ช่องนี้มันชอบทำข่าวให้คนสมองน้อยดู เมื่อมันทำข่าวประเทศไทยจะตกขบวบรถ ev พอรถ ev ได้รับความนิยมเกินคาด มันก็ทำข่าวแนวใหม่ ประเทศไทยจะพังเพราะรถ ev บลาๆๆ
แต่ที่ไทยมีส่วนใหญ่จะหนักไปทาง Art และ Soft Power ซึ่งต้องตะเกียกตะกายไปทำการค้ากับต่างประเทศกันเอง คนไทยด้วยกันซัพพอร์ตกันเองน้อยมาก เพราะเราเป็นประเทศที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์สูงด้วย แม้จะเบาลงกว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนก็ตาม
อยากให้ The standard ให้ข้อมูลบุคคลในรัฐบาลที่ทำสัญญา MOU ยกเว้นภาษีนำเข้ารถจากจีนด้วยครับ ผมว่าการตัดสินใจตรงนี้สำคัญมากอาจเป็นจุดเปลี่ยนอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยจริงๆ ผมคนนึงจะได้จดจำไว้มาใครสมัยหน้าจะได้ไม่เลือกครับ
ในขณะที่ช่องอื่นอวยของใหม่นำเสนอด้าน+ อย่างเดียว
ช่องนี้กลับกล้านำเสนอด้าน- ชี้ให้เห็นความหน้ากลัวที่อาจเกิดขึ้น เยี่ยมครับ เอาไป100คะแนนเต็ม
ควรมองสองด้าน เหมือนเหรียญ มันก็มี 2 ด้าน
รถอีวีจากค่ายจีนเป็นหลัก
ช่องนี้มันชอบทำข่าวให้คนสมองน้อยดู เมื่อมันทำข่าวประเทศไทยจะตกขบวบรถ ev พอรถ ev ได้รับความนิยมเกินคาด มันก็ทำข่าวแนวใหม่ ประเทศไทยจะพังเพราะรถ ev บลาๆๆ
ขอบคุณพี่ๆ Key Massages และ The Standard ผมอยู่ในกลุ่มผู้ผลิตเครื่องจักรรับอุตสาหกรรมรถยนต์คิดเรื่องนี้ มานานแล้วครับ ตอนนี้ไทยควรหันไปพัฒนาเกี่ยวกับ Semi-Conductor พัฒนาบุคลากรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์เหมือนไต้หวัน เมื่อก่อนเราเคยแข่งกันกับไต้หวันได้ดี แต่ตอนนี้สู้เค้าไม่ได้ เนื่องจากต้นทุนการผลิตและไทยขาดการสนับสนุนการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ หลังจากนี้ปีกส่งออกไทยคงวิกฤต หากเป็นไปได้ ลองหาข้อมูลที่ไทยจะไปแข่งขันอะไรกับสากลได้บ้าง จริงๆคนไทยที่เป็นวิศวกรเก่งๆเยอะครับ แต่ที่ไม่โต เพราะทำธุรกิจในไทย โดนเครดิตยาวจากปกติและความไม่เป็นธรรม ทำให้เป็นได้แค่ธุรกิจ SME ขอโทษนะครับพิมพ์ยาวไปหน่อย แต่รู้สึกดีมากครับ ที่ได้เห็นสื่อมีคุณภาพแบบพี่ๆ จะสนับสนุนพวกพี่ๆต่อไปครับ ขอบคุณครับ
จริงค่ะ ยิ่งตอนนี้ลุงตู่เป็นนายก ถ้าได้เป็นอีกสมัย หนักเลยประเทศไทย มีแต่ก้าวถอยหลัง
อันนี้จริงเพราะหลายสิบๆปีนี่Semiconductorเขายังตามเราอยู่เลยจนตอนนี้เขาแซงจนไม่เห็นฝุ่น ไปดู brand พวกระดับโลกไต้หวันกันเกิน 50% ละ
ประเทศไทยตอนนี้ล้าหลังรึปล่าว
เครื่อง
เดี๋ยวไทยเนี่ยนะเคยแข่งขันกับไต้หวันได้ ไต้หวันเขายิ่งใหญ่ในแง่ semiconductor เทียบเคียงกับเกาหลีเลย ไทยยังไม่มีบริษัทเอกชนที่ไปได้ขนาดเขาเลย ดูในภาคเอกชนที่เป็นขับเคลื่อนดีกว่า
ที่ผ่านมาก็เอื้อให้โรงงานผลิตรถและชิ้นส่วนในประเทศให้อิ่มหมีพีมันกันมาหลายสิบปี ด้วยการตั้งกำแพงภาษีรถนำเข้าสูงปรี๊ด ทำให้ราคารถนำเข้าแพงขึ้นไป 2-3 เท่า แถมรถประกอบในประเทศก็ไม่ได้ราคาถูกเท่าไร เพราะไม่ต้องแข่งขันกับรถนำเข้า เอากำไรกันเค็มที่ แถมโดนภาษีสรรพสามิตเข้าไปอีก ออพชั่นก็ตัดออก ในขณะที่ขายแพงกว่าประเทศอื่นๆ คนไทยไม่มีโอกาสได้ใช้รถดีๆราคาสมเหตุสมผล
ถ้ามันจะถึงกาลอวสานก็สมควร
จริง.เห็นด้วยเลย
ครับให้มันล่มจมเลย
ชอบ ใช่ ไลฟ์เลย
เห็นด้วย เป็นดีทร้อยแห่งเอเชีย แต่ราคารถเกือบแพงที่สุดในโลก แมร่งเป็นไปได้ก็สมควรแล้วจริงๆครับ.
คนที่จะอวสาร ไม่ได้มีแค่พวกผู้ประกอบการรายใหญ่น่ะสิ 😭
ใช่ค่ะส่วนท้ายของเรื่องสำคัญที่สุด การศึกษา การวิจัย และการคอรัปชั่น มันสำคัญที่สุดที่เป็นตัวถ่วงของประเทศไทยในตอนนี้ ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ
กัญชา ทำให้เยาวชนไทยไม่พัฒนา
การวิจัยและ นวัตกรรมจะทำให้ไทยไปต่อใด้แต่วงการนักวิจัยภายใต้รัฐบาลไทยเราแย่มากระบบห่วย จนภาคเอกชน ต้องพัฒนาเองทั้งหมด
ใช่ครับ
เงินทอน 🤫🤫🤫
ภาคเอกชนก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญ เคยไปขอร่วมงาน โดนปฏิเสธ บอกให้บริษัทจีนพัฒนาให้
ระบบเต่าทำให้เราไม่พัฒนา😂
มั่วสุดๆ
ก็เป็นเรื่องปกติ ที่ไทยจะไม่ใช่ ดีทรอยด์ แห่งเอเชียอีกแล้ว
ตราบใดถ้ายังไม่ เริ่มทำ know how และ software ของตัวเอง
ผ่านมา 40ปี ยังพึ่งพาลมหายใจจาก ญี่ปุ่นอยู่เลย
ดีทรอยต์แท้ๆยังตายไปนานแล้ว
ตามนั้นครับแบรนด์ประเทศตัวเองไม่ได้เกิดเพราะ มี ค่ายตัว T เป็นมาเฟียวงการนี้ในประเทศเราอยู่
เดี๋ยวอนาคตจีนมาก็ไม่ต่างจาก T เลย เทคโนโลยีเขาไม่ให้อยู่แล้ว แค่มารับไม้ต่อยุ่นแค่นั้น
บริษัท สตยต ยังผลิตเครื่องยนต์ให้ญี่ปุ่นอีก100ปีโน้นที่เขาวางแผนกันเอาไว้
จริงๆจะเปลี่ยนไม่เปลี่ยนอยู่ที่ผู้มากบารมีในประเทศล้วนๆเลย ว่าจะพัฒนาประเทศยังไง
@@samartfc2158 พี่อยู่ สตยตเหรอ ขนาดนั้นเลยเหรอพี่
ชอบรายการ KEY MESSAGES มาก เสียงคนอธิบายทุ้มุนุ่ม ฟังสบาย เนื้อหาคลิป หนัก แน่น เนื้อเน้นๆ สรุปดี ชี้ปัญหาและเสนอทางออก คือดีย์..
