Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
โค้งสุดท้าย! สมัครงานวิ่ง STEP LIFE MARATHON ณ อุทัยธานี 6 พ.ย.นี้ race.thai.run/steplifemarathon
พูดดังบ้างเบาบ้าง มันฟังยากกกก
ฟังเเล้วรู้สึกดึงอารมณ์ก็จริง เเต่เอาเเบบธรรมดาๆดีกว่าครับ
T T กลัวแม่ตัวเองผิดหวัง จนเหมือนตัวตนของตัวเองถูกกลืนไปแล้วหละคะ ตอนนี้เหมือนมันแก้ไม่ได้ไปแล้ว
ผมก็เป็น
พ่อแม่บังคับเรียนคณะที่เขาต้องการ โดยที่เราไม่มีสิทธิ์เลือก(ตอนนั้นซิ่วไม่ได้เพราะพ่อแม่ไม่ยอม โดนด่าไปหลายรอบ) พ่อแม่ที่ฟังคนอื่นพูดโดยไม่สนใจสิ่งที่ลูกต้องการ ความทรมานเหมือนตกนรกต้องมาลงที่ลูกทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ไม่มีสิทธิ์ใดๆ🥲 พอเราทำสิ่งที่ชอบได้ดี ได้ไปประกวดตอนแรกต่อต้าน พอผลออกมาว่าเราติด เราทำได้กลับมาบอกว่าเก่งจัง ไม่เคยจะสนับสนุนแถมยังมาว่าเราอีก อืมมม ผู้ใหญ่ที่คิดว่าตัวเองถูกเสมอ
เหมือนนั่งในใจแล้วพูดเลย
เป็นปัญหาหลักของชีวิตเลยค่ะ
ของผมเหมือนกับว่าผมสามารถหาเงินเรียน อยู่ด้วยตัวเอง พึ่งพาตัวเองทุกอย่าง โดยที่ปฏิเสธความช่วยเหลือของพ่อแม่ทุกอย่าง จะเจ็บจะปวดจะไข้ผมก็แก้ไขปัญหาด้วยตัวเองเสมอ ด้วยต้องการให้แม่เห็นว่าแม่เห็นไหมลูกคนนี้แข็งแรงแล้ว พร้อมกับการเผชิญโลกแล้ว แม่ต้องดูแลตัวเองได้แล้ว อย่ามัวแต่ทำเพื่อผม ทำเพื่อตัวเองเถอะ วันนี้ผมส่งเงินให้แม่ได้ด้วยนะ แต่สุดท้ายมันกลายเป็นว่าแม่น้อยใจ และเริ่มด้อยค่าตัวเอง แม่ยังพะวักพะวงกับเราอยู่ตลอด ตอนนี้เริ่มตัดสินใจไม่ถูกแล้วครับว่าเราควรจะแสดงว่าเราดูแลตัวเองได้นะแม่ อย่าห่วงผม หรือ จะเป็นเด็กใต้ปีกของแม่ตลอดไป TT มีใครเป็นแบบผมบ้่างไหมครับ
ค่านิยมของครอบครัวผมติดกับดักเรื่องกินข้าวมาจนโต เวลาไปกินข้าวนอกบ้าน แม่บอกว่าจะสั่งอะไรกินให้หมดนะ เลยติดนิสัยกอนให้หมดจานไม่เว้นผักประดับจาน
จริงๆๆๆๆๆคับความอบอุ่น
จริงค่ะ ขอบคุณนะคะ
ชอบมากเลยครับ EP นี้ปล.อยากให้มีคัดเลือกเนื้อหาดีๆเด็ดๆจาก R U OK มารวมเป็นหนังสือเล่มครับ ^^
สวัสดีย์ฮะ
การยกตัวอย่างเรื่องกินนี่ตื้นเขินมาก มันคนละเรื่องจากการโดนเสียงของพ่อแม่ครอบงำเลย มันคือเรื่องของการรู้จักประเมินตัวเอง คุณโตแล้วต้องรู้จักประเมินตัวเอง อาหารมาเสิร์ฟต้องสังเกตได้ว่ากินหมดรึป่าว มีวิธีแก้ไขอย่างไร คุณควบคุมได้ทั้งหมด ไม่ใช่เด็กๆ ที่ไม่รู้เรื่องกินตามที่พ่อแม่ตักให้ อย่ามองแค่ภาพลบของเรื่องที่ตัวเองจะสื่อ มันมีบริบทมากกว่านั้น
