พระนันทเถระ | เอตทัคคมหาสาวกผู้สำรวมอินทรีย์
Вставка
- Опубліковано 6 жов 2024
- เรื่องราวในวันนี้ เป็นเรื่องราวของพระนันทะเถระ เอตทัคคมหาสาวกผู้สำรวมอินทรีย์ พระนันทเถรศากยะนั้น เป็นพระประยูรญาติของเจ้าชายสิทธัตถะ โดยท่านเป็นพระภาดา ต่างพระราชมารดาของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ซึ่งต่อมาได้ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย
เรื่องราวของพระนันทะเถระนั้น จะเป็นอย่างไร ขอทุกท่านโปรดรับฟังกันครับ
_________________________________
ติดตามรับฟังรับชมธรรมะได้ที่
UA-cam @ธรรมไม่ยาก หรือ
FB: dhammaiyak
อดีตชาติของพระพุทธเจ้า แต่ละพระชาติรวมกันแล้ว เหมือนว่าจะมากกว่าอายุของระบบสุริยะจักรวาลนะครับ😅
ใช่ค่ะ😅เกิดแล้วเกิดอีกจนกว่าจะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ยอมหัวใจพระพุทธเจ้าเลย
ปุคคลผู้ใดดับ ราคะสังโยชน์ได้ เป็นเหตุให้บรรลุถึง อนาคามิผะละญาณ,
ปุคคละใดดับ ราคานุสะยะกิเลสได้ เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้บรรลุ อรหัตตะผะละญาณ เป็นพระอรหัตตะขีณาสะโวได้ ผู้สิ้นพืชที่เพาะให้ อุปะกิเลสานัง ได้แก่ โลภะตัณหา,โมหะตัณหา,โทสะตัณหาให้งอกอีกไม่ได้แล้ว ย่อมปรินิพพานในอัตตะภาวะนั้นแล
ธรรมใดที่พระอานันทเถระได้เห็นบรรลุธรรมแล้ว ขอข้าพเจ้าได้รู้แจ้งธรรมนั้นๆด้วยเทอญ สาธุค่ะ🙏🙏🙏
กราบสาธุอนุโมทนาครับ ....🙏🙏🙏
ผู้ชายเรา ยามบวชเอาพรรษา ไม่มีอะไรจะทุกข์ทรมาณเท่ากับความอยากในกามเป็นไม่มี พระที่ท่านบวชตอดชีวิต.ท่านสุดยอดมากครับ
สาธุๆๆ จิตดำริอย่างนี้เรียกว่าตรึกในคลอง อริยมัคคปฏิปทา เรียก สัมมาสังกัปโป คือ ความดำริชอบ
เพราะเป็นเหตุแห่ง เนกขัมมะสังกัปโป เกิดขึ้น เป็นกุศลจิต คือการดำริออกบวช ยินดีในการออกบวช ยินดีในพรหมจรรย์อันงดงามของเหล่าภิกขุสงฆ์สามเณร คือ การดำริออกจากกามทั้งหลายในโลก เป็น เนกขัมมะปารมีทางจิตได้ ให้มั่นตรึก วิตะกัง(วิตก) หมั่นปรารภถึงพรหมจรรย์ คือ พรัหมจริยา คือ การประพฤติอย่างประเสริฐฯ และพรหมจรรย์ใดที่ตนเคยประพฤติดีสั่งสมไว้แต่เก่าก่อน.
ขอเธอผู้มาอ่านทั้งหลายจงเจริญธรรมพรปีใหม่ พร้อมด้วยกำลังสติ สมาธิ ปัญญาญาณ วิมุตติยา เทอญฯ
@@Dhammamikaracha สาธุครับ 🙏🏿🙏🏿🙏🏿
อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ🙏🙏🙏
ขอขอบคุณ
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
❤❤❤
ขอกราบขอบพระคุณมากค่ะ
🙏🙏🙏กราบสาธุค่ะ
🙏🙏🙏
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะสาธุสาธุค่ะ
ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
สาธุๆๆ🙏🙏🙏
สาธุ สาธุ สาธุ 🙏🙏🙏
สาธุค่ะ
❤❤❤❤❤
❤😂ชึ้งจนนำ้ตาไหล
กราบนัสการสาธุ สาธุ สาธุพระนันทเถระด้วยครับสาธุ สาธุ สาธุ
ขอบคุณค่ะ ที่มาเล่าเรื่องค่ะ
พระธัมมะจักกัปปะวัตตะนะสุตตั๋ง เป็นพระปะ(เฐ๊าะ)ฐะมะเทสะนา ปฐมเทศนา ว่าด้วย การหมุนกงล้อแห่งพระธรรมคือ พระอะริยะสัจสี่๔.
