Second law of Thermodynamics mention about reversibility and irreversibility เราใช้ทฤษฎีนี้ในการหาประสิทธิภาพเครื่องจักรความร้อนตามกฏข้อที่ 2 แต่ทุกอย่างที่เป็น equation ที่ใช้มักมี กรอบอ้างอิง และ จะถูกต้องตามกรอบอ้างอิงนั้นๆ ฟังแล้วสนุกดีครับ ชอบคลิปที่คุณทำครับ
information ในความหมายของshanon ก็ไม่เหมือนกับinformation ในความหมายทั่วๆไปใช่ไหมครับ คุณชานนท์แกทำงานในสายโทรศัพท์มาก่อน แกยังบอกประมาณว่า A streamline of ordinary language is less than random. คือผมเข้าใจว่าinformationเนี่ยควรเป็นแค่subset ของ entropy คือentropyที่เราตีความได้
@Okcis Internet ผมว่านะถ้ามนุษย์จะเข้าใจเรื่องจักววาลได้มากขึ้น อนาคตคงต้องเปลี่ยนเป้นสิ่งมีชีวิตรูปแบบจิตไปแล้ว เพราะร่างกายมนุษย์นี้มีข้อขีดจำกัดเยอะมาก
ในคลิป คำว่า "ระบบปิด" ผมใช้คำไม่ถูกนะครับ มันคือ "Isolated system" แปลเป็น "ระบบโดดเดี่ยว" ครับ
ผมแปลผิดเป็น "ระบบปิด" ซึ่ง มันมีความหมายคนละอย่างกัน
ความร้อนที่เพิ่มขึ้นในระบบโดดเดี่ยว ทำให้เอนโทรปี้มีค่าเป็นอินฟินิตี้ เจอคำอธิบายที่ตามหาสักทีครับ ถ้าผมเอาหลักการนี้ไปใช้ในเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ก็จะทำให้ได้กระแสไฟฟ้าเป็นอินฟินิตี้
ยิ่งติดตามช่องนี้ผมก็ยิ่งสงสัยไปเรื่อยฮ่าๆ ผมมีความสงสัยเรื่องการงอตัวครับ วัตถุงอตัวได้อย่างไรโดยไม่ขาดออกจากกันครับ คือพอนึกภาพว่าทุกอย่างมันประกอบไปด้วยธาตุเล็กจิ๋วทีสถานะตัวมันเองแทบไม่ได้เปลี่ยนไป ผมหมายถึงมันไม่ได้ยืดยาวหรือเปลี่ยนรูปร่างได้ง่ายเหมือนตอนมาประกอบกันแล้ว เช่นพลาสติก หรือ เหล็ก
อาจจะฟังดูงงๆนะครับเพราะผมไม่ได้เข้าใจ เลยอยากให้ทำคลิปอธิบายเรื่องนี้ถ้ามีโอกาศ ขอบคุณครับ.
@nantapat ben แต่ผมคิดว่าเป็นไปได้นะครับ ถ้าเป็นในระบบโดดเดี่ยว ที่ไม่มีการถ่ายโอนพลังงานออกไปข้างนอกเลย ความร้อนภายในระบบจะเพิ่มขึ้นสูงเรื่อยๆ ความร้อนส่งเสริมความร้อน ก็จะทำให้ร้อนยิ่งขึ้น โดยในระบบนั้นต้องไม่มีองค์ประกอบใดที่จะมาลดความร้อน ซึ่งความร้อนไม่มีขีดจำกัด เอนโทรปีก็จะเป็นอนันต์ไปด้วยครับ
เน็ตกับความเร็วแสงอะไรเร็วกว่าคับ
พี่ครับอยากให้พี่พูดถึงทฤษฎีของหนังเรื่อง Chappie หน่อยครับ ที่ย้ายจิตใจของคนเข้าไปอยู่ในหุ่นยนต์ว่ามันเป็นไปได้มั้ยครับ ผมหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มีใครพูดถึงเลย
วิสัยทัศน์ เกี่ยวกับเวลา เปลี่ยนไป
.
1.พลังงาน มวลสาร เป็นผู้แสดง
2.อวกาศ เป็นเวที
3.กฎธรรมชาติ เป็นผู้ ปั้นแต่ง กำกับ
4.เวลา เป็นผู้ตัดสิน
(คิดได้ตอนอายุ12ขวบ)
.
5.เวลาเหมือนลูกศร
มี อดีต ปัจจุบัน อนาคต
คนทั่วไปคิด
.
6.เวลา และอวกาศ เป็นสิ่งเดียวกัน
คุณบอกเวลา ก็ต้องบอก เวลาที่ไหน
.
7.เวลา เหมือนสายน้ำ
เวลาบางแห่งจะหมุนวน แบบน้ำวน
.
8.ทุกสิ่งจะเคลื่อน จากเวลา ที่เร็วกว่า
ไปสู่ เวลาที่ช้ากว่าเสมอ
(ไอสไตน์)
.
9. ทุกคนมีเวลา สามวัน เท่ากัน
เมื่อวาน ใช้ไปแล้ว
วันนี้ กำลังใช้
พรุ่งนี้อาจไม่ได้ใช้
(คำคม นักปราชญ์)
ขอบคุณครับผม
เวลากับอวกาศใช้ครับสิ้งเดียวกันเพราะเอกภพเป็นชั้นบรรยากาศของ ผมตั้งชื่ว่าอนันต์ภพครับ(อะ-นัน-ตะ-ภพ) เป็นพื้นที่ทรงกลมของเอกภพครับ..
#เอกภพใช้เป็นชั้นบรรยากาศ
เปรียบเทียบ..
#สสารมีชั้นบรรยากาศเป็นของตัวเองอยู่ที่ชั้นบรรยากาศโลก..
#โลกมีชั้นบรรยากาศเป็นของตัวเองอยู่ที่เอกภพ
**#แบบนี้เอกภพต้องเป็นชั้นบรรยากาศครับยังไงก็ชั้นบรรยากาศเถียงขาดใจ...
ชอบพี่มากครับ
1. เนื้อหาดีมากๆ ทุกคลิปจริงๆ
2. ร ล ควบกล้ำ ชัดมาก
ปล. ประโยคท้ายๆ ชวนนึกถึงหลักธรรมอยู่เหมือนกันนะครับ ธรรมะกับวิทยาศาตร์ มันใกล้กันจริงๆ
จริงครับยังมั่นใจว่าในอนาคตเราจะสรุปได้ว่ามันคือสิ่งเดียวกัน ไอน์สไตน์เคยบอกไว้ว่า พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่คือสิ่งเดียวกันและพุทธคือศาสนาที่รองรับวิทยาศาสตร์เหมือนมันเป็นสิ่งเดียวกันเลย
พอดีเลยครับเปิดฟังก่อนนอน 55555 ผมฟังทุกคลิปก่อนนอน ทุกวันวนๆ มาหลายเดือนแล้ว เพราะเนื่อหาบางอย่างซับซ้อนต้องฟังซ้ำๆ 🙇🏼
เราใช้สมองคิดตามจนมันเริ่มเพลียเเละหลับไป😴😴
ไม่ต้องใช้ยานอนหลับเลย..ดีจัง
เป็นการเข้าชมครั้งแรก ขอบคุณมากๆที่นำเสนอสิ่งดีๆนี้ และดีใจมากๆที่ได้เจอช่องนี้ จักรวาลใหญ่มาก และเหมือนที่น้องพูดเราใช้สายตาและกฏเกณฑ์ที่เราทราบในตอนนี้ตอบปัญหาของจักรวาล ซึ่งก็ไม่ผิด เราเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เหมือนที่พระพุทธเจ้าท่านตรัส (ไม่ได้งมงายนะครับ) ว่าใบไม้ในมือท่านกับใบไม้ในป่าอะไรเยอะกว่ากัน เพื่อกันการยึดติดในสิ่งที่ตนเห็นเท่านั้น ส่วนตัวที่ไม่ใช้นักฟิสิกส์ คิดว่า จักวาล = ความสัมพันธ์ของพลังงาน มวล เวลา และ เนื้อที่ (space) เมื่อเกิดสิ่งหนึ่งจะเกิดอีกสามสิ่งตามมา เมื่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดเสียไป อีกสามสิ่งจะหายไปด้วย ดังนั้นจักรวาลจะเกิดขึ้น หายไป (ไม่ได้แปลว่าดับสูญ) เปลี่ยนแปลงยังงี้ตลอดไป และไม่ใช่นิจรันดร์ เพราะไม่มีเวลา
ชอบมากครับ อธิบายให้เข้าใจง่ายมาก รู้สึกอยากฟังทั้งวัน ลีลาการนำเสนอ วิธีพูด ภาษากาย ดึงดูดให้กระหายอยากรู้
13:41 แนวคิดของ Boltzmann น่าสนใจมากครับ ระเบียบของเราอาจจะไม่ไช่ระเบียบของเขา มันเหมือนงานศิลปะที่แต่ละคนมองความงามไม่เหมือนกัน ธรรมชาติก็เช่นกันมันอาจจะเลือกเอา พจน์ไหน หรือมิติไหนมาเป็นระเบียบของมันก็ได้ เช่นเรา มี x,y,z,t และ t เป็นทิศที่ไม่มีทางหวนกลับ แต่อาจจะมีมนุษย์ต่างดาวใน Boubble อื่นใช้ x,y,z,t คือเขามีชีวิต ในแกน x,y,t แต่ z เป็นทิศทางที่ไม่มีทางหวนกลับก็ได้ ความที่ Entropy สูงในมุมมองของเรา แต่ในอีกมุมมองอาจจะมองเป็น entropy ต่ำของในกรอบอ้างอิงอื่นๆก็ได้
