดยไปคิดว่าตัวเองรู้มากกว่าคนอื่นเก่งกว่าคนอื่นตรงนี้อันตรายสำครับคนศึดษาธรรม คนที่เขาศึกษาและปฏิบัติไปด้วยจะเข้าใจโดยเห็นสภาวะธรรมได้เร็วกว่านั้นเอง สรุปให้ง่ายๆทำได้ตลอดเวลาคือเจริญสติครับ
สติเจริญในใจมากขึ้นจะเห็นความคิดตัวเองว่าเราคิดอะไรอยู่ เราจะรู้ทันกิเลสในใจเรา กายวาจาเราก็จะสงบขึ้นความฟุ้งซ่านทั้งหลายจะลดลงไปตามลำดับครับ
ถ้าเราเจริญสติอย่าจริงๆจังๆเราจะเห็นได้เลยว่าคำพระศาสดาเรารู้แค่เพียงคำเดียวแต่เราน้อมนำมาปฏิบัติอย่างจริงจังก็จะเป็นไปเพื่อความสุขชั่วกาลนานได้จริงๆ คำเดียวครับ สติ สติจะเป็นเครื่องมือที่เราฝึกฝนเพื่อให้เราเห็นสภาวะความเป็นจริงเห็นจริงเฉพาะตัวการปล่อยวางจะเกิดขึ้นเองครับ
กราบแทบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ ผู้เป็นพุทธสาวก ผู้แสดงคำจริง ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยความเคารพยิ่งในธรรม ผู้มีชีวิตอยู่เพื่อแสดงธรรรของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ลูกศิษย์ และผู้ฟังได้เข้าใจในธัมมะ. กราบอนุโมทนาครับ
อวยล้วนๆไม่มีธรรมะแม้แต่คำเดียว
อนุโมทนาสาธุครับ🌷🌷🌷🙏🏻
ขอบพระคุณครับท่านอาจารย์ ธรรมที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเข้าใจก่อนจึงปฏิบัติได้ ค่อยๆสะสมความเข้าใจไปเรื่อยๆ ความเป็นพระอริยบุคคลก็เป็นของยากเป็นแล้วเป็นเลยจะไม่ตกต่ำอีก....ขออนุโมทนาสาธุกับความพยายามที่ท่านอาจารย์กระทำอยู่ครับ
พระพุทธองค์ ทรงพระนามว่า “อรหันตสัมมาสัมพุทธะ” ก็เพราะได้ตรัสรู้ อริยสัจสี่(ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ)......ภิกษุ ทั้งหลาย. ! ความจริงอันประเสริฐสี่อย่างเหล่านี้ สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ?สี่อย่างคือ ….ความจริงอันประเสริฐคือ ความทุกข์,….ความจริงอันประเสริฐคือ เหตุให้เกิดทุกข์,…ความจริงอันประเสริฐคือ ความดับไม่เหลือของทุกข์…และความจริงอันประเสริฐคือ ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ นี้แลความจริงอันประเสริฐสี่อย่าง........ภิกษุ ทั้งหลาย. ! เพราะได้ตรัสรู้ตามเป็นจริง ซึ่งความจริงอันประเสริฐสี่อย่างเหล่านี้ ตถาคต จึงมีนามอันบัณฑิตกล่าวว่า “อรหันตสัมมาสัมพุทธะ”......................................มหาวาร. ส°. ๑๙/๕๔๓/๑๗๐๓.
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ไม่ว่าในอดีตหรือในอนาคตตรัสรู้ เรื่องอริยสัจ ๔
ชัดเจนครับเพราะอริยะสัจ4คือความจริง เพราะที่เขาพูดคือการปกปิดสิ่งที่อธิบายเช่นเขาไม่เคยอธิบายความหมายของศัพท์นั้นอีกอย่างพระพุทธเจ้าตรัสเสมอว่าการฟังมากคือไกด์ของการเรียนแต่ที่สำคัญต้องปฏิบัติด้วยตัวเองจึงจะบรรลุด้วยตัวเอง"ปัจจัตตังเวทิตัพพูวิญญูหี'ติ"วิญญูชนย่อมรู้เฉพาะตน ชาวพุทธจริงๆต้องศึกษาในหลักกาลามสูตรครับ ได้ยินได้ฟังไม่คิดแล้วไม่ปฏิบัติย่อมไม่รู้เพียงแคได้ฟังยิ่งคำความจริงที่เอ่ยอ้างนั้นพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก ยังไม่เคยบอกเลยว่าความจริงนั่นคืออะไร!!
Kreetha Tansubhaphol สาธุๆๆ
ยายแกให้ศีกษาธรรมะได้อรหันต์ก่อนถึงบวช..มันน่ากลัวนะ..ถ้าชายที่ต้องการบวชเป็นอรหันต์หมดแล้วใครจะทำงานโรงงาน..ใครจะเป็นยามใครจะขับรถ..ใครจะเป็นทหารยายก็พูดตามใจตัวเองไปเรื่อยเข้าหาความจริงได้แล้ว..ปากพาไปมันบาปนะ..สาธุ
พูดธรรมะก็พูดไป พูดเป็นกลางๆ กรุณาอย่า พูดกระทบสำนักนั่นสำนักนี้ อาจารย์นั่นอาจารย์นี้ สอนผิดสอนถูก...อย่างนี้อันตราย การยอมรับจะไม่มี ฆ่าผู้อื่นให้ตาย แต่ให้ตัวเองอยู่ อย่างนี้ นักปราญช์ตำหนิ...ไม่ใช่ผู้รู้จริง ต้องไม่กระทบสิ่งใดๆ สิครับ คนมีศรัทธาเขาจะเข้าใจของเขาเอง...ไม่ใช่มีศรัทธาเพราะพูดเหยียบสำนักอื่นๆ อาจารย์อื่นๆ สาธุ
ถ้าไม่กลัวเจอผู้ที่เข้าใจธรรมแจ่มแจ้งกว่าลองไปฟังพุทธวจน ดูนะครับ
พระสุปฏิปันโน บอกว่า พระพุทธเจ้าตรัสรู้อริยสัจ 4 และปฏิจจสมุปบาท โดยที่อริยสัจ 2 อย่างแรก ได้แก่ 1.ทุกข์ คือ ขันธ์ 5 ที่เรายึดมั่นถื่อมั่นว่าเป็นตัวตน เป็นของตน หรือติดข้องกับขันธ์ 5 จึงได้ชื่อว่า สัตตะ สัตโต(ผู้ข้อง) 2.สมุทัย คือ เหตุแห่งทุกข์ ได้แก่ กิเลสและกรรมว่าโดยภาษาธรรม คือ ตัณหา3 อวิชชา1 ทั้ง"ทุกข์และสมุทัย"อยู่คู่กับจิตไม่ห่างจากกันทั้งเกิดและตายเพราะมีปัจจัยสืบต่อที่เรียกว่า "ปฏิจจสมุปบาท"ที่มี "อวิชชา"อยู่หัวแถว สืบต่อให้ทุกข์และสมุทัย "คงอยู่กับจิต-พอกพูนที่จิต-นำพาจิตสืบต่อภพชาติ"ไม่มีที่สุด ซึ่งเราเห็นแต่การ "แก่-เจ็บ"ของตัวเอง เห็นแต่การ "เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย"ของผู้อื่น จิตทุกดวงอยู่กับทุกข์และสมุทัยมานานนับภพนับชาติไม่ถ้วน ท่านเรียกว่า ท่องเที่ยวไปกับการเกิดตายของสังขารร่างกาย และท่องเที่ยวไปกับการเกิดดับของขันธ์ 5 มายาวนับภพนับชาติไม่ถ้วนมาจนถึงบัดนี้ อริยสัจ 2 อย่างหลัง เป็นธรรมตรงกันข้ามกับ "ทุกข์และสมุทัย" ได้แก่ "นิโรธ" กับ "มรรค" ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงสอนให้เจริญธรรมฝ่าย "มรรค" ที่สรุปลงใน "ไตรสิกขา" คือ ศีล สมาธิ ปัญญา" ให้เจริญแก่กล้างอกงามบริบูรณ์ขึ้นในจิตตน จึงสามารถกำหนดรู้ทุกข์(ขันธ์ 5)ตามเป็นจริง พร้อมกับการละสมุทัยไปพร้อมกันตามกำลังแห่งมรรคที่เจริญขึ้นตามลำดับ เมื่อธรรมฝ่าย "มรรค"เจริญขึ้นสูงสุดเป็น "อรหัตตมรรคญาณ" หรือ "อาสวักขยญาณ" จึงสามารถกำจัด "อวิชชาสังโยชน์" หรือ "อวิชชาสวะ"ซึ่งอยู่หัวแถวของปฏิจจสมุปบาทลงได้เด็ดขาด" ทำให้สายสืบต่อแห่งปฏิจจสมุปบาทขาดสะบั้นลงไปพร้อมกับ "ทุกข์และสมุทัย" จึงมีของใหม่คือ "นิโรธ"เข้ามาแทนที่ ทั้งหมดนี้ท่านเรียกว่า "ทำกิจหรือทำหน้าที่อริยสัจ 4"ในตน การท่องจดจำเรื่องของ "ศีล สมาธิ ปัญญา พระอภิธรรม พระพุทธวันะ"ได้จนขึ้นใจนั้น เป็นสิ่งดีอยู่ แต่ก็ยังใช้การได้ไม่ดี ยังละอาสวะไม่ได้ ต่างจากการเจริญธรรมฝ่าย "มรรค"โดยทำให้จิตเป็น "ศีลวิสุทธิ์"ก่อนแล้ว ก็จะเป็นฐานให้จิตเป็น "จิตตวิสุทธิ์"(จตุตถฌานขึ้นไป) แล้วใช้จิตวิสุทธิ์เจริญวิปัสสนาเข้าถึง "ปัญญาวิสุทธิ์ 5" สุดท้ายก็ใช้ปัญญาวิสุทธิ์อบรมจิตออกจากอาสวะทั้งปวงที่รวมถึง "อวิชชาสวะ"ด้วย จิตหลุดพ้นจากขันธ์ 5 (ขันธวิมุตติ) เข้าถึงพระนิพพานอันเป็นจุดหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนาเน้อ
กราบแทบเท้าบูชาคุณ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ กราบอนุโมทนาค่ะ🙏🙏🙏
ไม่รู้เป็นใครตีนเหม็นป่าวก็ไม่รู้
พระอภิธรรมเป็นสิ่งที่ละเอียดมากๆ ค่ะ ไม่ใช่ลัทธิ และมีมานานมากแล้ว เป็นเรื่องดี เรื่องจริงที่บางคนอาจะไม่ยอมรับในความจริงต่าง ๆ ขอขอบพระคุณท่านอ.สุจิน หนูสนในและติดตามพยายามหาข้อมูลแนวทางปฏิบัติของท่านอ.แนบ มานานแล้ว กราบขอบพระคุณนะค่ะ อยากมีโอกาสได้กราบอาจารย์ค่ะ
ใช่ครับๆ เห็นด้วยๆ
Ms Jintanat : ยังมีเวลาหาความจริงของพระธรรมวินัยแท้ๆของพระพุทธเจ้า และวิธีดับทุกข์ตามที่พระพุทธเจ้าให้เดิน แต่ไม่ใช่เส้นทางที่ยายคนนี้บอก ถ้าอยากรู้คำสอนที่แท้จริงก็ไปหาในยูทูปเลย มีเยอะ เช่น ธรรมะบรรยายของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป อ ปยุตโต วัดญาณเวสกวัน แล้วจะเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าต้องการให้เราเดินทางใหนที่ปลอดภัย ไม่ต้องไปนรกอีก แนะนำได้เท่านี้ ถ้ามีโชคดี คงเจอสิ่งดีๆ สุดแล้วแต่กรรมของแต่ละคนที่ทำกันมา
หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี วัดมเหยงคณ์ ท่านก็เรียน ก็สอนอภิธรรมค่ะ.. สอบได้ที่ 1 ของประเทศด้วย.. ลองฟังดูแล้วจะรู้.. จะเห็นความต่าง..
งงจริงๆ.สระสมความจริงใจ.มีสิ่งที่มีจริงๆ.ฟังธรรมะทีละคำ.ความติดข้อง.ไม่รู้อะไรเลย.สุดท้ายก็ให้ไปหาพระเจ้า...สาธุ
ผมนับถือศาสนาอื่น ตอนนี้สนใจอยากเริ่มรู้จักพุทธบ้าง บังเอิญเจอคลิปนี้ *ผมฟังจนจบแต่ผมยังไม่ทราบเลยว่าพุทธเจ้ารู้อะไร* ผมได้ยินแต่ *คำเดิมๆ* ธรรมะ ความจริง ของอะไร ต้องรู้คำก่อน กำลังปรากฎ งง
ธรรมชาติ = ความจริง เป็นสิ่งที่เข้าใจยาก รู้ความจริง = ปัญญาปัญญา..เป็นธรรมชาติที่รู้สภาพความจริง ที่ปรากฏปัญญา..จะเกิดเมื่อรู้และเข้าใจความจริง ซึ่งเเตกต่างจาก เทวนิยม ที่มุ่งแต่สอนให้เชื่อๆ โดยไม่สามารถหรือพิสูจน์ความจริงที่กำลังปรากฏ เมื่อไม่รู้ย่อมหลง เพราะหลงย่อมเห็นผิด เพราะเห็นผิดจึงดิ้นรน เพราะดิ้นรนจึงยึด เพราะยึดจึงทุกข์.
@@พนิตตาพรมบุตร ขอบคุณครับ สำหรับคำตอบตอนที่ comment ผม ฟังแล้วงง สับสน ว่า พุทธเจ้า ค้นพบ อะไร ฟังจนก็ไม่เห็นจับใจความได้เลย (แต่ผมก็ comment แรงไป ตอนนั้นอารมณ์เสียครับ) เดี๋ยวผมจะ edit คำให้ดีขึ้นครับ ที่คุณพูดถึง เทวนิยม ศาสนาผม พระเจ้าออกแนวยื่นหมูยื่นแมวครับ คือ มีรางวัลสำหรับคนเชื่อพระองค์ และ มีคำสาปแช่งสำหรับคนไม่เชื่อพระองค์ (จึงไม่ใช่การอ้อนวอนเลยทีเดียวครับ) *แต่ของพุทธหลักการขึ้นสวรรค์คืออะไรครับ*____อ้างอิง___*“อย่าสร้างแบบจำลอง* ให้กับตนเอง เป็นรูปสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่มีอยู่ในฟ้าสวรรค์เบื้องบน แผ่นดินโลกเบื้องล่าง หรือท้องน้ำเบื้องลึก *อย่ากราบไหว้หรือนมัสการสิ่งเหล่านั้น เพราะเรา พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าเป็นพระเจ้าผู้หึงหวง เราจะลงโทษลูกหลานของผู้ที่เกลียดชังเราไปสามสี่ชั่วอายุเพราะบาปของเขา แต่เราจะรักลูกหลานของผู้ที่รักเราและปฏิบัติตามคำสั่งของเราตลอดพันชั่วอายุคน* เฉลยธรรมบัญญัติ 5 :8-11 TNCVbible.com/bible/179/deu.5.8-11.TNCV
พุทธ..ข้ามพ้น นรก สวรรค์ ไปไกลมากเเล้ว นรก สวรรค์ เป็นส่วนหนึ่งในระบบ "สังสารวัฏ" นรก..เกิดจากการกระทำ กาย วาจา ใจ ที่ประกอบด้วย "ทุจริต" (อกุศลธรรม)สวรรค์..เกิดจากการกระทำ กาย วาจา ใจ ที่ประกอบด้วย "สุจริต" (กุศลธรรม)นรก สวรรค์ เกิดจากปัจจัยเหล่านี้.
@@guybangkok พุทธต้องปฏิบัติ ดินจงกรม นั่งสมาธิ อบรมทั้งศีล สติ สมาธิ ต้องกำหนดทุกข์ให้ได้ พุทธมีการผิดเพี้ยนของสัทธรรมมาก ไม่แปลกใจที่คุณฟังยายแล้วจะงงเพราะแกไม่เคยภาวนาเลย ฟัง อ่าน จำ คิด ถาม ตอบ สรุป อภิปราย วนไปวนมา นี่ไม่ใช่วิธีของพุทธครับ
@@guybangkok คุณลองฟังธรรมสายพระป่า เช่น หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี นี่คือธรรมพุทธแท้ๆที่ออกมาจากการปฏิบัติของะระอริยสงฆ์ที่ชาวพุทธเคารพครับ😄
ทุกอย่างเป็นอนัตตา พระธรรมก็เป็นอนัตตา คือเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่ควบคุมทั้งหมดทั้งปวงได้คือพระเจ้าไช่มั๊ยครับ
ถ้าท่านอยากเข้าถึงธรรมจริงๆ แต่ไม่รู้วิธีปฎิบัต ฟังหลวงปู่เทียนครับท่านสอนธรรมแท้จริงๆ ฟังไม่วกวงอยู่แต่ในตำรา
อนุโมทนาด้วยกุศลจิต ค่ะ
พระพุทธเจ้าเคยตรัส"ทุกคนต้องปฎิบัติเองถึงเห็นเองแม้แต่ตัวเราก็จงอย่าฟังอย่าเชื่อเพราะสิ่งนี้ไม่สามารถทำให้ท่านหลุดพ้นได้"นอกจากตัวท่านเองเพราะธรรมมะของเราเกิดขึ้นและดับลงมันคือธรรมชาติรอบตัวเรา
โมฆะสตรีชัดๆ
ฟังผู้บรรยายร่วมก้วนอาจารย์สุจินต์ ยังเข้าใจง่ายกว่า จารย์เล่นพูดวกไปวนมาอยู่ที่เก่า
การรู้หรือเห็นแจ้งในสภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริงในไตรลักษณ์นั่นคืออรหัตผลนะครับ เอาแค่ระดับประถมให้ได้ก่อนดีไหม ยังยินดีพอใจในกามคุณทั้งห้าอยู่หรือไม่ เช่น ยังต้องการประดับตกแต่งร่างกาย ย้อมผมอยู่หรือไม่ เวลากินอาหารยังติดในรสหรือต้องปรุงรสหรือไม่ ยังชอบกลิ่นหอมแต่รังเกียจกลิ่นเหม็นอยู่หรือไม่เมื่อถูกคนด่ายังรู้สึกโกรธอยู่หรือไม่ ยังติดอยู่กับความสะดวกสบายเกินกว่าเพื่อการดำรงชีพหรือไม่ รู้เท่าทันอารมณ์ต่างๆของตนเองหรือไม่ เช่น พอใจไม่พอใจ สุขทุกข์สามารถอยู่ในอุเบกขารมณ์ ได้ทุกเมื่อหรือไม่ หากคำตอบตนเองคือไม่ หมายความว่ายังเป็นเพียงปุถุชนผู้ยังมากไปด้วยอาสวะกิเลส
รู้หรือว่าท่านแปลภาษาในคัมภีร์ออกมาถูกตรงตามที่พระพุทธองค์สอน ในภาษาของเรา ถ้าประเทศอื่นเขาแปลไปอีแบบล่ะเขาก็ว่าเขาแปลถูกล่ะ เราจะว่าใครถูก นี่แหละผู้ยึดตัวคัมภีร์มีมานะอัตตาไม่รู้ตัว
คุณรู้แจ่งเหลือเกินผมขอถามหน่อยว่าคุณเป็นอรหันต์แล้วหรือยังถ้าคุณยังไม่เป็นคุณจะรู้อะไรการปล่อยวางการสละคุณยังไม่มีเลยคุณยังละกิเลสไม่ได้เลยพระพุทธเจ้าพระองค์ต้องเข้าไปสมผัสด้วยพระองค์เองจึงเข้าใจคุณสมผัสสิ่งเหล่านั้นแล้วหรอยังคุณเคยเห็นความทุกจริงๆๆไมความทุกที่เกิดจากการปฏิบัติถ้าคุณละทิฏฐิความเห็นผิดของคุณๆจะเข้าถึงธรรมะได้อย่างแน้นอนเพราะตอนนี้คุณกำลังหลงตัวเองว่ารู้ๆจากการอ่านไครเขาก็รู้แต่รู้จากการปฏิบัติสิรู้ไมรู้จริงไมเข้าใจไมหึ
ปมเดาว่า เรียนมากรู้มาก ทามบ่ได้หรอก ท่าทำได้ไหนจะมาติพระ บ่ใช่คนดีหรอก คนติพระบ่อยๆๆๆๆๆเกิน เปนของเล่น 😁😁😁
สนทยา คถต*ปฏิบัติ อย่างเดียวเลยหรือเปล่า จึงจะทำให้เข้าถึงความ ความจริงอันประเสริฐ ตามที่พระสัมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศไว้ได้ ถ้าไม่ศึกษาธรรม ให้รู้ชัดตามความเป็นจริง โดยละเอียดเสียก่อน แล้วที่ว่า*ปฏิบัติ *ปฏิบัติอย่างไร ตามความรู้ใด ...? หรือไม่ต้องรู้ ก็*ปฏิบัติได้ อย่างเช่นตอนนี้ ผมไม่เห็นประโยชน์แล้วที่จะมานั่งฟัง นั่งศึกษาการถ่ายทอดองค์ความรู้ศาสดา ผมจะลงมือปฏิบัติในตอนนี้เลย *ปฏิบัติยังไง..? ทำอะไรก่อนล่ะในลำดับแรก จะอาศัยองค์ความรู้ใดมาประกอบในการ*ปฏิบัติ ถ้าไม่ศึกษาธรรม ให้รู้ชัด แค่เริ่มปฏิบัติยังเริ่มไม่ได้เลย แต่ถ้าท่านคิดว่าท่านรู้แล้ว แต่รู้ไม่ชัด ท่าน ปฏิบัติไปท่านก็สูญเปล่า
ถึงละกิเลสได้คือมันจะหายไปเลยหรอหมดสิ้นหมดเลยหรอไม่เงียนไม่อยากเย็ดรูหีไช่ป่าวถุ้ยไอ้เหี้ยดับกิเลสได้มันก็ยังมีอยู่ความเงียนเพราะมันยังมีสังขารร่างกายอยู่พระคือจิตของทุกคนบนโลกที่ไปบวชเเม่งผิดหมดมันมีตัวตนคนสัตว์ไปเรียบร้อยเเล้วสอนว่าตัวตนคนสัตว์ไม่มีเเหละมันจะมีไครมาสอนธรรมะพวกมึงเล่านี่เเหละธรรมแท้ฟังเเค่นี้มึงบรรลุธรรมเลยก็ได้
พวกมึงคิดเอาเองถามว่าทำได้ป่าวที่พูดมามึงก็ทำไม่ได้ไอ้เวรพูดเป็นต่อยหอยเลยพูดสวยหรูสนุกปากอร่อยรูตูดคุยไปทั่วจักวาลพิภพ
@@รักหมาเเละเเมว ที่แสดงออกมาเพื่อ...? ดูหมิ่นถากถางผู้อื่น เพื่อไรหรอ คิดว่าดึงคนอื่นให้ดูตกต่ำ แล้วตัวเองจะดูสูงสงขึ้นงั้นหรอ..?
