ความในใจคนต่าง Gen ที่ไม่มีใครกล้าพูดในที่ทำงาน!!
Вставка
- Опубліковано 17 гру 2024
- #อย่าหาว่าน้าสอน | #ข้อคิดดีๆ | #ทัศนคติที่ดี | #น้าเน็ก | #น้าเน็ก555 | #โชคดีที่มึงได้อ่าน | #น้าเน็กคําคม | #Nanake | #NaNake555 | #MANSOME
----------------------------------------------------
ติดต่องาน
contactnanake555@gmail.com
062-246-6944 (คุณไก่)
063-502-7555 (คุณบุษ)
ติดตามผลงานได้ที่
/ nanake555
/ nanake555
/ nanake555
และอย่าลืมกด Subscribe เพื่อติดตามผลงานใหม่ๆ กันด้วยนะน้องๆ ^^
/ @nanake555
เจน Y คือทันทุกการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี ตั้งแต่ตู้โทรศัทพ์ทั้งหยอดเหรียญและเสียบการ์ด ม้วนวีดีโอ แผ่นดิส กล้องถ่ายรูปม้วนฟิลม์ มาจนถึงยุคที่ทุกสิ่งรวมอยู่ในมือถือเครื่องเดียว
สังคมทำงานส่วนใหญ่นินทารับหลัง
@@chanuprasong6727ทำงานมา เกือบ 20 ปี 4บริษัท ไม่เคยเจอสังคมส่วนใหญ่ที่ว่านั้นเลยค่ะ มองว่าเป็นที่เนเจอร์บริษัทหรือแผนกที่เข้าไปร่วมทำงานมากกว่า
คือ?@@chanuprasong6727
@@chanuprasong6727 คุณเป็นหนึ่งในคนที่นินทาคนอื่นหรือครับ ถึงได้รู้
ผมว่าไม่ได้อยู่ที่อายุ
มันอยู่ที่ สันดานคน
สังคมไทยคือสังคมแห่งการเอาเปรียบ ต้องระวังตัวเอง
พูดถูกมากครับ การเอาเปรียบมีทุกที่จริงๆ
จริง JEN-จิต .
ประเด็นนี้แจ่มเลยครับน้า "ไม่ว่าจะเป็นคน GEN ไหน แต่เรากำลังใช้ปัจจุบันร่วมกัน" ถ้าทุกคนปรับตัวเข้าหากันคนละนิดละหน่อย ไม่เป็นตัวเองจนมากเกินไป ผมเชื่อว่าจะสามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหาครับ GEN ใหม่ ๆ ถ้าเรานำพาเค้าไปให้ถูกทาง เค้าจะกลายเป็นบุคคลที่ทรงคุณค่ามาก ๆ ครับ
ที่บ้าน ผมเจนX เมียเจนY ลูกเจนZ
แต่การวางตัว กลายเป็นลูกเจนX ผมเจน Alpha เมียนี่ Baby Bloomer เลย
บ้านน่ายู่เลยครับ เมียเป็นใหญ่555555
😂😂😂😂😂😂
พยายามนึกภาพตามค่ะ 555
แต่สงสัยว่า ลูกลายเป็น Gen X ไปได้อย่างไร คะ?
@@srijan-yo9cu เค้าชอบฟังเพลงเก่า เสื้อผ้า รองเท้า ทุกอย่างสีดำหมด
สีอื่นไม่ใส่( ไม่แน่ใจว่าได้อิทธิพลพ่อหรือเปล่า) ผมนี่ได้หมด อายุ 50 ยังเล่น ROV กับเด็กที่ทำงานอยู่เลย 😁😁😁
😂😂😂😂
บางทีเราก็โทษแต่เด็กเจนใหม่ๆ แต่เคยลองมองมั้ยว่าผู้ใหญ่มันหล่อหลอมสังคมและประเทศจนกลายเป็นอะไร ลองดูแค่สุภาษิตก็ได้ อาบน้ำร้อนมาก่อน, ตามหลังผู้ใหญ่มาไม่กัด, สอนให้เชื่อ แต่ไม่สอนให้คิด ไม่ชอบยอมรับผิด ไม่ชอบโดนข้ามหน้าข้ามตา คนเจนก่อนถูกสั่งสอนมาแบบถูกกดทับก็อาจจะพอทนได้ แต่เด็กสมัยนี้มันไม่ใช่ แค่แซงคิวมันก็พร้อมจะบวกแล้ว ยิ่งระบบข้าราชการห้ามข้ามหน้าข้ามตาผู้ใหญ่ที่เด็กเจนนี้โคตรเกลียด การไปจี้ว่าผู้ใหญ่แม่งผิดตรงนั้นผิดตรงนี้ ผู้ใหญ่ก็ไม่ยอมรับ เด็กมันก็ไม่อยากทน บางคนแค่โชคร้ายที่เจอเด็กทำงานไม่ดีปล้วก็เหมาเด็กเจน Z เป็นเหมือนๆกัน แต่ในสังคมที่ผมอยู่และทำงานก็เจอทั้ง Boomer, Gen X, Gen Y, ที่ทำงานไม่เป็นเยอะแยะ ในขณะที่ Gen Z บางคนเงินเดือนสตาร์ทที่เกือบๆ 30k แล้ว แถมทำงานเร็ว ตรงประเด็น หวังผลได้ คำถามคือมันเป็นเพราะช่องว่างของวัยหรือการไม่ปรับตัวของคนกันแน่ ยิ่งในระบบข้าราชการนะ พวก Gen Y ช่วงท้ายๆยังเบื่อในระบบงานเลย พวก Gen Z ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถ้าลองวันนีงประเทศเรามีผู้ใหญ่ที่ถูกตำหนิและถูกลงโทษจากสังคมการทำงานได้ ช่องว่างของวัยคงไม่ใช่ประเด็นหรอก พวกผู้ใหญ่ทำให้ประเทศและสังคมเดินมาได้แค่นี้ ยังมีหน้าไปโทษเด็กๆมันอีก ตลกมาก
ทุกเจนก็คิดแบบคุณมาเป็นพันปีแล้ว ไปดูคำบ่นในยุคโซคราติสก็บ่นประเภทเด็กเดี๋ยวนี้มันหัวขบถ,มารยาทไม่ดี,ไม่เคารพคนแก่ตลอดแหละ รูปแบบชีวิตวนลูปแต่ละเจนคิดว่าเจนอื่นแย่กว่าเจนตัวเอง เจนเก่าไม่รับฟังเจนใหม่ดื้อ บลาๆๆ แล้วพอตัวเองแก่ไปก็กลายเป็นคนหัวดื้อของเด็กยุคถัดไป เด็กยุคถัดไปก็กลายเป็นคนดื้อของคนที่เคยเป็นเด็กหัวดื้อ ปกติมาก
สิ่งที่คนรุ่นใหม่จะคล้ายกันคือ ไม่ชอบถูกบังคับโดยไม่มีเหตุผลที่เพียงพอที่จะบังคับ มักตั้งคำถามกะสิ่งที่เคยถือปฏิบัติกันมากเป็น10ๆปีว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วหรือ และ ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง ชอบทำไรใหม่ๆ
ต้องบอกมันไปเปิดบริษัทเองเลย ทีนี้อยากทำอะไรก็ทำไป เอาที่สบายใจเลย
กล้ารับผิดชอบไหม ถ้าผิดพลาด ไอ้พวก เจน z ทั้งหลาย
แล้วงานก็ไม่ผ่าน แก้งานวนไป
สิ่งที่คนรุ่นใหม่จะคล้ายกันคือ ไม่ชอบถูกบังคับโดยไม่มีเหตุผลในมุมมองของเขาครับ เปลี่ยนมุมมองยากด้วย ไม่ตรงกับที่ตัวเองคิดไว้แล้วเชื่อไปแล้วคุยไม่ได้เลย
คิดว่าการพูดสื่อสารกันดีๆ อย่างมีเหตุผลและเห็นอกเห็นใจกัน ใช้ได้กับทุกเจนค่ะ
เจนเด็กๆ เขาจะดื้อมากๆ แค่กับเหตุผลที่ไร้สาระ ที่ผู้ใหญ่บางคนบอกว่านั่นคือเหตุผลแล้ว และเขาจะเคารพยำเกรงคนที่เก่งจริงๆ ค่ะ ถ้าไม่เก่งแล้วไปสอนเขาแบบไร้เหตุผลอีก มันจะฟังได้ไง
