Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
แชร์ให้คนเข้าใจกัน และกดติดตาม ยังหลงผิดอีกมาก ประเด็นอธิบายดังนี้ แต่ควรฟังให้ครบและโดยละเอียด ครับ1:56 พระร้องไห้ไม่ได้กฐินเพราะ ?2:54 วัดและพระไม่รับกฐินเพราะยอดเงินน้อยเพราะ ?4:06 กฐินที่ถูกต้องตามพระพุทธศาสนา5:38 คำว่า ทอดกฐิน ไม่มีในพระพุทธศาสนา6:01 จุดประสงค์ของกฐิน6:34 กฐินสามัคคี คำที่ใช้กันผิด7:31 บริวารกฐินไม่เกี่ยวกับเงิน พระพุทธเจ้าไม่แสดงบริวารกฐิน10:01 ประธาน กรรมการกฐิน ชักชวนกันทำลายพระพุทธศาสนา10:56 กองกฐิน ไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้า11:25 กฐินให้เงิน ไม่ได้บุญ ได้บาป16:10 คฤหัสถ์ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องในช่วงเวลากฐินอย่างไร17:57 อานิสงส์กฐินที่เข้าใจผิดกัน21:12 พระขอกฐินไม่ใช่กฐิน ผ้าอะไรไม่ใช่กฐิน23:57 กฐินเงิน ทำพระตกนรกอย่างไร คฤหัสถ์ให้เงิน ทำพระตกนรกอย่างไร29:43 วัดจำเป็นต้องมีกฐินไหม30:41 พระนักพัฒนาไม่มีในพระพุทธศาสนาเพราะอะไร39:04 ใช้คำว่า กฐินโรงเรียน กฐินห้องน้ำ เป็นต้น ผิดอย่างไร40:19 กฐิน ผ้าป่า เพื่อสร้างสำนักปฏิบัติ บาป อันตรายที่สุด41:11 ผ้าป่า คืออะไร ที่ถูกต้องคืออย่างไรขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ
ใช่ค่ะถูกต้องที่สุดกฐินเพิ่มกิเลสให้พระจริงๆค่ะ
กล้าหาญมากครับ อนุโมทนา
ขออนุโมทนาด้วยครับ สาธุครับ
อนุโมทนา อย่างสูงยิ่งเจ้าค่ะทุกคนหลงผิดกันหมด ที่ผ่านมาค่ะอาจารย์
ดีมากๆครับผมชอบฟังแบบนี้
โชคดีมากที่เจอคลิปอาจารย์ ผมเป็นพุุทธแต่ไม่เคยฟังพระไตรปิฎกเลย ฟังพระสวดมาแต่เด็กตามงานบวช งานศพแต่ไม่รู้ควาหมายเลย อายุจะ50 แล้ว ทำแต่งานหาเงินแสดงว่าทำบาปมาตลอด
กราบสาธุสาธุสาธุสาธุในคำสอนที่แท้จริงในพระพุทธศาสนาคำสอนพระพุทธเจ้ากราบสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุ
กราบอนุโมทนาสาธุ อาจารย์พูดถูกค่ะที่ผ่านมาก็ทำบุญใส่ซองกฐินมาตลอดด้วยความไม่รู้ไม่ได้ศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้าที่แท้จริง ขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างมากที่มีเมตตาเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าให้คนที่ไม่รู้จะได้รับรู้ข้อมูลที่แท้จริง
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ ครับ
สาธุสาธุขอบคุณมากค่ะดีมากเลยค่ะ
การให้เงินเป็นสังฆทานมันเป็นประเพณีวัฒนธรรมไปแล้วยุคนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นที่เงินหมดเลยพระสงฆ์ก็ในวัด กรรมการแต่ละวัดก็จัดงานพิธีกรรมทางศาสนาพุทธยอดเงินต้องสูงทุกๆงาน อยู่ต่างประเทศวัดที่นี้อุดมสมบูรณ์ พระมีรถส่วนตัว มีประกันสุขภาพ มากไปอีกคือซื้อประกันชีวิต อยู่ดีมากกว่าฆาราวาสทั่วไปอีก ยิ่งงานสวดเทศน์มหาชาติคือแบบว่าองค์เทศน์ต้องเรียกแม่ยกเลยได้ปัจจัยในงานสวดส่วนตัวเยอะมาก เมื่อก่อนก็คิดว่ายุคใหม่คือเงินเป็นปัจจัยสำคัญ แต่พอมาฟังอาจารย์ได้ให้ความรู้ รู้สึกมั่นใจว่าไม่จำเป็นต้องถวายปัจจัยในทุกๆครั้ง ที่ผ่านๆมาได้บาปมากกว่าได้บุญแท้ๆ ขออนุโมทนาสาธุกับอาจารย์อย่างยิ่งค่ะ สาธุๆๆอนุโมทามิค่ะ
พึ่งอ่านเจออยู่ประเทศอะไรคะวัดไทยในต่างประเทศก็ช่วยกันทำลายศาสนาหรือนี่คิดว่าช่วยเผยแผ่สืบสานพระพุทธศาสนา...บอกได้ไหมคะว่าเป็นสาขาหรือสายวัดใด...
วัดสร้างกันจังเลยกุฏิก็สร้างกันจังโบสถ์วิหารลานเจดีย์ก็สร้างซะใหญ่โตใช้เงินเป็นร้อยล้านถามว่าใครจะมานั่งดูแลรักษาในประเทศไทย อ่ะวัดรางเยอะแยะ ศาสนาไม่ได้อยู่ที่โบสถ์วิหารลานเจดีย์ โบสถ์วิหารลานเจดีย์น่ะมันสืบทอดพระพุทธศาสนาไม่ได้หรอก
สาธุ ค่ะอาจารย์ แชร์แล้วค่ะ
ฟังแล้ว ถูกจริตคับ เพราะการบวช ว่ากันตามแบบพระพุทธเจ้า พระศาสดาหนีความสุข ความสบายในชีวิตทุกรูปแบบ ตามที่เรารู้ แสวงหาความสงบสุขทางใจ ไร้ความสะดวก สบาย สิ่งของเงินทอง แต่พระตัวแทน พระพุทธเจ้า กับสอนสวนทาง ต่างบวชเพื่อแสวงหา ทรัพย์สินเงินทอง ทุกรูปแบบ
อาจารย์ ผเดิม เก่งจริงๆค่ะ..บุญยุคนี้..อวดเงิน..พระก็จ้องแต่เงิน
เคยอ่านครับเรื่องกฐิน ในหนังสือพระไตรปิฎกครับ ในตำราได้ระบุไว้ว่ามันคือเรื่องผิด ถึงกับตกนรก ในคำสอน พออ่านมา เลยเกิดปัญญา อ่านมาหลายปีละครับ ใครที่ตั้งกองบุญกฐิน ไปอ่านเจอ มันคือเรื่องที่ผิดมากครับอาจารย์ มันเป็นการสนับสนุนให้พระเกิดกิเลสด้วย สาธุครับอาจารย์ ที่แผ่ความรู้ให้เข้าใจมากขึ้นอีก ครับ แสดงว่าผมอ่านแล้วไม่ผิด เพราะตอนแรกคิดว่าผมผิด และก็ดีใจที่อาจารย์มาเปิดโลกให้เข้าใจเหมือนอาจารย์ครับ สาธุ
ถ้าผิดทำไมองค์กรพุดไม่มาจัดการครับ
กราบสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุที่ให้ผมตาสว่างในความจริงที่โดนพระหลอกเงินทองมาตลอดผมฟังอาจารย์ทุกวันผมไม่ไปวัดเลยตั้งแต่ฟังอาจารย์อธิบายความจริงกราบสาธุสาธุสาธุในคำสอนพระพุทธเจ้าที่แท้จริงกราบสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุ
นี่แหละของจริง ความจริงที่ถูกต้อง ขอบคุณครับอาจารย์
เป็นอย่างที่ผมคิดไว้จริงๆ เยี่ยมมากเลยครับแอด
สาธุคะอาจารย์ ใช่เลยค่ะ
สาธุบอกได้ละเอียดมากเลยขอบพระคุณอ.จมากเลยคะ่
ชื่นชมในความกล้าหาญ อ. ค่ะ 🌹 เผยแพร่คำจริงในพระพุทธศาสนา เพื่อความเห็นถูกความเข้าใจถูก ขออนุโมทนาค่ะ 🙏
ถ้าชาวพุทธตาสว่างมากๆๆนักบวชถึงจะอาย
ทุกวันนี้พระมีมือถือมีค่าใช้จ่ายและต้องการเงินมีให้เห็นอยู่ทั่ว
@@ชาตรี-บ2ฬ ประเด็นไม่ใช่ความตระหนี่ปะคะ ประเด็นเป็นความเข้าใจถูกตามคำพระศาสดาคืออย่างไร?
อฺพูดถูกทุกอย่างตอนพระทำวัตรต้องเปิดไฟดูหนังสือแล้วไฟมาจ่ายใหนก้อมาจากการไฟฟ้าถามว่าแล้วจะเอาอะไรจ่ายค่าไฟหรือท่านอาจารยจะจ่ายให้ตอบให้กะจ้างด้วน
@@thanadetjirangya6762 คิดเหมือนกันเลยค่ะ ... ในคอมเม้นลองเลื่อนๆ ดู มีคำตอบเรื่องนี้นะคะ สำหรับเรื่องนี้ยกคำตอบมาให้ค่ะวัดมีค่าใช้จ่าย ค่าน้ำค่าไฟ ในสมัยปัจจุบัน ไม่เหมือนสมัยก่อน ไม่มีค่าใช้จ่าย พระจึงจำเป็นจะต้องรับเงิน ใช้เงินเข้าใจถูก๔. เป็นความจริงที่ว่าปัจจุบันวัดต้องเสียค่าน้ำค่าไฟ แต่ มีวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสมที่จะไม่ทำให้พระท่านอาบัติ และ พระที่ดี ท่านก็จะไม่รับเงินโดยประการทั้งปวง แต่ใช้วิธีที่เหมาะสมค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินในวัด คฤหัสถ์ที่ดีรับเงินดูแลเงินเรื่องค่าน้ำค่าไฟในวัด แม้ในในอดีตและปัจจุบันก็มีบางวัดประพฤติตามพระวินัย ที่ให้คฤหัสถ์เป็นคนรับเงินของวัด ดูแลเงิน จัดการเงินและจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้ โดยที่พระไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินและทองเลย ท่านไม่ต้องอาบัติ แต่เลือกคฤหัสถ์ที่ดี มีคุณธรรมเป็นไวยาวัจกรในการจัดการดูแลเงิน และพระภิกษุก็มีหน้าที่ศึกษาพระธรรม (คันถธุระ) และ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม (วิปัสสนาธุระ) เพราะบวชมาจุดประสงค์คือ ละอาคารบ้านเรือน ไม่ประพฤติตนดั่งเช่นคฤหัสถ์และบวชเพื่อถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบโดยส่วนเดียว และ ไม่ใช่ข้ออ้างว่าคฤหัสถ์จะทุจริตเงินวัด จึงจำเป็นที่พระภิกษุต้องรับเงินดูแลเงินเอง ทำทุจริต ผิดพระวินัยเสียเอง เพราะ พระรับเงิน ยินดีในเงินทอง เป็นทุจริตแล้วตามพระวินัยบัญญัติคฤหัสถ์ไม่ควรถวายเงินพระและใบปวารณา แต่ ให้เงินกับไวยาวัจกรของวัด ที่ดีมีคุณธรรม ดูแลเงินนั้น และ ภิกษุมีเหตุจำเป็นตามธรรมวินัย จึงขอปัจจัยที่เหมาะสม ที่ไม่ใช่เงินทอง กับ ไวยาวัจกรเพื่อหาสิ่งที่เหมาะสมให้กับพระภิกษุนั้น โดยคฤหัสถ์ทำการซื้อมาให้ มี บาตร จีวร เป็นต้นขอบคุณค่ะ
สาธุๆขอขอบคุณครับที่ไห้คาวมรู้
สาธุๆๆๆคะอาจารย์คะขอบคุณคะ
ขอให้หนูเจริญรุ่งเรืองๆจ้า ทำคลิปออกเยอะนะหนูคนเจอคลิปจะตาสว่างหนู
ขอบคุณนะคะ ฟังแล้วมีความรู้มากขึ้นจริงๆค่ะ
กราบอนุโมทนาครับ
น้อมจิตขอร่วมโมทนาในธรรมทานอันเป็นคุณประโยชน์สูงสุดนี้ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
สาธุ คะ อาจารย์
สาธุในพระธรรมฟังแล้วฟังอีกสาธุขอบพระคุณค่ะอจารย์
พระพุทธศาสนาต้องปรับตัว ภิกษุต้องปรับตัวเข้ากับยุคสมัย คือ รับเงิน มีมือถือ ใช้เฟซบุ๊ก ศาสนาดำรงอยู่มาได้ เพราะ พระพุทธศาสนาและพระภิกษุปรับตัวตามยุคสสมัยเข้าใจถูก๑๑. ความเข้าใจถูกและประพฤติตามพระวินัยทำให้ศาสนาเจริญ การประพฤติผิดพระวินัยของพระภิกษุและพุทธบริษัทไม่ปฏิบัติไม่เคารพพระธรรม เป็นเหตุของศาสนาพุทธเสื่อมถอยบรรพชิต คือ ผู้สละ ละทุกสิ่งที่กระทำดั่งคฤหัสถ์ ออกบวช เพื่อถึงความสิ้นทุกข์ แต่ ผู้บวชอ้างยุคสมัย ขอทันโลก แต่เป็นโลกที่คฤหัสถ์เขาทำกัน เล่นเฟซบุ๊ก เดินห้าง รับเงินทอง มีบัญชีธนาคาร ซ่อมถนนชาวบ้าน ไม่ใช่กิจของภิกษุ ทันโลกของพระภิกษุ คือ โลกตามพระวินัยบัญญัติ ไม่ขัดแย้งกับพระวินัย ประพฤติให้น่าเลื่อมใส ดั่งเป็นผู้สละ ประพฤติอบรมปัญญาขัดเกลากิเลสตามพระวินัยบัญญัติที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว ไม่ใช่ ตามโลกคฤหัสถ์ กระทำตนแบบคฤหัสถ์ นำมาซึ่งการเพิ่มกิเลส พระพุทธเจ้าทรงติเตียน ภิกษุประพฤติตนดั่งคฤหัสถ์ ชาวพุทธ ควรตื่นรู้ความจริงว่า พระคือใคร การบวชคืออะไร และ ไม่สนับสนุนพระเหล่านั้น มีการให้เงินและทอง เป็นต้น อันเป็นการรักษาพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง ดังนั้น ศาสนาพุทธที่ดำรงอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน ดำรงอยู่ด้วยความเจริญ หรือ ความเสื่อมลงในปัจจุบัน เพราะ พระพุทธศาสนาจะหมดสิ้นไป เมื่อถึงห้าพันปี แต่ ปัจจุบัน สองพันห้าร้อยกว่าปี แล้วศาสนาเจริญหรือเสื่อม เมื่อภิกษุสมัยปัจจุบัน กระทำตามคฤหัสถ์ ไม่ประพฤติตามพระวินัย บอกว่ารับเงินทองได้ ทั้งๆ ที่ผิดพระวินัยบัญญัติ และคฤหัสถ์ที่ไม่เข้าใจพระธรรมวินัยก็เห็นดีงามด้วย นี่ต่างหากที่เป็นเหตุพระพุทธศาสนากำลังเสื่อมไปเรื่อยๆ เพราะพุทธบริษัทไม่ปฏิบัติตามพระธรรมจนถึงเมื่อห้าพันปี พระพุทธศาสนาก็อันตรธานไปจากใจของทุกคน
อาจารย์ พูดได้ ตรงจุด ทุกแง่มุม ชัดเจนดีมาก ตามความจริงทุกประการ คับ เข้าใจดีขึ้นมาก ตาสว่างซักทีคับ สาธุๆ
ขอบคุณมากครับ...จะติดตามตลอดไป
สาธุ สาธุ สาธุ ฟังคำบรรยายลึกซึ้งมากๆ
ขอบคุณค่ะอาจารย์ที่เผยแพร่ความรู้ คำสอนที่แท้จริงของพระพุทธศาสนาให้เป็นธรรมทานและการปฏิบัติตัวได้จริงตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ ทำให้ไม่หลงงมงายทำในสิ่งที่ผิดค่ะ 🙏🏻
สาธุ อนุโมทนาบุญ กับการประกาศธรรมของพระพุทธเจ้า ค่ะ
กราบขอบคุณอาจารย์เผดิมมากค่ะดิฉันเข้าใจแล้วสว่างแล้วขอบคุณค่ะ
แล้วกฐินทองคำละคะมีใครค้านบ้างไหมคะเห็นชื่นชมกันทั้งประเทศแล้วสรุปว่าผิดถูกอย่างไร หรือยกเว้นว่าผู้ทำเป็นพระระดับไหนคะขอบพระคุณที่ให้ความรู้ความเข้าใจกับคุณเป็นคนพุทธค่ะ อนุโมทนาสาธุค่ะ
ฟังคลิปจบและเข้าใจ จะรู้เลยครับว่า ผิดอย่างไร ความไม่รู้ ย่อมมีมากกว่าความรู้ จึงเป็นธรรมดาของโลกที่จะชื่นชม ครับ
สาธุในธรรมค่ะ.ทำให้รู้ในพระธรรมอย่างกระจ่าง..ขอบคุณนะคะ
ชัดเจน แจ่มแจ้ง กระจ่างไข กราบอนุโมทนาค่ะ กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ผเดิมค่ะ
ต้องให้ลองมาบวชเอง ถึงจะรู้ว่าสมัยนี้พระต้องใช้เงิน รับเงิน เพราะมีชีวิตลำบากเข้าใจถูก๑๗. ผู้ที่รู้อัธยาศัยตนเอง ว่าสละอาคารบ้านเรือนได้ จริงๆ จึงจะออกบวช หากได้อ่านพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง พระพุทธเจ้า ไม่ได้มีการบังคับให้ใครไปบวช พุทธบริษัท จึงมี ๔ พระอริยสาวกที่บรรลุธรรมอยู่ในเพศคฤหัสถ์มีมากมาย มีท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี นางวิสาขาอุบาสิก ท่านเหล่านั้นไม่ได้บวช แต่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องสรรเสริญคฤหัสถ์เหล่านั้น เพราะปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมในเพศคฤหัสถ์ แต่ พระภิกษุที่ออกบวช แต่ประพฤติตนไม่ตามพระวินัยบัญญัติ พระพุทธเจ้าไม่ทรงสรรเสริญ แต่ทรงติเตียน เช่น พระฉัพพัคคีย์ที่ละเมิดพระวินัยเป็นประจำ และ ไม่เห็นโทษ เป็นต้น เพราะฉะนั้น ตนเองไม่มีอัธยาศัยในการบวช ยังกระทำตนดั่งคฤหัสถ์ พระพุทธเจ้าทรงติเตียน ดังนั้นบุคคลจะเป็นผู้ประเสริฐไม่ได้อยู่ที่เพศ แต่อยู่ที่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยหรือไม่ หากเป็นผู้รับเงินและทองในเพศพระภิกษุ พระพุทธเจ้าทรงติเตียน ไม่ทรงสรรเสริญเลย ดังนั้น ผู้ที่ขัดเกลลากิเลสอย่างยิ่งจริงๆ จึงไม่รับเงินทองโดยประการใดๆ เลยในเพศพระภิกษุ
ขอบคุนมากค่ะที่ให้ความรุ้สาธุๆค่ะ
สวัสดีค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
สาธุครับท่านอาจารย์.แนะนำแก่นแท้แห่งศาสนาพุทธ.ที่เป็นแนวทางถูกต้องตามหลักพุทธ.ครับ
ดีใจครับที่ได้เจอ ช่องนี้ ผมกดติดตามไว้เป็นคลิปที่ให้ความรู้ความชัดเจนดี พระเครื่องที่ปลอมกันตั้งแต่แรก พอนานวันเข้าเมื่อของแท้หายาก ของปลอมที่ทำแบบเกรดเอก็จะชินตาได้รับความนิยมกันโดยปริยาย แต่ผู้รู้จะไม่ให้ความสำคัญ เหมือนการกฐิน..เงิน คือปัจจัยหลัก, เงินคือจุดมุ่งหวัง, จุดประสงค์...