อธิบายเป็นจังหวะ ฟังง่าย เห็นภาพ อยากให้ทำรายการแบบนี้เยอะๆ
เป็นประโยชน์มากครับ รายละเอียดชัดเจนดี ผู้มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มคิดและหาทางปรับตัวแล้ว
เงินทอน 🤫🤫🤫
อยากให้สื่อนำข้อมูลแบบนี้ไปถามก๊วนรัฐบาล ว่ามีข้อมูลนี้อยู่ในหัวไหม ถ้ามี ได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว กี่เปอร์เซ็นต์
รายการที่ดีมากๆเลย ให้ความรู้ มุมมองที่ดี เป็นประโยชน์กับทุกคนในชาติได้ตระหนักถึงทุกๆมิติ ทั้งเรื่องผลกระทบจากค่าแรง ทิศทางแนวโน้มอุตสาหกรรม ปัจจัยและองค์ประกอบของอุตสาหกรรมแต่ละประเภท
ผมว่า เป็นโอกาสของคนไทย เพราะทุกอย่างเราทำได้หมด ยกเว้นเครื่องยนต์โดนลิขสิทธิ์ของต่างประเทศ รถไฟฟ้าไม่ซับซ้อนเหมือนรถยนต์สันดาบแบตเตอรี่ ก็ต้องมีหุ้นส่วนกับเขาครับ ยุคสมัยนี้ต้องมีหุ้นสว่นครับ
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลงครับ ทุกคนต้องปรับตัว
ใช่ ยกเว้นพวกที่ยังหลงใหลและปลื้มกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ เป็นอยู่ ไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง มีใครมาเสนอความคิดใหม่ๆให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง คนพวกนี้ก็จะดิ้นๆๆๆๆ ไม่ยอมรับความจริง
ถูกที่สุดครับ
จริงครับ
ไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนแปลงน่ะใช่ แต่ถ้านโยบายรัฐฉลาดพอก็จะรักษาส่วนแบ่งในตลาดโลก และตำแหน่งงานไว้ได้
สนับสนุนรถไฟฟ้า เพราะน้ำมันขาใหญ่น้ำมันไม่เคยคิดช่วยชาติ ช่วยประชาชนจริงจัง แต่ต้องหาทางแก้ไขปัญหาราคาค่าไฟ้าในอนาคตไว้ด้วย ไม่เช่นนั้นพวกผลิตไฟฟ้าทั้งหลาย ก็จะพากัน บวก FT สนุกมือ และจะทำให้ค่าไฟ้าแพงขึ้นหูฉี่ เหมือนที่กลุ่มน้ำมันมันอ้างอิงราคากลางน้ำมันสิงคโปร์ ทั้งที่ผลิตน้ำมันได้ในประเทศไทยแท้ๆ
ประชาชนรู้ แต่รัฐบาลไม่รู้ 😆
คลิปนี้ดี เพื่อบางคนจะได้ตาสว่าง ที่ชอบด่าทำไมไทยถึงเก็บภาษีรถนำเข้า 300% ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นกำแพงภาษี และทำให้ต่างชาติเข้ามาตั้งฐานผลิตที่ไทย เพื่อให้คนไทยสามารถซื้อได้โดยไม่ต้องเสียภาษี 300% แต่เป็นเสียภาษีแบบปกติทั่วไป เมื่อเขาอยากขายรถให้เรา เขาก็ควรมาตั้งโรงงานผลิตที่ประเทศเรา เพื่อทำให้คนไทยมีงานมีอาชีพ ไม่ใช่แบบจีน ที่ไปทำ FTA รถมันถูกเพราะไม่ต้องเสียภาษีรถนำเข้า 300% ก็จริง แต่คนในประเทศมันจะตกงานเอา เหมือนประเทศลาวรถนำเข้าดีๆราคาถูกไทยก็จริง แต่เขาไม่มีโรงงานผลิตไปตั้ง คนก็ไม่ค่อยมีงานทำแล้วจะเอาเงินไหนไปซื้อ? ก็มีแค่กลุ่มคนรวยๆเท่านั้นที่จะเข้าถึงได้
ทำไมเราไม่มุ่งไปแก้ปัญหาที่ต้นตอล่ะ …
- คอรัปชั่น
- สวัสดิการประชาชน
- ปัจจัยพื้นฐานราคาถูก
- ภาษีที่สมเหตุสมผล
- ยุบกระทรวงบางกระทรวงที่ไร้ประสิทธิภาพ
- ใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนให้น้อยที่สุด
- ส่งเสริมให้คนรู้จักพัฒนาตนเองเพื่อสร้างมูลค่า !!!
>> ไม่ใช่เกาะแดกแต่เงินเดือน แล้วหวังโบนัสสิ้นปี
@@mrbankchannel1861 ความคิดดีคับถูกใจ ถึงไม่เสียภาษี300%แต่พี่แกก็ขายรถให้เราแพงกว่าต่างประเทษอื่นอีก ผมงงเจ้าของโพสท์คิดได้ 555555
เหอะๆ ต่างประเทศเข้าไม่ได้โง่ขนาดนั้นครับ คุณสร้างกำแพงภาษี งั้นเราก็เพิ่มราคาขายสิ แค่นี้ก็ไม่เสียเปรียบละ 😅
สรุปแล้ว ไทยเสียค่าโง่อีกแล้วใช่ไหม? คือพลาดท่าลดภาษีขาเข้ารถไฟฟ้าเหลือ0% ซึ่งจีนรับประโยชน์ไปเต็มๆ และจีนนี่แหละที่มาเจรจาชักชวนไทยให้เปิดนโยบายรถไฟฟ้า
ช
สรุปแล้ว ไทยเสียค่าโง่อีกแล้วใช่ไหม? คือพลาดท่าลดภาษีขาเข้ารถไฟฟ้าเหลือ0% ซึ่งจีนรับประโยชน์ไปเต็มๆ และจีนนี่แหละที่มาเจรจาชักชวนไทยให้เปิดนโยบายรถไฟฟ้า
script การทำรายการดีมาก เนื้อๆ เน้นๆ ชัดเจน
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ทำให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่าง ถ้าคิดจะมีอนาคตทีดี
ชอบ style การเล่าเรื่องของคุณพลวุฒิ กำลังพอดีๆ ไม่ดุดันเกินไป ไม่เบาบางเกินไป .... น้ำเสียงก็ฟังแล้วสบายหู ฟังนาน 20 นาทีได้สบายๆ
วิเคราะห์เข้าใจง่าย เนื้อหากระชับน่าสนใจ คุณพิธีกรมีการพูด ท่วงทำนองดีมาก ติดตามอยู่ค่ะ
ออสเตรเลียเค้าต้องการ fade out อุตสาหกรรมยานยนต์ของเค้า เพราะเค้าแคร์เรื่องสิ่งแวดล้อมครับผม อาจจะลองหาข่าวเก่าๆดูได้ครับ เค้าถึงมาทำ FTA กับไทย
ย้าย มันก็ไม่พ้นโลกเดียวกัน
มันน่าจะเป็นข้อแก้ตัวของนักการเมืองมากกว่านะครับ ตอนนี้ออสเตรเลียผลิตถ่านหินและแร่ลิเทียมเป็นเบอร์ต้นๆของโลก มันไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมเหรอไง
ใช่ครับ...ถ้าออสเตรเลียเขาไม่มั่นใจคงไม่ทำFTAกับไทยหรอก ผมว่าอย่าไปสนใจงานวิจัยที่ไม่มีข้อมูลอะไรมารองรับเลย...คอยดูไปยาวๆดีกว่าอย่ามาสรุปเอาตอนนี้ว่าไทยหมดอนาคตเพียงแต่อ้างผลงานวิจัยนี้เท่านั้น เพราะว่ามันคาดเดาทั้งนั้นแหละครับ?????
สิ่งแวดล้อมมันแค่ข้ออ้าง
ออสทำเหมือนกีนโครมๆทำลายสิ่งแวดล้อมยิ่งกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์อีก
@@สมหมายความรัก-ผ8ฏ เขาหมายถึงเด็กจบใหม่จะหางานยากสงสัยสมองโดนประตูหนีบ
ช่องนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย ขอบคุณมากๆครับ
ฟังแล้วเปิดโลกมากค่ะ ของคุณสำหรับข้อมูลดีๆ
ขอบคุณ รายการที่ดี มีสาระ และ ความรู้ค่ะ
วิเคราะห์ดีมากค่ะ ควรส่งให้สภาอุตสาหกรรมได้พิจารณา
ภาครัฐช่างไม่รุ้อ้ไรบ้างเลย
ส่งละได้อะไร
ห่วงแต่เก้าอี้กับตำแหน่งเรื่องอื่นมันไม่สนใจหรอก
เขาทำงานด้วยรึ
เขารู้อยู่แล้ว รู้นานแล้วด้วย แต่...........................................
ข้อมูลดีมากครับ เอาจริงๆบริษัทญี่ปุ่นไม่ตายหรอก อย่างเจ้าตลาดเขาเตรียมการมานานกว่า 10 ปีแล้วมีโรงผลิต ทั้งที่อินโด เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอื่นๆ ถามว่าเขาจะทิ้งเราไปง่ายๆไหมคงไม่ แต่ถ้าถึงที่สุดจริงๆเขาก็ไปครับ ธุรกิจต้องมีกำไร แต่ประเทศเรานี่สิจะมีปัญหา ไม่รู้ตอนทำ FTA กับจีนมีกลยุทธ์ยังไง อยากให้ The STD หาข้อมูลส่วนนี้ด้วยก็ดี ถ้าเรามีทิศทางชัดผมว่าประเทศเราอาจไปได้ครับ
เพื่อผลประโยชน์เขาย้ายได้หมดแหละและก็ไปแล้วบางส่วนอยู่เอาไรละ
เค้าไม่ได้บอกว่า บ.ญป จะตายครับ / เค้าบอกว่า ธุรกิจและการจ้างงานไทยจะตาย
ญป ไม่ตายหรอก ถึงสุดท้ายอย่างของอย่างแย่ก็ขายรถในประเทศตัวเอง เพราะยังไงประเทศอื่นมาสู้ประเทศตัวเองไม่ได้อยู่ดี
@@user-ci9ci6df9x ใช่ครับบริษัทญี่ปุ่นไม่เป็นไรหรอก แต่ประเทศเราเนี่ยแหละจะแย่
ญี่ปุ่นบางส่วนถอนตัวจากไทยแล้ว
ได้ความรู้ เข้าใจระบบรถ EV และตลาดรถยนต์มากขึ้น มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อด้วยครับ
ชอบรายการนี้มากค่ะ พิธกรพูดได้น่าฟัง รู้เรื่อง กระชับ ชัดเจน ดูทุกตอนเลยตค่ะ ได้ความรู้มากๆค่ะ เป็นกำลังใจให้ทำรายการดีๆต่อไปค่ะ
