Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
ต้องดูเป็นกรณี ถ้างานไม่ซับซ้อนไม่เร่งเลือกคนโง่แต่ช่วยครับ เพราะพอจะสอนได้ ช่วยหยิบจับ ถ่ายเอกสารก็ยังดี ทำให้เราไม่เหงาถึงเค้าทำผิดแล้วเราต้องมาแก้ แต่เราสามารถประเมินได้ว่าเรื่องไหนเค้าไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ คราวหน้าก็ไม่ต้องให้ทำเรื่องนั้นแต่ถ้างานซับซ้อน สำคัญ เร่ง อย่าเลือกคนโง่ เพราะไม่สามารถสอนให้เข้าใจได้ และทำให้งานพัง ยกตัวอย่าง โปรแกรมหรือสูตรอะไร ถ้าไปแก้มั่วตรงไหนไม่รู้แล้วเซฟทับ จบเลย หรือให้ไปสร้างบ้าน อาจถล่มหรือแก้ไขยาก
จริงนะ
เเต่คนฉลาดไม่ยอมให้โดนใช้ง่ายๆ ต้องมีข้อเเลกเปลี่ยนหน่อย
อยากเจอทั้งคู่ครับ เอาคนโง่มารวมกัน ก็โง่อยู่อย่างงั้นถึงจะบอกว่าช่วยกันศึกษาได้ แต่การทำงานจริงๆไม่มีใครมารอคุณศึกษาหรอก แต่ถ้ามีแต่ฉลาดแต่เห็นแก่ตัวมารวมกันก็เหมือนเดิมสั่งอย่างเดียวไม่มีใครลงแรงเพื่อส่วนรวมก็ล่มเหมืแนกัน ไม่มีใครอยากเหนื่อย อยากสั่งอย่างเดียว สรุป อยากเจอทั้งคู่ครับ รวมๆกันช่วยกันขับเคลื่อน
เคยอ่านมา ระหว่างคนฉลาดแต่ขี้เกียจ กับคนโง่ แต่ขยัน จะเลือกใคร หลายคนตอบว่าเอาคนขยัน แต่จริงๆขยันกับพัฒนาตัวเองมันคนละบริบทกัน สรุปในนั้นมันบอกประมาณว่าให้เลือกคนฉลาด เพราะคนโง่ที่ขยันมักจะขยันทำแต่เรื่องโง่ๆ ตอนนั้นก็คิดนะว่าเราจะไม่ให้โอกาสเขาเหรอ จนมาทำงาน จนได้มาบริหารคนแล้วเจอจริงๆ คนขยันแต่แบบขยันอย่างเดียวแล้วไม่สนไม่คิดอะไรเลย ทำจนงานเสียงานล่ม พูดอธิบายอะไรก็ไม่เข้าใจ มันยิ่งพาให้เราเหนื่อยต้องคอยตามล้างตามเช็ด อันนี้ส่วนตัวนะ รู้ว่าอาจไม่เกี่ยวกับคลิปแต่ดูแล้วนึกถึงก็เลยอยากแชร์ฮะ
เห็นด้วยครับ เพราะ คนขี้เกียจจะหาหนทางที่สบายที่สุดในการทำงาน💪🗿
เคยเจอคนฉลาดแล้วทำงานค่อนข้างตามใจตัวเอง ผลสรุปคืองานออกมาดีจริง เพราะมันฉลาดรู้หมดเลยพรีเซ้นแบบนี้ครูชอบ แต่งแบบนี้ได้คะแนนเยอะแน่ๆ พูดแบบนี้จะทำให้ครูประทับใจแน่ๆ เราโคตรชอบอะ เพราะงานมันออกมาดี ส่วนตัวนี่ไม่ติดเลยว่าจะเป็นคนแบบไหน ขอแค่งานไปออกมาดีก็พอปะ
ฉลาด แต่ เห็นแก่ตัว ยังไม่เท่าไหร่ แต่ ฉลาด แถมยัง ชอบ หาโอกาศ เอาเปรียบ คนอื่น ตลอดเวลา นี่สิ ที่ไม่อยากเจอ
นั่นแหละเห็นแก่ตัวแต่เป็นเห็นแก่ตัวขั้นสุดสเตตัทเห็นแก่ตัวเต็มหลอด555
ไม่อยากเจอคนโง่ แต่ขยัน เพราะมักจะมาช่วยแบบไม่จำเป็นและไม่เข้าใจ บางทีเรื่องใหญ่กว่าเดิมแต่คนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว ก็แค่พวกเก่ง แต่ไม่ช่วยคนอื่นเฉยๆแต่ก็ยังดีที่มันไม่ทำให้แย่ลง(บางที เรื่องบางเรื่อง การมาช่วยมันน่ารำคาญ คนฉลาดจริงเขาก็จะรู้ว่าไม่จำเป็น)แล้วสำหรับผม ผมมองคำว่า เห็นแก่ตัว กับ เอาเปรียบคนอื่นต่างกันครับส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบง้อให้คนอื่นช่วย แล้วต่อให้ผมจำเป็นต้องได้รับ แต่ไม่มีใครช่วยก็ไม่โกรธครับ
ทุกคนต่างโง่และฉลาดต่างเห็นแก่ตัวและช่วยเหลือ ไม่มีใครแยกได้หรอก บางคนฉลาดเรื่องการเงินแต่โง่ในเรื่องงานบ้าน อยากเห็นแก่ตัวในเรื่องตัวเอง และอยากช่วยเหลือในเรื่องที่เราช่วยได้
ใช่ เอาจริงเริ่มต้นที่เราต้องทันคน รู้ว่าแต่ละคนถนัดและมีความสามารถอะไร เวลาขอความช่วยเหลือจะได้ติดต่อ ขอช่วยถูกคน
มากน้อยแล้วแต่คน555
นี่สังเกตุรอบตัวตัวเองเลยนะ เอาจริงๆตอนเรียนมัธยมเจอคนหลายแบบมาก และในห้องเราเป็นห้องต้นของสายชั้น แบบรวมท๊อป50คนแรกที่สอบเข้าได้ ซึ่งส่วนใหญ่ในห้องจะเป็นคนเก่งๆที่แบบค่อนข้างเห็นแก่ตัว ใครจะทำได้ไม่ได้ก็ช่าง ไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันทำได้ก็พอ อะไรประมาณนี้ จะไม่มีหันมาถามเพื่อนว่าเข้าใจมั้ย หรือเวลาเพื่อนถามก็ไม่ค่อยอยากจะตอบหรอก แต่คนที่ได้ท๊อปห้องในห้องเรา คือเป็นคนที่เก่งมากๆ รอบด้านเลย เราสังเกตุเวลาคนไปถามเขา เขาก็คือจะบอกละเอียดยิบ ติวให้เพื่อนบ้างบางที ดูไม่ค่อยหวงวิชาแบบคนจำพวกบน เอาจริงๆคือหายากมากนะที่จะเจอคนเก่งแต่ไม่เห็นแก่ตัวอะ และคนที่เก่งแบบเก่งจริงๆ ส่วนมากที่เห็นคือไม่เห็นแก่ตัวเลย แต่ก็จะมีพวกที่หัวดีกลัวคนอื่นจะรู้มากกว่ารึเปล่า เลยเห็นแก่ตัว?
อันนี้เราขอตอบในฐานะคนเคยเห็นเเก่ตัวเเบบนั้นนะคะ คือในหัวตอนนั้นที่เราเห็นเเก่ตัวเรารู้สึกว่าเรียนก็เรียนพร้อมกัน เวลาเท่ากันเเถมเราบางวันก็ไม่ได้ว่างต้องทำขนมช่วยย่าไปขายตลาด เราก็ยังมีเวลาเรียนมีเวลาทำการบ้าน เเต่พอมีคนมาถามมันจะหงุดหงิด ไม่ได้หวงนะ เเต่หงุดหงิดจริง ๆ เเบบเคยใจเย็นอธิบายละไม่เข้าใจ ละเราไม่ชอบอธิบายอะไรยิบย่อยขนาดนั้นอะ กลายเป็นว่าไม่ชอบสอนคนอื่น เพราะในหัวเรามันคิดได้เเล้วทำได้เเล้วเเต่คนอื่นไม่ได้ดั่งใจจะนิสัยไม่ดีใส่ พอโตขึ้นก็ได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่างปรับมัศนคติตัวเองเอา ใจเขาใจเรา เราเลยค่อนข้างใจเย็นมากกว่าเเต่ก่อน เข้าใจคำว่าวุฒิภาวะเลย
คิดเหมือนคนที่มาตอบเม้นท์นะ เพราะถ้าเอาจริงๆ เขาไม่ได้เห็นแก่ตัวนะ เรื่องนี้มันต้องอยู่ที่ความรับผิดชอบของเรา อย่างห้องมีแต่คนเก่งถูกไหม คนเก่งอ่ะคุณเขามีวิธีที่เข้าใจแตกต่างกัน ถ้าคุณให้เขาอธิบายแล้วคุณไม่เข้าใจ เขาจะหงุดหงิดก็ไม่แปลก เผลอๆเขาจะมองว่าเราไม่ตั้งใจเรียนด้วยซ้ำ เรียนพร้อมกันเวลาเท่ากัน ถ้าคุณไม่มามันเข้าใจได้ แต่ถ้ามาเเล้วไม่เข้าใจมันก็จะเหนื่อย แนะนำให้ฝึกพื้นฐานแน่นๆ หาสไตล์ความเข้าใจดู เเล้วจะรู้ว่าเรียนเเล้วรู้สึกสบายๆเป็นยังไง ปล.พูดถึงมุมมองคนที่จะสอนเพื่ิอนเวลาเพื่อนไม่เข้าใจ เพราะเราก็เคยเป็นคนที่ไม่เข้าใจอะไรเลย เเต่พอหาสไตล์ได้ก็สอนคนอื่นได้สบายเลยเพราะเราเข้าใจ
@@stop3564 อะ โอเค คือจะไม่โกรธเลยนะถ้าเพื่อนอธิบายให้ฟังแล้วตัวเองไม่เข้าใจ เพราะมันก็ไม่ใช่ความผิดเพื่อนอะ แต่แบบ บางครั้งลืมเนื้อหาและพอไปถามนิดหน่อยคือหงุดหงิดใส่ ถอนหายใจบ้าง อันนี้แอบโกรธอะเอาจริง ถ้าขก. หรือไม่อยากคุยก็คือปฏิเสธไปเหอะ แล้วเราเป็นพวกถนัดคณิต ฟิสิกส์ พอเราเข้าใจแล้วมีคนมาถามก็บอกดีๆได้อะ คือแค่อธิบายให้เพื่อนเข้าใจมันไม่ได้ยากขนาดนั้นสำหรับเราอะ จะไม่โกรธด้วยถ้าเขาไม่เข้าใจ แต่พวกแบบ ถามแล้วหงุดหงิดคืออย่าตอบเลย ปฏิเสธดีๆได้นะ
เคยอ่านเจอในหนังสือเล่มนึง เกี่ยวกับการทำงานใหญ่ คนที่อันตรายกว่าศัตรู ค่อคนโง่ เพราะศัตรูเราระวังอยู่แล้ว แต่คนโง่มองแล้วไม่มีอันตราย เลยทำงานชิบหายได้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะงานองค์กรหรืองานช่าง งานช่างนี่ตัวดีเลย คนไม่ทำงานไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว แต่คือคนขี้เกียจ ถ้าเรามอบประโยชน์ให้ได้ ถึงจะเห็นแก่ตัว เขาก็ต้องช่วยอยู่แล้ว เพราะเขาเห็นแก่ตัวเองไง ตัวเขาได้ประโยชน์ เขาเลยช่วย
ผมเลือกฉลาดแต่เห็นแก่ตัวครับ เพราะส่วนตัวผมคิดว่าผมนี่แหละคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว😂(ความคิดส่วนตัว) ถ้าเจอพวกเดียวกันก็น่าจะคุยกันได้ (มั้ง) แต่ไม่เอาคนโง่ที่ชอบช่วยเหลือแน่ๆแหละเพราะมีประสบการณ์ตรง มีตอนนึงทำงานกลุ่มกำลังไปได้ดีแล้วมันมาพังตรงที่ผมดันเอางานของผมไปให้คนนึงที่ไม่ค่อยเก่งทำ(เพราะว่าขี้เกียจ)แล้วมันก็อยากช่วยด้วยก็เลยให้ไปทำงานอย่างนึงแทนเรา สรุปออกมาพังแก้เกือบไม่ทัน ไม่น่าเลยผม ถือว่าเป็นบทเรียนไปละกัน
8:00 มูด้าในภาษาญี่ปุ่นมันแปลว่าเปล่าประโยชน์ หรือ ไร้ประโยชน์ น่ะครับ ( จำมาจากอนิเมะแปลผิดขออภัย😔 )
ผมช่วยเหลือคนอื่นเพื่อให้ตัวเองมีความสุข เพราะพอเห็นแก่ตัวแล้วรู้สึกว่าเจ็บปวด ผมเน้นทำแล้วสบายใจ เป็นมิตรต่อผู้อื่น มันทำให้เราอยู่สบาย แล้วสังคมที่เราอยู่ดูเหมือนจะมีคนมองเห็นข้อดีของการทำดี จึงลองดูแล้วมันก็ดีงาม
เฮ้อโชคดีไป ผมโง่แถมเห็นแก่ตัว
55
บางที่ถ้าคนฉลาดให้คนโง่ช่วยเหลือแบบฉลาดๆ ก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไรนะครับ แบบว่าอย่างน้อยๆให้คนฉลาดได้ทำงานสบายขึ้น หรือเลือกให้ช่วยอะไรที่ไม่น่าจะก่อให้เกิดปัญาหา วินวินได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
คิดเหมือนกันเลยค่ะ คือง่ายๆเราเองอะต้องฉลาดและรู้จักตัวตนคนรอบว่าฉลาดและถนัดเรื่องไร จะได้ให้เขาช่วยเราถูก
สำหรับผมคือ ไม่อยากเจอคนที่ *โง่แต่ชอบช่วยเหลือ* เพราะผมไม่ชอบพึ่งพาคนอื่น ส่วนคนที่ฉลากแต่เห็นแก่ตัว ถ้าเรามีเป้าหมายเดียวกัน ถ้าต่างฝ่ายต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน มันก็ต้องช่วยเหลือกันกลับกันถ้าไม่ได้มีผลประโยชน์ร่วมกัน ก็ขอไม่รับความข่วยเหลือดีกว่า ถ้ามีคนถามว่าแล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุนี่ไม่ต้องขอความข่วยเหลือหรอ สำหรับผมมองว่าความเห็นแก่ตัวไม่ได้แปลว่า ไม่อยากช่วยเหลือหรือเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัวอย่างอย่างเดียว
นั่นสิ ถ้าพวกเห็นแก่ตัวมันชั่งใจได้ว่าถ้าช่วยคนตอนโดนรถชนแล้วจะมีคนเอาภาพมันลงโซเชียลมันก็อาจจะช่วยก็ได้ แต่ยังไงมันก็แล้วแต่สถานการณ์ ถ้าผลประโยชน์ร่วมกันก็เอาฉลาดแต่ถ้าวิกฤติจริงๆเอาคนโง่ หรือเอาคนโง่มาคุมไว้สร้างภาพลักษณ์ให้คนโง่มองเราดูดีมันก็ยิ่งตลั่งเราแบบนั้นก็ได้เป็นอีก1ทางเลือก สรุปแล้วเราๆก็เห็นแก่ตัวแหละครับ5555
(Not all) ถ้าคุณเป็นฉลาดแล้วยังชอบช่วยเหลืออีก รอบหน้าคิดหรอว่ามันจะนึกถึงบุญคุณของคุณ แต่มันจะขอให้คุณช่วยมันอีกไปเรื่อยๆต่างหาก โลกมันไม่ได้สวยงามแบบนั้นกับทุกคน
สำหรับคอมเม้นคนที่ไม่อยากเจอโง่แต่ชอบช่วยเหลือนะ ผมเห็นด้วยนะ แต่บางอันมันเม้นจนเหมือนตัวเองเห็นแก่ตัวอ่ะ
สรุปได้เข้าและดีทุกๆ ประเด็นเลยคะ❤❤
เรามีเพื่อคนหนึ่งเรียนเก่งมากกก ได้ที่1ตลอดเเต่เห็นแก่ตัว เหยียดเพื่อนตัวเองหนักมาก จนเราทนไม่ไหวเลยพยายามเป็นคนฉลาดพยายามเรียนหนักขึ้นและไปช่วยเพื่อนแทน ถึงจะไม่ฉลาดเท่าเพื่อนคนนั้น แต่เราก็มีความรู้มากพอและอยากช่วยเพื่อนคนอื่นๆ
ถ้าเป็นผมที่ไม่อยากเจอจริงๆก็คือ ฉลาดแต่เห็นแก่ตัว นี่แหละ ต่อให้คุณจะฉลาดมากน้อยเพียงไหน แต่ถ้าสักวันนึงเขาแบบเห็นแก่ตัวกับตัวเองจริงๆ คือมันไม่ไหวว่ะ ผมเลือกคบที่โง่แต่ชอบช่วยเหลือ จะดีกว่า ต่อให้คุณโง่แค่ไหนแต่ถ้าแบบชอบช่วยเหลือเราได้ทีละนิดหน่อยมันก็ยังดีกว่านะ อย่างไรก็ตามในชีวิตจริงผมคงไม่เลือก 2 อย่างนี้หรอก ขอบคุณมากครับ ฟังจนจบคลิปเลย