กราบเท้าท่าน อ.สุจินต์ และขออนุโมทนา สาธุ🙏🙏🙏
กราบไม่ได้นะตีนเป็นตาปลา
เลื่อนลอย
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ "อริยสัจ 4"และ "ปฏิจจสมุปบาท" ซึ่งมีอยู่ในตัวเรา ......อริยสัจ 4 ได้แก่ 1. ทุกข์(ขันธ์ 5 ที่รวมถึงสังขารร่างกาย) 2.สมุทัย เหตุแห่งทุกข์ ได้แก่ กามตัณหา(ความกำหนดยินดีในกามารมณ์ 5=กิเลส) ภวตัณหา(ความติดใจในภพชาติ=กรรม) วิภวตัณหา(ความติดใจฝ่ายมิจฉาทิฏฐิ= กรรม) อวิชชา(ที่ตั้งความไม่รู้ 8 ประการ=กิเลส) 3.นิโรธ(ความดับสนิทแห่งทุกข์ เพราะสมุทัยดับไป) 4.มรรค คือ ทางดำเนินเพื่อความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ ได้แก่ บุญกิริยาวัตถุ 10 กุศลกรรมบถ 10 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา โพธิปักขยธรรม 37 ทั้งหมดรวมลงใน "ไตรสิกขา" คือ "ศีล สมาธิ ปัญญา" เมื่อยังเข้าไม่ถึง "นิโรธกับมรรค" จิตเราสัมประยุตต์กับทุกข์(ขันธ์ 5)และสมุทัย(กิเลสและกรรม) โดยมี "ปฏิจจสมุปบาท"เป็นปัจจัยสืบต่อให้ทุกข์และสมุทัย "คงอยู่กับจิต-พอกพูนที่จิต-นำพาจิตสืบต่อภพชาติ"ไม่มีที่สุด ชื่อว่า จิตท่องเที่ยวไปกับการเกิดตายของสังขารร่างกาย และท่องเที่ยวไปกับการเกิด-ดับของขันธ์ 5(นามรูป)ในสังสารวัฏยาวนานมานับภพนับชาติไม่ถ้วนจนถึงบัดนี้ เพระอำนาจของ "อวิชชา"โดยแท้ พระอริยสงฆ์เจ้า พระโยคาวจรเจ้า ท่านวางตำรา วางการท่องจดจำ แล้วใช้เวลาทั้งชีวิตมาปฏิบัติตามพระพุทธเจ้าด้วยการ "ทำกิจหรือทำหน้าที่อริยสัจ 4" มุ่งเจริญสีลให้เป็น "ศีลวิสุทธิ์ 1" ขึ้นในจิตใจแห่งตนก่อน แล้ว "จิตตวิสุทธิ์ 1 " (สมาธิชั้นจตุตถฌานขึ้นไป) ก็เกิดตามมา ท่านรู้และเห็นตามเป็นจริง ดังพระพุทธวาจาว่า ภิกษุทั้งหลาย จงเจริญสมาธิ เพราะเมื่อจิตเป็นสมาธิแล้ว ก็รู้ตามเป็นจริง อาจลรรลุ "วิชชา 2" คือ บุปเพนิวาสานุสติญาณ(ระลึกชาติ) และ "จุตูปปาตญาณ" รู้เห็นจุติของสัตต์(ผู้ข้องกับขันธ์ 5 คนละคำกับ สัตว์) เช่น เห็นนรก สวรรค์ ฯลฯ ซึ่งบุคคล(รวมถึงผมด้วย)ที่เอาแต่อ่าน ท่องจดจำพระพุทธัจนะ คำพระตถาคต พระอภิธรรม มากมาย มีความทรงจำพระธรรมมาก พูดภาษาธรรมได้คล่องแคล่วไม่ติดขัด ไม่มีโอกาสเข้าถึง "วิชชา 2" ดังกล่าวมา การเจริญวิปัสสนาของพระอริยสงฆ์ ท่านเจริญวิปัสสนาบนฐานของ "จิตตวิสุทธิ์" (สมาธิชั้นจตุตถฌานหรือฌานที่ 4) ก็ทำให้ "ปัญญาวิสุทธิ์ 5 " เกิดตามมา ขณะเจริญ "วิสุทธิ์ 7"(ศีลวิสุทธิ์1+จิตตวิสุทธิ์1+ปัญญาวิสุทธิ์ 5)อยู่นี้ ได้กำหนดรู้ทุกข์(นามรูป/ขันธ์ 5)ตามเป็นจริงพร้อมกับการละสมุทัยไปพร้อมกันตามกำลังแห่งมรรคที่เจริญขึ้นตามลำดับ เมื่อธรรมฝ่ายมรรคเจริญขึ้นสูงสุดจนเป็น "อรหัตตมรรคญาณ" หรือ "อาสวักขยญาณ" ก็สามารถกำจัด "อวิชชาสังโยชน์ หรือ "อวิชชาสวะ"ซึ่งอยู่หัวแถวของ "ปฏิจจสมุปบาท"ลงได้เด็ดขาด ทำให้ "ปฏิจจสมุปบาท"ขาดลงไปพร้อมกับ "ทุกข์และสมุทัย" จึงมีของใหม่ คือ "นิโรธ"เข้ามาแทนที่ เข้าถึงพระนิพพานอันเป็นจุดหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา พระอริยสงฆ์ ท่านเดินตามพระพุทธเจ้าด้วยการ "ทำกิจหรือทำหน้าที่อริยสัจ4" ดังกล่าวมา พระอริยสงฆ์ชั้นพระอเสข เข้าถึง "วิชชา 3" คือ 1.บุพเพนิวาสานุสติญาณ 2.จุตูปปาตญาณ และ3.อาสวักขยญาณ ด้วยการเดินตามพระพุทธเจ้า ส่วนพวกเราท่านทั้งหลาย(รวมถึงผมด้วย)ใช้เวลาทั้งชีวิตเอาแต่อ่าน ท่องจดจำ พระพุทธวัจจนะ คำพระตถาคต พระอภิธรรม จนมีความทรงจำพระธรรมมากเกินพอดี ก่อวิวาทะทั้งภายในตัวเอง และภายนอกตัวเอง จะเข้าถึง "วิชชา 3 "ดั่งพระอริยสงฆ์ พระอริยบุคคล ได้บ้างหรือเปล่าหนอ?
Sukrip Lar : สำนักนี้ไม่รู้เรื่องยอดคำสอนของพระพุทธเจ้าหรอก มันยากเกินปัญญาของคนพวกนี้จะเข้าใจได้ พวกเด็กอนุบาล เค้าจะสอนเด็กแรกเกิดน่ะ ถึงวนไปวนมาที่เดิมๆ บางครั้งก็ส่งจิตที่มีแต่อกุศลไปโจมตี ดูถูกผู้อื่นบ้าง ติเตียนสงฆ์บ้าง คนที่สอนธรรมมะอ้างแต่พระพุทธเจ้าตลอดเวลา แต่กลับปฏิบัติตรงข้ามกับคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างสิ้นเชิง มันเป็นใครกัน ??
ศึกษา มาก แต่ไม่ขัดเกลา มันจะสกบก เหมือน เมา ธร รม จนไม่รู้ตนเอง สูงตำ ไม่รู้คุฌพระ คุฌเจัา เพรา ะ เมา เมื่อเมา จะ ไประวังไร มีแต่ความประมาท ความเสียหาย
จะหลอกลวงจนตายหรือยายไม่กล้าแม้แต่จะบอกช่วโลกว่าใครคือศาสดาข องยายคำพูดของย่ยเป็นไวร้สจนออกพรรษาพระตัมม่ม่าฉันแล้วจะฆ่าพระใช่นรกถามหาเอัยใหม
สะสมความจริงใจ แม๋ สะสมกิริยา ลืน ล่วง เถียงพ่อเถียงแม่ กิริยาแวกแนว นอก คอก สะ สม กิริ ยา ลืนพระลืนสฆ ฆ สิไม่ว่า สะสม อธร รมต่างหาก ใม่ตัองพูดมากรู้มากหรอก การนฎิบัติดี นะ แค่สะสม ความนอบนัอม นโม สะสมกิริยา แห่ง ศีล ธร รมจร รยา สะ สมความเคารพ ผู้หลักผู้ใหฌ่พระ เจัาพระสฆ ฆ สะ สมความเมต ตาอ่อนนัอยถ่อมตนเท่านี่ละ เป็น ปุฌเป็นกุศ ล แลัว รู้มั้ย ยาย
พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรมสูงสุดที่มีในตัวเราทุกคน คือ อริยสัจ 4 โดยที่ทุกคนมี "จิต หรือ ใจ หรือ มโน"และสิ่งที่เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไปในจิต ชื่อว่า "ธรรม"ซึ่งมี 2 ฝ่าย คือ (1) ธรรมฝ่ายทุกข์(ขันธ์ 5)และสมุทัย(กิเลสและกรรม)เป็นเจ้าเรือน เป็นธรรมเกิดดับอยู่ที่จิต มีปฏิจจสมุปบาทเป็นปัจจัยสืบต่อให้ทุกข์และสมุทัย "คงอยู่กับจิต-พอกพูนที่จิต-นำพาจิตสืบต่อภพชาติ"ไปกับพวกมันนับภพชาติไม่มีที่สุด การแก่งแย่ง รบราฆ่าฟัน สงคราม ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข (โลกธรรม 8)ดีใจ เสียใจ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ฯลฯ ก็เป็นธรรมในฝ่ายนี้ (2) ธรรมฝ่าย "นิโรธและมรรค" เป็นของบุคคลผู้สำนึกชอบเพราะเห็นตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน จึงละธรรมฝ่าย "ทุกข์และสมุทัย"ที่เคยเป็นเจ้าเรือนทิ้ง แล้วนำของใหม่คือธรรมฝ่าย "นิโรธกับมรรค"เข้ามาเป็นเจ้าเรือนแทน ชื่อว่า เป็นผู้ทำกิจหรือทำหน้าที่อริยสัจ 4 ในจิตแห่งตนเน้อ !
พวกคุณรู้มาจากไหนว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไรถ้าไม่ใช่จากตำราคัมภีร์ที่บันทึกมา รู้แล้วบรรลุได้อย่างพระอริยะเหล่านั้นหรือปล่าวหรือแค่สัญญาจำแล้วเอามานั่งหลอกตัวเองว่ามีภูมิธรรมเหนือกว่าคนอื่นคนรู้ธรรมอาจจะไม่ใช่คนมีธรรมก็ได้ ก่อนที่พระพุทธองค์จะปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุและนำหลักธรรมมาสอนท่านไปฟังธรรมมาจากใครเลิกพยายามบิดเบือนศาสนาให้เข้ากับจริตของตัวเองสักที
sandan191 : คนบาปจะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำบาปอย่างหนักที่บิดเบือนคำสอนของตถาคต
ท่องจำบัญญัติพา ท่านบรรยาย..ตลบ ตะแลง"ไม่ว่าอะไร ต้องจริง ขณะนี้ " ท่าน อาจารย์ พูดถูก พูดตรง พูดจริง ชัดชัดเป็นเหตุเป็นผลดี.. ท่าน อ.สุจินต์ บอกว่าพระพุทธเจ้าพูดถึงสิ่งที่มีขณะนี้ ขอกราบชื่นชมท่านด้วยตรงนี้ " ยอดแห่งจริง " คำจริงนี่ ฟังง่าย..ตรงๆ ไม่ งง ธรรมะ ....... กราบสาธุ.... แต่.ท่าน...อาจารย์ สุจินต์ จะเริ่ม วก วน วัวพันหลัก อีกที วก วน ย้อนแย้งในคำตนพูดอีก ก็ ตรงมักมาอ้างกลับอีกสิ ว่า ธรรมะ รู้ได้ยาก ธรรมะรู้ได้ยาก ทั้งๆ ที่พูด ทั้งๆ อธิบายมาซะดิบดี ฟังดีก็ใช่ ก็ถูกเป็นเหตุเป็นผล สมเหตุสมผล แต่ ว่าพอ ฟังง่ายดี เข้าใจดีนะ..แต่พอ ท่าน อาจารย์ สรุป ก็จะ วก จะ วน อีกมาอ้าง อดีต 2500 ปี ยกมาอ้างว่ารู้ได้ยากอีกแล้ว อ้าง อีก ที ว่าพุทธองค์กว่าจะรู้ มาได้นี่ มันยากมากมันสั่งสมบารมี นานแสนนาน ยากแสนยาก ก็ใช่ใช่อีกแหละ แต่นั่นก็พระพุทธองค์ ท่าน ..นี่มันเรา เอาให้ชัดชัด..นั่นไปอ้างอดีตแบบคิดแบบไปให้ความหมายเองผิดๆ 2500 กว่าปี และอ้างย้อนว่า ยากไปหลายแสนกัปป์อีกเลยโน่น ใช่ก็พระองค์ที่จะมาตรัสรู้นี่ ก็เป็นแนวทางสร้างบารมี ยากมากนั่นปกติ ของทุกๆพระองค์ท่านอยู่แล้วจ้า...แต่นี่เรา และเราปัจจุบันอยู่วันนี้ มีอริยสัจจ 4 มี มรรค 8 ที่พระองค์บอกเรามาแล้ว ชี้ชัดให้เราแล้ว ไม่ใช่ยุคมืดไม่ใช่ยุคตามหาความจริงเองเหมือนตอนพระองค์แสวงหา แต่เป็นยุคหาเจอแล้วและบอกพวกเราอยู่ชัดชัด ขณะนี้ วินาทีนี้ จริงขณะนี้นี่ คือ คือ ตอนนี้จ้าท่าน...จ้า.. จะไปคิดเอาเองอย่างพระพุทธองค์ท่าน เรานะไม่ใช่ท่าน เราขณะนี้จ้าท่าน รู้ตนตื่น ตื่นซะขณะนี้ ไม่ใช่อดีต 2500 กว่าปีซะที่ไหน จ้า.. ต้องเข้าใจนะว่า พระพุทธองค์น่ะ แน่นอน พระองค์ท่านทรงสร้างพระบารมีมานั่น ย่อมมากย่อมยากมาก นั่นคือปกติทุกๆพระองค์ท่าน เราอย่าไปหลงเป็นยาก อย่าไปเป็นพระองค์เองสิ เป็นพระพุทธองค์ซะเองสิได้ไง มันคนละอย่าง คนละคน จะไปยกเราตามท่าน อ้างอ้างอดีตอะไร จะไปเป็นท่านได้งัย นี่มันเราจ้า เรา คือ เรา ท่าน คือ ท่าน จ้า เข้าใจสิ เข้าใจตนเองด้วย เราจะไม่ใช่พระพุทธองค์นะจ๊ะ จึงอย่าไปอ้างว่า ยากยากอย่างพระองค์ท่านได้ยังไงหละ คนละอัน คนละรูป คนละนาม คนละบารมีจ้า อย่าอ้างว่าอ้างว่านัก ทีนี้วิทยากรชายนี่ จะตัวพูดเสริมคำ ท่าน อ.สุจินต์ อวยคำท่าน คอยพูคประจบ พูดหนุนคำท่าน..ต่อ..ว่าธรรมะนี่รู้ได้ยากอีกวิทยากรเลยแถตาม แผงตาม อวยตาม เหมือนไม่เอาสมองตนมา มาพูด ตั้งใจมาอวย ฝังหัวตามว่าธรรมะ ยากยากอีกคน มันจึงย้อนแย้ง แย้งกับการอธิบาย ที่พูดว่า ธรรมะ คือ สิ่งที่มีจริงขณะนี้ ตรงนี้ใช่ นี่ฟังง่าย.. ทั้งๆ ที่พูดมาซะ จริง ฟังง่ายๆดีนะ ก็เข้าใจง่ายดีอยู่นะ ท่าน อาจารย์..แต่เดี๋ยวๆ ก็กลับไปพูดว่า ยากๆอีกอยู่นั่นแหละ ว่าธรรมะยาก นี่วก วนนะ รวมทั้ง ที่วิทยากรชาย อ่อนสมอง ที่ได้แต่คอย คอยอวยคอยเสริมคำ แก่ท่าน อาจารย์ สุจินต์อยู่นั่น ก็จะพากันบอก ว่า ธรรมะนี่รู้ได้ยากยากอีก..ก็อริยสัจจ4 พระองค์เอามาบอกแล้วก็รู้ตามซะซี่จ๊ะ ...มันเลยยากเอาเอง นี่คิดใหม่เอาเองอีกสิ ว่ายากก็ยาก เพราะคิดเอาเอง ยาก เพราะเพียง คิดเองว่ายากสิทีนี้ 🤣🤣😃😃😃😂..ทั้งๆที่ พระพุทธองค์ ทรงตรัสรู้ พระพุทธองค์ ได้ทรงเปิดของที่คว่ำให้หงายแล้ว ง่ายแล้ว ผู้มีตาดีจะมองเห็นได้พระองค์ตรัสไว้ไง๊ พระพุทธองค์ก็ตรัสว่า พระองค์ทรงจุดประทีปในที่มืดแล้ว ก็แจ้งแล้วนะ สว่างแล้วนะ ผู้มีตาดี จะมองเห็นได้ ก็ตรงๆดี ง่ายๆ คำเพราะๆ เบาๆ ดี คือ ที่พระองค์ตรัสรู้ธรรมบรรลุธรรมแล้วนี่แหละ สว่างแล้วแก่พวกเราตาดี ไม่ยากแล้ว ...แต่ทำไม ท่าน อาจารย์ และ วิทยากรชายนั่น ยังบอกยังมาแถ มาอวยกัน..ว่ายากอีก..วก วน..ตาปัญญาบอดสนิทหรือไร..จึง..ไม่รู้..ทั้งๆที่ของยากนั่น ง่ายแล้ว โดย พระองค์ทรง เปิดของที่คว่ำ ให้หงายแล้ว ทรงจุดประทีปในที่มืดให้แจ้งแล้ว ผู้มีตาดีย่อมมองเห็นได้...ก็ดีแล้ว...แล้ว ท่าน ที่สอนที่บรรยายนี่ จะบอดจะดักดานไปถึงไหน ถึงชอบบิดเบือนธรรมะเอาเองคอ้างว่ายาก ยากจะรู้ยากจะเห็นได้อ้างตลอดมา..ยังจะมาเสียเวลาสอนบัญญัติแบกบัญบัติอยู่ดักดานทำไมกันงั๊น อายุก็ 90 กว่าๆแล้ว...มาโพนทนาคิดเอง..ว่ายาก..ยาก..และจามาสอนทำไมนี่ แค่นี้ยังดักดานเองอยู่นี่นา ท่านอาจารย์ผู้สูงส่ง..แต่ดักดานสินี่.