พระต้องสร้างวัด ซ่อมแซมสิ่งต่างๆ ในวัด พระจึงจำเป็นต้องรับเงินทอง ทำกฐิน ผ้าป่าเข้าใจถูก๖. การสร้างวัดพระไม่ใช่ผู้เรี่ยไรเงิน พระไม่ใช่ผู้รับเงิน แต่ คฤหัสถ์เป็นคนจัดการเรื่องเงินคฤหัสถ์ผู้ฉลาดและเคารพระธรรม เคารพพระพุทธเจ้าและเคารพพระสงฆ์ย่อมปฏิบัติตามพระวินัย คือ ไม่ถวายเงินทองกับพระภิกษุและเคารพพระสงฆ์ ไม่ถวายของที่เป็นอกัปปิยะ ของที่ไม่สมควร มีเงิน เป็นต้นกับพระภิกษุเพราะทำให้ท่านต้องอาบัติ คฤหัสถ์ผู้ฉลาดเคารพในพระรัตนตรัย จึงทำวิธีการที่ถูกต้อง ดั่งเช่น สมัยพุทธกาล นางวิสาขา ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี พระเจ้าพิมพิสาร ไม่ได้เอาเงินไปถวายพระพุทธเจ้า ไม่ได้เอาเงินไปถวายท่านพระสารีบุตร เพราะท่านเหล่านั้นเคารพพระพุทธเจ้า เคารพพระธรรม เคารพระสงฆ์ แต่ สร้างวัดถวายเองโดย ไม่ให้พระยุ่งเกี่ยวกับเงินและทอง เวลาที่จะสร้างอย่างอื่น เช่น โรงครัว อุบาสก อุบากสิกา ผู้เข้าใจพระธรรม ก็กล่าวบอกกับพระภิกษุ และสร้างถวาย โดยไม่ใช่เอาเงินไปให้ท่าน นี่คือ วิธีการที่ถูกต้อง เป็นการรักษาพระวินัย และ ดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาข้อความในพระไตรปิฎก แสดงความจริงว่า การสร้างวัด เป็นต้น ไม่ใช่การให้เงินพระโดยตรง ไม่มีการที่พระทำกฐิน ผ้าป่า เงินทอง แต่ คฤหัสถ์เป็นคนจัดการเรื่องเงินสร้างวัดให้ท่านพระอุเทน “พราหมณ์ พระเจ้าอังคะโปรดพระราชทานอะไรเป็นเบี้ยเลี้ยงประจำแก่ท่านทุกวัน”โฆฏมุขพราหมณ์ “ท่านอุเทน พระเจ้าอังคะโปรดพระราชทานทรัพย์ ๕๐๐ กหาปณะเป็นเบี้ยเลี้ยงประจำแก่ข้าพเจ้าทุกวัน”ท่านพระอุเทน “พราหมณ์ การรับทองและเงินไม่สมควรแก่อาตมภาพทั้งหลาย”โฆฏมุขพราหมณ์ “ท่านอุเทน ถ้าทองและเงินนั้นไม่สมควร ข้าพเจ้าจะให้สร้างวิหารถวายท่านอุเทน”ท่านพระอุเทน กล่าวว่า “พราหมณ์ ถ้าท่านปรารถนาจะให้สร้างวิหารถวายอาตมภาพ ก็ขอให้สร้างโรงฉันถวายแก่สงฆ์ในเมืองปาตลีบุตรเถิด”ข้อความบางตอนในโฆฏมุขสูตร มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓
เราฟังคุณ..เผดิม..อธิบาย...ธรรมะะแล้วเรามาพิจารนาดูแล้วเป็นความ..ตามที่คุณ..เผดิม...บรรยาย..และชี้แจง..ไนสิ่งที่ถูกต้อง...ขอขอบถคุณคุณ..เผดิม..ที่ออกมาชี้แจงให้เราฟัง
อนุโมทนาสาธุคะจะได้เข้าใจละที
ขอบคุณสำหรับความรู้ที่ดีมากครับ
ผมเชื่อที่ท่านพูด เพราะบ้านผมไม่มีตังแต่สร้างและให้ตังพระและวัดเป็นเงินจำนวนมหาศาลเป็นสิบเป็นร้อยเท่าของรายได้ทั้งตระกูล กลัวจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์กลัวจะลำบากเวลาตาย ผมใจบาปเลิกคนตัง(ที่ตัวไม่มี)ไปให้พระ เอตังไปซื้อยากับโลงใส่ศพตัวเองเวลาตายจะงามกว่า
เข้าใจที่อาจารย์พูดค่ะ พระดีๆหายาก บวชเพื่อหาผลประโยชน์ อยู่ในวัดก็แก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น วัดก็สร้างอลังการ ส่วนมากไม่เคยพอดี
ขออนุโมทนาสาธุ ไม่เคยทำบุญทอดกฐินตั้งแต่มีโควิด คิดว่าทำบุญให้พระ นำเงินไปบริจาคช่วย รพ ดีกว่า คลิปนี้น่าจะเผยแพร่เป็นประโยชน์ต่อไป ขอบคุณค่ะ ,,,, จะติดตามฟังต่อไป
สาธุ เห็นด้วยครับ ทำบุญด้วยเงินไม่จำเป็นทำกับพระหรือกับวัด บริจาคทำบุญกับ รพ.เพื่อส่งต่อช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้ยากไร้
ขอขอบคุณค่ะสาธุ สาธุ สาธุ
สาธุ ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ ที่ทำให้เรื่องติดขัดในใจได้สว่างขึ้น
พระภิกษุรับเงินได้ หากนำเงินนั้นไปช่วยเหลือสังคมเข้าใจถูก๙. หากได้ศึกษาพระวินัย กิจของพระภิกษุ มีสองอย่าง คือ คันถธุระและวิปัสสนาธุระ ไม่ใช่จะทำกิจอย่างคฤหัสถ์ โดยการสร้างโรงพยาบาล สร้างโรงเรียน เป็นต้นการรับและยินดีในเงินและทอง แม้จะช่วยสังคมก็เป็นอาบัติสำหรับพระภิกษุ ถ้าจะช่วยสังคมอย่างคฤหัสถ์ ก็สึกออกมาเป็นคฤหัสถ์ เพราะเพศบรรพชิต สละแล้ว ซึ่งเงินและทองทั้งปวง พระอริยสาวกผู้มีปัญญาในอดีต มีท่านพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ เป็นต้น ออกมาช่วยสังคมแบบคฤหัสถ์หรือไม่ หรือ รับเงินและทอง ช่วยสังคม หรือไม่ ไม่เลย เพราะท่านเคารพพระวินัย เคารพในพระพุทธเจ้า และ รู้ตัวเองว่า เป็นเพศใด ดังนั้นท่านช่วยสังคมที่ถูกต้อง ตามเพศบรรพชิต คือ ท่านแสดงธรรมอันเป็นการช่วยสังคมอย่างสูงสุดและเคารพพระวินัยที่จะไม่ทำอย่างคฤหัสถ์
ปีนี้ไม่ได้ถวายเงินพระเลยค่ะเพราะไม่ค่อยมีแต่ชื้อผ้าไตรอย่างดีสามพันกว่าส่งไปถวายพระที่ไม่ค่อยมีคนไปค่ะคนส่วนใหญ่ก็คิดกันมาตลอดว่ากุศลมากในการทอดกฐินผ่าป่าตั้งแต่เราดูหนังเรื่องพระพุทธเจ้าเลยทำให้เราเข้าใจแต่ก็ยังชอบทำบุญด้วยเงินพอมาได้ฟังอาจารย์พูดแล้วเชื่อเลยค่ะ🙏🙏🙏
สาธุขอรับ อาจราย์คือผุ้ให้ธรรมะเป็นทานแท้จริงซึ่งจะเป็นบุญอันยิ่งใหญ่กว่าบุญใด ด้วยความศรัทธาขอรับกระผม
อาจารย์กล่าวได้ถูกต้องโยมมีแต่ถวายเงินเพราะอยากได้บุญ และวัดก็อยากได้เงินยุคนี้แทบจะไม่มีวัดใหนที่ไม่รับเงิน
ใช่ๆไปนรกเท่ากับดินมหาปฐพี
ผมขออนุโมทนากับเงินที่ท่านใด้ถวายไปท่านใด้บุญแน่ครับผมใด้ฟังเทศนาหลวงตามหาบัวว่าพระทุกวันจำเป็นต้องใข้เงินบ้างเพื่อใช้จ่ายทุกวันนี้ไปโรงบาลพระต้องเสียค่าใข้จ่ายเหมือนโยมทั้งค่าน้ำค่าไฟพระต้องมีเงินเสียค่าไฟค่าน้ำเพราะรัฐบาลปัจจุบันไม่จ่ายช่วยวัดแล้วผมเคยบวชปฎิบัติมาผมรู้ว่าถ้าพระไม่มีเงินจะลำบากมากครับเพราะพระสงฆ์จะเดินทางไปไหนต้องเสียค่ารถจ่ายค่าน้ำมัน.ดั่งนั้น.เราถวายเงินเพื่อให้พระสงฆ์ใช้ในยามจำเป็นมันเป็นล้าน%ครับ.เพราะสมัยพุทธองค์บัญญัติกฎสงฆ์ไม่ให้ภิกษุจับต้องเงินแต่กาลเวลาล่วงมา2500กว่าปีทุกอย่างเปลี่ยนไปผมเข้าใจว่าถ้าพระพุทธองค์ทรงมีขีวิตอยู่พระองค์จะทรงรู้ว่าวันนี้พระสงฆ์จำเป็นต้องมีเงินบ้างครับมีเงินบ้างเพราะกาลวันนี้แม้แต่พระอาภาทต้องใช้เงินเพื่อเดินทาง2ค่ารักษาทุกวันนี้พระไม่มีอภิสิทธิรักษาฟรีเหมือนแต่ก่อนนะครับเข้าใจด้วยถ้าวัดไหนติดโควิดต้องมีเงินซื้ออาหารบางวัดนี้แทบจะไม่มีคนไปทำบุญเลยนะครับ.คนที่อ้างข้อบัญญัติทุกวันนี้ไม่น่าจะไช่คนพุทธครับเพราะอิสลามเรียนพุทธประวัติมาเพื่อแอบอ้างคำสอนแต่พวกนี้ไม่รู้ถึงความถูกต้องบาปบุญที่แท้จริงครับ
@@happy5channel116 ฆาราวาสจัดกองผ้าป่าไปทอดวัดนั้นโดยมีไวยาวัจกรและกรรมการวัดที่เป็นฆาราวาสเป็นผู้จัดการแทนวัด พระต้องการค่าใช้จ่ายอะไรก็แจ้งทางไวยาวัจกร โดยพระไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องเงินทอง😲
บวชมาเพื่อละกิเลส...แทบจะไม่มีแล้วครับ'จารย์ ยุคนี้มีแต่สะสมแข่งกัน หาความพอดียาก...
ขอบคุณสาระความจริงกฐินนี้มากๆ ไม่เคยเจอใครบอกเช่นนี้เลย สาธุๆๆ🙏🏻🙏🏻🙏🏻 บางวัดออกมาขอบริจาคทุกวันๆๆเพื่อสร้างสาธารณะกุศลต่างๆเปลี่ยนแปลงทุกๆวัน แทนที่พระจะมุ่งสร้างคนด้วยอบรมธรรมที่ดีงาม แล้วสถานที่ต่างๆญาติโยมเห็นสมควรเขาจะระดมช่วยกันเองโดยพระไม่ต้องเข้ามาหาเงินเพื่อสร้างๆๆต่อไปเอง มีหลายวัดที่กลายเป็นวัดร้าง สุถานที่น่ากลัวๆก็มีหลังจากไม่มีพระจำวัดสักองค์🙏🏻🙏🏻🙏🏻👍👍👍👍👍👍💐💐💐💐💐🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻
เพราะมัวแต่สร้างโน่นสร้างนี่ มันก็เลยไม่มีเวลาศึกษาธรรมะ ในวัดเต็มไปด้วยวัตถุต่างๆมากมาย วัตถุเหล่านี้เป็นเครื่องร้อยรัดจิตใจให้ภิกษุต้องดูแล ทำความสะอาด หวงแหน บริหารจัดการ นำภัยนานาประการมาสู่ภิกษุ(เพราะภิกษุร่ำรวย) พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงสอนให้ภิกษุมักน้อย ก็เพื่อไม่ให้ภิกษุมีภัยเหล่านี้ จะได้มีเวลาค้นคว้าหาความจริงของชีวิต แลัวอบรมสั่งสอนคนให้ตั้งตนไว้ชอบตามพระธรรม พระวินัย แต่ปัจจุบัน คน "ไม่กลัวบาปและอกุศล" ขนาดเป็นภิกษุก็ยังไปว่าร้ายคฤหัสถ์ได้ พอได้ยินคฤหัสถ์เขาพูดการเมือง ก็คันปากขึ้นมาทันที คฤหัสถ์ทำได้ แต่ภิกษุทำไม่ได้(ท่านห้ามทำเยี่ยงคฤหัสถ์) เพราะตัดขาดหมดทุกอย่างแล้ว อาชีพก็ไม่มี อาศัยเขาอยู่ ขอเขากิน(จะได้เจียมตัว) แต่ภิกษุไม่ได้เจียมตัวเลย เห็นว่าเขานับถือก็เลยกร่าง(มีญาติเป็นชาวบ้านกรูด จ.ประจวบฯ เล่าให้ฟังว่า อดีตเจ้าคณะฯ และอดีตสมภารวัดคลองวาฬไม่พอใจที่คฤหัสถ์ถวายเงินน้อย พูดออกมาดังๆว่า"ไม่พอซื้อกับข้าวให้หมา" คิดดูก็แล้วกันว่า "กร่างแค่ไหน" แสดงว่า ที่บวชมานานจนได้เป็นเจ้าคณะฯนั้น ไม่ได้เข้าใจอะไรเลย ไม่รู้ตัวด้วยว่า ตนมีเพศสภาพอย่างไร? เห็นไหมล่ะว่า "ได้บวช แต่ไม่ได้เป็นพระ" ใครไปนับถือคนพวกนี้เข้า ก็เท่ากับนับถือ "โจร ในพระพุทธศาสนา" ไม่ได้บุญหรอก เป็นบาป ! ที่เราต้องรับอยู่ทุกวันนี้ไง ! คนจน ยิ่งจนลง เพราะไปทุ่มเทเงินให้วัด ให้ภิกษุ คนพวกนี้ก็ร่ำรวย พอรวยแล้วก็ "กร่าง ลืมตน" ซึ่เป็นธรรมชาติของคน"ปัญญาทึบ" ที่โบราณกล่าวไว้ในโคลงโลกนิติว่า "รู้น้อยว่ามากรู้ เริงใจ" คำว่า "พระ" แปลว่า "ประเสริฐ" แต่ถ้า "ใครไม่ประเสริฐ" มันก็ไม่ใช่พระน่ะสิ จริงไหม? สวัสดีครับ
ขอบคุณมากค่ะ ที่ทำให้เกิดปัญญา ดิฉันจะสอนลูกหลานให้มีความเห็นที่ถูกต้องเรื่องพุทธศาสนาสืบไป🙏
ใช่ค่ะ เห็นด้วยและเป็นอย่างนั้นจริงๆ กฐินเป็นเรื่องเกี่ยวกับผ้า ที่เรียกกันว่าผ้าพระกฐิน ซึ่งไม่เกี่ยวกับเงินเลย เพราะเป็นสิ่งที่ทำกันมาโดยผิดๆ ซึ่งการถวายเงินทำให้พระที่ไม่บรรลุเกิดกิเลสมากขึ้นค่ะ การถวายปัจจัยในพิธีต่างไปก็ไม่ควรเช่นกันแต่เราทำตามกันมาแบบผิดๆมาโดยตลอดและก็ไม่มีใครออกมาบอกให้คนทั้งหลายตาสว่าง
ขอบคุณมากค่ะที่ถูกต้องแต่สมัยนี้พวกผู้หญิงที่สวยรวยชอบทำบุญกับพระเพี่อเอาหน้าตาให้คนรู้ว่าฉันรวยต้องทำบุญเยอะๆไม่ใช่ทำด้วยความไม่รู้ค่ะแข่งขันเอาหน้าตาฉันเป็นผู้หญิงชอบชอบช่วยเหลือคนยากคนจนแต่ก็ไม่ชอบทำกับพระภิกษุค่ะจึงขอบคุณมากๆๆที่ออกมาอธิบายในวันนี้ค่ะ
ใช่ค่ะ...ละช่วงเลือกตั้ง...นักการเมืองก็จะมาทำบุญบ่อยๆล่ะใส่ชองประกาศไมค์ ล่ะเปิดบริจาคบ่อยมากตอนนี้วัดก็ใหญ่ใหม่...ไม่รุ้จะสร้างอะไรนักหนา...ผมว่ามันไม่ใช่ล่ะไม่สมควร
กราบขอบพระคุณคะ ที่ให้ความรู้นะคะ ได้ศึกษาเรื่อง.กฐินมานานมากแล้วคะ แต่วันนี้ได้เข้าใจตรงกับอาจารย์คะ สาธุ สาธุ..คะ แต่พอทราบนะคะ มี 2 วัด.ที่ไม่มีการพิธิทอดกฐินคะ คือ วัดแสงธรรมวังน้ำเขียว ของ พอจ.โสภากับ วัดบ่อน้ำพระอินทร์คะ พอจ.หลวงตาสิ้นคิด ชอบมากๆ คะ สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญในการให้ความรู้ในครั้งนี้ชัดเจนที่สุด ที่แหม่มพยายามศึกษามาตลอดคะ สาธุ สาธุ ขอบพระคุณมากนะคะ
ท่านพูดแล้วนึกเห็นภาพเลยค่ะ.คือสิ่งที่ท่านกล่าวมาคือความจริงทั้งหมด.การยำเพ็ญท่ามกลางกิเลศจริงๆ.ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
ทุกเรื่องที่อาจารย์พูด......เป็นความเห็นถูกทุกประการ.......(สัมมาทิฐฐิ)........
