ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงมีแนวโน้ม "ไม่นับถือศาสนา" กันมากขึ้น ?
Вставка
- Опубліковано 6 лют 2025
- ในปัจจุบันจำนวนตัวเลขของผู้คนที่ไม่นับถือศาสนามีจำนวนมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามตามลำดับ โดยข้อมูลจากการสำรวจของ World Population Review พบว่า จากข้อมูลล่าสุดเมื่อปี 2020 จำนวนของผู้คนที่ไม่นับถือศาสนาใดๆเลยนั้น มีอยู่ประมาณ 1.19 พันล้านคนเลยทีเดียว และคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนมากขึ้นไปอีกในอนาคต โดยในจำนวนเหล่านี้กลุ่มประชากรที่มีความเชื่อในการเลือก “ไม่นับถือศาสนา” มักเป็นคนรุ่นใหม่หรืออยู่ใน “Generation Z“ เสียเป็นส่วนใหญ่
#ศาสนา #Atheism #คนรุ่นใหม่
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน
/ @khonfairu
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
Donate สนับสนุนเราได้ที่ : 091-8063766
True Wallet & True money
หรือ : tipme.in.th/kh...
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
Facebook fanpage : wow.in.th/f8qL
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
❤ Thank for watching & support ❤
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
การนับถือ มันคือการผูกมัดว่าเราต้องทำอะไรไม่ทำอะไร ซึ่งบางเรื่องมันก็ไร้สาระ ไร้เหตุผล แต่เราสามารถศึกษาษาและนำมาปรับเปลียนให้สอดคล้องกลับยุคสมัยหรือวิทยาศาสตร์แล้วนำมาใช้ได้ ปัจจุบันผมก็ได้นับถือศาสนา แต่ก็อ่านหนังสือธรรมะ,ปรัชญา,วิทยาศาสตร์ ไม่ได้เข้าวัดทำบุญแล้ว ไม่ได้สนใจบุญบาป สนใจแค่ความถูกต้อง เช่นการไม่เบียดเบียนคนอื่น ผมมองว่ามันมีประโยชน์กว่าเข้าวัดทำบุญอีก
เหมือนกันเลยครับเข้าวัดทำบุญล่าสุดเกือบ10ปีแลัว
มุมมองคล้ายๆกับผม 😇
หากบาปบุญมีจริง มันก็มีอยู่ทุกที่เหมือนอากาศนั้นละ แต่บางคนชอบไปทำที่วัดดังๆสวยๆ ทั้งที่วัดในหมู่บ้านขาดแคลนสารพัด ช่วยเหลือคนลำบาก ให้ข้าวหมาแมวจรจัด อะไรประมาณนี้ก็ได้บุญแล้วนะ หากว่ามี ไม่จำเป็นต้องถวายพระดังๆ มีเงินเป็นร้อยล้านถึงจะได้บุญ สังคมเราทำไมโง่จนคิดไม่ได้ วัดบางที่เปิดสาขาอย่างกะบริษัท
ผมรู้จักกับคนที่ไม่นับถือศาสนาบางคนขี้โกงไม่กลัวบาปนิสัยไม่ดี บางคนดีมากๆนับถือกฏหมายเป็นหลักไม่รังแกมนุษย์ด้วยกันไม่นับถือศาสนามีทั้งเลวและดีเหมือนกันครับไม่ต่างกับคนทั่วไป ส่วนตัวมองว่าก็เป็นศาสนาหนึ่งแค่ไร้ศาสนามีทั้งคนดีและคนเลว
@@Issara87 จริงครับ บริษัทหัวโ...้..น จำกัดมหาชน
ศาสนาอื่นเราไม่รู้ แต่ พุทธศาสนาไม่ได้อยู่ที่เครื่องแบบ ไม่ได้อยู่แม้แต่สถานที่ใด หรือแม้แต่คำเรียกว่าพุทธศาสนาเองก็ไม่มีอยู่
พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สอนให้ยึดติดในสิ่งใดเลย
ศีล สมาธิ และปัญญาคือที่สุด
ธรรมะ เหมือนจะยาก แต่ก็ง่ายนิดเดียว เพราะมันมีอยู่แล้วในตัวทุกคน เพียงแค่เรามักจะมองไม่เห็น มนุษย์มักจะมองเห็นสิ่งภายนอก มากกว่าจะมองเข้ามาที่ตัวเอง ที่จิตใจของตัวเอง
ถ้าอยากมีความสุข ศาสนาพุทธไม่ตอบโจทย์ของท่าน
แต่ถ้าอยากพ้นทุกข์ ศาสนาพุทธมีคำตอบ
คนเราทำความดี ไม่เบียดเบียนคนอื่น ช่วยเหลือคนอื่น และไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ผมว่าเพียงพอแล้ว รัก โลภ โกรธ หลง มีทุกคน ควรคุมให้อยู่
เห็นด้วยอย่างแรง
ใช่ครับ กิเลส ประกอบด้วย รัก โลภ โกรธ หลง เราตัดมันไม่ได้ ตราบใดที่เราเป็นสัตว์ มีหัวใจ มีสมอง ไม่ต่างจากสัตว์ ทั่ว ๆ ไป เราก็อยากได้นู้น อยากได้นี่ตลอดเวลา นั่นแหละครับ
ช่ายครับ
จะทำอะไรคิดให้เยอะๆคิดให้รอบคอบรอบด้านทำแล้วจะเกิดอะไรตามมาเป้นผลเสียแก่ผู้อื่นต่อสังคมต่อตัวเราในระยะยาวใหม😊
ผมกลับคิดว่า หลักสิทธิฯ ที่คนปัจจุบันต้องการอยากได้อยากมี ก็คือแนวคิดความเชื่อหนึ่งทีมีพื่นฐานมาจากศาสนา และหลักสิทธิฯ ก็ถูกใช้ในทางการเมืองจนดูเป็นว่า คนไม่ทำตามหลักสิทธิฯ คือคนล้าหลัง ไม่เท่าเทียมกัน งมงาย แม้ว่าธรรมเนียมประเพณีบางอย่างที่สืบมามันมีคุณค่า เช่น การไหว้ แสดงถึงความอ่อนน้อมถอมต้นของผู้้น้อยกับผู้ใหญ่ ลูกไหว้พ่อมแม่ คือ การไม่เคารพสิทธิฯ หรือ นั่นก็ไม่...
เขาทิ้งขยะได้ เราก็ทิ้งขยะที่สาธารณะได้ มันเป็นสิทธิฯ ของฉันที่จะทำ?