ส่วนอันไหนที่เด็กมันทำแบบไม่มีเหตุผล เราก็สอนเขาได้ตรงๆ เลยเหมือนกัน ถ้าครอบครัวไม่ได้สอนมาดีพอ เดี๋ยวสังคมก็สั่งสอนเขาเอง
ต้องเข้าใจก่อนว่า สอนไม่ได้ไม่ว่าจะพูดดีแค่ไหน เพราะความเป็นตัวของตัวเองสูง เขาต้องได้บทเรียนกับตัวเองก่อน แล้วความรู้ก็หาได้จากที่อื่นที่ไม่ใช่คุณ
gen z ที่เราเจอคือไม่ไหวมาก น้องไม่รู้กาละเทศะเลย ที่สำคัญสอนไม่ได้ด้วย ไม่ได้เถียงเก่งต่อหน้านะ แต่โพสเก่ง หาพวกเก่ง เราคือปล่อยนะ ไม่ได้ไปเข็น คนไหนดี(แบบปกติ)ก็จะโดดเด่นในเจนนี้เลยแหละ แล้วชอบทะเลาะกับเจน baby boomer มาก คือเราเข้าใจน้อง แต่การแก้ไขปัญหา มันใช้มากกว่าการโวยวาย(detect ปัญหา) มันต้องใช้กาละเทศะและการวางแผนด้วย
มีอย่างนึงที่คุณสเตฟานพูดไว้แล้วเราชอบมาก
Hard men create soft time
Soft time creates soft men
Soft men create hard time
Hard time creates hard men
ก็ตามนั้น…
เจอแบบนี้เหมือนกันเลย เราเกิดต้นๆGen Y เจอเด็กGen Z และ Al ที่มาอยู่หน่วยงานเดียวกัน เขาเป็นตัวของตัวเองสูงมากต้องพยายามทำความเข้าใจสุดๆ ทุกGen ล้วนแล้วแต่มีข้อดีเป็นของตัวเอง เลือกงานที่จะมอบหมายให้ตรงตามGenดีที่สุด
จะตีตราว่าGenไหนเป็นยังไงก็ไม่ได้หรอกน้า เราล้วนเป็นเด็กรุ่นใหม่ เด็กสมัยนี้ของคนอยู่มานาน และเราก็เป็นพวกหัวโบราณของคนที่เกิดทีหลังเสมอ
เกิด 2541 เป็น gen Z ที่ เหมือนเป็น gen Y มีความผสมๆกัน เรียกว่า gen YZ ก็ได้ ด้วยความที่อยู่ต่างจังหวัด การเข้าถึงอะไรต่างเลยยังอยู่ในช่วง gen Y แต่ก็เห็นสื่อต่างๆผ่านทางทีวีทำให้เหมือนเป็น gen Z ก็ยังงงๆว่าตัวเองอยู่ gen ไหนกันแน่ แต่พอเจอ gen Z แท้ๆ (ส่วนใหญ่) ที่อยู่ในเมืองหลวงจริงๆ คือหัวจะปวด
สวัสดีครับเพื่อนเราเกิดปีเดียวกัน
ใช่ครับ gen z ต้นๆที่อยู่ชนบทน่าจะเหมือนgen y ปลายๆมากกว่าเพราะได้รู้แค่จอทีวี พอมาถึงยุคมือถือกว่าจะมีแต่ละเครื่องได้ลำบากครอบครัวไม่มีด้วยซ้ำ
Gen z เอาสั้นๆสำหรับผมคือ สมาธิสั้น ทำอะไรไม่ได้นาน เบื่อไว ท้อง่าย ไม่มีความใจสู้
เรื่องสมาธิสั้นนี่ใช่เลย ผมอะ อยู่เฉยๆไม่ได้ต้องจับมือถือตลอด แต่ตอนนี้พยายามหากิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิทำแทน
ใช่คับ ขนาดให้ดูคลิปตัวอย่างงาน 7 นาที บอก ยาว ไม่มีสั้นๆ โยนงานเฉย จะเอาสั้น 12 วิ นีโตมากับคลิป short รึ 😂😂😂
@@dearporing9943 เราเคยนั่งทำงานข้าง gen Z เวลาว่าง ไม่มีงาน เห็นน้องมันนั่งดูคลิปตลก ดูหนัง ดูซีรี่ย์ นูนนี่นั่น ไร้สาระไปเรื่อย แต่ๆ มันไม่ดูธรรมดา น้องมันเร่งความเร็วคลิปไปอีก คลิปธรรมดากลายเป็นแร็พ แทบฟังไม่รู้เรื่อง จากคลิปยาว2-3นาที เหลือนาทีเดียว😅😅 บอกให้ใส่หูฟัง ไม่ยอมใส่ด้วยนะ
เราเจนz คือจริงนะ แต่ต้องปรับตัวกับตัวเอง เข้าใจตัวเองและผู้อื่นให้มาก....ส่วนตัวเป็นคนเบื่อง่ายมาก ทำงานตามแรงบันดาลใจซะส่วนใหญ่ ทำงานตามอารมณ์5555
สมัยก่อน boomer ก็ด่า gen Y แบบนี้เลยครับ
gen z อายุยังไม่เยอะมาก ไม่แปลกที่จะเป็นแบบนี้ พออายุ 30+ ก็จะเริ่มใจเย็นลงเอง
ทุกวันนี้ทำงานกะGen X กึ่งๆ Baby Boomer คือแบบปวดหัวมากก ออกแนวน้ำเต็มแก้ว ไม่รับฟังความคิดเห็นใดๆ ถามงานดีๆก็ขึ้นเสียง ใส่อารมณ์
ไปทำงานที่อื่น
ถ้าอยู่ในอุสหกรรมแล้วเขาเป็นระดับหัวหน้าจะเป็นแบบนี้ล่ะคับ มีความรับผิดชอบสูง งานเสียหายหัวหน้าจะโดนสอบก่อน เวลาเสนออะไรไปเค้าจะเหมือนไม่ค่อยรับฟัง แล้วจะรั่วคำถามใส่เรา ถ้าไม่มีเหตุผลมารองรับกับงานที่เสนอไปเขาจะปัดทิ้ง แต่ถ้าตอบได้เขาจะไวเป็นตัวเลือกเอง ตัวเราจะมองแค่ว่าชิ้นนั้นไม่กี่ตัง แต่หัวหน้าจะมองภาพร่วมทั้งล๊อทเสียหายมาก็คือเงินเดือนของทุกคน
บางทีลูกค้าอาจจะไม่ชอบสไตล์ไอเดียแบบเราแต่ต้น ลูกค้าชอบอะไรเดิมๆ หรือบางทีก็ดีมากแต่ติดที่งบประมาณที่ใช้ ส่วนการถามถ้าถูกว่า เราจะเจอเคสเดียวคือ เป็นเรื่องที่เคยทำได้มาแล้ว เป็นขั้นตอนปกติ ที่เมื่อวานยังทำได้อยู่เลย เป็นคำถามที่มีคำตอบอยู่แล้ว แค่คิดอีกนิดนึง
แปลว่าคุณยังไม่มีความสามารถมากพอที่จะเอาชนะใจคนได้ครับ อยากให้ใครยอมรับในความคิดเรามันมีตั้งหลายวิธี และการที่คุณไม่สามารถทำให้หัวหน้ายอมรับได้ แปลว่า คุณ Fail ก็แค่เริ่มใหม่ในวิธีอื่น
จริงค่ะ ทำงานที่ใหม่ นายจ้างเป็นคนเจนX ตอนสัมภาษณ์งานก็พูดไปตรงๆว่าไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน นายจ้างบอกจะสอนงานทุกอย่างให้เอง แล้วคัดเลือกเราจากคนอื่นมาทำงาน แต่พอทำงานจริงๆ ไม่ค่อยสอน สิ่งที่เราไม่รู้เราก็ต้องถามเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการทำงาน แต่ก็โดนตำหนิว่าติดถาม ถามเยอะ ให้เราพัฒนาตัวเอง ในขณะที่เราทำงานได้แค่ 4 วันเอง ยังไม่ได้รู้จักอุปกรณ์ทั้งหมด ของตรงไหนต้องจัดสรรไว้ตรงไหนเรากฌยังไม่รู้ ถ้านายจ้างไม่มาสอนด้วยตัวเอง เราก็ต้องถามค่ะ งงมากว่าเราต้องทำไงหนอ
