Web 3 0 คืออะไร มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ?
Вставка
- Опубліковано 23 сер 2024
- รายงานพิเศษจากแบไต๋ หนุ่ย พงศ์สุขจะอธิบายให้ฟังว่า #Web3 คืออะไร ทำไมถึงเกี่ยวข้องกับ #Blockchain มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร ดูคลิปนี้จบ คุณจะเข้าใจภาพของ Web 3.0 เพื่อศึกษาต่อได้! #beartai
ติดตามแบไต๋ กดเลย! cutt.ly/YTbeartai
================
ติดต่องานโฆษณา หรือ Production ได้ที่
🔔sales@shownolimit.com
📱 To. 085-848-2253
ติดตามข่าวสารด้านไอที และไลฟ์สไตล์โดน ๆ ได้ที่
Facebook: / beartai
Twitter: / beartai
Instagram: / beartai.ig
TikTok: / beartai
Website: www.beartai.com
LINE: @beartai
ในความคิดผม Web 3.0 อาจะจะเป็นอนาคตอันใกล้แต่ไม่ใช่สำหรับทุก business เพราะบาง business ยังจำเป็นต้องใช้ infrastructure แบบ centralized เนื่องจาก perfomance ที่ดีกว่า
ชอบรายการนี้ครับ. การเปลี่ยนถ่าย เทคโนโลยี คงต้องค่อยๆเปลี่ยน จาก web 2.xx - > web 3.0. การประยุกค์ใช้ concept web 3.0 ก็มีให้เห็นมาแล้ว คือ ระบบการโอนข้อมูล P2P ของโปรแกรมอย่าง Bittorent, Bitcommet ฯลฯ. ระบบความปลอภัยสูงอย่าง POW ของ BTC. น่าคิดว่าในอนาตด เราจะได้เห็นอะไร ที่คล้ายๆกับ J.A.R.V.I.S ที่ช่วยสร้างชุด iron man บน Web นั้น. สมมุติว่าเราโยน คำถามบางข้อ เข้าไปให้ AI ตอบ ,เราอาจเตรียม tip เล็กๆน้อยๆ ที่มีค่าพอที่ AI จะยอมรับมันก็เป็นได้นะ.
8:40 อินเตอร์เน็ตอาจจะไร้ศูนย์กลางจริงๆ ลองไปศึกษา Internet Computer (ICP) ดู
9:25 browser เว็บ3.0 มีแล้วนะครับ BAT กับ osiris อาจจะมีมากกว่านี้แต่ผมศึกษาแค่ 2
9:40 เขียน DApp ลงบลอคเชนก็ทำได้แล้ว ยกตัวอย่างแค่2ตัว ICP FLUK ROSE พวกดาต้าก็มีให้เลือกเยอะมาก
FIL
BIT HOT AR SC OCEAN STROJ REP BLZ INXT ELA
9:47 web3.0 มันไม่แท้งหรอก เพราะมันออกมาแล้ว มีการใช้งานแล้ว รอแค่ได้รับความนิยมมากขึ้นแค่นั้นเอง
10:25 แหม พิมพ์ไปตั้งเยอะ กดลบออกซะงั้น
อธิบายไปรอบแรก โดนลบเฉย นี่เอาข้อมูลมาให้นะ ไม่ได้มาดิสเครดิต
มันเป็น algorithm ของ youtube ครับผมก็เป็นบ่อยเคยพิมพ์ยาวมากๆ comment หายแต่ถ้าจำไม่ผิดมันจะส่งไปกรองให้เจ้าของช่องตรวจสอบอะครับ
ขอบคุณมาก ๆ นะครับ ทีม beartai ทุกคนชื่นชมคุณ และเราชอบคอมเมนต์คุณภาพแบบนี้ครับ …เราไม่ได้ลบหรือแบนอะไรใครเลยครับ มีแต่ระบบของ UA-cam เท่านั้นที่มองเป็น Spam ครับ
ไม่ว่าจะ web2.0 (centralized) หรือ web3.0 (decentralized) ทั้ง 2 อย่างนั้นล้วนมีข้อดีข้อเสีย ไม่สามารถแทนที่กันได้ครับ
ต้องดูว่า app ที่จะสร้างนั้นเหมาะที่จะใช้แบบไหน
ถ้าต้องการความถูกต้อง ตรวจสอบได้ ก็ต้องใช้ infrastructure แบบ decentralized แต่ต้องยอมรับข้อเสียเรื่องของ performance ที่ด้อยกว่าระบบแบบ centralized มาก นี่ยังไม่รวมว่าต้องจ่ายค่า gas กันอีก
ถ้าต้องการ performance ก็ต้องใช้ infrastructure แบบ centralized แต่ก็ต้องยอมเรื่องของความเป็น centralized แต่ดีตรงที่ไม่ต้องจ่ายค่า gas
ปัญหาจริง ๆ มันเกิดจากการที่ข็อมูลของเรามันถูกขาย แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่ามันทำให้กิจการสามารถดำเนินกิจการเพื่อให้เราใช้ได้ฟรี
กลับกัน เราสามารถจ่ายเงิน (ค่า gas) เพื่อความเป็น decentralized ได้ แต่ตัวระบบจะไม่สามารถใช้ได้อย่างกว้างขว้างเพราะ performance มันมี limit ที่จะรองรับได้อยู่