เข้าใจแล้วค่ะที่ผ่านมาทำผิดมาตลอดกราบขอบพระคุณมากค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ ที่ออกมาให้ความรู้ที่ถูกต้อง ทันเหตุทันการณ์
๖. พระต้องสร้างวัด ซ่อมแซมสิ่งต่างๆ ในวัด พระจึงจำเป็นต้องรับเงินทอง ทำกฐิน ผ้าป่าเข้าใจถูก๖. การสร้างวัดพระไม่ใช่ผู้เรี่ยไรเงิน พระไม่ใช่ผู้รับเงิน แต่ คฤหัสถ์เป็นคนจัดการเรื่องเงินคฤหัสถ์ผู้ฉลาดและเคารพระธรรม เคารพพระพุทธเจ้าและเคารพพระสงฆ์ย่อมปฏิบัติตามพระวินัย คือ ไม่ถวายเงินทองกับพระภิกษุและเคารพพระสงฆ์ ไม่ถวายของที่เป็นอกัปปิยะ ของที่ไม่สมควร มีเงิน เป็นต้นกับพระภิกษุเพราะทำให้ท่านต้องอาบัติ คฤหัสถ์ผู้ฉลาดเคารพในพระรัตนตรัย จึงทำวิธีการที่ถูกต้อง ดั่งเช่น สมัยพุทธกาล นางวิสาขา ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี พระเจ้าพิมพิสาร ไม่ได้เอาเงินไปถวายพระพุทธเจ้า ไม่ได้เอาเงินไปถวายท่านพระสารีบุตร เพราะท่านเหล่านั้นเคารพพระพุทธเจ้า เคารพพระธรรม เคารพระสงฆ์ แต่ สร้างวัดถวายเองโดย ไม่ให้พระยุ่งเกี่ยวกับเงินและทอง เวลาที่จะสร้างอย่างอื่น เช่น โรงครัว อุบาสก อุบากสิกา ผู้เข้าใจพระธรรม ก็กล่าวบอกกับพระภิกษุ และสร้างถวาย โดยไม่ใช่เอาเงินไปให้ท่าน นี่คือ วิธีการที่ถูกต้อง เป็นการรักษาพระวินัย และ ดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาข้อความในพระไตรปิฎก แสดงความจริงว่า การสร้างวัด เป็นต้น ไม่ใช่การให้เงินพระโดยตรง ไม่มีการที่พระทำกฐิน ผ้าป่า เงินทอง แต่ คฤหัสถ์เป็นคนจัดการเรื่องเงินสร้างวัดให้ท่านพระอุเทน “พราหมณ์ พระเจ้าอังคะโปรดพระราชทานอะไรเป็นเบี้ยเลี้ยงประจำแก่ท่านทุกวัน”โฆฏมุขพราหมณ์ “ท่านอุเทน พระเจ้าอังคะโปรดพระราชทานทรัพย์ ๕๐๐ กหาปณะเป็นเบี้ยเลี้ยงประจำแก่ข้าพเจ้าทุกวัน”ท่านพระอุเทน “พราหมณ์ การรับทองและเงินไม่สมควรแก่อาตมภาพทั้งหลาย”โฆฏมุขพราหมณ์ “ท่านอุเทน ถ้าทองและเงินนั้นไม่สมควร ข้าพเจ้าจะให้สร้างวิหารถวายท่านอุเทน”ท่านพระอุเทน กล่าวว่า “พราหมณ์ ถ้าท่านปรารถนาจะให้สร้างวิหารถวายอาตมภาพ ก็ขอให้สร้างโรงฉันถวายแก่สงฆ์ในเมืองปาตลีบุตรเถิด”ข้อความบางตอนในโฆฏมุขสูตร มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓
อาจารย์พูดและอธิบายได้ถูกต้อง ครับ แต่ ปัญหา คือ ผมยังไม่เคยเห็นพระรูปไหนเลย และ วัดไหนเลย ที่เข้าใจคำสอนและปฏิบัติตามที่อาจารย์พูดมา...นับแต่นี้ต่อไปก็จะพยายามทำให้ถูกต้อง คือ ยังคงมี ทาน ศีล ภาวนา แต่จะไม่ให้พระท่านผิดเรื่องรับเงิน ครับ สาธุ
สาวกของพระพุทธเจ้าหมายถึงผู้ที่พูดตรงกับพระพุทธเจ้าปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าสอนไม่ว่าจะเป็นนักบวชหรือฆราวาสอนุโมทนา..สาธุค่ะ
ดีมากๆครับที่มาบอกสอน.ชาวพุทธ.แล้วไอ้พวกพระสงฆ์และระดับไอ้พวกพระเจ้าคุณพระสมเด็จที่มีความรู้ทางศาสนาทำไมไม่สอนให้เห็นเป็นตัวอย่างมากินข้าวญาติโยมเปล่าประโยชน์จริงๆไปสอนพระให้ปฏิบัติตามด้วยนะโยมผู้เจริญ
ดีแล้วๆชาวพุทธที่มืดบอดมาเกือบตลอดชีวิตอาจารย์การุณาเมตตาได้บอกทางให้คนหลงทาง เปิดของที่ถูกปิด หายของที่คว่ำ่ให้ชาวพุทธได้ตาสว่างเสียทีเป็นลาปๆอันประเสริฐของพวกข้าแล้ว สาธุๆๆ
อาจารย์พูดได้ถูกต้องมากๆเลยค่ะ..ได้ความรู้เยอะเลย.เข้าใจผิดมานานจริงๆ.หูตาสว่างเสียที.ขอบพระคุณมากๆค่ะ..แชร์ไปแล้วนะคะ
พูดเรื่องยันตระบ้าง จะรอฟังจะรอนะ
กล้ารึเปล่าพูดเรื่องยันตระ
@@sanprasitkhamma6049 พูดไปแล้วครับ ลองฟังนะครับ ua-cam.com/video/_Z7f6xIWoQo/v-deo.html
ฟังท่านอาจารย์แล้วรู้และตาสว่างค่ะ มีคนบางคนพูดว่าพระท่านไม่ต้องการข้าวของถวายแต่ท่านต้องการเงิน เน้นๆเงินมากกว่าฟังแล้วตกใจค่ะ ขอบคุณท่านอาจารย์ค่ะ
จ่ายค่าน้ำค่าไฟแทนพระภิกษุในเมืองหรือเปล่าครับ หรือ สร้างแม่น้ำลำคลองใหม่ให้ท่านอาบน้ำ ตักน้ำฉันน้ำใช้ได้เหมือนสมัยพุทธกาลหรือเปล่า หนังสือตำราที่ท่านศึกษาเล่าเรียนจากหลักสูตรของมหาเถระสมาคมคุณซื้อถวายท่านหรือเปล่า อ้อ อย่าเพิ่งบอกนะครับว่า ให้ไวยาวัจกร จัดการสิ คุณเตรียมไวยาวัจกร ไว้ประจำทุกวัดหรือเปล่ายุคสมัยมันเปลี่ยนแปลงไป อะไรๆ อนุโลมกันได้ ก็อนุโลมกันไปครับ
@@sunmooner6284 วัดมีค่าใช้จ่าย ค่าน้ำค่าไฟ ในสมัยปัจจุบัน ไม่เหมือนสมัยก่อน ไม่มีค่าใช้จ่าย พระจึงจำเป็นจะต้องรับเงิน ใช้เงินเข้าใจถูก๔. เป็นความจริงที่ว่าปัจจุบันวัดต้องเสียค่าน้ำค่าไฟ แต่ มีวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสมที่จะไม่ทำให้พระท่านอาบัติ และ พระที่ดี ท่านก็จะไม่รับเงินโดยประการทั้งปวง แต่ใช้วิธีที่เหมาะสมค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินในวัด คฤหัสถ์ที่ดีรับเงินดูแลเงินเรื่องค่าน้ำค่าไฟในวัด แม้ในในอดีตและปัจจุบันก็มีบางวัดประพฤติตามพระวินัย ที่ให้คฤหัสถ์เป็นคนรับเงินของวัด ดูแลเงิน จัดการเงินและจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้ โดยที่พระไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินและทองเลย ท่านไม่ต้องอาบัติ แต่เลือกคฤหัสถ์ที่ดี มีคุณธรรมเป็นไวยาวัจกรในการจัดการดูแลเงิน และพระภิกษุก็มีหน้าที่ศึกษาพระธรรม (คันถธุระ) และ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม (วิปัสสนาธุระ) เพราะบวชมาจุดประสงค์คือ ละอาคารบ้านเรือน ไม่ประพฤติตนดั่งเช่นคฤหัสถ์และบวชเพื่อถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบโดยส่วนเดียว และ ไม่ใช่ข้ออ้างว่าคฤหัสถ์จะทุจริตเงินวัด จึงจำเป็นที่พระภิกษุต้องรับเงินดูแลเงินเอง ทำทุจริต ผิดพระวินัยเสียเอง เพราะ พระรับเงิน ยินดีในเงินทอง เป็นทุจริตแล้วตามพระวินัยบัญญัติคฤหัสถ์ไม่ควรถวายเงินพระและใบปวารณา แต่ ให้เงินกับไวยาวัจกรของวัด ที่ดีมีคุณธรรม ดูแลเงินนั้น และ ภิกษุมีเหตุจำเป็นตามธรรมวินัย จึงขอปัจจัยที่เหมาะสม ที่ไม่ใช่เงินทอง กับ ไวยาวัจกรเพื่อหาสิ่งที่เหมาะสมให้กับพระภิกษุนั้น โดยคฤหัสถ์ทำการซื้อมาให้ มี บาตร จีวร เป็นต้น
@@sunmooner6284 ค่าหมอ ค่ายาไม่ฟรี เดินทางไปหาหมอ ก็ไม่ฟรี จำเป็นที่ยุคสมัยนี้ต้องใช้เงิน และ พระต้องรับเงินเข้าใจถูก๕. ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ถ้าทำวิธีการที่ถูกต้อง คือ พระไม่รับเงิน แต่ ฆราวาสให้เงินกับคฤหัสถ์ผู้เป็นไวยาวัจกรของวัดโดยตรงดูแล ที่เป็นคนดี มีคุณธรรม และ เมื่อพระต้องการยา การเดินทางไปหาหมอ การเดินทาง ไวยาวัจกรนั้นก็จัดสิ่งที่เหมาะสม สมควรให้กับภิกษุนั้นได้ อันทำให้พระไม่ต้องอาบัติรับเงินทอง ยินดีในเงินทอง เพราะมีเงินส่วนกลางของวัดในการบริหารจัดการ ทั้งในเรื่องค่ายา ค่าอื่นๆ ที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย อันเป็นสิ่งของที่เป็นกัปปิยะ เหมาะสมกับพระภิกษุ ก็สามารถแจ้งไวยาวัจกรวัดได้ในการจัดหา และในสมัยพุทธกาล ภิกษุทั้งหลายก็ดูแลกันเอง มียาตามสมัย ที่เป็นเภสัช มี น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ยาดองมูตรเน่า เป็นต้น และแม้ปัจจุบัน จะเปลี่ยนไปอย่างไรก็สามารถใช้วิธีการให้คฤหัสถ์ดูแลได้ในเรื่องยาและค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมทั้งโรงพยาบาลสงฆ์ก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย และ หากเป็นภิกษุที่ประพฤติดี ประพฤติชอบ ก็ย่อมจะเป็นผู้มีโยมอุปัฏฐาก ที่ปวารณาช่วยเหลือในสิ่งที่เหมาะสม
🙏 สาธุค่ะท่าน..ฟังและอ่านแล้ว..รู้สึกเคารพรักศรัทธาท่าน..และหวนนึกถึงพระที่รู้จัก .หลงไปกับทางโลก..ไม่ปฎิบัติตามธรรมะวินัย...ขอบคุณที่ชี้แนะจะได้ลบและ..จะได้ไม่ต้องตกไปในที่ต่ำ...🙏🙏🙏
สาธุสาธุสาธุค่ะ
พระภิกษุ คือ ใคร พระภิกษุ คือ บุคคลที่ออกบวชเป็นบรรพชิต เพราะเห็นโทษของกิเลสด้วยปัญญา สละทุกสิ่งที่เป็นอย่างคฤหัสถ์ ละการกระทำอย่างคฤหัสถ์ ประพฤติขัดเกลาละกิเลสอย่างยิ่งเพื่อถึงการดับทุกข์ โดยมีพระวินัยบัญญัติที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงให้ภิกษุประพฤติปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะเป็นภืกษุในเมือง ภิกษุชนบท และภิกษุทุกๆ รูปที่บวชมาในพระศาสนานี้ต่างก็ต้องปฏิบัติตามพระวินัยบัญญัติทุกรูปเงิน คือ สิ่งที่สังคมสมมติขึ้นมาสำหรับแลกเปลี่ยนเพื่อได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการพระวินัย เป็น พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทรงแสดงเกื้อกูลกับพระภิกษุที่เป็นพระธรรมที่ทรงแสดงบัญญัติสิกขาบท ข้อห้าม และ ข้อควรประพฤติ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญ ให้กุศลที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น และ ที่เกิดขึ้นแล้วเจริญ และอาสวกิเลสที่ไม่เกิด ก็ไม่เกิดขึ้น และ ที่เกิดขึ้นแล้วก็ไม่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ อันเป็นรากฐานสำคัญให้กุศลอื่นๆ เจริญจนถึงการดับกิเลส อันเป็นพระวินัย เป็นรากฐานในการขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้น ภิกษุที่ดี ที่เป็น ลัชชี (ผู้มีความละอาย) ย่อมรักษาพระวินัยไว้พระวินัยบัญญัติข้อภิกษุ เกี่ยวกับเงินทอง ที่ภิกษุทุกรูปไม่ว่ารูปใดหรืออยู่วัดใด วัดในเมือง วัดชนบท ต้องประพฤติปฏิบัติตามเมื่อบวชเป็นบรรพชิตพระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 940พระบัญญัติ๓๗. อนึ่ง ภิกษุใด รับ ก็ดี ให้รับ ก็ดี ซึ่งทอง เงิน หรือ ยินดีทอง เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์.