ผมเจนYทำงานกับคนเจนX,Y,Z แต่ผมมีปัญหาการทำงานของคนเจนX เพราะวิธีการทำงานของเค้ามันมีปัญหาแล้วเค้าก็ไม่คิดจะปรับปรุงหรือพัฒนาทักษะการทำงานของตัวเองโทษแต่คนอื่นว่าไม่ทำแบบที่เค้าต้องการให้เป็นทั้งที่งานส่วนนั้นมันเป็นงานของเค้าที่ต้องทำ
ส่วนตัวผมแบ่งคนเป็นวัยรุ่นตามทศวรรษครับ เช่น วัยรุ่นยุค60s,70s ,80s,90s,2000s,2010s มันเข้าใจสภาพสังคม สิ่งแวดล้อมในแต่ละยุคได้เข้าใจง่ายดีว่าเติบโตมายังไงครับ 😅
1. "ในข้อมูล เขาบอกว่า มนุษย์เราแบ่งเป็นยุค ๆ แบ่งเป็นเจเนอเรชัน ตามสภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และบริบทของช่วงเวลา ณ ขณะนั้น"
2. "ในแต่ละเจเนอเรชันเนี่ย บางตำราก็ให้ระยะห่าง 15 ปี บางตำราก็ให้ระยะห่าง 20 ปี ไม่เท่ากัน แล้วแต่ว่าคุณอ่านงานวิชาการ ตัวเลขมันจะบวกลบกันเสมอ"
3. เจนที่ 1: Lost Generation (2426-2443)
- เป็นยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งตอนนี้ตายหมดแล้ว
4. เจนที่ 2: Greatest Generation (2444-2467)
- เกิดหลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่เกิดก่อนยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งก็ยังมีชีวิตอยู่
- ใครเกิดปี 2467 แปลว่าตอนนี้ก็อายุ 100 ปี ปี 2567
- มีพิธีรีตอง มีความเป็นทางการสูงมาก
5. เจนที่ 3: Silent Generation (2468-2488)
- เกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พอดี
- มีความจงรักภักดีต่อนายจ้าง บริษัท สังกัด และประเทศชาติมาก รักชาติมาก
- เป็นเจนที่ผู้หญิงเริ่มทำงานนอกบ้านแล้ว
6. เจนที่ 4: Baby Boomer (2489-2507)
- เกิดหลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
- เกิดมาเพื่อทำงาน ตั้งใจทำงาน
- เป็นเจนที่ประหยัด อดออม รอบคอบมาก
- เขาว่ากันว่าเหตุผลที่เรียกว่า 'Baby Boomer' เพราะว่าในช่วง Silent Generation ช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 คนก็บาดเจ็บ ล้มตายกันหลักร้อยล้านทั่วโลก ช่วง Baby Boomer ก็เลยเป็นช่วงที่เราผลิตประชากร เพื่อทดแทนคนที่ตายไปในสงครามโลกครั้งที่ 2
7. เจนที่ 5: Generation X หรือ Gen X (2508-2522)
- มีความไม่เป็นทางการ เป็นตัวของตัวเอง มีความคิดสร้างสรรค์
- เริ่มโตมากับวิดีโอเกม เทคโนโลยี ทีวี เสพสื่อ วิทยุ แฟชั่น
- เป็นผลพวงจาก Baby Boomer มาอีกที
8. เจนที่ 6: Generation Y หรือ Gen Y (2523-2540)
- ทำอะไรได้หลายอย่าง มีความสามารถหลากหลาย ไม่ใช่เป็นคนสกิลเดียวเหมือน Gen X แล้ว
- โดยมากมองโลกในแง่บวกและไม่ค่อยมีความอดทน เพราะมีความรู้สึกว่าด้วยความสามารถที่หลากหลาย ด้วยความมองบวก ก็เลยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมานั่งทนกับอะไรที่ไม่ใช่
9. เจนที่ 7: Generation Z หรือ Gen Z (2540, 2541-2555)
- เก่งเทคโนโลยี เรียนรู้ได้เร็ว
- เป็นเจนที่มีประเด็นที่สุด เพราะว่าเป็น First Jobber เป็นเด็กที่เพิ่งจบ แล้วก็หลายสำนักก็มีความรู้สึกว่าเจน Z เป็นเด็กที่ทำงานยากด้วย ไม่มีความอดทน
- ปลาย ๆ เจน Z รู้สึกว่าตัวเองเป็นพลเมืองโลก มีความสามารถในการใช้ภาษาที่ดี และใช้เครื่องมือติดต่อคนได้ทั้งโลก
10. เจนที่ 8: Generation Alpha หรือ Gen A (2556-ปัจจุบัน)
- แบ่งแยกตามพฤติกรรมของการใช้โทรศัพท์มือถือและโซเชียลมีเดีย บอกไม่ได้เลยว่ามีลักษณะยังไง
- เขาอายุน้อยเกินกว่าที่เขาจะส่งผลต่อสังคม ตอนนี้เขาอยู่ในระดับที่ได้รับการเลี้ยงดูอยู่
- พฤติกรรมที่มองเห็น: เสพติดการเชื่อมต่อ
- เป็น Global Citizen คือ เป็นพลเมืองโลก เพราะเด็กเจน Alpha จะเป็นเด็กสองภาษา เป็นเด็กที่เขาไม่ได้ยึดติดว่าเขาเป็นคนของประเทศไหนหรือจังหวัดไหน เพราะเขาเชื่อมต่อกับคนทั่วโลก ติดต่อคนได้ทั้งโลก
11. "พอเอาจริง ๆ แล้วเนี่ย ยุคสมัยมันเปลี่ยนเร็วมาก การแบ่งเจเนอเรชันของคนเราเนี่ย ทุก 20 ปี ทุก 15 ปี บางทีมันยาวไปแล้ว แสดงว่าคำว่า 'เจเนอเรชัน' ที่แบ่งทุก 15 ปี หรือ 20 ปี เอาจริง ๆ ยิ่งเกิดเจเนอเรชันใหม่ แปลว่าเวลามันต้องยิ่งสั้นลง เผลอ ๆ การแบ่งเจเนอเรชันอาจจะแบ่งกันทุก 3 ปี หรือ 5 ปีก็ได้ เขาถึงบอกไงว่า หลังเจน Y เนี่ย เจน Z, เจน Alpha หรืออะไรอย่างนี้ การแบ่งเจเนอเรชันอาจจะต้องโละทิ้ง แล้วก็เริ่มต้นกันใหม่"
12. "ประเด็นก็คือว่า เมื่อเราได้เห็นถึงวิธีการแบ่งเจเนอเรชัน เมื่อเราได้เห็นถึงบริบทของแต่ละเจเนอเรชัน ช่วงเวลาที่เขาเกิด แล้วก็ภาวะสังคม เศรษฐกิจ การเมืองต่าง ๆ เราก็จะได้เข้าใจว่า อ๋อ ก็มันเกิดมาในสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน มันจึงคิดไม่เหมือนกัน ถูกไหม"
13. "เรื่อง Generation Gap ช่องว่างระหว่างวัย เป็นเรื่องที่ไม่มีใครสามารถแก้ได้ทุกคน ทุกคนที่ใช้เวลาร่วมกันในปัจจุบันจะต้องเป็นคนช่วยกันแก้ไข สิ่งที่พี่แชร์ตลอดทั้งปีนี้ก็คือ ขอให้ทุกคนในทุกเจเนอเรชันใช้ชีวิตเป็นคนในยุคปัจจุบันร่วมกัน ไม่ว่าในปัจจุบันนี้ นาทีนี้ พี่คือคนอายุ 55 ในนาทีนี้ บางคนอายุ 20-30 บางคนอายุ 10 ขวบ หรือบางคนอายุ 60-70 ไม่ว่าเราจะเจนไหนก็ตาม แต่เรากำลังใช้ปัจจุบันร่วมกันอยู่ เพราะฉะนั้น มันจงกลายมาเป็นคนในยุคปัจจุบันร่วมกัน"