เอาจริงๆคิดว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าเราจะเป็นแบบไหน แต่ประเด็นสำคัญที่สุดคือทุกคนแม่งต้องรู้จักเป็นคนรับฟังผู้อื่น คือถ้าเราเป็นคนโง่ แต่เผือกอยากช่วยเหลือคนอื่น แต่เขามองเห็นว่า เราไม่มีความรู้ ความสามารถ ในด้านนั้น แต่เราแม่งดันดื้อดึงที่จะทำ ไม่ยอมฟังบ้าอะไรเลยนั้นก็เท่ากับว่าคุณกลายเป็นคนดูแย่ โดยปริยาย เพราะการฝืนทำในสิ่งที่ไม่รู้ มันจะทำให้แย่ลงและไม่ประสบความสำเร็จหรือสำเร็จได้ยากส่วนถ้าเป็นคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวแน่นอนคนพวกนี้ อาจจะไม่ได้เลวร้ายมากถ้าไม่ได้เอาเปรียบผู้อื่น อาจจะแค่เห็นแก่ตัวเองมากก็เท่านั้น แต่คนพวกนี้ก็จะกลายเป็นคนโง่ทันที ถ้าไม่รู้จักรับฟังความคิดเห็นใครเลย คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าความรู้ความสามารถที่คุณมีอยู่ เป็นสิ่งดีที่สุดและถูกต้องที่สุด เพราะ อาจจะมีความรู้ ความสามารถต่างๆ ที่ถูกต้องและดีกว่าความรู้เดิมๆที่คุณมีอยู่ณขณะนั้น ก็เป็นไปได้ * การรับฟังความคิดเห็นผู้อื่นจะช่วยพัฒนาศักยภาพของคุณ
ถ้าเลือกคบ เลือกสนิทกับคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือ ถ้าเลือกทำงานก็เลือกคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว แต่คน2ประเภทนี้ถ้าไม่รู้จักรับฟังก็คงใช้ชีวิตร่วมกับเรายากหน่อยนะ เพราะดีแค่ไหนไม่รู้รับฟังก็อาจจะตัดออกจากชีวิตเพราะToxic แต่ถ้าทำธุระกิจถ้าเป็นหัวหน้ามีลูกน้องเห็นแก่ตัวที่ฉลาดแต่ไม่รับฟังเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานเลย ก็ไล่มันออกมันค่ะ เสียเวลาเปลื้องแรงต่อกร งานเดินไปช้าเพราะมั่วแต่เถียงกับมัน
คำถามนี้ถ้า 2 คนนั้นคือคนประเภทแบบสุดโต่ง ประมาณว่า ฉลาดแต่เห็นแก่ตัวก็เป็นงี้เลย 100% กับโง่แบบเข็ดไม่ขึ้นเลยแล้วยังทำงานเสีย คงต้องขอดูสถานการณ์ก่อนจริง ๆ ค่ะ ถ้าเป็นเวลาปกติคงเลือกคนโง่แต่นิสัยดี สะดวกใจกว่า เพราะถึงจะปวดหัวแต่ก็ไม่ได้อยู่ระดับปสดแบบคนแรกที่ต้องมานั่งคิดว่าจะโดนเล่นงานเมื่อไหร่ แถมช่วยไปก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายเวลาอะไรขนาดนั้นด้วย แต่ยอมรับจริงว่าโคตรปวดหัวจนแทบอยากจะดึงหูมาแล้วถาม ทำเห้ไรของเมิงงงง แต่ถ้างานที่ได้มามันคืองานที่ทั้งยากและเครียด ขอเลือกฉลาดแต่เห็นแก่ตัวดีกว่าค่ะ (ในกรณีที่เค้าเก่งกว่าเรานะ)แต่จริง ๆ เรื่องนี้มันควรเอาข้อดีกับข้อเสียในกลาย ๆ บริบทมาชั่งน้ำหนักค่ะ เพราะนิสัยคนเรามันไม่มีทางสุดโต่งขนาดนั้น กับคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวบางคนเค้าอาจจะไม่ได้สุดโต่งขนาดนั้น เค้าอาจจะอยู่ระดับที่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ ต้องการงานให้ออกมาดี ไม่เคลมงานของเราเป็นของเขา แค่นิสัยส่วนตัวเวลาคบเป็นเพื่อนมันอยู่ด้วยกันไม่ได้ อันนี้ก็ถือว่าไม่ได้แย่ค่ะสำหรับการร่วมงาน แต่กับคนโง่แต่นิสัยดีบางคน ความโง่ของเค้าอาจจะไม่ได้อยู่ในระดับเข็นไม่ขึ้น เค้าอาจจะยังสอนงานให้กลายเป็นคนเก่งได้ แต่บางคนคือเข็นไม่ขึ้นจริง ๆ โง่ยังไงก็โง่อย่างงั้นไม่คิดจะพัฒนาตัวเอง เห็นงานยากหน่อยก็บอกว่าทำไม่ได้แล้วทั้งที่ยังไม่เคยลอง สอนงานก็ไม่รอดเพราะเอาแต่คิดว่าทำไม่ได้ แล้วดันทำงานพังอีก ถึงจะไม่เคยคิดร้ายกับใคร คนประเภทนี้คบเป็นเพื่อนจะดีค่ะแต่ทำงานร่วมกันไม่ได้อะ เสริมประสบการณ์ที่เคยเจอให้ บางคนเค้าไม่เคยคิดร้ายกับใคร แต่ก็โง่ระดับที่ทำงานไม่ได้ ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ดันทำให้งานมันพังกว่าเดิมจนต้องเหนื่อยแก้แล้วโดนบอกให้อยู่เฉย ๆ ดีกว่าไม่งั้นงานจะพังกว่าเดิม แต่ดันขยันเลยไปทำงานส่วนอื่นเรื่อย ๆ พยายามเตือนแล้วสอนงานแล้วก็ไม่ฟัง แล้วพองานเสร็จก็เคลมงานทั้งหมดคือเค้าทำเองคนเดียว หรือคิดว่าตัวเองทำงานหนักสุด เพราะเค้ารู้สึกว่าตัวเองทำงานเยอะมากไปช่วยคนอื่นทุกส่วนของงานเลย แบบนี้ก็มีค่ะ เป็นประเภทที่ขอบาย ไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่ผลออกมามันส่งผลกระทบต่อคนอื่น เหนื่อยกายแล้วยังต้องเหนื่อยใจอีก
การที่อยากช่วยเหลือคนอื่น แต่กลับโดนด่าว่าสะเหล่อนี่ โคตรเกินไปจริงๆ พูดกันดีๆก็ได้ว่าไม่อยากให้ช่วย
ไม่อยากเจอคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว เพราะรู้สึกเหมือนเจอตัวเอง คนเรามักไม่ชอบคนที่มีนิสัยเหมือนตัวเอง
ที่จริงอะไรก็ได้นะ เพราะต่อให้เจอคนที่ฉลาดแค่ไหน แต่เราก็ต้องฉลาดกว่าสิ คำถามคือ แล้วฉลาดคืออะไร... บวกเลขเก่งหรอ?แต่ใจจริง อยากช่วยคนโง่แต่มีน้ำใจมากกว่า คือยากดูแลเขาเพราะสงสาร "เพราะคนดีสำคัฐที่สุด"
เห็นด้วยกับพี่ BTS ครับ เห็นภาพชัดเจนมาก เจตนาดีแต่เพราะไม่มีความรู้เลยทำให้สถานการณ์แย่ลง
ขอเลือกคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวดีกว่า ส่วนตัวผมเป็นพวกชอบทำอะไรคนเดียวเพราะเวลาทำอะไรเอง มันทำอะไรที่วางแผนไว้ได้ดีกว่าแต่ถ้ามีคนมาช่วยแล้วทำให้ผมผิดแผนที่วางไว้มันหน้าหงุดหงิดนะหรือต้องมานั่งอธิบายให้ฟังตลอดมันก็เสียเวลา แต่ถ้าต้องการความช่วยเหลือจริงๆยังไงก็ขอเลือกคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวมาช่วยดีกว่าขอแค่มีผลประโยชน์ให้มันก็ช่วยแล้วแถมไม่ต้องอธิบายให้มากความเพราะอย่างน้อยถ้าพวกฉลาดก็คงคำนวณผลที่จะเกิดได้แหละ แต่ยังไงก็ขอเก็บไว้เป็นตัวเลือกอยู่ดีเพราะทำอะไรเองมันก็ไม่ต้องกังวลคนอื่นอะ
ไม่มีใครอยากเจอคนทั้งฉาดและชอบช่วยเหลือคนบ้างหรอคะเนี่ยยยยยยยยย แต่จริงๆมีคนที่เราเอ่ยมานี่แหละ แค่ไทยเราส่วนใหญ่ยังหาไม่เจอเฉยๆ เจอแต่ได้อย่างเสียอย่าง
ดูคลิปนี้แล้วคือใจมันเปลี่ยนฝั่งไปมาอ่ะ55555 ช่วงแรกคือพยักหน้าเห็นด้วยสุด ๆ เกลียดคนเห็นแก่ตัว แต่พอฟังช่วงหลัง ก็ เออ ก็จริงนะ55555
ว่าก็ว่าเถอะ แค่ผมเห็นหัวข้อก็แทบจะไม่ต้องคิดเลยกับตัวเลือก"ฉลาดแต่เห็นแก่ตัว" เพราะทำให้ผมนึกถึง ตลค.ตัวนึงในอนิเมะเรื่อง Dr.stone ซึ่งมันเป็นคำที่ตรงกับบุคลิคของ เซ็นคู มากเซ็นคูเป็นคนที่ฉลาดมากและมีความอัจฉริยะในเรื่องของวิทยาศาสตร์ขั้นลึกในหลายแขนง ตั้งแต่สิ่งประดิษฐ์เล็กๆ การสร้างที่อยู่อาศัย อุปกรณ์อำนวยความสะดวก สร้างไฟฟ้า ยานพาหนะ ไปจนถึง จรวดอวากาศยานแต่กลับกันเซ็นคูเป็นคนที่จะไม่ทำอะไรที่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์เลย (ใครดูจะรู้ว่าความคิดมันเลวมาก) แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ความเห็นแก่ตัวของเซ็นคูที่คิดแต่จะเอาดีเข้าตัว กลับกลายเป็นเหตุผลให้เซ็นคูช่วยคนหลายๆคน(คนอื่นอาจจะคิดว่ามันจิตใจดี รักเพื่อนมนุษย์, แต่ใจจริงแล้วคนที่มันช้วยทุกคนสุดท้ายแล้วต้องเป็นขี้ข้ามันทุกคน)แต่จากอีกประโยคที่ว่า"โง่แต่ชอบช่วยเหลือ"ก็นึกถึง อีกคนได้เหมือนกัน จากเรื่องเดียวกันเลย นั่นคือ ไทจู เป็นเพื่อนเซ็นคู คอยตามตูด เซ็นคู อยู่เสมอๆ มีหลายๆครั้งที่โดนเซ็นคูใช้ให้ทำอะไรแปลกๆ เจ้าตัวก็พร้อมให้ความร่วมมือเสมอ ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจความคิดของ เซ็นคู ก็ตาม ว่ามันทำไปทำเ_ี้ยอะไร ทำเพื่ออะไร
คนมันเปลี่ยนกันได้ คนโง่ชอบช่วยเหลือวันนึงอาจเปลี่ยนเป็นคนฉลาดเห็นแก่ตัวก็ได้ คนฉลาดเห็นแก่ตัวมันก็ยังมีความจริงคือมันเห็นแก่ตัวแน่ๆ รู้ว่ามันมีของแค่ไหน...สำคัญที่ตัวเราดีกว่ารับมือให้ได้ทุกรูปแบบ
เป็นไปได้ถ้าเป็นเรื่องงานใหญ่ๆสำคัญๆไม่อยากเจอคนโง่เพราะไอ้พวกนี้สอนยากไม่เข้าใจสิ่งที่เราพูดแล้วไอ้เรามันก็อธิบายไม่ค่อยรู้เรื่องด้วยเหนื่อยคูณสองเสียเวลาไม่คุ้มค่า ยอมทำงานคนเดียวดีกว่าต้องไปสอนพวกเขาให้ทำเป็น เราไม่ใจบุญขนาดนั้น เขาชอบยื่นมาแต่สิ่งที่ไม่ต้องการหรือผิด พอบอกให้หยุดไม่หยุด พอจะหงุดหงิดใส่ก็ไม่ได้เพราะคราวหลังเราอาจได้ใช้เขาไปทำงานอะไรสักอย่างที่เราไม่อยากทำแต่เขาทำให้ได้ก็ได้
ทั้ง2แบบ มันก็รวมอยู่ในคนเดียวกันนั่นแหละ ถ้าเจอพวกเส็งเคร็งก็เซฟตัวเองยอมเป็นคนเห็นแก่ตัว เจอมิตรก็ยอมเป็นคนโง่🤣
คนดี คนฉลาด คนโง่ คนเห็นแก่ตัว และ คนมีน้ำใจ 5 คำนี้ แบ่งแยกสังคมโดยรวมออกชัดเจน ซึ่งสิ่งที่จะสื่อก็คือ โลกความจริงในมันไม่ใช่แค่ในคลิป การจับคู่ผสมอาจจะไม่ได้มาแค่ 2 แบบเหมือนในคลิป เพราะฉะนั้น การมองคนให้ออกและเลือกคบคนให้เป็นจึงเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิต หลังจากดูคลิปนี้ไปได้มุมมองหลายๆมุมขึ้นเยอะ หลังจากนี้ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติเลือกคบคนในแบบต่างๆเพื่อผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆด้วยนะ :)
เลือกคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวนะ อย่างที่บอกว่าเราสามารถตกลงกันได้ ถ้าหากงานเป็นงานที่ใหญ่หรือค่าตอบแทนมากๆ มันอาจจะหารเปอร์เซนต์ออกมาได้ 50:50 60:40 ถ้าหาออกมาแล้วมันอยู่ในเปอร์เซนต์ที่เรารับได้คุ้มค่าแรงที่เราเสียไปกับงานก็ถือว่าโอเค ขึ้นชื่อว่าเป็นคนฉลาด น่าจะคิดไว้แล้วว่าการตกลงในครั้งนั้นจะส่งผลอะไรยังไงบ้าง แถมเพราะเป็นคนเห็นแก่ตัวคงไม่อยากเสียออกไปเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง (งงมั้ย56655) เพราะคนฉลาดและเห็นแก่ตัวจะไม่เห็นแก่ตัวจนผลประโยชน์ของตัวเองลดลง เขารู้ว่าการที่มีคนทำอะไรแล้วส่งผลดีต่อเขาเขาก็ควรให้ผลตอบแทนต่อเราเหมือนกัน ส่วนคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือ สต.ไม่อยากใช้ชีวิตกับคนแบบนี้ การทำงานกับคนแบบนี้จะทำให้การทำงานมันล่าช้ากว่าเดิม จากที่คิดว่างานอาจจะเสร็จภายใน 2 วันอาจยืดออกมาเป็น 3 หรือ 4 วันก็ได้ เพราะการทำงานใช่ว่าจะราบลื่นเสมอ คนเราสามารถทำงานผิดพลาดกันได้ แต่มันอยู่ที่ว่าเราจะแก้ปัญหากับสถานการณ์ตรงหน้ายังไง สต.คิดว่าการแก้ปัญหาคนฉลาดควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่าในขณะที่คนโง่อาจจะรู้สึกตื่นตระหนกกับปัญหามากกว่าหรือไม่รู้วิธีแก้ปัญหาเลยเอาง่ายๆคือถ้าทำงานกับคนฉลาดแล้วมันย่นเวลาทำงาน งานออกมาดี และได้ส่วนแบ่งที่เราโอเค ก็จะเลือกคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว ถ้าทำงานกับคนโง่แล้วต้องใช้เวลาการทำงานนาน/ไม่นาน งานอาจจะออกมาโอเค/ไม่โอเค ได้ส่วนแบ่งตามที่เราโอเค ก็ขอไม่เลือกดีกว่าปล.ต่อให้เราเลือกคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือแต่ถ้าวันหนึ่งมีคนไปเป่าหูอะไรคนโง่คนนี้ก็อาจจะเชื่อคนที่มาพูดเลย ในขณะที่คนฉลาดอาจจะแค่รับฟังแล้วคอยดูพฤติกรรมต่อๆไปของเราแล้วค่อยพิจารณาว่าควรจะปฏิบัติกับเรายังไงต่อ ถ้าเราแย่อย่างที่พูดก็อาจจะโดนทิ้ง แต่ถ้าไม่แย่ก็อาจจะทำให้เขามองเราดีขึ้นกว่าเดิม