ใช่บางส่วนครับ บางคนไม่รู้จักประเมินตัวเอง เพราะไม่เคยสังเกตหรือตระหนักขึ้นมาจริงๆครับ ต้องให้เค้าลองเปลี่ยนสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิต ถ้ายังอยู่แบบเดิม ก็ยากที่จะกลับมาควบคุมตัวเอง
จริงมาก แล้วก็ยากมากเช่นกันค่ะที่จะสื่อสารและทำความเข้าใจกับคนในครอบครัวเรื่องนี้ในแบบที่ healthy ด้วยค่านิยมอะไรต่างๆของสังคมบ้านเรา ที่ทำให้การ discuss เป็นเหมือนการเถียงกันซะงั้น บ้านเราจะเจอเช่น เขาจะสอนให้เราประหยัด นี่ก็เลยจะติดชอบรู้สึกผิดเวลาใช้เงิน ทั้งๆที่เราก็จัดสรรเงินเก็บ เงินใช้ไว้แล้ว อะไรประมาณนี้ค่ะ
เคยฟังเสียงบ่นของคุณแม่คุณพ่อจนเสียใจร้องไห้ไม่หยุดในห้องอยู่ครั้งหนึ่งคะ ทำให้ค้นพบว่าเราจะsensitive กับเสียงของเค้ามากจนทำร้ายความรู้สึกตัวเอง เคยอยากเป็นลูกที่ได้อย่างที่เค้าต้องการแต่ตอนนี้เลิกคิดแบบนั้นละคะ nobody perfect แล้วก้รักและเห็นใจตัวเองเยอะขึ้นคะ ขอบคุณอีพีนี้นะคะ ทำให้รู้สึกดีกับการที่เป็นอยู่กับการวิเคราะห์แยกแยะเสียงพ่อแม่ในตอนนี้ รู้สึกว่าเราไม่ได้ดื้อนะ แค่เรามี mindset ในแบบของเราแต่ก้ยังรักเค้าได้เหมือนเดิม😊
เรื่องกิน คือ เห็นภาพมาก เป็นคนที่ถูกสอนให้กินข้าวหมดจาน พอไปไหนมาไหนกับคนอื่น เห็นอาหารเหลือไม่ได้ ต้องกินให้หมด แล้วก้ออ้วนจนทุกวันนี้
เขาคงพูดด้วยความหวังดี แต่ถ้าคิดว่าพึ่งตัวเองได้ ไม่ต้องง้อพ่อแม่ ใครคงยินดีที่จะปล่อยเพราะไม่ต้องเหนื่อย ....
เสียงไม่เท่ารั่ย..นิสัยบางอย่างติดมาเต็มๆ🤫
เพิ่งสังเกตตัวเองเหมือนกันว่ามีนิสัยต้องหลบให้คนที่จะเดินมาทางที่เรายืนอยู่เสมอ และบางทีก็รู้สึกเด๋อด๋าว่าจะหลบไปทางไหนดี 5555 ซึ่งจำได้ชัดเลยว่ามาจากพ่อ เพิ่งจะจับได้ว่าอ่อ มันไม่ใช่สิ่งที่ ต้องทำขนาดนั้นก็ได้เนอะ มันแค่ติดมาจากที่บ้านเรา
ควรปรับปรุงเรื่องการอัดเสียง น่าจะลองให้ผู้พูดสวมหูฟังมอนิเตอร์ในขณะพูด จะได้ควบคุมเสียงตัวเองได้ การอัดเสียงแบบที่ทำอยู่มันค่อนข้างฟังยาก dynamic ของเสียงมันต่างกันมากไป ทำให้ฟังไม่สบาย โดยเฉพาะเวลาผู้พูดเล่น dynamic ของเสียงแล้วเคลื่อนเข้าใกล้ไมค์ มันก็จะดังมาก ฟังไม่สบายเลย