... แม้แต่อเมริกาเจ้าพ่อแห่งสิทธิฯ ยังมีปัญหาสังคมแย่กว่าไทย คนเห็นแก่ตัว ไม่เคารพกันตามอายุ ดูถูกเหยียดผิว นี่ใช่การปฏิบัติตามสิทธิฯ ไหม
บางประเทศจำเป็นต้องมีศาสนาเพื่อช่วยให้สังคมมีแนวทางการพัฒนาสติปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะใช้สิทธิฯ ได้อย่างเหมาะสม นี่น่าจะถูกต้องกว่า
การป้ายยาว่า ไทย (แม้ไม่เจาะจงว่า เป็นศาสนาใด พอเดาได้) มีผู้ไม่นับถือศาสนาเพ่ิมขึ้น เพราะมีปัญหามากมายที่ตัวบุคคล ต้องย้อนถามว่า คนไม่นับถือหรือเปลี่ยนความนับถือจากศาสนาเดิม ได้ลองศึกษา ปฏิบัติ และเปิดใจอย่างแท้จริงยัง หรือเพราะใจตัวเองไปเจาะจงที่บุคคล พอบุคคลประพฤติตนไม่ไม่ดี ก็บอกตนว่า เราไม่นับถือแล้ว ทั้งที่พระศาสดาไม่ได้ให้ยึดที่ตัวบุคคล ท่านให้ยึดคำสอน "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต"
แค่แสดงความคิดเห็นนะครับ .... จากเด็กหลายศาสนา
จริงแท้ สาธุครับ
คนเราดีชั่วรู้อยู่แก่ใจ ไม่จำเป็นต้องมีศาสนาแล้วต้องมานั่งถามคนในศาสนาว่าอะไรบาปไม่บาปบ้าง อะไรทำได้ทำไม่ได้บ้าง เสียเวลาชีวิตเปล่าๆ เรื่องพวกนี้มนุษย์กำหนดกันเองทั้งนั้น แค่เราทำสิ่งที่ดีและไม่ทำชั่ว แค่นั้นก็พอแล้ว
ผมก็ไม่ได้นับถือศาสนา ครับ แต่ก็มีจริยธรรม คำสอนของแต่ละศาสนา ก็ศึกษาพอเป็นปรัชญา เพื่อปรับใช้ ไม่ได้เอามาเป็นกฏเกณฑ์ ที่ต้องบังคับ ทุกอย่างใช้ใจวัด
งั้นชีวิตเกิดมาทำไมหรอครับคุณ
@@samruam4124 อันนั้นมันเป็นคำถามพวกถือ ศาสนา คือคนประเภทผมเขาไม่อยากรู้หรอก เราค้นหาว่าเกิดมายังไงแบ่งเซลล์ยังไงมีกระบวนการยังไง ถ้าจะถามว่าเกิดมาเพื่ออะไร แล้วคุณเกิดมาเพื่ออะไร พบพระเจ้า หรือรอนิพพาน เคยเห็นเคนไปเหรอ
@@Pong_Wongsangam แล้วคุณตัดสินไปแล้วทั้งๆที่ไม่ลองดูก่อน ผมไม่มีไรจะพูดกับคนอย่างคุณล่ะงั้น
@@samruam4124 ลองเพื่อ.. ลองอะไรที่พิสูจน์และวัดไม่ได้อะนะ ผมเป็นวิศวกร ถูกสอนมาเรื่องเหตุผล ไม่ใช่เรื่อง มัวๆชัดไม่ชัดแล้วก็กราบ คุณไม่กราบสัตว์เซลล์เดียวล่ะ นั่นล่ะพระเจ้า ต้นกำเนิดมนุษย์ สิ่งที่คุณเชื่อไม่ใช่ทุกคนที่จะเชื่อ พอคนไม่เชื่อตามก็บอกนอกรีตเป็นผีเป็นเปรต.. ความคิดศาสนา ที่ให้ร้ายคน ผมไม่นับถือหรอก คุณลองไปไตร่ตรองดีๆ เลิกงมงาย แล้วจะเข้าใจ ความจริงที่มันจริงๆ
@@samruam4124 ทำไมต้องลองครับ ศาสนาไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าจะเป็นคนดีหรือคนไม่ดีนิครับ
ชีวิตของเราเอง คิดดีทำดี ไม่เบียดเบียนตน และผู้อื่น ไม่หลงงมงายกับศาสนา หรือลัทธิใดๆ ก็สุขใจแล้ว
ศาสนาถือว่าเป็นกฎหมายที่เก่าแก่ที่สุด เมื่อยุคก่อนมีศาสนา มนุษย์ทำตัวเหมือนสัตว์เดรัจฉาน อยู่ในวัฏจักรธรรมชาติ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก คนกินคนกันเอง เบียดเบียนกันและกัน มีความสุขที่จะทำ มีอิสระเสรี ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความประมาท ก่อให้เกิดผลกรรม คอยตั้งคำถามตัวเองว่าเกิดมาจน เกิดมาพิการ เกิดมาครอบครัวแตกแยก เกิดมาถูกคนรังแก เกิดมาอัปลักษณ์ เกิดมารวยแต่มีความทุกข์
จนก่อเกิด ศาสดา ทุกๆศาสนา เห็นความทุกข์ต่างๆ จึงมาโปรดมนุษย์ผู้โง่เขลาทำตัวเหมือนสัตว์เดรัจฉาน ให้มาทำความดี ละความชั่ว ให้พ้นจากความทุกข์ จึงบัญญัติสอนสั่งกฎเกณฑ์กระทำความดีได้อย่างไร และทุกๆศาสนาก่อสอนว่า นรกสวรรค์มีจริงเหมือนกันจึงจะเป็นเรื่องบังเอิญได้อย่างไร
และยุคนี้ที่ศาสนาเสื่อม จริงๆแล้วศาสนาไม่เคยเสื่อมศรัทธาเลย มีแต่มนุษย์ผู้โง่เขลาอยากใช้ชีวิตอิสระเสรีกลับเสื่อมถอยอยากเป็น สัตว์เดรัจฉาน เหมือนโบราณกาลก่อน
คนมีศาสนาในใจ = รู้ตัวตน มีสติไม่ประมาทในการทำชั่ว จึงรู้จักทำดีได้ง่าย
คนไม่มีศาสนาในใจ = ดำเนินชีวิตด้วยความประมาท จึงทำชั่วได้ง่าย
ดีชั่วเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและลงลึกไปอีกอย่าคึดอะไรง่ายๆสะบายตัว เพราะทำชั่วมันทำง่ายมาก แต่ทำดีนั้นทำได้ยากมาก จึงต้องมีคำสั่งสอนของทุกๆศาสนาชี้ทางสว่างให้เดิน
ปล..คนที่ไม่มีศาสนาทำตัวอิสระสะบายๆ พูดว่าไม่เบียดเบียนใครๆก่อคิดเอาเองว่าทำดีพอแล้ว
ต้องขอบอกเลยว่าคุณอ้าจทำบาปโดยไม่รู้ตัวอยู่ทุกๆวัน ตายไปถึงจะรู้ว่าตัวเองทำอะไรไว้
ถูกใจกับเนื้อหาข้อมูลนี้มากค่ะ ขอบคุณค่ะ❤❤❤
ผมนับถือศาสนานะ เเต่ไม่ได้เอาหลักคำสอนมาใช้เลยเพราะ ผมคิดว่าสิ่งที่จำเป็นจิงๆคือ เหตุเเละผล กับมารยาท เเละกฎหมาย เเละความเอื้อเฟื้อ เพราะงั้นผมเลยใช้ชีวิตในเเบบที่ตัวเองอยากจะเป็น มากกว่าเชื่อคำสอนของศาสนา
ธรรมชาติ เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับสลายไป เมื่อใดท่านทุกข์ท่านจงลองศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าดูท่านจะเข้าใจหลักของธรรมชาติ และจะเข้าใจว่าทำไมถึงต้องมีคำสอน
ผมนับถือศาสนาพุทธครับ ทุกคำสอนมันอยู่ในใจทุกคนอยู่แล้วสอนให้เป็นคนดีถึงที่สุด ในแบบที่ทุกคนไม่อาจจะถึงได้ ทุกอย่างต้องศึกษาให้ละเอียด ถึงจะดี ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม
ข้อมูลดีมาก ศาสนายังจำเป็นอยู่มั้ย?? ศาสนาคือความสุดโต่งของความเชื่อมักจะคิดว่าศาสนาของตัวเองดีที่สุด ทั้งที่เป็นสิ่งมนุษย์สมมุติขึ้น
ศาสนาทุกๆศาสนาไม่ว่าศาสนาใดๆเป็นเรื่องของการเริ่มต้นที่ความเชื่อก่อนล้วนๆ เมื่อมีความเชื่อแล้วศรัทธาจึงเกิดขึ้นตามมา
ดังนั้นความเชื่อใดๆเมื่อมีคนเชื่อเหมือนๆกันเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันก็ล้วนแต่เป็นศาสนาหรือลัทธิอะไรสักอย่างหนึ่งทั้งสิ้น
นั่นก็รวมไปถึงการมีความเชื่อว่าไม่มีพระเจ้าฯของกลุ่มคน-ลัทธิที่ไม่เชื่อในพระเจ้า
การเชื่อว่าไม่มีนิพพานของกลุ่มคน-ลัทธิที่เชื่อว่าไม่มีนิพพาน บลา บลา บลา ...
ไปจนถึงกลุ่มคน-ลัทธิที่เชื่อในวิทยาศาสตร์อย่างเดียวและปฏิเสธทุกศาสนาอย่าง "ลัทธิไม่มีศาสนา" ก็ล้วนเป็นความเชื่ออย่างหนึ่ง หรืออีกลัทธิหนึ่งเช่นกัน...
แต่หากว่าศาสนาใด, ความเชื่อใด, ลัทธิใดก็แล้วแต่ที่มีคำสอนในแนวทางสอนให้เป็นคนดี สอนให้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน สอนให้มีเมตตาต่อกัน สอนให้อภัยกัน สอนให้ปรารถนาดีต่อกัน บลา บลา บลา ฯลฯ ประมาณนี้
หากว่าศาสนาใดๆ ลัทธิใดๆ ความเชื่อใดๆก็แล้วแต่ ที่สอนแนวๆนี้ประมาณนี้ตามที่ผมกล่าวมา ศาสนาเหล่านั้น ความเชื่อเหล่านั้น ลัทธิเหล่านั้น ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นแกนหลักที่สำคัญที่สุดของเครื่องจักรอารยะธรรมในการขับเคลื่อนอารยะธรรมของมวลมนุษยชาติเพื่อการสะสมความรู้และเทคโนโลยีของมวลมนุษยชาติเพื่อนำพาเผ่าพันธุ์มนุษย์ก้าวขึ้นไปสู่การมีความรู้และมีอำนาจทางเทคโนโลยีเทียบเท่าพระเจ้า (หนึ่งในกระบวนการวิวัฒนาการจากเผ่าพันธุ์โฮโมซาเปี้ยนไปสู่การเป็นเผ่าพันธุ์โฮโมดิอุส)...
เพราะอะไร...???
ก็เพราะว่าหากมีศาสนาใด ความเชื่อใด ลัทธิใด ที่สอนและเชื่อในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่ผมได้กล่าวมา เช่นสอนให้เห็นแก่ตัว สอนให้เอารัดเอาเปรียบกัน สอนให้จองเวรกัน สอนไม่ให้อภัยกัน ฯลฯ บลา บลา บลา แล้วยังได้รับการยอมรับนับถืออย่างกว้างขวางทั่วไป...