ส่วนตัวแล้วคำว่า web3.0 เป็นเพียงแค่ buzzword เฉย ๆ เพราะมันแทนที่กันไม่ได้อยู่แล้ว
เพราะจริง ๆ แล้วมันต่างกันที่ infrastructure ของการเก็บข้อมูลว่าจะเก็บแบบ centralized หรือ decentralized
เว้นแต่ว่าในอนาคตผู้คนสามารถมีเครื่องมือที่สามารถประมวลผลได้เทียบเท่ากับ data center ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก และ cloud provider ไม่ถูกใจสิ่งนี้
นี่ยังไม่นับรวมกับปัญหา 51% attack และอื่น ๆ ของ decentralized ที่ต้องหา solution มาแก้กันอีก
ขออนุญาตสอบถามทีนะคะคุณ gasนี่คืออะไรหรอคะ ใช้ทำอะไรหรอคะ
แบบว่าค่า gas มันเกี่ยวอะไรกับคอม อันนี้ไม่รู้จริงๆค่ะ555
@@HoLa-kf2sd มันเป็นคำเปรียบเทียบหมายถึงค่าตอบแทนอะครับ
ค่า gas หมายถึงค่าใช้จ่ายเพื่อทำ transaction (เช่นการโอนเหรียญระหว่างบัญชี) ครับ ซึ่ง gas ของแต่ละ chain นั้นไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น เหรียญ ETH ที่ใช้ใน Ethereum chain และเหรียญ BNB ที่ใช้ใน Binance smart chain
ซึ่งค่า gas เหล่านี้ จะถูกแจกจ่ายให้ miner เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการให้บริการการสร้าง transaction ของแต่ละ node (เครื่องขุดเหรียญ) ครับ
@@HoLa-kf2sd เวลาคุณผลักสิ่งใดออกจากตัว ( การส่งข้อมูลออกไป ) หรือ ดึงสิ่งใดเข้าหาตัว ( การดาวโหลดข้อมูลเข้ามา ) คุณต้องใช้แรงกำลังผลักในการขับเคลื่อน ผมอธิบายแบบนี้ เข้าใจไหมครับ มันจะคล้ายๆกับคำว่า การรับส่ง data แต่มันเปลี่ยนรูปแบบเรื่องของผลประโยชน์ สิ่งใดๆ ที่มีการรับส่งถึงกัน จะมีค่าใช้จ่ายเสมอให้กับบุคคลที่เป็นตัวแทนคนกลาง ยกตัวอย่าง คุณกับแฟน ยืนห่างกันอยู่ราวๆ 5 เมตร จะส่งของให้กัน แต่ต้องมีคนกลางยืนอยู่ราวๆ 3 คน เราจะต้องจ่ายค่าฟี หรือ ที่เขาเรียกว่า GAS นั้นแหละ
ดีครับเข้าใจง่ายสำหรับคนทั่วไป
อธิบายได้ดีและเข้าใจง่ายครับ ผมฟังคนที่ทำงานด้านเว็บมาอธิบายยังไม่เข้าใจเท่าคลิปนี้
ผมเชื่อว่า web3.0 จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ แต่จะไม่ได้อยู่บน network ethereum แต่เป็น network ใหม่ที่เป็นการรวมตัวกันขององค์กรณ์อิสระ หรือมหาวิทยาลัย หรือสมาชิกระดับประเทศ เพื่อให้เหล่าสมาชิกติดตั้ง supercomputer เป็น super node ให้กับ network โดยอำนาจบริหารและทิศทาง จะเป็นไปตามนโยบายของภาคี ก่อนกระจายสู่ node ปรกติ
ขอบคุณพี่หนุ่ยครับ และทีมงาน ทำ content ดีๆให้ได้ความรู้ครับ
ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
ผมกำลังตามเลย อยากใช้งานแบบนี้มาก ตอนนี้รู้สึกติดขัดๆ เพราะต้องผ่าน Sever ผ่าน IP address ปลอม(ที่กำหนดให้โดย Internet Provider) อยากต่อต่อตรงเข้า internet เข้าสั่งงานหรือเชื่อมต่อ Node (อุปกรณ์) ของตัวเองได้โดยตรงมากๆ
การตลาดยุคสื่อหลัก เช่น ทีวี นสพ. วิทยุ แบรนด์ใหญ่ๆสามารถเข้าถึงเครื่องมือการตลาดได้ดี แต่พ่อค้าแม่ค้าตัวเล็กๆไม่สามารถจับต้องตรงนั้นได้
พอมา web2.0 ทำให้คนพ่อค้าแม่ค้าตัวเล็กๆเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ตรงเป้าหมายได้ในราคาที่ถูกมากๆ เพราะทุกคนที่ใช้แอปฟรี จ่ายด้วยข้อมูลนั้นๆ
แล้ว web3.0 ล่ะ เรื่องการตลาด ก็ไม่แน่ใจว่าทิศทางจะเป็นแบบไหนได้ อาจจะแพงมากเหมือนยุคแรก หรือด้านอื่นๆเลยๆ แต่ที่แน่ๆมันจะขัดกับ Martech ที่พึ่งกำลังบูมมาในไม่กี่ปีนี้ และทำให้เกิดเควสชั่นมาร์คถึง Martech หากทุกอย่างปรับไปเป็น web3.0 หมด
.