อาจารย์ท่านนี้ ทำหน้าที่ของพุทธบริษัทได้สมบูรณ์ที่สุด แตกฉานทั้งหลักธรรม พยัญชนะและอรรถความหมาย
ความวุ่นวายในพระภิกษุสงฆ์ในทุกๆๆวันนี้ก็เพราะไม่ประพฤติปฎิบัติในพระวินัยอย่างเคร่งครัดค่ะทุกๆๆวันนี้วัตถุเทคโนยีมันทันสมัยจึงทำให้พระภิกษุทำผิดวินัยเย๊อะมากๆมายค่ะขอบคุณอาจารย์มากๆๆน่ะค่ะอยากให้คนทั้งประเทศได้มาฟังที่อาจารย์พูดจะได้ปฎิบัติได้อย่างถูกต้องทั้งพระภิกษุและฆราวาสค่ะ
ผมชอบช่องนี้ครับ เนื้อหาดีมีประโยชน์ครับ
โอนเงินทำบุญบ่อยๆค่ะ ฟังแล้วกลัวบาปค่ะปฏิบัติตนเองตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมมีสติปัญญาตั้งใจทำความดีงามใส่บาตรสวดมนต์ภาวนานั่งสมาธิแผ่เมตตาอุทิศบุญกุศลทำทานสถานสงเคราะห์บริจาคโรงพยาบาลต่างๆอนุโมทนาบุญในธรรมความรู้ถูกต้องขอบคุณอาจารย์ค่ะ
ดิฉันเห็นบ่อยเลยคะเรื่องกฐิน และผ้าป่าพิธีกรพูดล่อ เอาเงินโดยอ้างให้เงินมากได้บุญมาก
คุณพูดได้ถูกต้องจริงๆค่ะ กฐินยุคใหม่ต้องมีงานบันเทิงจ้างลิเกดารามาแสดงๆราคาก็แพงๆทั้งนั้น วัดจัดงานในวัดก็บาปแล้วมันงานบันเทิงงานยั่วกิเลส งานใช้เงิน วัดสมัยใหม่เลยเป็นที่หาเงินไป ตรงนี้จึงทำให้ศาสนาถูกมองว่าเสื่อมคนนำศาสนามาแอบอ้างเพื่อหาเงิน จริงๆแล้วที่บวชเรียนวัดต้องเป็นที่สงบๆเงียบๆและไม่มีกิเลสทางสายตาไปตั้งวางให้คนไปบวชไปเรียนไปวัดมองเห็น วัดสมัยใหม่ตั้งแต่หน้าประตูวัดถึงท้ายวัดเลยก็มี ที่ๆสละกิเลสที่สอนให้คนละกิเลสแต่คนสอนศาสนายุคนี้สอนให้ประชาชนนำเงินมาให้มาทำบูญ เน้นด้วยว่าให้ทำบุญเย๊อะได้เย๊อะ ฟังดูแล้วคืออะไร กิเลสทั้งนั้นเลยค่ะ
บุญเป็นเครื่องชำระล้างกิเลส ถ้าบุญเยอะ กิเลสยิ่งน้อยถ้าบอกว่า บุญเยอะ กิเลสเยอะ มันผิดหลักสัจธรรมแล้วครับ
ยุคสมัยเปลี่ยนไป พระภิกษุรับเงินทองได้เข้าใจถูก๒. สัจจะ ความจริงไม่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยเลย อกุศล ความชั่วเป็นอกุศลเป็นความชั่วไม่เปลี่ยนแปลง กุศล ความดีเป็นกุศลเป็นความดี ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ ไม่ว่าเกิดกับใคร และ ช่วงเวลาไหน แม้ อดีต ปัจจุบัน และ อนาคตโลกเปลี่ยนแปลงไปตาม สมมติเรื่องราว ที่เป็นบัญญัติ ไม่ใช่สัจจะ แต่สภาพธรรมที่มีจริง คือ กุศล อกุศล ไม่เปลี่ยนไปตามโลก เรื่องราวเลย สิ่งใดมีโทษ พระองค์ตรัสว่ามีโทษ ความมีโทษที่ทำให้อกุศลเจริญ ก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แม้แต่การรับและยินดีเงินทองนั้น ของพระภิกษุ พระพุทธองค์ก็ตรัสว่ามีโทษ และไม่สมควรกับพระภิกษุ ไม่ว่ากาลเวลาไหน อดีต ปัจจุบันและอนาคต เพราะก็ต้องเข้าใจความจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลงว่า บวช บรรพชา คือ การเว้นทั่วจากกิเลส และเป็นการสละอาคาร บ้านเรือน ไม่ใช่เพศคฤหัสถ์แล้ว ดังนั้น จะทำดังเช่น คฤหัสถ์ที่มีการใช้จ่ายเงินและทอง รับเงินทองไม่ได้เลย แต่ถ้าจะใช้เงินทอง หรือ ปฏิบัติตนดังเช่นคฤหัสถ์ ก็ต้องกลับมาเป็นเพศคฤหัสถ์ดังเดิมสละเพศบรรพชิตดังนั้น พระพุทธเจ้าทรงมีพระปัญญาสูงสุด พระองค์ทรงรู้อดีต ปัจจุบัน อนาคต ถ้าบอกว่าเปลี่ยนแปลงได้ ก็กล่าวตู่พระปัญญาคุณของพระพุทธเจ้า เพราะเราไม่มีปัญญา เป็นเพียงแค่ปุถุชน จะกล่าวเปลี่ยนคำของพระพุทธเจ้าไม่สมควรเลย เพราะฉะนั้น ที่กล่าวว่ารับเงินทองได้ เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ไม่ได้แย้งกับใคร ก็แย้งกับพระพุทธเจ้าเอง ดังนั้นพุทธบริษัทควรมีพระธรรมเป็นที่พึ่ง มิใช่มีความคิดตนเองเป็นที่พึ่ง และ ที่วงการสงฆ์วุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะ พระรับและยินดีในเงินและทอง และ คฤหัสถ์ ไม่รู้พระวินัย
ฟังอีกครั้งเหนดัวย100%
สาธุ ขอบพระคุณ มกค่า เล่นเอากลัวเลย ทำให้เข้าใจ ฉลาด และมีสติในการกระทำ
จริงทุกอย่างที่อาจารย์พูดมาครับ
แจ่มแจ้งครับอาจารย์ คำสอน พุทธศาสนาที่ถูกต้อง แสงแห่งธรรม สว่างไสว ได้เกิดขึ้นแล้ว
กราบขอบพระคุณ และ กราบอนุโมทนาค่ะท่านอาจารย์🌿🌸🙏🌸🌿☺
กราบอนุโมทนาค่ะ🙏😊❤
เห็นด้วยกับคุณNatthaya
ขอบคุณค่ะอาจารย์🙏🙏
กราบอนุโมทนาสาธุความจริงแท้ครับ หลงกันไปหมดแล้วครับ
ขออนุโมทนาในความเห็นถูกที่เกิดขึ้นกับท่านด้วยครับ ก็ค่อยๆช่วยกันเข้าใจเริ่มจากตนเองและก็ช่วยกันเผยแพร่คลิปนี้ให้คนอื่นเข้าใจด้วย ก็เป็นบุญที่ประเสริฐในการดำรงพระพุทธศาสนา ครับ ขออนุโมทนาครับ
การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง.(วิทยาทาน)มหากุศลครับ .เจริญๆครับ
ขอบคุณมากเลยจ้าอาจารย์ ที่มาชี้แจงการทำบุญ การถวายผ้าพระกฐิณ และอื่นๆ ตาสว่างแล้ว
ดิฉันติดตามค้นหาไม่เห็นด้วยกับพุทธพาณิชย์แต่เราเกิดในสังคมหมู่มากแม้ไม่เห็นด้วยบางอย่างเราก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ได้แต่ทำใจแต่ก็จะยึดเอาความถูกต้องมาใส่ใว้ในใจตัวเองคะ
อันตรายิกธรรม [ธรรมที่ทำอันตรายแก่สวรรค์และนิพพาน] ๕ ประการพระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ - หน้าที่ ๗๒๒ธรรมเหล่าใด ย่อมทำอันตรายแก่สวรรค์และนิพพาน เพราะเหตุนั้นธรรมเหล่านั้นชื่อว่า อันตรายิกธรรมอันตรายิกธรรมเหล่านั้นมี ๕ อย่างด้วยอำนาจ กรรม กิเลส วิบาก อุปวาท และอาณาวีติกกมะบรรดาอันตรายิกธรรมมีกรรมเป็นต้นนั้น ธรรมคือ อนันตริยกรรม ๕ อย่าง ชื่อว่าอันตรายิกธรรม คือ กรรม ภิกขุนีทูสกกรรม (ประทุษร้ายนางภิกษุณี) ก็อย่างนั้น แต่ภิกขุนีทูสกกรรมนั้น ย่อมทำอันตรายแก่พระนิพพานเท่านั้น หาทำอันตรายแก่สวรรค์ไม่ธรรมคือ นิยตมิจฉาทิฏฐิ ชื่อว่า อันตรายิกธรรมคือ กิเลสธรรมคือ ปฏิสนธิของพวกบัณเฑาะก์ ดิรัจฉานและอุภโตพยัญชนก ชื่อว่า อันตรายิกธรรมคือ วิบากการเข้าไปว่าร้ายพระอริยเจ้า ชื่อว่า อันตรายิกธรรม คืออุปวาทะ แต่อุปวาทันตรายิกธรรมเหล่านั้น เป็นอันตรายตลอดเวลาที่ยังไม่ให้พระอริยเจ้าทั้งหลายอดโทษเท่านั้น หลังจากให้ท่านอดโทษไป หาเป็นอันตรายไม่อาบัติที่แกล้งต้อง ชื่อว่าอันตรายิกธรรมคือ อาณาวีติกกมะ อาบัติแม้เหล่านั้น ก็เป็นอันตรายตลอดเวลาที่ภิกษุผู้ต้องยังปฏิญญาความเป็นภิกษุหรือยังไม่ออก หรือยังไม่แสดงเท่านั้น ต่อจากทำคืนตามกรณีนั้นๆ แล้วหาเป็นอันตรายไม่
ฟังแล้วเป็นพุทธวจนเลยค่ะสาธุค่ะ
ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ
ฟังคุณพูดแล้วรู้สึกเศร้าใจจริงๆคะ เกือบทั้งชีวิตหลงผิดในการทำบุญ คิดว่าสิ่งที่ทำเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นการสร้างบาปกรรมทางอ้อม ต่อแต่นี้เป็นต้นไปจนลมหายใจสุดท้ายจะไม่หลงผิดอีกแล้วคะ
การถวายปัจจัยไม่ใช่เรื่องบาปเป็นต้นว่าช่วงโควิดพระหลายวัดได้ทำอาหารแจกญาติโยมอีกทั้งซื้อยาสมุนไพรแจกให้ญาติโยมกินเมื่อญาติโยมเสียชีวิตก็ได้ซื้อน้ำมันและสิ่งอื่นๆใช้ในงานศพของญาติโยมไร้ญาติพี่ติดโรคระบาดต่างคนต่างเกื้อกูลกัน
@@สุริยารักท้วม การทำอาหารแจกประชาชน และการดูแลประชาชน น่าจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลนะคะ ไม่ควรเป็ภาระของวัด
@@godji4672 พระท่านมีเมตตาธรรมสูง ไม่นี่งดูดาย สงเคราะห์เกื้อกูลด้วยจิตเมตตา
การถวายปัจจัยแด่พระ..เพื่อบำรุงพระศาสนาได้บุญแน่นอน...เกิดจากท้องพ่อแม่ไม่เคยได้ยินว่าเป็นบาปหรอก..อยู่ที่เจตนาเรา.ที่เป็นกุศล...พระท่านรับแล้ว..ท่านพิจารณาไปใช้จ่ายตามสมควร..ในกิจการสงฆ์เราก็ย่อมได้บุญ
กราบ.สาธุ.สาธุ.สาธุ.กราบขอบพระคุณในธรรมะที่ละเอียดและถูกตอ้งที่สุด
อนุโมทนาสาธุๆๆค่ะ
สาธุครับ ขอบคุณครับที่ให้ผมตาสว่าง ได้รู้ความจริงตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 🙏🙏🙏
กราบขอบพระคุณอนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณอาจารย์ครับ เป็นกำลังใจให้อาจารย์ครับ ติดตามครับ
ที่มาของกฐิน กฐิน เป็นการทำสังฆกรรมของพระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ร่วมกันในสถานที่หนึ่ง พระวินัยบัญญัติเรื่องผ้ากฐินเกิดขึ้นในสมัยที่ภิกษุชาวเมืองปาเฐยยรัฐ ๓๐ รูป เดินทางมาเข้าเฝ้าพระองค์ที่พระวิหารเชตวัน ขณะนั้นเป็นเวลาใกล้จะเข้าพรรษา ภิกษุเหล่านั้น ไม่สามารถเดินทางไปถึงพระนครสาวัตถีให้ทันวันเข้าพรรษา จึงจำพรรษาอยู่ ณ เมืองสาเกต เมื่อออกพรรษาและทำปวารณา(เปิดโอกาสให้ภิกษุรูปอื่นว่ากล่าวตักเตือน)แล้ว ท่านเหล่านั้นก็เดินทางต่อไป แต่ขณะนั้นยังไม่สิ้นสุดฤดูฝน เมื่อฝนตกขณะกำลังเดินทาง จีวรจึงเปียกชุ่มด้วยน้ำ ทำให้ลำบาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปรารภในเรื่องนี้ จึงทรงบัญญัติพระวินัยอนุญาตให้ภิกษุที่อยู่จำพรรษาครบ ๓ เดือนแล้วพร้อมเพรียงกันทำการกรานกฐิน เพื่อความสมัครสมานสามัคคีกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เริ่มการกระทำตั้งแต่ซักผ้า กะผ้า ตัดผ้า เย็บผ้า ย้อมผ้า จนสำเร็จเป็นจีวรผืนใดผืนหนึ่งแล้วทำสังฆกรรม มอบผ้านั้นแก่พระภิกษุที่เหมาะควรตามพระวินัย แล้วคณะสงฆ์จึงร่วมอนุโมทนายินดี เป็นการกรานกฐินตามพระวินัย
๑๓. พระพุทธเจ้าตรัสก่อนปรินิพพานให้ถอนสิกขาบทเล็กน้อย เพราะฉะนั้น ก็ควรจะถอนสิกขาบทข้อที่ภิกษุไม่รับและไม่เงินทองไม่ได้เข้าใจถูก๑๓. ผู้มีปัญญาเคารพในสิกขาบททุกข้อ จึงไม่เพิกถอนสิกขาบทหากจะกล่าวว่า พระพุทธเจ้าให้ยกเลิกสิกขาบทเล็กน้อย แล้วใครเล่าที่จะให้ยกเลิก ข้อนั้น ข้อนี้ แม้แต่ พระอริยสาวก ผู้เป็นพระอรหันต์ มีท่านพระมหากัสสปะ และ ท่านพระอานนท์ เป็นต้น เมื่อครั้งทำสังคายนา ครั้งที่ ๑ ผู้ล้วนทรงคุณ เลิศด้วยฤทธิ์และปัญญา ก็มีมติว่า เราจะไม่ยกเลิกสิกขาบทเล็กน้อย เพราะท่านเหล่านั้นเคารพในพระปัญญาคุณและเคารพในพระวินัยที่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้นที่จะบัญญัติได้ แม้ท่านพระสารีบุตรผู้เลิศด้วยปัญญาก็ไม่สามารถบัญญัติพระวินัยได้เลย นี่คือ ความเคารพในพระวินัยบัญญัติและเคารพในพระพุทธเจ้า ของผู้มีปัญญาในสมัยอดีตกาล และพระพุทธเจ้าตรัสไว้เพื่อแสดงถึงกำลังของพระมหากัสสปะที่จะสังคายนาพระธรรมไว้ดีแล้ว และจะดำรงรักษาพระวินัยบัญญัติทุกข้อไว้เรื่องการรับเงินทอง พระพุทธเจ้าทรงติเตียนเป็นอันมาก และ ยังมีในพระสูตรอีกมากมายที่แสดงว่า ภิกษุไม่พึงรับและยินดีในเงินและทอง มี มณิจูฬกสูตร เป็นต้น เพราะฉะนั้น การรับเงินทองจึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลยสำหรับเพศบรรพชิต
สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
อนุโมทนา สาธุครับ
สาธุ..ค่ะ🙏 "ช่วยบอกทางแก่คนหลงทาง"จะนำไปประพฤติ-ปฏิบัติให้ได้มากที่สุดค่ะขอให้อจ.เจริญในทางโลกและทางธรรม ยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ
ดูก่อนอานนท์ ถ้าสงฆ์ปรารถนาจะถอนสิกขาบทเล็กน้อยเสียบ้าง จงถอนเถิดพระพุทธเจ้าประทานอนุญาติไว้แล้วครับ เพราะพระองค์เป็นผู้รู้แจ้งโลก มองไปเห็นในอนาคต ถ้าเราไม่เชื่อพระพุทธองค์ ก็เท่ากับเราไม่เคารพพระพุทธเจ้า
แชร์ให้คนเข้าใจกัน และกดติดตาม ยังหลงผิดอีกมาก ประเด็นอธิบายดังนี้ แต่ควรฟังให้ครบและโดยละเอียด ครับ
1:56 พระร้องไห้ไม่ได้กฐินเพราะ ?