ปรมัตถ์ ไม่บัญญัติ : งงอ่ะดิ. 5555 เจอคำสอนแท้ๆมาเยอะ มาเจอคำสอนของยาย งงงเลย. ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ไม่เหมือนพระอรหันต์ ไม่เหมือนพระอริยะสงฆ์ แล้วยายเอาคำสอนวนไปวนมา มาจากใหน😄😜😜
มันคนละ เรื่องกับคำที่พูด แต่กำลังสะสม อกุศ ล สะ สม ความเกลียดชัง สะ สม การตำหนิติเตียน ผู้อื่น สะ สมความเกลียดชังพระ สะสม การ เกลียดประญี สะ สม การปฎิเสธ ขบ บทำ เนีย มอันดี แลัวมันจะ เอาอะ ไรมาดี โงหลาย ยาย
อธิบายเรื่องง่ายๆ ให้ฟังยาก เพื่อ ? 🍉
ขอบพระคุณครับ
hetingsong song ไตร่ตรองตรีกพิจารณาเป็นเรื่องเฉพาะตนเท่านั้นอิทัปป้จยตาตรวจสอบได้เปิดเผยไม่ซ่อนเร้น
คำสอนของพระพุทธเจ้าเปนของวัดนะคัฟ ไม่ใช่ของบ้าน นี่เเหละ มหาโจรหาตู่เพื่อเอาธรรมะของพระพุทธเจ้ามาใส่บ้านตนเองน่าอดสู 😁😁😁😁😁😁😁😁😁😁😁😁😁
วิหก ปวดหัวเซงด้วย คำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ของวัด. แต่ท่านฝากไว้กับพุทธบริษัทต่างหาก ดังนั้น คฤหัสถ์อุบาสก อุบาสิกา. ศึกษาพระธรรมได้แน่นอน. และไม่ต้องรู้สึกเดือดร้อนเพราะต้องรักษาพระวินัยแบบภิกษุบางรูปสมัยนี้. ภิกษุที่ยังใช้ชีวิตไม่ต่างจากคฤหัสถ์ (เว้นแค่อาศัยวัด) ก็ไม่ต่างจากคฤหัสถ์ แล้วจะบวชเป็นภิกษุทำไม. รู้ไหมว่ามีโทษมาก เพราะอยู่ในสถานะที่ถูกยกย่องว่าสูงแต่รักษาพระวินัยไม่ได้ และรู้สึกเดือดร้อนอย่างทุกวันนี้ท่านปรารถนาดีต่อภิกษุ ก็ต้องเตือน อย่ามองเจตนาท่านผิด
หัวข้อพุทธเจ้าตรัจรู้อะไร??ตอบแบบนี้ พูดจริงๆผมก็งง
การทำหน้าที่หรือทำกิจอริยสัจ 4 ในตนเริ่มต้นที่ปฏิบัติหรือเจริญธรรมฝ่าย "มรรค"ซึ่งรวมลงที่ "ศีล สมาธิ ปัญญา" โดยเริ่มทำให้ศีลเป็น "ศีลวิสุทธิ์"ในจิตของตนก่อน แล้ว จิตตวิสุทธิ์(สมาธิยิ่ง/สัมมาสมาธิ) และปัญญาวิสุทธิ์จะเกิดตามมา จิตมีธรรมภายในเป็น "ศีลวิสุทธิ์ จิตตวิสุทธิ์ ปัญญาวิสุทธิ์" ชั้นโลกุตตระ จะเห็นการเกิดดับของนามรูป(ขันธ์ 5)ตามเป็นจริงพร้อมกับการละสมุทัยไปตามกำลังแห่งมรรค เมื่อธรรมฝ่ายมรรคเจริญเป็น "อรหัตตมรรคญาณ" หรือ "อาสวักขยญาณ" ก็สามารถตัด "อวิชชาสังโยชน์" หรือ "อวิชชาสวะ"ได้เด็ดขาดจึงเข้าถึงพระนิพพาน อันเป็นจุดหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา ตลอดเวลกาการทำกิจอริยสัจ 4 นี้ ใจมีแต่สุขจนถึงบรมสุข(นิโรธ) มีแต่ความสงบตั้งแต่ กายวิเวก จิตวิเวก และอุปปธิวิเวก เพราะเห็นตามเป็นจริงด้วยปัญญาที่แท้จริงแห่งตนแล้ว
กราบอนุโมทนากับท่านอาจารย์ที่มีเมตตาอย่างไม่มีประมาท 🙏🙏🙏กราบขอบพระคุณมากค่ะที่หนูมีโอกาศได้ยินได้ฟังคําจริงคําแท้ที่องค์พระอรหังตสัมมาสัมพูทธเจ้าทรงแสดงไว้ให้ผู้ฟังเข้าใจจากท่านอาจารย์นํามาบรรยายให้ฟัง🙏🙏🙏กราบสาธุ สาธุ สาธุ🌺🌺🌱🌱🌷🌷🍀🍀🌻🌻🌿🌿🌹🌹🌾🌾
ธรรมะ เกี่ยวข้องกับทุกชีวิต น่าจะง่าย ... แต่ตรงข้าม ผู้ฟังในรายการ อายุก็มากๆ ประสบการณ์ชีวิตก็มาก แต่ดูเครียส กดดันอย่างไรไม่รู้
สติ สัมปชัญญะ ..นรกเป็นที่ไป.อาจารย์ หรืออาเจีบน
ยายอรหอยเก่งกว่าพระ เผลอ จะสอนฮอดพระเจ้าเเผ่นดิน เก่งจิง พระก็ไม่กัว ยายสุจินโน
สติ สัมปชัญญะ : ปกติ เวลาฟังธรรมะ คนฟังจะเบิกบานมีความปิติเกิดขึ้นในใจ ปัญญาเกิด เห็แจ้งแทงทะลุถึงสัจธรรม แต่ฟังยายแก่ มีอคติเกิด อกุศลกรรมตามมา เพราะไม่ใช่ธรรมะที่แท้จริง แต่ได้ผสมยาพิษไว้ คือวจีกรรมทุจริต มโนกรรมทุจริต ทางไปเลยเป็นทุคติ เพราะไม่เคารพพระธรรม คือ อริยสัจ4 แล้วตามมาด้วยมรรค8 ที่สำคัญที่สุดที่คนพุทธต้องรู้ และปฏิบัติตาม
เราฟังแล้ว กลับหายเครียด สบายดีออก
ถาม...พระสัมมาสัมพุทธเจ้า..ทรงรู้ ( ทราบ ) เรื่องอะไรบ้าง..ครับ. ..ไม่ใช่ตรัสรู้นะครับ
ไม่มีใครขัดไม่มีไคร แยัง เอา ใหฌ่เลย และ เกินพอดี นะยาย และ เกินขอบเขต เกินความดีดัวย
คว รเชื่อ และทำตาม ธร รม ที่บุค คล ผู้มีความเชื่อ และทำตามธร รมจริงๆ
ต้องรู้อะไรถึงจะหลุดพ้นครับ
พระอรหันตสาวก 4.0 กำเนิดแล้ว สาธุ ธาธุ
R.Little Pigs big belly ฮา😂
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
คุณไม่ใช่ตัวแทนพระพุทธเจ้า..และนี่ก็ไม่ใช่หน้าที่คุณ..ที่จะตะเวณ..สืบสานก้าวก่ายในพระพุทธศาสนา...เกินขอบเขต
ป่วนศาสนาพุทธมาหลายสิบปีแล้ว..ใกล้หมดเวลาแล้วคับ
😎
อริยสัจ๔.
ภิกษุทั้งหลาย ! กามคุณเหล่านี้มี ๕ อย่าง. ๕ อย่าง อย่างไรเล่า ? ๕ อย่าง คือ :- รูปที่เห็นด้วยตา, เสียงที่ฟังด้วยหู, กลิ่นที่ดมด้วยจมูก, รสที่ลิ้มด้วยลิ้น และโผฏฐัพพะที่สัมผัสด้วยผิวกาย อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด. ภิกษุทั้งหลาย ! กามคุณมี ๕ อย่าง เหล่านี้แล.ภิกษุทั้งหลาย ! ชนเหล่าใด จะเป็นสมณะหรือพราหมณ์ก็ตาม ติดอกติดใจ สยบอยู่ เมาหมกอยู่ ในกามคุณ ๕ อย่างเหล่านี้แล้ว ไม่มองเห็นส่วนที่เป็นโทษ ไม่เป็นผู้รู้แจ่มแจ้งในอุบายเป็นเครื่องออกไปจากทุกข์ ทำการบริโภคกามคุณทั้ง ๕ นั้นอยู่; ชนเหล่านั้น อันคนทั้งหลายพึงเข้าใจเถิดว่า เป็นผู้ถึงความพินาศย่อยยับ แล้วแต่มารผู้มีบาปต้องการจะทำตามอำเภอใจอย่างใด ดังนี้.
เจ้ อธิบายธรรมจับแพะชนแกะ อ่านมาเยอะแต่ผูกให้เข้าใจในเหตุในผลของธรรมในแต่ละเรื่องไม่ได้ ยิ่งฟังเจ้ ยิ่งงง ยิ่งมั่ว เริ่มจาก"ความจริง" "เรื่องจริงๆ" ไปเรื่อง"อนัตตา" ไปเรื่อง"ภพนี้ภพหน้า"ไปเรื่อง"กรรม" ตบกลับมาเรื่อง "ความจริง" "สังสารวัฐ" คือ พูดครั้งเดียวเล่นเอาทุกเรื่องมาพูดแปะเรื่องโน้นนิด ต่อเรื่องนี้หน่อยเอาละ เจ้ เจ้ความจำดีในคำศัพท์ แต่เอามาร้อยเป็นเหตุ เป็นผลกันไม่ได้ มั่ว ครับ มั่วตัวแม่
ตามความเป็นจริงคืออะไร ? พระพุทธเจ้าของจริงเท่านั้นหรือ ? พระอรหันต์อีกเป็นแสนเป็นล้านองค์ ไม่จริงหรือ ธรรมที่อาจารณ์นำมากล่าวเป็นของดี แต่ไม่เหมาะกับปุถุชนทั่วไป เช่นบอกว่าไปนั่งสมาธิทำไม่ เพราะไม่รู้ความจริง เมื่อมีคนตอบว่าทำให้สบายใจ อาจารณ์ก็ยิ้มเยาะ หาว่าโง่ไม่เข้าใจตามความเป็นจริง นั้นแสดงว่าอาจารณ์ไม่รู้จักการนั่งสมาธิ ติดอยู่แต่ในทฤษฎีเท่านั้น คน 100 คนถามข้อสงสัย ไม่มีใครหนีรอดจากการถูกตำหนิของอาจารณ์ ทำไม่ถึงเป็นเช่นนี้ บางคนมีความเข้าใจธรรมลึกซึ้ง แทนที่อาจารณ์จะตอบด้วยความเมตตา ก็ตอบให้เขาต้องอายเพื่อทำให้เห็นว่าอาจารณ์เก่ง ทุกคนที่เป็นชาวพุทธ ก็ต้องนับถือพระพุทธเจ้าทั้งนั้น แต่ก็ไม่เอาไปข่มคนอื่น ธรรมะเป์นของธรรมชาติ ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า ใครก็ได้สามารถรู้ได้ขึ้นมาจากกรรมของแต่ละคน คนที่ดีในศาสนาอื่นๆ ก็เข้าใจธรรมที่ดีก็มีมาก อาจจะใกล้นิพพานแล้วก็ได้ แล้วทำไม่มามัวนั่งคิดว่าคนพุทธดีกว่าคนอื่น เพระเราไม่รู้เลยว่าคนที่เป็นศาสนาอื่น เมื่อชาติก่อนๆอาจจะเป็นพุทธก็ได้ ดังนั้นควรสนับสนุนให้ฟังธรรมจากพ่อแม่ ครูบาอาจารณ์ สำนักปฎิบัติธรรม วัดทั้งหลายและควรมีใจก้วางที่จะเรียนรู้ธรรมจากศาสนาอื่นด้วย แล้วใช้ปัญญาในการไตร่ตรองคัดเลือกที่ดี นำมาปฏิบัติ มิฉะนั้นก็จะไม่เป็นบัณฑิต อย่าเอาสิ่งที่ไม่ดีขึ้นมาชู โรง ให้เอาสิ่งที่ดี ขึ้นมากล่าวแทน คนบ้างคนสามารถปฎิบัติตามศาสนาพุทธได้ตลอด (มีบุญเก่ามา) คนบางคนปฏิบัติแนวทางครีสต์ก่อนไปได้ดี แล้วหันกลับมาปฏิบัติทางพุทธได้คล่องขึ้น (อันนี้ขึ้นอยู่กับจริตของคน) บางคนปฎิบัติในศาสนาอิสลามมาแล้วก็หันมาทางพุทธต่อก็ไปได้ดี ส่วนคนที่เป็นพุทธแล้วหันกลับไปนำถือครีสต์ก็มี(เพราะชาติก่อนเป็นครีสต์) ดังนั้นการเป็นคนดีมิใช่อยู่ที่ศาสนาอย่างเดียว อยู่ที่บุญเก่าที่เป็นคนดีมา คนที่ดีไม่ว่าไปอยู่ในศาสนาใด ก็ทำให้ศาสนานั้นดีขึ้น การที่อาจารณ์สุจิณต์บอกเป็นสิ่งที่สูงเกินเอื้อมไป ในเมื่อคนมีสี่เหล่า อาจารณ์เหมาะที่จะสอนคนที่เปรียบเสมอดอกบัวที่บานรับแสงรุ่งอรุ่ณแล้วก็จะดี ส่วนบัวเหล่าอื่นต้องค่อยๆสอนและให้เมตตาไป ไม่ใช่ตักเตือน แต่ไม่บอกวิธีละเอียดที่ปฏิบัติให้ถูกต้อง อย่างหลวงพ่อพุธ อาจารณเจี้ยง อาจารณ์มั่น . ประกาศผู้ใดฟังธรรมของอาจารณ์สุจิณต์แล้วไม่รู้เรื่อง (เพราะไม่ได้เอาบันไดมา) โปรดมาฟังของหลวงพ่อพุธก่อน (เพราะไม่ต้องใช้บันได) เมื่อจวนจะสำเร็จแล้วจึงค่อยกลับมาฟังธรรมจากอาจารณ์สุจินต์ต่อ ถ้าคนที่ไม่รู้เรื่องพุทธไม่มีพื้นฐานแน่นมาก่อน ฟังธรรมจากอาจารณ์สุจินต์แล้ว อาจจะไม่ไปวัด ไม่ไปหาพระ ไม่นั่งสมาธิ ไม่วิปัสนา เพราะคิดว่าตนเป็นคนโง่แล้วไปไม่ได้ ซึ้งมิใช่ จริงๆๆแล้วเราต้องเริ่มจากถือศีล๕ ก่อนแล้วฝึกสมาธิ นั่งวิปัสนา ถูกแล้วต้องนั่งตอนที่ยังโง่อยู่ สะสมไปเรื่อยแล้วจะบรรลุธรรมขึ้นมาเอง เมื่อกรรมดีให้ผล ถ้าไม่ยอมนั่งและไม่ปฏิบัติ เพราะกลัวว่าจะโดนหาว่าโง่ นั่นคนโง่เลย
Bodee Navawongs พระอรหันต่สาวกเป็นแค่ผู้เดินตามทางที่ตถาคตบอกสอน.ใมมีสิทธแต่งเติมหรือตัดทอนใดๆเลยทั้งสี้นไปคันหาศึกษาไห้ดีมีพระสูตรองลับหลายแห่งอรรถกถาใม่ใช่พระพุทธวจนะ.ผู้ฟังดีย่อมได้ปัญญานะ.พุทธแปลว่าผู้รู้ตึ่นผูเบิกบาน.ใม่ใช่ผู้หลงนะครับ.......
Bodee Navawongs : คนบาปมันไม่เคยอธิบายขันธ์5 ศีล5 กุศลกรรม อกุศลกรรม ศีล สมาธิ ปัญญา วิธีดับทุกข์. สงสัยจะมีปัญญาน้อย เลยพูดวนอยู่ที่เดิมตลอดเวลา แล้วยังชอบดูถูกสติปัญญาของคนปฏิบัติธรรมอีก คนบาปคงเป็นเช่นนี้ เหมือนเทวทัตที่ชอบขัดแย้งกับพระพุทธเจ้า คนบาปเลยสอนตรงข้ามกับวัตถุประสงค์ของพระพุทธเจ้า คิดเอง เข้าใจเอง แต่ชอบอ้างพระพุทธเจ้า บาปหนักจริงๆ
ความคิดเห็นของคุณ Bodee Nanawongs เอาไปห้าดาว
ธรรมะไม่ใช่ธรรมชาตินะครับจะเอาต้นไม้ใบหญ้าอากาศมาเป็นธรรมะไม่ได้พระพุทธองค์ไม่ได้ตรัสไว้แบบนั้นนะครับ ยกตัวอย่าง ขันธ์ 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นรูปธรรมแค่เพียงส่วนเดียวนอกนั้นเป็นนามธรรมหมดเลย นั่นก็แสดงว่าธรรมชาติไม่ใช่ธรรมะ ธรรมะส่วนธรรมะ ธรรมชาติส่วนธรรมชาติ พระพุทธเจ้าเป็นเจ้าของแห่งธรรม ถ้าไม่มีคนเช่นพระองค์ มนุษย์ มาร พรหม ก็ไม่สามารถรู้ธรรมได้ ยกเว้นพระปัจเจกพุทธเจ้านะครับที่สามารถตรัสรู้เองได้แต่ไม่ตั้งศาสนา
พูดมีแต่น้ำ วกวน
ขนาด ทำ ไดัจริง มีความจริงปรากฎ อยู่ ขนาดนั่น ยังยากที่จะทำตามเลย เพรา ะกิเลส มันขวางใวั
ว่าได้ในที่เปนเอาถึงในสมมุติ.นี้ใช่ว่า.เที่ยงแท้.ในชีวิต.ในเอาว่าใน.ได้ในทุกๆมิติ.ผมใคร่ได้.ตะหนักถึง.ในไม่เที่ยงนี้..จะประมาณได้.เอาได้จริง.ในจะมี.ปัจจัย.นำส่ง.ถึงผลนั้น.ใหัเปนจริงได้.ในตัวเอง.ในเราเลือก.เปนเอาได้.ผมใช่ว่ามีเที่ยงได้.ในเวลา.เอาได้.ผมรู้ดีถึงนี้ได้.ผมต้องรีบได้..ในผมจะเอาตำหนิตัวเองได้.รู้งี้.ผมสอนให้.แล้วละ.ผมสำเนียกให้ได้ครับ.ขอท่านๆมีใจใคร่เรียนรู้.พระธรรม.ได้ถึง.ที่สุดได้.นี้ผมไม่หว่ง.เท่าไร.มีเท่าไรได้กัน.ละครับ.
แกรีบสอนเลยไม่เข้าใจเพราะแก่รีบๆๆๆๆไปที่สวรรค์แต่เต็มแล้วทำไหงละ. ยมทูตถามนางเธอนะไปผิดทางม้ะมากับผม(ยมทูตพูด)
นัตฐิยา คํามา : ท่านยมส เปิดประตูรอคนที่ชอบบิดเบือนพระธรรม พวกดูหมิ่น เห็นการตรัสรู้อริยะสัจ4 ของพระพุทธเจ้าไม่สำคัญ
สัมมาสัมพุทธสูตรว่าด้วยความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า [๑๗๐๓] พระนครสาวัตถี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสัจ ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน? คือ ทุกขอริยสัจ ฯลฯ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ อริยสัจ ๔ ประการนี้แลดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะได้ตรัสรู้อริยสัจ ๔ ประการนี้แล ตามความเป็นจริง ตถาคตเขาจึงกล่าวว่า เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียร เพื่อรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
ถัาปากไม่เกรงพระธร รม ธร รม ทั่งหลายก็จะ ไม่เกรงใจยายเช่นกัน กร รม
เหมือนคนไม่เคยเรียนบางวิชา แล้วถูกจับมานั่งสอบ เด๊ะๆเลย
อนุโมทนา ขอบกราบในความรู้ของ อ.สุจินต์แต่สงสารคนที่ฟังไม่เข้าใจเพราะ มีอวิชชามากแต่ ฟังอ.สุจินต์เท่าไรก็มีแต่โทสะ ต่ออาจารย์ น่าสงสารคนเหล่านี้ฟังเท่าไรก็มีแต่โทสะต่อว่าคนอื่นว่าพูดไม่ดี ขอให้ฟังต่อไปเพราะถ้าเมื่อเข้าใจว่าธรรมะคืออะไรให้เข้าใจจริงฯจะเข้าใจเอง ขอให้ที่น่าสงสารลดน้อยลง
ธร รมลืนพ่อลืนแม่ธร รมเถียงพ่ฬแม่ธร รมลืนธร รมล่วง จะอา อะ ไร มาดีมา เจริญ
พระพุทธเจ้าสอนอะไร วิธีออกจากทุกข์อย่างไร พุทธวจนบอกขั้นตอนไว้ละเอียดมากลองฟังพุทธวจนดูนะครับ
คึกลิจวจนะ ต่อต้าน หลวงปู่ฤษีลิงดำ ปัธโธ วะ มันร้ายกาจจิงๆๆ
พุทธวจน ผมฟังมากเป็นอันดับต้นๆในการศึกษาธรรม แต่ก็ไม่อาจจะรับรองได้ในทุกคำพูดที่ พอจ.กล่าว (คงเพราะความรู้และปัญญาเรายังน้อย) แต่ก็ฟังคุณย่าท่านนี้บ้าง(เพิ่งเริ่มฟังได้ 4 5 คลิป) คุณย่าท่านมีความละเอียด ปราณีตมาก ในทุกๆคำของศาสดา อย่างการอธิบายพระสูตร การเจริญ อานาปณสติ แท้จริงแล้วมีอะไรที่ลึกมาก มากกว่าแค่การเอาจิตตั้งไว้ที่ลมหายใจอย่างเดียว แต่ต้องมีเจตนา(ความตั้งใจจริง) และต้องเห็นในความเป็นอนัตตา ของลมหายใจด้วย ความเป็นอนัตตาของสติด้วย คุณย่ากำหนดสมาธิ ก่อนจะพูด ไม่พูดเพ้อเจอเลื่อนลอย หรือเห็นเป็นของตลกขำขัน เป็นความจริงใจในการถ่ายทอดคำพระศาสดาอย่างมาก ที่ผมกล่าวสรรเสริญคุณย่าอย่างนี้ ไม่ใชผมจะลบลืมพระกรุณ ในพระคุณของท่าน พอจ.นะครับ ท่านมีอุปการะต่อผมมาก จากคนที่ไม่ฝักใฝ่เรื่องศาสนา ผมเห็นคุณค่า ศาสนา(คำพูดคำสอนพระศาสดา) ได้ถึงขนาดนี อย่างไรผมก็ยังศึกษาและปฏิบัติตามพุทธวจนต่อไป โดยใช้หลัก คำถ่ายทอดใดสอดรับกับธรรมกับวินัย ทรงจำธรรมนั้นไว้ คำใดไม่อาจรู้ตามได้ ไม่พึงรับรองไม่คัดค้าน และละทิ้งคำพูดที่ไม่สอดรับกับธรรมวินัย ไม่ไปจ้องจับผิดเพ่งโทษตัวผู้แสดงธรรม พูดผิดพูดพลาดบ้างต้องมีจิตให้อภัย ในความเป็นผู้เดินตามศาสดาองค์เดียวกัน
คือพระพุทธพจน์แสดงไว้โดยละเอียด แต่คำของท่านอาจารย์ทำให้เข้าใจพุทธพจน์ชัดเจนขึ้น แจ่มแจ้งขึ้น
น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับอาจารสุจินต์ และอาจารย์ทุกๆท่านด้วยความเคารพอย่างสูงสาธุ ด้วยความนอบน้อมนี้ขอให้ข้าพเจ้ามีส่วนร่วมแห่งธรรมสาธุ
คนที่เข้ามาอ่านคอมเม้นท์ ถ้าเป็นไปได้อย่าอ่านเลย.. ฟังอาจารย์แล้วพิจารณาตามความเป็นจริง อย่าพึ่งเชื่อท่าน ถ้าคิดว่าถูกว่าใช่ตรงจริตก็ฟังต่อ ถ้าไม่ก็ไปหาอะไรที่ตรงกว่า เรื่องธรรมะจะเจริญขึ้นไหมเป็นเรื่องปัจเจก #มองตัวเองพิจารณาตนเองดีกว่า
พุทธบริษัทสี่ต้องช่วยคุ้มครองพระศาสนาทนไม่ได้ต้องเข้ามาเพราะพวกคุณเป็นมิจฉาทิฏฐิไม่ว่าแต่พวกคุณตั้งใจมุ่งทำลายพระศาสนาให้อันตธานเพราะพวกคุณโจมตีพระไม่มีความเมตตายุยงจูงใจใส่ข้อมูลผิดๆว่าการไปปฎิบัติธรรมที่นั่นที่นี่ผิดแต่ของคุณถูกเพราะคุณมีสถานที่ปฏิบัติธรรมสรุป ต้องไปฟังพวกคุณ พวกพ้อง และต้องไปสถานที่ปฎิบัติธรรมของคุณ จึงจะถูกนั้นซิ????โถ ตายไปไม่ได้ผุดได้เกิด
@@ฐิติรัตน์สังข์ดา พวกเขาไม่ให้ปฎิบัติเลย..ให้เข้าใจธรรมอย่างเดียว..และต้องเป็นธรรมที่่พวกเขาสอนสำนักของคนพวกนี้ไม่มีที่สำหรับทำสมาธิ..