แล้วพอ decentralize เราน่าจะยินดีกันเรื่องไม่มีใครนำข้อมูลของเราไปใช้ประโยชน์ได้เพราะไม่มีใครเป็นคนรวมข้อมูลนั้น แต่ในทางกลับกันมันก็น่ากลัวตรง เราไม่รู้ว่าจะมีใครควบคุมอะไรได้ไหม และหากเกิดความเสียหายจากอะไรสักอย่าง เราไม่สามารถหาคนรับผิดชอบอะไรใดๆได้ และ ai ที่บอกนำมาใช้นั้นควบคุมจากอะไร มีใครเป็นคนจัดการ และคนจัดการนั้นเขาทำอะไรกับ ai นั้นได้บ้าง
ผมว่า ความท้าทายของการไปสู่ยุค web 3.0 น่าจะมีลำดับความสำคัญประมาณนี้
1. อำนาจ/ความเป็นรัฐชาติ โดยเฉพาะด้านความมั่นคง อำนาจในการบริหารและวิธีแก้ปัญหาของแต่ละชาติที่มีพื้นฐานทางวัฒนธรรมไม่เหมือนกัน คงยอมรับหรือยอมสูญเสียอำนาจนั้นได้ยาก หากยอมก็มีความเสี่ยงจากการเชื่อมโยงกันของเครือข่ายผู้ที่ไม่หวังดีระหว่างประเทศ
2. การสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึง web 3.0 ให้กับทุกคน ยังเป็นไปได้ยาก ตัวเทคโนโนโลยีไม่สามารถแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำนั้นเองได้ถ้ามนุษย์ซึ่งเป็นผู้ใช้ไม่ตัดสินใจที่จะใช้มันแก้ปัญหา ปัญหาความเหลื่อมล้ำชนชั้นทางสังคมและเศรษฐกิจจึงจะคงอยู่ ตรงกันข้าม อาจจะรุนแรงขึ้นอีกด้วย
3. หากจะทำให้เกิดขึ้นได้จริง ก็จำเป็นต้องมีการสร้างอีกระบบในการควบคุมดูแลร่วมกัน เพื่อตรวจสอบข้อมูลการใช้งานได้จากทุก layer และทุก node เพราะคนดีใช้เทคนี้ได้ คนไม่ดีก็ใช้เทคนี้ได้เช่นกัน
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ เป็นเรื่องที่ฟังเข้าใจยากแจชต่อธิบายออกมาได้ดีมากครับ
ทุกอย่างเกิดจากความฝันค่ะอุปมาเหมือนคนอยากบินได้เหมือนนก ทุกวันนี้เราก้อมีเครื่องบินที่บินได้ ฝันให้ไกลมุ่งมั่นพัฒนาต่อยอด และต้องมีคนที่ร่วมความฝันเดียวกันด้วย จะร่วมกันผลักดันให้ความฝันเกิดขึ้นจริง ช้าเร็วขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน และความต้องการของคนส่วนมากจะเป็นพลังขับเคลื่อน
ขอบคุณคุณหนุ่ยและทีมงานBeartai ที่อธิบาย Web 3.0 ได้อย่างดีมาก เข้าใจได้ง่าย ขอแชร์ต่อนะครับ
ผมคิดว่าถ้ากระเเสโลกให้ความสนใจกับ Web 3.0 มาก มีโอกาสที่จะเกิดสูงครับ เเม้ว่าจะสูญเสียการควบคุมจากตัวกลาง เเต่ก็ไม่อาจจะฉุดรั้งให้เกิดได้ เหมือนตอนอินเตอร์เน็ตมาใหม่ๆ ที่ตั้ง Firewall กัน ใช้ Intranet กัน เพื่อที่จะได้ควบคุมข้อมูลได้ สุดท้ายเราก็ใช้ Internet กันอยู่ดี เเสดงว่าเราก็มีโอกาสที่จะได้ใช้ Web 3.0 เเน่นอน เเม้ว่าช่วงเเรกอาจจะไม่ราบรื่นนัก เเต่จะดีขึ้นเองในอนาคตเเละเเพร่หลายกันมากขึ้น
ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆ นะครับ
ผมเข้าใจถูกไหมครับ