เขียนได้ดีมากครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ🙏🏼
@tnc_boy ขอบคุณครับ 🙏
ขอบคุณที่สละเวลาครับ 🙏
@@iMontA37KB ขอบคุณนะครับ 🙏
ขอบคูณมากๆเลยครับ
ที่เขาแบ่งเป็นเจน เพราะมันมีประสบการ์ณร่วมกันเยอะ อย่างผมเจนวายเนี่ย เรื่องบางเรื่องมันแชร์กันทั้งโลกเลยนะ เช่น เวลาขับรถตามรถบรรทุกขนท่อนซุง เราจะหลบ เพราะกลัว Final destination 5555
ประสบการ์ณที่คล้ายๆกันมันทำให้วิธีคิดมันมีแนวทางร่วมกันอยู่ เลยแบ่งเป็นเจนได้
แต่เจน Z เป็นต้นไปเนี่ย พวกเขาเกิดในยุค Native digital ละ สารต่างๆที่ได้รับมันแทบจะไม่แชร์ไม่เหมือนกันเลย ลองนึกภาพ ไปโรงเรียนเจอเพื่อน แต่คุยกันแทบไม่ได้เลย เพราะเสพสื่อไม่เหมือนกัน ความสนใจต่างกัน พื้นฐานที่บ้านต่างกัน มันทำให้พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะเข้าสังคมในแบบที่แตกต่างออกไปจากเจนก่อนๆ และเป็นเจนที่ได้รับผลกระทบจากมือถือมากที่สุด (หลังๆเริ่มมีงานวิจัยออกมาห้ามใช้มือถือหรือไอแพดก่อนวัยอันควรละ เพราะผลลัพท์ที่เห็นได้จากเจน Z นี่แหละ)
แต่ใครที่มันแหลมเกินไป เดี๋ยวสังคมจะตบตีให้เข้ารอยเองแหละ บ่นไปก็เท่านั้น ทำงานแลกเงิน ไม่ได้ถวายชีวิตให้บริษัท
ใช่เลย จะไม่ขับรถตามรถบรรทุกท่อนซุงค่ะ 😂
ถ้าให้คน Gen x หรือ Gen y เป็นกรรมการ และให้คน Gen z เป็นผู้เล่น ให้เขาได้โชว์ความคิดของเขา ได้ให้เขาได้สัมผัสกับความผิดพลาดกับความล้มเหลวของเขาเอง Gen x และ Gen y เป็นคนคอยเตือน เป็นคนคอยตบให้ Gen z เข้าทางอย่าให้ออกนอกทางจนเกินไป อย่าไปตัดสินคนจาก Gen เพราะถ้าเขาเลือกเกิดเขาก็อยากเกิดใน Gen ก่อนคุณแน่นอน ให้นึกถึงตอนที่คุณทำงานใหม่ๆ สิ่งไหนที่ Gen ก่อนหน้าคุณปฏิบัติไม่ดีกับคุณหรือสิ่งไหนที่คุณไม่ชอบคุณก็อย่าไปทำกับคนอื่น สิ่งไหนที่คุณคิดว่าดีเป็นสิ่งที่ดีคุณก็ลองเอาไปปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ ต่างๆ Gen z เขาแค่ไม่ชอบอะไรที่มีพิธีรีตองมากจนเกินไป ทั้งๆที่มันไม่จำเป็น เขาขอเวลาในการทำงาน ไม่ใช่สั่ง8โมงจะเอาตอนเที่ยง ทำอะทำได้ แต่คุณภาพมันก็ตามเวลา ถ้าอยากให้งานมีคุณภาพก็ให้เวลาเขาหน่อย เขาจะปลดปล่อยศักยภาพของเขาออกมาให้คุณดู บางทีคน Gen x Gen y ต้องการผลลัพธ์ใหม่ๆ แต่คุณวิธีปฏิบัติแบบเดิมๆมันจะได้ผลลัพธ์ใหม่ๆได้ไง ช่วยมีเหตุผลในการพูดกับคน Gen z ด้วยไม่ใช่สั่งๆอย่างเดียวไม่ฟังเหตุผลกัน ทำงานด้วยกันเปิดใจรับฟังเหตุผลกันด้วยไม่ใช่คิดว่าตัวเองแก่กว่าแล้วไม่ต้องเกรงใจใคร คุณก็แค่เกิดก่อน แต่ความคิดมันอาจจะไม่ได้มากกว่า เพราะผมมีการใช้เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ของคน Gen z เข้ามา จริงๆคนแต่ละGen มันก็คือ Patch หรือ Version ที่ใหม่กว่า มันก็คือได้รับการอัพเกรดหรือกานพัฒนามาจาก Gen ก่อนๆหน้านั่นแหละ แต่มันอาจจะมีทั้งข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน เพราะมันคือมนุษย์ ไม่ใช่ Ai
ไม่พอใจไปทำงานที่อื่น ที่เจนก่อนหน้าไม่ปล่อยก็ลองย้อนดูพวกตัวด้วยว่ามีความพร้อมรึยัง ความสามารถความรับผิอชอบความน่าเชื่อถือถึงรึยัง
@phatb5589 ก็ถ้าไม่ให้โชว์ศักยภาพและรู้ได้ไงว่าพร้อมหรือยัง ถ้าคุณไม่รู้จักที่จะให้เริ่มแล้วเมื่อไรจะเป็น
@@phatb5589 คุณอ่านความคิดเห็นไม่เเตกหรอครับ เขาบอกว่าให้ลองปล่อยให้ได้ลองทำในเเบบของเขาโดยมีคนgenเเก่กว่าคอยให้คำเเนะนำเเละตักเตือนไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางมากเกินไป คุณก็สักจะเเต่ไล่คนนู้นคนนี้ไปที่อื่น ไม่ต้องไล่หรอกครับ(เห็นคุณหลายเม้นเเล้ว) ถ้าเขารับไม่ได้ เขาลาออกเเน่นอนครับไม่ต้องห่วง
@@phatb5589babyboom ไม่ก็ x แน่ๆความคิดแบบนี้😂 ที่คุณพูดมามันก็ใช่ แต่เม้นที่เค้าตอบคุณมันใช่กว่าครับ ถ้าไม่เริ่มมันก็ไม่เกิดการเรียนรู้อะไร การเรียนรู้จากการได้ลองทำสำคัญที่สุด หน้าที่ของเราคือช่วยประคองพวกเค้าเหล่านั้นครับ แต่ถ้า mindset ลบจัดๆ ก็ปล่อยไปตามเวรกรรม😅
ความอดทนไม่มี ใครจะไว้ใจให้รับผิดชอบ อะ
แบบว่าที่ทำงานไหนก็มีปัญหาหมด ไม่ได้แบ่งเจนฯอะไรมากมาย ปัญหาเดียวกันเป๊ะเด็กเก่ากับเด็กใหม่เนี่ย บ่นๆไปลึกๆแล้วมันก็เรื่องเดิมๆทั้งนั้น
ส่วนตัวยังไม่รู้เลยว่า แบ่งเจนแล้วเวลาพูดนำมาพูดกัน มันเกิดประโยชน์อะไร ส่วนตัวไม่ได้เข้าใจเรื่องช่วงของเจนต่างๆ แล้วก็คิดว่าหลายๆ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน พูดแค่เด็กกว่าแก่หว่าหรือช่วงอายุ น่าจะเข้าใจง่ายกว่า(มั้ง)
มันอยู่ที่วุฒิภาวะ ผมเจน Z แต่ชอบมองภาพรวมของทุกงานที่ทำ และค่อยลงลึกใน skill ที่ตัวเองได้รับมอบหมาย
ข้อดี คือรู้ว่างานนี้ทำเพื่อ โดนหลอกใช้ คนเจนเก่าทำไม่ได้ ยืมพลังงานเราใช้
ข้อเสีย ขัดกับขนบเดิม ๆ ที่เขามักทำตามสั่งไปก่อน แล้วค่อยมาขมวดปม แล้วค่อยมารับรู้ทีหลังว่า "ทำไปทำไม"