ฟังชัด คิดตามได้ เนื้อหาเข้าใจ กระชับชัดเจน ....รอไรล่ะติดตามทันทีครับ
มันก็ถูกครับ แต่ทุกอย่างก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง อยู่ที่เราจะปรับตัวกันอย่างไร อนาคตเครื่องสันดาปจะเป็นเหมือนเครื่องเล่น vdo หรือกล้องฟิล์ม ในสมัยก่อนแน่นอนครับ
ชอบรายการนี้มากครับ เนื้อหาดีมาก กระชับ เข้าใจง่าย ทุกep
อยากให้รถ EV เกิดในไทยมากครับ แต่ที่บ้านเรามีขาใหญ่ขายน้ำมันอยู่ครับเค้าจะยอมเสียผลประโยชน์มั้ยครับ ไม่งั้นคงผลิตสำเร็จนานแล้วครับ
EV ราคามันแพงเกิน
แบตเตอรี่ไม่พอ คือปัญหาหลัก ของEV
ส่วนรถเติมแก๊สแทนน้ำมันก็ได้นะครับ
ขอให้จีนเอารถevมาขายในไทยแบบไม่แพง ดูซิว่ารถสันดาบจะอยู่อีกนานแค่ไหน
Pttก็จะขายรถevนี่ครับสถานีไฟฟ้าเขาก็ทำ แต่อะไรๆคงไม่ง่ายเท่าคิดน่ะครับ
@@kengjung4191 ขายน้ำมันรวยกว่าเยอะครับ
ได้ความรุ้ ตามทันเหตุ จะได้เรียนรุ้การปรับตัว ข้อมูลดีค่ะ
ปรับตามสถานการณ์ครับ สู้ๆแรงงานไทย
การรักษาตำแหน่งให้ยั่งยืน ยากมาก ต้องยอมรับความจริงว่า เราถนัดซื้อมาใช้ ไม่ถนัดคิดแล้วสร้าง
เป็น 14 นาทีที่คุ้มค่ามากครับ ขอบคุณคอนเทนท์ดีๆครับ
น้ำมันคือต้นทุนของทุกกิจการ หากเลี่ยงหรือลดการใช้น้ำมันไปได้ ก็ช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการทุกๆธุรกิจไปได้มาก อุตสาหกรรมรถสันดาบอาจล่มสลาย แต่ธุรกิจอื่นๆจะเฟื่องฟูขึ้นมา เพราะนอกจากลดต้นทุนในกิจการได้มาก น้ำมันที่ใช้ลดลง ก็จะบังคับให้น้ำมันถูกลงมากด้วย เมื่อน้ำมันถูก ก็ไปดึงให้ค่าไฟถูกลงมาอีก คือถ้าเราจะทู่ซี้ให้ใช้รถสันดาบต่อไปเพื่อหวังอุ้มคนในอุตสาหกรรมยานยนต์ ก็ต้องเรียกร้องให้รัฐมีมาตรการลดค่าน้ำมันลงมาให้หนักๆด้วย
1.เป็นแค่บางกิจการเท่านั้นที่ใช้น้ำมันเยอะ ธุรกิจจะไม่เฟื่องฟูเพราะแค่ค่าน้ำมันลดลงเพียงอย่างเดียว ธุรกิจเพียงบางอย่างได้ประโยชน์ เทียบไม่ได้เลยกับคนเกือบล้านคนตกงาน
2.ราคาน้ำมันในบ้านเราไม่ได้ลดลงเพราะคนไทยทั้งประเทศใช้ev ราคาน้ำมันเป็นราคากลางทั่วโลก +ค่าขนส่ง ค่ากลั่น และภาษีในแต่ละท้องที่ ราคาน้ำมันโลกจะยิ่งแพงมากขึ้นเพราะผู้ผลิตเค้าก็อยากผลักดันให้ราคาสูง
3.ใช้evเยอะขึ้นมากๆก็ต้องมีโรงไฟฟ้าใหม่ นิวเครียจะเป็นทางออก ..และผมคงไม่ยอมให้อยู่ใกล้บ้านผมแน่นอน
มันไม่ใช่เร็วๆนี้แน่นอน นี่คือการประมาณการณ์ในอนาคตข้างหน้า แต่ว่าการวางแผนธุรกิจระหว่างประเทศเกี่ยวข้องกับความคุ้มค่าการตลาดในอนาคต
มองจากความเป็นจริงเลยนะเปลี่ยนจากรถเครื่องยนต์สันดาปมาเป็นรถไฟฟ้า 100% เนี่ย
ดูจากเงื่อนไขของรถไฟฟ้าต่างๆ แล้ว ผมก็ว่าเป็นไปได้ยาก เต็มที่ก็คือ รถน้ำมัน : รถไฟฟ้า = 50 : 50 อันนี้คือมองแง่ดีสุดๆ ละนะ
เหตุผลหลักผมไม่อยากขับรถแล้วไฟฟ้าหมดระหว่างทาง หรือเสียเวลารอคิวชาร์จไฟที่มีรถคันก่อนหน้าเป็นชั่วโมง
@@sorjangnewma3402 ถ้ามีระบบสับเปลี่ยนแบตเตอรี่หละครับ ออกแบบแบตเตอรี่ดีๆ เปลี่ยนง่ายๆ จะสนใจไหมครับ
@@sorjangnewma3402 ทุกวันนี้รถไฟฟ้าวิ่งได้ไม่ต่ำ400กิโลต่อการชาร์จ1ครั้ง ฟาสต์ชาร์จใช้เวลาชาร์จแค่30นาทีแบตฯขึ้นถึง80%วิ่งได้อีกอย่างน้อย250กิโล อนาคตจะเหลือแค่15นาทีเต็ม100% ขี้ยังไม่ทันสุดแบตฯก็ชาร์จเต็มแล้ว ที่สำคัญชาร์จครั้งเดียวจะวิ่งได้ถึง1000กิโลทีเดียว แต่ราคาก็คงเอาเรื่องอยู่นะ
น้ำเสียงน่าฟัง เรียบเรียงเรื่องราวกระชับ เว้นวรรคคำพูดดี รับฟังได้เรื่อยๆ ข้อมูลแน่นน่าเชื่อถือ ขอบคุณข้อมูลดีๆที่นำมาแบ่งปันกันครับ ^^
ชอบวิธีการเรียบเรียงการนำเสนอ
ข้อมูลไม่ลึกจนเกินไป
เข้าใจง่าย
ถ้าคำต่อไปมีพยัญชนะต้น ร. เรือ ผู้บรรยายจะไม่ออกเสียงตัวสะกดคำก่อนหน้า
; ค่า(ย)รถยนต์, ขอ(ง)ประเทศไทย, บ้า(น)เรา ฯลฯ
ถ้ามองเป้าหมายโลกปี 2050 คือ Net zero emission รถ EV ไม่ใช่คำตอบของการแก้ปัญหา เพราะการได้มาของไฟฟ้า มาจากถ่านหิน เป็นส่วนใหญ่ รถที่ใช้เทคโนโลยี ไฮโดรเจน หรือ โซลาเซลล์ จะตอบโจทย์มากกว่า แถมตัดเรื่องผลประโยชน์ที่พวกมีอำนาจบ้านเรา หรือ บ้านอื่นๆ ทั่วโลกจะทำกลไกมาควบคุมได้ด้วย เมื่อก่อนน้ำมันมันก็ราคา 3-4 บาทแหละ คุณดูตอนนี้มันขยับมา 10 เท่า แล้ว ขืนไปใช้ EV ค่าไฟฟ้าบาน ยุคนี้ดีที่คนรุ่นใหม่ หรือ start up ใหม่มีมาก คนที่พร้อมจะสนับสนุนมีมาก ไม่ดักดาน หวงความรู้เหมือนเดิมแล้ว และที่น่าสนใจ รถ EV ผลิตมานานโดยนิสสันลีฟ 20 กว่าปีแล้ว เชื่อว่า งาน R&D มีมากพอ ที่จะไม่คิดผลิต EV แต่ต้องผลิตอันอื่นแทน และเปลี่ยนแปลงโลกให้สะอาดจริงๆ ทั้งโลกและคนบ้าอำนาจกอบโกยเงินจะลดลงไปด้วยความมีอิสระของการใช้พลังงานหมุนเวียนด้วยตนเอง.....
ผมมองในอีกแง่มุมนะครับ คือทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนไม่จีรัง ย่อมผันผวนเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา ถ้าถึงเวลานั้นประเทศไทยก็คงปรับตัวได้ ก็เหมือนประเทศออสเตรเลียในวันนี้ ผลิตรถยนต์ไม่ได้ก็ไม่ใช่ว่าจะหมดหนทางในการทำมาหากินของแรงงานเหล่านั้น ในประเทศไทยเอง แรงงานภาคอื่น ๆ ก็ยังขาดอีกมาก การเรียนรู้ที่จะปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่านของทุกภาคส่วนในไทย ผมเชื่อนะครับว่า เมื่อถึงเวลานั้นจริง ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถปรับตัวเพื่อรับกับความเปลี่ยนแปลงได้แน่นอนครับ
เขามีแหล่งแร่ลิเธียม กับ นิคเกิล ....ไทยไม่มี แรงงานก็ราคาสูงแต่ไม่ได้ตั้งอยู่บนฐานไฮสกิลของอนาคตแต่อย่างใด ....
แต่ที่ไทยมีส่วนใหญ่จะหนักไปทาง Art และ Soft Power ซึ่งต้องตะเกียกตะกายไปทำการค้ากับต่างประเทศกันเอง คนไทยด้วยกันซัพพอร์ตกันเองน้อยมาก เพราะเราเป็นประเทศที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์สูงด้วย แม้จะเบาลงกว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนก็ตาม
คนอดตายละคับ ถ้ามานั่งรอปร้บตัว
อุตสาหกรรมยานยนต์ไปต่อไม่ได้
ภาวะโลกร้อนทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง
การศึกษาไทยที่กระจุกอยู่แค่เมืองใหญ่
การท่องเที่ยวที่ซบเซา แถมด้วยการไม่ช่วยดูแลรักษา
เราว่าปรับตัวไปลำบากแน่เลย😅
รอเวียดนามแซง
ยังไงวันหน้ารถใช้น้ำมันก็ต้องลดลงแน่ๆเพราะกระแสสิ่งแวดล้อมมา ฝั่งยุโรปก็หันมาใช้รถยนตร์ไฟฟ้ากันเยอะขึ้น ถ้าเราไม่ปรับก็ตามเขาไม่ทัน เหมือนสมัยเปลี่ยนผ่านจากกล้องฟิล์มไปดิจิตอลนั่นแหละ ส่วนเรื่องแร่ลิเธียม เทคโนโลยีมันจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆอีกหน่อยก็หาอะไรทดแทนได้
มั่วหาอะไรมาเเทนลิเธียม
ข้อมูลตรงมากผมเป็นพนักงาน
บริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนตร์ส่งให้ค่ายดังของญี่ปุ่นในไทย ผมเริ่มทำธุระกิจส่วนตัวควบคู่ช่วงวันหยุดเสา อาทิตย์มาเกือบ 10 ปีแล้วอนาคตรอดยากธุรกิจผลิตรถยนตร์ในไทย
อินโดนีเซีย หลายบริษัทในกลุ่มของไทยไปเปิดโรงงานที่อินโดเยอะแล้วครับ..