ความรู้และเทคโนโลยีทั้งหมดที่มวลมนุษยชาติสะสมมาหลายพันปีก็จะถูกทำลายล้างลงอย่างสิ้นซากด้วยอำนาจของความรู้และอำนาจทางเทคโนโลยีที่มวลมนุษยชาติสะสมมาหลายพันปีนั่นเอง "หมดสิทธิ์เป็นพระเจ้า"
การมีอำนาจของความรู้และอำนาจทางเทคโนโลยีเทียบเท่าพระเจ้า เช่น.. ความเป็นอมตะ, ความสามารถในการท่องเวลา, ไปได้ทุกที่ในเอกภพชั่วลัดนิ้วมือ, การเป็นผู้สร้างและผู้ทำลายแห่งเอกภพ, ความเข้าใจในกฏเกณฑ์ของทุกสรรพสิ่งในจักรวาล และเปลี่ยนแปลงกฏเกณฑ์เหล่านั้นได้ตามต้องการ บลา บลา บลา.
. เป็นต้น
#คำประกาศหลักศาสนาสากลแห่งจักรวาลที่อยู่เหนือหลักศาสนาของทุกๆดาวเคาราะ์ที่มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาอาศัยอยู่ในทุกๆแกแล็คซี่ของเอกภพ...
อริสโตเติ้ลไม่ได้กล่าว, เพลโตไม่ได้กล่าว, โซเครติสไม่ได้กล่าว, มองเตสกิเยต์ไม่ได้กล่าว, คาร์ลมาร์คไม่ได้กล่าว, เลนินไม่ได้กล่าว, ทร็อตสกี้ ไม่ได้กล่าว สมณโคดม ไม่ได้กล่าว, อัลเลาะห์ ไม่ได้กล่าว, จีสัส ไม่ได้กล่าว, ฯลฯ
#ไม่เคยมีปราชญ์แต่โบราณหรือศาสดาในอดีตกาลท่านใดได้เคยกล่าว...
#เป็นผมเองนี่แหละที่ได้กล่าวใว้....
Thasspong Thapsang
29 Jan 2019
"วิทยาศาสตร์" ไม่ใช่ "ความเชื่อ" แต่สามารถ "พิสูจน์" ได้ด้วย เหตุ..และผล.. โดยการเก็บ "ข้อมูล" เป็นช่วงระยะเวลา และนำมาสรุป "คำตอบ" ของ คำถาม..ที่สงสัย
@@pprappso3529 ใช่ถ้าพูดตอนนี้ แต่นึกถึงเวลาพันปีก่อนสิ มันอยู่ในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมนุษย์มาตลอด เชื่อก็เชื่อไปแค่ไม่สร้างปัญหาก็พอ
@@pprappso3529 คำสอนของพระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ธรรมทั้งหลายย่อมทนต่อการเพ่งพิสูจน์ คำสอนของท่าน มีเหตุ และ มีผล กรรมคือเหตุ วิบากกรรมคือผล กรรมคือการกระทำทาง กาย วาจา ใจ เกิดคือเหตุ เสื่อมคือผล เสื่อมคือเหตุ ดับคือผล พิจารณาได้จาก มีคนเกิด มีคนแก่ มีคนตาย สัจจะความจริงที่ ในอดีตก็เป็นจริงอย่างนี้ มีเกิดแก่เจ็บตาย ในอนาคตก็จะเป็นแบบนี้ ในปัจจุบันก็เห็นว่าเป็นแบบนี้จริงๆ มีเกิดแก่เจ็บตาย เหตุเกิดของความตาย ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด ธรรมทั้งหลายย่อมทนต่อการเพ่งพิสูจน์ ท่านบอก เหตุ และ ผล ไว้เรียบร้อยแล้ว แค่เข้ามา ใคร่ครวญพิจารณาซึ่งเนื้อความแห่งธรรม ธรรมทั้งหลายย่อมทนต่อการเพ่งพิสูจน์
IQ ความฉลาดทางสติปัญญา
EQ ความฉลาดทางอารมณ์
MQ ระดับคุณธรรมในใจ
.....
พระพุทธเจ้า มิใช่ผู้นำด้านจิตวิญญาณ
แต่เป็น..นักวิทยาศาสตร์เอกของโลก
จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ศึกษาธรรมต้องแยก
สัจจะความจริงออกจากนิทานสมมุติ
ก่อน เวียนว่ายตายเกิด นรก สวรรค์
อรหันต์ นิพพาน เป็นเรื่องแต่งเติม
มาแต่ภายหลังส่วนที่เป็นธรรมสัจจะ
เช่น ปฎิจจสมุปบาทอันแสดงถึงความ
ไม่มีตัวตน ต่างหากที ควรนำมา
พิจารณาให้เข้าใจความเป็นจริง
ซึง...ศาสนานี้ไม่ใช่สิ่งจำเป็น
สำหรับทุกคน..มันเหมาะกับผู้ที่
แสวงหา...สัจจะของชีวิต..ครับ
ผมก็ไม่นับถือศาสนา เพราะศาสนาไม่ใช่เครื่องวัดความเป็นคน ทุกคนมีสิทธิจะนับถือหรือไม่มันก็เรื่องของเรา...
ผมว่าคลิปนี้ก็อธิบายและแจกแจงได้แทบทุกประเด็นแล้วนะ เหตุผลเพราะคนเราฉลาดมากขึ้น วิเคราะห์ความศักดิ์สิทธิ์กับความงมงายได้ดีขึ้น
แต่บทสรุปที่เหมือนทุกยุคสมัยในประวัติศาสตร์ มนุษย์ก็ใช้ความต้องการของตัวเองนำทางอยู่เสมอ การฆ่า ทำร้าย เอาเปรียบ เกลียดชัง แสวงหาอำนาจเงินทอง เราก็ทำโดยที่ศาสนาไม่ได้สอนซักหน่อย ถวายเงินทองให้พระ จนพระตัดกิเลสไม่เป็น แต่ไม่ฉลาดพอจะเข้าใจ
ปกติครับ มันเป็นยุคที่มนุษย์ถอยหลังเข้าสู่กลียุค จนถึงยุคมิคสัญญี เป็นเช่นนั้นเอง(ตถตา)คนมีบารมีฉลาดในธรรมเท่านั้น ที่จะเอาตัวรอดได้
หัวโบราณจัด คนที่รวยอันดับต้นของโลกก็ประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง ศาสนาช่วยอะไร
พระกับเจ้าของธุรกิจใครชีวิตดีกว่ากัน พวกเจ้าอาวาสนี้ศีลสูง แต่ขอข้าวชาวบ้านกิน นี่หรออยู่รอด
ถ้าเป็นความจริงก็ต้องนับถือเหมือนกันและพุทธคิดว่าตัาเองจ
เป็นความจริงแต่คนที่นับถือคริสหรืออิสลามมีคนนับมากกว่าพุทธหลายเท่าผมเคยทะเลาะกับเพื่อนว่าเพื่อนบอกว่านรกกบสวรรค์มีจริงแต่ผมไม่เชื่อครูก็บอกว่ามีจริงแต่ผมไม่เชื้อภารโรงก็ผูดเหมือนครู
แต่ตอนนั้นผมโดนรุ่มด่าว่าศาสนามีจริงทั้งโรงเรียนเลยผมคิดว่าทำไมคนถึงผมอยู่โรงเรียนแถ่วกุมภวาปีที่อุดรธานี
ไหนบอกประเทศไทยนับถืออะไรก็ได้แต่คนไทยบังคับให้นับถือศาสนาพุทธผมต้องมีหลายหลายคนถูกบังคับให้นับถือศาสนาพุทธ(ไม่นับถือศาสนาผม)
จริง
ผมเป็นคน gen x นับถือแต่ในคำสอนของพระพุทธเจ้าที่สามารถนำไปใช้กับชีวิตได้จริง แต่ว่าผมกลับไม่ได้รู้สึกอินกับวัดหรือพระสงฆ์เท่าไหร่นักรวมถึงพวกสิ่งต่างๆที่เกิดจากความเชื่อเพียงอย่างเดียว จนบางทีก็แอบคิดว่าผมยังมีศาสนาอยู่หรือเปล่า
แต่อย่างไรก็ตามผมก็ยังคิดว่าทุกๆศาสนาก็เป็นศาสตร์อย่างนึง ที่สามารถนำบางอย่างมาใช้ประโยชน์ได้
ความรู้สึกแบบเดียวกันเลยคับ...ผมไม่เชื่อ ไม่งมงายนอกเหนือหลักคำสอน/ธรรมมะ หรือแม้คิดที่จะแขวนสร้อยพระผมยังไม่มีความคิดนี้ยุเลยคับ...แต่มก้อยังมีไหว้พระยุบ้างไปวัดบ้างนิดหน่อยถึงน้อยมากคับ
มันไม่เป็นไรครับผมเป็นพุทธอยากจะบอกคุณต่อให้คุณไม่ไหว้พระสวดมนต์เข้าวัดแต่ก็ขอให้คุณรู้ว่าผลการกระทำมันมีบาปมีบุญมีสวรรค์มีนรกมีชาติหน้ามีแค่คุณรู้จักใช้ชีวิตให้เป็นรู้คุณธรรมมนุษย์แค่นี้คุณก็เป็นคนดีแล้ว