1.0 การสื่อสารทางเดียว
2.0 การสื่อสารสองทาง
3.0 การสื่อสารไม่มีศูนย์กลาง
ถูกต้องคับ
น่าจะเป็นไปได้นะครับ ดูจากการมาของเทคโนโลยี Containerization ที่มีการใช้งานเยอะขึ้นในช่วงนี้ มันทำให้การพัฒนา App หรือการใช้งานง่ายขึ้นมาก ๆๆๆ ครับ
ในอนาคตอาจจะถูกพัฒนาไปให้เป็น Container เล็ก ๆ บนคอมเรา แล้วทำงานแบบ Decentralized ได้ดีก็ได้ครับ
ขอบคุณครับ content ดี ๆ ที่ดูแล้วเข้าใจง่ายและรวดเร็วครับ โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าอาจเกิดการ mixing and matching ตามความต้องการของผู้ใช้งานหรือผู้ให้บริการครับ
ขอบคุณทีมงานแบไต๋ ย่อยเรื่องราวดีๆให้ฟัง มีประโยชน์มากครับ
พี่หนุ่ยพูดเห็นภาพมาก ๆ ครับ ส่วนตัวยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนพอที่จะเดาว่า web 3 จะมาในเร็วๆ นี้ครับ คิดว่าจะมาก็ต่อเมื่อ infrastructure แล้วก็ eco system สำหรับ web 3 แข็งแรงก่อนครับ
ขอบคุณครับ ผมว่ามันขัดผลประโยชน์ผู้มีอิทธิพลต่างๆเยอะมาก แอบโดนสั่งเก็บก่อนจะเกิดปฎิสนธิ
ก็เหมือนเทคโนโลยี AI ที่มีมานานมากๆ แต่พึ่งมาบูมเพราะเทคโนโลยีมันถึง web3.0 metaverse ต่างนา ยังไงมันก็ต้องมายุดี จะช้าจะเร็วก็รอดูครับ
อธิบายชัดเจนดีมากค่ะ
อยากจะให้ แบไต๋ มา แบไต๋อะไรที่แปลกใหม่แบบจริงๆ รวมถึงมีข่าวประจำสัด่ห์เรื่องIT หรือ เทคโนโลยีครับ บ้านเรา ตอนนี้มมีแต่ข่าวสารมือถือ แต่จะตั้งชื่อรายการว่าIT คิดถึงหนังสือสมัยก่อน ชื่อ chip ภาษาไทย แต่ตอนนี้หายไปแล้วเหมือน bloombergbusinrss week ไทย ที่หายไปเช่นกัน
เงินพี่มาร์ค ตายอยู่แล้ว เพราะคิดจะแข่งกับดอลล่า เจ้ามือคงไม่ยอมหรอกคับ
ETH กว่าจะรุ่งคงอีก 5 ปี 10 ปี(มั่งคับ)
แต่คริปโต มีลักษณะที่คล้ายศาสนามากขึ้นเรื่อยๆ
ความเชื่อ หลักกระจายอำนาจ ดึงดูดโปรเกมเมอร์เก่งๆ ให้มาช่วยกันพัฒนาได้ต่อเนื่อง...น่าติดตามคับ
อธิบายชัดเจนดีมากครับ ผมคิดว่าอีก5-10ปีได้เห็นweb3.0แน่นอนครับ
ผมมองว่า 3.0 ยังมีช่องโหว่อีกเยอะ โดยเฉพาะในส่วนของ Security ไม่มีตัวกลางที่ปลอดภัย ที่ถูกสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญมาขวางทาง Hacker ไหนจะการให้คอมแต่ละตัวช่วยประมวลผล มันก็จะกินทรัพยากรณ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้งาน ซึ่งคงยากที่จะมีใครยอมให้ใช้ หากรู้สึกว่ามันทำให้คอมช้าลง ไหนจะมีช่องโหว่อื่นๆอีก แต่หากทำการปิดช่องโหว่ได้ เชื่อว่าทุกคนคงยอมรับ Web 3.0 อย่างแน่นอน
อย่าเดาคับ 3.0 มันไม่ใช่จะแฮกกันได้ง่ายๆ..มันก็เหมือนกับบล็อคเชน.
2.0 ยิ่งไร้ความปลอดภัย เพราะข้อมูลอยู่ในมือผู้ให้บริการโดนตรง.