บรรลุฉับพลันได้เลย..แปลกแต่จริง สะสมมาพอดี.ขนาด..นุ่งเปลือกไม้ ยืนฟ้งธรรมข้างถนน ไม่ถึงครึ่งนาที บรรลุอรหันต์..ท่าน พาหิยะ ยืนนุ่งเปลือกไม้ฟังธรรม ข้างถนน..กำหนดตามคำพุทธองค์สอนสั้นๆ..ฟังพระธรรม สั้นๆบรรลุทันที คือพระพุทธองค์ เทศน์สั้นๆ ว่า ........เห็นให้ สักว่า เห็น.......ได้ยิน..สักว่า ยิน ........ได้กลิ่น สักว่า กลิ่น........ได้รส สักว่า รู้รส.........สัมผัส สักว่า สัมผัส......รู้ละ และ จบกิจบรรลุพระอรหันต์ทันที..ง่าย.พิจารณา..สักว่าๆๆๆๆ..จบ. รู้สึก สักว่าๆ ไม่ปรุงเป็นปัญญา อวิชชาหมดจบ รู้เกิด ดับตามจริง สั้นๆ ท่านพาหิยะ ได้สำเร็จบรรลุอรหันต์ เปลือยกายแต่ ยีนนุ่งเปลือกไม้ และฟังธรรมพระสัมมาที่ข้างถนน..ไม่ถึง ครึ่งนาที ได้บรรลุเลย..ส่วน ท่าน อ.สุจินต์ มามัวประเมิน คนว่า รู้ได้ยากยาก บรรลุยาก ไม่มีใครบรรลุได้ ขวางนิพพานซะเอง. พระพุทธเจ้าเปิดอริยสัจ 4 มรรค 8 แล้ว. มัวพูดว่าคนไม่รู้ไม่รู้จัก ท่าน สุจินต์ปรุงแต่งเอาเอง..ว่ายากในสมองท่านจบอยู่ที่ไม่รู้...สิ่งควรรู้พระพุทธองค์ชี้แล้ว. ไม่ใช่มาอธิบายตามความอยาก ตามปากตนเอง และอ้างพุทธะอยู่นั่น.
มีใครบ้างหรือ ? นุ่งเปลือกไม้ได้ การกระทำเช่นนี้ได้ ต้องละกามคุณได้มากเเล้ว อินทรีย์แก่กล้าเเล้ว เมื่อได้ฟังพระสัทธรรม จิต..ย่อมคลายความยึดมั่น เห็นสภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริง.
สรุป ... พระพุทธเจ้าตรัสรู้เรื่องอะไรครับฟังมาจนจบ ยังจับใจความไม่ได้เลยครับ
Kreetha Tansubhaphol
พระธรรมไม่ใช่ของง่ายครับ แล้วแต่การสะสมมาครับ ยิ่งสะสมด้วยการเป็นพหุสูตเท่าไร ก็ยิ่งเข้าใจสิ่งที่ฟังครั้งนี้มากเท่านั้นค่อยๆเริ่มสะสมการฟังไปเรื่อยๆครับ ขออนุโมทนาครับ
ตรัสรู้เรื่องสิ่งที่มีจริงๆ เช่นทุกข์มีจริงๆ จิตมีจริง เป็นต้น
ขออนุญาตแชร์ความรู้นะครับ พระพุทธเจ้าสอนให้เห็น ทุกข์ คือ มีตัวตนอยู่ชั่วคลาว สมุทัย คือเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์=ปฎิจจสมุปบาทสายเกิด นิโรจน์คือเหตุแห่งการดับทุกข์คือปฎิจจสมุปบาทสายดับ มรรคคือ อริยะมรรคมีองค์แปด คือ ศีล สมาธิ ปัญญา =สมถภาวนาวิปัสนาภาวนา รวมลงมาเป็นอานาปานสติ ปฎิบัติโดยรู้ลมเข้ารู้ลมออกโดยไม่คิดว่าเป็นเราที่กำลังหายใจเมื่อจิตเคลื่อนไปคิด=รูปดับนามเกิดเมื่อรู้ตัว่าคิดกลับมารู้ลม=นามดับรูปเกิด ทำให้มากเจริญให้มากเห็นเกิดดับให้มาก ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับอาจารย์
เข้าใจมากขึ้นๆอริยะสัจ4
กุ๊กอยู่ห้องครัวนักดนตรีอยู่กับห้องซ้อมนักเรียนอยู่ห้องเรียนฉันท์ใดฉันท์นั้นธรรมะอยู่กับวัด ไม่ใช่อยู่บ้านธรรมะมาจากไหน มาได้อย่างไร ค้นพบที่วัดหรือที่บ้านเรียนน้อยรู้น้อยเรียนลึกรู้ลึกเรียนละเอียดรู้ละเอียดถ้าไม่เรียนรู้กับพระอรหันต์จะมีพระอรหันต์มาถึงปัจจุบันได้อย่างไร(ดอกบัว)พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อะไรบ้างเคยขนขวายบ้างไหมความจริงที่ท่านพบชาติก่อนนี้ชาติหน้านี้มีจริงท่านเห็นอดีตอนาคตท่านเห็นการเวียนว่ายตายเกิดเห็นละเอียดยิ่งกว่าคอมพิวเตอร์ชั้นหนึ่งหลายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆล้านเท่าเห็นถึงอนันตจักรวาลที่คนยังไปไม่ถึงเห็นนรกสวรรค์ เหตุแห่งทุกข์และเหตุแห่งสุขต้นเหตุแห่งทุกข์ต้นเหตุของ เกิด แก่ เจ็บ ตายแม้พรหม อรูปพรหม ก็ยังไม่หลุดพ้นต้องเข้าพระนิพพานเท่านั้นถึงจะหยุดเวียนว่ายตายเกิดได้คืออริยสัจสี่อยากเป็นแชมป์อาหารต้องเรียนกับกุ๊กมือ 1อยากเป็นนักร้องเก่งต้องเรียนแชมป์สอนขับร้องไม่ใช่ไปเรียนกับแชมป์เต้นรำอยากเรียนธรรมะแต่ไปเรียนกับนักจิตวิทยาไม่มีทางสอนแตกฉานได้พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ให้พึงคบหาแต่บัณฑิตอย่าเสียเวลาคบหาคนพาลเรียนกับของแท้ ได้ของแท้เรียนกับของเทียม ได้ของเทียม
แค่ฉันกับฉันท์ยังสะกดไม่ถูก
Radtai lokutarapol ธรรม..เเค่ลืมตามอง..หูฟังเสียง..จมูกได่กลิ่น..ลิ้นลิ้มรส..กายกระทบสัมผัส..ธรรม..ไม่ได้อยู่ที่บ้าน..ไม้ได้อยู่ที่วัด..เเต่อย่างเดียว..อยู่ตัวเรา(รูป นาม กาย ใจ)นั่นเอง.
ธรรมะคือความจริง นี้คือธรรมจริงแท้คุณแม่คุณพ่อบ้านธัมมะควรฟังบ้างเผื่อจะได้เห็นทางที่ถูกตามคำของตถาคตครับ
บรรยายธัมมะที่ไหนตกแต่งโพเดียม อลังการ ไม่เหมือนผู้ปฏิบัติธรรมเลย
ไม่กลัา หลับตา ลงหรอก กลัว ความหนา แน่นกลัวกร รม กลัว เห็นกิเลสเจัาของ ยาย เอัย
เอ้า กราบบบ
อะไรคือความจริงของการหลุดพ้นครับ
ขอเชิญชวน อาจารย์ๆๆทั้งหลายพาลูกพาหลานมาบวชอยู่คนละสามพรรษาๆ มาเลย !จะได้รู้ปัญหาของพระ...
คน คอกดอย ...
ผ
เห็นด้วยครับ อย่าชูคออยู่แต่ในจอแล้วไม่เข้าใจทุกข์ที่แท้จริง ไม่เข้าใจปัญหาของพระ!!
ใช่คัฟ จะได้รู้ว่าง่ายหรือป่าวว มัวเเต่โจมพระนั้นเเหละ
การบวชไม่มีใครบังคับ. ไม่พร้อมที่จะปฎิบัติตามพระวินัย ก็ไม่จำเป็นต้องฝืน. และถ้าสนใจพระธรรม. ก็ศึกษาได้ตลอด ความเข้าใจก็ธรรมะไม่ได้เลือกว่าต้องอยู่สถานะไหนถึงจะเข้าใจ. ถ้ามีความตั้งใจอยู่สถานะไหนก็ศึกษาได้ เพศคฤหัสถ์ก็ศึกษาได้
ส้อนยกพระสูตรด้วยครับ
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
กราบท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ครับ
งง?????????????????
วุฒิ อนุสนธิ์ ใช่ครับ ฟังแล้วมึน สงส้ยผมโง่
รู้ทุกอย่างตามแต่งจิต.รู้ถูกผิดไปหมดอดสงสัย..ผู้รู้จรืงไม่อวดอ้างหรือว่าใคร...นีเผลอไผ..หลงตัวมิปล่อยวาง...เออน้ะพูดกับปฏิบัตินี่มันแตกต่าง....กันสิ้นเชิง....
กราบนอบน้อมบูชาคุณพระรัตนตรัยอย่างมั่นคงสูงยิ่ง กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพอย่างสูง กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์คำปั่นด้วยความเคารพอย่างยิ่งในพระธรรมที่ได้แสดง พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ได้ทรงแสดงว่าธัมมะ คือสิ่งที่มีจริง ที่ปรากฏทุกๆขณะ แล้วดับไปเป็นอนัตตา จะรู้ได้ด้วยตนเองว่าเป็นเพียงธาตุแต่ละธาตุที่ทำกิจหน้าที่ในแต่ละหนึ่งๆในแต่ละวันทุกขณะจิต เป็นกุศลและอกุศล กราบอนุโมทนาในกุศลจิตที่ดีงามค่ะ
พุทเจัา ผากศาสนา ใวักับ บริบัทษก็ถูกเสมอ แต่ปริษัท ก็มีหนัาที่ หนัา หลัง ต่างกันอยู่ มีหัวหนัา มี่ลูกนัอง มีผู้นำมีผู้ตาม แต่นี่มาอัางว่าทำตาม พุทเจัา แต่กลับ ไม่รู้ตนและหนัาที่ตน และความเหมา ะสม แก่ตน เกิดความ งามน่า เลื่อมใส ต่อพระศาสนา แต่นี่อะ ไร ยิ่ง จะ ทำ ไหัคนเกิดเบื่อ หน่าย รู้สึกไม่ดีต่อกัน เพรา ะมีกลุ่มคน หลงตน หลง ยุคหลงหนัาที่ โถๆๆๆๆๆๆๆๆ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ที่เคารพยิ่งและขออนุโมทนาค่ะ 🙇🏻♀️🙏🤍✨
ที่กล่าว... คุณจินต์.. กล่าวว่า.. ปัญญา... สำคัญกว่า.. สมาธิ....... ทำไมพระอริยสงฆ์.. สอนกันมาว่า.. เราทำสมาธิเพื่อใ้ห้เกิดปัญญา... พวกคุณสอนผิดหรือปล่าว
ที่พูดอยู่นี้ต้องการอะไร
ต้องการเปนยายอรหัน ให้คนกราบเท้ายายอรหอยคัฟ 😁😁😁
สุริยา นามเสนา : มันต้องการให้สาวกมันไปทุคติ เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าไปทางสุขติ แต่ยายสอนคนละแบบกับพระพุทธเจ้า ก็เลยไปทุคติ วินิบาต นรก สัตว์โลกเป็นตามกรรมจริงๆ กรรมที่ไปเชื่อมาร แต่ไม่ฟังพระอริยะสงฆ์
วิธี พิจารณาความปริญัติ จาก ทั่นสุจินต์
ฟัง เข้าใจ แต่ไม่ปฏิบัติ มันจะเกิดผลรึยาย
ขนาดมหาๆยังเป้นบ้ายอมก้มหน้าก้มตาโง่ตาม..โถสังเวชน่าเสียดายสงสารภุมิมหาเด้
นางหลงทางหรือปล่าว
ฟังมันพูดแล้วปวดหัว...วกวนไปมา ละ คลาย ได้รึยังพวกป้าๆสาวกทั้งหลาย..ปวดหัวกันไหม..ฟังรู้เรื่องไหม .. ไม่ได้ประเด็นจับต้นชนปลายไม่ได้ เหมือนคนเป็นโรคประสาท...
🤔
พูดไปเถอะ หมดคำภี สุด ทัาย มันก็ไปหยุด อยู่ที่ตนเองนั่นแหละ หยุด อยู่ที่กิเลส เจัาของนั่นละ
ในความเปนจริงได้.ในธรรมชาติ.นี่.พระธรรมนี้.พระตถาคตนี่.ค้น.พบ.เอา.ใน.ธรรมชาตินี้เอาได้.ไหมครับ.ตานอกเรานี่.คิดเอาได้.ในว่าค้น.พบ.ได้จริงได้ครับ..เชิญท่านอาจารย์..เมื่อไร.เราจะกันได้..ใช่ว่าใน.สะสมเอามากัน.งั้นไม่เอาถึงไหนกันแล้ว..ครับ
ตอบอ้อมจัง..ไม่ตรงประเด็นเลยคำถาม
Samart Khayanha ตอบตรงแล้วอะไรได้ ?ตอบอ้อมแล้วได้อะไร ? ฉันนั้น
ยายคนนี้ดูเเววตามีมายาเลสในคนหัวหมอโครตหัวหมออัจฉริยะด้วยคัฟ
ใช่ๆ.. ต้องตอบโชะๆๆ และออกเป็นปัญญาจิงๆเลยถึงจะใช่โสดาบันขึ้นไปเพราะ.. ความสังสัยในธรรมมันมีทุกคน..
เราก็เห็นว่าตรงนะ ไม่ได้อ้อมอะไร ทุกอย่างเป็นอนัตตา
สงสารคุณไอ้คนนี้จริงฯ
อ่านคอมเมนต์ที่มาด่าท่านอาจารย์ ก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามปัจจัย ตามกรรมจริงๆ ก็ควรจะได้สงสารเขาเหล่านั้นเพราะก็ได้ประกอบกรรมที่จะได้รับผลที่ไม่ดีต่อไป เพราะว่าโมหะ และโทสะ จึงกล่าวผรุสวาจากับผู้ที่ได้แสดงธรรมเห็นปานนี้ได้“ภูเขาศิลาล้วนยอมไม่หวั่นไหวด้วยลมจากทิศทั้ง ๔ ฉันใด บัณฑิตยอมไม่หวั่นไหว เพราะด่านินทาและคำสรรเสริญฉันนั้น”
สาธุครับ
ถ้าดีจริงใครจะด่า..จะมีแต่คนสรรเสริญ..ถ้าเป็นบัณฑิตจริงก็ต้องตอบคำถามให้กระจ่าง..ไม่ใช่ถามวัวตอบควาย..เพราะคนที่ถามก็เป็นบัณฑิตเหมือนกันอย่าหลงตัวเองเกินไป..อะไรที่เคยใช้เมื่อห้าสิบปีก่อนมันใช้ไม่ได้ในสมัยนี้..คนที่ฟังยายเขาก็ฟังที่อื่นด้วยเขาก็ค้นหากูเกิลด้วย..คนเราต้องตรงจริงเป็นคนจริง..รู้จริง.จริงใจ..เข้าใจความเป็นจริง(หยุดโกหกตัวเอง)คนที่ด่าเขาด่าจริงๆ..สาธุ
@@panumasrerksanan8892 สรรเสริญ นินทาเป็นธรรมดาของโลก เก็บสิ่งดีๆไว้ สิ่งไม่ดีก็อย่าเก็บ
ความอาย ไม่มีเลยเนอะยาย อะ ไรคือศีลของตน แต่มาอัาง ธร รม ของพุทเจัา แต่ไม่ทำตาม มุ่งว่า แต่ ตนเอง ผมก็ยัฆเต็มหัว ศีล คฎหัส ตั่งแต่ขัอ หนึ่ง ถึงขัอ สุด ทัาย กับไม่พิจรฌา เจัาของเลย น่าอาย ความจริง อายความรู้ที่มีเนอะ
กราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ
สาธุ เจ้าค่ะ 🌺🧖🌺😇
ฟังธรรม ฟังคำองค์พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ
กราบเท้าท่านอาจารย์ขอบพระคุณครับ
ไปไหว้สะ ยายเเกอายุมากเเล้วใกล้จะ บรรลุเปนอรหอยเเล้ว😁😁😁
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุ
กราบอนุโมทนาค่ะ
กราบบูชาและน้อมระลึกถึงพระคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
สาธุค่ะ
ขอบคุณอ.คำปั้นคะ
สิ่งมีจริงๆ: สิ่งใดเกิดได้ดับได้ เป็นธรรมดา นี่เอง!?
อาจารย์สอนในหลักการ หลักตรรก คนฟังเลยเซ็งต้องขยายความบ้างว่าจริงอย่างไร อะไรคือความจริง และยกบุคคลาธิฐานมาบ้าง คนศึกษามาดีฟังก็เข้าใจแต่บางคนก็เริ่มศึกษาอาจารย์ต้องพิจารณาถึงจริตของคนฟังอธิบายชัดไปเลย ความจริงที่ว่าอะไร เห็นตามความจริงคือเห็นอย่างไรให้ มองเห็นภาพไปเลย อธิบายค้างไว้แบบนี้ท่านเรียกอธิบายไม่สิ้นกระแสธรรมผมติดตามคลิปธรรมอาจารย์มาตลอด
หมูอ้วน คนกันเอง ที่
หมูอ้วน คนกันเอง : เราฟังธรรมะบรรยายจากพระอริยะสงฆ์มาเยอะ ทั้งสายหลวงปู่มั่น นักปราชญ์ทางธรรม แต่ที่ยายพูด ใช้คำเยอะเกิน น้ำท่วมทุ่ง แล้วก็เพี้ยนจากคำสอนในพระไตรปิฏก ความรู้ตื้นเขินมาก อธิบายหยาบไม่เคยตรงประเด็น คงเพราะรู้น้อย เลยไปต่อไม่ได้ พาคนฟังลงเหวไปด้วย คนตาบอดจูงคนตาบอดยังไงยังงั้น ยายและสมุนชอบพูดซ้ำซากว่าต้องฟังให้เข้าแค่นั้น. ซึ่งเป็นความคิดที่เป็นมิจฉาทิฐิ เริ่มต้นด้วยมิจฉาทิฐิ สิ่งที่ตามมาก็ดำมืดแน่นอน
ครับคลิปไหนก็สอนแต่ว่าให้รู้เท่าทันความเป็นจริง พูดแค่นี้ไม่ขยายความต่อว่าอะไรคือความเป็นจริง อะไรความเป็นเท็จ รู้เท่าทันความเป็นจริงจะรู้ได้จริงอย่างไร จริงอย่างอริยสัจจหรืออย่างไร แต่ละเรื่องก็มีความเป็นจริงแตกต่างกันไป สังเกตุสีหน้าคนฟังซิยิ้มปุ๊ยิ้มปุ้ยเหมือนเบื่อโลก
ผมไม่เซ็งเลยครับ ก็ดีออก
@@Jin-se2zw แรกๆ..เรื่องพระวินัยบัญญัติอาจารย์ท่านชัดเป๊ะมาก..พอไปเรืองรูป จิต เจตสิก..ผมเริ่มไปไม่เป็นเอาแค่เรื่อง..คำว่าเรา..ตัดได้ยากมาก..ข้อดีคือฟังท่านอาจารย์สุจินต์..แล้วไปฟังของท่านอื่นจะเข้าใจได้ง่ายว่าเขาตรงต่อพระธรรมวินัยหรือไม่?