ผมนับถือพุทธครับ ผมว่าศาสนาไม่มีกรอบหรอกครับไม่ว่านับศาสนาอะไรเราก็ยังเป็นอิสระของตัวเองอยู่ แค่เราเอาคำสอนมาดีๆมายึดเหนียวจิตใจ คำสอนของศาสนาไม่ใช่ต้องอยู่ในกรอบของศาสนา การสอนก็เหมือนความรู้อย่างหนึงที่สอนตามห้องเรียนละครับ ผู้ที่เข้าถึงจริงๆจึงจะรู้ว่าศาสนานั้นมันดีมันมีประโยชต่อชีวิตยังไง แต่ผู้คนยุคใหม่ค่อนข้างเน้นงานเลยไม่มีเวลาศึกษาเลยไม่เห็นความจำเป็นในศาสนา
เป็นความคิดเห็นที่เยี่ยมมาก
ขอบคุณที่เข้าใจครับ
ผมคนหนึ่งที่ไม่นับถืออะไรนอกจากตัวผมเองจะทำดีไม่ดีรู้อยู่แก่ใจ เพราะผมคิดว่า การที่จะทำดีไม่ดีได้นั้นมันอยู่ที่ตัวเรา จิตใจเรา ความคิดเรา แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่ศาสนาไหน เพราะถึงแม้จะไม่นับถือศาสนาแต่ก็ยกข้อบางข้อที่ศาสนาต่างๆได้สอนเอาไว้ เอามาปรับใช้ให้ความคิดได้รู้ว่าอันไหนว่าควรทำไม่ทำ อันไหนทำแล้วดีไม่ดี แต่สิ่งที่จะตัดสินเราได้นั้นก็คือความจริงที่เราทำ
+1
@@jfjd6940 🤝🤝🤝
ผมว่าข้อมูลดีอยู่ครับ แต่อาจจะยังดีไม่หมดรู้ไม่ถึงเพราะบ้างสิ่งบ้างอย่างนักวิจัยเหล่านั้นก็ยังไม่เคยปฏิบัติหรือปฏิบัติยังไม่ถึงจุดๆนั้นด้วยซ้ำ
ส่วนเรื่องคนมีศาสนาเป็นคนไม่ดีและคนที่ไม่มีศาสนาเป็นคนดีนั้นผมว่าคนดีและไม่ดีไม่ได้เกี่ยวกับศาสนาผมว่าขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของครอบครัวและสังคมสิ่งแวดล้อมมากกว่าครับ อาจะจริงในบางส่วนและอาจจะไม่จริงในบางส่วนผมว่าเราควรต้องศึกษาให้ละเอียดลึกซึ้งหรือเข้าใจให้มากกว่านี้ก่อนที่จะนำเอามาตีพิมพ์หรือเผยแพร่นะครับส่วนผมนับถือศาสนาพุทธรักษาศีลห้ามาตลอดผมว่าการเปิดใจเป็นสิ่งที่ดีไม่ได้มีอคติต่อศาสนาใดๆหรือคนที่ไม่มีศาสนาแต่อยากให้คนทั้งหมดนี้รับรู้ถึงข้อมูลและเข้าใจอย่างแท้จริงมากกว่านี้ครับ ขอบคุณครับผม
จริงค่ะเห็นด้วยมากๆแต่ละศาสนาถ้าศึกษาอย่างถูกต้องล้วนเป็นสัจธรรมความจริงที่จะทำให้พ้นทุกข์เพิ่มความสูขบนโลกที่สับสนวุ่นวาบ..เรื่องเพศถ้าศาสนาส่งเสริมให้เป็นเรื่องเสรีอีกหน่อยสังคมวุ่นวายมากๆฆ่ากันทุกวันนี้ก็มาจากคนขาดจริยธรรมศีลธรรทางศาสนาค่ะ
เรานับถือคำสอนของพระพุทธเจ้า เพราะพระพุทธเจ้าสอนวิชาแก้ตายเอาไว้ ซึ่งไม่มีศาสนาไหนในโลกสอน เราไม่ได้ยึดติดกับบุคคล แต่คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นจริงตลอดกาล บางคนคิดว่าพิสูจน์ไม่ได้นั่นก็เป็นเพราะคุณยังไม่ได้ลองพิสูจน์
เช่นอะไร
@@twddon657เช่นศาาสนาคริสต์สอนให้วิ่งตามกิเลส แต่พุทธสอนให้ละกิเลสไง ตัวอย่างคือ คริสต์บอกว่าถ้าคุณมีความอยากคุณต้องสนองความอยากแล้วคุณจะมีความสุข แต่ในทางกลับกันพุทธศาสนาสอนว่าถ้าคุณมีความอยากคุณต้องเป็นอิสระจากความอยากคุณถึงจะมีความสุข เพราะความอยากของคนเราไม่มีที่สิ้นสุดเลยทุกครั้งที่เราวิ่งตามกิเลสของตัวเองมันทำให้เราทุกข์เพราะมันไง😊😊😊
@@JesusChrist-fb3nz ได้ข้อคิดดีๆขอบคุณครับ
ผมไม่เชื้อ
ความเห็นส่วนตัวนะของคนมีศาสนาครับ เอทิสมี 2 พวก
1.พวกแรกศึกษาแล้ว เรียนรู้แล้วแต่ไม่เชื่อ แต่นำหลักบางอย่างมาปฏิบัติ คนพวกนี้ถือว่าใฝ่ดีน่าคบ🙆♂️
2.ส่วนอีกพวกคือ ไม่รับ ไม่รู้ไม่เอาอะไรทั้งนั้น หาว่างมงายไว้ก่อน จริงๆ เป็นไงไม่เคยสัมผัส เลือกใช้ชีวิตดีเลวไปตามอารมณ์เพราะถือสบายตัว พวกนี้ไม่น่าคบ🙅♂️
ผมเป็นคนนึงที่เป็นเอทิส ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า ผีสางนางไม้ เทวดา นางฟ้า นรก สวรรค์ สิ่งลี้ลับใดๆ เชื่อในหลักวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ การเป็นคนไม่มีศาสนาไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเลวคนไม่ดี เพราะทุกวันนี้คนมีศาสนาก็ไม่ได้เป็นคนดีทุกคน
ขออนุญาติออกความเห็น ลองมองสิ่งต่างๆ ในตัว และ รอบตัวเรา ตั้งแต่ ระบบอวัยวะภายใน ตา หู จมูก ปาก ของคน สัตว์ การแบ่งแยกเพศ การมีความต้องการทางเพศ การมีลูก ส่วนตัวผมมันเปน commonsense ล้วนๆ มีใครสักคน ตั้งใจอย่างชัดเจน ที่จะให้เกิดสิ่งเหล่านี้ครับ ถ้าความเห็นทำให้ไม่สบอารมณ์ ขออภัยครับ
ถ้าคุณไม่มีศาสนา พอถึงวันนึงคุณต้องเลือกตัดสินใจอะไรบางอย่าง มันอาจจะทำให้คุณเลือกทางผิดได้ครับ
เพราะไม่มีหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ และมันจะนำคุณไปสู่การกระทำผิด และผมบอกเลยว่ามันเสี่ยงถึงการนำ
ไปสู่โรคซึมเศร้าสูงมากๆถ้าคุณไม่นับถืออะไร แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครบังคับคุณได้ครับ
เพียงแต่อยากให้หาข้อมูลและเลือกให้ถูกจริงๆว่าเราจะมุ่งไปทางไหน
ทุกๆ ศาสนาก้อดีหมดแหละคับ และผมคิดว่าคนไทยส่วนมากก้อคงเห็นเช่นนั้น เราก้อเลยนับถือกันไปทุกๆ ศาสนาเลย และก้อพร้อมจะฉลอง จัดงงจัดงาน รื่นเริงเฮฮาเต็มที่ เต็มคาราเบวกันได้หมดทุกเทศกาลไม่เกี่ยงว่าจะเป็นศาสนาใดๆ ล่ะคับ เข้า-ออกพรรษา สงกรานต์ ปีใหม่(ไทย,จีน,คริสต์,อิสลาม) ฮารีรายอ ได้หมดคับ #คนไทยเป็นชาติบันเทิงรื่นเริงทุกเทศกาล และพร้อม #ร่วมวงเบิกบานเรามั่วจนเข้ากันได้ทุกศาสนา #คนไทยสายบันเทิง (แสดงความเห็นขำๆ น่ะคับ ไม่ได้เหน็บหรือประชดประชันแต่อย่างใด&บันเทิงล้วนๆคับ)
The essence of Buddhism is “mindfulness”
สิ่งที่สำคัญที่สุด แก่นของ พุทธ คือ การเจริญสติ และการรู้จักตัวเองและโลก ว่า ไม่มีอะไรควรยึดถือไว้เลย
การเวียนว่ายและนิพพานเป็นเรื่องแต่งเท่านั้น ใช้ชีวิตอย่างมีสติและไม่ยึดติดคือที่สุด
น่าสนใจครับ ตอบโจทย์ชัดเจน
แต่ ผมเหลือ 1 คำถาม
เวลา เสียชีวิต จะจัดการ อย่างไร???? เผา??ฝัง???สวด??? ขอคำตอบด้วยครับ
ตอนนี้คือเลิกนับถือศาสนาไปละ แค่เข้าวัดตามญาติเป็นพิธีเท่านั้นเอง เราเลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้มากกว่า