ส่วนตัวผมมองเป็นบุคคลครับจะคนยังไงก็ตาม ถัาด้านลบบางอย่างของเขามันส่งผลกระทบที่แย่กับเรา จนเกินไปการที่จะยังต้องเจอกับเขาหรือต้องอะไรๆกับเขา ตัดทิ้งเลยดีกว่า แฟร์ๆ
ไม่อยากเจอคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวค่ะ เพราะจะชอบเอาเปรียบคนอื่น ถ้าต้องทำงานด้วยก็เสี่ยงโดนเอาเปรียบอีก เคยทำงานกับคนประเภทนี้ พอเลยค่ะ5555
ผมเลือกโง่แต่ชอบช่วยเหลือครับ ผมฉลาดอยู่แล้ว เดี๋ยวผมแบกเอง
ถ้าเปรียบเทียบจริงๆก็เหมือนกับอาหารฟรีไม่อร่อยต้องปรุงเองแต่ดีต่อสุขภาพ VS อาหารอร่อยกินได้เลยแต่(อาจจะเสียสุขภาพ)และเสียตัง
ส่วนตัวเราขอเลือกเลือกทั้งสองอย่างเพราะว่ามันต้องอยู่คู่กัน เรากินอาหารอร่อยเสียสุขภาพเสียตังแต่เราต้องมีอาหารไม่อร่อยมาบำรุงสุขภาพอยู่ดีถึงมันจะไม่อร่อยเราก็ต้องกินมันอยู่ดีเพื่อไม่ให้ป่วย ไม่ให้ไข้ ไม่ให้เจ็บ ทว่าเราไม่สามารถกินของที่ไม่อร่อยไปตลอดชีวิตได้ ฉะนั้นทั้งสองต้องอยู่คู่กันค่ะ😊☺️😊☺️
ไม่เลือกดจอคนโง่เหมือนกัน บางคนชอบช่วยเหลือก็จริง แต่ไม่ได้ชอบเรียนรู้อะ ถึงเราอยากสอนอยากอธิบาย เค้าไม่เอา ทำไรได้ 🥹🥹
เอาจริงนะไม่อยากเจอคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือคนฉลาดเห็นแก่ตัว ไม่ช่วยก็ไม่เป็นไรไง แต่คนโง่อะ ช่วยและพัง บอกไม่ต้องช่วยมันจะเข้าใจป่ะเหอะ มีแต่พังกับพัง เจอมาหลายอย่างกับคนพวกนี้ละ บอกไม่ชอบบอกอย่าทำก็ยังทำ มันไม่รู้ตัวว่ามันทำให้แย่กว่าเดิม ฉลาดแต่เห็นแก่ตัวไม่ช่วยก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าต่อรองดีๆ ผลประโยชน์ร่วมกันก็ย่อมได้ ถ้ามันฉลาดจริงๆอะนะ
แว็ปแรกในหัวคือ โง่แต่มีน้ำใจ แต่พอเรามาคอดดูแบบดีๆอีกที ผมว่ามันได้หมดครับ โง่แต่มีน้ำใจก็ต้องดูว่าสิ่งที่มันมีน้ำใจกับเรามันขนาดไหน ฉลาดแต่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ตัวขนาดไหนขนาดที่จะแบบตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลเลยหรือเปล่าถ้าไม่ก็ปกติคนก็ต้องคิดเรื่องของตัวเองก่อนอยู่แล้วเลยมองว่าต้องรู้ลึกกว่านี้ว่าไอสองตัวเลือกเนี้ยมันเจาะจงรึเปล่าหรือขนาดไหน
ตอนแรกก็เป็นคนประเภท1ที่อยากใช่ประโยชจากคนกลุ่มที่2ให้มากที่สุดก็เลยลงไปตีสนิท จนสุดท้ายก็กายเป็นเพื่อนสนิทที่ช่วยกันทุกเรื่อง(ถึงสันดานประเปลียนยากแต่ถ้าพร้อมที่ระเปลียนก็เปลียนได้)มองว่ายังไงก็ขึ้นอยู่กับสังคม ควรมีความเห็นแก่ตัวอยู่นิดนึ่งเพื่องเอาชีวิตรอนในประเทศนี้ได้
อยากเจอฉลาดแต่เห็นแก่ตัว ผมว่ามันมองได้หลายมุมครับอย่างแรกถ้าเห็นแก่ตัวมากๆก็ไม่น่าเจริญแต่ถ้าไม่เห็นแก่ตัวมากก็ไม่เป็นไรเพราะถ้าเราก็มีผลประโยชน์เขามีผลประโยชน์ความฉลาดเขาก็สามารถช่วยเราได้ ผมเป็นคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวครับ สรุปผมคิดว่า ฉลาดแต่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัวมันไม่ดีต่อเรา แต่ฉลาดมันดีต่อเรา
25:10 คือไม่ได้จะตำหนินะครับแต่สงใสว่าทำไมไม่บอกเขาว่าขาพลิกในเมื่อเห็นเขาทำวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับตะคริวควรบอกว่าขาพลิกไม่ใช่ปล่อยให้เขาทำแบบนั้นต่อไปนะครับ
แต่ถ้าจะเจอคงคนชอบช่วยเหลือนะ อย่างน้อยๆ ก็ไม่น่าแค้นเท่า อย่างน้อยๆ เขาก็ดีในใจอยู่บ้าง
มูด้าแปลว่าเปล้าประโยชน์ครับ
ไม่อยากเจอที่สุดคือคนโง่ที่ชอบช่วยเหลือค่ะ เคยทำงานกับคนแบบนึ้แล้วเขามาช่วยแต่มันแย่กว่าเดิมจนต้องมานั่งแก้เป็นชม. ตอนนั้นอยากกรี๊ดมาก คนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวอย่างน้อยเราก็ตกลงผลประโยชน์กันได้ แต่ถ้ามันทำท่าจะบิดให้ชิงบิดมันก่อน
โดยภาพรวมที่เจอมา ส่วนมากคนเห็นแก่ตัวมักอยู่เป็นครับ
เลือกไม่เจอคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือครับ และในคลิปก็พูดแทนผมหมดแล้วจริงๆ แล้วคนที่โง่บางคนเสือกมีอีโก้ มันยังไม่ยอมรับความโง่ตัวเองด้วยนะ เพราะกลัวแค่เสียหน้า เซง
ถ้าฉลาดจริง อาจจะไม่เห็นแก่ตัว คนที่โง่กว่าคือคนที่มองข้อดีของคนอื่นไม่เป็น
Concept ดี
เจอคนฉลาด =เหลี่ยมชนเหลี่ยม
ชอบๆ คบเผื่อลวงความลับและลวงไอเดียมัน เพื่อเอามาทำงานแต่เราต้องเหลี่ยมให้เนียนนะ คือต้องเหนือชั้นกว่านะ5555
@@babysoftbread จริงครับต้องเหนือกว่า5555เเต่ผมเคยเจอคนนีงนะ เเบบฉลาดเหลี่ยมๆอะ เเต่คนนี้ไม่เห็นเเก่ตัว สรุปกลายเป็นเพื่อนสนิทกันจนถึงทุกวันนี้
คนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวถ้าในเมะนี้อายาโนะ โคจิชัดๆเลย (ตัวระครจากห้องเรียนเฉพาะยอดคน)
แล้วแต่มุมมองจริงๆแบบนี้มันแล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคนจริงๆ ขอบคุณ
คนฉลาดก็มีสิทธิ์ที่จะเห็นแก่ตัวเพราะความฉลาดทุกคนว่า ๆ กันมีไม่กี่คนหรอกที่จะเกิดมาแล้วฉลาดเลยทุกคนต้องพยายามทั้งนั้น เป็นคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือคนอื่นเอาเวลาช่วยคนอื่นมาพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ไม่โง่ก่อนดีกว่านะ บางทีการที่เราไม่ทำตัวโง่ ๆ (ทำตัวปกติไม่ต้องฉลาดก็ได้) มันคือการช่วยเหลือที่ดีที่สุดแล้ว
เจอเเบบไหนก็ได้นะเพราะปกติก็ทำงานคนเดียวอยู่เเล้วเเต่เลือกได้ไม่อยากเจอคนโง่เเต่ชอบช่วยเพราะมันน่ารำครานเเต่นั้นเเค่ส่วนที่ไม่สำ๕ัญเท่าไหร่ เเต่ที่ไม่ชอบเลยไม่ว่าจะฉลาดหรือโง่ขออย่างเดียวไม่เอาขี้เกียจเพราะตัวเองเคยทำงานกับคนเเบบนี้มาก่อนงานเดินช้ามากเเล้วต้องทำงานหนักกว่าเดิมเลิกเถอะไอ้นิสัยขี้เกียจเนี้ย
ผมคนสุดท้ายครับ
สนุกมากครับ
มองว่าจะฉลาดแต่เห็นแก่ตัว หรือ โง่แต่ชอบช่วยเหลือ ล้วนไม่ผิด เพราะมันคือนิสัยส่วนตัวเนอะ เจอมาทั้ง2รูปแบบแล้ว ถ้าเป็นตอนทำงานกลุ่ม จะเลือกคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวมากกว่า เพราะยังไงต้องมีส่วนร่วมช่วยอยู่ดี ทำให้งานง่ายขึ้น แต่ถ้าคนโง่ช่วยเหลือ งานจะแย่กว่าเดิม เรื่องการคบเอามาเป็นเพื่อน บอกตรงๆว่าเลือกไม่ได้ทั้งคู่ คนโง่เคยเจอมากับตัว นางเป็นคนขี้สงสารชอบช่วยคนอื่นไปทั่ว ปกติกินข้าวด้วยกันเป็นกลุ่ม อยู่ๆวันนึงนางลากใครก็ไม่รู้มานั่งกินข้าวด้วย บอกว่าเห็นอยู่คนเดียวสงสาร โดยที่ไม่ถามเพื่อนในกลุ่มสักคำ ตอนกินข้าวก็นั่งเกร็งทั้งกลุ่มไปเลยสิคะ เป็นคนประเภทที่ทำให้คนอื่นลำบากโดยไม่รู้ตัว หวังดีแต่ผิดที่ผิดทาง ต้องเคยเจอกับตัวถึงจะรู้ว่าคบด้วยแล้วหนักใจมากๆ ส่วนคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว มีเยอะ คนประเภทนี้ชอบอยู่เหนือคนอื่น ยึดตัวเองเป็นหลัก เหลี่ยมหนา ทางที่ดีอย่าไปสู้ อย่าไปพยายามอยู่เหนือกว่า จะกลายเป็นทะเลาะกัน แต่คุณจะแพ้ถ้าเหลี่ยมไม่เท่า ควรชวนคุยก็แค่เรื่องจิปาถะอื่นๆไปเลย อย่าไปคุยเรื่องงานนางจะไม่ช่วยเพราะเห็นแก่ตัว
เราอ่ะอยากเจอคนฉลาดที่เห็นแก่ตัว ถ้าเรารู้ตั้งแต่แรกว่าเขาเห็นแก่ตัวและมีความสามารถมีไหวพริบ เราจะดิวผลประโยชน์ร่วมกันได้ละตัวเองก็ฉลาดพอที่จะป้องกันการเสียผลประโยชน์หรือถูกเอาเปรียบจากเขาได้ เรียกได้ว่าเราก็ได้ผลประโยชน์ เขาก็ได้ผลประโยชน์ที่ตกลงกันเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าการช่วบโดยน้ำใจ เพราะเราทำงานไรจะแบ่งหน้าที่กันชัดเจนมากกว่า จะทำให้อยากทำงานด้วยมากกว่าเมื่อรู้ว่าฝ่ายไหนได้ผลประโยชน์อะไรบ้าง และเราต่าวคนต่างหาจุดอ่อนของอีกฝ่ายเพื่อเอาเปรียบแต่สุดท้ายจะไม่กล้าโกงไรกันมากเพราะต่างคนต่างมีอาวุธอยู่ในมือ
ทางนี้จะเรียกว่าไม่เลือกเลยก็ได้เพราะเราก็ไม่ได้สนใครอย่แล้ว ถ้าเจอคนฉลาดเราแค่จะทำงานเราเสร็จๆไปไม่สนหัวมันเหมือนกัน ส่วนคนโง่เราก็ไม่ได้สนใจว่าเขาจะสร้างประโยชน์อะไรให้เรา แต่ถ้าจัดประเภทตัวเองไปทางไหนก็คงเป็นคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว เรามักจะเลือกทางที่ดูหนักแต่ความเป็นจริงคือก็ไม่ได้หนักหนาอะไร ให้คนอื่นไม่มีปัญหาอะไรกับเราและเลือกสิ่งที่คนอื่นไม่ต้องการเพื่อตัดปัญหา แต่สิ่งที่เราทำกับสร้างผลประโยชน์ให้คนอื่นไม่ร้เรียกว่าดีหรือไม่ดีดี
ไม่อยากเจอทั้ง2เลยค่ะ
ความฉลาดไม่ได้อยู่ที่ประสบการ(คนแก่โง่ๆเยอะแยะเด็กรุ่นลูกผมฉลาดกว่าเยอะโดยเฉพาะgenalphaที่เกิดในรุ่นมนุษระดับสูง)แต่อยู่ที่ทักษะและระดับสมองความขยันความตั้งใจและคุณธรรม คนที่โง่คือคนที่เห็นแก่ตัวคนที่ฉลาดคือคนดี การโง่คือระดับมนุษที่ต่ำกว่าทำไมคุณยังกินสัตว์หละไม่ใช่เพราะสัตว์โง่กว่ามนุษอย่างเราหรอ
ถ้าเลือกโง่ แล้วช่วยเหลือ แสดงว่าเราฉลาด....555
"มิตรที่โง่น่ากลัวกว่าศัตรูที่ฉลาด" นะโปเลียนได้กล่าวไว้
ชอบคนที่อันใหญ่ ครับ
25:34 เงี่ยนบุญ 5555
ชอบเสื้อพี่มั่กๆๆๆๆๆๆ
ส่วนใหญ่เม้น เลือกคนโง่ แต่ชอบช่วยเหลือ มากกว่าแฮะ🤔#เมื่อผมอ่านเม้นเม้นจากคนฉลาดที่เห็นแก่ตั😐
สมมุติว่าเพื่อนผม ที่ดีกะผมมาก ให้เงินผมมาตลอด เลี้ยงทุกอย่าง ดันบังเอินโดนจับได้ว่าปล่อยยา 1."โง่ แต่ชอบช่วยเหลือ" เห้ย เพื่อนผมไม่มีทางทำเเบบนั้น เห้ย ยาพวกนั้นของผมเอง จับผมเรย 2."ฉลาด เเต่เห็นแก่ตัว" เห่ยเพื่อน ! เมิงทำผิดจริงๆเพื่อน เมิงสำนึกเเล้วมองตัวเถอะเพื่อน ทั้งกุทั้งพ่อเเม่เมิงจะได้ไม่เดือดร้อนตาม กุจะช่วยดูเเลพ่อเเม่เมิงข้างนอกให้ กุจะไปเยี้ยมทุกวัน ไม่ต้องห่วง #🤔🤔🤔🤔🤔
ถ้าเลือกได้แค่2อย่าง ก้เอาคนฉลาดแต่เห้นแก่ตัว เพราะถ้าคนแลบนั้นเข้าหาเรา แปลว่าเรามีศักยภาพ ไม่ได้เข้าหาเพราะเห้นใจ
ดูฉลาดแต่ไม่ชอบช่วยเหลือเพราะร้างกายกูชีวิตกูสมองกูทำไมกูตองเอาของที่กุมีให้คนอื่นในเมื่อกุไม่ได้ผลประโยชน์?