ข้อมูลที่ผมได้รับ ไทยจะเปนฐานผลิต ev รองจาก จีน อินเดีย เวียดนาม อินโด นั้นหมายความว่า เรายังเปนฐานการผลิตรถยนต์ แต่เปนฐานผลิตที่ไม่สำคัญมาก เช่น
ยุค สันดาป แล้วครับ และยุคต่อไป ที่เทคโนโลยีพัฒนาต่อไป เราคงแทบไม่อยู่ในห่วงโซ่นี้แล้ว
เป็นประโยชน์ และตรงไปตรงมา ขอบคุณครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ อธิบายได้ชัดเจนเห็นภาพรวมหมดเลยค่ะ คิดไว้แล้วเหมือนกันว่าอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ในไทยมีผลกระทบแน่ๆ เราจะมีบุคลากรที่มีความชำนาญไม่ทัน ต่างประเทศแน่นอน ยิ่งมาเจอ สถานการณ์โควิด และการบริหารประเทศแบบถดถอย จบข่าวเลยค่ะ เราทำงาน Businesses Development Automotive มองว่ามันไม่สวยหรูอีกแล้ว
ชอบเนื้อหา key massages มากเลยค่ะ ติดตามทุกตอน🤗👍
ขอบคุนที่นำเสนอเนื้อหาดีๆ ครับ และหวังว่าหย่วยงานภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะนำไปศึกษาและเตรียมการรับมือ อย่าให้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา...
5:20 ตอนนี้เป็นไง ย้ายมากันตรึม วิเคราะห์ได้แม่นมากครับ
แต่ผมเชื่อว่า รถสันดาปภายในยังคงเป็นรถที่ประชาชนมีความต้องการอยู่ ตราบใดที่ต้องการความรวดเร็วในการเดินทางไกลไปถึงจุดหมายตรงตามเวลาที่กำหนด หรือมีคลาดเคลื่อนไม่เกิน1ชั่วโมงหรือน้อยกว่า ซึ่งรถEVยังทำไม่ได้ ถ้าเป็นการเดินทางไกลมากๆ
ทางออกคือ แบตเตอรี่โพแทสเซียมในไทย ไทยมี 4แสนล้านตัน ซึ่งสามารถทดแทนลิเธียมได้ ไทยต้องวิจัยสิ่งนี้ให้มากขึ้นได้แล้ว ดีทอยด์ ก็ล้มละลายมาแล้ว
หวังว่าจะวิจัยนะ มีแต่ความหวังเท่านั้นหวังได้แค่กับเอกชนอีก
เมื่อก่อนออสเตรเลียก็เป็นผู้ผลิตต่อมาไทยมาแทนทึ ต่อมาอินโดน่าจะมาแทนไทยเพราะจีนเทสล่ามาลงทุนเยอะตั้งโรงงานพี่ยุ่นยุงผลิตสันดาปต่อแบะทำถไฟฟ้าตามตลาดที่ต้องการต้องผลิตชิปและมอเตอร์ไฟฟเากำลังสูงทุกรอบแบบเทสล่าต้นทุนต้องต่ำแต่อย่าหวังตลาดนี้เน้น อุตสาหกรรทด้านอื่น อาหารนวัตกรรม
ถ้ารัฐบาลลุงตู่ ไทยมีแต่ก้าวถอยหลัง👻👻👻👻👻
โพแตสเซียมเอามาทำปุ๋ยเคมี ตั้งโรงงานทำปุ๋ย
ลิเทียมก็คือเกลือเหมือนกันครับ
ข้อมูลในคลิปนี้จะได้รับการอัพเดตให้เป็นปัจจุบันบันไหมครับ สถานการณ์ปัจจุบันเปลี่ยนไปมากแล้ว ข้อมูลที่ใช้สร้างคลิปนี้ ที่คนดูแล้วรู้สึกกลัว น่าจะต้องได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นปัจจุบันนะ
บริษัทเราเองยังโชคดีที่ถือ Q1 ได้ออเดอร์ model 2022 อีกยาว 7 ปี ด้วยสิทธิ์ Global market ผู้เดียวสำหรับพาร์ทนั้น แต่ก็ถูกกดดันเรื่อง cost structure หนักค่ะ พอจบแล้ว เข้าเฟส MPX ปั๊บก็คุยเรื่อง CR กันทันทีทั้งที่ MP เพิงผ่านไปได้แค่ 1 เดือน แต่ถ้าใครอยู่ sup tier 1 หรือ 2 นี้ มีสิทธิ์หลุดกันได้ระหว่างโปรแกรมเลยค่ะ
รายการดีมีประโยชน์มากครับ👍👍👍
BYD เซ็นลงทุนร่วมกับเครือสยามกลกาลตั้งโรงงานและโชว์รูมจำหน่ายรถแล้วนะครับ และยังจะมีแบรนด์จากจีนมาลงทุนเพิ่มอีกหลายลาย เช่น Changan Geely และก็ DFSK ครับผม
บทความ วิเคราะห์ ดีมาก น่าเป็นห่วงแรงงานไทย มากๆๆๆ อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ ต่างชาติ ถอดใจถอนการลงทุนในไทย เพราะ ตัวแปร ทางการเมือง ความไม่มีเสถียรภาพ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ นโยบาย และการคอรัปชั่น การรัฐประหาร ทุกๆรอบ 4-5 ปี เป็นมะเร็งร้ายกัดกร่อน นักลงทุน
ข้อมูลดีมากครับ แต่ไม่ค่อยครบถ้วน ข้อมูลที่ขาด คือ
1.ราคาที่ว่าสูงในการ สลับพวงมาลัยขวาเป็นซ้ายต้นทุนเท่าไร?
2. สัญญาFTA จีนนำเข้ารถไฟฟ้า ภาษี0% เพราะรถจีนจัดอยู่ในอุปกรณ์ไฟฟ้า แต่ถ้าอยากได้ส่วนลดจากภาครัฐ150,000ต้องผลิตรถชดเชยในประเทศไทย
สัญญาFTA คนละประเดนกับการได้ส่วนลดการผลิตevคับ
สรุปคือ นำเข้ารถจีน เสียภาษี0%
แต่ถ้า บญี่ปุ่น จะเอาส่วนลด จะต้องมีจำนวนผลิตในประเทศไปแลก (ซึ่งไม่มีทางแข่งต้นทุนกะจีนได้)
สรุปเข้าใจง่าย พูดภาษาไทยชัดทำให้น่าฟังมากค่ะ👍
ย้อนดูคลิปย้อนหลัง จนปัจจุบัน ใกล้เคียงมากๆครับ
ไม่ต่างกันเลยครับ ทุกๆครั้งที่มีการเปลี่ยน เทคโนโลยี่ ก็จะเป็นแบบนี้ เกิดตั้งอยู่แล้วดับไป
รถ EV เป็นโอกาสของไทยมากกว่าครับ เราสู้เรื่องเทคโนโลยี่เครื่องยนต์ไม่ได้ แต่ต่อไปนี้คือโลกของมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอร์รี่ ที่เป็นโอกาสของเราแล้วครับ .
ดูจบมั้ยนี่ 555
อยากให้ The standard ให้ข้อมูลบุคคลในรัฐบาลที่ทำสัญญา MOU ยกเว้นภาษีนำเข้ารถจากจีนด้วยครับ ผมว่าการตัดสินใจตรงนี้สำคัญมากอาจเป็นจุดเปลี่ยนอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยจริงๆ ผมคนนึงจะได้จดจำไว้มาใครสมัยหน้าจะได้ไม่เลือกครับ
น่าจะเกือบยี่สิบปีแล้วครับ
FTA ใช้หลักการลดภาษี แบบต่างตอบแทน
สินค้าใดที่ไทยเราผลิตได้ขายเขาได้ และทางจีนก็มีเหมือนกัน
สินค้านั้นก็ได้ลดภาษี และ สินค้าใดที่ต่างคนต่างก็ไม่มีก็ผลิต ก็ได้ลด
แต่ถ้าสินค้าใดผลิตได้แค่ประเทศเดียว สินค้านั้นก็จะไม่ได้การลดภาษี
ยี่สิบปีก่อนใครจะคิดว่า อนาคตจีนจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า จีนจะทำได้ทุกอย่าง
แถมราคาต้นทุ่นต่ำ
FTAหมายรวมถึงทุกสินค้าเลยครับ ไม่ได้เจาะจงรถยนตฺ
MOU หรือ FTA เอาให้เคลียร์
ไม่ทำกับไทย.เขาก็ทำกับอาเซี่ยน.มันจะแตกต่างกันตรงไหน
ไม่มีใครตอบ ทักกี้ไงครับ
ขอบคุณคะสำหรับข่าวดีๆ
ฟังเเล้วรู้สึกเสียดายเวลาจริงๆ โลกพัฒนาไปไกลมากเเต่ไทยยังทำเเบบอยู่ไปวันๆ
หายนะแน่นอนเพราะไม่มีใครรู้ว่าการผลิตไฟฟ้าของไทย 80% มาจากการเผาแก๊สและถ่านหิน การใช้อีวีไม่ได้ช่วยลดโลกร้อนแน่นอน
ให้ข้อมูลย้อนแย้งกันเองนะครับ
1 อ้างว่าผลิต EV ไม่ทันเพราะขาดแคลน ลิเทียม แสดงว่าสันดาปยังคงอยู่ครับ เพราะ demand มีอยู่
2 อ้างค่าแรงอินโด ค่าแรงถูกกว่า แต่ EV ใช้ Robot เป็นส่วนใหญ่
มันมั่ว มันบอกแบด ถูกลง มัน แพงขึ้น ตามตลาด มันพูดมั่ว
ค่าแรงถูกกว่าไทย สามเท่าแล้วชาวอินโด จะเอากำลังซื้อจากไหนมาซื้อรถยนต์ได้มากมาย มันก็คงซื้อได้แค่เฉพาะคนรวยเท่านั้นแหละ กำลังซื้อสี่เท่าแต่เทียบกับ ปชช.ทั้งประเทศ ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อหัวยังห่างจากไทย เนี่ยนะ งง ในงง าคารถยนต์เทสล่าร์มันเป็นแบรนด์ตลาดบนและตลาดกลางสำหรับประเทศที่พัฒนาแล้วๆราคามันจะถูกอยู่เหรอสำหรับชาวอินโดฯ
1. เขาบอกว่า อินโดนีเซีย ไม่ได้มีแค่ ลิเธียม แต่ยังมี นิคเกิล ด้วย
2. การทาสี, การประกอบในรายละเอียดปลีกย่อย ยังต้องใช้คน มันก็มีค่าแรงส่วนคนอยู่ดีไม่ใช่รึไง?