สำหรับ คำสอนแต่ละศาสนาคือประเสริฐที่สุด ซึ่งสอนเราให้ปฏิบัติต่างๆๆในชีวิต แต่ถ้า แต่ละศาสนา มีสิ่งที่เหนือฝืนธรรมชาติ มาเกี่ยวข้อง สำหรับ ขอ บาย และไม่ ออกความคิดเห็นๆๆใด ๆๆ แต่ผมเชื่อสิ่งที่ตนเองศึกษา และ เห็นและความเป็นได้จริง แต่นั้น 😁
แค่จีน คอมมินิวนิสต์ไม่ค่อยส่งเสริมด้านศาสนาก็เย๊อะแล้ว... สังคมแข่งขัน สังคมเร่งรีบ ทำให้เราค่อยๆห่างหายไปจากศาสนสถานและกิจกรรมทางศาสนา เด็กใหม่ๆเลยแทบไม่ได้เข้าหาด้านศาสนาเลย หรือโตมาไม่ได้เฉียดเข้าไปใกล้ศาสนาเลย มันก็ทำให้ห่างหายไปเรื่อยๆ และองค์ความรู้ทางศาสนาหลายๆอย่างไม่ค่อย update และ update แก้ไข หรือทำให้ขัดแย้งกับของเก่าไมไ่ด้ อันนี้ก็เป็นจุดนึง เพราะคนใหม่ๆเขาเชื่อในสิ่งที่ทดลอง พิสูจน์ได้ มีเหตุมีผล แนวๆวิทยาศาสตร์มากกว่า ซึ่งวิทยาศาสตร์ update ตลอดเวลา และล้มล้างของเก่าได้ตลอดเวลา เมื่อมีการค้นพบสิ่งใหม่ๆ
ปล.รบกวนช่วยแปะ Reference หรืองานวิจัยให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
ถ้าศาสนาไม่มีเรื่องอภินิหารหรือเรื่องเกินธรรมชาติก็ เช่น การเหาะการหายตัว การเดินบนน้ำการสร้างโลก(ซึ่งตามหลักธรรมชาติแล้วมันเป็นไปไม่ได้ ) ก็จะดีมาก
ส่วนตัวไม่ชอบข้อจำกัดบางอย่างที่ผู้มาก่อนกำหนดไว้ให้ทำตาม ซึ่งมันรบกวนการใช้ชีวิต เหมือนถูกศาสนาเป็นเจ้าของชีวิต หากไม่ทำตามจะเป็นการอกตัญญูต่อบรรพบุรุษ 🥵🥵🥵🥵
ถ้าอยากเป็นนักสำรวจอวกาศ เพียรฝึกตนเองตามคำบอกเล่าประสบการณ์ของพุทธเจ้าไว้จะดีมาก ถ้าคนเราทุกข์น้อย หรือไม่ทุกข์เลย จะสามารถเรียนรู้ทำประโยชน์อะไรได้เต็มที่ไหมหนอ
เราอยู่คนเดียวในโลกไม่ได้นะครับ คนเราเป็นสัตว์สังคม ถึงเงินเป็นพระเจ้า แต่วันหนึ่งถ้าเงินใช้ไม่ได้หละครับ เมื่อเราตั้งอยู่ในความไม่เบียดเบียน เมื่อนั้นโลกจะสงบ
ผมเองก็ไม่นับถือศาสนานะ ส่วนนึงคือมองว่าเออ ทุกศานาคือการสอนให้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขเองนะ
ผมก็คิดแบบนี้
ไม่นับถือศาสนาคุณอาจเสียสองต่อ 1คนบนโลกไม่ไว้ใจคุณเพราะคุณจะทำอะไรก็ได้ 2 ถ้าโลกหลังความตายมีจริงอย่างพุทธศาสนาว่า คุณจะไม่ตกอยู่ในกระแสไปเกิดตามพุทธศาสนา คือเสี่ยงดวงเกิด
เห็นด้วยครับ
สำหรับผมนับถือน่ะ เเต่ไม่งมงาย งมงายในที่นี้คือ ไม่เอา ศน.มาบังคับชีวิตตัวเอง สำหรับผม เคารพทุก ศน. อย่างที่คุนพูด การเคารพความคิดของคนอื่นมันถูกเเล้ว เพราะคนเรามันหายใจเพื่อ ตัวเองทั้งนั้น จะ ศน.ใดๆ เกิดมาเเล้วก็ต้องมีชีวิต
ผมเอาคลิปนี้ลงtiktokได้ไหมครับ
ได้ครับให้เครดิตเราก็พอ 😊
@@khonfairu ขอบคุณมากครับ
"จงใช้ชีวิตอยู่บนเหตุและผล เมื่อมีคำถามจงหาคำตอบด้วยเหตุผลและข้อพิสูจน์"
ส่วนตัวเป็นคนชอบ มองท้องฟ้าและสงสัยสิ่งที่เคลื่อนไหวบนนั้น รามจนมาถึงชอบเรื่องเอเลี่ยน เเต่การเข้าถึงข้อมูลในสมัยก่อนค่อนข้างยาก เราเหมือนถูกปิดหูปิดตา แล้วก็ทำตาม พ่อแม่เเละสภาพเเวดล้อม ซึ่งเข้มข้นมาก มาจนถึง วันที่มีอินเตอร์เน็ต สามารถเข้าถึงข้อมูล ที่เราต้องการอยากรู้เเละชอบ สุดท้ายสมองก็ได้รับข้อมูล ที่เราเป็นคนใฝ่รู้อยู่แล้ว555 ไม่มีไรซับซ้อนครับ แค่รู้ วิธีคิดก็เปลี่ยนเเค่นั้นครับ…
ตอนเรียนประถมได้เรียนวิชาธรรมมะ พระอาจารย์อธิบายเรื่องนรกสวรรค์ การทำดีทำชั่ว เกิด แก่ เจ็บ ตาย ตายแล้วไปไหน คนทำดีตอนมีชีวิตสร้างบุญกุศลได้ขึ้นสวรรค์ คนที่ทำชั่วตอนมีชีวิตไม่เคยทำบุญเรยตกนรน เราสงสัยมาตั้งเด็กๆ ทำมั้ยคนเราถึงต้องมากลัวในสิ่งที่เราไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นและไม่รู้ว่ามีจริงมั้ย❓
@@ทองเอกครับ-ญ3สใช่เลย สมัยเด็กก็แอบกลัวแนวคิด นรก-สวรรค์ เรื่องผีด้วย แต่พอโตก็คิดอีกอย่าง ความเข้าใจที่มีต่อความเชื่อก็ค่อยๆหายไป ได้รู้จักกับคนที่สนใจศาสนา ก็มีหลายความคิดของอีกฝ่ายที่สร้างงุนงงจนบอกไม่ถูก
อย่างเกิดมาเพื่อสร้างบุญ ตรรกะส่วนตัวจะถามว่า “สร้างไปทำไม แล้วมันคืออะไร? ทำไมไม่ดำรงอยู่ด้วยความรู้สึกที่ต้องการจะดำรงอยู่เอง”
@@ทองเอกครับ-ญ3ส โลกหลังความตายมีในทุกศาสนา ขออนุญาตใช้ความคิดส่วนตัวครับ เหมือนกับสังคมทั่วไปที่เราอยู่ๆคนดีก็ต้องได้รับความชื่นชม คนกระทำผิดก็ต้องได้รับโทษ ถ้าในเชิงศาสนาโลกหลังความตายก็เช่นกัน คนดีย่อมได้ขึ้นสวรรค์ คนชั่วย่อมตกนรก ส่วนว่ามนุษย์เราเกิดมาทำไม ใครทำให้เกิดอันนี้เหนือจิตนาการมนุษย์มาก
ผมอยากดูหัวข้อนี้มานานแล้ว ขอบคุณครับ
เราให้อิสระในตัวเองพอตื่นรู้แล้ว เราไม่มีอะไรเลย มีแต่รักไร้เงื่อนไข กับทุกๆสรรพสัตว์ทั้งหลาย❤❤
ผู้เผื่อแผ่ศาสนา ผิดจรรยาบรรณบางส่วน หลักๆคือ เงิน และ โซเชียล พระพุทธเจ้าถึงได้บอกว่าไม่ต้องกราบไหว้ท่านก็ได้ ขอให้เอาวิถีธรรมะไปใช้ก็พอ ใช้อย่างมีตรรกะ พอ ข้าพเจ้าขอบกราบไหว้พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า และพระสงฆเจ้า ตลอดไป 🙇♂️🙏🙏🙏
ไม่มีศาสนาก้อเป็นคนดีได้…ศาสนาไม่ใช่เงื่อนไขการเป็นคนดี…
ก็มีเเพื่อนๆ พูดถึงการไม่เลือกนับถือศาสนาให้อยู่เหมือนกัน แต่ก็มีเพื่อนแย้งว่า แล้วเวลาทำพิธีกรรม เช่น งานศพจะปฏิบัติกันยังไง สะดุดคิดอยู่นะ
เดี๋ยวนี้มีตัวเลือกมากกว่านั้นครับ บริจาคร่างก็เป็นประโยชน์ จะนำร่างไปเป็นปุ๋ยก็เป็นประโยชน์ ร่างกายเมื่อทิ้งแล้วไม่ต้องอิงพิธีใดๆก็ย่อมทำได้เพราะพุทธองค์ก็ไม่ได้ทรงห้ามขนาดนั้นครับเพียงแต่ที่นำไปเผาไฟเพื่อไม่เป็นบ่อเกิดแห่งโรค
เหตุผลไม่พอไห้เชื่อ หรือ การแบ่งแยกหนุ่มคน มันเป็นแค่การเมือง ที่พยายาม สร้างอำนาจของกรุ่มคนฯ . มีคนรู้ทัน?