ยกเว้นแต่มึงจะมีเงินอะนะ😂
เย่ ได้บ้านทอง 😂😂ดีใจดีมั้ยเนี่ย
คนที่ชอบช่วยเหลือ ทั้งๆที่คนอื่นไม่ต้องการ แบบนี้จะเรียกว่าเห็นแก่ตัวได้มั้ยนะ เพราะสนใจแค่ว่าตัวเองทำไปแล้วจะรู้สึกดี โดยไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น 🤔
ใช้ชีวิตยากจัง 🥲
บ้านทองคือความคิดตรงกับที่คิดไว้เลย แบบคอมเม้นแทนใจ สบายและ
นี่เป็นคนที่เกลียดคนเห็นแก่ตัวอยู่แล้ว เพราะเคยเจอกับตัว ครั้งนึงช่วงโควิดต้องเรียนผ่านออนไลน์ แล้วคือเรียนไม่รู้เรื่องเลยเพื่อนๆหลายคนก็คิดเหมือนกัน แล้วเวลาสอบมันก็ต้องมีบ้างแหละที่จะส่งเฉลยให้กัน รู้ว่ามันผิดนะแต่มันก็ต้องเอาตัวรอดเพราะถ้าคะแนนไม่ดีหรือเเกรดไม่ดีมีผลกับอนาคตแน่นอน เพื่อนๆหลายคนคือดูแลซึ่งกันและกันดีมาก ขนาดคนที่เรียนเก่งอยู่แล้วยังมีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนๆเลย แต่ก็จะมีพวกขยะในห้องบางคนที่มาดราม่าว่าตัวเองอ่านหนังสือเพื่อสอบแท้ๆแต่ทำไมได้คะแนนน้อยกว่าคนที่โกง แต่คืออีคนนี้ตอนปีที่แล้วที่ยังไม่มีโควิดกูเห็นมึงยังโกงอยู่เลยจ้าาา สติเนอะสติฝากไว้ให้คิด
เท่าที่ดู บางคนที่บอกว่าไม่อยากเจอคนเห็นเเก่ตัวเหตุผลโครตเห็นเเก่ตัวเลย
สวัสดีค่ะ
เราถึงต้องคบคนทั้งสอง ประเภทไง
เคยเจอทั้งโง่แล้วก็เห็นแก่ตัวต้องทำไงครับน็อต
ผมน่าจะเป็นฉลาดเห็นแก่ตัว😅
นึกถึงนายก ในหมวดโง่
.
ถ้าคำถามถามว่า ไม่อยากเจอใครมากกว่ากัน ขอเพื่อนที่โง่มีน้ำใจคนเดียวพอ ส่วนที่เราอยากเจอบ่อยๆคนฉลาดเราจะได้พัฒนา
ผมเป็นคนที่ทำงานกับคนทั้ง2ประเภทนี้ได้ เเต่ก็คงจะเลือกคนโง่เเต่ชอบช่วยเหลือมากกว่าเพราะไม่ต้องเสียสุขภาพจิตเเละเราอาจจะให้เค้าเรียนรู้กับสิ่งที่เราทำโดยค่อยๆสอนเขาไปก็ได้ เเต่ก็คงจะทำงานกับคนฉลาดเเต่เห็นแก่ตัวด้วยเช่นกันเพราะบางทีอีโก้ของคนพวกนี้มันมากเเละจะชอบโชว์ความฉลาดของตัวเองจนชอบหลุดความรู้เเละเเนวทางความคิดในการทำงานออกมาอยู่บ่อยๆเเละเราก็เอามาต่อยอดในเเบบของเราโดยที่ไม่ต้องไปเป็นเเบบเขาก็ได้เเต่ก็เเรกมากับสุขภาพจิตนะ
ความจริงโลกมันไม่ได้ดีขนาดนั้น ถามว่าโง่เเล้วช่วยกันไปได้ไหมได้เเละเเต่ถ้าเราอยากสูงขึ้นเราก็ต้องเหยียบใครบางคนขึ้นไปอยู่ดีอาจจะดูเเรงนะเเต่มันคือความจริงที่เถียงไม่ได้ เราคือคนที่อาจอยู่ในประเภทฉลาดเเต่เห็นเเก่ตัว เพราะเราถ้าปกติถ้าเจอใครลำบากเช่นขอทานเเต่เป็นขอทานที่รู้จักลุกขึ้นทำอะไรสักอย่างเช่นซื้อของมาขายเเต่เเพงเราก็ซื้อนะ เเต่ถ้ามีเเขนมีขาครบหรือไม่มีเเต่ไม่ทำอะไรสักอย่างเราก็ได้เเค่คิดเเล้วเดินผ่าน เเต่ถ้าเราเจออะไรบางอย่างที่เราทำเเล้วไม่ได้ประโยชน์เเล้วเราจะทำเพื่ออะไรละถ้าให้ไปสอนให้ไปช่วยคนที่เเม่งเ-ี้ยหรือไม่เคยได้อะไรกลับมาเลยเเล้วมาทำให้เีาเเย่ลง เเล้วไอคนที่บอกผ่านไปเดี๋ยวก็ฉลาดเองต้องนานเเค่ไหนละกว่าเขาจะมาอยู่เท่าเรา ละเวลามาอยู่ด้วยเเม่งก็ไม่เข้าใจอะไรเลยละการจะเเลกอะไรบางอย่างมันจะอยากกว่า กลับกันพวกนี้เราก็เเค่หาผลประโยชน์รวมกันเเค่นั้นเพื่อเงินเพื่อคะเเนนเเถมไม่ขี้เสือก เราเป็นคนที่ไม่เจอคนฉลาดก็ดีเจอก็ไม่เเย่ เพราะโง่มันใช้ง่ายมันหลอกง่ายไงเเถมต้องมารู้สึกผิดบางทีอีก เเต่เจอคนฉลาดมันไม่ต้องรุ้สึกผิดเเละก็เเค่ใช้ความพยายามมากขึ้นในการหลอกเพิ่มหน่อย อยากได้อะไรเราก็เเค่ทำเพื่อให้ได้สิ่งนั้น คนเราก็เเค่อยากอยู่จุดสูงสุดก็เเค่นั้น
7:34 ผมไม่ได้เหยียดคนนะ ไอคำว่าโลกนี้ไม่มีคนโง่มีแต่คนที่รู้กับไม่รู้ มันไม่เป็นความจริงครับ ความโง่หน่ะมีแน่ ทุกคนไม่ได้ฉลาด ไม่งั้นเขาจะมีที่วัด IQ ทำไม ต้องลองเจอคนโง่ที่พยายามเพิ่มความรู้ตัวเอง หรือลองยื่นโอกาสกับแรงงานกรรมกรด้อยโอกาสที่สนใจจะเรียนจบสูงๆ ให้เขากลับไปเริ่มเรียนปวช.ปวส.ยันวศบ.ดูครับ สุดท้ายเขาก็ทำไม่ได้เท่าคนฉลาดเพราะ IQ ไม่ถึง
ไม่อยากเจอโง่แต่อยากช่วยเหลือเพราะเป็น perfectionist โอเค มีข้อแลกเปลี่ยนให้ แล้วช่วยทำให้คุ้มเถอะ
perfectionist เหมือนกันครับ ประสาทจะกินแต่ละที 5555
ดีครับ
***
@@FriendA124 ดีครับ
A B C D🎉
ในแง่งานกลุ่ม เราไม่อยากเจอคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือเพราะทำอะไรมันน่าหงุดหงิด ไม่อยากให้เขามายุ่งกับเราด้วยถ้าเขาโง่ทำอะไรเป็น โคตรเหนื่อย เหนื่อยกว่าเจอคนฉลากแต่เห็นแก่ตัวอีก กลับกันเราจะไปแกล้งโง่ใส่คนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว ให้เขาทำงานแทนเรา เราจะได้สบายขึ้น ยิ่งเขาฉลาด งานเขาก็น่าจะออกไปทางที่ดี เราก็แค่ช่วยเหลือในส่วนที่เขาทำไม่ได้ซักหน่อยในแง่ของเพื่อน เราไม่อยากเจอฉลาดแต่เห็นแก่ตัว ก็อย่างที่ว่าเขาจะเอาแต่ตัวเอง การมีเพื่อนเป็นคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือ เราคิดว่าคนประเภทนี้ค่อนข้างที่จะมีทัศนคติที่ดี เขาน่าจะช่วยเหลือเราทางด้านจิตใจได้ เขาจะได้ช่วยเหลือเรื่องการซัพพอร์ตเราในด้านต่างๆ ในขณะเดียวกันเราก็จะสอนให้เขาฉลาดขึ้น เขาจะได้เป็นคนที่ฉลาดและชอบช่วยเหลือ โดยที่เราไม่ต้องเสียหายหรือหงุดหงิดอะไรกับเขามากมาย
ตามจากติ๊กตอกเลยค้าบ
ผมเชื่อว่าถ้าทำไม่ดีอาจจะถูกพลังในอาจดรอปลงก็ได้ ความฉลาดสามารถฝึกกันได้ครับแต่อย่าเอาไปใช้ในทางที่ผิดมันทำให้คนอื่นเดือดร้อน
คนส่วนใหญ่มองว่าคนฉลาดจะเอาเปรียบเราแต่ผมว่าจริงๆเราก็หาประโยชน์จากคนฉลาดได้เช่นกัน
หาประโยชน์ไม่ได้หรอก..ไม่ต้องหวังตั้งแต่แรก
ถ้ากับเด็กผมฉลาดค่อนข้างเห็นแก่ตัวแต่ถ้าให้ช่วยผมก็ช่วยนะถ้ารุ่นเดียวกันหรือรุ่นพี่ผมโง่แต่เห็นแก่ตัวนะกับบางคน
สำหรับผมนะผมนะผมเรื่องคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือเพราะมันทำให้ผมรู้สึกสบายใจครับกว่าครับเพราะผมเคยมีปมกับคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวนิศัยเชี่ยๆมองคนอื่นเป็นแค่สิ่งของที่ให้ตัวเองใช้
ถ้าเป็นผมนี่อะไรก็ได้แต่คนฉลาดที่เห็นแก่ตัวใช้ประโยชน์จากผมไม่ได้เพราะผมไม่มีประโยชน์ครับ
คือเราโง่แต่ชอบช่วยคนอื่นเพราะคิดว่าถึงดราจะโง่แต่เราก็อยากช่วยนะแต่ประหม่าแล้วก็โดนด่าตลอด🥲
ผมนั้งทำงานอยู่คนเดียวคิดเองส่งเอง
อยากเจอคนฉลาดเพราะถ้ามันเห็นแก่ตัวก็แค่ให้เงินหรือผลประโยชน์มันมากพอแล้วมันทำเราก็ได้ประโยชน์แต่ถ้าเป็นคนโง่แต่ชอบช่วบเหลือให้ผลประโยชน์ก็ไม่รู้ได้อะไรกลับมาไหมแถมน่ารำคาญอีก
ต้องดูเป็นกรณี ถ้างานไม่ซับซ้อนไม่เร่งเลือกคนโง่แต่ช่วยครับ เพราะพอจะสอนได้ ช่วยหยิบจับ ถ่ายเอกสารก็ยังดี ทำให้เราไม่เหงา
ถึงเค้าทำผิดแล้วเราต้องมาแก้ แต่เราสามารถประเมินได้ว่าเรื่องไหนเค้าไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ คราวหน้าก็ไม่ต้องให้ทำเรื่องนั้น
แต่ถ้างานซับซ้อน สำคัญ เร่ง อย่าเลือกคนโง่ เพราะไม่สามารถสอนให้เข้าใจได้ และทำให้งานพัง
ยกตัวอย่าง โปรแกรมหรือสูตรอะไร ถ้าไปแก้มั่วตรงไหนไม่รู้แล้วเซฟทับ จบเลย หรือให้ไปสร้างบ้าน อาจถล่มหรือแก้ไขยาก
จริงนะ
เเต่คนฉลาดไม่ยอมให้โดนใช้ง่ายๆ ต้องมีข้อเเลกเปลี่ยนหน่อย
อยากเจอทั้งคู่ครับ เอาคนโง่มารวมกัน ก็โง่อยู่อย่างงั้นถึงจะบอกว่าช่วยกันศึกษาได้ แต่การทำงานจริงๆไม่มีใครมารอคุณศึกษาหรอก แต่ถ้ามีแต่ฉลาดแต่เห็นแก่ตัวมารวมกันก็เหมือนเดิมสั่งอย่างเดียวไม่มีใครลงแรงเพื่อส่วนรวมก็ล่มเหมืแนกัน ไม่มีใครอยากเหนื่อย อยากสั่งอย่างเดียว สรุป อยากเจอทั้งคู่ครับ รวมๆกันช่วยกันขับเคลื่อน
เคยอ่านมา ระหว่างคนฉลาดแต่ขี้เกียจ กับคนโง่ แต่ขยัน จะเลือกใคร หลายคนตอบว่าเอาคนขยัน แต่จริงๆขยันกับพัฒนาตัวเองมันคนละบริบทกัน สรุปในนั้นมันบอกประมาณว่าให้เลือกคนฉลาด เพราะคนโง่ที่ขยันมักจะขยันทำแต่เรื่องโง่ๆ ตอนนั้นก็คิดนะว่าเราจะไม่ให้โอกาสเขาเหรอ จนมาทำงาน จนได้มาบริหารคนแล้วเจอจริงๆ คนขยันแต่แบบขยันอย่างเดียวแล้วไม่สนไม่คิดอะไรเลย ทำจนงานเสียงานล่ม พูดอธิบายอะไรก็ไม่เข้าใจ มันยิ่งพาให้เราเหนื่อยต้องคอยตามล้างตามเช็ด อันนี้ส่วนตัวนะ รู้ว่าอาจไม่เกี่ยวกับคลิปแต่ดูแล้วนึกถึงก็เลยอยากแชร์ฮะ
เห็นด้วยครับ เพราะ คนขี้เกียจจะหาหนทางที่สบายที่สุดในการทำงาน💪🗿
เคยเจอคนฉลาดแล้วทำงานค่อนข้างตามใจตัวเอง ผลสรุปคืองานออกมาดีจริง เพราะมันฉลาดรู้หมดเลยพรีเซ้นแบบนี้ครูชอบ แต่งแบบนี้ได้คะแนนเยอะแน่ๆ พูดแบบนี้จะทำให้ครูประทับใจแน่ๆ เราโคตรชอบอะ เพราะงานมันออกมาดี ส่วนตัวนี่ไม่ติดเลยว่าจะเป็นคนแบบไหน ขอแค่งานไปออกมาดีก็พอปะ
ฉลาด แต่ เห็นแก่ตัว ยังไม่เท่าไหร่ แต่ ฉลาด แถมยัง ชอบ หาโอกาศ เอาเปรียบ คนอื่น ตลอดเวลา นี่สิ ที่ไม่อยากเจอ
นั่นแหละเห็นแก่ตัวแต่เป็นเห็นแก่ตัวขั้นสุดสเตตัทเห็นแก่ตัวเต็มหลอด555
ไม่อยากเจอคนโง่ แต่ขยัน เพราะมักจะมาช่วยแบบไม่จำเป็นและไม่เข้าใจ บางทีเรื่องใหญ่กว่าเดิม
แต่คนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว ก็แค่พวกเก่ง แต่ไม่ช่วยคนอื่นเฉยๆ
แต่ก็ยังดีที่มันไม่ทำให้แย่ลง
(บางที เรื่องบางเรื่อง การมาช่วยมันน่ารำคาญ คนฉลาดจริงเขาก็จะรู้ว่าไม่จำเป็น)
แล้วสำหรับผม ผมมองคำว่า
เห็นแก่ตัว กับ เอาเปรียบคนอื่น
ต่างกันครับ
ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบง้อให้คนอื่นช่วย แล้วต่อให้ผมจำเป็นต้องได้รับ แต่ไม่มีใครช่วยก็ไม่โกรธครับ