2:54 วัดและพระไม่รับกฐินเพราะยอดเงินน้อยเพราะ ?
4:06 กฐินที่ถูกต้องตามพระพุทธศาสนา
5:38 คำว่า ทอดกฐิน ไม่มีในพระพุทธศาสนา
6:01 จุดประสงค์ของกฐิน
6:34 กฐินสามัคคี คำที่ใช้กันผิด
7:31 บริวารกฐินไม่เกี่ยวกับเงิน พระพุทธเจ้าไม่แสดงบริวารกฐิน
10:01 ประธาน กรรมการกฐิน ชักชวนกันทำลายพระพุทธศาสนา
10:56 กองกฐิน ไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้า
11:25 กฐินให้เงิน ไม่ได้บุญ ได้บาป
16:10 คฤหัสถ์ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องในช่วงเวลากฐินอย่างไร
17:57 อานิสงส์กฐินที่เข้าใจผิดกัน
21:12 พระขอกฐินไม่ใช่กฐิน ผ้าอะไรไม่ใช่กฐิน
23:57 กฐินเงิน ทำพระตกนรกอย่างไร คฤหัสถ์ให้เงิน ทำพระตกนรกอย่างไร
29:43 วัดจำเป็นต้องมีกฐินไหม
30:41 พระนักพัฒนาไม่มีในพระพุทธศาสนาเพราะอะไร
39:04 ใช้คำว่า กฐินโรงเรียน กฐินห้องน้ำ เป็นต้น ผิดอย่างไร
40:19 กฐิน ผ้าป่า เพื่อสร้างสำนักปฏิบัติ บาป อันตรายที่สุด
41:11 ผ้าป่า คืออะไร ที่ถูกต้องคืออย่างไร
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ
ใช่ค่ะถูกต้องที่สุดกฐินเพิ่มกิเลสให้พระจริงๆค่ะ
กล้าหาญมากครับ อนุโมทนา
ขออนุโมทนาด้วยครับ สาธุครับ
อนุโมทนา อย่างสูงยิ่งเจ้าค่ะ
ทุกคนหลงผิดกันหมด ที่ผ่านมาค่ะอาจารย์
ดีมากๆครับผมชอบฟังแบบนี้
โชคดีมากที่เจอคลิปอาจารย์ ผมเป็นพุุทธแต่ไม่เคยฟังพระไตรปิฎกเลย ฟังพระสวดมาแต่เด็กตามงานบวช งานศพแต่ไม่รู้ควาหมายเลย อายุจะ50 แล้ว ทำแต่งาน
หาเงินแสดงว่าทำบาปมาตลอด
กราบสาธุสาธุสาธุสาธุในคำสอนที่แท้จริงในพระพุทธศาสนาคำสอนพระพุทธเจ้ากราบสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุ
กราบอนุโมทนาสาธุ อาจารย์พูดถูกค่ะที่ผ่านมาก็ทำบุญใส่ซองกฐินมาตลอดด้วยความไม่รู้ไม่ได้ศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้าที่แท้จริง ขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างมากที่มีเมตตาเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าให้คนที่ไม่รู้จะได้รับรู้ข้อมูลที่แท้จริง
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ ครับ
สาธุสาธุขอบคุณมากค่ะดีมากเลยค่ะ
การให้เงินเป็นสังฆทานมันเป็นประเพณีวัฒนธรรมไปแล้วยุคนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นที่เงินหมดเลยพระสงฆ์ก็ในวัด กรรมการแต่ละวัดก็จัดงานพิธีกรรมทางศาสนาพุทธยอดเงินต้องสูงทุกๆงาน อยู่ต่างประเทศวัดที่นี้อุดมสมบูรณ์ พระมีรถส่วนตัว มีประกันสุขภาพ มากไปอีกคือซื้อประกันชีวิต อยู่ดีมากกว่าฆาราวาสทั่วไปอีก ยิ่งงานสวดเทศน์มหาชาติคือแบบว่าองค์เทศน์ต้องเรียกแม่ยกเลยได้ปัจจัยในงานสวดส่วนตัวเยอะมาก เมื่อก่อนก็คิดว่ายุคใหม่คือเงินเป็นปัจจัยสำคัญ แต่พอมาฟังอาจารย์ได้ให้ความรู้ รู้สึกมั่นใจว่าไม่จำเป็นต้องถวายปัจจัยในทุกๆครั้ง ที่ผ่านๆมาได้บาปมากกว่าได้บุญแท้ๆ ขออนุโมทนาสาธุกับอาจารย์อย่างยิ่งค่ะ สาธุๆๆอนุโมทามิค่ะ
พึ่งอ่านเจอ
อยู่ประเทศอะไรคะ
วัดไทยในต่างประเทศก็ช่วยกันทำลายศาสนาหรือนี่
คิดว่าช่วยเผยแผ่สืบสานพระพุทธศาสนา...
บอกได้ไหมคะ
ว่าเป็นสาขาหรือสายวัดใด...
วัดสร้างกันจังเลยกุฏิก็สร้างกันจังโบสถ์วิหารลานเจดีย์ก็สร้างซะใหญ่โตใช้เงินเป็นร้อยล้านถามว่าใครจะมานั่งดูแลรักษาในประเทศไทย อ่ะวัดรางเยอะแยะ ศาสนาไม่ได้อยู่ที่โบสถ์วิหารลานเจดีย์ โบสถ์วิหารลานเจดีย์น่ะมันสืบทอดพระพุทธศาสนาไม่ได้หรอก
สาธุ ค่ะอาจารย์ แชร์แล้วค่ะ
ฟังแล้ว ถูกจริตคับ เพราะการบวช ว่ากันตามแบบพระพุทธเจ้า พระศาสดาหนีความสุข ความสบายในชีวิตทุกรูปแบบ ตามที่เรารู้ แสวงหาความสงบสุขทางใจ ไร้ความสะดวก สบาย สิ่งของเงินทอง แต่พระตัวแทน พระพุทธเจ้า กับสอนสวนทาง ต่างบวชเพื่อแสวงหา ทรัพย์สินเงินทอง ทุกรูปแบบ
อาจารย์ ผเดิม เก่งจริงๆค่ะ..บุญยุคนี้..อวดเงิน..พระก็จ้องแต่เงิน
เคยอ่านครับเรื่องกฐิน ในหนังสือพระไตรปิฎกครับ ในตำราได้ระบุไว้ว่ามันคือเรื่องผิด ถึงกับตกนรก ในคำสอน พออ่านมา เลยเกิดปัญญา อ่านมาหลายปีละครับ ใครที่ตั้งกองบุญกฐิน ไปอ่านเจอ มันคือเรื่องที่ผิดมากครับอาจารย์ มันเป็นการสนับสนุนให้พระเกิดกิเลสด้วย สาธุครับอาจารย์ ที่แผ่ความรู้ให้เข้าใจมากขึ้นอีก ครับ แสดงว่าผมอ่านแล้วไม่ผิด เพราะตอนแรกคิดว่าผมผิด และก็ดีใจที่อาจารย์มาเปิดโลกให้เข้าใจเหมือนอาจารย์ครับ สาธุ
ถ้าผิดทำไมองค์กรพุดไม่มาจัดการครับ
กราบสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุที่ให้ผมตาสว่างในความจริงที่โดนพระหลอกเงินทองมาตลอดผมฟังอาจารย์ทุกวันผมไม่ไปวัดเลยตั้งแต่ฟังอาจารย์อธิบายความจริงกราบสาธุสาธุสาธุในคำสอนพระพุทธเจ้าที่แท้จริงกราบสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุ
นี่แหละของจริง ความจริงที่ถูกต้อง ขอบคุณครับอาจารย์
เป็นอย่างที่ผมคิดไว้จริงๆ เยี่ยมมากเลยครับแอด
สาธุคะอาจารย์ ใช่เลยค่ะ
สาธุบอกได้ละเอียดมากเลยขอบพระคุณอ.จมากเลยคะ่
ชื่นชมในความกล้าหาญ อ. ค่ะ 🌹 เผยแพร่คำจริงในพระพุทธศาสนา เพื่อความเห็นถูกความเข้าใจถูก ขออนุโมทนาค่ะ 🙏
ถ้าชาวพุทธตาสว่างมากๆๆนักบวชถึงจะอาย
ทุกวันนี้พระมีมือถือมีค่าใช้จ่ายและต้องการเงินมีให้เห็นอยู่ทั่ว
@@ชาตรี-บ2ฬ ประเด็นไม่ใช่ความตระหนี่ปะคะ ประเด็นเป็นความเข้าใจถูกตามคำพระศาสดาคืออย่างไร?
อฺพูดถูกทุกอย่างตอนพระทำวัตรต้องเปิดไฟดูหนังสือแล้วไฟมาจ่ายใหนก้อมาจากการไฟฟ้าถามว่าแล้วจะเอาอะไรจ่ายค่าไฟหรือท่านอาจารยจะจ่ายให้ตอบให้กะจ้างด้วน
@@thanadetjirangya6762 คิดเหมือนกันเลยค่ะ ... ในคอมเม้นลองเลื่อนๆ ดู มีคำตอบเรื่องนี้นะคะ สำหรับเรื่องนี้ยกคำตอบมาให้ค่ะ
วัดมีค่าใช้จ่าย ค่าน้ำค่าไฟ ในสมัยปัจจุบัน ไม่เหมือนสมัยก่อน ไม่มีค่าใช้จ่าย พระจึงจำเป็นจะต้องรับเงิน ใช้เงิน
เข้าใจถูก
๔. เป็นความจริงที่ว่าปัจจุบันวัดต้องเสียค่าน้ำค่าไฟ แต่ มีวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสมที่จะไม่ทำให้พระท่านอาบัติ และ พระที่ดี ท่านก็จะไม่รับเงินโดยประการทั้งปวง แต่ใช้วิธีที่เหมาะสม
ค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินในวัด คฤหัสถ์ที่ดีรับเงินดูแลเงิน
เรื่องค่าน้ำค่าไฟในวัด แม้ในในอดีตและปัจจุบันก็มีบางวัดประพฤติตามพระวินัย ที่ให้คฤหัสถ์เป็นคนรับเงินของวัด ดูแลเงิน จัดการเงินและจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้ โดยที่พระไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินและทองเลย ท่านไม่ต้องอาบัติ แต่เลือกคฤหัสถ์ที่ดี มีคุณธรรมเป็นไวยาวัจกรในการจัดการดูแลเงิน และพระภิกษุก็มีหน้าที่ศึกษาพระธรรม (คันถธุระ) และ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม (วิปัสสนาธุระ) เพราะบวชมาจุดประสงค์คือ ละอาคารบ้านเรือน ไม่ประพฤติตนดั่งเช่นคฤหัสถ์และบวชเพื่อถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบโดยส่วนเดียว และ ไม่ใช่ข้ออ้างว่าคฤหัสถ์จะทุจริตเงินวัด จึงจำเป็นที่พระภิกษุต้องรับเงินดูแลเงินเอง ทำทุจริต ผิดพระวินัยเสียเอง เพราะ พระรับเงิน ยินดีในเงินทอง เป็นทุจริตแล้วตามพระวินัยบัญญัติ
คฤหัสถ์ไม่ควรถวายเงินพระและใบปวารณา แต่ ให้เงินกับไวยาวัจกรของวัด ที่ดีมีคุณธรรม ดูแลเงินนั้น และ ภิกษุมีเหตุจำเป็นตามธรรมวินัย จึงขอปัจจัยที่เหมาะสม ที่ไม่ใช่เงินทอง กับ ไวยาวัจกรเพื่อหาสิ่งที่เหมาะสมให้กับพระภิกษุนั้น โดยคฤหัสถ์ทำการซื้อมาให้ มี บาตร จีวร เป็นต้น
ขอบคุณค่ะ
สาธุๆขอขอบคุณครับที่ไห้คาวมรู้
สาธุๆๆๆคะอาจารย์คะขอบคุณคะ
ขอให้หนูเจริญรุ่งเรืองๆจ้า ทำคลิปออกเยอะนะหนูคนเจอคลิปจะตาสว่างหนู
ขอบคุณนะคะ ฟังแล้วมีความรู้มากขึ้นจริงๆค่ะ
กราบอนุโมทนาครับ
น้อมจิตขอร่วมโมทนาในธรรมทานอันเป็นคุณประโยชน์สูงสุดนี้ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
สาธุ คะ อาจารย์
สาธุในพระธรรมฟังแล้วฟังอีก
สาธุขอบพระคุณค่ะอจารย์
พระพุทธศาสนาต้องปรับตัว ภิกษุต้องปรับตัวเข้ากับยุคสมัย คือ รับเงิน มีมือถือ ใช้เฟซบุ๊ก ศาสนาดำรงอยู่มาได้ เพราะ พระพุทธศาสนาและพระภิกษุปรับตัวตามยุคสสมัย
เข้าใจถูก
๑๑. ความเข้าใจถูกและประพฤติตามพระวินัยทำให้ศาสนาเจริญ การประพฤติผิดพระวินัยของพระภิกษุและพุทธบริษัทไม่ปฏิบัติไม่เคารพพระธรรม เป็นเหตุของศาสนาพุทธเสื่อมถอย
บรรพชิต คือ ผู้สละ ละทุกสิ่งที่กระทำดั่งคฤหัสถ์ ออกบวช เพื่อถึงความสิ้นทุกข์ แต่ ผู้บวชอ้างยุคสมัย ขอทันโลก แต่เป็นโลกที่คฤหัสถ์เขาทำกัน เล่นเฟซบุ๊ก เดินห้าง รับเงินทอง มีบัญชีธนาคาร ซ่อมถนนชาวบ้าน ไม่ใช่กิจของภิกษุ ทันโลกของพระภิกษุ คือ โลกตามพระวินัยบัญญัติ ไม่ขัดแย้งกับพระวินัย ประพฤติให้น่าเลื่อมใส ดั่งเป็นผู้สละ ประพฤติอบรมปัญญาขัดเกลากิเลสตามพระวินัยบัญญัติที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว ไม่ใช่ ตามโลกคฤหัสถ์ กระทำตนแบบคฤหัสถ์ นำมาซึ่งการเพิ่มกิเลส พระพุทธเจ้าทรงติเตียน ภิกษุประพฤติตนดั่งคฤหัสถ์ ชาวพุทธ ควรตื่นรู้ความจริงว่า พระคือใคร การบวชคืออะไร และ ไม่สนับสนุนพระเหล่านั้น มีการให้เงินและทอง เป็นต้น อันเป็นการรักษาพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง ดังนั้น ศาสนาพุทธที่ดำรงอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน ดำรงอยู่ด้วยความเจริญ หรือ ความเสื่อมลงในปัจจุบัน เพราะ พระพุทธศาสนาจะหมดสิ้นไป เมื่อถึงห้าพันปี แต่ ปัจจุบัน สองพันห้าร้อยกว่าปี แล้วศาสนาเจริญหรือเสื่อม เมื่อภิกษุสมัยปัจจุบัน กระทำตามคฤหัสถ์ ไม่ประพฤติตามพระวินัย บอกว่ารับเงินทองได้ ทั้งๆ ที่ผิดพระวินัยบัญญัติ และคฤหัสถ์ที่ไม่เข้าใจพระธรรมวินัยก็เห็นดีงามด้วย นี่ต่างหากที่เป็นเหตุพระพุทธศาสนากำลังเสื่อมไปเรื่อยๆ เพราะพุทธบริษัทไม่ปฏิบัติตามพระธรรมจนถึงเมื่อห้าพันปี พระพุทธศาสนาก็อันตรธานไปจากใจของทุกคน
อาจารย์ พูดได้ ตรงจุด ทุกแง่มุม ชัดเจนดีมาก ตามความจริงทุกประการ คับ เข้าใจดีขึ้นมาก ตาสว่างซักทีคับ สาธุๆ
ขอบคุณมากครับ...จะติดตามตลอดไป
สาธุ สาธุ สาธุ ฟังคำบรรยายลึกซึ้งมากๆ
ขอบคุณค่ะอาจารย์ที่เผยแพร่ความรู้ คำสอนที่แท้จริงของพระพุทธศาสนาให้เป็นธรรมทานและการปฏิบัติตัวได้จริงตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ ทำให้ไม่หลงงมงายทำในสิ่งที่ผิดค่ะ 🙏🏻
สาธุ อนุโมทนาบุญ กับการประกาศธรรมของพระพุทธเจ้า ค่ะ
กราบขอบคุณอาจารย์เผดิมมากค่ะดิฉันเข้าใจแล้วสว่างแล้วขอบคุณค่ะ
แล้วกฐินทองคำละคะมีใครค้านบ้างไหมคะ
เห็นชื่นชมกันทั้งประเทศแล้วสรุปว่าผิดถูก
อย่างไร หรือยกเว้นว่าผู้ทำเป็นพระระดับไหนคะ
ขอบพระคุณที่ให้ความรู้ความเข้าใจกับคุณ
เป็นคนพุทธค่ะ อนุโมทนาสาธุค่ะ
ฟังคลิปจบและเข้าใจ จะรู้เลยครับว่า ผิดอย่างไร ความไม่รู้ ย่อมมีมากกว่าความรู้ จึงเป็นธรรมดาของโลกที่จะชื่นชม ครับ
สาธุในธรรมค่ะ.ทำให้รู้ในพระธรรมอย่างกระจ่าง..ขอบคุณนะคะ
ชัดเจน แจ่มแจ้ง กระจ่างไข
กราบอนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ผเดิมค่ะ
ต้องให้ลองมาบวชเอง ถึงจะรู้ว่าสมัยนี้พระต้องใช้เงิน รับเงิน เพราะมีชีวิตลำบาก
เข้าใจถูก
๑๗. ผู้ที่รู้อัธยาศัยตนเอง ว่าสละอาคารบ้านเรือนได้ จริงๆ จึงจะออกบวช หากได้อ่านพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง พระพุทธเจ้า ไม่ได้มีการบังคับให้ใครไปบวช พุทธบริษัท จึงมี ๔ พระอริยสาวกที่บรรลุธรรมอยู่ในเพศคฤหัสถ์มีมากมาย มีท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี นางวิสาขาอุบาสิก ท่านเหล่านั้นไม่ได้บวช แต่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องสรรเสริญคฤหัสถ์เหล่านั้น เพราะปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมในเพศคฤหัสถ์ แต่ พระภิกษุที่ออกบวช แต่ประพฤติตนไม่ตามพระวินัยบัญญัติ พระพุทธเจ้าไม่ทรงสรรเสริญ แต่ทรงติเตียน เช่น พระฉัพพัคคีย์ที่ละเมิดพระวินัยเป็นประจำ และ ไม่เห็นโทษ เป็นต้น เพราะฉะนั้น ตนเองไม่มีอัธยาศัยในการบวช ยังกระทำตนดั่งคฤหัสถ์ พระพุทธเจ้าทรงติเตียน ดังนั้นบุคคลจะเป็นผู้ประเสริฐไม่ได้อยู่ที่เพศ แต่อยู่ที่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยหรือไม่ หากเป็นผู้รับเงินและทองในเพศพระภิกษุ พระพุทธเจ้าทรงติเตียน ไม่ทรงสรรเสริญเลย ดังนั้น ผู้ที่ขัดเกลลากิเลสอย่างยิ่งจริงๆ จึงไม่รับเงินทองโดยประการใดๆ เลยในเพศพระภิกษุ
ขอบคุนมากค่ะที่ให้ความรุ้สาธุๆค่ะ
สวัสดีค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
สาธุครับท่านอาจารย์.แนะนำแก่นแท้แห่งศาสนาพุทธ.ที่เป็นแนวทางถูกต้องตามหลักพุทธ.ครับ
ดีใจครับที่ได้เจอ ช่องนี้ ผมกดติดตามไว้
เป็นคลิปที่ให้ความรู้ความชัดเจนดี
พระเครื่องที่ปลอมกันตั้งแต่แรก พอนานวันเข้าเมื่อของแท้หายาก ของปลอมที่ทำแบบเกรดเอก็จะชินตาได้รับความนิยมกันโดยปริยาย แต่ผู้รู้จะไม่ให้ความสำคัญ เหมือนการกฐิน..เงิน คือปัจจัยหลัก, เงินคือจุดมุ่งหวัง, จุดประสงค์...
