ชาดก 500 ชาติ ลฏุกิกชาดก ชาดกว่าด้วย นางนกไส้

Поділитися
Вставка
  • Опубліковано 10 жов 2024
  • #ชาดก 500 ชาติ #ลฏุกิกชาดก #ชาดก #นางนกไส้ #พุทธกาลสมัย #ชมพูทวีป #พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า #ตรัสรู้ #อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ #พระพุทธองค์ #พระพุทธธรรม #สรรพสัตว์ #อนุทวีป #สถาปนา #พระพุทธศาสนา #นักบวช #วรรณะ #ศรัทธา #พุทธสาวก #บวช #พระภิกษุ #ทรงธรรม #พระศาสดา #อาคาดมาดร้าย #ปัจจามิตร #พระศาสดา #ความกรุณาปราณี #โจทย์ขาน #พระเทวทัต #โรงธรรมสภา #พระพุทธเจ้า #พญาช้าง
    ในพุทธกาลสมัย ณ ดินแดนชมพูทวีป ครั้งเมื่อพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณนั้น พระพุทธองค์ทรงเผยแผ่พระพุทธธรรม โปรดสรรพสัตว์ ทั้งหลายทั่วทั้งอนุทวีป สถาปนาพระพุทธศาสนาจนรุ่งเรืองสืบมา ในครานั้นแม้พระพุทธศาสนาจะเพิ่งสถาปนาได้ไม่นานนัก แต่ก็มีนักบวชชาวเมืองทุกชั้นวรรณะต่างเลื่อมใส ศรัทธาถวายตัวเป็นพุทธสาวก บวชเป็นพระภิกษุมากมาย
    แต่ทว่ากลับมีภิกษุรูปหนึ่ง แม้เข้ามาบวชใต้ร่มทรงธรรมแห่งพระศาสดาแต่ยังมิวายอาคาดมาดร้าย กระทำตัวเป็นปัจจามิตรต่อองค์พระศาสดา ทั้งยังมีจิตใจโหดร้าย ไม่มีความกรุณาปราณีต่อเหล่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย ภิกษุผู้นี้มีนามโจทย์ขานว่า พระเทวทัต นั้นเอง พฤติกรรมของพระเทวทัตนี้ เหล่าภิกษุด้วยกันเองต่างรู้แจ้งดี เฉกเช่นเดียวกับพระพุทธองค์ ที่ทรงปรารภถึงพระเทวทัตให้เหล่าภิกษุได้ฟังกันในโรงธรรมสภา
    “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ท่านมาประชุมกันด้วยเรื่องอันใด”
    “ข้าแต่องค์พระศาสดา พวกข้าพระองค์ กำลังสนทนาถึงพระเทวทัต ผู้มีจิตใจโหดร้ายไม่มีความปราณี ต่อสรรพสัตว์ ทั้งที่ตนถือครองเพศสมณะแท้ๆ แต่หาได้ละอายต่อบาปที่ทำไม่”
    “ใช่แล้ว พระเทวทัตผู้นี้ แม่แต่กับพระศาสดายังคิดร้าย ช่างเป็นการไม่บังควร เอาเสียเลยขอรับ”
    “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากับพระเทวทัตนี้ ผูกเวรกันมาตั้งแต่อดีตชาติ แม้ในกาลก่อน เค้าก็มีพื้นฐานจิตใจโหดร้าย ไม่มีความเมตตาปราณี ผูกใจอาฆาตมาดร้ายมาจนถึงชาตินี้ เดี๋ยวเราจะเล่าให้พวกเธอทั้งหลายฟัง จะได้เข้าใจแล้วนำโอวาทเรานี้ไปน้อมนำจิตใจต่อไป” แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงระลึกชาติด้วยบุพเพนิวาสนุสติญาณ นำ ลฏุกิกชาดก มาเล่าดังนี้
    ย้อนไปในอดีตกาลนานมา ณ ป่าหิมพานต์อันกว้างใหญ่ ในกาลนั้นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็น พญาช้างพราย สูงใหญ่งามสง่า ดูน่าเกรงขามยิ่งนัก โพธิสัตว์พญาช้างเป็นจ่าโขลง นำช้างบริวารถึงแปดหมื่นตัวหากินในป่านี้อย่างสงบสุข