ถ้าฟังคำสอนจากพุทธวจน จะเข้าใจชัดเจน เพราะคำพระศาสดา ล้วนๆ
เคสนี้..คำพูดคุณ..พระในพระวินัย..ท่านก็สอนแบบนี้ เพราะเป็นพื้นฐานง่าย..บางครั้งก็เหมือนจะเข้าใจ..แต่พอฟังลึกๆ เข้าไปอีก..กลายเป็นแกว่ง..ตอบไม่ตรง..คนฟังไม่เข้าใจ..เพราะใช้คำพูดลึกลับ สับสน..ขึ้นลง..วก.วน.
สิ่งที่สำคัญและจำเป็นที่สุดคือการฝึกสติแต่ผมไม่ได้ยินยายเน้นนะครับ สติหนึ่งในมรรคมีองค์แปด เมื่อเจริญสติมากๆเราจะเริ่มเห็นสภาวะความเป็นจริงเพิ่มขึ้น การเรียนรู้อย่างเดียวแต่ไม่นำไปปฏิบัติมันจะช้าครับเท่าที่ผมสังเกตุดูนะครับและบางทีไปเพิ่มกิเลสในตัวเองอีกโดยไปคิดว่าตัวเองรู้มากกว่าคนอื่นเก่งกว่าคนอื่นตรงนี้อันตรายสำครับคนศึดษาธรรม คนที่เขาศึกษาและปฏิบัติไปด้วยจะเข้าใจโดยเห็นสภาวะธรรมได้เร็วกว่านั้นเอง สรุปให้ง่ายๆทำได้ตลอดเวลาคือเจริญสติครับ
สติเจริญในใจมากขึ้นจะเห็นความคิดตัวเองว่าเราคิดอะไรอยู่ เราจะรู้ทันกิเลสในใจเรา กายวาจาเราก็จะสงบขึ้นความฟุ้งซ่านทั้งหลายจะลดลงไปตามลำดับครับ
ถ้าเราเจริญสติอย่าจริงๆจังๆเราจะเห็นได้เลยว่าคำพระศาสดาเรารู้แค่เพียงคำเดียวแต่เราน้อมนำมาปฏิบัติอย่างจริงจังก็จะเป็นไปเพื่อความสุขชั่วกาลนานได้จริงๆ คำเดียวครับ สติ สติจะเป็นเครื่องมือที่เราฝึกฝนเพื่อให้เราเห็นสภาวะความเป็นจริงเห็นจริงเฉพาะตัวการปล่อยวางจะเกิดขึ้นเองครับ
กราบแทบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ ผู้เป็นพุทธสาวก ผู้แสดงคำจริง ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยความเคารพยิ่งในธรรม ผู้มีชีวิตอยู่เพื่อแสดงธรรรของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ลูกศิษย์ และผู้ฟังได้เข้าใจในธัมมะ. กราบอนุโมทนาครับ
อวยล้วนๆไม่มีธรรมะแม้แต่คำเดียว
อนุโมทนาสาธุครับ🌷🌷🌷🙏🏻
ขอบพระคุณครับท่านอาจารย์ ธรรมที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเข้าใจก่อนจึงปฏิบัติได้ ค่อยๆสะสมความเข้าใจไปเรื่อยๆ ความเป็นพระอริยบุคคลก็เป็นของยากเป็นแล้วเป็นเลยจะไม่ตกต่ำอีก....ขออนุโมทนาสาธุกับความพยายามที่ท่านอาจารย์กระทำอยู่ครับ
พระพุทธองค์ ทรงพระนามว่า “อรหันตสัมมาสัมพุทธะ” ก็เพราะได้ตรัสรู้ อริยสัจสี่(ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ)
......ภิกษุ ทั้งหลาย. ! ความจริงอันประเสริฐสี่อย่างเหล่านี้ สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ?สี่อย่างคือ ….ความจริงอันประเสริฐคือ ความทุกข์,….ความจริงอันประเสริฐคือ เหตุให้เกิดทุกข์,…ความจริงอันประเสริฐคือ ความดับไม่เหลือของทุกข์…และความจริงอันประเสริฐคือ ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ นี้แลความจริงอันประเสริฐสี่อย่าง.
.......ภิกษุ ทั้งหลาย. ! เพราะได้ตรัสรู้ตามเป็นจริง ซึ่งความจริงอันประเสริฐสี่อย่างเหล่านี้ ตถาคต จึงมีนามอันบัณฑิตกล่าวว่า “อรหันตสัมมาสัมพุทธะ”......................................มหาวาร. ส°. ๑๙/๕๔๓/๑๗๐๓.
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์
ไม่ว่าในอดีตหรือในอนาคต
ตรัสรู้ เรื่องอริยสัจ ๔
ชัดเจนครับเพราะอริยะสัจ4คือความจริง เพราะที่เขาพูดคือการปกปิดสิ่งที่อธิบายเช่นเขาไม่เคยอธิบายความหมายของศัพท์นั้นอีกอย่างพระพุทธเจ้าตรัสเสมอว่าการฟังมากคือไกด์ของการเรียนแต่ที่สำคัญต้องปฏิบัติด้วยตัวเองจึงจะบรรลุด้วยตัวเอง"ปัจจัตตังเวทิตัพพูวิญญูหี'ติ"วิญญูชนย่อมรู้เฉพาะตน ชาวพุทธจริงๆต้องศึกษาในหลักกาลามสูตรครับ ได้ยินได้ฟังไม่คิดแล้วไม่ปฏิบัติย่อมไม่รู้เพียงแคได้ฟังยิ่งคำความจริงที่เอ่ยอ้างนั้นพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก ยังไม่เคยบอกเลยว่าความจริงนั่นคืออะไร!!
Kreetha Tansubhaphol สาธุๆๆ
ยายแกให้ศีกษาธรรมะได้อรหันต์ก่อนถึงบวช..มันน่า
กลัวนะ..ถ้าชายที่ต้องการบวชเป็นอรหันต์หมดแล้วใครจะทำงานโรงงาน..ใครจะเป็นยาม
ใครจะขับรถ..ใครจะเป็นทหาร
ยายก็พูดตามใจตัวเองไปเรื่อย
เข้าหาความจริงได้แล้ว..ปากพาไปมันบาปนะ..สาธุ
พูดธรรมะก็พูดไป พูดเป็นกลางๆ กรุณาอย่า พูดกระทบสำนักนั่นสำนักนี้ อาจารย์นั่นอาจารย์นี้ สอนผิดสอนถูก...อย่างนี้อันตราย การยอมรับจะไม่มี ฆ่าผู้อื่นให้ตาย แต่ให้ตัวเองอยู่ อย่างนี้ นักปราญช์ตำหนิ...ไม่ใช่ผู้รู้จริง ต้องไม่กระทบสิ่งใดๆ สิครับ คนมีศรัทธาเขาจะเข้าใจของเขาเอง...ไม่ใช่มีศรัทธาเพราะพูดเหยียบสำนักอื่นๆ อาจารย์อื่นๆ สาธุ
ถ้าไม่กลัวเจอผู้ที่เข้าใจธรรมแจ่มแจ้งกว่าลองไปฟังพุทธวจน ดูนะครับ
พระสุปฏิปันโน บอกว่า พระพุทธเจ้าตรัสรู้อริยสัจ 4 และปฏิจจสมุปบาท โดยที่อริยสัจ 2 อย่างแรก ได้แก่ 1.ทุกข์ คือ ขันธ์ 5 ที่เรายึดมั่นถื่อมั่นว่าเป็นตัวตน เป็นของตน หรือติดข้องกับขันธ์ 5 จึงได้ชื่อว่า สัตตะ สัตโต(ผู้ข้อง) 2.สมุทัย คือ เหตุแห่งทุกข์ ได้แก่ กิเลสและกรรมว่าโดยภาษาธรรม คือ ตัณหา3 อวิชชา1 ทั้ง"ทุกข์และสมุทัย"อยู่คู่กับจิตไม่ห่างจากกันทั้งเกิดและตายเพราะมีปัจจัยสืบต่อที่เรียกว่า "ปฏิจจสมุปบาท"ที่มี "อวิชชา"อยู่หัวแถว สืบต่อให้ทุกข์และสมุทัย "คงอยู่กับจิต-พอกพูนที่จิต-นำพาจิตสืบต่อภพชาติ"ไม่มีที่สุด ซึ่งเราเห็นแต่การ "แก่-เจ็บ"ของตัวเอง เห็นแต่การ "เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย"ของผู้อื่น จิตทุกดวงอยู่กับทุกข์และสมุทัยมานานนับภพนับชาติไม่ถ้วน ท่านเรียกว่า ท่องเที่ยวไปกับการเกิดตายของสังขารร่างกาย และท่องเที่ยวไปกับการเกิดดับของขันธ์ 5 มายาวนับภพนับชาติไม่ถ้วนมาจนถึงบัดนี้
อริยสัจ 2 อย่างหลัง เป็นธรรมตรงกันข้ามกับ "ทุกข์และสมุทัย" ได้แก่ "นิโรธ" กับ "มรรค" ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงสอนให้เจริญธรรมฝ่าย "มรรค" ที่สรุปลงใน "ไตรสิกขา" คือ ศีล สมาธิ ปัญญา" ให้เจริญแก่กล้างอกงามบริบูรณ์ขึ้นในจิตตน จึงสามารถกำหนดรู้ทุกข์(ขันธ์ 5)ตามเป็นจริง พร้อมกับการละสมุทัยไปพร้อมกันตามกำลังแห่งมรรคที่เจริญขึ้นตามลำดับ เมื่อธรรมฝ่าย "มรรค"เจริญขึ้นสูงสุดเป็น "อรหัตตมรรคญาณ" หรือ "อาสวักขยญาณ" จึงสามารถกำจัด "อวิชชาสังโยชน์" หรือ "อวิชชาสวะ"ซึ่งอยู่หัวแถวของปฏิจจสมุปบาทลงได้เด็ดขาด" ทำให้สายสืบต่อแห่งปฏิจจสมุปบาทขาดสะบั้นลงไปพร้อมกับ "ทุกข์และสมุทัย" จึงมีของใหม่คือ "นิโรธ"เข้ามาแทนที่
ทั้งหมดนี้ท่านเรียกว่า "ทำกิจหรือทำหน้าที่อริยสัจ 4"ในตน การท่องจดจำเรื่องของ "ศีล สมาธิ ปัญญา พระอภิธรรม พระพุทธวันะ"ได้จนขึ้นใจนั้น เป็นสิ่งดีอยู่ แต่ก็ยังใช้การได้ไม่ดี ยังละอาสวะไม่ได้ ต่างจากการเจริญธรรมฝ่าย "มรรค"โดยทำให้จิตเป็น "ศีลวิสุทธิ์"ก่อนแล้ว ก็จะเป็นฐานให้จิตเป็น "จิตตวิสุทธิ์"(จตุตถฌานขึ้นไป) แล้วใช้จิตวิสุทธิ์เจริญวิปัสสนาเข้าถึง "ปัญญาวิสุทธิ์ 5" สุดท้ายก็ใช้ปัญญาวิสุทธิ์อบรมจิตออกจากอาสวะทั้งปวงที่รวมถึง "อวิชชาสวะ"ด้วย จิตหลุดพ้นจากขันธ์ 5 (ขันธวิมุตติ) เข้าถึงพระนิพพานอันเป็นจุดหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนาเน้อ
กราบแทบเท้าบูชาคุณ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ กราบอนุโมทนาค่ะ🙏🙏🙏
ไม่รู้เป็นใครตีนเหม็นป่าวก็ไม่รู้
พระอภิธรรมเป็นสิ่งที่ละเอียดมากๆ ค่ะ ไม่ใช่ลัทธิ และมีมานานมากแล้ว เป็นเรื่องดี เรื่อง
จริงที่บางคนอาจะไม่ยอมรับในความจริงต่าง ๆ ขอขอบพระคุณท่านอ.สุจิน หนูสนในและติดตามพยายามหาข้อมูลแนวทางปฏิบัติของท่านอ.แนบ มานานแล้ว กราบขอบพระคุณนะค่ะ อยากมีโอกาสได้กราบอาจารย์ค่ะ
ใช่ครับๆ เห็นด้วยๆ
Ms Jintanat : ยังมีเวลาหาความจริงของพระธรรมวินัยแท้ๆของพระพุทธเจ้า และวิธีดับทุกข์ตามที่พระพุทธเจ้าให้เดิน แต่ไม่ใช่เส้นทางที่ยายคนนี้บอก ถ้าอยากรู้คำสอนที่แท้จริงก็ไปหาในยูทูปเลย มีเยอะ เช่น ธรรมะบรรยายของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป อ ปยุตโต วัดญาณเวสกวัน แล้วจะเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าต้องการให้เราเดินทางใหนที่ปลอดภัย ไม่ต้องไปนรกอีก แนะนำได้เท่านี้ ถ้ามีโชคดี คงเจอสิ่งดีๆ สุดแล้วแต่กรรมของแต่ละคนที่ทำกันมา
หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี วัดมเหยงคณ์ ท่านก็เรียน ก็สอนอภิธรรมค่ะ.. สอบได้ที่ 1 ของประเทศด้วย.. ลองฟังดูแล้วจะรู้.. จะเห็นความต่าง..
งงจริงๆ.สระสมความจริงใจ.มีสิ่งที่มีจริงๆ.ฟังธรรมะทีละคำ.ความติดข้อง.ไม่รู้อะไรเลย.สุดท้ายก็ให้ไปหาพระเจ้า...สาธุ
ผมนับถือศาสนาอื่น ตอนนี้สนใจอยากเริ่มรู้จักพุทธบ้าง บังเอิญเจอคลิปนี้ *ผมฟังจนจบแต่ผมยังไม่ทราบเลยว่าพุทธเจ้ารู้อะไร* ผมได้ยินแต่ *คำเดิมๆ* ธรรมะ ความจริง ของอะไร ต้องรู้คำก่อน กำลังปรากฎ งง
ธรรมชาติ = ความจริง เป็นสิ่งที่เข้าใจยาก
รู้ความจริง = ปัญญา
ปัญญา..เป็นธรรมชาติที่รู้สภาพความจริง ที่ปรากฏ
ปัญญา..จะเกิดเมื่อรู้และเข้าใจความจริง ซึ่งเเตกต่างจาก เทวนิยม ที่มุ่งแต่สอนให้เชื่อๆ โดยไม่สามารถหรือพิสูจน์ความจริงที่กำลังปรากฏ เมื่อไม่รู้ย่อมหลง เพราะหลงย่อมเห็นผิด เพราะเห็นผิดจึงดิ้นรน เพราะดิ้นรนจึงยึด เพราะยึดจึงทุกข์.
@@พนิตตาพรมบุตร ขอบคุณครับ สำหรับคำตอบ
ตอนที่ comment ผม ฟังแล้วงง สับสน ว่า พุทธเจ้า ค้นพบ อะไร ฟังจนก็ไม่เห็นจับใจความได้เลย (แต่ผมก็ comment แรงไป ตอนนั้นอารมณ์เสียครับ) เดี๋ยวผมจะ edit คำให้ดีขึ้นครับ
ที่คุณพูดถึง เทวนิยม ศาสนาผม พระเจ้าออกแนวยื่นหมูยื่นแมวครับ คือ มีรางวัลสำหรับคนเชื่อพระองค์ และ มีคำสาปแช่งสำหรับคนไม่เชื่อพระองค์ (จึงไม่ใช่การอ้อนวอนเลยทีเดียวครับ)
*แต่ของพุทธหลักการขึ้นสวรรค์คืออะไรครับ*
____อ้างอิง___
*“อย่าสร้างแบบจำลอง* ให้กับตนเอง เป็นรูปสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่มีอยู่ในฟ้าสวรรค์เบื้องบน แผ่นดินโลกเบื้องล่าง หรือท้องน้ำเบื้องลึก *อย่ากราบไหว้หรือนมัสการสิ่งเหล่านั้น เพราะเรา พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าเป็นพระเจ้าผู้หึงหวง เราจะลงโทษลูกหลานของผู้ที่เกลียดชังเราไปสามสี่ชั่วอายุเพราะบาปของเขา แต่เราจะรักลูกหลานของผู้ที่รักเราและปฏิบัติตามคำสั่งของเราตลอดพันชั่วอายุคน*
เฉลยธรรมบัญญัติ 5 :8-11 TNCV
bible.com/bible/179/deu.5.8-11.TNCV
พุทธ..ข้ามพ้น นรก สวรรค์ ไปไกลมากเเล้ว นรก สวรรค์ เป็นส่วนหนึ่งในระบบ "สังสารวัฏ"
นรก..เกิดจากการกระทำ กาย วาจา ใจ ที่ประกอบด้วย "ทุจริต" (อกุศลธรรม)
สวรรค์..เกิดจากการกระทำ กาย วาจา ใจ ที่ประกอบด้วย "สุจริต" (กุศลธรรม)
นรก สวรรค์ เกิดจากปัจจัยเหล่านี้.
@@guybangkok พุทธต้องปฏิบัติ ดินจงกรม นั่งสมาธิ อบรมทั้งศีล สติ สมาธิ ต้องกำหนดทุกข์ให้ได้ พุทธมีการผิดเพี้ยนของสัทธรรมมาก ไม่แปลกใจที่คุณฟังยายแล้วจะงงเพราะแกไม่เคยภาวนาเลย ฟัง อ่าน จำ คิด ถาม ตอบ สรุป อภิปราย วนไปวนมา นี่ไม่ใช่วิธีของพุทธครับ
@@guybangkok คุณลองฟังธรรมสายพระป่า เช่น หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี นี่คือธรรมพุทธแท้ๆที่ออกมาจากการปฏิบัติของะระอริยสงฆ์ที่ชาวพุทธเคารพครับ😄
ทุกอย่างเป็นอนัตตา พระธรรมก็เป็นอนัตตา คือเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่ควบคุมทั้งหมดทั้งปวงได้คือพระเจ้าไช่มั๊ยครับ
ถ้าท่านอยากเข้าถึงธรรมจริงๆ แต่ไม่รู้วิธีปฎิบัต ฟังหลวงปู่เทียนครับท่านสอนธรรมแท้จริงๆ ฟังไม่วกวงอยู่แต่ในตำรา
อนุโมทนาด้วยกุศลจิต ค่ะ
พระพุทธเจ้าเคยตรัส"ทุกคนต้องปฎิบัติเองถึงเห็นเองแม้แต่ตัวเราก็จงอย่าฟังอย่าเชื่อเพราะสิ่งนี้ไม่สามารถทำให้ท่านหลุดพ้นได้"นอกจากตัวท่านเองเพราะธรรมมะของเราเกิดขึ้นและดับลงมันคือธรรมชาติรอบตัวเรา
โมฆะสตรีชัดๆ
ฟังผู้บรรยายร่วมก้วนอาจารย์สุจินต์ ยังเข้าใจง่ายกว่า จารย์เล่นพูดวกไปวนมาอยู่ที่เก่า
การรู้หรือเห็นแจ้งในสภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริงในไตรลักษณ์นั่นคือ
อรหัตผลนะครับ เอาแค่ระดับประถมให้ได้
ก่อนดีไหม ยังยินดีพอใจในกามคุณทั้งห้าอยู่หรือไม่ เช่น ยังต้องการประดับตกแต่งร่างกาย ย้อมผมอยู่หรือไม่ เวลากินอาหารยังติดในรสหรือต้องปรุงรสหรือไม่ ยังชอบกลิ่นหอมแต่รังเกียจกลิ่นเหม็นอยู่หรือไม่
เมื่อถูกคนด่ายังรู้สึกโกรธอยู่หรือไม่ ยังติด
อยู่กับความสะดวกสบายเกินกว่าเพื่อการดำรงชีพหรือไม่ รู้เท่าทันอารมณ์ต่างๆของตนเองหรือไม่ เช่น พอใจไม่พอใจ สุขทุกข์
สามารถอยู่ในอุเบกขารมณ์ ได้ทุกเมื่อหรือไม่ หากคำตอบตนเองคือไม่ หมายความว่า
ยังเป็นเพียงปุถุชนผู้ยังมากไปด้วยอาสวะกิเลส
รู้หรือว่าท่านแปลภาษาในคัมภีร์ออกมาถูกตรงตามที่พระพุทธองค์สอน ในภาษาของเรา ถ้าประเทศอื่นเขาแปลไปอีแบบล่ะเขาก็ว่าเขาแปลถูกล่ะ เราจะว่าใครถูก นี่แหละผู้ยึดตัวคัมภีร์มีมานะอัตตาไม่รู้ตัว
คุณรู้แจ่งเหลือเกินผมขอถามหน่อยว่าคุณเป็นอรหันต์แล้วหรือยังถ้าคุณยังไม่เป็นคุณจะรู้อะไรการปล่อยวางการสละคุณยังไม่มีเลยคุณยังละกิเลสไม่ได้เลยพระพุทธเจ้าพระองค์ต้องเข้าไปสมผัสด้วยพระองค์เองจึงเข้าใจคุณสมผัสสิ่งเหล่านั้นแล้วหรอยังคุณเคยเห็นความทุกจริงๆๆไมความทุกที่เกิดจากการปฏิบัติถ้าคุณละทิฏฐิความเห็นผิดของคุณๆจะเข้าถึงธรรมะได้อย่างแน้นอนเพราะตอนนี้คุณกำลังหลงตัวเองว่ารู้ๆจากการอ่านไครเขาก็รู้แต่รู้จากการปฏิบัติสิรู้ไมรู้จริงไมเข้าใจไมหึ
ปมเดาว่า เรียนมากรู้มาก ทามบ่ได้หรอก ท่าทำได้ไหนจะมาติพระ บ่ใช่คนดีหรอก คนติพระบ่อยๆๆๆๆๆเกิน เปนของเล่น 😁😁😁
สนทยา คถต*ปฏิบัติ อย่างเดียวเลยหรือเปล่า จึงจะทำให้เข้าถึงความ ความจริงอันประเสริฐ ตามที่พระสัมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศไว้ได้
ถ้าไม่ศึกษาธรรม ให้รู้ชัดตามความเป็นจริง โดยละเอียดเสียก่อน แล้วที่ว่า*ปฏิบัติ *ปฏิบัติอย่างไร ตามความรู้ใด ...?