และข้อเสียอีกข้อ เมื่อเราเริ่มทำงานใหม่ ๆ เราอาจเข้าใจระบบงานได้เร็ว แต่เราต้องลงมือทำและบ่มเพาะความสามารถ
ผมยอมรับ เจน z ส่วนใหญ่ เข้าใจงาน แต่ไม่เคยทำ ไม่มีทักษะ ถึงแม้โลกจะมีสิ่งอำนวยมากมาย แต่เราก็ต้องให้เวลากับประสบการณ์เช่นเดิม😊😊
ตลก เหมือนเสื้อที่ชัชชาตใส่ิ ทำงาน ทำงาน ทำงาน
แต่ไม่ทำ 55555 เก่งแต่พัด
ตามลำดับที่น้าเน็กบอก lost gen > greatest gen > silence gen > baby boomer > x gen > y gen > z gen > alpha gen
ไม่ต้องพูดเยิ่นเย้อสรุปง่ายๆเลยคือเด็กรุ่นใหม่เจนZ คือเป็นรุ่นที่เติบโตมากับข้อมูลข่าวสาร เป็นรุ่นที่ไม่ยอมคน แค่นั้น ส่วนเจนก่อนหน้านั้นเป็นแบบรุ่นพี่รุ่นน้อง ไม่ว่ารุ่นพี่จะห่วยแค่ไหนรุ่นน้องก็ทำได้แค่ก้มหน้าก้มตายอมรับ เราเติบโตมากับสังคมแบบนี้ ซึ่งบริษัทส่วนมากต้องการลูกน้องที่ก้มหน้าก้มตาทำงานห้ามเถียง แต่เด็กรุ่นใหม่เขาเติบโตมากับข้อมูลข่าวสาร ขาดความรู้สึกแบบรุ่นพี่รุ่นน้อง เขาจะเคารพเฉพาะคนที่เขาคิดว่าเก่งกว่าตัวเองจริงๆ ทำให้ปรับตัวเข้ากับรุ่นพี่ไม่ได้ บรรยากาศในการทำงานมันเลยไม่ดี สรุปง่ายๆก็คือคนรุ่นใหม่ gen z เป็นรุ่นที่ไม่ยอมคน ซึ่งเป็นรุ่นที่บริษัทไม่ต้องการที่สุด ในฐานะ gen y ที่ผ่านการทำงานแบบรุ่นพี่รุ่นน้องมา ไม่ว่าลูกพี่จะห่วยแค่ไหนด่าเราแค่ไหนเราทำได้แค่ก้มหน้าก้มตายอมรับไม่สามารถเถียงได้ ซึ่งเด็กรุ่นใหม่ส่วนมากจะมีพ่อแม่สปอยสบายมาตั้งแต่เด็ก ไม่เหมือนรุ่น gen y ที่ปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ความอดทนมันต่างกัน อันนี้มันก็อยู่ที่พวกเรา gen y ว่าจะอยากให้อนาคตเป็นยังไง จะให้โอกาส gen z ใหม่ หรือพยายามหล่อหลอม gen zให้เป็นเหมือนกับ gen y
ควรปรับตัวเข้าหากันครับเท่าที่สังเกตุเจนz มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมากยึดถือในหลักเหตุผลของตัวเอง ส่วนเจนก่อนๆที่เป็นเจ้าของบริษัทเป็นหัวหน้างานก็อยากได้ลูกจ้างลูกน้องที่ขยันทำตามคำสั่งได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือให้น้องๆเจ็นz ทนทำตามคำสั่งเจนอื่นสักสามสี่ปีตั้งใจเก็บออมไม่ใช้จ่ายฟุ้งเฟ้อพอให้มีทุนไปตั้งตัวทำกิจการของตัวเองได้ทีนี้ก็ได้เป็นเจ้านายตัวเอง วินๆทั้งสองฝ่าย
ชอบตรงไม่พูดคำว่า "ตุย" นี่แหละ👍👍👍
ผมมองว่าไม่เกี่ยว กับ gen แต่เกี่ยวกับความผิดชอบ ในแต่ละงานมากกว่า หลายครั้งคนรุ่นเก่า ประสบการณ์เยอะรู้ว่าอนคตทำอะไรแล้วจะได้ผลอย่างไร แต่เด็กรุ่นใหม่สระสบการณ์น้อย อยากเพราะเพราะคิดว่าถูกคิดว่าไม่จำเป็นคิดว่าไม่เกิดประโยชน์ และอาจไม่ได้รับการอธิบายจากคน รุ่นก่อนมาเพียง เพราะทำทำตามกันมา คนรุ่นใหม่กว่าเลยไม่เขาใจคนรุ่นก่อน ผมมองการสื่อสารเหตุผล ส่งผลต่อความรู้สึก เป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญ 😊
ผม28 ไม่มีปัญหาเรื่องงานสั่งอะไรมาทำหมดพูดมาอะไรก็ฟังทุกอย่าง แต่ ที่ไม่ชอบคือระบบรุ่นพี่รุ่นน้องเนี้ย แก่กว่าแล้วไงอ่ะต้องเคารพทุกคนเหรอ การกระทำกับอายุมันสวนทางกันบางคนอ่ะแก่กว่า10ปี20ปีแล้วไงเรียกไอ้หมด!!
สไตล์ของคุณมักจะมีปัญหาในประเทศแถบเอเซีย ที่มีวัฒนธรรมเคารพผู้อาวุโสครับ แต่สไตล์ของคุณมักจะไม่มีปัญหากับวัฒนธรรมของชาวยุโรปครับ
เจ๋งครับเหมือนคนที่ผมรู้จักเลย
ปล.ผมก็28ครับ
ปลายเจน Y ครับมีเพื่อนเจน Alpha น้องดูเก่งเรียนรู้ไวแล้วก็มีเหตุผลก็ว่า ผู้ใหญ่หลายคนเยอะ 😅
ผมไปเจอน้องฝึกงานเป็นเจน zที่เห็นเขาก็มีมารยาทแค่เวลาจะสั่งให้เขาทำอะไรต้องอธิบายให้เขาเข้าใจในผลลัพธ์ด้วยมันก็ไม่แปลกป่าวถ้าจะรับคำสั่งไปทำอะไรโดยที่ไม่เข้าใจ
แล้วจะเม้นทำไม เหมือนอยากแอ็คลอยๆพิมเองเข้าใจเอง
@ ไม่เข้าใจยังไงก็ถามครับ
มันอยู่ที่คน เคยเจอเยอะมากชอบถามว่าเอาไปทำอะไร คำตอบที่ได้คือแค่อยากรู้เฉยๆ แต่สำหรับเราถามว่าเอาไปทำอะไร เพื่อที่จะได้รู้ว่าที่เขาจะเอาน่ะมันถูกกับเป้าประสงค์รึปล่าวหรือเรามีอะไรที่เหมาะสมกว่าจะได้แนะนำให้
@@nonnon5978 ใช่ครับการจะทำงานให้ตรงเป้าเราต้องเข้าใจว่าวัตถุประสงค์คืออะไรมุมมองเหมือนกันไหม
จริง ขนาดถามคำถามที่คิดว่าน้องต้องตอบได้ เพราะเป็นงานในรับผิดชอบ แต่น้องไม่กล้าตอบ นิ่ง ถามอีกรอบ น้องพิมพ์มาบอก 😂😂😂😂😂 อยากได้ยินเสียงน้องแบบมั่นใจ อยากโชว์น้องว่าเรามีทีมเก่ง แต่น้องไม่รับมุข 😂😂😂
ผมทำงานมาสิบกว่าปีละ ยังไม่เคยเจอปัญหาเรื่องเจนเลย
ถ้ามีปัญหาส่วนมากจะมีกับคนเจนเดียวกันทั้งนั้น
มันไม่เกี่ยวกับ Gen เลย ไม่รู้ใครไปจำกัดความ ล่าสุดมีคนมาสมัครงานอายุ 35 แล้ว แต่ทำงานเหมือน นอนอยู่บ้าน ไม่สนใจในเนื้องาน ไม่ขยัน นั่งมองเพื่อนร่วมงานทำงาน พอหัวหน้ามาเห็นก็ด่าให้ แล้วก็อ้างว่าเพิ่งมาใหม่ แต่หัวหน้ากลับก็นั่งดูคนอื่นทำงานเป็นแบบนี้ทุกวัน แล้วก็นั่งบ่นไปขับไรเดอร์เหมือนเดิมดีกว่า ได้เงินดีกว่าตั้งเยอะ ไอ้เรา ก็!!! เอ้า ใครไปอันเชิญให้มึงมาทำงานที่นี่ล่ะ วัน ๆ นั่งดูคนอื่นทำงานแล้วยังมีปากมาพูดอีก คนส้น....แบบนี้ก็มีด้วยหรือ เกิดมา 41 ปีแล้ว เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ล่าสุดมันออกไปแล้ว ช่างแม่งงงงงชีวิตของมันเถอะ