พระต้องสร้างวัด ซ่อมแซมสิ่งต่างๆ ในวัด พระจึงจำเป็นต้องรับเงินทอง ทำกฐิน ผ้าป่า
เข้าใจถูก
๖. การสร้างวัดพระไม่ใช่ผู้เรี่ยไรเงิน พระไม่ใช่ผู้รับเงิน แต่ คฤหัสถ์เป็นคนจัดการเรื่องเงิน
คฤหัสถ์ผู้ฉลาดและเคารพระธรรม เคารพพระพุทธเจ้าและเคารพพระสงฆ์ย่อมปฏิบัติตามพระวินัย คือ ไม่ถวายเงินทองกับพระภิกษุและเคารพพระสงฆ์ ไม่ถวายของที่เป็นอกัปปิยะ ของที่ไม่สมควร มีเงิน เป็นต้นกับพระภิกษุเพราะทำให้ท่านต้องอาบัติ คฤหัสถ์ผู้ฉลาดเคารพในพระรัตนตรัย จึงทำวิธีการที่ถูกต้อง ดั่งเช่น สมัยพุทธกาล นางวิสาขา ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี พระเจ้าพิมพิสาร ไม่ได้เอาเงินไปถวายพระพุทธเจ้า ไม่ได้เอาเงินไปถวายท่านพระสารีบุตร เพราะท่านเหล่านั้นเคารพพระพุทธเจ้า เคารพพระธรรม เคารพระสงฆ์ แต่ สร้างวัดถวายเองโดย ไม่ให้พระยุ่งเกี่ยวกับเงินและทอง เวลาที่จะสร้างอย่างอื่น เช่น โรงครัว อุบาสก อุบากสิกา ผู้เข้าใจพระธรรม ก็กล่าวบอกกับพระภิกษุ และสร้างถวาย โดยไม่ใช่เอาเงินไปให้ท่าน นี่คือ วิธีการที่ถูกต้อง เป็นการรักษาพระวินัย และ ดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา
ข้อความในพระไตรปิฎก แสดงความจริงว่า การสร้างวัด เป็นต้น ไม่ใช่การให้เงินพระโดยตรง ไม่มีการที่พระทำกฐิน ผ้าป่า เงินทอง แต่ คฤหัสถ์เป็นคนจัดการเรื่องเงินสร้างวัดให้
ท่านพระอุเทน “พราหมณ์ พระเจ้าอังคะโปรดพระราชทานอะไรเป็นเบี้ยเลี้ยงประจำแก่ท่านทุกวัน”
โฆฏมุขพราหมณ์ “ท่านอุเทน พระเจ้าอังคะโปรดพระราชทานทรัพย์ ๕๐๐ กหาปณะเป็นเบี้ยเลี้ยงประจำแก่ข้าพเจ้าทุกวัน”
ท่านพระอุเทน “พราหมณ์ การรับทองและเงินไม่สมควรแก่อาตมภาพทั้งหลาย”
โฆฏมุขพราหมณ์ “ท่านอุเทน ถ้าทองและเงินนั้นไม่สมควร ข้าพเจ้าจะให้สร้างวิหารถวายท่านอุเทน”
ท่านพระอุเทน กล่าวว่า “พราหมณ์ ถ้าท่านปรารถนาจะให้สร้างวิหารถวายอาตมภาพ ก็ขอให้สร้างโรงฉันถวายแก่สงฆ์ในเมืองปาตลีบุตรเถิด”
ข้อความบางตอนในโฆฏมุขสูตร มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓
เราฟังคุณ..เผดิม..อธิบาย...ธรรมะะแล้วเรามาพิจารนาดูแล้วเป็นความ..ตามที่คุณ..เผดิม...บรรยาย..และชี้แจง..ไนสิ่งที่ถูกต้อง...ขอขอบถคุณคุณ..เผดิม..ที่ออกมาชี้แจงให้เราฟัง
อนุโมทนาสาธุคะจะได้เข้าใจละที
ขอบคุณสำหรับความรู้ที่ดีมากครับ
ผมเชื่อที่ท่านพูด เพราะบ้านผมไม่มีตังแต่สร้างและให้ตังพระและวัดเป็นเงินจำนวนมหาศาลเป็นสิบเป็นร้อยเท่าของรายได้ทั้งตระกูล กลัวจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์กลัวจะลำบากเวลาตาย ผมใจบาปเลิกคนตัง(ที่ตัวไม่มี)ไปให้พระ เอตังไปซื้อยากับโลงใส่ศพตัวเองเวลาตายจะงามกว่า
เข้าใจที่อาจารย์พูดค่ะ พระดีๆหายาก บวชเพื่อหาผลประโยชน์ อยู่ในวัดก็แก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น วัดก็สร้างอลังการ ส่วนมากไม่เคยพอดี
ขออนุโมทนาสาธุ ไม่เคยทำบุญทอดกฐินตั้งแต่มีโควิด คิดว่าทำบุญให้พระ นำเงินไปบริจาคช่วย รพ ดีกว่า คลิปนี้น่าจะเผยแพร่เป็นประโยชน์ต่อไป ขอบคุณค่ะ ,,,, จะติดตามฟังต่อไป
สาธุ เห็นด้วยครับ ทำบุญด้วยเงินไม่จำเป็นทำกับพระหรือกับวัด บริจาคทำบุญกับ รพ.เพื่อส่งต่อช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้ยากไร้
ขอขอบคุณค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ
สาธุ ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ ที่ทำให้เรื่องติดขัดในใจได้สว่างขึ้น
พระภิกษุรับเงินได้ หากนำเงินนั้นไปช่วยเหลือสังคม
เข้าใจถูก
๙. หากได้ศึกษาพระวินัย กิจของพระภิกษุ มีสองอย่าง คือ คันถธุระและวิปัสสนาธุระ ไม่ใช่จะทำกิจอย่างคฤหัสถ์ โดยการสร้างโรงพยาบาล สร้างโรงเรียน เป็นต้น
การรับและยินดีในเงินและทอง แม้จะช่วยสังคมก็เป็นอาบัติสำหรับพระภิกษุ ถ้าจะช่วยสังคมอย่างคฤหัสถ์ ก็สึกออกมาเป็นคฤหัสถ์ เพราะเพศบรรพชิต สละแล้ว ซึ่งเงินและทองทั้งปวง พระอริยสาวกผู้มีปัญญาในอดีต มีท่านพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ เป็นต้น ออกมาช่วยสังคมแบบคฤหัสถ์หรือไม่ หรือ รับเงินและทอง ช่วยสังคม หรือไม่ ไม่เลย เพราะท่านเคารพพระวินัย เคารพในพระพุทธเจ้า และ รู้ตัวเองว่า เป็นเพศใด ดังนั้นท่านช่วยสังคมที่ถูกต้อง ตามเพศบรรพชิต คือ ท่านแสดงธรรมอันเป็นการช่วยสังคมอย่างสูงสุดและเคารพพระวินัยที่จะไม่ทำอย่างคฤหัสถ์
ปีนี้ไม่ได้ถวายเงินพระเลยค่ะเพราะไม่ค่อยมีแต่ชื้อผ้าไตรอย่างดีสามพันกว่าส่งไปถวายพระที่ไม่ค่อยมีคนไปค่ะคนส่วนใหญ่ก็คิดกันมาตลอดว่ากุศลมากในการทอดกฐินผ่าป่าตั้งแต่เราดูหนังเรื่องพระพุทธเจ้าเลยทำให้เราเข้าใจแต่ก็ยังชอบทำบุญด้วยเงินพอมาได้ฟังอาจารย์พูดแล้วเชื่อเลยค่ะ🙏🙏🙏
สาธุขอรับ อาจราย์คือผุ้ให้ธรรมะเป็นทานแท้จริงซึ่งจะเป็นบุญอันยิ่งใหญ่กว่าบุญใด ด้วยความศรัทธาขอรับกระผม
อาจารย์กล่าวได้ถูกต้อง
โยมมีแต่ถวายเงินเพราะอยากได้บุญ และวัดก็อยากได้เงิน
ยุคนี้แทบจะไม่มีวัดใหนที่ไม่รับเงิน
ใช่ๆไปนรกเท่ากับดินมหาปฐพี
ผมขออนุโมทนากับเงินที่ท่านใด้ถวายไปท่านใด้บุญแน่ครับผมใด้ฟังเทศนาหลวงตามหาบัวว่าพระทุกวันจำเป็นต้องใข้เงินบ้างเพื่อใช้จ่ายทุกวันนี้ไปโรงบาลพระต้องเสียค่าใข้จ่ายเหมือนโยมทั้งค่าน้ำค่าไฟพระต้องมีเงินเสียค่าไฟค่าน้ำเพราะรัฐบาลปัจจุบัน
ไม่จ่ายช่วยวัดแล้วผมเคยบวชปฎิบัติมาผมรู้ว่าถ้าพระไม่มีเงินจะลำบากมากครับเพราะพระสงฆ์จะเดินทางไปไหนต้องเสียค่ารถ
จ่ายค่าน้ำมัน.ดั่งนั้น.เราถวายเงิน
เพื่อให้พระสงฆ์ใช้ในยามจำเป็นมันเป็นล้าน%ครับ.เพราะสมัยพุทธองค์บัญญัติกฎสงฆ์ไม่ให้ภิกษุจับต้องเงินแต่กาลเวลาล่วงมา2500กว่าปีทุกอย่างเปลี่ยนไป
ผมเข้าใจว่าถ้าพระพุทธองค์ทรงมีขีวิตอยู่พระองค์จะทรงรู้ว่าวันนี้พระสงฆ์จำเป็นต้องมีเงินบ้าง
ครับมีเงินบ้างเพราะกาลวันนี้แม้แต่พระอาภาทต้องใช้เงินเพื่อเดินทาง2ค่ารักษาทุกวันนี้พระไม่มีอภิสิทธิรักษาฟรีเหมือนแต่ก่อนนะครับเข้าใจด้วยถ้าวัดไหนติดโควิดต้องมีเงินซื้ออาหารบางวัดนี้แทบจะไม่มีคนไปทำบุญเลยนะครับ.คนที่อ้างข้อบัญญัติทุกวันนี้ไม่น่าจะไช่คนพุทธครับเพราะอิสลามเรียนพุทธประวัติมาเพื่อแอบอ้างคำสอนแต่พวกนี้ไม่รู้ถึงความถูกต้องบาปบุญที่แท้จริงครับ
@@happy5channel116
ฆาราวาสจัดกองผ้าป่าไปทอดวัดนั้นโดยมีไวยาวัจกรและกรรมการวัดที่เป็นฆาราวาสเป็นผู้จัดการแทนวัด พระต้องการค่าใช้จ่ายอะไรก็แจ้งทางไวยาวัจกร โดยพระไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องเงินทอง😲
บวชมาเพื่อละกิเลส...แทบจะไม่มีแล้วครับ'จารย์ ยุคนี้มีแต่สะสมแข่งกัน หาความพอดียาก...
ขอบคุณสาระความจริงกฐินนี้มากๆ ไม่เคยเจอใครบอกเช่นนี้เลย สาธุๆๆ🙏🏻🙏🏻🙏🏻 บางวัดออกมาขอบริจาคทุกวันๆๆเพื่อสร้างสาธารณะกุศลต่างๆเปลี่ยนแปลงทุกๆวัน แทนที่พระจะมุ่งสร้างคนด้วยอบรมธรรมที่ดีงาม แล้วสถานที่ต่างๆญาติโยมเห็นสมควรเขาจะระดมช่วยกันเองโดยพระไม่ต้องเข้ามาหาเงินเพื่อสร้างๆๆต่อไปเอง มีหลายวัดที่กลายเป็นวัดร้าง สุถานที่น่ากลัวๆก็มีหลังจากไม่มีพระจำวัดสักองค์🙏🏻🙏🏻🙏🏻👍👍👍👍👍👍💐💐💐💐💐🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻
เพราะมัวแต่สร้างโน่นสร้างนี่ มันก็เลยไม่มีเวลาศึกษาธรรมะ ในวัดเต็มไปด้วยวัตถุต่างๆมากมาย วัตถุเหล่านี้เป็นเครื่องร้อยรัดจิตใจให้ภิกษุต้องดูแล ทำความสะอาด หวงแหน บริหารจัดการ นำภัยนานาประการมาสู่ภิกษุ(เพราะภิกษุร่ำรวย) พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงสอนให้ภิกษุมักน้อย ก็เพื่อไม่ให้ภิกษุมีภัยเหล่านี้ จะได้มีเวลาค้นคว้าหาความจริงของชีวิต แลัวอบรมสั่งสอนคนให้ตั้งตนไว้ชอบตาม
พระธรรม พระวินัย แต่ปัจจุบัน คน "ไม่กลัวบาปและอกุศล" ขนาดเป็นภิกษุก็ยังไปว่าร้ายคฤหัสถ์ได้ พอได้ยินคฤหัสถ์เขาพูดการเมือง ก็คันปากขึ้นมาทันที คฤหัสถ์ทำได้ แต่ภิกษุทำไม่ได้(ท่านห้ามทำเยี่ยงคฤหัสถ์) เพราะตัดขาดหมดทุกอย่างแล้ว อาชีพก็ไม่มี อาศัยเขาอยู่ ขอเขากิน(จะได้เจียมตัว) แต่ภิกษุไม่ได้เจียมตัวเลย เห็นว่าเขานับถือก็เลยกร่าง(มีญาติเป็นชาวบ้านกรูด จ.ประจวบฯ เล่าให้ฟังว่า อดีตเจ้าคณะฯ และอดีตสมภารวัดคลองวาฬไม่พอใจที่คฤหัสถ์ถวายเงินน้อย พูดออกมาดังๆว่า
"ไม่พอซื้อกับข้าวให้หมา" คิดดูก็แล้วกันว่า "กร่างแค่ไหน" แสดงว่า ที่บวชมานานจนได้เป็นเจ้าคณะฯนั้น ไม่ได้เข้าใจอะไรเลย ไม่รู้ตัวด้วยว่า ตนมีเพศสภาพอย่างไร? เห็นไหมล่ะว่า "ได้บวช แต่ไม่ได้เป็นพระ" ใครไปนับถือคนพวกนี้เข้า ก็เท่ากับนับถือ "โจร ในพระพุทธศาสนา" ไม่ได้บุญหรอก เป็นบาป ! ที่เราต้องรับอยู่ทุกวันนี้ไง ! คนจน ยิ่งจนลง เพราะไปทุ่มเทเงินให้วัด ให้ภิกษุ คนพวกนี้ก็ร่ำรวย พอรวยแล้วก็ "กร่าง ลืมตน" ซึ่เป็นธรรมชาติของคน
"ปัญญาทึบ" ที่โบราณกล่าวไว้ในโคลงโลกนิติว่า
"รู้น้อยว่ามากรู้ เริงใจ"
คำว่า "พระ" แปลว่า
"ประเสริฐ" แต่ถ้า "ใครไม่ประเสริฐ" มันก็ไม่ใช่พระน่ะสิ จริงไหม? สวัสดีครับ
ขอบคุณมากค่ะ ที่ทำให้เกิดปัญญา ดิฉันจะสอนลูกหลานให้มีความเห็นที่ถูกต้องเรื่องพุทธศาสนาสืบไป🙏
ใช่ค่ะ เห็นด้วยและเป็นอย่างนั้นจริงๆ กฐินเป็นเรื่องเกี่ยวกับผ้า ที่เรียกกันว่าผ้าพระกฐิน ซึ่งไม่เกี่ยวกับเงินเลย เพราะเป็นสิ่งที่ทำกันมาโดยผิดๆ ซึ่งการถวายเงินทำให้พระที่ไม่บรรลุเกิดกิเลสมากขึ้นค่ะ การถวายปัจจัยในพิธีต่างไปก็ไม่ควรเช่นกันแต่เราทำตามกันมาแบบผิดๆมาโดยตลอดและก็ไม่มีใครออกมาบอกให้คนทั้งหลายตาสว่าง
ขอบคุณมากค่ะที่ถูกต้องแต่สมัยนี้พวกผู้หญิงที่สวยรวยชอบทำบุญกับพระเพี่อเอาหน้าตาให้คนรู้ว่าฉันรวยต้องทำบุญเยอะๆไม่ใช่ทำด้วยความไม่รู้ค่ะแข่งขันเอาหน้าตาฉันเป็นผู้หญิงชอบชอบช่วยเหลือคนยากคนจนแต่ก็ไม่ชอบทำกับพระภิกษุค่ะจึงขอบคุณมากๆๆที่ออกมาอธิบายในวันนี้ค่ะ
ใช่ค่ะ...ละช่วงเลือกตั้ง...นักการเมืองก็จะมาทำบุญบ่อยๆล่ะใส่ชองประกาศไมค์ ล่ะเปิดบริจาคบ่อยมากตอนนี้วัดก็ใหญ่ใหม่...ไม่รุ้จะสร้างอะไรนักหนา...ผมว่ามันไม่ใช่ล่ะไม่สมควร
กราบขอบพระคุณคะ ที่ให้ความรู้นะคะ ได้ศึกษาเรื่อง.กฐินมานานมากแล้วคะ แต่วันนี้ได้เข้าใจตรงกับอาจารย์คะ สาธุ สาธุ..คะ แต่พอทราบนะคะ มี 2 วัด.ที่ไม่มีการพิธิทอดกฐินคะ คือ วัดแสงธรรมวังน้ำเขียว ของ พอจ.โสภากับ วัดบ่อน้ำพระอินทร์คะ พอจ.หลวงตาสิ้นคิด ชอบมากๆ คะ สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญในการให้ความรู้ในครั้งนี้ชัดเจนที่สุด ที่แหม่มพยายามศึกษามาตลอดคะ สาธุ สาธุ ขอบพระคุณมากนะคะ
ท่านพูดแล้วนึกเห็นภาพเลยค่ะ.คือสิ่งที่ท่านกล่าวมาคือความจริงทั้งหมด.การยำเพ็ญท่ามกลางกิเลศจริงๆ.ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
ทุกเรื่องที่อาจารย์พูด......เป็นความเห็นถูกทุกประการ.......(สัมมาทิฐฐิ)........