ทุกคนต่างโง่และฉลาดต่างเห็นแก่ตัวและช่วยเหลือ ไม่มีใครแยกได้หรอก บางคนฉลาดเรื่องการเงินแต่โง่ในเรื่องงานบ้าน อยากเห็นแก่ตัวในเรื่องตัวเอง และอยากช่วยเหลือในเรื่องที่เราช่วยได้
ใช่ เอาจริงเริ่มต้นที่เราต้องทันคน รู้ว่าแต่ละคนถนัดและมีความสามารถอะไร เวลาขอความช่วยเหลือจะได้ติดต่อ ขอช่วยถูกคน
มากน้อยแล้วแต่คน555
นี่สังเกตุรอบตัวตัวเองเลยนะ เอาจริงๆตอนเรียนมัธยมเจอคนหลายแบบมาก และในห้องเราเป็นห้องต้นของสายชั้น แบบรวมท๊อป50คนแรกที่สอบเข้าได้ ซึ่งส่วนใหญ่ในห้องจะเป็นคนเก่งๆที่แบบค่อนข้างเห็นแก่ตัว ใครจะทำได้ไม่ได้ก็ช่าง ไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันทำได้ก็พอ อะไรประมาณนี้ จะไม่มีหันมาถามเพื่อนว่าเข้าใจมั้ย หรือเวลาเพื่อนถามก็ไม่ค่อยอยากจะตอบหรอก แต่คนที่ได้ท๊อปห้องในห้องเรา คือเป็นคนที่เก่งมากๆ รอบด้านเลย เราสังเกตุเวลาคนไปถามเขา เขาก็คือจะบอกละเอียดยิบ ติวให้เพื่อนบ้างบางที ดูไม่ค่อยหวงวิชาแบบคนจำพวกบน เอาจริงๆคือหายากมากนะที่จะเจอคนเก่งแต่ไม่เห็นแก่ตัวอะ และคนที่เก่งแบบเก่งจริงๆ ส่วนมากที่เห็นคือไม่เห็นแก่ตัวเลย แต่ก็จะมีพวกที่หัวดีกลัวคนอื่นจะรู้มากกว่ารึเปล่า เลยเห็นแก่ตัว?
อันนี้เราขอตอบในฐานะคนเคยเห็นเเก่ตัวเเบบนั้นนะคะ คือในหัวตอนนั้นที่เราเห็นเเก่ตัวเรารู้สึกว่าเรียนก็เรียนพร้อมกัน เวลาเท่ากันเเถมเราบางวันก็ไม่ได้ว่างต้องทำขนมช่วยย่าไปขายตลาด เราก็ยังมีเวลาเรียนมีเวลาทำการบ้าน เเต่พอมีคนมาถามมันจะหงุดหงิด ไม่ได้หวงนะ เเต่หงุดหงิดจริง ๆ เเบบเคยใจเย็นอธิบายละไม่เข้าใจ ละเราไม่ชอบอธิบายอะไรยิบย่อยขนาดนั้นอะ กลายเป็นว่าไม่ชอบสอนคนอื่น เพราะในหัวเรามันคิดได้เเล้วทำได้เเล้วเเต่คนอื่นไม่ได้ดั่งใจจะนิสัยไม่ดีใส่ พอโตขึ้นก็ได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่างปรับมัศนคติตัวเองเอา ใจเขาใจเรา เราเลยค่อนข้างใจเย็นมากกว่าเเต่ก่อน เข้าใจคำว่าวุฒิภาวะเลย
คิดเหมือนคนที่มาตอบเม้นท์นะ เพราะถ้าเอาจริงๆ เขาไม่ได้เห็นแก่ตัวนะ เรื่องนี้มันต้องอยู่ที่ความรับผิดชอบของเรา อย่างห้องมีแต่คนเก่งถูกไหม คนเก่งอ่ะคุณเขามีวิธีที่เข้าใจแตกต่างกัน ถ้าคุณให้เขาอธิบายแล้วคุณไม่เข้าใจ เขาจะหงุดหงิดก็ไม่แปลก เผลอๆเขาจะมองว่าเราไม่ตั้งใจเรียนด้วยซ้ำ เรียนพร้อมกันเวลาเท่ากัน ถ้าคุณไม่มามันเข้าใจได้ แต่ถ้ามาเเล้วไม่เข้าใจมันก็จะเหนื่อย แนะนำให้ฝึกพื้นฐานแน่นๆ หาสไตล์ความเข้าใจดู เเล้วจะรู้ว่าเรียนเเล้วรู้สึกสบายๆเป็นยังไง ปล.พูดถึงมุมมองคนที่จะสอนเพื่ิอนเวลาเพื่อนไม่เข้าใจ เพราะเราก็เคยเป็นคนที่ไม่เข้าใจอะไรเลย เเต่พอหาสไตล์ได้ก็สอนคนอื่นได้สบายเลยเพราะเราเข้าใจ
@@stop3564 อะ โอเค คือจะไม่โกรธเลยนะถ้าเพื่อนอธิบายให้ฟังแล้วตัวเองไม่เข้าใจ เพราะมันก็ไม่ใช่ความผิดเพื่อนอะ แต่แบบ บางครั้งลืมเนื้อหาและพอไปถามนิดหน่อยคือหงุดหงิดใส่ ถอนหายใจบ้าง อันนี้แอบโกรธอะเอาจริง ถ้าขก. หรือไม่อยากคุยก็คือปฏิเสธไปเหอะ แล้วเราเป็นพวกถนัดคณิต ฟิสิกส์ พอเราเข้าใจแล้วมีคนมาถามก็บอกดีๆได้อะ คือแค่อธิบายให้เพื่อนเข้าใจมันไม่ได้ยากขนาดนั้นสำหรับเราอะ จะไม่โกรธด้วยถ้าเขาไม่เข้าใจ แต่พวกแบบ ถามแล้วหงุดหงิดคืออย่าตอบเลย ปฏิเสธดีๆได้นะ
เคยอ่านเจอในหนังสือเล่มนึง เกี่ยวกับการทำงานใหญ่ คนที่อันตรายกว่าศัตรู ค่อคนโง่ เพราะศัตรูเราระวังอยู่แล้ว แต่คนโง่มองแล้วไม่มีอันตราย เลยทำงานชิบหายได้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะงานองค์กรหรืองานช่าง งานช่างนี่ตัวดีเลย คนไม่ทำงานไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว แต่คือคนขี้เกียจ ถ้าเรามอบประโยชน์ให้ได้ ถึงจะเห็นแก่ตัว เขาก็ต้องช่วยอยู่แล้ว เพราะเขาเห็นแก่ตัวเองไง ตัวเขาได้ประโยชน์ เขาเลยช่วย
ผมเลือกฉลาดแต่เห็นแก่ตัวครับ เพราะส่วนตัวผมคิดว่าผมนี่แหละคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว😂(ความคิดส่วนตัว) ถ้าเจอพวกเดียวกันก็น่าจะคุยกันได้ (มั้ง) แต่ไม่เอาคนโง่ที่ชอบช่วยเหลือแน่ๆแหละเพราะมีประสบการณ์ตรง มีตอนนึงทำงานกลุ่มกำลังไปได้ดีแล้วมันมาพังตรงที่ผมดันเอางานของผมไปให้คนนึงที่ไม่ค่อยเก่งทำ(เพราะว่าขี้เกียจ)แล้วมันก็อยากช่วยด้วยก็เลยให้ไปทำงานอย่างนึงแทนเรา สรุปออกมาพังแก้เกือบไม่ทัน ไม่น่าเลยผม ถือว่าเป็นบทเรียนไปละกัน
8:00 มูด้าในภาษาญี่ปุ่นมันแปลว่าเปล่าประโยชน์ หรือ ไร้ประโยชน์ น่ะครับ ( จำมาจากอนิเมะแปลผิดขออภัย😔 )
ผมช่วยเหลือคนอื่นเพื่อให้ตัวเองมีความสุข เพราะพอเห็นแก่ตัวแล้วรู้สึกว่าเจ็บปวด ผมเน้นทำแล้วสบายใจ เป็นมิตรต่อผู้อื่น มันทำให้เราอยู่สบาย แล้วสังคมที่เราอยู่ดูเหมือนจะมีคนมองเห็นข้อดีของการทำดี จึงลองดูแล้วมันก็ดีงาม
เฮ้อโชคดีไป ผมโง่แถมเห็นแก่ตัว
55
บางที่ถ้าคนฉลาดให้คนโง่ช่วยเหลือแบบฉลาดๆ ก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไรนะครับ แบบว่าอย่างน้อยๆให้คนฉลาดได้ทำงานสบายขึ้น หรือเลือกให้ช่วยอะไรที่ไม่น่าจะก่อให้เกิดปัญาหา วินวินได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
คิดเหมือนกันเลยค่ะ คือง่ายๆเราเองอะต้องฉลาดและรู้จักตัวตนคนรอบว่าฉลาดและถนัดเรื่องไร จะได้ให้เขาช่วยเราถูก
สำหรับผมคือ ไม่อยากเจอคนที่ *โง่แต่ชอบช่วยเหลือ* เพราะผมไม่ชอบพึ่งพาคนอื่น ส่วนคนที่ฉลากแต่เห็นแก่ตัว ถ้าเรามีเป้าหมายเดียวกัน ถ้าต่างฝ่ายต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน มันก็ต้องช่วยเหลือกัน
กลับกันถ้าไม่ได้มีผลประโยชน์ร่วมกัน ก็ขอไม่รับความข่วยเหลือดีกว่า ถ้ามีคนถามว่าแล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุนี่ไม่ต้องขอความข่วยเหลือหรอ สำหรับผมมองว่าความเห็นแก่ตัวไม่ได้แปลว่า ไม่อยากช่วยเหลือหรือเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัวอย่างอย่างเดียว
นั่นสิ ถ้าพวกเห็นแก่ตัวมันชั่งใจได้ว่าถ้าช่วยคนตอนโดนรถชนแล้วจะมีคนเอาภาพมันลงโซเชียลมันก็อาจจะช่วยก็ได้ แต่ยังไงมันก็แล้วแต่สถานการณ์ ถ้าผลประโยชน์ร่วมกันก็เอาฉลาดแต่ถ้าวิกฤติจริงๆเอาคนโง่ หรือเอาคนโง่มาคุมไว้สร้างภาพลักษณ์ให้คนโง่มองเราดูดีมันก็ยิ่งตลั่งเราแบบนั้นก็ได้เป็นอีก1ทางเลือก สรุปแล้วเราๆก็เห็นแก่ตัวแหละครับ5555
(Not all) ถ้าคุณเป็นฉลาดแล้วยังชอบช่วยเหลืออีก รอบหน้าคิดหรอว่ามันจะนึกถึงบุญคุณของคุณ แต่มันจะขอให้คุณช่วยมันอีกไปเรื่อยๆต่างหาก โลกมันไม่ได้สวยงามแบบนั้นกับทุกคน
สำหรับคอมเม้นคนที่ไม่อยากเจอโง่แต่ชอบช่วยเหลือนะ ผมเห็นด้วยนะ แต่บางอันมันเม้นจนเหมือนตัวเองเห็นแก่ตัวอ่ะ
สรุปได้เข้าและดีทุกๆ ประเด็นเลยคะ❤❤
เรามีเพื่อคนหนึ่งเรียนเก่งมากกก ได้ที่1ตลอดเเต่เห็นแก่ตัว เหยียดเพื่อนตัวเองหนักมาก จนเราทนไม่ไหวเลยพยายามเป็นคนฉลาดพยายามเรียนหนักขึ้นและไปช่วยเพื่อนแทน ถึงจะไม่ฉลาดเท่าเพื่อนคนนั้น แต่เราก็มีความรู้มากพอและอยากช่วยเพื่อนคนอื่นๆ
ถ้าเป็นผมที่ไม่อยากเจอจริงๆก็คือ ฉลาดแต่เห็นแก่ตัว นี่แหละ ต่อให้คุณจะฉลาดมากน้อยเพียงไหน แต่ถ้าสักวันนึงเขาแบบเห็นแก่ตัวกับตัวเองจริงๆ คือมันไม่ไหวว่ะ ผมเลือกคบที่โง่แต่ชอบช่วยเหลือ จะดีกว่า ต่อให้คุณโง่แค่ไหนแต่ถ้าแบบชอบช่วยเหลือเราได้ทีละนิดหน่อยมันก็ยังดีกว่านะ อย่างไรก็ตามในชีวิตจริงผมคงไม่เลือก 2 อย่างนี้หรอก ขอบคุณมากครับ ฟังจนจบคลิปเลย
เอาจริงๆคิดว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าเราจะเป็นแบบไหน แต่ประเด็นสำคัญที่สุดคือทุกคนแม่งต้องรู้จักเป็นคนรับฟังผู้อื่น
คือถ้าเราเป็นคนโง่ แต่เผือกอยากช่วยเหลือคนอื่น แต่เขามองเห็นว่า เราไม่มีความรู้ ความสามารถ ในด้านนั้น แต่เราแม่งดันดื้อดึงที่จะทำ ไม่ยอมฟังบ้าอะไรเลย
นั้นก็เท่ากับว่าคุณกลายเป็นคนดูแย่ โดยปริยาย เพราะการฝืนทำในสิ่งที่ไม่รู้ มันจะทำให้แย่ลงและไม่ประสบความสำเร็จหรือสำเร็จได้ยาก
ส่วนถ้าเป็นคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว
แน่นอนคนพวกนี้ อาจจะไม่ได้เลวร้ายมาก
ถ้าไม่ได้เอาเปรียบผู้อื่น อาจจะแค่เห็นแก่ตัวเองมากก็เท่านั้น แต่คนพวกนี้ก็จะกลายเป็นคนโง่ทันที ถ้าไม่รู้จักรับฟังความคิดเห็นใครเลย คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าความรู้ความสามารถที่คุณมีอยู่ เป็นสิ่งดีที่สุดและถูกต้องที่สุด เพราะ อาจจะมีความรู้ ความสามารถต่างๆ ที่ถูกต้องและดีกว่าความรู้เดิมๆที่คุณมีอยู่ณขณะนั้น ก็เป็นไปได้
* การรับฟังความคิดเห็นผู้อื่นจะช่วยพัฒนาศักยภาพของคุณ
ถ้าเลือกคบ เลือกสนิทกับคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือ ถ้าเลือกทำงานก็เลือกคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว แต่คน2ประเภทนี้ถ้าไม่รู้จักรับฟังก็คงใช้ชีวิตร่วมกับเรายากหน่อยนะ เพราะดีแค่ไหนไม่รู้รับฟังก็อาจจะตัดออกจากชีวิตเพราะToxic แต่ถ้าทำธุระกิจถ้าเป็นหัวหน้ามีลูกน้องเห็นแก่ตัวที่ฉลาดแต่ไม่รับฟังเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานเลย ก็ไล่มันออกมันค่ะ เสียเวลาเปลื้องแรงต่อกร งานเดินไปช้าเพราะมั่วแต่เถียงกับมัน