หรือไม่ต้องรู้ ก็*ปฏิบัติได้ อย่างเช่นตอนนี้ ผมไม่เห็นประโยชน์แล้วที่จะมานั่งฟัง นั่งศึกษาการถ่ายทอดองค์ความรู้ศาสดา
ผมจะลงมือปฏิบัติในตอนนี้เลย *ปฏิบัติยังไง..? ทำอะไรก่อนล่ะในลำดับแรก จะอาศัยองค์ความรู้ใดมาประกอบในการ*ปฏิบัติ
ถ้าไม่ศึกษาธรรม ให้รู้ชัด แค่เริ่มปฏิบัติยังเริ่มไม่ได้เลย แต่ถ้าท่านคิดว่าท่านรู้แล้ว แต่รู้ไม่ชัด ท่าน ปฏิบัติไปท่านก็สูญเปล่า
ถึงละกิเลสได้คือมันจะหายไปเลยหรอหมดสิ้นหมดเลยหรอไม่เงียนไม่อยากเย็ดรูหีไช่ป่าวถุ้ยไอ้เหี้ยดับกิเลสได้มันก็ยังมีอยู่ความเงียนเพราะมันยังมีสังขารร่างกายอยู่พระคือจิตของทุกคนบนโลกที่ไปบวชเเม่งผิดหมดมันมีตัวตนคนสัตว์ไปเรียบร้อยเเล้วสอนว่าตัวตนคนสัตว์ไม่มีเเหละมันจะมีไครมาสอนธรรมะพวกมึงเล่านี่เเหละธรรมแท้ฟังเเค่นี้มึงบรรลุธรรมเลยก็ได้
พวกมึงคิดเอาเองถามว่าทำได้ป่าวที่พูดมามึงก็ทำไม่ได้ไอ้เวรพูดเป็นต่อยหอยเลยพูดสวยหรูสนุกปากอร่อยรูตูดคุยไปทั่วจักวาลพิภพ
@@รักหมาเเละเเมว ที่แสดงออกมาเพื่อ...?
ดูหมิ่นถากถางผู้อื่น เพื่อไรหรอ คิดว่าดึงคนอื่นให้ดูตกต่ำ แล้วตัวเองจะดูสูงสงขึ้นงั้นหรอ..?
กราบเท้าท่าน อ.สุจินต์ และขออนุโมทนา สาธุ
🙏🙏🙏
กราบไม่ได้นะตีนเป็นตาปลา
เลื่อนลอย
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ "อริยสัจ 4"และ "ปฏิจจสมุปบาท" ซึ่งมีอยู่ในตัวเรา ......อริยสัจ 4 ได้แก่ 1. ทุกข์(ขันธ์ 5 ที่รวมถึงสังขารร่างกาย) 2.สมุทัย เหตุแห่งทุกข์ ได้แก่ กามตัณหา(ความกำหนดยินดีในกามารมณ์ 5=กิเลส) ภวตัณหา(ความติดใจในภพชาติ=กรรม) วิภวตัณหา(ความติดใจฝ่ายมิจฉาทิฏฐิ= กรรม) อวิชชา(ที่ตั้งความไม่รู้ 8 ประการ=กิเลส) 3.นิโรธ(ความดับสนิทแห่งทุกข์ เพราะสมุทัยดับไป) 4.มรรค คือ ทางดำเนินเพื่อความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ ได้แก่ บุญกิริยาวัตถุ 10 กุศลกรรมบถ 10 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา โพธิปักขยธรรม 37 ทั้งหมดรวมลงใน "ไตรสิกขา" คือ "ศีล สมาธิ ปัญญา"
เมื่อยังเข้าไม่ถึง "นิโรธกับมรรค" จิตเราสัมประยุตต์กับทุกข์(ขันธ์ 5)และสมุทัย(กิเลสและกรรม) โดยมี "ปฏิจจสมุปบาท"เป็นปัจจัยสืบต่อให้ทุกข์และสมุทัย "คงอยู่กับจิต-พอกพูนที่จิต-นำพาจิตสืบต่อภพชาติ"ไม่มีที่สุด ชื่อว่า จิตท่องเที่ยวไปกับการเกิดตายของสังขารร่างกาย และท่องเที่ยวไปกับการเกิด-ดับของขันธ์ 5(นามรูป)ในสังสารวัฏยาวนานมานับภพนับชาติไม่ถ้วนจนถึงบัดนี้ เพระอำนาจของ "อวิชชา"โดยแท้
พระอริยสงฆ์เจ้า พระโยคาวจรเจ้า ท่านวางตำรา วางการท่องจดจำ แล้วใช้เวลาทั้งชีวิตมาปฏิบัติตามพระพุทธเจ้าด้วยการ "ทำกิจหรือทำหน้าที่อริยสัจ 4" มุ่งเจริญสีลให้เป็น "ศีลวิสุทธิ์ 1" ขึ้นในจิตใจแห่งตนก่อน แล้ว "จิตตวิสุทธิ์ 1 " (สมาธิชั้นจตุตถฌานขึ้นไป) ก็เกิดตามมา ท่านรู้และเห็นตามเป็นจริง ดังพระพุทธวาจาว่า ภิกษุทั้งหลาย จงเจริญสมาธิ เพราะเมื่อจิตเป็นสมาธิแล้ว ก็รู้ตามเป็นจริง อาจลรรลุ "วิชชา 2" คือ บุปเพนิวาสานุสติญาณ(ระลึกชาติ) และ "จุตูปปาตญาณ" รู้เห็นจุติของสัตต์(ผู้ข้องกับขันธ์ 5 คนละคำกับ สัตว์) เช่น เห็นนรก สวรรค์ ฯลฯ ซึ่งบุคคล(รวมถึงผมด้วย)ที่เอาแต่อ่าน ท่องจดจำพระพุทธัจนะ คำพระตถาคต พระอภิธรรม มากมาย มีความทรงจำพระธรรมมาก พูดภาษาธรรมได้คล่องแคล่วไม่ติดขัด ไม่มีโอกาสเข้าถึง "วิชชา 2" ดังกล่าวมา
การเจริญวิปัสสนาของพระอริยสงฆ์ ท่านเจริญวิปัสสนาบนฐานของ "จิตตวิสุทธิ์" (สมาธิชั้นจตุตถฌานหรือฌานที่ 4) ก็ทำให้ "ปัญญาวิสุทธิ์ 5 " เกิดตามมา ขณะเจริญ "วิสุทธิ์ 7"(ศีลวิสุทธิ์1+จิตตวิสุทธิ์1+ปัญญาวิสุทธิ์ 5)อยู่นี้ ได้กำหนดรู้ทุกข์(นามรูป/ขันธ์ 5)ตามเป็นจริงพร้อมกับการละสมุทัยไปพร้อมกันตามกำลังแห่งมรรคที่เจริญขึ้นตามลำดับ เมื่อธรรมฝ่ายมรรคเจริญขึ้นสูงสุดจนเป็น "อรหัตตมรรคญาณ" หรือ "อาสวักขยญาณ" ก็สามารถกำจัด "อวิชชาสังโยชน์ หรือ "อวิชชาสวะ"ซึ่งอยู่หัวแถวของ "ปฏิจจสมุปบาท"ลงได้เด็ดขาด ทำให้ "ปฏิจจสมุปบาท"ขาดลงไปพร้อมกับ "ทุกข์และสมุทัย" จึงมีของใหม่ คือ "นิโรธ"เข้ามาแทนที่ เข้าถึงพระนิพพานอันเป็นจุดหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา
พระอริยสงฆ์ ท่านเดินตามพระพุทธเจ้าด้วยการ "ทำกิจหรือทำหน้าที่อริยสัจ4" ดังกล่าวมา พระอริยสงฆ์ชั้นพระอเสข เข้าถึง "วิชชา 3" คือ 1.บุพเพนิวาสานุสติญาณ 2.จุตูปปาตญาณ และ3.อาสวักขยญาณ ด้วยการเดินตามพระพุทธเจ้า ส่วนพวกเราท่านทั้งหลาย(รวมถึงผมด้วย)ใช้เวลาทั้งชีวิตเอาแต่อ่าน ท่องจดจำ พระพุทธวัจจนะ คำพระตถาคต พระอภิธรรม จนมีความทรงจำพระธรรมมากเกินพอดี ก่อวิวาทะทั้งภายในตัวเอง และภายนอกตัวเอง จะเข้าถึง "วิชชา 3 "ดั่งพระอริยสงฆ์ พระอริยบุคคล ได้บ้างหรือเปล่าหนอ?
Sukrip Lar : สำนักนี้ไม่รู้เรื่องยอดคำสอนของพระพุทธเจ้าหรอก มันยากเกินปัญญาของคนพวกนี้จะเข้าใจได้ พวกเด็กอนุบาล เค้าจะสอนเด็กแรกเกิดน่ะ ถึงวนไปวนมาที่เดิมๆ บางครั้งก็ส่งจิตที่มีแต่อกุศลไปโจมตี ดูถูกผู้อื่นบ้าง ติเตียนสงฆ์บ้าง คนที่สอนธรรมมะอ้างแต่พระพุทธเจ้าตลอดเวลา แต่กลับปฏิบัติตรงข้ามกับคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างสิ้นเชิง มันเป็นใครกัน ??
ศึกษา มาก แต่ไม่ขัดเกลา มันจะสกบก เหมือน เมา ธร รม จนไม่รู้ตนเอง สูงตำ ไม่รู้คุฌพระ คุฌเจัา เพรา ะ เมา เมื่อเมา จะ ไประวังไร มีแต่ความประมาท ความเสียหาย
จะหลอกลวงจนตายหรือยายไม่กล้าแม้แต่จะบอกช่วโลกว่าใครคือศาสดาข องยายคำพูดของย่ยเป็นไวร้สจนออกพรรษาพระตัมม่ม่าฉันแล้วจะฆ่าพระใช่นรกถามหาเอัยใหม
สะสมความจริงใจ แม๋ สะสมกิริยา ลืน ล่วง เถียงพ่อเถียงแม่ กิริยาแวกแนว นอก คอก สะ สม กิริ ยา ลืนพระลืนสฆ ฆ สิไม่ว่า สะสม อธร รมต่างหาก ใม่ตัองพูดมากรู้มากหรอก การนฎิบัติดี นะ แค่สะสม ความนอบนัอม นโม สะสมกิริยา แห่ง ศีล ธร รมจร รยา สะ สมความเคารพ ผู้หลักผู้ใหฌ่พระ เจัาพระสฆ ฆ สะ สมความเมต ตาอ่อนนัอยถ่อมตนเท่านี่ละ เป็น ปุฌเป็นกุศ ล แลัว รู้มั้ย ยาย
พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรมสูงสุดที่มีในตัวเราทุกคน คือ อริยสัจ 4 โดยที่ทุกคนมี "จิต หรือ ใจ หรือ มโน"และสิ่งที่เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไปในจิต ชื่อว่า "ธรรม"ซึ่งมี 2 ฝ่าย คือ (1) ธรรมฝ่ายทุกข์(ขันธ์ 5)และสมุทัย(กิเลสและกรรม)เป็นเจ้าเรือน เป็นธรรมเกิดดับอยู่ที่จิต มีปฏิจจสมุปบาทเป็นปัจจัยสืบต่อให้ทุกข์และสมุทัย "คงอยู่กับจิต-พอกพูนที่จิต-นำพาจิตสืบต่อภพชาติ"ไปกับพวกมันนับภพชาติไม่มีที่สุด การแก่งแย่ง รบราฆ่าฟัน สงคราม ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข (โลกธรรม 8)ดีใจ เสียใจ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ฯลฯ ก็เป็นธรรมในฝ่ายนี้ (2) ธรรมฝ่าย "นิโรธและมรรค" เป็นของบุคคลผู้สำนึกชอบเพราะเห็นตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน จึงละธรรมฝ่าย "ทุกข์และสมุทัย"ที่เคยเป็นเจ้าเรือนทิ้ง แล้วนำของใหม่คือธรรมฝ่าย "นิโรธกับมรรค"เข้ามาเป็นเจ้าเรือนแทน ชื่อว่า เป็นผู้ทำกิจหรือทำหน้าที่อริยสัจ 4 ในจิตแห่งตนเน้อ !
พวกคุณรู้มาจากไหนว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไรถ้าไม่ใช่จากตำราคัมภีร์ที่บันทึกมา รู้แล้วบรรลุได้อย่างพระอริยะเหล่านั้นหรือปล่าวหรือแค่สัญญาจำแล้วเอามานั่งหลอกตัวเองว่ามีภูมิธรรมเหนือกว่าคนอื่นคนรู้ธรรมอาจจะไม่ใช่คนมีธรรมก็ได้ ก่อนที่พระพุทธองค์จะปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุและนำหลักธรรมมาสอนท่านไปฟังธรรมมาจากใคร
เลิกพยายามบิดเบือนศาสนาให้เข้ากับจริตของตัวเองสักที
sandan191 : คนบาปจะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำบาปอย่างหนักที่บิดเบือนคำสอนของตถาคต
ท่องจำบัญญัติพา ท่านบรรยาย..ตลบ ตะแลง"ไม่ว่าอะไร ต้องจริง ขณะนี้ " ท่าน อาจารย์ พูดถูก พูดตรง พูดจริง ชัดชัดเป็นเหตุเป็นผลดี.. ท่าน อ.สุจินต์ บอกว่าพระพุทธเจ้าพูดถึงสิ่งที่มีขณะนี้ ขอกราบชื่นชมท่านด้วยตรงนี้ " ยอดแห่งจริง " คำจริงนี่ ฟังง่าย..ตรงๆ ไม่ งง ธรรมะ ...
.... กราบสาธุ....
แต่.ท่าน...อาจารย์ สุจินต์ จะเริ่ม วก วน วัวพันหลัก อีกที วก วน ย้อนแย้งในคำตนพูดอีก ก็ ตรงมักมาอ้างกลับอีกสิ ว่า ธรรมะ รู้ได้ยาก ธรรมะรู้ได้ยาก ทั้งๆ ที่พูด ทั้งๆ อธิบายมาซะดิบดี ฟังดีก็ใช่ ก็ถูกเป็นเหตุเป็นผล สมเหตุสมผล แต่ ว่าพอ ฟังง่ายดี เข้าใจดีนะ..แต่พอ ท่าน อาจารย์ สรุป ก็จะ วก จะ วน อีกมาอ้าง อดีต 2500 ปี ยกมาอ้างว่ารู้ได้ยากอีกแล้ว อ้าง อีก ที ว่าพุทธองค์กว่าจะรู้ มาได้นี่ มันยากมากมันสั่งสมบารมี นานแสนนาน ยากแสนยาก ก็ใช่ใช่อีกแหละ แต่นั่นก็พระพุทธองค์ ท่าน ..นี่มันเรา เอาให้ชัดชัด..นั่นไปอ้างอดีตแบบคิดแบบไปให้ความหมายเองผิดๆ 2500 กว่าปี และอ้างย้อนว่า ยากไปหลายแสนกัปป์อีกเลยโน่น ใช่ก็พระองค์ที่จะมาตรัสรู้นี่ ก็เป็นแนวทางสร้างบารมี ยากมากนั่นปกติ ของทุกๆพระองค์ท่านอยู่แล้วจ้า...แต่นี่เรา และเราปัจจุบันอยู่วันนี้ มีอริยสัจจ 4 มี มรรค 8 ที่พระองค์บอกเรามาแล้ว ชี้ชัดให้เราแล้ว ไม่ใช่ยุคมืดไม่ใช่ยุคตามหาความจริงเองเหมือนตอนพระองค์แสวงหา แต่เป็นยุคหาเจอแล้วและบอกพวกเราอยู่ชัดชัด ขณะนี้ วินาทีนี้ จริงขณะนี้นี่ คือ คือ ตอนนี้จ้าท่าน...จ้า.. จะไปคิดเอาเองอย่างพระพุทธองค์ท่าน เรานะไม่ใช่ท่าน เราขณะนี้จ้าท่าน รู้ตนตื่น ตื่นซะขณะนี้ ไม่ใช่อดีต 2500 กว่าปีซะที่ไหน จ้า.. ต้องเข้าใจนะว่า พระพุทธองค์น่ะ แน่นอน พระองค์ท่านทรงสร้างพระบารมีมานั่น ย่อมมากย่อมยากมาก นั่นคือปกติทุกๆพระองค์ท่าน เราอย่าไปหลงเป็นยาก อย่าไปเป็นพระองค์เองสิ เป็นพระพุทธองค์ซะเองสิได้ไง มันคนละอย่าง คนละคน จะไปยกเราตามท่าน อ้างอ้างอดีตอะไร จะไปเป็นท่านได้งัย นี่มันเราจ้า เรา คือ เรา ท่าน คือ ท่าน จ้า เข้าใจสิ เข้าใจตนเองด้วย เราจะไม่ใช่พระพุทธองค์นะจ๊ะ จึงอย่าไปอ้างว่า ยากยากอย่างพระองค์ท่านได้ยังไงหละ คนละอัน คนละรูป คนละนาม คนละบารมีจ้า อย่าอ้างว่าอ้างว่านัก ทีนี้วิทยากรชายนี่ จะตัวพูดเสริมคำ ท่าน อ.สุจินต์ อวยคำท่าน คอยพูคประจบ พูดหนุนคำท่าน..ต่อ..ว่าธรรมะนี่รู้ได้ยากอีกวิทยากรเลยแถตาม แผงตาม อวยตาม เหมือนไม่เอาสมองตนมา มาพูด ตั้งใจมาอวย ฝังหัวตามว่าธรรมะ ยากยากอีกคน มันจึงย้อนแย้ง แย้งกับการอธิบาย ที่พูดว่า ธรรมะ คือ สิ่งที่มีจริงขณะนี้ ตรงนี้ใช่ นี่ฟังง่าย.. ทั้งๆ ที่พูดมาซะ จริง ฟังง่ายๆดีนะ ก็เข้าใจง่ายดีอยู่นะ ท่าน อาจารย์..แต่เดี๋ยวๆ ก็กลับไปพูดว่า ยากๆอีกอยู่นั่นแหละ ว่าธรรมะยาก นี่วก วนนะ รวมทั้ง ที่วิทยากรชาย อ่อนสมอง ที่ได้แต่คอย คอยอวยคอยเสริมคำ แก่ท่าน อาจารย์ สุจินต์อยู่นั่น ก็จะพากันบอก ว่า ธรรมะนี่รู้ได้ยากยากอีก..ก็อริยสัจจ4 พระองค์เอามาบอกแล้วก็รู้ตามซะซี่จ๊ะ ...มันเลยยากเอาเอง นี่คิดใหม่เอาเองอีกสิ ว่ายากก็ยาก เพราะคิดเอาเอง ยาก เพราะเพียง คิดเองว่ายากสิทีนี้ 🤣🤣😃😃😃😂..ทั้งๆที่ พระพุทธองค์ ทรงตรัสรู้ พระพุทธองค์ ได้ทรงเปิดของที่คว่ำให้หงายแล้ว ง่ายแล้ว ผู้มีตาดีจะมองเห็นได้พระองค์ตรัสไว้ไง๊ พระพุทธองค์ก็ตรัสว่า พระองค์ทรงจุดประทีปในที่มืดแล้ว ก็แจ้งแล้วนะ สว่างแล้วนะ ผู้มีตาดี จะมองเห็นได้ ก็ตรงๆดี ง่ายๆ คำเพราะๆ เบาๆ ดี คือ ที่พระองค์ตรัสรู้ธรรมบรรลุธรรมแล้วนี่แหละ สว่างแล้วแก่พวกเราตาดี ไม่ยากแล้ว ...แต่ทำไม ท่าน อาจารย์ และ วิทยากรชายนั่น ยังบอกยังมาแถ มาอวยกัน..ว่ายากอีก..วก วน..ตาปัญญาบอดสนิทหรือไร..จึง..ไม่รู้..ทั้งๆที่ของยากนั่น ง่ายแล้ว โดย พระองค์ทรง เปิดของที่คว่ำ ให้หงายแล้ว ทรงจุดประทีปในที่มืดให้แจ้งแล้ว ผู้มีตาดีย่อมมองเห็นได้...ก็ดีแล้ว...แล้ว ท่าน ที่สอนที่บรรยายนี่ จะบอดจะดักดานไปถึงไหน ถึงชอบบิดเบือนธรรมะเอาเองคอ้างว่ายาก ยากจะรู้ยากจะเห็นได้อ้างตลอดมา..ยังจะมาเสียเวลาสอนบัญญัติแบกบัญบัติอยู่ดักดานทำไมกันงั๊น อายุก็ 90 กว่าๆแล้ว...มาโพนทนาคิดเอง..ว่ายาก..ยาก..และจามาสอนทำไมนี่ แค่นี้ยังดักดานเองอยู่นี่นา ท่านอาจารย์ผู้สูงส่ง..แต่ดักดานสินี่.