ไม่เกี่ยวกับ gen มันอยู่ที่นิสัย ถ้านิสัยเอาแต่ใจ กูคือศูนย์กลาง ความคิดกูถูกต้องเสมอ กูคือสุดยอด แบบนี้ต่อให้เป็นเด็กหรือผู้ใหญ่มันก็ทำงานกับใครไม่ได้
Gen ไหนไม่สำคัญครับ การเคารพกันให้เกียรติกัน ในฐานะผู้ร่วมงาน และทำงานอย่างมืออาชีพ
เราทำงานเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ ธุรกิจไม่รอดเราก็ไม่รอด ใครจะจัดการชีวิตตัวเองอย่างไรก็ตามสะดวก ขอแค่ทำงานอย่างมืออาชีพครับ
อยากแนะนำหนังสือที่สะท้อนเรื่องนึ้ได้ดีมากๆ คือเรื่อง "อีกไม่นานเราจะเป็นมนุษย์รุ่นเดียวกัน "
สิ่งมีชีวิตต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ไม่งั้นก้อสูญตังค์
ประทับใจสโลแกนนี้มากจริงๆก่อนจบรายการที่บอกว่าใช้ปัจจุบันร่วมกันช่วงนั้นทั้งช่วงเป็นmain idea main conceptกับคนทั้งโลกเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะคนประเทศเราครับ
ให้เด็กมันผ่าน ประสบการณ์บ้างเถอะครับ คุณเอาตัวเองไปตัดสินรุ่นใหม่ๆ เหมือนที่รุ่นเก่าๆเขาต่อว่าคุณ เมื่อคุณมีประสบการณ์ผ่านโลก คุณก็เข้าใจหลักเหตุและผลของคนรุ่นเก่า ขณะที่คนรุ่นใหม่ คุณมาบอกไม่เข้าใจ เพราะคุณอาจจะไม่ได้ใส่ใจอยากรู้แนวคิดของเขาไงครับ ให้เขาได้เรียนรู้ครับ ถามเขาก็ได้ จริงๆรุ่นใหม่นะ คุยได้ครับ แต่อย่าเอา ego เราไปคุย เพราะเขาจะไม่คุยด้วย ไม่เปิดใจเพราะเรามีธงของเราอยู่แล้ว
ผมสังเกตหลายๆเม้นก็ทรงEgoสูงๆทั้งนั้นครับ
gen X Y ดีๆมีเยอะที่พร้อมจะเข้าใจคนรุ่นใหม่ คอยสอนงานให้เข้าใจ ไม่ตัดสินจากเเค่เรื่องเจน ผมเคารพพวกเขาครับ😊 เเต่มันจะพวกคนกลุ่มนึงที่ไม่รู้ว่าไปได้ความทะนงตนสูงขนาดนั้นมาจากไหน เเล้วก็โทษคนเจนนู่นนี่ ไม่รู้ไปเจอคนสันดานไม่ดีเลยเหมารวมหรืออะไร😂
ทำให้รู้ชัดได้หลายประเด็นเลยครับ
1. global citizen คำนี้มีผลอย่างมาก แล้วเหนด้วยนะที่มอง gen A กับ Z เปนแบบนั้น
2. ส่วนตัวมองว่าต้องปรับตัวเข้าหากันจริงๆ ชอบคำว่าใช้ปัจจุบันร่วมกัน
3. แล้วเรื่อง gen Gap คือมองเปนอายุไม่ได้จริงๆ ต้นเจนกับปลายเจนคือคนละเรื่องเลย คุยกันต้องปรับอีกมากมาย เปนผลมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สื่อต่างๆ สภาพแวดล้อมในปัจจุบัน
Gen ต่างอาจมีผลบ้างในเรื่องทิศทางแนวคิด แต่ทุกอย่างขึ้นกับสันดานล้วน ๆ ถ้าเป็นคนไม่มีเมตตา ไม่ฟัง เห็นแกตัว -- Gen ไหนก็เลี้ยหู้ เว่ย
ส่วนที่จะต่างมากสุดน่าจะเป็น problem solving skills เพราะเรียนรู้มาต่างกัน
น้าครับ ผมขอปรึกษาหน่อยครับ ตอนนี่ผมเครียดมากๆ ไม่รู้จะทำยังไงดี ผมมีแฟนที่คบกันมาประมาณปีนึ่ง เรามาอยู่กินด้วยกันตอน6 เดือนครับ อยู่กินด้วยกันที่บ้านผม พร้อมพ่อกับแม่ ผมมาจับได้ว่าเขาคุยกับคนอื่น ทั้งๆที่เขาอยู่กินบ้านผม ผมไม่แน่ใจว่าเขาคุยกันมานานแค่ไหนแล้ว แต่ดูลักษณะในแชท เหมือนเขาจะคุยกันมานานพอสมควร แล้วในเวลาที่ผมเผลอ เขาก็จะทักอีกคน ชวนอีกคนไปกินเบียร์ แต่เขาก็เลิกติดต่อกัน เมื่อประมาณ 14 วันที่แล้ว ผมควรจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงครับ
ผม gen z เข้าวงการทำงาน มาปีครึ่ง เปลี่ยนไป3งานแล้ว ไม่ใช่ไม่อดทนนะ แต่เป็นห่วงอนาคตตัวเอง กลัวตัวเองจะไม่เก่งในด้านนั้นๆจบมาอีกแบบใช้อีกแบบ เลยตัดใจย้ายงานจนกว่าจะเจอที่ที่ใช่ ที่ที่สามารถเติบโตได้ happyกับงานที่ทำแต่ยังไม่โดน
ช่วยกัน ทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน มีภาษาเอาไว้สื่อสารก็ ควรใช้ให้จงหนัก ทำไงก็ได้ให้เขาเข้าใจ อาจใช้เวลาหน่อยแต่ ก็ต้องทำแหละ
มันก็พูดได้ยากอะนะ ไอ้คนเก่าคนแก่นี่ก็จ้องแต่จะเอาเปรียบคนรุ่นใหม่ หรือว่าไม่จริง ทำงานกินเงินเดือนเท่ากัน แต่มีอะไรก็โยนงานมาให้แต่คนรุ่นใหม่ เรื่องจริงทั้งนั้น
GenZ เหมือนจะเก่ง เอาดีๆ สมาธิสั้น สนใจอะไรฉาบฉวย ไม่ค่อยฟังคนอื่นยกเว้นเรื่องที่ชอบหรือมีจริตเหมือนกัน ทำงานแล้วเหนื่อยจริงๆ กับ Gen นี้ หวังว่า Gen ต่อไปจะดีขึ้น... ผมทำงานกับทุก Gen ตอนนี้ สรุปได้ประมาณนี้ ผมก็ GenX และผมก็พยายามเข้าให้ได้กับทุก Gen โดยอาชีพ
ผมเห็นด้วยกับน้าครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจนไหน ขอให้เราใช้ชีวิตในช่วงเจนปัจจุบันให้สอดคล้องกัน ต้องทำความเข้าใจ เรียนรู้และปรับตัวเข้าหากัน ไม่เห็นแก่ตัวจนลืมคนอื่นๆในสังคมที่อยู่อาศัยเจนปัจจุบันร่วมกัน ปล..ผมเป็นคนเกิดเจนY แต่มีมีหัวใจความคิดอ่านแบบคนเจนAlphaครับ 😂
ตูนว่ามันขึ้นอยู่กับ นิสัย ส่ิงแวดล้อม สะกี่เปอร์ แล้วยังอื่นๆ กี่เปอร์ดีกว่า มันคือองค์ประกอบหลายๆยัง
เพิ่งสัมภาษณ์พนักงานใหม่ ทำ PowerPoint เป็นไหม เด็กตอบ ใช้แต่ canvas 😅
ผม Gen X ก็ลองใช้ Canva ง่ายดีนะครับ ตอนนี้โยนให้ AI สร้างให้ออกแบบให้เลยยิ่งง่าย งานวางแผน AI นี่คิดหลายด้านกว่าเรามากครับ เราค่อยใช้ประสบการณ์เรามาตัดสินใจอีกที ยังคิดอยู่ว่าเด็ก Gen Alpha ที่ AI น่าจะยิ่งเป็นมากกว่าครูโตมาจะเป็นยังไง