Second law of Thermodynamics mention about reversibility and irreversibility เราใช้ทฤษฎีนี้ในการหาประสิทธิภาพเครื่องจักรความร้อนตามกฏข้อที่ 2 แต่ทุกอย่างที่เป็น equation ที่ใช้มักมี กรอบอ้างอิง และ จะถูกต้องตามกรอบอ้างอิงนั้นๆ
ฟังแล้วสนุกดีครับ ชอบคลิปที่คุณทำครับ
วิดวะเครื่องกลปวดหัวกับสิ่งนี้😂
ดูทุกคลิป อินมากครับจังหวะนี้
สวัสดีครับ FC ครับ
เหมือนกันครับ
กะดึำ
โอ้ นักประดิษฐ์คนดังมาเยือน ขอบคุณมากครับผม
ชอบมาก
ดูเหมือนว่าวิทยาศาสตร์กำลังเข้าใกล้
สิ่งที่ศาสนาพุทธพูดไว้จริงๆเลยนะเนี้ย
เช่นเรื่องของเวลา และความเป็นไปของเหตุและผล
กลไกลจักรวาล มิติทับซ้อนคู่ขนาน 👍❤️
เช่นยังไง จะบอกว่า วิทยาศาสตร์ โยงกะความเชื่อหรอ
ศาสนาพุทธ ผู้เคลมได้ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล
ดูเหมือนว่าวิทยาศาสตร์กำลังเข้าใกล้
สิ่งที่ศาสนาคริสต์พูดไว้จริงๆเลยนะเนี้ย
เช่นเรื่องของเวลา และความเป็นไปของเหตุและผล
พระเจ้า มิติทับซ้อนคู่ขนาน 👍❤
ใช่หรอครับ ขำๆนะ ถ้ามีศาสนาไหนรู้จริงรู้ลึกจริง นักวิทยาศาสตร์คงไม่ต้องเสียเวลาเป็นปีมานั่งศึกษากัน ร้อยปีที่แล้วกับวันนี้ ถ้ามีศาสนาไหนรู้จริง ป่านนี้เราต้องมีสมาร์ทโฟนใช้กันเป็นพันปีแล้ว ทำไมพึ่งมามีไม่กี่สิบปีนี้
@@NormalVillager ถ้าศาสนาพุทธเคลมทุกอย่างในจักรวาล แล้วทำไมไอสไตน์ต้องอึ้งกับคำสอนของพระพุทธเจ้า เขาศรัทธาในตัวของพระพุทธเจ้าเพราะพระพุทธเจ้าทำให้เขาตะลึงในสิ่งที่เขาเพิ่งค้นพบ ทั้งที่พระพุทธเจ้าท่านค้นพบมาตั้ง2600กว่าปีแล้ว ไปหาอ่านบ้างนะครับหนังสือ "ไอสไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น"
@@4sxS307cAW นี่ก็อีกคน อย่างแรกเลย จะบอกว่า พระพุทธเจ้าท่านทรงให้ "ละกิเลส" ไม่ใช่เพิ่มพูลกิเลส ในพระไตรปิฎกก็บอกอยู่นะครับ ว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้ารู้เท่ากับใบไม้ในผืนป้า แต่ที่ท่านนำมาสอนเท่ากับใบไม้หยิบมือเดียว เพราะฉะนั้นอะไรที่ฟังดูแล้วไม่จำเป็นพระองค์ก็จะไม่สอน เช่นไอ้เรื่องสร้างเทคโนโลยีต่างๆที่คุณบอกนั่นแหละ ตอนที่พระพุทธเจ้ายังมีชีวิตอยู่ต่อให้มีเครื่องมือสร้างเทคโนโลยีต่างๆในยุคนั้นพระองค์ก็จะไม่ทำ เพราะมันไม่เกิดประโยชน์ต่อศาสชน ทางเดียวของพระองค์คือตัดกิเลส ไม่ใช่เพิ่มกิเลส
ตอนเรียนมหาวิทยาลัยไม่เข้าใจนิยามของ entropy เลย เพิ่งเข้าใจกับคลิปนี้ ขอบคุณมากครับ
พี่และทีมงานเป็นใครครับ...โคตรเก่งอ่ะ ยอมรับเลยทั้งเนื้อหาและวิธีการนำเสนอ
เห็นด้วยครับ👍
เป็นคนครับ
ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆครับ ชอบคอนเทนต์ช่องนี้มาก
มาเสริมนิดนึงนะครับ ประโยคที่ entropy = disorder อันนี้ไม่ถูกต้องเสมอไปนะครับ มีบางระบบ entropy เพิ่มก็สามารถทำให้ระบบมีระเบียบขึ้นได้ (liquid crystal systems) ที่ถูกต้องที่สุดในปัจจุบันหลังจากยุค Boltzmann คือ entropy = information ครับ ( เผื่อมาทำต่อเป็นตอนต่อไป อธิบายว่า Shannon's entropy ~ Thermodynamics entropy :) )
อาจารย์ครับ ผมพอนึกออกระบบหนึ่ง อย่างกล่องดินสอใหญ่ๆเวลาเขยาะไปเรื่อยเเล้วดินสอจะเรียงตัวนี้ใกล้เคียงไหมครับ
information ในความหมายของshanon ก็ไม่เหมือนกับinformation ในความหมายทั่วๆไปใช่ไหมครับ
คุณชานนท์แกทำงานในสายโทรศัพท์มาก่อน แกยังบอกประมาณว่า A streamline of ordinary language is less than random.
คือผมเข้าใจว่าinformationเนี่ยควรเป็นแค่subset ของ entropy คือentropyที่เราตีความได้
แปลว่าสมมุติฐานที่ตั้งว่า ลูกศรของเวลาสามารถบอกทิศการไหลได้จากทิศทางของ Entropy นั้น '"ไม่เป็นความจริง" ถูกต้องไหมครับ
ข😊❤
สุดยอดมากค่ะ ไล่ฟังหลายคลิปแล้ว ฟังทั้งก่อนนอนและหลังตื่นนอน แม้แต่ตอนอาบน้ำก็ยังฟัง ทุกคลิปน่าติดตามและชวนให้คิดตลอดเวลาไม่อยากพลาดซักคลิปเลย ชอบมากๆๆๆ
ฟังแล้วผมเริ่มเข้าใจ เรื่องวัฏสงสารมากขึ้นครับ จิตเหมือนระบบปิด ความไม่เป็นระเบียบที่เพิ่มขึ้นคือการกระทำ และผมของมันก็คือกรรม ผมเข้าใจไปเองนะครับ ไมีมีหลักการอ้างอิงใดๆครับ
อยากเข้าใจภาพของมิติเสลามากกว่านี้ครับ ผมตามดูทุกคลิป เข้าใจง่ายมาก ฟังซ้ไทุกวันก่อนนอน ขอบคุณมากๆเลยครับ
ฟังคลิป นี้ ผมนึกถึง อนิจจัง ทุกขัง อนันตา ของทุกสรรพสิ่งเลยครับ ทุกสิ่งไหลไปทางเดียวกัน หวนกลับไม่ได้
ชอบครับ ไม่มีอะไรขัดแย้งเชิงตรรกะเลย สุดยอดจริงๆครับนักฟิสิกส์ เปิดสมองดีมากๆ ขอบคุณผู้จัดทำคลิปนี้ครับ
ส่วนตัวผมเชื่อว่าจักรวาลเราเป็นแค่อะตอมในอะตอมไปเรื่อยๆนับอนันต์ครับ
ผมก็คิดงั้นเลยครับ
+1
ถ้าเมาหน่อยๆมาฟังจะฉลาดขึ้น ต้องใช้จิณตณาการ สุดยอดมากคลิปสาระแนวคิดดีดี
จินตนาการ
พระพุทธเจ้าท่านถึงพูดเสมอว่า อย่าได้สนใจในเรื่องทางโลกเลย สิ่งรอบกายเราจะเป็นอย่างไรจะวุ่นวายแค่ไหนก็ให้สักแต่รู้สักแต่เห็นสักแต่รู้สึก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นภายในจิตเรานี้สิสำคัญ จิตหรือใจไม่วุ่นวายตามโลกทำจิตให้สงบไม่ให้หมุนไปตามโลกนี้คือ ความสงบสุขหาใดเปรียบได้จร้า นี้คือสัจธรรมที่แท้จริง 😘😍😘
ถ้ามองแบบ ไอน์สไตน์ คือ หลุมดำ เป็น ตัวบัคที่ทำให้ ทฤษฎี เวลามีอยู่จริง
- เพราะ ขอบของ หลุมดำ เขต horizon เวลาจะเดินช้าลงเรื่อยๆ จนถึง ใจกลางหลุมดำที่ เป็น singularity คือ (ใจกลางหลุมดำเวลาแทบหยุดนิ่ง คือ เวลาเดินช้าจัดแทบจะหยุดเวลา)