คำถามนี้ถ้า 2 คนนั้นคือคนประเภทแบบสุดโต่ง ประมาณว่า ฉลาดแต่เห็นแก่ตัวก็เป็นงี้เลย 100% กับโง่แบบเข็ดไม่ขึ้นเลยแล้วยังทำงานเสีย คงต้องขอดูสถานการณ์ก่อนจริง ๆ ค่ะ ถ้าเป็นเวลาปกติคงเลือกคนโง่แต่นิสัยดี สะดวกใจกว่า เพราะถึงจะปวดหัวแต่ก็ไม่ได้อยู่ระดับปสดแบบคนแรกที่ต้องมานั่งคิดว่าจะโดนเล่นงานเมื่อไหร่ แถมช่วยไปก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายเวลาอะไรขนาดนั้นด้วย แต่ยอมรับจริงว่าโคตรปวดหัวจนแทบอยากจะดึงหูมาแล้วถาม ทำเห้ไรของเมิงงงง แต่ถ้างานที่ได้มามันคืองานที่ทั้งยากและเครียด ขอเลือกฉลาดแต่เห็นแก่ตัวดีกว่าค่ะ (ในกรณีที่เค้าเก่งกว่าเรานะ)
แต่จริง ๆ เรื่องนี้มันควรเอาข้อดีกับข้อเสียในกลาย ๆ บริบทมาชั่งน้ำหนักค่ะ เพราะนิสัยคนเรามันไม่มีทางสุดโต่งขนาดนั้น กับคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวบางคนเค้าอาจจะไม่ได้สุดโต่งขนาดนั้น เค้าอาจจะอยู่ระดับที่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ ต้องการงานให้ออกมาดี ไม่เคลมงานของเราเป็นของเขา แค่นิสัยส่วนตัวเวลาคบเป็นเพื่อนมันอยู่ด้วยกันไม่ได้ อันนี้ก็ถือว่าไม่ได้แย่ค่ะสำหรับการร่วมงาน แต่กับคนโง่แต่นิสัยดีบางคน ความโง่ของเค้าอาจจะไม่ได้อยู่ในระดับเข็นไม่ขึ้น เค้าอาจจะยังสอนงานให้กลายเป็นคนเก่งได้ แต่บางคนคือเข็นไม่ขึ้นจริง ๆ โง่ยังไงก็โง่อย่างงั้นไม่คิดจะพัฒนาตัวเอง เห็นงานยากหน่อยก็บอกว่าทำไม่ได้แล้วทั้งที่ยังไม่เคยลอง สอนงานก็ไม่รอดเพราะเอาแต่คิดว่าทำไม่ได้ แล้วดันทำงานพังอีก ถึงจะไม่เคยคิดร้ายกับใคร คนประเภทนี้คบเป็นเพื่อนจะดีค่ะแต่ทำงานร่วมกันไม่ได้
อะ เสริมประสบการณ์ที่เคยเจอให้ บางคนเค้าไม่เคยคิดร้ายกับใคร แต่ก็โง่ระดับที่ทำงานไม่ได้ ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ดันทำให้งานมันพังกว่าเดิมจนต้องเหนื่อยแก้แล้วโดนบอกให้อยู่เฉย ๆ ดีกว่าไม่งั้นงานจะพังกว่าเดิม แต่ดันขยันเลยไปทำงานส่วนอื่นเรื่อย ๆ พยายามเตือนแล้วสอนงานแล้วก็ไม่ฟัง แล้วพองานเสร็จก็เคลมงานทั้งหมดคือเค้าทำเองคนเดียว หรือคิดว่าตัวเองทำงานหนักสุด เพราะเค้ารู้สึกว่าตัวเองทำงานเยอะมากไปช่วยคนอื่นทุกส่วนของงานเลย แบบนี้ก็มีค่ะ เป็นประเภทที่ขอบาย ไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่ผลออกมามันส่งผลกระทบต่อคนอื่น เหนื่อยกายแล้วยังต้องเหนื่อยใจอีก
การที่อยากช่วยเหลือคนอื่น แต่กลับโดนด่าว่าสะเหล่อนี่ โคตรเกินไปจริงๆ พูดกันดีๆก็ได้ว่าไม่อยากให้ช่วย
ไม่อยากเจอคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว เพราะรู้สึกเหมือนเจอตัวเอง คนเรามักไม่ชอบคนที่มีนิสัยเหมือนตัวเอง
ที่จริงอะไรก็ได้นะ เพราะต่อให้เจอคนที่ฉลาดแค่ไหน แต่เราก็ต้องฉลาดกว่าสิ คำถามคือ แล้วฉลาดคืออะไร... บวกเลขเก่งหรอ?
แต่ใจจริง อยากช่วยคนโง่แต่มีน้ำใจมากกว่า คือยากดูแลเขาเพราะสงสาร "เพราะคนดีสำคัฐที่สุด"
เห็นด้วยกับพี่ BTS ครับ เห็นภาพชัดเจนมาก เจตนาดีแต่เพราะไม่มีความรู้เลยทำให้สถานการณ์แย่ลง
ขอเลือกคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวดีกว่า ส่วนตัวผมเป็นพวกชอบทำอะไรคนเดียวเพราะเวลาทำอะไรเอง มันทำอะไรที่วางแผนไว้ได้ดีกว่าแต่ถ้ามีคนมาช่วยแล้วทำให้ผมผิดแผนที่วางไว้มันหน้าหงุดหงิดนะหรือต้องมานั่งอธิบายให้ฟังตลอดมันก็เสียเวลา แต่ถ้าต้องการความช่วยเหลือจริงๆยังไงก็ขอเลือกคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวมาช่วยดีกว่าขอแค่มีผลประโยชน์ให้มันก็ช่วยแล้วแถมไม่ต้องอธิบายให้มากความเพราะอย่างน้อยถ้าพวกฉลาดก็คงคำนวณผลที่จะเกิดได้แหละ แต่ยังไงก็ขอเก็บไว้เป็นตัวเลือกอยู่ดีเพราะทำอะไรเองมันก็ไม่ต้องกังวลคนอื่นอะ
ไม่มีใครอยากเจอคนทั้งฉาดและชอบช่วยเหลือคนบ้างหรอคะเนี่ยยยยยยยยย
แต่จริงๆมีคนที่เราเอ่ยมานี่แหละ แค่ไทยเราส่วนใหญ่ยังหาไม่เจอเฉยๆ เจอแต่ได้อย่างเสียอย่าง
ดูคลิปนี้แล้วคือใจมันเปลี่ยนฝั่งไปมาอ่ะ55555 ช่วงแรกคือพยักหน้าเห็นด้วยสุด ๆ เกลียดคนเห็นแก่ตัว แต่พอฟังช่วงหลัง ก็ เออ ก็จริงนะ55555
ว่าก็ว่าเถอะ แค่ผมเห็นหัวข้อก็แทบจะไม่ต้องคิดเลยกับตัวเลือก"ฉลาดแต่เห็นแก่ตัว" เพราะทำให้ผมนึกถึง ตลค.ตัวนึงในอนิเมะเรื่อง Dr.stone ซึ่งมันเป็นคำที่ตรงกับบุคลิคของ เซ็นคู มาก
เซ็นคูเป็นคนที่ฉลาดมากและมีความอัจฉริยะในเรื่องของวิทยาศาสตร์ขั้นลึกในหลายแขนง ตั้งแต่สิ่งประดิษฐ์เล็กๆ การสร้างที่อยู่อาศัย อุปกรณ์อำนวยความสะดวก สร้างไฟฟ้า ยานพาหนะ ไปจนถึง จรวดอวากาศยาน
แต่กลับกันเซ็นคูเป็นคนที่จะไม่ทำอะไรที่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์เลย (ใครดูจะรู้ว่าความคิดมันเลวมาก) แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ความเห็นแก่ตัวของเซ็นคูที่คิดแต่จะเอาดีเข้าตัว กลับกลายเป็นเหตุผลให้เซ็นคูช่วยคนหลายๆคน(คนอื่นอาจจะคิดว่ามันจิตใจดี รักเพื่อนมนุษย์, แต่ใจจริงแล้วคนที่มันช้วยทุกคนสุดท้ายแล้วต้องเป็นขี้ข้ามันทุกคน)
แต่จากอีกประโยคที่ว่า"โง่แต่ชอบช่วยเหลือ"ก็นึกถึง อีกคนได้เหมือนกัน จากเรื่องเดียวกันเลย นั่นคือ ไทจู เป็นเพื่อนเซ็นคู คอยตามตูด เซ็นคู อยู่เสมอๆ มีหลายๆครั้งที่โดนเซ็นคูใช้ให้ทำอะไรแปลกๆ เจ้าตัวก็พร้อมให้ความร่วมมือเสมอ ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจความคิดของ เซ็นคู ก็ตาม ว่ามันทำไปทำเ_ี้ยอะไร ทำเพื่ออะไร
คนมันเปลี่ยนกันได้ คนโง่ชอบช่วยเหลือวันนึงอาจเปลี่ยนเป็นคนฉลาดเห็นแก่ตัวก็ได้ คนฉลาดเห็นแก่ตัวมันก็ยังมีความจริงคือมันเห็นแก่ตัวแน่ๆ รู้ว่ามันมีของแค่ไหน...สำคัญที่ตัวเราดีกว่ารับมือให้ได้ทุกรูปแบบ
เป็นไปได้ถ้าเป็นเรื่องงานใหญ่ๆสำคัญๆไม่อยากเจอคนโง่เพราะไอ้พวกนี้สอนยากไม่เข้าใจสิ่งที่เราพูดแล้วไอ้เรามันก็อธิบายไม่ค่อยรู้เรื่องด้วยเหนื่อยคูณสองเสียเวลาไม่คุ้มค่า ยอมทำงานคนเดียวดีกว่าต้องไปสอนพวกเขาให้ทำเป็น เราไม่ใจบุญขนาดนั้น เขาชอบยื่นมาแต่สิ่งที่ไม่ต้องการหรือผิด พอบอกให้หยุดไม่หยุด พอจะหงุดหงิดใส่ก็ไม่ได้เพราะคราวหลังเราอาจได้ใช้เขาไปทำงานอะไรสักอย่างที่เราไม่อยากทำแต่เขาทำให้ได้ก็ได้
ทั้ง2แบบ มันก็รวมอยู่ในคนเดียวกันนั่นแหละ ถ้าเจอพวกเส็งเคร็งก็เซฟตัวเองยอมเป็นคนเห็นแก่ตัว เจอมิตรก็ยอมเป็นคนโง่🤣
คนดี คนฉลาด คนโง่ คนเห็นแก่ตัว และ คนมีน้ำใจ 5 คำนี้ แบ่งแยกสังคมโดยรวมออกชัดเจน ซึ่งสิ่งที่จะสื่อก็คือ โลกความจริงในมันไม่ใช่แค่ในคลิป การจับคู่ผสมอาจจะไม่ได้มาแค่ 2 แบบเหมือนในคลิป เพราะฉะนั้น การมองคนให้ออกและเลือกคบคนให้เป็นจึงเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิต หลังจากดูคลิปนี้ไปได้มุมมองหลายๆมุมขึ้นเยอะ หลังจากนี้ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติเลือกคบคนในแบบต่างๆเพื่อผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆด้วยนะ :)
เลือกคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวนะ อย่างที่บอกว่าเราสามารถตกลงกันได้ ถ้าหากงานเป็นงานที่ใหญ่หรือค่าตอบแทนมากๆ มันอาจจะหารเปอร์เซนต์ออกมาได้ 50:50 60:40 ถ้าหาออกมาแล้วมันอยู่ในเปอร์เซนต์ที่เรารับได้คุ้มค่าแรงที่เราเสียไปกับงานก็ถือว่าโอเค ขึ้นชื่อว่าเป็นคนฉลาด น่าจะคิดไว้แล้วว่าการตกลงในครั้งนั้นจะส่งผลอะไรยังไงบ้าง แถมเพราะเป็นคนเห็นแก่ตัวคงไม่อยากเสียออกไปเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง (งงมั้ย56655) เพราะคนฉลาดและเห็นแก่ตัวจะไม่เห็นแก่ตัวจนผลประโยชน์ของตัวเองลดลง เขารู้ว่าการที่มีคนทำอะไรแล้วส่งผลดีต่อเขาเขาก็ควรให้ผลตอบแทนต่อเราเหมือนกัน
ส่วนคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือ สต.ไม่อยากใช้ชีวิตกับคนแบบนี้ การทำงานกับคนแบบนี้จะทำให้การทำงานมันล่าช้ากว่าเดิม จากที่คิดว่างานอาจจะเสร็จภายใน 2 วันอาจยืดออกมาเป็น 3 หรือ 4 วันก็ได้ เพราะการทำงานใช่ว่าจะราบลื่นเสมอ คนเราสามารถทำงานผิดพลาดกันได้ แต่มันอยู่ที่ว่าเราจะแก้ปัญหากับสถานการณ์ตรงหน้ายังไง สต.คิดว่าการแก้ปัญหาคนฉลาดควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่าในขณะที่คนโง่อาจจะรู้สึกตื่นตระหนกกับปัญหามากกว่าหรือไม่รู้วิธีแก้ปัญหาเลย
เอาง่ายๆคือถ้าทำงานกับคนฉลาดแล้วมันย่นเวลาทำงาน งานออกมาดี และได้ส่วนแบ่งที่เราโอเค ก็จะเลือกคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว
ถ้าทำงานกับคนโง่แล้วต้องใช้เวลาการทำงานนาน/ไม่นาน งานอาจจะออกมาโอเค/ไม่โอเค ได้ส่วนแบ่งตามที่เราโอเค ก็ขอไม่เลือกดีกว่า
ปล.ต่อให้เราเลือกคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือแต่ถ้าวันหนึ่งมีคนไปเป่าหูอะไรคนโง่คนนี้ก็อาจจะเชื่อคนที่มาพูดเลย ในขณะที่คนฉลาดอาจจะแค่รับฟังแล้วคอยดูพฤติกรรมต่อๆไปของเราแล้วค่อยพิจารณาว่าควรจะปฏิบัติกับเรายังไงต่อ ถ้าเราแย่อย่างที่พูดก็อาจจะโดนทิ้ง แต่ถ้าไม่แย่ก็อาจจะทำให้เขามองเราดีขึ้นกว่าเดิม
ส่วนตัวผมมองเป็นบุคคลครับ
จะคนยังไงก็ตาม ถัาด้านลบบางอย่างของเขามันส่งผลกระทบที่แย่กับเรา จนเกินไป
การที่จะยังต้องเจอกับเขาหรือต้องอะไรๆกับเขา
ตัดทิ้งเลยดีกว่า แฟร์ๆ
