Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
ขอบคุณมากครับ! สำหรับข้อมูลความรู้
สาธุ ขอบคุณครับอาจารย์
Cognitive Process = กระบวนการเรียนรู้1. Instinct = ใช้สัญชาตญาณในการรู้2. Intellect = ใช้ปรีชาญาณในการรู้3. Intuition = ใช้ปัญญาญาณในการรู้
ขอบคุณครับ อาจารย์
*ทางโลก* กับ *ทางธรรม* *โลกียธรรม* ใช้ตรรกะความคิดสามารถเข้าใจได้ปัญญาทางโลกอาศัย *ภาษาในการเรียนรู้* สิ่งต่างๆ *โลกุตตรธรรม* ใช้ตรรกะความคิดไม่อาจจะเข้าใจปัญญาทางธรรมอาศัย *สติเรียนรู้สภาวะธรรม* ที่ปรากฏ
เสียงที่ผ่านโสตประสาทรับรู้ของหูเกิดเป็นการได้ยินสามารถจดจำแปลความหมายว่าคือเสียงของอะไรนั้นเป็น "นามธรรม" เราสามารถรู้จักมันด้วย "สัญชาตญาณ"
*รูปธรรม* กับ *นามธรรม*เมื่อความถี่เสียงอันเป็น *อายตนะภายนอก* มากระทบจึงปรากฎนามธรรมของเสียงเป็น *อายตนะภายใน* รูปธรรมคือสิ่งที่ *สามารถ* วัดค่าและแสดงผลได้นามธรรมคือสิ่งที่ *ไม่สามารถ* วัดค่าและแสดงผล
*ความรู้* กับ *การรู้* ความรู้มาจาก *ผู้อื่นรู้* ด้วยการอ่านตำราเรื่องเสียงการรู้มาจาก *ตัวเองรู้* ด้วยประสบการณ์ที่ได้ยินเสียงความรู้ใช้สมองเรียนรู้ด้วย *การคิด* แล้วเข้าใจการรู้ใช้การฟังเรียนรู้ด้วย *ความรู้สึก* แล้วจดจำ
*ปรีชาญาณ* กับ *สัญชาตญาณ* ความสามารถในการ *เรียนรู้ด้วยสมอง* คือปรีชาญาณความสามารถในการ *ฟังแยกแยะเสียง* คือสัญชาตญาณ *การศึกษาหาความรู้* เพื่อให้เข้าใจได้อย่างถูกต้อง *การฝึกฝนทักษะการฟัง* เพื่อให้เกิดการรู้ที่ถูกต้อง
*ปัญญาญาณ* กับ *พุทธิญาณ* เมื่อ *ความรู้และการรู้* ที่ถูกรวมกันจึงเกิดเป็นปัญญาญาณ*การระลึกรู้* ในกระบวนการจึงแจ่มแจ้งตั้งแต่ต้นจนจบด้วย *ปรีชาญาณและสัญชาตญาณ* นั้นรวมเป็นพุทธิญาณ *การมีปฏิภาณไหวพริบ* ในขณะทำงานจึงเกิดอัตโนมัติ
มาแล้วค่ะ...กระดิ่งดัง...ไว้เข้ามาฟัง
ขาดความความรู้ตรงที่ตัดการ สนทนา ออกไปส่วนหนึ่งครับ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ
อาจารย์เคยใส่ช่วงสนทนามาแล้วแต่มีคนที่ฉลาดๆไม่พอใจการแสดงความเห็นของนักศึกษาในชั้นเรียนเลยพิมพ์ด่านักศึกษา ว่าโง่บาง มั่วบ้าง ไร้ความรู้บ้าง ไม่มีสมองบ้างอาจารย์เลยตัดช่วงสนทนาออกเพื่อเป็นการปกป้องสิทธิ์นักศึกษา
ขอบคุณครับ🙏
รีบเข้ามาฟังครับฟฟฟ