คนไม่นับถือศาสนากันมากขึ้นจริงๆ ผมอยู่ยุโรป คนไปโบสถ์วันอาทิตย์แทบไม่มี อาจเป็นเพราะความเจริญทางวิทยาศาสตร์ ที่ไปหักล้างคัมภีร์
ครัยถ้าได้เสียชีวิตจะจัดงานทำแย่างไรครับผมอยากทราบครับ ถามโดยไม่รู้ครับ
ตอบโดยความคิดของผมนะครับ เราตายแล้วใครจะเอาเราไปทำไรเราก็ไม่รู้ ครับ
ถึงจะไม่นับถือ สุดท้ายทางญาติ-ครอบครับ ก็จัดพิธีตามศาสนาที่เคยนับถืออยู่ดี ไม่ก็แค่เผาไม่ก็ฝังไปเฉยๆเลย
ภาคเหนือถ้ามีคนตายจะต้องจ่ายค่าสมาชิกรายหัว บางคนไม่มีเงินญาติออกเงินให้ก่อน เมื่อเขาตายญาติก็เอาเงินไปและนำศพไปเผาโดยไม่ได้ทำพิธีทางศาสนา
แจ้งญาติให้เอาศพไปฝังในที่ดินที่เป็นไร่นา สวน ถ้าอยู่ติดทะเล ก็ให้นำไปทิ้งลงน้ำทะเลไกล ๆเป็นอาหารสัตว์ต่อไป
ถ้าผมตายญาติก็คงจัดตามที่เขาสบายใจอะนะ ผมคงลุกมาบอกไม่ได้แล้วว่าให้ทำยังไง คงเหมือนปิดทีวีแล้วดับไปเลย พอไม่มีสมองสั่งงานแล้วก็คงเป็นแค่ศพ แล้วแต่เขาเลย ได้หมด
ขอบคุณครับ
จริงๆแล้วการไม่นับถือศาสนาที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆนี้เป็นไปตามการหมุนของโลกที่มีการเคลื่อนที่ออกจากขั้วบวกหรือความเชื่อไปสู่ขั้วลบหรือความรู้ เมื่อไม่นานมานี้ได้มีนักวิทยาศาสตร์ค้นพบการมีอยู่ของพลังงานลบเป็นครั้งแรก (การนำเอาความรู้ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่ไอน์สไตน์เรียกว่า ศาสนจักรวาลมาใช้ร่วมกับการใช้ชีวิตประจำวันที่จะทำให้การมองเห็นและรับรู้สถานการณ์ปัจจุบันที่สร้างปัญหาและความวุ่นวายยุ่งเหยิงมากมายที่ในทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เรียกว่า ระบบไม่เชิงเส้น nonlinear system ที่ด้านหนึ่งคือ โลกแห่งความยุ่งเหยิงไร้ระเบียบ แต่อีกโลกหนึ่งคือ ความไม่ยุ่งเหยิงหรือโลกที่ไม่เหลือความไร้ระเบียบอยู่เลยหรือที่คนไทยเรียกว่า แดนศิวิไล
ผมเคยนับถือศาสนามากๆตอนเด็กๆพ่อชอบพาไปวัดเรื่อยๆ พอผมโตขึ้นผมใช้หลักเหตุผล ผมเลือกไม่นับถือศาสนาแต่ผมนับคนดีนะครับที่ไม่ทำให้เดือดคนร้อนและสร้างสิ่งดีๆให้คนมากกว่า
ผมนี่เคยขำจากอาจารย์ท่านนึงมาว่าผมเป็นคนไม่มีศาสนา ซึ่งเขาถือเป็นคำด่า แต่เขาเองเป็นอาจารย์ดันเป็นเดียรถีย์
โดนเลี้ยงดูแบบตามใจ และไม่เคยผ่านงานหนัก หนักที่สุดฝ่าเท้าไม่เคยถูกดินจึงไม่แปลกที่จะห่างจากศาสตร์แห่งความจริง ไปติดอยู่กับศาสตร์แห่งฉาบฉวย🎉
ทุกอย่างขื้นอยู่โครงสร้างของสังคม นำเยาวชนไปสู่ภูมิค้มกันที่เข็มแข็ง มั่นคง สังคมน่าอยู่ มีสันติสุข
ศาสนาทุกๆศาสนาไม่ว่าศาสนาใดๆเป็นเรื่องของการเริ่มต้นที่ความเชื่อก่อนล้วนๆ เมื่อมีความเชื่อแล้วศรัทธาจึงเกิดขึ้นตามมา
ดังนั้นความเชื่อใดๆเมื่อมีคนเชื่อเหมือนๆกันเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันก็ล้วนแต่เป็นศาสนาหรือลัทธิอะไรสักอย่างหนึ่งทั้งสิ้น
นั่นก็รวมไปถึงการมีความเชื่อว่าไม่มีพระเจ้าฯของกลุ่มคน-ลัทธิที่ไม่เชื่อในพระเจ้า
การเชื่อว่าไม่มีนิพพานของกลุ่มคน-ลัทธิที่เชื่อว่าไม่มีนิพพาน บลา บลา บลา ...
ไปจนถึงกลุ่มคน-ลัทธิที่เชื่อในวิทยาศาสตร์อย่างเดียวและปฏิเสธทุกศาสนาอย่าง "ลัทธิไม่มีศาสนา" ก็ล้วนเป็นความเชื่ออย่างหนึ่ง หรืออีกลัทธิหนึ่งเช่นกัน...
แต่หากว่าศาสนาใด, ความเชื่อใด, ลัทธิใดก็แล้วแต่ที่มีคำสอนในแนวทางสอนให้เป็นคนดี สอนให้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน สอนให้มีเมตตาต่อกัน สอนให้อภัยกัน สอนให้ปรารถนาดีต่อกัน บลา บลา บลา ฯลฯ ประมาณนี้
หากว่าศาสนาใดๆ ลัทธิใดๆ ความเชื่อใดๆก็แล้วแต่ ที่สอนแนวๆนี้ประมาณนี้ตามที่ผมกล่าวมา ศาสนาเหล่านั้น ความเชื่อเหล่านั้น ลัทธิเหล่านั้น ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นแกนหลักที่สำคัญที่สุดของเครื่องจักรอารยะธรรมในการขับเคลื่อนอารยะธรรมของมวลมนุษยชาติเพื่อการสะสมความรู้และเทคโนโลยีของมวลมนุษยชาติเพื่อนำพาเผ่าพันธุ์มนุษย์ก้าวขึ้นไปสู่การมีความรู้และมีอำนาจทางเทคโนโลยีเทียบเท่าพระเจ้า (หนึ่งในกระบวนการวิวัฒนาการจากเผ่าพันธุ์โฮโมซาเปี้ยนไปสู่การเป็นเผ่าพันธุ์โฮโมดิอุส)...
เพราะอะไร...???
ก็เพราะว่าหากมีศาสนาใด ความเชื่อใด ลัทธิใด ที่สอนและเชื่อในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่ผมได้กล่าวมา เช่นสอนให้เห็นแก่ตัว สอนให้เอารัดเอาเปรียบกัน สอนให้จองเวรกัน สอนไม่ให้อภัยกัน ฯลฯ บลา บลา บลา แล้วยังได้รับการยอมรับนับถืออย่างกว้างขวางทั่วไป...
ความรู้และเทคโนโลยีทั้งหมดที่มวลมนุษยชาติสะสมมาหลายพันปีก็จะถูกทำลายล้างลงอย่างสิ้นซากด้วยอำนาจของความรู้และอำนาจทางเทคโนโลยีที่มวลมนุษยชาติสะสมมาหลายพันปีนั่นเอง "หมดสิทธิ์เป็นพระเจ้า"
การมีอำนาจของความรู้และอำนาจทางเทคโนโลยีเทียบเท่าพระเจ้า เช่น.. ความเป็นอมตะ, ความสามารถในการท่องเวลา, ไปได้ทุกที่ในเอกภพชั่วลัดนิ้วมือ, การเป็นผู้สร้างและผู้ทำลายแห่งเอกภพ, ความเข้าใจในกฏเกณฑ์ของทุกสรรพสิ่งในจักรวาล และเปลี่ยนแปลงกฏเกณฑ์เหล่านั้นได้ตามต้องการ บลา บลา บลา.