ถ้า 3.0 เกิด แล้วมัน decentralized ได้แท้จริง คนจะแย่งกัน run node ด้วยซ้ำเพราะได้เหรียญเป็นค่าตอบแทน ต่อให้ไม่ decentralized แค่เปิดคอมเฉยๆแล้วได้ตังเป็นคุณไม่เปิดหรอ
@@tonywalker3649 ผมกังวลพวกที่สร้างความแตกแยกมากกว่าครับ เพราะยิ่งคนเข้าหากลุ่มพวกนี้มากเข้า มันจะมีผลประโยชน์รายล้อมทั้วกัน แล้วคนที่เปิดโนดค้างไว้ก็กลายเป็นว่า ไป support กลุ่มพวกนี้โดยอัตโนมัติ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่นำมาเสนอนะครับ เข้าใจชัดเจนเลย
ผมฟังแล้วรู้สึกว่ามันเป็นอนาคตที่ไกลมากสำหรับประเทศเรา
ฝั่งที่เสียผลประโยชน์ยังมีเยอะอยู่ และเค้าไม่น่าจะยอมเสียมันไปง่ายๆ
ฉะนั้นอาจจะบูดก็ได้ครับ
แทนที่กันไม่ได้ครับ มันดีคนละแบบ เก่งคนละงาน ในอนาคตน่าจะเป็นการผสมผสานกันมากกว่า มีทั้ง 2.0 และ 3.0 คละกันไป ขึ้นอยู่กับสเกลของระบบ และจุดประสงค์ของการใช้งาน
Brave Browser นับเป็นBrowserของweb3.0รึยังครับ
มันเอาไว้แก้ปัญหาบางอย่างที่ 2.0 แก้ไม่ได้
บางอย่างที่ไม่จำเป็นต้อง 3.0 ก็ยังคงเป็น 2.0 เหมือนเดิม
แชร์แล้วครับคุณหนุ่ย พูดได้สาระ กระชับ น่าฟังมากครับ
อธิบายดี ตัดต่อดี เข้าใจง่าย ดีมากครับ
ขอบคุณมากครับ ส่วนตัวมองว่า defi ยังมาได้ไกลขนาดนั้น และเงินบาทเงินดอลก็เฟ้อทุกวัน ต้องเปลี่ยนแปลงแน่นอน แต่ตอนนี้ต้องรีบหาทางรอดก่อนครับ
เข้าใจง่าย อธิบายได้เยี่ยมเลยครับ 👍
อย่างนี้ bittorren ก็คือผู้มาก่อนกาลสินะ 😆🤣
ใช่แล้ว 😂
เห็นภาพเลย 555
จะพัฒนาอะไร ช่วยเกรงใจ Single gateway ของประเทศแถวนี้ด้วยครับ
Diem หรือ Libra นี้ เป็น decentralized ละหรอ mark มันก็แค่ทำเพื่อตัวมันเอง
อย่าเอาBlockchainไปเทียบกับ datacenter เลยครับ ที่บอกว่า datacenter ประมวลผลเร็วทำยังไงให้ระบบfinance ไม่ล่มก่อนครับ 555
Web 3.0 เกิดขึ้นจะขัดผลประโยชน์ กับอีกหลายกลุ่ม อาจจะรอนาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็อยากให้เกิดขึ้น และอาจไม่นาน อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลก ถ้ามนุษย์ไม่หยุดพัฒนา
แจ๋ว เข้าใจง่าย ตามเคย
ผมชอบพี่ครับ เหตุและผล เป็นกลาง ไม่อวยจนเกินไป แต่ใช้ เวลา เป็นตัวพิสูจน์
3.0 อันตรายเกินกว่าที่จะรับมือได้ โดยเฉพาะพวกสร้างความแตกแยก หรือ กลุ่มแฮกเกอร์ที่พยายามสร้างแรงจูงใจเมื่อไปหาข้อมูลส่วนตัวของใครมาบ้างแล้ว มันเสรีติดปีกกันเลยทีนี้ เพราะยิ่งมีกระแสมากคนที่รันโนดให้ก็จะได้ส่วนแบ่ง ความนี้ระหว่างความถูกต้อง หรือ ผลประโยชน์ อันไหนที่สังคมกำลังเข้าถึงในอนาคต
ในฐานะ web dev นะครับ ฟังแล้วเลื่อนลอยมาก มันยังตอบคำถามหนึ่งไม่ได้เลยว่าทำไปทำไม
มันไม่เหมือนกับ 2.0 ที่มันมีเหตุผลที่ชัดเจน เพราะยุคแรกมัน static เกินไป
Ai อันนี้มีอยู่แล้วแต่อยู่ backend ถ้าไม่ backend แล้วจะทำยังไง
กระจายศูนย์ มีใครสนใจจ่ายเงินเพื่อเข้าเว็บไหม?