เราเจน Y ทำ PowerPoint ได้ และเรียนรู้กับ Canvas ชอบ Canvas มากเลยสะดวกสบาย ทำได้ในมือถือ
ลองใช้ canva ดูครับ ง่ายดี ชีวิตบางอย่างอย่าทำให้มันยากมากครับ ประหยัดเวลากว่าเยอะ
เรา55 ทำงานกับ35 บางที่เราพูดอะไรแบบของเรา เด็กพวกนั้นมองบน😊😊😊😊แต่ต้องอยู่กันแบบมีรีสเปคนะ ไม่งั้นทำงานแบบไม่มีความสุข
ล่าสุด เด็ก Gen Z จบมา 1 ปี มาสมัครงาน ดูไปร์ไฟล์ละ เงิบหน่อยๆ 1 ปี ทำไป 4 งาน ทำงานนานสุด 3 เดือน พอเราถามว่าทำไมลาออก กลุ่มนี้มักตอบคล้ายกันคืองานหนักเลยออก พ่อแม่ป่วยต้องดูแล ทำธุรกิจส่วนตัว และเลิกงานไม่เป็นเวลา
เราก็บอกแหละที่นึ่ก็หนักเหมือน จะลาออกไหมอะ ( เล่ารายละเอียดงานคร่าวๆให้ฟัง ) น้องก็บอกว่าต้องลองอะ ถึงจะตอบได้ แล้วถามย้อนกลับมา ทำไมถึงอยากให้อยู่นานๆด้วยครับ เออเราเข้าใจในมุมที่น้องถามนะครับ งานไม่ใช่ก็ไม่รุ้จะทนทำไม
แต่มุมองค์กรเราคงไม่มีเวลามาสอนงานเด็กใหม่ทุกๆ 2-3 เดือนหรอก ธุรกิจมันต้องก้าวต่อไป
พี่ก็ขอให้น้องโชคละกัน ^^ พี่ไม่ไม่อาจเอื้อมเอาน้องมาอยู่ในองค์กรหรอกครับ
ทุกยุคทุกสมัยจะมีคือ ถ้ารับเด็กเส้นหรือคนรู้จักเข้าทำงาน เกือบจะ80%มักจะไม่รับผิดชอบในงานที่ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็น ทำงานผิดพลาด แต่คนข้างในบริษัทไม่สามารถว่าได้เพราะเส้นคนนั้น เด็กของคนนี้ ทำงานไม่เป็น บางครั้งตอนออกเอกสารรับสมัครคนนี่โหคุณสมบัติสูงลิ่ว แต่พอคนที่เข้าไปทำงานจริงคือ ต่ำกว่ามาตรฐาน คือวสดท้ายต้องมานั่งสอนทุกอย่าง(รับมาแบบไร้ความรู้ด้านที่ต้องทำ100%) อีกอย่างคือ เมื่อสามรถเข้ามาทำงานได้ง่ายๆ เลยไม่มีความตั้งใจในงานที่ทำ ชุ่ย ขี้เกียจ ละเลย เอางานที่2ที่สร้างรายได้เพิ่มาทำในเวลางาน ผลลัพธ์คือ งานจริงมันจะได้ประสิทธิภาพไหม และมีตัวอย่างให้ได้รับรู้นี่คือความคิดของเพื่อนที่รับราชการกึ่งรัฐวิสาหกิจเคยพูดให้ฟังว่า เนี่ยเดี๋ยวระหว่างทำงานนะจะทำอะไรนี่ขายในเวลางานแหละ(เช่น ปักผ้า ทำพวงกุญแจ หาลายรูปพิมพ์เสื้อ ทำขนมหวานดูยูทูป ) ส่วนคนสมัครจริงๆที่วิ่งหางานงกๆ คือตกงานจ๊ะ
เเล้ว gen z กับ gen alpha ใครจะดีกว่า
เค้าน่าจะเรียกว่า จินตนาการเยอะ กว่า เห็นความเป็นไปได้เยอะ และความเชื่อมั่นสูง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี น่าจะเป็นเรื่องเป็นที่ การเข้าถึงสื่อเทคโนโลยีไม่เท่ากัน
ในมุมมองนึงองค์กร มองว่าแตกแถว ในองกรณ์อาจไม่ชอบ
ในมุมมองคนรุ่นใหม่ ก็อาจจะมองว่า ทำไมมันโบราณ ก็อยากจะเปลียนแปลง
น่าจะแบบนี้แหละมั้งครับ😊
สำหรับคนอื่นไม่รูั แต่ผมรู้สึกโชคดีที่เกิดใน Gen Y
เพราะทัน”แทบจะ“ทุกการเปลี่ยนแปลง
คิดไปคิดมา เรื่องทำงานไม่เป็นคงมีทุก gen แหละ แต่ที่เราเห็นรุ่นที่สอนงานเราเก่งๆ กันทั้งนั้น เพราะเขาผ่านกระบวนการธรรมชาติคัดสรรกันมาแล้ว ดูอย่างรุ่นเราหลายๆ คน ในตอนนี้ ก็ไม่ได้ทำงานตามที่จบมา รุ่นที่เราสอนงานไป พอผ่านไปสักพัก คนที่ทำไม่ได้ ทำไม่เป็น ก็ออกไปทำงานอื่น
อ่านทุกเม้นท์จริงๆ คลิปนี้อยากหาความรู้เพิ่มเติม ประกอบการทำงานร่วมกับผู้อื่นในที่ทำงานครับ จาก genY ตอนปลายๆ😂😂❤❤🎉🎉
เจนไหนใช้เหตุผลได้ดีที่สุด ไม่ใช่ gen baby boommer แน่นอน x ก็พิธีรีตอง ทำแต่อะไรเดิม แล้วคาดหวังผลใหม่ๆ y ดีกว่า x แต่ไม่กล้าปะทะ ไม่กล้าเสนอหัวหน้าว่าไง ก็ว่างั้น เจอเจน z เค้าบวกอะดิ แต่แฝงด้วยเหตุผล ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้น เขาก็ไม่ฟัง y ยังสนับสนุน z เลย บวกเลยหนูๆ เพราะ y ไม่กล้าบวกเอง
Gen Y. ไม่ทนค่ะ 😂😂😂จริง เรามีทางเลือก
ผม2542 ทำงานหนักได้ แต่มีความเบื่อง่าย ถ้ารู้สึกงานหน้าสนใจ ไม่เคยลาเลย แต่ถ้ามันหมดความหน้าสนใจ ไม่เห็นอนาคตตัวเอง ผมก็ถอดเลยทันที เริ่มมองหาสิ่งอื่นที่เราอยากทำเพื่อให้ พัฒณาตัวเองขึ้นไปอีก เช่นผมเนี้ย อยากทำงานออกแบบภายในบ้าน ก็ได้โดนชักชวนไปเป็นพนักงานขาย วัสดุช่างและวัสดุในบ้าน กระจก ปะตูกระเบื้อง ลุดบิด ต่างๆนาๆ ผมเริ่มงานผมตื่นเต้นมาก พอเข้าไป ไอ้นี้ก็น่าสนใจ ไอ้นั่นมีแบบนั่นด้วยหรอ คือทุกอย่างมันใหม่สำหรับผมมาก พอทำงานไประดับนึง ได้รู้ว่าในที่ผมทำมีอีกไรบ้าง รู้พื้นฐานไปถึงลึก ในบ้างส่วน พอผมรู้ครบในความคิดตัวเอฃ ทุกอย่างดูน่าเบื่อ ต้องการจะขยับตัวเองขึ้นไปอีกแล่วมองไม่เห็นอนาคตตัวเองด้วย ไมาเห็นทางจะโตไปได้เงินเดือนหลักแสน และออกมาเพราะได้โอกาศการหาเงิน ที่พอจะมีเงินเก็บ ไปทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ตอนนี้ผมกำลังเก็บเงิน อยู่ครับ ออกมา2ปี ความรู้ยังไม่ได้คืนครับ และบวกกับยุคนี้ ข้อมูลอะไรมันหางานมากๆๆ ได้มีโอกาศ โหลดแอพมาออกแบบ ในสิ่งที่คิดแล้ว ขนาดที่ใช้ของจริงทั้งหมด เลยได้ออกมาแบบมา2แบบ ให้คนอื่นดูมันก็สวยละ แต่มันซ้ำ กับคนอื่นเยอะ เลยต้องการหาความรู้เพิ่มเติมครับ