. เป็นต้น
#คำประกาศหลักศาสนาสากลแห่งจักรวาลที่อยู่เหนือหลักศาสนาของทุกๆดาวเคาราะ์ที่มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาอาศัยอยู่ในทุกๆแกแล็คซี่ของเอกภพ...
อริสโตเติ้ลไม่ได้กล่าว, เพลโตไม่ได้กล่าว, โซเครติสไม่ได้กล่าว, มองเตสกิเยต์ไม่ได้กล่าว, คาร์ลมาร์คไม่ได้กล่าว, เลนินไม่ได้กล่าว, ทร็อตสกี้ ไม่ได้กล่าว สมณโคดม ไม่ได้กล่าว, อัลเลาะห์ ไม่ได้กล่าว, จีสัส ไม่ได้กล่าว, ฯลฯ
#ไม่เคยมีปราชญ์แต่โบราณหรือศาสดาในอดีตกาลท่านใดได้เคยกล่าว...
#เป็นผมเองนี่แหละที่ได้กล่าวใว้....
Thasspong Thapsang
29 Jan 2019
พี่ก็คนนึงครับแต่รุ่นเก่าแล้ว จะขึ้นเลข 4 ละ ไม่นับถือศาสนาใดเหมือนกัน แต่สิ่งนึงที่นับถือ คือพี่นับถือในบุคคล ครับนับถือในบุคคลที่สอนให้ความรุ้ มากกว่าเน้นไปในทางพิธีกรรม
ผมก็ไม่นับถึงศาสนา ผู้คนอดยากแต่วัดสวยงามฆ่าคนดีที่ตายแค่บวชก็สามารถเป็นคนดีได้ถ้าทำผิดความเป็นคนก็อ้างศาสนาก็พ้นผิด คนดีคือคนนับถือศาสนา?
คนส่วนใหญกำลังเข้าใจผิดว่าอศาสนากำลังเติบโต ทั้งๆที่ศาสนาอื่นอีกหลายศาสนาก็เติบโตเช่นกัน อพราะประชากรโลกเพิ่ม
แต่ถ้าดูสัดส่วนละก็จะพบว่าอศาสนากำลังลดลงต่างหาก อีกไม่นานอศาสนากำลังจะถูกฮินดูแซง
มุมมองต่างๆแง่ลบต่อศาสนาเป็นการมองผิวผิน แต่ถ้าศึกษาลึกๆคนจะนับถือศาสนา
ที่สำคัญวิทยาศาสตร์สนับสนุนศาสนาพระเจ้า และมีนักวิทย์เเมิสเปลี่ยนเข้าเยอะแยะ โดยเฉพาะอิสลาม
ประเทศไทยคนละทิ้งศาสนามากขึ้นถูกต้องครับ แต่ทั้งโลกไม่ใช่
เเล้วผมจะออกจากศาสนายังไง ต้องไปเเจ้งที่ไหน?
ก็ออกไปเลย เวลาไปทำบัตร ก็บอกเจ้าหน้าที่ไปว่า ไม่เอาศาสนา ไม่ต้องลงในบัตร (ส่วนธรรมชาติก็ยังคงอยู่กับตัวคุณ ไล่ก็ไม่หนี ทิ้งก็ไม่ได้ เพราะคุณอยู่กับธรรมชาติ ธรรมชาติมีสองด้าน ทุกสิ่งมีสองด้าน ตัวคุณเองอยู่ด้านไหนเท่านั้นเอง )
Gen Y นะ ส่วนตัวจุดเปลี่ยนเลยคือเคยได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนที่เป็นของพระสงฆ์โดยตรง แต่สอนแต่เรื่องอภินิหาร นั่งฌานแล้วจะเหาะเหินเดินอากาศได้อะไรก็ไม่รู้ และบวกกับเวลาที่เราผิดหวัง ล้มเหลว จมหนักๆ ก็ไม่เห็นว่าศาสนามันจะช่วยอะไรเลย นอกจากตัวเราเองที่ต้องผ่านมันไปให้ได้คนเดียว จากนั้นก็ไม่นับถืออะไรอีกเลย เว้นเบค่อนกับเนื้อย่าง
บทความดีมากครับ
ผู้ไม่นับถือศาสนามีมากขึ้น มากขึ้น แต่จริงๆเขาปฏิบัติบางข้อของศาสนา ที่คนไม่นับถือศาสนานั้นต้องใจและนำไปปฏิบัติ มันคล๊ายๆแนวของพุทธ ในโลกคำสอนโลกียะ แต่ถ้าคนไม่นับถือเหล่านั้นหันมาสนใจแนวพุทธ อย่างลึกๆ เขาจะไดถึงโลกุตาละ ที่ที่ศาสนาอื่นๆไม่มี
อะไร
ผมพูดและเห็นว่าในปัจจุบัน.นี้ทำผิด.ถูกมันอยู่ที่จิตใจว่าเราจะเลือกทำ.และไม่ต้องนับถือศาสนา.ใดๆก็ใด้ครับ.
มันไม่มีความถูกต้องอยู่จริงๆ มันบิดเบือน เพื่อผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม จะดีชั่ว อยู่ที่ ตัวเราเอง มากกว่า
พระพุทธเจ้าให้เราพิสูจน์ด้วยตัวเองไม่เคยสอนให้เชื่อตามท่านเลยถ้าไม่ปฏิบัติด้วยตัวเองก็จะไม่เห็น " ธรรมชาติ " แต่ศาสนาพุทธกลับบิดเบือนจนเข้าใจกันผิดไปไกล..ถ้าไม่ปฏิบัติแล้วจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าอะไรคือ " พระธรรม "
ผมนับถือความดี แต่ไม่อินกับศาสนา ยิ่งคำสอนบางศาสนาที่บอกว่าไม่เชื่อคือบาปนี้คือ...
ผมเป็นคนยุค80ไม่มีศาสนา ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่เหมือนกันเนาะ😅
เเล้วเเต่การเข้าถึง เเละการปรับใช้ในชีวิตของเเต่ละคนมากกว่า ผมมองว่าศาสนามีมานาน เเต่เราได้อะไรจากศาสนามากกว่า
ตราบใดที่ยังไม่มีทุกข์ที่แท้จริงถึงตัว จะเห็นศาสนาไกลตัว รอให้ทุกข์มาถึงตัวเมื่อไหร่จะเห็นความสำคัญของศาสนา
ผมแอบในกลุ่มคนไม่นับถือศาสนามา4ปี บอกได้เลยว่า คนพวกนี้ วันๆโพสเหยียดหมิ่นด่าความเชื่อคนอื่น แต่ในความจริงคือ คนพวกนี้งมงายกับความเชื่อตัวเองมากกว่าคนที่มีศาสนา ผมบอกได้เลยว่า คนที่ไม่มีศาสนา ไร้สาระ80% แนวคิดชั่วร้าย
ตัดสินจากอะไรค่ะ ถึงได้รู้ว่าบุคคลที่ไม่นับถือศาสนา มีแนวคิดชั่วร้าย
แค่คนบางส่วนนิ่
@@mintphanphuet9667 ตัดสินจากตัวพวกเขาไงละ แต่ละสิ่งที่แสดงออกไง🤣🤣โคตรไร้คุณภาพ
@@siamchaiyo3349 ผมว่ามันก็ไม่ได้เป็นเเบบนั้นทุกคนหรอกนะ คนจะดีหรือไม่ดี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ศาสนา หรือการไม่นับถือศาสนา คนจะดีจะเลวอยู่ที่ตัวเขาเอง เเละสิ่งเเวดล้อม
จริง พุทธเจ้าเคยวิจัยมาแล้วให้หลักคิดไว้ว่า เตมะยังโอตินนามาฮะ พวกเรามี อวิชชา มาแต่กำเนิดคือความไม่รู้ลักษณะการทำงานในจิตใของตัวเอง พร้อที่จะทำให้เกิด อุปาทาน ในตัวเองหรือต่ออะไรก้ได้ ได้โดยไม่รู้ตัว อย่างที่คุณกล่าวมา และสุ่มเสี่ยงต่อระบบจริยธรรมความรับผิดชอบชั่วดี ทุกสุข ปัญหา ความวิบัติอันเกิดจาก(ความคิดมนุษย์)ขึ้นได้..ถ้าเหตุปัจจัยมาประชุมพร้อมกัน
ขาดบุคลากร ในองค์กรหลักชี้นำ ในทางที่ถูกต้อง ให้เข้ากับยุคสมัยที่เป็นปัจจุบันครับ
ใครจะนับถือศาสนาอะไรก็นับถือไปเถอะ แต่ควรใช้สติปัญญาด้วยอย่าใช้แต่ความเชื่อ เพราะทั้งพระเจ้า ซาตาน เทพ เทวดา จอมมาร ปีศาจทั้งหลาย และศาสนาต่างๆล้วนแต่เกิดมาจากความคิดของมนุษย์ทั้งนั้น คำสอนของศาสนานั้นเกิดขึ้นจากเจตนาที่ดี แต่ก็เหมือนดาบสองคม หากใช้ในทางที่ถูกก็จะทำให้มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข แต่หากใช้ในทางที่ผิด (ศาสนา+ความโลภ) ก็จะมีแต่หายนะ 😈
ถูกต้องครับ พระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์ แต่มนุษย์ที่สร้างพระเจ้า
เห็นด้วยกับข้อความความในนาทีที่ 6
🙏
ผมนับถือครับเเต่ไม่ชัดเจนเรื่องผีปีศาจไม่เชื่อเลยเพราะไม่เคยเห็นกับตาตัวเองเเต่ไม่เคยลบหลู่ความเชื่อต่างๆนาๆ ผมว่ามันอยู่ที่ความคิดของเเต่ละคน ถ้าเป็นเรื่องที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ผมถึงจะเชื่อ🤔
ศาสนาพุทธ เป็นศ่าสนาที่เป็นวิทยา รอให้เข้ามาพิสูจน์
99%นับถือศาสนาตาม บิดามารดา เปนยังนี้ตามๆกันมา ผมก็คนนึง
คนถดถอยออกจากศีลธรรมความดี ปัญญาถอยลง ความเห็นแก่ตัวจะเข้ามาแทนที่ความมืดมนเข้าครอบงำ
เป็นคนรุ่นเก่า ที่ไม่นับถือศาสนาครับ
เพราะเข้มแข็งพอ ที่จะเป็นคนดีได้ โดยไม่ต้องพึ่งศาสนา
ในประเทศไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธมีบางลัทธิที่มาเบี่ยงเบนและพยายามทำลายมีไม่ถึง2%ที่ไม่นับถือศาสนา
คนเรามันมีกรรมไม่เหมือนกันคือไม่มีวาสนาแมัจะอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือหรือเป็นพุทธก็เป็นเพียงพุทธเปลือก.....เด็กสมัยนี้ถูกวัตถุนิยมครอบงำพวกเขาคิดว่าการได้วัตถุนั้นมาคือความสุขเอาเข้าจริงแล้วพอได้วัตถุนั้นมาได้ก็หาวัตถุอีกไม่รู้จักจบสิ้นสมัยก่อนพุทธกาลก็มีคนประเภทนี้ไม่ใช่พึ่งมี....ชึวิตแบบนี้เป็นชีวิตแบบปุถุชนคือพวกบัวที่3-4 ยึดมั่นถือมั่นในตัวกูของกูหลงไหลใน ลาภ ยศ. สรรญเชิญ เมื่อพอใจก็มีความยินดีไม่ถูกใจก็ยินร้าย.....ถ้าเป็นอารยบุคคลท่านคงไม่วิ่งแล่นไปตามโลกธรรมใช้สติปัญญาพิจารณาปรุงแต่งในทางที่ชอบมือจิตสัมผ้สโลกธรรม....