พัฒนายังไง ถ้า decentral แล้วคุมยังไง เนื้อหาละ
ผมสาย backend Django ก่อไม่คิดว่า Web3 จะดีอะไรขนาดนั้น
นี้ยังไม่นับเรื่องการประมวลผลอีกนะว่าทำยังไง code, webserver, database ทำยังไง
อยู่คนละที่ ดึงข้อมูลมายังไง ความล่าช้าขนาดไหน รอสัก 1 วิก็ช้าแล้ว
การตรวจสอบสิทธิ์ต่างๆของผู้ใช้และความปลอดภัยเป็นยังไง เพราะถ้า decentralise มันต้องให้ทุกคนช่วยกันถือไฟล์
ต่อให้แก้พวกด้านบนได้ ก็จะมีปัญหาเช่นเว็บที่ใช้ทรัพยากรมาก คิดค่าใช้จ่ายยังไง ถูกกว่าพวกวาง server เองไหม (ดูยังไงก็ไม่น่า) ถ้าคนเข้าเยอะ เว็บใช้พื้นที่มากจัดสรรทรัพยากรยังไง ดีกว่า kubernates ไหม
มันมีแต่คำถามเต็มไปหมด
อนาคตอันใกล้ครับ❤❤❤
Web 1 internet
Web 2 internet Application ที่สร้างเศรษฐฐีเจ้าของ Platform มาแล้วมากมาย
Web 3 Decentralized กระจายอำนาจและทุกคยสามารถหาเงินบน internet ได้
ขอบคุณสำหรับความรู้ และแนวคิดใหม่ๆ ผมคิดว่า Web 3.0 เกิดขึ้นแน่นอนครับ
เป็นอนาคตอันไกล
ถ้ามือถือทุกเครื่องใช้ สัญญาณผ่านดาวเทียวได้โดยตรง การเป็น wab 3.0 ก็จะสมบูรณ์ขึ้น
ดาวเทียวก็ยังเป็น centralized โดยเจ้าของรายใดรายนึงครับ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ ^_^
น่าสนใจดีครับ แต่ผมก็ยังต้องกินข้าว
ขอบคุณครับ ฟังเข้าใจง่ายครับ
คลิปดีค่ะ เข้าใจง่ายมากๆ
เนื้อหาดีครับ ทำให้อยากเรียนรู้ว่าการเป็นโปรแกรมเมอร์(ไม่มีความรู้เรื่องเรื่องคอม) ส่วนเรื่องWeb 3.0 ผมว่ายังอีกไกลเพราะไม่ใครอยากสูญเสียอำนาจการควบคุม และผลประโยชน์
มา คับ เเต่ มาช้า เเต่ มาเพื่อความเสถียน ครับ
น่าจะอนาคตอันไกลครับ คือฟังดูดีมากๆ เลย แต่ยังไม่เห็นว่าจะเป็นไปได้ยังไง น่าจะต้องต่อยอดจากเทคโนโลยีบล๊อคเชนนี่แหล่ะครับ
ผมคิดว่าเว็บ 3.0 ไม่ได้เป็นไปไม่ได้ แต่อาจจะยากและใช้เวลานาน แต่ผมมองว่าประเด็นหลักเลยคือมันสามารถเป็นปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญ ที่จะทำให้เจ้าใหญ่ๆที่ให้บริการใน 2.0 ปรับตัว ให้มีความ 3.0 มากขึ้น เพราะอย่าลืมว่าโลกนี้เป็นทุนนิยม การสร้างอณาจักร 3.0 ขึ้นมาต้องใช้เงินมาก และผู้ที่ทำนั้นก็ต้องมีตั้งกฎเกณท์ขึ้นมาอยู่แล้ว อีกอย่างคือการตระหนักรับรู้ของผู้คนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเอง ยังต้องมากกว่านี้ เพื่อที่จะให้มากพอที่จะปรับเปลี่ยนความคิดของสังคมโดยรวมให้ไปในทิศทางใหม่ได้ครับ ซึ่งผมมองว่าตอนนี้ยังเป็นยุคที่เบ่งบานของ 2.0 มากๆ คอนเซปของ 3.0 ตอนนี้มันยังอยู่ในวงแคบ เช่น คริปโต อาจจะต้องมีการพัฒนาหรือเสนอลู่ทางที่จับต้องได้มากกว่านี้ครับ
ก่อนที่เว็บ 2.0 จะออกคนก็ตั้งคำถามเช่นกันว่า จะใช้ two way communication ไปทำไม
ขอบคุณคุณหนุ่ย ฟังเข้าใจง่าย
ผมคิดว่า ถ้าค่าแก๊สไม่คุ้มค่าไฟค่าเน็ต มันก็ล่มเอาง่ายๆนะครับ
อธิบายได้ดีจริงไรจริง
เห็นโอกาสเพียบเลยครับ