เข้าใจแล้วค่ะที่ผ่านมาทำผิดมาตลอดกราบขอบพระคุณมากค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ ที่ออกมาให้ความรู้ที่ถูกต้อง ทันเหตุทันการณ์
๖. พระต้องสร้างวัด ซ่อมแซมสิ่งต่างๆ ในวัด พระจึงจำเป็นต้องรับเงินทอง ทำกฐิน ผ้าป่า
เข้าใจถูก
๖. การสร้างวัดพระไม่ใช่ผู้เรี่ยไรเงิน พระไม่ใช่ผู้รับเงิน แต่ คฤหัสถ์เป็นคนจัดการเรื่องเงิน
คฤหัสถ์ผู้ฉลาดและเคารพระธรรม เคารพพระพุทธเจ้าและเคารพพระสงฆ์ย่อมปฏิบัติตามพระวินัย คือ ไม่ถวายเงินทองกับพระภิกษุและเคารพพระสงฆ์ ไม่ถวายของที่เป็นอกัปปิยะ ของที่ไม่สมควร มีเงิน เป็นต้นกับพระภิกษุเพราะทำให้ท่านต้องอาบัติ คฤหัสถ์ผู้ฉลาดเคารพในพระรัตนตรัย จึงทำวิธีการที่ถูกต้อง ดั่งเช่น สมัยพุทธกาล นางวิสาขา ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี พระเจ้าพิมพิสาร ไม่ได้เอาเงินไปถวายพระพุทธเจ้า ไม่ได้เอาเงินไปถวายท่านพระสารีบุตร เพราะท่านเหล่านั้นเคารพพระพุทธเจ้า เคารพพระธรรม เคารพระสงฆ์ แต่ สร้างวัดถวายเองโดย ไม่ให้พระยุ่งเกี่ยวกับเงินและทอง เวลาที่จะสร้างอย่างอื่น เช่น โรงครัว อุบาสก อุบากสิกา ผู้เข้าใจพระธรรม ก็กล่าวบอกกับพระภิกษุ และสร้างถวาย โดยไม่ใช่เอาเงินไปให้ท่าน นี่คือ วิธีการที่ถูกต้อง เป็นการรักษาพระวินัย และ ดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา
ข้อความในพระไตรปิฎก แสดงความจริงว่า การสร้างวัด เป็นต้น ไม่ใช่การให้เงินพระโดยตรง ไม่มีการที่พระทำกฐิน ผ้าป่า เงินทอง แต่ คฤหัสถ์เป็นคนจัดการเรื่องเงินสร้างวัดให้
ท่านพระอุเทน “พราหมณ์ พระเจ้าอังคะโปรดพระราชทานอะไรเป็นเบี้ยเลี้ยงประจำแก่ท่านทุกวัน”
โฆฏมุขพราหมณ์ “ท่านอุเทน พระเจ้าอังคะโปรดพระราชทานทรัพย์ ๕๐๐ กหาปณะเป็นเบี้ยเลี้ยงประจำแก่ข้าพเจ้าทุกวัน”
ท่านพระอุเทน “พราหมณ์ การรับทองและเงินไม่สมควรแก่อาตมภาพทั้งหลาย”
โฆฏมุขพราหมณ์ “ท่านอุเทน ถ้าทองและเงินนั้นไม่สมควร ข้าพเจ้าจะให้สร้างวิหารถวายท่านอุเทน”
ท่านพระอุเทน กล่าวว่า “พราหมณ์ ถ้าท่านปรารถนาจะให้สร้างวิหารถวายอาตมภาพ ก็ขอให้สร้างโรงฉันถวายแก่สงฆ์ในเมืองปาตลีบุตรเถิด”
ข้อความบางตอนในโฆฏมุขสูตร มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓
อาจารย์พูดและอธิบายได้ถูกต้อง ครับ แต่ ปัญหา คือ ผมยังไม่เคยเห็นพระรูปไหนเลย และ วัดไหนเลย ที่เข้าใจคำสอนและปฏิบัติตามที่อาจารย์พูดมา...นับแต่นี้ต่อไปก็จะพยายามทำให้ถูกต้อง คือ ยังคงมี ทาน ศีล ภาวนา แต่จะไม่ให้พระท่านผิดเรื่องรับเงิน ครับ สาธุ
สาวกของพระพุทธเจ้าหมายถึง
ผู้ที่พูดตรงกับพระพุทธเจ้า
ปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าสอนไม่ว่าจะเป็นนักบวชหรือฆราวาส
อนุโมทนา..สาธุค่ะ
ดีมากๆครับที่มาบอกสอน.ชาวพุทธ.แล้วไอ้พวกพระสงฆ์และระดับไอ้พวกพระเจ้าคุณพระสมเด็จที่มีความรู้ทางศาสนาทำไมไม่สอนให้เห็นเป็นตัวอย่างมากินข้าวญาติโยมเปล่าประโยชน์จริงๆไปสอนพระให้ปฏิบัติตามด้วยนะโยมผู้เจริญ
ดีแล้วๆชาวพุทธที่มืดบอดมาเกือบตลอดชีวิตอาจารย์การุณาเมตตาได้บอกทางให้คนหลงทาง เปิดของที่ถูกปิด หายของที่คว่ำ่ให้ชาวพุทธได้ตาสว่างเสียทีเป็นลาปๆอันประเสริฐของพวกข้าแล้ว สาธุๆๆ
อาจารย์พูดได้ถูกต้องมากๆเลยค่ะ..ได้ความรู้เยอะเลย.เข้าใจผิดมานานจริงๆ.หูตาสว่างเสียที.ขอบพระคุณมากๆค่ะ..แชร์ไปแล้วนะคะ
พูดเรื่องยันตระบ้าง จะรอฟังจะรอนะ
กล้ารึเปล่าพูดเรื่องยันตระ
@@sanprasitkhamma6049 พูดไปแล้วครับ ลองฟังนะครับ ua-cam.com/video/_Z7f6xIWoQo/v-deo.html
@@sanprasitkhamma6049 พูดไปแล้วครับ ลองฟังนะครับ ua-cam.com/video/_Z7f6xIWoQo/v-deo.html
ฟังท่านอาจารย์แล้วรู้และตาสว่างค่ะ มีคนบางคนพูดว่าพระท่านไม่ต้องการข้าวของถวายแต่ท่านต้องการเงิน เน้นๆเงินมากกว่าฟังแล้วตกใจค่ะ ขอบคุณท่านอาจารย์ค่ะ
จ่ายค่าน้ำค่าไฟแทนพระภิกษุในเมืองหรือเปล่าครับ หรือ สร้างแม่น้ำลำคลองใหม่ให้ท่านอาบน้ำ ตักน้ำฉันน้ำใช้ได้เหมือนสมัยพุทธกาลหรือเปล่า หนังสือตำราที่ท่านศึกษาเล่าเรียนจากหลักสูตรของมหาเถระสมาคมคุณซื้อถวายท่านหรือเปล่า อ้อ อย่าเพิ่งบอกนะครับว่า ให้ไวยาวัจกร จัดการสิ คุณเตรียมไวยาวัจกร ไว้ประจำทุกวัดหรือเปล่า
ยุคสมัยมันเปลี่ยนแปลงไป อะไรๆ อนุโลมกันได้ ก็อนุโลมกันไปครับ
@@sunmooner6284 วัดมีค่าใช้จ่าย ค่าน้ำค่าไฟ ในสมัยปัจจุบัน ไม่เหมือนสมัยก่อน ไม่มีค่าใช้จ่าย พระจึงจำเป็นจะต้องรับเงิน ใช้เงิน
เข้าใจถูก
๔. เป็นความจริงที่ว่าปัจจุบันวัดต้องเสียค่าน้ำค่าไฟ แต่ มีวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสมที่จะไม่ทำให้พระท่านอาบัติ และ พระที่ดี ท่านก็จะไม่รับเงินโดยประการทั้งปวง แต่ใช้วิธีที่เหมาะสม
ค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินในวัด คฤหัสถ์ที่ดีรับเงินดูแลเงิน
เรื่องค่าน้ำค่าไฟในวัด แม้ในในอดีตและปัจจุบันก็มีบางวัดประพฤติตามพระวินัย ที่ให้คฤหัสถ์เป็นคนรับเงินของวัด ดูแลเงิน จัดการเงินและจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้ โดยที่พระไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินและทองเลย ท่านไม่ต้องอาบัติ แต่เลือกคฤหัสถ์ที่ดี มีคุณธรรมเป็นไวยาวัจกรในการจัดการดูแลเงิน และพระภิกษุก็มีหน้าที่ศึกษาพระธรรม (คันถธุระ) และ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม (วิปัสสนาธุระ) เพราะบวชมาจุดประสงค์คือ ละอาคารบ้านเรือน ไม่ประพฤติตนดั่งเช่นคฤหัสถ์และบวชเพื่อถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบโดยส่วนเดียว และ ไม่ใช่ข้ออ้างว่าคฤหัสถ์จะทุจริตเงินวัด จึงจำเป็นที่พระภิกษุต้องรับเงินดูแลเงินเอง ทำทุจริต ผิดพระวินัยเสียเอง เพราะ พระรับเงิน ยินดีในเงินทอง เป็นทุจริตแล้วตามพระวินัยบัญญัติ
คฤหัสถ์ไม่ควรถวายเงินพระและใบปวารณา แต่ ให้เงินกับไวยาวัจกรของวัด ที่ดีมีคุณธรรม ดูแลเงินนั้น และ ภิกษุมีเหตุจำเป็นตามธรรมวินัย จึงขอปัจจัยที่เหมาะสม ที่ไม่ใช่เงินทอง กับ ไวยาวัจกรเพื่อหาสิ่งที่เหมาะสมให้กับพระภิกษุนั้น โดยคฤหัสถ์ทำการซื้อมาให้ มี บาตร จีวร เป็นต้น
@@sunmooner6284 ค่าหมอ ค่ายาไม่ฟรี เดินทางไปหาหมอ ก็ไม่ฟรี จำเป็นที่ยุคสมัยนี้ต้องใช้เงิน และ พระต้องรับเงิน
เข้าใจถูก
๕. ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ถ้าทำวิธีการที่ถูกต้อง คือ พระไม่รับเงิน แต่ ฆราวาสให้เงินกับคฤหัสถ์ผู้เป็นไวยาวัจกรของวัดโดยตรงดูแล ที่เป็นคนดี มีคุณธรรม และ เมื่อพระต้องการยา การเดินทางไปหาหมอ การเดินทาง ไวยาวัจกรนั้นก็จัดสิ่งที่เหมาะสม สมควรให้กับภิกษุนั้นได้ อันทำให้พระไม่ต้องอาบัติรับเงินทอง ยินดีในเงินทอง เพราะมีเงินส่วนกลางของวัดในการบริหารจัดการ ทั้งในเรื่องค่ายา ค่าอื่นๆ ที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย อันเป็นสิ่งของที่เป็นกัปปิยะ เหมาะสมกับพระภิกษุ ก็สามารถแจ้งไวยาวัจกรวัดได้ในการจัดหา และในสมัยพุทธกาล ภิกษุทั้งหลายก็ดูแลกันเอง มียาตามสมัย ที่เป็นเภสัช มี น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ยาดองมูตรเน่า เป็นต้น และแม้ปัจจุบัน จะเปลี่ยนไปอย่างไรก็สามารถใช้วิธีการให้คฤหัสถ์ดูแลได้ในเรื่องยาและค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมทั้งโรงพยาบาลสงฆ์ก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย และ หากเป็นภิกษุที่ประพฤติดี ประพฤติชอบ ก็ย่อมจะเป็นผู้มีโยมอุปัฏฐาก ที่ปวารณาช่วยเหลือในสิ่งที่เหมาะสม
🙏 สาธุค่ะท่าน..ฟังและอ่านแล้ว..รู้สึกเคารพรักศรัทธาท่าน..และหวนนึกถึงพระที่รู้จัก .หลงไปกับทางโลก..ไม่ปฎิบัติตามธรรมะวินัย...ขอบคุณที่ชี้แนะจะได้ลบและ..จะได้ไม่ต้องตกไปในที่ต่ำ...🙏🙏🙏
สาธุสาธุสาธุค่ะ
พระภิกษุ คือ ใคร พระภิกษุ คือ บุคคลที่ออกบวชเป็นบรรพชิต เพราะเห็นโทษของกิเลสด้วยปัญญา สละทุกสิ่งที่เป็นอย่างคฤหัสถ์ ละการกระทำอย่างคฤหัสถ์ ประพฤติขัดเกลาละกิเลสอย่างยิ่งเพื่อถึงการดับทุกข์ โดยมีพระวินัยบัญญัติที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงให้ภิกษุประพฤติปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะเป็นภืกษุในเมือง ภิกษุชนบท และภิกษุทุกๆ รูปที่บวชมาในพระศาสนานี้ต่างก็ต้องปฏิบัติตามพระวินัยบัญญัติทุกรูป
เงิน คือ สิ่งที่สังคมสมมติขึ้นมาสำหรับแลกเปลี่ยนเพื่อได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ
พระวินัย เป็น พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทรงแสดงเกื้อกูลกับพระภิกษุที่เป็นพระธรรมที่ทรงแสดงบัญญัติสิกขาบท ข้อห้าม และ ข้อควรประพฤติ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญ ให้กุศลที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น และ ที่เกิดขึ้นแล้วเจริญ และอาสวกิเลสที่ไม่เกิด ก็ไม่เกิดขึ้น และ ที่เกิดขึ้นแล้วก็ไม่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ อันเป็นรากฐานสำคัญให้กุศลอื่นๆ เจริญจนถึงการดับกิเลส อันเป็นพระวินัย เป็นรากฐานในการขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้น ภิกษุที่ดี ที่เป็น ลัชชี (ผู้มีความละอาย) ย่อมรักษาพระวินัยไว้
พระวินัยบัญญัติข้อภิกษุ เกี่ยวกับเงินทอง ที่ภิกษุทุกรูปไม่ว่ารูปใดหรืออยู่วัดใด วัดในเมือง วัดชนบท ต้องประพฤติปฏิบัติตามเมื่อบวชเป็นบรรพชิต
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 940
พระบัญญัติ
๓๗. อนึ่ง ภิกษุใด รับ ก็ดี ให้รับ ก็ดี ซึ่งทอง เงิน หรือ ยินดีทอง เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์.