- แต่ถ้าลองมองในมุม มิติเวลา ล่ะ จะได้หรือเปล่า
สมมุติเราเป็นคนที่เข้าไปเขต Horizon เวลาของผู้เข้าไปจะปกติ แต่พอออกมาจากเขต Horizon เท่ากับว่า มิติเวลาจะกลับมาปกติเท่ากับคนที่อยู่ ข้างนอก Horizon แล้ว
มันก็จะเหมือนที่ เรามองเห็น สล็อต ทำอะไรก็เชื่องช้า ไปหมด แต่ มิติการมองของ สล็อต ไม่ได้ช้า มันเป็น การรับรู้ปกติของ สล็อต เท่ากับว่า สล็อต จะมองเห็นทุกอย่าง มันรวดเร็ว ไปหมด ต่างหาก
- เพราะฉนั้น การยืดหดของเวลา ของ ขอบหลุมดำ ก็เหมือน ทฤษฎี Dimensions ของ ฟิสิกส์ทฤษฎี
โซนมิติที่0 ไร้กว้างยาวสูง ไร้มิติ=โนสะเปซ กับ โซนมี3มิติ=ฮาปสะเปซ ยุคซิกุราลิตี้มีแต่สสารมืด ยุคอะตอมบิ้กแบงคือยุคพลังงานมืดบิ้กแบงยังคงอยู่ในปัจุบันยังไม่หยุดระเบิดต่อไปตอนนี้ก็ยังบิ้กแบงอยู่ขยายเพิ่มปริมาณอวกาศ
ดูไประแวงไป พอพุดถึงเรื่อง สายตา คิดว่า ออฟตัส จะมา คลิปดีมาก ทำเรืองยากมากให้เข้าใจง่าย ขอบคุณคลิปดี ๆ ครับ
5555เป็นเหมือนกันเลยคับ
ดูทุกคลิป ผู้บรรยายตานิ่งมาก ไม่ค่อยกระพิบตาเลย 😀😀😀
ช่างสังเกตมากครับ ผมกลัวแอดจะเป็นโรคตาแห้งเลยนะเนี่ย
จริงด้วยครับ5555
ถ่ายทอดสิ่งที่ยากออกมาให้ง่ายฟังได้เข้าใจ ถือว่าเก่งมากเลยคะ ขอบคุณสำหรับความรู้คะ
ดีมากครับ ชอบมากๆครับ กระตุ้นวงการฟิสิกส์ในสังคมไทยได้เยอะมากๆเลยครับ
ขอบคุณมากครับ กำลังสนใจเรื่องนี้ ได้ฟังการสรุปที่ดีมาก ๆ ครับ
พระพุทธเจ้าเป็นผู้สามารถเห็นความเป็นระเบียบและไร้ระเบียบที่ซับซ้อนของจักรวาล และตรัสรู้ เป็นมนุษย์มีจิตที่หลุดพ้นจากเงื่อนไขของกาลเวลาใช่มั้ยครับ 😮
ชอบมากครับ เข้าใจภาพของจักรวาลดีขึ้นมากเลย
ขอบคุณมากครับ ทำให้ฟิสิกส์ที่ยาก เข้าใจง่ายขึ้น ดีใจที่ช่วยให้คนไทยมีความรู้มากขึ้น
เวลาก็คือความเปลี่ยนแปลงในมวล มันคือสตริงที่สั่นอยู่ในอะตอมของทุกสิ่งทุกอย่างถ้า สตริง หรือตัวโน๊ตไม่มีการสั่นเวลาก็จะไม่เกิดขึ้นทุกอย่างจะหยุดนิ่งไปหมด เวลาคือความเปลี่ยนแปลงถ้าเราอยากจะย้อนเวลาได้เราต้องทำให้ สตริง เดินถอยหลังหรือบรรเลงเพลงย้อนกลับ
ขอบคุณคลิปสาระดีดีนะคะ จากคนไม่ชอบเรียนวิทยาศาสตร์เพราะฟังตอนครูสอนไม่เข้าใจเลย จนมาเจอช่องนี้กลายเป็นคนชอบเรื่องวิทยาศาสตร์ เข้าใจง่ายขึ้น
ผมฟังซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ (ย้ำว่าหลายรอบ55) เกิดสงสัยว่า ถ้าเราจะให้เหตุผลว่า พระอาทิตย์ไม่ได้ตกดิน ไม่ได้ขึ้นจากดิน ต้องเป็นเพราะโลกหมุนรอบตัวเอง ก่อให้เกิดเวลากลางคืนกลางวัน มากกว่าที่จะบอกว่า โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ มั้ยครับ
ใช่ครับ ตรงนั้นผมพูดไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ควรพูดว่าโลกหมุนรอบตัวเองมากกว่า
ผมชอบการสรุปแบบนี้ คุณเอกสุดยอดมากมากครับ
ผมสงสัยอย่างนึงครับก็คืิอว่าถ้าแรงโน้มถ่วงเป็นอิทธิพลของเวลา แสดงว่าในการคิดค้นฟองวาร์ปของอัลคับเบียร์ จะทำให้เราคนพบวิธีการเดินทางข้ามเวลาไหมครับ เพราะตรงด้านหลัง ที่มีลักษณะเป็นคลื่น เส้นอวกาศมีการยกตัวสูงขึ้น นั่นคือ เวลาบนจุดสูงสุดของคลื่นจะมากกว่าเวลาที่โคนคลื่นด้านล่าง เท่ากับเราควบคุมการไหลของเวลาได้แล้ว หรือว่าฟองอวกาศของอัลคับเบียนั้นเป็นแค่ตัวแก้ไขในความไม่ต่อเนื่องของเวลาหากเราเดินทางด้วยความเร็วแสงเหรอครับ
เป็นช่องที่มีประโยชน์มากครับ ฟังตอนตื่นได้ความรู้ ฟังก่อนนอนก็หลับสบาย
ตั้งแต่รู้จักทฤษฎีสัมพัทธภาพกับทฤษฎีควอนตัมตรรกะในใจก็เริ่มพังลงไปเรื่อยๆ ยิ่งฟังยิ่งแปลก ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปเรื่อยๆ
มันคือทฤษฎีที่ซับซ้อนไงครับความเชื่อผิดจึงทำให้ถูก
โดยเฉพาะสัมพัทธภาพทั่วไปกับควอดตัท
มันซับซ้อนยังไงครับ
@Okcis Internet หลักของอจินไตรกล่าวไว้ว่าอย่างไรครับ และมีสูตรการคำนวณ คาดการณ์ หรือประมาณหรือเปล่าครับ จะได้รู้ว่าถึงอจินไตรแล้วครับ
@Okcis Internet ผมว่านะถ้ามนุษย์จะเข้าใจเรื่องจักววาลได้มากขึ้น อนาคตคงต้องเปลี่ยนเป้นสิ่งมีชีวิตรูปแบบจิตไปแล้ว เพราะร่างกายมนุษย์นี้มีข้อขีดจำกัดเยอะมาก
ผมเกือบจะมองเห็นเวลาเชียว เมื่อนำความร้อนมาใช้ ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ทำคลิปดีมากๆครับ ผมไม่มีควรมรู้ในฟิสิกส์เลย ยังฟังตามไปได้
ความจริงแล้วจักวาลคือเปลือกนัท หลุมดำ คือมิติสสารพลังงานที่ซ้อนทับกันในขอบเขตที่มิติ ทำให้เล็กลงเหมือนกับเรายืดขยายภาพถ่าย
สัดส่วนต่างๆเล็กลงแต่อัตราส่วนของภาพโดยรอบยังเท่าเดิม 8*8 ย่อลงให้เหลือ4*4แต่รายละเอียดพิกเซลไม่เปลี่ยน
เช่นกับหลุ่มดำคือมิติของสะสารในขอบเขตการลอวกาศนั้น ข้อมูลไม่เคยหายไปไหน พลังงานแปลงเป็นสสาร เพราะเราตัวเล็กและโลกเล็กกว่าดวงอาทิตย์ทำให้การอวกาศเคลื่อนที่ช้าสำหรับเรา แต่ถ้าหากเราตัวใหญ่
อะตอมอิเล็คตอน ที่หมุนรอบควาก ก็จะดูเร็วไปในทันที พลังงานมืดอาจจะเป็นแรงโนมถ่วงของแรงโนมถ่วงของ มัลติยูนิเวิส(ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าแรงโนมถ่วงในจักวาลเราไม่รั่วไหลไปยังจักวารอื่น) คล้ายกับแสงจากดวงอาทิตย์ส่งมายังโลกที่ไม่ต้องการตัวกลางในการส่งพลังงาน
เป็นพลังงานธรรมชาติอีกชนิดที่ยังไม่สามารถตรวจจับด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน
จักวาลในเปลือกนัท นั้นคือสิ่งที่ ฮอคกิ้งเข้าใจ เกี่ยวกับจักวาล
ทุกอย่างมันสมบูรณ์เกินไป แม้แต่สิ่งที่เล็กที่สุดไปใหญ่ โซลา ซิสเท็มไปยังระดับควอนตัม
คณิตศาสตร์สามารถอธิบายและคาดการณ์ได้แม้จะไม่ทั้งหมด
จักวาลต้องมีผู้สร้างเราเรียนรู้ทีหลังโดยอธิบายตามหลักคณิตศาสตร์ ยิ่งรู้มากเท่าไหร่ความจริงน่ากลัวกว่าจินตนาการ