มีความเป็นไปได้ครับ แต่หลักๆต้องตามความนิยม ให้ดีต้องเน้นโปรโมท และสิ่งที่คนใช้ Web 3 ได้รับแบบเป็นรูปธรรมครับ
อธิบายฉบับย่อเกี่ยวกับ ICP- Internet Computer
ICP คือ ระบบอินเตอร์เน็ตที่อาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชน Blockchain Protocol ในการทำงาน ซึ่งจะปลดปล่อยให้ระบบอินเตอร์เน็ตไปสู่วงกว้าง ไม่มีคนไดคนหนึ่งผูกขาดบงการ บังคับ ซึ่งนักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์โครงการโดยไม่ผ่านบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยี การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปัจจุบันเรามี AWS- Amazon Web Service และ กูเกิล อาศัยระบบCloud ในการให้บริการ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะโดนแฮค
คุณลักษณ์ของ ICP
1. ไม่สามารถแฮ็คได้ Unhackable
2. เป็นอิสระจากระบบอินเตอร์เน็ตปัจจุบัน Decentralized Internet
3.เร็วกว่าระบบอินเตอร์เน็ตที่มีในปัจจุบัน ทุกระบบ
4. Infinite scalability เหนือกว่าระบบ blockchain ในปัจจุบันทุกระบบ
5. ปลอดภัยขนาดเกิดสงครามนิวเคลียร์ ก็ยังทำงานได้
ข้อเสีย
1.ค่อนข้างมาเร็วเกินไป คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจระบบการทำงาน
ความคิดเห็นส่วนตัว
ICP ยังไงก็มา ต้องใช้เวลาสักพัก จากนั้นถนนทุกสายในวงการคริปโตจะทำงานในระบบพื้นฐานของ ICP ช่วงนี้ผมถือเป็นโอกาสดีในการช้อนซื้อ ค่อยๆเก็บไปมีเวลาหลายปี
สรุปสั้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ภาษาง่ายๆๆๆๆๆๆๆ เข้ใจง่ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะดีมาก // คุณ
DApp ที่คนไทยใช้มากสุดในปัจจุบัน คืออะไรครับ
วันที่ Quantum Technology เป็นแมสได้แล้ว Web 3.0 ก็เกิดได้สบายๆ ครับ
ทุ่งลาเวนเดอร์รอเจ้าอยู่ วิ่งให้สนุกน้าาาาา
ขอบคุณ Web 3 0 เป็นอนาคตอันใกล้ ครับ
จะรอค่อยการพัฒนา ยังไงก็ไม่พ้นการเปลี่ยนแปลง แต่ค่าอินเทอร์เน็ต+ไฟฟ้าบ้านเราแพงมาก มันไม่สนับสนุนให้เราเป็นโนดดด เลย
นึกถึงสมัยใช้utorrentเลย
คิดเหมือนกันครับ
ส่วนตัวมองว่าเกิดแน่นอนครับเพราะในชีวิตประจำก็มีการนำไปปรับใช้ค่อนข้างมากแล้วเหลือก็แต่ระบบที่จะต้องถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น
ผมคิดว่า อนาคตอันใกล้ครับ 10 ปี มาแน่ Web3.0 ตอนนั้น Internet คงไม่มีสายแล้ว โครงข่ายดาวเทียมคงเต็มระบบ และคอมพิวเตอร์ คงเร็วกว่านี้ x10 ไปแล้วชิพคอมคงไม่เป็นระดับนาโนเมตร แต่เป็น แสงแทน
ถ้าจะใกล้ต้องทำให้ง่ายเหมื่อน wordpress คนจะได้ใช้งานกันมากไม่งั้นน่าจะอีกนาน ครับ
อยากให้เกิดขึ้นไวๆ คิดถึง Hi5
ได้รับฟังบดวิจานนี้แล้วคงยังไกล อยู่นะครับ
เข้าใจง่ายดีครับ
ไม่มีsvไม่ได้หรอกครับ
มาแน่คับ
สุดท้ายเราจะใช้เน็ตก็ต้องใช้ผ่านISP แล้วถ้ารัฐฯจะเข้าควบคุมจริง ๆ เข้าไปคุมที่ ISP ได้มั้ยครับ
จะคล้ายๆ กับ Tor Network ไหมครับ?