ความรู้กับการรู้ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน ความรู้เป็นของมือสอง การรู้เป็นของเราเอง ความรู้มักจะปิดกั้นการเรียนรู้ ความคิดกับความจริงไม่ใช่สิ่งเดียวกัน การคิดคือใช้ตรรกะคำนวณความจริงคือสิ่งที่ปรากฏแล้วรู้ชัด ความคิดมักจะปิดกั้นการเห็นความจริงเครดิต: สามัญชน จนและโง่
ที่กล่าวมานั้นก็คือเรื่องปรีชาญาณและปัญญาญาณ เป็นเครื่องมือต่างชนิดกันที่ใช้สร้างสรรค์ผลงานของศิลปิน พี่พอจะนึกออกมั้ยครับ
หรือถ้าพี่อยากได้วิธีหาคำตอบโจทย์คณิตศาสตร์ของรามานุจัน ให้พี่นั่งดูเขาทุกวันกี่สิบปีก็ไม่มีทางรู้อย่างเขา เพราะปรีชาญาณกับปัญญาญาณมันใช้เป็นเครื่องมือทดแทนกันไม่ได้ครับ
บทเพลงคลื่นความถี่พัฒนาสมองฟังแล้วไม่ทำให้ใครเป็นอัจฉริยะได้หรอกครับ ผมไม่เชื่อทฤษฎีนี้เพราะสมองเป็นเรื่องของปรีชาญาณ ไม่เอาปัญญาญาณก็ติดกับดักความรู้ครับ
@@onewayticket1693 ผมเว้าซื่อๆอย่าได้เคืองกันนะครับ
@@onewayticket1693 ให้คุณดู พอจ.คึกฤทธิ์ เป็นตัวอย่างว่าอธิบายธรรมะผิดไปเพราะอะไร
ขอบพระคุณอาจารย์สำหรับความรู้ที่แบ่งปันครับ มีข้อสังเกตุนอกเรื่องหน่อยครับ เรื่องขำๆน่ะครับ ในหลายคลิปช่วงนี้อาจารย์บรรยายไปสักครึ่งทาง ทีมสี่ขาที่บ้านอาจารย์ต้องส่งเสียงเตือนแทรกมาบ่อยๆ ท่าท่างมันคงอยากถามบ้าง
ความรู้ในความหมายนี้น่าจะมาเปรียบเทียบกับปัญญาในพุทธศาสนานะครับ
ขอบคุณมากครับ! สำหรับข้อมูลความรู้
สาธุ ขอบคุณครับอาจารย์
Cognitive Process = กระบวนการเรียนรู้
1. Instinct = ใช้สัญชาตญาณในการรู้
2. Intellect = ใช้ปรีชาญาณในการรู้
3. Intuition = ใช้ปัญญาญาณในการรู้
ขอบคุณครับ อาจารย์
*ทางโลก* กับ *ทางธรรม*
*โลกียธรรม* ใช้ตรรกะความคิดสามารถเข้าใจได้
ปัญญาทางโลกอาศัย *ภาษาในการเรียนรู้* สิ่งต่างๆ
*โลกุตตรธรรม* ใช้ตรรกะความคิดไม่อาจจะเข้าใจ
ปัญญาทางธรรมอาศัย *สติเรียนรู้สภาวะธรรม* ที่ปรากฏ
เสียงที่ผ่านโสตประสาทรับรู้ของหูเกิดเป็นการได้ยินสามารถจดจำแปลความหมายว่าคือเสียงของอะไรนั้นเป็น "นามธรรม" เราสามารถรู้จักมันด้วย "สัญชาตญาณ"
*รูปธรรม* กับ *นามธรรม*
เมื่อความถี่เสียงอันเป็น *อายตนะภายนอก* มากระทบ
จึงปรากฎนามธรรมของเสียงเป็น *อายตนะภายใน*
รูปธรรมคือสิ่งที่ *สามารถ* วัดค่าและแสดงผลได้
นามธรรมคือสิ่งที่ *ไม่สามารถ* วัดค่าและแสดงผล
*ความรู้* กับ *การรู้*
ความรู้มาจาก *ผู้อื่นรู้* ด้วยการอ่านตำราเรื่องเสียง
การรู้มาจาก *ตัวเองรู้* ด้วยประสบการณ์ที่ได้ยินเสียง
ความรู้ใช้สมองเรียนรู้ด้วย *การคิด* แล้วเข้าใจ
การรู้ใช้การฟังเรียนรู้ด้วย *ความรู้สึก* แล้วจดจำ