1 สันดาปดีมานด์มี แต่ค่อยๆลดไงคับงงไร
2 EVที่ไหนใช้โรบอท สุดท้ายการผลิตรถ ก้ต้องจ้างคนคุม คนขนส่ง คนออกแบบ วางแผนอยุ่ดีคับ ไปเอาที่ไหนมาบอกใช้โรบอท
@@user-ci9ci6df9x ผมส่าโรงงานเทสล่าที่เป็นรถ EV เขาใช้แรงงานคนน้อยมาก ๆ นะครับ ที่ต้นคอมเมนท์บอกว่าข้อมูลแย้งคือ ค่าแรงอินโดถูกก็จริง แต่ในอุตสาหกรรมรถ EV ที่ใช้หุ่นยนต์ในการผลิตเป็นส่วนมาก(ไม่ได้บอกว่าทั้งหมดนะครับ) ค่าแรงงานอาจจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ รึเปล่าครับ ?
อธิบายชัดเจน วิเคราะห์ดีมากๆครับ ภาพค่อนข้างชัดเจนว่า อุตสาหกรรม EV ในไทย บริษัทจีนน่าจะกินรวบ ค่ายรถญ๊่ปุ่นตอนนี้ยังเล่นรถ Hybrid อยู่เลย
เนื้อหาดีมาก พิธีกรอธิบายได้กระชับดีเยี่ยมคับ
ข้อมูลดีแน่นพอประมาณ เก่งครับอนาคตไกล
EV เป็นเหมือนรถพลังงานทางเลือก จะบอกพลังงานสะอาดก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะทั้งขั้นตอนการผลิตก็ไม่ได้ดูเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่าไร และการใช้พลังงานไฟฟ้า ก็ไม่ได้มาจากพลังงานธรรมชาติอย่างแท้จริง ไฟฟ้าบ้านเรา ยังผลิตจากก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน แบตก็มีการเสื่อมสภาพจะต้องมีการทำลายแบตเมื่อแบตเสื่อมสภาพ คิดดูง่ายๆ รถสัก 10ล้านคัน จะต้องนำแบตที่เสื่อมสภาพไปไว้ไหนละครับ ไฟฟ้าบ้านเราจะรองรับจริงๆเหรอครับ ทุกวันนี้ยังซื้อไฟฟ้าจากลาวอยู่เลย อีกอย่างน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้นก็จริง แต่ประเทศอื่นยังถูกกว่าเรามากเมื่อเทียบกับรายได้กับราคาน้ำมัน EV มีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า รถที่ใช้ ICE ครับ สาเหตุที่ญี่ปุ่นเลือกไทยในการผลิตรถส่วนใหญ่ไม่ใช่เพราะ ไทยมีค่าเเรงที่ถูกกว่าอย่างเดียวครับแต่ เพราะฝีมือและเทคโนโลยีการประกอบรถของไทยดีกว่า หลายๆประเทศที่กล่าวมา ถึงขั้นคุณภาพพอๆกับรถที่ประกอบในญี่ปุ่นครับ
On
ธุรกิจของที่บ้าน ทำเกี่ยวกับรูปภาพ กล้อง+ฟิล์ม
เมื่อสัก15-20ปีผ่านมา เทคโนโยยีเปลี่ยนถ่ายจาก *กล้องใช้ฟิล์ม เป็นกล้องดิจิตอล
(เจ๊งสิครับ รออะไร)
คนจากซื้อฟิล์มเผื่อถ่ายรูป
แต่ที่บ้านก็ปรับตัว จนค่อยๆฟื้นตัว
*อย่ากลัวกับการเปลี่ยนผ่าน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด.
1. ไม่มีแร่นิกเกิล?
ตอบ บริษัทแม่ก็นำเข้าไง
2. ไม่มีเทคโนโลยีผลิตแบต?
ตอบ บริษัทแม่ก็นำเข้าไง
3. ยอดส่งออกรถยนต์ต่ำลง
ตอบ ยอดส่งออกขึ้นแน่เมื่อรถ ev ที่เราผลิตอยู่ได้ออกขาย(GMT มาลงฐานการผลิตที่ประเทศไทยพักหนึ่งแล้วถ้าใครยังไม่ทราบ)
4. ไทยผลิตได้แต่รถพวงมาลัยขวา?
ตอบ ไทยผลิตรถพวงมาลัยซ้ายขายทั่วโลกได้นานแล้ว
5. จุดแข็งของอุตสาหกรรมรถยนต์ในไทย?
ตอบ ไม่ใช่แรงงานต้นทุนต่ำ แต่เป็นมาตรฐานงานของแรงงานของเราที่สูงเมื่อเทียบกับค่าแรง ถ้าเอาค่าแรงอย่างเดียวมาเทียบ BMW คงจ้างเขมรผลิตแล้ว
6. องค์ความรู้และเทคโนโลยีที่อุตสาหกรรมไทยมีส่วนมากบริษัทแม่นำเข้ามาให้เราใช้ทั้งนั้น ไม่ใช่คนไทยคิดเองให้บริษัทแม่ใช่ซะเมื่อไร เช่น เครื่อบยนต์ในรถคนไทยแค่เอารูปแบบเขามาประกอบตามสั่ง แต่เราไม่สร้างมันขึ้นมาสักหน่อย
อันนี้ของจริง
ความเห็นดี น่าจะมาจากคนในวงการ 😁
มองคล้ายๆกันเลยคับที่สำคัญบริษัทญี่ปุ่นไม่ลงมาเล่นEVแบบเต็มตัวอาจจะแอบซุ่มพัฒนาเทคโนโลยีอื่นอยู่ก้อได้ทุกวันนี้การคิดค้นพัฒนาเปลี่ยนวินาทีต่อวินาทีEV อาจจะมาไวไปไวก้อได้ไม่มีอะไรแน่นอน
ประโยคสุดท้าย พูดได้ถูกมาก
ชอบเสียงค่ะชัดเจนทุกถ้อย
สิ่งที่ควรทำ คือ หาวิธีดัดแปลง รถสันดาป ให้เป็นรถ EV ด้วยเทคโนโลยี่ที่คุ้มค่าสำหรับผู้บริโภค เพราะรถสันดาป เราใช้มาเป็นร้อยปี จะเอาไปไว้ไหน ผู้บริโภค สักกี่คน ที่พร้อมจะเปลี่ยนไปซื้อ EV นอกจากผู้ซื้อรายใหม่ ปัญหาคือ มันยังไม่มีจุดคุ้มทุนที่น่าสนใจ สำหรับการดัดแปลง ถ้าไทย แก้โจทย์นี้ได้ ไทยจะเป็นผู้นำการดัดแปลงรถ EV ได้ เพราะไทย ขึ้นชื่อ เรื่องดัดแปลงเก่ง ที่สุดในโลก
ใช่เลย.. ดัดแปลงได้ ก็จะมีกลุ่มคนที่ใช้รถน้ำมันอยุ่ตอนนี้ ไปเป็นลุกค้าๆ กลุ่มแรกๆ ก็เก็บลุกค้ากลุ่มนี้ไปเรื่อยๆ เราเองยังอยากได้ร้าน หรือบริษัทที่จะทำรถกลายเป็นรถไฟฟ้าเลย ขอรุ้ราคาก่อนก็ได้
อย่างคำพูดที่กล่าวไว้ตอนปิดท้าย สิ่งที่กล่าวมาในการกำหนดทิศทางการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยยังไม่ชัดเจน และยังไม่มีการลงมือทำอย่างจริงจัง แผนระยะยาวในการวางแผนรองรับสิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นก็ไม่มี หรือถ้ามีก็ช้าไป เก่าหมดทุกอย่าง ระบบการศึกษา ระบบงานบริการราชการที่แย่ อุ้มแต่คนไม่มีความรู้ความสามารถโอนเงินภาษีประเทศ ไม่ส่งเสริมคนมีความสามารถ
ผมว่าไม่จริงครับ ถึงแม้อินโดฯประชากรจะเยอะ แต่ถ้าเทียบสัดส่วนยอดขายต่อประชากรต่ำมาก บ้านเค้าส่วนใหญ่เป็นครอบครัวมุสลิมใหญ่ เน้นรถใช้งานนั้งได้จำนวนเยอะๆ รถกลุ่ม ppv จึงมีฐานการผลิตส่วนใหญ่ในอินโด มาดูประเทศไทยค่านิยมการใช้รถเป็นสิ่งบงบอกสถานะทางสังคมพอสมควร บางบ้านมีรถมากกว่า 2 คันด้วยซ้ำไป บ้านเรารถขายได้ทุกประเภท ยังเป็นฐานการผลิตสำคัญอยู่ หลายค่ายปัจจุบันเลือกไทยเปิดตัวเป็นที่แรกในโลก กระทบแน่นอนสำหรับรถไฟฟ้า แต่ไม่มากเท่าที่วิเคราะห์แน่ๆ ถึงแม้อินโดจะมีแร่ที่ผลิตแบตได้ แต่ก็แค่โรงงานผลิตแบต ผมตั้งคำถามว่าไทยผลิตรถยนต์สันดาบมาเป็น 30-40 ปี เราได้องค์ความรู้อะไรบ้าง ยี่ห้อรถตัวเองยังไม่มีเลย ผลิตแต่แรงงานเข้าระบบ ผมเชื่อว่ายานยนต์ไทยไม่ล้ม แค่เปลี่ยนเจ้ามือใหม่แค่นั้น
คิดเหมือนญี่ปุ่นเลยครับ ซักพักก็หนีไปอินโดกันหมด มุสลิมสมัยใหม่ เขาก็นิยมรถแบบไทยนี่แหละ ขนาด รถมอไซด์ ในไทยยังผลิตที่เขาเลย