เป้นอนาคตอันใกล้คับ
ชัดเจนครับ สำหรับไทย น่าจะไม่หลุดพ้นตัวกลางแน่ๆ ครับ
ผมมองว่าเว็บ 3.0 นี่ยังไม่สามารถเกิดการ Dezentralized ได้อย่างแท้จริงเพราะ ถึงอย่างไรแล้วก็ยังต้องมีตัวกลางที่เป็นผู้ให้บริการ ที่อยู่ใน layor ที่ 4 ของโครงสร้าง Web 3.0 ที่ผลิต Product หรือผลิตภันณ์ ขึ้นมาเพื่อให้ผู้บริโภคใช้งานได้อย่างโดยง่าย และก็ยังมี บริษัทอย่าง FACEBOOK GOOGLE ที่คงไม่ยอมปล่อยให้ไร้ sever 0 อย่างที่พี่หนุ่ยบอกแน่นอน แต่เว็บ 3 อาจจเป็นเรื่องของเทคโนโลมากกว่า ที่สามารถ ระบุตัวตน ความเป็นเจ้าของ และระบุความถูกต้องได้อย่างชัดเจน มีความปลอดภัยสูงขึ้น และมีการแก้ไขข้อบกพร่องในเว็บ 2.0 ในด้านของ code เทคโนโลยีต่างๆ ที่ยังไม่พร้อมอำนวยความสะดวกต่อการใช้งานโลกของ internet เช่น เกม , เงิน ที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้งโลก จะสังเกตุได้จากกานโอนไปยังต่างประเทศ , iot และ พัฒนารูปแบบการใช้งาน ให้ผู้บริโภคได้สัมผัส ถึง โลกเสมือนจริงมากขึ้น
คริปโตอาจจะเป็นเหมือนการเทรดหุ้นในปัจจุบัน และ มีบิทคอตเป็น ทองคำ ส่วนการใช้จ่ายเป็นเหรียญ Stable coin ที่รัฐบาลเป็นคนผลิต ซึ่งใช้ในการแลกเปลี่ยนได้จากทั่วทุกมุมโลก
ขอบคุณคุณหนุ่ย
น่าจะอีกไกลมากอยุ่ค่ะ ในด้านข้อจำกัดหลายๆอย่าง
อย่างตัวกลางที่เป็นยักษ์ใหญ่คงไม่ยอมให้ไร้ตัวกลางได้ง่ายๆ
ถ้าไม่ได้มีตัวเร่งอะไรเกิดขึ้นมา ก็คงยังเรียกว่าอีกไกลเลย
web 3.0 ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องที่น่าจะใกล้เข้ามามากๆเเล้วเพราะ ผมก็ชอบเว็ป 3.0 ตรงที่ไม่ต้องไปติดต่อกับ server web นั้นๆ เป็นเพราะว่า เวลาผมจะเข้าไปดูเว็ปรร.หลักจากคะแนนเพิ่งออกเว็ปหลักของรร. ชอบติดต่อไม่ได้เพราะมี user เข้าเยอะไป ผมเลยอยากให้ web 3.0 มีเร็วๆ
เป็นไปไม่ได้เลย
กฎหมายจะเป็นตัวบังคับ
ทุกวันนี้เวปพนันเมืองไทยยังควบคุมไม่ได้เลย
ส่วนตัวมองว่ามันคืออนาคตอันใกล้ และบางสิ่งบางอย่างอาจจะเกิดขึ้นแล้วแต่เราไม่รู้ตัว และทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อคนเริ่มปรับตัวได้แล้ว และเป็นสิ่งที่ Gen ใหม่ชอบ ความเป็นอิสระและการเปิดโลกกว้าง แม้แต่โควิดก็ยังเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตของคนบนโลกนี้
ถ้าจะเป็นuser ก็เฉยๆครับมาตอนไหนก็ใช้ตอนนั้น
แต่ถ้าจะลงทุนให้รีบเลยช่วงที่คนยังไม่เข้าใจนี่แหละคือโอากาส
อัพโหลดรูปลงในเว็บ 3.0 แล้วไฟล์ไปอยู่ที่ไหนครับ? ถ้าจะแก้ไขข้อมูลและรูปล่ะ? ยังไม่เคลียร์อ่ะ
Metaverse ไม่จำเป็นต้องมี Server ก็ได้นะ
อนาคตอันไกลเก็บ log ยาก การตรวจสอบต้องใช้เวลา ค่าแก๊ส ในอนาคตจะกลายเป็น 0 แค่คริปโตก็เขย่าแล้ว มาร์คไม่จำเป็นต้องสร้างเหรียญใหม่ แค่ซื้อบิตคอยก็เป็นเจ้าตลาดได้แล้ว หรือแค่ซื้อเหรียญ มีม สักเหรียญ ก็มีใช้เยอะแยะแล้ว
ผมคิดว่า Web 3 กับ Web 2.0 จะเป็นโลกคู่ขนานกันไปแบบนี้นะครับ ส่วนตัวผมเอง น่าจะข้ามไปมาระหว่างโลกคู่ขนานนี้ไปเรื่อย ๆ ครับ 555
มองในมุมนั้นมันจะไม่ต้องลงทุนในการสร้าง server เลยแต่บางเว็บก็หนีไม่พ้นต้องมี server มันดูเป็นโครงการที่ดีนะ แต่ดูแล้วน่าจะเป็นไปได้ยาก มันอาจเกิดขึ้นได้จริงแต่ก็มองว่ายากไปอยู่ดี
โหลดหนังในบิท แบบเดียวกันมั้ยครับ😅
ฟังแล้วพอเข้าใจ แต่มันคือแ่ค่นิยาม ส่วนวิธีการ ยังไม่มีใครรู้ งงกันต่อไป
Single Gateway เหมาะที่สุด จะได้จัดการพวกที่อ้างสิทธิเสรีภาพจนเกินงาม สร้างความปั่นป่วนไม่หยุดหย่อน เห็นแล้วอืมระอาเต็มทีแล้ว
web 2.0 เหมือนเดินทางโดยรถสาธารณะ web 3.0 เหมือนเดินทางโดยรถส่วนตัว รถต้องแรง เร็ว ขับต้องเชี่ยวชาญ ประมาณนี้หรือป่าวครับ