ไม่อยากเจอคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวค่ะ เพราะจะชอบเอาเปรียบคนอื่น ถ้าต้องทำงานด้วยก็เสี่ยงโดนเอาเปรียบอีก เคยทำงานกับคนประเภทนี้ พอเลยค่ะ5555
ผมเลือกโง่แต่ชอบช่วยเหลือครับ ผมฉลาดอยู่แล้ว เดี๋ยวผมแบกเอง
ถ้าเปรียบเทียบจริงๆก็เหมือนกับ
อาหารฟรีไม่อร่อยต้องปรุงเองแต่ดีต่อสุขภาพ VS อาหารอร่อยกินได้เลยแต่(อาจจะเสียสุขภาพ)และเสียตัง
ส่วนตัวเราขอเลือกเลือกทั้งสองอย่างเพราะว่ามันต้องอยู่คู่กัน เรากินอาหารอร่อยเสียสุขภาพเสียตังแต่เราต้องมีอาหารไม่อร่อยมาบำรุงสุขภาพอยู่ดีถึงมันจะไม่อร่อยเราก็ต้องกินมันอยู่ดีเพื่อไม่ให้ป่วย ไม่ให้ไข้ ไม่ให้เจ็บ ทว่าเราไม่สามารถกินของที่ไม่อร่อยไปตลอดชีวิตได้ ฉะนั้นทั้งสองต้องอยู่คู่กันค่ะ😊☺️😊☺️
ไม่เลือกดจอคนโง่เหมือนกัน บางคนชอบช่วยเหลือก็จริง แต่ไม่ได้ชอบเรียนรู้อะ ถึงเราอยากสอนอยากอธิบาย เค้าไม่เอา ทำไรได้ 🥹🥹
เอาจริงนะไม่อยากเจอคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือคนฉลาดเห็นแก่ตัว ไม่ช่วยก็ไม่เป็นไรไง แต่คนโง่อะ ช่วยและพัง บอกไม่ต้องช่วยมันจะเข้าใจป่ะเหอะ มีแต่พังกับพัง เจอมาหลายอย่างกับคนพวกนี้ละ บอกไม่ชอบบอกอย่าทำก็ยังทำ มันไม่รู้ตัวว่ามันทำให้แย่กว่าเดิม ฉลาดแต่เห็นแก่ตัวไม่ช่วยก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าต่อรองดีๆ ผลประโยชน์ร่วมกันก็ย่อมได้ ถ้ามันฉลาดจริงๆอะนะ
แว็ปแรกในหัวคือ โง่แต่มีน้ำใจ แต่พอเรามาคอดดูแบบดีๆอีกที ผมว่ามันได้หมดครับ โง่แต่มีน้ำใจก็ต้องดูว่าสิ่งที่มันมีน้ำใจกับเรามันขนาดไหน ฉลาดแต่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ตัวขนาดไหนขนาดที่จะแบบตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลเลยหรือเปล่าถ้าไม่ก็ปกติคนก็ต้องคิดเรื่องของตัวเองก่อนอยู่แล้วเลยมองว่าต้องรู้ลึกกว่านี้ว่าไอสองตัวเลือกเนี้ยมันเจาะจงรึเปล่าหรือขนาดไหน
ตอนแรกก็เป็นคนประเภท1ที่อยากใช่ประโยชจากคนกลุ่มที่2ให้มากที่สุดก็เลยลงไปตีสนิท จนสุดท้ายก็กายเป็นเพื่อนสนิทที่ช่วยกันทุกเรื่อง(ถึงสันดานประเปลียนยากแต่ถ้าพร้อมที่ระเปลียนก็เปลียนได้)มองว่ายังไงก็ขึ้นอยู่กับสังคม ควรมีความเห็นแก่ตัวอยู่นิดนึ่งเพื่องเอาชีวิตรอนในประเทศนี้ได้
อยากเจอฉลาดแต่เห็นแก่ตัว ผมว่ามันมองได้หลายมุมครับอย่างแรกถ้าเห็นแก่ตัวมากๆก็ไม่น่าเจริญแต่ถ้าไม่เห็นแก่ตัวมากก็ไม่เป็นไรเพราะถ้าเราก็มีผลประโยชน์เขามีผลประโยชน์ความฉลาดเขาก็สามารถช่วยเราได้ ผมเป็นคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวครับ สรุปผมคิดว่า ฉลาดแต่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัวมันไม่ดีต่อเรา แต่ฉลาดมันดีต่อเรา
25:10 คือไม่ได้จะตำหนินะครับแต่สงใสว่าทำไมไม่บอกเขาว่าขาพลิกในเมื่อเห็นเขาทำวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับตะคริวควรบอกว่าขาพลิกไม่ใช่ปล่อยให้เขาทำแบบนั้นต่อไปนะครับ
แต่ถ้าจะเจอคงคนชอบช่วยเหลือนะ อย่างน้อยๆ ก็ไม่น่าแค้นเท่า อย่างน้อยๆ เขาก็ดีในใจอยู่บ้าง
มูด้าแปลว่าเปล้าประโยชน์ครับ
ไม่อยากเจอที่สุดคือคนโง่ที่ชอบช่วยเหลือค่ะ เคยทำงานกับคนแบบนึ้แล้วเขามาช่วยแต่มันแย่กว่าเดิมจนต้องมานั่งแก้เป็นชม. ตอนนั้นอยากกรี๊ดมาก คนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวอย่างน้อยเราก็ตกลงผลประโยชน์กันได้ แต่ถ้ามันทำท่าจะบิดให้ชิงบิดมันก่อน
โดยภาพรวมที่เจอมา ส่วนมากคนเห็นแก่ตัวมักอยู่เป็นครับ
เลือกไม่เจอคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือครับ และในคลิปก็พูดแทนผมหมดแล้วจริงๆ แล้วคนที่โง่บางคนเสือกมีอีโก้ มันยังไม่ยอมรับความโง่ตัวเองด้วยนะ เพราะกลัวแค่เสียหน้า เซง
ถ้าฉลาดจริง อาจจะไม่เห็นแก่ตัว คนที่โง่กว่าคือคนที่มองข้อดีของคนอื่นไม่เป็น
Concept ดี
เจอคนฉลาด =เหลี่ยมชนเหลี่ยม
ชอบๆ คบเผื่อลวงความลับและลวงไอเดียมัน เพื่อเอามาทำงานแต่เราต้องเหลี่ยมให้เนียนนะ คือต้องเหนือชั้นกว่านะ5555
@@babysoftbread จริงครับต้องเหนือกว่า5555
เเต่ผมเคยเจอคนนีงนะ เเบบฉลาดเหลี่ยมๆอะ เเต่คนนี้ไม่เห็นเเก่ตัว สรุปกลายเป็นเพื่อนสนิทกันจนถึงทุกวันนี้
คนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวถ้าในเมะนี้อายาโนะ โคจิชัดๆเลย
(ตัวระครจากห้องเรียนเฉพาะยอดคน)
แล้วแต่มุมมองจริงๆแบบนี้มันแล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคนจริงๆ ขอบคุณ
คนฉลาดก็มีสิทธิ์ที่จะเห็นแก่ตัวเพราะความฉลาดทุกคนว่า ๆ กันมีไม่กี่คนหรอกที่จะเกิดมาแล้วฉลาดเลยทุกคนต้องพยายามทั้งนั้น เป็นคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือคนอื่นเอาเวลาช่วยคนอื่นมาพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ไม่โง่ก่อนดีกว่านะ บางทีการที่เราไม่ทำตัวโง่ ๆ (ทำตัวปกติไม่ต้องฉลาดก็ได้) มันคือการช่วยเหลือที่ดีที่สุดแล้ว
เจอเเบบไหนก็ได้นะเพราะปกติก็ทำงานคนเดียวอยู่เเล้วเเต่เลือกได้ไม่อยากเจอคนโง่เเต่ชอบช่วยเพราะมันน่ารำครานเเต่นั้นเเค่ส่วนที่ไม่สำ๕ัญเท่าไหร่ เเต่ที่ไม่ชอบเลยไม่ว่าจะฉลาดหรือโง่ขออย่างเดียวไม่เอาขี้เกียจเพราะตัวเองเคยทำงานกับคนเเบบนี้มาก่อนงานเดินช้ามากเเล้วต้องทำงานหนักกว่าเดิมเลิกเถอะไอ้นิสัยขี้เกียจเนี้ย
ผมคนสุดท้ายครับ
สนุกมากครับ
มองว่าจะฉลาดแต่เห็นแก่ตัว หรือ โง่แต่ชอบช่วยเหลือ ล้วนไม่ผิด เพราะมันคือนิสัยส่วนตัวเนอะ เจอมาทั้ง2รูปแบบแล้ว ถ้าเป็นตอนทำงานกลุ่ม จะเลือกคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวมากกว่า เพราะยังไงต้องมีส่วนร่วมช่วยอยู่ดี ทำให้งานง่ายขึ้น แต่ถ้าคนโง่ช่วยเหลือ งานจะแย่กว่าเดิม
เรื่องการคบเอามาเป็นเพื่อน บอกตรงๆว่าเลือกไม่ได้ทั้งคู่ คนโง่เคยเจอมากับตัว นางเป็นคนขี้สงสารชอบช่วยคนอื่นไปทั่ว ปกติกินข้าวด้วยกันเป็นกลุ่ม อยู่ๆวันนึงนางลากใครก็ไม่รู้มานั่งกินข้าวด้วย บอกว่าเห็นอยู่คนเดียวสงสาร โดยที่ไม่ถามเพื่อนในกลุ่มสักคำ ตอนกินข้าวก็นั่งเกร็งทั้งกลุ่มไปเลยสิคะ เป็นคนประเภทที่ทำให้คนอื่นลำบากโดยไม่รู้ตัว หวังดีแต่ผิดที่ผิดทาง ต้องเคยเจอกับตัวถึงจะรู้ว่าคบด้วยแล้วหนักใจมากๆ ส่วนคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว มีเยอะ คนประเภทนี้ชอบอยู่เหนือคนอื่น ยึดตัวเองเป็นหลัก เหลี่ยมหนา ทางที่ดีอย่าไปสู้ อย่าไปพยายามอยู่เหนือกว่า จะกลายเป็นทะเลาะกัน แต่คุณจะแพ้ถ้าเหลี่ยมไม่เท่า ควรชวนคุยก็แค่เรื่องจิปาถะอื่นๆไปเลย อย่าไปคุยเรื่องงานนางจะไม่ช่วยเพราะเห็นแก่ตัว
เราอ่ะอยากเจอคนฉลาดที่เห็นแก่ตัว ถ้าเรารู้ตั้งแต่แรกว่าเขาเห็นแก่ตัวและมีความสามารถมีไหวพริบ เราจะดิวผลประโยชน์ร่วมกันได้ละตัวเองก็ฉลาดพอที่จะป้องกันการเสียผลประโยชน์หรือถูกเอาเปรียบจากเขาได้ เรียกได้ว่าเราก็ได้ผลประโยชน์ เขาก็ได้ผลประโยชน์ที่ตกลงกันเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าการช่วบโดยน้ำใจ เพราะเราทำงานไรจะแบ่งหน้าที่กันชัดเจนมากกว่า จะทำให้อยากทำงานด้วยมากกว่าเมื่อรู้ว่าฝ่ายไหนได้ผลประโยชน์อะไรบ้าง และเราต่าวคนต่างหาจุดอ่อนของอีกฝ่ายเพื่อเอาเปรียบแต่สุดท้ายจะไม่กล้าโกงไรกันมากเพราะต่างคนต่างมีอาวุธอยู่ในมือ
ทางนี้จะเรียกว่าไม่เลือกเลยก็ได้เพราะเราก็ไม่ได้สนใครอย่แล้ว ถ้าเจอคนฉลาดเราแค่จะทำงานเราเสร็จๆไปไม่สนหัวมันเหมือนกัน ส่วนคนโง่เราก็ไม่ได้สนใจว่าเขาจะสร้างประโยชน์อะไรให้เรา แต่ถ้าจัดประเภทตัวเองไปทางไหนก็คงเป็นคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว เรามักจะเลือกทางที่ดูหนักแต่ความเป็นจริงคือก็ไม่ได้หนักหนาอะไร ให้คนอื่นไม่มีปัญหาอะไรกับเราและเลือกสิ่งที่คนอื่นไม่ต้องการเพื่อตัดปัญหา แต่สิ่งที่เราทำกับสร้างผลประโยชน์ให้คนอื่นไม่ร้เรียกว่าดีหรือไม่ดีดี
ไม่อยากเจอทั้ง2เลยค่ะ
ความฉลาดไม่ได้อยู่ที่ประสบการ(คนแก่โง่ๆเยอะแยะเด็กรุ่นลูกผมฉลาดกว่าเยอะโดยเฉพาะgenalphaที่เกิดในรุ่นมนุษระดับสูง)แต่อยู่ที่ทักษะและระดับสมองความขยันความตั้งใจและคุณธรรม คนที่โง่คือคนที่เห็นแก่ตัวคนที่ฉลาดคือคนดี การโง่คือระดับมนุษที่ต่ำกว่าทำไมคุณยังกินสัตว์หละไม่ใช่เพราะสัตว์โง่กว่ามนุษอย่างเราหรอ
ถ้าเลือกโง่ แล้วช่วยเหลือ
แสดงว่าเราฉลาด....555
"มิตรที่โง่น่ากลัวกว่าศัตรูที่ฉลาด"
นะโปเลียนได้กล่าวไว้
ชอบคนที่อันใหญ่ ครับ
25:34 เงี่ยนบุญ 5555
ชอบเสื้อพี่มั่กๆๆๆๆๆๆ
ส่วนใหญ่เม้น เลือกคนโง่ แต่ชอบช่วยเหลือ มากกว่าแฮะ🤔#เมื่อผมอ่านเม้นเม้นจากคนฉลาดที่เห็นแก่ตั😐
สมมุติว่าเพื่อนผม ที่ดีกะผมมาก ให้เงินผมมาตลอด เลี้ยงทุกอย่าง ดันบังเอินโดนจับได้ว่าปล่อยยา
1."โง่ แต่ชอบช่วยเหลือ" เห้ย เพื่อนผมไม่มีทางทำเเบบนั้น เห้ย ยาพวกนั้นของผมเอง จับผมเรย
2."ฉลาด เเต่เห็นแก่ตัว" เห่ยเพื่อน ! เมิงทำผิดจริงๆเพื่อน เมิงสำนึกเเล้วมองตัวเถอะเพื่อน ทั้งกุทั้งพ่อเเม่เมิงจะได้ไม่เดือดร้อนตาม กุจะช่วยดูเเลพ่อเเม่เมิงข้างนอกให้ กุจะไปเยี้ยมทุกวัน ไม่ต้องห่วง
#🤔🤔🤔🤔🤔
ถ้าเลือกได้แค่2อย่าง ก้เอาคนฉลาดแต่เห้นแก่ตัว เพราะถ้าคนแลบนั้นเข้าหาเรา แปลว่าเรามีศักยภาพ ไม่ได้เข้าหาเพราะเห้นใจ
ดูฉลาดแต่ไม่ชอบช่วยเหลือเพราะร้างกายกูชีวิตกูสมองกูทำไมกูตองเอาของที่กุมีให้คนอื่นในเมื่อกุไม่ได้ผลประโยชน์?