เราคืออบัมข้อมูลภาพถ่ายที่ถูดเก็บในโฟลเดอร์ และสร้างในโฟลเดอร์ ต่อโฟลเดอร์เล็กลงไปเรื่อยๆ ซ้อนทับในขอบเขตของวินโดอีกที
โดยไม่มีที่สิ้นสุด ความละเอียดของภาพคือมวลของสสาร
ไม่มีอนาคตอดีตต่างหากคือความจริง
เวลาของผู้สังเกตุในจักวาร4มิติของไอสไตย์ คือการดูยูทูปที่เราไม่สามารถกดย้อนกลับได้ อนุภาคที่เล็กที่สุด คือจุดภาพ1จุด
ที่วิ่งด้วยความเร็วเหมือนม้วนฟิมล์จนเราไม่ได้สังเกตุว่ามันคือภาพนิ่งที่เรียงต่อกันจนเป็นภาพเคลื่อนไหวหากคุณเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงภาพทุกอย่างก็จะสโลว์ ยิ่งใกล้ความเร็วแสงมาก ภาพอาจจะหยุดนิ่ง อนุภาคโบซอนความเร็วใกล้แสงไม่มีเวลาเพราะตัวมันคิดว่าตัวเองไม่ได้เคลื่อนที่
เมื่อภาพหยุดนิ่งทฤษฏีสัมพันภาพทั่วไปจึงใช้ไม่ได้ ไม่มีซิงกูลาริตีเราจะเข้าใจจุดเริ่มของจังวาลได้เมื่อเรามีความเร็วแสงเท่านั้น เพราะทุกจุดคือจุดเริ่มต้น
เมื่อความเร็วใกล้แสง เราเป็นจริงเพียงในขณะนั้น เราคือเดอะซิมในคอมพิวเตอร์ อิลอนและผมเชื่อแบบนั้น
มันไม่ใช่ความจริงหรอกมันคือความเชื่อ55555
เราเคยเชื่อพะหุทฤษฎีนี้แต่ตอนนี้เลิก ผสม รูหนอน กับ หลุมดำ =หลุมขาวไม่จริง รูหนอนไม่มีแรงโน้มถ่วง หลุมดำมีแรงปด สังเกตุ หลุมดำไม่ดูดกว้างยาวสูงฮาปสเปซ=ยับพับรอบๆหลุมดำ หลุมดำคือบิ้กครันเล็กทำหน้าที่ยกเลิกอะตอม สสารมืดต้องสังสัยกว่าคืออะตอมสถานะยกเลิกหรือป่าว
ชอบทฤษฎีแนวคิดที่ว่า สายตาที่พร่าเลื่อนสามารถอธิบายเรื่องนี้ได้เลย
อย่างเพื่อนครูพระอาจารย์เราหลายคนเข้าฌานได้ เวลาเค้ากินน้ำรึมองร่างกายเค้าจะไม่ได้มองเห็นว่าเป็นน้ำไสๆในแก้ว แต่เค้าจะมองเห็นเป็นการไหลเวียนของสสารอนุภาคลึกลงไประดับโมเลกุลอะตอมอิเลกตรอนอ่ะ บางคนไปได้ถึงมิติวังบาดาลพญานาค เพื่อนบาคนไปไกลถึงกาแล็คซี่นางโทรจิตกับมนุษย์ต่างดาวได้
เรื่องผีวิญญาณนี่เบสิกๆไปเลย
เคยดูหนังหลายเรื่องเกี่ยวกับการวาร์ป/เจาะเวลา หลักๆใช้ ทฤษฎี E=mcกำลัง2 การที่จะเจาะเวลาทะลุมิติได้คือค้องใช้พลังงานมหาศาลมากๆๆๆๆๆ และจะต้องมีอะไรเร็วกว่าแสง 3 แสน กม./วินาที
สวัสดีค่ะคุณเอก ไม่รู้ว่ามาเมนท์ในคลิปนี้จะเห็นไหมนะคะ แต่อยากให้เห็นมากเลยค่ะ ส่วนตัวติดตามคุณเอกมาน่าจะปีนึงแล้ว ชอบคลิปต่างๆที่ทำออกมามากโดยเฉพาะแนววิทยาศาสตร์พวกดาราศาสตร์และศาสตร์ยากๆแขนงต่างๆ คลิปนึงดูหลายรอบมากค่ะเพราะไม่เข้าใจ5555 แต่ขอบคุณมากที่สร้างชาแนลแบบนี้ขึ้นมานะคะ ปกติไม่ชอบหาสื่อต่างชาติค่ะ (หลังจากนี้คงต้องไปศึกษาบ้างแล้วเพราะอยากรู้อยากเห็นมากกว่าเดิม) ส่วนตัวเรากำลังจะเรียนต่อด้านวิศวกรรมนาโนค่ะ คิดว่าอยากจะเรียนรู้ควอนตัมเลยมาเรียนด้านนี้ น่าจะต่อยอดไปได้อยู่ (ไม่อยากเรียนคณะวิทยาศาสตร์โดยตรงค่ะ) ตอนนี้เลยสนใจเรื่องควอนตัมและความสามารถของมันมากๆที่ไปต่อได้หลายเรื่องทั้งเทคโนโลยีรวมไปถึงการไขปัญหาของจักรวาล และเราก็มีคำถามค่ะ คุณเอกเคยดูซีรีส์เยอรมันชื่อ Dark ไหมคะ? ในเรื่องพูดถึงการย้อนเวลา มีการใช้ทฤษฎีฟิสิกส์มากมาย ส่วนใหญ่คุณเอกก็เคยทำคลิปเกี่ยวกับทฤษฎีที่เขาใช้อ้างอิงในเรื่องแล้ว แต่หากคุณเอกดูอยากจะถามความเห็นหรือสรุปหรือทำคลิปทฤษฎีต่างๆที่เกี่ยวข้องในเรื่องด้วยจังค่ะ ,, เราเคยดูเรื่องนี้แล้วเลิกไปเพราะไม่เข้าใจเรื่องเวลา จนเพิ่งมาดูให้จบเมื่อวานนี้และพบว่ามันสนุกมาก มีแรงศึกษาฟิสิกส์มากขึ้นค่ะ อยากหาคนอินไปด้วย5555555
ในที่สุดก็เจอแล้ว ช่องคุณภาพ
เวลาไม่มีอยู่จริง ถ้ามองเห็นตามความเป็นจริง จะมีเพียงแค่ปัจจุบันขณะเท่านั้น
วิทยาศาสตร์ เป็นความพยายามของมนุษยชาติ ที่จะเข้าใจ และ อธิบาย ความเป็นไปของสรรพสิ่งในธรรมชาติ
เหมือนดั่งคำพรรณนาที่ได้กล่าวไว้ว่า
"เวลาเป็นแค่คําหลอก ก็มีแต่เข็มหมุนวนเรื่อยไป"
จากโดม ปกรณ์ลัม
😁😁😁😁
"เวลาไม่ช่วยอะไร" คริสติน่าอากีล่าร์ ก็เคยบอกไว้
เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น..แล้วกลายเป็นอดีต..แล้วเราก็คิดถึงมันอีกในขณะนี้..เป็นปัจจุบัน..และในอนาคตเราก็จะคิดถึงมันอีก..เป็นอนาคต..เหตุการณ์หนึ่งจึงเป็นได้ทั้งอดีต..ปัจจุบันและอนาคต..นั่นคือ เวลาทั้งหมดอยู่ในปัจจุบันขณะ...ในระดับจิตแล้ว..กาลเวลาที่เคลื่อนไปทื่อๆเป็นเส้นตรง..ในแบบที่มนุษย์เข้าใจนั้น..ไม่มีอยู่จริงแต่อย่างใด..
ไม่ครับ มันก็เป็นอดีตนั่นแหละ เราแค่ดึงมันออกมาจากความทรงจำเฉยๆ
โคตรเจ๋งเลย คลิปนี้
#ขอบคุณความรู้มากๆเลยครับ
#ขอดูหลายๆรอบเลย
#รักษาสุขภาพมากๆนะครับ ^^
มาครั้งแรกช่องนี้ ขอติดตามเลยครับ นำเสนอได้ดี เรื่องน่าค้นหา ข้อมูลพร้อม
จุดสิ้นสุดของจักรวาล คือ ตอนที่ เอนโทรปี มีความไร้ระเบียบแบบที่สุด ไม่มีความมีระเบียบเหลืออยู่ในจักรวาลอีกต่อไป หมายความว่า มองไปทางไหนก็เหมือนกัน ไม่มีดวงดาว อนุภาคต่างๆ ระเหยไปหมด เหลืออยู่แต่ความว่างเปล่า
คุณยอมรับทฤษฎีที่ว่า จุดจบเอกภพ อะตอมทุกตัวระเหยไปหมด เหลือแต่ความว่างเปล่า อะตอมระเหยหายไปได้อย่างไร และหายไปไหน ?
ทุกอย่างไม่สามารถหายไปได้ แค่กลับเปลี่ยนรูปแบบวนลูปซ้ำไปเรื่อยๆ แต่จักวาลสามารถเกิดจากความว่างเปล่าได้ 1%
บทสรุป เห็น ถูกแล้ว
อดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็น จุดๆ เดียวกัน พอที่เปรียบเทียบเหมือนได้บ้างว่า จุดศูนย์กลางของทรงกลม และสามารถ โยงไป ณ จุดพื้นผิว ที่รัศมีต่างๆ ได้ทันที
ถ้าจะว่า ไม่มี ... ก็ได้ ... นั่นหมายถึง สภาพ การไม่ปรากฏ
ผู้ที่จะสามารถเห็นถึง (ได้ ด้วยการประสบ) จะต้องเข้าถึง อกิญจายตนะฌาน ( อรูปฌาน3 / ฌาน 8) ..