อันข้าพเจ้า ได้สดับมาแล้วอย่างนี้ว่า สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงประทับอยู่ ณ ป่าอิสิปะตะนะมิก๊ะดาเย อิสิปตนมิคทาเย_อิสิปตนมฤคทายวัน กรุงพาราณสี(บาราเณ๊าะสิยัง วิห้าระติ) ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงตรัสเรียกภิกขุ(ภฺบิ๊กขุ)ปั๋ญจะวัคกิ๊เย_ปัญจวัคคิเย ภิกษุปัญจวัคคีย์(นักบวชทั้งห้า)มาแล้ว ตรัสว่า
"ดูกะระ ภิกฺขุทั้งหลาย ส่วนสุดสอง ๒ อย่างนี้ อันบรรพชิตไม่ควรเสพ คือ
๑.การประกอบตนให้พัวพันในก๋ามะสุข ในกามทั้งหลาย(เป็นหนทางย่อหย่อน)เป็นธรรมเลว เป็นของชาวบ้าน เป็นของปุถุชน ไม่ใช่ของพระอริยะเจ้า ไม่ประกอบด้วยประโยชน์แต่อย่างใด๑
๒.การประกอบความเหน็ดเหนื่อยยากให้แก่ตน เป็นความลำบาก (ทางสายเคร่งตึงเกินไป) ไม่ใช่ของพระอริยะเจ้า ไม่ประกอบด้วยประโยชน์แต่อย่างใด๑
ดูกร ภิกขุทั้งหลาย มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺโพธิํ (มัชฌิมา ปะฏิ๊ปะดา ตะถ้าก๊ะเต๋นะ อะภฺบิ๊สั้มโบธิง) หนทางสายกลาง ไม่เข้าใกล้ส่วนสุดสอง๒อย่างเหล่านั้น อันพระตถาคตเจ้าได้ทรงตรัสรู้ยิ่งเองแล้ว ด้วยพระปัญญาอันยิ่ง ทำดวงตาให้เกิด จกฺขุ กรณี,
ทำญาณให้เกิด
ญาณ กรณี (ญาเณ๊าะ กะระณี),
อุปสมาย (อุปะสะมายะ) ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ,
อภิญฺญาย (อะภฺบิญญายะ) เพื่อความรู้ยิ่ง,
สมฺโพธาย (สั้มโบธายะ) เพื่อความตรัสรู้,
นิพฺพานาย สงฺวตฺตติ (นิบบานายะ สั้งวัตตะติ) เพื่อพระนิพพาน เป็นไฉน?
ปฏิปทาหนทางสายกลางนั้น อันได้แก่ อริโย อฏฺฐํคิโก มคฺโค เสยฺยถีทํ (อะริโย อัฏฐั้ง กิ๊โก๋ มัคโก เส้ยยะถี้ดัง) พระอริยมรรคมีองค์แปด๘ นี้แหละ คือ ;
๑.สมฺมาทิฏฺฐิ (สั้มมาดิ๊ฏฐิ) ความเห็นชอบ,
๒.สมฺมาสงฺกปฺโป (สั้มมาสังกัปโป๋) ความดำริชอบ,
๓.สมฺมาวาจา (สั้มมาว่าจ๋า) การเจรจา(พูดจา)ชอบ,
๔.สมฺมากมฺมนฺโต (สั้มมากั๋มมั่นโต๋) การทำการงานชอบ,
๕.สมฺมาอาชีโว (สั้มมาอาจี้โว) การเลี้ยงชีวิตชอบ,
๖.สมฺมาวายาโม (สั้มมาวาย่าโม) ความเพียรพยายามชอบ,
๗.สมฺมาสติ (สั้มมาสะติ) ความระลึกชอบ,
๘.สมฺมาสมาธิ (สั้มมาสะมา ธฺดิ๊) ความตั้งจิตมั่นชอบ.
(ถวายเป็น พุทธปูชา ธัมมปูชา สังฆปูชา,นิพพานัสสะ สัจฉิกิริยายะ สังวัตตั๋นติ อภิญญานะ นิพพานายะ จะ โพธิยา.
ຂ້ານ້ອຍ. ຂໍນ້ອມກຮາບ ວັນທາ ໃນພຣະ ພຮະສາສະດາແລະ
ພຮະ ນັນທະເຖຣະເຈົ້າ ສາທຸຄັບ
🙏
🙏😇
สาธุๆๆขออนุโมทนาสาธุค่ะ
🙏🙏🙏
❤❤❤❤