เราจะล้มก็เพราะ ญี่ปุ่นออกตัวช้าเรื่องรถ EV เนี่ยแหล่ะ ถ้าญี่ปุ่นเร่งสปีดออกรถมาสู้กับจีนเร็วๆ ก็อาจจะไปได้ต่อ แต่ยังไงการจ้างงานลดลงแน่นอน เพราะรถ EV ใช้ชิ้นส่วนน้อยกว่ารถ ICE
รถยนต์ไฟฟ้ามีลูกสูบ? เขาหมายถึงโรงงานผลิตชิ้นส่วนอื่นๆ ไม่ใช่แค่โรงงานประกอบ
คุณควรจะว่ายน้ำเป็น ก่อนจะจมน้ำตายนะครับ
@@tonyxamble2038 มอไซด์รุ่นไหนล่ะครับที่ผลิตที่เค้า มันมีการแชร์สายการผลิตอยู่ไทยก็ผลิตส่งไปขายที่อินโดฯเหมือนกัน
การใช้ในประเทศไม่ใช่ประเดนหลัก แต่การมีต้นทุน วัตถุดิบ ที่ดีกว่าไทย จะทำให้ บ รถย้ายจากไทยไปอินโด (ตั้งฐานการผลิตส่งออก)
ขอบคุณครับ ที่มาบอก
เป็นการนำเสนอที่ดีครับ ถือเป็นการแจ้งสัญญานเคือนล่วงหน้า บ่งชี้ความเสี่ยงได้ดีครับ แต่ส่วนตัวผมว่า ตอนท้ายสรุปไม่ค่อยสมเหตุสมผลครับ ควรสรุปเฉพาะส่วนเนื้อหาที่นำเสนอและวิธีการแก้ไขที่สอดคล้องกับประเด็นการนำเสนอครับ ไม่ควรสรุปในลักษณะใส่ความเห็นชี้นำประเด็นด้านอื่นครับ
ส่วนตัวผมทำงานให้แบรน Honda ตอนนี้ทางองค์กร มีการปรับตัวเยอะมาก โดยเฉพาะการปลดพนักงาน ซึ่งฟังดูตอนนี้ก็น่าใจหายอยู่ ต้องมารอดูกันว่ารักใช้น้ำมันแบรนด์ญี่ปุ่นจะมีการปรับตัวยังไง ซึ่งบางทีก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหารและรัฐบาล ว่าจะมีการช่วยกันมากน้อยแค่ไหน
ส่วนใหญ่ปลดเกี่ยวกับการผลิตอะไรครับ
Outsource โดนเยอะไหมครับ เพราะเอาจริงๆชิ้นส่วนเครื่องยนต์น้ำมันตอนนี้แทบจะเป็นปลายโมเดล หาเรื่องลดคอสรัวๆ แทบไม่มีของใหม่แล้ว เตรียมเอาเงินไปลง EV กันหมด
Ev อุปกรณ์ มีแค่ 18 ชิ้น ส่วน สันดาปมี 2000 ชิ้น เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะปลด
ไม่มีทางเหมือนออสเตรเลียได้แน่นอนครับ เพราะ ไทยเป็นฐานผลิต แต่ไม่เคยได้ซื้อรถยนต์ราคาถูกแต่ไหนแต่ไร แถมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย แต่เจ้าของหลักก็เป็นญี่ปุ่นส่วนใหญ่ถึงจะให้คนไทยถือหุ้นกว่า 50% แต่คนไทยก็ไม่เคยนำเทคโนโลยีการผลิต มาผลิตแบรนของคนไทยเอง ผลกระทบจริงๆคน คนตกงานจากภาคอุตสาหกรรมมากกว่าเราจะซื้อรถแพง
ใกล้บ้านผมมีโรงงานรถเจ้าตลาดอยู่ เขาคือทุกสิ่งของที่นี้ โรงงานมากมายผลิตป้อนให้โรงงานนี้ คนมากมายนับหมื่นแสนรวมกันเป็นชุมชนขนาดใหญ่ เมื่อมีการพูดถึงการเปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้าเมื่อหลายปีก่อน ผมก็สัมผัสได้ทีนที่ว่าถ้าโรงงานแห่งนี้หายไปที่นี้จะเหลืออะไร...
ผมเองก็ทำได้แค่ตัดสินใจซื้อรถที่ผลิตที่โรงงานแห่งนี้ ซึ่งก็คุณภาพดี เพื่อชุมชนของผมเอง ก็เท่านั้นครับ....
ผมอยากบอกคนไทยว่าจงเลือกสิ่งที่ผลิตในไทยให้เป็นอันดับแรก ไม่ใช่เพื่อนสนับสนุน เพราะมันเลยจุดนั้นมาหลายปีแล้ว หากแต่เพื่อความอยู่รอดของตัวเราเองแล้วล่ะครับ....
น้ำมันมีแต่จะแพงขึ้นๆ คนก็จะหนีไปใช้ไฟฟ้า และเมื่อEV พัฒนาถึงจุดที่ว่าใช้ได้ดี ราคาเหมาะสม และรณรงค์สิ่งแวลล้อมมากขึ้นๆ เมื่อนั้น รถที่ใช้น้ำมันจะค่อยๆหาย เหลือแต่ภาคการขนส่ง ปั้มน้ำมันจะน้อยลงเปลี่ยนเป็นสถานีชาร์ตไฟฟ้า เดาว่าไม่เกิน10ปี + -
ด้วยความเคารพ และ ความสัตย์จริงครับ
วิศวกรยานยนต์พันธุ์แท้ ที่เป็นคนไทย ทำงานในประเทศไทย และ อาศัยอยู่ในประเทศไทยพร้อมครอบครัว หรือแม้กระทั่งวิศวกรเครื่องกลสาขาย่อยอื่นๆ ที่เป็นคนไทย ทำงานในประเทศไทย และ อาศัยอยู่ในประเทศไทยพร้อมครอบครัว เจตนาไม่จัดซื้อจัดหารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานในช่วงเวลานี้ครับ เนื่องด้วยความไม่พร้อมของเทคโนโลยีดังกล่าว(ในทุกๆด้าน) ที่มีอยู่ในประเทศไทย ณ ปัจจุบัน
มีความจำเป็นต้องรออีกอย่างน้อย 5 ปี ถึง 10 ปี เพื่อความพร้อมของเทคโนโลยีดังกล่าว(ในทุกด้าน)ในประเทศไทย หรือ หลังจาก พ.ศ. 2570 ไปแล้ว ค่อยมาพิจารณากันอีกครั้งครับ ว่าสมควรจะจัดซื้อจัดหารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งาน หรือ ไม่ อย่างไร
โทษครับ ขอบคุณที่ให้ความรู้ใหม่ๆ
บทวิเคราะห์นี้ ยังตกข่าวใหม่ๆอยู่ครับ ส่วนเรืองผลกระทบแรงงาน มันก็เป็นไปตามกลไกการผลิต และการตลาดอยู่แล้ว ปฏิเสธมันไม่ได้ แต่ในปัจจุบัน โรงงารอุตสาหกรรมเริ่มหันมาใช้ระบบหุ่นยนต์แทนคนแล้ว ถึงอย่างไรแรงงานมนุษย์ก็หนีไม่พ้นผลกระทบนี้ในอนาคต เมื่อยอดขายรถยนต์ใช้น้ำมันเริ่มแผ่ว เจ้าของแบรนด์เขาก็ต้องปรับตัวละครับ ตอนนีรถไฟฟ้าแบรนด์ญี่ปุ่นกำลังกระเพือมแบรนด์จีนแล้วนะ ถ้าแบรนด์ญี่ปุ่นมาเต็มตัวเมือไหร่ สำหรับคนไทยคงทิ้งแบรนด์จีนแน่นอน ส่วนโรงงานรถจีนก็มาแล้วนี่ครับ GWM ผลิตรถแล้ว ไม่นับรวม MG. ยี่ห้อNETA ที่ SCG ร่วมหุ้นด้วย ขอสิทธิผบิตขายแล้ว แล้วยังมีอีกร่วม 20 ยี่ห้อนะ ไม่คิดว่าปัญหาจะใหญ่โตเหมือนในบทวิเคราะห์ เรื่องรถพวงมาลัยขวา เราก็ถือได้ว่าเป็นตลาดของตาย ภาษาเซลเรียก ผูกหางหมาขาย ส่วนนี้มั่นคงดีกว่า ต้องไปแข่งขันกันในตลาดพวงมาลัยซ้าย. เราก็มีคู่แข่งเข่น อินโดฯ มาเลเซียอยู่นะ แต่อย่างฮุนได เป็นรถที่คนไทยไม่ไว้ใจด้านคุณภาพ ยอดขายจึงไม่คุ้มที่จะมาตั้งโรงงานในบ้านเรา เข่นเดียวกับวอลโว่ ที่ผลิตมี่มาเลเซีย ที่ค่าแรงแพงกว่าไทย ยอดขายในไทยก็ไม่แรงพอที่จะตั้งโรงงานเหมือนกัน เรื่องโรงงานผลิตรถยนค์นี่ บรีษัทแม่เขาจะพิจารณาเองว่า ประเทศไหน นิยมรถร่นอะไร ก็จะให้ประเทศนั้นผลิตรุ่นดังกล่าว ไม่ใข่ผลิตรุ่นเดียวกันชนกันกับประเทศอื่นครับ
เห็นด้วยครับ บทวิเคราะห์เค้าชี้เฉพาะจุดอ่อน แต่ไม่ชี้จุดแข็ง มันต้องเอาจุดแข็งและจุดอ่อนมาวิเคราะห์คู่กัน และทิศทางของนโยบายทั้งภาครัฐและเอกชนมาประกอบกัน จึงจะมองภาพใหญ่ได้ครบถ้วน
ไม่เห็นด้วย พูดมาไม่ถูกเลย หุ่นยนต์แทนคนไม่ได้ทั้งหมด ,แบรนด์ญี่ปุ่นไม่เคยกระเพื่อมอะไรจีนได้เลยในเรื่อง ev , คนไทยไม่จำเป็นทิ้งจีนซึ่งเป็นผู้นำไปหาผู้ตาม , โรงงานจีนที่มา แค่ประกอบ , Neta พึ่งขอสิทธิ์ขายรถยังไม่ได้มีขาย , พวงมาลัยขวารถไฟฟ้าเปลี่ยนเป็นซ้ายต้นทุนไม่แพง