ขอบคุณ สำหรับ ความรู้ทางควอนตั้ม
ผมว่า เวลา ไม่มีอยู่จริง เวลา เป็นคำที่ทำให้การเข้าใจจักรวาลนั้นยากขึ้น (ควรใช้คำว่าการเปลี่ยนแปลงของอะไรสัมพัทกับอะไรแบบมีกรอบอ้างอิง) เพราะมนุษย์เป็นแค่ผู้สังเกตและมีสมองจิตใจที่สร้างและ สมมุติเวลาขึ้นมาเอง
เวลาไม่มีอยู่จริง เพราะเวลานั้นยืดหดได้ ตอนเรียนวิชา phy.chem.เรียนกฎเทอร์โมไดนามิคโคตรงง มาเข้าใจทีหลังตอนอ่านหนังสือไอสไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น
เวลาเป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งของนั้นมีอยู่จริง
เนื้อหา ดีมาก ชอบครับ ...อธิบายได้เข้าใจ
เอนโทปีคือความร้อน ความร้อนทำให้เกิดการพัฒนาไปเรื่อยๆ เมื่อเอนโทปีถึงจุดที่สูงสุดทุกอย่างก็จะจบสิ้นเเละจะกลับมาเริ่มต้นที่ศูนย์อีกครั้ง (ความคิดเห็นส่วนตัว)
เอนโทปีถึงจุดที่สูงสุด ก็คืนจักวาลที่เรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ใช่มะ
เอนโนปี้ที่มากขึ้นหมายถึงความไร้ละเบียบที่เพิ่มขึ้น คำว่าพัฒนาไปเรื่อยคือหมายถึงแบบไหน
เวลาคือช่วงขณะ(moment)ที่เคลื่อนไหลอย่างสม่ำเสมอไปสู่อนาคต ทำให้หยุดหรือสะดุดไม่ได้ ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด สร้างขึ้นไม่ได้ ทำลายไม่ได้ ไม่มีตัวตน สัมผัสไม่ได้และไม่ต้องการที่อยู่
เราสามารถกำหนดมาตรฐานการวัดแต่ละช่วงขณะที่เคลื่อนไหลได้แน่นอนเหมือนกันทุกระบบทั้งเอกภพด้วยเครื่องมือจับเวลาหรือนาฬิกาที่เที่ยงตรง และหาค่าได้อย่างละเอียดจากการคำนวณทางคณิตศาสตร์
คนที่เรียนวิทยาศาสตร์ทุกวันนี้ ยังเข้าใจผิดๆว่า ดวงอาทิตย์อยู่นิ่งๆ แล้วโลกโคจรรอบๆ อยู่เลย 555 จริงๆแล้วดวงอาทิตย์ก็มีวงโคจรของมัน เคลื่อนที่ไปรอบๆใจกลางกาแลคซี่
หูยอันนี้เพิ่งรู้เลยคับ
8:47 เจ้าของช่องยังใช้โมเดลแบบโบราณ ทิศทางการเคลื่อนที่ของโลกรอบดวงอาทิตย์ก็ผิด เพราะดันไปให้คนดูว่าดวงอาทิตย์อยู่นิ่งๆ
ผมเลือกพูดให้มัน Simplify ไม่อยากไปอธิบายยาวถึงกาแล็คซี่ มันออกทะเลไป
หลุมดำใจกลางกาแลคซี่ มีวงโคจรไหมครับ
@@tomfastful หลุมดำไม่ได้อยู่ใจกลางกาแลกซี่ และผมเข้าใจเองว่าหลุมดำเองก็มีวงโคจรนะ
หาข้อมูลประกอบดีมาก อาจารย์จบฟิสิกจากไหนมาครับเนี่ย คนโบราณเฝ้าสังเกตุและไอเดียมากๆ
เวลากลืนกินสรรพสิ่ง แม้กระทั่งตัวมันเอง
หลุมดำกลืนกินสรรพสิ่ง รวมถึงจักรวาล(แต่ตัวมันเองกลับจะถูกกลืนกินด้วยเวลา)
พระอรหันต์กลืนกินเวลา(
กาลฆโส) เวลาทำอะไรท่านไม่ได้ (ไม่มีความทุกข์)
เป็นข้อความในพระไตรปิฎก
การบรรลุธรรม นัยหนึ่งคืออยู่เหนือกฎของเวลา
พระไตรปิฎกบอกเรื่องกฎของเวลามั้ยครับ คำว่าอยู่เหนือกฎของเวลาหมายความว่าอย่างไรครับ
มีประโยคไหนหรอครับที่เขียนว่าพระอรหันกลืนกินเวลาหรืออยู่เหนือกาลเวลาครับ
ผมแนะนำลองอ่านพุทธรรมครับ คุณอาจจะมีความเชื่อทางศาสนาพุทธเปลีายนไปครับ
@@chayapongsangungkanawin1158 มีครับ ลองฟังดูนะครับ มีบางแง่มุมที่เราอาจคิดไปไม่ถึงนะครับในทางพุทธ
ua-cam.com/video/uyFkt3LT0M0/v-deo.html
@@jirapansubannapan-5492 ฟังแล้วครับอารมเหมือนสอนให้คนใข้เวลาอย่างมีประโยชน์ครับ ไม่ใช่อยู่เหนือกฎของเวลา
@@chayapongsangungkanawin1158 มันเป็นเรื่องของจิตใจครับ ผู้หมดกิเลสคือผู้กินเวลาคือพระอรหันต์ครับ เวลาทำอะไรท่านไม่ได้ คือท่านไม่มีความทุกข์และไม่ต้องกลับมาเกิดให้เวลากลืนกินอีก(ถ้าพูดในเรื่องของรูปกาย) ถ้าชาวบ้านทั่วไปคือใช้เวลาให้เป็นประโยชน์อย่างคุณว่าแหละครับ
จิต ของผู้บริสุทธิ์ สามารถอยู่เหนือกาลเวลา ได้ช่วงหนึ่ง แต่ก็ไม่เที่ยง ไปตามกฎ ของไตรลักษณ์ เช่น
การเข้านิโรธ
การเข้าอิทธิบาท ๔
การเข้าภพหนึ่งไปสู่ภพหนึ่ง
ชอบที่ต้องมาฟังเก็บอีกสองสามรอบ
ทฤษฎีไอสไตน อาจจะผิดก็ได้
เอดิสัน ยังผิดมาแล้วเลย ทั้งๆ ที่ไฟฟ้า หาได้จากโซล่าเซลส์ ง่ายกว่า ไฟฟ้าของเอดิสันมากมาย
แล้วก็ เกิดจากการที่ มีใบไม้จากธรรมชาติเป็นต้นแบบ....ที่จริง สิ่งที่เราพูดถกกัน มันอาจจะ อยู่ในธรรมชาติ แต่เรามองข้ามมันไป
ก็เป็นได้ คุณรู้ไหมว่า โลกมันมีการล้างไพ่ ที่ดินที่เรายืนอยู่มันก็เคยมีคนอยู่มาก่อน แล้วอาจเกิดน้ำท่วม หรือวิกฤตบางอย่างต้องอพยพหรือล้มหายจากไป ..และปิระมิด ก็ อาจบอกได้ว่า คนยุคโบราณนั้นมีเทคโนโลยี่ที่สูงก็ได้ เพราะตอนนี้เราก็ไม่สามารถบอกได้ว่าคนโบราณ ยกหินขึ้นไปซ้อนกันได้อย่างไร
เอดิสันไม่ได้ผิด ถ้าแบบนั้นโนเกีย3310ผิดเพราะไอโฟน10ดีกว่าเหรอครับ มันแค่มีสิ่งที่ดีกว่า ไอสไตน์ ไม่ได้เรียกว่าผิด แต่เป็นทฤษฏีที่เข้าใกล้ความจริงจักรวาล เพราะสิ่งใกลตัวเราก็มีบางอย่าง ที่มาจากทฤษฎีของไอสไตน์มันคำนวณแล้วได้ผล
@@walkafterworkwaw7641 นี้แหละ ที่เขาเรียกว่า ผิดเป็นครู
ทฤษฎี ส่วนตัวของผมคิดว่า เวลาจะสัมพันธ์ กับพลังงานครับ กล่าวคือ พื้นฐานของเอกภพก่อน bigbang atom ของทุกอย่างถูกหยุดเวลาไว้ หรือเรียกว่าการแช่แข็ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ bigbang แหล่งพลังงานถูกสร้างขึ้น มันทำการปล่อยพลังงานแสงที่เป็นทั้งอนุภาคและคลื่นให้ขยายตัววิ่งผ่าน atom ทำให้อะตอมเกิดการเคลื่อนตัวไปข้างหน้า
จนเรียกได้ว่าการเริ่มเดินของเวลา และตอนนี้แสงก็ยังคง ออกมายังแหล่งกำเนิด และวิ่งผ่านทุกสรรพสิ่ง ทำให้โลกและเรา เคลื่อนที่ตามไปด้วย ลองคิดดูครับ แสง สัมพันธ์ยังไงกับพวกเรา มันทำให้เราเติบโตหรือแม้แต่เร่งเราให้เร็วขึ้น เฉกเช่นที่พลังงานทำให้ลูกปืนวิ่งเร็วกว่าเสียง
ดังนั้นพลังงานความร้อนหรือแสง อาจเป็นกุญแจสู่การ warp หรือแม้กระทั้งข้ามอนาคต ส่วนความเย็นเป็นค่าเดิมๆ ของจักรวาลมีพลังในการชลอเวลา หยุดเวลาหรือแม้กระทั้งย้อนเวลา เช่น ก้อนน้ำแข็งคือสถานะอดีต
และเมื่อมีพลังงานความแสงวิ่งผ่าน น้ำแข็งจะกลายเป็นของเหลว หรือเรียกได้ว่า เวลาเริ่มเดิน หรือเราอาจจะย้อนเวลากลับด้วยการ กันพลังงานแสงไม่ให้วิ่งผ่าน มันก็จะเริ่มกลับไปสู่อดีตของมันคือ น้ำแข็ง เรียกได้ว่ามีโอกาสย้อนเวลาให้กลับวัตถุได้เลย
ดังนั้นเวลาจึง เป็นปัจเจกของอะตอม ที่มีแรงกระทำจาก พลังงานและความเย็น ทำให้เวลาคือสิ่งถูกสร้างหรือถูกหยุดได้ครับ ทฤษฎีนี้เป็นเพียงความคิดส่วนตัว ที่ไม่ได้แม่นเรื่องวิทยาศาสตย์มากนัก แต่เกิดจากการสังเกตุ ครับ
เวลาเป็นตัวแทนค่าของความเสือม ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลไม่มีอะไรที่ไม่มุ่งหน้าไปสู่ความเสื่อมหรือความดับสูญ หากในจักรวาลนี้ไม่เสื่อมแล้วคำว่าเวลาก็จะไม่มี ดวงอาทิตก็มุ่งไปสู่ความเสือมและความดับ จักรวาลก็เช่นกัน เราก็เช่นกัน ^_^
ใช้ไม่ได้กับปลาดาว หรือแมงกะพรุน ที่เปนอมตะ
@アモ🌺 ไม่มีอะไรดีบสูญครับ แม้แต่ความตาย จิตยังอยู่ แต่อยากเปนแฟนนายจังได้ไหม