ถูกที่สุด ความเชื่อทำให้หน่วยประมวลผล ผิดเพีย้นจากความจริง
การไม่นับถือศาสนาเป็นเรื่องของคนเข้มแข็งที่คิดดีทำดีไม่เบียดเบียนผู้อื่น แต่พี่เป็นคนไม่เข้มแข็งต้องผึ้งศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยว
พูดหน้าฟัง😅😅😅😅😅😅
ผมไม่นับถือศาสนา ไม่ผิด ตรงประเด็นดี
ทำอย่างไรจึงจะหายกลัวผี กลัวปีศาจ หรือกลัวความตาย
อันดับแรกเลยคือทำใจให้นิ่งมีโอกาสควรนั่งสมาธิบ้างแล้วจะรู้สึกดีและจะไม่กลัววิญญาน
ต้องรู้ว่าผีคิดแบบใหน ตายแล้วไปใหน ผีก็เคยเป็นคน
หากได้คิดดีแล้ว ก็ตามใจนะ โชคดีจ้าาาาา
ผมก็ไม่นับถือเช่นกันครับ เพราะผมเชื่อวิทยาศาสตร์
แต่วิทยาศาสตร์ เชื่อในคำสอนของเพราะพุทธเจ้า เนื่องจากพิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์ เพียงแต่พระยุคใหม่มันบิดเบือนคำสอนของพระองค์ คำสอนคือให้เดินสายกลาง ซึ่งคนทั่วไปทำตามได้จริงๆ แต่บางเรื่องมันคือการบิดเบือนคำสอนให้ไปแนวอภินิหาร เกินความเป็นจริง นับถือหรือไม่นับถือแล้วแต่คนๆนั้นเอง เพราะว่ายังไงแล้วคนเรามันต้องใช้สติตรึกตรองคิดเองได้อยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่าคิดแล้วจะทำตามได้มั้ยแค่นั้นเอง
@@ข้ามโขงณหล่มเก่า มายังไงนี่ กฏการเคลื่อนที่ของบุดดา หรือ การสมดุลย์ของอริยสัจสี่ หรือ มือถือคุณได้มาจากการนั่งสมาธิ โธ่ ศาสนามีไว้ให้พักพิงใจ ไม่ได้เอากฏมาวิจัย ศาสนาเป็นเรื่องดีนะอย่าโยงให้เสียสิแค่หลักการมันคล้ายกัน
นับถือศาสนา ท่องคำสอน นำไปสอนให้คนอื่นทำ แต่ไม่นำไปปฏิบัติกับตัวเอง แบบนี้เรียกว่าอะไร
ถ้าตื่นรู้แล้ว ก็ไม่ต้องยึดติดศาสนา
ลองศึกษาดูก่อนครับ ให้ถึงแก่นแท้ อย่าเอาแค่ผิวเผิน หรือแค่พิธีกรรม...แล้วท่านจะแปลกใจ ในสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าค้นพบ (อย่านับถือเพราะพ่อแม่และแค่ในบัตรประชาชน)..."สังสารวัฏ และบุพเพนิวาสานุสติญาณ มีอยู่จริงครับ" (ล้านเปอร์เซ็นต์) : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๓ ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค..วันนี้พวกท่านอาจยังไม่เชื่อ ไม่เป็นไรครับ ลองศึกษาและปฏิบัติครับ ท่านจะรู้เอง "สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ" ... ผมพูดเท่านี้ครับ...สาธุ
พระเจ้าไม่เคยหาเงินไห้ผม ผมหาเลี้ยงพ่อแม่ก็พอ
ผมมานั่งกินป๊อบคอน อ่านเม้น
คนนับถือศาสนา แต่พูดโกหกผมว่าไม่มีประโยชน์อะไรหรอก
ถ้าหากไม่มีศาสนา มนุษย์ก็คงไม่มี มนุษย์อยู่ในห้องทดลองของพระเจ้า ไม่งั้นวงโคจรของดาวแต่ละกาแล็คซี่คงไม่โคจรพอดีเป๊ะแบบนี้
ผมเชื่อแบบนี้
มีคนอยู่2กลุ่ม กลุ่มนึงเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวเมื่อตายแล้วก็ฝั่งกลับคืนสู่ดิน พวกนึงคือพวกปฏิเสธหรือพวกตั้งภาคีเมื่อตายพวกนี้ก็จะถูกเผาในกองไฟที่ลุกโชน
ไม่ถูกทั้งหมดครับฮินดูเชื่อในพระเจ้าแต่ก็เผาครับ เพราะเค้าไม่ได้ยึดว่าต้องเอาร่างกายที่ตายนี้ไปสู่สวรรค์ ตัวที่ไปสู่สวรรค์คือจิต ส่วนคริสต์กับอิสลามจะฝังเพราะคิดว่าถ้าหากเผาจิตจะไม่มีที่อยู่เมื่อถึงวันพิพากษา
@@attapon1552 พระเจ้ามีเพียงหนึ่งเดียว แบบที่ฮินดูเป็นคือการตั้งภาคี ณ ปัจจุบันนี้ศาสนาที่ชัดเจนในแนวทางพระเจ้าหนึ่งเดียวคือยิวและอิสลาม คริสตร์ก็เพี้ยนไปมากแล้ว ปัจจุบันนี้ชาวคริสต์บางส่วนก็เผาแล้วเหมือนกัน
ผมเคยบวชมานานเหมือนแพรี่ แต่ทุกวันนี้ไม่นับถือศาสนา เพราะอยากฟังอยากทำอะไรสามารถดูในยุทูปได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเข้าวัด
บุคคลไม่นับถือศาสนา
ต้องสอนตนไปจนกว่า จิตบริสุทธิ์
คนโง่ ปฏิเสธ ธรรม
คนฉลาด จับผิด ธรรม
คนมีปัญญา หาประโยชน์ ในธรรม
ถ้าศึกษาธรรมให้ลึกซึ้งแล้วจะรู้ว่าธรรมนี่แหละคือทุกทางออกของชีวิต เอเมน อามิตาพุทธ
คำสอนของศาสดา แต่ล่ะศาสนา. ผิดเพี้ยน สรุปแล้วทีถูกต้องจริง ตามคำสอนคือยังไงกันแน่. กลายเป็นเรื่องงมงาย. เชื่อแบบผิดๆ
ผมก็ไม่ได้นับถือศาสนามาแต่เด็กและก็อยู่ได้ปกติเราไม่ทำผิดต่อผู้อื่นก็เพียงพอ