โค้งสุดท้าย! สมัครงานวิ่ง STEP LIFE MARATHON ณ อุทัยธานี 6 พ.ย.นี้ race.thai.run/steplifemarathon
พูดดังบ้างเบาบ้าง มันฟังยากกกก
ฟังเเล้วรู้สึกดึงอารมณ์ก็จริง เเต่เอาเเบบธรรมดาๆดีกว่าครับ
T T กลัวแม่ตัวเองผิดหวัง จนเหมือนตัวตนของตัวเองถูกกลืนไปแล้วหละคะ ตอนนี้เหมือนมันแก้ไม่ได้ไปแล้ว
ผมก็เป็น
พ่อแม่บังคับเรียนคณะที่เขาต้องการ โดยที่เราไม่มีสิทธิ์เลือก(ตอนนั้นซิ่วไม่ได้เพราะพ่อแม่ไม่ยอม โดนด่าไปหลายรอบ) พ่อแม่ที่ฟังคนอื่นพูดโดยไม่สนใจสิ่งที่ลูกต้องการ ความทรมานเหมือนตกนรกต้องมาลงที่ลูกทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ไม่มีสิทธิ์ใดๆ🥲 พอเราทำสิ่งที่ชอบได้ดี ได้ไปประกวดตอนแรกต่อต้าน พอผลออกมาว่าเราติด เราทำได้กลับมาบอกว่าเก่งจัง ไม่เคยจะสนับสนุนแถมยังมาว่าเราอีก อืมมม ผู้ใหญ่ที่คิดว่าตัวเองถูกเสมอ
เหมือนนั่งในใจแล้วพูดเลย
เป็นปัญหาหลักของชีวิตเลยค่ะ
ของผมเหมือนกับว่าผมสามารถหาเงินเรียน อยู่ด้วยตัวเอง พึ่งพาตัวเองทุกอย่าง โดยที่ปฏิเสธความช่วยเหลือของพ่อแม่ทุกอย่าง จะเจ็บจะปวดจะไข้ผมก็แก้ไขปัญหาด้วยตัวเองเสมอ ด้วยต้องการให้แม่เห็นว่าแม่เห็นไหมลูกคนนี้แข็งแรงแล้ว พร้อมกับการเผชิญโลกแล้ว แม่ต้องดูแลตัวเองได้แล้ว อย่ามัวแต่ทำเพื่อผม ทำเพื่อตัวเองเถอะ วันนี้ผมส่งเงินให้แม่ได้ด้วยนะ แต่สุดท้ายมันกลายเป็นว่าแม่น้อยใจ และเริ่มด้อยค่าตัวเอง แม่ยังพะวักพะวงกับเราอยู่ตลอด ตอนนี้เริ่มตัดสินใจไม่ถูกแล้วครับว่าเราควรจะแสดงว่าเราดูแลตัวเองได้นะแม่ อย่าห่วงผม หรือ จะเป็นเด็กใต้ปีกของแม่ตลอดไป TT มีใครเป็นแบบผมบ้่างไหมครับ
ค่านิยมของครอบครัว
ผมติดกับดักเรื่องกินข้าวมาจนโต เวลาไปกินข้าวนอกบ้าน แม่บอกว่าจะสั่งอะไรกินให้หมดนะ เลยติดนิสัยกอนให้หมดจานไม่เว้นผักประดับจาน
จริงๆๆๆๆๆคับความอบอุ่น
จริงค่ะ ขอบคุณนะคะ
ชอบมากเลยครับ EP นี้
ปล.อยากให้มีคัดเลือกเนื้อหาดีๆเด็ดๆจาก R U OK มารวมเป็นหนังสือเล่มครับ ^^
สวัสดีย์ฮะ
การยกตัวอย่างเรื่องกินนี่ตื้นเขินมาก มันคนละเรื่องจากการโดนเสียงของพ่อแม่ครอบงำเลย มันคือเรื่องของการรู้จักประเมินตัวเอง คุณโตแล้วต้องรู้จักประเมินตัวเอง อาหารมาเสิร์ฟต้องสังเกตได้ว่ากินหมดรึป่าว มีวิธีแก้ไขอย่างไร คุณควบคุมได้ทั้งหมด ไม่ใช่เด็กๆ ที่ไม่รู้เรื่องกินตามที่พ่อแม่ตักให้ อย่ามองแค่ภาพลบของเรื่องที่ตัวเองจะสื่อ มันมีบริบทมากกว่านั้น