อย่าเทียบกับค่าการเสื่อมทำให้ดับสิ เวลามันพอดำเนินตามศรเวลา มันมีทั้งเกิดและเสื่อม มันเรียกว่าการดำเนิน การเปลี่ยนแปลง มันเสื่อมได้แค่ในรูปแบบของการเปลี่ยนแปลง ถึงเอนโทรปีหรือเวลาหรือข้อมูลใดๆมันจะใกล้หยุดตรงที่หลุมดำก็เหอะ แต่เอาจริงๆแล้วมันเหมือนการบีบอัดไฟล์เป็นแพ๊คzipแต่คอมช้ามากอะ ถึงมันจะใกล้หลุดใกล้เคียงกับไม่มี แต่มันจะไม่มีทางหายไปไง โดยทฤษฎีของใครซักคนแหละ(ฮอว์กกิ้งมั้งนะ ไม่มั่นใจสุดๆ) กล่าวประมาณว่าข้อมูลอะ มันออกจากหลุมดำได้ มันออกตลอด แต่เนื่องด้วยขอบเขตแบบนั้นมันออกแล้วก็กลับไปใหม่ไง บริเวณนั้นคือบริเวณที่ควรจะไม่มีอะไรเลย แต่กลับมีข้อมูลต่างๆบีบอัดเอาไว้เยอะมาก ถึงมันจะไม่สามารถดึงอะไรออกมาจากจุดที่ไม่มีได้แต่เราก็รู้ว่ามันสามารถไง ดังนั้นที่คิดคือไม่มีอะไรดับได้จริงๆ มันแค่แปรรูป เปลี่ยนสภาพเสมอมากกว่า ตัวคุณของวันนี้กับเมื่อวาน มีข้อมูลที่ต่างกัน ประสบการณ์ที่ต่างกัน นึกสภาพง่ายๆตลกๆหน่อยก็น้ำตาอ่ะ มันมาจากร่างกายของเราใช่ปะ เคยเป็นส่วนหนึ่งของสสารในตัวเราใช่ปะ พอไหลออกมา ก็ระเหย ระเหยแล้วไปไหน ก็ตกลงมา หรือสสารของน้ำตานั้นมันจะจับพลัดจับผลูลอยไปในอวกาศก้ได้ เมื่อเวลาดำเนินไป มันก็จะใกล้จุดฟูลสตอปคือหลุมดำหรือขอบใดๆก็ตามที่มนุษย์เรานิยามว่าไม่มี มันจะไปไม่ถึงจุดนั้น สตัฟไว้อย่างงั้นนั่นแหละ ซักวันมันอาจจะกลับมาบนโลกก็ได้ ดังนั้น การเสื่อม สลาย ไม่สามารถนำไปสู่จุดดับได้เลย พอๆกับเส้นเวลาอะ ถ้าเส้นเวลามันไม่นับว่าซ้อนกัน หรือมันไม่รางชนกัน ก็เก๋กู้ดดำเนินต่อไปได้ไง แตกออกเป็นเส้นใหม่ไปเรื่อยๆ มันจะไม่จบ เพราะสิ่งใดๆก็ตามที่สามารถperceiveว่ามันมี มันจะไม่หยุด มันจะไม่หายไป เพราะมันมีพลังงาน มีเวลา มีระบบที่ดำเนินการและซัพพอร์ตกัน ตัวแปรที่ทำให้มันหยุดทำงานมันก็ไม่เกิด และก็จะไม่เกิดในอนาคตเมื่อเวลาดำเนินไปด้วย
อันนี้ก็แล้วแต่คนที่ออกแบบจักรวาลนี้ขึ้นมา
@@ปืนใหญ่เมืองคอน ไม่ได้ปะ สมมุติว่าจักรวาลนี้มีที่มามีการออกแบบ แต่สิ่งที่ออกแบบจะมาเป็นปัจจัยแทรกซ้อนควบคุมการอยู่การหายไปไม่ได้ เพราะปัจจัยต่างๆมันมีเรื่องโอกาส ความเป็นไปได้ หรือดวงอยู่ ถ้าสิ่งนี้คุมการสร้างการหายได้การควบคุมสิ่งปลูกสร้างต่างๆอย่างมนุษย์ก็ต้องใช้ทรัพยากรและการตอบสนองในหนึ่งเสี้ยวเวลาหลากหลายมาก ถ้าจะควบคุมให้การเสื่อมดับทุกอย่างคุมได้ ก็ต้องคุมปัจจัยทุกอย่างในจักรวาลให้ได้อะ นึกสภาพการหายใจของคนๆหนึ่งจะมีผลทำให้โลกร้อนขึ้น ซึ่งนั่นคือปัจจัยที่กระทบต่อความเป็นไปได้ การควบคุมมันจึงไร้ค่า ถ้าสมมุติพระเจ้ามีจริง พระเจ้าเลี้ยงมนุษย์ในตู้ปลา แล้วพระเจ้าจะคุมมนุษย์แบบหุ่นเชิดทำไมล่ะครับ การออกแบบสมมุติออกแบบให้มันหายได้ แต่เอาเข้าจริงๆแล้วตราบใดที่สิ่งมีชีวิตยังมีwillหรือจิตสำนึกคิด สำนึกเลือก การคาดการณ์อะไรก็แล้วแต่ย่อมเป็นไปไม่ได้ ถึงจะเป็นพระเจ้าหรือomnipotentอะไรก็แล้วแต่ ยังไงมันก็คุมไม่ได้ ผมเลยสรุปได้ว่า สมมุติมีสิ่งที่ออกแบบจักรวาลนี้มา หลังสร้างแล้ว มันก็คุมอะไรไม่ได้อยู่ดี ยกเว้นว่ามันจะว่างพอที่จะอยู่ในคอนเซปของเวลาเทียบเท่ากับ1นิรันดร์ต่อ1เสี้ยวเวลาของจักรวาลนี้อะ นี่ยังไม่นับช่วงสถานที่ที่อาจจะมีคอนเซปเวลาต่างกันอีกนะ ถ้านับนี่ยิ่งคุมไม่ได้กว่าเดิมอีก ไม่มีอะไรคุมสิ่งมีชีวิตไม่ว่า1ตัว หรือไปถึง1เผ่าพันธุ์ได้ เพราะแม้แต่หนูมันยังเลือกที่จะหายใจ กิน ผสมพันธุ์เองได้เลย สิ่งเหล่านี้มันอาจจะเป็นเพียงแค่ระบบอัลกอริทึมยาวเหยียดอันหนึ่งแต่อย่าลืมว่ามันมีระบบการพัฒนาตัวเองได้ และนี่มันไม่ใช่การปลดศักยภาพที่มีอยู่แล้วด้วย ตราบใดที่อัลกอริทึมมันพัฒนาได้ด้วยตนเอง การคงอยู่ย่อมไม่เสถียรเสมอ นั่นมันก็พ่วงมาด้วยการควบคุมโดยปัจจัยให้กำเนิดเกิดขึ้นไม่ได้อีกด้วย ชะนี้ ปัจจัยดำเนินก็ซ้อนกับปัจจัยกำเนิดไม่ได้เพราะทุกอย่างที่ดำเนินไปในจักรวาลมันคือปัจจัยดำเนินที่เดินตามศรเวลา นึกสภาพก็... พนักงานหลังไมค์มันขึ้นมาบอกคนแสดงตลอดไม่ได้หรอกนะ ถึงมีหูฟังให้นักแสดง การเคลื่อนไหวมันก็ไม่ใช่ของพวกหลังไมค์อยู่ดี
Edit:เคยเล่นเกมบอร์ดd&dปะ ใช่ แบบนั้นเลย พระเจ้าทำอะไรก็ยังคอยโยนลูกเต๋าเสมอ เพราะทุกอย่างดำเนินอยู่บนความเป็นไปได้
รอเรือเป็นรอเรือจริงๆชอบๆ ฟังง่ายเข้าใจง่ายคำพูดน่าฟังดูจริงจังมีเนื้อหาและสาระ👍
"เวลาไม่มีอยู่จริง" "เวลาเป็นนามธรรม" ถ้าเราหรือใครๆไม่สนใจ "เวลา" มันก็ไม่เคยมีตัวตนปรากฎ
เราจะรู้ว่าเวลามีอยู่ ก็ต่อเมื่อ เทียบ ระยะห่างการเกิด/การสิ้นสุด ของ เหตุการ สองเหตุการณ์ หรือ มากกว่า เท่านั้น ซึ่งมันต้องเกิดขึ้นไปแล้วเท่านั้น ถึงจะเทียบวัดได้
จะเทียบโดยอาศัยเครื่องมือวัด หรือ ความรู้สึก ก็แล้วแต่
ความแตกต่าง ความยาวนานเวลาในแต่ละภพ มีอย่างไม่สิ้นสุด และ ไม่เท่ากัน
ตัวอย่างเช่น ดูหนัง sci-fi action ที่ชื่นชอบสุดๆ สุดมันส์ 2 ชม. เทียบกับ เอามือลนเปลวเทียน 10 วินาที ความรู้สึกคงไม่มีใครคิดว่าดูหนังนานกว่า
เวลาใน สูตรคำนวนฟิสิกส์ อ้างอิงจาก สภาวะหนึ่งๆในตำแหน่งหนึ่ง เทียบกับ สภาวะหนึ่งๆตำแหน่งหนึ่ง เป็นตัวแปล "สมติ" เพื่อใช้ "อธิบาย" สภาวะและตำแหน่ง หนึ่งๆ หรือ เทียบกัน ระหว่างสภาวะและตำแหน่ง หนึ่งๆ หรือมากว่า
เหรือเรียกได้ว่า เป็นความพยายามของมนุษย์ ที่จะอธิบายธรรมชาติ นี้โดย อาศัย ความมีอยู่ และความเกี่ยวข้องกันของ "รูปธรรม" และ "นามธรรม"
เวลา และ แรงดึงดูด มันสัมพันธ์กันก็เพราะว่า กล่าวคือ ถ้า "ไม่มีเวลา" "ก็ไม่มีแรง"
นิพพานเกี่ยวเนื่องกับเวลา ถ้าคุณเห็นการเคลื่อนที่เวลาคุณจะเห็นปัจจุบัน เวลาไม่มีอดีตไม่มีอนาคต เวลามีแต่เดี๋ยวนี้ปัจจุบันนี้ ทั้งจักรวาลตกอยู่ภายใต้กฏนี้ พระพุทธเจ้าเห็นกฏข้อนี้ ผมก็เห็นกฏข้อนี้ คือเห็นปัจจุบันของสรรพสิ่ง ถึงแม้เราจะสามารถย้อนเวลาทะลุมิติย้อนอดีตได้ แต่เวลาแห่งปัจจุบันมันยังคงซ้อนอยู่ เวลาแห่งจักรวาลมันเป็นเส้นตรง เวลาที่เราย้อนหรือเวลาที่ในแต่ละจักรวาลไม่เท่ากันเป็นเส้นคลื่นไม่เป็นระเบียบมันไหวบนเส้นจักวาลที่เป็นเส้นตรงเสมอ เวลาที่เป็นเส้นตรงนี้คือปัจจุบัน คือนิพพาน การเห็นเวลาที่เป็นเส้นตรงคือการบรรลุนิพพาน หมดสิ้นสงสัย เรื่องราวชีวิตเป็นเพียงอากาศ กฏแห่งจักรวาลเป็นมายา
ตามหลักพุทธศาสนา เวลาไม่ได้มีอยู่จริง
เพราะเวลาตามหลักพุทธศาสนาก็คือ อนิจจัง คือ ความไม่เที่ยง หรือไม่หยุดนิ่ง ของสิ่งต่างๆ
คือเมื่อสิ่งใดที่ถูกปรุงแต่งหรือสร้างให้เกิดขึ้นมา มันก็จะเริ่มมีการเปลี่ยนไปแปลงหรือเสื่อมสภาพทันที ซึ่งนั่นก็คือการเกิดเวลาของสิ่งนั้นขึ้นมาแล้ว และเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นมานั้นแตกหรือดับหายไป ก็คือเวลาของสิ่งนั้นหมดลงแล้ว ดังนั้นเวลาของแต่ละสิ่งจึงไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะการเกิดขึ้นของสิ่งต่างๆนั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยเหตุปัจจัยเดียวกัน จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกัน
พระพุทธเจ้าสอนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมา (สังขาร) ทั้งหลาย ไม่เที่ยง ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมานั้น เกิดการสมมติเรียกว่าเป็นเวลาขึ้นมาแล้ว (คือเกิดมาแล้วดับหายไปเร็วบ้าง หรือดับหายไปช้าบ้าง)
มีสิ่งหนึ่งทางวัตถุที่ไม่มีเวลา หรือเวลาของมันหยุดนิ่ง เพราะมันไม่มีการเกิดและดับ ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ สุญญากาศ (ความว่างเปล่าไม่มีอะไรเลยแม้อากาศ)
แต่ก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งในทางนามธรรม (จิตใจ)ที่ไม่มีเวลา นั่นก็คือ นิพพาน (ความสงเย็นของจิตหรือความไม่มีทุกข์) คือเมื่อจิตของเราเกิดความทุกข์ขึ้นมา มันก็จะมีการเปลี่ยนแปลง (อนิจจัง) หรือไหลไปเรื่อยๆ และสุดท้ายมันก็จะดับหายไป (ตามความเป็นอนิจจัง) ซึ่งนี่ก็คือการสมมติเรียกว่ามีเวลา (คือมีการเกิด-ดับ) ในทางนามธรรม
แต่ถ้าเมื่อใดที่จิตของเราไม่มีความทุกข์ จิตก็จะไม่มีการเกิดสิ่งใดๆขึ้น ดังนั้นจึงเท่ากับว่าไม่มีเวลาเกิดขึ้นในจิตขณะนั้น (ไม่มีการเกิดและดับ) เมื่อจิตไม่มีเวลา จิตก็จะกลับคืนสู่สภาะเดิมของมัน นั่นก็คือสภาวะที่พระพุทธเจ้าเรียกว่า ประภัสสร คือ สว่างเหมือนมีแสงส่องออกมา (เหมือนเพชรที่มีแสงส่องสว่างออกมา) ซึ่งจิตประภัสสรนี้เอง ที่เป็นจิตที่บรรลุถึงสภาวะที่เรียกว่า นิพพาน (ความที่ทุกข์ลดลงจนถึงที่สุดที่มันจะสามารถลดลงได้แล้ว)
ทำไมถึงคิดว่าสิ่งที่เปลี่ยนไม่มีอยู่จริงหละครับ ถ้าไม่มีอยู่จริงจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไรหละครับท่าน
@@chayapongsangungkanawin1158 เวลาตามที่ อัลเบิดร์ ไอสไตน์ กล่าวไว้ มันไม่มีครับ ....เวลา ก็คือ การยึดมั่นอยู่ในความทรงจำ มีไว้เพื่อคิดคำนวนเท่านั้น
@@maxkenton6102 คุณคิดว่าสิ่งที่คุณพิมพ์มากจากไอสไตด์จริงๆหรอครับ แล้วสิ่งที่ผมพิมพ์ผมพูดถึงเรื่องของสิ่งต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้นมันมีอยู่จริงซึ่งผมไม่เห็นกับข้อความแรกครับ
@@maxkenton6102 ถ้าเวลาไม่มีอยุ่จริงแล้วทำไมเวลาของคนที่หยุดนิ่ง กับคนที่เคลื่อน ถึงไม่เท่ากันหละครับ
@@chayapongsangungkanawin1158 ผมบอกว่าไม่มีเวลา แล้วจะเอาอะไรมาเท่ากันหรือไม่เท่ากันครับ ...ถ้ามีคน2คนมาทดสอบ นอนเป็นเวลา1ชั่วโมง คนหนึ่งหลับสนิทไม่ฝันอะไรเลย ส่วนอีกคนหนึ่งนอนอยู่นิ่งและไม่หลับเลย คนที่นอนหลับสนิทเขาก็จะบอกว่า"ผมหลับไป1ชั่วโมงเลยหรือ ผมนึกว่าแปปบเดียว" ส่วนคนที่นอนไม่หลับเลยเขาก็จะบอกว่า "ผมนอนอยู่นิ่งๆเป็นเวลา1ชั่วโมงไม่หลับเลย มันชั่งยาวนานเหลือเกิน" ....คำว่า 1ชั่วโมง ที่ผมใช้ นั่นก็คือ เวลาที่เกิดจากความยึดมั่นถือมั่นในความทรงจำ
เล่าได้สนุกมาก เข้าใจง่าย ขอบคุณค่ะ
สอน thevenin norton หน่อยครับ 🤐
.
+1ครั๊ฟฟฟฟฟ
จะสอบเเน้ววววสอนหน่อยครั๊ฟฟฟฟฟฟฟ
ในความคิดของผม หากพลังงานคือความร้อน ความร้อนคือแรงสั่นสะเทือน
แรงสั่นสะเทือนคือคลื่น ลองเอาทฤษฎีสตริง (สิ่งที่เป็นพลังงานในอะตอม) เข้ามาเกี่ยวโยง อาจจะพบว่า เวลาคือการสั่นสะเทือนในระดับโมเรกุล ส่งต่อพลังงานไปเรื่อยๆ
ที่พระอาทิตย์ขึ้นที่ทิศตะวันออกแล้วตกที่ทิศตะวันตก เป็นเพราะโลกหมุนรอบตัวเอง ไม่ใช่เพราะหมุนรอบดวงอาทิตย์นะครับ 😊
หมุนรอบตัวเอง23.59น. หมุนรอบดวงอาทิตย์365วันครับ
ทางเทคนิคแล้วโลกหมุนรอบตัวเองได้เพราะโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ (เนื่องจากสนามแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์)
สมมุติว่าดวงอาทิตย์เป็นนิวตรอนและมีโลกเป็นอิเล็คตอนโคจรรอบๆได้มั่ยอ่า
ผมอินกับท่าทางหน้าตาการพูดของพี่มากๆเลยครับ ผมโครตชอบทรงผมของพี่ตูมตามเลยครับ เท่ห์สุดๆไปเลย
การออกเสียง ส. เสือ ไม่เหมือนกับการออกเสียง th ไม่ต้องแลบลิ้นออกมา ส.เสือ คือการออกเสียงโดยพ่นเสียงผ่านโคนลิ้นซึ่งยกติดกับเพดานปาก ออกเสียง สู่.... แล้วการที่คนบนโลกเห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตก มันเกิดจากการหมุนรอบตัวเองของโลก ไม่ได้เกิดจากโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์
จริงครับ...
อีกอย่าง...ทฤษฎีของไอน์สไตน์ คือ..."ทฤษฎีสัมพัทธภาพ"...
แต่ผู้บรรยายพูดว่า...
"ทฤษฎีสัมพันธภาพ"...
ดูแล้วเหมือนกับว่ารู้มาก...
แต่สรุปแล้วว่าไม่รู้จริง...
ชอบมากครับ เข้าใจง่ายและสนุก อธิบายดีมากๆ
อย่างกับการนิพพานของพรพุทธเจ้าเลยที่เปรียบเปรยว่า อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต คือ สิ่งเดียวกัน นั้นคือปัจจุบัน
ไม่งั้นจะเรียกว่า อกาลิโกหรอครับ
เวลาไม่ได้มีอยู่จริง การเปลี่ยนแปลงต่างหากที่ทำให้เกิดเวลา ถ้าทุกสรรพสิ่งไม่เปลี่ยนแปลงเวลาก็ไม่มี แต่ทุกสรรพสิ่งนั้นเปลี่ยนแปลงตลอด
ทุกอนุภาคมีเวลาครึ่งชีวิตเฉพาะตัวของมันเอง แต่มีอยู่อนุภาคหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์ยังคำนวณ เวลาครึ่งชีวิตของมันไม่ได้นั่นคือ อนุภาคโปรตอน และอนุภาคนี้ก็มีอยู่เต็มไปหมดในเอกภพของเรา
แสดงว่าอนุภาคโปรตอนโดยธรรมชาติแล้วแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเลย แสดงว่าเวลามีผลกับอนุภาคโปรตอนน้อยมาก ถ้ามีบางสิ่งที่เปลี่ยนแปลงน้อยมากหรือไม่เปลี่ยนแปลงเลยแสดงว่าเวลาไม่มีผลกับสิ่งนั้นเลย แต่อนุภาคโปรตอนไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวในเอกภพแห่งนี้ เมื่อทุกอย่างสลายไปหมดก็คงเหลือแต่ อนุภาคโปรตอน VS ความว่างเปล่า
พระพุทธเจ้าเป็นคนแรกที่ค้นพบความลับของ เวลา การทำสมาธิคือการเข้าสู่มิติที่ไม่มีกาลเวลา ลองอ่านต่อในหนังสือ พลังแห่งจิตปัจจุบัน
เพ้อเจ้อ
เพ้อเจ้อ5555
ขายหนังสืออีกแระ
ชอบครับ
หายากนะ contentดีๆ
มีเนื้อหาสาระเชิงลึกแบบนี้
ชอบความช่างเปรียบเทียบกันของนักวิทย์มาก คือแบบบางอย่างซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกันอย่างเวลาและความร้อนก็เอาหลักนั่นนู่นนี่มาวิเคราะห์เปรียบเทียบหลักการทำงานของพวกมันให้มีความสัมพันกันได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล
คำพูดชัดถ้อยชัดคำ เนื้อหาเข้าใจง่าย ฟังเพลิน เหมาะกันคนทั่วไปดีค่ะ
เรื่องเป็นระเบียบหรือไร้ระเบียบ
ผมจะไม่งงถ้าใช้ ตัวอย่างเป็นการเรียงหนังสือ
A:เรียงหนังสือตามวันเวลาที่พิมพ์หนังสือ
B:เรียงหนังสือตามวิชา
C:เรียงหนังสือตามตัวอักษร
D:เรียงหนังสือตามที่ใช้งานบ่อย
เรียงหนังสือแบบไหนที่คุณคิดว่าเป็นระเบียบที่สุด?
