กลยุทธ์ของปีศาจเพียงกลยุทธ์เดียวสามารถทำลายชีวิตคุณทั้งชีวิตได้อย่างไร ❤️ จดหมายรักจากพระเยซู

ข้อความไปยังวิดีโอ ... jesus-comes.co...
เว็บไซต์ ... jesus-comes.co...
Website in various languages ... jesus-comes.com
พระเยซูทรงอธิบายว่า…
กลยุทธ์ของปีศาจเพียงกลยุทธ์เดียวสามารถทำลายชีวิตคุณทั้งชีวิตได้อย่างไร
1 กันยายน 2559
พระวจนะจากพระเยซูผ่านซิสเตอร์แคลร์
(แคลร์) พระเจ้า ข้าพเจ้า
อยากได้เพียงของประทานที่
พระองค์ต้องการมอบให้เท่านั้น
ข้าพเจ้าไม่ต้องการสิ่งใดเกิน
กว่าสิ่งที่พระองค์ได้ประทานให้
เว้นแต่พระองค์จะใส่ความปรารถนา
นั้นลงในใจของข้าพเจ้า
(พระเยซู) “นั่นเป็นสิ่งที่ฉลาดมาก
นกพิราบของเรา ฉลาดจริง ๆ
คนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าบริวารของเรา
ต้องทนทุกข์เพียงใดเพื่อรักษา
ของประทานที่หลายคนปรารถนา
อย่างมาก ถ้าพวกเขารู้ พวกเขา
คงไม่กล้าขอของประทานเหล่านั้น
แต่ไม่ใช่เรื่องนี้ที่เราต้องการพูด
กับเจ้าในคืนนี้”
“โอ้ ฉันรักร่างกายของฉันมาก
เพียงใด แต่ร่างกายของฉันกลับ
ฉีกขาดและฉีกขาดอยู่ตลอดเวลา
และฉันตั้งใจที่จะหยุดสิ่งนั้นให้
หมดสิ้น สำหรับผู้ที่จะฟัง ตั้งใจ
ฟัง และเชื่อฟัง
“มีเหตุผลที่วิญญาณแห่งการ
โกหกหลอกลวงมีอิทธิพลอย่าง
น่าอัศจรรย์เช่นนี้ ลูกๆ ที่รัก เจ้า
ไม่รู้เลยว่ากับดักนี้ถูกวางไว้ต่อ
หน้าเจ้า และมันร้ายแรงแค่ไหน
ปีศาจจะปรากฏตัวในสายตา
ของเจ้าและเปลี่ยนมันให้กลาย
เป็นความจริง เมื่อมันถูกพิสูจน์
แล้วว่ามันเป็นจริง มันจะทำให้
ความคิดของเจ้าเปลี่ยนไป ทุกคน
จะสงสัย เนื่องจากสภาวะจิตใจ
ที่ระมัดระวังนี้ เจ้าจะกรองลักษณะ
ที่น่าสงสัยเหล่านี้โดยอัตโนมัติ
เพื่อปกป้องตัวเอง เมื่อเจ้าพบ
ใครสักคนที่มีลักษณะเหล่านี้
เจ้าจะคิดร้ายต่อพวกเขา ทันที
ที่เจ้าพบ ประตูสู่มิติปีศาจก็จะ
เปิดกว้าง วิญญาณแห่งการโกหก
จะหลั่งไหลเข้ามาเพื่อดึงเจ้า
เข้าสู่สภาวะแห่งความสงสัยและ
ความโดดเดี่ยวที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
“ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าใครเกี่ยวข้อง
แต่ประเด็นอยู่ที่การทำให้คุณทำ
บาป คุณอยู่ในโหมดเอาตัวรอด
ปกป้องตัวเอง และดำเนินชีวิต
ด้วยความกลัวที่ฝังรากลึก ปีศาจ
ขยายสิ่งนั้นด้วยการบอกเป็นนัย
ถึงภัยคุกคามมากมายที่เกี่ยว
ข้องกับคนเหล่านี้ อาจมีสองคน
ที่ผิด แต่ในความคิดของคุณ
เพราะอิทธิพลของตัวกรองความ
คิดนี้ คุณอาจจะคิดว่ามีถึงยี่สิบคน
ที่เกี่ยวข้องและมีความผิด
“หลังจากตัดสินคนบริสุทธิ์ไปแล้ว
18 คน ตอนนี้คุณเข้าไปพัวพันกับ
สงครามเต็มรูปแบบกับปีศาจที่
หลั่งไหลเข้ามาผ่านทุกประตู
ที่คุณเปิดพร้อมกับวิญญาณที่
ถูกตัดสินอย่างบริสุทธิ์ใจ คุณ
เห็นไหมว่านั่นหลอกลวงและ
ทำลายล้างแค่ไหน?
“สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือ เมื่อ
จิตใจถูกปรับสภาพให้มองเห็น
ว่าใครเป็นคนผิดจริงๆ เมื่อเวลา
ผ่านไป คุณลักษณะที่ทำให้
เกิดความสงสัยก็จะเพิ่มมากขึ้น
เรื่อยๆ และเกณฑ์ของคุณก็จะ
กว้างขึ้นมาก แทบทุกคนที่คุณ
รู้จักจะถูกคุณตัดสินว่ามีความผิด
ในความเป็นจริงแล้ว คุณกลาย
เป็นคนที่คุณเกลียดชัง เพราะ
คุณจมอยู่กับความคิดนั้นอย่าง
ลึกซึ้ง ความคิดนั้นจะกลายเป็น
จุดสนใจของคุณและหล่อหลอม
ความคิดทั้งหมดของคุณ”
“การรักษาคืออะไร? มันง่าย
เกินไปสำหรับ ‘คนฉลาด’ ที่จะ
เข้าใจ จงจ้องมองที่ฉัน จดจ่อ
ที่ฉัน จงรู้ว่าฉันปกป้องคุณ
เมื่อคุณจดจ่อที่ฉัน คุณจะกลาย
เป็นเหมือนฉันมากขึ้นเรื่อยๆ
คุณจะเรียนรู้ว่าฉันคอยหนุน
หลังคุณ พูดอีกอย่างก็คือ
คุณเรียนรู้ว่าไม่สำคัญว่าศัตรู
ของคุณคือใคร สิ่งสำคัญคือคุณ
รักพวกเขา ความกลัวหายไป
เพราะคุณกำลังมองที่ฉันและไว้
วางใจฉัน ความกลัวเป็นเครื่องยนต์
ที่ขับเคลื่อนการตัดสินแบบนี้ เมื่อ
ความกลัวหายไป ความจำเป็น
ในการตัดสินเพื่อเอาชีวิตรอดก็
หายไปเช่นกัน
“นั่นคือเหตุผลที่คนที่สอนมุ่งความ
สนใจไปที่ฉัน ความสนิทสนมใน
การสวดอ้อนวอน การรู้จักและ
ได้ยินเสียงของฉัน จึงเป็นเป้า
หมายของการข่มเหง เมื่อคุณฟัง
ฉัน ฉันจะนำทางคุณไปรอบๆ
แนวปะการังแห่งการพิพากษา
และตอนนี้ประตูของพวกเขาจะ
ไม่มีประสิทธิภาพอีกต่อไป
“นี่คือเหตุผลว่าทำไมมันจึงมี
ประสิทธิภาพมาก ปีศาจแห่ง
ความกลัววางรากฐาน จากนั้น
เมื่อรวมกับความรู้สึกในการปก
ป้องตนเอง คุณจึงตั้งอุปกรณ์
คัดกรองเพื่อค้นหาลักษณะเฉพาะ
บางอย่างในตัวผู้คน
“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริง จินตนาการ
หรือบิดเบือนโดยเจตนาของศัตรู
หน้าจอนี้จะจับภาพผู้ที่อาจมี
รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนศัตรู
ได้มากมาย เพื่อที่คุณจะกล่าว
หาพวกเขาอย่างผิดๆ และเปิด
ประตูให้ปีศาจข่มเหงคุณด้วย
โรคภัยไข้เจ็บมากมาย
“เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว หากคุณทำ
ตามสิ่งที่ฉันบอก และทำให้
ฉันเป็นศูนย์กลางของความ
เป็นจริงของคุณ สิ่งนี้จะไม่มี
วันเกิดขึ้น ไม่สำคัญสำหรับคุณ
ว่าพวกเขาอยู่ข้างไหน”
(แคลร์) โปรดยกโทษให้ข้าพเจ้า
ด้วยเถิด พระเจ้า แต่แล้วในช่วง
ความทุกข์ยากล่ะ?
(พระเยซู) “นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ในกรณีนั้น คุณจะมองทุกคนที่
อยู่นอกวงในของคุณว่าเป็นผู้
ต้องสงสัย จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่า
ไม่ใช่ ในแง่นั้น สัญชาตญาณ
การเอาตัวรอดของคุณนั้นถือว่า
เหมาะสม แต่ถ้าคุณได้รับ
การสอนให้ไม่ตัดสินผู้อื่น คุณจะ
ระงับการตัดสินไว้ก่อน และ
พัฒนาทัศนคติแบบ ‘รอดู’
โดยให้ความระมัดระวังเป็นตัว
นำทาง”
“แต่นี่มันแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง
นะ แคลร์ คุณยังไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่
ในยุคสมัยนั้นในประเทศนี้เลย
ยังมีหนทางอีกยาวไกล สิ่งที่ฉัน
กำลังพูดถึงคือความไม่สมดุล
ในการคิดที่ทำให้คุณคอยระวัง
ภัยอยู่ตลอดเวลา ความคิดแบบนี้
ซึ่งคุณคงรู้ดีจากประสบการณ์ที่
ผ่านมา เป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยหน่าย
และอ่อนล้ามาก และขัดต่อความ
ศักดิ์สิทธิ์ส่วนบุคคลและความรัก
พี่น้องอย่างมาก แม้ว่าคุณจะ
สงสัยว่ามีคนกำลังทำงานร่วม
กับศัตรู แต่ความเมตตาของคุณ
ที่มีต่อพวกเขาก็ยังคงมีผล”
(แคลร์) พระเจ้า คนเราจะหลุดพ้น
จากกับดักอันร้ายแรงนี้ได้อย่างไร?
ข้อความไปยังวิดีโอ ... jesus-comes.co...