ใช่บางส่วนครับ บางคนไม่รู้จักประเมินตัวเอง เพราะไม่เคยสังเกตหรือตระหนักขึ้นมาจริงๆครับ ต้องให้เค้าลองเปลี่ยนสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิต ถ้ายังอยู่แบบเดิม ก็ยากที่จะกลับมาควบคุมตัวเอง
จริงมาก แล้วก็ยากมากเช่นกันค่ะที่จะสื่อสารและทำความเข้าใจกับคนในครอบครัวเรื่องนี้ในแบบที่ healthy ด้วยค่านิยมอะไรต่างๆของสังคมบ้านเรา ที่ทำให้การ discuss เป็นเหมือนการเถียงกันซะงั้น
บ้านเราจะเจอเช่น เขาจะสอนให้เราประหยัด นี่ก็เลยจะติดชอบรู้สึกผิดเวลาใช้เงิน ทั้งๆที่เราก็จัดสรรเงินเก็บ เงินใช้ไว้แล้ว อะไรประมาณนี้ค่ะ
เคยฟังเสียงบ่นของคุณแม่คุณพ่อจนเสียใจร้องไห้ไม่หยุดในห้องอยู่ครั้งหนึ่งคะ ทำให้ค้นพบว่าเราจะsensitive กับเสียงของเค้ามากจนทำร้ายความรู้สึกตัวเอง เคยอยากเป็นลูกที่ได้อย่างที่เค้าต้องการแต่ตอนนี้เลิกคิดแบบนั้นละคะ nobody perfect แล้วก้รักและเห็นใจตัวเองเยอะขึ้นคะ ขอบคุณอีพีนี้นะคะ ทำให้รู้สึกดีกับการที่เป็นอยู่กับการวิเคราะห์แยกแยะเสียงพ่อแม่ในตอนนี้ รู้สึกว่าเราไม่ได้ดื้อนะ แค่เรามี mindset ในแบบของเราแต่ก้ยังรักเค้าได้เหมือนเดิม😊
เรื่องกิน คือ เห็นภาพมาก เป็นคนที่ถูกสอนให้กินข้าวหมดจาน พอไปไหนมาไหนกับคนอื่น เห็นอาหารเหลือไม่ได้ ต้องกินให้หมด แล้วก้ออ้วนจนทุกวันนี้
เขาคงพูดด้วยความหวังดี แต่ถ้าคิดว่าพึ่งตัวเองได้ ไม่ต้องง้อพ่อแม่ ใครคงยินดีที่จะปล่อยเพราะไม่ต้องเหนื่อย ....
เสียงไม่เท่ารั่ย..นิสัยบางอย่างติดมาเต็มๆ🤫
เพิ่งสังเกตตัวเองเหมือนกันว่ามีนิสัยต้องหลบให้คนที่จะเดินมาทางที่เรายืนอยู่เสมอ และบางทีก็รู้สึกเด๋อด๋าว่าจะหลบไปทางไหนดี 5555 ซึ่งจำได้ชัดเลยว่ามาจากพ่อ เพิ่งจะจับได้ว่าอ่อ มันไม่ใช่สิ่งที่ ต้องทำขนาดนั้นก็ได้เนอะ มันแค่ติดมาจากที่บ้านเรา
ควรปรับปรุงเรื่องการอัดเสียง น่าจะลองให้ผู้พูดสวมหูฟังมอนิเตอร์ในขณะพูด จะได้ควบคุมเสียงตัวเองได้ การอัดเสียงแบบที่ทำอยู่มันค่อนข้างฟังยาก dynamic ของเสียงมันต่างกันมากไป ทำให้ฟังไม่สบาย โดยเฉพาะเวลาผู้พูดเล่น dynamic ของเสียงแล้วเคลื่อนเข้าใกล้ไมค์ มันก็จะดังมาก ฟังไม่สบายเลย