*เป็นระเบียบหรือไม่ก็ขั้นอยู่กับสถานะการ
การเปรียบเทียบแบบนี้ใช้ไม่ได้ครับ เพราะมีการจัดวางจากมนุษย์ที่กระทำต่อหนังสือแตกต่างกัน ต่างจากไพ่ที่ไม่ว่าเราจะสับมันเท่าไหร่มันก็ไม่กลับไปเรียงแบบเดิมได้
@@ปืนใหญ่เมืองคอนผมพูดถึงการเป็นระเบียบเมื่อคนอื่นมาเห็นแล้วมันดูเหมือนไร้ระเบียบนะครับ
นักวิทยาศาสตร์ก็บอกว่าการเป็นระเบียบในมุมมองหนึ่งอาจดูไร้ระเบียบในอีกมุมมองหนึ่ง
การสับไพ่มันบอกแค่ไร้ระเบียบ แล้วความเป็นระเบียบละ?
บทสรุปเรื่องสายตาที่พร่าเลือนในการมอง เหมือนเรื่องการฝึกสติเลยที่ เราต้องฝึกสติจนคมชัดเห็นตามจริงในธรรมชาติ เพราะปกติเราจะมีสติที่เบลอไม่คมชัดทำให้ไม่เห็นตามจริง จนหลงคิดไปว่าสิ่งที่เห็นนั้นจริงทั้งที่มันเป็นแค่เสี้ยวเดียว มุมเดียวของความจริง จนตีความไปตามความเชื่อของตนเองและสังคม
" เวลาที่แท้จริง ไม่มีอยู่จริง เพราะเวลาไม่มีอยู่จริง "
อะไร
ถ้าเวลาไม่มีจริงตัวคุณก็ไม่มีเช่นกัน
ปล่อยไก่งง อยู่แต่ในคุกที่ไม่มีวันออกได้ไปเถอะ
@@korninsao ก็เวลาที่แท้จริงไม่มีอยู่จริงไงครับ
@@ever-iq7ls 555
เวลา ไม่ใช่ ปริมาณ ไม่ใช่ การยืดหด ไม่ได้มีความร้อน ความหนาว ไม่ได้เป็นหน่วย ไม่ได้เป็นสสาร ไม่ได้เป็นอะไรเลย.......เวลา ความหมายของมัน คือ ......ความเนิ่นนาน......ความเนิ่นนาน หากเอานาฬิกา และการสังเกตุการณ์มาวัด เราเรียกว่า นาฬิกา + ความเร็ว และ ความช้า และการเปลี่ยนแปลง การปรากฎการณ์ ของเหตุการณ์ ที่กำลังเกิดร่วมในทุกๆการหมุนของนาฬิกา...หรือ เครื่องแบ่งช่วงความเนิ่นนาน ในช่วงใดช่วงหนึ่ง...ทั้ง นาน และช้า ทั้งเปลี่ยนแปลง และการหยุดนิ่งของเหตุการณ์........แต่จะเอานาฬิกา หรือ เครื่องวัดใด มาแบ่งช่วงเป็นรอบเข็มนาฬิกา เป็นรอบๆ หรือ เป็นช่วงๆ ความเนิ่นนาน ยังคงต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แบบต่อเนื่อง ไม่มีจุดจบ ไม่มีจุดเริ่มต้น หากเราไม่ได้สังเกตุการณ์ มันก็แค่ ความเนิ่นนาน เป็น นามธรรม .....เราเอาความเนิ่นนาน มาแบ่ง เป็นเข็มนาฬิกา หรือ เครื่องวัด เวลา จึง เกิดขึ้น บางคนบอกว่า ความเบื้่อหน่าย เวลาจะหมุนช้ามาก แต่ความสุข เวลา จะเร็วมาก....นั้นก็แค่ความรู้สึกของมโนของสมอง.....แต่ความเนิ่นนาน มันไม่ได้เกียวอะไร มันมี เพราะ เรามีเครื่องวัดมัน เราจัดการกับมันเป็น เข็มนาฬิกา และการเกิดปรากฎการณ์ต่างๆ ขณะที่เรา สังเกตุพบการเปลี่ยนแปลง เราก็วัดมันเป็น ช่วงของเวลาในการเกิดเหตุการณ์ นั้นเอง......หากเราไม่มี สมอง เราตาย นาฬิกา เราหยุด แต่ความเนิ่นนาน ยังดำเนินต่อๆไป ...
Plz more clips about TIME like this :D
ขอบคุณมากๆค่ะ ชอบมากค่ะความรู้แบบนี้❤
ทฤษฏีที่ตรงที่สุด คือความจริง
ความจริงก็มีหลายๆความจริง มันมีมิติมากกว่า3
@@suntornmungsungnern4597 แล้วที่มากกว่าสามมีอะไรบ้างครับแล้วมิติในความหมายของคุณคืออะไรครับ
@Okcis Internet ความจริงที่ว่า คือ การเกิดและการดับของชีวิต เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป เสมือน ความร้อนกับความเย็น และความคงนิ่ง นี้คือความจริง
ความจริงที่ไม่มีใครหนีได้ จะอยู่ในที่มิดหรือสว่าง ที่กว้างหรือที่ลับ ทุกชีวิตย่อมพบกับสิ่งนี้ ทฤษฏีที่เที่ยงเเท้แน่นอน
@Okcis Internet ทุกอย่างที่กล่าวมา ก็นำมาจาก การสั่งสอนของพระพุทธองค์ เป็นของเก่าเป็นคำที่ใช้มาเนื่องนาน มีอีกหลากหลายทฤษฏีที่นำมาใช้ประโยชน์ในมนุษย์ชาติ ต้องยกเครดิตให้กับบุคคลเหล่านี้ครับ
ชอบมากค่ะ ขอบคุณค่ะ ทำให้ชอบวิทย์มากขึ้นอย่างมาก
ฮอลกิ้นกล่าวว่า ถ้าจักรวาลเป็นระเบียบ ทุกวันนี้ก็จะไม่มีดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ หลุมดำ กาแล็คซี่หรือ ดาราจักร จักรวาลจะว่างเปล่าและเงียบสงบ!!!
ถ้าถึงตอนนั้นเวลาก็จะไม่ค่าอีกต่อไป
มันไม่ได้เป็นระเบียบแต่มันหมุนวนไปตามกฎของตัวเอง
ทุกอยางมีกฎระเบียบขอลมัน ไม่งันการเกิดสิ่งต่างๆไม่อาจจะมีได้ถ้านอกกฎที่มันจะเป็น
ไม่มีอดีตก็ไม่มีอนาคต ไม่มีมืดก็ไม่มีสว่าง ไม่มีระเบียบก็ไม่มีไร้ระเบียบ ไม่มี action ก็ไม่มี reaction ความเกิดคือความดับ จุดจบคือจุดเริ่มต้น ทุกอย่างเท่ากันหมด ปัจจุบันคือการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงคือเวลาใช่หรือไม่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็ไม่มีเวลา อยู่ต่อหน้าความเป็นอนันต์ เวลาก็ไร้ความหมาย
ไม่มีไอ้บอด ก็ไม่มีไอ้โอ
ไม่มีไอ้โอ ก็ไม่มีไอ้ตู่
ไม่มีไอ้ตู่ ก็ไม่มีไอ้ป้อม
ไม่มีไอ้ป้อม ก็ไม่มีซีอิ๊วขาว
เอฟซี ครับ โหลดเก็บไว้ฟังก่อนนอน
สุดยอด ครับ ผม จะสร้าง เครื่อง ย้อน เวลา
ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยเป็น เวลามันผิดเพี้ยนกับความรู้สึกของเรามาก บางครั้งเรากำลังทำงานอยู่ บางช่วงบางตอนเวลาผ่านไปไวมากแต่ในความรู้สึกเหมือนไม่สัมพันธ์กับเวลาที่เสียไป
ใช่
ขอบคุณมากครับ ขอให้ทำคลิปดีๆแบบนี้ต่อไปนะครับ
แบบนี้เลย.. ชอบครับ
มีอะไรให้คิดต่อ... ดีมากๆครับ
ชอบเรื่องแนวนี้ครับ ลึกซึ้งดี..
มิติแห่งเวลา เป็นอะไรที่งง สุดละ.. ดูยิ่งเยอะยิ่งงงไปใหญ่.. ดูไปดูไป.. อ้าวลืมกินข้าวลืมนุ่นนี่นั่น.. เฮ้อ
อยากให้คุณเป็นรัฐมนตรีศึกษาธิการ คับ
คุณอธิบายควานตัมได้ดีมาก
ยอดเยี่ยมเลยครับ คำควบกล้ำก็เยี่ยมเลย
ชอบเรื่องแบบนี้ ไม่เข้าใจเท่าไรหรอก แต่ก็ยังอยากฟัง
สุดยอดครับ
ขอบคุณมากครับ
ไอเรื่องการไขปริศนาเรื่องนี้ผมว่าต้อง ใช้ AI ช่วยเเล้วหละครับ AI จะมาไขเรื่องเวลาได้ครับ ในความคิดผมนะ
ผมคิดว่าเวลามีแค่ปัจจุบัน
อดีตและอนาคตไม่เคยมีอยู่จริง เพราะเกิดแล้วก็ดับทุกขณะ มันอาจเป็นเพียงสามัญสำนึกของสิ่งมีชีวิตที่จำได้ว่าเคยเกิดขึ้น แต่สิ่งนั้นมันดับไปแล้วมันไม่มีอยุ่อีกแล้ว แล้วอนาคตที่ยังไม่เกิดมันเป็นเพียงสมองตีความเองจากประสบการณ์ความจำในอดีต
คลิปดีมากเลยครับ เป็นกำลังใจในการทำคลิปต่อๆๆไปครับ น่าจะลงในพอร์ตแคสด้วยนะครับ ✌️