อาจารย์ท่านนี้ ทำหน้าที่ของพุทธบริษัทได้สมบูรณ์ที่สุด แตกฉานทั้งหลักธรรม พยัญชนะและอรรถความหมาย
ความวุ่นวายในพระภิกษุสงฆ์ในทุกๆๆวันนี้ก็เพราะไม่ประพฤติปฎิบัติในพระวินัยอย่างเคร่งครัดค่ะทุกๆๆวันนี้วัตถุเทคโนยีมันทันสมัยจึงทำให้พระภิกษุทำผิดวินัยเย๊อะมากๆมายค่ะ
ขอบคุณอาจารย์มากๆๆน่ะค่ะ
อยากให้คนทั้งประเทศได้มาฟังที่อาจารย์พูดจะได้ปฎิบัติได้อย่างถูกต้องทั้งพระภิกษุและฆราวาสค่ะ
ผมชอบช่องนี้ครับ เนื้อหาดีมีประโยชน์ครับ
โอนเงินทำบุญบ่อยๆค่ะ
ฟังแล้วกลัวบาปค่ะ
ปฏิบัติตนเองตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม
มีสติปัญญาตั้งใจทำความดีงาม
ใส่บาตรสวดมนต์ภาวนานั่งสมาธิ
แผ่เมตตาอุทิศบุญกุศล
ทำทานสถานสงเคราะห์
บริจาคโรงพยาบาลต่างๆ
อนุโมทนาบุญในธรรมความรู้ถูกต้อง
ขอบคุณอาจารย์ค่ะ
ดิฉันเห็นบ่อยเลยคะเรื่องกฐิน และผ้าป่าพิธีกรพูดล่อ เอาเงินโดยอ้างให้เงินมากได้บุญมาก
คุณพูดได้ถูกต้องจริงๆค่ะ กฐินยุคใหม่ต้องมีงานบันเทิงจ้างลิเกดารามาแสดงๆราคาก็แพงๆทั้งนั้น วัดจัดงานในวัดก็บาปแล้วมันงานบันเทิงงานยั่วกิเลส งานใช้เงิน วัดสมัยใหม่เลยเป็นที่หาเงินไป ตรงนี้จึงทำให้ศาสนาถูกมองว่าเสื่อมคนนำศาสนามาแอบอ้างเพื่อหาเงิน จริงๆแล้วที่บวชเรียนวัดต้องเป็นที่สงบๆเงียบๆและไม่มีกิเลสทางสายตาไปตั้งวางให้คนไปบวชไปเรียนไปวัดมองเห็น วัดสมัยใหม่ตั้งแต่หน้าประตูวัดถึงท้ายวัดเลยก็มี ที่ๆสละกิเลสที่สอนให้คนละกิเลสแต่คนสอนศาสนายุคนี้สอนให้ประชาชนนำเงินมาให้มาทำบูญ เน้นด้วยว่าให้ทำบุญเย๊อะได้เย๊อะ ฟังดูแล้วคืออะไร กิเลสทั้งนั้นเลยค่ะ
บุญเป็นเครื่องชำระล้างกิเลส ถ้าบุญเยอะ กิเลสยิ่งน้อย
ถ้าบอกว่า บุญเยอะ กิเลสเยอะ มันผิดหลักสัจธรรมแล้วครับ
ยุคสมัยเปลี่ยนไป พระภิกษุรับเงินทองได้
เข้าใจถูก
๒. สัจจะ ความจริงไม่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยเลย อกุศล ความชั่วเป็นอกุศลเป็นความชั่วไม่เปลี่ยนแปลง กุศล ความดีเป็นกุศลเป็นความดี ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ ไม่ว่าเกิดกับใคร และ ช่วงเวลาไหน แม้ อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต
โลกเปลี่ยนแปลงไปตาม สมมติเรื่องราว ที่เป็นบัญญัติ ไม่ใช่สัจจะ แต่สภาพธรรมที่มีจริง คือ กุศล อกุศล ไม่เปลี่ยนไปตามโลก เรื่องราวเลย สิ่งใดมีโทษ พระองค์ตรัสว่ามีโทษ ความมีโทษที่ทำให้อกุศลเจริญ ก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แม้แต่การรับและยินดีเงินทองนั้น ของพระภิกษุ พระพุทธองค์ก็ตรัสว่ามีโทษ และไม่สมควรกับพระภิกษุ ไม่ว่ากาลเวลาไหน อดีต ปัจจุบันและอนาคต เพราะก็ต้องเข้าใจความจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลงว่า บวช บรรพชา คือ การเว้นทั่วจากกิเลส และเป็นการสละอาคาร บ้านเรือน ไม่ใช่เพศคฤหัสถ์แล้ว ดังนั้น จะทำดังเช่น คฤหัสถ์ที่มีการใช้จ่ายเงินและทอง รับเงินทองไม่ได้เลย แต่ถ้าจะใช้เงินทอง หรือ ปฏิบัติตนดังเช่นคฤหัสถ์ ก็ต้องกลับมาเป็นเพศคฤหัสถ์ดังเดิมสละเพศบรรพชิต
ดังนั้น พระพุทธเจ้าทรงมีพระปัญญาสูงสุด พระองค์ทรงรู้อดีต ปัจจุบัน อนาคต ถ้าบอกว่าเปลี่ยนแปลงได้ ก็กล่าวตู่พระปัญญาคุณของพระพุทธเจ้า เพราะเราไม่มีปัญญา เป็นเพียงแค่ปุถุชน จะกล่าวเปลี่ยนคำของพระพุทธเจ้าไม่สมควรเลย เพราะฉะนั้น ที่กล่าวว่ารับเงินทองได้ เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ไม่ได้แย้งกับใคร ก็แย้งกับพระพุทธเจ้าเอง ดังนั้นพุทธบริษัทควรมีพระธรรมเป็นที่พึ่ง มิใช่มีความคิดตนเองเป็นที่พึ่ง และ ที่วงการสงฆ์วุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะ พระรับและยินดีในเงินและทอง และ คฤหัสถ์ ไม่รู้พระวินัย
ฟังอีกครั้งเหนดัวย100%
สาธุ ขอบพระคุณ มกค่า เล่นเอากลัวเลย ทำให้เข้าใจ
ฉลาด และมีสติในการกระทำ
จริงทุกอย่างที่อาจารย์พูดมาครับ
แจ่มแจ้งครับอาจารย์ คำสอน พุทธศาสนาที่ถูกต้อง แสงแห่งธรรม สว่างไสว ได้เกิดขึ้นแล้ว
กราบขอบพระคุณ และ กราบอนุโมทนาค่ะ
ท่านอาจารย์🌿🌸🙏🌸🌿☺
กราบอนุโมทนาค่ะ🙏😊❤
เห็นด้วยกับคุณNatthaya
ขอบคุณค่ะอาจารย์🙏🙏
กราบอนุโมทนาสาธุความจริงแท้ครับ หลงกันไปหมดแล้วครับ
ขออนุโมทนาในความเห็นถูกที่เกิดขึ้นกับท่านด้วยครับ ก็ค่อยๆช่วยกันเข้าใจเริ่มจากตนเองและก็ช่วยกันเผยแพร่คลิปนี้ให้คนอื่นเข้าใจด้วย ก็เป็นบุญที่ประเสริฐในการดำรงพระพุทธศาสนา ครับ ขออนุโมทนาครับ
การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง.(วิทยาทาน)
มหากุศลครับ .เจริญๆครับ
ขอบคุณมากเลยจ้าอาจารย์ ที่มาชี้แจงการทำบุญ การถวายผ้าพระกฐิณ และอื่นๆ ตาสว่างแล้ว
ดิฉันติดตามค้นหาไม่เห็นด้วยกับพุทธพาณิชย์แต่เราเกิดในสังคมหมู่มากแม้ไม่เห็นด้วยบางอย่างเราก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ได้แต่ทำใจแต่ก็จะยึดเอาความถูกต้องมาใส่ใว้ในใจตัวเองคะ
อันตรายิกธรรม [ธรรมที่ทำอันตรายแก่สวรรค์และนิพพาน] ๕ ประการ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ - หน้าที่ ๗๒๒
ธรรมเหล่าใด ย่อมทำอันตรายแก่สวรรค์และนิพพาน เพราะเหตุนั้นธรรมเหล่านั้นชื่อว่า อันตรายิกธรรม
อันตรายิกธรรมเหล่านั้นมี ๕ อย่างด้วยอำนาจ กรรม กิเลส วิบาก อุปวาท และอาณาวีติกกมะ
บรรดาอันตรายิกธรรมมีกรรมเป็นต้นนั้น ธรรมคือ อนันตริยกรรม ๕ อย่าง ชื่อว่าอันตรายิกธรรม คือ กรรม ภิกขุนีทูสกกรรม (ประทุษร้ายนางภิกษุณี) ก็อย่างนั้น แต่ภิกขุนีทูสกกรรมนั้น ย่อมทำอันตรายแก่พระนิพพานเท่านั้น หาทำอันตรายแก่สวรรค์ไม่
ธรรมคือ นิยตมิจฉาทิฏฐิ ชื่อว่า อันตรายิกธรรมคือ กิเลส
ธรรมคือ ปฏิสนธิของพวกบัณเฑาะก์ ดิรัจฉานและอุภโตพยัญชนก ชื่อว่า อันตรายิกธรรมคือ วิบาก
การเข้าไปว่าร้ายพระอริยเจ้า ชื่อว่า อันตรายิกธรรม คืออุปวาทะ แต่อุปวาทันตรายิกธรรมเหล่านั้น เป็นอันตรายตลอดเวลาที่ยังไม่ให้พระอริยเจ้าทั้งหลายอดโทษเท่านั้น หลังจากให้ท่านอดโทษไป หาเป็นอันตรายไม่
อาบัติที่แกล้งต้อง ชื่อว่าอันตรายิกธรรมคือ อาณาวีติกกมะ อาบัติแม้เหล่านั้น ก็เป็นอันตรายตลอดเวลาที่ภิกษุผู้ต้องยังปฏิญญาความเป็นภิกษุหรือยังไม่ออก หรือยังไม่แสดงเท่านั้น ต่อจากทำคืนตามกรณีนั้นๆ แล้วหาเป็นอันตรายไม่
ฟังแล้วเป็นพุทธวจนเลยค่ะสาธุค่ะ
ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ
ฟังคุณพูดแล้วรู้สึกเศร้าใจจริงๆคะ เกือบทั้งชีวิตหลงผิดในการทำบุญ คิดว่าสิ่งที่ทำเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นการสร้างบาปกรรมทางอ้อม ต่อแต่นี้เป็นต้นไปจนลมหายใจสุดท้ายจะไม่หลงผิดอีกแล้วคะ
การถวายปัจจัยไม่ใช่เรื่องบาปเป็นต้นว่าช่วงโควิดพระหลายวัดได้ทำอาหารแจกญาติโยมอีกทั้งซื้อยาสมุนไพรแจกให้ญาติโยมกินเมื่อญาติโยมเสียชีวิตก็ได้ซื้อน้ำมันและสิ่งอื่นๆใช้ในงานศพของญาติโยมไร้ญาติพี่ติดโรคระบาดต่างคนต่างเกื้อกูลกัน
@@สุริยารักท้วม การทำอาหารแจกประชาชน และการดูแลประชาชน น่าจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลนะคะ ไม่ควรเป็ภาระของวัด
@@godji4672 พระท่านมีเมตตาธรรมสูง ไม่นี่งดูดาย สงเคราะห์เกื้อกูลด้วยจิตเมตตา
การถวายปัจจัยแด่พระ..เพื่อบำรุงพระศาสนาได้บุญแน่นอน...เกิดจากท้องพ่อแม่ไม่เคยได้ยินว่าเป็นบาปหรอก..อยู่ที่เจตนาเรา.ที่เป็นกุศล...พระท่านรับแล้ว..ท่านพิจารณาไปใช้จ่ายตามสมควร..ในกิจการสงฆ์เราก็ย่อมได้บุญ
กราบ.สาธุ.สาธุ.สาธุ.กราบขอบพระคุณในธรรมะที่ละเอียดและถูกตอ้งที่สุด
อนุโมทนาสาธุๆๆค่ะ
สาธุครับ ขอบคุณครับที่ให้ผมตาสว่าง ได้รู้ความจริงตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 🙏🙏🙏
กราบขอบพระคุณอนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณอาจารย์ครับ เป็นกำลังใจให้อาจารย์ครับ ติดตามครับ
ที่มาของกฐิน กฐิน เป็นการทำสังฆกรรมของพระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ร่วมกันในสถานที่หนึ่ง พระวินัยบัญญัติเรื่องผ้ากฐินเกิดขึ้นในสมัยที่ภิกษุชาวเมืองปาเฐยยรัฐ ๓๐ รูป เดินทางมาเข้าเฝ้าพระองค์ที่พระวิหารเชตวัน ขณะนั้นเป็นเวลาใกล้จะเข้าพรรษา ภิกษุเหล่านั้น ไม่สามารถเดินทางไปถึงพระนครสาวัตถีให้ทันวันเข้าพรรษา จึงจำพรรษาอยู่ ณ เมืองสาเกต เมื่อออกพรรษาและทำปวารณา(เปิดโอกาสให้ภิกษุรูปอื่นว่ากล่าวตักเตือน)แล้ว ท่านเหล่านั้นก็เดินทางต่อไป แต่ขณะนั้นยังไม่สิ้นสุดฤดูฝน เมื่อฝนตกขณะกำลังเดินทาง จีวรจึงเปียกชุ่มด้วยน้ำ ทำให้ลำบาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปรารภในเรื่องนี้ จึงทรงบัญญัติพระวินัยอนุญาตให้ภิกษุที่อยู่จำพรรษาครบ ๓ เดือนแล้วพร้อมเพรียงกันทำการกรานกฐิน เพื่อความสมัครสมานสามัคคีกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เริ่มการกระทำตั้งแต่ซักผ้า กะผ้า ตัดผ้า เย็บผ้า ย้อมผ้า จนสำเร็จเป็นจีวรผืนใดผืนหนึ่งแล้วทำสังฆกรรม มอบผ้านั้นแก่พระภิกษุที่เหมาะควรตามพระวินัย แล้วคณะสงฆ์จึงร่วมอนุโมทนายินดี เป็นการกรานกฐินตามพระวินัย
๑๓. พระพุทธเจ้าตรัสก่อนปรินิพพานให้ถอนสิกขาบทเล็กน้อย เพราะฉะนั้น ก็ควรจะถอนสิกขาบทข้อที่ภิกษุไม่รับและไม่เงินทองไม่ได้
เข้าใจถูก
๑๓. ผู้มีปัญญาเคารพในสิกขาบททุกข้อ จึงไม่เพิกถอนสิกขาบท
หากจะกล่าวว่า พระพุทธเจ้าให้ยกเลิกสิกขาบทเล็กน้อย แล้วใครเล่าที่จะให้ยกเลิก ข้อนั้น ข้อนี้ แม้แต่ พระอริยสาวก ผู้เป็นพระอรหันต์ มีท่านพระมหากัสสปะ และ ท่านพระอานนท์ เป็นต้น เมื่อครั้งทำสังคายนา ครั้งที่ ๑ ผู้ล้วนทรงคุณ เลิศด้วยฤทธิ์และปัญญา ก็มีมติว่า เราจะไม่ยกเลิกสิกขาบทเล็กน้อย เพราะท่านเหล่านั้นเคารพในพระปัญญาคุณและเคารพในพระวินัยที่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้นที่จะบัญญัติได้ แม้ท่านพระสารีบุตรผู้เลิศด้วยปัญญาก็ไม่สามารถบัญญัติพระวินัยได้เลย นี่คือ ความเคารพในพระวินัยบัญญัติและเคารพในพระพุทธเจ้า ของผู้มีปัญญาในสมัยอดีตกาล และพระพุทธเจ้าตรัสไว้เพื่อแสดงถึงกำลังของพระมหากัสสปะที่จะสังคายนาพระธรรมไว้ดีแล้ว และจะดำรงรักษาพระวินัยบัญญัติทุกข้อไว้
เรื่องการรับเงินทอง พระพุทธเจ้าทรงติเตียนเป็นอันมาก และ ยังมีในพระสูตรอีกมากมายที่แสดงว่า ภิกษุไม่พึงรับและยินดีในเงินและทอง มี มณิจูฬกสูตร เป็นต้น เพราะฉะนั้น การรับเงินทองจึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลยสำหรับเพศบรรพชิต
สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
อนุโมทนา สาธุครับ
สาธุ..ค่ะ🙏 "ช่วยบอกทางแก่คนหลงทาง"
จะนำไปประพฤติ-ปฏิบัติให้ได้มากที่สุดค่ะ
ขอให้อจ.เจริญในทางโลกและทางธรรม ยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ
ดูก่อนอานนท์ ถ้าสงฆ์ปรารถนาจะถอนสิกขาบทเล็กน้อยเสียบ้าง จงถอนเถิด
พระพุทธเจ้าประทานอนุญาติไว้แล้วครับ เพราะพระองค์เป็นผู้รู้แจ้งโลก มองไปเห็นในอนาคต ถ้าเราไม่เชื่อพระพุทธองค์ ก็เท่ากับเราไม่เคารพพระพุทธเจ้า