และในหัวผม ไม่มีความคิดจะติดหนี้ พวกรถ หรือ บ้าน เพราะมันคือการปิดกั้นการเติมโตหน้าที่ทางการงานของผม เหมือนปิดประตูที่จะเติมโต ไม่สนใจ หน้าตาทางสังคม ไม่มีรถ ก้ไม่ได้ดิ้นรนอยากได้ ไม่มีบ้านบ้าวครั้งยังคิดว่าดี ที่ไม่มีหนี้ก้อนใหญ่
เด็กเดี๋ยวนี้บางอย่างไม่ต้องสอนแล้ว เช่นเทคโนโลยีบางอย่างเด็กเก่งกว่าเราอีกเรียนรู้ไหวขาวอย่างต้องสอนเราอีกตังหาก
ผมเจน Y ตรงกับที่น้าเนคว่า คือ ไม่ค่อยจะอดทนกับอะไรที่ไม่ใช่ เพราะมีความสามารถหลายอย่าง... ทำงาน 2546 เปลี่ยนงานเปลี่ยนที่ทำงานมาแล้ว 14 ที่ ^_^
นำ..พุทธวจน..นำทางชีวิตกันครับ
ไม่ว่าจะ Gen ไหน ว่ากันให้มากเลย อย่าเหมารวมด้วย จะดีที่สุด เพราะต้องใช่ชีวิตอยู่บนสังคมโลกเดียวกัน
เจนเบบี้บูมด่าเจน Y ว่ากาก
เจน Z ด่าเจน Y ว่าแก่เชื่ิองช้า
เจน Y รับจบ😂
มันไม่ใช่เพราะ Gen แต่เป็นเพราะเขายังอายุน้อย
ผมGen Z เกือบซัดกับคน Gen X ไม่เกี่ยวกับที่พี่ในทีมนะคับ แต่เกี่ยวกับลูกค้า ตอนทำงานผมอย่างตอบอย่างละสุดท้ายก็ต้องถามใหม่ งงจริงๆ
ใช่คับขนาดผมอ่านยัง งงๆเลยคับพี่Gen z
@@Wdnz972 งงจริง ไม่เกี่ยวกับ gen แล้วล่ะงี้ น่าจะสื่อสารหลอน 55555555
ไม่ตั้งใจที่จะทำความเข้าใจนะซิ คิดว่าตัวเองเข้าใจแล้ว พอเกิดปัญหาขึ้นถึงล่ก จริงๆไม่เข้าใจต้องถามตั้งแต่ลูกค้าอธิบายจบแล้ว อีกอย่างหลังคุยจบแล้วต้องมีการอธิบายทวนซ้ำว่าเข้าใจตรงกัน หนทางอีกยาวไกลอย่าเพิ่งมั่นใจว่าจะถึงปลายทางแน่ๆ
ช่วงนี้มีคลิปเรื่องเจนเยอะเลย ผมพูดเลยว่าแต่ละเจนมีความต่างกันค่อนข้างมาก ทั้งนิสัย ความคิด และการใช้ชีวิต แต่ๆๆๆๆนั่นมันเรื่องทั่วไป ถ้าตีกรอบลดลงมาที่การทำงาน มันต่างออกไป ถ้าใครที่เปิดบิรษัทขึ้นมาด้วยตัวเอง กว่าจะเซตให้ระบบการทำงานมันให้เข้าที่ก็เรียกได้ว่าเหนื่อยมากเลย คราวนี้มาพูดถึงเด็กเข้าใหม่ คนมักจะมองกันแต่ระดับลูกจ้างกับหัวหน้า แต่ไม่ได้พูดถึงเจ้าของบริษัทกันเลย ผมบอกให้เลยว่าทุกคนต้องการคนที่ทำตามที่สั่งไปได้ เพราะว่าเขาเป็นคนจ่ายเงินเดือน ถ้าจ่ายไปแล้วไม่ได้งานไม่ได้กำไร จะจ้างไปทำไมล่ะ อย่าลืมว่าวันที่เด็กเจนZพึ่งเข้าไป บริษัทมันก็อยู่ของมันได้อยู่แล้วก่อนที่จะรับคนเพิ่มเข้ามา คนที่เข้ามาใหม่ต้องปรับตัวให้ได้ และทำตามเป้าหมายให้ได้ ส่วนเรื่องความคิดเห็นถ้าไม่ได้เข้าไปตำแหน่งบริหารก็ทำงานของคุณไป ถ้าเห็นว่าอะไรมันน่าจะดีกว่า บอกหัวหน้าให้ส่งเรื่องมาที่ฝ่ายบริหารก็ได้ แต่จะทำไม่ทำก็แล้วแต่ฝ่ายบริหาร
พ่อแม่เลี้ยงให้เหมือนเป็นเจ็นตัวเอง เพราะกลัวลูกใช้ชีวิตไม่รอด
แบ่ง Gen เหมือนคือการแบ่งแยก สู่ไม่มี Gen ให้คิดดีกว่า มันอยู่ที่ตัวคน บางคนG alpha โตกว่า Gen x y อีก มันอยู่ที่คนครับ ใครคือคนแบ่งแยก Gen หรอ ดูเหยียดอายุเหยียดคนภายนอกไปหน่อยไหม ยังไงก็มนุษย์อยู่ร่วมกันอะครับ ถ้าให้เกรียรติ ให้ความเข้าใจ
ที่เค้าแบ่ง gen เค้าไม่ได้มานั่งเหยียดอะไรครับ 😅 มันเป็นการจำแนกกลุ่มเป้าหมายตามช่วงอายุ เช่นคุณจะทำตลาดที่อยู่อาศัย แต่ละ gen ก็จะมีความต้องการตรงนี้ไม่เหมือนกันครับ
คุณคิดลบเกินไป ครับ ที่เอามาพูดเพราะจะได้รู้คร่าวๆว่าคิดยังไง จะได้ปรับตัวหากัน นี่พูดกันในกลุ่มคนทำงาน ที่ต้องเจอกับคนต่างวัย ถ้าไม่พูดจะไปรู้ได้ไงว่าคนอายุต่างกัน 20-30 คิดยังไง
คุยเร่ื่องแบบนี้หาจุดกึ่งกลางไม่ได้หรอก
ปัญหาของทุกเจนคืออีโก้ ตัวนีัล่ะที่ทำให้คนจะอยู่เจนไหนก็ไม่ค่อยเปิดใจ
โลกจะสงบสุขและน่าอยู่มากขึ้นคือรู้จักและทำหน้าที่ตนเอง แค่นั้นๆจริง
ปลาย GEN Y พอดีเลย แต่แอบคล้าย GEN Z
เจนอัลซีกับอัลฟ่า ของแก๊งน้ำไม่อาบเค้าเก็ตไหมครับในสิ่งที่น้าพูด
ONE🎉
Gen Y ค่ะ ( 2529 )
Gen y วัยรุ่น90โว้ย
เสียงคุ้นๆ / เจอกันที่ไซต์
555วงการอะไรยังดื้ออยู่เลย
Gen Y ตรงมากครับ
ผมมองว่า สิ่งที่ทุก Generation สามารถทำร่วมกันและมีมุมมองไปทางเดียวกัน คือ กีฬา หรือการออกกำลังกาย
หื้มม คิดใหม่ไอสอง
เป็น 15 นาที ที่มีคุณค่าและคู่ควร กับการรับฟัง
Gen Z
เก่งมาก รู้ดี เงื่อนไขเยอะ
อย่าเป็นลูกจ้างเลย เปิดบริษัท ทำเอง ถ้าเก่งขนาดนี้
ลองให้ออฟไลน์ดู จากเก่งจะกลายเป็นเจ๊งทันที เพราะจะบอกได้แค่ว่าตัวเองจะเอาอะไร 😂😂
Gen X & Baby Boomer ในที่ทำงาน = ไดโนเสาร์
ดี
ผม Gen SSR ครับ😊😊😊
สายกาชาก็มา😂
คนแรกเล ย ย ยย
พี่ไม่เชื่อ
คนแรกเป็น GAE
♥️
😅
คนโบราณ Gen อะไร
X
เหตุผลเยอะครับ เด็กรุ่นใหม่เหตุผลแน่นมาก ใครสั่งใครพูดตามอารมณ์ไม่สมเหตุสมผลจะโดนด่าเอาได้
Baby Boomer Gen-X Gen-Y แนะนำว่าให้แก่ไปแบบมีคุณภาพอย่าแก่ไปแบบ กระโหลกกระลา แก่แบบให้เด็กไหว้ จะดีมากอย่าแก่ไปแบบเด็กมันด่าลับหลับ
ลองกลับมามองตัวเองบ้าง อย่ามั่วแตโทษคนอื่น
อันนี้คือคุณโจเขาเล่าปัญหาแล้วใช่ไหมอ่า? 😅 เหมือนเขาโทรมาฟังวิธีการแบ่ง Gen
ผม GenY ทำงานกับพวก Gen Z ...น่ารำคาญมาก
เจน Z ถูกหล่อหลอมจากอินเตอร์เนทจึงมีลักษณะเช่นนั้น
ดังนั้นคนเจน Z ในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีอินเตอร์เนท จึงไม่มีลักษณะดังกล่าว