ปรมัตถ์ ไม่บัญญัติ : งงอ่ะดิ. 5555 เจอคำสอนแท้ๆมาเยอะ มาเจอคำสอนของยาย งงงเลย. ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ไม่เหมือนพระอรหันต์ ไม่เหมือนพระอริยะสงฆ์ แล้วยายเอาคำสอนวนไปวนมา มาจากใหน😄😜😜
มันคนละ เรื่องกับคำที่พูด แต่กำลังสะสม อกุศ ล สะ สม ความเกลียดชัง สะ สม การตำหนิติเตียน ผู้อื่น สะ สมความเกลียดชังพระ สะสม การ เกลียดประญี สะ สม การปฎิเสธ ขบ บทำ เนีย มอันดี แลัวมันจะ เอาอะ ไรมาดี โงหลาย ยาย
อธิบายเรื่องง่ายๆ ให้ฟังยาก เพื่อ ? 🍉
ขอบพระคุณครับ
hetingsong song ไตร่ตรองตรีกพิจารณาเป็นเรื่องเฉพาะตนเท่านั้นอิทัปป้จยตาตรวจสอบได้เปิดเผยไม่ซ่อนเร้น
คำสอนของพระพุทธเจ้าเปนของวัดนะคัฟ ไม่ใช่ของบ้าน นี่เเหละ มหาโจรหาตู่เพื่อเอาธรรมะของพระพุทธเจ้ามาใส่บ้านตนเองน่าอดสู 😁😁😁😁😁😁😁😁😁😁😁😁😁
วิหก ปวดหัวเซงด้วย คำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ของวัด. แต่ท่านฝากไว้กับพุทธบริษัทต่างหาก ดังนั้น คฤหัสถ์อุบาสก อุบาสิกา. ศึกษาพระธรรมได้แน่นอน. และไม่ต้องรู้สึกเดือดร้อนเพราะต้องรักษาพระวินัยแบบภิกษุบางรูปสมัยนี้. ภิกษุที่ยังใช้ชีวิตไม่ต่างจากคฤหัสถ์ (เว้นแค่อาศัยวัด) ก็ไม่ต่างจากคฤหัสถ์ แล้วจะบวชเป็นภิกษุทำไม. รู้ไหมว่ามีโทษมาก เพราะอยู่ในสถานะที่ถูกยกย่องว่าสูงแต่รักษาพระวินัยไม่ได้ และรู้สึกเดือดร้อนอย่างทุกวันนี้
ท่านปรารถนาดีต่อภิกษุ ก็ต้องเตือน อย่ามองเจตนาท่านผิด
หัวข้อพุทธเจ้าตรัจรู้อะไร??ตอบแบบนี้ พูดจริงๆผมก็งง
การทำหน้าที่หรือทำกิจอริยสัจ 4 ในตนเริ่มต้นที่ปฏิบัติหรือเจริญธรรมฝ่าย "มรรค"ซึ่งรวมลงที่ "ศีล สมาธิ ปัญญา" โดยเริ่มทำให้ศีลเป็น "ศีลวิสุทธิ์"ในจิตของตนก่อน แล้ว จิตตวิสุทธิ์(สมาธิยิ่ง/สัมมาสมาธิ) และปัญญาวิสุทธิ์จะเกิดตามมา จิตมีธรรมภายในเป็น "ศีลวิสุทธิ์ จิตตวิสุทธิ์ ปัญญาวิสุทธิ์" ชั้นโลกุตตระ จะเห็นการเกิดดับของนามรูป(ขันธ์ 5)ตามเป็นจริงพร้อมกับการละสมุทัยไปตามกำลังแห่งมรรค เมื่อธรรมฝ่ายมรรคเจริญเป็น "อรหัตตมรรคญาณ" หรือ "อาสวักขยญาณ" ก็สามารถตัด "อวิชชาสังโยชน์" หรือ "อวิชชาสวะ"ได้เด็ดขาดจึงเข้าถึงพระนิพพาน อันเป็นจุดหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา ตลอดเวลกาการทำกิจอริยสัจ 4 นี้ ใจมีแต่สุขจนถึงบรมสุข(นิโรธ) มีแต่ความสงบตั้งแต่ กายวิเวก จิตวิเวก และอุปปธิวิเวก เพราะเห็นตามเป็นจริงด้วยปัญญาที่แท้จริงแห่งตนแล้ว
กราบอนุโมทนากับท่านอาจารย์ที่มีเมตตาอย่างไม่มีประมาท 🙏🙏🙏กราบขอบพระคุณมากค่ะที่หนูมีโอกาศได้ยินได้ฟังคําจริงคําแท้ที่องค์พระอรหังตสัมมาสัมพูทธเจ้าทรงแสดงไว้ให้ผู้ฟังเข้าใจจากท่านอาจารย์นํามาบรรยายให้ฟัง🙏🙏🙏กราบสาธุ สาธุ สาธุ🌺🌺🌱🌱🌷🌷🍀🍀🌻🌻🌿🌿🌹🌹🌾🌾
ธรรมะ เกี่ยวข้องกับทุกชีวิต น่าจะง่าย ... แต่ตรงข้าม ผู้ฟังในรายการ อายุก็มากๆ ประสบการณ์ชีวิตก็มาก แต่ดูเครียส กดดันอย่างไรไม่รู้
สติ สัมปชัญญะ ..นรกเป็นที่ไป.อาจารย์ หรืออาเจีบน
ยายอรหอยเก่งกว่าพระ เผลอ จะสอนฮอดพระเจ้าเเผ่นดิน เก่งจิง พระก็ไม่กัว ยายสุจินโน
สติ สัมปชัญญะ : ปกติ เวลาฟังธรรมะ คนฟังจะเบิกบานมีความปิติเกิดขึ้นในใจ ปัญญาเกิด เห็แจ้งแทงทะลุถึงสัจธรรม แต่ฟังยายแก่ มีอคติเกิด อกุศลกรรมตามมา
เพราะไม่ใช่ธรรมะที่แท้จริง แต่ได้ผสมยาพิษไว้ คือวจีกรรมทุจริต มโนกรรมทุจริต ทางไปเลยเป็นทุคติ เพราะไม่เคารพพระธรรม คือ อริยสัจ4 แล้วตามมาด้วยมรรค8 ที่สำคัญที่สุดที่คนพุทธต้องรู้ และปฏิบัติตาม
เราฟังแล้ว กลับหายเครียด สบายดีออก
ถาม...พระสัมมาสัมพุทธเจ้า..ทรงรู้ ( ทราบ ) เรื่องอะไรบ้าง..ครับ. ..ไม่ใช่ตรัสรู้นะครับ
ไม่มีใครขัดไม่มีไคร แยัง เอา ใหฌ่เลย และ เกินพอดี นะยาย และ เกินขอบเขต เกินความดีดัวย
คว รเชื่อ และทำตาม ธร รม ที่บุค คล ผู้มีความเชื่อ และทำตามธร รมจริงๆ
ต้องรู้อะไรถึงจะหลุดพ้นครับ
พระอรหันตสาวก 4.0 กำเนิดแล้ว สาธุ ธาธุ
R.Little Pigs big belly ฮา😂
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
คุณไม่ใช่ตัวแทนพระพุทธเจ้า..และนี่ก็ไม่ใช่หน้าที่คุณ..ที่จะตะเวณ..สืบสานก้าวก่ายในพระพุทธศาสนา...เกินขอบเขต
ป่วนศาสนาพุทธมาหลายสิบปีแล้ว..ใกล้หมดเวลาแล้วคับ
😎
อริยสัจ๔.
ภิกษุทั้งหลาย ! กามคุณเหล่านี้มี ๕ อย่าง.
๕ อย่าง อย่างไรเล่า ? ๕ อย่าง คือ :-
รูปที่เห็นด้วยตา, เสียงที่ฟังด้วยหู,
กลิ่นที่ดมด้วยจมูก, รสที่ลิ้มด้วยลิ้น
และโผฏฐัพพะที่สัมผัสด้วยผิวกาย
อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด.
ภิกษุทั้งหลาย ! กามคุณมี ๕ อย่าง เหล่านี้แล.
ภิกษุทั้งหลาย ! ชนเหล่าใด จะเป็นสมณะหรือพราหมณ์ก็ตาม
ติดอกติดใจ สยบอยู่ เมาหมกอยู่ ในกามคุณ ๕ อย่างเหล่านี้แล้ว
ไม่มองเห็นส่วนที่เป็นโทษ ไม่เป็นผู้รู้แจ่มแจ้งในอุบายเป็นเครื่องออกไปจากทุกข์
ทำการบริโภคกามคุณทั้ง ๕ นั้นอยู่;
ชนเหล่านั้น อันคนทั้งหลายพึงเข้าใจเถิดว่า เป็นผู้ถึงความพินาศย่อยยับ
แล้วแต่มารผู้มีบาปต้องการจะทำตามอำเภอใจอย่างใด ดังนี้.
เจ้ อธิบายธรรมจับแพะชนแกะ อ่านมาเยอะแต่ผูกให้เข้าใจในเหตุในผลของธรรมในแต่ละเรื่องไม่ได้
ยิ่งฟังเจ้ ยิ่งงง ยิ่งมั่ว เริ่มจาก"ความจริง" "เรื่องจริงๆ" ไปเรื่อง"อนัตตา" ไปเรื่อง"ภพนี้ภพหน้า"ไปเรื่อง"กรรม" ตบกลับมาเรื่อง "ความจริง" "สังสารวัฐ" คือ พูดครั้งเดียวเล่นเอาทุกเรื่องมาพูดแปะเรื่องโน้นนิด ต่อเรื่องนี้หน่อย
เอาละ เจ้ เจ้ความจำดีในคำศัพท์ แต่เอามาร้อยเป็นเหตุ เป็นผลกันไม่ได้ มั่ว ครับ มั่วตัวแม่
ตามความเป็นจริงคืออะไร ? พระพุทธเจ้าของจริงเท่านั้นหรือ ? พระอรหันต์อีกเป็นแสนเป็นล้านองค์ ไม่จริงหรือ ธรรมที่อาจารณ์นำมากล่าวเป็นของดี แต่ไม่เหมาะกับปุถุชนทั่วไป เช่นบอกว่าไปนั่งสมาธิทำไม่ เพราะไม่รู้ความจริง เมื่อมีคนตอบว่าทำให้สบายใจ อาจารณ์ก็ยิ้มเยาะ หาว่าโง่ไม่เข้าใจตามความเป็นจริง นั้นแสดงว่าอาจารณ์ไม่รู้จักการนั่งสมาธิ ติดอยู่แต่ในทฤษฎีเท่านั้น คน 100 คนถามข้อสงสัย ไม่มีใครหนีรอดจากการถูกตำหนิของอาจารณ์ ทำไม่ถึงเป็นเช่นนี้ บางคนมีความเข้าใจธรรมลึกซึ้ง แทนที่อาจารณ์จะตอบด้วยความเมตตา ก็ตอบให้เขาต้องอายเพื่อทำให้เห็นว่าอาจารณ์เก่ง ทุกคนที่เป็นชาวพุทธ ก็ต้องนับถือพระพุทธเจ้าทั้งนั้น แต่ก็ไม่เอาไปข่มคนอื่น ธรรมะเป์นของธรรมชาติ ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า ใครก็ได้สามารถรู้ได้ขึ้นมาจากกรรมของแต่ละคน คนที่ดีในศาสนาอื่นๆ ก็เข้าใจธรรมที่ดีก็มีมาก อาจจะใกล้นิพพานแล้วก็ได้ แล้วทำไม่มามัวนั่งคิดว่าคนพุทธดีกว่าคนอื่น เพระเราไม่รู้เลยว่าคนที่เป็นศาสนาอื่น เมื่อชาติก่อนๆอาจจะเป็นพุทธก็ได้ ดังนั้นควรสนับสนุนให้ฟังธรรมจากพ่อแม่ ครูบาอาจารณ์ สำนักปฎิบัติธรรม วัดทั้งหลายและควรมีใจก้วางที่จะเรียนรู้ธรรมจากศาสนาอื่นด้วย แล้วใช้ปัญญาในการไตร่ตรองคัดเลือกที่ดี นำมาปฏิบัติ มิฉะนั้นก็จะไม่เป็นบัณฑิต อย่าเอาสิ่งที่ไม่ดีขึ้นมาชู โรง ให้เอาสิ่งที่ดี ขึ้นมากล่าวแทน คนบ้างคนสามารถปฎิบัติตามศาสนาพุทธได้ตลอด (มีบุญเก่ามา) คนบางคนปฏิบัติแนวทางครีสต์ก่อนไปได้ดี แล้วหันกลับมาปฏิบัติทางพุทธได้คล่องขึ้น (อันนี้ขึ้นอยู่กับจริตของคน) บางคนปฎิบัติในศาสนาอิสลามมาแล้วก็หันมาทางพุทธต่อก็ไปได้ดี ส่วนคนที่เป็นพุทธแล้วหันกลับไปนำถือครีสต์ก็มี(เพราะชาติก่อนเป็นครีสต์) ดังนั้นการเป็นคนดีมิใช่อยู่ที่ศาสนาอย่างเดียว อยู่ที่บุญเก่าที่เป็นคนดีมา คนที่ดีไม่ว่าไปอยู่ในศาสนาใด ก็ทำให้ศาสนานั้นดีขึ้น การที่อาจารณ์สุจิณต์บอกเป็นสิ่งที่สูงเกินเอื้อมไป ในเมื่อคนมีสี่เหล่า อาจารณ์เหมาะที่จะสอนคนที่เปรียบเสมอดอกบัวที่บานรับแสงรุ่งอรุ่ณแล้วก็จะดี ส่วนบัวเหล่าอื่นต้องค่อยๆสอนและให้เมตตาไป ไม่ใช่ตักเตือน แต่ไม่บอกวิธีละเอียดที่ปฏิบัติให้ถูกต้อง อย่างหลวงพ่อพุธ อาจารณเจี้ยง อาจารณ์มั่น . ประกาศผู้ใดฟังธรรมของอาจารณ์สุจิณต์แล้วไม่รู้เรื่อง (เพราะไม่ได้เอาบันไดมา) โปรดมาฟังของหลวงพ่อพุธก่อน (เพราะไม่ต้องใช้บันได) เมื่อจวนจะสำเร็จแล้วจึงค่อยกลับมาฟังธรรมจากอาจารณ์สุจินต์ต่อ ถ้าคนที่ไม่รู้เรื่องพุทธไม่มีพื้นฐานแน่นมาก่อน ฟังธรรมจากอาจารณ์สุจินต์แล้ว อาจจะไม่ไปวัด ไม่ไปหาพระ ไม่นั่งสมาธิ ไม่วิปัสนา เพราะคิดว่าตนเป็นคนโง่แล้วไปไม่ได้ ซึ้งมิใช่ จริงๆๆแล้วเราต้องเริ่มจากถือศีล๕ ก่อนแล้วฝึกสมาธิ นั่งวิปัสนา ถูกแล้วต้องนั่งตอนที่ยังโง่อยู่ สะสมไปเรื่อยแล้วจะบรรลุธรรมขึ้นมาเอง เมื่อกรรมดีให้ผล ถ้าไม่ยอมนั่งและไม่ปฏิบัติ เพราะกลัวว่าจะโดนหาว่าโง่ นั่นคนโง่เลย
Bodee Navawongs พระอรหันต่สาวกเป็นแค่ผู้เดินตามทางที่ตถาคตบอกสอน.ใมมีสิทธแต่งเติมหรือตัดทอนใดๆเลยทั้งสี้นไปคันหาศึกษาไห้ดีมีพระสูตรองลับหลายแห่งอรรถกถาใม่ใช่พระพุทธวจนะ.ผู้ฟังดีย่อมได้ปัญญานะ.พุทธแปลว่าผู้รู้ตึ่นผูเบิกบาน.ใม่ใช่ผู้หลงนะครับ.......
Bodee Navawongs : คนบาปมันไม่เคยอธิบายขันธ์5 ศีล5 กุศลกรรม อกุศลกรรม ศีล สมาธิ ปัญญา วิธีดับทุกข์. สงสัยจะมีปัญญาน้อย เลยพูดวนอยู่ที่เดิมตลอดเวลา แล้วยังชอบดูถูกสติปัญญาของคนปฏิบัติธรรมอีก คนบาปคงเป็นเช่นนี้ เหมือนเทวทัตที่ชอบขัดแย้งกับพระพุทธเจ้า คนบาปเลยสอนตรงข้ามกับวัตถุประสงค์ของพระพุทธเจ้า คิดเอง เข้าใจเอง แต่ชอบอ้างพระพุทธเจ้า บาปหนักจริงๆ
ความคิดเห็นของคุณ Bodee Nanawongs เอาไปห้าดาว
ธรรมะไม่ใช่ธรรมชาตินะครับจะเอาต้นไม้ใบหญ้าอากาศมาเป็นธรรมะไม่ได้พระพุทธองค์ไม่ได้ตรัสไว้แบบนั้นนะครับ ยกตัวอย่าง ขันธ์ 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นรูปธรรมแค่เพียงส่วนเดียวนอกนั้นเป็นนามธรรมหมดเลย นั่นก็แสดงว่าธรรมชาติไม่ใช่ธรรมะ ธรรมะส่วนธรรมะ ธรรมชาติส่วนธรรมชาติ พระพุทธเจ้าเป็นเจ้าของแห่งธรรม ถ้าไม่มีคนเช่นพระองค์ มนุษย์ มาร พรหม ก็ไม่สามารถรู้ธรรมได้ ยกเว้นพระปัจเจกพุทธเจ้านะครับที่สามารถตรัสรู้เองได้แต่ไม่ตั้งศาสนา
พูดมีแต่น้ำ วกวน
ขนาด ทำ ไดัจริง มีความจริงปรากฎ อยู่ ขนาดนั่น ยังยากที่จะทำตามเลย เพรา ะกิเลส มันขวางใวั
ว่าได้ในที่เปนเอาถึงในสมมุติ.นี้ใช่ว่า.เที่ยงแท้.ในชีวิต.ในเอาว่าใน.ได้ในทุกๆมิติ.ผมใคร่ได้.ตะหนักถึง.ในไม่เที่ยงนี้..จะประมาณได้.เอาได้จริง.ในจะมี.ปัจจัย.นำส่ง.ถึงผลนั้น.ใหัเปนจริงได้.ในตัวเอง.ในเราเลือก.เปนเอาได้.ผมใช่ว่ามีเที่ยงได้.ในเวลา.เอาได้.ผมรู้ดีถึงนี้ได้.ผมต้องรีบได้..ในผมจะเอาตำหนิตัวเองได้.รู้งี้.ผมสอนให้.แล้วละ.ผมสำเนียกให้ได้ครับ.ขอท่านๆมีใจใคร่เรียนรู้.พระธรรม.ได้ถึง.ที่สุดได้.นี้ผมไม่หว่ง.เท่าไร.มีเท่าไรได้กัน.ละครับ.