NETA ปตทร่วมหุ้นกับ Foxconn ครับ ไม่ใช่ SCG
เรื่องรถ EV มันมีปัญหาตรงผลิตเพื่อส่งออกนี่แหล่ะครับ ผลิตเพื่อใช้ในประเทศมันมีผลิตอยู่แล้ว
แต่ฐานผลิตเพื่อส่งออกเขาจะไม่ใช้ไทยเนี่ยสิ ยอดส่งออกเราก็ลดลง
เพราะเราไม่มีแหล่งผลิตแบตเตอรี่เหมือนจีนกับอินโด
ตอนนี้ค่ายเกาหลี tesla เขาก็เล็งจะไปเปิดโรงงานที่อินโด เพราะเข้ามีแหล่งแร่ Ni
@@tonyxamble2038 จริงครับกุ่นยนค์แทนคนไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ทำครคกงานหลายตำแหน่งเมือนกัน ที่เขามีนโยบทยใช้หุนต์มากขึ้นเพราะคนค่าแงพงขึ้นเรื่อยๆตามสภาพเศรษฐกิจ หุ่น ไม่ขอค่าแรงเพิ่ม ไม่ประท้วงหยุดงาน ไม่มี โอที มำงานได้ 7 วัน/สัปดาห์ และเนื่งจากไทยจะตกอยู่ในถาวะขาดแรงงาน เพราะจะเป็นสังคมผู้สูงอายในอนาคตุ คนเกิดใหม่น้อย ญี่ปุ่นกำลังมาครับรถ EV เขาไม่ปบ่อบจีนหรอก แค่รอดูว่า จีนจะปล่อยของอะไรมาบ้าง ตอนนี้รถจีนก็เริ่มมีปัญหาแล้ว ถ้าคุณคิดจะซื้อรถไฟฟ้าให้ถามเขาก่อนนะว่า มีระบบระบายความร้อนให้แบ็ตฯไหม ถ้าไม่มีอย่าซื้อ
@@ohae84 เออใข่ๆขออภัยครับ SCG ถอนตัวผมลืมไป เพราะเดิม ปตท ก็มีแผนร่วมกับ BYD อยู่ก่อนแล้วเลยฝังใจไปหน่อย และก็ร่วมทุนกับ Foxcon ถ้าพิมพ์ผิดขอภัยนะครับ รู้สึกจะผลิตแบ็ตฯด้วยนะ ส่วนบริษัทไทยเราก็ซือโรงงานแบตฯไต้หวัน เห็นว่าใหญ่ที่สุดในโลกนะ เป็นบริษัทเดียวกันกับรถไฟฟ้า mind ของไทยที่หยุดผลิตรถไปแล้ว คงเพราะเทคโนฯตามเจ้าอื่นไม่ทัน ทั้งที่มียอดจอง 4 พันกว่าคัน
อุตสาหกรรมนี้ต้องเร่งปรับตัวไม่อย่างนั้นก็รอความตายไป เพราะกระแสโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา😅
เอาจิงๆถ้าพูดถึงค่าแรงผมโครตเหนื่อยใจกับรัฐบาลชุดนี้ คือถ้าค่าของแพงรัฐบาลชุดนี้เขาจะไม่ปรับลดหรือทำให้ค่าของมันไมาแพงนะ แต่วิธีที่รัฐบาลชุดนี้มันทำก็คือการ แก้ปลายเหตุด้วยการขึ้นค่าแรง และผลกระทบไปตกที่นายทุนที่รับภาระเรื่องค่าน้ำมันแพงอยู่แล้ว แต่ต้องมารับภาระค่าแรงที่สูงขึ้น แต่ยอดขายไม่ได้แพงขึ้นเลย และจีนที่ส่งรถมาขายภาษีก็ไม่ได้เสีย และรถก็ไม่ได้ไช้แรงงานไทยผลิต ซึ่งสามรถขายรถถูกกว่ารถที่ผลิตในประเทศไทยมาก ทั้งที่เรื่องราคาน้ำมันรัฐมีหมากอยู่ในมือแตาไม่กล้าต่อรองกับ ปตท หรือเจ้าซัง และไม่ได้สนับสนุนปรับรถภาษีสินค้าเกษตร และไปเอาใจนักลงทุนจีนมากกว่าแทนที่จะมาเอาใจนักลุงทุนญี่ปุ่นหรืออเมริกาที่อยู่กับเรามานาน คนไทยเขาไม่ได้จอค่าแรงเพิ่มขึ้น แต่ขอค่าของที่มันถูกลง แค่ลดราคาน้ำมันได้เลิกอิงราคาตลาดโลก ทำทางรถไฟให้มันสามารถทันเวลาต่อการขนส่ง รีบทำท่าเรือ น้ำลึกให้เสร็จเพื่อแย่งภาษีจากสิงคโปมาเลิกเอื้อมประโยชน์ให้นักลงทุนจีน แค่นี้ก็พอแล้ว
จริงอย่างคุณว่าค่ะข้าวของถุกอย่างแพงขึ้นมีแต่ชาวไร่ชาวนานี่แหละที่กดให้ต่ำลงกว่าเดิมลิมตาอ้าปากโงหัวไม่ขึ้น
เนื้อหาคม ลึก น่าติดตามครับ
มีประโยชน์มากครับ / เหมือนกระจกเงาอุตสาหกรรม
ทุกอย่างมีเปลี่ยนแปลง ช่วงปี 2510 -2550 ประเทศกำลังเข้าสู่ยุครุ่งเรือง ทั้งประชากรส่วนมากเป็นวัยทำงาน ค่าแรงถูก เป็นฐานผลิตของญี่ปุ่น การเมืองนิ่งพอควร ตอนนั้นจีนยังอดยากกว่าเรา ผ่านมา 30 กว่าปี ปัจจัยได้เปรียบเริ่มกลายเป็นเสียเปรียบ อย่างค่าแรงแพงสูงกว่าประเทศรอบบ้าน แรงงานเริ่มกลายเป็นคนแก่ ปัจจัยไม่เอื้อให้ไปต่อ ประเทศอื่นที่ปัจจัยยังไปได้อย่างจีนก็ขึ้นมาแทน แต่บอกได้ว่าในอีกสิบปีข้างหน้าจีนก็จะเจอแบบเรา เริ่มเข้ายุคคนแก่เหมือนกัน
ถ้าแข่งในสนามที่อินโดได้เปรียบจะเอาอะไรไปสู้ครับ เราต้องหาที่เราได้เปรียบ แล้วเดินไปทางนั้นดีกว่า
ไทยเราควรจับมือกับอินโดมากกว่าแข่งกัน หากไทยพัฒนารถ EV แบรนด์ไทยได้สำเร็จ (จากข่าวมีแนวโน้มทำได้) ก็ควรพิจารณาเปิดโรงงานที่อินโดเช่นกัน
ผลิตในบ้านเรายังเอง ทั้งชิ้นส่วนและยาง แต่คนไทยยังต้องจ่ายแพงอยู่ดี เสียทั้งคนทั้งทรัพยากร แบกรับมลพิษ ย้ายไปต่างประเทศที่ค่าแรงเขาถูกกว่าคงไม่เป็นไรมั้งครับ^^'
👍
หืม? เป็นดิครับ ที่บอกว่าเสียทั้งคนทั้งทรัพยากรคือยังไงครับ คนของเราดิครับที่ได้ประโยชน์ มีการจ้างงานมีงานทำมากขึ้นแถมมีการส่งไปฝึกที่ญี่ปุ่นอีก แล้วถ้าเขาย้ายไปที่อื่น
เตรียมดูข่าวคนตกงานเป็นพันเป็นหมื่นได้เลยครับ ส่วนมลพิษผมว่ามันมาจากคนขับรถในไทยมากกว่าที่ไปกระจุกกันในเมือง ซึ่งก็ปกติที่จะมีมลพิษ ต่อให้เขาย้านไปประเทศอื่น แต่เรายังขับรถกันเยอะมันก็เหมือนเดิมครับ จะมองมองแต่ข้อเสียอย่างเดียวมันก็ไม่ได้หรอกครับ
บริษัทรถไม่เปนไร แต่ไทยจะสูญเสียรายได้และการจ้างงานมหาศาลเลยครับ
ผลกระทบคือแรงงานจะถูกเลิกจ้าง บริษัทผลิตชิ้นส่วนก็จะปิดตัวลงแรงงานก็จะถูกเลิกจ้างเหมือนกัน ผลกระทบจะต่อเนื่องเป็นลูกโซ่
ใช้ครับอยู่แบบเงียบฯบางคงไม่ตายยกเวันไอ่พวกคอยแดกงบประมานอาจอด
งานวิจัยนี้ ดีมาก ขอบคุณที่นำเสนอเรื่องนี้ครับ
ต้องพัฒนาและปรับตัวครับ เขามารถไฟฟ้าคุณก็ต้องรถไฟฟ้าตามสิครับต้องตามโลกไม่ใช่โลกตามเราครับ
ระบบทุนนิยม มันแสวงหา ต้นทุนต่ำ กำไรสูง อยู่แล้ว เราจะรอดหรือไม่ มันไม่ต้องอาศัยลมหายใจของใคร ในเมื่อ The standard เองก็ผลักดันในเรื่องความเป็นปัจเจกอยู่แล้ว มันจะแปลกอะไรถ้าเราต้องไปทำงานที่เมืองจีน อินโด หรือที่ไหนซักที่ที่เป็น ลีดเดอร์ ของแต่ละอาชีพ กรณีที่เลวร้ายที่สุดเลย เรามองรูปแบบการดิ้นรนของคนฟิลิปปินส์ครับ ไทยอยู่สบายมาหลายชั่วคนแล้ว ถึงเวลาที่ต้องปรับตัว จิตใจ และปัญญา
เป็นเพราะ..ผู้นำและนักการเมือง
ไม่มีวิสัยทัศน์
คิดแต่จะกอบโกยผลประโยชน์ และรักษาอำนาจให้อยู่กับตนและพวกพ้องมากที่สุดเท่านั้น
สงสารแต่คนรุ่นหลังเท่านั้น..ที่จะรับกรรมกันต่อไป
ความไม่แน่นอน
คือสิ่งที่แน่นอน
ยังไงก็ถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนแปลง
ผู้บริโภคได้ประโยชน์ เพราะได้รถไฟฟ้าคุณภาพดี ราคาถูก
วิเคราะห์ได้ดี มีเหตุผล ข้อมูลแน่น แหล่งอ้างอิงดี น่ารับชม และมีประโยชน์ที่จะนำไปประกอบความรู้ในการลงทุนด้านต่างๆได้ดีมากครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีนี้เลยครับ
อยากให้รัฐบาลหันมาสนใจ ให้ความสำคัญสิ่งที่เรามีดีและมีอยู่ เมืองไทยเรามีดีอยู่ 2 อย่างที่เราเป็นผู้ผลิตได้คือ อาหารและท่องเที่ยว
ทำไมเราไม่สร้างตัวเองเป็นผู้ผลิตระดับโลกในด้านอาหาร คำว่าครัวของโลกคำเดียว นโยบายด้านอุตสาหกรรม เราเป็นแค่ผู้รับจ้าง
เราไม่ใช่เจ้าของเทคโนโลยี
แต่อาหารนับวันจะยิ่งขาดแคลน
ทั่วโลกยังไงก็ยังต้องการ
🙋♀️ เห็นด้วย
เห็นด้วย เราควรเป็นครัวของโลก เป็นผุ้ผลิตและส่งด้านอาหาร
ครัวโลกมันแค่คำพูดเท่ห์ๆ เพื่อกระตุ้นให้มีการพัฒนาในด้านนี้
แต่เศรษฐกิจไทยควรต้องพึ่งตัวเองให้ได้ในหลายๆส่วน จะทิ้งส่วนอื่นๆไม่ได้ คิดดูนะครับ ถ้าให้ไทยยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อเป็นครัวโลก แล้วไงต่อ? ขายอาหารอย่างเดียว แต่อย่างอื่นซื้อเขาหมดทุกอย่าง แบบนี้ก็ไม่รอดนะ
ใช่ สนับสนุนการเกษตรอย่างจริงจังเถอะ มนุษย์ยังไงก็ต้องกิน
@@mourikogoro9709 ทุกวันนี้เหมือนไม่เอาอะไรสักอย่าง ดูมุ่งเน้นแต่เป็นมือปืนรับจ้าง นวัตกรรมด้านอื่นเราก็ไม่ได้มีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง
พวกนักคิดนักประดิษฐ์ก็ไม่รับการส่งเสริม แต่ที่พอมองเห็นเป็นพื้นฐานและเริ่มพัฒนาได้เลยก็คืออาหารและการท่องเที่ยว เพราะมีตลาดโลกเป็นหลักที่รอรับอยู่แล้ว
ถ้าเราไม่มองตลาดรถ EV เลย เพราะไม่มีอนาคต เราคงต้องมุ่งไปทำ INNOVATION เพราะ EV อาจเป็นคำตอบเบื้องต้นเท่านั้นของรถยนตร์ในปัจจุบัน เหหมือนกรณีก่อนหน้านี้ก้คาดว่าเทคโนโลยีการใช้รถยนตร์ไฮโดรเจนที่ไม่สร้างมลภาวะในทุกกรณีจะเข้ามาทดแทนรถยนตร์ในปัจจุบัน เราควรสร้างทางเลือกไปใช้รถยนตร์ที่ใช้ Hydrogen ซึ่งมีจุดเป้าหมายสู่สิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกันเพื่อเป็นทางเลือก เพราะไม่ใช่รถยนตร์ EV เพียงตัวเดียว รถ EV ก็มีจุดด้อยไม่ใช่น้อย เช่นวิ่งได้เพียงระยะทางสั้น การชาร์จใช้เวลานานจนต้องเข้าไปกินกาแฟรอกันเลย เท่าที่รู้มาต่ำสุดน่าจะเป็น 15 นาที ดังนั้นแม้จะมีปั๊มไฟฟ้าจำนวนมากแต่รถเป็นล้านๆคันก็ต้องรอการชาร์จเข้าคิวกันค่อนข้างมาก ต่างกับประเทศใหญ่ๆที่พท.เขากว้างไกลกว่าเรามากดังนั้นเขาสามารถตังสถานีได้ต่อเนื่องโดยไม่มีการรอคิวหรือมีน้อยมากๆ ต่างกับปัจจุบันที่รถสันดาปภายในไม่ต้องรอเติมน้ำมันเพียงไม่เกิน 5 นาที การตั้งสถานีชาร์จรถEV แบบหัวจ่ายจำนวนมากก็ทำได้ยากมากๆเพราะจำเป็นต้องใช้กำลังไฟมหาศาลที่จะทำได้ ดังนั้นคงทำได้ปั๊มละเต็มที่ 4 -6 หัวระดับปั๊มใหญ่สุดเท่านั้น นอกจากนั้นก็ดังที่กล่าวมาข้างต้นใน 1 ตันการผลิต Lithium ต้องใช้น้ำถึง 2,000 ลิตรซึ่งสิ้นเปลืองทรัพยากรต้นทางได้ไม่สอดคล้องกับการประหยัดพลังงานในต้นทางการผลิตเลย เราก็เป็นผู้ส่งออกบรรจุภัณฑ์ที่บรรจุลิเธียมซึ่งพวกนี้ต้องใช้ถุง Hig heat ทนความร้อน 160 C และต้องทิ้งทั้งถุงลงเตาหลอมเลยเพราะความร้อนสูงมากไม่สามารถเทลงไปได้เพราะถุงทนไม่ไหวมันจะวาบไฟหลอมทันที ทีนี้เรามาคิดด้าน End of Life นะครับ Battery จะต้องถูกทิ้งเป็นของเสียในที่สุดซึ่งเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมจำนวนมหาศาล ลองเอจำนวนรถคูณด้วยจำนวนแบตเตอรี่นะครับ ผมจึงคิดว่าถ้าเราหันมาทำตลาดรถไฮโดรเจนเลยจะได้เป็นส่วนแบ่งตลาดกับรถ EV แม้ปัจจุบันต้นทุนอาจสูงมากแต่พัฒนาให้ลดลงได้ด้วย RnD ทางเทคโนโลยี ผมไม่ทราบว่าวิ่งได้ไกลกว่าไหม แต่ในที่สุดไม่เหลือเศษเสียแบตเตอรี่ทิ้ง และใช้ระบบนี้แทนแบตเตอรี่โดยไม่มีการใช้เครื่องยนตร์สันดาปภายใน จำนวนของเสียที่ End of Life จะดีกว่าและไม่ม่พิษอย่างแน่นอนเพราะเป็นส่วนหนึ่งของอากาศเลย ทำ Hydrogen Cell เลยจะเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสและเป็นฐานการผลิตได้ดังเดิมหรือาจมากกว่าเดิมด้วยครับ
ไทยเราจะได้เปรียบมาก 👍👍👍
จริงคะ การทิ้งแบตเตอรี่ในอนาคตเป็นเรื่องที่น่าห่วง
ผมว่าเป็นเพราะ 7 ปีที่ผ่านมามากกว่า ผู้นำขาดภาวะทุกด้าน มีด้านเดียวที่เด่นคือ อารมณ์เสียไปซะทุกเรื่อง ซึ่งเป็นอะไรที่ด้อยค่ามากสำหรับความเป็นผู้นำ แต่ถ้าเอาจริงๆผู้นำที่มาจากทหารเข้ามาบริหารประเทศได้ ก็เพราะประชาชนคนไทยเองนั่นแหละ ที่ทำให้เกิดการปฏิวัติ
พิธีกรพูดดี ชัดเจนมากค่ะ
KKP research บอกว่า ยอดขายรถ EV จะลดลงในอีกไม่กี่ปี จากปัญหาคอขวดในการผลิตแบตเตอรี่ รถยนต์สันดาบอาจจะมีอายุยืนยาวกว่าที่คิดนะ
กลัวจะเหมือนโกดักบอกว่ายังไงภาพถ่ายก็คุณภาพดีกว่ากล้องดิจิตอลสมัยนั้นคนนิยมเก็บเป็นภาพมากกว่าเป็นข้อมูลในเครื่องเลยไม่ยอมเข้ามาเล่นกล้องดิจิตอล พอเทคโนโลยีก้าวกระโดดก็สายไปแล้ว สันดาบอาจจะตายเร็วกว่าที่คิดด้วยซำ้ สมัยนี้เทคโนโลยีก้าวกระโดดไกลกว่าเดิมมากการปฏิวัติอุสาหกรรมใช้เวลาน้อยลงเรื่อยๆ การลดข้อจำกัดของรถevอาจเร็วกว่าที่คิด
รถน้ำมัน ไปแล้วไปลับ
ไปแล้ว ไม่กลับแน่นอน
แม้แต่คุณ รถคันต่อไปก็คงต้องเลือกรถไฟฟ้า เพราะรถไฟฟ้าจะถูกลงเรื่อยๆ
Research เข้าค้างตัวเอง ยุโรปใช้กันเต็มประเทศ
01:53 รถ EV จะแทนที่รถเครื่องยนต์เมื่อไหร่
03:44 จีน อินโดนีเซีย คู่แข่งโหด มาแรง และกำลังแซงไทย
08:35 การจ้างงานอาจหายไปครึ่งหนึ่งจาก 8 แสนคน
10:30 ไทยกำลังจะซ้ำรอยออสเตรเลีย?
12:18 ข้อเสนอแนะถึงภาครัฐจาก KKP Reserch
"ซ้ำรอย" ไหมครับ
คุณบอกว่า อุตฯ รถยนต์ของปท.ไทยจะล่มจมแล้วเหรอครับ
วิเคราะห์ดีๆด้วยนะครับ เพราะจีนมาลงทุนสร้างรถไฟฟ้าในไทยมากขึ้น
จะเหมือนออสเตรเลียตอนนั้นได้ยังไง