ยกเว้นแต่มึงจะมีเงินอะนะ😂
เย่ ได้บ้านทอง 😂😂
ดีใจดีมั้ยเนี่ย
คนที่ชอบช่วยเหลือ ทั้งๆที่คนอื่นไม่ต้องการ แบบนี้จะเรียกว่าเห็นแก่ตัวได้มั้ยนะ เพราะสนใจแค่ว่าตัวเองทำไปแล้วจะรู้สึกดี โดยไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น 🤔
ใช้ชีวิตยากจัง 🥲
บ้านทองคือความคิดตรงกับที่คิดไว้เลย แบบคอมเม้นแทนใจ สบายและ
นี่เป็นคนที่เกลียดคนเห็นแก่ตัวอยู่แล้ว เพราะเคยเจอกับตัว ครั้งนึงช่วงโควิดต้องเรียนผ่านออนไลน์ แล้วคือเรียนไม่รู้เรื่องเลยเพื่อนๆหลายคนก็คิดเหมือนกัน แล้วเวลาสอบมันก็ต้องมีบ้างแหละที่จะส่งเฉลยให้กัน รู้ว่ามันผิดนะแต่มันก็ต้องเอาตัวรอดเพราะถ้าคะแนนไม่ดีหรือเเกรดไม่ดีมีผลกับอนาคตแน่นอน เพื่อนๆหลายคนคือดูแลซึ่งกันและกันดีมาก ขนาดคนที่เรียนเก่งอยู่แล้วยังมีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนๆเลย แต่ก็จะมีพวกขยะในห้องบางคนที่มาดราม่าว่าตัวเองอ่านหนังสือเพื่อสอบแท้ๆแต่ทำไมได้คะแนนน้อยกว่าคนที่โกง แต่คืออีคนนี้ตอนปีที่แล้วที่ยังไม่มีโควิดกูเห็นมึงยังโกงอยู่เลยจ้าาา สติเนอะสติฝากไว้ให้คิด
เท่าที่ดู บางคนที่บอกว่าไม่อยากเจอคนเห็นเเก่ตัวเหตุผลโครตเห็นเเก่ตัวเลย
สวัสดีค่ะ
เราถึงต้องคบคนทั้งสอง ประเภทไง
เคยเจอทั้งโง่แล้วก็เห็นแก่ตัวต้องทำไงครับน็อต
ผมน่าจะเป็นฉลาดเห็นแก่ตัว😅
นึกถึงนายก ในหมวดโง่
.
ถ้าคำถามถามว่า ไม่อยากเจอใครมากกว่ากัน ขอเพื่อนที่โง่มีน้ำใจคนเดียวพอ ส่วนที่เราอยากเจอบ่อยๆคนฉลาดเราจะได้พัฒนา
ผมเป็นคนที่ทำงานกับคนทั้ง2ประเภทนี้ได้ เเต่ก็คงจะเลือกคนโง่เเต่ชอบช่วยเหลือมากกว่าเพราะไม่ต้องเสียสุขภาพจิตเเละเราอาจจะให้เค้าเรียนรู้กับสิ่งที่เราทำโดยค่อยๆสอนเขาไปก็ได้ เเต่ก็คงจะทำงานกับคนฉลาดเเต่เห็นแก่ตัวด้วยเช่นกันเพราะบางทีอีโก้ของคนพวกนี้มันมากเเละจะชอบโชว์ความฉลาดของตัวเองจนชอบหลุดความรู้เเละเเนวทางความคิดในการทำงานออกมาอยู่บ่อยๆ
เเละเราก็เอามาต่อยอดในเเบบของเราโดยที่ไม่ต้องไปเป็นเเบบเขาก็ได้เเต่ก็เเรกมากับสุขภาพจิตนะ
ความจริงโลกมันไม่ได้ดีขนาดนั้น ถามว่าโง่เเล้วช่วยกันไปได้ไหมได้เเละเเต่ถ้าเราอยากสูงขึ้นเราก็ต้องเหยียบใครบางคนขึ้นไปอยู่ดีอาจจะดูเเรงนะเเต่มันคือความจริงที่เถียงไม่ได้ เราคือคนที่อาจอยู่ในประเภทฉลาดเเต่เห็นเเก่ตัว เพราะเราถ้าปกติถ้าเจอใครลำบากเช่นขอทานเเต่เป็นขอทานที่รู้จักลุกขึ้นทำอะไรสักอย่างเช่นซื้อของมาขายเเต่เเพงเราก็ซื้อนะ เเต่ถ้ามีเเขนมีขาครบหรือไม่มีเเต่ไม่ทำอะไรสักอย่างเราก็ได้เเค่คิดเเล้วเดินผ่าน เเต่ถ้าเราเจออะไรบางอย่างที่เราทำเเล้วไม่ได้ประโยชน์เเล้วเราจะทำเพื่ออะไรละถ้าให้ไปสอนให้ไปช่วยคนที่เเม่งเ-ี้ยหรือไม่เคยได้อะไรกลับมาเลยเเล้วมาทำให้เีาเเย่ลง เเล้วไอคนที่บอกผ่านไปเดี๋ยวก็ฉลาดเองต้องนานเเค่ไหนละกว่าเขาจะมาอยู่เท่าเรา ละเวลามาอยู่ด้วยเเม่งก็ไม่เข้าใจอะไรเลยละการจะเเลกอะไรบางอย่างมันจะอยากกว่า กลับกันพวกนี้เราก็เเค่หาผลประโยชน์รวมกันเเค่นั้นเพื่อเงินเพื่อคะเเนนเเถมไม่ขี้เสือก เราเป็นคนที่ไม่เจอคนฉลาดก็ดีเจอก็ไม่เเย่ เพราะโง่มันใช้ง่ายมันหลอกง่ายไงเเถมต้องมารู้สึกผิดบางทีอีก เเต่เจอคนฉลาดมันไม่ต้องรุ้สึกผิดเเละก็เเค่ใช้ความพยายามมากขึ้นในการหลอกเพิ่มหน่อย อยากได้อะไรเราก็เเค่ทำเพื่อให้ได้สิ่งนั้น คนเราก็เเค่อยากอยู่จุดสูงสุดก็เเค่นั้น
7:34 ผมไม่ได้เหยียดคนนะ ไอคำว่าโลกนี้ไม่มีคนโง่มีแต่คนที่รู้กับไม่รู้ มันไม่เป็นความจริงครับ ความโง่หน่ะมีแน่ ทุกคนไม่ได้ฉลาด ไม่งั้นเขาจะมีที่วัด IQ ทำไม ต้องลองเจอคนโง่ที่พยายามเพิ่มความรู้ตัวเอง หรือลองยื่นโอกาสกับแรงงานกรรมกรด้อยโอกาสที่สนใจจะเรียนจบสูงๆ ให้เขากลับไปเริ่มเรียนปวช.ปวส.ยันวศบ.ดูครับ สุดท้ายเขาก็ทำไม่ได้เท่าคนฉลาดเพราะ IQ ไม่ถึง
ไม่อยากเจอโง่แต่อยากช่วยเหลือเพราะเป็น perfectionist โอเค มีข้อแลกเปลี่ยนให้ แล้วช่วยทำให้คุ้มเถอะ
perfectionist เหมือนกันครับ ประสาทจะกินแต่ละที 5555
ดีครับ
***
@@FriendA124 ดีครับ
A B C D🎉
ในแง่งานกลุ่ม เราไม่อยากเจอคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือเพราะทำอะไรมันน่าหงุดหงิด ไม่อยากให้เขามายุ่งกับเราด้วยถ้าเขาโง่ทำอะไรเป็น โคตรเหนื่อย เหนื่อยกว่าเจอคนฉลากแต่เห็นแก่ตัวอีก กลับกันเราจะไปแกล้งโง่ใส่คนฉลาดแต่เห็นแก่ตัว ให้เขาทำงานแทนเรา เราจะได้สบายขึ้น ยิ่งเขาฉลาด งานเขาก็น่าจะออกไปทางที่ดี เราก็แค่ช่วยเหลือในส่วนที่เขาทำไม่ได้ซักหน่อย
ในแง่ของเพื่อน เราไม่อยากเจอฉลาดแต่เห็นแก่ตัว ก็อย่างที่ว่าเขาจะเอาแต่ตัวเอง การมีเพื่อนเป็นคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือ เราคิดว่าคนประเภทนี้ค่อนข้างที่จะมีทัศนคติที่ดี เขาน่าจะช่วยเหลือเราทางด้านจิตใจได้ เขาจะได้ช่วยเหลือเรื่องการซัพพอร์ตเราในด้านต่างๆ ในขณะเดียวกันเราก็จะสอนให้เขาฉลาดขึ้น เขาจะได้เป็นคนที่ฉลาดและชอบช่วยเหลือ โดยที่เราไม่ต้องเสียหายหรือหงุดหงิดอะไรกับเขามากมาย
ตามจากติ๊กตอกเลยค้าบ
ผมเชื่อว่าถ้าทำไม่ดีอาจจะถูกพลังในอาจดรอปลงก็ได้ ความฉลาดสามารถฝึกกันได้ครับแต่อย่าเอาไปใช้ในทางที่ผิดมันทำให้คนอื่นเดือดร้อน
คนส่วนใหญ่มองว่าคนฉลาดจะเอาเปรียบเราแต่ผมว่าจริงๆเราก็หาประโยชน์จากคนฉลาดได้เช่นกัน
หาประโยชน์ไม่ได้หรอก..ไม่ต้องหวังตั้งแต่แรก
ถ้ากับเด็กผมฉลาดค่อนข้างเห็นแก่ตัวแต่ถ้าให้ช่วยผมก็ช่วยนะ
ถ้ารุ่นเดียวกันหรือรุ่นพี่ผมโง่แต่เห็นแก่ตัวนะกับบางคน
สำหรับผมนะผมนะผมเรื่องคนโง่แต่ชอบช่วยเหลือเพราะมันทำให้ผมรู้สึกสบายใจครับกว่าครับเพราะผมเคยมีปมกับคนฉลาดแต่เห็นแก่ตัวนิศัยเชี่ยๆมองคนอื่นเป็นแค่สิ่งของที่ให้ตัวเองใช้
ถ้าเป็นผมนี่อะไรก็ได้แต่คนฉลาดที่เห็นแก่ตัวใช้ประโยชน์จากผมไม่ได้เพราะผมไม่มีประโยชน์ครับ
คือเราโง่แต่ชอบช่วยคนอื่นเพราะคิดว่าถึงดราจะโง่แต่เราก็อยากช่วยนะแต่ประหม่าแล้วก็โดนด่าตลอด🥲
ผมนั้งทำงานอยู่คนเดียวคิดเองส่งเอง
อยากเจอคนฉลาดเพราะถ้ามันเห็นแก่ตัวก็แค่ให้เงินหรือผลประโยชน์มันมากพอแล้วมันทำเราก็ได้ประโยชน์แต่ถ้าเป็นคนโง่แต่ชอบช่วบเหลือให้ผลประโยชน์ก็ไม่รู้ได้อะไรกลับมาไหมแถมน่ารำคาญอีก