แกรีบสอนเลยไม่เข้าใจเพราะแก่รีบๆๆๆๆไปที่สวรรค์แต่เต็มแล้วทำไหงละ. ยมทูตถามนางเธอนะไปผิดทางม้ะมากับผม(ยมทูตพูด)
นัตฐิยา คํามา : ท่านยมส เปิดประตูรอคนที่ชอบบิดเบือนพระธรรม พวกดูหมิ่น เห็นการตรัสรู้อริยะสัจ4 ของพระพุทธเจ้าไม่สำคัญ
สัมมาสัมพุทธสูตร
ว่าด้วยความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
[๑๗๐๓] พระนครสาวัตถี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสัจ ๔ ประการนี้ ๔ ประการ
เป็นไฉน? คือ ทุกขอริยสัจ ฯลฯ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ อริยสัจ ๔ ประการนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะได้ตรัสรู้อริยสัจ ๔ ประการนี้แล ตามความเป็นจริง ตถาคตเขาจึงกล่าว
ว่า เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึง
กระทำความเพียร เพื่อรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
ถัาปากไม่เกรงพระธร รม ธร รม ทั่งหลายก็จะ ไม่เกรงใจยายเช่นกัน กร รม
เหมือนคนไม่เคยเรียนบางวิชา แล้วถูกจับมานั่งสอบ เด๊ะๆเลย
อนุโมทนา ขอบกราบในความรู้ของ อ.สุจินต์แต่สงสารคนที่ฟังไม่เข้าใจเพราะ มีอวิชชามากแต่ ฟังอ.สุจินต์เท่าไรก็มีแต่โทสะ ต่ออาจารย์ น่าสงสารคนเหล่านี้ฟังเท่าไรก็มีแต่โทสะต่อว่าคนอื่นว่าพูดไม่ดี ขอให้ฟังต่อไปเพราะถ้าเมื่อเข้าใจว่าธรรมะคืออะไรให้เข้าใจจริงฯจะเข้าใจเอง ขอให้ที่น่าสงสารลดน้อยลง
ธร รมลืนพ่อลืนแม่ธร รมเถียงพ่ฬแม่ธร รมลืนธร รมล่วง จะอา อะ ไร มาดีมา เจริญ
พระพุทธเจ้าสอนอะไร วิธีออกจากทุกข์อย่างไร พุทธวจนบอกขั้นตอนไว้ละเอียดมากลองฟังพุทธวจนดูนะครับ
คึกลิจวจนะ ต่อต้าน หลวงปู่ฤษีลิงดำ ปัธโธ วะ มันร้ายกาจจิงๆๆ
พุทธวจน ผมฟังมากเป็นอันดับต้นๆในการศึกษาธรรม แต่ก็ไม่อาจจะรับรองได้ในทุกคำพูดที่ พอจ.กล่าว (คงเพราะความรู้และปัญญาเรายังน้อย) แต่ก็ฟังคุณย่าท่านนี้บ้าง(เพิ่งเริ่มฟังได้ 4 5 คลิป) คุณย่าท่านมีความละเอียด ปราณีตมาก ในทุกๆคำของศาสดา อย่างการอธิบายพระสูตร การเจริญ อานาปณสติ แท้จริงแล้วมีอะไรที่ลึกมาก มากกว่าแค่การเอาจิตตั้งไว้ที่ลมหายใจอย่างเดียว แต่ต้องมีเจตนา(ความตั้งใจจริง) และต้องเห็นในความเป็นอนัตตา ของลมหายใจด้วย ความเป็นอนัตตาของสติด้วย คุณย่ากำหนดสมาธิ ก่อนจะพูด ไม่พูดเพ้อเจอเลื่อนลอย หรือเห็นเป็นของตลกขำขัน เป็นความจริงใจในการถ่ายทอดคำพระศาสดาอย่างมาก ที่ผมกล่าวสรรเสริญคุณย่าอย่างนี้ ไม่ใชผมจะลบลืมพระกรุณ ในพระคุณของท่าน พอจ.นะครับ ท่านมีอุปการะต่อผมมาก จากคนที่ไม่ฝักใฝ่เรื่องศาสนา ผมเห็นคุณค่า ศาสนา(คำพูดคำสอนพระศาสดา) ได้ถึงขนาดนี อย่างไรผมก็ยังศึกษาและปฏิบัติตามพุทธวจนต่อไป โดยใช้หลัก คำถ่ายทอดใดสอดรับกับธรรมกับวินัย ทรงจำธรรมนั้นไว้ คำใดไม่อาจรู้ตามได้ ไม่พึงรับรองไม่คัดค้าน และละทิ้งคำพูดที่ไม่สอดรับกับธรรมวินัย ไม่ไปจ้องจับผิดเพ่งโทษตัวผู้แสดงธรรม พูดผิดพูดพลาดบ้างต้องมีจิตให้อภัย ในความเป็นผู้เดินตามศาสดาองค์เดียวกัน
คือพระพุทธพจน์แสดงไว้โดยละเอียด แต่คำของท่านอาจารย์ทำให้เข้าใจพุทธพจน์ชัดเจนขึ้น แจ่มแจ้งขึ้น
น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับอาจารสุจินต์ และอาจารย์ทุกๆท่านด้วยความเคารพอย่างสูงสาธุ ด้วยความนอบน้อมนี้ขอให้ข้าพเจ้ามีส่วนร่วมแห่งธรรมสาธุ
คนที่เข้ามาอ่านคอมเม้นท์ ถ้าเป็นไปได้อย่าอ่านเลย.. ฟังอาจารย์แล้วพิจารณาตามความเป็นจริง อย่าพึ่งเชื่อท่าน ถ้าคิดว่าถูกว่าใช่ตรงจริตก็ฟังต่อ ถ้าไม่ก็ไปหาอะไรที่ตรงกว่า เรื่องธรรมะจะเจริญขึ้นไหมเป็นเรื่องปัจเจก #มองตัวเองพิจารณาตนเองดีกว่า
พุทธบริษัทสี่ต้องช่วยคุ้มครองพระศาสนา
ทนไม่ได้ต้องเข้ามาเพราะพวกคุณเป็นมิจฉาทิฏฐิไม่ว่าแต่พวกคุณตั้งใจมุ่งทำลายพระศาสนาให้อันตธานเพราะพวกคุณโจมตีพระไม่มีความเมตตา
ยุยงจูงใจใส่ข้อมูลผิดๆว่าการไปปฎิบัติธรรมที่นั่นที่นี่ผิดแต่ของคุณถูกเพราะคุณมีสถานที่ปฏิบัติธรรม
สรุป ต้องไปฟังพวกคุณ พวกพ้อง และต้องไปสถานที่ปฎิบัติธรรมของคุณ จึงจะถูกนั้นซิ????
โถ ตายไปไม่ได้ผุดได้เกิด
@@ฐิติรัตน์สังข์ดา พวกเขาไม่ให้ปฎิบัติเลย..ให้เข้าใจธรรมอย่างเดียว..และต้องเป็นธรรมที่่พวกเขาสอน
สำนักของคนพวกนี้ไม่มีที่สำหรับทำสมาธิ..
บรรลุฉับพลันได้เลย..แปลกแต่จริง สะสมมาพอดี.ขนาด..นุ่งเปลือกไม้ ยืนฟ้งธรรมข้างถนน ไม่ถึงครึ่งนาที บรรลุอรหันต์..ท่าน พาหิยะ ยืนนุ่งเปลือกไม้ฟังธรรม ข้างถนน..กำหนดตามคำพุทธองค์สอนสั้นๆ..ฟังพระธรรม สั้นๆบรรลุทันที คือพระพุทธองค์ เทศน์สั้นๆ ว่า ..
......เห็นให้ สักว่า เห็น
.......ได้ยิน..สักว่า ยิน
........ได้กลิ่น สักว่า กลิ่น
........ได้รส สักว่า รู้รส
.........สัมผัส สักว่า สัมผัส
......รู้ละ และ จบกิจบรรลุพระอรหันต์ทันที..ง่าย.พิจารณา..สักว่าๆๆๆๆ..จบ. รู้สึก สักว่าๆ ไม่ปรุงเป็นปัญญา อวิชชาหมดจบ รู้เกิด ดับตามจริง สั้นๆ ท่านพาหิยะ ได้สำเร็จบรรลุอรหันต์ เปลือยกายแต่ ยีนนุ่งเปลือกไม้ และฟังธรรมพระสัมมาที่ข้างถนน..ไม่ถึง ครึ่งนาที ได้บรรลุเลย..ส่วน ท่าน อ.สุจินต์ มามัวประเมิน คนว่า รู้ได้ยากยาก บรรลุยาก ไม่มีใครบรรลุได้ ขวางนิพพานซะเอง. พระพุทธเจ้าเปิดอริยสัจ 4 มรรค 8 แล้ว. มัวพูดว่าคนไม่รู้ไม่รู้จัก ท่าน สุจินต์ปรุงแต่งเอาเอง..ว่ายากในสมองท่านจบอยู่ที่ไม่รู้...สิ่งควรรู้พระพุทธองค์ชี้แล้ว. ไม่ใช่มาอธิบายตามความอยาก ตามปากตนเอง และอ้างพุทธะอยู่นั่น.
มีใครบ้างหรือ ? นุ่งเปลือกไม้ได้ การกระทำเช่นนี้ได้ ต้องละกามคุณได้มากเเล้ว อินทรีย์แก่กล้าเเล้ว เมื่อได้ฟังพระสัทธรรม จิต..ย่อมคลายความยึดมั่น เห็นสภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริง.
สรุป ... พระพุทธเจ้าตรัสรู้เรื่องอะไรครับ
ฟังมาจนจบ ยังจับใจความไม่ได้เลยครับ
Kreetha Tansubhaphol
พระธรรมไม่ใช่ของง่ายครับ แล้วแต่การสะสมมาครับ ยิ่งสะสมด้วยการเป็นพหุสูตเท่าไร ก็ยิ่งเข้าใจสิ่งที่ฟังครั้งนี้มากเท่านั้น
ค่อยๆเริ่มสะสมการฟังไปเรื่อยๆครับ ขออนุโมทนาครับ
ตรัสรู้เรื่องสิ่งที่มีจริงๆ เช่นทุกข์มีจริงๆ จิตมีจริง เป็นต้น
ขออนุญาตแชร์ความรู้นะครับ พระพุทธเจ้าสอนให้เห็น ทุกข์ คือ มีตัวตนอยู่ชั่วคลาว สมุทัย คือเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์=ปฎิจจสมุปบาทสายเกิด นิโรจน์คือเหตุแห่งการดับทุกข์คือปฎิจจสมุปบาทสายดับ มรรคคือ อริยะมรรคมีองค์แปด คือ ศีล สมาธิ ปัญญา =สมถภาวนาวิปัสนาภาวนา รวมลงมาเป็นอานาปานสติ ปฎิบัติโดยรู้ลมเข้ารู้ลมออกโดยไม่คิดว่าเป็นเราที่กำลังหายใจเมื่อจิตเคลื่อนไปคิด=รูปดับนามเกิดเมื่อรู้ตัว่าคิดกลับมารู้ลม=นามดับรูปเกิด ทำให้มากเจริญให้มากเห็นเกิดดับให้มาก ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับอาจารย์
เข้าใจมากขึ้นๆ
อริยะสัจ4
กุ๊กอยู่ห้องครัว
นักดนตรีอยู่กับห้องซ้อม
นักเรียนอยู่ห้องเรียน
ฉันท์ใดฉันท์นั้น
ธรรมะอยู่กับวัด ไม่ใช่อยู่บ้าน
ธรรมะมาจากไหน มาได้อย่างไร
ค้นพบที่วัดหรือที่บ้าน
เรียนน้อยรู้น้อย
เรียนลึกรู้ลึก
เรียนละเอียดรู้ละเอียด
ถ้าไม่เรียนรู้กับพระอรหันต์
จะมีพระอรหันต์มาถึง
ปัจจุบันได้อย่างไร
(ดอกบัว)พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อะไรบ้าง
เคยขนขวายบ้างไหม
ความจริงที่ท่านพบ
ชาติก่อนนี้ชาติหน้านี้มีจริง
ท่านเห็นอดีตอนาคต
ท่านเห็นการเวียนว่ายตายเกิด
เห็นละเอียดยิ่งกว่า
คอมพิวเตอร์ชั้นหนึ่ง
หลายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆล้านเท่า
เห็นถึงอนันตจักรวาล
ที่คนยังไปไม่ถึง
เห็นนรกสวรรค์
เหตุแห่งทุกข์และเหตุแห่งสุข
ต้นเหตุแห่งทุกข์
ต้นเหตุของ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
แม้พรหม อรูปพรหม ก็ยังไม่หลุดพ้น
ต้องเข้าพระนิพพานเท่านั้น
ถึงจะหยุดเวียนว่ายตายเกิดได้
คืออริยสัจสี่
อยากเป็นแชมป์อาหาร
ต้องเรียนกับกุ๊กมือ 1
อยากเป็นนักร้องเก่ง
ต้องเรียนแชมป์สอนขับร้อง
ไม่ใช่ไปเรียนกับแชมป์เต้นรำ
อยากเรียนธรรมะ
แต่ไปเรียนกับนักจิตวิทยา
ไม่มีทางสอนแตกฉานได้
พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้
ให้พึงคบหาแต่บัณฑิต
อย่าเสียเวลาคบหาคนพาล
เรียนกับของแท้ ได้ของแท้
เรียนกับของเทียม ได้ของเทียม
แค่ฉันกับฉันท์ยังสะกดไม่ถูก
Radtai lokutarapol
ธรรม..เเค่ลืมตามอง..หูฟังเสียง..จมูกได่กลิ่น..ลิ้นลิ้มรส..กายกระทบสัมผัส..ธรรม..ไม่ได้อยู่ที่บ้าน..ไม้ได้อยู่ที่วัด..เเต่อย่างเดียว..อยู่ตัวเรา(รูป นาม กาย ใจ)นั่นเอง.
ธรรมะคือความจริง นี้คือธรรมจริงแท้คุณแม่คุณพ่อบ้านธัมมะควรฟังบ้างเผื่อจะได้เห็นทางที่ถูกตามคำของตถาคตครับ
บรรยายธัมมะที่ไหนตกแต่งโพเดียม อลังการ ไม่เหมือนผู้ปฏิบัติธรรมเลย
ไม่กลัา หลับตา ลงหรอก กลัว ความหนา แน่นกลัวกร รม กลัว เห็นกิเลสเจัาของ ยาย เอัย
เอ้า กราบบบ
อะไรคือความจริงของการหลุดพ้นครับ
ขอเชิญชวน อาจารย์ๆๆทั้งหลายพาลูกพาหลานมาบวชอยู่คนละสามพรรษาๆ มาเลย !จะได้รู้ปัญหาของพระ...
คน คอกดอย ...
ผ
เห็นด้วยครับ อย่าชูคออยู่แต่ในจอแล้วไม่เข้าใจทุกข์ที่แท้จริง ไม่เข้าใจปัญหาของพระ!!
ใช่คัฟ จะได้รู้ว่าง่ายหรือป่าวว มัวเเต่โจมพระนั้นเเหละ
การบวชไม่มีใครบังคับ. ไม่พร้อมที่จะปฎิบัติตามพระวินัย ก็ไม่จำเป็นต้องฝืน. และถ้าสนใจพระธรรม. ก็ศึกษาได้ตลอด ความเข้าใจก็ธรรมะไม่ได้เลือกว่าต้องอยู่สถานะไหนถึงจะเข้าใจ. ถ้ามีความตั้งใจอยู่สถานะไหนก็ศึกษาได้ เพศคฤหัสถ์ก็ศึกษาได้
ส้อนยกพระสูตรด้วยครับ
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
กราบท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ครับ
งง?????????????????
วุฒิ อนุสนธิ์ ใช่ครับ ฟังแล้วมึน สงส้ยผมโง่
รู้ทุกอย่างตามแต่งจิต.รู้ถูกผิดไปหมดอดสงสัย..ผู้รู้จรืงไม่อวดอ้างหรือว่าใคร...นีเผลอไผ..หลงตัวมิปล่อยวาง...เออน้ะ
พูดกับปฏิบัตินี่มันแตกต่าง....กันสิ้นเชิง....
กราบนอบน้อมบูชาคุณพระรัตนตรัยอย่างมั่นคงสูงยิ่ง กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพอย่างสูง กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์คำปั่นด้วยความเคารพอย่างยิ่งในพระธรรมที่ได้แสดง พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ได้ทรงแสดงว่าธัมมะ คือสิ่งที่มีจริง ที่ปรากฏทุกๆขณะ แล้วดับไปเป็นอนัตตา จะรู้ได้ด้วยตนเองว่าเป็นเพียงธาตุแต่ละธาตุที่ทำกิจหน้าที่ในแต่ละหนึ่งๆในแต่ละวันทุกขณะจิต เป็นกุศลและอกุศล กราบอนุโมทนาในกุศลจิตที่ดีงามค่ะ
พุทเจัา ผากศาสนา ใวักับ บริบัทษก็ถูกเสมอ แต่ปริษัท ก็มีหนัาที่ หนัา หลัง ต่างกันอยู่ มีหัวหนัา มี่ลูกนัอง มีผู้นำมีผู้ตาม แต่นี่มาอัางว่าทำตาม พุทเจัา แต่กลับ ไม่รู้ตนและหนัาที่ตน และความเหมา ะสม แก่ตน เกิดความ งามน่า เลื่อมใส ต่อพระศาสนา แต่นี่อะ ไร ยิ่ง จะ ทำ ไหัคนเกิดเบื่อ หน่าย รู้สึกไม่ดีต่อกัน เพรา ะมีกลุ่มคน หลงตน หลง ยุคหลงหนัาที่ โถๆๆๆๆๆๆๆๆ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ที่เคารพยิ่งและขออนุโมทนาค่ะ 🙇🏻♀️🙏🤍✨
ที่กล่าว... คุณจินต์.. กล่าวว่า.. ปัญญา... สำคัญกว่า.. สมาธิ....... ทำไมพระอริยสงฆ์.. สอนกันมาว่า.. เราทำสมาธิเพื่อใ้ห้เกิดปัญญา... พวกคุณสอนผิดหรือปล่าว
ที่พูดอยู่นี้ต้องการอะไร
ต้องการเปนยายอรหัน ให้คนกราบเท้ายายอรหอยคัฟ 😁😁😁
สุริยา นามเสนา : มันต้องการให้สาวกมันไปทุคติ เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าไปทางสุขติ แต่ยายสอนคนละแบบกับพระพุทธเจ้า ก็เลยไปทุคติ วินิบาต นรก สัตว์โลกเป็นตามกรรมจริงๆ กรรมที่ไปเชื่อมาร แต่ไม่ฟังพระอริยะสงฆ์
วิธี พิจารณาความปริญัติ จาก ทั่นสุจินต์
ฟัง เข้าใจ แต่ไม่ปฏิบัติ มันจะเกิดผลรึยาย
ขนาดมหาๆยังเป้นบ้ายอมก้มหน้าก้มตาโง่ตาม..โถสังเวชน่าเสียดายสงสารภุมิมหาเด้
นางหลงทางหรือปล่าว
ฟังมันพูดแล้วปวดหัว...วกวนไปมา ละ คลาย ได้รึยังพวกป้าๆสาวกทั้งหลาย..ปวดหัวกันไหม..ฟังรู้เรื่องไหม .. ไม่ได้ประเด็นจับต้นชนปลายไม่ได้ เหมือนคนเป็นโรคประสาท...
🤔
พูดไปเถอะ หมดคำภี สุด ทัาย มันก็ไปหยุด อยู่ที่ตนเองนั่นแหละ หยุด อยู่ที่กิเลส เจัาของนั่นละ
ในความเปนจริงได้.ในธรรมชาติ.นี่.พระธรรมนี้.พระตถาคตนี่.ค้น.พบ.เอา.ใน.ธรรมชาตินี้เอาได้.ไหมครับ.ตานอกเรานี่.คิดเอาได้.ในว่าค้น.พบ.ได้จริงได้ครับ..เชิญท่านอาจารย์..เมื่อไร.เราจะกันได้..ใช่ว่าใน.สะสมเอามากัน.งั้นไม่เอาถึงไหนกันแล้ว..ครับ
ตอบอ้อมจัง..ไม่ตรงประเด็นเลยคำถาม
Samart Khayanha
ตอบตรงแล้วอะไรได้ ?
ตอบอ้อมแล้วได้อะไร ?
ฉันนั้น
ยายคนนี้ดูเเววตามีมายาเลสในคนหัวหมอโครตหัวหมออัจฉริยะด้วยคัฟ
ใช่ๆ.. ต้องตอบโชะๆๆ และออกเป็นปัญญาจิงๆเลยถึงจะใช่โสดาบันขึ้นไปเพราะ.. ความสังสัยในธรรมมันมีทุกคน..
เราก็เห็นว่าตรงนะ ไม่ได้อ้อมอะไร ทุกอย่างเป็นอนัตตา
สงสารคุณไอ้คนนี้จริงฯ
อ่านคอมเมนต์ที่มาด่าท่านอาจารย์ ก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามปัจจัย ตามกรรมจริงๆ ก็ควรจะได้สงสารเขาเหล่านั้นเพราะก็ได้ประกอบกรรมที่จะได้รับผลที่ไม่ดีต่อไป เพราะว่าโมหะ และโทสะ จึงกล่าวผรุสวาจากับผู้ที่ได้แสดงธรรมเห็นปานนี้ได้
“ภูเขาศิลาล้วนยอมไม่หวั่นไหวด้วยลมจากทิศทั้ง ๔ ฉันใด บัณฑิตยอมไม่หวั่นไหว เพราะด่านินทาและคำสรรเสริญฉันนั้น”
สาธุครับ
ถ้าดีจริงใครจะด่า..จะมีแต่คนสรร
เสริญ..ถ้าเป็นบัณฑิตจริงก็ต้องตอบคำถามให้กระจ่าง..ไม่ใช่
ถามวัวตอบควาย..เพราะคนที่
ถามก็เป็นบัณฑิตเหมือนกัน
อย่าหลงตัวเองเกินไป..อะไร
ที่เคยใช้เมื่อห้าสิบปีก่อนมันใช้
ไม่ได้ในสมัยนี้..คนที่ฟังยายเขา
ก็ฟังที่อื่นด้วยเขาก็ค้นหากูเกิล
ด้วย..คนเราต้องตรงจริงเป็นคนจริง..รู้จริง.จริงใจ..เข้าใจความเป็นจริง(หยุดโกหกตัวเอง)
คนที่ด่าเขาด่าจริงๆ..สาธุ
@@panumasrerksanan8892 สรรเสริญ นินทาเป็นธรรมดาของโลก เก็บสิ่งดีๆไว้ สิ่งไม่ดีก็อย่าเก็บ
ความอาย ไม่มีเลยเนอะยาย อะ ไรคือศีลของตน แต่มาอัาง ธร รม ของพุทเจัา แต่ไม่ทำตาม มุ่งว่า แต่ ตนเอง ผมก็ยัฆเต็มหัว ศีล คฎหัส ตั่งแต่ขัอ หนึ่ง ถึงขัอ สุด ทัาย กับไม่พิจรฌา เจัาของเลย น่าอาย ความจริง อายความรู้ที่มีเนอะ