*ปรีชาญาณ* กับ *สัญชาตญาณ*
ความสามารถในการ *เรียนรู้ด้วยสมอง* คือปรีชาญาณ
ความสามารถในการ *ฟังแยกแยะเสียง* คือสัญชาตญาณ
*การศึกษาหาความรู้* เพื่อให้เข้าใจได้อย่างถูกต้อง
*การฝึกฝนทักษะการฟัง* เพื่อให้เกิดการรู้ที่ถูกต้อง
*ปัญญาญาณ* กับ *พุทธิญาณ*
เมื่อ *ความรู้และการรู้* ที่ถูกรวมกันจึงเกิดเป็นปัญญาญาณ
*การระลึกรู้* ในกระบวนการจึงแจ่มแจ้งตั้งแต่ต้นจนจบ
ด้วย *ปรีชาญาณและสัญชาตญาณ* นั้นรวมเป็นพุทธิญาณ
*การมีปฏิภาณไหวพริบ* ในขณะทำงานจึงเกิดอัตโนมัติ
มาแล้วค่ะ...กระดิ่งดัง...ไว้เข้ามาฟัง
ขาดความความรู้ตรงที่ตัดการ สนทนา ออกไปส่วนหนึ่งครับ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ
อาจารย์เคยใส่ช่วงสนทนามาแล้ว
แต่มีคนที่ฉลาดๆไม่พอใจการแสดงความเห็นของนักศึกษาในชั้นเรียน
เลยพิมพ์ด่านักศึกษา ว่าโง่บาง มั่วบ้าง ไร้ความรู้บ้าง ไม่มีสมองบ้าง
อาจารย์เลยตัดช่วงสนทนาออกเพื่อเป็นการปกป้องสิทธิ์นักศึกษา
ขอบคุณครับ🙏
รีบเข้ามาฟังครับฟฟฟ
ความรู้กับการรู้ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
ความรู้เป็นของมือสอง
การรู้เป็นของเราเอง
ความรู้มักจะปิดกั้นการเรียนรู้
ความคิดกับความจริงไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
การคิดคือใช้ตรรกะคำนวณ
ความจริงคือสิ่งที่ปรากฏแล้วรู้ชัด
ความคิดมักจะปิดกั้นการเห็นความจริง
เครดิต: สามัญชน จนและโง่
ที่กล่าวมานั้นก็คือเรื่องปรีชาญาณและปัญญาญาณ เป็นเครื่องมือต่างชนิดกันที่ใช้สร้างสรรค์ผลงานของศิลปิน พี่พอจะนึกออกมั้ยครับ
หรือถ้าพี่อยากได้วิธีหาคำตอบโจทย์คณิตศาสตร์ของรามานุจัน ให้พี่นั่งดูเขาทุกวันกี่สิบปีก็ไม่มีทางรู้อย่างเขา เพราะปรีชาญาณกับปัญญาญาณมันใช้เป็นเครื่องมือทดแทนกันไม่ได้ครับ
บทเพลงคลื่นความถี่พัฒนาสมองฟังแล้วไม่ทำให้ใครเป็นอัจฉริยะได้หรอกครับ ผมไม่เชื่อทฤษฎีนี้เพราะสมองเป็นเรื่องของปรีชาญาณ ไม่เอาปัญญาญาณก็ติดกับดักความรู้ครับ
@@onewayticket1693 ผมเว้าซื่อๆอย่าได้เคืองกันนะครับ
@@onewayticket1693 ให้คุณดู พอจ.คึกฤทธิ์ เป็นตัวอย่างว่าอธิบายธรรมะผิดไปเพราะอะไร
ขอบพระคุณอาจารย์สำหรับความรู้ที่แบ่งปันครับ มีข้อสังเกตุนอกเรื่องหน่อยครับ เรื่องขำๆน่ะครับ ในหลายคลิปช่วงนี้อาจารย์บรรยายไปสักครึ่งทาง ทีมสี่ขาที่บ้านอาจารย์ต้องส่งเสียงเตือนแทรกมาบ่อยๆ ท่าท่างมันคงอยากถามบ้าง
ความรู้ในความหมายนี้น่าจะมาเปรียบเทียบกับปัญญาในพุทธศาสนานะครับ