    พ่อกาบินด้วยความคล่องแคล่วว่องไว โฉบใช้จะงอยปากอันแหลมคม บรรจงจิกเข้าไปที่ตาทั้งสองข้างของเจ้าช้างอย่างแม่นยำ ในตาดำแตกทะลัก เลือดสีแดงฉานไหลอาบเสมือนหนึ่งน้ำตาแห่งความเจ็บปวดแสนสาหัส ตาของมันบอดสนิท
    "จิกๆๆๆ นี่แน่ะ เกเรนักใช่ไหม ทีนี้เจ้าได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดทรมานเป็นยังไง"
    ช้างเกเรส่งเสียงร้องอย่างทรมาน ดังสะท้านไปทั่วทั้งป่า มันเดินโซซัดโซเซอย่างไม่มีจุดหมาย ส่วนเจ้ากาก็บินกลับอย่างไม่ใยดี ไม่นานช้าพวกแมลงวันหัวเขียวก็พร้อมทำหน้าที่ของมันตามที่ตกลงกับนางนกไส้ไว้
    "ฮ่าๆๆ เอาเลยพวกเรา เป้าหมายที่ตาเจ้าช้าง หยอดไข่ชอนไชตามันให้เน่าไปเลย"
    "ออกไปเจ้าพวกแมลงวัน อย่ามาตรอมตาข้า จะทำอย่างไรดี ทรมานเหลือเกิน โอ้ย ปวดตาไปหมดแล้ว"
    วิบากกรรมที่เจ้าช้างทำไว้ยังไม่เจือจาง บัดนี้มันไม่สามารถช่วยตัวเองได้เลย ต้องเดินหิวโซโดยไม่รู้ทิศทาง แสงตะวันอันแรงกล้าสาดส่องจนช้างเกเรอ่อนแรงเพราะความกระหายน้ำ
    "กระหายน้ำเหลือเกินตาก็ปวด ทำไมถึงได้ทรมานเช่นนี้นะ นั่นเสียงกบร้องนี่นา รอดตายแล้วเรา ข้างหน้าน่าจะเป็นหนองน้ำแน่เลย เดินตามเสียงกบไปดีกว่า ถึงตาข้าจะบอด แต่หูข้าก็ยังดี ไม่ตายง่ายๆ หรอก ไหนน้ำอยู่ไหน"
    จนในที่สุดวินาทีสุดท้ายของช้างก็มาถึง เสียงกบที่มันหลงคิดว่าอยู่ในแหล่งน้ำ แท้ที่จริงคือเสียงเรียกของพญามัจจุราชนั่นเอง เจ้าช้างเดินปรี่เข้าไปยังเสียงอย่างรุกรน
    อนิจจา ช้างเกเรตกหน้าผาตายอย่างอนาจ ร่างกายของมันกระแทกกับโขดหินแหลกเละ ไม่ผิดอะไรกับร่างของลูกนกที่มันบดขยี้ ฝ่ายนางนกไส้เมื่อเห็นช้างเกเรตัวนั้นตายสมดังปรารถนาแล้ว ก็เริงร่าดีใจบินเข้าไปที่ร่างของเจ้าช้าง แล้วเหยียบย่ำไปมาอย่างสะใจในความแค้น
    "ในที่สุดช้างตัวใหญ่มีพละกำลังมหาศาล ก็สิ้นชื่อ เพราะนกไส้ตัวเล็กกระจ่อยร่อยอย่างเรา "
    เมื่อแก้แต้นสำเร็จนางนกไส้ก็บินไปตามยะถากรรม ทิ้งไว้แต่ร่างอันแหลกแหลวของช้างเกเรให้เน่าเปื่อย เสมือนหนึ่งเป็นข้อคิดให้สรรพสัตว์ได้รู้ว่า เวรไม่ควรกระทำกับผู้ใดทั้งสิ้น เพราะไม่วันใดก็วันหนึ่งเวรนั่นย่อมคืนสนอง
    ภิกษุทั้งหลายท่านจงดูเอาเถิด นางนกไส้ กา กบ และแมลงวันหัวเขียว สัตว์ทั้งสี่เหล่านี้ถึงแม้ตัวจะเล็กกระจ่อยร่อย หากแต่ได้ร่วมใจแล้วก็สามารถฆ่าช้างผู้ซึ่งมีร่างกายใหญ่โตกว่า มีพละกำลังมากกว่าเสียได้ ท่านจงเห็นคติของคน มีเวรแก่คนมีเวรทั้งหลายหรือไม่ เพราะฉะนั่นแลท่านทั้งหลาย จงอย่าได้กระทำเวรกับใครๆ ถึงจะไม่เป็นที่รักใคร่กันก็ตาม
    ในพุทธกาลสมัยต่อมา
    ช้างผู้เกเรผู้เที่ยวไปแต่ลำพัง กำเนิดเป็น พระเทวทัต
    พญาช้างจ่าโขลง เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า

КОМЕНТАРІ •